Hydrogen 101 | รถไฮโดรเจนคืออะไร? ทำความเข้าใจจบในคลิปเดียว
HTML-код
- Опубликовано: 15 окт 2024
- Hydrogen 101 | รถไฮโดรเจนคืออะไร? จะมาฆ่ารถ BEV จริงไหม? ไฮโดรเจนหาง่าย มีทั่วไปในน้ำเปล่าจริงหรือ? คลิปนี้ ช่อง Sumrit's Way ชวนมาทำความเข้าใจ #ไฮโดรเจน จบในคลิปเดียวครับ
About Sumrit:
สวัสดีครับ ผม สัมฤทธิ์ สิทธิวรานุวงศ์ เป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องธุรกิจ พลังงานโซลาร์ และรถยนต์ไฟฟ้า EV จากประสบการณ์เป็นวิศวกรและได้คลุกคลีธุรกิจด้านนี้ รู้สึกว่านวัตกรรมด้านนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจและน่าแลกเปลี่ยนกัน จึงเป็นที่มาของช่อง Sumrit’s Way ที่จะมาชวนคุยชวนถกเกี่ยวกับประเด็นธุรกิจ พลังงานโซลาร์ และรถยนต์ไฟฟ้า EV
หากชอบคอนเทนต์ในช่องนี้ ฝากกด Subscribe | กดกระดิ่งแจ้งเตือน | กด Like | พร้อมทั้งกด Share ให้หน่อยนะครับ
--------------------------
Sumrit's Way
Energy | Business | EV Car
for work or collaboration, please contact: sumrit.way@gmail.com
tel: 0649691456
.
.
#EV #EVcar #Tesla #Toyota #BMW #Mirai #Hydrogen #รถไฮโดรเจน #รถยนต์ไฮโดรเจน #พลังงานทางเลือก #FCEV #FuellCell #HydrogenVehicle #HydrogenCar #รถพลังงานไฮโดรเจน #พลังงานไฮโดรเจน #SumritBusiness #SumritWay #SumritsWay #สัมฤทธิ์เวย์ #สัมฤทธิ์way #ช่องสัมฤทธิ์ #SumritChannel #SumritRUclips #ช่องยูทูบSumrit #ยูทูบSumrit #Sumritยูทูบ
![[spin9] พาขับ Toyota Mirai พลังไฮโดรเจน 💧 และ รถพลังสะอาดหลายรุ่น ในโปรเจคลดคาร์บอนจาก Toyota](/img/1.gif)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คลิปนี้มีประโยชน์มาก
ขอบคุณมากๆ และ stay tuned นะครับ จะพยายามทำคลิปที่มีประโยชน์ต่อไปครับ
ข้อดีของระบบรถไฟฟ้า อย่างน้อยผู้ใช้รถก็ยังมีทางเลือกนะครับ ตอนนี้หลายบริษัทที่ใช้รถไฟฟ้าก็ติดโซล่าเซลล์บนหลังคา และจุดให้บริการชาร์จไฟจะเป็นที่ไหนก็ได้ ใครๆก็สามารถเปิดให้บริการชาร์จไฟได้ หน้าร้านกาแฟ หน้าตลาด ที่จอดรถร้านอาหาร แต่ถ้าใช้ไฮโดรเจน ก็กลับไปแบบเดิม ต้องพึ่งพาโรงงานผลิตไฮโดรเจน ต้องไปเติมที่สถานีบริการใหญ่ๆเท่านั้น กลับไปเจอกับการผูกขาดแบบรถใช้น้ำมัน การกำหนดราคาก็แล้วแต่ผู้ให้บริการสถานีไฮโดรเจน ... มองว่าการผลักดันไฮโดรเจนเป็นเกมการเมือง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนที่อยู่ในธุรกิจน้ำมัน ให้ยังอยู่ในฐานะที่สามารถผูกขาดตลาดและกำหนดราคาได้
น่าคิดๆนะครับ ปั้มไฮโดรเจนแทบไม่แตกต่างกับปั้มน้ำมันเลย มันจะแตกต่างกันก็ตรงที่มลพิษนี่แหละครับ แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบายกว่ารถไฟฟ้าปั๊ม 1 ปั้มอย่างน้อยๆต้องมีเงิน 10 ล้านบาทถึงจะเปิดปั๊มได้แต่การเปิดให้ชาร์จไฟรถยนต์ไม่ต้องใช้เงินสูงขนาดนั้นข้อมูลที่พี่อธิบายมาทุกอย่างผมมองเห็นภาพและเข้าใจหมดเลยครับ
ระบบกรอง H2 pure ยังห่างไกลคำว่าเชิงพาณิชย์ นี่คือ Pain Point หลัก ถ้าเทคโนโลยีกรองแก๊สถูกเมื่อไร (ไฟฟ้า) Facility ทุกอย่างน่าจะสร้างมารองรับได้ในพริบตา
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ดีๆแบบนี้..เข้าใจง่ายมากครับ
ยินดีมากๆ ครับ ขอบคุณสำหรับ feedback และเราจะพยายามทำให้ดีขึ้นใน clip ต่อๆ ไปครับ
ขอบคุณสาระดีๆ ครับ ฟังเพลินมากๆๆ เลยครับ
อธิบายดีมากๆเลยครับ
ขอบคุณครับ
ได้ความรู้ดีมากครับ ผมว่าอีกจุดหนึ่งคือ hydrogen ระเบิดง่ายมากจัดเก็บยากมาก
ขอบคุณมากครับ เห็นด้วยเลยครับ
ผมสนับสนุนให้จีนผลิตนะ เพราะเวลาขับขี่มันมีลุ้น(ได้ฟิวตื่นเต้น)เพราะก็รู้อยู่จีนเขาผลิตมาตรฐานเป็นอย่างไร ...ขี่ไปลุ้นไปว่ามันจะรั่วตรงไหนแล้วมันจะระเบิดตอนไหน ฮ่าๆ ฮ่าๆ อันนี้แหละเค้าเรียกว่าได้ฟิว
ใช้รถEV จุดประสงค์เพื่อ 1.อยากประหยัดแต่อย่าประหยัดเรื่องการเตรียมระบบชาร์ทในบ้านให้เหมาะกับรถแต่ละรุ่น/จำนวนคัน มิฉะนั้นท่านและเพื่อนบ้านอาจไม่มีบ้านอยู่ในกรณีที่หนีออกมาได้ และทุกๆ1 กม.หยอดตังค์ใส่กระปุก(1-2บาท)ไว้เป็นค่าแบต.ที่มีราคาร่วมครึ่งนึงของตัวรถ แต่ถ้ากลัวปัญหานี้โดยขายก่อนใครจะซื้อต่อ?ซึ่งหมายถึงราคาจะร่วงขนาดไหน ลองเปรียบเทียบได้จากe300hybrid เหลือแค่8-9แสน 2. ตอบสนองต่อlife styleความทันสมัย อันนี้แล้วแต่ความสามารถและเงินในกระเป๋า 3. เป็นผู้คำนึงถึงสภาวะแวดล้อม อยากจะบอกว่าการผลิตรถevแต่ละคันสร้างมลภาวะมากมายในขบวนการผลิต รถevไม่ปล่อยแก๊สมลภาวะต่างๆอันนี้ก็เป็นเรื่องหลอกตัวเอง ประเทศไทยของเราใช้ก๊าซธรรมชาติ/น้ำมันมาผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จึงแค่เป็นเพียงย้ายแหล่งสร้างมลภาวะจากรถไปสู่แหล่งผลิตกระแสไฟ ผมไม่ได้คัดค้านแต่อยากให้ท่านที่จะซื้อรถev ได้ศึกษาและเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานอย่างมีความสุขครับ
ช่างยนต์เตรียมตกงาน โรงงานส่วนประกอบรถยนต์ต้องปลดคนงานออกครึ่งหนึ่ง
เห็นด้วยทุกประการ รถEV ตอนนี้เหมือนแค่ขั้นลองตลาด เป็นของเล่นคนมีเงินหรือกลุ่มที่ชอบนำสมัย แต่สภาพการใช้จริงยังไม่เหมาะกับคนทั่วๆไป ราคายังแพงเกินจริงเมื่อเทียบกับต้นทุน ที่ออกมาบอกเองว่าไม่มีชิ้นส่วนต่างๆ ไม่มีระบบต่างๆ แล้วทำไมราคายังแพง ทั้งๆที่ชิ้นส่วนน้อยมากๆ ถ้าเกิดเสียกลางทางช่างทั่วไปซ่อมไม่ได้ แล้วจะทำยังไง คนที่อาศัยตามอาคารพาณิชย์ ห้องเช่า คอนโด อพาทเม้น ก็ไม่น่าจะสะดวกในการชาตไฟได้ เรื่องราคาแบตเมื่อต้องเปลี่ยนราคาเกินครึ่งของรถป้ายแดง รถไฟฟ้ามือสองราคาจะตกมาก ไม่คุ้มกับส่วนต่างที่บอกว่าประหยัดพลังงานเลย
รถยนต์สันดาปสามารถน้ำพลังงานจากน้ำมันไปใช้พลังงานเผาไหม้ได้เพียง 30% แต่ไฟฟ้าสามารถนำไปใช้ได้ 60% จากค่าการสูญเสียนี้ทำให้สามารถประหยัดได้ไปครึ่งนึง
รถยนต์/เครื่องยนต์คือตัวกระจายมลภาวะทุกหนทุกแห่งบนพิ้นโลก
พลังงานไฟฟ้ามีทางให้เลือกใช้ตั้งมากมาย บางบ้านผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ทั้งหลังและไม่มีการผูกขาด!!! ผมและคนไทยส่วนใหญ่เข็ดขยาดการผูกขาดของ ปตท.
@@โฟโต้คลิ๊กบริการถ่ายรูปและทํา ผมเองก็มองโซล่าร์เซลoff grid ไว้ใช้ตอนกลางวันอยู่ครับ
เห็นด้วยเรื่องแบตที่แพง ที่ต้องคิดการคืนทุนดีๆ แต่ Tesla ในอเมริกานอกจากราคาไม่ตกแล้ว ราคายังขึ้นด้วยครับ ดังนั้น มันอาจเป็นเรื่องชั่วคราวที่ต้องดูกันไป
ส่วนประเด็นเรื่องการย้ายมลภาวะจากรถ ไปที่แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้านั้น มีประเด็นน่าสนใจมาก เราจะมีคลิปนึงมาคุยเรื่องนี้จริงจังแน่นอนครับ Please stay tuned !
สนใจรถ solar มากกว่าคับ ปัจจัยเรื่องฟาซิลิตี้น้อยกว่า เริ่มเห็นปังๆออกมาละคับ
เลือกไฮโดรเย้น. ถ้าราคารถเท่ากันและมีที่เติมเท่ากัน ถึงค่าเติมไฮโดเย้นจะแพงกว่าก็ตาม. ขอแค่เติมไว ข้อด้อยของไฟฟ้าคือเติมช้ามาก...
Battery Tesla คันเดียว ใช้กับ FCEV หรือ Hybrid ได้ 30 คัน Game Changer คือ supply chain ของแบตเตอรี่นี่แหละ
ขอบคุณครับ เห็นภาพชัดเจน
bev การผลิตไฟฟ้าสามารถเป็นระบบที่เข้าถึงง่ายๆ ทั้งโซล่าเซลล์ ทั้งพลังงานลม หรือจากไฟฟ้าบ้านก็ได้ // ลองคิดเล่นๆถ้าเรามีบ้านอยู่ในพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง เราแค่ทำระบบโซล่าเซลล์ ไว้ใช้งานชาร์ทรถก็ได้ ยิ่งตอนนี้รถไฟฟ้ากระบะ บรรทุก ทั้งดัดแปลงหรือผลิตจากโรงงานก็เริ่มมีมากขึ้นยิ่งสะดวกใหญ่ //ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ในอนาคตต้องถูกลงและใช้วัสดุที่หาง่ายขึ้นเรื่อยๆ เช่น โซลิตเสตทแบต หรือ โซเดียม-ไออ้อน ที่กำลังเตรียมใช้งานแทนแบตเตอรี่ ทั้ง nmc และ lfp ที่มีราคาค่อนข้างสูงในปัจจุบัน
สวัดดีครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้ ผมเห็นจุดหนึ่งที่รถไฮโดรเจนหน้าจะเหนือกว่า BEV นั้นก็คือ จําพวกยานยนต์บันทุกหนัก ไฮโดรเจนหน้าจะได้เปรียบ BEV ครับ
ขอบคุณที่แวะมารับชมและแลกเปลี่ยนกันครับ
ข้อเสีย..ไฮโดรเจนเป็นกรดอายุการใช้งานเครื่องยนต์จะสั้นลงแน่นอน
ให้เต็ม💯 ครับ รถพลังงานไฮโดรเจนกับEVจะมีทั้ง ดี/เสีย
ยังเชื่อมั่นในความฉลาดของ นวทศ.+ quantum computing ที่ย่อส่วนแบตเตอรี่ให้เบาลงจุไฟฟ้าได้มากชาร์ทได้เร็วราคาไม่แพง โลกเรามลพิษจะได้ลดลงสะอาดขึ้นภัยพิบัติรุนแรงจากภาวะโลกร้อนก็จะเพลาลง ครับ
ขอบคุณครับ
มันจบลงตั้งแต่..การมาของแบตเตอร์รถไฟฟ้ารถรุ่นใหม่ชาร์จแค่10นาที วิ่งได้เป็น500กม Up
ความจริงข้อหนึ่งคือ รถ hydrogen ใช้ H2 เป็นเชื้อเพลิงเหมือนรถแก๊สแต่ H2 มีความเป็นกรดสูงมากทำให้เครื่องยนต์สึกกร่อนเร็วกว่า รถน้ำมัน 3-5 เท่า ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังแก้ปัญหาอยู่ ของ Toyota ใช้ Ceramic เคลือบห้องเผาใหม้และช่องฉีดน้ำมัน(แก๊ส H2) เพื่อลดการสึกหรอ แต่ก็กร่อนอยู่ดี ทั้งๆ ที่รถแบบนี้มีมานาน กว่า 60 ปีแล้ว..คนไทยก็เคยทำการวิจัย แต่ก็ติดปัญหา ระยะยาวเรื่อง สนิมจากน้ำที่ออกมา และเครื่องยนต์สึกกร่อนจากความเป็นกรดทางเคมี ของ H2 จึงพัฒนาได้ไม่ไกล เครื่องยนต์ที่เคลือบ Ceramic ก็พัดนา มาได้แต่ 20 ปี แต่ก็ยังทนกับการกัดกร่อนไม่ได้
ใครเรียนเคมี คงรู้ดีว่า H2 หรือสารต่างๆ ที่มี hydrogen เป็นหลักจะมีฤิทธฺเป็นกรด
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ผมคิดว่า 1. ถ้าไฮโดรเจนผลิตได้ง่ายขึ้นมาก , 2. แบตเตอร์รี่ EV ผลิตง่ายขึ้นมาก ไม่จำกัดโดยแร่ธาตุหายาก อันใดอันนึงเกินขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คงจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมครับ ตอนนี้แลดู EV เป็นต่ออยู่
@@supakwong รอดูครับ ถ้าไปได้สวยก็ดีเลย อย่างตอนนี้แบตเกลือก็แลดูมึความหวัง ลิเธี่ยมมันหายากนิ
มันจบตั้งแต่ของแบตเตอร์รถไฟฟ้ารถรุ่นใหม่ชาร์จแค่10นาที วิ่งได้เป็น500กม Up
ก็ว่างั้นขณะที่รถแบตเตอรี่ตัวแบตเตอรี่เองมีการพัฒนาตลอดเวลาและอย่างรวดเร็ว ส่วนไฮโดรเจนมีข้อจำกัดอีกมากคงต้องอีกสักพักใหญ่อาจจะถึงเวลาของมันหรือไม่มีเลยอย่างที่มัสค์กล่าว
คริปเดัยวเครียเลยครับ ขอบคุณความรู้
เริ่มใช้รถไฟฟ้ามาตั้งแต่ ต้นปี จนตอนนี้เดินทางไกลเลิกกังวลแล้วครับเรื่องการชาร์จ ตอนนี้แทบไม่วางแผนอะไรเลย ไปหาเอาข้างหน้า พอเราจับพฤติกรรมรถไฟฟ้าของเราได้แล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลอะไร ครับ
สุดยอดครับ บางทีความกังวลเราผูกอยู่กับความคุ้นเคยเดิม พอตั้งหลักได้ใหม่กับระบบใหม่ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอย่างที่คิด
ชอบครับ ความรู้ดีมาก
ยินดีครับ ถ้ามีข้อเสนอแนะอะไรจะขอบคุณมากครับ
เยี่ยมมากครับ EV,Solar,H
ไฟฟ้า คือปัจจุบันและอนาคต จบง่ายกว่าเยอะ
สั้นๆ คมๆ ตรงไปตรงมา
ชัดเจนดีครับ ไม่มโน สุดยอดเลย
ขอบคุณมากครับ
ชัดเจนครับ
ขอบคุณครับ
ทำยานพาหนะไฮโดรเจนขึ้นมาใช้ด้วย ให้ผู้บริโภคตัดสินเอาว่าจะใช้อีวี หรือไฮโดร ก้อดีนะครับ
Toyota ทำขึ้นมาแล้วครับ ชื่อ Mirai ทีนีก็ต้องมารอผู้บริโภคตัดสินแล้วครับ ว่าจะ say Yes or No
ใช่ครับ ผู้บริโภคเป็นผูตัดสินนะครับ เราเป็นผู้ตัดสินให้เขาไม่ได้ นะครับ
คิดเห็นว่าโตโยต้ากำลังหน้ามืด ไปผิดทาง
แต่ละเทคโนโลยีก็มีของดีข้อเสียของตัวเอง มันอยู่ที่ว่าใครใช้แล้วเหมาะก็ว่าสิ่งนั้นดี วันนึงถ้าเทคโนโลยีมันถึงจุดที่โอเคสิ่งนั้นก็ได้รับความนิยมเอง
เราควรมีรถเติมน้ำเพราะประเทศไทยน้ำเยอะ ท่วมบ่อย ติดทะเล ถ้าพัฒนาได้ รับรอง ล้ำ
ความคิดนี้ดีมากล้ำอนาคตของจริงไม่แน่นะครับในจักรวาลนี้อะไรก็เกิดขึ้นใด้
ใช้ลมเลยครับ เยอะดี
การใช้น้ำมาเติมรถ เป็นอะไรที่ยังอธิบายไม่ได้ในระดับฟิสิกส์พื้นฐานเลยครับ เราน่าจะยังมีวิธีอื่นที่ practical และ hopefule กว่านี้อีกมากมายนะครับ
ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนครับ
แต่แบตเตอรี่ก็ใช่ว่าจะได้มาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงเมื่อต้องทำลายมัน แร่ยิ่งหายากลงไปทุกวัน
จะอะไรก็ตาม ผู้บริโภคต้องการความคุ้มค่า และสะดวกสบายมากกว่า
ใช่ครับ กลับสู่สามัญ
เคยดูคลิปในช่องของ Toyota แต่ไม่เข้าใจว่า ไฮโดรเจลคืออะไรมาดูช่องนี้อ๋อเข้าใจแล้วอะไรคือฟิวส์ไฮโดรเจล ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องไฮโดรเจลยิ่งคนธรรมดาที่ใช้รถทั่วไปยิ่งไม่รู้ใหญ่เลยครับ
สุดยอด บางมุมผมคิดไม่ถึงเลย ขอบคุณมากครับ
ยินดีมากครับ มีประเด็นอะไรแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
พลังงาน ไฮโดรเจน ทำมาตั้งนานที่ อเมริกัน แต่ก็ใช้ในสำนักงาน โดย จีเอ็ม ริเริ่มทำแต่ ก็ไม่ต่อเนื่อง แต่ล่าสุด จีเอ็ม,ฮอนด้า และ อีซูซุ ก็ทำการพัฒนา อีกครั้ง ส่วนที่ ญี่ปุ่น ทั้งฮีโน่,อีซูซุและฮอนด้า ก็พัฒนา สำหรับพลังงานแห่งชาติ ทั้งฮีโน่และ อีซูซุ จะใช้รถ พลังงาน เอฟซีอีวี. ในทางพานิชย์ และ ให้ แรงบิด มหาศาล ปัจจุบันทั้งอีซูซุ และ ฮีโน รวมถึงฮอนด้า น่าจะพอใจ อย่างโตโยต้า ที่ แนะนำรถเจนที่สอง ตอนนี้ รถเอฟซีอีวี น่าจะ เป็นที่จับตามอง รวมถึง บีเอ็มดับบลิวกับโตโยต้า ที่ รวมกันพัฒนารถ ออกมา ต่อไป ในอนาคต คาดว่าทั้งยุโรป และ อเมริกา น่าจะ มีสถานีเติมเชื้อเพลิง ไฮโดรเจน อยู่ในปั้ม รวมกับ รถน้ำมัน ที่สำคัญ คือ ราคารถถูกกว่า รถอีวี มาก ใช้เวลาเติม พอๆกลับ เติมก็าส เอ็นจีวี และวิ่งได้ไกลกว่า และคิดว่า ในอนาคต พลังงานทางเลือกอย่าง รถ เอ็ฟซีอีวี.น่าจะเป็นที่สนใจไม่แพ้ รถไฟฟ้า ที่ใช้แบต และน่าจะมีการแข่งขันกันดุเดือด
ผมคงใช้ รถไฮบริดไปก่อน รอให้ เทคโนโลยี ev หรือ ไฮโดรเจน มันนิ่งก่อน แล้วค่อยเล่น
ค่าไฮโดรเจน ตก กม.ละ 6-7 บาท ต้องใจรักจริงๆครับ😅
ยิ่งไปกว่านั้น ความแพงของมันไม่ใช่เพราะผลิตได้น้อยด้วยนะ แต่เป็นเพราะไม่มีวิธีผลิตให้สูญเสียต่ำกว่านี้ ดังนั้น ถึง Hydrogen จะมีเยอะเต็มเมือง ราคาก็จะไม่ต่ำไปกว่านี้ครับ
ไปฟังในมุม toyota ดีดีคือเค้าก็อธิบายชัดนะว่าเขาทำให้มาเป็นตัวเลือก ก็เหมือน เบนซินกับดีเซลในปัจจุบัน อีกอย่างในยุโรปก็มีการลงทุนเกี่ยวกับ hydrogen ไว้สูง รถเครื่อง hydrogen ก็สามารถทำตลากในยุโรปได้ ส่วนในเอเชียถ้าเครื่อง Hydrogen ขายไม่ได้เขาก็ดัน EV ขาย bz3x ก็รอขายอยู่
แต่สำหรับผมรถ PHEV คือสิ่งที่ตอบโจทย์ผมที่สุด EV เติมช้าไป แบตก็ใหญ่เปลี่ยนแพง
ขับรถแบกไฮโดรเจนเพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้า เพื่ออะไร ก็เอารถแบกแบตเตอรี่เติมไฟฟ้าไปเลยไม่ดีกว่าหรือ
ไฮโดรเจนสามารถได้จากการหมักพวกขยะการเกษตรได้นะครับเช่น ใช้อ้อยหมักจะได้ไฮโดรเจน 60% ที่เหลือก็มีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนอย่างอื่นก็อาจจะได้ไฮโดรเจนน้อยกว่าแต่ก็ยังได้อยู่ดี ไฮโดรเจนจึงมีอนาคตมากกว่าแบตที่ใช้ลิเทียม แต่ถ้าแบตอลูมิเนียมอันนี้น่าสนใจ
แต่ ผมว่าไฟฟ้าไม่สำคัญเท่าแบตที่เก็บครับ อย่าลืมว่าเราต้องใช้ทรัพยากรเฉพาะที่มีอยู่อย่างจำกัด มาผลิตแบต เพื่อใช้ในการเก็บไฟฟ้า ถ้าวันหนึ่งแหล่งที่ผลิตสารตั้งต้นที่ใช้ทำแบต เขาไม่ขายเราก็จะต้องใช้ของแพงขึ้นครับ
หากพัฒนา การเติม ไฮโดรเจน จังหวัด ละ 3/5 จุด ก็ พอ สำหรับ การ เริ่มต้นใหม่ ก็ เครๆ อยู่ เพราะประหยัดได้ดี กว่าไฟฟ้า
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ 💐☺️
ยินดีครับ ขอบคุณครับ
คือรถพลังงานสะอาดที่ BMW เริ่มต้นมากว่า 20 ปีแล้ว คนไทยก็มีคนที่เคยทำใช้ขับรถได้จริงเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจ
พลังงานที่หลากหลาย กับทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคตามสภาพเศรษฐกิจ ขอเพียงแต่รัฐบาลกับนายทุนไม่บีบให้ต้องเปลี่ยนจนต้องไม่มีทางเลือกอื่น
ทางtoyotaเขา ยุติhydrogen ไปผลิตรถevตามตลาดแล้วไม่ใช่หรอครับ
แต่ไม่กล้ายืนยันข่าว ว่าจริงหรือไม่
ถามเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายคลิปหน่อยครับ ใช้กล้องกับไมโครโฟนของอะไรครับ
ใช้ iPhone ครับส่วนไมค์จำยี่ห้อไม่ได้ครับ
ถ้าแก้ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ได้ ที่จะต้องถูกลง วิ่งได้ไกลมากขึ้น ชาจได้ไวขึ้น รถไฮโดรเจนก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ความหวังตอนนี้คือ solid state battery ที่รอให้วิจัยและทดลองออกมาเป็นของจริงพร้อมใช้งานได้
ใช่ครับ ใครที่พยายามจะพัฒนาไฮโดรเจน (เพื่อแก้ปัญหาแบตเตอรี่ต่างๆ) ก็ต้อง keep in mind เรื่องความเสี่ยงในความก้าวหน้าของ battery ด้วย
Elon เคยบอกไว้ว่า ดูเผินๆ เหมือน battery technology ไปช้าๆ ไม่ได้มี breakthrough อะไรนะ แต่ก็อย่าประมาทความก้าวหน้าแบบเรื่อยๆ ระดับ 5-10% ต่อปีทบต้น (compound) ผ่านไป 5-10 ปีก็คนละเรื่องแล้ว
มันจบตั้งแต่...มีแบตเตอร์รถไฟฟ้ารถรุ่นใหม่ชาร์จแค่10นาที วิ่งได้เป็น500กม Up
ที่ยืนของตลาดรถ hydrogen น่าจะต้องเป็นรถที่ วิ่งไกล ต้องทำเวลา และผ่านเขตที่มีการผลิต hydrogen อยู่เป็นประจำ ซึงหมายถึงการลดค่าจัดเก็บและขนส่งแก๊ส
น่าจะเป็นพวกรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม
เห็นด้วยครับ
จริงเนาะ ภาคขนส่งสินค้า ที่ต้องเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลมากมาย พัฒนาระบบไฮโดรเจนมาใช้ก่อน อันดับแรก เพราะส่วนหนึ่งเส้นทางในการวิ่งขนส่งสินค้าบางส่วนสามารถจำกัดเส้นทางเพื่อตั้งสถานีจ่ายไฮโดรเจนได้ แต่ความจริงไม่ง่ายขนาดนั้น😂😂
ใช่ครับคุณพี่คิดถูกครับ และผมว่าเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะหาง่ายกว่าแบตรี่ลิเธียม...ซึ่งอาจจะไม่พอใช้เมื่อเราผลิตรถอีวีมากขึ้นมากขึ้น
แต่เสือกไม่บอกว่าการผลิตแบตเตอรี่แม่งทำลายสิ่งแวดล้อมยังไง ต้องเปลี่ยนบ่อยๆอีกต่างหาก
สวัสดีครับ ตอนนี้ทางช่องได้เผยแพร่คลิปที่วิเคราะห์ carbon footprint ของรถ BEV แล้ว ดังนี้ สามารถรับชมได้นะครับ "รถ EV รักษ์โลกจริงหรือ? | วิเคราะห์ Carbon Emission คลิปแรกในไทยแบบละเอียดจัดเต็ม" ruclips.net/video/P8-4P_-oa98/видео.html
โตโยต้ามันคิดว่า มันไม่มีวันล้ม แต่มันกำลังเดินตามโมเดลธุรกิจแบบโนเกีย...
เขาทำเพื่อเพิ่มช่องทางในอนาคตมากกว่านะครับ รถEV ที่บอกว่าใช้ไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าทำมาจากอะไรครับ ไฮโดรเจนที่แต่ละประเทศพยายามพัฒนา เพราะมันหาได้ง่ายในเชิงปริมาณ แต่ตอนนี้มันแพงเพราะกว่าจะได้มันมาซับซ้อน แต่น้ำมัน กับแร่ที่เอามาทำแบตเตอรี่ มีแต่จะหมดไปครับ และจะแพงขึ้นเรื่อยๆ
ประเด็นนี้ก็เป็นอะไรที่น่าถกนะครับ ว่าเป็น Nokia model หรือไม่ หรือมีทางแยกอื่นที่เรานึกไม่ถึง?
ทำไมไม่ใช้แบตเตอรี่แบบถอดได้....ที่แน่ๆน้ำมันยังไม่หมดรัฐยังไม่เดินหน้าทำสถานีชาร์จเต็มที่่..ฟังเหมือนยากถ้าน้ำมันหมดรัฐไม่มีน้ำมันขายแล้ว..ค่อยดูสถานีชาร์จ..เพียบครับ
ถ้ารถใหญ่ในระบบขนส่งรวมใจใช้ Hydrogen เยอะๆก็มีสิทธิ์เกิดนะครับ มองง่ายๆ Ev แทนเบนซิน Hydrogen แทนดีเซลล์ไป
Hydrogen หาซื้อได้เหมือไป 711 หรือเปล่า ทำถามง่ายๆครับ Toyota
นั่นน่ะสิครับ ไฟฟ้ายังอาจพอหาจาก 7-11 ได้ แต่ไฮโดรเจนล่ะ ?
ปัจุบันนี้เราเอาคอไปขึ้นเขียงให้บริษัทน้ำมันมันจะขึ้นราคาอย่างไรก็ต้องซื้อถ้าเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นไฮโดรเย่นมันก็แค่เปลี่ยนเหลือบฝูงใหม่เท่านั้นเองต่างกับ evที่เราผลิตไฟเองได้
ที่บอกเราผลิตไฟเองได้ แล้วไม่รู้เหรอครับว่าเราเอาอะไรผลิตไฟ
ก็จริงครับ Hydrogen ไม่สามารถผลิตได้ง่ายตามบ้านเรือนเหมือนไฟฟ้า ชีวิตเราอาจขึ้นอยู่กับผู้อื่นมากกว่าครับ
ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
ในอนาคตอาจเกิดรถที่ใช้พลังงานอื่นๆตามมาอีกเพียบ
รถไฮโดรเจน น่าจะเหมาะกับอุตสาหกรรมขนส่ง Logistic มากกว่า นำมาทดแทนก๊าซ NGV และ CNG
NGV กับ CNG มันก็อันเดียวกัน
แต่เท่าที่ได้ข้อมูลมาไฮโดรเจนมันพลังงานต่ำเมื่อเทียบกับการกักเก็บ มันจะหลายขั้นตอนเกินไปไหม แล้วก๊าซนี้กว่าจะได้มามันอาจจะไม่คุ้มซะหรือเปล่า เห็นว่ามีคนทำแล้วเลิกกันไปหลายรายแล้ว
That’s why krub
กลัวรถไฮโดรเจน เหมือนนั่งรถคาร์บอมบ์ ต่อให้ถังมีมาตรฐาน แต่ถ้าพลาด ความเสียหายรุนแรงมาก
ที่ท่านพูดถึงข้อดีของรถ hydrogen ที่ว่าเติมเร็วกว่ากับวิ่งได้ไกลกว่านิดหน่อย เรียกว่ามันไม่มีข้อดีซะยังดีกว่านะนั่น
มีการทดลองใช้แม่เหล็กปั่นเจนเนอเรเตอร์เพื่อผลิตไฟฟ้าบ้างไหมครับ น่าจะมีคนทดลองเพื่อติดตั้งในรถยนต์ ปั่นชาร์จไปวิ่งไปไฟฟ้าฟรีตลอดทาง มีแบตสองลูกสลับชาร์จ สลับใช้ก็ได้ ถ้ากลัวปั่นไฟไม่ทัน
ถ้าหมายถึงพวก perpetual machine ที่เอาแม่เหล็กมาดันให้หมุน แล้วดันต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จนเหมือนได้พลังงานฟรีนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่ขัดกับกฎ Thermodynamics ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ครับ
ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนไอเดียนะครับ
ต้นทุนไฮโดรเจน ค่าขนส่งไฮโดรเจน(ขนส่งนี่อันตรายสุดๆในบรรดาแกสทั้งหมด ขนาดเท่ารถแกสที่คว่ำที่มักกะสันนี่คว่ำมีแต่ระเบิดเป็นวงกว้าง1กม.รอบตัวจากจุดระเบิด)
ค่าขนส่งต่อหน่วยพลังงาน หนักกว่า CNG/NGV ด้วยครับ เพราะหนาแน่นต่ำ เบากมาก ต้องใช้ความดันสูง
ถ้าจะดีขอแนะนำจอดไว้ใต้คอนโดจะดีมาก( รั่วขึ้นมาก็ระเหยลอยขึ้นชั้นบน)ฮ่าๆ ไม่อยากคิด ถ้าเกิดมันติดไฟ แล้วมันจะไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน ฮ่าๆ ฮ่าๆ ถ้าเป็นกรณีรถก๊าสไฮโดเจนจอดหลายคัน..ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ....แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องเอาป้ายไปติดที่คอนโด....เลยว่า..ห้ามจอดรถไฮโดรเจนใต้คอนโดแน่นอน.. จบ คอนโดไหนมีป้ายก็ถือว่า..ได้บุญครับ
มันอันตรายเหมือนขับรถพกระเบิดเวลา ถ้าชนหรือคว่ำมาทีแล้วถังไฮโดรเจนแตกก็กลายเป็นโกโก้ครั้น
อนาคต และก็อนาคต ตลอดไป ตามที่ลุงมัสก์ได้กล่าวไว้ มีแต่ติ่งเท่านั้นแหละที่หลับหูหลับตา และ ignorance นี่แหละที่ทำให้ติ่งยังไงก็จะเป็นติ่งตลอดไป 😂 แต่ก็นะ อาจจะดีก็ได้สำหรับดาวอังคารเวลาติ่งย้ายไปอยู่ แต่โตจะอยู่ถึงเวลานั้นรึเปล่านี่ซิ
อันนี้ลุงแกก็ขี้แซะนะครับ แต่ฟังแล้วก็ขำจริง
ส่วนดาวอังคารก็จะยังคงใช้รถไฟฟ้า BEV เหมือนเดิมครับ (เพราะลุง Elon ก็คิดเผื่อไว้แล้ว) ถ้าใช้ไฮโดรเจนก็จะยิ่งเผชิญกับปัญหาแรงดันหนักกว่าเดิม เพราะดาวอังคารความกดอากาศต่ำกว่าโลกราว 100 เท่า และไอโดรเจนก็เบาสุดๆ ถังแก๊สจะต้องแข็งแรงเบอร์ไหน?
แม้แต่จรวด SpaceX ที่จะไปดาวอังคารก็ตั้งใจจะไปผลิต Methane ที่นั่นเพื่อกลับโลกครับ ไม่ใช่ Hydrogen
@@SumritsWay ลุงแกจะคิดทุกอย่างล่วงหน้าแบบนี้ไม่ได้นะครัช ต้องแบ่งให้คนอื่นคิดบ้าง ลุงควรเอาเวลาคิดไปพักผ่อนบ้างได้แล้ว 😂
ที่มีติดตั้งกันอยู่แบบใช้ร่วมกับน้ำมันทำให้ประหยัดน้ำมันได้กี่เปอร์เซ็น มีความคุ้มค่าและปลอดภัยหรือไม่
EV good ไม่ถูกผูกขาดได้ง่ายๆ และส่วนมาก เราไม่ได้ใช้วิ่งไกลๆ เสียบบ้าน ทุกวันสะดวก กว่าไปปั้มน้ำมันอีก
อันนี้จริงคับ
Couldn’t agree more krub
ลองผลิตออกมาแล้วใช้งานจริง มาเทียบกันระหว่างรถ Ev และ รถไฮโดรเจนครับ แต่รถไฟฟ้าปลอดภัยกว่านะ การทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนมีการทำงานที่ซับซ้อนและอาจก่อให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงมาก อย่างเหมือนกับระเบิดไฮโดเจนเลยที่เดียวนะมันจะคุ้มไหมกับชีวิตคนหนึ่งคนกับระเบิดเวลาเคลื่อนที่ อย่างเวลาเกิดการชนก๊าซไฮโดเจนเกิดการรั่ว และเกิดประกายไฟอะไรจะเกิดขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย...ตูมแน่นอนครับ...😃😃😃😉😉
คุณยังจะกลัวอะไร
ถังแก๊สตามบ้าน รถเติมแก๊ส
โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้ปลอดภัยไม่เห็นมีใครมานั่งระวังเลย
ยิงแบตเตอรี่โทรศัพท์
ถ้าคุณรู้ว่า ขั้วมันห่างกันนิดเดียว
ถ้ามันสัมผัสกัน มันระเบิดได้
คุณไม่ระแวงไม่กล้าใช้โทรศัพท์เลยเหรอ
ที่ยุโรปใช้งานจริงมานานแล้วครับ และมีสถานีที่เกิดเหตุระเบิดด้วย อเมริกาก็มีขายมานานแต่ยอดขายก็อย่างที่เห็น
เห็นด้วยครับ แรงดันที่สูงยิ่งกว่าก๊าซ CNG หรือ NGV อีก เป็นอะไรที่แม้จะมีมาตรฐานต่างๆ รองรับ แต่มนุษย์เราก็ยังขี้กลัวอยู่ดี
@@inthemirror3169 ตรงใจเป๊ะ
เขากลัวกันแบบตามกระแส แต่ลืมคิดกันในความเป็นจริง😁
ผมยังเคยชาร์ตแบต 18650 แบบกระแสสูงเต็มพิกัดแบต ฟาสชาร์ต ระเบิดมาแล้วเลย เครื่องชาร์ตทำเองลองเล่นๆ ดังสนั่นมาก ประกายไฟที่มีเศษเซลแบต ประทุแบบต่อเนื่องเหมือนกับ ดินประสิวติดไฟ ไปติดผ้าม่านในบ้านไหม้มาแล้วเลย ดับเกือบไม่ทันมันหลายจุด ควันเหม็นมากนะ
สารลิเทียมไอออน+สารอิเล็กทรอไลน์นะ ประสบการณ์ล้วนๆ 😀
@@thiraphonR แบตเตอรี่ เพรชนิวเคลียร์ ก็มีแล้วแต่นั้นละ ด้วยทรัพยากรที่จำกัดก็ใช้ได้เฉพาะกรณี ที่สำคัญที่จำเป็นต้องใช้สุดคือเทคโนโลยีไปอวกาศเพื่อขยายทางเลือกทรัพยกรกรอื่น ๆ
ในความคิดผมปัญหาของ EV คือประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ กับวัสดุธาตุที่นำมาใช้ทำแบตเตอรี่นั้นมีจำกัดและสิ้นเปลืองทรัพยากรณ์วัสดุธาตุที่นำมาใช้ทำแบตเตอรี่รถยนต์ EV เป็นจำมวนมาก แบตเตอรี่รถยนต์ EV มีขนาดใหญ่เกรงว่าทรัพยากรวัสดุธาตุที่มีประสิทธิภาพที่จะนำมาใช้ทำแบตเตอรี่รถยนต์ EV จะขาดแดลนเป็นอย่างมากในเวลาอนาคตอันใกล้อย่างรวดเร็ว ก็เลยน่าจะมีการกลับมาพูดถึงรถยนต์พลังงานไฮโดเจนที่เปลืองวัสดุธาตุที่น้อยกว่า ถึงไฮโดเจนจะผลิตได้ยากและซับซ้อนก็ตาม ปัญหาคือต้องการวิธีเก็บกักพลังงานไฟฟ้าได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพและเปลืองทรัพยากรวัสดุธาตุที่น้อยที่สุด และมีความเสี่ยงที่น้อยที่สุดที่จะขาดแคลนทรัพยากรวัสดุธาตุในอนาคตอันใกล้ในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว สรุปคือผมคิดว่ารถยนต์ EV ผลาญวัสดุธาตุที่ใช้ทำแบตเตอรี่เป็นจำนวนมากเกินไปโดยวัสดุธาตุที่นำมาทำค่อนข้างที่จะมีจำกัด
ผมหมายถึงทรัพยากรวัสดุธาตุที่ใช้ทำแบตเตอรี่ถ้าคนแห่กันใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นไปได้ที่วัสดุธาตุที่ใช้ทำแบตเตอรี่คาดว่าจะขาดแคลนอีกภายในไม่เกิน 30 ปี เร็วกว่าน้ำมันอีก จริง ๆ แล้วเราก็มีแหล่ง ไฮโดรเจนที่ใหญ่รองจากดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเราอยู่ คือ ดาวพฤหัส ตอนนี้เราควรมุ้งเน้นไปที่ อารยธรรมรคาร์ดาเชฟไทป์ 2 การนำเอาทรัพยากรจากนอกโลกมาเริ่มใช้ เรากำลังอยู่ปลาย ๆ ของพลังงาน ฟอสซิลจากในโลก
แบตเตอรรี่ละครับ แร่ลิเทียมที่ทำลายโลกกว่าจะได้มาละครับ
ตัองขอบคุณอีลอน มัสก์ที่ทำให้รถไฟฟ้าใช้งานได้จริง และแพร่หลายทุกวันนี้ ส่วนรถไฮโดรเจน ต้องหาผู้เชี่ยวชาญตัวจริง มาทำให้มันแพร่หลายได้อย่างอีลอน มัสก์ คนจึงจะใช้
อีลอนคือพระเจ้า
จริงครับ
ไฮโดรเจน มันระเบิดได้นะครับ ฮ่าๆ ฮ่าๆ ...เกิดมีปั้มเกิดขึ้นติดบ้านเรา...สงสัยต้องประกาศขายบ้าน...เพราะต้องนอนผวา ว่ามันจะระเบิดขึ้นเมื่อไหร?เวลาไหน
ตอนนี้ toyota ทำรถต้นแบบที่สามารถนำ ไฮโดรเจนเข้าเครื่องยนต์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่าน ฟิวเซลล์และแบ็ตเตอรี่แล้ว อาจจะเป็นอนาคตใหม่ของรถยนต์ แต่มันก็ไม่ต่างกับการเติมแก๊ส แต่ที่มาของไฮโดรเจนมันไม่ต้องไปผูกกับประเทศไดประเทศนึง จะผลิตที่ใหนก็ได้
ยุโรปและอเมริกามีรถยนต์ที่ใช้แก๊สไฮโดรเจนเข้าสู่เครื่องยนต์โดยตรงนานแล้วครับ ผมว่าไทยเรายังใช้ศัพท์รถไฮโดรเจนไขว้เขวกับระบบ Fuelcell ครับ เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาผมทำโพรเจค Oxi-hydrogen generator คาดหวังจะนำเข้าใช้แทนแก็สอะเซทิลิน แต่ได้พับโครงการไป
แบบดัดแปลงเครื่องice bmw ทำมาตั้งแต่ยุค90แล้วครับ ลองไปค้นกูเกิล bmw hydrogen7 แต่ไม่รุ่งเพราะ ไฮโดรเจนหาเติมยาก และแพง
เช่นเดียวกับ replied comment ข้างบนครับ การเอาก๊าซไฮโดรเจนจ่ายเข้าไปเผาไหม้ใน ICE มีมาหลายสิบปีแล้วครับ (ที่คณะตอนสมัยผมเรียนมี Mazda Familiar คันนึงที่ถูกดัดแปลงให้ใช้ระบบนี้ - อยากรู้ว่าอายุเท่าไหร่ลองหาปีของรถรุ่นนี่ดูครับ)
แต่ปัญหาหลักของระบบนี้คือ efficiency ต่ำกว่า fuel cell อีกครับ จะว่าไปแล้ววิธีการที่เอาอะไรมาเผาเพื่อเอาความร้อนนั้น ประสิทธิภาพต่ำแทบทุกอย่างเลยครับ เพราะจะสูญเสียไปในรูปของความร้อนทิ้งเยอะมากๆ ลองจับฝากระโปรงรถหลังวิ่งมาระยะนึงก็ได้ครับ จะเข้าใจ
ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนนะครับ
พวกผู้ก่อการร้ายชอบครับรถไฮโดเจนมากๆ ครับ นำจอดไว้ใต้คอนโดจะดีมาก(รั่วขึ้นมาก็ระเหยลอยขึ้นชั้นบน)ฮ่าๆ ไม่อยากคิด ถ้าเกิดมันติดไฟ แล้วมันจะไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน ฮ่าๆ ฮ่าๆ ถ้าเป็นกรณีรถก๊าสไฮโดเจนจอดหลายคัน..ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ....แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องเอาป้ายไปติดที่คอนโด....เลยว่า..ห้ามจอดรถไฮโดรเจนใต้คอนโดแน่นอน.. จบ คอนโดไหนมีป้ายก็ถือว่า..ได้บุญครับ
Battery swap คือทางออก
ส่วนตัวมองEVเป็นรถใช้จริงได้มาตั้งแต่ผมเด็กๆ เพราะที่บ้านมีรถก๊อฟ และก็จะถามเสมอว่าทำไมไม่ทำเป็นรถติดแอร์ คำตอบที่ได้คือแพงในสมัยนั้น ส่วนที่เขาว่าแร่ลิเทียมจะไม่พอใช้กับรถEVส่วนตัวก็มองว่าไม่จริง อารมณ์แบบเดียวกับน้ำมันดิบที่ ออกข่าวกันว่าน้ำมันจะหมดโลก ผ่านมาหลายสิบปีน้ำมันไม่หมดซักที ก็เพราะเทคโนโลยีในการหาแหล่งน้ำมันเราดีขึ้นบ่อใหม่ๆก็มากขึ้น ในเรื่องแร่ลิเทียมก็คงคล้ายกันแต่อาจจะไปติดปัญหาเรื่องการทำเหมืองแร่ซึ่งปัจจุบันทำยากเพราะเรื่องทำลายสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้น
มองการณ์ไกลตั้งแต่เด็กเลยครับ
ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อน รถไฟฟ้าก็มาจากหลากหลายแหล่ง ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำมัน พวกนี้ทำให้เกิดมลภาวะไหมครับ
เกิดแน่นอนครับ ยังไม่มีวิธีการไหนไม่เกิดมลภาวะ ไม่ว่าจะเป็น BEV หรือไฮโดรเจน
ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า 1. การปลดปล่อยมลภาวะต่อกิโลเมตรที่วิ่ง ของเทคโนโลยีใดต่ำกว่ากัน ซึ่ง BEV ยังต่ำกว่า ด้วยการมีประสิทธิภาพตลอดกระบวนการสูงกว่า
และ 2. กระบวนการใด เอื้อให้นำพลังงานสะอาดเข้ามาใช้มากกว่ากัน ซึ่งคำตอบในปัจจุบันก็ยังคงเป็น BEV ครับ แต่อนาคตก็อาจทีวิธีที่ดีกว่าก็ได้ครับ
ขอบคุณที่เข้ามาและเปลี่ยนกันนะครับ
อีกอย่างที่ผมอยากเสริมครับ ถ้าใช้รถEV ในเมือง 100% สิ่งที่เห็นได้ชัดคือจะลด PM2.5 ได้ดีมากๆสำหรับเมืองใหญ่ๆที่มีคนอยู่หนาแน่น แล้วเทคโนโลยีข้างหน้า เห็นได้ชัดว่าการที่จะจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแหล่งต่างๆที่ก่อมลพิษน้อยที่สุด จะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมระบบสายส่งไฟฟ้าก็มีเป็นโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว จะช่วยในการจัดการเรื่องกระจายพลังงานได้ง่ายและประหยัดขึ้น เมื่อเทียบกับมลพิษที่ปล่อยออกไป ส่วนตัวผมเชียร์รถ EV ครับ😁😁
แต่การปั่นไฟ ผลิตกระแสไฟฟ้า จะเกิดมลพิษ ณ จุดนั้นๆ ซึ่งสามารถควบคุมมลพิษได้ง่ายกว่า การที่ รถน้ำมันวิ่งไปหลากหลายสถานที่ ยากต่อการควบคุมมากกว่าครับ อีกทั้ง BEV ใช้ในเมือง ช่วยควบคุมมลพิษทางเสียงอีกทางหนึ่งด้วยครับ
Solar cell
@@chitnarong2525 เห็นด้วยครับ
แก็ส ไฮโดรเจน ยังมีปัญหาอีกอย่างคือ ความปลอดภัย ในการ ใช้งานเนื่องจากว่ามันไวไฟมาก
ถ้าจะดีขอแนะนำจอดไว้ใต้คอนโดจะดีมาก(รั่วขึ้นมาก็ระเหยลอยขึ้นชั้นบน)ฮ่าๆ ไม่อยากคิด ถ้าเกิดมันติดไฟ แล้วมันจะไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน ฮ่าๆ ฮ่าๆ ถ้าเป็นกรณีรถก๊าสไฮโดเจนจอดหลายคัน..ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ....แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องเอาป้ายไปติดที่คอนโด....เลยว่า..ห้ามจอดรถไฮโดรเจนใต้คอนโดแน่นอน.. จบ คอนโดไหนมีป้ายก็ถือว่า..ได้บุญครับ
อาจจะลืมอะไรสักอย่างนะครับ H2 เป็นแค่ผลพลอยได้ของการแยกอ๊อกซิเจนเช่นกันครับ ที่แยกำใช้ตามคลีนิค โรงพยาบาล ทุกวันก็ทิ้งไฮโดรเจนเปล่าๆ หรือโรงแยกเฉพาะทางเค้าก็ไม่ได้แยกไฮโดรเจนอย่างเดียว มันเป็นแค่ 1 ในผลพลอยได้จากกการแยก ไนโตรเจน ออกซิเจน และอาร์กอน เปรียบเหมือนกำลังพูดว่า ขี้ไก่มีต้นทุนสูง โดยบอกว่าต้องสร้างเล้า เอาไก่มาเลี้ยง เอาอาหารให้กิน แล้วเอามานับเป็นต้นทุนนั่นแหละครับ
ผมไม่แน่ใจว่าประมาณที่รถยนต์ใช้คงมากกว่าคนหรือ คลีนิค รพ. หลายเท่า ไม่น่าจะเพียงพอ จากที่เจ้าของคลิปอธิบาย ไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจน = 100 ได้ 60 แล้ว ไฮโดรเจน เป็น ไฟฟ้า 60 ได้ 30 กว่า%
สิ้นเปลืองพอกับรถน้ำมัน แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
ในขณะที่รถไฟฟ้า จาก 100 ใช้ได้ ประมาณ 60% (ตัวเลขของผมอาจจะคลาดเคลื่นบ้าง)
ไฟฟ้าให้ทางเลือกหลายทางและช่วยแก้ปัญหาการผูกขาดได้เลยด้วย
@@โฟโต้คลิ๊กบริการถ่ายรูปและทํา เฉพาะ H2 ที่ได้จากโรงแยกแค่ 1โรง สามารถเติมรถได้ประมาณ 2หมื่นคันต่อวันครับ FCEV นี่มันแค่ เสี้ยวหนึ่งของ H ที่จะดิสรัปชั่นเลยครับ เพราะสิ่งที่ H จะไปทดแทนหลักๆคือโรงไฟฟ้าด้วยซ้ำครับ ลองนึกถึงยุคที่ไม่มีน้ำมันปั่นไฟ ใช้ Solar หรือ กังหัน ในส่วนที่ผลิตเกินใช้จะนำไปแยก H จากน้ำ ซึ่งเป็นตัวเก็บพลังงานที่ได้ เวลาจะใช้ก็นำมาแปลงใช้ผ่าน FC ต่อให้ 30-60% ก็คุ้มครับเพราะมันคือส่วนเกินและไม่มี CO2 ตรงนี้ต่างจากแบตครับ กำลังไฟส่วนเกินจากโรงปั่นไฟ ต้องใช้แบตขนาดไหน ไม่รวมถึงแร่ที่ต้องใช้สร้างแบตและอัตราการชาร์จจากไฟที่ปั่นเกินแบตมันเก็บไฟได้ไม่ทัน แต่ถ้าแปลงน้ำเป็น H จัดเก็บได้ความเร็วพอๆกับที่ผลิตไฟออกมาได้เลย สิ่งที่ใช้จัดเก็บก็คือถังแรงดันไม่ได้ผลิตยากและส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมแบบแบตเตอรี่ ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> www.bigth.com/th/feature-story/hydrogen-the-next-big-thing-of-energy/
ในข้อมูลยังไม่ค่อยชัดเจนคับ
- มีมากในประเทศเราและอีกสองสามประเทศ แต่ไม่ได้มีในประเทศอื่น ๆ ในอีกหลายประเทศ
- ปริมาณมากพอสำหรับระดับ Mass หรือปล่าวไม่ระบุปริมาณที่รองรับ และในระดับอุตสาหกรรมยังไม่ค่อยมีใครใช้ แต่ที่เห็นโรงไฟฟ้าใช้ก็ LPG น้ำมันเตา
- ราคาไม่ระบุว่าเท่าไร
- สถานีที่รองรับยังไม่มี การขนส่งด้วยน่าจะยุ่งพอสมควร ขนาด Elon musk ซึ่งใช้ในยาน Space X ก็ยังไม่สนับสนุน
- รถไฮโดรเจนราคายังสูง และถ้าผลิตมาขายคงราคาไม่ถูกเพราะสามารถขายได้ไม่กี่ประเทศก็จะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนที่มีรายได้ไม่มากพอก็จะไม่สามารถจูงใจคนเหล่านั้นก็จะไม่สามารถแก้ปัญหามลภาวะได้ แถมค่า Maintenance แพงเอาเรื่อง
- ที่สำคัญเรื่องการผูกขาดนี่ ผมก็ขยาดกับ ปตท. มากพอสมควร
1. ผมนึกว่าตามคลินิกหรือโรงพยาบาล เขาแยกความชื้นออกจากแก๊สออกซิเจน ก็ออกซิเจนมันมาจากถังของมันอยู่แล้วนี่
2. ต้นทุนของแก๊สไฮโดรเจนมันสักเท่าไหร่เชียว ต้นทุนที่แท้จริงอยู่ที่ถังเก็บต่างหาก ถังที่ต้องทนแรงดันมากกว่าแก๊ส ngv 5 เท่า ที่มันไม่รุ่งเพราะต้นทุนอย่างอื่นสูงหมด
ไฮโดรเจนแบบที่เขาพัฒนาอยู่ มันก็ยังถูกผูกขาดกับผู้ค้าอยู่ดี
แต่ผมชอบรถไฮโดรเจน แบบสันดาปมากกว่า โดยใช้น้ำกลั่นเป็นต้นกำเนิด😁
ไฟฟ้า ลงทุนพลังงานไป 100 ได้ใช้จริง 80
Hydrogen ลงทุนพลังงานไป 100 ได้ใช้จริง 30
ทางเดียวที่รถ hydrogen จะคุ้มกว่าก็คือ ต้นทุนของการกำจัดแบตเตอรี่ที่หมดอายุแล้วเป็นพิษ แพงมากๆ
ใช่เลยครับ แต่วันนี้ที่แบตเตอรี่เสียยังมีน้อย ก็ยังไม่เห็นผู้ประกอบการมาทำเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ อนาคตหวังว่าจะได้เห็นกันครับ
ดูซับซ้อนกว่าev.ปัจจุบัน เหมือนเทคโนโลยียังไม่กลั่นตัวตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง
ใช่ครับ ซับซ้อนกว่าแน่นอน แต่ผู้ผลิตบางรายก็อาจจะถนัดความซับซ้อนมากกว่าอีกรายครับ
เหมือนไฟฟ้ากระแสตรงกับกระแสสลับ ปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ทั้ง2อย่าง AC/DC
สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน
ราคาล่ะเท่าไหร่...
ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ผมไม่เอาไฮโดรเจนแน่นอน
อะไหล่รถ ไฮโดร มากมาย ซับซ้อน ค่าดูแลน่าจะแพงกว่ารถไฟฟ้า
ยังขาดข้อมูลที่เปป็นประัเด็นสำคัญที่ขบวนการนี้จะเกิดพลังงานความร้อนเป็นจำนวนมากในขั้นตอนการแปลงไฮโดรเจนผสมกับอ๊อกซิเจนผลิตพลังงานไฟฟ้าออกมา ซึ่งไม่ได้ช่วยเรื่องโลกร้อนลดลง
ใช่ครับ จริงๆ กระบวนการของไฮโดรเจน ส่วนที่สูญหายไป 70 หน่วย จากพลังงานไฟฟ้าเริ่มต้น 100 หน่วยนั้น ก็สูญเสียไปในรูปของความร้อนนี่ล่ะครับ
การที่ใช้พลังงานอย่างทิ้งขว้าง หรือไม่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ ก็จะยังทำให้โลกร้อนอยู่ดีครับ
@@SumritsWay นั่นสิครับ ไม่ได้แก้ปัญหาโลกร้อนซึ่งนำไปส่งปัญหาอื่นอีก อีกทั้งพลังงานที่ได้ก็เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าไฟฟ้า แง่ดีเพียงประการเดียวคือวิ่งได้ระยะทางไกลกว่ารถที่ใช้แบตเตอรี่ต่อเติมพลังงานเท่านั้น (ณ.ปัจจุบัน)ซึ่งไม่น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าระบบแบตเตอรี่ ที่หลายคนกลัวว่าแบตเตอรี่จะหาแร่ผลิตยากซึ่งไม่เป็นความจริง
เอาไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ มาทำ แทนไฟฟ้าบ้านๆ
รถอีวี นี่แหละครับที่เข้าใกล้คำว่ายานยนต์อัจฉริยะที่สุดแล้ว ส่วนรถไฮโดรเจน มันล้าหลังเหมือนขับรถน้ำมันนั่นแหละ
ปี 2026 รถ f1 จะใช้พลังงานไฮโดเจน ผมว่ามาแน่ ไม่นานเกินรอ
พลังงานจากไฮโดรเจนไม่ใช่ใช้เฉพาะกับยานพาหนะ แต่จะมาใช้กับที่อยู่อาศัย โรงงานอุตสาหกรรมด้วยครับ
รถไฮโดรเจน เครื่องยนต์เยอะกว่าเครื่องน้ำมันอีก รับรองศูนย์บริการของค่ายรถ กินจนอิ่มหนักยิ่งกว่าน้ำมันอีก 5555 😆😆😆😆😆😆เจริญพร
เห็นพูดกันมาจะ20 ปีแล้ว ไม่เห็นทำออกเชิงพานิชย์ซักที
ผมว่ามี 30 ปีบวกๆ นะ ;)
แอบหวังให้สำเร็จเร็วๆ เพราะรถ ev ไม่น่าจะรอด ดูจากกราฟราคาแร่ที่ใช้ทำแบตที่พุ่งขึ้น
ครับ มาลุ้นกันครับ
ตอนนี้เขาทำแบตจากโซเดียมแล้วครับ ไม่ต้องใช้ลิเทียมแล้ว น่าจะพัฒนาต่อได้มาก
แบตไม่หยุดพัฒนา มีทางเลือกหลายชนิด แม้แต่พลังงานแสงอาทิตย์ ไม่แน่นวันหนึ่งอาจได้ใช้พลังงานฟรีๆ รถevยังมีทางเลือก มากกว่า รถไฮโดรเจน แน่นนอน
แบตเตอรี่มันไม่ได้ใช้แร่ชนิดเดียวเด้อจ้า มันพัฒนาเรื่อยๆ
ถ้าโลกโดนทำลายมากๆ.. เดี๋ยวมนุษย์ต่างดาวก็ทนไม่ไหว.. เดี๋ยวก็ลงมาสอนเทคโนโลยีรักษ์โลกเอง.. ผมเชื่ออย่างนั้น
เค้าวางแผนระยะยาว
แต่ Elon บอกจะอยู่แต่ในอนาคตตลอดไป แล้วแผนจะยาวแค่ไหนนะ ;)
ลงทุนไปเยอะ รัฐบาลก็สนับสนุน หลายประเทศก็เริ่มสนใจและวางเป็นนโยบายสิ่งแวดล้อม เดินช้ากว่า EV แน่อยู่แล้วครับ
คนไทยทำมานานแล้ว น่าจะ30กว่าปีแล้วนะ จำได้อกรายการท้าพิสูจน์
ให้เวลา 30+30ปี ไฮโดรเจนจะแซง
ว่าจะพนันด้วยหน่อย แต่อีก 60 ปีไม่รู้ผมจะอยู่มาเอารางวัลด้วยมั้ยนี่สิ 😁
ผมชอบระบบไฮโดรเจน แบบสันดาปที่ผลิตได้ด้วยน้ำกลั่นและเครื่องผลิตที่ติดตั้งอยู่ในรถครับ!😀
ไม่มีการผูกขาดเรื่องพลังงานกับใคร แต่! ก็คงเป็นได้แค่ฝัน 😁
ไม่มีมลพิษ และไม่มีใครพัฒนาต่อจากในอดีตในข่าวที่ผ่านมาหลายปีก่อน 😁55556667777🤣
ถ้าทำได้ก็ดีครับ แต่ปัญหามีอยู่ว่า เราจะเอาพลังงานไหนในรถไปผลิตไฮโดรเจนครับ ?
ข่าวในอดีตแค่เอาแบตเตอรี่ 12V หน้ารถไปผลิตไฮโดรเจน ซึ่งมีปริมาณน้อยมากๆ วิ่ง 5 กิโลเมตรก็ไม่รู้ถึงมั้ย และใช้แล้วหมดไปไม่มีที่้เติมได้ ดังนั้นข่าวไม่ว่าจะช่อง 3 หรือ 7 ก็ล้วนเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้นครับ
H2O,,
ไม่จริง
ถัง NGV (3,000 psi) มีอายุ 15-20 ปีถ้าไม่เปลี่ยนก็จะระเบิดอย่างในภาพครับ (อันนี้แรงระเบิดจาก 1 ถังนะครับ)
ที่มา : hilight.kapook.com/view/182744
ส่วนถัง Hydrogen (10,000 psi)มีอายุ 14 ปีครับ
Fuel cell car อย่าง Mirai มี 3 ถังครับ
ไม่เปลี่ยนก็จะเป็นแบบในภาพครับ
ที่มา : priuschat.com/threads/first-drive-report-2016-toyota-mirai.157171/page-3
FYI
________________________
Blink Drive Take
ผมอยากกระจายข้อมูลที่ถูกต้องให้เยอะที่สุดเพื่อให้ฐานข้อมูลของไทยนั้นถูกต้องที่สุดครับ
m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0agbEdPCdmH5qhEPszWSm5Hs8Vmm2N8jj1NMX3D2L6haPMfwMdai4SwtrLCBwcmhKl&id=210616623198953
เปลี่ยนแบตเตอรี่ห้าแสนกว่า ขายต่อมือสองไม่มีราคา ใช้รถเติมน้ำมันดีกว่ามาก
ไม่เข้าใจพวกเชียร์รถพลังงานไฟฟ้าเขามีปมด้อยอะไรต้องมาพยามด้อยค่าพาหนะไฮโดรเจน มันก็ชัดๆว่าไม่ว่ารถหรือเรือไฮโดรเจนสามารถบรรทุกหนักในระยะทางไกลๆได้ถึงระดับข้ามประเทศ ส่วนรถไฟฟ้าก็เห็นอยุ่ว่ามันของใช้ของคนในเมืองขณะจีนที่เป็นผู้ส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพอเรื่องรถบบรทุกขนาด30-50ตันขนส่งข้ามมณทลเขาไม่เสียเวลาพัฒนารถบรรทุกไฟฟ้าเลยใช้รถบบรทุกไฮโดนเจรทั้งนั้น ใครจะมาเสียเวลา8ชม.ชาร์จแบตของเย็นของทะเลเสียก่อนถึงที่หมายพอดี ของทุกอย่างมีดีมีด้อยในตัวไม่ใช่จะไปจดจ่อกับคำตอบเดียว