จับรถยนต์ไฟฟ้ามาวิ่งระยะทาง 200 km กับรถยนต์น้ำมัน, เพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย
HTML-код
- Опубликовано: 19 июн 2023
- จับรถยนต์ไฟฟ้ามาวิ่งระยะทาง 200 km กับรถยนต์น้ำมัน, เพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย
เป้าหมายการมาไทยของผมรอบนี้คือให้ได้ลองรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นในไทยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
ดังนั้น การได้รับเกียรติมาโชว์รูม Neta ครั้งนี้ถือว่าเป็นแต้มบุญอีกแต้มที่ได้ทำเอาไว้ตั้งแต่เริ่มทำเพจแหละครับ ฮ่าๆ
ปล. คนที่ผมติดต่อไปคือ showroom Neta นะครับ
ไม่ใช่ Neta Thailand นะครับ
ดังนั้น credit คลิปนี้ยกให้ Neta ศรีนครินทร์ทั้งหมด ที่อำนวยความสะดวกในการจัดหารถให้ผมทดสอบในครั้งนี้
เส้นทาง กทม. - แหลมฉบัง
0:00 - highlight 
Развлечения
ผมใช้ Atto 3 จ่ายเป็นค่าไฟเดือนละ 2,000 กว่าบาท จากเดิมค่าน้ำมัน CRV เดือนละเกือบ 2 หมื่นบาท (วิ่งไปกลับขอนแก่น -อ.โนนสะอาด จันทร์-เสาร์)
คำนวณค่าใช้จ่ายอีก 15 ปีข้างหน้า
- Atto3 มีค่าใช้จ่าย = 1,140,000 บาท (1 ล้าน 1แสน 4 หมื่นบาท รวมค่าเปลี่ยนแบตแล้ว)
- CRV มีค่าใช้จ่าย = 3,600,000 บาท (3 ล้าน 6 แสนบาท)
สุดยอดแห่งการเปรียบเทียบ
ส่วนต่างเหมือนได้รถฟรี
15 ปีอาจจะเปลี่ยนแบตไป2ครั้งก็เป็นไปได้นะครับ
ภายใน15ข้างหน้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ 3 ชุดแน่ๆ
แบตเตอร์รี่พัฒนาเรื่อยๆครับ เปลี่ยนครั้งหน้าอาจจะราคาถูกลงหรืออาจจะยืดระยะการใช้งานมากขึ้นก็ได้
รถไฟฟ้าประหยัดจริง ๆ ครับ ไฟบ้าน 4.5บาท/หน่วย วิ่ง 0.5บาท/โล --- ไฟตู้ 7.7บาท/หน่วย วิ่ง 1.0บาท/โล
ถ้าไปไหนไกล ๆ พยายามออกแต่เช้า แต่เติมไฟตู้(PEA กับ EV) ไม่เกิน 9โมง
ถ้าวันหยุดเติมตู้ PEA กับ EV+ ทั้งวัน
จะช่วยประหยัดครับ
กลับไทยมานี่เขย่าทุกแบรนด์ ตามดูไม่ทัน 😂 แต่ชอบข้อมูลในคลิปนี้มากครับ เห็นชัดเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน 🌞
รันวงการซักผ้าครับ
เรียกว่าลงคลิปถี่ๆ ต่อไปอาจจะลงชั่วโมงละคลิปเหมือนช่องข่าว
เป็นการทดสอบรถไฟฟ้าที่ดีงามมากครับ เข้าใจง่าย ดีงามจริงๆ ขอบคุณมากๆครับที่นำเสนอข้อมูลดีๆครับ
ได้ลองเหมือนกัน ขับไปพัทยาและโคราช Neta ชาร์จเต็มวิ่งได้ 300 หน่อยๆถ้าขับปกติ ค่าไฟตกห้าบาทกว่าถ้าชาร์จบ้าน ชาร์จเร็วแล้วแต่สถานีแต่ก็ไม่เกินบาทกว่าๆ แวะกินที่ไหนก็ชาร์จที่นั่นไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง 80% แล้ว ใครเดินทางไกลมากๆบ่อยๆหรือชาร์จที่บ้านไม่ได้ ไม่ควรซื้อ อันนี้ควรรู้อยู่
ทุกอย่างดี แค่ตอนซ่อม body กับ แบตเสีย นี่หละ ที่ไม่มีใครพูดถึง EV ดีจริงไม่เถึยง แต่ ยังไม่พร้อมหลายด้านเกินไป เว้นแต่คนมีรถหลายคัน เล่นได้เลย
แนะนำว่าให้ทดสอบวิ่งวัน เสาร์ อาทิตย์ครับ ค่าชาร์จจาก 180 บาทน่าจะเหลือประมาณ 120 บาท เพราะได้เรต off peak
สุดยอด ครับ🎉
นอนในรถได้แต่รถเล็กอาจจะไม่ค่อยสบายเท่ารุ่นอื่น
ตั้งให้ 2 ชมแอร์ไม่ตัดได้ ลองนอนกลางคืนแอร์หนาวมากฝ้าเกาะกระจกเลย
เข้าเกียร์ n ได้เข็นได้ใกล้ๆไม่แนะนำเข็นไกล
เปลี่ยนโช็คหลัง ขับเกิน 100 km /hr รู้สึกส่ายน้อยลง ขับดีขึ้นเยอะ
ความเร็วถ้าเอาตามเครมมาตราฐานให้ได้ 350++ ขับนิ่งๆสักตะตอนยอน 60-80ไม่เกินนี้พอได้อยู่เลย
ขับขึ้นเขา เนินสบายมากไม่รู้สึกรถไหลเลย
ที่ว่าตั้งให้สองชั่วโมงไม่ตัดแอร์ทำยังไงครับ (นอกจากการง้างประตู) ลองมาหลายอย่างแล้ว
ขับแบบตั้ง ACC จะกินไฟมากกว่าขับแบบ Manual เพราะ ACC ตอนขึ้นเนินหรือสะพานเครื่องจะเร่งspeedมากกว่าขับตามปกติที่ไม่จำเป็นต้องเหยียบมากเหมือนตอนใช้ ACC
neta v ถ้าซื้อมาใช้ในเมืองรถติดๆ คุ้มมาก ราคาไม่แพง และประหยัดเงินจากการใช้น้ำมัน หลายเท่า
จากที่ผมใช้อยู่และชาร์จที่บ้านด้วยเรตค่าไฟปกติจะอยู่ประมาณ 0.64 บาท/กม.
แต่ถ้าใช้เรต TOU จะประมาณ 0.43 บาท/ กม.
เรทจริงต้องเอาส่วนต่างมาบวกกับใช้จ่ายจากการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของรถEVด้วยครับ
คลิปดีมากครับ
การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายแบบนี้มันเทียบได้เฉพาะครั้งต่อครั้ง แต่ถ้าจะให้ชัดเจนจริงๆ มันต้องเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดอายุการใช้งาน เช่นสมมุติว่าเราต้องการใช้รถคันนี้ไป 5 ปีหรือ10 ปี แล้วขายต่อ จำนวนเงินทั้งค่าน้ำมันหรือค่าชาร์จไฟ รวมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา( ค่าซ่อมหรือค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ ) แล้วราคาที่ขาดทุนตอนขายต่อ ต้องเอามาคิดให้หมดจึงจะสรุปได้ว่ามันประหยัดจริงมั้ย การเปรียบเทียบครั้งเดียวมันอาจเป็นภาพลวงตาเพื่อจูงใจให้คนมาซื้อ แค่ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ครั้งเดียวก็แพงกว่าค่าน้ำมันหลายปีแล้ว
วิ่ง 200 โล รถไฟฟ้ามันได้เปรียบอยู่แล้ว ประหยัด เวลาเดินทางเท่ากัน
ลองวิ่งแบบทางไกลสิครับ สัก 1000 กิโล ที่ต้องชาร์ตไฟ และเติมน้ำมันท่าเวลาดูครับ ต่างแบบเห็นได้ชัดเลย
ผมคิดว่าในชีวิตจริงๆ ระหว่างวิ่ง 200 กม. กับ 1000 กม. อันไหนมีโอกาสเกิดขึ้นบ่อยกว่ากันครับ.... ผมว่าการเทสโดยอิงกับรูปแบบการใช้รถปกติคือการเทสที่ใกล้เคียงที่สุดนะ....
จะพิสุจน์ไปเพื่ออะไร เอารถไฟฟ่ามาวื่งกับรถน้ำมัน 200 โลจะหาค่าน้ำมันราคากี่บาทเหรอ
800กม. Taxiเท่านั้นที่ใกล้เคียง
ผมขับเเกร๊บในเมือง วันนึง ราวๆ 250 ถึง 300 ไม่ต้องพูดถึง 1000 เลยใช้เวลากี่ ชม. เอาความจริงมาพูดไม่มโน
แค่นี้ก็แนวโน้มดีแล้ว ข้อจำกัดยังมี ถ้าต้องวิ่งไกลขนาดนั้นก็ต้องน้ำมันแหละ
ถ้ามีเงินเยอะแนะนำให้ใช้เป็นรถไฟฟ้ารักโลกรักเพื่อนร่วมโลก
แต่อีก1ตัวเลือกคนงบน้อย ซื้อรถอีโคคาร์มือสอง ค่างวดผ่อนเดือนละไม่เกิน ผ่อนเดือนละไม่เกิน 4,000 บาท
รถราคาไม่เกิน 2 แสนบาท
+ค่า ติดแก๊ส อีกประมาณ 25,000
ความประหยัด ไกล้ๆกัน
ก็ไม่เกิน 75 สตางค์ต่อ 1 กิโลเมตร
ถ้าลำบากขนาดนั้น ซื้อรถ EV ใช้เถอะครับ
มือสองงบนี้คงได้รถปีลึกมากแล้วอะไหล่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ตาดีได้ตาร้ายเสียซ่อมบ่อย เจอปัญชุดเกียร์ก็จุกแล้ว ออกต่างจังหวัดใช่ว่าจะหาแก๊สเติมได้ง่ายถ้าไม่ใช่ถนนหลวงเส้นใหญ่ ไหนจะต้องผ่อน+ดอกเบี้ยสูง
@@puddingman2331ทำไมไม่บอกให้เขาซื้อมอไซค์ หรือเดินเอาครับ. ผิดฟอร์ม 5555
17:24 ชาจตั้งแต่ยังสว่าง กว่าจะเต็มล่อซะมืด รถน้ำมันถึงบ้านนอนดูซีรี่ย์ไป2ตอนแล้ว ได้ค่าเชื้อเพลิงราคาถูก แต่เสียเวลาชีวิตมาก มันเหมาะกับใช้ในเมือง ไปเที่ยวตจว.เอาน้ำมันไปดีกว่าเยอะ
+100
เห็นชาร์จ 17.00 น. 97% ตอน 19.21 ใช้เวลาค่อนข้างนานมากครับ
อยากซื้อเหมือนกันครับรถไฟฟ้า แต่กำลังทรัพย์ไม่พร้อมจริงๆ ถ้ารถคันแรกของบ้าน ยังไงก้ยังอยากแนะนำเป็นน้ำมันก่อน ไฟฟ้าค่อยคัน2จริงๆสำหรับ ณ ปัจจุบันครับ
มันแล้วแต่ความชอบแต่ผมว่ายังไงเสียรถไฟฟ้ามาแน่นอน และโดยรวมดีกส่ารถใช้น้ำมัน
อยากแนะนำคนที่สนใจอยู่ว่าถ้าไม่พร้อมอย่าซื้อครับ ให้ดูที่การใช้งานเป็นหลัก ประมาณขับไปทำงานเช้าไปเย็นกลับระยะทางไปเกิน200km/วัน มีที่จอดชาร์จ ออกนอกเส้นทางบ้างไปเที่ยว/ธุระจังหวัดใกล้เคียงบอกเลยตอบโจทย์สุดๆ ทั้งประหยัดขับสบายจังหวะออกตัวจังหวะแซงมันเรียบเนียนสมูทมาก ตอนนี้revoผมน้ำมันเครื่องเหนียวไปละแทบไม่ได้ขับเลย ข้อจำกัดรถEVตอนนี้ก็มีข้อเดียวคือจุดชาร์จ มันมีแต่ถนนเส้นหลักกับในเมือง
คุณใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนอยู่นะครับ?
@@BlinkDrive555 neta v
ถ้าชาร์จที่บ้าน ขับไปทำงาน รถน้ำมันจอดยาวเลยใช่มั้ยคับ
@@mai_bai1800 ใช่ครับรถน้ำมันจอดยาวๆ จะได้เอาออกมาใช้จริงๆ ก็ตอนเที่ยวดอยเที่ยวทะเลเพราะขี้เกียจไปนั่งคอยรอชาร์จ เปิดแอพหาจุดชาร์จอีกบางทีแอพก็ป่วงค้างบ้างหลุดบ้างแล้วช่วงนี้คนใช้EVเริ่มเยอะวันอาทิตย์เย็นๆขากลับจากเที่ยวแย่งที่ชาร์จกันแล้ว เติมน้ำมันเต็มถังแป๊บเดียววิ่งยาวๆ 700โลสบายใจกว่า ถ้าเอาประหยัดวางแผนดีๆไม่ใจร้อนEVก็ไปได้เหมือนกัน เลือกใช้ตามความสะดวกครับ
549,000 บาท ชาร์จได้ทั้ง ac และ dc ยังไง Neta V ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงง่ายและคุ้มค่าที่สุดในตลาดจริงๆครับ
ผมชอบมาเลยยี่ห้อนี้ Nes v ta
คุ้มสุดถ้าเทียบกับราคา ในตอนนี้
192 โล 430 โอ้ยจะร้องไห้ ถ้าไม่ใช่ช่วง peak คงถูกกว่า เกือบ 50 บาทราวๆ ร้อน 130-160
รถไฟฟ้าที่คุ้มค่าทีสุด,ตอนนี้,คือ,เนต้าวีและอโต2,ด้วยราคาและออฟชั่นที่ให้,ถึงน้ำมันจะขึ้นไม่ต้อง-ไปสนใจ,
ช่วยคำนวณการใช้งานระยะยาวให้หน่อยครับ เช่น
ผมชอบไปเที่ยวเกาะช้างทุกอาทิตย์
หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง
กทม - เกาะช้าง ไป-กลับ = 600 กม.
รถในคลิปมีค่าใช้จ่ายต่อปีเท่าไร
ปล.ผมใช้รถสไตล์สายจอดครับ
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถึงออกเที่ยวต่างจังหวัดครับ
ขับไม่เร็ว 90 กม.ชั่วโมง (ล็อคความเร็ว)
ขอบคุณครับ 😊
ค่าชาร์ทไฟต่อการเที่ยว 1 ครั้ง
600 x 0.8 = 480 บาท
ถ้าไปเที่ยวทุก 2 สัปดาห์
480 x 26 = 12,480 บาทต่อปี
ค่าประกันต่อปี 15,000 บาท
ค่าบำรุงรักษาต่อปี 5,000 บาท
รวมทั้งหมด 32,480 บาทต่อปี
ถ้าชาร์จบ้าน ถูกลงไปอีกครึ่งนึง แถมถ้า ToU หลัง 4 ทุ่ม ถูกลงได้อีก
สมมรถนะขับทางไกลต่างกันมากไหมครับ
...หากจะทดสอบค่าสิ้นเปลือง..ค่าเซอร์วิสรถใช้น้ำมันสันดาป...และรถยนต์พลังงานใช้ไฟฟ้ากำลัง..ต้องซื้อรถที่ราคารถ..รุ่นรถโครงสร้างตัวรถใกล้เคียงกันมาใช้ควบคู่กันและเลขไมล์เลขกิโลเมตรเท่ากันใน..๑..ปีค่าสิ้นเปลืองในตัวรถของรถทั่งสองแบบตัวใดจะคุ้มค่าตอบโจทย์มากกว่า....ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง...
ต่างกันอยู่แล้ว KWhr
4.7บาท น้ำมัน ลิตร35บาท
ท้ายสวย ด้านข้างสวย แต่หน้าตาตลกนะ
เทียบกับ dolphin std.
ตัวไหนคุ้มกว่ากันครับ
เสียงเข้าข้างในดังมาก น่าจะตัองปรับโช๊คเพราะดูเด้งๆ
สอบถามหน่อยครับ ขึ้นดอยไหมไหวคับ
Max Charging speed = 50 KW/h ครับ ไม่ถึง 120 ...
ประมาณ50 kW/hour
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
รวมค่าแบตด้วย แต่รถเครื่องยนต์กว่าจะถึงแสนแปดหมื่นกิโลเมตรมีค่าใช้จ่ายค่าของเหลวต่างๆเยอะแยะไปหมดแล้วครับ
ท่านคำนวณแบบนี้น้ำมันแพงแน่
แต่ถ้ารวมแบตด้วยนี้สิ
ใช่ไหมแบตคือพลังงานนะครับ
Atto3 ปลด Park จอดทับหน้าได้ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
วิ่ง กับ พลัง lpg จิครับ
รอวลี เปลี่ยนแบต พังแน่ๆ
13.30 neta ใส่เกียร์ว่างได้นะครับ ผลักก้านเกียร์ลงเบาๆทีนึงครับจาก D จะเปลี่ยนเป็น N
พอแบตเสื่อม เวลานั้นมีแบตราคาถูกลงมาและวิ่งได้นานกว่าเดิม มีความเป็นไปได้สูงถ้าดูตามเทคโนโลยีก้าวหน้า
อยากให้ลองเทียบกับรถดีเซลดูฮะ อย่าง Mazda 2 ดีเซล ที่วิ่งทางไกลเฉลี่ย 28-30 กิโลลิตร ราคาน่าจะสูสีอยู่ครับ
ผมคำนวนแล้ว รถไฟฟ้าจะร่วๆ 45-50 km/l ครับ
@@MinmimeLolion พอดีเราคิดจากในคลิปที่บอกโลละบาทหนะ เบนซินประสิทธิภาพต่อพลังงานมันสู้ดีเซลไม่ไหว เพราะที่ใช้ 2 ดีเซลอยู่ทำได้โลละ 1 บาท
@@mel2ci375ไฟฟ้าดันมีหลายเรทราคาอีก อันนี้คิดค่าไฟหน่วยละ7บาทเลยครับถือว่าแพง แต่ถ้าเติมไฟบ้านจะราคาลงกว่านี้ ข้อเสียของรถไฟฟ้าคือเวลาเติมไฟฟ้าที่นาน
@@mel2ci375น้ำมันดีเซลลิตรละ 33. บาท คุณจะต้องวิ่งให้ได้ 33. กม./ลิตร ถึงจะได้ 1 บาทต่อ 1 กิโล นี่ยังไม่นับรถติด. รถไฟฟ้าจะประหยัดกว่ารถน้ำมันอีกเยอะ. ทำไมค่ายรถถึงทำรถไฮบริดกัน เพราะรถไฮบริดมันประหยัดกว่า. ทำไมประหยัดกว่าเพราะมันทำตัวเลียนแบบรถไฟฟ้าไงครับ เทียบประสิทธิภาพการใช้พลังงานแล้วไฟฟ้าเหนือกว่ารถสันดาปเยอะครับ
ต้องเข้าไปศึกษาดีๆครับว่า Skyactive-D มีปัญหา น้ำดัน ดันแน่ๆ ใครเจอช้าเจอไวอีกเรื่อง ยกเครื่องใหม่
ถ้าไม่มีปัญหามันจะน่าใช้มาก ใครจะเล่น แนะนำให้ไปเบนซินครับ ทุกรุ่นของ Mazda
เทียบกันไม่ได้หรอก รถไฟฟ้าเหมือนใช่ก่อนผ่อนทีหลัง จะรู้ตัวก็ตอนแบ็ตหมดอายุ ต้องเปลี่ยนใหม่เห็นว่าแพงมาก และยังไม่มีใครรู้ว่าแบ็ตก่อนแรกใช้ได้จริงๆกี่ปี ได้นานเหมือน เจ้าของ เบรน รถบอกไหม ความคุ้มค่าคงต้องรอผู้ใช้รถไฟฟ้าเองเท่านั้น รอ รบ.ตู่ไป ใช้เวลา 9ปี รอแบ็ตรถหมดคงไม่ถึง 9ปี รอได้ครับ ช่วงนี้ขอใช้รถคันเก่าไปก่อน
รถไฟฟ้าประหยัดเงินกว่า,รถนำ้มัน,น้ำมันขึ้นทุกวัน,เลิกใช้ได้แล้ว,เอ็มจีอีเอสนะ,เปลี่ยนแบตารีได้ไม่แพงอย่างที่คิด,เป็นรถที่ประหยัดที่สุดตอนนี้,หรือบีวายดีอโต2-3,แบตารีดีที่สุดตอนนี้,
เริ่มต้นที่ ถนนข้างสนามบิน สุวรรณภูมิ เข้า ถนน บางนา ตราด หรือป่าวครับ
เห็นลูกๆถกเถียงกันแล้วตาขอใช้ BENZ:W203 C180 KOM. M271 กับ BMW : E46 318i M43TU ไปก่อนก็แล้วกัน ติดLPG ทั้งคู่ ขับทุกวัน เช้าBENZ เย็นBMW เสาร์BENZ อาทิตย์BMW ไปงานศพBENZ ไปงานแต่งงานบวชงานขึ้นบ้านใหม่BMW ไปภาคกลางBENZ ไปภาคเหนือBMWแบบสบายๆชิวๆ 2คน ผัวเมีย เชื่อตาไหม ค่าใช้จ่าย จิ๊บๆจร้า
ถ้ายังกังวลเรื่องการเดินทาง,ก็ซื้อที่ได้ระยะไกลสัก5-600/ชาร์จ,หรือไปเล่นรถปลั๊กอินไฮบริด,ไม่ใช้รถไฮบริดนะ,ตอนนี้ก็มีHaval,H6,201/ชาร์จ,ไปไหนก็ได้,😅😅😅😅
เค้าเคลมว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้กี่ปีครับ
ราคารถเมื่อใช้งานไป4-5ปี แล้วขายมือ2 จะอยู่ที่เท่าไหร่(เทียบกับรถยนต์สันดาปภายใน)
บางทีความคุ้มค่ามันต้องมองให้เยอะๆๆมันจะมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอีกมากครับ
คันนี้ แบต LFP ครับ
ประมาณ 1,500 life cycle
หรือเท่ากับการขับประมาณ 400,000 km ถึงจะเริ่มเสื่อมไป 30 % ครับ
หรือถ้าคิดเป็นอายุการใช้งานก็ประมาณ 10-12 ปีครับ
400,000 km ค่าน้ำมันอย่างเดียวก็ 1.2 ล้านบาทแล้วครับ
@@BlinkDrive555 ขอบคุณครับ
ผมว่าช่วงอึก3-4ปีข้างหน้าเทคโนโลยีน่าจะดีขึ้นมาก และน่าจะแบตเตอรี่ชนิดใหม่ๆๆออกมาอีกครับ
และน่าจะมีระบบไฮบริดแบบใหม่ออกมา คือเป็นระบบเทอร์โบไฮบริด แบบเดียวกับที่รถฟอร์มูล่า 1 ใช่อยู่
โดยจะชาร์จไฟเข้าแบตไฮบริด 2 ทาง คือ 1.จากการเบรคลดความเร็วรถ
2.จากตัวเทอร์โบ (แทนที่จะอัดอากาศเข้าเครื่องยนต์อย่างเดียวก็จะมี เจนปั่นไฟอยู่ที่แกนเทอร์โบด้วยครับ)
@@tum.service9674น่าจะๆๆๆๆๆๆ น่าจะมา5ปีแล้วมึงอ่ะ
@@puddingman2331 ถ้ามีมาแล้ว 5 ปี ไม่ทราบว่าอยู่ในรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรครับ
@@tum.service9674ซื้อรถEVอารมณ์เหมือนซื้อiphoneนั่นแหละ อีก4-5ปีข้างหน้าจะมีiphone20ออกค่อยซื้อตอนนั้นก็ได้ครับ ถ้าไม่รีบก็รอiphone30ค่อยซื้อก็ได้ครับเพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนแทบทุกปี รถใช้น้ำมันก็เช่นกันมีอะไรใหม่ๆใส่เพิ่มมาตลอดเมื่อเปิดตัวรุ่นใหม่
รถยนต์ไฟฟ้า ใช้งานประจำ คุ้มค่ากว่า ถ้าทำงานไปกลับ ไม่เกิน 100 กิโล เห็นชัดๆ สิ้นเดือนค่อยจ่ายค่าไฟฟ้า แต่น้ำมันต้องเติมจ่ายเงินเท่านั้น
ค่าเปลี่ยนแบตชุดใหม่ ตอนของเดิมหมดสภาพเกินที่จะใช้ต่อได้
จะนำไปรวมกับค่าใช้จ่ายส่วนไหน
ส่วนบำรุงรักษา
หรือส่วนการใช้พลังงาน
หรือรวมทั้งหมด
แล้วจึงเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่ใช้ไป
รวมถึงราคาขายต่อมือสองรถไฟฟ้าราคาน่าจะตกฮวบๆ เพราะแบตเริ่มน่าจะเสื่อม
น่าจะ น่าจะๆๆๆๆๆๆๆ
น่าจะมา 5 ปีแล้ว
ผมให้10ปีเลย แบตยังอยู่ แต่ตัวรถส่วนอื่นๆพังก่อน
เอางี้ คุณคิดว่ากี่กิโลก่อนที่จะหมดสภาพเหมือนคุณว่า ตีว่าแบตอย่างต่ำ 2,000. Cycle. (ยังเสื่อมไม่เกิน30%. ใช้ต่อได้อีก). เนต้าถ้าผมจำไมผิด แบต 38 kWh. 1 kWh วิ่งได้ตีว่า 6.5 กิโล เท่ากับว่าวิ่งได้รวมก่อนแบตเสื่อม 30%. =38*6.5*2,000=494,000. กิโล คุณว่าคุ้มป่าว ใช้แล้วทิ้งยังได้ แต่สภาพรถคงไม่ไหวก่อน. ที่จริงยังวิ่งต่อได้อีกแต่ชาร์จบ่อยขึ้น
รถไฟฟ้า ไม่มี การเปลี่ยนน้ำเครื่องและชิ้นส่วน แบบรถสันดาป นะ
ระยะยาว แถบไม่ต้องเสีย ซึ่งต่างกับรถสันดาป
ไฟฟ้า vs น้ำประปา ถึงจะสูสี
ตอนนี้มันต้องรถไฟฟ้าvsรถแก๊สครับ
เห็นด้วยนะ คนที่ใช้เบนซินอยากประหยัดจริงๆเค้าไป LPG กันครับ ค่าใช้จ่ายลดลงครึ่งนึง แต่ปัจจุบันรถใหม่ๆไม่ค่อยทำเบนซินล้วน แต่มีทางเลือกคือ จับมือ 2 โดโยต้าแล้วมาติด LPG
ราคาน้ำมันมันก็ต่างกันมากแล้ว ลิตรละ 35 กว่า ค่าไฟหน่วยเท่าไหร่มันถูกกว่าอยู่แล้ว
Ora goodcat จอดเกียร์nได้คับมีเทคนิคนิดหน่อย
มันจอด เกียร์ N เพื่อให้คนอื่นเข็นได้เลยนะครับ?
Super entry 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
NETA V เหมาะที่จะใช้ในเมืองมากกว่า ประหยัดกว่ามาก ที่จะวิ่งทางไกลต่างจังหวัด
คิดค่าไฟอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง+ ค่าเสื่อมแบตด้วย 300000 ประกัน 8 ปี ก็วันละ 100 ใช้ยาวทุกวันถึงคุ้ม
ประกันแปดปีแต่ไม่เปลี่ยนแบตรก็ยังใช้ได้อีกเป็นสิบปีแต่ประสิทธิภาพแบตรจะลดน้อยลงไปเลื่อยๆ.. แต่อย่าลืมรถน้ำมันยังต้องถ่ายน้ำมันเครือง.เกียร์.. และบำรุงรักษาเครื่องยนต์ซึ่งแพงมาก
ทำไมต้องคิด 8ปี ผ่านไปก็ขายซื้อคันใหม่
8ปี แบตมันไม่ได้เสียน่ะครับ แต่วิ่งได้สั่นลง สมมุติหายไป 10%(ประมาณ ครับ) จาก 350โล ก็เหลือ 315โล ถ้าใช้ยาวไม่เปลี่ยน รถยัง ก็น่าจะคุ้มกว่าน่ะ ครับ
เก็บตังส์ที่จะเติมน้ำมัน เอาไว้ เสียค้าประกันภัย กับตอนเปลี่ยนแบตเอ๊ะจะขายรถรึเปลี่ยนแบตดีถึงตอนั้น😊😊😊
8 ปีก็ยังใช้ได้ ไม่ใช่พอ 8 ปีปั้มต้องเปลี่ยนแบต
ค่าประกันอยู่17,000 บาท/ปีครับ
ใครบังคับเปลี่ยนแบต
@@puddingman2331 เห็นในยูทูปช่องฝรั่ง มันเอาเทสล่าไประเบิดทิ้งเพราะค่าเปลี่ยนแบตคือซื้อคันใหม่ได้เลย😅😅😅
@@santivongsaตลกแล้ว รู้เรื่องตั้งแต่ต้นหรือเปล่า คนนั้นมันโดนหลอกขายรถมือสองมา รถเดิมวิ่งไปเยอะมากแล้ว. ไม่เอะใจสงสัยอะไรเลยเหรอ. เทสล่ามีกี่ล้านคันทำไมมีเคสนั้นเคสเดียว. คิดสิครับ
ติด lpg ครับจบทุกปัญหา😅😅😅
ใช่ครับ แต่ตอนนี้ราคาแก๊สมีแนวโน้มจะขึ้นไปเรื่อยๆกลัวว่าจะทะลุไปถึงยี่สิบบาทในเร็วๆนี้ด้วย😢
อย่าลืมบวกค่าแบตด้วยโลละ2-3บาทขึ้นอยู่กับขนาดของแบต วิ่งครบ1.8 แสนโลจะต้องมีเงินส่วนต่างเหลืออยู่ในมือ3.6-5.4แสนบาทครับ
ถ้าบวกค่าแบต รถน้ำมันต้องบวก ค่าสึกหรอ น้ำมันเครื่อง เกียร์ เบรค คลัช หม้อน้ำ พวงมาลัย เฟืองท้าย สายพานราวลิ้น ค่าแรง ฯ ด้วยนะ
ถูกต้องครับ ต้องรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเช่นค่าบำรุงรักษาของทั้ง 2 แบบ แล้วเอามาเปรียบเทียบกัน
@@user-hs3kl1bn1xรถไฟฟ้าต้องรออีก6ปี พึ่งจะเริ่มใช้ในบ้านเรา2ปี แต่รถน้ำมันยิ่งรุ่นเก่าๆที่ไม่มีระบบไฟฟ้ามากนัก ผ่านการพิสุจน์แล้วค่าใช้จ่ายต่ำมากๆ ส่วนรถน้ำมันยุคใหม่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและงอแงมากๆครับ
Yaris ATIV น้ำมันแก๊ส 95 วิ่งเส้นเดียวกัน ความเร็วเดียวกันนี้เลย ได้ 23.4 KM/L ค่าน้ำมันตกกิโลเมตรละ 1.59 บาท (CITY จะกินน้ำมันมากกว่า)
ซิตี้ ehev ประหยัดกว่าครับ เส้นเดียวกัน ได้ 30 โลลิตรครับ ถ้าวิ่ง 95 กิโลต่อ ชม และได้มากกว่านั้นอีก ถ้าคิดจะทำ
เนต้า รุ่นแรก ตูด ห้อย หน้า
แต่ก็ หน้าเล่น อยู่ขับในเมือง
MG EP ทำได้ครับจอดดับเครื่องใส่เกียร์ว่าง
จริงๆแล้วเอารถระบบต่างกันมาเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ตรงจุดเท่าไรครับ รถน้ำมันสะดวกกว่าเติมน้ำมันได้ทุกที่ทำเวลาได้ รถไฟฟ้ารอเติมชาร์ตไฟนานถ้าต่อคิวด้วยจบครับ เอาสะดวกหรือประหยัดแล้วแต่ครับ
ผมเอาสะดวกและประหยัดครับ
รถ EV คือคำตอบ ก่อนนอนมีแบต 60% ตื่นเช้ามามีแบต 100% ขับออกไปได้เลย
จองคิวแต่ข้างหน้ารถติดทำไงครับ ถอดแบตแบกไปชาร์จได้ป่าวครับ
ใช้นำ้มันเปลืองกว่าแต่สู้ไหว
ช่วงล่างเปลี่ยนโช๊คงบ 2000 จบครับ
ลองเปรียบเทียบ 1,000โลด้วย รอดูนะ...
ได้ข่าวว่า Neta ขายดีมาก...สงสัยจะจริง
City เป็น eHEV หรือเปล่าครับ
รุ่นนี้น้ำมันธรรมดาครับ
1.0 Turbo ราคาแถวๆ 6แสนบาทครับ(คันนี้แพงกว่า Neta V ครับ)
honda city ehev ราคา 839,000 บาทครับ
ราคาจะไปชน MG4 แล้วครับ คันนั้น
city ehev เหลือ 749,000 แล้วครับ รุ่น rs ผมเพิ่งถอยมา ถ้ารุ่นรอง จะเหลือ 679,000 @@BlinkDrive555
neta v ถ้าเป็นรถใช้น้ำมันจะกินเท่ากับ 35.3 km/liters
ซิตี้ ehev ทำได้สบายๆเลย 35 โลลิตร วิ่งทางไกล
รถผมmazda3 2015 ไม่ต้องผ่อนแล้ว จ่ายแค่ค่าน้ำมัน
แล้วไงคับ
@@nanatkimta5252 ก็ขับต่อไปไงครับ
ผมเดินเอา ประหยัดดี 555
ความแตกต่างมันมี
ความประหยัดสู้evไม่ได้
แต่ความสะดวกสู้ น้ำมันไม่ได้
แต่ระยะยาวต้องลองมาเปรียบเทียบกันดู
เหมาะกับคนวิ่งวันล่ะ 160 โล/วัน อย่าผมมาก ออกนอกเส้นทางก็อยู่ในเรท 250 โล/วัน กลับมาชาร์จที่บ้าน ตอนนี้เคลียร์พื้นที่บ้านรับดอฟินมาแทนซิตี้ล่ะ 😊😊
ถ้าวิ่งต่อวันอยู่ในระยะ 1 ชาร์จ แล้วคุณชาร์จที่บ้านได้. ความสะดวกจะสลับกัน คุณไม่ต้องไปปั้มอีกเลย. เย็นเสียบเช้าใช้ วิ่งไม่เยอะวันสัก 100 กม.สามวันชาร์จครั้งยังไหว
อยากรู้ว่าใช้รถไฟฟ้าไปแล้วถ้าไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วจะตรวจสอบอะไรแทนแล้วต้องตรวจสอบทุกเดือนไหม
ทำเพื่ออะไร ค่าน้ำมัน ค่าไฟมันต่างกันอยู่แล้ว ต้องเทียบหลายปจจัย
รับความจริงไม่ได้หรอ?
อย่าลืม Wuling นะคับ เค้าว่าจะมาเขย่า neta แล้ว
ยังไม่เจอค่าบำรุงรักษาตอนเปลี่ยนแบตครึ่งล้าน
พอเราซื้อรถไฟฟ้าไฟฟ้าก็ขึ้นราคามันก็แพงยู่ดี
ขอทราบราคาแบตเตอร์รี่เมื่อครบอายุเปลี่ยน เพื่อนำมาคำนวนเปรียบเทียบ
ปัจจุบันในน้ำมันมีภาษีที่ถูกเรียกเก็บ มากกว่าในค่าไฟที่ชาร์จเยอะกว่ามาก
อนาคต ค่าไฟหากถูกเก็บแพงขึ้นด้วยภาษี จะยังคงประหยัดกว่าน้ำมันอยู่ไหม
ถ้าได้รัฐบาลเฮงซวยก็มีโอกาสที่ไฟฟ้าจะแพงพอๆ กับน้ำมัน .. แต่ถ้าได้การบริหารประเทศดีๆ เอื้อให้ ปชช ใช้โซลาเซลเยอะๆ ค่าไฟจะมีแต่ถูกลงๆ
ผมลืมคิดข้อนี้ไปเลย ลืมคิดเผื่ออนาคต 20ปีข้างหน้า
โลบาทก็แพงยุ่น้ะ
ถูกกว่า Mazda 2 Diesel ที่ผมขับ โลละ กิโล0.3 บาท นี่ขนาดชาจข้างนอกด้วยนะ แจ่มๆ แต่หากน้ำมันถูกลงซัก 5 บาท ต่อลิตร ก็คงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
ชาร์จบ้าน tou. Off peak. เหลือ 60 สตางค์ต่อกิโลครับ
น้ำมันถูกลง 5 บาท พระเจ้ามันจะมีโอกาสได้เห็นไหมในช่วงชีวิตนี้
กองทุนน้ำมันติดลบแสนล้านตอนนี้
1. หลังจากแบตเสื่อม หรืออยากจะขายต่อ ใครจะซื้อ (ถ้าต้องเปลี่ยนแบตเอง) ?
2. รถไฟฟ้ารักษ์โลก แต่ การทำลายแบตนั้นมันไม่ง่ายเลย (รักษ์โลกจริงหรือไม่)
เหมือนเคยเขียนตอบไปแล้วครับ
m.facebook.com/787894698804473/
ถ้าหน่วยมันเท่ากันก็คงจะไม่ต่างกันมากหรอกนะ
ขับECO car ทางไกล เฉลี่ย 110kph เร่งแซง 130-140kph เต็มถังได้ 500-600 กม
ใช้ city อยู่ 1000 บาท วิ่งได้ประมาณ 600 km เหลือ 3 ขีด เติม 1000 บาท ก็จะเต็มถังตลอด
จริงดิ
ไหน 3บ.
มันต้อง5ปีรึ10ปีถึงจะรู้เรื่อง
พอครบ 10ปี ไอ้คนประเภทนี้ จะมาบอก อีก 20 ปีรู้เรื่อง
ถ้าราคาน้ำมันเท่าค่าไฟ 7 บาท
ค่าไฟก็ 50 สตางค์
แบตจะเสื่อมลงเมื่อใช้ไปกี่เดือนครับ
ชาตินึง😂😂
10ปี
มันมีสองส่วนครับ แต่ส่วนที่เป็นปัจจัยหลักคือ cycle. อีกส่วนคือเวลา. Full. Life. Cycle. คือการชาร์จและการใช้พลังงานไฟฟ้าครบ 100%. ให้ง่ายขึ้นเอาแค่การชาร์จก้อพอ เพราะการใช้กับการชาร์จสุดท้ายก็เท่ากัน. สมมุติวันนี้ชาร์จ 50%. พรุ่งนี้30%. มะรืน 80%. สามวันนี้ชาร์จรวมกัน=160%. เอา100% หาร จะได้=1.6 cycle. แบตรถจะมี cycle อยู่ที่ 2000. Cycleก่อนเสื่อมไป. 30%. ทึนี้ถ้า 1 kWh วิ่งได้ 6.5 กม. เนต้าแบต38 kwh จะวิ่งได้=38*6.5*2000=494,000 กม.เรื่องเวลาจะมีผลต่อการเสื่อมเช่นกันแต่น้อยกว่า
แบตเสื่อมตั้งแต่วันแรกที่ใช้ครับแต่เสื่อมปีละ 1%...ไม่ต่างกับรถน้ำมัน ต่อให้ไม่มีแบต แต่มีจุดเสื่อมเยอะมาก วาล์ว หัวฉีด ลูกสูบ หม้อน้ำ เซนเซอร์ เกียร์ กรองน้ำมัน เทอร์โบ ฯลฯ ส่วนรถไฟฟ้า ที่เค้าบอกว่า 10 ปี แบตเสื่อมมันไม่ได้เสื่อมจนวิ่งไม่ได้นะครับ...อย่างมากๆ อาจะเสื่อมลง 15%(ตีแบบว่าขั้นแย่สุดๆนะ) ระยะวิ่งจากที่เคลมไว้ 380 ถ้า10 ปี จะวิ่งได้มากที่สุดเหลือ 320 กิโล ครับ...แต่ปกติมันจะไม่เสื่อมขนาดนั้นครับ...ตีซะเสื่อมปีละ 1% น่าจะสมเหตุสมผล...
มาตรฐาน Blink Drive = EPA
555+ ไม่ขนาดนั้นครับ
เอาอัตราเร่งคนทั่วไป + การใช้งานจริงนี่แหละครับ
รถจีนขอบาย
ผมซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ ขับจาก กทม ไปชลบุรี แล้วแบตหมด
ผมทิ้งรถเลย ขี้เกียจชาร์จแบต
แล้วผมก็ซื้อรถคันใหม่ขับกลับ กทม อีกที
คลิปรถไฟฟ้าโดนโจมตีเยอะหน่อยครับแอด เพราะไอพวกไม่มีบ้านมันไม่ค่อยชอบ หรือ พวกหอพักราคาถูกๆ หมดสิทธิ์เลยต้องตุเลงตุเลงไปชาร์จปั๊มอย่างเดียว 555555555555555+
ไปใช้ไฟฟ้าให้หมดครับ เหลือรถน้ำมันผมคันเดียวยิ่งดีมันจะใด้ถูกๆลง😂😂ไม่มีเวลาใช่รถไฟฟ้าแถมไม่มีตังด้วย😂😂
Yeah you have to wait for charge , Honda be home now
According to my daily use, I will be home before Honda for sure because I always charge at my home.
This sentence won't dictate the way people use their cars. It depends on the situation that you are using. If I used this EV for long road trip, the answer will be "yeah, see you at home. Honda", but according to my daily use for 360 days per year, Nope.
เซลล์ตอบคำถามไม่ตรง ถามว่ากินไฟ เท่าไร ตอบ 1%วิ่งได้ 3 กม. ที่อยากรู้คือ กี่ กม. ต่อ KW h
ทริปนี้วิ่งไป-กลับแบบใช้งานเหมือนรถน้ำมัน
กินไฟไปประมาณ 14.7 kWh/100 km ครับ
147 Wh/1 km ครับ
เอา 100 หารด้วย 14.7 ก็จะได้ 6.8 กิโลเมตร ต่อ 1 kWh หรือ 1 หน่วย
ค่าไฟก็แล้วแต่ว่าจะชาร์จยังไง
ควิกชาร์จถูกสุดก็หน่วยละ 4.5 บาท (ที่มี off peak)
ประมาณกิโลเมตรละ 0.66 บาท
กูบอกแล้วให้ตั้งใจเรียน
๑๐ปีแบตมันเสื่อมไม่ได้พังยังใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยนแค่ระยะทางลดลงรถน้ำมันเครื่องก็สึกหรอกินน้ำมันเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังใช้ได้
เอาตรงๆๆนะครับรถไฟฟ้าเหมาะสมใช้ในเมืองเท่านั้นครับใช้ออกทริปเที้ยวดอยป่าเขาไม่ไหวขึ้นเนินความร้อนพุ้งสูงๆๆมากๆๆ
คุณใช้คันไหนอยู่นะครับ?
รถน้ำมันสะดวกกว่าเยอะเลยครับไฟฟ้าราคาแบตเปลี่ยนใหม่พอๆกับซื้อรถใหม่
รอดูให้เขาเป็นหนูทดลองกันต่อไปครับ