ตอนนี้เป็นตอนที่ดีมากๆ ทำให้นึกถึง series Black mirroe ss2 ep1 Be right back ถ้าความตายพรากคนที่เรารักไป และวิทยาการนำคนรักเรากลับมาพร้อมความทรงจำ เราจะทำอะไรต่อไป ถ้าสิ่งนั้นกลับมา move on หรือ moving Together น่าคิดมากๆ และถ้าอีกเรื่องหนึ่งที่คิดออกสำหรับคนที่หมกมุ่นกับความตายถูกสะท้อนออกเป็นหนัง แม้ว่าตัวหนังจะมีคำถามเยอะ เรื่อง madam web แต่เรื่องนี้พูดถึงคนที่หมกมุ่นกับความฝันและยึดติดว่าจะมีคนมาทำร้าย ทำให้เราตายเลยต้องพยายามหยุดกระบวนการทั้งหมด กลับมาที่โลกความเป็นจริง อะไรที่เราไม่เข้าใจ เราก็กลัวและกังวลเป็นเรื่องธรรมดา ผมเชื่อว่า ความรู้และการเรียบเรียงจากตอนนี้ จะทำให้เราเกิดการคิดและมองความตายเป็นชุดความรู้ที่เราถึงเวลาเราจะมันมันผ่านไปได้ พร้อมกับทิ้งความทุกข์ให้เราและคนที่อยู่รอบๆตัวเรา ให้น้อยที่สุด ขอบพระคุณทีมงานที่ทำตอนนี้อย่างดีมากครับ
00:00 Highlight
00:28 ทำไมเราถึงกลัวตาย
08:50 ความตายในมุมปรัชญา
13:53 ทำไมเราไม่ควรกลัวตาย
24:01 ความตายสวยงามอย่างไร
36:12 คิดเรื่องความตายให้อะไรกับเรา
41:16 ความตายที่ดีเป็นแบบไหน
54:32 คำถามทิ้งท้าย
เป็นตอนที่อิมแพคมากจนน้ำตาไหล เราฉลองที่เข้าใกล้ความตายอยู่ทุกปี แต่กลับไม่ฉลองเมื่อถึงวันที่ชีวิตได้เดินทางมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลับไปทบทวนว่าเราใช้ชีวิตได้ในแบบที่เราอยากจะเป็นรึป่าว เพื่อให้วันสุดท้ายได้เป็นวันที่กลับกลายเป็นน่าเฉลิมฉลองด้วยซ้ำ
สุดยอดครับ
ลึกซึ้งมากครับ 👏
เป็นบทความที่สวยงามมาก เลยครับ ผมน้ำตาไหล เพราะ This Comment เลย
ขอบคุณมากเลยครับ
ผมว่า ถ้ามองในอีกแง่นึง เราอาจจะไม่ได้ฉลองที่เข้าใกล้ความตายก็ได้นะครับ แต่เราฉลอง ที่สามารถอยู่รอด มาได้อีก 1 ปี ต่างหาก เพราะฉะนั้น วันที่จบชีวิต จึงถูกมองเป็นเรื่องเศร้าครับ 😅
เราเป็นผู้ป่วยมะเร็งค่ะ ก่อนหน้านี้เรากลัวความตายเหมือนคนทั่วไป ไม่อยากพูดถึง ไม่อยากรับรู้ คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะเรายังอยู่ในวัย 30 กว่า ยังคงมัวเมาไปกับกิเลสต่างๆ แต่พอเป็นมะเร็งทำให้เราได้สติ และลองเผชิญหน้ากับความตาย เพราะเราไม่มีทางเลือกแล้ว และพอได้รู้จักความตาย เรียนรู้มรณานุสติ ทำให้จิตใจสงบลงเยอะมาก จากที่กลัวความตายก็เลิกกลัว และรู้จักเตรียมตัวหากวันตายของเรามาถึง ว่าเราอยากตายแบบใด อยากให้ทุกคนมาเรียนรู้เรื่องความตายเยอะๆ เพราะคุณจะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้น
ยอดเยี่ยม ❤❤
บุญทำกรรมแต่งวาสนาถ้ามีต่อกัน จิตที่ถูกฝึกแล้วใดๆล้วนปกติได้
ความโกลาหลบนความมีแบบแผน มั่นคงแต่ไม่มั่นคงบนความมีแบบแผน ว่างเปล่าแต่เป็นองค์รวม สาธุ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆครับ
จักรวาลแห่งนี้มีสิ่งที่มนุษย์ยังไม่ได้คนพบ และจะไม่มีวันค้นพบเพราะยังไม่ถึงสถานะนั้นครับ คิดกุศล ละอกุศลไว้ ถูกต้องแล้ว
"เรามีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นของคุณ ชีวิตนั้นสั้น อย่าเสียดายเลย เป็นในแบบที่คุณเป็น มีความสุข เป็นอิสระ เป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเป็น. ความตายไม่ใช่สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับเรา แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา"
- เปเชเน็ก
ดีใจมาก ที่ประเทศไทยมี podcast ดีๆแบบนี้ ถึงแม้ว่าเรื่องปรัชญาจะเฉพาะกลุ่มแต่ impact กับชีวิตมาก ❤
อย่ามัวหมุนตามสังคมจนลืมถามตัวเองว่าอยากทำอะไรบ้าง และอย่าหมุนตามตัวเองจนลืมสังคมว่าเรากระทบคนอื่นหรือเปล่า จงทำทุกอย่าง อย่างมีสติ และทำสิ่งที่อาจจะมีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่า แต่ทำอย่างเต็มใจและดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะความตายเป็นสิ่งที่แน่นอนทุกสิ่งเลยยังมีคุณค่า ถ้าอยู่ได้ตลอดไป จะอยู่ไปเพื่ออะไร ขอให้ชีวิตสวยงามแม้จะอยู่หรือตาย🙂
ขอบคุณครับ ผมอ่านแล้วนํ้าตาซึมเลยอ่ะนะ มันไหลออกมาเอง.😊😊😊😊😊
อยากบอกพี่ๆสองคนและทีมงานทุกคน ว่า Shortcut ปรัชญาเป็นรายการโปรด No.1 ของผมไปแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆทุกคน และขอให้รายการอยู่ได้อย่างมีคุณภาพแบบนี้ต่อไป ❤
35:32 =ชอบประโยคนี้มาก ""สุดท้ายคนเราทุกคนก็ต้องตาย ดอกไม้งดงามยามมันล่วงหล่น"" เป็นคำพูดที่สั้นแต่ทรงพลัง สะท้อนถึงความจริงของชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้เราใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
ไม่ทันคิดเกือบตายหลายครั้งแล้วแต่รอดมาได้ ตายเหมือนเราหลับไปไม่น่ากลัวเลยค่ะ แต่บาดเจ็บหรือสังขารเราไม่สบายสิ่งนี้ความทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิตคนเรา ใครเคยรอดตายมาซักครั้งความหมายของการมีชีวิตจะมีค่าที่สุด รักโลภโกรธหลงเราตัดออกไปหมดเลย มีชีวิตที่ยังเหลืออยู่ให้มีความสุขสบายแบบง่ายๆให้มากที่สุดในทุกๆวัน ไม่แน่นะวันพรุ่งนี้เราอาจนอนหลับตายไปเฉยๆ หรือกำลังอาบน้ำอยู่เราก็ตายได้ทันทีค่ะ จึงเห็นคุณค่าของเวลามากค่ะ รักใครบอกรักเขา ทำดีกับเขา พูดคุยดีๆกับทุกๆคน คิดเสมอๆว่าความตายไม่บอกเราค่ะ ทุกๆคนเกิดมาก็แค่รอเวลาจะตายกันทุกๆคนเลย
พึ่งผ่านการสูญเสียคนในครอบครัวไป สับสนและตั้งคำถามกับชีวิตและความตาย สังคมควรพูดคุยเรื่องนี้กันมากขึ้น ขอบคุณรายการดีๆแบบนี้ค่ะ
ติดตามรอทุก ep.เลยค่ะ
เส้นผมบังภูเขาทองคำ จิตที่เป็นกุศลจะส่งเสริมวาสนาเพียงหมั่นเพียรความจริงจะทยอยปรากฎ..เริ่มที่วิธีการ สาธุ
ขอบคุณที่ทำ podcast หัวข้อนี้มากๆค่ะ สิ่งนึงที่ทำให้เราเป็นโรคแพนิค คือการกลัวความตายค่ะ เราคิดเกี่ยวกับความตายบ่อยมากๆ จนร่างกายแสดงให้เห็น ทุกครั้งที่เป็นแพนิค เราเหงื่อแตก หัวใจเต้นเร็ว อาการเหมือนจะตาย เราผ่านมันมาได้ทุกครั้ง และจะวนคิดถึงมันบ่อยๆ เป็นแบบนี้ซ้ำๆ
*เราจะกลับมาฟัง podcast นี้อีกบ่อยๆค่ะ เพื่อเตือนตัวเองทุกวัน ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
นี่คือ podcast masterpiece ❤
ชอบที่บอกว่าเราอยู่ในสังคม ความตายเลยไม่ถูกพูดถึง หากลองวิเคราะห์สังคม แต่เดิมถูกแยกออกจากกันระหว่างชนชั้นนำและชนชั้นแรงงานโดยสิ้นเชิง เมื่อชนชั้นนำได้ปกครองและเป็นผู้รวบรวมดินแดนทำให้แนวคิดของการต้องการมีชีวิตนั้นแพร่หลาย เช่นการแพทย์ และแน่นอนว่ามันแพง คนมีอำนาจเท่านั้นจะคงอยู่ คนมีอำนาจที่ตายน้อยกว่าก็มากำหนดสังคมให้ต้องอายุยืน และสร้างความกลัวตายขึ้นมาด้วย
สมัยก่อนคนชนชั้นแรงงานคือทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ได้คิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ สิ่งแย่ที่สุดคือการไม่มีกินวันนี้ กลับกันชนชั้นนำสิ่งที่แย่ที่สุดคือการไม่มีพรุ่งนี้ ความตายที่ไกลตัวกว่าจึงดูหน้ากลัวสำหรับคนมีอำนาจ ส่วนความตายที่ใกล้ตัวแบบชนชั้นแรงงานแม้จะเศร้า ก็ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน ความเชื่อและคุ้นชินของความตายจึงต่างกัน
ดีใจที่มาเจอรายการชวนคิดแบบสร้างปัญญาเช่นนี้ ฟังมา3-4 ep ชอบทุกเรื่อง ที่ทำให้เราฉุกคิดตาม อย่างเรื่องนี้ก็เชื่อว่าตัวเองพร้อมและไม่กลัว แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ยังย้อนแย้งในตัวเองอยู่
ชอบรายการนี้นะครับ ไม่ค่อยมีหรอกครับใครมาคุยเรื่องลึกซึ้งกันแบบนี้ บางครั้งมันเลยอยากแสดงความคิดเห็นส่วนตัวลงไปเพื่ออยากแชร์แนวคิด 😅
ชอบมากคนับ อีพีนี้โดยเฉพาะช่วง ความตายสวยงามอย่างไรไป ชอบคำถามคุณภาคินที่ชวนให้คิด และแนวคิดของคุณฟางเรื่องอาม่าก็น่าสนใจมากเลยครับ
ผมเองไม่อยากตายนะ แต่รู้สึกว่าถ้าตาย ก็พอใจกับสิ่งต่างๆที่ได้ทำมานะ ด้วยที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมา และคิดว่าก็ทำได้โอเคนะ
แต่พอฟังแล้วมาทบทวนก็รู้สึกเป็นความประมาทรึเปล่า ที่เราคิดว่าสิ่งต่างๆมันก็โอเคแล้ว
อยากให้รายการจัดงานสักวันมากเลยค่ะ อยากไปนั่งฟังสดๆ ร่วมกับคนอื่นๆ
ชอบ EP นี้ เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนต่างกลัว
สำหรับผมที่อยู่ทั้งสายวิทย์และสนใจปรัชญา สาเหตุที่หลายคนกลัวความตาย คือ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนกลัวความตายเพราะเป็นสัญชาตญาณพื้นฐาน พันธุกรรมสั่งให้สิ่งมีชีวิตรักษาพันธุกรรมและสืบพันธุ์เพื่อคงรักษาพันธุกรรมนั้น ๆ และการตายก็ขัดกับจุดนี้ ทุกสิ่งมีชีวิตจริงวิ่งหนีความตายแม้จะหนีไม่ได้ก็ตาม แต่ขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตต่างก็ไม่ได้คิดถึงการตายตลอดเวลา เนื่องจากหากสมอง (ในสิ่งมีชีวิตที่มีระบบประสาทพัฒนาในระดับหนึ่ง) คิดถึงเรื่องความตายตลอด ก็จะไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
มนุษย์เองวิวัฒนาการสมองให้สามารถคิดเรื่องนามธรรมและเรื่องซับซ้อนได้มากกว่าสัตว์ทั่วไปหลายเท่า ความตายที่เคยเรียบง่ายจึงซับซ้อนขึ้นตามสังคมที่มนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมา เมื่อมนุษย์มีเรื่องให้คิดเยอะกว่าการอยู่ไปวัน ๆ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องส่วนตัว ความเชื่อ ชีวิต ประเทศ การเงิน หรืออะไรต่าง ๆ
ชีวิตต่าง ๆ ดิ้นรนจากความตายเพื่อรักษาพันธุกรรม ขณะเดียวกันชีวิตก็ต้องดิ้นรนต่อสู้กับการเสื่อสภาพของร่างกาย การเสื่อมสภาพเองก็เป็นผลมาจากความเสียหายระดับพันธุกรรม เหมือนกับการเป็นโรค แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขความตายและความแก่ชราได้ (หากทำได้) แต่ก็จะมีปัญหาอื่น ๆ มากมายตามมา
การเป็นอมตะ (แบบฆ่าไม่ตาย) อาจจะดีสำหรับใครบางคนที่ไม่มีอะไรผูกมัดความสัมพันธ์ คงจะดีไม่น้อยที่ได้อยู่เฝ้าดูความเป็นไปทั้งหมดของเอภพ แม้แต่ในชีวิตประจำวันเราก็ไม่เคยคิดถึงความตายจนบางครั้งคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีสิ้นสุด บางคนใช้ชีวิตลูป ๆ วน ๆ ซ้ำ ๆ แต่ถ้าการมีชีวิตเป็นอมตะแต่ตายได้จากความเสียหายทางร่างกาย คนคนนั้นคงต้องกังวลว่าชีวิตเดียวที่มีจะตายได้ทุกเมื่อ จนสุดท้ายไม่กล้าออกไปใช้ชีวิต (ยกเว้นแวมไพร์ที่เป็นอมตะ ตายได้จากการตอกหัวใจอย่างเดียว) หรืออาจใช้ชีวิตในโลกเสมือนแทน (อันนี้จะดูไซไฟไปเลย)
สำหรับการตายที่ดีสำหรับผม:
สำหรับผม มนุษย์คนหนึ่ง การมีฝันและทำฝันนั้นให้สำเร็จก่อนตายก็เพียงพอแล้วสำหรับจะฝากผลงาน (จากความฝัน) ต่าง ๆ เอาไว้ การที่เรายังคงถูกจดจำก็มากพอจะทำให้คนคนหนึ่งเป็นอมตะสำหรับคนทุกคน เหมือนกับที่คนมีชื่อเสียงต่าง ๆ บนโลกที่ตายไปแล้ว ยังคงถูกจดจำและเป็นที่รักอยู่ ที่ผมคิดอย่างนั้น เพราะทุกวันนี้ใครหลายคนต่างก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ แค่ใช้ชีวิตในกระแสสังคมไปเรื่อย ๆ หรืออาจจะทิ้งความฝันไปแล้ว จนสุดท้ายแล้วเมื่อคนที่รู้จักเขาจากไปแล้ว โลกก็อาจจะไม่ได้จดจำเขาอีกต่อไป อาจกล่าวได้ว่ามนุษย์ต่างกลัวว่าเราจะถูกลืมมากกว่าที่เราได้ตาย ทั้งนี้ความคิดมันก็ค่อนข้างปัจเจก แต่ละคนสามารถคิดแตกต่างได้
การรู้ว่าวันหนึ่งเราจะตาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการรู้ว่าสักวันระบบสุริยะก็จะจบลงเมื่อดวงอาทิตย์ใช้เชื้อเพลิงจนหมด ไม่ต่างจากการที่รู้ว่ามนุษยชาติก็พร้อมจะสูญพันธุ์ได้ทุกเมื่อ หรือแม้เอกภพอาจจะจบลงในอีก 10^500 ปี และไม่เหลืออะไรเลย สุดท้ายไม่ว่าจุดจบของเอกภพจะเป็นแบบใด ทุกอย่างที่เราเคยทำมาจะไร้ความหมายอยู่ดีเมื่อไม่มีใครมาอยู่เพื่อจดจำเรา ความตายและทุกเหตุการณ์ที่เราเคยมี ณ จุดนั้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีกต่อไป ส่วนผมมนุษย์บนฝุ่นเล็ก ๆ ก็อยากจะเข้าใจเอกภพ เอ็นจอยกับชีวิต และฝากอะไรสักอย่างไว้กับอารยธรรมเล็ก ๆ ในระยะเวลาอันแสนสั้นในเอกภพแห่งนี้เท่านั้น
ส่วนตัวเราเป็นคนชอบคุยเรื่อง biological immortal มากๆนะคะ เพราะแบบมันสนุกดี ถ้าได้เกิดขึ้นจริงๆคงดี แต่ถึงสุดท้ายยังไงหากมนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีไปถึงขั้นที่ทำให้เราอมตะแบบชีวภาพไม่แก่ตัวลงได้แล้ว ยังไงซักวันเราก็คงต้องตายอยู่ดี5555 เไม่ว่าจากพระอาทิตย์ขยายใหญ่ขึ้น หรือจากการสู้รบกันเอง หรือโรคภัยไข้เจ็บต่่างๆ เราเลยคิดว่าการทำใจยอมรับมันยังไงก็ดีที่สุดเสมอสำหรับเรา❤
แต่ถ้ามีได้คงต้องปรับกันหลายอย่างเลยค่ะ94499459 แต่เราเชื่อว่ามนุษย์คงไมไ่ด้อยากจะอยู่ยืนเป็นหลายพันปีหรอก บางทีอาจจะมีวิธีแบบเลือกว่าจะตายตอนไหนก็ได้แบบฉีดยาให้ค่อยๆเสียชีวิตแบบเขาๆหรืออะไรแบบนั้น5555
มีหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ที่บอกว่า หลังจากที่เราตาย เราน่าจะมีความสุขมากในทันที ดังนี้ครับ
จากบันทึกของคุณหมอ Joel L. Whitton ที่ทำการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการสะกดจิตบำบัดมาเป็นเวลา 13 ปี และมีผู้ป่วยประมาณ 30 คนที่มีการระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเสียชีวิต และก่อนที่คนๆนั้นจะมาถือกำเนิดเป็นคนใหม่ ในหนังสือที่ชื่อ Life Between Life ซึ่งมีคนแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ “ชีวิตระหว่างภพ” ซึ่งทั้งตัวคุณหมอและคนไข้ทั้งหมดนับถือคริสต์ จึงแทบไม่มีความเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาก่อน
สิ่งที่คุณหมอบันทึกไว้ ว่าคนไข้ที่มีประสบการณ์ชีวิตระหว่างภพ จะมีประสบการณ์ที่ได้รับคล้ายๆกันดังนี้คือ ภาพการระลึกชาติหลังจากที่เสียชีวิตลง ความเจ็บ ความปวด ความอึดอัด จะถูกปลดเปลื้องออกไป จนบังเกิดความรู้สึกที่เป็นอิสระ เป็นความรู้สึกสุขสงบที่ถ้อยคำมนุษย์ไม่อาจบรรยายได้ และจะเฝ้าดูร่างกายของตนเองเหมือนเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ถูกถอดทิ้งอย่างไม่ใยดี ความรู้สึกนึกคิด ปัญญาจะเพิ่มพูนขึ้น เพราะไม่มีข้อจำกัดด้านร่างกาย
แล้วเขาจึงจะได้เดินทางไปยังมิติระหว่างภพ ซึ่งที่นั่นก็เขาได้พบกับคณะผู้พิพากษา ซึ่งท่านจะรู้ทุกอย่าง ทุกการกระทำของวิญญาณที่อยู่ตรงหน้า ทว่า หน้าที่ของท่านไม่ได้เป็นไปในแง่ของการตัดสินถูกผิด ท่านไม่ได้สั่งให้ใครไปลงนรก หรือขึ้นสวรรค์ หากท่านจะช่วยคุณรีวิวชีวิตในภพชาติที่เพิ่งจบไป รวมทั้งให้คำแนะนำในการไปเกิดในชาติต่อไปอีกด้วย
ทุกคนจะได้ทบทวนชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง เสมือนการเข้าสู่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมาจะปรากฎขึ้นด้วยระยะเพียงเสี้ยววินาที หากวิญญาณดวงนั้น รับรู้ถึงความผิดใหญ่หลวงที่ตนเองได้กระทำ เช่น ทำร้ายชีวิตผู้อื่น พวกเขาจะสำนึกผิดอย่างรุนแรง และด้วยการกระทำในอดีตของเขาเองก็จะสรรสร้างการลงโทษที่เหมาะสมแก่ตนเองที่สุดขึ้นมา เช่น มีร่างกายที่แหว่งวิ่น และเกิดความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เป็นต้น
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้พิพากษา กระบวนการเป็นไปในเชิงความเมตตา ไม่มีความก้าวร้าว ดุดัน หรือลงโทษ แม้จะมีเรื่องเลวร้ายใดๆ เกิดขึ้น เหล่าผู้พิพากษาก็ไม่ได้กล่าวโทษ หรือตำหนิใดๆ ท่านจะให้คำแนะนำอย่างอ่อนโยนแก่ดวงจิตว่า ไม่ว่าประสบการณ์ใดๆที่เกิดขึ้น จะน่ารังเกียจเพียงใด ต่างก็เป็นประสบการณ์ที่ช่วยส่งเสริมให้จิตนั้นๆ พัฒนาได้ดีขึ้นทั้งสิ้น หากวงรอบของชีวิตยังไม่สมบูรณ์ ก็จำเป็นต้องกลับมาเกิดอีกบ่อยครั้งเท่าที่จำเป็น และหากจิตวิญญาณได้พัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว จะได้กลับไปผสานตัวตนกับสิ่งแวดล้อม กับจักรวาล กับความว่าง กับความสมบูรณ์แบบที่เอนกอนันต์
เป็น contentที่ดี แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดมีอยู่ในพุทธศาสนาครบถ้วน ยกตัวอย่างความสุขที่มากกว่าการกินลูกชิ้น ก็คือความไม่อยากต้องกินลูกชิ้น หรือพุทธศาสนาใช้คำว่าตัณหา ความอยาก และสิ่งหนึ่งที่ในรายการไม่ได้พูดถึงสาเหตุหลักที่มนุษย์กลัวความตายเพราะว่า เรากลัวการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ สำหรับผู้ที่สนใจในประเด็นความตายนี้หลักธรรมในพุทธศาสนาคือมรณานุสติการระลึกนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ สำหรับผู้ที่ยังกลัวก็เป็นเพราะยังไม่รู้จัก ยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าทำความรู้จักทำความเข้าใจ ความกลัวก็จะหมดไป เชิญชวนให้รับฟังกัณฑ์เทศน์ของพระอาจารย์ไพศาลวิสาโล ท่านพูดถึงประเด็นความตายเอาไว้เยอะ แล้วจะช่วยให้เราคลายจากความกลัวความตายไปได้มาก ..
สำหรับผม ความตายที่ดี คือในวาระสุดท้ายของชีวิต ได้เห็นหน้าคนที่เรารักทุกคน และทุกคนไม่มีอะไรจะพูดถึงกันอีกต่อไป เพียงแต่มองกันด้วยความรักและความเข้าใจ... ขอขอบคุณสำหรับรายการที่ดีอย่างมากมายครับ❤
แค่ผมเห็นหัวข้อคลิปนี้ ผมก็ขนลุกน้ำตาจะไหลเลยครับ ไม่คิดว่าจะได้ฟังเรื่องนี้ในมุมมองปรัชญา เป็นหัวข้อที่ผมสนใจที่สุดในชีวิต เป็นคลิปที่ดีมี่สุดในยูทูปต้องแต่มีแอพนี้เกิดขึ้นเลยครับ 🥲
สุดมากค่ะ จรรโลงจิตวิญญาณมากๆ และมันไม่ยาวเลย short cut มากสำหรับเรานะคะ
ตอบคำถาม ความตายที่ดีไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหน ขอให้สภาวะใจ ความเข้าใจในตอนนั้น เหมือนวันนี้ที่ฟังคอนเท้นนี้จบ มันก็คงแค่นั้นจริงๆ ส่วนบริบทคนที่ยังอยู่ ก็ขอให้การตายหรือเหตุการณ์ก่อนตายของเราไม่ไปเดือดร้อนเค้า เอาแค่จะเศร้าหรือปลื้มอะไรก็ดื่มด่ำรสชาติความเป็นมนุษย์ไป
ขอให้รายการนี้อยู่ไปนานๆค่ะ เพราะสนุกมากกกก รู้สึกสังคมมีพื้นที่ตั้งคำถามเชิงปรัชญาน้อยมาก รายการนี้เลยสนุกมาก เวลาสมองได้ขบคิด
นั่งฟังไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วย จนมาถึงช่วงที่พี่ฟางเล่าเรื่องอาม่า ร่างกายเราหยุดนิ่ง หูผึ่ง และรู้สึกวูบ ไม่เคยรู้สึก relate กับเรื่องเล่าใครเท่านี้มาก่อนในชีวิต เพราะเราเพิ่งเสียย่าไปเมื่อสองปีก่อน และโชคดีที่ได้อยู่ดูแลเขาจนวินาทีสุดท้าย การที่ได้เห็นร่างกายมนุษย์ที่เรารักค่อย ๆ หยุดทำงานทีละระบบ แล้วหมดลมหายใจ มัน impact มาก
ไม่รู้ว่าท่านไปที่ไหนต่อ แล้วเราจะได้ไปเจอท่านอีกมั้ยหลังจากหมดเวลาของตัวเอง แต่ความทรงจำในวันวาน ช่วงเวลาที่ท่านเลี้ยงเรามาด้วยความรัก ก็ทำให้มั่นใจว่าท่านจะอยู่ในใจเราไปจนความตายมาถึงเรา
เป็นหมอที่เคยทำงานด้าน Palliative care ครับ (แค่เคยทำงานในด้านนั้นนะครับ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ)
พบว่าเรื่องหนึ่งที่ยากมากๆ คือการที่จะพูดคุยกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายเรื่องความตาย
และเกือบจะทุกคน พบว่า มันยากเพราะผู้คนไม่เคยครุ่นคิดหรือวางแผนเรื่องของความตายมาก่อนเลย พอความตายเข้ามาใกล้จริงๆ มันสับสน มึนงง วุ่นวายไปหมด
สุดท้ายก็เลยได้เลือกใช้ชีวิตในวาระสุดท้ายของตัวเอง ตามความต้องการของคนอื่น 😢
เหมือนกับสอนคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นในวันที่ กำลังจะจมน้ำมั้ยครับ
เราเป็นอดีตพยาบาลรัฐ ทำงานในห้องผู้ป่วยวิกฤต ชื่นชม การให้มุมมองบริบทของความตายมากกกก นั่งนึกย้อนไปว่า ถ้าตอนนั้นเรามีทัศนคติต่อความตายที่มากขึ้นเหมือนตอนนี้ การดูแลวาระสุดท้ายของผู้ป่วย และสังคมรอบตัวผู้ป่วยคงจะทำได้ดีกว่าตอนนั้น เพราะลืมนึกไปจริงๆว่า ความตายที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่ มันไม่ได้มีแค่แง่มุมเดียวที่เราเห็น แต่มันมีบริบทแวดล้อม สนามประสบการณ์ การเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั้งตัวผู้ป่วยเอง ไปจนถึงญาติชิดมิตรสหายของเขา ซึ่งในตอนนั้นมองแค่ว่า จะให้การดูแลเฉพาะหน้าอย่างไรให้เขาผ่อนคลาย, สุขสบายเท่าที่เป็นไปได้ด้วยปัจจัยที่มีอยู่ และจากไปอย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ผู้หนึ่ง แต่ในความเป็นจริง การจากไปอย่างสงบไม่ได้จบที่เตียงคนไข้ ได้แต่นึกย้อนกลับไป แต่ไม่หวนกลับไปเป็นอีกแล้ว ...พยาบาล
คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตรุ่งเรือง
ชอบอีพีนี้มาเลยค่ะ ทำให้รู้สึกดีกับความตายขึ้นเยอะเลย ไม่รู้สึกกล้วความตายอีกแล้วค่ะ แถมคิดได้อีกว่าต้องใช้ชีวิตตอนยังมีอยู่ให้ไม่เสียดายก็พอ ใช้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ให้เต็มที่ตอนตายจะได้ไม่เสียดายก็เพียงพอแล้ววววว ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
วันนี้ได้เจออ.ภาคิน ผมตอบไปว่ายังไม่ดูตอนล่าสุดแต่ลืมไปว่าดูแล้ว(นอนหลับครับ) สนุกมากๆและน่าคิดมากเลย
เป็นรายการที่ต้องฟังจนจบแล้วจะแบบเรื่องร้อยเรียงกันทำให้โอเคเออหวะ ปรัชญาแบบนี้มันชวนคิดถึงชีวิตเราจริงๆ ชอบมากครับ
ชอบรายการมากๆนะครับ ที่ชวนผู้ฟังตระหนักไปไกลเกินกว่าชีวิตส่วนตัว และมองให้ไกลถึงสังคมรอบตัวไปพร้อมๆกัน
ชอบรายการนี้มากกกค่ะ ตามมาตั้งแต่แรกๆ ด้วยความที่นี่ชอบตั้งคำถามประมาณนี้มานานแล้วแต่ไม่รู้ว่าเรียกเป็นปรัชญาได้ด้วย ได้รู้ความคิดเห็นมุมมองของบุคคลอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วย ฟังสนุกเพลินนดีมากค่ะ
ส่วนอีพีนี้ส่วนตัวชอบตรงพี่ภาคินพูดประโยคที่ว่า "มนุษย์มักกลัวสิ่งที่ไม่รู้" มากค่ะ ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่าที่เราพูดมาทั้งหมดจริงๆแล้วก็อาจเป็นแค่สมมุติฐานของความตายที่มาจากสิ่งที่เราคิดว่าเป็นหลักฐานแล้ว ทั้งๆที่เราหรือคนที่เคยผ่านความตายไม่ได้มีใครมาบอกจริงๆ แต่ถึงบอก จะมีหลักฐานไหมหรือใครจะเชื่อบ้าง
สุดท้ายถ้าเกิดมนุษย์เจอความตายเป็นปกติเหมือนในการ์ตูนที่มีตัวละครตายแล้วเกิดวนซ้ำๆทั้งๆที่ยังคงมีความทรงจำนั้นอยู่ ตัวละครเหล่านั้นสามารถตายได้อย่างง่ายดายโดยที่"ยอมรับ"กับความทุกข์หรือสุขก่อนตายแล้ว
งั้นมนุษย์ก็คงสามารถหายกลัวความตายได้หากรู้จักความตายนั้นว่าเป็นยังไง(?) หรือง่ายๆเพียงแค่"ยอมรับ"ค่ะ "ยอมรับ"ให้ได้ว่าทุกคนต้องตายแค่นี้ไม่ง่ายกว่าหรอคะ ไม่ต้องอยากรู้ อยากมีความสุขทุกข์ก่อนตายอะไร แค่ปล่อยให้มันผ่านไป🍃
แต่สำหรับเราสิ่งที่เราคิดว่ายากก็คงเป็นการ"ยอมรับ"ความจริงนั้นให้ได้จริงๆจากใจนั่นแหละ🌟
=คำถามความตายที่ดีสำหรับเรา คือไม่ตายค่ะ ของทุกอย่างต้องมีคู่ มีความสุขก็ต้องรู้ว่าทุกข์คืออะไร มีตายแสดงว่ามีเกิด ไม่รู้เป็นคำตอบได้ไหมนะคะ😂
อยากให้รายการนี้มีต่ออีกเรื่อยยๆเลยค่ะ จะได้คอยกระตุ้น คอยย้ำความจริงของชีวิตจนกว่าเราจะยอมรับความจริงของชีวิตนี้ได้เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้พี่ๆทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกคนนะคะ🌻✨
อยากให้ทุกคนได้ดู podcast นี้มากๆ ครับ เป็นประโยชน์มากจริงๆ ทุกคนล้วนใช้ชีวิตเหมือนตัวเองจะไม่ตาย หรือแม้แต่นึกถึงมันด้วยซ้ำ ... สำหรับผมความตายไม่ใช่สิ่งสวยงามแล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย แต่มันคือธรรมชาติคือกระบวนการ ของทุกชีวิตครับ
ขอบคุณที่ทำepนี้มากครับ ทำให้เราขบคิดถึงความตายอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เรามักมองข้ามเรื่องความตายไปเพราะคิดว่าวันของเราคงจะไม่ใช่เร็วๆนี้
ถ้าผมออกแบบความตายของตัวเองได้ อยากให้กระบวนการไปสู่ความตายไม่ทรมานมากครับ และอยากให้จิตใจของเราพร้อมโอบรับความตายอย่างเต็มที่ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ไปฝืนหรือพยายามปฏิเสธมันครับ
ขอบคุณที่ทำpodcastดีๆ โดยเฉพาะep.นี้ มีความหมายและเตือนสติเราได้มากเลยค่ะ❤❤ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณน้องๆทั้งสองครับ พี่ไปต่อยอดศึกษาเพิ่มเติมจากนักปรัชญาที่กล่าวถึง สวนตัวพี่กำลังศึกษาหนังสือ พุทธธรรม ของท่าน ป.อ. อยู่ ตรงกันมากเลยครับ สิทธัตถะ ก็ได้สอนไว้ให้เข้าใจกฎธรรมชาติและยอมรับมัน ให้วิธีในการดำเนินชีวิตมาทั้ง 8 ข้อด้วยครับ
เนื้อหาดีมาก ทำให้ตระหนักถึงชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมากๆ
นี่เป็นอีกหนึ่งรายการที่ไม่อยากให้หายไปจากหน้ายูทูปเลยครับ หัวข้อดี เนื้อหาดี ฟังง่าย ย่อยง่าย พิธีกรทั้งสองคนดำเนินรายการได้สมบูรณ์แบบ เสียงน่าฟังมาก ๆ ขอบคุณที่ทำรายการนี้ออกมานะครับ
ทุกคนต้องตายเป็นธรรมชาติ ทุกวันนี้ฉันคิดถึงเรื่องนี้นะ
ยาวแค่ไหนก็ฟังจบค่ะ เพราะร้อยเรียงได้ดีมากๆ คิดตามในหลากมิติ เป็นประโยชน์สุดๆค่ะ
มรณะสติดี บางครั้งเราทำให้เรารู้สึกสบาย เวลาเรามีอารมณ์หรือปัญหาที่ทำให้เราร้อนรน เคร่งครัด กังวล คิดมากในปัญหานั้นๆ หรือ โลภบ้าง หรือ โกรธบ้าง พอเจริญมรณะสติเอาความตายมาพิจารณาว่าแม้ตัวเราก็มีความตายเป็นเงาตามตัวและเราต้องตาย( เหมือนกันนิ) ไอ้ความรู้สึกยึดมั่นต่างๆที่มีเกิดจากความคิดก็ดีอารมณ์ก็ดี มันจางคลายมันเบา มันไม่วุ่นวายร้อนรน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างก็แค่ของเชยชมในตอนที่มีลมหายใจเท่านั้น เรากลัวตายเพราะเราไม่อยากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่ชอบที่พอใจ
ชอบรายการ shortcut ปรัชญามากๆเลยค่ะ รอฟังทุกตอนอย่างตั้งใจ ไม่เคยรอพอตแคสไหนเท่ารายการนี้มาก่อน ชื่นชมทีมงานและพิธีกรทั้งสองมากๆค่ะ เสียงน่าฟัง เนื้อหาก็ดีชวนให้ไปคิดต่อมากๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ❤️
ขอบคุณมากๆ เลยครับ 😄
ชอบที่ทำยาวๆแบบนี้ค่ะ ฟังเพลินมากก ทำอีกเยอะๆนะคะ ติดตามทุกอีพีเลยค่า🤍
ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ชอบรายการนี้มาก ติดตามฟังทุกวันศุกร์นะคะ ตั้งแต่ EP1 เมืองไทยไม่มีแนวคิดแบบปรัชญา ที่จะหาใครมานั่งถก นั่งคุยกันในประเด็นต่างๆ ของชีวิตเลย ตั้งแต่จำความได้ กลายเป็นว่าปรัชญา โยนไปเข้าสู่คำว่า การเมืองไปเสียหมด แล้วถ้าไม่ทะเลาะกัน ก็เดินหนี เพราะโยนไปให้นักการเมืองในสภา เป็นคนจัดการแก้ปัญหา ทั้งๆ ที่ทุกคนในสังคมนั่นแหล่ะ ควรที่จะฝึกคิด วิเคราะห์ และตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัวและลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อตัวเองก่อน ในครอบครัว หรือรวมตัวกัน เป็นที่น่าเสียดายที่คนไทยจำนวนมาก ไม่เข้าใจว่าปรัชญา มีประโยชน์มากขนาดไหน มันทำให้เราไม่ทุกข์ ส่วนตัวเป็นชาวพุทธ และทำตามคำสอนของพุทธ แต่กลับรู้สึกว่า พุทธแบบไทยๆ มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ตอบโจทย์ กับความรู้สึกลึกๆ ของความเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเรา มันมีอะไรบางอย่างที่เราก็อธิบายไม่ได้ จนกระทั่งได้มารู้จักกับปรัชญานี่แหล่ะ เลยทำให้ถึงบางอ้อ มันมีหลายเรื่องที่เราถูกม่านบังตาเอาไว้ ผ่านตรรกะวิบัติ และสิ่งที่สังคมยัดเยียดให้ เช่นเรื่องความไม่เท่าเทียม ทั้งๆ ที่จริงๆ มันก็พอจะทำให้เท่าเทียมกันได้
ส่วนตัวดิฉันเองก็เพิ่งผ่านความตายมา อยู่เยอรมัน มันเห็นภาพชัดมาก เรื่องระบบการรักษาพยาบาล เพิ่งผ่าตัดมา ได้รับการบริการเป็นอย่างดี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่แน่นอน ทุกคนต้องทำงานเพื่อจ่ายค่าประกันในแต่ละเดือน ย้ำว่าทุกคน มันเป็นกฎหมาย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะทุกคนต้องทำงาน หรือแม้แต่ตกงาน รัฐก็มีสวัสดิการที่พอเหมาะกับการป่วย หรือมีชีวิตรอด และที่สำคัญคือสบายใจที่จะป่วย และไม่ต้องทำงานในช่วงป่วยด้วย และไม่ต้องกังวลว่าหลังจากป่วย จะไม่มีเงินใช้ เพราะเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องจ่ายให้ แม้จะป่วยเป็นปีๆ ก็ตาม แต่ต้องมีใบรับรองจากแพทย์นะคะ)
วันที่ดิฉันนอนบนเตียงรอผ่าตัด และหลังผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาดูแลเป็นอย่างดี ด้วยคำพูดที่ดีๆ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ในทุกๆ ชั่วโมง ได้นอนห้อง private มีชุดมาให้เปลี่ยนทุกวัน มีคนมาทำความสะอาดห้องทุกวัน มีการแจ้งก่อนล่วงหน้าว่าจะต้องทำอะไรตอนไหน เป็นระบบ และไม่มีความตื่นตระหนกใดๆ หมอ พยาบาลเขารู้ว่าก่อนผ่าหลังผ่าร่างกายคนไข้จะเกิดอะไรบ้าง มีบุรุษพยาบาลมารับ มาเข็นเตียงเพื่อพาไปห้องผ่า และรับกลับ หลังผ่า คุณหมอก็มาตรวจไข้ พูดคุย อธิบายว่าผลการผ่าเป็นอย่างไร จากนั้นก็มีตรวจเช็คร่างกายเข้าห้องตรวจ อีก 2-3 วันๆ ละครั้ง วางยาสลบ ส่องกล้อง เช็คละเอียดมาก มีโรคประจำตัวนู่นนี่นั่นมั้ย (ต้องกรอกเอกสารละเอียดยิบก่อนหน้านั้นหลายเดือน) มีแท็กชื่อที่ข้อมือ เพื่อป้องกันการผ่าผิดตัว และถามก่อนเข้าห้องผ่าว่าคุณชื่อนามสกุลอะไร เพื่อยืนยันว่าไม่ผ่าผิดคน จนกระทั่งมั่นใจว่า ปลอดภัยดีแล้ว ถึงให้กลับบ้าน มีการนัดตรวจส่งจดหมายมาที่บ้านเพื่อเรียกกลับไปเช็ค 3 เดือนหลังผ่า ฯลฯ ทุกอย่างประทับใจ อบอุ่น และไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆ เพราะเราสบายใจ และมั่นใจในทุกๆอย่างที่เราได้รับจาก รพ. และรู้สึกว่าดีกว่า รพ.เอกชนที่ไทย ที่เคยไปรักษามาด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ไทยจ่ายแพงกว่ามากๆ
ที่นี่แม้ตกงานหรือไม่มีเงินเลย ก็สามารถได้รับบริการอย่างเดียวกับเศรษฐี พอมองย้อนกลับไปที่ไทยแล้วก็สะท้อนใจมากค่ะ EP นี้บอกเลยว่ามันกระแทกใจดิฉันอย่างรุนแรง เพราะเพิ่งจะคุยกันในกลุ่มของนักปรัชญาเล็กๆ เกี่ยวกับเรื่องความตาย และพุทธแม้ว่าจะสอนเรื่องความตายก็จริงนะ แต่ทำไมเราไม่รู้สึกสบายใจ โล่งใจ แบบเดียวกับที่ได้ฟังปรัชญาจาก EP นี้ก็ไม่รู้ ขอบคุณพิธีกรทั้งสองท่านนะคะ ที่ส่งต่อเรื่องราวดีๆ แบบนี้ บางทีให้อ่านเองก็ไม่มีเวลาเนอะ มันเยอะ และที่สำคัญ ขอบคุณที่สร้างสังคม สร้างกลุ่ม สร้าง Channel ปรัชญานี้ขึ้นมา สังคมไทยโหยหาและต้องการการพัฒนาทางสติปัญญาด้วยปรัชญาแบบนี้ ทำต่อไปนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่าน มันมีประโยชน์มาก และดีต่อใจมาก ปล. ถ้ามีกลุ่มสำหรับให้เข้าไปพูดคุย ถกถาม ได้ ก็คงจะดีค่ะ รอฟังข่าวนะคะ
สุดท้ายได้ซ้อมตายมาแล้วหลายครั้งค่ะ รู้ว่าจะต้องทำจิตใจยังไงเมื่อเวลานั้นมาถึง สบายใจที่จะจากไปโดยไม่จำเป็นต้องมีใครมาอยู่ข้างๆ เลย
เป็นคลิปที่ดีที่สุดคลิปหนึ่งที่ได้ดูในปีนี้เลยครับ ขอบคุณทีมงานทุกคนมากๆครับ
ความตายที่ดีเป็นแบบไหน ? --- คือ การใช้ชีวิตให้ดีที่สุดก่อนความตายมาถึง เมื่อใช้ชีวิตอย่างดีที่ที่สุด ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด ดูแลและรักคนที่เรารักให้ดีที่สุด ....เมื่อถึงวาระสุดท้าย ผมคิดว่าเราจะไม่ค่อยรู้สึกเสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำแล้ว นั่นเป็นความตายที่งดงามครับ เพราะกลัวหรือไม่กลัวก็ตาย ไม่มีไม่ตาย ไม่ตายไม่มี
รายการที่ชอบมากที่สุด ตั้งเเต่ใช้ยูทูปมา
ผมชอบรายการนี้มาก ดูตั้งเเต่วันแรกที่ลง EP. 1 ชวนให้คิด ในหลาย ๆ อย่าง ถึงจะไม่ได้บันเทิงหวือหวา แต่รู้สึกจรรโลงปัญญาและจิตใจมาก ส่วน EP นี้ ได้อ่านแนวคิดเรื่องความตายของหลาย ๆ ท่านก็ได้อะไรบางอย่างกลับมาชวนติดต่อเหมือนกัน
สำหรับคำตอบของคุณฟาง การตายที่ดี คือการที่ได้ตายอย่างที่ตั้งใจไว้ สิ่งที่ผมได้ตั้งใจไว้คือการที่ได้สร้างคุณประโยชน์อะไรบางอย่างกับสังคมหรือโลกใบนี้ ผมแวดงความจำนงบริจาคร่างกาย-อวัยวะไว้ หวังไว้ว่าจะได้ใช้สิทธิ์นั้น แต่หลังจากอ่านคอมเมนต์หลาย ๆ ท่านแล้วก็รู้สึกว่า เราจะสามารถสร้างคุณประโยชน์ได้โดยไม่ต้องรอวันตายอย่างเดียว ก็จะนำมาปรับใช้ในชีวิต ให้เป็นคนที่ดีขึ้นอะไรประมาณนี้นะครับ
"ดอกไม้งดงามในยามที่ร่วงหล่น และยิ่งงดงามในยามสายลมพัดผ่าน" นึกถึง ดอกซากุระ เลยครับ 💚
เราคิดว่าชีวิตที่ไม่มีความทุกข์ดีกว่า ชีวิตที่มีความสุขนะ แล้วอีกอย่างมันต้องลงแรงทั้งกายและใจนะ เพราะกว่าจะคิดแบบนี้ได้ต้องฝึกปฏิบัติมาไม่น้อยเลย เป็นรายการที่ดีมากค่ะ❤
เนื้อหาดีมากค่ะ เราควรออกแบบการตายของตัวเองรอไว้ค่ะ 😊
ขอบคุณมากครับ ทั้งสอง 2 ท่าน ตามฟางมาจาก รายการเดิม..รายการนี้ เด็ด กว่าเดิมเลยอะ ชอบมากๆๆๆๆ ฟังแล้ว มรณานุสติ ทุกวัน. ทำต่อไปนะ.
ขอบคุณจริงๆครับที่จัดทำรายการนี้ขึ้นมา บางครั้งเราถามหาเหตุผลต่างๆในการใช้ชีวิตโดยที่เราไม่ได้รู้ตัว คำถามบางคำถามไม่ไม่สามารถกลั่นกรองออกมาได้เองถ้าไม่มีคนrape upให้แบบนี้อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สบ่ย ให้สนุก ขอบคุณepนี้มากๆครับ
ดีมากๆเลยครับ หากเป็นเรื่องที่แน่นนอน และเป็นเรื่องสำคัญ การตายก็เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวในทุกขณะปัจจุบันเท่าที่จะทำได้
สิ่งที่ผมพอจะเตรียมได้หลังจากว่าเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนตัวผมไม่ได้ทุกข์ร้อนกับความตาย แต่อาจจะเรียกว่าเป็นกังวลกับคนที่อยู่หลังความตายของเรามากกว่า ก็แก้ด้วยการทำประกันชีวิตไว้ให้เพียงพอกับปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิตต่อของครอบครัว ส่วนของตัวเองก็หมั่นทำบุญทำทานเป็นกิจวัตรประจำวัน ปล่อยวางเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เช่นโกรธใครแค้นใครก็ไม่ได้คำสัญอีกอภัยและพร้อมจะมีมิตรภาพดีๆ ทำประโยชน์กับคนรอบข้าง บริจาคอวัยวะ บริจาคร่างกาย รักษาสุขภาพเพื่อให้อวัยวะในร่างกายสมบูรณ์พอที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้มีชีวิตรอดต่ออย่างมีคุณภาพมากขึ้น
ชอบรายการนี้มากค่ะ Deep และลึกซึ้ง คิดทันบ้าง ไม่ทันบ้าง ฟังจบแต่ละ Ep เหมือนเขย่าความคิดให้กลับไปคิดต่ออีกค่ะ 👍🤓
เป็นตอนที่ให้ผมนึกถึงอนิเมะเรื่องนึงเลย ซึ่งก้คือ frieren ยายฟรีเรนที่เป็นเอลฟ์ที่มีชีวิตยืนยาว เคยประสบพบเจอกับเรื่องที่ดี และเรื่องที่เศร้ามากมาย จนทำให้ยายชินขากับขีวิต แต่เมื่อความตายของคนรัก เฮ้ย ผู้กล้าฮิมเมลมาถึง ยายเค้าก็ได้รับรู้คุณค่าของชีวิตผ่านทางของผู้กล้าฮิมเมลอีกครั้ง และวันนึงยายก้ต้องจบลง..ผมชอบเรื่องนี้มากๆเลยล่ะ อยากให้มีss2 มากๆๆๆๆ😭😭
ผมเลยยากตายแบบผู้กล้าฮิมเมลครับ ตายโดยที่ช่วยเหลือใครได้สักคน
ชอบตอนนี้มาก ผมเคยลองคุยเรื่องความตายกับคนอื่นๆ ไม่ค่อยมีใครอยากคุยเรื่องนี่ด้วย
เป็นepisodeที่ดีที่สุดตั้งแต่ทำมาเลยครับ ชอบมาก
ขอบคุณที่ทำรายการนี้ขึ้นมานะคะ ทำให้ได้หันกลับมามองชีวิตทั้งในมุมที่มีต่อตัวเอง และสาธารณะ ดีมากๆๆๆ เลยค่ะ กดlike และ subscribe เรียบร้อย รอติดตามep ต่อไปเรื่อยๆๆนะคะ ❤❤❤❤❤
เป็นตอนที่ฟังซ้ำบ่อยมากๆ❤
ตามทุก ep. ขอชื่นชม เป็นรายการที่ดีมาก heal ใจมาก และเข้าถึงได้ง่าย ได้โปรดอย่าหยุดรายการนี้นะ 🙏🏼❤️❤️❤️ เป็นรายการโปรดรายการใหม่ที่ตั้งตารอทุกสัปดาห์
ตั้งแต่เจอความตายพลัดพรากคนรักจากไป“แม่” ตั้งแต่วันนั้น ระลึกตัวเองมาเสมอ ว่าวันนึงเราต้องมีวันนั้น...วางลงทุกอย่างก็เบาสบาย ความเข้าใจ การมีสติ จิตที่ดี ความคิดที่ดี เมตตาต่อตัวเอง เมตตาต่อทุกสิ่งบนโลกใบนี้ การใช้ชีวิตหลังจากนี้“ไม่ยาก”เลยค่ะ😇🤍🕊️
ขอบคุณที่ทำให้เราเข้าใจ สภาวะ ปัจจุบันนี้ แล้ว ชวนทำให้เราคิดไปถึง สภาวะ ในวันข้างหน้า :)
ปรัชญาที่ดี => ต้องทำให้ชีวิตดีขึ้น ชอบเลย
ตั้งแต่ฟังมา นี่เป็นepที่เรารักมากที่สุด ให้เป็นที่1เลย❤
ดีต่อใจมากๆค่ะ ในวัยที่โตขึ้นการได้ฟังทั้งสองคนช่วยให้เราได้คุยกับตัวเองมากๆ❤
เป็นรายการที่มีคุณค่ามากๆครับ
ทุกการเปรียบเทียบในแต่ละบริบท คือยอดเยี่ยมมากๆครับ
เพื่อผู้คนและสังคม รักรายการนี้มากๆครับ🩵
ขอบคุณทีมงานค่ะ มันดีย์ เปิดมุมมองใหม่ๆ
ตอนนี้เป็นตอนที่ดีมากๆ ทำให้นึกถึง series Black mirroe ss2 ep1 Be right back ถ้าความตายพรากคนที่เรารักไป และวิทยาการนำคนรักเรากลับมาพร้อมความทรงจำ เราจะทำอะไรต่อไป ถ้าสิ่งนั้นกลับมา move on หรือ moving Together น่าคิดมากๆ และถ้าอีกเรื่องหนึ่งที่คิดออกสำหรับคนที่หมกมุ่นกับความตายถูกสะท้อนออกเป็นหนัง แม้ว่าตัวหนังจะมีคำถามเยอะ เรื่อง madam web แต่เรื่องนี้พูดถึงคนที่หมกมุ่นกับความฝันและยึดติดว่าจะมีคนมาทำร้าย ทำให้เราตายเลยต้องพยายามหยุดกระบวนการทั้งหมด
กลับมาที่โลกความเป็นจริง อะไรที่เราไม่เข้าใจ เราก็กลัวและกังวลเป็นเรื่องธรรมดา ผมเชื่อว่า ความรู้และการเรียบเรียงจากตอนนี้ จะทำให้เราเกิดการคิดและมองความตายเป็นชุดความรู้ที่เราถึงเวลาเราจะมันมันผ่านไปได้ พร้อมกับทิ้งความทุกข์ให้เราและคนที่อยู่รอบๆตัวเรา ให้น้อยที่สุด ขอบพระคุณทีมงานที่ทำตอนนี้อย่างดีมากครับ
ขอบคุณที่ขยายความ ส่วนที่ผมได้ตกผลึกมุมมองของความตายออกมาให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ผมแชร์คลิปนี้ไปให้คนรอบตัวที่รัก และหวังว่าบางคนจะเปิดฟัง บางคนอาจจะเข้าใจ และหาความหมายของชีวิตของตัวเองเจอ ความตายไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือ การไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ การไม่เคยได้ทำ ในสิ่งที่อยากทำ ถ้าเข้าใจความตายและปรับรูปแบบชีวิตให้ดี เราจะไม่กลัวความตาย❤❤❤
Ep.ก่อนหน้า ก็ว่าดีแล้ว...แต่Ep.นี้คือ ดีที่สุด
เราคิดถึงเรื่องความตายบ่อยมากค่ะ แต่ไม่ได้คิดแบบกลัวตายนะคะ แค่ชอบพิจารณาเรื่องนี้เพื่อเตือนสติให้ไม่ประมาทและใช้ชีวิตให้มีความหมายเท่าที่ทำได้ (มีความสุขตามอัตภาพ ช่วยเหลือผู้อื่น-สังคมบ้าง)
ตอนแรกๆ ที่ถามคำถามเรื่องแง่มุมที่ทำให้ความตายเป็นเรื่องบวก (ดี ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง) เราว่าแยกไม่ขาดออกจากสถานการณ์ที่เสียชีวิต (โดยเฉพาะอายุ) อีกอย่างคือค่านิยมทางวัฒนธรรม อย่างคนไทย เรียนพุทธศาสนามาก็ได้รับการสั่งสอนว่า ชีวิตเป็นความทุกข์ เป็น suffering เป็นการใช้กรรม (และสะสมกรรมดี) ตั้งแต่เด็กมากๆ เราได้รับการสอนว่า ชีวิตมี "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" (= ไม่น่าพึงปรารถนา) ตามมาด้วยความคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิด (reincarnation) ซึ่งให้ความหมายและความหวังแก่ความตาย + แนะให้ทำกรรมดี คำสอนแบบนี้ส่งผลต่อทัศนคติต่อความตายอย่างแน่นอนค่ะ
อีกอย่างที่อยากเสริมคือ ชอบส่วนที่ทั้งสองท่านคุยกันเรื่องประเด็นการตายของอาม่าคุณฟาง (เราประสบแบบเดียวกันเป๊ะเลยค่ะ วัยไล่เลี่ยกันด้วย) และข้อคิดจากงานของทิสเดลค่ะ -- การตายที่ดีหรือไม่ดี ในปัจจุบันแยกไม่ขาดจากฐานะทางเศรษฐกิจแน่นอน การตายแบบที่มีภาระตกทอดส่งต่อให้คนรุ่นหลังเป็นจำนวนมาก (เช่นเป็นหนี้ก้อนใหญ่) การตายแบบที่รู้ว่าทายาทยังเล็กมากและจะไม่มีใครอยู่ดูแลเขาแล้ว ยิ่งย่อมสร้างความทุกข์ทนให้แก่ผู้ที่กำลังจะต้องตาย -- จากจุดนั้นจึงมีบริษัทประกันชีวิต พยายามจะ commodify การตายของเราทุกคน ฝากเงินไว้เพื่อเป็นหลักประกันชีวิต (ดูแลคนข้างหลัง) จนตอนนี้กลายเป็นความเชื่อหลักว่า คนเราต้องทำงานหนักมากเพื่อเตรียมเกษียณ (เพื่อจะเข้าถึง good healthcare แบบที่คุณภาคิณอ่านวรรคนั้นล่ะค่ะ) คนเราต้องทำงานหนักเพื่อฝากเงินมหาศาลเพื่อดูแลคนข้างหลัง (= ตายดี ไม่มีกังวล)
ซึ่งสองอันนี้ ถ้าพ่วงมากับการทำงานหนัก ทนทุกข์ทนมาน ไม่มีเวลาเพื่อตอบสนองต่อชีวิตด้านอื่นๆ ไม่มีเวลาใช้ร่วมกับคนที่เรารัก -- สุดท้ายแล้วมันจะทำให้กลายเป็นมีความตายที่ดี แต่มีชีวิตที่แย่ก็เป็นได้นะคะ
เขียนยาวอีกละ แชร์ไว้เท่านี้ก่อนละกันค่ะ
ปรัชญาทั้งนั้นเลยที่พูดมา มันไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ความตายมันอยู่อยู่กับเราตลอดเวลาไม่ใช่ปรัชญาพูดจาสวยงาม ตัวเองก็ยังมีความรู้ความเข้าใจแค่อ่านจากตำรา ประเด็นนี้อย่าเอามาพูดให้เหมือนมันดูน่าอภิรมย์ ตัวแปลในเรื่องนี้มีมากมายเกินกว่าจะเอามาจินตนาการตั้งคำถามกันไปมา มนุษย์ทุกคนล้วนมีชะตากรรมเปนของตัวเอง รายละเอียดแต่ละคนก็แตกต่างกัน
จากคำพูดที่ว่า "ตัวแปลในเรื่องนี้มีมากเกินกว่าจะจินตนาการตั่งคำถามกันไปมา" หมายความว่า เราไม่ควรตั้งคำถามและพยายามทำความเข้าใจมันหรือครับ ?
ถ้าไม่ตั้งคำถาม เราจะทำความเข้าใจมันได้อย่างไร ?
เราจะตระหนักรู้ โดยการไม่ตั้งคำถามได้อย่างไร ?
ผมชอบรายการนี้ ที่ชวนมาตั้งคำถามและถกประเด็นต่างๆ ชวนให้คิด
ถ้าเราไม่ตั้งคำถาม คนที่ไม่เข้าใจ เค้าจะตระหนักรู้อย่างไร
มีคำแนะนำหรือวิธีการสำหรับเรื่องนี้มั้ยครับ
เป็นตอนที่ดีมาก หลายคำถามเป็นเรื่องที่ไม่เคยฉุกคิดมาก่อนแล้วได้ลองคิดคำคอบให้ตัวเองบ้าง
เป็นรายการที่ดีมาก อย่าหยุดทำนะคะ ขอบคุณคะ
ชอบมาก จริงๆรอคอยทุกอีพี ชอบอ.ภาคิน กับพี่ฟาง และทีมงานทุกคน ฟังสนุกมาก deep talk ชอบมากค่ะ ❤❤❤❤❤❤
น้ำเสียง ไมล์ ดังฟังชัดเจน มีภาพประกอบที่ดี เนื้อหายิ่งดีเยี่ยม ขอขอบคุณนะคับ
ความตายที่ดี
ไม่เกี่ยวกับสถานที่
ทรัพย์ศถุงคาร หรือ
สถานที่ส่วนตัวเลิศหรูอลังกาล
ความตายที่ดีผู้คนมักนึกย้อนกลับถึงความดี
หรือความร้ายกาจของตนที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราทั้งนั้น พวกที่ร้ายมากๆวีรกรรมมาก หลายคนคิดได้ตอนใกล้จากไป ก็รู้สึกหม่นหมอง แก้ไขใดใดไม่ทัน
หลายคนคิดถึงบุญที่สั่งสมมาตลอดชีวิต หลายคนคิดถึงคนดีดีที่เข้ามาในชีวิตและขอบคุณขอบคุณ หลายคนคิดถึงความคลั่งแค้นที่เจอคนทำร้ายตนหลากหลายรูปแบบความคิดยึดติดและปัญญาญาณสั่งสมก่อนจาก ถ้าเชื่อแนวทางพุทธก็ต้องละการยึดติดให้มากสุดคือการตายที่ดี
ยึดแนวทางโลกคือ
ด้านวัตถุคงหมดเวลาการเป็นเจ้าของครอบครองรวมถึงตัวบุคคล
การตายที่ดีที่สุดคือ
การฝึกจิตให้ละและปล่อยวาง....
เวลาคุณป่วยเจ็บหนักก่อนตาย คงไม่ได้ได้มีสายตาไว้แค่ดูห้องพิเศษ ห้องส่วนตัว
จิตใกล้หลุด ภาพที่จะซ้อนขึ้นตลอดให้คุณเห็นบนฝาผนังคือกิจกรรมเด็ดๆที่คุณสั่งสมในวาระจิตต่างหาก..... พวกเตะหมาฆ่าแมว
บลาๆๆๆนี่ล่ะเด็ดมากภาพจะโชว์ชัด เป็นสไลด์
ฝึกจิตแต่วันนี้
ไม่ง่ายบอกเลย
ละการยึดติดสิ่งของวัตถุบุคคลให้มากๆค่ะ
ตั้งแต่วัยเด็กจนแก่วันนี้
เจอพวกร้ายกาจด้วยเหตุใดใดมักหนีแบบคนขลี้ขลาดหาที่ห่างไกลคนเหล่านั้นไม่ใช่กลัว แต่ที่กลัวคือ การด่าทอกระทบกลับและแก้แค้นเอาคืน เพราะสุดท้าย วาระจิตที่ไม่ดีเหล่านี้ต่างหากที่จะทำให้เราเกิดใหม่จะไม่หลุดพ้น เจอสิ่งเดิมๆอีก
ใครร้ายมาก สุดท้ายมักกินตัวเอง ถ้าไม่อยากต้องคอยขออโหสิกรรมใดใดกับใคร หัดละการมีเรื่องราวทะเลาะเบาะแว้งหาเหตุต่อกันในเรื่องใดๆก็ตามน่าจะดีที่สุด จิตที่ขุ่นมัวยึดติดทุกเรื่องราว คือ การไปอย่าง ไร้ความสงบ ....
สรุป ปรัชญาของการจากโลกไปที่ดีจึงเกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันกับบุคคลล้วนๆ อย่าเสียเวลาทำร้ายคนอื่นตลอดเวลา เพราะเท่ากับทำให้ตนจิตไม่สงบก่อนลาโลก ....
อยากได้ห้องหรู ส่วนตัว
ดีดี แต่เห็นภาพโจทย์ลอยเต็มเพดานทั้งคนทั้งสัตว์ อันนี้ ควรกังวลที่สุด.......🎉 จากไปอย่างจิตอกุศล อัตภาพใหม่ จะหลุดไปที่แห่งใด พุทธศาสนามีสอนให้ทราบถ้าเชื่อในแนวทางพุทธ
แนวทางวิทย์
จิตคือซุปเปอร์ซีพียู
ถ้าสั่งสมแต่เรื่องร้ายลบ AIคงประมวลชาติใหม่ไปแนวไหนตามอัตชีวประวัติบันทึก ....
😅
ชอบรายการนี้มากๆๆๆ❤ ep นึงฟังวนทั้งอาทิตย์เลยค่ะ จนกว่าจะถึงวันศุกร์อีกรอบ
ศาสนา เป็น ทำให้ มนุษย์ มี อย่างคลาดเคลื่อน ทัศนคติ ต่อ การมีอยู่ ชีวิต และ ความตาย.🙏😇
ขอให้มีรายการนีัไปเรื่อยๆเลยนะคะ อยากฟังแบบนี้ไปมีมุมมองใหม่ที่ดีและเข้าใจโลกมากขึ้น ขอบคุณนะคะ❤
กฏธรรมชาติ ถ้ามีเกิดก็มีดับแน่นอนค่ะ❤❤
ชอบตอนนี้มากขอบคุณสำหรับ podcast ดีๆนะคะ
ชอบรายการนี้มากๆคะ..ทำต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ชอบค่ะไม่ยาวเลย ปล.ฟังตอนนี้ตอนอ่านหนังสือสอบ ปลงได้ว่า ชีวิตก็เท่านี้ หยอกๆๆ นะคะ
ฟังไปฟังมา ครุ่นคิดในความเงียบงัน แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเองครับ
ชอบรายการนี้ ให้ชวนคิด ชวนสงสัย ตั้งคำถามกับปรัชญา มันเป็นอะไรที่ทำงานกับเราได้ดี ได้กลับมาคุยกับตัวเอง กลับมาคิดถึงชีวิตตัวเอง คิดถึงความเป็นไปของครอบครัว และสังคม ขอบคุณมากๆครับ ที่มีรายการนี้ และยิ่งได้ฟังเรื่องการตายแบบนี้ทำให้ผมกลัวความตายน้อยลง และอาจจะได้คำตอบถึงการทำที่มีประโยชน์ต่อต้วเอง ครอบครัว และสังคม ก่อนที่จะตายไป
เป็นรายการที่ดีมากๆเลยครับ
ดีใจที่เห็นน้องคนนี้อีกครั้งครับ
จุดจบของชีวิตที่สวยงามคือช่วงชีวิตที่ผ่านมาคือเราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราพึ่งพอใจ เรียบง่าย มีความสูขจากภายในอย่างแท้จริง โดยไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวลหรือ ดิ้นรนค้นคว้าอีกต่อไป
ep นี้ดีมากเลยครับ💯
ชอบตอนนี้สุดๆอ่ะ มีความเซน
ตีความหมายได้ลึกดี
สำหรับผม ความตายที่ดี คือตายตอนที่เราจัดการมันได้
เหมาะกับไว้เปิดฟังบ่อยๆ จะได้ remind ตัวเอง ขอบคุณทั้งสองมากครับ ❤❤
รายการนี้อย่าเพิ่งตายไปไหนนะครับ ยังอยากฟังอีกหลายๆ เรื่อง 😅
ดีมากค่ะฟังในวันเกิดพอดี ชอบมาก❤
ทรงคุณค่ามากค่ะ
เป็นอีก 1 ตอนที่ดีมากๆๆ ขอบคุณทีมงาน ❤
ความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราขึ้นอยู่ว่าคนที่ตายไปแล้วจะมีคนสรรเสริญหรือแช่งด่า
Ep.นี้คือ NO.1❤
ชอบ ep นี้มากเลยครับ รอฟัง ep หน้า ๆ อยู่นะครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากเลยค่ะ❤❤
บางทีอยู่ดีๆก็คิดใจหาย ว่าชีวิตเราจะต้องมีวันตาย เพราะตอนใช้ชีวิตไม่เคยคิดถึงวันตาย ตายแล้วไปไหนก็ไม่รู้
คลิปมีประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
มันดีจริงๆตอนนี้
นึกถึงพวกนโยบาย Palliative care ค่ะ ต้องรอให้มีรัฐสวัสดิการเท่านั้นรึเปล่า ถึงจะทำได้