Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
อันนี้เป็นข้อมูลของฝั่ง Toyota ที่พึ่งเปิดตัว Toyota Mirai 2024 รถยนต์ขุมพลังไฮโดรเจนเหมือนกันครับ : ruclips.net/video/WtGll2tH_-w/видео.html
ชื่อคลิปโครตหลอกลวง ช่องก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ชื่อหลอกให้คนเข้ามาดูหรอกคับ
1. ปั๊ม2. แรงดันของถังไฮโดรเจน3. ความเบาและขนาดเล็ก ไม่ต่างจากพกระเบิดมือติดตัวตลอดเวลา4. อากาศของไทยร้อนตัวเครื่องละอุณภูมิโดยรอบไม่ได้เย็นเหมือนญี่ปุ่น
ทดลองการชนยังว่าปลอดภัย
@@kriangsakkhemkhan4702ถ้าเค้าไม่แน่จริง ไม่มีทางแปะตราโลโก้รับรองของ EU ที่ข้างรถได้หรอกครับruclips.net/video/6v7tNjor99E/видео.htmlsi=VICcKpEyDaRulKJ6
รู้จริง 👍
ไฮโดรเจนที่เคยมีข่าวปะที่ระเบิดเป็นแบบคลื่นกระแทก แต่ไม่ใช่รถนะนี้เหมือนโกดังอะ
@@masternieli4752 555555
รถแห่งอนาคตจริงๆครับ อนาคตที่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะการผลิตไฮโดรเจนที่มีประสิทภาพยังไม่มากพอ และราคาที่ยังไม่ตอบโจทย์
HUAWEIเพิ่งออกฟาสชาร์จ600Wเต็มภายใน8นาที อีก5ปีก็จะมีแบตโชลิตเสตทออกมาอีก ไฮโดรเจนไม่ได้เกิด
น่าจะใช่
น่าจะทำโทรศัพท์ก่อนเนอะ เต็มใน 1 ราที ยอดขายพุ่งกระจาย
ราคาปั๊มแพงมากเพราะ safety ต้องคุมให้อยู่ ตุ้มมาทีเดียวเละ
อีก5ปี แบตโซลิตสเตท จะมาจริงรึ
เคยใช้optra ngv พอชุดระบบแก๊สมันหมดอายุ ต้องเปลี่ยนออกยกชุดทั้งระบบเลยนะ พวกวาล์วข้อต่อต่างๆเนี่ย ไม่งั้นมันจะจุกจิกมาก เพราะมันเป็นก๊าซแรงดันสูง ยิ่งHนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย สูงเกือบ2เท่าnĝv
สามเท่าครับ
กูคงใช้รถน้ำมันจนตาย.ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย
ราคาไฮโดรเจนยังแพงเมื่อเทียบกับน้ำมัน อันนี้อนาคตจริงๆ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ตอบโจทย์ แต่ในส่วนไฟฟ้าโครงสร้างพื้นฐานใน กทม พร้อมแล้ว
แค่ราคาเริ่มต้นแพงกว่าแต่การรักษา ระยะยาวไฮโดรเจน จะถูกกว่ามันไม่ต้องชาร์จ ไม่ต้องเติมน่้ำมัน จะเปลี่ยนอะไหล่ก็เปลี่ยนที่ศูนย์ ผมว่าภายใน 2 ปีหน้า รถ EV จะค่อยๆหายไป จีนก็น่าจะรู็ตัวถึง dump ราคาปล่อยรถออก และผมเชื่อว่าภายใน 2 ปี จีนก็จะหันไปผลิตรถไฮโดนเจนแทน
จะว่าไปแล้วรถไฮโดรเจนก็เป็นรถไฟฟ้าแบบหนึ่งเหมือนกัน เพราะเป็นการเอาไฮโดรเจนมาเข้าเครื่องแยก แล้วแยกออกมาเป็นไฟฟ้าเอาไปขับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจะอาศัยแบตเตอรี่ในการกักเก็บไฟฟ้า เมื่อต้องการให้มอเตอร์ขับเคลื่อนรถทำงาน ก็จะดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้งานได้เลย จะเห็นได้ว่ารถไฮโดรเจนต้องมีขั้นตอนขบวนการในการผลิตไฟฟ้า และเมื่อผลิตไฟได้ก็จะใช้เลย ผมยังไม่เห็นผู้ผลิตรายใดเพิ่มแบตเตอรี่ให้กับรถไฮโดรเจน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งดีเลย ก็จะได้รถEV+hydrogen ออกแบบให้ชาร์จไฟได้ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสถานีไฮโดรเจนมีน้อย เจอก็เติม ไม่เจอก็กลับมาชาร์จไฟ AC ที่บ้านได้ หรือ มีเวลา มีจังหวะก็ออกไปชาร์จไฟ DC ที่สถานีชาร์จ แต่ในหลักวิศวกรรมน่าจะยากอยู่ในตอนนี้ เพราะเราต้องมีแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ยัดใต้ท้องรถ มีถังกักเก็บไฮโดรเจนใว้กระโปรงหลังไม่รู้จะเพียงพอรึเปล่า มีเครื่องแยกไฮโดรเจนใว้กระโปรงหน้า และยังจะต้องมีกล่องอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมอีก แต่ไม่ว่าจะทำแบบไหนออกมา ผมว่าก็จะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้เด็ดขาดเลย เราจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ๆ จะไม่ได้เห็นไอเสียดำๆพ่นออกมาให้พี่ตำรวจตั่งด่านกินตังค์เราอีก ไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เสียเวลา ไม่ต้องเสี่ยงหม้อน้ำรั่ว ไหนจะต้องเปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำเมื่อถึงกำหนด ไม่ต้องเสี่ยงเติมน้ำมันผิด น่าจะง่ายกับคุณผู้หญิงขึ้นอีกเยอะครับ
พยายามต่อไปนะครับ สุดท้ายก็หนีระบบชาร์จไฟไม่พ้นหรอก จีนเค้าไปถึงไหนแล้ว อย่าเบี่ยงเบนเลย ทำรถไฟฟ้าแบบจีนก็ไม่มีใครเค้าว่าหรอกครับ คนรออยู่เยอะครับ
รอดูว่าจะ รุ่งหรือร่วง เอาใจช่วยทั้ง จีน และ ญี่ปุ่น ถ้าทำได้ก็ดีต่อผู้บริโภคทั้งหมด
เขาก็ใช้แบบชาร์จด้วยไหฟ้ามีแบตเตอรี่หัดดูให้จบด้วยครับ
รถไฟฟ้าทำแค่ ปีเดียวก็สำเร็จละ ใครๆก็ทำได้ อย่างโตโยต้าทำทุกอย่าง รถน้ำมัน ไฮโดรเจน แบตโซลิตสเตจ ไฟฟ้าอนาคตยังไงแบตก็ต้องแพงขึ้นแน่นอน หาพลังงานทางเลือกแหละถูกแล้ว
น่าจะจบที่แบตเตอรี่กากนิวเคลียร์เพราะต้องเสียเงินกำจัดอยู่แล้วเอามาทำแบต50ปีไม่ต้องชาร์จ
สำหรับค่ายโตโยต้าก็มีมาแล้วนะครับรถไฟฟ้าเห็นเปิดตัวได้สองปีหรือสามปีแล้วนี่ครับ Toyota Bz4X
ไฮโดรเจน เหมือนพกระเบิดลูกย่อมตลอดเวลา แรงดันสูง ถังต้องหนา maintenance ทีต้องมีความชำนาญไม่งั้นอันตรายมาก
ผมคนหนึ่งละกลัวมันระเบิด ใครจะว่าไงก็ชั่ง 😂
ควยแล้วรถน้ำมันมึงชนแล้วระเบิดมั้ยไฟลุกมั้ย
ในบ้านเราก็มีลูกระเบิดอยู่ทุกหลังคาเรือน _ถังแก้สไง_ 😊
@@riverkwai9lpg แรงดันมันสูงหรือไง ถ้าไม่รั่วไม่มีปัญหา
อันนั้นเอาไว้ฆ่าคนในบ้าน อันนี้เอาไว้เสี่ยงตายร่วมกัน
รถยนต์ในอนาคตคือ รถไฟฟ้าแน่นอน แต่ต้องเพิ่มจุชาร์ทไฟเพิ่มขึ้น/แบตเตอรี่จุไฟฟ้าได้มาก วิ่งได้ไกล/เวลาในการชาร์ทน้อยลง
อีก 6 ปีก็จบแล้วรถไฟฟ้า คอยดู
รถไฮโดรเจนก็รถไฟฟ้าครับ แค่ไม่ใช้แบตเตอรี่
ผมเห็นคลิปที่ประเทศจีนนะครับ แบตเตอรี่ ที่ผลิตจากนิวเคลียร์ แต่มันปลอดภัย อย่างนี้ผมว่า น่าจะเวิร์ค สมมุติว่าเรามีแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งอ่ะ มันไม่ใหญ่มาก มันเล็ก 50 ปี 100 ปี ผมว่าตอนนั้นน่ะเวิร์ค สามารถไปติดตั้งกับยานบินส่วนตัวได้เลย ญาณบินส่วนตัวได้เลย เอามาติดเป้สะพายหลัง แล้วก็บินเหาะไปในอากาศไปทำงานได้เลย เหมือนในหนังนะครับเวิร์คเลย แต่เราคงลอยกันตามมันในอากาศแน่เลย แต่ก็ต้องมีกฎจราจร
@@นายพิษณุนรมานิตย์จริงครับ จากนิวเคลียร์ดีกว่ามากเพราะมันให้พลังงานเยอะผมว่าอยู่ไดหลายเดือนถึงปีโดยไม่ต้องชาจ แต่ก็ต้องดูเรื่องความปอตภัย
ผมว่ารถไฟฟ้าในอนาคต อาจจะสร้างในแบบขับไปแล้วชาร์จไฟเข้าเก็บในแบตเตอรี่อย่างเพียงพอ อาจไม่ต้องชาร์จ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ถ้ารถไฟฟ้าพัฒนาเรื่องการเจนไฟกลับเข้าตัวรถให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมevมาเเน่ มันวิ่งได้ไกลเเละไม่ต้องเเวะชาตบ่อย เช่นใช้กระโปรงหน้า หลังเปนเเผงชาตไฟก้อน่าสนใจ
อยากเปิดใจนะ แต่ก่อนอื่นเลยคือเรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้รถชนกันแทบจะเป็นเรื่องปกติบนท้องถนน ซึ่งคำว่าอุบัติเหตุมันห้ามกันไม่ได้ เราไม่ชนเค้า เค้าก็ชนเรา แล้วทีนี้จะสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของรถและผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนนได้อย่างไร ถ้าเป็นรง.นิวเคลียร์ยังพอว่าเพราะมันคอนโทรลได้ทุกพารามิเตอร์ แต่พอเป็นรถยนต์แล้วเนี้ย... แค่เฉียวชนยังไล่ยิงกัน อนาคตคงไม่ได้ยิงกันแล้วเพราะรถระเบิดดับทั้งคู่ สู้ใช้รถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยค่าแบตพังก็แค่เรียกประกัน
+1
เกิดยากครับ แรงดันในถังเยอะมาก รถใหม่ไม่เท่าใหร่ แต่ถ้า รถเก่าแล้วใช้งานไม่ได้ดูแลรักษาดีพอ ระเบิดเคลื่อนที่ชัดๆเลย
ผมใช้รถแก็สngv แรงดันในถัง3000psi ใช้มา15ปีแล้วครับก็ยังใช้ได้ปกติอยู่ อีก3ปีได้เวลาเปลี่ยนถังใหม่ ก็ยังไม่มีปัญหาใดๆครับ มันไม่ระเบิดง่ายๆหรอก ทางบริษัทเขามีวิศวกรเต็มบริษัท เขาก็ต้องออกแบบเตรียมใว้เรียบร้อยแล้วครับ
@@wichitkrisboonchu3892 แรงดันในรถที่ใช้ ไฮโดรเจนที่ชนิดของเซลล์เชื้อเพลง (Fuel Cell) มีแรงดันประมาณ 700 บาร์ (10,000 psi) ครับ ถ้าไม่ได้ถูดูแลโดยศุนย์บริการ รถเก่าๆ นี่อันตรายกว่า NGV เยอะครับ รถใหม่ๆปลอดภัยแน่นอนครับ ผมหมายถึงรถที่ใช้งานไปนานแล้วไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ คนไทยไม่ได้เปลี่ยนรถบ่อยๆครับ
@@wichitkrisboonchu3892 Fuel Cell แรงดัน 700 Bar (10,000 psi) นะครับ รถใหม่ๆไม่กลัว กลัวรถเก่าที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ ใช้บนท้องถนน ระเบิดดีๆนี่เอง เป็นข้อกังวลครับ
พยายามขายฝันต่อไปครับ Honda เราไม่ได้ว่าคุณไม่เก่งนะ แต่อุปกรณ์ ในปัจจุบัน ยังไม่เท่าทัน สำหรับการใช้ไฮโดรเจนในตอนนี้ ครับ
พัฒนาต่อไปครับ อานคติอาจจะได้เติมน้ำเปล่าก็ได้
4:57 ระยะทำการแทบไม่ต่างกับ BEV เท่าไรเลย แถม BEV มันยังพัฒนาต่อได้อีกหลายขั้นทั้งแบตและหัวชาร์จ ท่าทางจะเหนื่อยหน่อยพี่ยุ่น
ไม่หรอกครับมันคือ อนาคต แน่นวล พลังงานที่มากที่สุดในโลก ยิ่งกว่าน้ำมัน
ไฮโดเจน ติดไฟง่าย อาจระเบิดรุ่นแรง อันตรายมากกว่าน้ำมัน
ใช้คำว่าไม่ครอบคุม ใช้คำว่ายังไม่มีดีกว่าไหม ง่ะ ไฮโดรเจน หาเติมได้ที่ไหนง่ะ
เคยเห็นมีคนสุโขทัยลองทำมาเกือบ 20 ปีละมีทั้งรถยนต์ ,มอเตอร์ไซค์ เติมน้ำอย่างเดียว แต่ยังไม่เห็นการพัฒนามากขึ้น
ของพวกนั้นมันแหกตาครับ ดันเอามาออกข่าวซะเป็นเรื่องเป็นราวให้อายชาวโลก ของhonda เขาเติมไฮโดรเจน ไม่ได้เติมน้ำ
ฝันเอาระบบแก็สแรงดันสุง ซ่อมที่อย่างโหด ไม่ซ่อมก็กลัวระเบิดอีก😂ชนมาแก็สรั่วกู้ภัยเอางัย
ผมว่าหาไฮโดรเจนเติมแอบยากกว่า หาสถานีชาร์จไฟ/เติมน้ำมันแถมราคาพลังงานต่อกิโลเมตรไม่น่าจะถูกเพราะขนส่งยาก ใช้รถEV ชีวิตง่ายกว่า ซ.ต.พ. รถไฮโดรเจนแท้งแน่ครับ หากดื้อทำต่ออาจได้เห็นจุดจบรถค่ายญี่ปุ่น
แล้วใช้อะไรเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถ-แล้วสถานี-เติมพลังงาน-มันมีพร้อมแล้วหรือยัง?
ดูจากอเมริกาที่เคยมีปั้มไฮโดรเจน ตัวไฮโดรเจนต้องลงทุนสร้างปั้มแบบน้ำมันเรยครับซึ่งลงทุนหนักแพง ผู้ใช้น้อย จึงเกิดยากมากๆ การขนส่งก็มีปัญหาครับ สรุปต้องสร้างใหม่แทบทั้ง วงจร ลูกค้าถ้ารู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างจากน้ำมันมากงั้นใช้น้ำมันต่อไม่ดีเหรอ แถม ต้นทุนก็ไม่ได้ถูกเพราะการได้มาซึ่งตัวไฮโดรเจนก็ใช้ต้นทุนสูงในการแยก รถไฟฟ้าเรยเกิดง่ายกว่าเพราะต้นทุนต่อหัวชาร์จไม่สูงมาก ค่าไฟก็ถูกกว่าน้ำมันครับ
เมกาน่าจะใช้น้ำกันยาวๆครับเพราะที่นู้นราคาน้ำมันถูก รถไฟฟ้ายังลำบากจะตีตลาด ไม่ต้องพูดถึงไฮโดรเจน
มันจะระเบิดเหมือนเรือเหาะไหม เพราะใช้พลังงาน ไฮโดรเจน เหมือนกัน
เค้าต้องทำ safety อยู่แล้วแหละครับ มันก็น่าจะเหมือนรถติดแก๊สทั่วไปแหละครับ
Mirai เปิดตัวมา6ปี รุ่นล่าสุด1ปี สถานี1แห่ง จดทะเบียนจริงกี่คัน
เอาใจช่วยค่ะ รอติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ในอนาคต
ระบบนี้บ้านเราอาจไม่เหมาะด้วยอุณภูมิของไทย ถังบรรจุเชื้อเพลิงที่ใช้อาจมีนน.มากกว่าถังแก๊ส และสถานนีเชื้อเพลิงที่จะรองรับ น่าจะยุ่งยาก กว่าปั้มชารต์ไฟฟ้าและการลงทุนที่สูงกว่า
ทำใมไม่พัฒนารถไฟฟ้า แต่สามารถชาร์ไฟด้วยโชล่าเชล ส่วนด้านบนของรถ พัฒนาโซล่าเชลให้พอดีกับหลังค่ารถและสามารถถอดประกอบได้ วิงไปซาร์ทไปเหมาะกับแสงแดดเมื่องไทย หรือว่ากลัว เศรษฐีน้ำมันจะกลายเป็นขอทาน ครับ ตามหลักการส่มารถทำำด้นะครับ แต่บริษัทรถไม่ทำ เพราะถ้าทำได้ผลิตภัณจากน้ำมัน จะเจ๊ง
มันมีทรัพย์ยากรที่ไหน จีน ไม่ส่งแร่ให้ก็จ๋อย ญี่ปุ่นดีที่ผลิต AV ใช้โปรแกรมตกแต่งให้นางแบบสวยหน่อย คนก็ดูแล้ว
โซลาร์เซลล์มีประสิทธิภาพไม่มากพอที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าในปริมาณที่เพียงพอสำหรับขับเคลื่อนรถ แผงขนาด 1 ตร.ม. ผลิตไฟฟ้าได้แค่ 4-500 วัตต์ ยังต้องให้อธิบายต่ออีกไหมครับ
@@warutchetjeangthanaratana8055 ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์ทเข้าไว้ในแบตท์ขับไปซาร์ทไป เสหมือนไดซาร์ทรถยนต์ทีใช้ไฟเข้าแบตรถยนต์ ผมว่าพัฒนาอีกหน่อยคงจะใช้ได้นะ แต่ผมว่าบริษัทขายน้ำมัน และประเทศ ผลิตน้ำมันคงไม่ชอบสิ่งนี้ นะ
@@warutchetjeangthanaratana8055ให้ความรู้กันดีแล้ว แต่ตอนท้ายไม่ไหว
@@warutchetjeangthanaratana8055และขอเสริมด้วยครับ อายุเซลล์ก็ไม่นานครับราวสี่้ห้าปีก็หมดอายุการใช้งาน
พูดมาตั้งแต่ปี 60 พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก ดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ มาปี67ก็ยังพูดเหมือนเดิม ยังไม่ได้วางจำหน่ายสักที เอาแบบใช้งานได้จริงๆนะ มีปั้มรองรับ
ผมได้ยินมาว่า toyota มีแนวคิดนี้ตั้ง 40 ปีที่แล้ว และว่ารถไฟฟ้าเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น แต่ตอนนี้เอาเรื่องน้ำมันไปก่อนเพราะกำไรดี ไม่งั้นบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นถึงให้โบนัสพนักงานได้ตั้ง 7 เดือน อีกไม่น้อยกว่า 20 ปีหรอกที่ญี่ปุ่นถึงจะยอมเปลี่ยน
ยางลมรถยนต์ปรกติเติม 2 bar ลองไปดูตอนมันระเบิดLPG ต้องอัดถัง 20 bar ลองไปดูตอนมันระเบิดNGV ตองอัดถัง 200 bar ลองไปดูตอนมันระเบิดไฮโดรเจน ต้องอัดในถัง 700 bar ลองไปดูตอนมันระเบิด การสร้างปั้ม เพื่อเติม ไฮโดรเจน ต้องใช้งบมากกว่าปั้มน้ำมันประมาณ 10 เท่า เพราะถังที่ทนแรงดัน ขนาดนั้นต้องหนาโคตรไม่ง่ายที่จะเกิด
มันก็น่าห่วงอยู่ ถ้าไม่ไปถึงจุดที่ใช้น้ำเติม
ไม่ต้องเผาที่วัดเลยคับ เผากันในรถนั่นเลย
ความน่าสนใจของไฮโดรเจนนั้นอยู่ที่ ความรวดเร็วในการเติมไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน และที่สำคัญคือปริมาณของพลังงานต่อน้ำหนักสูงกว่าแบตเตอร์รี่มากคือ 35000Whต่อน้ำหนักไฮโดรเจน1กิโล แบตที่ใช้ในรถไฟฟ้าปัจจุบันประมาณ 200-300Whต่อกิโล และถังบรรจุในปัจจุบันเป็นวัสดุผสมที่มีความทนทานมากและน้ำหนักเบา
ฝันกลางวันไฮโดรเจน...😂😂😂
Hydrogen นะครับ ไม่ใช่ Nitrogenเห็นด้วยเรื่องแรงดันที่สูงมากในการเติม ซึ่งต้องใช้ถังไร้รอยต่อที่หนามากและน้ำหนักเยอะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการผลิตไฮโดรเจนยิ่งถ้าต้องการรักโลกแบบสุดๆ โดยใช้ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ค่าใช้จ่ายในการผลิตไฮโดรเจนสูงมากๆ แต่ถ้าใช้ไฮโดรเจนสีเทา (Grey Hydrogen) ก็ยังปล่อย CO2 อยู่ดี แต่ต้นทุนผลิตต่ำสุดส่วนไฮโดรเจนสีน้ำเงิน (Blue Hydrogen) ก็ต้องจัดการฝัง CO2***ไฮโดรเจนแต่ละสี ไม่ใช่สีของไฮโดรเจน แต่เป็นการแยกตามกระบสนการผลิต
ผมเคยฟังคุณกีกี้ ศักดิ์ นานา พูดไว้ว่า แรงดันเยอะมากเลยนะสำหรับไฮโดรเจน ถ้าระเบิดขึ้นมานี่รัศมีการทำลายล้างกว้างมาก แค่คิดก็เสียวแล้วครับ
มีมาหลายสิบปีแล้ว เคยเห็นอยู่ จำได้ พื้นรถจะเจาะไว้ เอาขาลงมายันกับพื้น สลับเท้าซ้าย เท้าขวา เมื่อมีแรงเฉื่อย คนขับจะยกขาขึ้นมาพัก แล้วรถจะวิ่งต่อไปได้ ไม่ต้ิองเติมอะไรเลย ลองไปหาดูกัน
มันคงเหมาะสมกับบ้านเค้าเพราะเค้ามีสถานี H2 แต่คงไม่เหมาะกับหลายๆ ประเทศ อยากให้พี่หยุ่นทั้งหลายหันมาผลิต HEV กับ PHEV ให้มีหลายรุ่นหลายราคาดีกว่า เพราะผมว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังเลือก ส่วนตัวผมยังรอ PHEV อยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกที่ถูกใจ ลองรถไฟฟ้าแล้ว ยังไม่ใช่ทาง
ยาก ถ้าจะสู้กับ EV ต้องใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่าEVหรือไม่ก็เติมเชื้อเพลิงบางส่วนนานๆครั้งเท่านั้น เช่นไฮบริดโซล่าเซลล์ไฮโดรเจนจะเกิดได้มีแค่กรณีเดียวคือ เติมเชื้อเพลิงด้วยน้ำเปล่า
เคยเห็นบทความเกี่ยวกับรถไฮโดรเจน ตัวถังเก็บนี่ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่รถbevอีก
ถังไฮโดรเจน มีเเรงดันกี่บาร์คุนรู้กันไหมลองนึกภาพน่ะครับ ถังแก็ส มีแรงดัน 13\15บาร์ ถังไฮโดรเจน มีเเรงดัน 190\200บาร์ ลองคิดถึงตอนมันระเบิดเหมือนกับ เราขี่ ระเบิด c4 ดีๆนี่เอง บึ้มมม ตายเรียบ
ข้อดีของรถไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนผลิตคือ1.เติมได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ 2.อายุการใช้งานนานกว่าแบตเตอรี่ ข้อดีของรถไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ 1.ไม่ต้องกังวลเรื่องถังเก็บ 2.ราคาถูกว่า
ราคาเเบต4-5แสน
ไฮโดรเจน ได้มาจากน้ำก็จริง แต่ต้นทุนวิธีเแยกเอาไฮโดรเจนออกจากน้ำ ยังซับซ้อนและใช้ตุ้นทุนสูง อยู่ ความคิดผมรถพลังงานไฟฟ้านี่ตอบโจทย์สุดล่ะ เป็นพลังงานที่หาได้ไม่ยาก ระบบขับเคลือนก็ไช้อุปกรณ์น้อย แต่ต้องไปพัฒนาเรืองแบตเตอรี่ ความเร็วในการชาร์จ สถานีชาร์จให้ดีกว่านี้
ถ้าศึกษาลึกๆ (แบบระดับเรียนต่อต่างประเทศเลย) พลังงานไฮโดรเจน คือพลังงานทดแทนของไฟฟ้าที่แท้จริงๆครับ แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ นักเรียนนักศึกษาทุกคนที่เรียนด้านนี้มา ทราบกันดีทุกคนครับ
ดีแล้วครับ พัฒนาแหวกแนวไป ซึ่งถ้าต่อยอดด้วยการใช้อากาศ ใช้น้ำ ก็ไวกว่าค่ายอื่นละ แต่น่าจะนาน
ไฮโดรเจนในความคิดผมนะยังไม่ตอบโจทย์ในทางเลือกเพราะไฮโดรเจนยังมีราคาแพงอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับไฟฟ้าแล้วยังมีราคาที่แพงกว่าเยอะชึ้งไม่ใช้ทางเลือกแน่นอนครับ
จริงหรือครับ
ไฮโดรเจนมีล้นโลก ไม่ต้องหาเลย แค่แยกน้ำออก ก็ได้แล้ว H2O ได้ hydrogen 2 oxygen 1
@@JamieRedknap จริงด้วยครับ
ทำไมในจีนค่ายรถเริ่มผลิตออกมากันหลายค่าย มีอีก 700 กว่ารุ่นขึ้นทะเบียนไฮโดรเจนกับรัฐบาลแล้ว สถานีเตรียมผุดนับพันสถานีล่ะครับ แพงจะไปขายใครกันนะครับ ในอเมริกากาลงทุน hydrogen hub 7,000 ล้านเหรียญ ในญี่ปุ่นจาก 4,000 คันรัฐบาลสั่งให้มี 800,000 คันสถานีเติมไฮโดรเจนให้มีครอบคลุมทั้งประเทศ
พอๆกับดวงอาทิตย์เทียมนะแหละ...ปล่อยไฟเข้าล้านได้พลังงานออกมาร้อย
เจ็งครับถ้าไม่มีสถานี เจ็งตั้งแต่จะคิดทำแล้ว แถมระบบกรองอากาศที่จะใช้กับเมืองร้อนที่ธรรมชาติมีผุ่นมาก ถ้าใช้เสปกเมืองหนาวงานนี้มีเฮ ถ้าไม่ต้องเปลี่ยนกรองอากาศทุก3000โล ก็ต้องมานั่งลุ้นระบบแปลงพลังงานอะไรจะไปก่อนกัน
ที่คุณคิดก็เหมือนตอนรถไฟฟ้ามาใหม่แต่สุดท้ายคนหมู่มากก็ยอมรับ
@@ศุภกรโกฏิฉกรรจ์ แต่อันนี้มานานแล้วจ้า เจ็งไปรอบแล้วแต่ยังไม่แก้ปัญหาเดิม คิดว่าจะประสบความสำเร็จจริงเหรอ รถไฟฟ้าตอนแบ็ตเดิมน้ำ แบตไออ้อนวิ่งได้นิดเดียวก็เจ็ง กลับมาอีกครับเปลี่ยนเป็นแบตลิเทียมมันก็ดีขึ้น
สู้ๆๆๆๆๆทุกชาติ เพื่อนสิ่งแวดล้อมโลก 🙏🙏🙏🇹🇭🇹🇭🇹🇭ตมรอยพ่อหลวงไทย อย่างยั่งยืน 🙏🙏🙏
ถ้าเติมน้ำแยกไฮโดรเจน คงใข้น้ำเท่าสระว่ายน่้ำ สำหรับผมคงจบแค่EV กว่าจะพัฒนาไฮโดรเจนมาทดแทนและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานผมคงไปก่อนแล้ว หรือถ้ายังอยู่วันนั้นคงต้องให้ลูกหลานขับพาไปไม่ได้ขับเองแล้ว(หมดสภาพ😄) กวังว่ารุ่นลูกหลานเราจะยังมีอากาศดีให้หายใจอยู่นะ
จริงครับ ถ้าเอามาจากน้ำเลียมันจะดีมากๆ
แบบไหนก็ชอบครับ ถ้าไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
คิดแบบ บ้านๆนะครับ โทรศัพท์ มีเครื่องไหนใช้ เชื่้อเพลิงไฮโดรเจนบ้าง ก็ใช้แบต มันเหมาะสมกว่า รถก็ใช้แบตก็ดีอยู่่แล้ว ไฮโดรเจน น่าจะเหมาะกับ รถขนาดใหญ่ๆ แค่สถานีชาร์จไฟฟ้า บ้านเรายังไม่พอ ถ้าจะรอไฮโดรเจนคงจะชาติหน้า อีกอย่าง ถ้าฮอดด้าทำออกมาสองระบบ ราคาจะสู้่รถจีนไหวเหรอ ผมว่ายาก ดูโทรศัพท์มือถือ ก็สู้จีนไม่ไหว ดูแล้ว เหมือนคนญี่ปุ่น ยุคใหม่ สู้คนรุ่นเก่าไม่ได้ คิดอะไร ไม่ทันจีน จริงๆก็ชอบญีุ่่ปุ่น ลุ้นว่าจะทำอะไรให้ว๊าวบ้าง ก็โตมากับไอ้มดแดง เชียร์อยู่แล้ว แต่ในโลกความเป็นจริง อะไรที่พึ่งพาได้กันแน่ ลาซาด้า ชอบปี้ไง อิอิ
เมื่อก่อนชาร์จแบตนานกลัวนั่นกลัวนี่แต่เดี่ยวนี้เห็นชาร์จลืมไม่กลัวระเบิดทุกอย่างพัฒนาให้ดีได้แต่จะทันได้ใช้ไหมตายก่อนบ๊ายบาย
ถ้าสามารถเปลี่ยน ไฮโดรเจนจากอากาศได้ ผมจะเชื่อ ว่า อนาคด ถ้าไม่ได้ แล้ว ต้องเข้าป้ำเหมือนเดีมเนีย มันก่อไม่ใช่หรอกครับ ไฟฟ้า เขาเรี่มชาจ ที่บ้านได้แล้ว นั่นคือจุดขาย
เอาจริงนะ เรา อยากได้ ดีเซลไฮบริด เพาะดีเซลมันยังผลิตง่าย แต่่ต้องทำไห้การเพาไหม้ไห้สะอาดขึ้น เยอะๆ
มันก็ต้องอยู่ที่ ราคา/ระยะทางที่วิ่งได้ รถไฟฟ้าตกโลละ 1-1.5 บาทรถไฮบริด โลละ 1.5-3 บาทน้ำมัน ก็แล้วแต่รุ่นเลยคนชอบรถไฟฟ้าไม่ใช่เพราะรักโลก แต่มันประหยัดกว่า
ความซับซ้อนของรถ, ค่าบำรุงรักษา, ค่าเติม H2 จะแพงมากกว่ารถไฟฟ้า แลกกับการไม่ต้องรอชาร์ต ไม่น่าจะคุ้ม อีกทั้งการเปลี่ยนปั้ม เป็นปั้ม H2 ใช้งบ?
มีขายเฉพาะเครื่อง fuel cell ไหม เอามาใช้ช่วงไฟดับ
ว่ากันไปเรื่อยเปื่อย คนที่เข้ามาเม้นท์ในนี้ ผมว่าไม่มีใครมีสิทธิ์ได้สัมผัสรถไฮโดรเจนหรอกครับ เพราะมันอาจจะเป็นจริงแต่คงอีกนานกว่าอายุขัยของหลาย ๆ คน ฝากเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ลูก - หลานฟังไว้เป็นความรู้บ้างก็ดีนะครับ เพราะได้ยินเรื่องการพัฒนาไฮโดรเจนมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้วครับ ความคืบหน้าก็มีได้ยินมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ก็มีรถทดลองวิ่ง บางยี่ห้อวิ่งตามถนนแล้ว และ อีกหน่อยก็คงวิ่งกันเกลื่อนเหมือนรถไฟฟ้านั่นแหล่ะครับ เพียงแต่ รอกันไปก่อน .... ฮี๊วว ๆ ..!!
รู้ดี
@@kkk-oo1jd ผมคิดว่าผมรู้มากกว่าคุณเยอะ ..!!
@@บรรจะนะเบนไซปา-ฮ6ฅ แสนรู้จิงครับยอมรับ55
ผมก็คิดแบบเดียวกันผมว่าอย่างน้อย 10 ปี ขึ้น
@@บรรจะนะเบนไซปา-ฮ6ฅ แสนรู้
อันตรายคูณสอง, ค่าซ่อมบำรุงคูณสอง...ค่าประกันจะเพิ่มคูณสองหรือไม่.....
รถไฟฟ้าคืออนาคตอยู่แล้ว รถไฮโดรเจนมันก็รถไฟฟ้าแต่ถ้าพัฒนาจนอยู่ตัว ลดปัญหาขยะแบตเตอรี่ กับค่าเปลี่ยนแบตมหาโหดได้แน่นอน
ผมว่าควรใช้ นิวเคลียร์มาก็กว่า10ปีชาจครั้งหนื่งอะไรงี้
@@Josuke8Man น่าจะดูแลยากนะครับ รังสีรั่วขึ้นมานี่งานใหญ่เลยครับ
@@modyskywalker4844 จริงครับ ความปอตภัยสำคัญมาก แต่ถ้าพัฒนาได้คือแทบจะไม่ต้องชาจหรือเติมน้ำมันเลยครับ
เทคโนโลยี่ใหม่ ดี ก้าวไกลสำหรับการพัฒนา แต่ดีกับผู้ใช้หรือไม่ ไฮโดรเจนเติมที่ไหน ประหยัดมั้ย การบำรุงรักษาเป็นอย่างไร ราคาตัวรถเอื้อมถึงหรือไม่.
ถ้ามีค่ายเดียว การเติมไฮโดรเจน คงหาเติมยากกว่าEV แล้วเลิกนิสัยกั๊กออปชั่นด้วยนะคับเพ่HD
ไฮโดรเจนแรงอัดสูงมาก ทำให้เติมยากจริงๆ ถึงจะเรียนวิธีการก่อนใช้ก็เถอะ, ขนาดในเยอรมันปั้มเติมก็ยังมีน้อยยมาก
พัฒนาได้ทุกอย่างยกเว้นรูปทรงรถ มันยังโบราณเหมือนเดิม
ขอถามได้มั้ยครับ รถยนค์น้ำมันเค้าคิดเป็น แล้ว ไฮโดรเจน เค้าคิดเป็น บาร์ หรือ ลิตร ครับ
คือดีนะ แต่คิดว่ามาเร็วเกินไป 20 ปี ถ้าสัก 20ข้างหน้า อาจจะเป็นที่นิยมมากกว่า
น่าพัฒนาให้เติมน้ำได้ มีเครื่องแยกไฮโดรเจนอยู่ในรถเลย จะได้ไม่ต้องสร้างสถานีเติม
มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น หลักการน่ะใช่ น้ำมีไฮโดรเจนแต่การแยกออกจนมีปริมาณมากพอจะนำไปใช้สันดาปเครื่องยนต์ได้ มันใหญ่มาก
แร่ที่นำมาทำแบตจะหมดในประมาน10ปี หลังจากนั้น ถ้าหาอะไรมาแทนไม่ได้ รถไฟฟ้า นอนยาวและตอนนี้ถ้าแบตเสียหาย เปลี่ยนแบตทีคือ60%ขอราคารถ แต่ยังดีที่ช่วงนี้ยังมีประกันแบต แต่ไม่รุ้นะว่ารายละเอียดที่ประกันจะประกันแค่ไหน
ถ้าต่อยอด ผลิตเครื่องแปลงไฮโดรเจน ฝังในรถเลย เติมน้ำพอ ให้เครื่องสกัดในตัวใช้ในตัวเลย
ได้แน่นอน ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์ทไฟหรือเติมแก็ส แค่เราจอดที่โชว์รูมแล้วใช้บริการรถสาธารณะ
แล้วจะไปเติม ไฮโดรเจน ที่ปั้มไหนครับ ช่วยคิดเครื่องยนต์เติมน้ำก๊อก แล้ววิ่งได้เลยดีกว่า
คิดเหมือนกันเลยครับ ก็ในน้ำมีไฮโดรเจนอยู่แล้ว แค่ทำให้แยกกันกับออกซิเจน เท่านั้น สมัยก่อน ยังเคยมีไอเดียนี้ กับรถที่ใช้หัวเทียนจุดระเบิดเลย แล้วกลับเงียบไป
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ครับ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ มันจะเท่ากับพลังงงานที่ได้จากการสันดาปไฮโดรเจน ไม่มีเหลือพอสำหรับขับเคลื่อนรถครับ@@chaiwatvlt
ไม่เติมน้ำมันและไม่ชาร์จไฟแล้วจะมีอะไรมาทดแทนได้ แล้วมันจะดีกว่าได้จริงแค่ไหน กลัวแต่จะมีแต่ราคาคุย แล้วจะเอาไฮโดรเจนมาจากไหน มีแต่ความยุ่งยากตามมามากกว่า คิดตามหลักวิศวกรรมแล้วมีแต่ความเพ้อฝัน ในสองปีนี้ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน ตัวอย่างที่ดับอนาถคือระบบแก๊ส NGV ที่พยายามเข็นกันสุดชีวิตแล้วก็ได้แค่นั้น
ระบบการจ่ายพลังงานแอมโมเนียนั้น ปราศจากคาร์บอน และมีความหนาแน่นของพลังงานในระบบที่สูงกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมถึง 5 เท่า อีกทั้งการชาร์จพลังงานรถไฟฟ้านั้นใช้เวลาค่อนข้างนานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่รถพลังงานแอมโมเนียใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงเพียง 8 นาที ซึ่งเร็วพอ ๆ กับการเติมน้ำมัน จึงทำให้รถพลังงานแอมโมเนียเป็นทางเลือกที่ดี 😂😂😂
รถต้องเติมก๊าซไฮโดรเจนวิ่ง ดูๆ แล้วก็เหมือนรถใช้เครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติ เพียงแต่ไม่มีการจุดระเบิดออกเป็นควันเท่านัั้น ปัญหาเดิมๆ ในการเติมก๊าซที่ใช้เวลานานก็ย้อนกลับมา แถมก๊าซไฮโดรเจน ไวไฟกว่า ก๊าซธรรมชาติอีก ไอเดียใช้ก๊าซไฮโดรเจนนี้ เคยเป็นที่สนใจในวงการรถยนต์มาพักนึง ที่แยกน้ำออกเป็น ก๊าซไฮโดรเจน กับก๋าซออกซิเจน แล้วเอาไปจุดระเบิดเครื่องยนต์ ประหยัดค่าเชื้อเพลิง แค่เติมน้ำก็วิ่งได้ แถมก๊าซไฮโดรเจนี่ได้ ก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการเก็บกักไว้เยอะ ให้เป็นที่อันตรายแต่คราวนี้กลับกัน เอาก๊าซไฮโดรเจนมาผลิดไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์...
เปลี่ยนไปทำเครื่องยนต์กาซแอมโมเนียจะมีแววมากกว่า ต้นทุนถังกาซแรงดันก็ลดลงแถมความจุพลังก็มากกว่าไฮโดรเจน ส่วนแบตเตอรี่คนในเมืองน่าจะตอบโจทกว่า แต่ถ้าเป็นชาวนาชาวไร่ระยะทางการวิ่งไม่แน่นอนรถแบตเตอรี่ก็ลำบากเปล่าๆเข้านาเข้าไร่เจอตอกระแทกแบตเตอรี่ก็ร้องไห้แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงการขนส่งจำนวนมหาศาลระยะทางไกลๆแบบขนของทะเลจากทางใต้ไปภาคเหนือ แบตเตอรี่ไม่น่าตอบโจทย์ได้เลย รถเย็นที่รอชาร์จกันครึ่งชม.นี่อย่าว่าแต่สู้พวกรถไฮโดรเจนแอมโมเนียไม่ได้เอาไปสู้รถสันดาปก็ยังไม่ได้เลยยิ่งจำนวนการผลิตต่อปีของรถแบตเตอรี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่งั้นจีนไม่เสียเวลามาพัฒนาไฮโดรเจนร่วมกับญี่ปุ่นหรอกจริงไหม
ญี่ปุ่นเหมือนว่าจะทำไฟฟ้าตามจีนกับอเมริกาไม่ทันก็เลยไปทำอย่างอื่นแทน ประเด็นคือไฟฟ้าจะชาร์จที่ไหนได้ แต่ไฮโดรเจนยังไงก็ต้องไปที่สถานี
หากเกิดอุบัติเหตุ..การบุบสลาย..มวลรวมของรถจะเป็นเช่นไร..ระบบอาจเสียหายมากน้อย..เท่าใด..ความแข็งแรงของการป้องกันตัวเองของรถ..น่าจะมาระดับต้น..ระบบไฟฟ้าน่าจะได้เปรียบมากกว่า..
ส่วนตัว มองว่ารถไฟฟ้ายังหาแหล่งชารจไฟจากโซล่าเซลล์ได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และปลอดภัยกว่าถังก๊าซ
พูดถูกต้อง ต้องไปหาสถานีบริการให้มันครอบคลุมประเทศก่อนไม่งั้นไม่ได้ขายแน่นอน
ถ้าจะสนับสนุนให้คนหันมานิยมรถไฮโดรเจน ก็ต้องออกกฎหมายบังคับให้ปั๊มน้ำมันทุกยี่ห้อ ทุกสาขาทั่วประเทศมีโฮโัดรเจนจำหน่ายด้วย..😊..
คิดผลิตแผง Solar cell บนหลังคารถดีกว่า น่าจะเหมาะกับเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน แสงอาทิตย์แรง
สิ่งที่ผู้โฆษณาไม่บอก คือการได้มาซึ่งไฮโดรเจนไฮไดรเจนที่ได้จากน้ำ จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานในการแยก ผู้บริโภคต้องตามให้ทัน ครับ
รถยี่ปุ่นคงต้องหลีกทางให้รถจีนไปก่อน...หรืออาจจะต้องออกจากอุต.นี้เพราะยิ่งพัตตานาแข่ง..ก็ยิ่งหาทางชนะยาก..ขณะที่จีนจับจุดยี่ปุ่นได้ทุกรูปแบบ..เขาก็ชิงทำก่อนเสมอ
ทำแค่โซล่าเซลล์ติดหลังคากระโปรงรถกระจกรถจะเป็นขุมพลังมากกว่ามองๆแล้วไอโดเจนไรเนี่ยขุมนรกมากกว่าอันตราย
รอเครื่องแยกเล็กพอใส่ลงรถ เคยดูหลายปีแล้วมีขนาดรถตู้ แต่กว่าจะลดต้นทุนลดขนาด ใช้แก๊สต่อไปkm.ละ1.5-1.8บาท
ไม่เป็นที่นิยม ปัญหาเยอะ ผม อยู่อเมริกา ปั้มทะยอยปิดตัว เหมาะสำหรับรถข่นส่งมากกว่า
ไฟฟ้าดีที่สุดค่ะ สะดวก ง่าย
จะมีสถานีเติมได้ที่ไหน ทั่วไทย
เอาง่ายๆติดก๊าซครับ ไฮโดรเจนก้อคือก๊าซ ก๊าซตัวนี้แรงอัดเยอะจะมีระเบิดก้อคราวนี้ละ ขนาดไฟฟ้ายังมีปัญหาเลย
ปั้มเติมหาได้ที่ไหนครับ หรือว่าให้ซื้อกระป๋องไปเติมเองที่บ้าน😂
รถหรือยานพาหนะในอนาคตเป็นรถแห่งฟิสิกส์ไม่ใช้พลังงานหยาบแต่ไช้พลังอิออน ในอากาศ โดยมีเครื่องดึงอนุภาคอิออนจากอากาศมาเป็นพลังงานในการขั บเคลื่อน
ขอดี คือทดแทนน้ำมันได้ดี ขอเสียคือระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ตุมคือตาย ไม่เหลือเก็บไม่ต้องเผา.
รอแบบ Solar cell อยู่บนหลังคารถน่ะ วิ่งไปชาร์จไปด้วย
อีกห้าปีครับ ตอนนี้EVกำลังขาขึ้น ไม่มีรถยนต์ระบบไหนสู้ได้..
รถยนต์ขุมพลังไฮโดรเจนน่าจะไม่work ใครจะมาสร้างปั๊มเติมใช้รถไฟฟ้าน่าจะง่ายและดีกว่า
1. ที่บอกรอรถเติมน้ำ รู้กันหมครับ H2 ที่เติมในรถก็เิดจากกระบวนการ electrolysis ของน้ำ แยก H2 ออกมา อันนี้คือเค้าแยกแล้วมาเก็บ เ็บแล้วเอาไปเติมที่รถครับ 2. รถ ไฮโดรเจนก็คือรถไฟฟ้า เอา ไฮโดรเจนมาผลิตไฟฟ้าให้รถครับ 3. ในไทย มีใช้แล้ว และใช้อยู่ เป็นตัว demon 2 คัน วิ่งที่บางละมุง4. ตอนนี้ปั๊มยังไม่มี มีที่เดียวนไทย เนื่องจาก เป็นการทำลองครับ5. ไม่ต้องรีบเร่ง technology นี้ถ้าในส่วน passenger car ไฮโดรเจนอาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่ในภาคขนส่งก็ไม่แน่ 6. แรงดันสูง แน่นอนครับ ก็กลัวๆ กันเหมือน NGV/LPG สุดท้ายด้วย technology มันไปได้เรื่อง safety ก็ใช้กันถ้วนหน้า7. รถไฟฟ้าดีกว่า แต่รู้มั้ยครับ รถไฮโดรเจนเค้าผลิตมาเพื่ออะไร มันจะตอบโจทย์เรื่อง ลดปลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครับ 8. จากข้อ 7 ไฟฟ้าที่ใช้ ไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็ยังผลิตจาก fossil duel และ ถ่ายหินครับ9. Hydrogen ถูกมองว่าเป็นพลังงานในอนาคตมากกว่า แต่ยังไม่ได้ถูกผลักดันที่ดีพอ ถ้าถูกผลักดันด้านนโยบายและ incentive ผมว่าราคาก็จะจับต้องได้มากขึ้น10. รถ hydrogen ใช้เวลาอีกซักพักครับ 11. จริงๆ ข้อดีของ ไฮโดรเจนคือเติมไว น้ำหนักเบา เหมาะกับรถในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า เพราะแบตไฟฟ้าหนัก เติมช้า ทำให้รถบรรทุก บรรทุกของได้น้อย ก็เป็นต้นทุนทางการค้าเพิ่ม12. จริงอยู่ Hydrogen ผลิตจากการใช้ไฟฟ้า ซึ่งบางคนมองว่า เอาไฟฟ้ามาใช้ตรงๆเลยดีกว่า อันนี้เห็นด้วยครับ Hrdrogen ควรเอาไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าแทน fossil fuel น่าจะดีครับ 13. สุดท้าย technology ใหม่ๆ เค้าทำมาตอบโจทย์การลดใช้ fossil fuel พวกน้ำมัน เพื่ออะไรรู้มั้ยครับ เพื่อราคาถูกหรอ เปล่าเลย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่างหาก ซึ่งก็เข้าใจได้ เราใช้ๆ กันเราก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น เน้นถูก เน้นใช้ได้ ก็เป็นปกติ ครับ แต่หน้าที่ของคนมี technology ก็ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทุกคนใช้ได้และปลอดภัย14. ถามผมตอนนี้ ผมก็ใช้ EV ครับ แต่เมื่อไหร่ที่ H2 มันไปได้ ก็น่าสนใจครับ
หากน้ำมันไม่หมดจาดโลก ผมยังใช้รถน้ำมันอยู่ครับ
ใช้นำ้มันกมูแทนครับและนำ้มันพืช😂😂😂
ระเบิดวิ่งได่ราคาแพง ที่ตลกคือ มันม่มีที่ช็าตเลยแถมตู้แพงกว่าตู้ไฟฟ้าเยอะนี่ไม่นับการขนส่งเหมือนรถขนส่งน้ำมันรถขอส่งถังต้องแข็งแรงมากหนักและอันตรายกว่าถังน้ำมันอีก ซ้ำคือมันต้องเอาไฮโดรเจนมาปั้นเป็นไฟฟ้า เพื่อๆๆๆๆๆๆ😂😂😂
รถระบบไฟฟ้าEv และรถ ระบบไฮโดรเจ้น ส่วนรถไฟฟ้าน่าจะมีอายุการใช้งาน 6-8ปี ราคาล้านอัพ นึกถึงตอนเข้าศูนย์หัวจะปวดรอให้มีการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ไม่รู้ถ้าเจอน้ำท่วมระดับสูงรถจะ error ไหม ส่วนรถระบบไฮโดรเจ้น เหมือน แรงดันสูง เหมือนมีระเบิดในตัว อากาศบ้านเราค่อนข้างสูง ไม่อยากนึกสภาพ มันประหยัดค่าน้ำมันก็ดีจริง แต่ค่าแบตโหดเกิน และความปลอดภัยยังไม่เต็มร้อย ทนขับน้ำมันไปก่อน รอปรับปรุงพัฒนาแล้วค่อยว่ากัน อนาคต น้ำมันอาจจะถูกลงก็ได้ ถ้าไม่มีคนใช้ 5555
เวลาน้ำมันราคาจะถูกพวกกลุ่มโอเปกก็ร่วมกันลดกำลังการผลิตครับ อย่าหวังจะได้น้ำมันราคาถูก
ไฮโดรเจนสีเขียว มีราคาที่สูงกว่าไฮโดรเจนสีเทามาก ราคาสีเขียวน่าสัก สองถึงสามร้อยบาทต่อกิโล เลยนะ
คนไทยคิดเลย ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไมต้องใช้ชาร์ทไฟ ไม่ต้องเติมไฮดรอเจน พัฒนาใช้แดดร้อนๆอย่างเดียวเลย
อุปสรรคเดียวคือจะมีสถานีเติมเชื่อเพลิงที่น้อย อย่างเมืองไทยเองสถานีที่เป็นเรื่องราวน่าจะยังไม่มีด้วยซ้ำ เพราะวั้นดบิกพูดถึงการทำตลาดในไทยได้เลยสำหรับรถพวกนี้
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วประกรคุณภาพของกะลาแลนก็ออกมาแซะไฮเบริดแบบนี้เหละ ปัจจุบันก็มาแซะไฮโดรเจน
เพิ่งซื้อจักรยานมาไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์จไฟเหมือนกัน
มาหลายๆรุ่นหลายๆคัน จะได้เริ่มมีปั้มไฮโดรเจนเยอะๆ คนทำก๊าซ H จะได้ผลิตมากขึ้นราคาจะได้ลดลง
สุดยอดครับญี่ปุ่น
อันนี้เป็นข้อมูลของฝั่ง Toyota ที่พึ่งเปิดตัว Toyota Mirai 2024 รถยนต์ขุมพลังไฮโดรเจนเหมือนกันครับ : ruclips.net/video/WtGll2tH_-w/видео.html
ชื่อคลิปโครตหลอกลวง ช่องก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ชื่อหลอกให้คนเข้ามาดูหรอกคับ
1. ปั๊ม
2. แรงดันของถังไฮโดรเจน
3. ความเบาและขนาดเล็ก ไม่ต่างจากพกระเบิดมือติดตัวตลอดเวลา
4. อากาศของไทยร้อนตัวเครื่องละอุณภูมิโดยรอบไม่ได้เย็นเหมือนญี่ปุ่น
ทดลองการชนยังว่าปลอดภัย
@@kriangsakkhemkhan4702
ถ้าเค้าไม่แน่จริง ไม่มีทางแปะตราโลโก้รับรองของ EU ที่ข้างรถได้หรอกครับ
ruclips.net/video/6v7tNjor99E/видео.htmlsi=VICcKpEyDaRulKJ6
รู้จริง 👍
ไฮโดรเจนที่เคยมีข่าวปะที่ระเบิดเป็นแบบคลื่นกระแทก แต่ไม่ใช่รถนะนี้เหมือนโกดังอะ
@@masternieli4752 555555
รถแห่งอนาคตจริงๆครับ อนาคตที่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะการผลิตไฮโดรเจนที่มีประสิทภาพยังไม่มากพอ และราคาที่ยังไม่ตอบโจทย์
HUAWEIเพิ่งออกฟาสชาร์จ600Wเต็มภายใน8นาที อีก5ปีก็จะมีแบตโชลิตเสตทออกมาอีก ไฮโดรเจนไม่ได้เกิด
น่าจะใช่
น่าจะทำโทรศัพท์ก่อนเนอะ เต็มใน 1 ราที ยอดขายพุ่งกระจาย
ราคาปั๊มแพงมากเพราะ safety ต้องคุมให้อยู่ ตุ้มมาทีเดียวเละ
อีก5ปี แบตโซลิตสเตท จะมาจริงรึ
เคยใช้optra ngv พอชุดระบบแก๊สมันหมดอายุ ต้องเปลี่ยนออกยกชุดทั้งระบบเลยนะ พวกวาล์วข้อต่อต่างๆเนี่ย ไม่งั้นมันจะจุกจิกมาก เพราะมันเป็นก๊าซแรงดันสูง ยิ่งHนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย สูงเกือบ2เท่าnĝv
สามเท่าครับ
กูคงใช้รถน้ำมันจนตาย.ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย
ราคาไฮโดรเจนยังแพงเมื่อเทียบกับน้ำมัน อันนี้อนาคตจริงๆ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ตอบโจทย์ แต่ในส่วนไฟฟ้าโครงสร้างพื้นฐานใน กทม พร้อมแล้ว
แค่ราคาเริ่มต้นแพงกว่าแต่การรักษา ระยะยาวไฮโดรเจน จะถูกกว่า
มันไม่ต้องชาร์จ ไม่ต้องเติมน่้ำมัน จะเปลี่ยนอะไหล่ก็เปลี่ยนที่ศูนย์ ผมว่าภายใน 2 ปีหน้า รถ EV จะค่อยๆหายไป จีนก็น่าจะรู็ตัวถึง dump ราคาปล่อยรถออก และผมเชื่อว่าภายใน 2 ปี จีนก็จะหันไปผลิตรถไฮโดนเจนแทน
จะว่าไปแล้วรถไฮโดรเจนก็เป็นรถไฟฟ้าแบบหนึ่งเหมือนกัน เพราะเป็นการเอาไฮโดรเจนมาเข้าเครื่องแยก แล้วแยกออกมาเป็นไฟฟ้าเอาไปขับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจะอาศัยแบตเตอรี่ในการกักเก็บไฟฟ้า เมื่อต้องการให้มอเตอร์ขับเคลื่อนรถทำงาน ก็จะดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้งานได้เลย จะเห็นได้ว่ารถไฮโดรเจนต้องมีขั้นตอนขบวนการในการผลิตไฟฟ้า และเมื่อผลิตไฟได้ก็จะใช้เลย ผมยังไม่เห็นผู้ผลิตรายใดเพิ่มแบตเตอรี่ให้กับรถไฮโดรเจน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งดีเลย ก็จะได้รถEV+hydrogen ออกแบบให้ชาร์จไฟได้ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสถานีไฮโดรเจนมีน้อย เจอก็เติม ไม่เจอก็กลับมาชาร์จไฟ AC ที่บ้านได้ หรือ มีเวลา มีจังหวะก็ออกไปชาร์จไฟ DC ที่สถานีชาร์จ แต่ในหลักวิศวกรรมน่าจะยากอยู่ในตอนนี้ เพราะเราต้องมีแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ยัดใต้ท้องรถ มีถังกักเก็บไฮโดรเจนใว้กระโปรงหลังไม่รู้จะเพียงพอรึเปล่า มีเครื่องแยกไฮโดรเจนใว้กระโปรงหน้า และยังจะต้องมีกล่องอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมอีก แต่ไม่ว่าจะทำแบบไหนออกมา ผมว่าก็จะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้เด็ดขาดเลย เราจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ๆ จะไม่ได้เห็นไอเสียดำๆพ่นออกมาให้พี่ตำรวจตั่งด่านกินตังค์เราอีก ไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เสียเวลา ไม่ต้องเสี่ยงหม้อน้ำรั่ว ไหนจะต้องเปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำเมื่อถึงกำหนด ไม่ต้องเสี่ยงเติมน้ำมันผิด น่าจะง่ายกับคุณผู้หญิงขึ้นอีกเยอะครับ
พยายามต่อไปนะครับ สุดท้ายก็หนีระบบชาร์จไฟไม่พ้นหรอก จีนเค้าไปถึงไหนแล้ว อย่าเบี่ยงเบนเลย ทำรถไฟฟ้าแบบจีนก็ไม่มีใครเค้าว่าหรอกครับ คนรออยู่เยอะครับ
รอดูว่าจะ รุ่งหรือร่วง เอาใจช่วยทั้ง จีน และ ญี่ปุ่น ถ้าทำได้ก็ดีต่อผู้บริโภคทั้งหมด
เขาก็ใช้แบบชาร์จด้วยไหฟ้ามีแบตเตอรี่หัดดูให้จบด้วยครับ
รถไฟฟ้าทำแค่ ปีเดียวก็สำเร็จละ ใครๆก็ทำได้ อย่างโตโยต้าทำทุกอย่าง รถน้ำมัน ไฮโดรเจน แบตโซลิตสเตจ ไฟฟ้าอนาคตยังไงแบตก็ต้องแพงขึ้นแน่นอน หาพลังงานทางเลือกแหละถูกแล้ว
น่าจะจบที่แบตเตอรี่กากนิวเคลียร์เพราะต้องเสียเงินกำจัดอยู่แล้วเอามาทำแบต50ปีไม่ต้องชาร์จ
สำหรับค่ายโตโยต้าก็มีมาแล้วนะครับรถไฟฟ้าเห็นเปิดตัวได้สองปีหรือสามปีแล้วนี่ครับ Toyota Bz4X
ไฮโดรเจน เหมือนพกระเบิดลูกย่อมตลอดเวลา แรงดันสูง ถังต้องหนา maintenance ทีต้องมีความชำนาญไม่งั้นอันตรายมาก
ผมคนหนึ่งละกลัวมันระเบิด ใครจะว่าไงก็ชั่ง 😂
ควยแล้วรถน้ำมันมึงชนแล้วระเบิดมั้ยไฟลุกมั้ย
ในบ้านเราก็มีลูกระเบิดอยู่ทุกหลังคาเรือน _ถังแก้สไง_ 😊
@@riverkwai9lpg แรงดันมันสูงหรือไง ถ้าไม่รั่วไม่มีปัญหา
อันนั้นเอาไว้ฆ่าคนในบ้าน อันนี้เอาไว้เสี่ยงตายร่วมกัน
รถยนต์ในอนาคตคือ รถไฟฟ้าแน่นอน แต่ต้องเพิ่มจุชาร์ทไฟเพิ่มขึ้น/แบตเตอรี่จุไฟฟ้าได้มาก วิ่งได้ไกล/เวลาในการชาร์ทน้อยลง
อีก 6 ปีก็จบแล้วรถไฟฟ้า คอยดู
รถไฮโดรเจนก็รถไฟฟ้าครับ แค่ไม่ใช้แบตเตอรี่
ผมเห็นคลิปที่ประเทศจีนนะครับ แบตเตอรี่ ที่ผลิตจากนิวเคลียร์ แต่มันปลอดภัย อย่างนี้ผมว่า น่าจะเวิร์ค สมมุติว่าเรามีแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งอ่ะ มันไม่ใหญ่มาก มันเล็ก 50 ปี 100 ปี ผมว่าตอนนั้นน่ะเวิร์ค สามารถไปติดตั้งกับยานบินส่วนตัวได้เลย ญาณบินส่วนตัวได้เลย เอามาติดเป้สะพายหลัง แล้วก็บินเหาะไปในอากาศไปทำงานได้เลย เหมือนในหนังนะครับเวิร์คเลย แต่เราคงลอยกันตามมันในอากาศแน่เลย แต่ก็ต้องมีกฎจราจร
@@นายพิษณุนรมานิตย์จริงครับ จากนิวเคลียร์ดีกว่ามากเพราะมันให้พลังงานเยอะผมว่าอยู่ไดหลายเดือนถึงปีโดยไม่ต้องชาจ แต่ก็ต้องดูเรื่องความปอตภัย
ผมว่ารถไฟฟ้าในอนาคต อาจจะสร้างในแบบขับไปแล้วชาร์จไฟเข้าเก็บในแบตเตอรี่อย่างเพียงพอ อาจไม่ต้องชาร์จ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ถ้ารถไฟฟ้าพัฒนาเรื่องการเจนไฟกลับเข้าตัวรถให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมevมาเเน่ มันวิ่งได้ไกลเเละไม่ต้องเเวะชาตบ่อย เช่นใช้กระโปรงหน้า หลังเปนเเผงชาตไฟก้อน่าสนใจ
อยากเปิดใจนะ แต่ก่อนอื่นเลยคือเรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้รถชนกันแทบจะเป็นเรื่องปกติบนท้องถนน ซึ่งคำว่าอุบัติเหตุมันห้ามกันไม่ได้ เราไม่ชนเค้า เค้าก็ชนเรา แล้วทีนี้จะสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของรถและผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนนได้อย่างไร ถ้าเป็นรง.นิวเคลียร์ยังพอว่าเพราะมันคอนโทรลได้ทุกพารามิเตอร์ แต่พอเป็นรถยนต์แล้วเนี้ย... แค่เฉียวชนยังไล่ยิงกัน อนาคตคงไม่ได้ยิงกันแล้วเพราะรถระเบิดดับทั้งคู่ สู้ใช้รถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยค่าแบตพังก็แค่เรียกประกัน
+1
เกิดยากครับ แรงดันในถังเยอะมาก รถใหม่ไม่เท่าใหร่ แต่ถ้า รถเก่าแล้วใช้งานไม่ได้ดูแลรักษาดีพอ ระเบิดเคลื่อนที่ชัดๆเลย
ผมใช้รถแก็สngv แรงดันในถัง3000psi ใช้มา15ปีแล้วครับก็ยังใช้ได้ปกติอยู่ อีก3ปีได้เวลาเปลี่ยนถังใหม่ ก็ยังไม่มีปัญหาใดๆครับ มันไม่ระเบิดง่ายๆหรอก ทางบริษัทเขามีวิศวกรเต็มบริษัท เขาก็ต้องออกแบบเตรียมใว้เรียบร้อยแล้วครับ
@@wichitkrisboonchu3892 แรงดันในรถที่ใช้ ไฮโดรเจนที่ชนิดของเซลล์เชื้อเพลง (Fuel Cell) มีแรงดันประมาณ 700 บาร์ (10,000 psi) ครับ ถ้าไม่ได้ถูดูแลโดยศุนย์บริการ รถเก่าๆ นี่อันตรายกว่า NGV เยอะครับ รถใหม่ๆปลอดภัยแน่นอนครับ ผมหมายถึงรถที่ใช้งานไปนานแล้วไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ คนไทยไม่ได้เปลี่ยนรถบ่อยๆครับ
@@wichitkrisboonchu3892 Fuel Cell แรงดัน 700 Bar (10,000 psi) นะครับ รถใหม่ๆไม่กลัว กลัวรถเก่าที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ ใช้บนท้องถนน ระเบิดดีๆนี่เอง เป็นข้อกังวลครับ
พยายามขายฝันต่อไปครับ Honda เราไม่ได้ว่าคุณไม่เก่งนะ แต่อุปกรณ์ ในปัจจุบัน ยังไม่เท่าทัน สำหรับการใช้ไฮโดรเจนในตอนนี้ ครับ
พัฒนาต่อไปครับ อานคติอาจจะได้เติมน้ำเปล่าก็ได้
4:57 ระยะทำการแทบไม่ต่างกับ BEV เท่าไรเลย แถม BEV มันยังพัฒนาต่อได้อีกหลายขั้นทั้งแบตและหัวชาร์จ ท่าทางจะเหนื่อยหน่อยพี่ยุ่น
ไม่หรอกครับมันคือ อนาคต แน่นวล พลังงานที่มากที่สุดในโลก ยิ่งกว่าน้ำมัน
ไฮโดเจน ติดไฟง่าย อาจระเบิดรุ่นแรง อันตรายมากกว่าน้ำมัน
ใช้คำว่าไม่ครอบคุม ใช้คำว่ายังไม่มีดีกว่าไหม ง่ะ ไฮโดรเจน หาเติมได้ที่ไหนง่ะ
เคยเห็นมีคนสุโขทัยลองทำมาเกือบ 20 ปีละมีทั้งรถยนต์ ,มอเตอร์ไซค์ เติมน้ำอย่างเดียว แต่ยังไม่เห็นการพัฒนามากขึ้น
ของพวกนั้นมันแหกตาครับ ดันเอามาออกข่าวซะเป็นเรื่องเป็นราวให้อายชาวโลก ของhonda เขาเติมไฮโดรเจน ไม่ได้เติมน้ำ
ฝันเอาระบบแก็สแรงดันสุง ซ่อมที่อย่างโหด ไม่ซ่อมก็กลัวระเบิดอีก😂ชนมาแก็สรั่วกู้ภัยเอางัย
ผมว่าหาไฮโดรเจนเติมแอบยากกว่า หาสถานีชาร์จไฟ/เติมน้ำมันแถมราคาพลังงานต่อกิโลเมตรไม่น่าจะถูกเพราะขนส่งยาก ใช้รถEV ชีวิตง่ายกว่า ซ.ต.พ. รถไฮโดรเจนแท้งแน่ครับ หากดื้อทำต่ออาจได้เห็นจุดจบรถค่ายญี่ปุ่น
แล้วใช้อะไรเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถ-แล้วสถานี-เติมพลังงาน-มันมีพร้อมแล้วหรือยัง?
ดูจากอเมริกาที่เคยมีปั้มไฮโดรเจน ตัวไฮโดรเจนต้องลงทุนสร้างปั้มแบบน้ำมันเรยครับ
ซึ่งลงทุนหนักแพง ผู้ใช้น้อย จึงเกิดยากมากๆ การขนส่งก็มีปัญหาครับ สรุปต้องสร้างใหม่แทบทั้ง วงจร ลูกค้าถ้ารู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างจากน้ำมันมากงั้นใช้น้ำมันต่อไม่ดีเหรอ
แถม ต้นทุนก็ไม่ได้ถูกเพราะการได้มาซึ่งตัวไฮโดรเจนก็ใช้ต้นทุนสูงในการแยก
รถไฟฟ้าเรยเกิดง่ายกว่าเพราะต้นทุนต่อหัวชาร์จไม่สูงมาก ค่าไฟก็ถูกกว่าน้ำมันครับ
เมกาน่าจะใช้น้ำกันยาวๆครับเพราะที่นู้นราคาน้ำมันถูก รถไฟฟ้ายังลำบากจะตีตลาด ไม่ต้องพูดถึงไฮโดรเจน
มันจะระเบิดเหมือนเรือเหาะไหม เพราะใช้พลังงาน ไฮโดรเจน เหมือนกัน
เค้าต้องทำ safety อยู่แล้วแหละครับ มันก็น่าจะเหมือนรถติดแก๊สทั่วไปแหละครับ
Mirai เปิดตัวมา6ปี รุ่นล่าสุด1ปี สถานี1แห่ง จดทะเบียนจริงกี่คัน
เอาใจช่วยค่ะ รอติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ในอนาคต
ระบบนี้บ้านเราอาจไม่เหมาะด้วยอุณภูมิของไทย ถังบรรจุเชื้อเพลิงที่ใช้อาจมีนน.มากกว่าถังแก๊ส และสถานนีเชื้อเพลิงที่จะรองรับ น่าจะยุ่งยาก กว่าปั้มชารต์ไฟฟ้าและการลงทุนที่สูงกว่า
ทำใมไม่พัฒนารถไฟฟ้า แต่สามารถชาร์ไฟด้วยโชล่าเชล ส่วนด้านบนของรถ พัฒนาโซล่าเชลให้พอดีกับหลังค่ารถและสามารถถอดประกอบได้ วิงไปซาร์ทไปเหมาะกับแสงแดดเมื่องไทย หรือว่ากลัว เศรษฐีน้ำมันจะกลายเป็นขอทาน ครับ ตามหลักการส่มารถทำำด้นะครับ แต่บริษัทรถไม่ทำ เพราะถ้าทำได้ผลิตภัณจากน้ำมัน จะเจ๊ง
มันมีทรัพย์ยากรที่ไหน จีน ไม่ส่งแร่ให้ก็จ๋อย ญี่ปุ่นดีที่ผลิต AV ใช้โปรแกรมตกแต่งให้นางแบบสวยหน่อย คนก็ดูแล้ว
โซลาร์เซลล์มีประสิทธิภาพไม่มากพอที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าในปริมาณที่เพียงพอสำหรับขับเคลื่อนรถ แผงขนาด 1 ตร.ม. ผลิตไฟฟ้าได้แค่ 4-500 วัตต์
ยังต้องให้อธิบายต่ออีกไหมครับ
@@warutchetjeangthanaratana8055 ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์ทเข้าไว้ในแบตท์ขับไปซาร์ทไป เสหมือนไดซาร์ทรถยนต์ทีใช้ไฟเข้าแบตรถยนต์ ผมว่าพัฒนาอีกหน่อยคงจะใช้ได้นะ แต่ผมว่าบริษัทขายน้ำมัน และประเทศ ผลิตน้ำมันคงไม่ชอบสิ่งนี้ นะ
@@warutchetjeangthanaratana8055ให้ความรู้กันดีแล้ว แต่ตอนท้ายไม่ไหว
@@warutchetjeangthanaratana8055และขอเสริมด้วยครับ อายุเซลล์ก็ไม่นานครับราวสี่้ห้าปีก็หมดอายุการใช้งาน
พูดมาตั้งแต่ปี 60 พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก ดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ มาปี67ก็ยังพูดเหมือนเดิม ยังไม่ได้วางจำหน่ายสักที เอาแบบใช้งานได้จริงๆนะ มีปั้มรองรับ
ผมได้ยินมาว่า toyota มีแนวคิดนี้ตั้ง 40 ปีที่แล้ว และว่ารถไฟฟ้าเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น แต่ตอนนี้เอาเรื่องน้ำมันไปก่อนเพราะกำไรดี ไม่งั้นบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นถึงให้โบนัสพนักงานได้ตั้ง 7 เดือน อีกไม่น้อยกว่า 20 ปีหรอกที่ญี่ปุ่นถึงจะยอมเปลี่ยน
ยางลมรถยนต์ปรกติเติม 2 bar ลองไปดูตอนมันระเบิด
LPG ต้องอัดถัง 20 bar ลองไปดูตอนมันระเบิด
NGV ตองอัดถัง 200 bar ลองไปดูตอนมันระเบิด
ไฮโดรเจน ต้องอัดในถัง 700 bar ลองไปดูตอนมันระเบิด
การสร้างปั้ม เพื่อเติม ไฮโดรเจน ต้องใช้งบมากกว่าปั้มน้ำมันประมาณ 10 เท่า เพราะถังที่ทนแรงดัน ขนาดนั้นต้องหนาโคตร
ไม่ง่ายที่จะเกิด
มันก็น่าห่วงอยู่ ถ้าไม่ไปถึงจุดที่ใช้น้ำเติม
ไม่ต้องเผาที่วัดเลยคับ เผากันในรถนั่นเลย
ความน่าสนใจของไฮโดรเจนนั้นอยู่ที่ ความรวดเร็วในการเติมไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน และที่สำคัญคือปริมาณของพลังงานต่อน้ำหนักสูงกว่าแบตเตอร์รี่มากคือ 35000Whต่อน้ำหนักไฮโดรเจน1กิโล แบตที่ใช้ในรถไฟฟ้าปัจจุบันประมาณ 200-300Whต่อกิโล และถังบรรจุในปัจจุบันเป็นวัสดุผสมที่มีความทนทานมากและน้ำหนักเบา
ฝันกลางวันไฮโดรเจน...😂😂😂
Hydrogen นะครับ ไม่ใช่ Nitrogen
เห็นด้วยเรื่องแรงดันที่สูงมากในการเติม ซึ่งต้องใช้ถังไร้รอยต่อที่หนามากและน้ำหนักเยอะ
ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการผลิตไฮโดรเจนยิ่งถ้าต้องการรักโลกแบบสุดๆ โดยใช้ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ค่าใช้จ่ายในการผลิตไฮโดรเจนสูงมากๆ
แต่ถ้าใช้ไฮโดรเจนสีเทา (Grey Hydrogen) ก็ยังปล่อย CO2 อยู่ดี แต่ต้นทุนผลิตต่ำสุด
ส่วนไฮโดรเจนสีน้ำเงิน (Blue Hydrogen) ก็ต้องจัดการฝัง CO2
***ไฮโดรเจนแต่ละสี ไม่ใช่สีของไฮโดรเจน แต่เป็นการแยกตามกระบสนการผลิต
ผมเคยฟังคุณกีกี้ ศักดิ์ นานา พูดไว้ว่า แรงดันเยอะมากเลยนะสำหรับไฮโดรเจน ถ้าระเบิดขึ้นมานี่รัศมีการทำลายล้างกว้างมาก แค่คิดก็เสียวแล้วครับ
มีมาหลายสิบปีแล้ว เคยเห็นอยู่ จำได้ พื้นรถจะเจาะไว้ เอาขาลงมายันกับพื้น สลับเท้าซ้าย เท้าขวา เมื่อมีแรงเฉื่อย คนขับจะยกขาขึ้นมาพัก แล้วรถจะวิ่งต่อไปได้ ไม่ต้ิองเติมอะไรเลย ลองไปหาดูกัน
มันคงเหมาะสมกับบ้านเค้าเพราะเค้ามีสถานี H2 แต่คงไม่เหมาะกับหลายๆ ประเทศ อยากให้พี่หยุ่นทั้งหลายหันมาผลิต HEV กับ PHEV ให้มีหลายรุ่นหลายราคาดีกว่า เพราะผมว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังเลือก ส่วนตัวผมยังรอ PHEV อยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกที่ถูกใจ ลองรถไฟฟ้าแล้ว ยังไม่ใช่ทาง
ยาก ถ้าจะสู้กับ EV ต้องใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่าEVหรือไม่ก็เติมเชื้อเพลิงบางส่วนนานๆครั้งเท่านั้น เช่นไฮบริดโซล่าเซลล์
ไฮโดรเจนจะเกิดได้มีแค่กรณีเดียวคือ เติมเชื้อเพลิงด้วยน้ำเปล่า
เคยเห็นบทความเกี่ยวกับรถไฮโดรเจน ตัวถังเก็บนี่ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่รถbevอีก
ถังไฮโดรเจน มีเเรงดันกี่บาร์คุนรู้กันไหมลองนึกภาพน่ะครับ ถังแก็ส มีแรงดัน 13\15บาร์ ถังไฮโดรเจน มีเเรงดัน 190\200บาร์ ลองคิดถึงตอนมันระเบิดเหมือนกับ เราขี่ ระเบิด c4 ดีๆนี่เอง บึ้มมม ตายเรียบ
ข้อดีของรถไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนผลิตคือ1.เติมได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ 2.อายุการใช้งานนานกว่าแบตเตอรี่ ข้อดีของรถไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ 1.ไม่ต้องกังวลเรื่องถังเก็บ 2.ราคาถูกว่า
ราคาเเบต4-5แสน
ไฮโดรเจน ได้มาจากน้ำก็จริง แต่ต้นทุนวิธีเแยกเอาไฮโดรเจนออกจากน้ำ ยังซับซ้อนและใช้ตุ้นทุนสูง อยู่ ความคิดผมรถพลังงานไฟฟ้านี่ตอบโจทย์สุดล่ะ เป็นพลังงานที่หาได้ไม่ยาก ระบบขับเคลือนก็ไช้อุปกรณ์น้อย แต่ต้องไปพัฒนาเรืองแบตเตอรี่ ความเร็วในการชาร์จ สถานีชาร์จให้ดีกว่านี้
ถ้าศึกษาลึกๆ (แบบระดับเรียนต่อต่างประเทศเลย) พลังงานไฮโดรเจน คือพลังงานทดแทนของไฟฟ้าที่แท้จริงๆครับ แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ นักเรียนนักศึกษาทุกคนที่เรียนด้านนี้มา ทราบกันดีทุกคนครับ
ดีแล้วครับ พัฒนาแหวกแนวไป ซึ่งถ้าต่อยอดด้วยการใช้อากาศ ใช้น้ำ ก็ไวกว่าค่ายอื่นละ แต่น่าจะนาน
ไฮโดรเจนในความคิดผมนะยังไม่ตอบโจทย์ในทางเลือกเพราะไฮโดรเจนยังมีราคาแพงอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับไฟฟ้าแล้วยังมีราคาที่แพงกว่าเยอะชึ้งไม่ใช้ทางเลือกแน่นอนครับ
จริงหรือครับ
ไฮโดรเจนมีล้นโลก ไม่ต้องหาเลย แค่แยกน้ำออก ก็ได้แล้ว H2O ได้ hydrogen 2 oxygen 1
@@JamieRedknap จริงด้วยครับ
ทำไมในจีนค่ายรถเริ่มผลิตออกมากันหลายค่าย มีอีก 700 กว่ารุ่นขึ้นทะเบียนไฮโดรเจนกับรัฐบาลแล้ว สถานีเตรียมผุดนับพันสถานีล่ะครับ แพงจะไปขายใครกันนะครับ ในอเมริกากาลงทุน hydrogen hub 7,000 ล้านเหรียญ ในญี่ปุ่นจาก 4,000 คันรัฐบาลสั่งให้มี 800,000 คันสถานีเติมไฮโดรเจนให้มีครอบคลุมทั้งประเทศ
พอๆกับดวงอาทิตย์เทียมนะแหละ...ปล่อยไฟเข้าล้านได้พลังงานออกมาร้อย
เจ็งครับถ้าไม่มีสถานี เจ็งตั้งแต่จะคิดทำแล้ว แถมระบบกรองอากาศที่จะใช้กับเมืองร้อนที่ธรรมชาติมีผุ่นมาก ถ้าใช้เสปกเมืองหนาวงานนี้มีเฮ ถ้าไม่ต้องเปลี่ยนกรองอากาศทุก3000โล ก็ต้องมานั่งลุ้นระบบแปลงพลังงานอะไรจะไปก่อนกัน
ที่คุณคิดก็เหมือนตอนรถไฟฟ้ามาใหม่แต่สุดท้ายคนหมู่มากก็ยอมรับ
@@ศุภกรโกฏิฉกรรจ์ แต่อันนี้มานานแล้วจ้า เจ็งไปรอบแล้วแต่ยังไม่แก้ปัญหาเดิม คิดว่าจะประสบความสำเร็จจริงเหรอ รถไฟฟ้าตอนแบ็ตเดิมน้ำ แบตไออ้อนวิ่งได้นิดเดียวก็เจ็ง กลับมาอีกครับเปลี่ยนเป็นแบตลิเทียมมันก็ดีขึ้น
สู้ๆๆๆๆๆทุกชาติ เพื่อนสิ่งแวดล้อมโลก 🙏🙏🙏🇹🇭🇹🇭🇹🇭ตมรอยพ่อหลวงไทย อย่างยั่งยืน 🙏🙏🙏
ถ้าเติมน้ำแยกไฮโดรเจน คงใข้น้ำเท่าสระว่ายน่้ำ สำหรับผมคงจบแค่EV กว่าจะพัฒนาไฮโดรเจนมาทดแทนและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานผมคงไปก่อนแล้ว หรือถ้ายังอยู่วันนั้นคงต้องให้ลูกหลานขับพาไปไม่ได้ขับเองแล้ว(หมดสภาพ😄) กวังว่ารุ่นลูกหลานเราจะยังมีอากาศดีให้หายใจอยู่นะ
จริงครับ ถ้าเอามาจากน้ำเลียมันจะดีมากๆ
แบบไหนก็ชอบครับ ถ้าไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
คิดแบบ บ้านๆนะครับ โทรศัพท์ มีเครื่องไหนใช้ เชื่้อเพลิงไฮโดรเจนบ้าง ก็ใช้แบต มันเหมาะสมกว่า รถก็ใช้แบตก็ดีอยู่่แล้ว ไฮโดรเจน น่าจะเหมาะกับ รถขนาดใหญ่ๆ แค่สถานีชาร์จไฟฟ้า บ้านเรายังไม่พอ ถ้าจะรอไฮโดรเจนคงจะชาติหน้า
อีกอย่าง ถ้าฮอดด้าทำออกมาสองระบบ ราคาจะสู้่รถจีนไหวเหรอ ผมว่ายาก ดูโทรศัพท์มือถือ ก็สู้จีนไม่ไหว
ดูแล้ว เหมือนคนญี่ปุ่น ยุคใหม่ สู้คนรุ่นเก่าไม่ได้ คิดอะไร ไม่ทันจีน
จริงๆก็ชอบญีุ่่ปุ่น ลุ้นว่าจะทำอะไรให้ว๊าวบ้าง ก็โตมากับไอ้มดแดง เชียร์อยู่แล้ว แต่ในโลกความเป็นจริง อะไรที่พึ่งพาได้กันแน่ ลาซาด้า ชอบปี้ไง อิอิ
เมื่อก่อนชาร์จแบตนานกลัวนั่นกลัวนี่แต่เดี่ยวนี้เห็นชาร์จลืมไม่กลัวระเบิดทุกอย่างพัฒนาให้ดีได้แต่จะทันได้ใช้ไหมตายก่อนบ๊ายบาย
ถ้าสามารถเปลี่ยน ไฮโดรเจนจากอากาศได้ ผมจะเชื่อ ว่า อนาคด ถ้าไม่ได้ แล้ว ต้องเข้าป้ำเหมือนเดีมเนีย มันก่อไม่ใช่หรอกครับ ไฟฟ้า เขาเรี่มชาจ ที่บ้านได้แล้ว นั่นคือจุดขาย
เอาจริงนะ เรา อยากได้ ดีเซลไฮบริด เพาะดีเซลมันยังผลิตง่าย แต่่ต้องทำไห้การเพาไหม้ไห้สะอาดขึ้น เยอะๆ
มันก็ต้องอยู่ที่ ราคา/ระยะทางที่วิ่งได้
รถไฟฟ้าตกโลละ 1-1.5 บาท
รถไฮบริด โลละ 1.5-3 บาท
น้ำมัน ก็แล้วแต่รุ่นเลย
คนชอบรถไฟฟ้าไม่ใช่เพราะรักโลก แต่มันประหยัดกว่า
ความซับซ้อนของรถ, ค่าบำรุงรักษา, ค่าเติม H2 จะแพงมากกว่ารถไฟฟ้า แลกกับการไม่ต้องรอชาร์ต ไม่น่าจะคุ้ม อีกทั้งการเปลี่ยนปั้ม เป็นปั้ม H2 ใช้งบ?
มีขายเฉพาะเครื่อง fuel cell ไหม เอามาใช้ช่วงไฟดับ
ว่ากันไปเรื่อยเปื่อย คนที่เข้ามาเม้นท์ในนี้ ผมว่าไม่มีใครมีสิทธิ์ได้สัมผัสรถไฮโดรเจนหรอกครับ เพราะมันอาจจะเป็นจริงแต่คงอีกนานกว่าอายุขัยของหลาย ๆ คน ฝากเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ลูก - หลานฟังไว้เป็นความรู้บ้างก็ดีนะครับ เพราะได้ยินเรื่องการพัฒนาไฮโดรเจนมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้วครับ ความคืบหน้าก็มีได้ยินมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ก็มีรถทดลองวิ่ง บางยี่ห้อวิ่งตามถนนแล้ว และ อีกหน่อยก็คงวิ่งกันเกลื่อนเหมือนรถไฟฟ้านั่นแหล่ะครับ เพียงแต่ รอกันไปก่อน .... ฮี๊วว ๆ ..!!
รู้ดี
@@kkk-oo1jd ผมคิดว่าผมรู้มากกว่าคุณเยอะ ..!!
@@บรรจะนะเบนไซปา-ฮ6ฅ แสนรู้จิงครับยอมรับ55
ผมก็คิดแบบเดียวกันผมว่าอย่างน้อย 10 ปี ขึ้น
@@บรรจะนะเบนไซปา-ฮ6ฅ แสนรู้
อันตรายคูณสอง, ค่าซ่อมบำรุงคูณสอง...ค่าประกันจะเพิ่มคูณสองหรือไม่.....
รถไฟฟ้าคืออนาคตอยู่แล้ว รถไฮโดรเจนมันก็รถไฟฟ้า
แต่ถ้าพัฒนาจนอยู่ตัว ลดปัญหาขยะแบตเตอรี่ กับค่าเปลี่ยนแบตมหาโหดได้แน่นอน
ผมว่าควรใช้ นิวเคลียร์มาก็กว่า10ปีชาจครั้งหนื่งอะไรงี้
@@Josuke8Man น่าจะดูแลยากนะครับ รังสีรั่วขึ้นมานี่งานใหญ่เลยครับ
@@modyskywalker4844 จริงครับ ความปอตภัยสำคัญมาก แต่ถ้าพัฒนาได้คือแทบจะไม่ต้องชาจหรือเติมน้ำมันเลยครับ
เทคโนโลยี่ใหม่ ดี ก้าวไกลสำหรับการพัฒนา แต่ดีกับผู้ใช้หรือไม่ ไฮโดรเจนเติมที่ไหน ประหยัดมั้ย การบำรุงรักษาเป็นอย่างไร ราคาตัวรถเอื้อมถึงหรือไม่.
ถ้ามีค่ายเดียว การเติมไฮโดรเจน คงหาเติมยากกว่าEV แล้วเลิกนิสัยกั๊กออปชั่นด้วยนะคับเพ่HD
ไฮโดรเจนแรงอัดสูงมาก ทำให้เติมยากจริงๆ ถึงจะเรียนวิธีการก่อนใช้ก็เถอะ, ขนาดในเยอรมันปั้มเติมก็ยังมีน้อยยมาก
พัฒนาได้ทุกอย่างยกเว้นรูปทรงรถ มันยังโบราณเหมือนเดิม
ขอถามได้มั้ยครับ รถยนค์น้ำมันเค้าคิดเป็น แล้ว ไฮโดรเจน เค้าคิดเป็น บาร์ หรือ ลิตร ครับ
คือดีนะ แต่คิดว่ามาเร็วเกินไป 20 ปี ถ้าสัก 20ข้างหน้า อาจจะเป็นที่นิยมมากกว่า
น่าพัฒนาให้เติมน้ำได้ มีเครื่องแยกไฮโดรเจนอยู่ในรถเลย จะได้ไม่ต้องสร้างสถานีเติม
มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น หลักการน่ะใช่ น้ำมีไฮโดรเจน
แต่การแยกออกจนมีปริมาณมากพอจะนำไปใช้สันดาปเครื่องยนต์ได้ มันใหญ่มาก
แร่ที่นำมาทำแบตจะหมดในประมาน10ปี หลังจากนั้น ถ้าหาอะไรมาแทนไม่ได้ รถไฟฟ้า นอนยาว
และตอนนี้ถ้าแบตเสียหาย เปลี่ยนแบตทีคือ60%ขอราคารถ แต่ยังดีที่ช่วงนี้ยังมีประกันแบต แต่ไม่รุ้นะว่ารายละเอียดที่ประกันจะประกันแค่ไหน
ถ้าต่อยอด ผลิตเครื่องแปลงไฮโดรเจน ฝังในรถเลย เติมน้ำพอ ให้เครื่องสกัดในตัวใช้ในตัวเลย
ได้แน่นอน ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์ทไฟหรือเติมแก็ส แค่เราจอดที่โชว์รูมแล้วใช้บริการรถสาธารณะ
แล้วจะไปเติม ไฮโดรเจน ที่ปั้มไหนครับ ช่วยคิดเครื่องยนต์เติมน้ำก๊อก แล้ววิ่งได้เลยดีกว่า
คิดเหมือนกันเลยครับ ก็ในน้ำมีไฮโดรเจนอยู่แล้ว แค่ทำให้แยกกันกับออกซิเจน เท่านั้น สมัยก่อน ยังเคยมีไอเดียนี้ กับรถที่ใช้หัวเทียนจุดระเบิดเลย แล้วกลับเงียบไป
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ครับ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ มันจะเท่ากับพลังงงานที่ได้จากการสันดาปไฮโดรเจน ไม่มีเหลือพอสำหรับขับเคลื่อนรถครับ@@chaiwatvlt
ไม่เติมน้ำมันและไม่ชาร์จไฟแล้วจะมีอะไรมาทดแทนได้ แล้วมันจะดีกว่าได้จริงแค่ไหน กลัวแต่จะมีแต่ราคาคุย แล้วจะเอาไฮโดรเจนมาจากไหน มีแต่ความยุ่งยากตามมามากกว่า คิดตามหลักวิศวกรรมแล้วมีแต่ความเพ้อฝัน ในสองปีนี้ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน ตัวอย่างที่ดับอนาถคือระบบแก๊ส NGV ที่พยายามเข็นกันสุดชีวิตแล้วก็ได้แค่นั้น
ระบบการจ่ายพลังงานแอมโมเนียนั้น ปราศจากคาร์บอน และมีความหนาแน่นของพลังงานในระบบที่สูงกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมถึง 5 เท่า อีกทั้งการชาร์จพลังงานรถไฟฟ้านั้นใช้เวลาค่อนข้างนานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่รถพลังงานแอมโมเนียใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงเพียง 8 นาที ซึ่งเร็วพอ ๆ กับการเติมน้ำมัน จึงทำให้รถพลังงานแอมโมเนียเป็นทางเลือกที่ดี 😂😂😂
รถต้องเติมก๊าซไฮโดรเจนวิ่ง ดูๆ แล้วก็เหมือนรถใช้เครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติ เพียงแต่ไม่มีการจุดระเบิดออกเป็นควันเท่านัั้น ปัญหาเดิมๆ ในการเติมก๊าซที่ใช้เวลานานก็ย้อนกลับมา แถมก๊าซไฮโดรเจน ไวไฟกว่า ก๊าซธรรมชาติอีก
ไอเดียใช้ก๊าซไฮโดรเจนนี้ เคยเป็นที่สนใจในวงการรถยนต์มาพักนึง ที่แยกน้ำออกเป็น ก๊าซไฮโดรเจน กับก๋าซออกซิเจน แล้วเอาไปจุดระเบิดเครื่องยนต์ ประหยัดค่าเชื้อเพลิง แค่เติมน้ำก็วิ่งได้ แถมก๊าซไฮโดรเจนี่ได้ ก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการเก็บกักไว้เยอะ ให้เป็นที่อันตรายแต่คราวนี้กลับกัน เอาก๊าซไฮโดรเจนมาผลิดไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์...
เปลี่ยนไปทำเครื่องยนต์กาซแอมโมเนียจะมีแววมากกว่า ต้นทุนถังกาซแรงดันก็ลดลงแถมความจุพลังก็มากกว่าไฮโดรเจน ส่วนแบตเตอรี่คนในเมืองน่าจะตอบโจทกว่า แต่ถ้าเป็นชาวนาชาวไร่ระยะทางการวิ่งไม่แน่นอนรถแบตเตอรี่ก็ลำบากเปล่าๆเข้านาเข้าไร่เจอตอกระแทกแบตเตอรี่ก็ร้องไห้แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงการขนส่งจำนวนมหาศาลระยะทางไกลๆแบบขนของทะเลจากทางใต้ไปภาคเหนือ แบตเตอรี่ไม่น่าตอบโจทย์ได้เลย รถเย็นที่รอชาร์จกันครึ่งชม.นี่อย่าว่าแต่สู้พวกรถไฮโดรเจนแอมโมเนียไม่ได้เอาไปสู้รถสันดาปก็ยังไม่ได้เลยยิ่งจำนวนการผลิตต่อปีของรถแบตเตอรี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่งั้นจีนไม่เสียเวลามาพัฒนาไฮโดรเจนร่วมกับญี่ปุ่นหรอกจริงไหม
ญี่ปุ่นเหมือนว่าจะทำไฟฟ้าตามจีนกับอเมริกาไม่ทันก็เลยไปทำอย่างอื่นแทน ประเด็นคือไฟฟ้าจะชาร์จที่ไหนได้ แต่ไฮโดรเจนยังไงก็ต้องไปที่สถานี
หากเกิดอุบัติเหตุ..การบุบสลาย..มวลรวมของรถจะเป็นเช่นไร..ระบบอาจเสียหายมากน้อย..เท่าใด..ความแข็งแรงของการป้องกันตัวเองของรถ..น่าจะมาระดับต้น..ระบบไฟฟ้าน่าจะได้เปรียบมากกว่า..
ส่วนตัว มองว่ารถไฟฟ้ายังหาแหล่งชารจไฟจากโซล่าเซลล์ได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และปลอดภัยกว่าถังก๊าซ
พูดถูกต้อง ต้องไปหาสถานีบริการให้มันครอบคลุมประเทศก่อนไม่งั้นไม่ได้ขายแน่นอน
ถ้าจะสนับสนุนให้คนหันมานิยมรถไฮโดรเจน ก็ต้องออกกฎหมายบังคับให้ปั๊มน้ำมันทุกยี่ห้อ ทุกสาขาทั่วประเทศมีโฮโัดรเจนจำหน่ายด้วย..😊..
คิดผลิตแผง Solar cell บนหลังคารถดีกว่า น่าจะเหมาะกับเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน แสงอาทิตย์แรง
สิ่งที่ผู้โฆษณาไม่บอก คือ
การได้มาซึ่งไฮโดรเจน
ไฮไดรเจนที่ได้จากน้ำ จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานในการแยก ผู้บริโภคต้องตามให้ทัน ครับ
รถยี่ปุ่นคงต้องหลีกทางให้รถจีนไปก่อน...หรืออาจจะต้องออกจากอุต.นี้เพราะยิ่งพัตตานาแข่ง..ก็ยิ่งหาทางชนะยาก..ขณะที่จีนจับจุดยี่ปุ่นได้ทุกรูปแบบ..เขาก็ชิงทำก่อนเสมอ
ทำแค่โซล่าเซลล์ติดหลังคากระโปรงรถกระจกรถจะเป็นขุมพลังมากกว่ามองๆแล้วไอโดเจนไรเนี่ยขุมนรกมากกว่าอันตราย
รอเครื่องแยกเล็กพอใส่ลงรถ เคยดูหลายปีแล้วมีขนาดรถตู้ แต่กว่าจะลดต้นทุนลดขนาด ใช้แก๊สต่อไปkm.ละ1.5-1.8บาท
ไม่เป็นที่นิยม ปัญหาเยอะ ผม อยู่อเมริกา ปั้มทะยอยปิดตัว เหมาะสำหรับรถข่นส่งมากกว่า
ไฟฟ้าดีที่สุดค่ะ สะดวก ง่าย
จะมีสถานีเติมได้ที่ไหน ทั่วไทย
เอาง่ายๆติดก๊าซครับ ไฮโดรเจนก้อคือก๊าซ ก๊าซตัวนี้แรงอัดเยอะจะมีระเบิดก้อคราวนี้ละ ขนาดไฟฟ้ายังมีปัญหาเลย
ปั้มเติมหาได้ที่ไหนครับ หรือว่าให้ซื้อกระป๋องไปเติมเองที่บ้าน😂
รถหรือยานพาหนะในอนาคตเป็นรถแห่งฟิสิกส์ไม่ใช้พลังงานหยาบแต่ไช้พลังอิออน ในอากาศ โดยมีเครื่องดึงอนุภาคอิออนจากอากาศมาเป็นพลังงานในการขั บเคลื่อน
ขอดี คือทดแทนน้ำมันได้ดี ขอเสียคือระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ตุมคือตาย ไม่เหลือเก็บไม่ต้องเผา.
รอแบบ Solar cell อยู่บนหลังคารถน่ะ วิ่งไปชาร์จไปด้วย
อีกห้าปีครับ ตอนนี้EVกำลังขาขึ้น ไม่มีรถยนต์ระบบไหนสู้ได้..
รถยนต์ขุมพลังไฮโดรเจนน่าจะไม่work ใครจะมาสร้างปั๊มเติมใช้รถไฟฟ้าน่าจะง่ายและดีกว่า
1. ที่บอกรอรถเติมน้ำ รู้กันหมครับ H2 ที่เติมในรถก็เิดจากกระบวนการ electrolysis ของน้ำ แยก H2 ออกมา อันนี้คือเค้าแยกแล้วมาเก็บ เ็บแล้วเอาไปเติมที่รถครับ
2. รถ ไฮโดรเจนก็คือรถไฟฟ้า เอา ไฮโดรเจนมาผลิตไฟฟ้าให้รถครับ
3. ในไทย มีใช้แล้ว และใช้อยู่ เป็นตัว demon 2 คัน วิ่งที่บางละมุง
4. ตอนนี้ปั๊มยังไม่มี มีที่เดียวนไทย เนื่องจาก เป็นการทำลองครับ
5. ไม่ต้องรีบเร่ง technology นี้ถ้าในส่วน passenger car ไฮโดรเจนอาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่ในภาคขนส่งก็ไม่แน่
6. แรงดันสูง แน่นอนครับ ก็กลัวๆ กันเหมือน NGV/LPG สุดท้ายด้วย technology มันไปได้เรื่อง safety ก็ใช้กันถ้วนหน้า
7. รถไฟฟ้าดีกว่า แต่รู้มั้ยครับ รถไฮโดรเจนเค้าผลิตมาเพื่ออะไร มันจะตอบโจทย์เรื่อง ลดปลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครับ
8. จากข้อ 7 ไฟฟ้าที่ใช้ ไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็ยังผลิตจาก fossil duel และ ถ่ายหินครับ
9. Hydrogen ถูกมองว่าเป็นพลังงานในอนาคตมากกว่า แต่ยังไม่ได้ถูกผลักดันที่ดีพอ ถ้าถูกผลักดันด้านนโยบายและ incentive ผมว่าราคาก็จะจับต้องได้มากขึ้น
10. รถ hydrogen ใช้เวลาอีกซักพักครับ
11. จริงๆ ข้อดีของ ไฮโดรเจนคือเติมไว น้ำหนักเบา เหมาะกับรถในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า เพราะแบตไฟฟ้าหนัก เติมช้า ทำให้รถบรรทุก บรรทุกของได้น้อย ก็เป็นต้นทุนทางการค้าเพิ่ม
12. จริงอยู่ Hydrogen ผลิตจากการใช้ไฟฟ้า ซึ่งบางคนมองว่า เอาไฟฟ้ามาใช้ตรงๆเลยดีกว่า อันนี้เห็นด้วยครับ Hrdrogen ควรเอาไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าแทน fossil fuel น่าจะดีครับ
13. สุดท้าย technology ใหม่ๆ เค้าทำมาตอบโจทย์การลดใช้ fossil fuel พวกน้ำมัน เพื่ออะไรรู้มั้ยครับ เพื่อราคาถูกหรอ เปล่าเลย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่างหาก ซึ่งก็เข้าใจได้ เราใช้ๆ กันเราก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น เน้นถูก เน้นใช้ได้ ก็เป็นปกติ ครับ แต่หน้าที่ของคนมี technology ก็ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทุกคนใช้ได้และปลอดภัย
14. ถามผมตอนนี้ ผมก็ใช้ EV ครับ แต่เมื่อไหร่ที่ H2 มันไปได้ ก็น่าสนใจครับ
หากน้ำมันไม่หมดจาดโลก ผมยังใช้รถน้ำมันอยู่ครับ
ใช้นำ้มันกมูแทนครับและนำ้มันพืช😂😂😂
ระเบิดวิ่งได่ราคาแพง ที่ตลกคือ มันม่มีที่ช็าตเลยแถมตู้แพงกว่าตู้ไฟฟ้าเยอะนี่ไม่นับการขนส่งเหมือนรถขนส่งน้ำมันรถขอส่งถังต้องแข็งแรงมากหนักและอันตรายกว่าถังน้ำมันอีก ซ้ำคือมันต้องเอาไฮโดรเจนมาปั้นเป็นไฟฟ้า เพื่อๆๆๆๆๆๆ😂😂😂
รถระบบไฟฟ้าEv และรถ ระบบไฮโดรเจ้น ส่วนรถไฟฟ้าน่าจะมีอายุการใช้งาน 6-8ปี ราคาล้านอัพ นึกถึงตอนเข้าศูนย์หัวจะปวด
รอให้มีการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ไม่รู้ถ้าเจอน้ำท่วมระดับสูงรถจะ error ไหม ส่วนรถระบบไฮโดรเจ้น เหมือน แรงดันสูง เหมือนมีระเบิดในตัว อากาศบ้านเราค่อนข้างสูง ไม่อยากนึกสภาพ มันประหยัดค่าน้ำมันก็ดีจริง แต่ค่าแบตโหดเกิน และความปลอดภัยยังไม่เต็มร้อย ทนขับน้ำมันไปก่อน รอปรับปรุงพัฒนาแล้วค่อยว่ากัน อนาคต น้ำมันอาจจะถูกลงก็ได้ ถ้าไม่มีคนใช้ 5555
เวลาน้ำมันราคาจะถูกพวกกลุ่มโอเปกก็ร่วมกันลดกำลังการผลิตครับ อย่าหวังจะได้น้ำมันราคาถูก
ไฮโดรเจนสีเขียว มีราคาที่สูงกว่าไฮโดรเจนสีเทามาก ราคาสีเขียวน่าสัก สองถึงสามร้อยบาทต่อกิโล เลยนะ
คนไทยคิดเลย ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไมต้องใช้ชาร์ทไฟ ไม่ต้องเติมไฮดรอเจน พัฒนาใช้แดดร้อนๆอย่างเดียวเลย
อุปสรรคเดียวคือจะมีสถานีเติมเชื่อเพลิงที่น้อย อย่างเมืองไทยเองสถานีที่เป็นเรื่องราวน่าจะยังไม่มีด้วยซ้ำ เพราะวั้นดบิกพูดถึงการทำตลาดในไทยได้เลยสำหรับรถพวกนี้
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วประกรคุณภาพของกะลาแลนก็ออกมาแซะไฮเบริดแบบนี้เหละ ปัจจุบันก็มาแซะไฮโดรเจน
เพิ่งซื้อจักรยานมา
ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์จไฟเหมือนกัน
มาหลายๆรุ่นหลายๆคัน จะได้เริ่มมีปั้มไฮโดรเจนเยอะๆ คนทำก๊าซ H จะได้ผลิตมากขึ้นราคาจะได้ลดลง
สุดยอดครับญี่ปุ่น