เสียมกุก คือ สุโขทัย สุพรรณ หรือที่ใด ปริศนาภาพบนผนังนครวัดที่สงสัยมานาน
HTML-код
- Опубликовано: 10 сен 2024
- การที่สุโขทัยเคยเป็นเมืองหน้าด่านให้ละโว้ ดูสอดรับกับภาพเสียมกุกที่เป็นทัพหน้าให้ละโว้
1. สุโขทัยปรากฏโบราณสถานปราสาทปู่จา
2. สุโขทัยเป็น "หัวเมืองชายแดน" ของละโว้ ซึ่งต้องรบกับหริภุญชัยอยู่ตลอด ทั้งนี้ ในชินการมาลินี ก็ปรากฏการรบกันถึง 4 หน
ขอบคุณ
คุณอภิศักดิ์ เจือจาน
ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร
อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ภาพประกอบ
คุณอภิศักดิ์ เจือจาน
ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร
อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
กรมศิลปากร
ในมุมมองของชาวนครวัดสมัยก่อน เสียมกุ๊กน่าจะหมายถึงกลุ่มผู้คนที่พูดภาษาไท-กะไดทั้งหมดแหละ(ไท ลาว ไทใหญ่ ไทลื้อ ๆลๆ)เพราะมีภาษาการพูดที่แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง พวกเขาอาจจะเรียกรวมๆว่าคนพวกนี้คือเสียม ส่วนเสียมกุ๊กในภาพกำแพงจะเป็นกลุ่มคนที่พูดภาษาไท-กะได กลุ่มไหนยังไม่ชี้ชัดได้ ในทางตรงข้ามกลุ่มคนที่พูดภาษาไท-กะได ก็อาจเรียกพวกที่พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมรโดยรวมๆว่าพวก ขอม กรอม กระหลอม เช่นกันตามสำเนียงการออกเสียงของแต่ละท้องถิ่น เช่นกัน
เป็นได้ครับ
ผมคิดว่าเสียมกับวรมันมีความเกี่ยวข้องกันครับ และคำว่าเสียมหน้าจะเป็นการเรียกก่อนจะเปลี่ยนเป็นสุโขทัย เสียมหน้าจะมีมานานแล้วครับ เพราะเสียมเป็นกองทัพแล้วครับ ไม่ใช่แค่กลุ่มคนเล็กๆ และต้องมีมาก่อนกำแพงนครวัด ไม่งันจะเองเรื่องราวของเสียมมาสลักใส่กำแพงใด้หรือครับ และเสียมกับวรมันต้องมีความเกียวข้องกันเพราะ นครวัดตังอยู่ที่ จ.เสีย ราบครับ ผมขอให้อาจารหาเรื้องราวของเสียมด้วยครับ จะใด่หยุดเคลมเอาทุกอย่างของไทย และด่าไทยว่าเป็นโจรขโมยแผ่นดินเขมรครับ ผมเห็นอาจารเป็นเหมือนแสงเทียนที่สนใจเรื้องเสียมเป็นมายังไงครับ
มาจากอ่านหนังสือ อ.จิตร ภูมิศักดิ์ ครับ
@@taspien เชื่อถือไม่ได้เลย...คิดเองเออเอง...เชื่อว่าสิ่งที่ตนคิดต้องเป็นไปตามนั้น...
ในขณะที่นักประวัติศาสตร์ก็เชื่อจิดร ภูมิศักดิ์ที่มีความรู้บนความเชื่อที่ผิดๆ มาเหมือนกันนั้น...(ไม่รู้ความจริงว่าความจริงคืออะไร?)
เสียมกุก....แปลว่า.....ประเทศสยาม
(Siam)+国(Guó).......เสียมกุก จีนหมายถึงประเทศสยาม เรียกสยามประเทศ
พระเจ้าสุริยะวรมันที่สอง...(ภาพประธาน) นั่นคือกษัตริย์สยาม (ชื่อแบบสยาม)
ศรีวิชัย.......เป็นกองทัพทางทะเลของสยาม
ละโว้..........เป็นกองทัพบกของสยาม
ถ้าไม่รู้ความจริง...มันจึงอธิบายแบบนี้แหละ (บิดเบือนหรืออวดรู้กันไป)
เขมรไม่เคยมีกษัตริย์...เขมรไม่เคยมีประเทศอยู่ในแผนที่โลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เขมรเป็นวรรณะทาส พวกทาส ... ไม่ใช่วรรณะปกครองใดๆ เป็นผู้ใหญ่บ้านยังไม่ได้เลย
อารยะธรรมยุคปราสาทล้วนเป็นอารยะธรรมของสยามประเทศ...
คนไทยต้องระมัดระวัง...ทั้งไทยเทศ...บนความไม่รู้ขาดความรู้ พร่องข้อเท็จจริง..
มันก็จะคอยด้อยค่า....ชนชาติสยาม...เพื่อไม่ใช้เราค้นพบบรรพบุรุษของไทยได้..นั่นเอง
ครับ
น่าจะตัดอาณาจักรศรีวิชัย แค่พวกชวายังกลับมาปล้นชายฝั่ง เสียมกุกน่าจะสุพรรณภูมิ แต่ขอคิดว่าเฉงยาลพลธนูที่เชี่ยวชาญนำหน้าทัพเสียมกุก นั่นน่าจะเชลียง (ศรีสัชนาลัย)
--------
ที่น่าสงสัยอาณาจักรใหญ่ๆมักมีทาส คนจีนก็จะมีพวกคนจีนหรือนอกด่าน อียิปต์มีพวกเผ่าอาฟริกา โรมพวกเตีก ซีเรีย ยันบริเทน คือจะเป็นพวกประเทศข้างๆที่อ่อนแอ แล้วอาณาจักรเจนละ พระนครหรือ กำพุชใช้พวกไหนเป๋นทาส ไม่น่าใช้ศรีวิชัย แต่แถวมีจามปา ที่ตีกันตลอด...ทาสเขมรเป็นจามปา+คนป่ามันก็สมเหตุผล
ช่วงนี้ ภาค ประชาชน จำนวนมาก ขุดค้นประวัติศาสตร์ ด้วยตัวเอง นำหลักฐานจากจีน จากพม่า จากอินเดีย มาใช้พิจารณา นักวิชาเกิน เยินยอ เขมร ให้ระวังสมอง ไว้ด้วยครับ..มันน่าสมเพช
ครับ
ใช่ครับรำคาญพวกปวศ.ที่เขียนตำราตามฝรั่งเศษและอาจไม่เคยเข้าไปดูด้วยตัวเอง กลัวว่าตำราที่บอกสอนกันมาจะผิดต่ออาชีพตัวเอง เรียกว่าน้ำล้นแก้วไม่รับอะไรใหม่หลักฐานใหม่ๆ
สู้นักมโนศาสตร์ไม่ได้ ไม่ต้องมีหลักฐานอ้างอิง มโนเอานึกเอา
ประมาณพระแบกะดิน อ้างของผมแท้ พระตามห้างมันปลอม
ใครไม่เชื่อก็ด่า
@@saartsupat502 เห็นด้วยครับ...นักประวัติศาสตร์ไทย...มัวแต่อมกล้วยอวยเขมรจนมองไม่เห็นสยามประเทศที่มีอยู่...นำสืบค้นสยามประเทศไม่เจอจาก....ความรู้บนความเชื่อของพวกเขา (พวกเขาไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร)
สุจิตต์ กุนขแมร์ ลูกหลานดูโดดเคเขมรโบราณ
ที่แปลกใจก็คือ บันทึกจีนบอกว่า ที่เสียนอยู่แห้งแล้ง แต่ติดต่อปาไป๋ซรฟู(ล้านนาทางเหนือ) เมียน(พม่าทางตะวันตก) อันนัม(เวียดนาม)ทางตะวันออก ลอหูทางใต้ บันทึกแบบนี้...หากเทียบยุคสมัยกับภาพสลักนครวัด ก็ต้องเก่ากว่าก่อนมีสุโขทัย ที่ๆแห้งแล้ง..ก็มีแต่ที่ราบสูงอีสาน ส่วนตัวมองว่า สยามคงเข้ามาอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่อีสานถึงบริเวณเจ้าพระยาตอนบน ก่อนสุโขทัย ก็คงจะมีแต่ศรีเทพ
ภาพสลักเสียมกุก... ต้องดูว่ายุคสมัยใดกับพื้นที่ๆกล่าวมาก่อนจะมาเป็นเซียนสุโขทัย(คนเสียนน่าจะอยู่สุโขมัยมานานกว่าก่อนจะมีบันทึกถึงสุโขทัยนะครับ..อย่างน้อยพีฒนาการได้ต้อง200-300 ปี)
เมืองน้อยๆ จะมานำเป็นทัพหน้าได้อย่างไร ต้องเมืองใหญ่สิครับหรือต้องเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมาก (ตัวอย่าง...พม่าใช้ล้านนาเป็นทัพหน้ามาตีอยุทธยา เป็นต้น)
#เสียมกุก...เป็นภาพสลักเดียวที่ไม่ได้กล่าวถึงเมือง แต่เป็นภาพเดียวที่กล่าวถึงกลุ่มคน(ชาวเสียม) ส่วนภาพอื่นๆ จะกล่าวถึงทัพเมืองนั่นเมืองนี้ ดังนั้น...เสียมกุก ต้องเป็นชนชาวหมู่มากที่กระจายตัวอยู่อย่างรับรู้ของขอมหรืออยู่ภายใต้ขอม...เพียงแต่ยังไม่ได้ปกครองเมืองใดเมืองหนึ่งที่โดดเด่น...รึเปล่า ที่แน่ๆต้องมีกำลังและมีอิทธิพลมากด้วยนะครับ จึงได้ขึ้นชื่อจัดอยู่ในขบวนทัพของสุริยวรม.2
ครับ
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมไม่ได้เรียนมาทางโบราณคดี, เรื่องชาติไทยผมสนใจมาก ในยุคอินเตอร์เข้าถึงง่าย
"สยำ กุก" ผมสนใจมาก เพราะเพื่อนบ้านชอบอ้างอิง ชอบเคลม เสมอ
ความเห็นของผมว่า
สยำ=สยาม=ไทย(ปัจจุบัน)
กุุก =ควร(แปลให้กว้างขวาง) เช่นโคก, โกก, ที่ราบสูง, โนน, เนิน, อื่นๆ (รวมแปล ตามภาษาถิ่นปัจจุบันด้วย เช่น ภาษา เขมร กูย ลาว พิมาย ภาษาไทยโคราช(ไทยเดิ้ง) บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อิสานใต้)
*ขอ วกมาที่ สยำ กุก
คำว่า "กุก" ผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แปล และ เป็นปัญหา กับคนไทยทุกคน
*ถ้า ฝรั่ง แปล ผมว่าน่าจะเพื้ยน*, ฝรั่ง เขาจะถนัดคำว่า Cook (กุก) ส่วนคนไทยถนัดคำว่า โคก, โกก, โนน
โคก หรือ โกก คือ ที่ราบสูง เช่น ที่ราบสูงโคราช, ที่ราบสูงบ้านโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา
สมัยนั้น เมืองพิมายชำนาญมาก การสร้างปราสาทหิน มีเมืองพิมายเป็นต้นแบบ มีแหล่งตัดหินหลายแห่ง และ ไปสร้างปราสาทที่นครวัดด้วย มีทั้งเครือญาติ ไปมาเป็นประจำ ใกล้ มีทางมรรคราชาสะดวกดี
ผมพูดมาตั้งเยอะ ขอสรุป
สำหรับ "กุก" น่าจะเป็น
*สยำ โคก เมืองพิมาย*
"ผมจะเรียก สยำ โคก"
มีข้อสังเกตเท่าที่รู้มา
ปัจจุบัน ชื่ออำเภอขุขันฑ์
ในจารึกอะไร...ผมจำไม่ได้...คือ เขียนว่า
"สด๊กโคกขันฑ์" แปลว่า
สด๊ก=เสนาะสุขสบาย
โคก=ที่ราบสูง (อยู่สูงกว่าเมืองนครวัด, ทางนครวัดจึงเรียกว่า สยำ กุก(ฝรั่งบิดเบือน ทำให้ไทย งง!มาก) ที่จริงควรเรียกว่า สยำ โคก คือเมืองพิมาย)(ส่วนเครื่องแต่ง ให้ไปเรียนรู้ที่ บ้านโคกวัด กำลังขุดสำรวจ, ว่าสมัยนั้น ท่านเหล่านั้น แต่งกายอย่างไร, รวมไปถึง จังหวัดอุบลราชธานี ทุกวันนี้ บางแห่งยังแต่งตัว มีสีสรร ลายผ้าต่างๆ คล้ายในภาพสลักจารึก สยำ กุก, (สยำ โคก) เราควรยึดภาพที่นครวัดเป็นสำคัญ)
เขียนมากหน่อย
ขอบคุณทุกท่าน ,
ขอบคุณท่านแอดมิน
เป็นความเห็นส่วนตัว
ช่วยพิจารณาด้วย
ขอบคุณมากครับ
พิมายเป็นอีกภาพ คือ ภาพทัพเมืองโฉกวกุล ซึ่งมีฉัตร มีทหาร เยอะเหมือนกันครับ
กุก กับ ก๊ก น่าจะคำเดียวกันนะครับ
@@taspienเคยมีการเปรียบเทียบ เครื่องใช้สอย หอกดาบ ยุคบ้านเชียง ตรงกับที่นครวัดมา ผมจึงสรุปได้ นครวัด คือ กษัตริย์สยามโบราณ ผู้สร้าง พุทธศตวรรษที่ 19
เขมรต่ำ (เผ่าขแมร์ป่าซึ่งถูกนำเข้ามาจากหมูเกาะอินโดนีเชีย เพื่อนำมาขายให้ชาวสยามในเมืองพระนคร) ซึ่งกลายเป็นคนพื้นเมืองมีผิวดำ อยู่ในฐานะทาส บ่าว ไพร่, รวมกับอำมาตย์และพราหมณ์ พวกนี้ถูกนำมาขายในสมัยเมืองพระนครเจริญรุ่งเรือง เมื่ออยู่ปะปนกับคนสยาม ก็มีประชากรมากขึ้น มากกว่าคนสยามเจ้าของพื้นที่ (เขมรสำเหร่ทำการกบฎ รวมกัน เขมร 3 เผ่าคนป่าที่ถูกนำมาขายให้ชาวเมืองสยามในเมืองเสียมราฐ) และข้าหลวงเก่าซึ่งเป็นข้าเขมรในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ยึดเมืองพระนคร (ยโสธรปุระ) ฆ่าพระเจ้าชัยวรมันปรเมศวร (ชัย 9) ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 3 หรือพระเจ้าศรีนทรวรมันหรือพระบาท กมรเตงอัญศรีผาเมือง แล้วล้มล้าง
.
1. ราชวงค์มหิธรปุระ (เสียม สยามสายทวารวดี โบราณ หรือ ไทยปัจจุบัน)
2. ราชวงค์อินทรวรมัน (เสียม สยาม สายอีสานปุระ โคราช) สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ต่อมา ในปี คศ 1836 พุทธศักราช 2379 ซึ่งผู้นำทาสเผ่าเขมรมีนามว่าตระช็อกประแอม (แตงหวาน) ได้ทำการกบฎแล้วสถาปนาราชวงค์ใหม่ เรียกว่า "ราชวงค์สุริโยพรรณ" โดยมี "พระองค์ชัย" เชื้อสายเขมรสำเหร่ (ขแมร์ชอง) เป็นปฐมกษัตริย์ ราชวงค์สุริโยพรรณ ต้นกำเนิดแห่งชนชาติเขมร (ปถมเกมรยะ) เขมรโบราณ ในปี คศ 1336 พศ 1879 ประถมกษัตริย์เขมร คือ พระองค์ชัย (แตงหวาน ชื่อ เขมร ตระช็อกประแอม)
.
ต่อมา พระโอรสองค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ต่อมาคือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ราชโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 (นักวิเคราะห์บางท่าน ก็กล่าวไว้ว่า คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 )ได้ทรงนำพาคนสยามหนีออกจากเมืองเสียมราฐ หนีจากการไล่ล่าฆ่าตายของ กบฎ เกมรยะ (เขมร) หรือ ข้าทาสเขมร มาตั้งหลักที่เมืองละโว้ (เมืองเดิมของปู่ ย่า ตา ยาย) และสร้างกรุงศรีอยุธยา ขึ้นใหม่ และสถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์แรก พระนามว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง (ขอม สยาม เสียม อันเดียวกัน) ในราชวงค์สุริยวงค์ (ราชวงค์รามาธิบดี) กษัตริย์แคว้นละโว้-อโยธยา คุมกองทัพเสียม (Siam สยาม) จากกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปชำระแค้นเขมรกบฎ เพื่อคนสยามที่ถูกเขมรฆ่าด้วยพระองค์เองไปล้อมเมืองพระนคร (ยโสธรปุระ) เมื่อเข้าเมืองได้แล้ว ได้สำเร็จโทษ "พระบรมลำพงราชา" กษัตริย์กรุงกัมพูชา เหลนของพระองค์ชัย ราชวงค์สุริโยพรรณ และให้เทครัวชาวเมืองพระนคร (เสียม สยาม) กลับมาที่ กรุงศรีอยุธยา แต่ไม่ได้ครอบครองเมืองพระนคร ปล่อยให้ปราสาทพระวิศนุโลก หรือ นครวัด รกร้างว่างเปล่า
.ตามที่ระบุในพงศาวดารเขมร ฉบับนักองค์เอง
.
ปัจจุบัน :
1. ยังมีลูกหลานของชาวโคราชที่พูดภาษาไทสำเนียงโคราชได้ตกค้างอยู่เมืองพระนคร (ยโสธรปุระ) จังหวัดเสียมราฐ
.
2. ยังมีหมู่บ้านขอมอยู่นอกเมืองอยุธยา
.
3. เขมรต่ำ (ขแมร์ คนป่าแห่งเกาะบอเนียวเดิม) ในกัมพูชา มักจะเรียก คนสยาม ลูกหลานชาวโคราชในจังหวัดเสียมราฐว่า "เขมรเมืองพระนคร" แต่คนสยามในเมืองพระนคร ไม่ยอมรับว่าเป็นเขมร เพราะพวกเขายังรู้เขาคือ คนสยาม ปัจจุบันยังมีอยู่ ความเจ็บปวดในหัวใจยังมีอยู่ที่บรรพบุรุษของสยาม (โคราช) ถูกคนป่าเขมรสังหารชิงเมือง
.
4. เรียกปราสาทนครธมในเมืองพระนคร (ยโสธรปุระ) ตามอย่างฝรั่งเศส-เจ้าอาณานิคมว่า "ปราสาทบายน"
ดังนั้น นครวัด (ชื่อเดิม ปราสาทพระวิศนุโลก) สร้าวงโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (สยามอีสานปุระ โคราช) ปราสาทหินนครนครธม (ชื่อเดิมปราสาทนครธรรม) สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (สยามอีสานปูระ โคราช พิมาย) กษัตริย์สยามโบราณเป็นผู้สร้าง เดินทางจากพิมาย ไปสร้างนครวัด คือ ชาวโคราชนั้นเอง ไม่ใช่เขมรโบราณ อย่างที่นักวิชาการอวยเขมร เพราะเรียนจากยอร์ช เซเดย์ ชาวฝรั่งเศส เรื่องนี้ถึงได้บิดเบือนไปทางเขมรหมด การที่เราจะไปพูดว่า สร้างแบบเขมรโบราณ คือ คนที่พูดแบบไม่รู้อะไร เขาเรียกว่าไม่ได้ศึกษาเอาเสียเลย แต่ก็จะพูด ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะยังไม่มีเขมร ดูคลิปข้างล่างนี้ เป็นการเปรียบเทียบ ลักษณะภาพแกะสลักในนครวัดกับยุคบ้านเชียง ruclips.net/video/Sp-EYRy890U/видео.htmlsi=Bk3rR_vo7DsL3OlB
คนกูยสุรินทรในความคึดตัวเองเสียมกุกแปลไทยคือคนไทยภาษากูยเรียกคนไทยว่ากูยเสียมอาดจะรวมรบมาด้วยกันก็ได้นะค่ะ
ยังคาดเดากันอยู่เลย....ความจริงคืออะไร?.....ไม่รู้....ขาดข้อเท็จจริงต้องอาศัยการคาดเดาเอาเอง....เรียนรู้บนความเชื่อกํจะหาความจริงไม่เจอ...ครับ...
อีกกี่ปีกว่าจะค้นพบความจริงได้...คาดเดากันไป...ให้รายละเอียดเยอะ...แต่ไม่มีข้อสรุปข้อเท็จจริง...อะไรให้เรียนรู้ได้....เชื่อว่า..คาดว่า..เดาว่า..คิดว่า...สัณนิษฐานว่า...อาจจะ....ฯลฯ
คาดเดากันเอาเองทั้งนั้น....ความจริงก็คือ.............
"เนะ สยำกุก" แปลว่าประเทศสยามครับ
เสียมกุก....แปลว่า.....ประเทศสยาม
(Siam)+国(Guó).......เสียมกุก จีนหมายถึงประเทศสยาม เรียกสยามประเทศ
.
ต้องเป็นคนประเภทไหนจึงคิดคดทำลายคำจารึกโบราณสถานคำว่า เสียมกุก เพื่อบิดเบือนความจริงได้
ครับ
คนที่รับความจริงไม่ได้ไงครับ บิดเบือน ทำลายหลักฐาน ทำได้ทุกอย่างเเหละคนพวกนี้อะ
ยังไง ก็เขายังตั้งสมมุติฐานกันอยู่แท้ ความจริงอะไรยังไงอีก งง ถูกหลอกให้หลอกคนอื่นต่อหรือเปล่า
เขมรปกปิดความจริง โดยลบหลักฐานสำคัญ จารึกภาพและอักษร คำว่า เนะ สยำ กุก แปลว่า นี้คือทัพเสียม หรืออาจจะเป็นนึ้คือประเทศเสียม(สยาม) เลยลบออกจากกำแพง
เขาเขียนว่านี่คือประเทศสยาม
สฺยำกุกนี้ไม่ได้หมายถึงคนไทยแน่นอน
ในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุทธยาไม่มีปรากฏหลักฐานคนสุโขทัยและคนอยุทธยาเรียกดินแดนที่ตนเองอยู่ว่าสยาม
ประเทศ สยามเกิดหลังสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่2ทั้งหลายร้อยหลายพันปี
คำว่าสยาม มีใช้ในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นชื่อของประเทศตั้งแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้ในระหวางพ.ศ 2394ถึง2411เป็นต้นมา คนไทยจึงรู้ว่าดินแดนที่ตนเองอยู่เป็นสยามตั้งแต่นั้นมา
ครับ
นครวัดเป็นดินแดนของขอมหรือสยามแต่โบราณแต่ถูกฝรั่งเศสปล้นไปและยกให้ทาสเขมรครอบครอง ความวุ่นวายเรื่องการเคลมวัฒนธรรมทั้งหลายจึงบังเกิด
แต่โบราณอะไรกันเอ่ย เคลมเกินไปป่าว กัมพูชาอย่างมากสุด เป็นแค่ “ประเทศราช” ที่ส่งบรรณาการให้อยุธยา-ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ยังไม่ถือเป็นแผ่นดินเดียวกับสยามด้วยซ้ำ ลองไปดูแผนที่ทางประวัติศาสตร์ดู
@@MrChang14279ช่วงรัตนโกสินทร์รูปแบบการแต่งกาย ละครฟ้อนรำ มีอิทธิพลต่อเขมรมากอยู่นะ ขนาดในวังยังพูดภาษาไทยกันเลย รวมทั้งการขับร้องก็เป็นภาษาไทย เพิ่งเปลี่ยนคำร้องเป็นภาษาเขมรหลังจากฝรั่งเศษยึดครองนี่เอง
อืมมม ครับ
เราได้ส่งบุคคลที่มีความรู้ ด้านศิลปวัฒนธรรม ด่างไปสอนเขาเขาจึงมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกะเราถ้าไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้
ใช่ เราถูกสวมรอยเอาสยามโบราณแทบนั้นมาเชื่อมของตนกับช่วงกะเซาะกะแอม ให้กลายเป็น เหมนโบราณ เพราะเขาเป็นกลุ่มคนดีเอ็นเอทางชวา ที่นำมาใช้แรงงาน แต่พอได้โอกาสตั้งตนเป็นใหญ่ยึดเมืองนั้นไว้ เจ้าเมืองชัย...อพยพมาตั้งเมืองใหม่เป็นพระเจ้า อท ประมาณ4ปีกลับไปตีเมืองคืน ข้ามมาจนถึงยุคล่าอาณานิคมยึดเมืองไม่คืนและถูกบิดประวัติศาสตร์สยามโบราณ ให้ไปทางเขา เขาเลยอาศัยเห็นนี้สวมรอยเพราะเขาได้ประโยชน์ รวมถึงคนที่เป็นกัมบูซาดั่งเดิมคือคนสยามโบราณ แต่ถูกกลุ่มคน เหมนค่าล้างเผ่าพันธุ์ไปแล้วเกือบ3ล้านคนที่เหลือเพียงเล็กน้อยถูกบังคับให้ถูกกลืนเป็นแบบเหมนให้ใช้ภาษาเหมนไปแล้ว เหมน ไม่มีกษัตรย์ ไม่มีวัฒนธรรม ไม่ใช่ขอ.ม ภาษาชอ.ม เป็นภาษานึงของสยามโบราณ ใช่สือสารในกลุ่มคนที่มีความรู้ มียศ มีตำแหน่งที่สูงกว่าคนชนชั้นธรรมดา เช่นเจ้าเมือง พระ นักบวช เราพึ่งยกเลิกใช่ภาษานี้ไม่นานแต่ยังเหลือคนใช้ภาษาขอ.มอยู่บ้าง ส่วนภาษาที่เหมนใช้คือภาษาที่ทางเราส่ง จนท ไปสอน สมัย ร.4 ดัดแปลงจากภาษาขอ.ม ไปบางส่วน เหมือน เกาลี๋ ญี่ปุ่น ดัดแปลงจากภาษาจีนบางส่วน คล้ายแต่ไม่เหมือนกัน
ผมว่าเป็นกองทัพลักษณะ"กรมผสม"ของคนพูดภาษาไทเสียมนั่นแหล่ะครับ แต่ด้วยเหตุที่สุโขทัย สุพรรณภูมิและราชบุรีเพชรบุรีแถวนั้น ยังมีกำลังพลน้อย ถึงถูกจัดให้มารวมผสมกำลังกัน(เพราะพูดกันรู้เรื่องเข้าใจกันดีไม่ต้องตีกัน แยกออกจากกำลังละโว้บุระที่พูดภาษาขอมแยกต่างหากและมีกำลังพลมากเป็นกรมเฉพาะตัวได้เลย) ที่เห็นชัดอีกอย่างคือกรมผสมเสียมไทนี้มีอารมณ์สนุกชื่นบาน ยิ้มออกท่าทางสบายๆปล่อยตัวเล่นหัวกับเพื่อนๆและฝูงชนข้างทางที่ชมการสวนสนามฉลองชัยของสุริยะวรรมันที่๒อยู่ สบายๆใจคือไทแท้ครับ555
เมืองเสมาแน่ๆเพราะมาก่อนสุโขไทยและอยุธยาเพราะเป็นชายแดนไทลาวและขอม
เขาก็เป็นคนพวกเดียวกับกษัตริย์ นั่นแหละ ลูก ๆ หลาน ๆ ญาติ ๆ ( เมืองเดียวกันนั่นแหละ เสียมเรียบ )
คนต่างเผ่า หรือ คนต่างเมือง จะกล้าเล่นหัวเดินเล่น แบบนั้นเหรอ ?
คิดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดูกองทหารปัจจุบันก็ได้ อยู่ในระเบียบวินัยเป๊ะ ๆ แบบละโว้
สบายๆใจคือไทแท้ นี่ก็เขี่ยเขมรเกือบหลุดแผนที่มาแล้วละนะครับ 55
ก็เป็นไปได้ครับ
หมายถึงสยามใช้ไหมครับแล้วขอมจะมาอ้างเกิดก่อนได้ไงแสดงว่าเสียมสยามมีอยู่แล้ว
อาจารย์ไม่คิดว่าเป็นทัพมาจากคาบสมุทรภาคใต้บ้างหรือ ทัพจาก ตามพรลิงค ถ้าเอาแค่ลักษณะ รูปร่าง หน้าตา ผมเผ้า เครื่องประดับ อาวุธ ที่ปรากฎในภาพแกะสลัก เป็นลักษณะของคนทางคาบสมุทรภาคใต้ การปะทะสังสรรค์ระหว่างนครรัฐทั้ง 3ก็มีปรากฎการกล่าวถึง อีกทั้งพระเจ้าสุริยวรมันที่1ก็สืบเชื้อสายมากจากตามพรลิงค ผมก็คิดตามอาจารย์มานานแต่ไม่ค่อนเห็นการกล่าวถึงสายสัมพันธ์จากรัฐคาบสมุทรกับรัฐบนแผ่นดินสักเท่าไหร่เลยครับ
เครื่องทรงอวโลกิเตศวรแบบศรีวิชัยพบที่ไชยาใกล้เคียงกับเสียมกุกอยู่ครับ
รัฐทางใต้หรือครับ....อืมมม
ชอบความเห็นนี้ด้วยเหมือนกัน เสียมกกน่าจะเป็นมอญหรือมลายูหรือศรีวิชัยอะไรพวกนี้ที่รับเอาภาษาไทยมาใช้ร่วมกับสุโขทัยกลายตัวเองเป็นสยามที่ไม่ใช่ไท-ไตแท้ แต่คือกลุ่มคนที่มาทางภาคใต้ที่รับเอาภาษาของภาคเหนือแล้วตกอยู่ใต้อำนาจพ่อขุนรามคำแหงอยู่ช่วงหนึ่งจนจีนมองโกลราชวงศ์หยวนบันทึกรวมเป็นสุโขทัยจากกลศูนย์กลางอำนาจแต่พอราชวงศ์หมิงสยามปลดแอกตัวเองออกจากสุโขทัยแล้วไปรวมกับละโว้เลยเกิดการนิยามสยามกับสุโขทัยแยกจากกัน
ที่เมืองจีนยุคโบราณบันทึกไว้สมัยพระนางจามเทวีเรียกเมืองลำพูนในปัจจุบันว่าโปโลโปตี้ และเมืองลพบุรีฯลฯที่มีคนมอญขอมโบราณทางจีนเรียกว่าเมืองอะไร หรือสมัยที่โจว ต้า กวน เคยมาดินแดนสุวรรณภูมิอีกล่ะ เรื่องประวัติศาสตร์ชาวสยามโบราณหรือชาวเสียมกุก นักวิชาการไทยต้องเข้าไปหาข้อมูลที่บันทึกจากทางจีน ทางยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย ฯลฯ มาประมวล บันทึกกันใหม่ ก่อนที่ไทยจะเสียหายเรื่องต่างๆที่พวกขะแมร์ต่ำรุ่นใหม่เข้ามาเคลมเรื่องต่างๆหาว่าคนสยาม คนไทยขโมยทุกอย่างของพวกเขาไป เพราะพวกเขาบอกอย่างมั่นใจทุกครั้ง โดยเฉพาะมักจะอ้างว่าคนสยามเพิ่งมีความเป็นชาติมาจากสมัยสุโขทัย นี่แหละเป็นเหตุทำให้พวกขะแมร์ต่ำย่ามใจที่จะเคลมสยามทั้งหมด เช่น เห็นชุดไทยพระราชทานหรือราชนิยม8+3 ก็ว่าคนสยามขโมยมาจากรูปกำแพงนครวัด นครธม(นครธัม) หรือจะเรียกร้องเอา เทวรูปพระเจ้าชัยวรมันที่6 หรือโกลด์เด้นท์บอย ว่าเป็นของบรรพบุรุษของพวกเขา ทั้งๆที่หลักฐานโผล่ที่ฝั่งไทยเขาก็จะเรียกร้องเอาหน้าตาเฉย นี่ยังไม่รวมวัตถุโบราณหลายชิ้นที่ถูกขโมยฝั่งไทย แต่เขมรต่ำเรียกร้องจากพิพิธภัณฑ์ฝรั่งคืนไปเป็นของพวกเขาหน้าตาเฉย ถึงเวลาหรือยังที่ทางการรัฐบาลไทยและกระทรวงหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม เสียที ก่อนที่จะเกิดความเสียหายในเรื่องต่างๆที่ใหญ่โตกว่านี้ตามมาอีกนับไม่ถ้วน
ครับ
ในเมื่อทุกคนบอกเองว่ามันมีการเลื่อนไหลได้ พิมาย เดิมยังเรียก วิมายะ ดังนั้น ตามยุคตามสมัย คนแต่ละกลุ่ม ย่อมพูดออกเสียงคล้ายกัน หรือต่างกัน แต่ถ้ามองแบบกว้างๆ ไม่ว่าจะ เนะ สยำ กุก สยำกุก เสียน เสียม เสียนกุก เสียมกุก เสียนหล่อกุก เสียนหล่อกวัก เสียมหล่อกุก ต่างๆ ก็หมายความเดียมคือ สยาม เพราะแต่ละคนเขียนและอ่านออกเสียงไม่เหมือนกัน กุก หรือ กวัก แล้วแต่จะออกเสียง ภาษาจีน หมายถึง ประเทศ จีนได้ติดต่อค้าขาย เจริญสัมพันธไมตรีมานานเป็นพันๆปีแล้ว กล่าวว่าใต้ทะเลจีนใต้ มีกษัตรย์ปกครองเมืองน้อยใหญ่หลายชาติพันธุ์ เป็นพันเมืองโดยจะมีเจ้าเมืองหรือผู้นำปกครองอยู่ เมืองประอาณาจักรเทียบกับปัจจุบันก็เหมือนจังหวัดนั่นแหล่ะ สยามโบราณยิ่งใหญ่กินพื้นที่ไปในหลายประเทศ และยังมีร่องรอยชุมชนคนสยามโบราณอยู่ตามประเทศต่างๆ และยังคงใช้ภาษาสยามอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่อาจจะมีความต่างกันบางตามพื้นที่ตามยุคสมัย เช่น อิน ด ศรี ลก ลา ว ม่า เวียด มา ล อินโ ด ฟิลิป จีน ตอนใต้ เราไม่ใด้อพยพมาจากไหน หรอก เราก็มีการเคลื่อนย้ายในกลุ่มประเทศเหล่านี้แหล่ะ เก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 4 ถึง6พันปีมาแล้ว
ครับ
อ. ครับ
ผมคิดว่า ควรให้น้ำหนักเรื่องการแต่งกาย อาวุธ ฉัตร และเจ้าทีนำทัพ
มากกว่า การวางทัพอยู่หน้าละโว้ แล้วสรุปว่า เป็นเมืองในอำนาจละโว้ นะครับ
เอาแค่ทัพ
สยามกุก มีเสื้อผ้าที่มากชิ้น โล่ห์ยาวกว่าดั้ง อาวุธยาวหลายแฉก
มันดูเยอะกว่าทัพละโว้ จนเกินหน้าละโว้ไหมคับ
กำลังนึกตามครับ
@@taspien
แค่ คหสต ผมนะคับ
ผมเชื่อในวิจารณญาน อ. ซึ่งมักเที่ยงตรงกับวิชาการเสมอ
ถ้าดูตามปกติของวิสัยการศึกแล้วทัพหน้าคือหน่วยกล้าตายครับ เพราะต้องออกไปรบด้านหน้าก่อน ในเมืองจีนหรือญี่ปุ่นจะเกณฑ์หน่วยนี้มาจากชาวนา ในอินเดียจะเกณฑ์หน่วยนี้มาจากวรรณล่าง และถ้าดูตามฉัตรของกองทัพเสียมกุกแล้วก็ไม่ได้มีเยอะมาก กองทัพละโว้และกองทัพอื่นๆมีมากกว่า เพราะการเรียงลำดับเป็นไปตามหน้าที่
ทัพละโว้ฉัตรเยอะสุดนะครับท่าน ผมเคยนับอยู่ เยอะกว่าทัพหน้า อีกเผลอ ละโว้จะใหญ่กว่านครวัดอีก ถ้าไม่ใหญ่จะจารึกชือ เมืองละโว้ทำไม
จิตรเลยคิดว่ามาจากแม่น้ำกกไง เมืองหนาว
เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าจากเมืองไหน ข้อมูลนิดเดียว ก็คิดไปเรื่อย
เอาแค่ว่า เป็นคนที่ใช้เรียกคนไทย คนจีนเห็นคำว่าสุโขทัน สุพรรณบุรี และเป็นคนไทย มีความต่อเนื่องกัน ก็เลยเรียก เรียกมาจนเดียวนี้
อ.ศรีศักร วัลลิโภดม เสวนาเรื่อง “อโยธยา: ความสำคัญและอนาคต” นาที 0:40:55 พูดถึงเสียมกุกว่าเป็นเพชรบุรี คนเพชรบุรีโบราณนุ่งโสร่ง
ถ้าเอาตามบันทึกจีน เสียนกับเพชรบุรีนี่คนละแห่งนะครับ เพชรบุรีมีชื่อจีนต่างหากไม่ได้เรียกเสียน
อืมมม ครับ
คนเพชรบุรีดูจะมีเชื้อสายแขกสะมากกว่า คมเข้ม หนวดเคราดกหนา หน้าตาดีซะด้วย สายตาคนลาวอีสานแบบผมที่มองคนเพชรบุรีแล้ว รูปลักษณ์ออกจะต่างจากพวกไท-ลาว ไปไกลพอสมควร
อ.ศรีศักร วัลลิโภดม แกบอกว่า เสียมกุก คือ เวียงจันทร์
สุโขทัยเป็นไปไม่ได้ ถ้าวัดตามไทม์ไลน์เวลาการตั้งรัฐ และการสร้างตัวปราสาทนครวัด
เสียม สยาม ชาน ฉาน คือ คำเดียวกัน ยุคสมัยนั้น ชนเผ่าไท ได้อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำกก หรือที่ราบเชียงแสน มานานแล้วครับ ไม่ต่ำกว่า 1000 ปี ซึ่งเป็นยุคสมัยเดียวกับนครวัด
ต่อมาในยุคหลัง พม่าได้ยึดครองรัฐฉานของชาวไทใหญ่ และพม่าออกเสียง "ม" ม้า ไม่ชัด ทำให้เสียงเพี้ยนจาก "สยาม" กลายเป็น "ฉาน" ทั้งที่มีความหมายเดียวกัน
* คนไทยในรัฐฉาน ก็คือชาวสยาม หรือ เสียม นั่นเอง และปัจจุบันพวกเขาก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่
ครับ
ภาพในนคนวัด คือภาพที่เดินขบวนเฉลิม ฉลองพิธีอะไรสักอย่าง หรือเฉลิมฉลองการสร้างนครวัดเสร็จก็ได้.แต่กองทัพทั้งหมดคือเครือญาติกัน และอีกข้อสงสัย คือสิ้นตระกูลวรมัน เขมรก็ไม่เคยใช้คำว่า วรมันอีกเลย และก็ย้ายเมืองไปตั้งใหม่ และไม่สร้างอะไรอีกเลย ส่วนตัวผมคิดว่า เสียมกุก ละโว้ และเมืองอื่นๆ ต่อมาก็รวมเป็นสุโขทัยครับ.
ครับ
ภาพบอกใบ้ไว้แล้ว คือ ชุดที่สวยใส่เป็นกุญแจสำคัญ ต้องลองให้ค้นเรื่องชุดว่าชุดแบบนี้สมัยนั้นเป็นวัฒนธรรมของเมืองไหนกันแน่ ซึ่งแต่ละเมืองก็แตกต่างกัน จากที่ดูจากภาพมันคล้ายๆ กับชุดลายทางใต้นะ.....
ครับ
ทางใต้สมัยไหน
ชุดมโนรา มาจากไหน
พวก ชวา ครับ
ภาคใต้ ไม่มีนุ่งผ้าถุง มีพม่า กับ มอญ เท่านั้น และ ถ้าใช้พม่า ชุดที่เห็น ก็คือชุดมอญ มีความละเอียด ประณีต
ถ้าเอาแบบเด่นๆชัดๆ แม่นำ้ที่ไหลผ่านลพบุรีก็แม่น้ำป่าสัก ก็น่าจะได้ศรีเทพ แต่ถ้านับเอาแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านอยุธยาส่วนของเมืองเก่า(ตอนนั้นน่าจะอยู่ใต้อำนาจของละโว้ ) ก็อาจจะนับพวกเหนือแม่นำ้เจ้าพระยาเป็นพวกเสียมก็ได้ ไม่น่านับพวกที่อยู่ต่ำกว่าอยุธยาเพราะในบันทึกหลักๆที่ชัดเจนคือ เส้นทางเดินเรือทางแม่น้ำ ถ้านับแบบคราวๆปัจจุบันก็ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบรูณ์ ไล่ขึ้นไปจนสุดภาคเหนือ ตามความคิดผมนะครับ ถ้าดูจากลักษณะภูมิประเทศจากบันทึก
กำลังนึกตาม
ขอบคุณครับ
เรียกว่าเผ่าไทลงมาอยู่ในขอบขัณฑสีมาก็ดองกับขอมได้เลย ตัวแปรคือขุนเจืองไปช่วยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ช่วยท่านรบจามปาครับ
ครับ
ขอมสมัยนั้นน่าจะเป็นละโว้-อโยธยา ส่วนพวกเสียมกุ๊กน่าจะเป็นกลุ่มคนที่พูดภาษาไท-กะได ในยุควัฒนธรรมห้าเชียง เชียงรุ่ง(สิบสองพันนา) เชียงทอง(ล้านช้าง-ลาว)เชียงตุง(รัฐฉาน)เชียงใหม่ เชียงราย(ล้านนา) ก่อนที่จะอพยพแยกย้ายกันไปสร้างบ้านแปลงเมืองเป็น อาณาจักรล้านนา ล้านช้าง รัฐฉาน เชียงรุ่งแสนหวี และสุโขทัย ในยุคต่อมา ส่วนอยุธยายุคต่อมาน่าเป็นการผสมผสานกันระหว่างพวกเสียมที่อพยพลงมากับพวกขอมที่เป็นคนท้องถิ่นดั้งเดิม
ครับ
ก็มีส่วนที่เป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นสุโขทัย เพราะสุโขทัยมีลักษณ์ของการผสมผสานของผี พราหมณ์(ขอม) พุทธ มากที่สุด และยังมีเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติ ในสมัยเจ้าขุนผาเมืองที่เป็นราชบุตรเขยของชัยวรมันต์ที่7 เสียมจึงมีความเป็นได้ครับ
พราหมณ์ สันสกฤต ขะแมร์ คนละกลุ่มกับ ขอม พุทธ
ครับ
แสดงว่าเสียมสยามมีอยู่แล้ว
พราหมณ์สยาม หรือที่ถูกเรียกว่าขอม(ผมเข้าใจว่า คนบันทึกน่าจะหมายถึงชฎาที่มีกรรเจียกจร) พราหมณ์สยามคือคนที่นับถือพระพรหม ยึดหลักสันโดด มีวิธีคิดที่เป็นหลักทางวิทยาศาสตร์ เหมือนกับพฤติกรรมของผู้ชาย พราหมณ์สยามคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ จะบอกว่าเป็นศาสนาผู้ชาย ซึ่งตรงข้ามกับศาสนาผี ที่เขาบอกว่าเป็นศาสนาผู้หญิง แต่สองศาสนานี้อยู่ร่วมกันมานาน ก่อนสมัยพุทธกาล มีการสมสู่กันเป็นครอบครัว เป็นเครือญาติ แต่ก็มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่บ่อยๆ
พราหมณ์สยาม คือมีชาติพันธุ์มากมายนับถือ เมื่อมีหลายชาติพันธุ์ จะเรัยนว่าม้ง ก็ไม่ได้ จะเรียกว่าเย้า ก็ไม่ได้ จะเรียกส่ากะหมุก็ไม่ได้ แต่กลุ่มเคารพฤาษี ชีไพร หรือนับถือพระพรหม ที่เรียกว่าพราหมณ์จึงเรียกรวมๆ ว่าสยมมฺ หรือสยาม ครับ
มีบันทึกชัดเจนว่า เสียมมี 3 ก็ก ก๊กที่ 1 ที่ข้างคอม (ศรีวิชัย นครศรีธรรมราช)
ก็กที่ 2 คือ ถึมทือ (สุวัณณภูมิ) นครปฐม ก็กนี้ที่มีอำนาจมาก แผ่อาณาจักรไปไกล แม้แต่นครวัต
ก็กที่ 3 คือ ไทยทวาลาว(ทวาราวดี) ปกครองศรีเทพ แต่เกรงบารมี ทางสุวัณณภูมิ พาชาวเมืองศรีเทพไปตั้งเมืองใหม่ ชื่อ สุโขทัย
ลองอ่านบันทึกดูดีๆ จะรู้ว่า มีอาณาจักร ถึง 3 อาณาจักร ก่อนที่ก็กสุวรรณภูมิรวมเป็น หนึ่งเดียว คือ อยุธยา ตั้งแต่นั้นมา
ขอบคุณ อาจารย์ที่ หาข้อมูลมาเพิ่มเติมอยู่ตลอด ก่อนอื่นเลย คงต้องบอกว่า ประวัติศาสตรไทย กระแสหลักนั้น ขีดเส้น สุโขทัยว่า สถาปนา ปี 1800 พวกเราคนรุ่นหลังเลยไปต่อกันยาก ทั้งๆที่ความจริงนั้น สุโขทัยมีความเป็นมาเก่าแก่ กว่านั้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการขุดค้น ชุมชนเก่าแก่ ที่วังหาด บ้านด่านลานหอย หรือ ที่คีรีมาส และที่เก่ากว่า นี้ในภูมิภาคใกล้ๆกัน คือแถวๆทุ่งยั่้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นบรรชน ของ สุโขทัยด้วย ล้วนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ และหลากหลายทางชาติพันธ์ และมีอายุไม่ต่ำกว่าสองพันปี หรือ ลงใต้ไปหน่อย คือ จันทร์เสน ตาคลี นครสวรรค์ (บ้านผม) ซึ่ง นครสวรรค์ (ภาษาบาลี) เดิมนั้น ชื่่อ พระบาง เป็นภาษาลาว ตรงกับภาษาบาลีแปลว่า สวรรค์ และมีชื่ออยู่ในตำนาน พระนางจามเทวี ที่เกิดขึ้น ช่วงระหว่าง พศ 1200-1600 ด้วย นอกเรื่องนิดนึงนะครับ เพราะผมต้องการจะบอกว่า คนที่มาอยู่ตรงนี้แล้ว เรืยกชื่อบ้านเมืองตัวเอง แบบยกย่องเป็นเมืองใน อุดมคติ คือชื่อพระบาง น่าจะเป็นกลุ่มคนที่พูด ภาษา ไต+ไท+ลาว และก็อาจจะเกี่ยวเนื่องสอดคล้อง กับ สุโขทัย ที่เป็นชุมชน ที่ใช้ภาษาไท+ไต ด้วยนะครับ และผมมีข้อสังเกตุอีกนิดนึง คือการแต่กาย ของ เสียม ที่นุ่งโสร่ง ต่างจาก ละโว้ ที่นุ่งโจงกระเบน นะครับ ในส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นคล้อยตาม อาจารย์ นะครับ ว่าเสียม อาจจะเป็น สุโขทัย เพราะ รัฐ ที่พูดภาษาไทยในยุคเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น สุพรรณ ในบันทึกจีนเรียกว่า จินลี่ฟู เพชรบุรี คือ พิบพรี ถ้าผมจำไม่ผิด แต่อโยธยา ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาเรียก อะไรข้อมูลใหม่มากคงต้องรอสืบค้นประวัติเพิ่มเติมอีกละครับ (ฝากท่านอาจารย์ช่วยด้วยนะครับ 555) เพราะพึ่งจะมาเรียก เสียม หลอ ก็ในสมัย อยุธยาแล้ว ซึ่งก็ห่างกันเกลือบ สองร้อยปี และอีกอย่างที่จีน เขาระบุ พื้นที่ใกล้เคียงมา ค่อนข้าง จะไปตรงบริเวณ สุโขทัย อย่างที่อาจารย์ ได้ วิเคาะห์มา ผมเห็นด้วยครับ ขอบคุณนะครับ อาจารย์ สู้ต่อไปครับ รอฟังผลงานนะครับ
ขอบคุณมากครับ
เสียมกุก..นี้ตามจารึกบ่งชี้แล้วว่าใครแห่งเมืองโฉกวกุล(แปลว่าสระดอกพิกุล)..อาจารย์อย่าเพิ่งตัดจารึกนี้ทิ้งนะครับ...พิมายลพบุรีซึ่งสมัยหนึ่งก็ถือเป็น..ราชธานีครับ.
ครับ
นี่ผมอ่านอีกอัน พึ่งเจอ เค้าพิมพ์อย่างนี้
"ส่วนภาพแรกที่หลายคนยังกังขาอยู่ว่า “เชงฌาล” นี้อยู่ที่ไหน แต่เมื่อมองความสัมพันธ์ของภาพที่สองร่วมด้วยแล้ว กองทัพเชงฌาล ก็น่าจะมาจากลุ่มแม่น้ำโขงด้วย เนื่องจากในจารึกว่าเป็นทัพหน้าของทัพสยาม ลองออกเสียงดูใหม่ปรากฎว่า “เชงฌาล” ใกล้กับคำว่า “เปงจาน” มากที่สุด คำว่า ‘เปง’ เป็นภาษาถิ่น หมายถึงกอง ‘จาน’ คือต้นจานหรือดอกจานหรือทองกวาว"
@@ac2982ผมว่า เสียมกุก พวกทัพอู่ทอง ส่วนที่ว่า พลธนูผู้เชี่ยวชาญจากเชงญาล นำหน้าเสียมกุก นี่น่าจะพลธนูจากเชลียง เมืองเก่าศรีสัชนาลัย แต่ต่อมาเรียก เซียน # เสียม ต่อมามีเอกราชเป็นประเทศจนรุกรานมลายู แต่ต่อมาโดนเสียมมีเอกราชยึดเซียนขึ้นมาจนเป็นเสียมหลอ
ผมว่าต่าจะมาจากบริิเวณแถวสกลนคร,นครพนม,มุกดาหาร,แล่ะสุวรรณเขต แถวนี้ปราสาทหินเยอะมาก
แถวนี้ถ้ามีปราสาทหินที่ไหนจะเผ่าบรูหรือคนแถวนี้เรียก ข่าหรือข้า อยู่โดยรอบรอบปราสาทระยะประมาณ5-10 กิโลเมตร (สันนิฐานว่าคนเผ่านี้เป็นคนสร้างเป็นแรงงาน โดยมีอีกเผ่าเป็นเจ้านายเป็นคนสั่ง อาจจะเป็นคนเผ่า ไท ,ไต ,ลาว เพราะตัวหนังสือที่สลักในนครวัดนั้นเหมือนอักษรลาวโบราณ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากภาษาสันสกฤตมากๆ รวมทั้งมีความคล้ายภาษาที่พ่อขุนรามจารึกไว้ในหลักศิลาจารึกนั่นล่ะ ผมเลยคิดว่าเสียมกุก คือคนเชื้อสาย ไท-ลาวนี่ล่ะ อย่างน้อย คำว่า เสียม ในภาษา ไทกะไดก็มีใช้ แล่ะเป็นกลุ่มคนกลุ่มแรกที่ผลิต เสียม ได้
ครับ
ผมว่าเสียนคือสุพรรณภูมิแบบที่คิดกันแต่แรกถูกแล้วครับ
เพราะสุพรรณเป็นชาติที่ถนัดกับการค้าขายไปจีนมากสุดในหมู่ 3 ก๊ก สุโขทัย ละโว้ สุพรรณภูมิ
แล้วยิ่งตอนพระนครอินทร์กลืนสุโขทัย ยิ่งไม่มีทางที่จะให้ชาติอื่นเรียกตัวตนที่พยายามกลืนทั้งละโว้ สุโขทัย ด้วยชื่ออื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง
สุพรรณภูมิไม่ได้บังเอิญกลืนละโว้ สุโขทัยครับ เค้าน่าจะจงใจและมีแผนที่ล้ำลึก
แม้แต่สุดท้ายที่ครองอยุธยายังมาจากสุพรรณภูมิ (แม้จะเรียกบ้านพลูหลวง แต่ก็อยู่ในสุพรรณ)
สิ่งที่ต้องหาคือ สุพรรณภูมิมีภูมิหลังอะไรยังไงบ้าง เกี่ยวข้องกับทวารวดียังไง หลงเหลือมาจากทวารวดีมีใครเป็นผู้ปกครอง ปกครองกันมาแบบไหน ที่แน่ๆ ต่างจากสุโขทัยและละโว้แน่ๆ
อืมม ครับ
ถ้าขุด หรือพบอาวุธ หอก ที่อยู่ในภาพที่ไหน ก็อาจเป็นไปได้ว่าสยามคือที่นั่น
เน่ะ เนี่ย นี่ = ที่นี่
สยัม สยาม สยํมฺ = คนสยาม ชาวสยาม
กุก ก๊ก กั๋ว = ประเทศ เช่นจงกั๋วคือประเทศจีน ไท่กั๋ว(สยาม)คือประเทศ(สยาม)ไทย
งงว่าคนจะตีความเป็นที่อื่นทำไม ในเมื่อคำว่า เนี่ย มันก็ตรงตัวอยู่แล้วว่าหมายถึงที่นี่ที่แห่งนี้...
สยามคือ"ศูนย์กลาง"ภัยทางธรรมชาติเกิดขึ้นน้อยมากที่จะรุนแรงเพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่สยามจะอพยพมาจากที่อื่น!!!
@@suriyatanaosri7095
กุกมันภาษาเขมร ไม่ใช่ภาษาจีน
เป็นเพราะฝรั่งเศสอยากกินรวบสยามทั้งหมดพอได้พื้นที่บางส่วนที่เป็นกัมพูชาในปัจจุบันจึงแต่งเรื่องสร้างประวัติศาส์ตปลอมขึ้นมาแต่งเรื่องหลอกพวกเขมรให้แข็งข้อต่อสยามยกตัวเองว่าเป็นผู้ปลดปล่อยเขมรจากการเป็นทาสสยามเพราะการล่าอณานิคมหากจะตียึดสยามโดยตรงทำได้ยากเพราะสยามฉลาดหากยึดจากเขมรจะทำได้ง่ายเพราะคนพวกนี้โง่หลอกใช้งานได้ง่ายพวกล่าอณานนิคมมักจะใช้วิธีแทรกแซงการเมืองระหว่างประเทศที่มีชายแดนติดกันเพื่อให้เกิดข้อพิพาทต่อกันจนต่อสู้กันเองจะได้มีข้ออ้างในการยกทัพเข้ามาช่วยฝ่ายที่ด้อยกว่าเห็นได้จากหลายภูมิภาคทั่วโลกที่พวกนี้ได้เข้าไปแทรกแซงจนเป็นกรณีพิพาทจากอดีตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในหลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะอิสราเอล-ปาเรสไตล์ทั้งที่พม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์เข้ามาสร้างความวุ่นวายพอกอบโกยผลประโยชน์จนเต็มที่ก็ขนกลับประเทศทิ้งปัญหาใว้ให้แก้ไขกันเอง😢
:)
อาจารย์..ภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกเมืองไทยว่า"เซี่ยมล้อ" มาจาก เสียม+ละโว้
ใช่ครับ
ผมติดตามข้อมูลต่างๆ จากหลายๆแหล่งความรู้ จนผมคิดทฤษฎีแบบส่วนตัวนะครับ อยากให้ลองคิดตามดูว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ คือฟูนัน และทวารวดี รวมทั้งเจนละ คือฝ่ายที่มีราชวงค์โจละที่สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้ปกครอง หรือจะพูดชัดๆคือสายพระเจ้าสุริยะวรมันที่1 สายนี้จะไม่มีคำว่า ชัย นำหน้า ซึ่งจะแตกต่างจากราชวงค์ไสเลนย์ที่มาจากศรีวิชัย จะใช้คำว่า ชัย นำหน้า ที่ผมเกริ่นมาแบบนี้ เพราะอยากจะให้มองเห็น 2 ลักษณะ คือ1 ฟูนัน ทวารวดี เจนละ เน้นนับถือ พุทธและพราห์ม(พระวิษณุ+กฤษณะ) และไม่มีเขมรเป็นชนพื้นเมือง แต่เป็น มอญ+ไท+ลาว เป็นหลักและชนเผ่าอื่นๆ แต่ไม่มีเขมรแน่นอน อ้างอิงจากคำว่า กมีร์ ที่ถูกสันนิฐานว่า คือเขมร ที่ถูกจารึกไว้ที่เกาะชวาในศตวรรตที่14 และถูกจารึกไว้ที่ปราสาทปักษีจำกรงในกัมพูชาโดยพระเจ้า ชัยวรมันที่2 ในศตวรรตที่16 ขอสังเกตุที่ผมเห็นคือ เขมรคือทาสรับใช้ ของราชวงค์ไสเลนย์ ที่ตามมาพร้อมกองทัพชวา ข้อที่2 คือราชวงค์ไสเลนย์นับถือพราห์มฮินดู(พระศิวะ+บูชาศิวะลึงค์)
พอเห็นประเด็นอยู่ครับ แต่เรื่อง ชนเผ่าไหนเป็นนาย ชนเผ่าไหนเป็นทาส ผมมองว่า ทุกชนเผ่าต่างก็มีนายมีทาสปะปนกันไป เรื่องนี้เป็นปกติครับ แต่ก็มีสัดส่วนมากน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น
สวัสดีครับอาจารมีอยู่ที่หนึ่งอาจารผมอยากให้อาจารลองไปอ่านดูครับอยู่ที่ปักศรีจำกรงมีจารึกอยู่ที่หน้าประตูปราสาทครับกล่าวถึงเมืองเสียมกรุงศรีโพธิ(ชัยยา)ครับ
จะลองดูครับ
มาฟังท่านอาจารย์นักวิชาการหลายๆท่านวินิจวิเคราห์ ประเด็นประวัติศาตร์ต่างๆ ถึงจะต่างเหตุผลต่างมุมมอง แต่อย่างน้อย ประชาชนอย่างพวกเราก็ได้ความรู้อยู่ดีคับ 😊
ครับ
เป็นไปได้ครับ เพราะในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 (ก่อนยุคพ่อขุนศรีนาวนำถุม) แคว้นเชลียง (สุโขทัยและศรีสัชนาลัย) น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของลวรัฐเทศะมากกว่าจะอยู่ในล้านนาเทศะ แล้วในบันทึกของจีน เสียนหรือเสียมน่าจะเป็นกลุ่มคนที่พูดภาษาไท ซึ่งก็อาจหมายถึงกลุ่มรัฐทางเหนือ (แคว้นเชลียง) หรือ รัฐสุพรรณภูมิ หรือ รัฐทางตอนใต้อย่างเมืองพริบพลี (เพชรบุรี) ก็ได้
ครับ
ทิศตะวันตกของนครวัด จะจิ้มไปตรงไหนก็คือเสียมทั้งหมด เสียมสุพรรณ เสียมละโว้ เสียมสุโขทัย ส่วนภาพเสียมกุกในกำแพงก็ต้องตามหาเครื่องแต่งกายว่า เสียมภาคไหนที่นิยมแต่งกายแบบนี้ในสมัยนั้น
สวัสดีครับ การรบกันสมัยก่อน เป็นที่แน่นอนว่า เป็นการรบระหว่างเมืองต่อเมือง ไม่ไช่การรบระหว่างสายพันธ์ต่อสายพันธ์ดังที่เขียนกันให้คนรุ่นหลังเขาใจ แล้วผลจากการเขียนแบบนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทั่วภูมิภาค เมื่อคนภูมิภาคด้อยลง ผู้ควบคุมจากภูมิภาคอื่นก็เข้าควบคุมและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภูมิภาคสืบมา โดยไม่มีคนในภูมิคนใดต้านได้เลย ทำได้เพียงกินตามน้ำ ผลตามมาเป็นการสร้างความขาดแร้นแคนของคนทั่วภุมิภาค ทุกคนต้องรู้ตัวเดรียมตัวสู่การดำรงชีวิตยุคใหม่
สมัยนี้ก็เหมือนกัน
ครับ
น่าจะเป็นได้ครับ
เพราะพ่อขุนผาเมือง เป็นเขย เจ้าชัย 7
และก่อนหน้านั้น สุโขทัย เป็นเมืองหน้าด่านทางเหนือ ของขอม
ครับ
ถึงบางอ้อครับ การค้าขายทางบก ขอมใช้สุโขทัยเป็นเมืองหน้าด่าน ต่อมาถึงยุคค้าขายทางน้ำอยุธยาจึงรุ่งเรืองขึ้นครับ
พูดได้อย่างไรว่าผมเข้าใจว่าทั้งๆ ทั้งที่หลังฐานชัด ดูสงความอโยธยากัยนครวัด ทัพหน้าอโยธยาคือ ทัพละโว้ แม่ทัพชื่อ ชุนศรีไชยราขมงคลเทพ ถ้าละโว้ขึ้นกับนครวัด แล้วทำไมไปอยู่ภายใต้อำนาจพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี ที่ ๑ ที่เพิ่งเริ่มตั้งเมือง คิดดู อย่าไปเขียนคาม ศ.ดร.ยอสเซเด ฝั่งเศส และยึดงานวิจัยของตนที่ผิดเผี้ยนของตนคราไปเรียนที่ต่างประเทศ
อืมม
วิเคราะห์กันไปไกลแล้วครับ เสียมกุกคือทหารของเมืองพระนครนั่นเองเพราะทหารเมืองอื่นไม่สลักชื่อลงไปเลย
คือกลุ่มรัฐสยามครับ ก่อนจะมีสุโขทัยอย่างเป็นทางการย่อมมีเมืองที่ยังไม่ได้สถาปนาเป็นเมืองหลวง รัฐสยาม ณ เวลานั้น คงมีหลายที่ เช่น สุโขทัย นครไทย(พิษณุโลก) ชัยนาท สุพรรณ เพชรบุรี เป็นต้น ในภาพก็คือถูกเกณฑ์มาและอยู่หน้าละโว้ ข้อสังเกตอีกข้อคือ ยังไม่มีชื่อแม่ทัพแสดงให้เห็นถึงว่ายังไม่มีเมืองหลวงของสยามเวลานั้น เรารู้แน่ชัดว่า เรื่องอยุธยา คือ สุพรรณรวมกับละโว้ โดยใช้คำว่าเสียมล้อ หรือเสียนล้อ ก็ชัดเจนว่าสยามหรือเสียนมันก็แถวๆนี้แหละเพชรบุรีไปถึงสุโขทัย ณช่วงที่รวมกับละโว้สุพรรณมีอำนาจสูงสุดของรัฐสยาม ลองไปหาอ่านบันทึกโจวต้ากวนเขียนตำแหน่งของสยามเอาไว้ชัดเจนว่าอยู่ทางทิศไหนของเมืองพระนคร ณ เวลานั้น
ครับ
ใช่ เป็นใครก็ได้ ที่เป็นคนไทย
เราไม่มีทางรู้แค่รูปภาพรูปเดียว
รู้แค่ไม่ใช่ละโว้
จุดสังเกตุของผม 1. เครื่องแต่งกาย 2. ทรงผมและเครื่องประดับบนหัวหรือหมวกทหาร 3. อาวุธที่ถือ เป็นสามง่าม หรือฉมวก : สุโขทัย เสียน เสียม สยาม เคยแต่งตัวแบบนี้หรือไม่ ผมว่าไม่นะครับ, คนละคตินิยมนะครับ, ต้องหาหลักฐานทางโบราณคดีมายืนยัน หรือจารึกของต่างชาติที่มาในดินแดนนี้แล้วบันทึกเครื่องแต่งกาย อาวุธ ของทหาร , แล้วเครื่องแต่งกาย หมวก อาวุธ ของทหารในขบวน ใช้รบได้จริงหรือเปล่า, เป็นเครื่องแบบสำหรับใช้สวนสนาม ร่วมขบวนพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ หรือเปล่า, สุโขทัย เป็นพุทธเถรวาท ไปบวชที่ศรีลังกา, ศรีเทพเป็นพุทธมหายาน แต่ทั้งสองมี มหาภารตะ รามายณะ ปนมากน้อยแค่ไหน, ผมมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่ เครื่องแบบทหารในขบวน ไม่ตกทอด หลงเหลือ มาถึง สยามรุ่นหลังๆ เลย
ขอบคุณครับ
ผมเดาว่า รอบๆ ชุมชนปราสาทปู่จา สุโขทัย น่าจะมีหลายชาติพันธุ์ แต่ใช้ภาษาไท (เสียม) เหมือนกัน จึงถูกเรียกว่า เสียม
ส่วนกลุ่มที่ปรากฏในรูปสลักและแต่งกายแปลกตานี้ คงเป็นแค่ "กลุ่มชนกลุ่มหนึ่ง" ที่มาเป็นทัพหน้าให้กับละโว้
@@taspien ผมเดาว่า เสียมกุกในเสียมเรียบ หรือไม่ก็เสียมกุกในเมืองพระนคร นั่นแหละครับ, อิทธิพลของขอมพระนครก็อยู่ในแถวๆ นั้นแหละครับ
#เสียมกุก= เสียมโกก =เสียมโกก= สยามโกก =โกก แปลว่า โคก ที่ราบสูง
#ขะแมร์กร็อม = กร็อมแปลว่า ล่าง,,ที่ต่ำ = เขมรต่ำ
# เมื่อก่อนนับตามแนวเขาพนมดงรัก ฝั่งไทยเราจะอยู่บนที่สูง จึงเรียกว่า เสียมกุก - เสียมโกก หรือ สยามโคก ส่วนที่อยู่ด่านล่างเทือกเขา เรียกว่าเขมรต่ำ ผมเข้าใจแบบนี้นะ เพราะในสมัยนั้นยังไม่เรียกว่า ไทย - กัมพูชา แบ่งเป็นประเทศเหมือนปุจจุบัน
ครับ
ไม่มีใครพูดถึงสกลนครเลย ซึ่งเป็นเมืองอารยธรรมขอม ที่มีแนวเขตเมืองใหญ่โตพอสมควร และมีสิ่งก่อสร้างมากมาย เช่น พระธาตุนารายเจงเวง,พระธาตุดุม,พระธาตุเชิงชุม,สะพานขอม และที่สำคัญปราสาทภูเพ็ก ถึงแม้จะสร้างไม่เสร็จแต่การที่จะสร้างปราสาทใหญ่โตขนาดนั้นต้องมีผู้คนประชากรเยอะมากและนี่อาจจะเป็น เสียมกุก จริงๆก็ได้
ส่วนตัวผมมองว่า เสียมก๊ก คือ ศรีวิชัย เพราะนครวัด นครธม อาณาจักรกัมพูชาสมัยเมืองพระนครล้วนแต่ได้รับจากศรีวิชัยไปเต็ม สอกคล้องกับทึก เดอลาดูแบร์ ที่ได้กล่าวถึงความเป็นมาของสยามประเทศปบะราชวงศ์กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาสืบเชื้อสายมาจาก พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ สุริยวรมันที่1แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากฝ้ายสุริวงศ์ และคงตกทอดมาสู่ สุริยวรมันที่2 จากบันทึก พระบาทสมเด็จพระพระนารายณ์ ที่ไปบอกต่อในราชสำนักพระเจ้าหลุยที่14แห่งฝรั่งเศส และจดหมายเหตุจีนทุกยุคสมัยกล่าวทำนองเกียวกันว่า เสียมหลอก็ก แต่เดิมคือเชี๊ยโท้วก็ก หรือ นครดินแดง ภาษาสันสกฤต ตามพรลิงค์
อืมม มันจะไม่รับกับรูปภาพที่นครวัดนะครับ แต่งตัวมีเครื่องห้อย เหมือนชาวเขาบางเผ่าเลย
น่าพิจารณาที่ลูกปัด ในเครื่องแต่งกาย
เหมือนลูกปัดโนราทางภาคใต้
ลูกปัดหรือครับ
ผมเจอเพจ อาเชี่ยนมองไทย ให้ข้อสังเกตุ รูปสลักเครื่องประดับรอบคอช้าง ของทัพเสียมกฺก ตรงกับช้างกำแพงเพชร
และตัวที่นั่งบนหลังช้าง เป็นบัวคว่ำบัวหงาย ไม่มีในทัพฯ อื่น
ครับ
..ขอให้ท่านหมดทุกข์โศกโรคภัย เจริญร่ำรวยทั้งทางโลกทางธรรม เทอญฯ..เจริญพร.
สาธุครับ
ผมเชื่อว่าน่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่านี้ แต่น่าจะถูกทำลายไปแล้ว หรือไม่ก็อยู่ที่ฝรั่งเศษ
ครับ
คนไทยแน่นอนครับ ข้อนี้ผมมั้นใจมานานมากแล้ว 🥳🥳🥳
ครับ
สุพรรฯ และสุโขทัย
ครับ
เป็นไปได้ครับ เสียมกุก คือ สุโขทัย
ครับ
🙏สวัสดีค่ะอาจารย์ 👏👍🌹🌹ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ😍🥰ไปวัดภาคเหนือเอาบุญมาฝากค่ะ 🎉ได้ทำบุญกฐินหลายวัด หลายจังหวัดค่ะ💛💛💛💛💛
สาธุครับ แม่น้อย
รับบุญครับ
@@taspien 🙏🙏🙏
Shan Sham Chan Cham Sian Siam Chieng Mhieng ถนนเส้นการค้าขายเชื่อมต่อถึงกันการพูดสำเนียงแต่ละภูมิภาคไม่เหมือนกันทุกตัวอักษร การพูด เด็กกับผู้ใหญ่ แขกกับจีน สะกดแตกต่างกันที่ ม.และ น. อินเดีย พม่า กะเหรี่ยง ออกเสียง ฉาม จีนออกเสียง ซ่าน แต้จิ๋วเรียก เซี่ยม ก๊กคือ ชน ชาว รัฐ ประเทศ เซี่ยมก๊ก คนที่สื่อสารกับพระถังเซียน (ซัม)จาง จาน จั๋ง สารพัดจะตลบลิ้น เป็นคนจีน สื่อกับฝรั่ง อินเดีย (อะเซี้ยม) สรุปโดยรวมคืออาณาจักรคนภูเขาร้อยเผ่า มีไตใหญ่หรือได้หลวง มีภาษาไตเป็นหลัก เรียกไตเมิง เมืองไต ไม่ไช่ชื่อเมืองหลวงแต่เป็นอาณาบริเวณที่เรียกว่า ซาน ฉาน เซียน เสียน เชียง เจียง เวียง เมียง เมิง เมือง ครอบคลุมบริเวญ รัฐฉาน เชียงตุง สิบสองปันนา เชียงรุ่ง เชียงใหม่ เชียงแสน เชียงทอง เชียงของ คนไทยเรียกว่าเชียง คนอินเดีย พม่าเรียกเซม จีนเรียกเซียน เสียน เสี้ยน เสี้ยม แล้วแต่คนฟังแล้วแต่คนเขียน พ่อขุนเม็ง มัง เมิง เมือง ราย เป็นผู้ขยายอำนาจราชอาณาจักรแว่นแคว้น เหล่านี้ มีภาษาไต เป็นหลัก อักษรธรรมจากศาสนาอินเดีย ภูมิประเทศรายล้อมด้วยภูเขาปกป้องตัวเองได้ด้วยกำแพงแคว้น สยำก๊ก ที่คนจีนเรียก สยามก๊ก หรือเสียมรัฐ รัฐจองชาวสยาม ขออีกนิดครับ บันทึกโจวต้ากวนหรือพระถัง เรียก เซียนละ น่าจะเรียก เชียงราย เสียนหล่อหู่ คำนี้มายุคหลัง เรียกเสียน-ละโว้ อาณาจักรเสียมใหญ่กว่าสุโขทัยและสุพรรณ เพราะเสียมแว่นแคว้นคนภูเขา จากเชียงตุง เชียงราย เชียงรุ่ง ที่คนจีนโบราณรู้จัก ก่อนมาโคโปโล จะเดินทางมาเสียอีก แม้ในสามก๊ก เป็นเรื่องแต่งก็ยังมีความสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวละคร เบ้งเฮ็ก คนสักยันต์ เวียงจันทน์ เมืองจันทร์ เห็นพระจันทร์ทางทิศตะวันออก ว่าๆไปศรีเชียงใหม่ที่ลานวัฒณธรรม ที่เรียกลานเบิ่งเวียง เย็นๆค่ำจะเห็นดวงจันทร์ดวงใหญ่ลอยอยู่เหนืเวียงสวยงามมาก
ครับ
เสียม เป็นภาษาจีน แปลว่าพระอาทิตย์ขึน ล่ามจีน แปลมาจาก สุข+อุทัย=สุโขทัย เรียก กลุ่มภาษาไท-กะได สุโขทัยเดิมพูดล้านนา ถูกกลืนภาษาโดยขอม(อยู่ทางใต้ล้านนา) ภาษาสุโขทัยปัจจุบัน ล้านนาผสมเมืองราด(นครราชสีมา เมืองราด+เมืองเสมา) สำเนียงเมืองราด เสียมละโว้=สุโขทัยโดนขอมละโว้ยึดแล้ว ช่วง3,000ปีก่อน ชาวลัวะ(จีนโบราณ ไท กะได)เคยปกครองทางใต้จีนตลอดแหลมอินโดจีน ชวา(มาจากอินเดียใต้)มาทำการค้า เป็น เมืองจาม แพร่อำนาจคลุม ลัวะกลายเป็นชนกลุ่มน้อยถูกกลืนกลายเป็นละโว้ ส่วนตัวแล้ว ไปพ้องกับญี่ปุ่น ที่บอกว่าเป็นลูกพระอาทิตย์ บรรพชนญี่ปุ่น-ไท เดียวกัน โครงสร้างประโยคภาษาเดียวกัน บางคำเหมือนไท(กะได)คือว่า=ว่า(ญี่ปุ่น) อัน(อีสาน)อนึ่ง(กลาง)=อาโน(ญี่ปุ่น) สาบ=สาก(ญี่ปุ่น) จุ(ล้านนา),โกหก(กลาง)=จุ๊ดโซ่(ญี่ปุ่น) มีอีกมากมาย ญี่ปุ่นจึงให้ไทยเป็นญาติ
เพ้อเจ้อ คำนี้มากจากเข้าของภาษาประเทศไหน ให้ไปถามเขาอย่ามโน รากภาษาของเขามากจาก Pali-Sansakrit ก้ยังไปอ้างจีน Pin-in ทีเจ๊กมันออกเสียงตาม คำนี้ใช้บ่อยในการอวยเทพฮินดู มั่วมาก
@@klom15thailand เซียม ต่างเผ่าเรียก ใครที่ยิ่งใหญ่ในแถบนี้ เข้าบาลีเป็น สยาม
@@thanetuathawisamphun95970) คำนี้ "เสียมโก๊ะ" ที่จีนออกเสียงเรียกสยาม เกิดในไทมไลนใด? 1)ตั้งแต่คริสตวรรษ@1CE HanChinese เรียกคนต่างเผ่าพันธของตน ที่อยู่ใต้แม่น้ำแยงซี ทั้งหมดว่า BaiYue: ในกลุ่มนี้มีชาวเขาทั้งหมดรวมถึงบรรพบุรุษร่วมสยาม ลาว พม่า มอญ และกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงที่กลายเป็นเวียดนามทุกวันนี้ ตั้งรัฐพร้อมกับมอญ เขมร ตั้งแต่ศตวรรษ@xCE เรื่อยมา ตั้งแต่FunanCivilization-->ChenLaKingdom-->KhmerEmpire@9CE-15CE 2) YuanDynasty@xCe-12CE ไม่เคยออกเสียงเรียกสยามว่า "เสียมก๊ก" แม้สักครั้ง คุณคิดว่า Fancy ขนาดไหน 3) แม้แต่คำว่า ขอม ไม่มีในระบบภาษาโลก เป็นคำที่ปรากฎขึ้นในประเทศราชของเขมรยุคกลาง AyodayaKingdom นี่เอง 4) DvaravatiKingdom, LavoKingdom ไม่เคยเรียกตัวเองว่าสยามเพราะเขาเป็นมอญ
อืมม ครับ
@@thanetuathawisamphun9597 ชาวบ้านสยามฟังบาลีไม่ออก พนมมือไหว้หงึกๆ เพระารากภาษานี่อยู่ไกลจากตอนเริ่มต้น แม้แต่อักษรที่ใช้ปัจจุบันก้ไปเอาของลาวมาพํฒนาได้เป็นชุดปัจจุบัน
จารย์ ทุกอย่าง ทุกเมือง ทุกพระองค์ เกิดขึ้นพร้อมกัน
พระยาพานสิ้นพระชนม์ตอนอายุ67 มีลูก5คน ชาย3หญิง2 ชายคนโตเสียชีวิต เหลือชาย2คน เป็น2กุมารเกิดจากจากคนละแม่ คนหนึ่งคือพระร่วงแห่งสุโขทัย คนหนึ่งเป็นอวตารของพระกฤษณะตอนเกิด มีคนฝันว่าพระกฤษณะจะอวตารมาเกิดจึงถูกตั้งชื่อว่ารามเป็นคนเดียวกับขุนนาวนำถม ส่วนพระร่วงหรือพระอรุณคือขุนหลวงพาโง่(เพราะหลงกลศึกฝ่ายตรงข้าม)หรือพะงั่ว
ครับ
เสียม ชาน เป็นคำเดียวกัน ไม่ได้แค่สุพรรณ หรือสุโขทัย
คือมีหลายนัยยะ คล้ายคำว่าแขก ขอม
ครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณอาจารย์ สำหรับ ไอเดียนะครับก็น่าคิดนะครับ เพราะจริงๆ สุโขทัย หลายคนมักติดกับดักเวลาว่า มีอายุไม่กีถึง พันปี แต่จริงๆ แล้ว บริเวณ สุโขทัย มีชุมชนแล้ว ตั้งแต่ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และ พบการอยู่ต่อเนื่อง ทั้ง ทวารวดี ขอม ถึง สุโขทัย แหล่งโบราณคดีอ้างอิงก็ หลุมขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดชมชื่น เมืองศรีสัชนาลัย ทว่าก็ยังต้องหา หลักฐานอื่นๆ กันต่อไปว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ แต่อย่างน้อย พื้นที่ สุโขทัยก็มีเมืองร่วมสมัยแล้วในยุคนั้น ครับ
ขอบคุณที่รับฟังความคิดเห้น เป็นกำลังใจให้อาจารย์ ในนำการนำเสนอสิ่งดีๆ และเปิดโอกาสให้ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
อ้างอิง facebook.com/watch/?v=466659871097776
ครับ
ถ้าไม่เจอจารึกหิน อ.จ เค้าบอกตรงนั้นไม่มีประวัติศาสตร์ครับ
การดูศักดิ์เมือง ยุคโบราณใช้ "ฉัตร" เป็นตัวชี้บอก ศักดิ์สูงกว่า มีจำนวนฉัตรมากกว่า......ในภาพสลักบนกำแพง สยมฺกุกฺ มีจำนวนฉัตรมากสุด (๑๖ ฉัตร) จึงต้องเป็นเมืองแม่ของนครวัด-นครธม....ตรวจข้อมูล ปวศ จะพบว่า เป็น "สหราชอาณาจักรสยาม (อ้ายไต)" ก็น่าจะเป็น "มหาจักรพรรดิพ่อสิทธิยาตรา (พ่อพระทอง)" หรือ "มหาจักรพรรดิพ่อสิริธรรมกิตติ" กรุงศรีโพธิ์ราชธานี หาใช่ ละโว้ หรือ สุโขไทย ไม่ นะครับ ......แต่ท่านอนุชิต ถาวรเศรษฐ อดีตกรรมการชำระ ปวศ ไทย วุฒิสภา ชี้ว่า เป็น สมัย "มหาจักรพรรดิพ่อหะนิมิต" พ.ศ.๑๒๐๒-๒๔ แต่ผมว่า ก่อน สร้างนครวัด มากไป (๓๐๐ กว่าปี)
คงหมายถึงละโว้หรือเปล่าครับที่ ฉัตรมากสุด
@@taspien ขอ อ.อ่านให้ครบความ นะครับ.....มีคำตอบ
เสียม น่าจะหมายถึงอาณาจักรที่พูดภาษาไท ในภาคกลางไทยหรือเปล่าครับ
ก็เป็นไปได้ครับ
ผมเคยเห็นหลักฐาน ตามหนังสือพิมพ์ ณ.สมัยสงครามโลก
๑๗ กันยายน ๒๔๘๓ เหตุสยามเรียกร้องนครวัดคืน สมัยนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
ครับ
อาจารย์เคยดูช่อง อ.ชะลอย ดวงอินทร์ไหมครับ แกให้แง่คิดเชื่อมโยง ที่มีพื้นเพ ภาษาวัฒนธรรม ดีมากๆ อย่าง เน๊ะสยัมกุก นี่แกมียกตัวอย่างลายผ้าด้วย น่าสนใจมากๆครับ
จะลองดูครับ
เดิมละโว้ขึ้นกับมอญศรีเทพ ต่อมาขอมนครมายึดละโว้ เมื่อละโว้โตขึ้น ศรีเทพก็เล็กลงอาจจะด้วยความแห้งแล้ง จนตกอยู่ใต้ละโว้ มีแม่น้ำไหลจากศรีเทพมาละโว้ ตรงตามจีนบันทึก เสียนจึงน่าจะเป็นศรีเทพซึ่งมีอาณาเขตรวมถึงอีสานตอนบนและลาวตอนล่างชนแดนกับอันนัม จึงเห็นศิลปะทวารวดีมากมายในอีสานตอนบน
เข้าใจใหม่ มอญมาทีหลังนะครับ อย่าไปเชื่อฝรั่งเศสมันเขียนขึ้น
@@user-vh2rr7zc1x มอญเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมตั้งแต่ลุ่มน้ำอิรวดี น้ำเมย น้ำปิง น้ำวัง น้ำยม เจ้าพระยา ป่าสัก ก่อนมีทวารวดีหลายพันปีแล้วครับ
แม่น้ำที่ไหลผ่านสุโขทัยคือน้ำยม ซึ่งไม่ผ่านละโว้(ลพบุรี)
แม่น้ำที่ไหลผ่านศรีเทพ(เพชรบูรณ์)คือน้ำป่าสัก แล้วไหลลงมาผ่านละโว้
ศึกษาเยอะๆ หลายช่อง หลายสื่อ มากว่า 50 ปีแล้ว เลยมีข้อมูลเยอะครับ
อย่าเลย อย่าเชื่อมาก ถ้ามอญมีอิทธิพล มอญหายไปไหนจาก ดินแดนสุวรรณภูมิ คิดสิๆๆๆ
บอกบอกคุณนะ ฝรั่งเศสเขียนประวัติศาสตร์ อุษาคเนย์ หรือสุวรรณภูมิขึ้นมา เพื่อลบร้างกลุ่มคนที่พูดพูดภาษาตระกูล ไท-กะได เพื่อล่าอาณานิคม หาเหตุ เพื่อจะยึดดินแดนสุวรรณภูมิ ถ้ามอญเป็นชนดั้งเดิมจริงๆ ทำไมไม่ได้เป็นภาษาหลัก ในดินแดนสุวรรณภูมิ
อย่าโง่
ไท-กะได
-ไทกะได ก๊กภาคใต้ (ไทย)
-ไทกะได ก๊กภาคกลาง (ไทย)
-ไทกะได รัฐกลันตัน, ตรังกานู, ไทรบุรี (เคดาห์) (มาเลเซีย)
-ไทกะได ไทใหญ่ รัฐฉาน (พม่า)
-ไทกะได รัฐอัสสัม (อินเดีย)
-ไทกะได สิบสองปันนา (มณฑลยูนนาน จีน)
-ไทกะได ไหลหลำ (จีน)
และอีกหลายมณฑล ในประเทศจีน ที่พูดภาษา ไทกะได มีประมาณร้อยกว่าล้าน ท่านหาคำตอบให้ผมได้ใหม อย่าตอบโง่ๆ
-ไทกะได ในเวียดนาม เช่นไทดำ
-ไทกะได ในลาวเหนือ ชาวใต้
-ไทกะได ภาคอิสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-ไทกะได ในเขมร เสียมราฐ ตอนเหนือของเขมร
และอื่นอีกเยอะ
คุณตอบผมได้ใหม
สักแต่จะเชื่อประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศษที่เขียนขึ้นมา เพื่อยัดเยียด เอาแผ่นดินกลุ่มคนที่พูดสำเนียง ไทกะได
เขมรเช่นกัน คือชนอพยพ จำได้ใหม
ตร๊ะเช๊าะ ประแอม หรือนายแตงหวาน คือกบฏ ยึดอำนาจจากขอม
ขอมคือบรรพบุรุษที่พูดสำเนียง ไทกะได
พระเจ้าอู่ทอง คือหน่อเนื้อของวรมัน พระองค์สร้างเมืองใหม่คือกรุงศรีอยุธยา โดยมีกำลังพลที่แตกทัพมาจากเมืองพระนคร ที่แตงหวานก่อกบฏจากชัญวรมัน
คิดใหม่ได้แล้ว ครับ
ภาษามอญคนละภาษากลับกลุ่ม ไท-กะได
มอญอพยพมาจากอินเดีย มีอยู่สองพวกที่อพยพมา
1.ทางเรือสำเภา มาขึ้นฝั่งอันดามัน
2.มาทางอัสสัมอินเดีย ล่องเรือมาตามแม่น้ำโขง จนมาออกันแถวประเทศเขมรตอนบน เข้าใจนะครับ
เขมรคือทาส ที่ตระกูลวรมันเอามารับใช้ ภาษาเขมรเหมือนแกะดำในดินสุวรรณภูมิ คุยคนละภาษาเขมรเป็นชนอพยพเหมือนกัน แล้วมาตั้งรกรากในฝั่งเวียดนามใต้ ประวัติศาสตร์อาณาจักรขอมโบราณเคยส่งกำลังทหารเข้าตี อาณาจักรจามปา เมื่อตีชนะ อาจนำชาวจามหรือเขมร กลับมาเป็นทาส ที่พระนครด้วย
เมื่อเขมรมีคนเยอะขึ้น จึงก่อกบฏต่อนาย หรืออาณาจักรขอมซึ่งมีหัวทาส ชื่อแตงหวานหรือ(ตระเช๊าะ ประแอม)เป็นคนวางแผน
ประวัติศาสตร์ชาติเขมรเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น เริ่มมาตั้งแต่ล้มราชวงศ์ วรมันได้ ถึงกระนั้น เขมรก็ไม่เคยคิดจะปกครองเมืองพระนครเลย ได้อพยพไพร่พล ลงไปสร้างเมืองแุถวเขมรใต้โน้น อาจเป็นกลัวลูกหลานของอาณาจักรของขอมเข้าตี หรือกลัวคำสาปแช่งของขอมวรมัน
ท่านสังเกตดีๆ พระเจ้าอู่ทองคือหน่อเนื้อของวรมัน พระองค์สร้างเมืองได้แค่ 14ปี การสร้างเมืองใหม่ ทำไมมีไพร่พลเยอะขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่รวมกลับพวกเมืองพระนคร ที่แตกทัพจากกบฏแตงหวาน แล้วพระองค์ส่งกำลังพลเข้าตีเมืองพระนครจากแตงหวานสำเร็จ เน้นย้ำ พระองค์ตีเมืองพระนครจากแตงหวาน เพื่อแก้แค้น ก็ให้ท่านไปคิดเอา
แล้วก็อย่าโง่
หัดดูบันทึกจากแท่งศิลาหิน และจดหมายเหตุด้วยท่าน
@@tp9632 นะท่าน
@@user-vh2rr7zc1x แล้วแต่ข้อมูลของแต่ละท่านครับ ใครอยากเชื่ออย่างไรก็เป็นสิทธิส่วนตัว ครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ คิดว่าเป็นทัพศรีวิชัย พระเจ้าสุ
ชิตราช กรุงตามพรลิงก์ ที่ยกทัพมาตีละโว้กับหริภุญชัย ในสงคราม 3 นคร หลังยิดละโว้ก็ส่งต่อลูกชาย ส่วนพระอง์น่าจะเลยขึ้นมาที่พิมาย แล้วเลยออกไปนครวัด ผมเคยเข้าไปอ่านศิลาจารึกเล่นรู้สึกผ่านตากษัตริย์พิมายเคยกล่าวชื่นชมกษัตริย์ละโว้ที่ยกทัพไปเขมรถ้าใชคำเรียกเเบบไทยน่าจะเป็นลุงหรืออา (อันนี้ผมจำไม่ได้จารึกพิมายหลักใหน แค่ได้อ่านผ่านตา) บวกกับเคยอ่านเจอในบางแหล่ง หลังจากอยุทธยายกทัพมาตีพระนครพอชนะก็เลยเข้าไปตีข้างในแล้วก็ได้พบกับเมืองของพระเจ้าสุ
ชิตราช ในเขมร รวมๆได้จากที่ฟังมาจากหลายสำนักมาก😂
ยังไม่คุ้นเรื่องชื่อ พระเจ้าสุชิตราช ครับ ไม่เห็นมีในจารึก
อาจารย์ เป็นไปได้มั้ย ผ้านุ่งของชาวเสียม แท้จริงแล้วคือเกราะ ทำให้เรามองคล้ายสโร่ง เพราะในจารึก อีกอันที่ยังไม่ถูกลบ เขียนว่า อัญตญา ราชกาย เชงชาญ แปลให้ถูกยังไงไม่รู้ แต่น่าจะมีความหมายคล้ายๆหน่วยรบพิเศษ จึงอยู่แถวหน้าสุด เป็นกองหน้า อาวุธ ที่ถือคล้ายๆหอกซัด ดั้ง ที่ยาว เหมือนหน่วยประจัญบาน แสดงว่า เสียม กลุ่มนี้ คือหน่วยรบพิเศษ ที่ประสบความสำเร็จในสงครามมาก จึง จะใส่เกราะ ด้านล่าง แบบแม่ทัพจีน มีหมวกทรงเทริด ก็ไม่น่าจะแปลก
กำลังนึกตามอยู่ครับ
@@taspien ruclips.net/video/7mboWsDpCpE/видео.htmlsi=RkykO6TKIXrjh_4D
เห็นภาพครับ เคยอ่านประวัติศาสตร์จีน ในกระบวนทัพหน้าหรือทัพจู่โจม จะมีกองทหารเกราะหนักอยู่
อวโลกิเตศวรศิลปะศรีวิชัยพบที่ไชยามีเครื่องทรงที่คล้ายกับเสียมกุกอยู่นะครับ
จะลองไปตรวจดูครับ
กดชมตึดตามแล้วนะค่ะชอบรายการของ.อ.จ.เป็นชนชาติกูยสุรินทรในความคึดของตัวในภาษากวยหรือกูยเสียมกุกหล้ายภาษากูยแปลเป็นภาษาไทยแล้วลงตัวเลยว่าคนไทยโดยตรงเลยนะค่ะเสียมแปลไทยคือไทยกุกคือคนคึดเองนะค่ะ
ขอบคุณครับ
ไปอ่านเรื่องขุนเจือง
ปีใกล้ขุนเจืองมาก
แถมขุนเจืองยังไปช่วยเขมรรบอีก
ชาวไทลาวก็ใส่สโร่งด้วย
จำได้ครับ
วันออกพรรษา อ.สุขภาพแข็งแรงครับ🌷🌷🌷
สาธุครับ
ขอบคุณทุกการทำงานของอาจารย์🙏
ขอบคุณครับคุณไพศาล
อยากให้อาจารย์นำเสนอเรื่องของ พระเจ้าพรหมมหาราช หรือ พระเจ้าศิริชัย ที่เป็นลูก ได้อพยพมาประทับที่นครไทย พ.ศ 1731 จึงเกิดราชวงศ์ศรีนาวนำถม และสมเด็จรามาธิบดีที่ 1 ที่เป็นลูกของพ่อขุนผาเมือง และ นางสิงขรเทวี ที่ลาลูแบร์ ทรงไปถามพระนารายณ์มหาราช ว่าท่านสืบเชื้อสายมาจากใคร ท่านก็บอกสืบเชื้อสายมาจาก พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ ทางนางสิงขร(แม่) และสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าพรหมมหาราช ทางพ่อขุนผาเมือง (พ่อ)
ส่วนทางพระร่วงก็ตามในจารึกเลย ขุนจิดขุนจอด แต่พระเจ้าพรหมมหาราช ลงจากที่ยึดเมืองมาจาก ขอมดำ ท่านก็พระราชขยายอาณาเขตไปยังเมืองเชลียงที่เป็นเมืองหน้าด่าน ผมว่าพ่อขุนจิดจอด นี่ท่านน่าจะเป็นพ่อขุน หรือเจ้าเมืองถึงได้ชื่อ เป็น พ่อขุน แต่คงไม่ได้มีเชื้อสายเจ้า จนกระทั่งสมัยพ่อขุนบางกลางหาวมาดองกับนางเสือง น้องสาวของพ่อขุนผาเมือง แต่ลำดับพ่อขุนก็มาถึงพ่อขุนรามคำแหงนู่น สมัยพ่อขุนรามคำแหง เกิดมีคำว่าพญา ผมส่วนสันนิษฐานว่า พ่อหมดยุคราชวงศ์ลาวเชียงแสนแล้ว มาเป็นสมัยล้านนา รุ่นแรกที่พญามังรายมาสร้างเมืองเชียงใหม่ก็เท่ากับเริ่มต้นราชวงศ์ใหม่
ทำให้พ่อขุนรามคำแหง ก็ตีตัวพ้นจากเครือญาติทางเชียงแสนเพื่อให้ตนตั้งอาณาจักรขึ้นมาใหม่ เลยมีคำว่า พญาร่วง ขึ้นมาแทน
ผมอยากให้อาจารย์ช่วยเป็นกระบอกเสียงเรื่องนี้ทีครับ ผมอยากให้จุดเริ่มต้นของสุโขทัย ชัดเจนขึ้นจริงๆ เรียกว่าผมขอร้องให้เสนอนำเสนอเรื่องนี้ทีน่ะครับ
อ้างอิง
Ku0041032
-อารัตถกดี ประเภริฐ ณ นคร
-พงศาวดารเชียงแสน
-คำให้การชาวกรุงเก่า
สวัสดีครับ โดยส่วนตัวก็สนใจ แต่ข้อจำกัดคือ
1. ราชวงค์ลวจักรราช มังราย สืบค้นง่ายเพราะมีเอกสารพื้นเมืองเชียงใหม่ พื้นเมืองเชียงแสน
2. ราชวงค์พระร่วง และศรีนาวนำถมจะสืบค้นยาก เพราะไม่มีเอกสารเป็นแกนครับ
@@taspien แต่พอไปศึกษาเรื่องคำให้การชาวกรุงเก่า และ จดหมายเหตุลาลูแบร์ ที่พระเจ้าพรหมมหาราช หรือ พระเจ้าศิริชัย ที่อพยพผู้คนหนีขอมดำ ลงมาทางใต้ที่เมืองนครไทย และหลังจากนั้นก็เริ่มมีเรื่องราว เมืองพิชัยเชียงแสนนี้ในคำให้การชาวกรุงเก่าเล่าว่าพระเจ้าจันทราชา(พระร่วงกรุงสุโขทัย)เชื้อสายพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ออกไปประพาสป่านอกเมืองเป็นประจำ มาวันหนึ่งนางนาคได้ขึ้นมาพบพระองค์ พระองค์เห็นเป็นกุมารีรูปโฉมงดงามกว่านางมนุษย์ทั้งหลายจึงมีความเสน่หาได้เล้าโลมเสพเมถุนด้วยนางนาคอยู่ได้เจ็ดวันจึงลาไป พระองค์จึงให้ผ้ารัตตกำพลและพระธำมรงค์ให้ชมต่างพระองค์ นางนาคได้กลับไปบ้านเมืองตน นางนาคมีครรภ์แก่จะคลอดในเมืองนี้มิได้ จึงขึ้นมายังเขาอาสนแห่งพระยาตนนั้นประสูติกุมารแล้ว เอาผ้าและแหวนให้แก่ลูกแล้วจึงหนีลงไปบ้านเมืองตน พรานคนหนึ่งออกไปหาเนื้อในป่าได้ยินเสียงกุมารร้องจึงเดินเข้าไปหาพบกุมารแล้วจึงนำไปให้ภรรยาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม พระเจ้าจันทราชาให้เสนาอำมาตย์สร้างประสาท จึงเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมสร้าง พรานนั้นได้รับเกณฑ์มาด้วยจึงเอากุมารมาไว้ในที่ร่มของพระประสาท พระอาทิตย์สาดส่องเปลี่ยนทิศพระมหาประสาทก็โอนเอนบังร่มให้กุมารหลายที พระองค์เห็นก็หลากพระทัยให้เอาพรานมาถามดู พรานจึงบอกว่าได้กุมารจากป่าเอามาเลี้ยงเป็นลูก พระองค์จึงถามว่ามีอันใดอยู่กับกุมารบ้าง พรานจึงนำผ้าและแหวนถวาย พระองค์จึงรู้ว่าเป็นพระราชบุตรจึงขอรับมาเลี้ยงไว้ให้ให้ชื่อว่าพระร่วงราชกุมาร ครั้นเติบใหญ่ พระร่วงได้ช้างเผือกงาดำชื่อว่าไชยยศถากับเขี้ยวงูมีบุญญาธิการทรงพระเดชานุภาพมากได้ไปสถาปนาพระธาตุเมืองศรีสัชนาลัย นอกจากนี้พระร่วงยังได้ปรากฏเนื้อหาที่คล้ายๆกันนี้ในเรื่อง จุลยุทธการวงศ์ ในประชุมพงศาวดารภาคที่ 66 สมเด็จพระพนรัตน์(แก้ว)ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงเรียบเรียงเช่นเดียวกันยังปรากฏในเอกสารคำให้การชาวกรุงเก่าอีกด้วย
เรื่องพระร่วงเมืองพิชัยเชียงแสนนั้นจะมีเนื้อความคล้ายกับขุนเจื๋องธรรมิกราชเมืองเชียงแสน เช่นพระร่วงมีมารดาเป็นนางนาค ขุนเจื๋องมีมารดาเป็นเทพธิดานางไม้ พระร่วงได้ช้างเผือกงาดำชื่อไชยยศถา ขุนเจื๋องได้ช้างเผือกชื่อพานคำ ขุนเจื๋องมีอีกชื่อว่าท้าวฮุ่งซึ่งแปลว่าร่วงได้เช่นเดียวกันและวีรกรรมของขุนเจืองก็คล้ายกับพระร่วงพระองค์นี้ด้วย พระร่วงมีพระองค์จริงปรากฏพระนามในศิลาจารึกคือพ่อขุนศรีนาวนำถม ผู้เขียนจึงขอเรียบเรียงใหม่ตามหลักฐานจารึกมีเนื้อหาดังนี้
ในปี พ.ศ. 1696 พระเจ้าจันทราชาเชื้อสายพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์(ตีตวามได้ว่าราชวงศ์ลวจักราชเป็นราชวงศ์ที่มาจากเมืองละโว้ ผู้เขียนเคยเขียนเรื่องพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ ซี่งพระเจ้าปทุมแรกเริ่มได้ครองเมืองละโว้ก่อนไปครองเขมร) ได้ขึ้นครองนครพิชัยเชียงแสน (คำให้การชาวกรุงเก่า,2544:11) ต่อมาอีกสี่ปีพระมเหสีได้กำเนิดพระโอรส ในคืนวันครบกำหนดทศมาสฝนฟ้าคะนองพายุฝนตกกระหน่ำทั้งวันและคืน น้ำได้ท่วมขึ้นมาถึงบันไดประสาทพอพระโอรสลืมตาออกมาดูโลก เกิดความมหัศจรรย์ท้องฟ้าสว่างไสวน้ำที่ท่วมก็ลดลงเป็นปกติพระเจ้าจันทราชาจึงตั้งชื่อว่าเจ้าชายนำถม(น้ำท่วม) ครั้นเติบโตขึ้นเจ้าชายนำถมมีความเข้มแข็งองอาจยิ่งชอบล่องเรือลำเล็กๆท่องเที่ยวไปทุกแห่งหน ด้วยบุญกุศลที่ทำมาจะเสด็จไปที่ใดน้ำก็ท่วมท้นมารับเสด็จด้วยทุกครั้ง จึงได้ชื่อว่าเจ้าชายศรีนาว(นาวา)นำถม อายุครบยี่สิบได้รับการยกย่องให้ครองแคว้นสยามสุโขทัย ขุนเจืองเมื่อเติบใหญ่ก็ชอบท่องเที่ยวเช่นเดียวกันได้ไปถึงเมืองน่านได้พระธิดาเมืองน่านและยังได้ธิดาเมืองแพร่ด้วย ภายหลังขุนจอมธรรมพระบิดายกขุนเจืองให้ขึ้นครองเมืองเชียงแสน
@@taspien เจ้าชายศรีนาวนำถมได้ราชาภิเศกครองสุโขทัยแล้วจึงมีพระนามว่าพ่อขุนศรีนาวนำถม(ในจารึกวัดศรีชุมกล่าวว่าพ่อขุนศรีนาวได้สถาปนาพระศรีรัตนมหาธาตุเมืองศรีสัชชนาลัยคือได้ครองเมืองศรีสัชชนาลัยเช่นเดียวกับพระร่วง) พระองค์ได้เสด็จมาเยี่ยมพระเจ้าอินทรวรมันเจ้าเมืองละโว้ที่เป็นพระญาติ พระเจ้าอินทรวรมันชอบใจ ยกพระธิดาให้และโปรดให้ไปครองเมืองอโยธยาศรีรามเทพนครพระเจ้าอินทรวรมันมีศักดิ์เป็นพระเจ้าอาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7แห่งกรุงยโสธร(เขมร) พระเจ้าชัยวรมันที่ 7ชอบเสด็จประพาสเมืองละโว้เป็นประจำมาอยู่ครั้งละหลายเดือนเมื่อได้พบพ่อขุนศรีนาวนำถมซึ่งอายุใกล้เคียงกัน ก็ชวนกันไปเที่ยวทุกหนแห่งมิเกรงกลัวภัยอันตรายใดๆพ่อขุนศรีนาวนำถมเป็นทั้งพระสหายและเป็นขุนพลคู่ใจชื่อว่าสัญชัก อรชุน(หมายความว่าเป็นพระญาติวงศ์และนักรบเช่นเดียวกับในมหากาพย์) กล่าวกันว่าพระเจ้าชัยวรมันอาจไปถึงเกาะศรีลังกาจึงมีพระรูปอยู่กรุงโปโลนวะปรากฏมาจนถึงวันนี้ (ที่ประสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรีได้พบจารึกที่ฐานพระรูปเป็นตัวอักษรเขมรแต่อ่านได้ว่าพระยาไชยาภาพแปลว่ารูปของพระเจ้าชัยวรมัน) พ่อขุนศรีนาวนำถมอยู่ครองคู่กับพระธิดาพระเจ้าอินทวรมันอย่างมีความสุข ให้กำเนิดพระธิดาองค์โตชื่อพระนางเสืองและพระโอรสพระนามว่าเจ้าชายผาเมืองอยู่มาไม่นานได้เกิดโรคระบาดพระมเหสีได้เสียชีวิตทำความสูญเสียพระทัยต่อพ่อขุนศรีนาวนำถมอย่างยิ่ง จึงขอทูลลาพระเจ้าอินทรวรมันพาพระธิดาและพระโอรสผาเมืองกลับกรุงสุโขทัย อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าชัยวรมันจึงชวนพ่อขุนศรีนาวนำถมไปเยี่ยมกรุงยโสธร ระหว่างงานเลี้ยงในประสาทพิมานอากาศ พระเจ้ากรุงจำปา(ญวน)นำทัพเข้ามาปล้นคิดว่าพระเจ้าชัยวรมันจะไม่อยู่จะได้ยึดพระนครได้ง่าย กองทัพพระเจ้าชัยวรมันไม่รู้ตัวถูกตีแตกอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีใครต้านกองทัพจำปาบุกเข้าพระราชวังอย่างรวดเร็วเข้าประชิดตัวพระเจ้าชัยวรมัน พ่อขุนศรีนาวนำถมและขุนพลอีกสามท่านล้อมพระองค์เอาไว้พ่อขุนศรีนาวนำถมเอาหลังพิงพระองค์หันหน้าสู้ศึกอาวุธทั้งหลายล้วนจู่โจมเข้าหาท่าน รอจนแม่ทัพนายกองเขมรรวมพลกันติดจึงยกพลมาขับไล่กองทัพจำปาแตกพ่ายกลับนครจำปา พ่อขุนศรีนาวนำถมถูกอาวุธช้ำข้างในสิ้นลมหายใจยืนพิงพระเจ้าชัยวรมันอยู่อย่างนั้น (เหตุการณ์นี้ได้จากภาพนูนสูงเล่าเรื่องระเบียงประสาทนครธม) พระเจ้าชัยวรมันเสียพระทัยมากสั่งให้จัดพระศพเชื้อพระวงศ์อย่างยิ่งใหญ่ สถาปนาพระรูปเป็นเทพชั้นสูงพระนามว่าเจ้าชายสยามปรเมศวร(จารึกประสาทตาพรหม)พระองค์ทราบว่าพ่อขุนศรีนาวนำถมมีพระโอรสผาเมืองอายุใกล้เคียงกับพระธิดาของพระองค์ จึงโปรดพระราชทานพระธิดาพระนางสิขรมหาเทวีพระขรรค์ชัยศรี และราชาภิเศกให้กับพระโอรสผาเมืองทรงพระนามว่าพ่อขุนศรีอินทรบตินทราทิตย์ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงนำทัพไปแก้แค้นนครจำปาพระเจ้านครจำปาเห็นจะต้านทัพไม่ได้จึงอพยพผู้คนออกจากนคร กล่าวกันว่าทัพหน้าที่ยกไปเป็นกองทัพสยามที่เข้มแข็ง พระเจ้าชัยวรมันได้แต่เมืองร้างเห็นว่าจะรักษาไม่ได้จึงยกทัพกลับ วีรกรรมของขุนเจืองก็คล้ายกันมากได้ลงใต้ไปรบกับแมนตาตอกขอบฟ้าตายืน(เขมร)และได้รับการชื่นชมมากจนได้พระธิดาเขมรมาเป็นคู่ครองพระนามว่าพระนางอู่แก้ว ได้อยู่ที่นั่นถึง17ปีภายหลังไปรบกับแกว(ญวน)แล้วโดนแกวฆ่าตาย คล้ายกับพ่อขุนศรีนาวนำถมที่ได้พระธิดาเจ้าเมืองละโว้(เขมร)เหมือนกัน และโดนชาวจำปา(จำปาก็คือญวน)ฆ่าตาย
จริงๆเรื่องราวพระร่วงกรุงสุโขทัยมันคล้ายกับทางขุนเจืองมากเลยน่ะครับ ตั้งแต่ทางประวัติศาสตร์ทางพงศดารเหนือ เรื่องพระเจ้าพรหมมหาราช มาจากเชียงแสน และ พระเจ้าจันราชา (พระร่วงกรุงสุโขทัย) เหตุการณ์เหมือนขุนเจือง ผมว่าสุโขทัยก็สืบมาจากเชียงแสน แต่ไม่กล้าเล่าเรื่องโดยตรงเพราะเค้าไปเค้าเข้าข้างขอม ตั้งแต่พระเจ้าสรุิยมันที่ 2 และ สุโขทัยที่เคยเป็นเมืองหน้าด่านก็เคยรับอิทธิพลขอม จนปลดแอกจากขอม และได้มีเมืองมาครอง เค้าคงไม่เล่าเรื่องแบบนี้โดยตรงเพราะกลัวคนรุ่น อย่างพญามังราย ที่เป็นรุ่นหลาน จะตีสุโขทัย หรือรุ่นต่อๆมา และเรื่อง พระร่วงกรุงสุโขทัย พระเจ้าจันราชา กับ ขุนเจือง ก็นานจนกว่าที่เค้าจะรือฟื้นแล้วล่ะครับ
กำลังนึกตาม
ลำดับ
1. ศรีเทพ(ศรีจนาสะ) ทวรวดี
2 ละโว้ (ชื่อแผงอื่น ล้อ ลัวะ ละว้า ละวะ ต้นชื่อมาจากคำว่า ปันละวะ มีรากมาจากอินเดีย )
3 สุโขทัย (เสียม เซียน)
4.กรุงศรีอยุธยา(เสียม+ละโว้)
5.กรุงธนบุรี
6.กรุงรัตนโกสินทร์(กรุงเทพ)
4
ครับ
ผมเห็นแย้งกับคุณนะครับ ชนชั้นเจ้านาย time line เมืองหลวง siam สาย khom น่าจะประมาณนี้ครับ
+ เมืองทวารวดี (ศรีเทพ UNESCO มีทุกศาสนา),
+ เมืองละโว้ (บันทึกมาโคโปโล ว่าเป็นเมืองใหญ่กำแพงสูงที่ยากต่อการโจมตี),
+ เมืองพิมาย (บรรพชนเมืองพระนคร),
+ เมืองพระนคร (บันทึกโจวต้ากวน เจ้านายผิวขาวต่างกับชาวบ้าน, ทหารกำลังหลักเป็นชาวเสียม, พลเมืองมีหลายกลุ่ม),
+ เมืองอยุธยา (เสียม+หลอฮู่ และมีหัวเมืองทั้ง 4 ทิศ คือ สุโขทัย,นครศรีธรรมราช,สุพรรณบุรี,ละโว้),
+ เมืองธนบุรี,
+ เมืองกรุงเทพฯ
ผมว่าน่าจะตั้งแต่ลาวไปถึงสุพรรณบุรีขึ้นไปถึงภาคกลางตอนบน ลงมาภาคใต้อีกคืนสยามจะมีเจ้าเมืองปกครองเป็นจุดๆไป
ภาพนี้สยามอยู่กองทัพแรกเลยน่าจะเป็นคนพื้นที่หรือก็คนชั้นปกครองในภาพสลักสยามไม่เป็นระเบียบเดาว่าเห็นไครจะทักทายไปหมด ไม่ใช่คนพื้นที่ไม่ใหญ่จริงไม่กล้าทำตัวไม่สำรวมแน่
แตกต่างกับกองทัพอื่น
ครับ
ถูกต้องครับ
ครับ
ผมเคยเห็นในคลิปนึง เขาว่าอาวุธกองทัพเสียมกุกที่ใช้โดยเฉพาะดาบ มีความละม้ายคล้ายของชวา เลยยิ่งทำให้ผมสงสัยอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก ต่อจิ๊กซอชิ้นนี้ยากน่าดู
ไม่เคยนึกมุมนี้
ดาบไอ้เด้ง
ไอ้เด้งมี2เเบบคือผู้เมียคือผู้จะมีหอน ลองจารเข้าไปดูที่ทักษิณคดี เเกะยอ สงขลา
เสียมคือที่ขุดดิน จบนะพี่น้อง
จิตร ภูมิศักดิ์ เชื่อแบบนั้นครับ
@@taspien ขำๆครับอาจารย์ เบื่อดราม่า ต่อให้หาเหตุผลอธิบายยังไง แต่ก็ใช้ไม่ได้กับคนที่อคติบังตา เห็นคนพวกนี้ไปด่า อ.สุจิตต์ ยิ่งเวทนาสังคมที่ไร้เหตุผล
ในกำแพงนั้นมี 28 เมืองใช้ไหมครับ
อยากรู้ว่า เมืองเหล่านั้นมี หมุดที่ไหนบ้างครับ
พยายามหาข้อมูลสรุปเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ
เครื่องแต่งกายของช้างทรงก็เหมือนกับช้างของวัดช้างล้อมสุโขทัย พอจะเป็นหลักฐานได้ใหมครับ
อืมมม ครับ
อาวุธ หอก ถ้าพบก้จะรู้
เมื่อเร็วๆนี้ มีคนเอารูปมาให้ดู เป็นต่างหูเหมือนอย่างที่กองหน้าสยำกุกใส่ไม่ผิดเพี้ยน
ขุดพบในกรุวัดราษฎร์บูรณะ
ถ้าเจอแถวนี้ ก็สรุปได้ว่า เป็นกองทัพลัวะจากละโว้
ละโว้เป็นเมืองลูกหลวงของเมืองพระนคร
ต่างหูที่พบ ทำด้วยทองคำ แต่ตีแบบหยาบๆ
ดูจากเครื่องแต่งกายใส่มาเต็มที่ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ใส่ต่างหูทองคำ กองหน้าชุดนี้ต้องมีสีสันแวววาวน่าดู
เจตนาจงใจโชว์ความร่ำรวยอลังการ อย่างเห็นได้ชัด
ก็เป็นเมืองลูกหลวง จะน้อยหน้าคนอื่นได้ไง
ครับ
ต้องถามจารย์สุเก่งทุกทาง ❤❤❤❤❤
:)
สุขิตเหรอครับ
สวัสดีครับอาจารย์
สวัสดีครับคุณสุวรรณ์
คนเฒ่าคนแก่ หรือลูกหลานคนเฒ่าคนแก่ แม้แต่ ปท รอบข้างเรา ยังบอกเองว่า ขอ.ม หรือภาษาขอ.ม คือสยาม ภาษานึงของสยาม บาลี สันสกฤต นี่ก็ใช่ ภาษาเหล่านี้เป็นภาษาใช้เฉพาะกลุ่ม ตามวรรณนะ ตำแหน่ง ที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป
ครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณ ธานินทร์
ช่วงอาจารย์เอ อ่านจดหมายเหตุจีน ชัดเลยครับว่าน่าจะเป็นสุโขทัย
...พื้นที่แห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง...
คงไม่ใช่สุพรรณล่ะครับ
เจริญได้ ก็เพราะเครื่องปั้นดินเผาไง
ครับ
เซียน ,สยาม น่าจะเป็น สุโขทัย เพราะ สุโขทัย นับถือ เสือ หรือ คำว่า สิงห์เลือง สิงห์ คือ เสือ เสือ คือ สาง,สาว คือ อาณาจักรสาง(ราชวงศ์ซาง) บรรพชนไท นับถือสาง เคารพฟ้า บูชาขัวญ คนไทต่างยำเกรงสาง เลี้ยงดู เหมือนเลี้ยงแมว สยาม มาจากคำว่า สาง+ยัม(ยำ) หรือ เห็นไหมขนาดสางยังยำเกรงเลย Siam weed เป็นชื่อสามัญของ ต้าเสือหมอบ, สุวรรณภูมิ คือ น่านเจ้า หลักฐานคือ สำริดที่ ซานซิงตุย ยิ่งใหญ่ อลังการ น่านเจ้ามีจริง
ครับ
🙏😊 ขอบคุณครับอาจารย์ ฟังแล้วเห็นภาพของอาณาเขตเมืองในสมัยโบราณเลยครับ
ครับ
@@taspien 🙏😁
💕ผู้เชี่ยวชาญภาษา (ขอม,มอญ,เขมร,ปัลลวะ)ได้ฟันธงว่า..1)อักษร/ภาษาในศิลาจารึก ที่ปราสาทหินในไทย(สยาม)และกัมพูชา ล้วนเป็นอักษร/ภาษา(ขอม)ทั้งสิ้น
ไม่ใช่! อักษร/ภาษา(เขมร) แน่นอน! เพราะว่าพึ่งเริ่มมีการใช้กันเมื่อสมัยรัชกาลที่4 ของไทย(สยาม) นี่เองครับ!
2)ในสมันนั้น อักษร/ภาษา(ขอม)เป็นของชาว(เสียม/สยาม) แห่งอาณาจักร(เจนละบก)และ(เจนละนำ้)
ไม่ใช่! อาณาจักรกัมพูชา(เขมรโบราณ) แต่อย่างใดครับ!
ขอถามว่า เคยมีนักวิชาการใครตั้งเคสว่า เสียมราฐคือที่ตั้งของเสียมกุกมั้ยคะ จากภาพแกะสลักและลำดับที่ของกองทัพบนผนังที่นครวัด
ยังไม่มีครับ
สืบค้นจากหลักฐาน ณ.จุดนี้น่าสนใจมากครับ
ครับ
ทำไมไม่มองมาทางภาคใต้บ้าง ตามพรลิงค์สุริยวรมันก็เป็นเชื้อสายไปจากเมืองนี้ อีกอย่างเคื่องแต่งกายมันทางใต้ชัดๆ
ครับ
สยาม คือศรีวิชัยและไศเลนทร์
เสียมคือสยาม
ครับ
ผมเชื้อตาม อ.ศรีศักร วัลลิโภดม เสียมกุก คือ เวียงจันทร์
สุโขทัยเป็นไปไม่ได้ ถ้าวัดตามไทม์ไลน์เวลาการตั้งรัฐ และการสร้างตัวปราสาทนครวัด
ครับ
การจะดูว่าเป็นคนที่ไหนผมคิดว่าควรดูเครื่องแต่งกายประกอบ ตามภาพเครื่องแต่งกายคล้ายมโนราห์แบบนี้ควรจะเป็นที่ไหนครับ ประกอบกับพระเจ้าชัยวรมันสืบเชื้อสายมาจากศรีวิชัย ผมว่าเขามาเมืองพระนครโดยทางเรือนะครับ เศียรหลอ=เมืองท่าริมทะเล
อืมม ครับ
มีหลักฐานโบราณสถานเมืองเพชรบุรีในสมัยนครวัด มีความเป็นไปได้คือเสียมกุกไหมครับ
ก็คิดได้ครับ แต่เทียบกับเพื่อนแล้ว ถือว่ามีน้อยกว่าครับ
เสียมกุก ความหมายแปลว่า. ประเทศสยาม. ครับ.
ครับ
น่าจะสุพรรณครับอาจารย์
อืมมม ครับ ข้อจำกัดของสุพรรณ ก็คือ ไม่พบปราสาทสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
เห็นด้วยครับ สุโขทัย
ครับ
สุโขทัย ออกเสียงใกล้เคียง คำว่า เสียมกุก มากสุดแล้วครับ
ครับ
สุโขทัยนี่นะแห้งแล้ง ถ้าเป็นอีสานก็ว่าไปอย่างอีสานตะวันออกติดกับ อะไรนามๆนะตะวันตกก็ติดพม่าได้เหมือนกัน เหนือขึ้นไปก็ติดจีนใต้ ทางใต้ก็ติดกับละโว้ ด้วย สุโขทัย จริงหรือ เมืองทางอีสานก็ใกล้เคืองกับคำบอกเล่าเหมือนกัน
คิดไว้ตั้งแต่ต้นว่าน่าจะต้องเกี่ยวกับหริภุญชัย ผมยังคิดว่าเป็นหริภุญชัยซะด้วยซ้ำ
ส่วนเสียน ถ้าเป็นชนชาติที่ต่างชาติเรียก มันมีหลายเมือง เสียนไม่น่าใช่ชื่ออาณาจักร แต่อาณาจักรที่มีเสียนอยู่มีเยอะ
จีนเค้าก็เหมารวมหมด เหมือนที่เราเหมารวมเค้านั่นแหละ ในจีนมันก็มีหูเป่ย ไห่หนาน หูหนาน อะไรของเค้าเต็มไปหมด
ครับ
ใช่เลยครับ จิตรไปไกลถึงแม่น้ำกก
เพราะคงดูเสื้อผ้า
มันจิตนาการได้ไปเรื่อย
ต่อไปนี้ อจ.ผู้วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ ที่จบสูงๆ มาทาวด้านนี้จะสิเคราะห์อะไรเผื่อหน้าแตกไว้ด้วย เดียวนี้ทฝเทคโนฯ AI มีเครื่องมือช่วยตรวจสอบข้อมูลมากมายเยอะแยะ ต่อไปพวก อจ.นักประวัติศาสตร์ท่านจะตกงานเหมือนอาขีพอื่นๆ นะครับ
ครับ
ถ้ามีจารึกของเมืองร่วมสมัยอย่างละโว้ หรือสมัยทวารวดี ก็คงจะดี จะได้รู้เลยว่าชาวเสียมกุกคือใครกันแน่ แต่ที่น่าเชื่อมากที่สุดน่าจะเป็นคนพื้นเมืองในแถบที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลางของไทย เพราะเสียม สยาม มาจากแถบสุพรรณภูมิ เหนือขึ้นไปถึงสุโขทัย
ครับ
อาจมาจากทางเหนือก็ได้
เพิ่งอพยพเข้ามาแทนที่มอญไง
อพยพมาอยู่สุโขทัย สุพรรณบุรี
ส่วนตัวเห็นด้วยครับ เพราะจีนน่าจะออกเสียงสุโขท้ยไม่เป็นก็เลยเพี้ยนเป็นเสียม หรือเสียน เหมือนกับคำว่าเหงียน แต่เราออกเพี้ยนเป็น งูเย็น
ครับ