ขยายอำนาจมาถึงฝั่งไทย ราเชนทรวรมัน พ.ศ.1487-1511
HTML-код
- Опубликовано: 10 сен 2024
- ชาติกำเนิดพระองค์ การขยายอำนาจสู่ภาคอีสาน ภาคกลางของไทย ปราสาทปรางค์แขก ปราสาทแม่บุญตะวันออก ปราสาทแปรรูป คติไศวนิกาย
ขอขอบคุณ
อ.วรณัย พงศาชลากร
อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
ดร.ตรงใจ หุตางกูล
ศุนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
วิกิพีเดีย
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ภาพประกอบ
วิกิพีเดีย
ศุนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
ยอดเยี่ยมครับอาจารย์
ขอบคุณครับ
เขมรเคลมเอกลักษณ์ของไทย ทั้งที่เอกลักษณ์ของตัวเองก็มีแต่ไม่พัฒนาให้มันทันสมัย ส่วนรากเหง้าล้วนมาจากแหล่งเดียวกันเพียงแต่ไทยรับมาค่อยข้างหลากหลายมากกว่า
ใช่ครับ
@@taspienรับจากกรุงรัตนโกสินทร์หนะอาจารย์ มันไม่ได้มีการพัฒนาจากเสียมเรียบไปพนมเปญ จากเสียมเรียบ ก็มาอยุธยาต่างหาก พวกนั่นเหมือนกบฎ โดนปราบไปเรื่อยๆ สมัยอยุธยา ทำให้ถอยลงล่างไปเรื่อย จนถึงอังกอร์บาเร็ย บาพนม อะไรของพวกนั่นแหละครับ
เขมร-อิสาน-ไทย=ชื่อเรียกครับ
ส่วน กษัตริย์ - ชาวกุลา หรือ นายฮ้อย กลุ่มมหาราชมอญ-พม่า อิสานเรียกทับศัพท์ Royal -กองทัพ
พระเจ้าพรหมมหาราช
เป็น ฆราวาน-พ่อค้า
เดินทางฝั่งทะเลตะวันออก-ไปตะวันตก____เว้-ทวาย_เส้นทางหลัก ____ ศรีฯ บุรี ฯ รักข์ฯ
นครศรีบุรีรักข์-ศรีโคตรบูร-จันทบูร
ร้อยเอ็ด-ขอนแก่น-ลูกหลานฝ่ายพ่อ
ส่วน ฝ่ายแม่-ทำนาสมณชีพราหมณ์
(ศรีอาริยเมตตรัย-เมซีอะห์-นบีมูซาร์-F3+family3......January-
*ราศรีธนู-มังกร อิสานเรียก ท้าวสุดทะนู.....อุรังคทาด...
เขมรไม่เคยมีกษัตริย์และไม่มีประเทศกัมพูชาร.๕ท่านทรงตั้งให้เป็นเมืองได้ฉัตร5ชั้นไป
ได้ความรู้ดีมากครับ
ขอบคุณครับ
มีสาระชอบดู
ครับ
ประวัติศาสตร์.....บอกเรา...ไม่มีอะไรยั่งยืน.....เกิดแล้วดับ....ป่านนี้พวกเราไม่เคยจำ....
ครับ
🙏ดีใจจัง ได้ยินเสียงอาจารย์ + ได้ความรู้ 👍ขอบคุณมากค่ะ😍🥰🌹🌹💜💜💜💜💜
สวัสดีครับคุณแม่น้อย สบายดีนะครับ
ประวัติศาสตร์ในเงามืด
... ไตกะได ไม่เคยมีตัวอักษร
... ไตกะได ไม่มีเสียง ด.เด็ก
... ลาว ไม่มี ร.เรือ ช.ช้าง
( ความสัมพันธ์ การผสมพันธุ์ ไม่ใช่ บรรพชน )
ตัวอักษร ไทย สยาม ไตกะได เวอร์ชั่นล่าสุด ถูกสร้างที่ สุโขทัย โดยทำการดัดแปลง ทำการเพิ่มตัวอักษร มาจาก ปัลลวะ มอญ ขอม รวม ๆ กัน
... สยาม นับเลขฐาน 10
... มอญ เขมร นับเลขฐาน 5
ครับ
ร.เสียงนี้น่าสนใจว่ามาจากชาติพันธุ์ไหนดี มอญหรือแขก
@@dontreekhrutdilakanan8548
... ร. เรือ พัฒนามาจากตัวอักษร ปัลลวะ
... แนะนำไปค้นตัวนี้ดู มีพัฒนาการเขียนมายาวนาน จากตัวอักษรที่เป็นสัญลักษณ์ เรือยาว ๆ ลำเดียว ... ม่เป็นเรือสองลำคู่ และเป็นเรือใบ แบบปัจจุบัน
... สังเกต ดู นะจ๊ะ
.... ตัวอักษร แต่ละตัว มันเริ่มจากตัวอักษรภาพ มาก่อน
ที่สูงเนินมีเมืองปราสาทหินหลายที่เช่นปราสาทเมืองเก่าปราสาทเมืองแขกปราสาทโนนกู่ปราสาบ้านบุใหญ่เมืองเสมาแหล่งหินตัดบ้านส้มกบงามเป็นต้นส่วนที่ปราสาทบ้านหัวสระซึ่งอยู่ระหว่างเมืองเสมากับแหล่งหินตัดสีคิ้วไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงซึ่งก็อยู่ในโซนเดียวกันคือโคราชเก่าในอำเภอสูงเนิน
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ ได้รับความรู้ดีครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
สุพรรณภูมิ ก็ไม่ใช่ ละโว้ ฉันใด มอญ ก็ไม่ใช่ เขมร ฉันนั้น แค่รวมกันและพลัดกันขึ้นครอง
ครับ
อ.สุขภาพแข็งแรงครับ🌷🌷🌷
เช่นกันครับคุณนำพล
มาแล้วEP นี้ ตอนนี้กำลังศึกษากษัตริย์ขอมที่ยิ่งใหญ่ว่ามีใครบ้าง ในยุคที่มีอำนาจเจริญรุ่งเรือง ได้สร้างปราสาทอะไรบ้าง มีกษัตริย์กี่พระองค์ น่าจะมีความเกี่ยวของกับละโว้ในยุคหลัง
ใช่ครับ คิดว่า พระเจ้าราเชนฯ น่าจะเกี่ยวข้องกับละโว้อยู่พอสมควร
@@taspienเกี่ยวครับ ไม่อย่างนั้น พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จะกล้า เปรี้ยว มายึดอำนาจอาณาจักรเขมรโบราณ เริ่มจากแถบอีสานใต้ และยึดละโว้เหรอครับ พระองค์ทรงอ้างสิทธิฝ่ายแม่ สายจันทรวงศ์(เจนละ) คือเป็นบุตรของพระนางปราณา (พระนางถูกจับตัวไปศรีวิชัยยา สมัยมายึดเมืองเขมรโบราณ และถูกนำตัวไปเป็นชายาของเจ้าศรีวิชัยที่นครศรีธรรมราช) พระนางปราณาเป็นพระธิดาของอัครมเหสีของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 สายราชวงศ์อยู่พนมดงรัก ตาเมือนธม พระองค์ทรงเพรียบพร้อมทั้งทางด้านศิลปะ วิชาการ ศาสนา การวางแผนการรบที่ยอดเยี่ยม เมื่อก่อนการติดต่อทางทะเล ไปมาสู่กัน ระหว่าง ภวปุระกับแผ่นดินอีสานใต้ ผ่านช่องจอมเท่านั้น ที่เหลือ เงียบ สัตว์ดุดร้าย คนโบราณเขาจะเดินทางเป็นเส้นตรง ตามทางเกวียน ถ้านั่งเกวียนก็ควบคุมวัวง่าย มันก็เพื่อจดจำง่าย และรวดเร็ว ไม่หลงป่า
🎉🎉🎉
:)
อาจารย์อธิบายชัดเจนมาก เข้าใจง่าย
ขอบคุณตรับ
กัมพูชาโบราณมีด้วยเหรอครับ กัมพูชาคือประเทศที่แยกตัวออกไปจากสยามเป็นจังหวัดนึงของสยาม แล้วแบบนี้จะสร้างอารยธรรมโบราณได้อย่างไร แต่ถ้าจะยกให้เป็นอารยธรรมของเขมร แต่เขมรมันคือชนชั้นทาสในพระนคร ไม่รู้หนังสือ ได้แต่ใช้แรงงาน สรุปแล้วมันคืออารยธรรมของใครครับ
ผมเรียกให้ง่ายครับ เดิมมาจากคำว่า กัมพุเทศ ปรากฏในจารึกบ่ออีกา ปี พ.ศ.1411
หมายถึง ดินแดนกัมพุ หรือดินแดนกัมพูชาโบราณนั่นเอง
ย้ำ..ไม่ใช่เชื้อชาติ แต่เป็นดินแดน
@@taspienด้วยความเคารพ ของที่มันไม่มีอยู่เดิม เราก็ไม่ควรจะไปให้มันมีดีไหมครับเช่น กัมพูชาโบราณ เพราะหากข้อสันนิษฐาน หรือข้อมูลที่มี มันยังสรุปชัดเจนไม่ได้ เพราะการจะตั้งชื่อ จะให้มันสะดวกต่อการเรียกหา ก็ดี หรือจะมีจุดประสงค์อื่นๆก็ดี ถ้าชื่อนั้นมันสุ่มเสี่ยงให้เกิดการเข้าใจผิด ในวงกว้าง มันก็จะเกิดความเสียหายต่อภาพรวมได้ครับ ขอให้ตระหนักจุดนี้ให้ดี
บรรพบุรุษของชาวเขมรมีพื้นที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลในดินแดนของชาวทมิฬอินเดียใต้ลงมาถึงตามหมู่เกาะในอินโดนีเซียที่มีชนเผ่าปาปัวนิวกีนีลงไปถึงดินแดนออสเตรเลียของชาวอะบออะบอลิจิ้น
ในอดีตกษัตริย์ชาวสยาม(ไทย)ราชวงศ์ไศเลนทรา(วรมัน)ขยายดินแดนจากภาคพื้นทวีปไปยึดครองดินแดนตามชายฝั่งทะเลตามหมู่เกาะในประเทศอินเดียของชาวกลิงคะไปจนถึงดินแดนของชาวทมิฬอินเดียใต้และปราบปรามชาวทมิฬที่อาศัยตามหมู่เกาะในประเทศอินโดนีเซียพร้อมได้กวาดต้อนชาวทมิฬเหล่านั้นมาเป็นทาสรับใช้ชาวสยาม(ไทย)สร้างปราสาทหินในดินแดนสุวรรณภูมิของชาวสยาม(ไทย)ทำให้เหล่าทาสชาวทมิฬกลายเหล่าเป็นชาวเขมรในปัจจุบัน
ชาวเขมรได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสเพราะชาวเขมรมีวีรบุรุษของชาวเขมรคือตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสชาวจามแห่งแคว้นจามปาที่เป็นขบถฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ที่ปกครองเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ของอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)พร้อมกวาดล้างฆ่านายทาสชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)อย่างโหดร้ายทำให้ชาวสยาม(ไทย)ต้องอพยพหนีตายไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหู)ในภาคกลางของประเทศไทยซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของชาวสยาม(ไทย)ด้วยกัน
@@พจน์บัวนาคhug4ix2it6U อย่างแรกเลยนะครับในช่วงนั้นเลย ประเทศอินเดียมีหรือยัง ไม่มีประเทศนี้ในแผ่นที่โลกในครั้งอดีต เพิ่งจะมาเป็นประเทศเกิดใหม่ในยุคล่าอาณานิคมนี่เองครับ และถ้าไม่มประเทศอินเดียปกครองในตอนนั้นใครเป็นใหญ่ปกครองอยู่ ในบันทึกของจีนที่
มีประวัติถึง2000ปี ยังได้มีการพูดถึง สยาม แน่ะสยามกุก(นี่พวกสยาม) ได้บันทึกเอาไว้ว่าในพื้นที่ใต้จีนลงมามีกษัตริย์ผู้เดียวที่ปกครอง ราชาพันคนเมืองพันเมืองมีอานาเขตกว้างใหญ่ไพศาลเทียบเท่าจีน คิดว่าเป็นใครล่ะถ้าไม่ใช่สยาม หรือเสียม
ประการต่อมา ตระซอกปะแอมมันคือทาสกบฎนั่นถูกแล้ว มันยึดเมืองพระนครได้ก็จริงแต่พระเจ้าชัยวรมันที่9 ทรงลี้ภัยจากกบฏพวกนี้ไปได้พร้อมด้วยข้าราชบริพารอีก1แสนคน ไปพักคนที่เมืองอู่ทอง เจ้าเมืองสุพรรณบุรีในขณะนั้นก็ยกลูกสาวให้ แล้วเชิญพระเจ้าอู่ทอง(ชัยวรมันที่9)สร้างเมืองขึ้นใหม่ที่อยุธยา เป็นการเริ่มต้นของราชวงศ์สุพรรณภูมิ หลังจากนั้น4ปีพระเจ้าอู่ทองสั่งให้แม่ทัพละโว้ไปตั้งทัพรอทัพหลวงที่อานาจักรเจนละ ยกเข้าตีเมืองพระนครพร้อมกันและจับตระซอกปะแอมกบฏทาสตัดหัวเสียบประจานได้ และกวาดต้อนเชลยไปให้อาณาจักรกัมโพชดูแล (กัมพูชา) ในสมัยรัชกาลที่1 ท่านยังให้พวกทาสเชลยมาขุดคลองโอ่งอ่างเลย ประการสุดท้ายรู้หรือไม่ว่าเรามีอักษรไทยใช้มาหลายพันปีแล้ว ในซากอารยธรรมโบราณมีอักษรไทยเราถูกฝังอยู่ด้วย
เห็นด้วยอย่างยิ่ง_ครับมีแต่แขมร์_ผู้อ่อนแอ_เป็นทาสรีบใช้_เป็นผู้อ่อนแอที่สยามต้องดูแลปรกป้องไม่อย่างนั้นก็สูญพันธุ์_ไตอัสัมถึงต้องมีประเภณี_แมดั้มแมผี_คำว่าแมร์คืออ่อนแอไม่สามารถปกป้องดูแลตัวเองจึงต้องให้คนที่มีความรู้และเก่งเป็นคนดูแล_ครับ
วันนี้ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ผมดูตอนนี้ ของท่านอาจารย์ 4 รอบ แล้วครับ ทำให้เข้าใจการเรียงลำดับชัดเจนขึ้น ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่สุด ครับผม
โห....สุดยอด ขอบคุณที่ติดตามครับ
ขอบคุณครับอาจารย์
ยินดีครับ
อาจารย์ อยากให้อาจารย์เล่าจารึก ชาวสยาม ที่จามปา หน่อย ในช่วง 1700
จะลองตรวจดูครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์ ติดตามตลอดครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณอาจารย์ สำหรับความรู้ดีๆนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
นั้นหมายความว่า ปรางค์แขกที่ลพบุรีเก่ากว่าปรางค์สามยอดและเก่ากว่านครวัดอีกรึครับอาจารย์
ใช่ครับ เก่าที่สุดในภาคกลาง
@@taspien ขอบคุณครับ
😁 ขอบคุณครับอาจารย์ ❤
ขอบคุณที่ติดตามครับ
เล่าเป็นตุเป็นตะ
เขาหาเรื่องราวหรือค้นพบบันทึกจากไหนเหรอครับอ.
จารึกแม่บุญ จารึกบัดชุม จารึกแปรรูปครับ
น่าจะเขมรโบราณฯฯฯฯ.......ตามก้นฝรั่งเศส ศ.ดร.ยอสเชเด
:)
ต้องบอกเขมรว่าอย่าเครม ส่วนไทยยอมรับว่า รับวัฒนธรรมมาจากอินเดีย.ไม่ใช่เอามาจากเขมร.
ครับ
เสียดายตรงฝั่งเจ้าพระยาไม่มีหินดีๆแบบฝั่งโขง ถ้ามีปราสาทฝั่งเจ้าพระยาก็เยอะไม่ใช่น้อย
ครับ
ติดตาม ตลอด ชอบ ส่วนมากรับรู้จากคำบอกเล่า แบบตำนาน เมือง ภีมะปุระศรีจนาศ โคราช จำมาแต่เด็ก
ขอบคุณที่ติดตามครับ
❤
ขอบคุณครับ
อาจารย์ให้ข้อคิดใหม่อีกแล้ว การหล่อหลอมอารยธรรมอาจไม่ได้เกิดจากแค่สองอาณาจักร .. ปราสาทมีรายละเอียดสวยงามแต่เห็นเขาทำประตูเหล็กแล้วไม่สบายใจเกรงว่าปราสาทจะชำรุด
อืมมม ครับ
ชื่อที่ลงท้ายด้วยวรมัน เป็นธรรมเนียมการตั้งชื่อของอินเดียทางภาคใต้ แคว้นทมิฬนาฑู
ครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ฉันทัส
สวัสดีครับคุณ naporn
เขมร ไม่ยอม คนไทย ก็ไม่ยอมเช่นกัน
ครับ
❤❤❤❤
ขอบคุณครับ
สวัสดีนะคะอาจารย์
สวัสดีครับ
ทำสถิติให้ตัวเอง เม้นท์เป็นคนแรก 11 นาที … อิอิ
เยี่ยมเลยครับ
👍👍👍🌹🌹🌹
ชักอยากฟังข้อมูลปรางค์ฤาษีที่ใกล้ๆเมืองศรีเทพขึ้นมาเลย ขออภัยนะครับ ถ้าอาจารย์เคยทำคลิปปรางค์นั้นไว้ก่อนแล้ว
ไม่เคยทำครับ
ปรางค์ฤาษี พศว.16 (พ.ศ.1501-1600) เป็นปรางค์ที่มีชั้นซ้อนแปลกกว่าเพื่อน ไม่แน่ใจว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน ผมจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ
อาจารย์พระเจ้าราเชนทร์วรมัน เป็นกษัตริย์สายจันทวงศ์ ราชวงศ์โกณฑัญญะ ส่วนแคว้นกัมโพช คือสุริยะวงศ์ แสดงว่าพระเจ้าราเชนทรวรมัน ยกทัพมายึดฝ่ายสุริยะวงศ์ (ที่เรียกว่ารามัญหรือเปล่า)
ที่ว่า กัมโพช คือ สุริยวงศ์นั้น มาจากเอกสารสมัยหลังๆ ช่วง พศว.19-23 หรือเปล่าครับ
โดยส่วนตัว ผมรู้สึกว่ากษัตริย์ยุคหลัง พยายามจะโหนชื่อเสียงพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และ 2 โดยแต่งตำนานย้อนยุคทำนองว่า ภาคกลางของเราคือถิ่นของสุริยวงศ์
ทั้งนี้ ถ้าตัดเอกสารสมัยหลังๆ ออกไป และตีความจากจารึกช่วง พศว.15
ผมมองว่า
1. พระเจ้าราเชนฯ ปราบพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 และกลุ่มอำนาจต่างๆ ที่แตกเแถว ในช่วง พ.ศ.1487-1500
2. บุรีรัมย์กับโคราช ถือเป็นเมืองที่ติดต่อกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 อยู่ก่อน ด้วยพบจารึกกล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พระเจ้าราเชนฯยกทัพไปปราบ
3. กรณีของการไปตีละโว้ ผมมองว่าท่านต้องการขยายอำนาจโดยไปให้ไกลกว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 โดยไม่ว่าศึกครั้งนี้จะเป็นการยึดเมืองหรือดองเมือง แต่การไปถึงเมืองละโว้เท่ากับว่าปิดประตูไม่ให้ขั่วอำนาจเก่าเหลือพื้นที่หายใจได้อีก
ดังนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า ไม่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องจันทรวงศ์-สุริยวงศ์ครับ
@@taspien แต่ที่ศรีเทพ ก็มีหลักฐาน เกี่ยวข้องกับราเชนทร์วรมัน นิ ทำไม หนูมีความคิดว่า ดินแดนแถบลุ่มเจ้าพระยา กับแถวเมืองศรีเทพ เป็นเมืองนึง ที่เคยเป็นอาณาจักรเดียวกันแต่ต่อมาแยกเป็นอีสานปูระ กับทวารวดี ยังไงไม่รู้ มีทั้งรายนามกษัตริย์ ก็เกี่ยวข้องกัน
สุริยวงศ์กับจันทรวงศ์ที่กล่าวมา คือเชื้อสายวงศ์ในรามายณะกับมหาภารตระไหมครับ
ผมเคยเห็นของโบราณเป็นดาบลักษณะเหมือนพระขรรน์ในรูปวาดภาพศิลปะไทย
ทำด้วยทองแดง น่าจะยาวประมาณ60เซนติเมตร
แต่ที่ทำให้ทึ่งมากๆคือดาบถูกหล่อเป็นชิ้นเดียว
ตรงปลายด้ามจับนั้น้เป็นรูปหน้าคน3หน้าเหมือนยอดประสาทนครวัดเลยทีเดียว
เจ้าของเขาเล่าว่าได้มาจากพระวัดนึงให้มา
ครับ
การเอ๋ยนามเป็นการสรรเสริญ กล่าวนามเยอะ แสดงว่าเหนือสิ่งอื่นใด เคารพมาก🌷🌷🌷ผมคิดเองนะครับ อ.
ครับ
(1/5)
ราชวงศ์มหิธรปุระแห่งอีสานใต้
1. กิ่งพระเจ้าชัยวีรวรมัน พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ตระกูลขุนนางทางพิมาย
2. กิ่งพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ตระกูลพนมรุ้งบุรีรัมย์แน่นอน
3. มาอีกกิ่งหนึ่งที่แซ่บไม่แพ้กัน พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 สู่ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (โอรสของพระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 พระองค์สมรสกับพระราชธิดาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 คือ พระนางศรีชัยราชจุฑามณี พระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 )
(ยโสรธรปุระ พิมาย ละโว้ มีความสำคัญ ผู้ที่ขึ้นครองบัลลังก์เมืองสำคัญเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีภูมิลำเนาสืบสันติวงศ์ หรือต้องเกิดที่เเมืองนั้นนั้น ใช้วิธี ปราบดาพิเสก เอา เช่น ราชวงศ์ในกรุงอยุธยา ขั้วมาจาก ทางอีสานพิมาย คุมละโว้หาทางออกทะเลบ้าง ทางตะวันตกสุพรรณบ้าง ทางเหนือสุโขทัยบ้าง)
จารึกแม่บุญตะวันออก
โศลกที่ 201-218 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ทรงถวายเครื่องใช้สอยและสิ่งต่างในการประกอบพิธีกรรมยนภูเขาสิทธศิวะปุระ สร้างศิวลึงก์และรูปประติมากรรมให้แก่พระราชบิดาและพระราชมารดา ทำพิธีเบิกเนตรเทวรูปทั้งหลายทั้งในที่อื่นด้วยพร้อมด้วยของบูชาหลายอย่าง
เปรียบเทียบกับจารึกตาเมือนธม6 ด้านที่ 2
ปฺรธาน เนะ….ส มนฺ ชฺวนฺ ปฺโรหิเต คินา สฺวตนฺตฺร คิ กลฺป นา……
……จรณามวฺชไน ปรฺ ธาน เนะ กลฺปนา ต กฤตฺกฤตฺย โววํ ชาปิ โหจฺ เจรนฺ
…..อรฺถ มานฺ อญฺ นิเวทนฺ โววำ ชาปิ โยกฺ จํเมฺรน โอยฺ อรฺย ไทฺ
………
……..
กํ มฺรเตง ศิวโลก อายฺ ติ ลิลาจฺ ปิทุกฺ จฺวลฺ ตฺ ปฺรศสฺต จํนํ สใม….. กลฺปนา ยชฺญ ลิละวฺยรฺโตยฺ
………
…….
อายฺ ติ ลิจฺลาจ ววํ อาจฺ ติ มานฺ ต กฺวนฺ เจาวฺ มฺวาย …….รฺยฺย นุว…….
แปล: ผู้เป็นประธานนี้…..ให้ปุโรหิตที่อยู่ถายใต้บังคับบัญชา สร้าง
……….. พระจรณามพุชะ(พระผู้มีดอกบัวที่พระบาท) ใน (ปราสาท) ที่เป็นประธานนี้ แล้วกระทำบุญกรรม วิธีอย่าให้เสื่อมลง มีแต่เจริญขึ้น
พระกรมเตงศิวโลกที่อยู่ลิลาจ(พื้นที่ลุ่ม) มีกระแสรับให้ถวายเครื่องบูชา 2 ลิ กับพระ ลิ……………………
………..ที่ลิลาจ อย่าให้มีลูกหลานทั้งสอง…………………
วิเครา:ห์:
ทำไมจารึกนี้สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 แต่กล่าวถึงพระบาทกมรเตงศิวโลก คือ พระเจ้าราเชนทราวรมันที่ 2 (มีคำตอบถัดลงไป)ดังที่กล่าวข้างต้น พระองค์ได้ถวายวัตถุสิ่งของแก่…… ที่ลิลาจ จารึกด้านที่สองนี้ไปสอดคล้องตรงตามจารึกปราสาทแม่บุญ จารึกแม่บุญตะวันออกโศลกที่ 201-218 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ทรงถวายเครื่องใช้สอยและสิ่งต่างในการประกอบพิธีกรรมยนภูเขาสิทธศิวะปุระ
(2/5)
ชื่อเมืองสิทธิปุระ( ชื่อทางการ) ปรากฎหลายแห่งในจารึกตาเมือนธม เช่น
จารึกตาเมือนธม 5 ด้าน ที่ 1 มีการกล่าวชื่อเมืองนี้อย่างชัดเจน
“งฺโคล ภูมิ สิทธิปุรปิ โอฺย ปรฺสาทต เตงฺ ตวนฺ ปิตฺ เถว นา เถว จํนำ ต คิ วฺระ กมรเตง อญฺ นา ตรีณิยฺ”
แปล: ปักหลักเขตเพื่อเป็นของกำนัลแก่เตงตวล นามว่า ปิตวะ ที่ทำงานประจำกับพระกมรเตงชั้นตรี
กลับมาที่จารึกตาเมือนธม 6 ด้านที่ 2
กล่าวว่า พระจรณามวุชะ (พระศิวะ หรือ พระพรหม) อยู่ที่ปราสาทประธานนี้ ฉะนั้น พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ได้ถวายวัตถุสิ่งของแก่พระศิวะหรือพระพรหมที่ประดิษฐานอยู่ที่ปราสาทนี้เอง ปราสาทนี้ตั้งอยู่ที่ลิลาจ เราพบจารึกนี้ที่ปราสาทตาเมือนธม ฉะนั้นปราสาทพระประธานคงหมายถึงปราสาทตาเมือนธมและสถานที่ตั้งปราสาทตาเมือนธมในสมัยพระเจ้าราเชนทราวรมันที่ 2 เรียกว่า ลิลาจ นั่นเอง นั่นก็แสดงว่าสมัยพระเจ้าราเชนทราวรมันที่ 2 ( พ.ศ. 1487 - 1511 ) เทวสถานบริเวณนี้ (สวยัมภูลึงค์)ได้มีมาก่อนแล้ว รองรับเหตุผลที่ว่าปราสาท ปราสาทตรงนี้สร้างขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 แต่ได้ชำรุดทรุดโทรมพังทลายลงมา จึงได้มีการสร้างขึ้นให้ในพุทธศตววษที่ 15 เป็นต้นมา
เหตุใด พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ได้เล่าย้อนกลับ ไปถึงพระบาทศิวโลกที่จารึกปราสาทตาเมือนธม ?
จารึก สด็อกก๊อกธม 2
บรรทัดที่ 47-48 ได้มีการกล่าวอ้างถึงสายสกุลของพระเจ้าอุทิตยวรมันที่ 2 (โอรสของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1) ว่าได้ครองราชสมบัติ เพราะสืบเชื้อสายทางฝ่ายพระมารดา ซึ่งเริ่มตั้งแต่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เป็นต้นมา จารึกกล่าวว่า “เนื่องจากเสี้ยวพระจันทร์ถูกครอบงำ แต่มีภาวะเป็น อมร แยกจากจันทรวงศ์”
ครั้นหนึ่งชวา ศรีวิชัยยา รุกรานเขมรโบราณ ได้นำทรัพย์สิน สตรีรูปงามกลับศรีวิชัยยาด้วย บรรดาหนึ่งในสตรีรูปงามเหล่านั้นเป็นพระธิดาของพระนางปราณา อัครมเหสีของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ถูกนำตัวไปเป็นชายาของเจ้าศรีวิชัยที่นครศรีธรรมราช ภายหลังได้มีพระโอรสองค์หนึ่งพร้อมกับกองกำลังจากตามพรลิงค์มายึดเขมรโบราณได้สำเร็จ นั่นก็คือ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จารึกจึงกล่าวว่าเป็น อมร หลังจากแยกจากจันทรวงศ์ (ราชวงศ์เจนละ) อ้างอิงหนังสือแปลจารึกของ ชะเอม คล้ายแก้ว
ถึงตรงนี้ เรารู้แล้วว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เกี่ยวข้องอย่างไรกับพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2
ในจารึกตาเมือนหลายหลักของ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 มีการการถึง พระชนก พระชนนี ในจารึกตาเมือนธมเช่นกัน เช่น จารึกตาเมือนธม4 ด้านที่ 1 ตฺ ศิวปาเท ปศฺจิม ต คิ ธรรมคุรุ ชนไท นุ ชนนิยมไทนุ มฺรตา-
แปล ศิวบาปในทิศตะวันตกที่ธรรมคุรุ ชนก ชนนีร่วมกับมรตาญ
(ในจารึกหลักนี้มีความสำคัญมาก เผยให้เห็นถึงตัวละคร ข้าราชการขุนนางชั้นสูงที่สำคัญในจารึกหลักนี้ เช่น พระบรมบพิตรกัมเสตงอัญ ศรีราเชนทรวรมัน น่าจะเป็นขุนนางในแถบนี้ ไม่น่าใช่ พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 คนสมัยก่อนเขาจะชอบตั้งชื่อซ้ำๆกันเหมือนบรรพบุรุษแบบทางยุโรป มรตาญศรีนฤเรนฤเปนทรวัลลภ(น่าจะหมายถึงเมืองแขกที่อาจารย์กล่าวถึง) มรตาญศรีอีศานวรมัน มรตาญศรีราเชนทรบัณฑิต มรศรีทักษิณตินโทรกัลปะ นอกจากนั้นแล้วจารึกตาเมือนธม 5 ยังมีชื่อ พระบรมบพิตรกัมเสตง ศรีชยสิงสวรวรมัน ได้ประกาศพระอาลักษณ์ แก่พระกัมรเตงอัญ กัมเสตงสภาบดี ชั้นตรี ให้ติดตามรับใช้พระสภา พระหรปาลไป )
(3/5)
จารึกอีกหลักที่ช่วยทำให้เราเข้าใจมากขึ้นคือ จารึกภูมิโปน สร3 (ด้านที่ 2) อายุจารึกประมาณ พศว 16 ตรงกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 เป็นภาษาสันสกฤต
(ทองเหลือง บุญพร้อม 2536: 38)
“ศักราชขึ้น 3 ค่ำ ….. มีพระราชองค์การฝ่าละอองธุลีพระบาท….ปกเกล้าปกกระหม่องพระกํมรเตงอัญ ….ศรี ชยวรมเทวะ ….. กับ กํมรเตง…… ใช้ให้บอกกล่าว(มีพระบันทูล)…..ศรีนาถ ……แต่งตั้ง ดังนี้ ประกาศ ……กฤตัชญนครใน ….”
คำสำคัญของจารึกคือคำว่า “กฤตัชนคร” กฤตัชญ และ นคร ส่วนคำว่า กฤต แปลว่า อันคนอื่นทำแล้ว และคำว่า ชญา แปลว่า รู้ ตรงกับภาษาสันสฤตว่า “กตัญญู” ดังนั้น กฤตัชญ จึงแปลว่า รู้ถึงอุปการะ ที่คนอื่นทำให้แล้ว คำนี้เป็นคำมงคล ที่นำมาตั้งชื่อเมือง จึงสันนิษฐานว่า พระมหากษัตริย์สมัยพระนคร คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ทรงโปรดพระราชทานนามเมืองให้ชุมชนโบราณเมืองภูมิโปน เพื่อเป็นเกียรติยกย่อง เมืองนี้เป็นเมืองที่พระเจ้าจิตรเสนหรือพระเจ้ามเหนทรวรมันเคยประทับและบริหารเมืองแถบนี้ พระองค์จึงตระหนักกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
จารึกตาเมือนธม 4
มีการเล่าย้อนครั้นพระราชาเสด็จสู่บรมวีรโลก ( พระเจ้าชัยวรมันที่ 5) ตามกาลา โขลญพลสวด ชื่อภัทรวยาหิกับเตทมาทวิธีและมรตาญนฤเปนทรวัลลภ ร่วมกันซื้อที่ดินป่าสตุกโวละถวายแก่บาทมูลกัมรเตงชคัต (บรมวีรโลกคือพระเจ้าชัยวรมันที่5 พระโอรสของพระเจ้าราเชนทรวันที่2) มีการถวายสิ่งของ ห้องเต้นรำมากมาย
อายตฺว ตฺ ไทยฺ ติ ต ค ราช วฺระ ปาท สฺตาจฺ เทา
แปล: อย่าให้คนอื่นดูแล เมื่อพระราชา เสด็จสู่บรมวีรโลกแล้ว
จารึกภูมิโปน สร3 (ด้านที่ 2) อายุจารึกประมาณ พศว 16 ตรงกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ภาษาสันสกฤต
(ทองเหลือง บุญพร้อม 2536: 38)
“ศักราชขึ้น 3 ค่ำ ….. มีพระราชองค์การฝ่าละอองธุลีพระบาท….ปกเกล้าปกกระหม่องพระกํมรเตงอัญ ….ศรี ชยวรมเทวะ ….. กับ กํมรเตง…… ใช้ให้บอกกล่าว(มีพระบันทูล)…..ศรีนาถ ……แต่งตั้ง ดังนี้ ประกาศ ……กฤตัชญนครใน ….”
คำสำคัญของจารึกคือคำว่า “กฤตัชนคร” กฤตัชญ และ นคร ส่วนคำว่า กฤต แปลว่า อันคนอื่นทำแล้ว และคำว่า ชญา แปลว่า รู้ ตรงกับภาษาสันสฤตว่า “กตัญญู” ดังนั้น กฤตัชญ จึงแปลว่า รู้ถึงอุปการะ ที่คนอื่นทำให้แล้ว คำนี้เป็นคำมงคล ที่นำมาตั้งชื่อเมือง จึงสันนิษฐานว่า พระมหากษัตริย์สมัยพระนคร คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ทรงโปรดพระราชทานนามเมืองให้ชุมชนโบราณเมืองภูมิโปน เพื่อเป็นเกียรติยกย่อง เมืองนี้เป็นเมืองที่พระเจ้าจิตรเสนหรือพระเจ้ามเหนทรวรมันเคยประทับและบริหารเมืองแถบนี้ พระองค์จึงตระหนักกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
คำว่า กฤต ก็เจอใน จารึกปราสาทตาเมือนธม1 พศว. ที่ 13-14
๑. ศิว . . . . . . . ติภิรฺทฺเทวการฺยฺยานิ การเยตฺ
๒. กฤต.........สายุชฺยํ(๑) ศิวมาปยาต
แปล
๑. พึงให้ทํางานเกี่ยวกับเทพ ด้วย . . . . . . . . . พระศิวะ
๒. ท่านทั้งหลายพึงถึง(อันคนอื่นที่ทำแล้ว)พระศิวะ โดยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเทพเจ้า . . . . . . . . ตามกรรมที่กระทําแล้ว
(๑)สายุชฺยํ เป็นขั้นตอนหนึ่งของการได้รับผลกรรมตามหลักปรัชญาธรรมของอุปนิษัท ซึ่งไศวนิกายได้นำมายึดถือปฎิบัติคือ เมื่อทำกรรมใดลงไปแล้ว การจะให้ได้รับผลกรรมสมบูรณ์ต้องให้อาตมันไปอยู่ในภพหรือภูมิที่มีการให้รางวัลหรือลงโทษ เช่น ตกนรก ขึ้นสวรรค์ (ดูเพิ่มเติมใน ชะเอม แก้วคล้าย จารึกประสาทตาเมือนธม ศิลปากร 42, 2 มีนาคม เมษายน 2542:71-72)
“ศิวลึงค์” เป็นที่สถิตการรวมเป็นหนึ่งกับเทพเจ้าของกษัตริย์ การไปสถิตอยู่ที่ศิวลึงค์หลังการสวรรคตตามลัทธิเทวราชนั้น ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักพิงของดวงพระวิญญาณเท่านั้น เพราะองค์ศิวลึงค์ยังทำหน้าที่เป็น “ร่างเสมือน” (substitute body) คือร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นผ่านพิธีกรรม สำหรับใช้เป็นเหมือนกับร่างกายใหม่ในโลกหน้าของกษัตริย์พระองค์นั้นนั้น
(4/5)
จารึกอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์กิ่งนี้
จารึกอโรคยาคศาลปราสาทบ้านปราสาทกังแอน ใกล้กับปราสาทหมื่นชัยหรือมีชัย อ.สังขะ
ด้านที่1 โศลกที่2 ระบุว่า
“อาสีนฺนฤปศฺศรีธรณีนฺทวรมฺม
เทวาตฺมชศฺศฺรีชยวรฺมฺมเทวะ
ชาโตชยาทิตฺยปุเรศวรายำ
เวทามฺวไรเกนทุภิราปตราชฺยะ”
แปล “ ได้มีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งนามว่า ศรีชัยวรมัน ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าธรณีนทรวรมัน (2) ผู้ประสูติแต่เจ้าหญิงแห่งเมืองชยาทิตยปุระผู้ได้รับราชสมบัติ เพราะพระจันทร์ที่ประเสริฐบนท้องฟ้าคือพระเวท
ช่วงที่เจ้าชายศรีชัยวรมันทำศึกกับกษัตริย์จามปาชนะแล้วที่พระนครศรียโสธรปุระ
การจะทำสงรามชนะจามปานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พระองค์ต้องซ่องสุมเตรียมกำลังช้าง ม้า วัวลากกวียน ผู้คน กองกำลัง อาวุธมากมาย แน่นนอนว่าต้องเป็นการซ่องสุมกองกำลังอยู่อีกฝั่งของเทือกเขาดงรักหรืออีสานใต้นี่แหละ ฝั่งจามปาและทะเลสาปหลวงถูกพวกจามปาครอบครอง ครอบงำไว้หมดแล้ว ไม่สามารถสะสมกำลังในฝั่งนั้นได้แน่นอน เพราะใกล้เมืองหลวงมาก 100กว่า กิโลเดินทางเท้าวันเดียวก็ถึง เสี่ยงต่อการลอบโจมตี (ต่อมามันจึงเกิดบันทายชมาร์ ค่ายหน้าด่าน เส้นราชมรรคา) สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ยังรบแพ้จามปาเลย ถ้าไม่พร้อม ไม่วางแผนการรบที่ดี (สงสัยคือศรีวิชัยยา(ฟูนันเก่า)มายึดท่าเรือจามปาได้ทั้งหมดแล้ว)
เจ้าชายชัยศรีวรมันก็ต้องกลับบ้านเกิด เขตอิทธิพลปกครองของสายกิ่ง พระองค์ แถบตาเมือนธม สังขะ สุรินทร์
มันชื่อว่า ลำห้วยทับทัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน จริงๆแล้วมาจากชื่อ กองทัพทัน (ถ้าแปลมาเป็นไทยแล้ว) ลำห้วย(กอง)ทัพทัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วย(กอง)ทัพทันนั่นเอง จะมีชื่อหมู่บ้านที่ขึ้นด้วยคำว่า ทัพ อีกหลายแห่ง เช่น ทัพกระบือ พวกนี้คือเตรียมไปรบทั้งหมด แม้กระทั่งปราสาทภูมิโปน (ตรงนี้ชื่อ “กฤตัชนคร”) ในความจดจำของผู้คน ตรงนี้คือที่ซ่องสุมกองกำลัง หลบซ่อน สายราชวงศ์ ของกลุ่มเจนละมาช้านานแล้ว ตรงปราสาทบ้านปราสาททนง ขุดเจอโครงกระดูก เหล็กตะกรันมากมาย สมัยร่วมปราสาทพนมวัน แต่พอมายุคเจนละ ผู้คนตรงนั้นกลับหายไป มีการไปซ่องสุม ไปจัดตั้งอาณาจักรข้างหรือไม่ มาโผล่อีกทีคือสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ได้มาสร้างปราสาท ศิลปะสมัยพระองค์
พบจารึกวัดจุมพล2 ด้านที่1 (บางส่วน) ระบุว่า อำเภอเมืองสุรินทร์ กล่าวว่าถึงเจ้าชายศรีชัยวรมันได้ทำสงครามชนะจามปา
ระบุว่า
“เทวาตฺมชศฺศฺรีชย วรฺมฺมเทวะ เวทามฺวไรเกนทุภิราปฺต ราชฺยะ ปาทามฺวุชสฺสํยติสํหฺฤ ตาริะ”
แปล: พระเจ้าศรีชยวรมเทวะผู้เป็นโอรสของพระเจ้าธรณีนทรวรมัน(2) ผู้ได้รับราชสมบัติเพราะพระจันทรอันยอดเยี่ยมบนท้องฟ้าคือพระเวท พระองค์ผู้มีพระบาทเหมือนดอกบัวเป็นเครื่องประดับ ผู้มีศัตรูอันพระองค์ทรง”ชนะ”แล้ว
ภูมิโปนเป็นชุมชนเก่าแก่และมีชุมชนโบราณ พระเจ้าจิตรเสนมีการซ่องสุมกำลังแห่งเทือกเขาดงรักที่นี่ วัดพูเป็นแค่เทวสถานศักดิ์สิทธิของจามปาและเจนละมาก่อนและตรงนั้นมันแคบ ไม่ได้มีผู้คนหนาแน่น ต้นถิ่นฐานในยุคก่อนประวัติศาสตร์เหมือนภาคอีสานรวมถึงศรีเทพเป็นต้นมา การจะมีอำนาจทางการค้า การเมือง นั้น ทางการทหารจำเป็นต้องพร้อมและมีความแข็งแรงมากที่สุด
จารึกปราสาทตาเมือนธม 9 ด้านที่ 1
วายวฺยามาลาสนาทฺยะ อิศานฺยำ คหุราคไชยะ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีช้างจำนวนมาก
(5/5)
พระเจ้าชัยวรมันที่ 3 (สวรรคต พ.ศ. 1420) พระนามเดิมว่า ศรีชัยวรมัน
ชื่อนี้มีปรากฎที่จารึกปราสาทตาเมือนธมหรือพระนามเต็มว่า พระกมรเตงอัญศรีชัยวรมันเทวะ (วฺระ กํมฺรเตงฺ อญฺ ศรีชยวรฺมฺมเทว) เป็นพระราชโอรส และผู้สืบราชบัลลังก์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรพระนครพระองค์ที่ 2
คำจารึกจากปราสาทที่อื่นอธิบายว่า: "เมื่อพระองค์ล้มเหลวในการจับช้างป่าขณะล่าสัตว์ พระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะจับสัตว์ได้ถ้าพระองค์สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์" ไม่มีใครพูดถึงปราสาทที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์สวรรคตในปี พ.ศ. 1420 อาจเป็นช่วงการจับช้างป่า
ส่วนจารึกปราสาทตาเมือนธม 9 ด้านที่ 2
…….น โส โตยฺ อิศาน ปฺรสป จักระเทะ โตยฺ อุตฺตร ลฺวะ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีหมูป่าจำนวนมาก
เป็นจารึกที่กล่าวถึงก่อนและหลังสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่3 บริเวณปราสาทตาเมือนธม ทิศอีสานของปราสาทตาเมือนธมคือห้วยจำเริง ห้วยทับทัน บ้านภูมิโปนในปัจจุบันนั่นเอง แม้กระทั่งห้วยเสนง (เสนง แปลว่า เขาสัตว์) บริเวณแถบนี้คือแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ โป่งเกลือขนาดใหญ่ของสัตว์ป่านั่นเอง พระเจ้าชัยวรมันที่ 3 น่าจะทรงมาจับช้างป่าบริเวณนี้
นักประวัติศาสตร์ไทยควรให้ความสำคัญกับการกัลปนาในดินแดนอีสานใต้ จะหมายถึงการขยายอำนาจของกษัตริย์แต่ละสาย แต่ละกิ่งด้วย เขาจะมีเสาปักหลักอย่างชัดเจน ว่าใครจะปกครองตรงไหน ขึ้นกับเทวสถานใด เขาไม่ได้อยู่แบบคนป่า หากินไปเรื่อย เช่น กาลปนา ตาเมือนธม จะไปไม่ถึงแถบพนมรุ้ง และกาลปนาพนมรุ้งจะไปไม่ถึงเขาสวาย ถึงแค่บ้านตลุง เขาจะมีการแบ่งชัดเจน คำว่า “จังหวัด” คือคำเขมร พบที่จารึกพนมรุ้ง เขารู้จักแบ่ง จังหวัด หมู่บ้าน มานานแล้ว นักประวัติศาสตร์ไทยยังไม่รู้เรื่อง
ได้ข้อมูลเยอะเลย ขอบคุณครับ
อาจารย์จะมองอย่างนั้นก็ได้ แต่หนูมองว่า แรกเริ่มอารยธรรมมีคนอินเดีย มาสร้างบ้านแปลงเมือง เอาวิทยาการมา เอาคนพื้นถิ่นเป็นประชากร หนูไม่ทราบหรอกว่า สายไหนเป็นสายตรง สายอ้อม แต่ที่แน่ๆ ในกัมพูชาโบราณ มีการผสม ทั้งอินเดียอัมราวดี ศรีวิชัย ทมิฬ ผ่านอาณาจักรโจฬะ ก็เลย ผสมๆ แต่ บ้านเมืองไหนสืบสาน รักษา และต่อยอด มาได้ จนถึงปัจจุบัน หนูก็ว่า บ้านเมืองเรา นี่แหละ ที่เข้มแข็ง รักษามาได้ ขนาดนี้ ..... แต่การอีกบ้านเมืองนึง มาขี้ตู่ เอาศิลปะกรรมปัจจุบัน เป็นของตนเอง มันใช่มั้ยละ
ผมแยกเป็น 3 ยุคละกันครับ
1. ยุคก่อนเมืองพระนคร กัมพูชารับอินเดียใต้มาเยอะ ทั้งอารยธรรมและผู้คน มีชวาและภาคใต้เราเป็นสถานีผ่าน
2. ยุคเมืองพระนคร เมืองในท้องถิ่นหลายแห่งลืมตาอ้าปาก มีหลายวงศ์ที่ดองกัน แต่วงศ์หลักคือ ชัยวรมันที่ 2
3. ยุคหลังเมืองพระนคร กษัตริย์กรุงศรีอยุธยากวาดต้อนเจ้านาย+ช่างฝีมือ จากเมืองพระนครฯ แต่ก็ผสมเข้ากับผู้คนชาติอื่น เช่น มอญ จีน ไท ฯลฯ สร้างสรรค์เป็นงานศิลปวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ของอยุธยาเอง เป็นงานในคติพุทธเถรวาท โดยเป็นงานที่ "คิดใหม่ ทำใหม่" ให้สอดรับกับบริบทของกรุงศรีอยุธยา เช่น ปรางค์พระธาตุ แบบแผนทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม พระราชพิธี นาฎศิลป การละคร การละเล่น เครื่องแต่งกาย ฯลฯ
มรดกวัฒนธรรมของเมืองไทย ที่ฝรั่งชื่นชมในปัจจุบัน จึงเป็นงานที่ "คิดใหม่ ทำใหม่" ในสมัยอยุธยา-รัตนโกสินทร์ ไม่มีชิ้นไหนที่เป็นมรดกของกัมพูชาโบราณเลย
@@taspien ใช่ค่ะ ศิลปะกรรมพัฒนาไป จนไม่เหมือน ขอม กัมพูชาโบราณเลย แต่ ข้างบ้านเราจะคิดแบบนั้นมั้ย อีกเรื่องนึง
@@taspien ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
@@taspienอาจารย์อธิบายเข้าใจเลยค่ะ ไทยเนาพัฒนามาเกินกว่าที่จะไปสนใจเรื่องเหล่านี้แล้ว
@@taspienชอบที่อาจารย์ใช้คำว่าคิดใหม่ ทำใหม่ นั่นแสดงว่าบรรพชนของเรามีความคิดสร้างสรรค์ เสมือนการปฏิวัติทางศิลปะและวัฒนธรรมยิ่งกว่าการต่อยอดในระยะเวลาสั้นๆเสียอีก อย่างเช่นจากรามายณะก็ถูกแต่งเนื้อหาใหม่และดัดแปลงจนกลายมาเป็นรามเกียรติ์ ทำให้คนไทยมีรากเหง้าที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะพัฒนาไปกับโลกสมัยใหม่ๆได้ดี
พระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมันคือใครคับ ทำไมในวิกิบอกเป็นคนจีน
แปลกจัง ไม่น่าใช่นะครับ
ขอไปดูข้อมูลก่อน
รวมๆเรื่องราวดูแล้ว เป็นอาณาจักรร่วม ไม่ใช่ของเขมรปัจจุบัน แต่เป็นชาติพันธ์โบราญที่รวบรวมหลายชนเผ่าเข้าด้วยกัน
ครับ
ท่านอาจารย์ครับ ทำไมปราสาทหลายๆ องค์ในกัมพูชา ถึงมีชื่อเป็นแบบไทยๆ แท้ หลายที่ เช่น แม่บุญ นาคพัน ฯลฯ ครับ อย่างเช่น แม่บุญ ผมว่า เป็นคำไทย แท้ๆ เลย หรือว่า มันคำที่ใช้ร่วมกันมาแต่โบราณครับผม ขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ
สวัสดีครับ
เป็นคำเรียกสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยครับ แต่คำท้องถิ่นจริงๆ เป็นสำเนียงเขมร เช่น บันเตียเสร่ย เราออกเสียงเป็นบันทายศรี ปราสาทแมบอน เราออกเสียงเป็นปราสาทแม่บุญ
เมื่อไรจะแยกคำว่าขอมออก จากเขมร
ไม่ใช่นะ ทฤฒภักดี อ่านผิดนะ เขาอ่าน เทอ ฤู่ ภัง เด้ คือ=ท , เทอ หัวหน้า ผู้ใหญ่ ผู้เป็นใหญ่ ผู้นำ =ฤฒ , ฤู่ ใหญ่ = ภัก , ภัง ชั้น รุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นปู่ ขั้นรุ่น ขั้นพี่น้อง + ดี , เด้ ก่อนแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ทุกชั้นรุ่นก่อนนี้ ไม่ได้แปลว่าภักดียิ่ง อยากรู้ถามเจ้าของภาษาก่อนได้เปล่า มั่วมิ่นไปหมด(ยู ไลย์)
บรรพบุรุษเราเป็นขอมที่มีศิลปวัฒนธรรมอันล้ำเลิศ.เขมรเป็นทาสเรา
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ
กัมปูชาโบราณไม่มีครับ_เขมร_โบราณ_ก็ไม่มี_ครับ_มีแต่คำว่ากระเม็นภารัฐ_ครับ_กระเม็นภารัฐ_เป็นคำที่เรียกวัฒธรรมที่มาจาก_ภารัฐครับตอนนั้นไม่มีอินเดียครับ_อินเดียมีตอนตะวันตกมาล่าอณานิคมครับ_เป็นนักโบราณคดี_ต้องแยกเวลา_ผู้คน_สถานที่_และ_ภูมิศาสน์_เอาแขมร์_เอาเขมร_เอาขอม_มารวมกันทั้ที่เป็นคนเผ่าพันธุ์_แต่ไม่พูดถึงที่มาของวัฒนธรรม_มันก็เหมือนภายเรืออยู่ใน อ่างเรื่องง่ายๆก็จงทำให้ง่ายๆดีกว่สครับ
😂เอะอะก็อินเดีย อินเดียเผ่าไหนละครับ เผ่าไหน ที่เป็นอินเดียแท้ครับ คุณพี่
อาจารย์ครับ มีร่องรอยในเมืองศรีเทพบ้างไหมครับ
มีนิดหน่อยครับ
ส่วนของเมืองศรีเทพที่เกี่ยวข้องกับสมัยพระเจ้าราเชนฯ คือ โบราณสถานหมายเลข 2 และ 1 (ซึ่งก็คือปรางค์ฤาษี)
1. รายงานการขุดค้นโบราณสถานหมายเลข 2 ซึ่งตั้งอยู่ข้างปรางค์ฤาษี กำหนดอายุอยู่ในช่วงศิลปะแปรรูป-เกลียง ตรงกับรัชกาลพระเจ้าราเชนฯ-สุริยวรมันที่ 1
2. มีจารึกที่พบในโบราณสถานหมายเลข 2 กำหนดอายุอยู่ พศว.16
3. อ.วรณัย เห็นว่าโบราณสถานหมายเลข 2 + ปรางค์ฤาษี มีอายุอยู่ในช่วงประมาณพระเจ้าราเชนฯ + - ดูจากส่วนฐานยังเป็นแบบเก่า
หากมองตามนี้ ก็ตั้งข้อสงสัยได้ว่า คราวพระเจ้าราเชนฯ ยกทัพไปตีละโว้ พระองค์ขยายอำนาจผ่านมาถึงศรีเทพ เปลี่ยนให้ศรีเทพเป็นฮินดูแบบเมืองหลวง สร้างปรางค์ฤาษี+โบราณสถานหมายเลข 2?
คนไทยดั้งเดิมเป็นพหุชาติพันธุ์ที่มี DNA "กลิงคะ" หรือ "O2a" เป็นหลักที่มีอยู่ในประชากรชาวไทยทั่วประเทศ และอณาบริเวณที่คนไทยเข้าไปอยู่แต่ปัจจุบันอาจอยู่ในอณาเขตของประเทศอื่น โดยจะมีสัดส่วนความเข้มข้นของ DNA กลุ่ม O2a มากในภาคกลาง และภาคอีสาน นักโบราณคดีจากหลายประเทศได้เคยทำการศึกษา DNA จากโครงกระดูกพวกขอมโบราณในบริเวณกัมพูชาที่มีอายุ 1,000+ ปี พบว่ามี DNA กลุ่ม O2a เช่นกัน ซึ่งแตกต่างกับ DNA ชาวเขมรอย่างสิ้นเชิงที่ไม่ปรากฎ DNA กลุ่ม "กลิงคะ" หรือ "O2a" อยู่เลย จึงพอสรุปในเบื้องต้นได้ชัดเจนว่า ขอม = สยาม = ไทย ส่วนเรื่องเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ดำเนินมาตามบันทึกจากแหล่งต่างๆ ของประเทศไทยก็คงได้รับการพิสูจน์ชำระไปตามความจริงที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ โดยมีข้อสันนิฐานเกี่ยวกับช่วงยุคมืดของดินแดนกัมพูชาไว้ประมาณนี้ ... เขมร(กมีร์ หรือ ขแมร์) - เป็นพวกทาสที่ทำงานรับใช้พวก ส่วน ขอม - ผู้สืบเชื้อสายจากกษัตริย์ (ชื่อนำหน้าก่อนลงท้ายด้วย)วรมันต์ พวกขอมวรมันต์มี DNA กลิงคะ ที่ได้มาจากอินเดียด้วย จากบันทึกของชาวจีนชื่อ โจต้ากวน ที่เข้าไปอยู่ในนครวัดช่วงหนึ่งได้บันทึกไว้ว่า พวกขอมและเขมรมีภาษาของตนเอง พวกเจ้านายขอมจะมีทาสเขมรกันหลายคนคนที่ไม่มีทาสเลยคือจนสุด พวกเขมรไม่รู้จักวิธีการทอผ้าต้องพึ่งพวกขอม และสยามที่ย้ายไปรับราชการอยู่ในนครวัด ประมาณว่ามีคน ขอม+สยาม+คนชาติอื่นๆ อยู่ในนครวัด 1+ ล้านคน เป็นขอม+สยาม300,000+ เป็นทาส 700,000+ จนถึงยุคพระเจ้าชัยวรมันต์ที่ 9 ก็ถูกพวกทาสลอบสังหาร และปล้นชิงทรัพย์สมบัติในนครวัดจากพวกเจ้านาย ทำให้พวก ขอม+สยาม ต้องอพยพออกไปรวมกับพวก สยามบริเวณอยุธยาเพื่อสร้าง/ขยายเมืองสำหรับประชากร 300,000 คน นับว่าเป็นการสิ้นสุดยุคขอมในดินแดนกัมพูชา และเป็นจุดเริ่มต้นยุคมืดมาแทนเนื่องจากพวกมีอารยะได้ย้ายออกไปแล้ว จึงไม่อะไรมีบันทึกไว้
อืมมม ครับ
@@taspien ไม่ทราบว่ามีพอมีข้อมูลเรื่องการค้นคว้าของกลุ่มนักโบราณคดีจากหลายชาติกว่า 70 คนที่ได้ทำสรุปไว้เรื่อง ขอม = สยาม ไว้ในบทความทางวิทยาศาสตร์ในปี 2018 หลังจากขุดพบโครงกระดูกขอมมีอายุในช่วง 1-3 A.D. ในดินแดนกัมพูชาในปัจจุบันและได้ทำการพิสูจน์ผลทาง DNA ชันเจนแล้วครับ
แตงหวานเป็นชาวชอง
(จันท,ระยอง,ตราด)
เมื่อก่อนเป็นเผ่าต่างหาก
เข้าไปอยู่และรับจ้าง
ในพระนครมาก
มองในมุมภูมิศาสตร์ของยุคนั้น การเดินทัพไปตี ละโว้ ทำไมถึงข้ามเขาขึ้นที่ราบสูงโคราช แล้วลงเขาพังเหยไปละโว้อีกที
ลองเดาดูว่าแผ่นดินภาคกลาง แถวนครนายก ชายขอบทุ่งรังสิต เส้นทางผ่านที่เห็นสั้นๆในแผนที่หรือทางพื้นราบสำหรับคนสมัยใหม่ ผืนดินอาจจัยังมีตะกอนทับถมไม่แน่นตัวพอที่จะเป็นพื้นดินปกติ รองรับการเดินทัพ หรือยังเป็นทุ่งหญ้าน้ำท่วมอยู่ ตั้งแต่ชายแดนคลองลึก ผ่าน อรัญฯ จนถึงปราจีน อาจจะเป็นพื้นดินปรกติ แต่ก็มาได้แค่นั้น หลังยุคทวาราวดีไม่นาน แผ่นดินภาคกลางยัง set ตัวไม่สมบูรณ์ ส่วนเส้นทางผ่านที่ราบสูงเป็นพื้นดินปรกติพื้นล่างเป็นหินแข็ง และมีเมืองชุมชน รายทางอยู่แล้ว
ใช่ครับ เป็นไปได้ครับว่าเส้นทางสระแก้ว ปราจีน นครนายก สระบุรี ลพบุรี
1. ไม่เหมาะเดินทัพ เพราะมีดินตะกอน
2. เพราะเป็นป่าดงดิบทึบ มีไข้ป่า
บรรพบุรุษคนไทยอยู่กับที่นี่ มีมานานแล้ว...ทราวดีคือคนมอญโบราณ จากการวิจัยชาติเผ่าพันธ์ุทาง DNA ระดับโลก พบว่าเลือดคนไทยปัจจุบันส่วนมากมี DNA เป็นชาวมอญโบราณเข้มข้นที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขอมเองก็คือคนมอญ ส่วน DNA เขมรปัจจุบันเป็นแบบชาวอินโดนีเซีย ซึ่งหมายความว่าเขมรไม่ใช่ขอมโบราณ แต่เป็นทาสที่ถูกกวาดต้อนมาจาก เผ่าจามปา ที่อยู่ภาคใต้ของเวียดนามปัจจุบัน ต่อมาทาสเขมรก่อกบฏนำโดย ตระซอกประเอม หรือแตงหวาน เป็นผู้ทำลายขอมวรมันโบราณ
ครับ
อยากให้หนังสือประวัติศาสตร์ไทยสอนแบบนี้ สอนความเป็นชาตินิยมสูง พูดแต่เราไปตีและยึดครองเขมร
สอบถามเพิ่มเติมจากคลิป อันนี้คือยุคพระนครใช่ไหม แล้วเขมร ตีแค่ บุรีรีมย์ โคราช ละโว้ ใช่หรือไม่ เพราะเห็นเขมรกล่าวอ้างครอบครองดินแดนไทยทั้งหมด คืองง เพราะบางจังหวัดไม่ได้มีอารยธรรมขอมอยู่
อีกคำถามหนึ่ง การสร้างสถาปัตยกรรมด้วยหิน กับอิฐมอญ แยกยังไง
ตอนนี้เขมรเริ่มอ้างจะเป็นทวารวดีไปแล้ว
1. ใช่ครับ ยุคเมืองพระนคร และช่วงรัชกาลนี้ ได้เข้ามาตีอีสานและละโว้
2. แยกยากอยู่ครับ บ้านเรานิยมใช้อิฐทั้งในสมัยทวารวดีและขอม ในยุคขอมก็ใช้อิฐไปจนถึง พศว.17 (เช่น ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์สองพี่น้อง ฯลฯ) ส่วนบ้านเขานิยมใช้หินทรายตั้งแต่ พศว.16 ถือว่าโดยรวมเลิกใช้อิฐเร็วกว่าเรา
ชนโบราณ ตำนานกล่าว สืบสาวไกล
หมุ่ชาวไทย อยุ่ในเมือง รุ่งเรืองนาน
ถิ่นอีสาน ตำนานไข นามใหญ่บาน
ชนอีสาน คือฐานขอม ผู้จอมปราชญ์
เขมรพวกทาส บังอาจปล้น เจ้าชนขอม
ตอนนีึ้ปลอม เป็นขอมเก่า ถือเหมาชาติ
โบราณชาติ อำนาจขอม เกิดพร้อมญาติ
ไทยชนชาติ ล้วนญาติขอม ผู้จอมไทย
ตำนานใหญ่ ควรใช่จิต พินิจความ
ไทยสยาม เกิดตามมา ล้วนฟ้าใหญ่
พวกเขมรใย ท่านไขสือ เล่าลือไกล
ไทยคือไทย น้ำใจซื่อ หลักถือธรรม
โลกจดจำ คำนำขาน สื่อสารมา
ทั้งภาษา วาจาไข โยงใยกรรม
อีสานล้ำ คุณธรรมถือ ซัตย์ซื่อคำ
ทุกหมู่นำ ถ้อยคำพูด พิสูจน์โลก
ขอบคุณมากครับคุณ phrakhrusriprichakorn
คล้ายอยุธยามีถึง5ราชวงศ์
อาจารย์ลองทำกราฟราชวงศ์ขอมโบราณให้แฟนคลับดูหน่อยครับ
สวัสดีครับ ผมมีกับตัวอยู่เหมือนกันครับ แต่มันยาว ไว้จะหาโอกาสเล่านะครับ
อาจารย์ชื่อปราสาท จริงๆ ชื่ออะไร พอจะสืบค้นได้มั้ย
ไม่แน่ใจครับ แต่อาจอนุโลกเรียกตามชื่อรูปเคารพประธาน
สำหรับปราสาทแม่บุญฯ คือ "ศรีราเชนทรศวร"
สำหรับปราสาทแปรรูป คือ "ศรีราเชนทรภัทราศวร" ที่ปรากฏในโศลก 277 หรือไม่ก็อีกนามที่ปรากฏในโศลก 278 คือ "ศรีราเชนทรวรเมศวร"
@@taspien แล้วทำไมเขาไม่เรียกตามจารึกละค่ะ แสดงว่าปราสาทเหล่านี้สร้างอุทิศ ให้บรรพบุรุษ
ต้นกำเนิดเป็น อินเดียตอนใต้มาสร้าง colony หรือ รับต่อมาจาก มาลายู อินเดียอีกทีครับ หรือเป็นคนท้องถิ่มรับอินเดียมาสร้างครับ
สวัสดีครับ แบ่งเป็น 3 ยุค
1. ก่อนเมืองพระนคร ก่อน พ.ศ.1400 อารยธรรมส่วนใหญ่รับจากอินเดียตอนใต้มาสร้าง แต่คติบางเรื่องก็รับผ่านชวา
2. เมืองพระนคร พ.ศ.1400-1900 ท้องถิ่นค่อยๆ ปรับแปลงจนมีรูปแบบเฉพาะตัว
3. หลังเมืองพระนคร หลัง พ.ศ.1900 อารยธรรมเสื่อมลง
เขาทมอรัตนฺ ก็ไม่ใช่คำไทยแล้วอาจารย์….. พูดดังไม่ได้ ทมอ = หิน
ครับ
จารึกอักษรอะไร ภาษาอะไรบ้างครับ
สวัสดีครับ
1. อักษรขอม ภาษาสันสกฤต แต่บางคนก็ใช้คำว่า ภาษาสันสกฤต-ขอม
2. บางคนเรียกตัวแบบนี้ว่า ตัวอักษรกัมพุช โดยดูจากตัวอักษรที่เขียนไม่ค่อยเหมือนกับอักษรขอมที่ปรากฏในบ้านเรา เช่น ตัว ก. ก็เขียนแตกต่างกันอยู่บ้าง
จารึกต่างๆ นั้น ถูกสร้างขึ้นมาทดแทน พิจารณารูปสลักสตรีแทบทุกปราสาทจะยังคงเห็นอยู่มาก เข้าใจว่ามีการทำลายรูปเคารพด้านในปราสาทแล้วนำรูปเคารพอื่นเข้ามาทดแทน ส่วนจารึกดั้งเดิมก็ถูกทำลายแทบทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่า..."ความลึกลับของปราสาทขอมต่างๆนั้นมีมากกว่าจารึกที่เห็นในปัจจุบัน..." ปราสาท 3 หลังนั้นคือ 1..2..3.. ส่วนชื่อปราสาทแปรรูป.คือบุคคล 2 ลักษณะ" หินจารึกเก่าแต่เดิมน่าจะอยู่ตามใต้ดินบริเวณปราสาทต่างๆ ผมเข้าใจว่ารูปเคารพเดิมมีเพียงสตรีและบุคคล 2 ลักษณะ ที่เหลือมาใหม่ทั้งสิ้น "สังเกตได้จากพระเครื่องในพราหมณ์อินเดียไม่มี และพระเครื่องต่างๆ คาถา วิชา เล้นลับ ต้นกำเนิดมาจากตำราขอมโบราณทั้งสิ้น คือ ผู้ชนะสงครามเปลี่ยนประวัติศาสตร์จารืก รูปสลัก ส่วนโครงสร้างใหญ่ปราสาทเปลี่ยนแปลงมิได้ ถ้าเปลี่ยนก็ต้องรื้อหมด😅 ความลับน่าจะอยู่ใต้ปราสาทบายน หรือ เมืองลพบุรี เพราะช่วงนั้นขอมย้ายลงมาที่ลพบุรี ได้นำของดีมาไว้ที่ลพบุรี อาจารย์วรนัย เวลาขุดชั้นดินศึกษาให้นึกถึงบุคคล 2 ลักษณะแล้วขอครับ ครึ่งหนึ่งเป็นนก...และผู้บำเพ็ญตนอยู่ในร่างเดียวกันครับ จารย์
หลายประเด็นเลย...ขอบคุณครับ
ในดินแดนสุวรรณภูมิ บ้านเชียง ศรีเทพ ทวารวดี ละโว้ คือสยามเชื้อสายพระกฤษณะเดิม..ต่อมารับศาสนาพุทธจากอินเดียทางบกผ่านทางพม่ามอญรามัญทางราชบุรีนครปฐม..ส่วนศรีวิชัย นครศรีธรรมราช สยามพื้นเมืองทางใต้รับศาสนาพุทธจากศรีลังกาและศิวะจากอินเดียใต้ผ่านอินโดชวา..ผสมผสานวัฒนธรรมกันในดินแดนสุวรรณภูมิ..สยามสายพุทธเข้มแข็งรวมหลายอาณาจักรดั้งเดิมกำเนิดอาณาจักรสุโขทัยเป็นศูนย์กลาง..สยามรวมอินเดียใต้สายศิวะเข้มแข็งแตกออกไปเป็นอาณาจักรพิมายกำเนิดเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมขอม กระจายวัฒนธรรมขอมสร้างปราสาทไปทุกทิศทาง ละโว้ ลาว อิสานใต้ บุรีรัมย์ สระแก้ว และไปกัมโพชสร้างนครวัดเป็นศูนย์กลางใหม่ จามปาเวียดนาม จึงมีปราสาทขอมกระจายอยู่ทั่วไป..สุดท้ายนครวัดโดนทาสกะมีร์พื้นเมืองนายแตงหวานยึดอำนาจ..ขอมสยามอินเดียใต้สายศิวะจึงล่มสลายหมด..กลับไปรวมเป็นสยามพุทธละโว้ อยุธยาต่อมาเป็นศูนย์กลางควบรวมอาณาจักรสุโขทัย..เป็นอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลาง..และ กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์..อยุธยาขยายอาณาจักรทุกทิศทางกลับไปยึดตีเขมรเป็นเมืองประเทศราชกว่า400ปี..
ครับ
น่าจะมีช่องทางให้ผู้ชมได้สนับสนุนการทำคลิป ถือเป็นการให้ข้อมูลทางวิชาการต่อประชาชนแบบให้เปล่า ข้อมูลสามารถใช้อ้างอิงได้ ผู้บรรยายน่าจะได้ศาสตราจารย์ ทำไมถึงยังไม่ได้
อืมมมม ครับ
เขมรโบราณไม่มีหรอกครับ😂😂เขมรเป็นทาสเป็นคนป่า
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ เป็นทาสเป็นนายปะปนกันไป มากน้อยต่างกัน ทุกเชื้อชาติต่างก็เป็นแบบนี้
ทำคลิปเกี่ยวกับขอมเขมรออกมาอีกนะครับอาจารย์ น่าค้นหาน่าศึกษามากครับเกี่ยวกับผู้คนในภูมิภาคนี้
ผมเองก็ยังมีตอนต่อครับ เป็นรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ที่มีการสร้างปราสาทบันทายศรี
@@taspien 🙏
เป็นไปได้ไหมครับที่ราเชนทรวรมันท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์
ไม่คุ้นนะครับ
มันเป็นการแก่งแย่งอำนาจระหว่างรัฐเครือญาติ
ประมาณนั้นครับ
อยากรู้ทำไมนครวัดถึงล่มสลายกลายเป็นนครร้าง
ไม่ถึงกับร้าง แต่เสื่อมลงจาก 3 ปัจจัยครับ
1. อยุธยากวาดต้อนผู้คนมา
2. จามกวาดต้อนผู้คนไป
3. บ้านเมืองภายในเริ่มแตกกัน นับตั้งแต่รัชกาลชัยวรมันที่ 8
เป็นสิ่งที่อาเซียนและเขมรต้องตื่นรู้และยอมรับความจริงอินโดเข้าตื่นรู้และยอมรับแล้วว่าคนเอาศาสนาและอารยธรรมเข้ามาและมาสร้างปราสาทคือแขกอินเดียในประวัติศาสตร์อินเดียใต้ทมิฬเขาก็ระบุชัดเจนว่าพวกเขาคือผู้สร้างและนำเขาอารยธรรมในอาเซียนตัวอย่างง่ายๆถ้าคุณจะสร้างคอนโดถ้าคุณไม่มีแบบไม่มีช่างสร้างได้มั้ยและถ้าต้นฉบับอินเดียไม่มาสร้างคุณสร้างมันขึ้นได้อย่างไรจากใจลูกหลานแขกปนเจ็กครับ
ครับ
พอดีป่วยไม่ค่อยได้ดูเลยไม่เจอแอฟของอาจารย์หลายวันเลยเพิ่งได้ดูค่ะขอบคุณค่ะที่นำประวัติปราสาทปรางแขกมาให้ทราบกันค่ะ
รักษาตัวด้วยครับ