ไขความลับ ‘แลนด์บริดจ์’ อภิมหาโปรเจกต์ 1 ล้านล้านในฝันของรัฐบาลเศรษฐา | THE STANDARD WEALTH
HTML-код
- Опубликовано: 17 окт 2024
- มหากาพย์โครงการ ‘แลนด์บริดจ์’ ที่ริเริ่มตั้งแต่ปี 2528 สำคัญกับคนไทยอย่างไร พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงไหน หากโครงการสำเร็จ ใครจะได้หรือเสียประโยชน์ ชวนหาคำตอบในไฮไลต์นี้
ติดตามรายการ Morning Wealth ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-08.00 น. ทาง Facebook และ RUclips ของ THE STANDARD WEALTH
------------------------------------
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง: bit.ly/3WScbkk
ติดตาม THE STANDARD WEALTH ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.thestandar...
TikTok: / thestandardwealth
Blockdit: www.blockdit.c...
Facebook: / thestandardwealth
Twitter: / standard_wealth
Instagram: / thestandardwealth
#แลนด์บริดจ์ #แลนด์บริดจ์อยู่ตรงไหน #TheStandardWealth #การลงทุน #ลงทุน
พาดหัวข้อ ที่ถูกต้อง คือ เป็นโครงการของประเทศไทย มีการศึกษามา หลายปีหลายรัฐบาลมาแล้ว ตอนแรกสุริยะ จะเลื่อนพิจารณาไปก่อนเพราะต้องใช้ เวลาอีกนาน แต่โดนทักท้วง จึงกลับลำ และรัฐบาลเศรษฐา จึงเดินหน้าโปรโมทต่อและพยายามเสนอโครงการต่อนักลงทุนต่างชาติ และชักชวนต่างชาติที่สนใจมาลงทุน
ขอให้ตัดสินใจขุดคลองไทยดีกว่า ลงทุนครั้งเดียว ไทยเราจะได้ใช้ไปอีก 1000 ปีแน่นอน
ลุ้นและเอาใจช่วยค่ะ ถ้าทำสำเร็จประเทศเราอาจเปลี่ยนค่ะ...
ไม่ขาดทุนหรอกเพราะจีนต้องเตรียมช่องทางสำรอง ยังไงก็พร้อมลงทุน และถ้าจีนร่วมลงทุนก็มีลูกค้าประจำส่วนหนึ่งแนๆ
จีนใช้ท่าเรือย่างกุ้งเป็นหลัก ส่งสินค้าไปเมืองเฉินตู
เอาจริงๆ มันเป็นแค่โครงการหลอกขายฝันปชช.ที่คิดไว้ตั้งนานแล้ว ศึกษามานานหลาย30ปีแล้วก็ยังไม่สามารถสร้างได้ คิดว่าเป็นเพราะอะไรล่ะ? เพราะทำแล้วมันไม่คุ้มไง ต้นทุนกับเวลาที่เสียเพิ่มจากการที่ยกสินค้าขึ้นลงมันมากกว่าไปอ้อมสิงคโปร์อีก
ที่ทำสำคัญสภาพัฒน์รวมกับจุฬาเคยทำศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ประกาศผลเมื่อปี65สรุปว่าไม่คุ้มที่จะทำเลย ยังงงว่าทำไมมีหลายคนเชียร์ที่ทำจัง?
จริง เพราะคนจีนถ้ามีความเสี่ยง เขาไม่เอาอยู่แล้ว
ขาดทุนยับ ขนตู้ยังไง ข้ามฝั่ง วันล่ะ 1 แสนตู้ คือปริมาณที่ท่าเรือสิงคโปร์ทำ ถึงจะแบ่งมาได้ ครึ่ง ก็วันล่ะ 5 หมื่นตู้
เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะเพิ่มเป็นวันล่ะ แสนตู้ และมากกว่า
ไหนบอกสิ ระบบราง ระบบถนน จะกี่ราง กี่ เลน ถึงจะขน วันล่ะ 1 แสนตู้ จะขนกันแบบไหน
ไหนใครตอบได้
ถ้าทำสำเร็จสิงคโปรมีร้อง
เดี๋ยวๆ ถ้าทำแลนด์บริดจ์แบบนี้ ก็ต้องใช้เรือถึง2ลำในการขนส่งนะ ไหนจะต้องเสียเวลาโหลดตู้จากเรือขึันฝั่ง และต้องรอรถหรือรถไฟขนไปอีกฝั่ง และยังต้องรอโหลดตู้ลงเรืออีกฝั่ง และอย่าลืมนะว่าต้องใช้เรือถึง2ลำ ถ้าต้องลงทุนและยุ่งยากเสียเวลาขนาดนั้นใครจะมา สู้เขาไปทางเดิมไม่ง่ายกว่าหรอ ไหนเราจะต้องลงทุนทำท่าเรือทั้ง2ฝั่งอีก และถนน รางรถไฟ ระบบโลจิสติกอีกหมาศาล ไม่ได้บอกว่าไม่เห็นด้วยทั้งหมดนะ แต่ถ้าเราจะทำทั้งที ทำไมไม่ขุดคลองเชื่อม2มหาสมุทร์ไปเลยละ มันซับซ้อนน้อยกว่า และน่าดึงดูดมากกว่าเยอะเลย สินค้าจะไปถึงจุดหมายปลายทางโดยใช้เรือลำเดียว และคิดว่าถ้าขุดคลองมันคุ้มที่จะทำ และเราจะมีรายได้หมาศาลและยั่งยืนด้วย จะทำทั้งที ลงทุนทำทีเดียวไปเลยดีกว่า
ถ้าคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิด แต่ลองมองอีกมุม แลนด์บริดจ์ มันไม่ได้เป็นแค่ทางผ่านสินค้าอย่างเดียว ลองมองมุมนี้ดู
1. ถ้าขุดคลอง ให้เรือผ่าน การลงทุนจากต่างชาติจะไปไหน ถ้าไม่ใช่เวียดนามกับเขมร ทั้ง 2 ชาติค่าแรงถูกกว่า ประชากรหนุ่มสาวเยอะกว่า และตามภูมิศาสตร์ ถ้าไปตั้งโรงงานตรงปลายแหลมของเวียดนาม หรือเขมร ก็สามารถใช้เรือขนผ่านคลองไทยได้ง่าย ไทยได้แค่ค่าผ่านทาง
2.ถ้าทำแลนด์บริดจ์ ไทยจะเป็นจุดกระจายสินค้า เรือมาจากฝั่งแปซิฟิก มาถ่ายของลงไว้ในโกดังที่ไทย รอ ผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ แล้วค่อยเอาไปขายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย แค่มาเก็บเข้าคลังในไทย ที่แน่ๆคือ คนไทยมีงานทำ+ค่าผ่านทาง+การลงทุน นึกตัวอย่างง่ายๆถ้ามีรถไฟฟ้าจีน จะส่งไปขายยุโรป ถ้าเรามีคลอง รถจีนก็จะขนใส่เรือผ่านคลองไปยุโรป แต่ถ้าเป็นแลนด์บริดจ์ จีนอาจมองว่า เขาขนแแบต ขนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาไว้ที่เมืองไทย ส่วนชิ้นส่วนรถ เอาจากโรงงานในไทย แล้วประกอบที่ไทยให้เสร็จ แล้วส่งขายต่อยุโรป แค่นี้คนไทยได้งาน ได้การลงทุน ได้ภาษี ถึงแม้เขาจะได้สิทธิทางภาษีบางอย่างก็ตาม
อันไหนคุ้มว่ากันลองวิเคราะห์ดูครับ
ใช่ เรือ 2 ลำ บริศัทขนของ ต้องใช้ 2 ลำ เพื่อแสตนบาย 2 ฝั่ง รับส่งอีกที ยุ่งยากกว่าเดิม
ได้ดูคลิปรัฐบาลสิงคโปร์อภิปรายเรื่องนี้ในสภาด้วย เค้าบอกว่าไม่ต้องกังวล(ว่าจะคุกคามแย่งส่วนแบ่งของสิงคโปร์) เพราะโครงการแลนด์บริดจของไทยไม่คุ้มในแง่ประสิทธิภาพ ต้องยกคาร์โก้ขึ้นลง คหสต. สิงคโปร์น่าจะกลัวแค่ไทยขุดคลอง ถ้าทำแลนด์บริดจ์เค้าไม่กังวล
ยิ่งไม่คุ้มที่มันไปเอาบ.จีนมาลฃทุนแล้วให้สัมปทานอีก50ปี ขนเงินออกนอกประเทศหมด
อย่างน้อยมีการจ้างงาน
@@alextimber6695 ใครบอกคุณว่าไม่คุ้ม คิดแบบคน ngo สิงคโปร์มันก็ต้องขนตู้ขึ้นลง ไม่ไช่เรือมันวิ่งตรงไปเลย เพราะว่า ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือ มันไม่ได้ไปเป้าหมายเดียว เหมือนศูนย์กระจายสินค้าของ ไปรษณีย์ รถเล็กจากแต่ละ ปณ. ขนไปที่ศูนย์กระจายสินค้า แล้วขนลงเพื่อขึ้นรถสิบล้อ เช่นกันที่สิงคโปร์มันมีเรือใหญ่จอดรอรับตู้ไปยุโรบ แต่เรือจาก มาบตาพุท ขนตู้ไป บางส่วนตัองไปตะวันออกกลาง บางส่วนไปยุโรบ ยังไงก็ต้องไปขนตู้ลงที่สิงคโปร์
งั้นขุดคลอง แม่งเลย ดูว่ามันจะร้องกี่ปี
@@veeehome9400 ขุดคลองไม่คุ้ม เพราะยังไงก็ต้องขนตู้ขึ้นลง
♤ เดินหน้า รัฐบาลเศรษฐา เดินหน้า
นำพา ประเทศไทย ยิ่งใหญ่
เศรษฐกิจ ก้าวหน้า ล้ำไป
เทียบได้ กับประเทศ พัฒนา ♡♡♡
เล่นใหญ่หลอกคนไปวันๆ ถ้ามันดีจริงทำไปนานแล้ว สิงคโปร์คงนั่งขำอ่ะมันเชียร์ให้ทำเลยเพราะยังไงเรือใหญ่ก็ไม่มา
ลุ้นเอาใจช่วยอยากให้มี โครงการเตรียมรับมือระดับน้ำทะเลที่ขยับสูงขึ้นเรี่อยๆจาก รบ ด้วยครับผม
ยิ่งทำช้า ยิ่งใช้มูลค่าสูง การศึกษา30ปี ถ้าคนปกติน่าจะจบปเอกไปละ และไม่เห็นด้วยที่ให้จีนมาทำ อยากให้ญี่ปุ่นทำให้มากกว่า
ถ้าเราทำแลนด์บริดจ์ขึ้นเพื่อส่งออกสินค้าเราด้วย แล้วท่าเราทำขนส่งทางเรือแบบ แฟกซ์ เคอรี่ทางเรือละ ทำเป็นจุดกระจายสินค้ารอบโลก ไม่ใช่แบบสิงคโปร์ ที่เป็นแบบขนส่งสินค้าแบบรายเดียว❤❤❤😊😊😊 แต่ขอทำแบบไฮเทคโนโลยี ใช้เครื่องจักรกลในการทำงาน ถ้าจะทำต้องทำให้ดี เครื่องจักรมาตาฐานระดับสูงที่ที่อื่นไม่สามารถทำได้สามารถเป็นจุดขายได้ ทำเว็บขายออนไลฟ์ทั่วโลก แล้วใช้เรือเป็นเส้นทางขนส่งสินค้า ทุกประเทศสามารถร่วมลงทุนได้ เสนอแล้วไม่ลงทุนด้วยก็อย่ามาว่านะคะ เราไม่ได้เลือกข้างประเทศไหนก็ลงทุนได้❤❤❤
ในช่วงเวลานี้มีใครต่อใครออกมานำเสนอข้อมูลในมุมที่ฟังธงว่าโครงการนี้ไปยากตามข้อมูลนั่นแหล่ะ ==> ดูแล้วก็จริงตามนั้นเพราะดันไปอ้างอิง environment ในปัจจุบัน แต่อยากให้มีใครมามองอนาคตไกลๆโลกมันเปลี่ยนไปเร็วมากผมก็ตอบไม่ได้ =====> ☆☆☆ แต่มองง่ายๆเพียงว่ายิ่งมีประตูทางเข้า-ออก เยอะๆ(ที่ปลอดภัยและใกล้)เห็นด้วย1,000,000%ครับว่า "ทำไปเถอะครับ" อย่าไปห้ามสร้างกันเลย โจทย์ก็บอกแล้วว่าให้ต่างชาติลงทุน 100% อย่ากลัวกันเลย แค่ระวังบริเวณใกล้ๆก็พอ ##แลนด์บริช=ไทยมีแต่ได้กับได้##
ถ้าจีนทำไม่มีทางขาดทุน แค่ขนในประเทศจีนกับการขนน้ำมันซาอุก็คุ้มแล้ว
เอาลูกค้าจีนมาผ่านก็กำไรล่ะ
คุ้มจริงๆหรอครับ เอาตู้ลง > ขนขึ้นรถ > ขับไปอีกฝั่ง > loadตู้ลงเรืออีกลำ
ต่างชาติ เขาฉลาดกว่านั้นครับ เอกชนต่างชาติจะเข้ามาตั้งโรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า ผลิตแล้วส่งออกถ้ามีออเดอร์ไปยุโรปก็ส่งไปทางท่าเรือระนอง ถ้ามีออเดอร์จากจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ก็จะส่งไปทางท่าเรือชุมพร
คิดเหมือนผม ปกติ เขาไม่ได้เอาเรือ แล่นผ่านไปเลยหรอ
จุฬาเคยทำศึกษาออกมาแล้วว่าไม่คุ้มครับ
ค่ายกเทียบกับค่าขับอ้อม มันไม่คุ้ม
มีทางคู่ไป ชุมพรด้วยนะลากขึ้นจีนได้เลยดีมาก
อยากให้ญี่ปุ่นมาลงทุน จัดการ บริหาร ร่วมกับซาอุ ตะวันออกกลาง ไม่อยากให้จีนมาลงทุนเลย กลัวจะทิ้ง ร้าง เหมือนหลายๆโปรเจกที่ล้ม
😂❤❤เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเรา ทำ Land Bridge ชุมพรระนอง โดยที่จังหวัดระนอง เส้นทางต้นทาง ปลายทางของมหาสมุทรอินเดีย ส่วนจังหวัดชุมพร เป็นทั้ง ต้นทางและปลายทาง ฟังอินโดแปซิฟิก ในขณะเดียวกัน เราก็สร้าง supply chain ให้อยู่ ในจังหวัดภาคใต้ตอนบน เส้นว่าอยู่ในจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่เราก็คิดเผื่อนักลงทุน ด้วยในขณะเดียวกัน😂❤❤ ไม่มีสิงคโปร์ในสมการ นิคมอุตสาหกรรม ภาคกลางและภาคตะวันออก ของประเทศไทยและมาเลเซีย โดยเรือฟีดเดอร์ ระบบราง มาลงที่ชุมพร ประมาณ 15 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่งผ่านระบบรางไปยังระนอง สวน 70% ถึง 80% ขึ้น เรือ แม่ส่งไปยังอินโดแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวันจีน ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย ตอน บน หรือแม้กระทั่งอินโดนีเซีย😂❤
เอกชนต่างชาติจะเข้ามาตั้งโรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า ผลิตแล้วส่งออก ถ้ามีออเดอร์ไปยุโรปก็ส่งไปทางท่าเรือระนอง ถ้ามีออเดอร์จากจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ก็จะส่งไปทางท่าเรือชุมพร (ใครจะมาขับเรือขนส่งไปมา ให้เปลืองน้ำมัน)
นี่ละที่ผมเห็นด้วย อย่ามองแต่เรื่องขนส่ง มันมีเรื่องการสร้างจุดยุทธศาสตร์ให้ประเทศ ทั้งกลายเป็นกระจายสินค้า เรือทั้ง 2 ฝั่งเอาของมาพัก แล้วจัดกลุ่มสินค้า ข้ามไปอีกฟาก และสร้างแหล่งธุรกิจ SEC รองรับโรงานเน้นเทคโนโลยีสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปเลย ท่อส่งน้ำมันอันนี้น้ำมันข้ามไปมาเร็วกว่ามากแน่นอน
ใช่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันจะสร้างกิจกรรมธุรกิจ หลากหลายด้าน ดีที่สุดไทยต้องจัดเตรียมวางผังเมืองให้ดี แบ่งเฟสโซนงานต่างๆ ให้ดี และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ การจราจร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ต้องบริหารจัดการเป็นแบบยุคใหม่ และที่สำคัญระบบการขนส่งที่รวดเร็ว คล่องตัวใช้เวลาน้อยที่สุด ยุคนี้สมัยนี้แล้ว จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งสินค้าพร้อมโหลดลงเรือได้ทันที ซึ่งต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาจัดการควบคุม ตรวจสอบทั้งหมด การขนส่งด้วยระบบไฮเปอร์ลูบ ก็ถือมันน่าจะนำมาใช้ เพราะเป็นการขนส่งที่รวดเร็วมาก กับสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว
คลังน้ำมัน ก๊าซ ก็มีไว้พักสองฝั่ง ส่งมาจาก ตะวันออกกลางเก็บฝั่งระนอง พอมีออร์เดอร์(มีทุกวันอยู่แล้ว)เรือก็ออกจากชุมพรได้เลย เป็นการลดความเสี่ยงได้มาก อันนี้มุมมองของประเทศค้าน้ำมันเค้าได้แน่ๆ ก็คือความมั่นคง ความรวดเร็ว มีสต็อกเพิ่ม. สินค้าอื่นๆก็คงใช้โมเดลนี้ได้อีกหลายประเภทสินค้า นี่แค่พวกพลังงานอย่างเดียวนะก็แทบจะคุ้มแล้ว
มีการขนถ่ายสินค้า โหลดของ มันเสียาวลามั้ยครับ
ไม่เสียเวลา บางอย่างก็ส่งทางรถไปเลย ส่วนเรือ ที่มาส่งก็สุดสายแค่นั้น แล้วกลับเลย ขนของที่จะส่งไปกลับด้วย ลำไหนที่อยากไปทางมาเลเซียก็ไป เราขอแค่ 50%ของทางสิงคโปร เหมือนรถเมล์ จากรังสิตสุดสายที่เกษตร แล้วรับคนกลับ ไปรังสิต ได้ค่ารถดีกว่า ดีกว่า ไปยาวๆถึงหัวลำโพง เหลือ 2คน เก็บค่าขนส่งคนต่อรถได้อีกทอด สมัยนี้ตัดสายรถเมล์สั้นๆทั่งนั้น เรามีท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง แค่ประหยัดเวลา เค้าก็คุ้มแล้ว ยังค่านำ้มันอีก
เสียหนักมากครับ เผลอแค่ค่าพิธีการที่ทำโดยราชการก็เสียไป3วันละ ในขณะที่สิงคโปรเสียเวลาทำพิธีการแค่3ชม.
นักเดินเรือเริ่มออกมาแล้วว่าไม่คุ้ม เพราะต้องจ่ายค่าประกันภัยเพิ่ม
ระยะทาง 90 กิโล 1 ล้านล้าน
แค่กิโลละ 1.1 หมื่นล้านเอง หวานเจี๊ยบ
ไม่ลองไปประมูลละจ๊ะ จะได้หวานเจี๊ยบ แซะแต่ในโลกออนไลน์ไม่ได้หวานเจี๊ยบนะ
งบ1ล้านล้านเป็นงบรวมทั้งโครงการครับ ไม่ใช่ทำแค่ทาง มีท่าเรือ2ฝั่งระบบอัตโนมัต มอเตอร์เวย รถไฟรางคู่ สาธารณูประโภคอื่นๆ คิดได้ไงกิโลละหมื่นล้าน
สร้างท่าเรือน้ำลึก อย่าคิดแต่ว่า สร้างถนนกับทางรถไฟ ยื่นประมูล คงไม่หวานหมูขนาดนั้นแน่นอน
น่าสนใจ
แลนบริดจ์เราเคยเริ่มทำไปแล้วนะ ถนนหมายเลข 44 งบ Miyazawa แต่โดนประท้วงจนเลิกโครงการไป เหลือแค่ถนนกว้างๆ
จริงๆภาคใต้ขอแค่มีท่าเรือฝั่งอันดามันก็รวยแล้ว ตำแหน่งเราดีกว่ามาเลอีก แต่ไม่รู้ทำไมไม่ได้ทำซักที
เพราะคนไทยนักการเมืองไทยมีตาสั้นแถมมายเส็ทต้องมีเงินทอนจึงไม่เคยทำอะไรสำเร็จ เรามีนักการเมืองที่ก้าวไกลค้านมันทุกเรื่องหากพวกกูไม่มีส่วนแบ่งเงินทอน
ก็มีฝ่ายค้าน ที่กลัว พท ได้หน้าไง
ขอให้สำเร็จ🎉
อย่าสร้างแล้วทิ้งแบบกัมพูชานะจ๊ะ😅
พื้นที่ประเทศมันต่างกัน กพช มันไม่มีอะไรน่าสนใจ ลงทุน กพช ไปลงทุนในเวียดนามดีกว่าเปิดกว้างกว่า
ขอบคุณครับ
ยกตู้ขึ้นลง แล้วใส่รถไฟ ไป ขนขึ้นอีกฝั่ง ค่าใช้จ่ายจะบานปลายไหม
ขอยืมคำอุ้งอิ้ง "เพ้อเจ้อ!" แค่ขนตู้คอนเทรนเนอร์หมื่นๆตู้จากอีกฝั่งไปอีกฝั่งใช้เวลา 8 วัน แล้วสินค้า 5 ประเทศอาเซี่ยนสั่งจะมาลงที่แลนด์บริดจ์ไทยหราในเมื่อช่องแคบมะละกาเขามีพร้อมหมดทั่งท่าเรือโกดังเก็บตู้สินค้าและใกล้ประเทศพวกเขากว่า ถ้ามาลงแลนด์บริดจ์ไทยต้องมาเสียค่าผ่านทางค่าขนส่งกี่ต่อปัญหาใต้โต๊ะไทยก็เก่งเสียด้วย ส่วนจีนเขามีการขนส่งทางรางทางสายไหมไปตะวันออกกลางและยุโรปและสินค้าจะส่งไปประเทศอาเซี่ยนเขาก็ตรงไปช่องมะละกาโดยตรงคงไม่มาพักสินค้าที่แลนด์บริดจ์ต้องเสียค่าขนส่งขึ้นลง 2 ต่อ😂😂😂
โอกาสรอดน้อยมาก
แต่ถ้าให้ต่างชาติสัมปทาน 100% ผมก็สนับสนุนนะ (แต่เงื่อนไขสัมปทาน ไทยต้องได้ประโยชน์ตามสมควร)
เหตุผลง่ายๆ คือ ถ้าเจ๊ง ไทยจะได้ถนน ,ท่อ ,ท่าเรือ ฟรีๆ
ปล. ปัจจุบันเซาท์เทริน์ซีบอร์ด เอาไว้ขนปาล์มนะครับ ลงใต้ทีไร ผมใช้วัดความเร็วรถได้เลย ชม. นึง รถผ่านไม่น่าเกิน 100 คัน (นั่นคือตัวอย่างที่ดี) อย่าถามว่าคืนทุนมั้ย
ตรงกลางไว้ผูกวัวเล็มหญ้า
จะเป็นทางเลือกระหว่างช่องมะละกากับแลนบริด ฟังการศึกษา*ความคุ้มค่า รอบด้านและรอบคอบ
คำว่าแลนด์ประกอบด้วยเมือง ที่พักอาศัย โรงงานผลิต สนามบิน ทางรถไฟ และที่สำคัญท่าเรือน้ำลึกทั้งสองทะเลด้ามขวานไทยก็จะเป็นด้ามทองจริงๆ นักธุระกิจผู้ฉลาดย่อมเห็นโอกาส
ใช้ท่อก็ได้ครับเร็วด้วย
โครงการคอคอดกระหายไปไหน มันน่าจะเวิร์คกว่านะ เพราะเรือข้ามไปได้เลย
ใช่เลย
#รัฐบาลไทย
ถ้ากลัวตัดแผ่นดิน ก็ขุดตัดก่อนเป็นคลองลึก แล้วก็ยกทางระดับแผ่นดิน เชื่อมกลับเข้าไป เป็นไปได้ยาก แต่เป็นไปได้!! ไม่ก็ไปตัดใต้สุดแผ่นดินไทยออกจากมาเลเซียเลย กินมาฝั่งเรา เพราะกันมาเลเซียเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ร่วม
เอกชนลงทุน100% อนาคตมีปัญหาเรื่องของแพงเหมือนรถไฟฟ้าแน่ๆ
โครงการแลนด์บริดจ์งี่เง่า
...ถ้าผมมีเรือสินค้าใหญ่ๆ จะขนของผ่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ผมคงไม่ใช้แลนด์บริดจ์ ...สาเหตุดังนี้...
-------------------------------------
...ถ้าผมเป็นเจ้าของเรือ หรือ จะเช่าเรือขนสินค้าผ่าน ผมคงไม่ใช้แลนด์บริดจ์ เพราะต้องลงทุนหาเรืออีกลำรอไว้อีกฝั่งรอรับสินค้า จะต้องเพิ่มทุนอีกตูดบาน เป็นพันๆล้าน และอาจจะรอเข้าคิวนานหลายๆวัน ตอนขนสินค้าก็ยุ่งยาก ในการ ขนขึ้น ขนลง และไม่รู้จะจ่ายเท่าไหร่? ผมใช้เรือลำเดียว ลงไปผ่ายช่องแคบมะลากา ง่ายกว่า ใช้เวลาเพิ่มแค่ 2-3 วัน ระยะทางเพิ่มประมาณ 700 ไมล์ จ่ายค่าน้ำมันเรือเพิ่มคงไม่มากนัก อาจจะน้อยกว่ามาผ่านแลนด์บริดจ์เยอะ ไม่ต้องเสียเวลาขนขึ้นขนลง ไม่ต้องลงทุนหาเรือลำที่สอง ( ราคาของเรือสินค้าขนาดใหญ่ ลำหนึ่งๆ จะมีราคาประมาณ 130 ถึง 150 ล้านดอลล่าร์ )
...ก็ลองนึกภาพ...
...แต่ละวันๆ เฉลี่ย มีเรือผ่านช่องแคบมะละกา ประมาณ เกือบ 300 ลำ ต่อวัน..
...สมมุติ ไทยสร้างแลนด์บริดจ์เสร็จ จะให้เรือมาจอดรอในแต่ละฝั่ง เพื่อจะผ่านน้ำมันหรือตู้คอนเทนเน่อร์ใหญ่ๆ ไปให้เรืออีกลำที่รอรับอีกฝั่ง ..เรือต้องมาเข้าคิวเทียบท่าได้ครั้งละกี่ลำ ? และใช้เวลาในการขนถ่ายนานกี่ชั่วโมง ? หรือกี่วันต่อลำ จึงจะเสร็จ ? (เรือขนส่งสินค้าข้ามมหาสมุทรขนาใหญ่ 1 ลำ จะสามารถบรรทุกตู้คอนเทนเน่อร์ได้มากกว่า 24,000 ตู้...การใช้เวลาโหลดตู้คอนเทนเน่อร์ทั้ง 24,000 ลงจากเรือ ดูเหมือนจะใช้เวลาเฉลี่ยอย่างไวประมาณ 10 วัน..โหลดขึ้นเรืออีกฝั่งอีก 10 วัน..รวม ต้องใช้เวลาประมาณ 20 วัน) หรือ ถ่ายน้ำมันเป็นแสนๆตันต่อลำ เรือสินค้าแต่ละลำก็มีตู้คอนเทนเน่อร์ใหญ่ๆหลายหมื่นตู้ นานแค่ไหนจึงจะถ่ายหมด ? แล้วถ้ามีเรือมาเข้าคิวรอซ้อนหลังๆๆ ... เรือที่เข้าคิวรอ ต้องรอนานกี่วัน จึงจะถึงคิวของตน ?? ... สมมุติแลนบริดจ์ จะรองรับรับการขนถ่ายต่อวัน ได้ประมาณ 5 ลำต่อวัน เป็นไปได้ไหม ? หรือ 5 ลำ ต่อ 3 วัน ?? อะไรทำนองนั้น ...แล้วแต่ละวันๆ มีเรือมาเข้าคิวรอสักแค่ 50 ลำ กว่าจะถึงคิวลำที่ 50 ก็อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน ..แบบนี้ จะรอทำไม ลงไปผ่านช่องแคบมะละกาเลยง่ายกว่า ไม่ต้องขนถ่ายให้ยุ่งยาก ใช้เวลาเพิ่มแค่ 1-2 วัน ค่าน้ำมันเพิ่มอีกหน่อย..ง่าย สะดวก ทุ่นเวลา ทุ่นค่าใช้จ่าย กว่ามาผ่านที่แลนด์บริดจ์
ผมขอฟันธง ถ้าโครงการแลนด์บริดจ์เกิดจริง นี่คือความงี่เง่าอย่างมหาศาล จะขาดทุนตูดบานกลวงโบ๋ ใช้เวลาพันปีกว่าจะฟื้นทุน
และ ยังจะทำลายธรรมชาติอย่างมหาศาล ประเมินค่าไม่ได้
..............................................................................................
...1 น๊อท หรือ 1 ไมล์ทะเล ประมาณ = 1.85 ไมล์บนบก
...เรือสินค้าขนาดใหญ่ ถ้าวิ่งด้วยความเร็วเต็มๆ อาจจะวิ่งได้ ประมาณ 21 น๊อท หรือ 40 ไมล์(บก) ต่อชั่วโมง
...จะเผาน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 110 แกลลอนต่อไมล์(บก)
...ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 2 ดอลล่าร์ต่อแกลลอน
...นั่นคือ ถ้าระยะทางประมาณ 700 ไมล์(บก) ก็จะเผาน้ำมันประมาณ 77,000 แกลลอน หรือ ประมาณ 154,000 ดอลลาร์
...นั่นคือ ถ้าคำณวนตัวเลขกลมๆ ง่ายๆเผื่อๆ .. ถ้าเรือสินค้าขนาดใหญ่ ไปล่องมาผ่านทางช่องแคบมะละกา แทนที่จะไปผ่านแลนด์บริดจ์ วิ่งด้วยความเร็ว 21 น๊อท (หรือ 40 ไมล์บนบก)...ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน อาจจะเผาน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 80,000 แกลลอน หรือ ประมาณ 160,000 ดอลล่าร์ ...ถ้ามาผ่านแลนด์บริดจ์ (๑) จะต้องรอคิวนานกี่วัน จึงจะได้เริ่มขนย้ายสินค้า ? (๒) เมื่อถึงเวลาขนย้าย จะใช้เวลาขนย้ายสินค้า หรือ ถ่ายน้ำมัน นานกี่วัน ?..
(๓) ต้องไปยุ่งยากหาเรืออีกลำรอรับอีกฝั่งของแลนด์บริดจ์ ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ ? ... (๔) ต้องจ่ายค่าพรีเมี่ยมค่าโสหุ้ยอะไรต่างๆให้แลนด์บริดจ์อีกเท่าไหร่ ? ...คำถามคือ สรุปรวมแล้ว จะคุ้มค่าไหมถ้าเทียบกับ ราคา เวลา และความสะดวก ถ้าจะไปอ้อมผ่านช่องแคบมะละกา ตามปกติ
ต้องชักชวนพวกบริษัทเดินเรือทั้งหลายมาลงทุน มันจะได้เอาเรือมาจอด ถ้าทำเองยากที่เรือจะมาจอดดดด
ก็ดีละนิ เอกชน ทำ 100% รัฐไม่ต้องเสียเงินลงทุนใดๆ
เราก็คอยไปตอดเขาเอาก็ได้
ถ้ามันเจ๊ง ก็เจ๊งแค่คนลงทุน
รัฐบาลไทยต้องเสียเงินจ่ายค่าเวณคืนที่ดิน ตลอดเเเนวโครงการ นี่คือความเสี่ยงของรัฐบาลจะไม่ได้เงินคืนครบ ถ้าผู้ลงทุนยกเลิกโครงการ อีกประการหนึ่ง เเลนด์บริดจ์ถือเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์ด้วย ถ้าต่างชาติมีอำนาจบริหารสิทธิขาด ก็จะมีประเด็นเรื่องความมั่นคงของชาตืด้วย
แล้วประเทศจะได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ เอกชนจีนตังเข้าจีน 100% เหอะๆ
@@Kimuji833เมื่อหมดสัญญาก็จะเป็นของไทย
ข้อดีคือไม่ต้องลงทุนเอง
ข้อเสีย ช่วงหลายสิบแีแรกเราก็ไม่ได้เงิน
สร้างเถอะ ถนนราง ท่อน้ำมัน ต่อเติมได้อีก เพราะแออัดเหลือเกินทางเดินเรือ
ไม่เกิดแน่นอนครับ
ไม่มีคนใช้
ไปทางเรือผ่านมะละกา ทั้งถูกกว่า และ เร็วกว่า เพาะไม่ต้อง offload และ load 2 รอบ ไม่ต้องเสียค่าประกันเดินเรือ 2 รอบ
ศึกษาไปๆเอาเงินค่าศึกษา ฝันไปเรื่อยๆ
ถ้าทำเป็นคลองดีกว่าเยอะครับ
ผ่านทางสิงคโปร์ นานกว่า และแพงกว่า ข้อมูลมาจากไหน
@@Cattalogถ้ามองภาพจะเห็นว่าแลนด์บริดตอบโจทย์เฉพาะการขนส่งสินค้าของไทย ส่วนต่างประเทศโดยเฉพาะเรือลำใหญ่การจะยกตู้สินค้าขึ้นลงมันต้องใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม การอ้อมไปมะละกาใช้เวลานานกว่าก็จริงแต่ความคุ้มค่ามีมากกว่าครับ เพราะระยะเวลาที่เสียไปเมื่อเทียบกับการยกตู้สินค้าขึ้นลงแต่ละฝั่ง เวลาไม่ต่างกันเลย
@@peechin1 แลนด์บริดจ์ 4 วัน สิงคโปร์ 9 วัน ผ่านแลนด์บริดจ์ ได้รอบเพิ่มขึ้นเท่าตัว รัฐบาลรายงานมาแล้ว
@@peechin1 ตรรกะไหน นานกว่า รอบต่อเดือนก็น้อยกว่า ต้นทุนก็สูงกว่า ขายสินค้าก็ยากกว่า คนค้าขายไม่สนวิธีการหรอก สนแต่กำไรมากขึ้น ขายได้มากขึ้น โครงการนี้สำเร็จ 100% ไม่เจ๋ง สิงคโปร์มันจะค่อยเสี้ยมให้ล้มทำไม เสียเวลา เสียเงิน
สินค้า1ตู้ค่าขนส่งไปอีกท่าเรือ ค่ายกขึ้นลง อีก 😂 ผ่านมะละกาหน้าจะถูกกว่า
ค้นอ่านที่สภาพัฒนฯให้จุฬาศึกษา(เป็นกลางไม่มีธง) ระบุไม่คุ้มค่าทั้งคลองและแลนด์บริด
ทำมัยไม่ทำคลองลอย ทํากำแพงน้ำสองฝั่งคลอง เอาน้ำใส่บลคลอง แล้วทำบันไดเรือเหมือนเขื่อนเจ้าพระยา
เป็นแซล์อมนทขยันเคลม มันคืดมาตั้งแต่สมัย ชาติปางก่อน แล้ว
โครงการขายฝันมั้ยน้าา
ถนน หมายเลข 44 คือเศษซากฝันของรัฐบาลชวนในอดีต มันต้องมีอะไรซักอย่างที่ผิดปกติอย่างแรง
ทำในสิ่งที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น หรือคนอื่นทำไม่ได้ คิดไม่ถึง(ถ้าทำเลที่ตั้งเหมือนกัน) คนที่คิดทำก่อนก็รวยก่อน
การใช้รางมันยุ่งยากกว่าจะขนส่งตู้คอนเทรนเนอร์แต่ละตู้ เรือลำหนึ่งมีตู้ไม่ใช่น้อย เสี่ยงต่อการเสียหาย หากประเมินขออ้อมดีกว่าแม้จะเสียเวลาก็ตาม
TEU = Twenty-foot Equivalent Unit นะครับ ไม่ใช่ Ton
คำถามคือเราพร้อมจะแลกธรรมชาติไหม+ไอ้พวกรางวัลunescoโดนเขาริบแน่ตรงป่าชายเลนระนอง อีกคำถามคือในอีก10-20ปีน้ำมันยังจำเป็นไหม เพราะปรับตัวเรื่องรถไฟฟ้าค่อนข้างเร็ว
พร้อม ระนองประชากรไม่เกิน400,000คนมีแต่คนแก่ ทำเถอะ กระจายรายได้สู่ชุมชน เอาเงินเข้าประเทศ
เดี๋ยวค่อยฟื้นฟูเอาครับ ถ้าทำป่าเสื่อมโทรม
ขนาดอินโดมีป่าที่เป็นปอดของโลกเขายังไม่สนเลย จะเอาพื้นที่ไปสร้างเมืองใหม่
ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรหรอกครับ อาจจะขาดทุนอีกหลายสิบปี ถ้าไม่ขุดแบบคลองคอดกระ ปัจจุบันมันก็มีทางคบ้ายๆกันคือ Southern ซีบอร์ด ดีแต่ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุน ไม่มีใครเลือกใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าตามที่คาด
มาเลย์ยางกว่าไทยเขายังทำเลยครับ ถ้าไทยทำมาเลย์แลนบริจคือจบเลย
@@พงษ์ศิริมะโนรัตน์-ด8ธ แล้วไงครับ สิงคโปร์ก็ยังอยู่ ใช้เรือลำเดียวขนของได้เลย ส่วนมาไทยใช้เรือ 2 ลำ คุณคิดว่าเรือมันลำละ 1000บาทหรือไง 555+++
ช้าก้อนสิงโปรขอมีหุ้นด้วยเด้ อ..
@@dfff394เรือลำเดียวกว่าจะถึงปลายทาง ถ้ามาส่งข้ามฝากที่ไทย เผลอๆ ได้ 3-4 รอบ
@@สปาเกตตี้-ส1ฒ แล้วถ้ามีเรือลำเดียวละครับ ??? คุรคิดว่า เรือขนส่งสินค้าลำละ 1 ล้าน 2 ล้านบาทหรอ 555+++
สนับสนุนการสร้างแลนด์มาร์ค แต่ขอเสนอแนะให้ขยายคลองหลังสวนจังหวัดชุมพรไปคลองทางทะเลอันดามันที่จังหวัดระนองด้วยเพื่อเป็นทางหนึ่งในการขนส่งสินค้าทางเรือจากอ่าวไทยไปทะเลอันดามัน
เริ่ม 2536
ทำแล้วคุ้มครับใช้ยันลูก, หลาน, เหลน, โลน, ใช้ยันโลกแตก
มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าหรือคลังสินค้าที่แลนด์บริดจ์ส่งออกได้ทั้ง2มหาสมุทรลดเวลาเดินเรือจากต้นทางไปยังปลายทาง
คิดจะดันแลนบริดจ์ ควรไปศึกษา โครงการณ์ของจีน ในมาเลเซีย MALAYSIA-CHINA KUANTAN INDUSTRIAL PARKหรือMCKIP ก่อน ช่องแคบ สิงค์โปร์ ไม่ใช่ ปัญหา ของแลนด์บริดจ์แต่มันคือ MCKIP ที่จีน ร่วมมือกับ มาเลเซีย จึงไม่แปลกที่ จีน ไม่สนใจ แลนด์บริดจ์ไทย งานนี้ต้องวิ่งไปหา ซาอุฯ น่าจะได้ผลกว่า
คนในพื้นที่คงไม่ยอมง่ายๆเหมื่อนเดิม นักอนุรักออกมาโจมตี แล้วกลายเป็นโครงการผลุบๆโผล่ๆอย่างเดิม ไม่รัฐก็ยอมเจ็บ แต่จบ
เรือแต่ละลำทุกเป็น 7-8 พันตู้ รถไฟจะขนกันกี่วันละ ค่าใช่จ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ เขาก้อทานข้าวเหมือนเรา คงไม่ยอมใช้บรืการหรอก ยอมไปทางเดิมดีกว่า
ลงมือทำเลยครับ
The whole land bridge will be full with containers up and down. Just imagine only 1 vessel EBBA MAERSK berthing at the 1st port, how long do u take to transit part of the containers by inland on to the next vessel? Additional freightcost, transit time, double or triple port crane lifting, higher insurance premiums. 😂
You will soon see the reference price of refined oil from the Chumphon Ranong market. Hahaha
ถ้าเอกชนจะทําคงมีกําไร ถึงจะคืนทุนนาน
ประโยชน์ที่ได้อาจจะไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่เป็นความมั่นคงไม่ต้องพึ่งพาช่องแคบมะละกาอย่างเดียวก็ดูดีขึ้นมาเลย
เราไม่มีช่องแคบแต่มีทางของตัวเองดูokอยู่นะ ประเทศเราอุสามี2ทะเล.
ขุดคลองเชื่อมสองทะเล ง่ายกว่าเยอะ ไม่วุ่นวาย เขาจะมาเสียค่ายกตู้ไปมาทำไม
เรื่องนี้ไม่ใช่โปรเจ็คของรัฐบาลชุดนี้แน่นอน หาข้ออ้างสาระพัดที่จะยกเลิก ยกเลิกไม่ได้ก็เลื่อน อย่ามองแค่วันต่อวันจะถูกหลอกได้ ต้องมองจุดมุ่งหมายของเขาเป็นหลัก
เอกชนนี้ บริษัทนอก และใน กระจายความเสี่ยง
เศรษฐาไม่ได้ริเริ่ม แค่สานต่อใช้พาดแบบนี้ถูกหรือรับโฆณาให้รัฐบาลปัจจุบัน
ไม่คุ้ม เสียเวลา แข่งขันไม่ได้ กระทบท่องเที่ยว ตอบคำถามไม่ได้หลายข้อเลย
ขอให้เกิดขึ้นจริง
ทำคลอง สะดวกกว่า หรือป่าวครับ
ผมมองว่าการทำแลนด์บริดส์ยังไม่ตอบโจทย์การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพราะทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ดังนั้นเรือขนาดใหญ่เขาจะอ้อมไปทางแหลมมะละกาจะคุ้มค่ากว่า ถ้าจะดีที่สุดคือการขุดคลองครับ เราจึงจะสามารถแย่งตลาดจากสิงคโปร์และมาเลเซียได้ ส่วนแลนด์บริดส์ตอบโจทย์เฉพาะการขนส่งสินค้าของไทย อาจมีเขมร ลาว กัมพูชา พม่า เพิ่มมา ความคุ้มค่าจึงน้อยครับ
อย่ามองแต่การขนส่งสินค้าแบบลำต่อลำ มองมิติกลายเป็นแหล่งกระจายสินค้าจากทั่วโลก และมี SEC ตั้งนิคมด้วยเน้นเทคโนโลยีสะอาด อีก 5 ถึง 10 ปี ขีดความสามารถของช่องแคบมะละกา จะแออัด เต็มขีดความสามารถแล้ว สุดท้ายยังไงก็ต้องทำ จะให้อ้อมอินโดก็ใช่เรื่อง
การศึกษาไม่ได้มองแค่เป็นถนนหรือเป็นคลองสำหรับเป็นทางผ่าน แต่มองถึงการเป็นจุดกระจายสินค้าโดยการดึงให้มาลงทุนสร้างโกดัง สร้างโรงงานโดยอาศัยความได้เปรียบของทำเลที่ตั้งของประเทศไทยครับ
มุมมองใกล้ไป..ต้องมองให้ไกล สินค้าที่จะต้องขนผ่านก็จะเป็นกลุ่มประเทศจากเอเชียใต้ทั้งหมด ไม่ว่าจะอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เนปาน พม่า ศรีลังกา และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่จะส่งสินค้าไปขายให้จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม สหรัฐ จะโดยมาขึ้นที่ท่าเรือระนอง และเดินทางต่อไปท่าเรือชุมพรส่งต่อ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่จะไปจีนตอนใต้ จีนตอนกลาง ลาว ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟไทยได้ด้วย และรวดเร็วกว่าเรือด้วย แล้วแต่ผู้บริการจะเลือกใช้บริการ ส่วนสินค้าจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม เขมร ลาว สหรัฐ และไทยเอง สามารถใช้ท่าเรือชุมพร และส่งต่อโดยทางรถไฟ ถนน มายังท่าเรือระนอง ส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง แอเฟอร์ริกา เอเชียใต้ และจะมีสินค้าจะนวนมากจากจีนตอนใต้ จีนตอนกลาง ลาว พม่า ไทยตอนเหนือ กลาง อีสานที่ลำเลียงโดยรถไฟไทย มายังท่าเรือระนองที่จะส่งไปยังกลุ่มประเทศยุโรป เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย แอสเฟอริกา จำนวนมากได้ด้วย ดูๆ มันยิ่งใหญ่มาก ถ้าไทยแบ่งส่วนจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า มันจะเป็นฮับโลจิสติกที่ยิ่งใหญ่มาก และมันจะเติบโตอย่างรวดเร็ว สินค้าต่างๆ ไมว่าจะเป็นวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะใหลเวียนภายในประเทศ และประเทศข้างเคียง เข้า-ออกตลอดเวลา ทุกวัน และสิ่งที่ตามมาคือการใหลเวียนของเงินตราต่างๆ มากมายมหาศาล
ยุคใหม่ละ เขาทำคลังสินค้าไว้สองฝั่ง ใช้ระบบคอมพิวเตอร์บริหาร ถ้าสั่งอะไรทีมีอยู่คลังก็ขนไปเลยไม่ต้องรอจากจีน ถ้าของขาดก็ขนจากจีนมาเติม เหมือนตอนนี้เราสั่งของจากจีนแต่ส่งมาจากคลังสมุทรปราการใช้เวลาแค่ 3 วันถึงบ้าน ถ้าขนจากจีนตรงๆ 3 อาทิตย์
ดูอ่านศึกษา พานิชณ์นาวี ขั้นตอนส่งสินค้า
☝.ไม่มีใครเอาเรือใหญ่ๆ ส่งตู้สินค้า ไปถึงท่าเรือปลายทางทุกๆตู้
แต่ว่าเรือคอนเทนเนอร์ 1 ลำจุ 20,000 ตุ้.(สมมุติ).. ต้องใช้รถไฟบรรทุก 500 - 650 ขบวน (30 - 40 โบกี้ต่อขบวน) เพราะรางไทยแคบ..ไม่สามารถบรรทุกซ้อน 2 - 3 ชั้นได้เหมือนรถไฟอเมริกาน่ะ..
อ้าว..ว่าแล้วก็ต้องออกแบบ ให้กว้างมาตรฐาน 1.435 ม.และต้องสามารถบรรทุกได้ ซ้อนตุ้ 2 - 3 ชั้นแบบ USA ได้
ถ้ารถไฟบรรทุก"ซ้อน"ตู้คอนเทนเนอร์ได้ 3 ชั้นแบบอเมริกา..600 ขบวนจะลดเหลือ 200 ขบวน (ต่อเรือ 1 ลำ/20,000 ตู้) สแตนดาร์ดเกจ รางกว้าง 1.435 ม.
ลุงตู่ลุงดอนคงไปทําข้อตกลงเงียบๆไว้แล้ว
ลุงตู่ ยาเสพติด เต็มเมือง
ขนาดถนนยางมะตอย คอนกรีต นมโรงเรียน อาหารกลางวัน เด็ก ข้าราชการไทยยังหาช่องทางกินส่วนต่างได้เลย นี่เล่นแลนบริดจ์ โครงการหลักล้านๆบาท ....หวานเลยทีนี้.....
ตั้งตัวเป็นฐานการผลิตของสินค้าแต่งชาติเต็มตัวสินะ แล้วจะได้เป็นประเทศรายได้สูงเมื่อไหร่น้อออ
ปล. ให้เอกชนลงทุน 100 เปอร์เซ็น แล้วให้บริษัทจีนมาจัดการ แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว
มณฑลไท่กั๋ว ไท-จีน ต้องรวมเป็นหนึ่ง คำพูดของเจ้าสัวในไทย ตอนที่แกบินไปประชุมกับพรรคคอมมิวนิวส์จีน.....
@@Saweedee2566อันนี้ข่าวจากไหน
มุงก็มั่วไป เอกชน ทั้งไทยเเละนอกมันไม่ไช่เเค่จีน เอกชนไทยมันก็รวยจะตาย ระดมทุนเเปปเดียวก็ได้เเล้ว
จริง 5555
กลายเป็นจีนได้กินเนื้อไทยกินเศษกระดูก ไม่ใช้กระดูกเต็มๆอีกต่างหาก
เปิด บ่อนคาสิโน คุ้มกว่าเยอะ ลงทุนน้อยกำไรงาม นักท่องเที่ยวเยอะ เปิดตรง 3 จังหวัด ใต้ รับรองเงินดี มันก็เลิกก่อการร้ายเอง
ไทยลงทุนจุดคลอง กับซาอุ สองประเทศเกินพอ รถขุดตัก 600 แรง สามพันคัน กลมๆหมื่นล้าน tnt 20 ตัน รถขน กลมๆรวมไม่เกิน หมื่นห้าพันล้าน กว้าง150 ลึก 50 ขุดวันละ 200 เมตร เดือนละ 6 กิโล ปีละ 70 ไม่เกินสามสี่ปีน่าจะเรียบร้อย คงไม่ถึง 10 ปีครับ ยิ่งลงทุนรถขุดห้าพันคัน สองหมื่นล้านงานยิ่งเร็ว แลนบริจมันลูกผีลูกคน ไม่แน่นอน พันปีแสงไม่คืนทุน ไร้สาระ.....หวังดึงมาลงทุน วันดีคืนดีเค้ายกโรงงานหนีอีกเหมือนเวียดนาม มันไร้สาระ ถ้าขุดเป็นคลองเก็บค่าทางด่วน เอาตู้คอนเทนเนอร์มารอใส่เงินเลยครับ ไม่ต้องใช้รถไฟขน ไม่ต้องไช้รถยนต์ขน ไม่ต้องเสียค่าแรงขนกันทั้งวันทั้งคืน 😂😂 เวร ขอทำนายไปไม่รอด ต้องคอยมาเก็บตกไต้หวัน 😢😢
ทำเลยครับระนองเงียบมาก ต่างด้าวก็เยอาะงานแถบจะไม่มี
น่าจะวางแผนไว้สำหรับทำคลองบทบกไว้ด้วยเหมือนเขื่อนเจ้าพระยาครับใช้น้ำยกเรือสิคเนขนาดใหญ่สูงขึ้นและวิ่งไปตามคลองบกและปลายทางก็ลดระดับน้ำลงเท่าทะเล เพื่อเอาไว้ในภายภาคหน้าด้วนเวณคือที่ดินไว้ด้วยเลยครับท่านนายกเศรษฐา
เริ่มในรัฐบาลลุงตู่
แลนด์บริด ตอบโจทย์ผลกำไรที่มากขึ้น ไม่่มีใครไม่เอาหรอกครับ เดี่ยวคนแรกทำได้กำไร คนอื่นก็จะมารวมด้วย เพราะถ้าไม่รวมธุรกิจก็จะเจ๊งไปเรื่อย ๆ เพราะสินค้าในตู้จะต้องขายแพงกว่า ที่มีคนค้านก็มีแต่อีกสิงคโปร์ที่เสี้ยมเบื้องหลัง สรุปคือไม่มีทางที่ไม่สำเร็จ เพราะต้นทุน เงิน คือปัจจัยสำคัญ มากกว่ารูปแบบขนส่ง รูปแบบมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คนไทยดีใจได้เลย
จะทำทำไม มีรถไฟความเร็วสูง ไปลาว ออกเวียดนาม ลาวลาวสูงรถไฟความเร็วสูงไปออกเวียดนาม
เอาเงินไว้ให้นักการเมืองบางคน ได้ % จากงานโครงการของรัฐ ขุดคลองเลยจบ ลงทุนครั้งเดียว นำกระทรวงทบวงกรมฝ่ายความมั่งคงลงไปอย😊ู่ทางใต้
ในฝันเพราะรองาบ
ถ้าบริษัทเดินเรือไม่เล่นด้วยคือจบ เรือ liner ใหญ่ๆขนมาที 8000+ ตู้ ยกขึ้นๆลงๆนี่เปลืองมากกว่าอ้อมมะละกาอีก
ดันนคราบบบ ดันนน
โครงการนี้เป็นของลุงตู่นะ
โพร
เจ่ค
ท์
ถ้าเป็นดังนั้นใครรับผิดชอบ
ถ้าไทยมีคลองสุเอซแบบไทยล่ะ
ขนจากเรือลงท่า แล้วขนขึ้นรถไฟ ขนจากรถไฟลงท่า แล้วขนขึ้นเรือ
บ่ได้ขุดคลองหรอกแค่ทำถนน,เชื่อม,,เฉย,,ๆ,,ต้องทำเรือติดล้อด้วย,ถึงวิงได้,,
ตกลงจะเกิดแน่มั้ยครับ
เอกชนเหรอ สัมปทานจนถึงวันตาย จนกลายเป็นเป็นเมืองขึ้น ประชาขนได้อะไรครับ จะขุดคลองหรือไม่ขุดคลองก้เท่าเก่าถ้าประชาชนไม่ได้อ่ะไร
ทำคลอง ลอยฟ้าเลย ไม่ต้องขุด ธรรมชาติ ก็ไม่เสีย
ควรเตรียมพื้นที่สำหรับทำคลองบนบกไว้ในอนาคตจัดทำเป็นคลองลอยห้าสำหรับให้เรือสินค้าขนาดใหญ่ผ่านเลยโดยใช้หลักการทดน้ำแบบเขือนเจ้าพระยาครับเตรียมไว้ในอนาคตอีกสัก30-50ปี
ขุดคลองจะทำตั้งยุคพระนารายณ์..ร.๔..หลังสงรรามคั้งที่๒..ยุคชวลิต..ทำไม่ได้
ผลงานลุงตู่เขาคุยกับประเทศชาอุ
คืนทุนกี่ปี และทั่วโลกมีใครทำแล้วบ้าง
โครงการนี้มันจะพังก็เพราะบอกให้เขาโหลดของลงนี้แหละ ใครจะมานั่งทำ เสียเวลา😅
ดีไม่ดีช้ากว่าอ้อมมาเลอีก
เรือมาจอดท่าเรือยกตู้จากเรือใส่รถบรรทุกวิ่งไปอีกท่าเรือ ถึงท่าเรือไปรอต่อคิวแล้วทยอยยกจากรถบรรทุกลงเรือทีละตู้จนกว่าจะเต็มคุณคิดแบบนี้ใช่ไหมครับ 😂
กำลังคิดว่ามันไม่น่านานกว่าไปอ้อมอ่ะครับ คือเรือใหญ่ บรรทุกเยอะ ใช้น้ำมันเยอะ แค่ไม่ต้องอ้อมก็ประหยัดค่าน้ำมันมาเยอะแล้วนะ แถมเวลาคนซื้อพื้นที่ระวางเรื่อ ก็น่าจะต้องซื้อเรือ 2 ลำ ลำนึงส่งแล้วตีกลับเลย ลำนึงรับแล้ววิ่งต่อ แบบนี้ยังไงก็ไม่ติดขัดเสียเวลาแน่ๆ
ประเด็นสำคัญคือจะมีคนใช้มั้ย ก็ขึ้นกับว่า วิ่งอ้อม กะวิ่งผ่านแลนด์บริดจ์ อันไหนไวกว่า ถูกกว่า คนก็ไปอันนั้นครับ การศึกษาต้องเอาออกมาให้ได้ว่า ถ้าทำแล้วลดต้นทุนให้บริษัทขนส่งสินค้าได้เท่าไหร่ เรามีกำไรเท่าไหร่ ถึงจะบอกได้ว่าคืนทุนกี่ปีครับ
ปล. เรื่องการเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนั้นเป็นมาบตาพุดแห่งใหม่ก็มีประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมนะ
เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว ทำเพื่อต่อไปบริษัทต่างๆจะมาตั้งฐานผลิตที่ไทยส่งสินค้าลงซ้ายก็ได้ขวาก็ได้ รายได้มหาศาลถ้ารัฐบาลทำเป็นนะ ไม่ให้ต่างชาติมายึด ส่วนรายได้จากการขนส่งข้ามฝั่งทะเลนะเป็นรายได้ทางอ้อมเด็กๆ
จุฬาเคยทำผลการศึกษามาแล้ว บอกว่าไม่คุ้มเลยครับ เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่า
@@สิริน้อยนามศรัทธามันเป็นระบบออโตเมชั่นครับใช้aiครับ ขนส่งทางรถไฟแบบอัตโนมัติ มีบ่อน้ำมัน2ฝั่งครับ
🎉
ผมขับเรือมาจอด แล้วขนของลง
รถไฟรถยนต์ วิ่งไปอีกฝั่ง ต้องมีเรืออีกลำ แบบนี้หรอ
เหมือนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์
ใช่ครับ อาจยุ่งกว่าคลอง แต่ดีกว่าไม่มี
ต่างชาติ เขาฉลาดกว่านั้นครับ เอกชนต่างชาติจะเข้ามาตั้งโรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า ผลิตแล้วส่งออกถ้ามีออเดอร์ไปยุโรปก็ส่งไปทางท่าเรือระนอง ถ้ามีออเดอร์จากจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ก็จะส่งไปทางท่าเรือชุมพร
มันมากกว่าขนของ เก็บของก็ได้ หรือจะตั้งโรงงานประกอบแล้วขนต่อขึ้นอีกฝั่งก็ได้ ถ้าเฉพาะขนของจราจรช่องแคบมะละกาหนาแน่นมาก แถมท่าเรือสิงคโปรเต็มต้องจอดเรือรอ 2 อาทิตย์ค่าใช้จ่ายทั้งนั้น
มันเป็นระบบออโตเมชั่นควบคุมด้วยaiครับ ไม่ได้วุ่นวายแบบนั้น
ใช่เลยครับ
การตัดไม่ได้ประโยชน์กับไทยอะไรมากนัก
เป็นแค่ทางผ่านของเรือ
แต่ land bridge จะนำนักลงทุน ผู้ผลิต ทั้งโลก มาลงทุน สร้าง
Hub storage สินค้าของพวกเค้า หรือมาแปรรูป มีการจ้างงานคนไทยเพิ่ม ในบริเวณพื้นที่นี้ครับ
ชาวบ้านไม่ยอมเวรคืนที่ดินให้หรอก เพราะตัดทางผ่านสวนทุเรียน เยอะมาก ตัดทุเรียนครั้งนึง ได้เงินหลักล้าน 😁🤣
ไทยทำไทยเจริญรีบสร้างครับเห็นด้วย
อย่าลืมถนนหมายเลข 44 ที่ทิ้งไว้ด้วยนะ
วิธีแก้ คืิอ ไปคุยโครงการนี้กับสหรัฐ อังกฤษ และอียู😅