เสียมคือใคร ขอมคือใคร เสียมคือขอมจริงหรือ คนอื่นเรียกชาวเสียมว่าอย่างไร
HTML-код
- Опубликовано: 4 май 2023
- การเคลมมรดกทางวัฒนธรรมของเกรียนคีย์บอร์ดเขมรนั้นก่อให้เกิดกระแสต้านจากคนไทยมากมาย ขณะเดียวกันก็เกิดกระแสการศึกษาถึงที่มาของคำว่าเสียม
เสียม ใช่ ขอม หรือไม่
ชาวเสียมคือใคร ปรากฏในความรับรู้ของชาติต่างๆ โดยรอบ อย่างไร
ชาวเสียม ออกปากเรียกผู้คนชาติต่างๆ โดยรอบ อย่างไร
ชมตัวอย่างรายการ Stuart Jay Raj
• 🔍🇹🇭🇰🇭What Makes Thai K...
ชมสัมภาษณ์ รศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ
• องค์ความรู้มรดกศิลปวัฒ...
ขอบคุณ
ดร.ตรงใจ หุตางกูร
รศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
Stuart Jay Raj
กรมศิลปากร
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ภาพประกอบ
ดร.ตรงใจ หุตางกูร
รศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ศิลปวัฒนธรรม
Stuart Jay Raj
วิกิพีเดีย
ส่วนตัวมีความรู้ภาษาจีนเพราะเรียนภาษาจีนมาเป็นหลัก และภาษาจีนแต่ละแหล่งแต่ละที่ในจีน ออกเสียงแตกต่างกันเป็นอย่างมาก คนไทยสมัยก่อน ติดต่อกับคนจีนฮกเกี้ยน(ฝูเจี้ยน)มากกว่าจีนอื่นๆ
ในที่นี้จะอธิบายคำว่า 暹 (xiān)เซียน
暹 อักษรจีนตัวนี้ ในภาษาจีนกลาง อ่านว่า เซียน รวมถึงจีนฮกเกี้ยนก็ออกเสียง ว่า เซียน เช่นกัน ในภาษาจีนกวางตุ้ง ออกเสียงว่า สิม ส่วนภาษาจีนแคะน่าทึ่งมาก ออกเสียงว่า เสียม (ความจริงออกเสียงค่อนข้างยาว ออกเป็น สี+อาม พูดไวๆก็เป็น เสียม และจะออกใกล้เคียงกับที่คนไทยเราเรียกอาณาจักรเราว่า สยาม คำว่า 暹 ในภาษาจีนนั้น มีความหมายว่า รุ่งอรุณ จริงๆ ไม่ได้โกหกนะคะ
ซึ่ง มันไปตรงกับ สุโขทัย แปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข เช่นกัน
ส่วนที่ว่า เสียม = สุพรรณ น่าจะไม่ถูกต้องค่ะ สุพรรณ ในบันทึกเอกสารจีน โบราณ บันทึกเป็นคำนี้ค่ะ 蘇門 (sūmén)จีนกลางอ่านว่า ซูเหมิน จีนฮกเกี้ยน อ่านว่า ซูบุ๋น ค่ะ
หากลองศึกษา ภาษาจีนแต่ละถิ่น ส่วนตัวพบว่า คำไทยแท้ กับคำศัพท์จีนในภาษาจีนแคะ ออกเสียงใกล้เคียงกันมาก เช่นตัวเลขค่ะ สาม แปด สิบ ในภาษาจีนแคะ ก็ออกเสียงเดียวกัน สระ ตัวสะกด เหมือนกัน เสียงพยัญชนะ ก็ใกล้เคียงมีความเหมือนมาก
โดยหลัก เอกสารจีนโบราณ จะเรียกชื่ออาณาจักร เราว่า 暹羅 xiānluó (เซียนลว๋อ) จีนกลางออกว่า เซียนลว๋อ จีนฮกเกี้ยน ออกเสียงว่า เซียนล้อ จีนแคะ ออกว่า เสียมล้อ
暹羅 ในที่นี้มีความหมายว่า สยามละโว้
暹 คือ สยาม
羅 คือ ละโว้
"สยำ","ศยามะ", ("Śyāma"श्यामःในภาษา..อินเดียสันสกฤตโบราณ)_แปลว่า_= "ดำ" , "คล้ำ", "มืด", "สีน้ำตาลดำ" , "เมฆสีดำมืด", "สีน้ำเงินเข้ม"_("เทพเทวีมหากาลี")_(ความหมายค่อนข้างอัปมงคล_? พวกชาวอินเดียน(พราหมณ์ฮินดู)และชาวเขมรโบราณ_ใช้เรียก_ในเชิงดูถูก_เหยียด, และ_แหยง_หมายถึง=สิ่งที่ไม่ดี_ชั่วร้าย, เลวทราม, ต่ำช้า_?(เช่นเดียวกับคำว่า_"นาค"_ที่พวกพ่อค้าชาวอินเดียน_ใช้เรียก_กลุ่มชนพื้นเมืองโบราณ_ในภูมิภาคดินแดนแถบนี้(เมื่อ2200ปีก่อน(กลุ่มชาติพันธุ์ มอญเขมรโบราณ? )_เพราะ_เปลือยกาย_ไม่สวมเสื้อผ้า_ใช้เพียง" ใบไม้"_ปกปิดร่างกายท่อนล่าง_? ☺️
ขอบคุณครับคุณอัญชลี น่าสนใจมาก
เพิ่งได้ทราบละเอียดแบบนี้
ดีมากครับ ผมขอถามอะไรหน่อยครับ คำว่า กุก หูผมได้ยินเป็น คำว่า ก๊ก เหมือน สามก๊ก คำว่า ก๊ก ภาษาจีน แปลว่าอะไรครับ สมัยก่อนผมเชื่อว่า วรรณยุค มีแต่ ไม้เอก ไม้โท ที่เหลือไม่มี
หน้าที่ของ อจ.ผู้รู้ ออกมาให้ความกระจ่างแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้รับรู้ ความจริงมากที่สุด
ขอบคุณครับ
+1
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ อาจารย์ ^^
อันที่จริง คนเหนือก็คุ้นเคยกับคำว่า ขอม และ เสียม อยู่บ้างนะคะ คือคุณย่าของดิชั้นเป็นคนไทลื้อค่ะ คุณย่าก็จะเรียกคุณปู่ที่เป็นคนเมืองว่า ไตกะหล่อม หรือ ขลอม ซึ่งดิชั้นคิดว่าน่าจะมาจากคำว่า ขอม เนี่ยแหละค่ะ และก็มีอีกคำหนึ่งคือไตโยน หรือ โยนค่ะ คุณย่าบอกว่า กะหล่อม และขลอม มันแปลว่า ใต้ค่ะ
คนว้า ที่ดิชั้นเคยได้ยินเขาจะเรียกคนเมือง และคนไทใหญ่ ว่า เซียมค่ะ
คนพม่า เรียกคนเมืองว่า โยเดีย คำนี้ดิชั้นคิดว่าคนพม่าเค้าคงเอาไว้ใช้เรียกคนในทุกภูมิภาคของไทยค่ะ
น่าสนใจ ขอบคุณมากครับ
ถ้าเป็นตามคำเรียกแบบนี้ ขอมก็คือไทยอีกกลุ่มหนึ่งนั้นแหละนะ เอาเข้าแล้วก็น่าจะเป็นขอมไทยนั่นแหละ ขอมไทยก็หมายถึงไทยที่อยู่ด้านใต้นั่นเอง
สยามกุกคือคนเชียงราย แม่น้ำกก เชียงรายล้าน% คนหล่างนาภาษาจีน(ล้านนา)
@@user-sh8ve6xl7q ไปจีนไกลๆอย่าพยายามเอาจีนมาเกี่ยวข้อง กุก แปลว่ากองทัพ สยำกุก เสียมกุก แปลว่ากองทัพสยาม ไม่ใช่ชื่อแม่น้ำกก
@@user-sh8ve6xl7q นึกว่าใคร ที่แม้ก็เขมรแอ๊บไทยนี่เอง ยศเขมรเมื่ออดีตไม่มีครับ เพราะตอนที่เขมรเป๋นทาสขอม สยามก็มีการตั้งแผนดินขึ้นแล้ว ในช่วงพระเจ้าวรมันที่1-7เขมรก็ยังเป็นทาศอยู่ ยังไม่ได่เป็นประเทศเลย แต่ สยาม มีแล้ว ถึงได้เรียกว่าสยามไงครับ แล้วมาเปลี่ยนเป็นไทยในช่วงหลัง เขมร มียศมาจากไทย พาอขุนรามคำแหง คำนี้เป็นยศมาจากไทยครับ
ค้นหาความจริงเลยคะ พยายามเข้า นักประวัติศาตร์ไทย นักโบราณคดีทั้งหลาย เสียมคือบรรพบุรุษไทย เราต้องหาความจริงให้พบคะ
ขอบคุณครับ
ยุคนั้นเสียมก็คือผู้รุกรานที่น่ากลัวมากของ ขอม แล้วเสียมก็คือ บรรพบุรุษของเรานี้และ โลกนี้ไม่มีชาติไหนที่ไม่เคยก่อกรรมทำชั่วกับประเทศเพื่อนบ้านหรอครับ สยามเราก็เช่นกันก่อนที่เราจะเป็นสยามแล้วโดนพม่ารุกราก เราก็เคยเป็นผู้รุกรานมาก่อนเช่นกัน อย่าพยายามหนีความจริงเรื่องนี้แล้วรับรู้แค่เรื่องที่พม่ารุกรานเรา เขมรก็เหมือนกันเรียนรู้รับรู้แต่เรื่องที่เรารุกรานเค้า เช่นเดียวกับเรารู้แต่เรื่องโดนพม่ารังแก ประวัติศาสตร์ สอนให้เราเกลียดชังกันรุ่นต่อรุ่นไม่สิ้นสุด เราควรมาสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันแล้วเรียนรู้ไปด้วยกัน ประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเป็นพระเอก หรื่อผู้ร้าย
@@user-uz9hs7hs4j อยากให้อ่านจัง ยาวหน่อย นะคราบ
❤ สยมภู [สะหฺยมพู] น. พระผู้เป็นเอง พระอิศวร สวยมภู ก็ใช้. (ป. สยมฺภู ส. สฺวยมฺภู) ❤ สยม. + ประเทศ =
สยัมประเทศ แปลว่า ประเทศที่เกิดขึ้นเอง มีมาแต่เดิมไม่มีใครมาสร้างไว้ (เป็นนามบอกคุณลักษณะ)
อีกนัยนึ่งในความเห็นส่วนตัว สยัมประเทศ เป็นคำที่แรกๆผู้อื่นกล่าวถึงเรา ว่าเป็นดินแดนที่เกิดขึ้นเองคนแขกอินเดียมาถึงก็เห็นเป็นบ้านเมืองอยู่ก่อนแล้ว คนท้องถิ่นปกครองตนเองไม่ตกอยู่ในอำนาจของราชวงศ์ใดของอินเดีย ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเจาะจงว่าเป็นเมืองหนึ่งเมืองใดแต่น่าจะหมาย หลายๆๆเมือง ที่เกิดขึ้นเองราชวงค์อินเดียไม่ได้จัดตั้งสร้างขึ้น❤❤❤ ดังนั้น การจะหาว่า สยัมประเทศ คือเมืองใดแน่นนั้นจึงยาก เพราะอาจกล่าวถึง สมัยประเทศที่อยู่คนละที่กัน
ในบันทึกมาโคโบโล ว่าประมาณ " ที่ทะเลใต้ มีราชาที่ปกครองเมืองพันเมืองที่ไม่ยอมอ่อนน้อมส่งบันนาการให้ใคร " ซึ่งตรงกับความหมายคำว่า สยัมประเทศ 😂😂😂 ทำไมต้องต่างชาติจึงเรียกเนาว่า เสียม เสม สยาม ที่มาของคำคืออะไรมีเหตุอย่างไรจึงใช้คำนี้ไม่ใช้คำอื่น มันมีความหมายอย่างไร มันสะท้อนสิ่งที่ผู้พูดเรียกขานเราอย่างไร เพราะผมไม่เชือว่าที่เขาเรียกเราว่า สยัม เพราะเราตัวดำ ให้ค่าความหมายว่า สีดำ แต่ถ้า ให้ความหมาย สยัม ตามบาลี ที่ว่า เป็นขึ้นด้วยตัวเอง มันจะเป็นการรับรองว่า สยัม เป็นคนท้องถิ่นที่นี้จริงๆ เราไม่ได้อพยพมาจากไหน คนไทยเป็นคนสยาม เราตั้งบ้านต้งเมืองอยู่ที่นี้ตลอดมา อาจยาวนาน 6000 ปี ตามโคงกระดูกที่ขุดพบก็เป็นได้ เป็นผู้รับและผู้ให้อารยธรรมในภูมิภาคนี้ แม้แต่ชื่อที่ผู้อื่นเรียกเราก็ยังเป็นสิ่งยืนยัน ว่าเราเป็น คนดังเดิมของท้องถิ่นนี้ ด้วยคำว่า สยัม ..,......ไม่ใช่คนสีดำ แขก เขมร นิโก ยังดำกว่าเราอีกไม่เห็นมีใครเรียกมันว่า สยัม เลย..... ..🥰🤪😘😂
แล้วนานไปเราก็เรียกตัวเองตามคนอื่นเรียกเราว่า "สยามประเทศ"
ยกตัวอย่างให้ชัดๆ สยัมประเทศ สยัมเทศะ เช่น บ้านเชียง อายุ 5000 ปี , บ้านเก่า 5000 ปี , โนนวัด 6000 ปี เป็นชุมชน เทศะที่เกิดขึ้นเองไม่มีใครมาสร้างเป็นชาวพื้นเมืองรวมตัวกันสร้างขึ้นเอง
สยัม จึงมีความหมายว่า ชาวพื้นเมือง
สยัมเทสะ สยัมประเทศ จึงมีความหมายว่า เขตบริเวณ ประเทศของคนพื้นเมือง
สยํ = สยม. = สยัม เป็นคำบาลีพื้นฐาน มีอายุ 2500 ปีหรือมากกว่า มีอยู่ในพระไตรปิฎกคราบ แปลว่า เป็นขึ้นเอง
❤ข้อสังเกตการออกเสียง ตัว สะ ถ้าออกเสียงซอกฟัน ซี..ไม่ถึงซะ ต่อด้วย หยัม มันจะออกเป็น " เสียม "
เสียม เสม เป็นคำออกเสียงแปลง เนื่องจากออกเสียง สยม. ไม่ชัด เช่น เขมร มอญ จีน ยุโรป
ไทยมีมีตรงนี้นานแล้วคับ จากหลักฐานทางโบราณคดี ซึ่งแยกออกเป็นหลายๆกลุ่มเผ่าพันธุ์แต่ใช่ภาษากลุ่มเดียวกันคือภาษาไต และด้วยการที่ในพื้นที่นี้ไม่ได้มีแค่คนไทยแต่มีคนกลุ่มต่างๆจึงเกิดการฟิวชั่นข้ามเผ่าพันธุ์กันเช่น คนไทยแต่งกับคนมอญ ไทยแต่งกับชาวชวา ไทยแต่งกับชาวมลายู ไทยแต่งกับจาม เป็นต้น ต่อมาชาวอินเดียมาค้าขายจึงนำเอาวัฒนธรรมมาด้วยจึงเผยแผ่ให้ชาวสุวรรณภูมิ และชาวอินเดียใต้อพยพมาก็เกิดการฟิสเชอร์ลิ่งข้ามกลุ่มพันธุ์ ไทยอินเดีย และคนกลุ่มนี้ก็ย้ายไปสร้างเมืองใหม่เป็นของตัวเองคือเมืองพระนคร และได้สู้รบกับจามจนได้เชลยศึกมาหลายแสนคน ตระกูลวรมันคือตระกูลวรมันคือชาวอินเดียที่ได้เมียเป็นราชวงศ์ของไทย จึงเป็นเครือญาติกัน นั้นคือเหตุผลว่าทำไมประเทศไทยในอดีตจึงเจริญรุ่งเรืองมาก แต่ในภายหลังเชลยชาวจามชื่อนายแตงหวานก่อกบฏฆ่าล้างตระกูลวรมันและสถาปนาราชวงศ์ ตระซอกประแฮมขึ้นแต่ที่ จึงเกิดชาวเขมร แต่ด้วยชาวเขมรคือทาสจึงไร้ซึ่งปัญญา จึงทำให้อารยธรรมขอมที่ตระกูลวรมันสร้างขึ้นต้องสิ้นสุดลง แต่เมืองที่เกิดใหม่อย่างสุโขทัยกลับเจริญรุ่งเรืองขึ้น เพราะผู้สร้างอาณาจักรสุโขทัยขึ้นมาก็คือพระเจ้าอู่ทอง ที่มีเชื้อสายร่วมกันกับตระกูลวรมัน มันจึงไม่แปลกที่สุโขทัยเจริญรุ่งเรือง เพราะมีปัญญาชนปกครองนั้นเอง
กลุ่มภาษาตระกูล ="ขร้า -ไท" พบหลักฐานเก่าแก่ที่สุด(หลายพันปี)_กระจายอยู่ในพื้นที่_ประเทศจีน_?☺️ _บริเวณ_มลฑลกวางตุ้ง, กวางสี, กุ้ยโจว, เสฉวน,ยูนนาน, และไหหลำ__? 😂
ruclips.net/video/fzdg6XuUYy8/видео.html
ภาษาพื้นถิ่น_ของ_พวกกลุ่มชนเผ่า,กลุ่มชนพื้นเมืองโบราณ_ในดินแดนสุวรรณภูมิ_เมื่อ=2200ปีก่อน__คือ_กลุ่มภาษาตระกูล_"มอญ - เขมร(ออสโตรเอเชียติก) _และ_กลุ่มภาษา"จาม-มลายู(ออสโตรนีเซียน)__ส่วนกลุ่มภาษาตระกูล"ขร้า-ไท"_ปรากฏหลักฐาน_ในดินแดนสุวรรณภูมิ(เก่าแก่ที่สุด_= สมัยยุคจักรวรรดิเขมรเจินละ(ยุคเมืองพระนคร(สุริยวรมันที่2_ และเมืองสุโขทัย(ศิลาจารึกขุนรามคำแหง)_เมื่อ=750 - 870ปีก่อน_?? 😂
ครับ
ผมเลิกสนใจ เคลมโบเดีย แล้วครับ มันเป็นปัญหาในยุคสมัยใหม่ ยุคโซเซี่ยลมีเดีย แต่สำหรับคลิปของ อ. ผมยังฟังอยู่, เอาง่ายๆ นับแต่คนไท ไต กะได ที่พูดภาษาไต มีอิทธิพลในแถบนี้ ก็เขาล่ะครับที่เป็นใหญ่ มาจนถึงทุกวันนี้
ใครจะทำไม ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ลาวเคลมภาคอีสานเป็นของลาว เขมรก็เคลม นั่นมันยุคไหน ส่วนใหญ่ก็จะอ้างยุคโบราญที่กษัตริย์ของตัวเองเป็นใหญ่ มีอิทธิพล แผ่อำนาจบารมี
ยุคนี้เป็นของไทยครับ ไทยก็ยังเป็นใหญ่ในดินแดนที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน
ขอบคุณครับคุณ narin
อธิบายง่าย ชัดเจนครับ
ผมไม่แน่ใจว่านักวิชาการเขมรเขามีความรู้ค้นคว้าเชิงวิชาการลึกซึ้งแบบนี้บ้างหรือเปล่า มีบ่อยมากที่ข่าวนักวิชาการเขมรมาพูดเรื่องประวัติศาสตร์จับแพะชนแกะมั่วไปหมดครับ ซึ่งก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าที่ออกมาพูดนั่นนักวิชาการจริงหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ความขัดแย้งของประชาชนทั้งสองประเทศมันเพิ่มขึ้น
ใช่ครับ รู้สึกคล้ายๆกัน
@@taspien เท่าที่ดูๆเหมือนนักวิชาการนักปรัวัติศาสตร์เขมรตัวจริงเค้าก็ยุ่งๆ อยู่แต่เรื่องสมัย อาณาจักรเขมรโบราณ ศึกษาโบราณวัตถุสมัยนั้น หรือ อาจจะไม่ถึง เจินละ ฟูนั้น ด้วยซ้ำ แค่นั้น ดังนั้น เราไม่เคยได้ยิน คนเขมรไถ่ถาม หรือ สงสัย แบบคนไทย เลย ว่า คนเขมรมาจากที่อื่นรึเปล่า หรือ อยู่มานานก่อนคนอื่น อะไรแบบนั้น เพราะเชื่อสิ่งที่เชื่ออยู่แบบไม่เคยตั้งคำถาม
ไม่รู้ เขานับฟูนันเป็นต้นประวัติศาสตร์เขา
เท่าที่ทราบ นักวิชาการเขมรที่มีการศึกษาดีๆ บางกลุ่มเท่าที่รู้ เขาละอายกับการกระทำของรัฐบาลและคนบางจำพวกที่จองจะเคลมไทยนั้นละครับ เพียงแต่เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้กระแสชาตินิยมในเขมรมาแรงเพราะ จะมีเลือกตั้งกลางปี
ในความเห็นของผม ขอม ไม่ใช่ทั้ง สยาม และ เขมร แต่ ขอมเป็นทั้ง สยามโบราณ และ เขมรโบราณ เนื่องจากวัฒนธรรมประเพณีในยุคนั้น ต่างก็แต่งงาน ดองเป็นญาติกันไปหมด เวลาค้าขายก็มีการโยกย้ายถิ่นฐานกันไปมา หรือเกิดสงครามก็มีการกวาดต้อนผู้คนกันไปมา จนต่างก็กลืนกันไปหมด เมืองไหนวัฒนธรรมประเพณีใดเข้มแข็งกว่าก็กลืนวัฒนธรรมอื่นไปตามกาลเวลา จุดเริ่มต้นนั้นร่วมกัน แต่ก็เกิดการแตกหน่อเติบโตแยกออกจากันเป็นไทยและเขมรในปีจจุบัน ในการคาดเดาของผมคิดว่า ขอมในยุคแรกเริ่มน่าจะเป็นพราหมณ์ฮินดูปัลวะที่มาแผ่อิทธิพล และมีการแต่งงานกับชนชั้นสูง และมีอำนาจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง เอาจริง ๆ ผู้คนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น แต่งงาน ย้ายถิ่นฐานกันไปมา ดูรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ ถ้าไม่พูด ไม่บอก ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นคนประเทศอะไร
ชาว เสม-สัม-สยำ-อัสสัม ไม่ใช่ ขอม แต่ทั้ง ขอมไทยละโว้ และ เสียม ต่างก็เป็นบรรพบุรุษของไทยปัจจุบัน ถ้าเอาจริง ๆ กลับกัน เขมรเองก็ไม่ใช่ขอม แต่มีขอมชายขอบเป็นบรรพบุรุษ
ขอบคุณครับ
เห็นตรงกัน สังเกตง่ายๆว่าภาษาไทยมีการผันเสียงครบมากกว่าภูมิภาคอื่นเพราะเป็นพื้นที่การเดินทางของชาติพันธุ์ต่างๆย้ายไปมาและกองกันบ้างจนเป็นชุมชนที่ใช้ภ่ษาไท-ลาวส่านใหญ่
อยากให้ อ. ทำคลิปอธิบายว่า แล้วอยู่ ๆ วัฒนธรรม ลโว้ หายไปไหน รวมกับอยุธยา แล้วไม่มาเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยาหรือ แล้วไม่ได้หมายความว่า ขอมลโว้ กลายมาเป็นอยุธยาหรือ แล้วจะแยกขอมออกจากสยามได้อย่างไร อยุธยาเองก็อยู่ติดกับลพบุรี จะสามารถบอกได้อย่างไรว่าเป็นคนละเขื้อขาติคนละเผ่าพันธุ์ รวมถึงการโค่นล้มราชวงศ์วรมันที่ทำให้เกิดชื่อเมืองว่าเสียมเรียบ แล้วไม่กี่ปีหลังการก่อตั้งอยุธยา อยุธยาก็ยกทัพมาตีพระนคร เรื่องราวเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร อยากรู้มากครับ
ใช่ครับ ประมาณนั้น
ขอมละโว้ กลายเป็น เสียม+หลอ(ละโว้)
ปราสาท กลายเป็น ปรางค์พระธาตุ
พุทธมหายาน กลายเป็น พุทธเถรวาท
@@taspien อาจารย์ครับ แล้วหลักศิลาจารึกของพม่าละครับมีว่าอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างครับ
@@taspienอาจารย์จารึกพุกามที่จารึกด้วยอักษรขอมไทย อ่านโดย อ. มิกกี้ ฮาร์ท นักโบราณคดีชาวพม่า ท่านกล่าวว่าขอมคือคนไทยโบราณอันนี้อาจารย์คิดเห็นยังไง ยังมีจารึก "กเบื้องจาร" ที่ระบุว่าขอมคือคนสยามโบราณ จารึกเหล่านี้กระจัดกระจายตามที่ต่างๆ เช่น ที่วัดโสมนัสฯ 1,200 ชิ้น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองโบราณคูบัว จ. ราชบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จ. นครราชสีมา ต. ท่าเรือ จ. นครศรีธรรมราช เพชรบุรีและอ่างทอง รวมกันราว 800 ชิ้น รวมทั้งหมดราว 2,000 ชิ้น อารย์ผู้หญิงท่านนี้ระบุว่าจารึก "กเบื้องจาร" มีเยอะจนเขาเอามาทุบทำลายเอาไปสร้างถนนด้วยความไม่รู้ (ขอโทษด้วยจำชื่อท่านไม่ได้ จดชื่อท่านไว้ในสมุดบันทึกแต่หาไม่เจอ😅😊) จารึก Ka 64 ตอนนึงระบุว่า "กฺญุม เกฺมร" แปลว่า ข้าทาสชาวเขมร ในจารึก K. 11, K. 18 "วา เกฺมร" "กุ เกฺมร" ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น "เขมร" เห็นได้ชัดเจนในจารึกซับบาก ถ้าเขมรคือขอม ทำไมไม่มีหลักฐานอะไรปรากฎเลย เท่าที่ทราบเรายังไม่พบจารึกหรือหลักฐานที่ระบุว่าเขมรคือขอมใช่หรือไม่ หรือมีแต่ดิฉันไม่ทราบหรือเห็นข้อมูลเหล่านั้นเลย ท้ายสุดผล DNA เทียบเคียงโครงกระดูกมนุษย์โบราณ สมัยทวารวดี จาก ม. ขอนแก่น ระบุว่าผล DNA ของไทย พม่า ลาว อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ส่วนเขมรเป็น DNA คนละกลุ่ม อีกอย่างอารยธรรมทวารวดีในเขมรมีน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับทางภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ของไทย เขมรแทบไม่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างใดๆ เลยตั้งแต่สิ้นสมัยของกษัตริย์วรมัน เท่าที่ทราบขอมและสยามคือบรรพบุรุษของไทยในปัจจุบันเพราะปรากฎหลักฐานมากมายในแผ่นดินไทย ผิดพลาดประการใด รบกวนอาจารย์ช่วยแชร์ความรู้ด้วยค่ะ
คำว่าเสียมอย่างเดียวที่มีบทบาทตั้งแต่พศว.19 แค่นี้ก็พอที่จะสร้างมรดกทางวัฒนธรรม ผมชอบประโยคนี้มากครับ
ขอบคุณครับคุณ Charay
สุดยอดแห่งการค้นคว้า ความรู้ ความจริง ของไทยเราครับ ใช่ครับ เสียมไม่ใช่ขอม แต่ขอม=แขก(อินเดียใต้)ผสมกับเสียม ครับ น่าจะเริ่มมีขอมที่เมืองตามพรลิงค์ เมื่อราว พ.ศ.700(ตามบันทึกอินเดียที่ค้าขายกับเมืองนี้) เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีใครเขียนประวัติศาสตร์เช่นนี้มาก่อนครับ
ขอบคุณครับคุณพัฒนศักดิ์
ผมคนนครศรธรรมราช คนนคร หน้าตาหลากหลายมาก บางคนเหมือนอินเดียใต้ บางคนผิวเหลือง บางคนหน้าตาเหมือนแขกอารยัน เดิมนับถือ พระนารายณ์ พระอิศวร ทุกวันนี้ยังมีหอพระนาราย์และหอพระอิศวร ..
ประวัติศาสตร์ไทยมันตลก ตรงก่อนหน้านี้เราไม่มีตัวตนในประวัติศาสตร์ คนไทยนับสุโขทัยเป็นไทย เหมือนอยู่ดีๆเราก็ดำดินมา 😅😅 นี้ยิ่งกว่าตำนานขอมดำดิน แต่ชื่อเสียมกลับไปปรากฎในที่ต่างๆ เวลาคุยกับเขมรก็ว่า เราพึ่งเกิดอพยพมาจากจีน หนักไปทางเราเป็นโจรปล้นแผ่นดินเขมรไปโน้น แล้วคนไทยก็หาตัวเองไม่เจอ
ทวารวดีไม่ได้หายไปไหนก็อยู่มาเป็นไทยปัจจุบันนี้ เพียงแต่เขาเรียกเราว่าเสียม ไทยก็ไม่เคยเรียกตัวเองว่าเสียม
ประมาณนั้นครับ คนรอบตัวเรียกเราว่าเสียม เราเรียกตนว่าไทย
เช่น หนไทย หนขอม
ที่นับสุโขทัย (ตามคำจารึกเดิม ; สุกโขไท) เพราะเริ่มมีการกำเนิดของอักษรไทขึ้น นับเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ว่ามีกลุ่มคนไทอาศัยอยู่ จากที่เคยอ่านจารึกหลักที่ 1,2,45 ปรากฎคำว่า "ไท" คือ ไพร่ไท(คนไท),ไทผู้ดี(กษัตริย์ฝั่งไท),นครสุกโขไท(สุกโข+ไท)ไม่ใช่สุโขทัยที่เขียนแบบสันสกฤต(สุข+อุทัย ถ้าเขียนตามสันสกฤตคนสมัยก่อนน่าจะจารึกว่า สุโขทยย),การนับหนและวันแบบไทที่ปรากฎในจารึกหลักที่45 ระบุวันแลปีที่จารึกว่า "ขอม" ปีวอก "ไท" ปีเต่าสัน "ขอม" วันพฤหัสบดี "ไท" วันเต่าเม็ด
It is empirical evidence that indicates that the Tai people definitely live.
@@taspien อาจารย์ครับคำว่า เสียมซาย หรือแซมซายแปลว่า พี่น้อง ครับ เป็นภาษากูย หรือเรียกอีกแบบว่าภาษาส่วย ครับ พี่น้อง เครือญาติ อาจารย์ต้องศึกษาภาษาส่วยหรือกูย ด้วยครับ คนส่วย เรียกคนเขมรว่า กูยขแมร์ =คนเขมร
@@HomoSuketaidica ผลการตรวจ DNA ไทยภาคกลางเป็นมอญ ไทกะไดคือภาษาที่รับมาใช้ จีนตอนใต้ส่วนใหญ่อยู่ภาคเหนือกับอีสานตอนบน
@@flowernimja4980 มันเป็นมอญผสมไต DNAจะมีมากในผู้ชายแต่ผู้หญิงจะออกไปทางไตมากกว่า เพราะDNAผู้ชายจะเด่นกว่าผู้หญิง
อาจารย์เอาเรื่องกำแพงนครวัดมาพูดหน่อยครับ ผมเคยไปที่นครวัดนครธม ภาพแกะสลักในกำแพงมีเยอะมากที่เป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น คือเป็นอยุธยาแน่นอน เพราะคนละแบบกับชัยวรมันเลย คิดว่าสมัยก่อนยังสร้างไม่สมบรูณ์ ทางอยุธยาก็ไปบูรณะต่อเติมเพิ่ม คงจะมีนัยยะอะไรเกี่ยวข้องกัน
หมายถึงฝั่งทิศเหนือใช่ไหมครับ
ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เดี๋ยวปลายเดือนนี้ จะไปถ่ายรูปแล้วเอามาวิเคราะห์ครับ
@@taspien ใช่ครับอาจารย์
หลายคนคิดว่า นครวัดคือต้นกำเนิด แต่พิมายสร้างก่อนนครวัด ไม่ว่าภาษา วัฒนธรรม ทำไมภาษาไทยคำพูดคลายภาษาลาว ฟังรู้เรื่อง เป็นภาษาที่แพร่หลาย ในสุวรรณภูมิ และอารยะธรรม ขอมในประเทศไทยมีหลายจุด เขมรมีแค่นครวัด และมีทาส มากมาย ผู้ปกครองพูดภาษาอะไร ในบันทึกโจต้ากวน พูดไม่เหมือนชนชั้นปกครอง
ครับ
ขอบคุณอาจารย์ ที่รวบรวมข้อมูล
ขอบคุณที่ติดตามครับ
อธิบายได้กระจ่างชัดเจนดีมากครับอาจารย์ อยากให้อาจารย์นำหลักด้านภาษาศาสตร์มาอธิบายนานแล้ว ในที่สุดก็มาจริงๆ เพราะผมไปฟังคลิปรายวิชาด้านจารึกของคณะโบราณคดี ม. ศิลปากร ก็ได้อธิบายไว้คล้ายๆอาจารย์ส่วนหนึ่งแต่ไม่ได้เอามาอธิบายเฉพาะเจาะจงในเรื่องของชาติพันธุ์ระหว่างไทยกับเขมรแบบที่อาจารย์อธิบายไว้ หลายคนยังไม่เข้าใจว่าตัวอักษรกับตัวภาษาพูดมันเป็นคนละเรื่องแยกกัน อย่างอักษรปัลลวะเองก็บันทึกตั้งแต่ภาษาบาลีสันสกฤตเพราะเริ่มต้นเรารับตัวอักษรมาพร้อมภาษา พอนานไปเราก็เริ่มเอาอักษรเค้ามาใช้เพื่อบันทึกการออกเสียงของตนเอง ซึ่งทวารวดีก็จะมีการบันทึกภาษามอญโบราณ เข้าสู่ยุคเขมรก็บันทึกภาษาเขมร แม้แต่ดินแดนทางตอนใต้ในคาบสมุทรมลายูก็ยังใช้อักษรปัลลวะบันทึกภาษามลายู พอเรายืมอักษรเค้ามานานๆเราก็จะเริ่มปรับให้รูปลักษณ์มาให้เหมาะสมกับภาษาของตนเองมากขึ้น ปัลลวะก็เลยกลายมาเป็นอักษรแม่แบบของทั้ง พม่า เขมร ไทย จนทุกวันนี้
ขอบคุณครับคุณปรัชญา
รู้สึกคล้ายกันครับ
ใช่
😊😊😊 ติดตามตลอดครับอาจารย์
ขอบคุณครับคุณสัมมาฯ
❤❤❤❤❤❤ขอบคุณครับอาจารย์
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณเทอดจิตต์
ขอบคุณมากครับอาจารย์
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณธานินทร์
ขอบคุณครับอาจารย์ผมขอนุญาตมองว่า คำว่า สยำ สยัม สยม สยาม นั้นเป็นคำดียว และเป็นภาษาอินเดียหมายถึงความเป็นเองหรือเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ จึงมิใช่ชื่อชนเผ่าใดเผ่าหนึ่งเลยตามทึ่เข้าใจกัน แต่ถ้าเป็นคำสันสกฤต ก็ใชว่า"สวยัม" เช่น สวยัมภูลึงค์หมายถึงพระศิวลึงค์ทึ่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นคำบาลีมคธก็จะใช้ว่า สยัม สยำ สยาม สยม ก็ได้ความหมายเดียวกันคือเป็นเองหรือเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เช่นในหนังสือเทศสมัยอยุทธยาก็ใช้คำว่า"พระสยมภูตญาญ" หมายถึงพระพุทธเจ้าทรงมีพระญาญที่เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติ ส่วนคำว่า " เนะสยำกุก"ที่นครวัดนั้นหมายถึงทัพฝ่ายสยามเทศที่อยู่ในภาคอีสานนะครับ เพียงแต่รวมกันอยู่2ประเทศ เพื่อให้มีกำลังต้านทานทัพจากชวาและจามเท่านั้น และส่วนใหญ่ผู้นำในนครหลวงมักจะเป็นชาวสยามเทศภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่เช่นพระเจ้าชัยวรมัน,ที่2,5,6,7,พระเจ้าสุริยวรมันทึ่1,2ก็เป็นชาวอีสานนั่นแหละ ต่อมาเมื่อแยกตัวออกในสมัยอยุทธยาจึงชัดเจนถึงขอบเขตของฝ้ายสยามเทศ และ ถ้าอยากรู้ว่าชาวสยามนั้นคือใครก็ให้ดูที่ชาวกรุงศรีอยุทยานั่นแหละซึ่งเรียกตนเองว่า"ชาวไทย" "กรุงไทย"ครับและเรียกประเทศตนเองว่า"สยามประเทศ ซึ่งการสร้างกรุงศรีอยุทยานั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางเหนือแต่ประการใด แต่หลักฐานนั้นเกี่ยวข้องกับชาวไทยทางภาคอีสานโดยสอดคล้องชัดเจนตามหลักฐาน ครั้นเมื่อยกทัพเข้าตีกรุงกัมพูชาได้สำเร็จก็ยิ่งชัดเจนของความมีขอบเขตของสองประเทศและกำหนดกัมพูชาให้อยู่ภายใต้ประเทศราชของสยามเทศที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงศรีอยุทยาอีกดัวย จึงไม่มีเหตุผลว่าไทยเราหรือฝ่ายสยามเทศจะเคลมเลียนแบบประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไร เพราะอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ยุคโบราณบ้านเชียง บ้านโนวัดนั่นแหละครับจึงไม่เห็นจำเป็นต้องเขียนว่าไทยเรามาจากเขาอัลไตหรือจีนตอนใต้ เพราะจะเกิดการเคลมจากประเทศเพื่อนด้วยหลักฐานที่เขียนหลอกกันเองว่าไทยอพยพมาจากที่อื่นจึงสูญเสียแพ้คดีเขาพระวิหารและอื่นๆอีกที่กำลังปรากฎอยู่ ทั้งอาจารย์และนักวิชาการบางท่านก็กำลังยกให้อาระธรรมในเขตสยามประเทศเป็นของกัมพูชาเทศทั้งหมดอีกด้วยโดยปริยาย และยังเข้าใจผิดคิดว่า"ขอม"ว่าเป็นชื่อชนเผ่าอีกด้วย แต่เมื่อสืบแล้วก็เป็นคำลาวภาคอีสานคำว่า ขอม นั้นจึงกร่นมาจากภาษาของเผ่าเขมรว่า"กรอม"หมายถึง"ลุ่ม,ต่ำ บางทีก็ใช้ว่าขอมเมืองลุ่ม หรือขอมเมืองต่ำ ซึ่งเป็นคำเน้นคำขยายในเนื้อความให้หมายถึงฝ่ายที่อยู่ในเขตกัมพูชาเทศ ส่วนเขมรในภาคอีสานก็เป็นชาวไทยหรือฝ่ายสยามเทศนั่นแหละครับ ซึ่งต่อมาจึงได้เกณท์เคลื่อนย้ายลงไปตั้งกรุงทวารวดีศรีอยุทยา ในนามฝ่ายสยามประเทศ (Siam) สืบทอดกันมาจนถึงยุคกรุงเทพฯ ส่วนประเทศอื่นจะออกเสียงกันไปต่างๆนั้นก็ไม่แปลกเพราะคำว่า"สยาม"ไม่ใช่ภาษาของเขาก็ย่อมออกเสียงต่างกันเป็นธรรมดาครับอาจารย์ผมว่า
สวัสดีครับคุณชะลอย
ผมเข้าใจประเด็นอยู่ครับ ถึงเห็นต่างไปในรายละเอียด แต่ผมเห็นสาระสำคัญที่คุณชะลอยสื่อสาร
ขอบคุณครับท่านอาจารย์
ขอบคุณสำหรับคลิปดี ๆ ครับอาจารย์ ช่วงนี้อาจารย์ต้องเหนื่อยมากนะครับ ไหนจะต้องค้นคว้าข้อมูลให้ทันต้องการ ไหนจะต้องทำคลิป ไหนจะต้องคอยอธิบายคนฟัง และยังต้องอธิบายคนเขมรที่เข้ามาถามอีก สำหรับประเด็นคำว่าเสียม ผมมีข้อสังเกตุดังนี้ครับ
1. การใช้กระบวนการตรวจสอบ DNA นั้นสามารถไขปริศนาของประวัติศาสตร์ไทยได้ เพียงแต่การตีความผลพิสูจน์จะต้องตีความที่ถูกต้อง ผมเห็นว่าเมื่อตรวจ DNA คนไทยแล้วไปบอกว่าคนไทยอพยพมาจากจีนตอนใต้ ตรงนี้ผมว่าตีความผิด เพราะยังไปยึดกรอบคำว่าไทยอยู่จึงกลายเป็นเฉพาะคนตระกูล ไทกระได เท่านั้น ซึ่งความจริงนั้น ความเป็นรัฐชาติ พรมแดน วัฒนธรรม แม้กระทั่งภาษา นั้นมาที่หลัง ส่วนตัวผมจึงเชื่อว่าบรรพบุรุษของคนไทย แท้จริงคือคน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือคนตระกูล ออสโตรเอเชียติก (ตระกูลมอญ แขมร์) ส่วนอีกกลุ่มคือพวกตระกูลไทยกะได จะเห็นว่าคนมอญโบราณเมื่อรับวัฒนธรรมอินเดีย ที่นับถือศาสนาพารมหณ์ ก็กลายเป็นกลุ่มเมืองทวารดี ศูนย์กลางอยู่ที่ศรีเทพ และละโว้ ส่วนที่รับศาสนาพุทธเถรวาท ก็กลายเป็นอู่ทอง นครปฐมโบราณ ต่อมาพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 รุกรานแล้วกวาดต้อนผู้คนไปอยู่ที่ละโว้ ตอนนี้คนเหล่านี้ก็เปลี่ยนจากมอญโบราณกลายเป็นขอม ต่อมาราชวงศ์สุพรรณภูมิขึ้นมามีอำนาจ คนเหล่านี้จึงกลายเป็นคนเสียม ต่อมาจึงกลายเป็นคนไทย จะเห็นว่า คนภาคกลางจากมอญโบราณ กลายเป็นขอม แล้วกลายเป็นเสียมและคนไทยในที่สุด จึงเท่ากับว่าจริง ๆ แล้วความเป็นรัฐชาติ วัฒนธรรม ภาษาและศาสนา เปลี่ยนแปลงไป แต่ความเป็นเชื้อชาติมิได้เปลี่ยนแปลง
2. ผมว่าคนเสียมในภาพปราสาทนครวัด คือคนตระกูลไทกะไดส่วนที่อยู่บริเวณตอนกลางแม่น้ำโขง แถวลุ่มแม่น้ำแดง ไปจนถึงลาวและภาคอีสานไทย เมื่ออาณาจักรเจนละขยายอำนาจขึ้นไปทางเหนือของแม่น้ำโขง จึงมีการดองญาติกัน ดังจะเห็นได้จาก DNA ของคนอีสานจะมีการผสมระหว่างคนตระกูลมอญแขมร์กับตระกูลไทกะได ซึ่งต่างจาก DNA ของคนเหนือตอนบนที่ DNA จะมีเชื้อชาติไทกะไดสูงมาก ซึ่งอาจเกิดจากอาณาจักรโยนกคนไทกะไดเป็นผู้ปกครอง ส่วนคนลั้ว (ซึ่งเป็นคนตระกูลมอญแขมร์)เป็นคนถูกปกครองจึงไม่ได้สัมพันธ์กัน คนเสียมเหล่านั้นดองญาติกับชาวขอมราชวงศ์มหิทรปุระ จึงเป็นกองกำลังเครือญาติกัน
3. ผมว่าคนเสียมที่มาอยู่ภาคกลางรวมไปถึงภาคใต้แถวนครศรีธรรมราช เกิดจากสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงมีนโยบายให้คนเสียมเคลื่อนย้ายเข้ามาตั้งหลักแหล่งในพื้นที่ที่ว่างจึงเกิดบ้านเมืองต่าง ๆ ขึ้นในช่วงนั้น
4. ชาวเสียมที่ยกทัพไปรุกรานชาวมลายู จนทำให้ชาวมลายูส่งหนังสือไปร้องเรียนต่อจีนในราชวงศ์หยวนนั้น ผมว่าคืออาณาจักรสุพรรณภูมิ ที่รวบรวมอาณาจักรต่าง ๆ ของชาวเสียมทั้งหมดเข้าด้วยกันรวมถึงอาณาจักรนครศรีธรรมราช และเมื่อรวมได้จึงรุกรานดินแดนประเทศราชของนครศรีธรรมราชก็คือเมืองต่าง ๆ ของชาวมลายูที่อยู่ในคาบสมุทรมลายู ต่อมาอาณาจักรสุพรรณจึงไปรวมกับอาณาจักรละโว้กลายเป็นกรุงศรีอยุธยา
5. ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ที่ว่าเสียมไม่ใช่ขอม แต่ผมคิดว่าคนไทยมีสิทธิในวัฒนธรรมของขอม เพราะวัฒนธรรมนั้นไม่ได้อยู่ที่ศูนยกลางของอาณาจักร ละโว้ก็คือขอม และละโว้ก็เป็นส่วนหนึ่งของบรรพบุรุษของคนไทย คนไทยจึงมีสิทธิที่จะยึดถือวัฒนธรรมของขอมได้ เช่นเดียวกับอาณาจักรศรีวิชัย ไม่ว่าศูนย์กลางจะอยู่ที่ ปาเลมบัง ไชยา นครศรีธรรมราช หรือชวา แต่ดินแดนภาคใต้ของไทยนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของศรีวิชัย คนไทยจึงมีสิทธิในวัฒนธรรมของศรีวิชัยได้ครับ
ขอบคุณมากครับคุณกิตติศักดิ์
ข้อ 1 และ 5 เห็นด้วย
ข้อ 2 3 4 เป็นประเด็นน่าสนใจครับ
@@taspien ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความเห็นครับ ในประเด็นที่ 2 , 3 , 4 อาจารย์มีมุมมองอย่างไรช่วยอธิบายด้วยนะครับ แต่ถ้าผมคิดตามคลิปของอาจารย์ ชาวเสียมในภาพแกะสลักนครวัด อาจหมายถึงชาวมอญโบราณที่ต่อมากลายเป็นอาณาจักรสุพรรณภูมิหรือเปล่าครับ ส่วนภาษาไทกะได ที่เข้ามานั้นเกิดจากเป็นภาษาสื่อกลางในการค้าขายกับชาวจีน โดยมาเปลี่ยนสมัยสมเด็จเจ้านครอินทร์ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่า ตอนที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ให้ตั้งเมืองขึ้นมาหลายเมืองในไทย แท้จริงไม่ได้เคลื่อนย้ายชาวเสียมจากลุ่มน้ำโขงมายังภาคกลาง แต่ความจริงแล้วชาวเสียมอยู่ที่นี่ การสถาปนาเมืองดังกล่าวเป็นแต่การให้อำนาจรัฐขึ้นมาใหม่เท่านั้นใช่ไหมครับ อยากให้อาจารย์ช่วยอธิบายในประเด็นต่าง ๆ ถ้าให้ดีช่วยทำคลิปขึ้นมาก็ดีนะครับ เพื่อมุมมองทางประวัติศาสตร์ผมจะได้กว้างขึ้น ไม่รู้ขอมากไปหรือเปล่า ขอบคุณครับ
ทำไมไม่เปรียบเทียบช่วงเวลา ตอนอาณาจักรขอมเลื่อมอำนาจ ในเวลานั้นเกิดกลายเป็นก๊ก 3 ก๊ก คือ อยุทธยา ล้านช้าง พระนคร คือผมหมายถึงล้านช้าง พระเจ้าฟ้างุ้ม และ พระเจ้าอู่ทอง น่าจะเกี่ยวข้องกัน พระเจ้าฟ้างุ้มมาจากเมืองขอม ซึ่งช่วงเวลา อาณาจักรล้านช้างกับอาณาจักรอยุทธยาเกิดในเวลาใกล้เคียงกัน ประมาณ 1351 และ ตำนานสร้างเมือง เกี่ยวกับต้น หมัน น่ามีอะไรเกี่ยวข้อง
ขอบคุณครับอาจารย์
ยินดีครับคุณเกษม
🙏❤ ขอบคุณครับอาจารย์
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ แต่ผมสงสัยเรื่องอักษรขอมไทยกับอักษรเขมรปัจจุบันน่ะครับ ทำไมมันคล้ายกันจัง มันเกิดการเปลี่ยนแปลงแยกสายอย่างไรหรือครับ เพราะตอนจารึกว่านี่สยามตรงนครวัด ลายเส้นรูปทรงก็ไม่เหมือนกัน ตอนนี้เขมรโจมตีไทยหนักมากเลยครับว่าไปลักเอาอักษรเขามาใช้
ลองดูอักษรเวียดนามกับฝรั่เศษซิจะนึกออก
ใช่ครับ แยกสาย
แยกมาไทยสายหนึ่ง แยกไปกัมพูชาอีกสายหนึ่ง
ยอดเยี่ยมเสมอครับอาจารย์
ความโกรธทำให้เราคิดอะไรพูดอะไรผิดๆ
การพยายามตอบโต้เกรียนคีย์บอร์ดเขมร
ทำให้เราบิดเบือนประวัติศาสตร์ชนชาติเราเอง
เช่น ขอมคือเสียม
เป็นความผิดพลาดอย่างแรง
ผมก็รู้สึกขัดใจทุกครั้งเมื่อได้เห็นคลิปเหล่านี้
ขอบคุณมากครับ กับคลิปดีๆของอาจารย์
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณครับอาจารย์
ขอบคุณครับ
😅🙏อ.คะคนที่เคลมกองทัพ "สยำว่าเป็นคนสยาม" นั้นคือเกรียนคีย์บอร์ดไทยนะคะ ไม่ใช่เกรียนคีย์บอร์ดกัมพูชา และถ้าใช้คำว่าเกรียนคีย์บอร์ดควรพูดทั้ง2ชาตินะคะ เกรียนคีย์บอร์ดไทยก็ใช่ย่อยค่ะ เดียวมันจะกลายเป็นว่า อ.โจมตีและแซะแต่เพื่อนบ้าน อืมม...รู้สึกความเป็นกลางของ อ.นั้นหายไปค่ะนั่นคือจุดเด่นของการทำคลิปให้ความรู้นะคะ
*อีกกรณีอ.พยายามเลี่ยงและพูดว่าภาษาขอมตลอด ทั้งๆที่มันคือภาษาเขมรอันนี้ก็แปลกใจไม่น้อยค่ะ.🙏
ขอบคุณครับ
1 เห็นด้วยครับ ควรพูดถึงทั้งสองฝ่าย
2. จุดยืนผมเหมือนเดิมครับ
3. เรื่องขอมนั้น ผมใช้คำนี้มาสักพัก ใช้ในมิติอารยธรรม และอาจแตกต่างจากนักวิชาการอื่น ที่ใช้คำว่า "ภาษาเขมร" และ "ศิลปะเขมร" เหตุเพราะว่า ผู้ชมฯ รายการนี้มีความเห็นแบ่งเป็น 3 แบบ ดังนี้
3.1 ขอม=สยาม
3 2 ขอม=เขมรโบราณ
3.3 เขมรโบราณ=เขมรปัจจุบัน
ผมเห็นตามแบบที่ 2 แต่พยายามขยายวงสื่อสารให้ได้ยินไปถึงคนที่เชื่อในแบบ 1 และ 3
ดังนั้น จึงมักใช้คำว่า ขอม เป็นจุดเริ่มต้นในการสื่อสาร และใช้คำว่า "ภาษาขอม" และ "ศิลปะขอม" อยู่บ่อยๆ ในขณะที่นักวิชาการคนอื่นๆ นิยมเรียก "ภาษาเขมร" และ "ศิลปะเขมร" ครับ
@@taspien โอเครรับทราบค่ะ🙏💞
ขอบคุณครับอาจารย์ ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณศิโรจน์
ใช่ครับขอมไม่ใช่เสียม เราแค่ไปตี แต่ถ้าเสียมจะมาจากทวารวดี(ภาษาเขียน)+กลุ่มไท(ภาษาพูด) ต้องรอหลักฐานด้านโบราณคดี
"ขอม"_คือ_ กลุ่มชนชาติพันธุ์_ที่พูด_ภาษาตระกูลมอญ-เขมร_ผสม_สันสกฤต_=(นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดู_ส่วน_พวก"เสียม"_คือ_กลุ่มชนชาติพันธุ์_ที่พูด_ภาษาตระกูล_ไต-ลาว_=(นับถือศาสนาผี_และศาสนาพุทธ___พวกขอมสมัยโบราณ_จึงเรียก_พวกกลุ่มชนเผ่า_ไต-ลาว_ที่นับถือศาสนาผี_และ_พุทธ_ว่า__พวก"เสียม" , "สยำ", "ศยาม"_ แปลว่า_= ดำ, มืด, คล้ำ, สีน้ำตาลดำ, สีน้ำเงินเข้ม_เปรียบเหมือน="พระแม่เทวีมหากาลี"__? ☺️😂
ครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ อ. ทำให้คิดตามแล้วนึกอะไรได้ต่างๆ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ขอบคุณที่ให้ความรู้นะคร้าบ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
👍👍👍👍เยี่ยมเลยครับกับประโยคที่ว่า"อย่าพยายามทำให้สยามเป็นขอมเพราะมันจะเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ การสยามเป็นสยามก็เพียงพอแล้ว"และความเข้าใจจริงๆที่อาจารย์บอกว่า"การที่พยายามทำให้สยามเป็นขอมเพราะเป็นปฏิกิริยาของการตอบโต้ของคนไทยกลุ่มหนึ่งเท่านั้น" ผมเป็นคนนึงที่เห็นปรากฏการนี้มานานแล้ว เราต้องแยกแยะว่าอะไรคือความจริง หลังๆมานี่ผมเห็นคริปจำนวนมากที่คนไทยเรานี่แหละพยายามจะทำให้ไทยเป็นขอมเพื่อที่จะให้ขอมเป็นเจ้าของอารยธรรมเมืองพระนครให้ได้ เข้าใจครับว่าอยากตอบโต้ แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานความจริงด้วย มันจะอะไรนักหนาครับกับแค่ยินดีด้วยไปกับเขาที่เขามีบรรพชนสร้างสรรค์มหาปราสาทพวกนั้น เพราะทุกวันนี้ไทยเราก็คุณภาพชีวิตเศรฐกิจสังคมเราก็สุขสบายกว่า แค่เขามีความสุขกับความภาคภผุมิใจในอดีตมันก็เป็นเรื่องของเขา ถ้ามองกันให้ดีๆเราและเขาก็ร่วมสร้างอารยธรรมกันมา ก็แค่นั้นเอง ยิ้มๆดีๆกันไว้ใช่ใครเราคนเหมือนกัน😊
ขอบคุณครับคุร Vivo
ผมคิดเสมอว่าจะมีคนไทยที่เสพประวัติศาสตร์แล้วไม่คลั่งชาติ และแสดงความคิดเห็นโดยไม่ทำร้ายฝั่งใดเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือไม่?
.
จนมาเจอคลิป อ. และคนที่มาแสดงความคิดเห็น ทำให้รู้ว่า คนที่มีสติ(ในการพิจารณาประวัติศาสตร์) และแสดงออกแบบปัญญาชน ยังมีอยู่
.
ขอบคุณมาก
คนไทยเองยังรู้ตัวเองไม่ลึกซึ้งเท่าคนต่างชาติเลย... ก.ศึกษาฯ น่าอายนะ...บรรจุการศึกษาเรื่องอะไรบ้าง..เด็กรุ่นใหม่ดู...เปราะบางมากนะ
ครับ?
ขอบคุณครับ
ครับ
ชอบ ขอบคุณครับ
ครับ
เสียม สาม ศัม สยาม กว้างมากครับ
น่าจะเป็นคำที่คนที่มาจากฝั่งตะวันตก เรียกคนที่พูดภาษาตระกูลไตกะได
เก่าสุดน่าจะเป็นพวกไทใหญ่ ที่พอจะหาข้อมูลได้ แต่คนไทใหญ่เค้าคงไม่ว่างที่จะมารวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์
ผมว่าคนพูดภาษาตระกูลไตกะไดน่าจะมาอยู่ในพื้นที่นี้นานมากๆ เป็นสองพันปีแล้ว ผสมปนเปกันไป คนเผ่าพันธุ์นี้ไม่ชอบการแบ่งแยกชาติพันธุ์เท่าไร แต่ชอบรักษาเอกลักษณ์ประจำตัว
พวกไทอาหมตอนไปอัสสัม ยังไปรวมเอาเผ่านากาเป็นพวกได้เลย ทั้งๆ ที่คนพื้นถิ่นแถวนั้นกลัวนักกลัวหนาว่าเป็นเผ่ากินคน เจอคนไทกินเรียบรวมเผ่าพันธุ์เฉยเลย
ขอบคุณครับคุณ supman
เห็นด้วยครับ รู้สึกคล้ายกัน
ก็ยัง งง อยู่ดีแหละครับ สำเนียงไทยปัจจุบันเป็นลูกผสม แต่ ประวัติศาตร์ไทย คือ เสียม รวมกับละโว้ ละโว้คือชาวมอญ แล้วชาวมอญในสมัยยุคแรกๆพูดแบบไหน??? ผมมองไม่เห็นเลยว่าจากภาษาชาวไตจะกลายเป็นลูกผสมจากภาษาที่มาจากเขมรได้เลย นอกจาก จะมีอาณาจักรมอญในอดีตคือละโว้ ที่รวมกับ อาณาจักรของชาวเสียม ไม่ใช่ว่าในอดีตชาวละโว้มีการออกสำเนียงการพูดแบบเขมรโบราณเหรอมันเลยมาปนกับภาษาตระกูลไต ได้????? แล้วทำชาวมอญจากละโว้ในอดีตหันมาพูดภาษาตระกูลไต แต่ตามที่ผมคิดคือ ดั้งเดิมภาษาขอม ไม่ควรเรียกเป็นภาษาเขมร มันน่าจะเป็นภาษากลางที่คนในสมัยแรกๆนั้นใช้สื่อสารกันมากกว่าไหม?
มีกลุ่มผมอีก1คัพอยู่เพชรบูรณ์พูดภาษาสะบลพูดคล้ายส่วยคล้ายเขมรอยู่วิเชียร.ศรีเทพ ลพบุรี แต่ไม่มีนักวิชาการพูดถึง
กำลังนึกตาม ไม่แน่ใจครับ
การสืบประวัติศาสตร์ในอดีต มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และ สนุก
ใช่ครับ
ขอบคุณครับได้ความรู้มาเลย มันยังติดว่าจะเคลมทำไมหรือว่าคิดเองไม่ได้
ครับ
"ฉาน" , "อัสสัม" , "เสียม", "สยาม" __ก็คือ_กลุ่มชาติพันธุ์เดียวกัน__นั้นแหละ_เมื่อ=600 - 900ปีก่อน__? 😂
ครับ
ส่วนตัวเชื่อว่า เราก็อยู่ร่วมกันในพื้นที่นี้ละ
ครับ เพียงแต่เราอาจไม่ได้เรียกตัวเองว่า
"เสียม" อย่าลืมนั่นมันผ่านมาพันปี เมืองแต่
ละเมือง มีผู้ปกครองของใครของมัน ต่าง
ก็น่าจะเรียกตัวเองว่า คนเมืองนั้นเมืองนี้ซะ
มากกว่า ไม่มีใครเรียกตัวเองว่า คนเสียม
เช่นคนลพบุรีเรียกตัวเองว่า คนละโว้ มัน
น่าจะเป็นเช่นนั้น เสียม เป็นคำเรียกของ
คนเมืองอื่นๆ แต่จะเรียกคนเมืองไหนคำ
ตอบก็คงต้องหากันต่อไป..
ครับ
ขอบคุณอาจารย์ครับ ผมก็หาที่มาที่ไปอยู่กำลังรอให้มีผู้รู้ออกให้ความสว่างประเด็นที่พูดพอดี
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณธวัช
ได้ความรู้จากอาจารย์เยอะเลย
ขอบคุณครับ
จารึกปราสาทสด๊กก๊อกธมมีกล่าวถึงรัฐหนึ่ง ว่าศามพูกะ ปรากฏในจารึกฐานพระลพบุรีว่า อธิบดีแห่งชาวเมืองตังคุระ นามว่า “อารชวะ” ผู้เป็นราชโอรสของพระราชาแห่งศามพูกะ เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น อักษรหลังปัลลาวะพุทธศตวรรษที่13-14
มาปรากฏอีกทีใจจารึกปราสาทพระขรรค์ว่า ศรีศัมพูกะปัฏฏนะ แปลว่าเมืองท่าเเห่งศรีศัมพูกะ คำว่าศามพูกะเป็นคำเดียวกับกัมพู ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน เเต่เเสดงให้เห็นว่ารัฐโบราณนี้น่าจะมีบทบาทมากแต่คนไม่ค่อยให้ความสนใจ มันมีความเป็นไปได้มั้ยว่าคำว่า ศามพูกะ/ศัมพูกะ จะเพี้ยนมาเป็น สยำ/สยาม ศามพูกะส่วนตัวมองว่าคืออู่ทองโบราณซึ่งล่มสลายไปก่อนช่วงสมัยบายนแล้ว ถึงแม้ในพุทธศตวรรษที่15 จะปรากฏเครื่องถ้วยเปอร์เซียซึ่งสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองก็ตาม เเต่ในภายก็ล่มสลายไป จึงเกิดรัฐใหม่เเถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ปรากฎในวิษัยทั้ง 6 นครของปราสาทพระขรรค์
กำลังนึกตาม
ขอบคุณครับ
เสียมเก่งในการทอผ้าไหมคนในลุ่มน้ำเจ้าพยาทอผ้าไหมไม่เป็นมีแต่คนลุ่มน้ำโขงที่เก่งการทอผ้าไหม(โจต้ากวานเคยบันทืกไว้น่าจะเป็นคนลุ่มน้ำโชฃคือเสียมมากกว่า
"โจวต้ากวน"(ทูตจีน(ราชวงศ์หยวน) _ได้บันทึกไว้_เมื่อ730ปีก่อน_ว่า_พลเมืองชาวเสียม_เพิ่งจะอพยพ_เข้ามาอยู่อาศัย_ในอาณาจักรเขมรเมืองพระนคร_ (เมื่อไม่นานมานี้)_และเข้ามาประกอบอาชีพ, ทำมาหากิน, ทำงานรับจ้างต่างๆใน_ประเทศเขมร__บ้างก็รับจ้าง_เย็บผ้า, ปะชุนผ้า_? บ้างก็เข้ามาขายแรงงาน_รับจ้างใช้แรงงานทั่วๆไป_(ชาวเมืองเขมร_ในกรุงพระนคร_นิยมจ้าง_แรงงานชาวเสียม_? (และโจวต้ากวน_ยังบันทึกอีกว่า_เมื่อไม่นานมานี้_(ชาวเสียมได้ยกทัพมาโจมตี_อาณาจักรเขมร_ทางด้านทิศตะวันตก(น่าจะเป็น=เมืองละโว้, เมืองพิมาย? ) ☺️ __จนสถานที่_ที่เคยเป็นหมู่บ้าน,และชุมชนเมือง =(กลายเป็นพื้นที่ราบโล่งกว้าง_กันเลยทีเดียว_😅
ก็เป็นไปได้ครับ
อย่างไรก็ดี คนไทยภาคกลางในสมัย พศว.19-21 ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 (แล้วถูกกวาดต้อนไป)อาจแตกต่างจากปัจจุบันครับ
ขอบคุณอาจารย์และหลายคอมเมนต์ในนี้ที่ให้ความรู้นะคะ ชอบคำพูดอาจารย์ที่ว่า คำว่าเสียมอย่างเดียวที่มีบทบาทมาตั้งแต่พศว.ที่19 ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างมรดกทางวัฒนธรรม อยากให้อาจารย์ทำคลิปออกมาอธิบายแบบนี้อีกค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามครับคุณอิศราภรณ์
ขอบคุณ อ. ครับ ที่ให้ความรู้
ตอนนี้ คนไทยจำนวนมาก ตอบโต้เขมรแบบไม่รู้ บางคน bully เรื่องเขมรแดง แบบนี้ดูไม่งามในสายตาคนต่างชาติ 🙏
ครับ
ดูการแต่งตัวก็น่าจะเดาออกว่าคนอีสานชัดๆใส่โสร่งแขวนตุ้มหูคนภาคอื่นไม่แต่งอย่างนี้คนอีสานโบราณจนกระทั่งปัจจุบันคนแก่ตามบ้านนอกยังนุ่งโสร่งเป็นตาๆอยู่เลยคนภาคกลางนุ่งโจงกระเบน
อืมมม ครับ
รบกวนอาจารย์อธิบายคําว่า เสียนหลอ กับ เจนละ ให้หน่อยครับ ผมสงสัยว่า เจนละ เซนละ เสียนละ เสียนหลอ สยามละโว้ คือคําคําเดียวกัน
สวัสดีครับ
โดยปกติ นักวิชาการอธิบายไว้ว่า
เจนละ เจิ้นล่า คือ บ้านเมืองในลุ่มน้ำโขง
หลอ ละโว้ คือ บ้านเมืองในลุ่มเจ้าพระยา
ต่อมา เสียน เสียม เริ่มเป็นใหญ่และรวมราชวงศ์กับ หลอ ประมาณปี พ.ศ.1900 + - จีนจึงเรียกรวมๆว่า เสียมหลอหรือเสียนหลอ
ประมาณนี้ครับ
เจนละ เจนลา.....จันทระ จันทรา
จันทรวงศ์....เจนละน้ำ จันทรภาณุ
เสียม คู่กับ จอบ.......ปู่เจ้าลาวจก ลวจักราช คือ จอบ ขอจก ขอบก ตระกูลพญามังราย......เสียม น่าจะพะเยา ขุนเจืองธรรมิกราช เนะ สยำกุก บนกำแพงที่เขมรมักกล่าวถึง
อ.แข็งแข็งแรงครับ
ขอบคุณครับความรู้
คำ แปร่ง ล้วนเป็นมงคลทุกคำ ผู้ที่กล่าวมธุรสออกมา ส่วนตัวผม ภาษาสะท้อนคน เหมือนคมมีดมีสองด้าน บริบทการใช้คำ สะท้อนสติปัญญาคนใช้คำ ยึดโยงจิตใจ สะท้อนความเป็นอยู่ แบบครอบครัว ภายในประเทศ ระบบผู้นำ การปกครอง
*มือนึงอยู่บนแป้นพิมพ์ อีก90%ร่างกายเขาทำงานบ้านเรา นี่คือเรื่องจริง คิดแบบนี้ก็ เฮ้อ มันก็แค่นั้น*
ขอบคุณครับคุณนำพล
@@taspien ภายในแต่ละจังหวัด บ้านเราคำแต่ละถิ่น เพี้ยน ขึ้นอยู่กับชาติพันธุ์ เพี้ยนคำ
เหนื่อสั้นยาว พูดฮ่วน ผมมองเป็นควาางาม การดำรงอยู่ร่วมกัน🌷🌷เครมกัน/เคลมกันที่การใช้คำ พูดคุย คำบอกสติ น่าเคลมกว่า
เห็นด้วยครับ ในประเด็น เกรียนเขมร รบ เกรียนไทย แรกๆผมรำคาญมาก เห็นทะเลาะกันใหญ่ ยิ่งได้เห็นพวกคลั่งชาติไปช่วยรบอยู่ฝั่งเกรียนไทยด้วย ยิ่งหงุดหงิด ไม่ใช่ผมไม่รักชาตินะ ผมก็รัก แต่เวลาเห็นเกรียนเขมรกุเรื่องมาปั่น ผมมองว่าไร้สาระ ไม่เคยใส่ใจ แต่ว่าเรากลับไปกัดตอบเขาอีก แล้วบางคน ก็กะเอาชนะอย่างเดียว สู้การเครมด้วยการเครมกลับ ที่สำคัญ มีการเอาข้อมูลที่เป็นเท็จมาโต้กันทั้ง 2 ฝั่งด้วย ทั้งหมดมา คือสิ่งที่ผมหงุดหงิด แต่ในมุมกลับ เหตุการณ์มันก็ทำให้ผมสนใจ และไล่ศึกษาประวัต้ศาสตร์ดินแดนแถบนี้มากขึ้น กว่าแต่ก่อน ที่ไม่รู้เรื่องและไม่สนใจเลย ส่วนตามชื่อคลิป ผมก็เห็นตามคอมเม้นท์เหมือนกัน จากฝั่งเรา ทั้งในมุมของคนอยากใช่และคนไม่อยากใช่ แต่ถ้าเอาตามหลักฐานข้อมูล เสียมไม่ใช่ขอม แน่นอน แต่ทั้งคู่ล้วนเป็นขื่อที่ เจ้าของถูกคนอื่นเรียก หรือขื่อที่ไม่ได้ตั้งเอง
ขอบคุณครับ รู้สึกคล้ายๆกัน
นักวิชาการ ก็ยังแยกไมออก ขอมกำพุชาไทย(บาลี)และสันสกฤต กับ เขมร /เขมรพยามปรับตัวเอง เพือกลืน ขอมไทยโบราณ /ผมกำลังสงใสอาจารคับ เพราะหลายคริป /ขอม อาจจะไมเกียวกันจริง แต่ก้อนจะมีขอม เรามี คำว่า เท้า สร้างเมืองต่างๆดองกันมาก้อน และแยกออกเป้นกลุ่มต่างๆ และพอเกิดกำพุชาหรือนครวัด เราดองกันอีกรอบ ถ้าจะพูดก็คือ กำแพงเพชร กับ มูลบนรวมเป็นลพบุรี /กำโพชรัษมิ กายเป็นกำแพงเพชร ได้ไหม และดองจึงเกิดกำพุชา /อ.ต่าง อาจจะที่ชอบ ขโมยผลงานคนอื่น จนจะต้องเปลียนหรือสินชื่อจากที่อาจารหลายๆคน ลอกผลงานคนอื่นใช่ไหม / เขมร มันมาเรียน สันสกฤต ตอนหลัง ๆจากได้อำนาจ /เพราะอาจารหลายๆคนก็ติดขี้เกียด เลยชอบขโมยผลงานต่างชาติ
สวัสดีครับคุณ วิว
ถ้าในแง่ตำนาน ก็จะแตกลูกหลานไปยังดินแดนต่างๆ และเก่าสุดๆ อย่างนั้นครับ
อย่างไรก็ดี อารยธรรมในลุ่มน้ำโขง ไม่ว่าเราจะเรียกชื่ออะไร ก็นับได้ว่า เป็นอารยธรรมที่สืบมาจากยุคต้นประวัติศาสตร์ มีศิลปะวัฒนธรรมเฉพาะตัว และรุ่งเรืองในยุคยุคเมืองพระนครคฃ อันนี้จะเป็นมิติทางงานโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลป์ครับ
ชาวเสียมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม คือ คนอีสานโบราณ เขามีพันธุ์ตัวไหมที่สืบทอดมาจากบรรพชนคนอีสาน โคราช ขอนแก่น สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคามกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ผ้าไหมสวยๆทั้งนั้นเค้าเลี้ยงไหมกันทุกหลังคาเรือนครับ เลี้ยงช้าง เลี้ยงม้า เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย
ทำอุตสาหกรรมนาเกลือ ถลุงแร่เหล็ก แร่ทองแดง ใต้ดินภาคอีสานจะมีหินแร่พวกนี้เยอะ อีกอย่างคนอีสานจะชอบแห่แหนงานบุญต่างๆรอบตัวเมือง เหมือนภาพจำหลักในข้างกำแพงไม่มีผิดครับ
เทียบในบันทึกจิวตากวนใช่ไหมครับ
เห็นมีคนพูดเรื่องนี้เยอะอยู่เหมือนกัน
@@taspien ใช่ครับอาจารย์นั่นมันก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบไม่ใช่หรือครับ
มีคนเมนท์แทนใจเยอะแยะเลย ไล่ตามอ่านสนุกมาก
:)
น่าสนใจมากๆค่ะ ไม่มีความรู้ภาษาศาสตร์และนิรุกฯ แต่ชอบดูคลิปและชอบอ่านเม้นท์มากๆ แม้ความรู้ที่ได้จะบวกความปวดหัวเพราะบางทีความเห็นก็มีประเด็นใหม่ๆแยกไปอีกก็ต้องติดตามต่อไป ขอบคุณอาจารย์และเจ้าของเม้นท์ทุกคนค่ะ
555 ขอบคุณครับ
การแต่งกายของชาวศรีวิชัย มีบันทึกอยู่ในการเดินทางของหลวงจีนอี้จิง ดังนี้
“ ราษฎรชาวทะเลใต้นี้นุ่ง คัม - มัน(น่าจะเป็นต้นแบบผ้าขาวม้า) ผืนยาวมาก เป็นผ้าผืนเดียวยาวถึง ๘ ฟุต ไม่มีการตัดเย็บหรือทำเป็นสะเอว ใช้ผ้าผืนใหญ่นั้นนุ่งพันส่วนใต้ของร่างกาย เป็นการนุ่งห่มง่ายๆ อย่างนักปฎิบัติธรรม ส่วนการแต่งตัวจะปล่อยผมยาวประบ่า สวมหมวกทรงสูง เสียบขนนกไว้ตรงปลาย
ส่วนพวกทหารสวมเสื้อลายดอก นุ่งผ้าคล้ายกระโปรง คาดเอวด้วยเครื่องประดับ นายทหารจะถือหอกปลายแฉก แต่ทหารที่มียศรองลงมาจะถือหอกปลายแหลม นุ่งกางเกงขาสั้น และแม่ทัพจะอยู่บนหลังช้าง ในท่ายืนและดูทะนง น้าวคันธนู ”.......ลองเทียบการแต่งกาย พาหนะ อาวุธและการจัดกระบวนทัพของกองทัพศรีวิชัยตามการบรรยายของหลวงจีนอี้จิงกับภาพสลักกองทัพสยามกุกที่ปราสาทนครวัดดูครับ
แต่เดิมเข้าใจกันว่าพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชสร้างพร้อมสุโขทัยเมื่อ 700 กว่าปีก่อนแต่เมื่อ 4 ปีก่อนกรมศิลปากรตรวจอายุอิฐได้ 1,200 กว่าปี
ชาวอังกฤษตรวจอายุบุโรพุทโธได้ 1,100 ปี
ทั้ง 2 ที่สร้างเป็นรูปทรงดอกบัวสวรรค์มันดาลาเหมือนกัน นั่นหมายความว่าผู้สร้างคือกลุ่มคนเดียวกันโดยสร้างนครศรีธรรมราชก่อนแล้วไปสร้างบุโรพุทโธ ยังมีรูปทรงที่คล้ายกันอยู่ที่เกาะสุมาตราด้วย บันทึกหลวงจีนอี้จิงกับจารึกราชวงศ์โจฬะบอกตรงกันว่าศรีวิชัยอยู่ที่เกาะสุมาตรา บันทึกหลวงจีนอี้จิงเมื่อ 1,000 ปีก่อนบอกว่าที่เกาะสุมาตรายังมีอาณาจักรมลายูอยู่ด้วยแล้วขากลับจากอินเดียบันทึกว่ามลายูตกเป็นของศรีวิชัยแล้ว นั่นหมายความว่าศรีวิชัยไม่ใช่อาณาจักรของคนมลายูอย่างที่เข้าใจกันแต่มลายูถูกปกครองโดยศรีวิชัยที่เป็นอาณาจักรชองคนสยาม ศรีวิชัยเป็นอาณาจักรบริวารของตามพรลิงค์เพราะบันทึกราชทูตจีนชื่อเสียงจุ่นเมื่อ 1,400 กว่าปีก่อนบอกว่าเมืองหลวงของชาวเสียมหลัวกัวคือเชี๊ยะโทว้ก๊กแปลว่านครดินแดงตรงกับภาษาสันสกฤตว่าตามพรลิงค์แปลว่าหุ้มด้วยเปลือกสีทองแดง(คนโบราณเรียกสีทองแดงว่าสีแดง) ตั้งอยู่ต้นแม่น้ำที่ไหลจากทิศใต้ไปทิศเหนือ(แม่น้ำตาปี ต้นน้ำอยู่ตอนในของ จ. นครศรีธรรมราช) ฉะนั้นตามพรลิงค์กับนครศรีธรรมราชที่หาดทรายแก้วจึงเป็นคนละเมืองกัน บันทึกราชทูตเสียงจุ่นบอกว่าตามพรลิงค์มีอาณาจักรบริวารอีก 9 อาณาจักรเรียกว่าประเทศทั้ง 10 ฟูนันก็เป็นอาณาจักรบริวารของตามพรลิงค์เพราะสารคดีฝรั่งบอกว่าผู้ปกครองศรีวิชัยเคยปกครองฟูนันมาก่อน พวกเขมรที่จำปาสักก่อกบฏตั้งเจนละ(เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ภาคกลางเกิดอาณาจักรละโว้)ราชวงศ์ที่ปกครองฟูนันจึงกลับมาสร้างศรีวิชัยเข้าใจว่าน่าจะมาสร้างนครศรีธรรมราชก่อนซึ่งคิดว่าคงเป็นเมืองหน้าด่านของตามพรลิงค์แล้วจึงขยับขยายไปสุมาตราชวา แล้วในสงคราม 3 นครตามพรลิงค์ยึดละโว้กับหริภุญชัยพร้อมกัน จากนั้นจึงเกี่ยวดองกับเจนละบกยึดเจนละน้ำ พวกเจนละน้ำจึงสมคบกับทมิฬโจฬะยกทัพเข้ามาโจมตีตามพรลิงค์และอาณาจักรบริวารแล้วเข้าสร้างปราสาทฮินดูเมื่อ 900 กว่าปีก่อน
ขอมเป็นการจัดระเบียบแบบฮินดูโดยทมิฬโจฬะ ฮินดูแปลว่าศาสนาของชาวอินเดียมีการจัดเป็น 4 วรรณะ 5 ชนชั้น
1. พราหมณ์
2. กษัตริย์
3. พ่อค้า
4. แรงงานของอาณาจักร
5. ไม่มีวรรณะเป็นคนรับใช้ตามบ้านเรือน
ภาพสลักสยามกุกบ่งบอกว่าชาวสยามเป็นนักรบอยู่ในวรรณะกษัตริย์ ซึ่งน่าจะเป็นชาวนครศรีธรรมราช หน้าตาคล้ายคนนครศรีธรรมราชปัจจุบัน สวมผ้าทอยกดอกเมืองนคร และนครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณเมืองเดียวของสยามที่ยังอยู่มาถึงปัจจุบัน ขณะที่เมืองอื่นถูกทำลายหมด บุโรพุทโธอังกฤษเพิ่งขุดมาจากใต้ดิน เมืองเก่านครศรีธรรมราชทางราชการเพิ่งสั่งทยอยรื้อในยุคแบ่งหัวเมืองปักษ์ใต้เป็นมณฑล
ส่วนคนเขมรโจวต้ากวานบันทึกว่าไม่สวมเสื้อทั้งชายและหญิง ทอได้แค่ผ้าเนื้อหยาบ บ่งบอกว่าคนเขมรส่วนมากด้อยวิทยาการอยู่ในวรรณะแรงงานหรือไม่มีวรรณะ
คนปักษ์ใต้โบราณหรือคนในภาคอีสานบางพื้นที่ใช้คำว่าขอมในความหมายว่าครอบ ฉะนั้นขอมจึงประกอบด้วยคนหลายกลุ่มมีการจัดวรรณะแบบฮินดูดังกล่าวแล้ว
ต่อมาเมื่อประมาณ 800 ปีก่อนนครศรีธรรมราชขับไล่โจฬะออกไปได้ แล้วยกทัพไปโจมตีอินเดียใต้ยึดดินแดนได้บางส่วน คัมภีร์มหาวงศ์ชองศรีลังกาบอกว่าศิริธรรมนครศรีธรรมราชส่งคนมาปกครองลังกา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชาวอาหมเคลื่อนกองทัพจากยูนนาน 8,000 คนเข้ายึดอัสสัมตั้งอาณาจักรอาหมได้สำเร็จ ถ้ามีโอกาสให้ได้ดูพิพิธภัณฑ์ชาวอาหมมีการจัดแสดงอาวุธโบราณลักษณะเหมือนกับอาวุธของทหารสยามกุก
แล้วจึงมีการสร้างสุโขทัยเป็นสถานีการค้า สถาปัตยกรรมเหมือนนครศรีธรรมราช นับถือพุทธเถรวาทเหมือนกัน บันทึกภูมิการเดินเรือน่านไท่จื้อของจีนบอกว่าพวกเศียรปกครองสุโขทัย ส่วนเมืองหลวงสยามก่อนกรุงศรีอยุธยาคือนครศรีธรรมราชเพราะโจวต้ากวานบันทึกเมื่อ 700 กว่าปีก่อนว่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชาใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนถึงเศียรหลอ
จารึกขุนรามคำแหงนักวิชาการเชื่อว่าเพิ่งสร้างขึ้นในยุคนี้โดยการสั่งทำจากฝรั่งเศสเพื่อหลอกอังกฤษ จนผู้แทนอังกฤษส่งจดหมายไปบอกราชินีว่ากองทัพอังกฤษไม่จำเป็นต้องยึดสยามเพื่อควบคุมการค้าเพราะชาวสยามมีพื้นฐานการค้าเสรีมาแต่โบราณแล้ว แต่ในความเป็นจริงเป็นเรื่องตลกมากที่สุโขทัยจะปกครองแบบพ่อปกครองลูกได้ถึงนครศรีธรรมราช คนมาเลเซียเห็นอักษรไทยยังบอกว่านี่เป็นอักษรมลายูโบราณของอาณาจักรศรีวิชัย คำมลายูพื้นฐานบางคำคล้ายคำไทย เช่น กิน มลายูใช้ มากัน ออกเฉียง ก เหมือนกัน แต่ปัจจุบันภาษามลายูได้รับอิทธิพลจากภาษาอาหรับ 70%
คนไทยคือคนสยามมีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่นี่ แต่เพราะนักวิชาการในภาคกลางพบแต่โบราณวัตถุที่เป็นขอมฮินดู จึงเข้าใจว่าคนไทยอพยพมาจากที่อื่นแต่ถ้าศึกษาให้กระจายทั้งอาเซียนจะรู้ว่าสยามอยู่มาก่อนขอม
เท่าที่ดูคลิป ภาษา ที่เรานำมาเทียบเคียงนั้นอยู่บนแผ่นดินเสียส่วนใหญ่(ไม่รอบทิศ) แต่ที่เราทราบกันดีว่าอินเดียเข้ามาในอาเชี่ยน(โดยทางเรือ) ยังมีหมู่เกาะสุมาตรา และชวา ด้วย(ในจารึกบางหลัก ก็มีการใช้ภาษา ถึง 3ภาษา) และการใช้ภาษาหลายอย่างในสมัยนั้นมักจะเทียบเคียงกับเมืองอินเดียในประเทศอินเดียเช่นกัมพุท ซื้อจริงก็เป็นเมืองหนึ่งในอินเดีย...การพูดถึงฤษีกัมพุท นั้นอาจจะหมายถึงฤษีที่มาจากเมืองกัมพุทในอินเดียก็ได้ เป็นต้น
สำหรับผมการการคาดเดาหรือสันนิฐาน โดยใช้ข้อมูลบนแผ่นดิน อย่างเดียวน่าจะไม่พอ ควรนำจารึกตามหมู่เกาะต่างๆมาเทียบเคียงเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นครับ
ส่วนสยาม ที่แปลว่า ดำ หมายถึงกลุ่มคนที่มีผิดดำ(อินเดีย) หรือป่าว แต่บนกำแพงวัดแกะไว้ ก็น่าจะมีเมือง ไม่ใช้แค่คำว่ากลุ่มคน ส่วนหากเปรียบเทียบว่าเป็นผิวสีดำ ก็คงไม่ใช่คนจากเมืองทางเหนือ(เชื่อสายจีน)แน่ๆ
น่าสนใจ เห็นด้วยครับ
เรื่อง กัมพุทในอินเดียนั้น ผมจะลองหาข้อมูลดู แต่ก็ทราบเบื้องต้นว่า คนอินเดียไม่ได้ออกเสียงเว่ากัมพุท การออกเสียงว่ากัมพุทหรือกัมพูชแบบนี้ เป็นสำเนียงที่เพี้ยนแบบท้องถิ่น
คำถามคือ แล้วเพี้ยนแบบนี้ได้อย่างไร อ.ตรงใจ มองว่า
1 ระบบเสียงต่างกัน
2.คัมภีรนาม
เจอศิลาจารึกอักษรปัลลาวะที่บาเลมบัง และชวาด้วยนะครับ
แต่ที่ศรีวิชัยเราเก่ากว่าเจออักษรพรามี(อินเดียเหนือ) ตั้งแต่พุทธศตวรรตที่ 3-5 ด้วยร่วมสมัยพระเจ้าอโศก ซึ่งเก่าแก่กว่าอักษรปัลลาวะซึ่งมี 3 ยุค ( อินเดียใต้ ) สันนิฐานว่าน่าจะคล้ายตราอนุญาต หรือฑูตหรือพาสปอต สำหรับให้พ่อค้าหรือคณะฑูตที่เดินทางติมตามมาเพื่อเจริญทางการค้า หรือเผยแพร่ศาสนาพร้อมกันไปด้วย
@@user-ud3gj5oy2q ผมเองก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น การเชื่อมโยนคนไทย(สยาม ว่ามาจากทางภาคเหนือ และกลางตอนบนผมว่าไม่ค่อยถูกต้อง) สันนิฐานตามหลักฐานที่ยังเหลือ
ส่วยตัวผมมองการแต่งกายสยามตามรูปสลักนครวัด โดยใช้ขนนกประดับหัว น่าจะเป็นคนในหมู่เกาะ หรือริมทะเลน่าจะเป็นไปได้ เครื่องแต่งกายโดยการใช้ขนนกประดับ ก็ยังเหลืออยู่ในหมู่เกาะอินโด
ในภาษาเขมร กรอม เขมรบน
ทุกวันนี้ก็พูดเขมรที่ ก ข ค ออกเสียงแทนกันประจำ
เช่น ไพรเกมง ไพร เคมง
กะแมร์ คะแมร์
Camera (กล้องถ่ายรูป) กาเมร่า คาเมร่า
.....
ครับ
เข้าใจว่าอาจารย์ผู้รู้ ยังรู้ไม่จริงชัดแน่นอน ยังขาดหลักฐาน ประกอบ ก็ยังคงต้องทะเลาะกันต่อไป ต้องไปศึกษาหาหลักฐาน เพิ่ม หรืออาจจะไม่พบเลยก็ได้ เกิดเป็นคนไทยก็แบบนี้แหละ พอสบายไม่ค่อยจะบันทึกอะไรเป็นเรื่องเป็นราว
นิรุติศาสตร์ จะประมาณนี้ครับ
ถ้าเป็นโบราณคดี กับ ประวัติศาสตร์ จะเน้นหลักฐานมากหน่อย
อย่างไรก็ดี เมื่อเราได้ฟังศาสตร์ที่หลากหลาย ก็ช่วยให้เรามองเห็นภาพที่กว้างขึ้น
ส่วนตัวผม ขอม คือ ขอมละโว้ //เสียม, เสียน คือสุพรรณภูมิ 2 เมืองนี้รวมกันเป็นอยุธยา กษัตย์องค์แรกอยุธยา มาจากละโว้ มีราชินีเป็น สุพรรณภูมิ
ผมจึงเข้าใจว่า ขอมละโว้ ก็คือ ไทย เพราะชาวละโว้ ไม่ได้หนีไป นครธม แต่กลับกัน อยุธยากวาดต้อนชาวนครธม นครหลวงมาหลายแสนคน และหลายครั้ง
@@user-ud3gj5oy2q ใช่ครับ ภาคใต้ ก็ อาณาจักรตามพรลิงเชื้อสายอินเดีย อาณาจักรทวารวีดีสายมอญ อาณาจักรโยนกเชียงแสน กะไดจีนตอนใต้ เมืออิสานปุระ สายขอม คือยุคก่อนพุทธศัตวรรษที่ 16 ก็หลายเชื้อสายแล้ว
@@banchaseesanga5394 ผมไปก๊อบเขามาอีกทีครับอยากให้เพื่อนๆเข้าไปอ่านกันเยอะ ๆ ยูทูปเขาไม่ให้แปะลิงค์ ในยูทูปก็มี ลองใช้คำค้นว่า DNa คนไทยไครเป็นบรรพบุรุษของเรา
ครับ
-สยาม/ไทย = ไท(สุพรรณภูมิ/สุโขทัย) ผสมกับ มอญ-ขอม(ทวารวดี-ละโว้)
(อยุธยา คือ เสียมละโว้ , เริ่มต้นจากสุพรรณบุรีรวมกับละโว้, ซึ่งละโว้ก็กลืนทวารวดีมาก่อนหน้า, สุโขทัยก็มาหลอมรวมด้วยทีหลัง)
-คำว่า Siam เสียม/สยาม เป็นคำที่ชาติอื่นใช้เรียกกลุ่มคน เดิมหมายถึงกลุ่มคนชาวไท ไต พูดภาษากลุ่ม Tai Ka Dai นุ่งซิ่น ผ้าถุง สวมเสื้อ(เพราะมาจากบริเวณอากาศเย็น) ผิวขาวเหลือง บนกำแพงนครวัด พวกเสียม/ก๊กสยามหรือสยำกุกจะใส่เสื้อ
-เสียมหรือสยามในเวลาต่อมา คือชาวไท ไต ผสมกับพวกขอม ซึ่งชาวบ้านก็ไม่สวมเสื้อทั้งชาย หญิง (เพราะมาจากบริเวณอากาศร้อน) ผิวดำแดง ปากหนา นุ่งโจงกระเบน ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ตรงกับที่ฝรั่งบรรยายคนชาวสยามในสมัยอยุธยา
-ขอม = อินเดียทมิฬ(นับถือพราหมณ์-พุทธ) ผสมกับ คนพื้นเมือง(นับถือพญานาค,ผีบรรพบุรุษ)
-ขอม คือคำที่พวกเสียมหรือไท ไต ใช้เรียกคนที่อยู่ทางใต้(ใต้เมืองของตัวเอง) ซึ่งตอนนั้นนั้นยังแยกกันอย่างชัดเจน ต่อมาพอเสียมหรือสยามลงมาผสมกับพวกขอมที่อยู่ทางใต้กลายเป็นคนภาคกลางแห่งอยุธยาแล้วตอนหลังฝั่งไทเป็นใหญ่ก็ใช้คำว่าขอมเรียกพวกฝั่งเขมรต่อไป
-เขมร/กัมพูชา = ขอมพระนคร(นิดหน่อย)+จาม
-ที่ว่าเขมรเหลือขอมนิดหน่อยเพราะชนชั้นปกครองส่วนใหญ่โดนฆ่าโดยกบฎแตงหวานหรือตระซอกปะแอม (ปล. ประวัติศาสตร์กัมพูชา ไม่ได้บอกว่าแตงหวานเป็นกบฏ แต่ระบุว่าฆ่ากษัตริย์องค์ก่อนและเป็นคนจัดการกบฎในเมืองให้เรียยร้อย ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าฆ่ากษัตริย์แล้วจะไม่โดนประหาร แถมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ นอกจากมันจะเป็นหัวหน้ากบฏซะเอง) แตงหวานที่โค่นล้มพวกราชวงศ์พวกวรมันก็เป็นพวกจาม กษัตริย์อยุธยาก็เป็นเครือญาติกลุ่มพระนครทางละโว้ ก็ถือสิทธิ์ว่าต้องมาแก้แค้น ตีเอาเมืองพระนครคืนมา พวกประชาชนก็โดนกวาดต้อนไปอยุธยา
-พอตอนหลังเวลาผ่านไปลูกมเหสีฝ่ายสุพรรณภูมิ(ไท) ขึ้นเป็นใหญ่ คนพูดภาษาไทก็กลืนภาษาขอม ภาษาขอมก็ไว้ใช้บวชเรียนพระ คนจะรับราชการเป็นเจ้าคนนายคนได้ก็ต้องไปบวชเรียน เรียนรู้ภาษาขอมก่อน
-ภาษา/อักษรเขมรปัจจุบันดัดแปลงมาจากภาษาขอมไทย เกิดโดยพระที่เข้ามาศึกษาที่สยามในสมัยร.4
-ภาษาขอมไทยถูกจอมพลแปลกสั่งห้ามเรียน คนรุ่นใหม่จึงไม่รู้ภาษาขอม มีแต่คนรุ่นปู่ถึงรู้
กำลังนึกตาม ขอบคุณครับ
100++++++++
ใช้หลักการอนุมาน
ในเรื่องงภาษา จะเป็นแบบผสมครับ
ขออนุญาต อาจารย์นำไปแชร์นะครับ
ยินดีครับคุณณรงค์
เมืองสยำกุกที่มีกองทัพสยำกุกมาเดินขบวนมีพระเจ้าสุริยวรมันที่2นังอยู่บนหลังช้างในกองทัพคือเมืองเศรษฐปุระที่มีปราสาทวัดพูตั้งอยู่ในจังหวัดจำปาสักในประเทศลาว
เมืองพระนครที่มีปราสาทนครวัดนครธมตั้งอยู่เป็นเมืองชั้นรองไม่ได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโจฬะ(จุลศักราช,เจินละ)
แต่เมืองหลวงของอาณาจักรโจฬะ(เจินละ)อยู่ที่เมืองเศรษฐปุระที่มีปราสาทวัดพูตั้งอยู่ต่างหากที่เป็นเมืองหลวง
กองทัพสยำที่บันทึกไว้ที่กำแพงปราสาทนครวัดคือกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่2นั่งมาบนหลังช้างในกองทัพสยำกุก
สยาม มาจากคำว่าเสียน,เศียรแปลว่าหัว ยอด ที่สูง ซึ่งเป็นคำเดียวกับคำว่าไศเลนทรา(วรมัน)ที่หมายถึงเจ้าแห่งขุนเขาที่เป็นชื่อราชวงศ์ของกษัตริย์ชาวเสียน(สยาม)ไทย
ในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่1สามารถรวม2แคว้นคือแคว้นสัมภูปุระ(สยาม,เสียน,เสียม)กับแคว้นละโว้(หลอหู,ลาว)เรียกประเทศของตนว่าอาณาจักรสยามลาว(เสียนหลอ)
แคว้นสัมภูปุระ(สยาม,เสียน)มีพื้นที่อยู่ในเมืองเสียมเรียบที่มีปราสาทนครวัดนครธมตั้งอยู่
แคว้นละโว้(หลอหู,ลาว)มีพื้นที่อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย
พ่อขุนรามคำแหงมีเชื้อลาวภาคเหนือ ภาษาไทยจึงมีสำเนียงภาษาของชาวลาวอยู่มาก
ภาษาลาว ลี้ ลื้อ ลั่วะ ซึ่งเป็นภาษาชาวบ้านคนธรรมดามาจากภาษาบาลี
ภาษาสันสกฤตมาจากภาษาชาวเสียน,สยาม(หัว)ของพระกฤษณะที่เป็นบรรพบุรุษที่เป็นเจ้า ชาวสยามจึงมีสถานะเป็นชาติกษัตริย์คือพระกฤษณะ
ชาวบาลี(ลี้,ลื้อ,ลั่วะ,ลาว)เป็นคนธรรมดา ชาวสยาม(เสียน)ที่มีบรรพบุรุษคือพระกฤษณะจึงเข้าปกครองชาวบาลี(ลี้,ลื้อ,ลั่วะ,ลาว)
ชาวสยามเป็นเจ้าปกครองชาวลาว(ลี้,ลื้อ,ละว้า,ลาว)มานานจนทำให้มีการผสมข้ามเผ่าพันธุ์กลายเป็นชาวขอม
ชาวขอมจึงมีเลือดผสมระหว่างชาวสยามกับชาวลาว
นักประวัติศาสตร์โง่ๆนำคำเสียงคำว่า"ขอม"ผันเสียงหรือพ้องเสียงให้คล้ายคำว่า"เขมร"แล้วสรุปว่าชาวขอมเป็นชาวเขมรนั้นโง่เง่าไร้เหตุผลนายตรงใจไร้ความรู้ความสามารถในทางประวัติศาสตร์
นายตรงใจไม่อายหรือกับการบิดเบือนทางประวัติศาสตร์ยกชาวขอมซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวสยามไปเป็นบรรพบุรุษของชาวเขมร
ขอยืนยันชาวเขมรมีบรรพบุรุษเป็นชาวทมิฬอินเดียใต้ที่ถูกกษัตริย์ชาวสยามราชวงศ์ไศเลนทรา(วรมัน)กวาดต้อนมาเป็นทาสชาวสยาม(ไทย)ในหลายยุคสมัย เช่นในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่1มีชัยชนะหลายแคว้นในอินเดียเช่นแคว้นของชาวทมิฬอินเดียใต่
ชาวทมิฬอินเดียใต้ถูกกวาดต้อนมาเป็นทาสชาวสยามในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่1
ต้นตระกูลของชาวเขมรคือซ๊อกปะแอม(แตงหวาน)เชลยทาสชาวจามปาที่เป็นบรรพบุรุษของชาวเขมร
เขมรมาจากคำว่าทะมึนซึ่งเป็นคำเดียวกับคำว่าทมิฬแปลว่าดำเพราะบรรพบุรุษของชาวทมิฬอินเดียใต้เป็นชาวนิโกรแอฟริกาที่ถูกชาวสยาม(ไทย)ไปกวาดต้อนมาจากแอฟริกาให้เป็นทาสรับใช้ชาวสยาม(ไทย)ในเอเชีย
การค้าทาสมีมาหลายพันปี ต้นตระกูลของชาวเขมรมีเชื้อสายชาวนิโกรแอฟริกาที่เป็นทาสถูกกษัตริย์ชาวสยาม(ไทย)จับมาเป็นทาสในอินเดียกลายเป็นชาวทมิฬอินเดียใต้แล้วยังถูกกษัตริย์ชาวสยามเช่นพระเจ้าสุริยวรมันที่1แห่งราชวงศ์ไศเลนทรา(วรมัน)กวาดต้อนจากอินเดียใต้มาเป็นทาสรับใช้ชาวสยาม(ไทย)ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก ในสมัยรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่7ชาวเขมรอาศัยอยู่ในแคว้นจามปาถูกกวาดต้อนมาเป็นทาสรับใช้ชาวสยาม(ไทย)ในเมืองกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยาม)
หลายพันปีที่ชาวเขมรต้องตกเป็นทาส ในเมืองกัมพูชาชาวเขมรมีสถานะเป็นทาสรับใช้กษัตริย์ชาวสยามราชวงศ์วรมันซึ่งเป็นคนละเผ่าพันธุ์ ชาวเขมรเป็นคนละเผ่าพันธุ์กับกษัตริย์ราชวงศ์วรมันที่เป็นชาวสยาม
ชาวเขมรปลดแอกจากความเป็นทาสเพราะหัวหน้าทาสชื่อซ๊อกปะแอม(แตงหวาน)เป็นขบถฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์วรมันที่เป็นชาวสยามและทำการปราบปราบฆ่าชาวสยามในเมืองกัมพูชาอย่างโหดร้ายทำให้ชาวสยามในเมืองกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยาม)หนีไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหู,ลาว) แคว้นละโว้(ลาวมีชาวลาวอาศัยอยู่ในแคว้นละโว้(หลอหู,ลาว)เป็นพลเมืองหนึ่งที่เป็นชาวบ้านจึงอยากมีอิสระหลุดพ้นจากการปกครองของชาวสยาม(ไทย)เลยเกิดมีเมืองสุโขทัยขึ้น
ขอบคุณครับ
@@taspien ในภาพสลักหินกองทัพสยำกุก(ไทย)มีพระเจ้าสุริยวรมันที่2นั่งอยูบนหลังช้างนั่นแสดงให้รู้ว่าพระเจ้าสุริยวรมันที่2เป็นกษัตริย์ชาวสยาม(ไทย)
ในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่2เมืองหลวงของประเทศโจฬะ(จุลศักราช,เจินละ)แห่งแคว้นสัมภูปุระคือเมืองเศรษฐปุระและเมืองพระนครที่มีปราสาทนครวัดไม่ใช่เมืองหลวงแต่เป็นเมือนชั้นรอง
ชาวขอม(สยาม)ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมืงเศรษฐปุระหรือพื้นที่ปราสาทวัดพูในเมืองจำปาศักดิ์ต่างหาก
😁😁😅
ดีครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าพูดหลักการเสีย8ส่วนอีก2ส่วนพูดแบบ ตามใจตัวเอง เหยียดหยาม ด่าคนอื่น มันกลายเป็น2ส่วนนั้นมีความหมาย อีกอย่างการพิสูจน์ว่าไม่ใช่ หักล้างความคิดเดิม(ซึ่งบางทีมันมีที่มาจากความจำเป็นบางอย่าง)มันง่าย มีสีสรร ดึงดูดคนให้สนใจ ทั้งหมดก่อให้เกิดการโต้ตอบกันธรรมดา สมองเราก็ปั้นเรื่องที่ตรงกับสัญญาเรา ไม่เห็นจะใหญ่โตอะไร ดูอย่างทุกวันนี้ ความเชื่อเรื่องศาสนาเพี้ยนไปขนาดไหน ก็จะเชื่อ การถ่อมตัวมากๆบางทีก็มีเสน่ห์ น่ารัก น่านับถือ แต่บางคนก็ว่าพวกขี้แพ้ ไม่มีจุดยืน แล้วแต่ การศึกษา ปวศ.มันจึงอยู่ที่กระบวนการ วิธีการ ค้นหา การเสนอผลงาน ซึ่งจะนำไปสู่บ้ณฑิตที่ทำได้หลายอย่าง ความจริงเป็นไงต้องเอาของทุกคนมากองรวมกัน แยกแยะดู ไม่เจอก็ไม่เป็นไร
ครับ
"เสียม" ในความคิดของผม คิดว่าเป็นชื่อที่คนอื่น เรียกคนที่อยู่ทางแถบนี้ คล้ายกับที่เราเรียก อินเดีย อาหรับว่าแขก แต่เขา ไม่ได้เรียกตัวเองแบบนั้น จากบันทึกของราชวงศ์หยวน พวกเสียมมีอาณาจักร เป็นของตัวเองแล้ว เป็นกลุ่มที่แยกอิสระจากหลายๆกลุ่มเช่นละโว้ ศรีวิชัย ล้านนา และพระนคร อายุของเสียม คงพอๆกับกลุ่มอื่น ดูจากการพัฒนาสร้างเมือง เสียมเป็นชื่อของกลุ่มคน ที่อยู่รวมกันหลายเชื้อชาติครับ
สิ่งที่ซ่อน อยู่ในชาติพันธุ์ ที่หลากหลายมารวมกัน คือสำเนียงพูดเหน่อ ที่มีแตกต่างกันไปเช่น สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เพชรบุรี ราชบุรี ผม ว่ามันมีเหตุผลนะ ที่ทำให้พูด สำเนียงไม่เหมือนกัน
ครับ
เนื้อหาดีครับ แต่ไม่รู้จะเตือนสติคนไทยได้มากน้อยขนาดไหน บรรพบุรุษไทยเข้ามาตั้งรกรากปักฐานในภาคกลาง กว่าจะลดบทบาทและวัฒนธรรมขอม-เขมรในอยุธยาและภาคกลาง แล้วเรียกตัวเองว่าคนไทยก็ใช้เวลานาน จนสามารถสถาปนาคนไทยเข้าควบคุมอาณาจักรอยุธยาได่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มาถึงปัจจุบันนี้บรรพบุรุษเหล่านั้นต้องมาร้องด่าไอ้พวกลูกหลานจัญไรที่ไปบอกตัวเองว่ามีบรรพบุรุษเป็นขอมเพียงแค่ที่ต้องการจะอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของวัฒนธรรมขอม-เขมร
ยิ่งช่วงนี้เมืองศรีเทพกำลังจะได้ขึ้นทะเบียนยูเนสโก ลูกหลานจัญไรเหล่านี้ก็ออกมาเที่ยวตะโกนบอกว่าคนไทยมีบรรพบุรุษเป็นมอญไปเสียนั่น ขนาดผมเป็นลูกจีนยังรู้หดหู่แบบเสียมิได้ว่า อะไรดลใจให้คนไทยส่วนหนึ่งหลงลืมรากเหง้าเดิมของตน แน่นอนว่าเราไม่สามารถหาเชื้อชาติบริสุทธิ์ได้ คนไทยภาคกลางล้วนมีดีเอ็นเอของมอญ เขมร ลาว จีน แต่เมื่ออยู่ในอำนาจวัฒนธรรมไทยที่สามารสถาปนาขึ้นมาเป็นใหญ่ในภูมิภาคได้ ดังนั้นคนไทยเหล่านี้ควรภูมิใจโดยไม่ต้องไปอ้างว่าตัวนั้นเป็นมอญ-เขมร
ขอบคุณครับ
เกรียนไอโอกัมพูชา ไม่ได้ใช้ข้อมูลมาถกเถียงในการอ้างเคลมวัฒนธรรมไทยปัจจุบัน แต่ใช้ตรรกง่ายๆ อดีตเป็นฐานของปัจจุบัน เมื่อไม่เคยรับวัฒนธรรมกัมพูชาในอดีต ย่อมไม่เกิดวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน ง่ายๆแบบนี้แหละครับ
ครับ
กำแพงวัดสร้าง สมัย ชัยวรมันที่ 2 ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งเป็นช่วงก่อน อาณาจักรสุโขทัย โดยคาบเกี่ยว ช่วง อาณาจักรโยนกเชียงแสน
ครับ
เราบอกว่า เราคือ คนไทย อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด มองว่าน่าจะเรียกคนไทยว่า ชาวสยามถึงจะถูกต้องมากว่า
ครับ
ที่แปลกคือ ในสมัยสุโขทัยและอยุธยา เราเรียกตนเองว่าไทย เราไม่เคยเรียกตนว่าสยามเลย
ทุกคนที่ discuss คำ นี้ สมควรที่จะไปเรียนภาษาศาสตร์ก่อนให้เข้าใจวิวัฒนาการการเปลี่ยนเสียง การกร่อนเสียง แล้วค่อยมา comment อ.ตรงใจ รู้ภาษาศาสตร์ รู้ภาษาเพื่อนบ้าน สามารถอธิบายได้อย่างมีหลักการ และ make sense
ครับ
สยามก็สยาม อ้างอิงจากหลักฐานที่จีนบันทึกก็เพียงพอแล้ว
ครับ
แนะ สยำกุ๊ก หมายถึงการเรียกกลุ่มทัพทั้งกองทัพทั้งหมดที่เห็นในภาพ ทั้งชัยวมัน ทั้งทัพละโว้ ทัพสุโขทัย ทั้งหมด คือนี้คือกองทัพเสียมกุ๊ก แปลตามภาษาอินเดียหมายถึงกองทัพทองหรือทัพกฤษณะ หรือหมาย แนะสยำกุ๊ก นี้คือการรวมทัพผู้เกรียงไกร สมัยนั้นอาจจะเรียกกลุ่มนี้ว่าพวกเสียมยุคนั้นยังไม่มีชื่อเรียกประเทศ เลยใช้คำว่า สยำกุ๊กเป็นชื่อตัวแทนกลุ่ม ต่อมาก็ใช้เรียกมาเรื่อยๆ สยำ เสียม สยาม ปัจจุบันฝั่งเขมรยังเรียกเราว่าพวกเสียมอยู่เลย ก็เท่ากับว่า ทั้งหมดคือต้นตระกูลเรา ทั้งละโว้ สุโขทัย ชัยวรมัน
บนกำแพง มีหลายจารึกอยู่นะครับ
เสียม ราชบุรี (คูบัว)นครปฐม ลงไปถึงนครศรีธรรมราช ตามจารึก กเบื้องจาน ...อยากให้อาจารย์ ทำคลิปด้วยครับ
รูปอักษรมันเป็นอักษรใหม่ครับ
สีม คนพูดกลาง คนแถวเจ้าพระยาที่พูดภาษาไทย ครับ
คำว่าสีม บ้านผม
แต่ในกัมพูชาเรียก ทาย อีไท
(ที่ไทย)
ก กับ ข ถูกต้องครับใช้เเทนกันได้ในภาษาถิ่นบ้านผม
ครับ
ย้อนกลับมาดูใหม่ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับ สยาม น่าจะมาจากอินเดียแน่ๆครับ บังเอิญว่าไปสังเกตุว่า จารึกสุโขทัย ชอบเติม ส.เสือไว้หน้าคำ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร เช่น สพาน สอาด สทาย คิดว่า คำว่า สยาม เกิด สะ+ ยาม ผมเลยลองค้นดูปรากฎว่า คำยาม หมายถึงชั้นสวรรค์ชั้นที่ 3 ชื่อเต็มๆ ยามา แตเดิมคงเป็นคำว่า ยาม แต่มาถึงไทยเติม สะ ไปให้ กลายเป็น สยาม แล้วคนต่างถิ่นมาเลียบแบบอกเสียงไปอีก มันเลย เพี้ยน เสี่ยม เสียน เป็นสยำ สมมุติว่า สยามคือชื่อเมืองเก่า เพราะ สวรรคชั้นที่ 2 ดาวดึงว์ ยังถูกนำไปใช้เป็นชื่อเมือง ไตรตรึง
กำลังนึกตามครับ
ทีส.นำหน้า สคา สทาย สถิต สหาย สพาย สอาด สราย สนอย สกล สพาน สบาด สทำ สพัด สถาน สวาย สววะ จำไม่ได้ สงสัยเพราะอะไร 55+ น่าจะเป็นเมืองสคา ว่าแปลว่าอะไรครับ
อำเภอเชียงคานก็น่าสนใจนะ จังหวัดเลย อยู่ไกล้กับ พิษณุโลก กามาราเตง อันเชิญ เสียมกุก แห่งเชียงชาน หรือจะเป็น เชียงคาน อยู่ติดแม่น้ำโขง การก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้ชี้วัดว่า จะแกร่ง เหมือนชาวมองโกล มีประชากรที่มากมายในที่ราบมารวมตัวกันโจมตีราชวงจีนที่มีกำแพงป้องกันได้ แล้วสมัยโจต้ากวน บอกมีกองทัพเสียมมาโจมตีหมู่บ้านขอม บ้านเรือนหายราบคาบ ผมคิดว่าต่างคนต่างอยู่ ขอมก็ไม่ได้ไปปกครองอะไรชาวเสียม อาจจะเชื่อมแต่งงานเป็นญาติกัน การวิจัยบอกว่า เมืองโบราณจะเกิดในระยะ 5เหลียม ใน5เหลียมจะเกิดเมืองหรือหมู่บ้าน เกิดขึ้นมาจากการรวมคน สมัยก่อนการเดินทาง ใช้เวลานาน ในระยะที่ห่างไกล ก็ทำไห้ปลอดภัยจากเมืองใหญ่ และสามารถ โจมตีรบกวนแล้วหนีกลับไป
ขอบคุณครับ
ต้องเข้าไปศึกษาในมลายูเพราะคำว่าสยามยังคงใช้เรียกคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน และควรเร่งรีบเข้าไปศึกษาก่อนที่แหล่งข้อมูลบุคคลจะเสียชีวิตไปหมด
คนเสึยมรุ่นสุดท้ายที่มีในยุคใกล้ปัจจุบันเคยมีพระอาจาร์ยเจ้าอาวาสวัดทางจันทบุรีเล่าและบอกว่ามีอยู่ในภาคกลางซึ่งอยู่ในเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก
ลองค้นหาจากรายการในไทยพรบีเอสหรือช่องเก้า
ขอบคุณครับคุณอนุชิต
จริงๆ ญ หญิง ไทแท้ๆเลย หรือ เสียง โซนอิสานยันเหนือ ออกเสียง เป็น เย๊อะ เญอะ ขึ้นจมูก คือ คนอิสาน คนเหนือ จะออกเสียงได้แต่คนภาคกลางจะออกเสียงไม่ได้เลย เช่น อิหยัง จริงๆ คือ อิญัง แปลว่าอะไร เสียงพวกขึ้นจมูกนี้ มาจากภาษาสันษกฤตจริงๆเลยนะครับ เพราะอินเดียเขาออกเสียงขึ้นจมูกเยอะมาก แต่ภาคกลางไทย ออกเสียงเพี้ยนไปมาก หรือไทยสมัยใหม่
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณความรู้ใหม่ๆ และการไขข้อสงสัยนะครับ สำหรับกรณี การเคลมวัฒนธรรม อันนี้เห็นว่าจะเป็นเกรียนคีย์บอดที่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลของทางนั้น ดูจากข่าวการให้สัมภาษณ์ กรณีมวยไทย หรือการจะนำเสนอผ้ากรอมาของทางเจ้าหน้าที่ทางนั้นเมื่อรู้ว่าไทยจะเสนอผ้าขาวม้าไปจดทะเบียนที่ยูเนสโก้ เป็นต้น
สำหรับ ขอม ไม่ใช่ เสียม อันนี้ ค่อนข้างเข้าใจ เพราะ ขอมคือการเรียกกลุ่มคนทางทิศใต้ ทั้ง ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และ ลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งไม่ได้หมายถึง เชื้อชาติ ส่วนเสียม คือ กลุ่มที่ถูกเรียกบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนการเคลมวัฒนธรรมนะครับอาจารย์ พอจะเข้าใจว่า ที่ถูกเคลม มันกำเนิดในภายหลังช่วงที่ อารยธรรมขอม ทั้ง อยุธยา รัตนโกสินทร์ อย่างที่อาจารย์กล่าวว่า อาจจะได้แรงบันดาลใจมาบ้าง ทว่าตรงนี้แหละครับ ที่ ทางนั้นเค้ามองว่า ก็อารยธรรมขอมเกิดมาก่อนสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นอะไรที่เกิดขึ้นทีหลังล้วนมาจากความคิดจากอารยธรรมขอมทั้งสิ้น (ตรงนี้แหละที่ปวดขมับ)
ตัวอย่างที่ได้ยินมา เห็นว่า ทางนั้นเคยยื่นจดทะเบียนพระอภัยมณีกับยูเนสโก้ แต่ถูกคัดค้านเสียก่อน (อาจจะเพราะท่านสุนทรภู่ ถูกขึ้นเป็นบุคลสำคัญของโลก และมีการอ้างอิงผลงานไว้แล้วในระบบของยูเนสโก้ ก่อนหน้านี้ เวลาสืบค้นถึงเจอ ทำให้การขอยื่น พระอภัยมณีถูกโต้แย้ง ก็เป็นได้)
สิ่งหนึ่งที่อยากรู้หมือนกัน คือ กลุ่ม เสียมกุ๊ก ที่ถูกพูดถึงในแนวกำแพงนครวัด นะครับ ว่าจะหมายถึง นครรัฐโบราณแห่งใด คงทำให้ภาพประวัติศาสตร์เด่นชัดมากขึ้น
ทว่าสิ่งหนึ่งในความรู้สึกคือ แม้ความรู้ทางโบราณคดีบ้านเราจะชัดเจนขนาดไหน แต่ถ้าทางนั้นไม่ยอมรับ ก็คงยังจะมีการเคลมวัฒนธรรมกันต่อไป
ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับคุณเอ
สรุปครบทุกประเด็น
การเคลมมันเกิดจากฮุนเซน เขาหวังผลจากการเลือกตั้งครับ ..ไอ้นี้มันจะทำการปลุกกระแสก่อนการเลือกตั้งครับ ..
ส่วนตัวเชื่อหลักฐานอาจต่างชาติ
มากกว่าดูน่าเชื่อกว่า ทั้งๆที่คำถาม
นี้อจไทยควรได้ข้อสรุปมานานละ
มันเดิมๆมาก ชาวบ้านอย่างเราฟัง
แล้วสงสัย กลับไม่ได้คำตอบที่ตรง
ประเด็น และเข้าใจยากสู้อาจต่าง
ชาติไม่ได้เลย
อืมมม ครับ
คลิปน่าสนใจให้ความรู้มากครับ ตามตลอด แอบฝันเรื่องเดียว ถ้าทำได้จริงจะตอบข้อสงสัยทุกอย่าง คือ Time machine ครับพี่น้อง
ครับ555
อาจจะทำได้ เพราะนักฟิสิกส์ ก็มีการเสนอการบิดเบี้ยวของกาลเวลา อวกาศ ไม่แน่ เราอาจตรวจจากรังศรีคอสมิก ดูภาพที่เกิดในอดีต ก็ได้นะ คือ เห็นแต่ภาพ แต่ย้อนไม่ได้อะไรประมาณนั้น คล้ายๆ นั่งวิปัสนากรรมฐาน
น่าสงสัยเรื่องคำว่าเสียม นี่เป็นคำเรียกแบบเหมารวมของวัฒนธรรมอื่นที่ชาวขอมมองว่าแตกต่างจากตนรึเปล่านะครับ
เพราะสงสัยในความขัดแย้งของภาพปรากฏของขบวนสยำ พอสืบค้นภาพเปรียบเทียบก็พบว่ามีความคล้ายคลึงกับการแต่งกายของกลุ่มชาวบะนาห์ในเวียดนามมากกว่าการแต่งกายในแบบกลุ่มไท
กำลังนึกตามครับ
ขอม เสียม คือบรรพบุรุษของไทยเรา ที่อยู่แถวนี้มาเนื่นนานมาแล้ว
ครับ
ใครมีอิทธิพล ทั้งการค้า การปกครอง ย่อมให้ผู้ด้อยกว่าหรือใต้ปกครอง ใช้ภาษาของตน สุโขทัยมีอิทธิพลลงไปแหลมลายู ภาษาไทก็ลงไปด้วย
ครับ
❤❤
ขอบคุณครับ
❤❤❤
ขอบคุณครับ
คนไทย ใช้ภาษาไท ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน แต่เวลาเรียนหนังสือ ภาษาราชการจะมาจากภาษาสันสกฤต อาจเพราะคนไทโบราญรับมาจากอินเดีย จากการค้าขาย ศาสนา วัฒนธรรมไทยภาคกลางและภาคใต้ติดต่อกับค้าขายกับนานาเชื้อชาติวัฒนธรรมจึงแลกเปลี่ยน และพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน แตทชาวไต ไท จีนตอนใต้ ไม่ได้ติดต่อกับชาติพันธุ์ต่างๆสักเท่าใด จึงมีวัฒนธรรมที่ตั้งเดิมของกลุ่ม ไต ไท
ขอบคุณครับ
ประเทศจีนเขาชอบจดบันทึกประวัติศาสตร์เป็นอักษรจีนน่าจะ.. นับพันๆปี..แม้แต่ฝรั่งหลายเรื่องยังขออ้างอิงด้วยเลย
แล้วอยู่ๆคนสยามมาจากไหน..อยู่ๆโผล่มาเฉยๆเหรอ...แม้แต่คนเขมรยังคิดได้ว่าอยู่ๆคนมันจะโผล่ขึ้นมาจากอากาศไม่ได้ เขาจึงอ้างว่าอพยพมาจากจีน
นักประวัติศาสตร์ที่แท้จริง ควรหาคำตอบให้ได้.. สำหรับผม คิดว่าคนสยามไม่ได้มาจากไหน แต่อยู่ที่เดิม คือ ขอมลพบุรี แปลว่าคนทางใต้ฝั่งลพบุรี หรือ เสียมลพบุรี
คำว่าขอมนั้น จริงๆแล้วเวลาผ่านมาแล้วพันปี มันไม่ได้นานมากจนหาความจริงไม่ได้เลย พุทธศาสนาผ่านมา มากกว่า 2500 ปี ก็ยังสืบทอดหลักคำสอนที่ถูกต้องไว้ได้
บางคนยึดมั่นมาตลอดว่า เขมรยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานเลย และก็ไม่มีหลักฐานว่าอาณาจักรขอมคือเป็นเขมรทั้งหมดทุกคน.. แต่ทว่าที่ยิ่งใหญ่คืออาณาจักรขอม ที่ประกอบด้วยหลายชนชาติ เขมรเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น และ คนเขมรมันเล็กกว่าคนเสียมลพบุรีมาก เสียมลพบุรีนั้น คนจีนเรียกว่า เซี่ยมล้อ...
คิดว่าอยู่ที่เดิมเหมือนกัน แต่คงผสมกับคนที่มาจากนอกพื้นที่ครับ
คนไทยมาจากกระบอกไม้ไผ่ ตามเรื่องยอพระกลิ่น 555
ภาพสลักก็ชัดเจนว่าเขมรเป็นทาสที่ใช้แรงงานก่อสร้างเห็นได้จากการแต่งกายบนกำแพงและที่ฝรั่งเคยถ่ายภาพไว้(นุ่งเตี่ยวชิ้นเดียว) ไม่ได้มาบูลลี่อะไรนะคะ แต่ภาพมันชัดเจนว่าเขมรไม่ใช่ผู้ปกครองซึ่งเป็นขอมอย่างที่โจวต้ากวานบันทึกไว้แน่นอนค่ะ
ครับ
ขอมคือคำพูดเเทนคำสรรพนามของคนที่อยู่ทางใต้ เชียงตุง
เชียงรุ้ง เชียงเเสน เชียงทอง
เชียงขวาง ก่อนพ.ศ1500
ต่อมาพ.ศ1800 ขอมคือคำพูดเเทนคำนามของ คนที่อยู่ทางใต้ทางใต้เชียงใหม่ ใต้สุโขทัย อุตรดิตถ์
รัฐเสียนท่าจีนเเม่กลอง ก็เป็นขอมได้ เเต่เขาไม่มีชื่อขอม ในเอกสารจีนเขาเขียนว่า เสียน
อักษรขอม เป็นอักษรที่พัฒนาการมาจากอักษรเขมรโบราณถ้าปัจจุบันคืออักษรคาราโอเกะ
คนที่ทำขึ้นคือพวกละโว้ลพบุรี ในวัฒนธรรมเขมร
เมื่อความเป็นไท มีอำนาจมากขึ้นจึงเข้าไปเป็นไท
หลังพ.ศ1900ส่วนขอมก็ไปพร้อมกับ
พระรามเจ้าราชา ไปที่เขมร
พ.ศ1900 จึงพัฒนาการอักษรขอมเป็นอักษรไท
อักษรไท ส่วนตัวผมจะขอสันนิษฐานว่าคนที่ทำขึ้น ต้องอยู่ในสมัยพระยาลิไท ถ้าจะยกความดีความงามให้สุโขทัยจริงๆ
อักษรกัมพูชาปัจจุบัน เอาแต่ละอักษรไป เรียง เทียบกับจารึกโบราณ แปลไม่เหมือนกันเลย
เพราะ สร้างเลียนแบบรุปร่าง แต่คนละภาษา ภาษาคาราโอเกะ 😂😂😂
@@KK-uj6dl ไม่มีหรอกภาษาคาราโอเกะ มีเเต่อักษรคาราโอเกะ
ภาษาคาราโอเกะก็มีเเต่เนื้อ
ร้องทำนองเพลงเเค่นั้น
กำลังนึกตามครับ
มีบันทึกจีนกล่าวถึงชาวเสียน บรรยายพื้นที่ตั้ง เหมือนอยู่ทางภาคใต้ของไทย มีเมืองชื่อเซี่ยะโถ่ว ที่แปลว่านครดินแดงครับ
อืมมม ครับ
ขอบคุณครับ
"เสียม"คือคนอีสานโบราณเรียกแทน"หอก"คำว่าหอกไม่รู้จัก
เสียม=หอก
หลาว=ยาว
คนจีนเรียก"เสียมหรอ"
"กก"ภาษาอีสานแปลว่า.ล่าง-ลุ่ม-ต่ำ
คำว่า"เสียมกก"สลักที่กำแพงนครวัด คือ เมืองที่อยู่ด้านล่างของอีสานตอนนั้นที่ใช้หอกยาวเป็นอาวุธคือเมือง"ละโว้"
อืมม ครับ
ผมขอแย้งนะครับคำราชาศัพท์เป็นภาษาสันสกฤตครับไม่ใช่ภาษาเขมร ผมยกตัวอย่างคำว่า เสวย ที่แปลว่ากิน นักวิชาการคนใหนว่าเป็นภาษาเขมรนี่ผมเถียงเลย คำว่ากินในภาษาเขมรมีแค่2อย่างคือ ซีบาย โฮบบาย เท่านั้นไม่มีคำว่าเสวย คำว่าเสวยมีรูปแบบในบาลีเยอะพอสมควรในหนังสือมนต์พิธีที่พระใช้สวด
น่าสนใจครับ
รับจากอินเดีย กัมพูชาปรับประยุกต์ แล้วไทยปรับอีกรอบ?
@@taspien ในมนต์พิธีมีเยอะครับที่ใช้หลักการออกเสียงและสกดแบบคำว่าเสวย ทั้งบทขัดธรรมจักร ยอดพระกัณไตรปิฎก พระสหัสสะนัย ผมเน้นนะครับคำศัพท์ภาษาไทยแปลงมาจากภาษาสันสกฤตเกิน50%แม้แต่ชื่อคนหรือชื่อจังหวัดอ่านแบบสันสกฤตได้เกือบทั้งหมด เช่น นคร นี่ก็ภาษาสันสกฤต อ่านแบบสันสกฤตว่า นะคะระ แต่ออกเสียงเร็วและสั้น ไทยจึงแปลงมาออกเสียงเป็นนะคอน เราไม่ได้ยืมมาจากเขมรหรอกครับยิ่งอักษรไทยยิ่งไม่ใช่เขมรแต่เป็นมอญซะมากกว่าอันนี้ความคิดส่วนตัวนะครับ
@@taspien คือคำที่ผมว่ามานี้ เป็นคำที่ไม่ได้ประยุกค์นะครับ ถ้าจะเอาแบบตรงตัวเลย มันคือภาษามคต พระอินเดียก็สวดออกเสียงแบบนี้ และที่สำคับคำในบาลี ห้ามเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมครับ
โครงกระดูก ที่บ้านวัดโคราชละครับคือใคร
แน่ละ เสียม อาจจะไม่ใช้ขอมและก็ไม่ใช้เขมร
ขอมก็มาจากศรีวิชัยทางใต้ แต่ทางใต้ก็มีคนเสียมอยู่ก่อนแล้ว ส่วนหนึ่งการขยายอำนาจนั้น
คือการใช้ระบบเครือญาติ (แต่งงาน)คนทางใต้ที่เป็นเสียมนั้นผมเรียกว่าเสียมเก่า คือมาก่อนเสียมใหม่คือคนไตย เสียมใหม่
เสียมเก่านี่รวมถึงภาคกลางและเหนือตอนล่าง
อย่างเช่นคนทวารวดี อันนี้ก็มีมาก่อนศาสนาพุทธ จะเห็นได้ว่าเรื่องพระยาพง พระยาพาน
ที่นครปฐมนั้นศาสนาพุทธเพิ่งเข้ามาในสมัยนั้น
ทั้งยังประวัติพระเจ้าอาทิตะวันของโยนกนคร
ตามจารึกของกะเบื้องจารศาสนาพุทธก็พึ่งเริ่มเข้ามาและพุทธเกิดขึ้นไม่กี่ปีนั้นก็คนเสียมเก่า
(ทวารวดี) และเสียม กุก ที่อยู่ ที่พระนคร ก็โดน
พระเจ้าแตงหวานกบฏ ขับไล่ออกมา จึงตั้งชื่อเมืองใหม่ว่า เสียมเรียบ จึงจะเห็นได้ว่าเสียมเป็นชนชั้นปกครอง ในเมือง พระนคร และพระเจ้าชัยวรมันที่ 6,7 ก็ไปจากพิมาย ดังนั้นเสียมเก่า
ขอม,เสียมใหม่ ต้องเป็นชนปกครองในพระนคร
และจากหลักฐานที่บุรีรัมย์มีการขุดค้นพบ โซ่ตรวน นักโทษเป็นจำนวนมาก ซึ่งโซ่ตรวนเหล่านี้
เอาไว้ใส่ทาสเขมร ในการก่อสร้างปราสาทพนมรุ้งอาจจะไม่มีจารึกแต่คนในท้องถิ่นทราบกัน
และโครงกระดูกที่ บ้านพังเทียม ซึ่งอาจจะเป็น
สมัยเดี่ยว กับบ้านวัด โนนสูง มีอายุ 4,000ปีนั้น
เพราะมีการแต่งกายเครื่องประดับคลายกัน พอขุดได้ มีการประทับทรง ชื่อของท่าน มีคำว่า "คำ" ในชื่อของท่านด้วย ซึ่งคำพวกนี้คนโคราชจะไม่ใชักัน กลุ่มคนที่ใช้ทุกวันนี้ก็จะมีคน กลุ่มคนอิสาน,คนไตย,คนเหนือใช้คำพวกนี้ จะเห็นได้ว่าท่านต้องเป็นเชื่อสายเดียวกับเสียมเก่า(ทวารวดี)ประเด็นหลังนี้ใช้วิจารนญาณครับ
จากหัวข้อเหล่านี้ จะเห็นได้ว่า
1.เสียมอยู่ในพระนครด้วย(บันทึกโจ่วต้ากวาน,และจารึกในกำแพง)
2.เสียมเป็นชนชั้นปกครอง
3.เสียมมีส่วนร่วมในการสร้างปราสาท
4.เสียม,ขอม เป็นเครือญาติกัน
กำลังนึกตาม
ขอบคุณครับ
ผมมองจากศิลปะ เทวรูป พุทธธูป ทางภาคอิสาน บ้านเรา กลองมโหระทึก การเทสัมฤทธิ์มีความงดงามเก่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านมากอยู่นะครับ
ครับ
ถ้าเขมรในอดีตใหญ่ .. แล้วทำไมคนพูดภาษาเขมรได้ปัจจุบันมีน้อย.. อยู่ๆคนเขมรหายไปไหน..? ทำไมคนพูดภาษาไทยในปัจจุบันถึงมีมากกว่าคนพูดภาษาเขมรถึง 4 เท่า แสดงว่าในอดีตก็ควรจะมีคนพูดภาษาเขมรน้อยกว่าปัจจุบัน.. ยิ่งย้อนไปอดีตนานเท่าไหร่ คนที่พูดภาษาเขมรได้ก็ยิ่งน้อยเท่านั้น ซึ่งตามหลักคณิตศาสตร์เรื่องความน่าจะเป็น คนน้อย โอกาสที่จะประดิษฐ์คิดค้นวัฒนธรรมต่างๆก็น้อยตาม, และโอกาสที่จะครอบครองดินแดนกว้างใหญ่มาถึงไทยก็ยิ่งน้อยตาม
ผมเคยคอมเม้นท์ประเด็นนี้ไปแล้ว.. แต่ก็ไร้คำอธิบายจากนักประวัติศาสตร์สักคน
ถ้าการคาดเดาประวัติศาสตร์ ไม่สอดคล้องกับผลลัพธ์ในปัจจุบันได้ และไม่สามารถตอบคำถามจากหลักฐานปัจจุบันได้ การคาดเดานั้นก็มีโอกาสผิดสูง
ถ้าใครก็ตามไม่สามารถอธิบายผลลัพธ์ในปัจจุบันได้ คนนั้นก็ไม่ควร, หรือไม่มีสิทธิ์มาห้ามคนอื่น บอกว่า เสียม คือ ขอมละโว้
แม้แต่นักวิชาการพม่าคนหนึ่งยังบอกว่า มีจารึกในศิลาหินโบราณว่า เรียกสยามว่าขอม
อีกอย่าง คนจีนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เรียกประเทศไทยว่า เซี่ยมล้อ ไม่ใช่เรียกว่า เสียน คำเดียว และคำว่าล้อ น่าจะหมายถึงละโว้ ไม่ใช่ประเทศนะ ถ้าประเทศคนจีนน่าจะเรียกว่า ก๊ก
ดังนั้น ตามความเห็นผม ขอมมี 2 กลุ่ม คือ ขอมละโว้ กับขอมทมิฬ (อินเดีย) ที่อยู่ฝั่งเขมร แต่ขอมทมิฬไม่ใช่คนเขมรทั้งหมด คนเขมรเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ถ้าผมจำไม่ผิดตามบันทึกจีนบอกเป็นแรงงานทาส
อีกอย่าง อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ตอบโต้การเคลมวัฒนธรรมของเขมร แต่ผมเริ่มสนใจประวัติศาสตร์ เพราะอยากรู้ความจริง เพราะถ้าเขมรเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมไทยจริงๆ ผมก็ยอมรับได้ ไม่รังเกียจ แต่ผมพิจารณาดูแล้ว โอกาสเป็นเรื่องจริงนั้นน้อยมากๆ
กำลังนึกตาม เรื่องทำไมมีคนน้อย ส่วนหนึ่งอาจเพราะถูกกวาดต้อนโดยสงคราม เฉพาะที่มาอยุธยาก็รวมทั้งหมด 7 ครั้ง ไม่นับไปจามอีกหลายครั้งครับ
ปัจจัยอื่นๆ ยังไม่แน่ใจ
ถ้าตามบันทึกของโจว ต้ากวาน จะมีจุดที่น่าสนใจอยู่ครับ คือ ชาวเสียมและชาวจามปา ฟังภาษาเขมรไม่ออก สองชาวเสียมเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน เมื่อก่อนตรงนี้เคยเป็นหมู่บ้านแต่มีสงครามกับชาวเสียมสู้รบกันจนหมู่บ้านราบ ตรงนี้ยังมีหลักฐานอยู่จนทุกวันนี้ตามเส้นทางจากนครวัดขึ้นไปทางพิมาย อาจจะเป็นที่มาของชื่อ เสียมเรียบ(ราบ)
🙏🏼ขอให้พอลพตหมายเลข2มาจุติหรือปรากฎตัวในกัมพูชาประเทศใวๆด้วยเถิด สาธุ.
:)
รายการตอนนี้ ใช้เวิกทูเดาล้วนๆ เล่นคำเหมือน คำคล้าย ไร้ซึ่งข้อมูลสนับสนุน
นิรุกติศาสตร์จะประมาณนี้ครับ