Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
นาที 5:42 ขอแก้ข้อมูลที่ถูกต้องนะคะDriving Range หรือ ระยะวิ่ง 400 กม/การชาร์จไม่ใช่ 400 กม/ชม ค่ะ
คนเขาเบื่อรถน้ำมันใช้มา5-60ปีแล้ว,ประเทศที่เจริญแล้วเขาใช้รถไฟฟ้า,ไม่สร้างมลพิษทางอากาศให้ใครเดือดร้อน,PM2,5,มิฉะนั้นตายเร็ว,อายุไม่ยืนยาว,ใช้รถไฟฟ้าลูกหลานก็สบาย,นอนในรถยนต์ก็ได้,รักโลกใบนี้ไปด้วย,ประหยัดเงินดี,คนกรุงและจังหวัด,อำเภอใหญ่ๆ,ต้องช่วยกันใช้รถไฟฟ้า,เพื่อลดอากาศที่เป็นพิษ,PM2,5,และควันดำ,😅😅😅😅
บ้านผมมีรถหลายคัน ดีเซล 2 เบนซิน 3 ไฟฟ้า 1 500 โล ผมใช้รถน้ำเดินทางต่างจังหวัด ไฟฟ้าขับชิวๆในกรุงเทพ ผมว่ารถไฟฟ้ายังไม่พร้อมหลายอย่างในเวลานี้ น้ำมันคุ้มกว่าในแง่เทคโนโลยีที่สั่งสมมานานนะครับ การซ่อมที่ถูกกว่าด้วย
โดยส่วนใหญ่ประกันไม่ซ่อมครับ เปลี่ยนอย่างเดียว แต่ถ้ารถใช้ไปแล้ว ความเสื่อมของแบตจะไม่เท่ากัน หากเปลี่ยนแค่โมดุล ความจุของแบตจะเท่ากับตัวที่เสื่อมจะไม่ใช่แบตใหม่ ระยะทางลดลง และจะลดลงเรื่อยๆจนแบตเสียทั้งแพคตามอายุแบต พูดง่ายๆแบตมีอายุของมันใช้ไม่ใช้มันก็เสื่อม แต่ระยะทาง 1-2แสนนี้สบายครับ สำหรับรถไฟฟ้า คำถามคือ เมื่อมันถูกขายในเต้น เราจะทราบได้อย่างไรว่ามันเสื่อมแค่ไหน ต้องมีหน่วยงานที่สามารถการันตีได้ว่ารถนี้มีอัตราเสื่อมแบตอยู้ที่เท่าไร
มีเหตุผลมากครับ 😮😮
อ่านหนังสือเยอะๆครับอย่าคิดเองเออเอง
@@09042512ตกลงรู้ดีทุกอย่างแค่อ่านหนังสือ สามารถบอกได้ว่าคันนี้เสือมแค่ไหน
รถน้ำมันเนี่ยนะยังก็ต้องมีในบ้านเราเพราะยังไม่ไว้ใจในรถไฟฟ้าราคาตอนที่ตกเป็นมือสองมีหลักประกันอะไรได้หรือเปล่า ซ่อมแล้วก็ใช่ว่าจะอยู่ในสภาพเดิมหรือป่าว
@@09042512เป็นใครมาบอกให้เขาอ่านหนังสือเยอะเลี้ยงเขามาหรอ
ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าดูแลรักษา เอาไปจ่ายประกันกับเปลี่ยนแบต พอ5ปีขึ้นไปยุคแบตรี่เสื่อมเริ่มมา พอขายต่อขายยากรถล้นตลาดไม่มีใครซื้อไปเปลี่ยนแบต ยกเว้นแบตราคาจะถูก มันอยู่ที่การใช้งานของแต่ละคน ส่วนตัวยังใช้น้ำมันอยู่ รถไฟฟ้ายังไม่เหมาะกับตัวเราในยุคปัจจุบัน
เอาข้อมูลจากไหนว่า 5 ปีครับ ถ้าไปค้นคว้าดูจริง ๆ แบตอยู่ได้ 10 ปี โดยยังไม่เสื่อม (ประกันแบตให้ 8 ปี)
รถยนต์น้ำมันก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมไม่หายไปไหน และคิดว่าน่าจะยังมีอยู่อีกสัก 100+ ปี (ถ้าหากว่าถึงตอนนั้นแล้วยังไม่มีกฎหมายบังคับ ว่าห้ามมี) เพราะปัจจุบันนี้รถน้ำมันกับอีวีต่างก็มีข้อดีข้อเสียคนละแบบกัน คือตอนนี้ยังไปไม่ถึงจุดที่อีวีจะได้เปรียบหรือเหนือกว่าในทุกๆด้าน
อีก100 ปี จะมีอู่ซ่อมเหรอครับ ช่างตายไปหมดแล้ว
😂
@@banakornมันก้มีช่างใหม่เกิดขึ้นมารึป่าว
ข้อมูลดีมากครับทั้งผู้ถามผู้ตอบ เตรียมข้อมูลมาดีมากครับ ดีต่อการตัดสินใจ
ชอบ อาจารย์ อธิบายครับ... ชัดเจน เข้าใจได้ไม่ยาก .. ขอบคุณทางเจ้าของช่อง. ที่หาคนมาให้ความรู้ ประชาชนคนธรรมดา. ให้มีความรู้มากขึ้น
จากราคาน้ำมันดิบที่กำลังลดลงเรื่อยๆ .... ผมว่า คนที่ซื้อรถ ev เวลานี้ กำลังหนีเสือ ปะ จระเข้ เพราะคนส่วนใหญ่ ซื้อเพราะคิดว่า จะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันมากขึ้น แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ราคาน้ำมันกำลังจะลดลง อย่างมาก เพราะความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง และ ค่าไฟฟ้า ที่กำลังจะเพิ่มขึ้น ทำให้สุดท้ายแล้วการใช้รถ ev ไม่ได้ทำให้ประหยัดขึ้น อย่างที่คิด
การชาร์จไฟแต่ละครั้ง คิดเป็น กี่บาท ครับ.... แล้ววิ่งไปได้กี่กิโล ครับ.... ชาร์จแล้ว ไม่ได้วิ่ง ไฟก็หมดได้ ครับ...
เดี๋ยวก็ได้เอามือก่ายหน้าผากค่ะหนูใช้ยาริสประหยัดกว่าเยอะค่ะ
แล้วน้ำมันที่เติมรถมันลดหรือเปล่าพูดถึงน้ำมันดิบ มันลดลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้หรอก ต้นทุนมันค้ำอยู่
@@pongpalanun ชาร์จอยู่หน่วยละ 2.6 บาทหน่วยนึงวิ่งได้ 10 กิโล หารตรงๆ ก็กิโลละ 26 สต. บวกเผื่อๆ พลังงานที่สูญเสียอีกสัก 20% ก็ตกกิโลละ 30 กว่า สต. ถ้าไฟรถถูกกว่าค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งระยะทางเท่ากันถ้าไม่ได้วิ่งก็ชาร์จทิ้งไว้สัก 50% จาก 0 ถึง 50% ผมจ่ายประมาณ 60 บาท
เกิดมาน้ำมันไม่เคยลดเลย เคยใช้ลิตรละ สิบกว่าบาท ทุกวัน สิบสี่สิบบาท
แล้วแต่ความเหมาะสมในกาาใช้งานครับ รถไฟฟ้าเหมาะสมกับการวิ่งระยะสั้นๆในเมืองไม่เหมาะกับการเดินทางไกลไม่เหมาะกับการออกสู่ถนนที่ไม่ดี และที่สำคัญชั่วโมงนี้ความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้าในสายตาคนใช้มันยังไม่เต็มร้อยเหมือนรถน้ำมัน
ตอบผิดครับเรื่องแบตฯคำถามถามว่ามันทนทานนานแค่ไหนต่อ1แพ็คคำตอบคือขึ้นกับชนิดของแบตจะเป็นแบตแบบNMCหรือLFPและรอบการชาร์จได้มากกี่รอบจนกว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่เท่าที่รู้ข้อมูลคือแบตNMCชาร์จได้1,500-2,000รอบ แบตแบบLFPชาร์จได้2,500ถึง3,000รอบ รอบนึงวิ่งได้300-500กม. ฉะนั้นถ้าใช้แบบไม่เปลี่ยนจะวิ่งได้สูงถึง450,000-1,500,000กม. โอนขายรถไปกี่มือแล้วก็ไม่รู้หรือว่าทิ้งรถเป็นซากไม่ใช้แล้ว แต่แบตยังคงไปสู่การรียูสต์หรือรีไซเคิลต่อไป
รถโดยสารสาธารณะทั้งหมดใน กทม. ต้องเป็นEVทั้งหมดก่อนเลยอยากให้สื่อช่วยกันทำประเด็นนี้ด้วยควันดำทุกคันเลย
ผมมองแบบนี้ครับ ด้วยนิสัยคนไทยชอบความสะดวกสบายและชอบยึดติดวัตถุตามแต่ละคนแต่ละแบบไป. ในประเทศจีน เขาใช้รถไฟรางไปกระจายความเจริญในภูมิภาคใช่ไหมครับ ทำไมเราไม่ใช้รถไฟฟ้ามาเป็นตัวกระจายอุตสาหกรรมหลายๆอย่างไปสู่จังหวัดอื่นๆ และยังดึงการลงทุนอื่นๆตามมา จากผลพ่วงนี้ได้ อาจจะ ไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วน การผลิตไอที การผลิตชิ้ปส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือเทคโนด้านอื่นๆ อีกมาก นอกจากการเกษตรในบ้านเรา ลดความแออัดใน กทม. ส่วนรถไฟที่มีอยู่ ก็ไปทำเชิงการท่องเที่ยวแบบดีๆ เหมือนรถไฟคลาสสิค เหมือนฝรั่งเศษมากินหรูๆ นอนชั้นเยี่ยมแบบบยรถไฟ ทำนองนี้ ##เอารถไฟฟ้านี่แหละ กระจายความเจริญไทยไป ตจว.
ทำแบบนั้นก็เหมือนทำถนนเข้าป่าครับ มันไม่คุ้ม สิ่งที่เราต้องทำคือ เลิกอยู่ตามป่าเขาไร่นาสวน ซึ่งคนกระจายตัวมากๆ ราชการเข้าถึงยาก ประชาชนก็ออกไปใช้บริการพื้นฐานได้ยาก การจะทุ่มงบดูแลประชาชนอย่างในเมืองก็ไม่คุ้ม แต่ต้องทำกลายเป็นจ่ายงบประมาณเลือดไหลออก 😃😃ดังนั้นต้องทำตัวอำเภอให้เป็นเมือง มีคนเมืองเกิน 50% ของประชากร เพื่อคนเข้าใช้โครงสร้างพื้นฐานและบริการพื้นฐานร่วมกัน แชร์กันแล้วประหยัด จึงจะสามารถทำระบบคมนาคมให้คุ้มค่าได้ ส่วนโครงสร้างพื้นฐานในไร่นาป่าเขา โอนให้ท้องถิ่นซะ ใครอยากอยู่ก็ซ่อมกันเอาเอง😃😃 ในขณะที่เรียกร้องให้กระจายความเจริญ ก็ต้องคิดด้วยว่า ทำโรงงานไกล้เมือง หาคนทำง่ายเลือกคนได้เยอะ เดินทางสะดวก กับไปทำอำเภอเล็กๆ หาคนยาก สารพัดปัญหาเจ้าของโรงงานจะเลือกที่ไหนหละ.. ดังนั้น ออกฏหมายการตั้งถิ่นฐาน เพื่อทำตัวอำเภอให้เป็นเมืองก่อน ลดภาษีบ้านเรือนและกิจการก่อนเลย ถ้ามีคนมากพอ+กิจการได้ประโยชน์มากพอ ก็มีงานได้ แล้วคนจะเข้าตัวอำเภอเอง แต่นั่นหมายถึงเมื่อคนแก่ๆตายไป ลูกหลานเข้าตัวอำเภอ บ้านเรือนที่กระจายตัวตามไร่นาป่าเขาจะร้างเยอะเลยนะ ถนนหลายสายจะเป็นแค่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ไม่มีการดูแหม้อแปลงไฟฟ้า ท่อประปาต่างๆนะ
แบบญี่ปุ่น เน้นขนส่งมวลชน ไม่เน้นให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ถ้าใช้ ก็เป็นรถเล็ก แต่พี่ไทยโดนญี่ปุ่นหลอกให้ติดนิสัยฟุ้งเฟ้อเสรีนิยม ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวแบบอเมริกันชน ว่ากันว่าหากรัฐบาลไทยจะกู้เงินจากญี่ปุ่นมาทำระบบขนส่งมวลชนทางราง ญี่ปุ่นจะไม่ให้กู้ แต่ถ้าจะกู้มาสร้างถนน ญี่ปุ่นจะยินดีให้กู้ เพราะอยากขายรถยนต์ รถมอไซค์ คนไทยก็ติดกับดักการผลาญน้ำมันไปกับรถติด และกว่าระบบรางจะพัฒนาได้ในระดับที่เห็นในปัจจุบัน ก็ต้องรอมาหลายรัฐบาล ที่ผ่านมาหลายสิบปี ถ้าคิดเฉพาะน้ำมันที่เผาไปเปล่าๆบนถนน(เพราะรถติด และ เพราะรถแท๊กซี่ วิ่งรถเปล่าหาผู้โดยสาร แทนที่จะทำป้ายแท๊กซี่ taxi stand แบบประเทศที่เจริญแล้ว มันก็คิดกันไม่ได้เนอะ) คงเป็นเงินมหาศาล สามารถนำมาใช้พัฒนาประเทศให้ถูกทางได้มากรถไฟชิงกันเซนในญี่ปุ่น เขาก็มิได้คิดจะไปสร้างให้มันวิ่งเข้าป่าไร้ผู้คนเสียเมื่อไร? สมัยแรกมันอาจมีบางช่วงที่รกร้างไร้ผู้คนบ้างระหว่างสถานี แต่มันก็ผ่านเมือง ชุมชนใหญ่ ตามรายทางไปตลอด จริงๆ ตั้งแต่สามสิบกว่าปีก่อนแล้ว ใครไปญี่ปุ่นไปนั่งชิงกันเซนก็จะบอกว่า ไม่รู้เมืองไหนเป็นเมืองไหนแล้ว เพราะข้างทางแทบไม่มีที่ว่างระหว่งสถานีแล้ว และนี่ละ รถไฟนำความเจริญกระจายไปทุกภูมิภาค สถานีรถไฟ สร้างงานเพิ่มอีกเท่าไรเอาแค่ห้องน้ำสาธารณะในญี่ปุ่น ตามถนน ตามสถานีรถไฟ ตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ สร้างงานให้คนแก่เท่าไร ยังไม่นับร้านอาหาร ร้านรวงขายของต่างๆคนไทย เรียนจบมาทำงาน ก็เป็นหนี้ซื้อรถเงินผ่อนแล้ว เพราะการพัฒนาประเทศมันไม่ค่อยจะถูกทาง มันไปเข้าทางญี่ปุ่น และฝรั่ง รัฐบาลไทยไร้ยุทธศาสตร์อย่างเรื่อง EV ก็เหมือนเหวี่ยงแหให้ทุกคนหันมาใช้ EV แทนที่จะเน้นรถเมล์ รถแท๊กซี่ มอไซค์วิน ก่อนในส่วนรถเก๋ง EV แทนที่จะส่งเสริมรถเล็ก City EV ใช้ชานเมืองระยะทางสั้นๆ วิ่งมาขึ้นรถไฟBTS หรือรถใต้ดิน มันก็เหวี่ยงแห แบบไร้ strategy เอาหมด รถ EV ระดับไฮเอนด์ แรงๆ หรูๆ คันเป็นล้าน มันก็แห่ตามกันไปตามกระแสเดิมคือ ทุกคนต้องมีรถประดับบารมี
@@SwingEzzZZ ญี่ปุ่นทำแบบนั้นได้เพราะคนกระจุกตัวมากครับ เขามีคนเมืองถึง 90%😃😃 ในขณะที่ตอนนี้บางจังหวัดในไทยยังมีคนเมืองไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ เพราะคนกระจายตัวแบบนี้ ต่อให้ทำ โครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา สายสื่อสารไปถึงหมด😃😃 แต่จะให้รัฐบาลเอา บริการพื้นฐาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง กู้ภัย สนามบิน ไปใว้ทุกตำบลก็ไม่ไหวนะครับ
ได้ฟังข้อมูลแล้วสบายใจมากขึ้นค่ะ...เพิ่งจองรถไฟฟ้ามา..❤❤ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล..
วิทยากรท่านพูดถูกครับผมซื้อรถอีวีรุ่นแรกๆราคา1.2ล้านผ่านไปอีกปีรถพัฒนาแรงม้า แรงทอร์คระยะทางเพิ่มขึ้น แต่ราคาลดลงกลายเป็นเราตกรุ่นไปเลยครับ
สัญชาติญาณนักบุกเบิก เสี่ยงมากกว่าคนอื่นแต่จะประสบผลสำเร็จมากกว่าคนอื่นหลายเท่า 👍
มีคนจำนวนมากที่พร้อมรับรถแรงน้อย(ตกรุ่น)ไปต่ออย่างมีความสุขดูอย่างทุกวันนี้คนรุ่นเก่าขับรถช้าก็ยังอยู่บนถนน ใช่ว่าเขาจะต้องขับรถเร็วขึ้นกว่าที่เคยซะเมื่อไหร่ ถ้าเขาไม่ได้อยากเพิ่มฝีมือและความเร็ว ต่อให้ขับรถสปอร์ตเขาก็จะยังอยู่กับความสามารถเดิมๆ
อย่าคืดมาก. ทุกอย่างต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคของมันครับไม่ต้องกลัวว่า ไม่มีที่ชาร์ทไฟ อีกหน่อยตัวรถไฟฟ้า ต้องติดโซล่าเซลล์..ขับไปชาร์ทไป..เมืองไทยแสงแดดมีตลอดปีครับ
ติดแผงโซล่าเซลบนหลังคารถ เพิ่มแบตสำหรับแผงโซล่าเซลอีกซักตัว ต่อสายแบตหลักกับแบตสำรอง ทำสวิชปิดเปิดชาร์ตอัตโนมัติ จบเรื่องจบราว เผลอๆไม่ได้เข้าปั้มชาร์ตเลย แต่ทีเขากลัวกันคือกลัวนายทุนขายพลังงานไม่ได้ แต่คนที่รู้จักทำพลังงานอิสระใช้ได้เองก็รวยเงินเหลือเก็บเยอะขึ้นกว่าเดิม
@@win4598ไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลมันน้อยมาก เมื่อเทียบกับการกินกระแสไฟฟ้าของรถ ev ผู้ผลิตจึงไม่ติดตั้งมาด้วย มิใช่เพราะนายทุนอะไรหรอกคับ
ปัจจัยหลีกๆที่คนหันมาใช้รถไฟฟ้าเพราะน้ำมันแพง การปนะหยัดค่าใช่จ่ายเริ่มต้นในการใช้รถไฟฟ้าทำให้การผ่อนรถสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้มากกว่ารถน้ำมัน การบำรุงรักษาง่าย แต่อายุการใช้งายน่าจะน้อยกว่สรถน้ำมัน ถ้าคิดว่าใช้ทำงาน5-6ปีเปลี่ยนถือว่าคุ้มถ้าจะใช้เป็นรถบ้านใช้ยาวๆรถน้ำมันก็ยังเป็นทางเลืแก
ท่านผู้หญิงน่ารักมากๆเลย นี่แหละเหตุผลที่มาดู😂
ใครไม่ใช้ ขอซื้อต่อราคาถูกครับ ยังไงก็ยังสะดวกกว่ารถไฟฟ้า
ผมมีความมั่นใจว่าในอนาคตถ้าคนใช้รถไฟฟ้าทั้งประเทศเกิน 70% เมื่อไหร่ค่าไฟฟ้า+เงื่อนไขในการเข้าชาร์ต ตามจุดบริการต่างๆจะแพงขึ้นแน่นอนครับ เผลอๆอาจจะเท่ากับราคาน้ำมันทุกวันนี้ครับ
ใช่ครับ รัฐต้องหาทางเก็บภาษีให้ได้ใกล้เคียงกับภาษีน้ำมันที่ได้ หรืออาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
ถ้าค่าไปเท่าน้ำมัน อุตสาหกรรมในประเทศคงล้มละลาย ค่าไฟบ้านคงจ่ายไม่ไหว อีก10-20ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยขึ้น กลุ่มทุนต่างๆจะกินรวบยากขึ้น
@@damrong3รอวันที่ประเทศจะลืมตาอ้าปาก พ้นจากเงื้อมมือพวกนายทุนหน้าเลือด ตอนนี้นับถอยหลังรอเลือกตั้งครั้งใหม่😂😂😂😂
สุดยอดครับ ที่ตอบมาถูกจริงครับ ขอบคุณมากครับ ขอเสริมเรื่องมอไซด์ไฟฟ้าด้วยนะครับ และผมก็เช่าอพาร์เม้นอยู่ด้วยครับ ยังมีอุปสรรค อยู่ใจอยากออกรถไฟฟ้านะครับหวังว่าอีก 5 ปี ขอให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทยนะครับขอบคุณครับ
เครื่องยนต์สันดาบยังอยู่กับเราอีกนานเนื่องจาก ถ้าไปศึกษาดีๆหรือชั่งน้ำหนักค่าไม่ทาแนนซ์ซ่อมบำรุงดีๆจะพบว่าศูนย์บริการ อะหลั่ย ยังไม่กว้างขวางพอ
ในทางเทคนิคควรเปลี่ยนทั้งแผง ถ้าเปลี่ยนบางเซลจะไม่เสถียนเท่าเปลี่ยนทั้งหมด เราจะไม่เชื่อนักวิชาการ เปลี่ยนแบตทีครึ่งล้านขอบายev😂😂😂
อยากได้รถไฟฟ้า แต่ขาดเรื่องเดียวคือตังค์
รถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด(เพราะมันสวย,option ครบ,แถมมีส่วนลดที่ได้จากภาครัฐ) ก็เลยซื้อกันตรึม แต่ที่ไม่ได้คิดคือ.....ระบบนิเวศน์ที่จะมารองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดดังกล่าว ถามว่า....แล้วรถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน.....ตอบได้เลยว่าอยู่เหมือนเดิม เพราะคนที่ซื้อรถไฟฟ้าเกือบทั้งหมดก็คือคนที่มีรถน้ำมันใช้อยู่แล้ว คนซื้อรถไฟฟ้าจะเป็นการซื้อเป็นคันที่ 2,3 ของบ้าน เพราะรถไฟฟ้านั้นเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก และเหมาะสำหรับคนที่มีบ้านที่สามารถติดตั้ง wall charger ที่บ้านของตนเองได้ คงมีน้อยคนที่จะเสี่ยงมีรถคันแรกและคันเดียวของบ้านเป็นรถไฟฟ้า เพราะความไม่พร้อมของระบบ infrastructure ดังกล่าว ดังนั้นสำหรับ ปทท. บอกได้เลยว่าต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 5-10ปี ที่รถไฟฟ้าจะถูกใช้แทนรถน้ำมันอย่างจริงจังในภาพรวมของทั้งประเทศ และรถน้ำมันไม่มีที่อยู่ในสังคมยานยนต์อีกต่อไป..........
จริง ผมก็จะออกไฟฟ้าอีก3ปี แต่รถ น้ำมัน ก็จะเกบไว้ สำรอง ไม่ขายครับ ใช้ชีวิตปกติใช้ไฟฟ้า ไปตจว.ไกลๆ ก็รถน้ำมันไป ประหยัดขึ้นเยอะครับ
รถน้ำมันโบราณจะค่อยๆน้อยลง ไม่จำเป้นต้องเป้นคันที่1อีกต่อไปแล้ว สถานีชารจไม่ต้องยึดติดกับปั้มแบบเดิม คาเฟ่ โรงพยาบาล วัด ก้สามารถทำสถานีชารจได้ความถี่จะมากขึ้นกว่าปั้มน้ำมันแน่นอน
ผมก็จะใช้รถน้ำมันต่อไป
รถไฟฟ้า มือสองจะขายใด้ใหมครับ
ผมให้อีก20ปี
ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อครบประกัน 8 ปี/10 ปี ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแบตจะยังสูงเหมือนปัจจุบันหรือไม่ ถ้ายังสูงก็ไม่คุ้มที่จะใช้ต่อ
ต้องเปลี่ยนแบตด้วยหรอครับเมื่อครบ8ปี
เหมือนเมื่อก่อน ที่ถกเถียงกันระหว่างกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอล 😁
ไม่เหมือนเท่าไหร่ครับ เพราะกล้องดิจิทัลใช้งานสะดวกกว่ากล้องฟิล์มค่อนข้างชัดเจน (และปัจจุบันมือถือใช้งานสะดวกกว่ากล้องดิจิทัลมากๆอีกทีหนึ่ง) แต่ปัจจุบันยานยนต์น้ำมันยังคงใช้งานสะดวกกว่าอีวี ข้อดีกว่าของอีวีจะเป็นในด้านอื่นๆแทน
ไม่เหมือนกันนะครับ😅😅😅😅
ถ้ารถ ev ทำออกมาคุณภาพดี และ #บรอการหลังการขายดี มันก็จะเป็นอย่างที่พูด แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ลูกค้ายังเจอปัญหาแปลก ๆ หลายคน จนยังต้องขึ้น #รถสไลด์ กันบ่อยเป็นว่าเล่น สุดท้ายรถน้ำมันจะไม่หายไปไหน กลับกัน จะมีพวกลูกค้าจากคนที่ผิดหวังกับ EV จะยังหันไปซื้อรถน้ำมัน หรือรถยี่ห้อตลาดกันอยู่ดี
รถยนต์นั่งไฟฟ้ามาเร็วจริง แต่ต้องใช้เวลาอีกราว 10-15 ปี กว่ารถไฟฟ้าจะเกินครึ่ง แม้การผลิตรถไฟฟ้าจะเป็น 100% แต่ยังต้องซ่อมบำรุงรถยนต์น้ำมันส่วนรถยนต์น้ำมันก็ยังอยู่ในฐานะของสะสมจนกว่าจะหาน้ำมันไม่ได้ ซึ่งอย่างน้อยก็ 50 ปี เพราะต่อให้รถทั่วไปเป็นรถๆฟฟ้าหมดแล้ว แต่ยังใช้น้ำมันในอุตสาหกรรมอื่นๆที่ไม่สามารถทดแทนได้เร็ว เช่น เรือขนาดใหญ่ รถบรรทุกในเหมือง อะไรต่างๆ
จริงๆ ไม่เกี่ยวกับไฟฟ้าเท่า แต่ที่ขายได้ เยอะๆ คือการออกแบบที่ล้าล้ำสมัย ออฟชั้นที่ไม่เคยกั๊กมากกว่า ดูสิ หน้าตา มาสด้า กี่รุ่น ต้อนทนใช้ จนกว่าเทรนนี้ตะหมด โตโยต้าหน้าปลาดุกเริ่มเยอะ น่าเบื่อ ลองทำหน้า ไฟ ตัวถังเหมือนเล็กซัส สิ ถล่มทลายแน่ ทำไม ค่ายรถ ไม่มอง
สรุปรอดู4-5ปี/รวมถึงตลาดมือ2รถไฟฟ้า จะเหลือเท่าไร,ช่วงเทศกาลปีใหม่สงกรานจุดชาจต่างๆดราม่า /ช่วงนี้น่าจะเป็นการวิเคาระหและคาดเดาเท่านั้น
สอบถามเป็นความรู้ครับ-ต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น คิดว่าค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นไหม หรือ ตามสถานีชาร์จค่าไฟฟ้าจะแพงกว่าชาร์จที่บ้านเยอะไหม หรือ จะมีเรทค่าไฟฟ้าที่ต่างกันไหม กรณีใช้ไฟฟ้าปกติ กับเอามาชาร์จรถยนต์-ต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น น้ำมันมีโอกาสราคาถูกลงไหม หรือถูกลงจนราคามาใกล้เคียงกับการใช้รถไฟฟ้า-และต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ค่าไฟฟ้าจะขึ้น และ น้ำมันจะลดลง จนค่าใช้จ่ายต่อระยะทางใกล้เคียงกัน จะเป็นไปได้ไหมครับ-ข้อดีของรถไฟฟ้าคือ เป็นพลังงานสะอาด ไม่มีมลพิษ ไม่มีควันใช่ไหมครับแต่ถ้าต่อไป คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น การผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้น จะสร้างมลพิษเพิ่มขึ้นหรือเปล่า หรือเพิิ่มขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่าการใช้รถน้ำมันครับ คือภาพรวมยังไงก็ดีกว่า หรือว่าอย่างไรครับ
ยิ่งใช้ไฟฟ้าเยอะค่าไฟจะถูกลงครับ เพราะกฟผ.สำรองไฟเกินในระบบอยู่50%ยิ่งหลังโควิดด้วยไฟฟ้าสำรองยิ่งเหลือเยอะ ต้องรีบใช้ให้มากพอมิฉะนั้นภาระสำรองไฟ(แบบอยู่เฉยๆก็ได้เงินของโรงไฟฟ้าเอกชน)จะถูกผลักไปทุกบ้านทุกเรือนทั่วไทยร่วมกันแบกรับค่าใช้จ่ายในรูปค่าftอย่างทุกวันนี้ที่เป็นอยู่วิธีแก้กรณีความต้องการไฟมากเป็นทวีคูณคือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร ืครับ จะได้ไม่ต้องสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าหรือโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานใต้ดินทุกชนิด
ค่าไฟแพงขึ้นแน่นอนครับ ไฟฟ้าผลิตจากแก๊ส 70% ครับลองหาข้อมูลดูได้ น้ำมันจะถูกลงเมื่อลดปริมานการใช้ลง มองที่ประเด็นหลักนะครับ รถไฟฟ้าต้องการพลังงาน ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าได้เอง ฉนั้นหลักคือไฟฟ้าผลิตจากอะไรเป็นหลักครับ หากผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่กลับกัน จะช่วยลดมลพิษ เช่น จากพลังงานหมุนเวียน 70 % จากแก๊ส 30% ก็ช่วยได้ แต่ ตอนนี้ยังทำไมได้
เรื่องมลพิษพอๆกันแต่ของรถน้ำมันจำกัดพื้นที่ยากกว่าเพราะมลพิษมันเกิดตอนใช้งาน รถไฟฟ้าควบคุมมลพิษตอนผลิตกับตอนทิ้งได้เจาะจงกว่า
อีกสองสามปี เทคโนโลยีจะดีขึ้นมาก เหมือนมือถือ รถรุ่นใหม่จะถูกลงอีก ส่วนตัวคิดว่าจะพัฒนาได้อีกเยอะ แบตเตอรี่แพงมาก
ในความคิดเห็น ตอนนี้ จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มระดับรายได้ น้อยจะใช้น้ำมัน เพราะรถน้ำมันถูกลงซื้อง่าย ราคาถูก บรรทุกของ ขึ้นเขา และจุดบริการมากกว่ารถไฟฟ้า รายได้ระดับกลางหรือรายได้ดี จะนิยมใช้ ไฟฟ้า แต่ระยะยาว ดูผลรถไฟฟ้าว่าจะพบปัญหาแบบใด ค่าอะไหล่ ค่าเสื่อมสภาพแพง การบริการ หายากหรือไม่ / เคยใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พอไฟอ่อน เกือบขึ้นเขาไม่ได้เลย
ในด้านความพร้อมใช้ ไทยมีความพร้อมที่สุดในอาเซียน เพราะ ในอาเซียน มีกำลังไฟฟ้าส่วนเกิน มากที่สุดในอาเซียน สามารถจะรองรับปริมาณรถไฟฟ้า ที่สามารถจะให้มีรถไฟฟ้าสัก 10 ล้านคันได้อย่างสบาย สำหรับเรื่องกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ไทยมีกำลังผลิตได้สบาย แต่เพียงตอนนี้ต้องในพื้นที่ในแต่ละพื้นที่ ให้การไฟฟ้า ช่วยสื่อสาร และรองรับการจัดการเรื่องระบบไฟฟ้า หรือ การจัดการระบบกริดไฟฟ้าทั่วประเทศให้เหมาะสมสำหรับพื้นที่การใช้กำลังไฟฟ้าได้เหมาะสมกับการใช้งานรถไฟฟ้าเท่านั้นครับ ประเทศอื่นๆยังไม่มีความพร้อมเท่าไทยหรอกครับ อย่างลาว ก็ประชากรน้อย ต่อพื้นที่ของประเทศน้อยไป เพราะต้องลงทุนการทำสถานีชาร์ตให้เพียงพอ การใช้งานทั่วถึง อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไร ส่วนตัวจึงมองว่า ไทยนะมีความพร้อมใช้มากที่สุดเลย
แบตเตอรี่ยังพัฒนาได้อีก อย่ารีบ ถ้ามีเงินรีบเลยมันเป็นการกระตุ้นให้การพัฒนาไวขึ้น
พิธีกรสวยครับ 😊
มาแน่ๆ100% รถไฟฟ้า การสร้างแท่นชาร์ตง่ายกว่า สร้างปั้มน้ำมันเยอะไฟฟ้ามนุษสร้างได้ผลิตได้ เช่น นไฟพลังน้ำ แต่น้ำมันคนผลิตเองไม่ได้ ไม่มีเครื่องปลิตน้ำมันมีแต่เครื่องกลั่นน้ำมัน
ปัญหา คือ การซ่อมบำรุง รถไฟฟ้า ซ่อมแพงคนชั้นกลางไม่มีปัญญาซ่อม เพราะมีราคาแพง มาก ราคาแบตเตอรี่ และ มอเตอร์ มีราคาแพง
อร่อยใคร อร่อยมัน และความมันส์ไม่เคยปราณีใคร ไม่สนถูกผิด
รอได้ที่จอดชาร์ท เหมือนเราชาร์ท มือถือไม่รีบ แต่เราซื้อ เวลาในการขับมันขับได้ทันใจและประหยัดค่านำ้มันไปได้เยอะมาก สถานี เราเช็คได้ว่ามีชาร์ทที่ไหนบ้าง สะดวก อย่ากลัวที่ใช้ชีวิต จะได้ไม่เบื่อ อยากที่จะเติมนำ้เองมานาน ละเพราะฝานำ้มัน มันชอบเสียหาย เป็นรอย เราก็ไม่อยากที่จะไป ดุด่า ตนเติมนำ้มันให้
การนำมารีไซด์เคิ้ล ต้องมีหน่วยงานภาครัฐจัดอบรม เพื่อผู้ใช้รถจะได้เกิดแนวคิดในการนำไปใช้ประโยชน์ส่วนอื่น ไม่งั้นจะเกิดขยะจากแบตเตอร์รี่รถไฟฟ้าหลายแสนตันต่อปีแน่นอน...
น้ำมันก็เน้นขายให้รถบรรทุกหนัก เครื่องจักรใหญ่ ต้องใช้พละกำลัง ยิ่งทำงานห่างไกลในป่าเขายังต้องใช้น้ำมันไปอีกนานโข ขอให้มันลงถูกลงเหลือ 20-25 บาท/ลิตร ด้วยเหอะกำลังดี
รถยนต์ไฟฟ้ายังแพงอยู่ สักพักก็คงจะราคาลดลง พิธีกรน่ารักมาก
การใช้คำว่า "มาเร็วกว่าที่ดิด" เหมือนกับใช้คำว่า "เกินคาด" บ่งบอกนัยอะไร? 1. mindset ที่มีมุมองต่ออุตสาหกรรม จะด้วยขาดองค์ความรู้ที่เพียงพอ หรือ มี negative mindset ยังไม่เชื่อ จึงคิด คาดการณ์ไปแบบนั้น ยกตัวอย่างเช่น ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นทั้งหมด โดยเฉพาะ "พี่โต" บอกว่าประเทศไทยยังไม่พร้อม ต้องรออีกสัก 10 ปี ตอนนี้ต้องใช้ hybrid ไปก่อน เ็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แล้วเป็นไง ??!! ถ้าจัดชั้นเทคโนรถยนต์/ยานพาหนะ จัดแบ่งเป็น 3 คลาส 1. ICE + hybrid 2. BEV หรือ ที่จีนใช้คำว่า NEV นี่แหละคือช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่...คลาสที่ 3. คือ รถยนต์/ยานพาหนะ ที่สามารถผลิตเชื้อเพลิงภายในได้เอง โดยไม่ต้องเติมพลังงานจากแหล่งภายนอกใดๆน่าเสียดาย ... ที่ตอนนี้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นวิ่งกระหืด กระหอบตามหลังทั้งยุโรป Tesla ไม่ต้องพูดถึงจีน เป็นรองทุกด้าน และวิ่งตามหลังไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะ วิ่งตาม Tesla ไม่ต่ำกว่า 8 ปี แต่ก็เชื่อว่า พี่ใหญ่ พี่โต และ 4-5 บริษัทญี่ปุ่นลำดับต้นๆไม่ถึงกับล้มหายตายจากไป แต่เหนื่อยแน่ๆ ส่วนบริษัทที่เหลือ ไม่แน่!!
เอาง่ายๆรถน้ำมันชอบกั้กไงพวกญี่ปุ่น เจอจีนไปออฟจัดเต็มมันคุ้มค่า ลองเปลี่ยนตรงนี้ก่อนดีกว่ารถน้ำมัน รถน้ำมันยังหน้าใช้อีกนานครับ
ใน5ปีนี้ผมยังไม่คิดใช้รถEV.ตราบที่ค่าไฟในปท.แพงไร้เหตุผลแบตก็ยังดีไม่พออย่าว่าแตหัวชาร์ดแพงไม่คุ้มลงทุน
ถ้าปลายทางรับได้ว่าต้องทิ้งเป็นเศษเหล็ก คุณก็คือผู้พร้อมและเหมาะที่จะใช้
Fc น้องภัทร
แล้วรถยนต์ใช้NGV อยู่ตรงไหนคะเมื่อก่อนเห็นรัฐ.ส่งเสริม
อยากทราบ วิ่งได้ 400 km บรรทุกได้กี่ kg.ถ้า ผดส.4 คน(4×55kg.) สัมถาระ ทางราบทางชัน จะขับได้ กี่km.
ปัญหาที่คนทั่วไปมองไม่เห็น มองแต่ค่าไฟฟ้าถูก อันที่จริง ราคาขายปลีกน้ำมันนั้น มันดูแพง มันมีภาษีสรรพสามิต มีกองทุนน้ำมัน ที่ไม่มีในค่าไฟฟ้าภาษีสรรพสามิต มีส่วนสำคัญอย่างมากในงบประมาณรายได้ของรัฐบาล ในการใช้จ่าย และมันจะย้อนกลับสู่การสร้าง ขยาย การซ่อมบำรุงถนนค่าไฟฟ้าไม่มีภาษีส่วนนี้ ยิ่งใช้รถไฟฟ้ามาก รัฐก็ยิ่งขาดภาษีแล้วจะหาภาษีชดเชยได้อย่างไร หากมีการเก็บภาษีสรรพสามิตหรือภาษีอื่นใด กับไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ ราคาค่าไฟฟ้าที่เทียบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูป ก็ไม่ใช่แตกต่างกันมากในขนาดที่เป็นอยู่ เผลอๆอาจจะเท่ากันที่มองว่าประหยัดค่าพลังงานในการเดินทาง มันก็ไม่ใช่
เดี๋ยวเขาก็ไปเก็บกะน้ำมันเพิ่มอีกเท่าแทนที่ขาดไปไง ประเทศก็จะได้หน้าเรื่องผลักดันพลังงานสะอาด กำไรสองต่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องรัฐบาลจะได้ภาษีน้อยลงหรอกเดี๋ยวเขาก็หาเรื่องเก็บเพิ่มจนได้
ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่ารถไฟฟ้าดูดีตอนแรกๆแล้วจะเสียใจเมื่อต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่กับมอเตอร์ 2อย่างก็หน้ามึดแล้ว ดังนั้นจะเห็นว่ารถน้ำมันจะดีกว่า ถูกกว่า เติมน้ำมันไวกว่า ที่แพงกว่ามีแค่การถ่ายของเหลวเมื่อถึงเวลาและราคาน้ำมันที่ผันผวน
อยู่ได้ 🎉🎉🎉🎉
ถ้า ไม่มี รัฐบาลช่วย ราคา ที่ขาย ใน ปัจจุบัน คงไม่ใช่ราคานี้
แล้วปีที่8-9-10 ต้องเปลี่ยนแบต จะออมเงินได้ไหม 5-6 แสน ต้องผ่อนแบตต่อไหม
เอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ที่ว่า 8-10 ปีต้องเปลี่ยนแบต
เอาเถอะครับ คนรวยๆ กรุวเทพฯ หรือเมืองใหญ่ทขายรถใช้น้ำมันออกม่ในราคาถูกๆ ขอให้เจ้าของขายโดยตรง ไม่ใช่เต้นต์รถมือสองไปตัดราคามาถูกๆแต่ขายต่อ เอากำไร 2เท่าตัว เราต่าวจังหวัดไม่สนใจโลกจะร้อน หริอฉิบหายเพราะควันจากท่อไอเสีย ขอให้ให้รถสภาพใหม่ ราคาถูก หรือรถยนต์น้ำมันที่ออกห้างมือ1 ลดราคาสัก1-2แสนบาท จะซื้อเพิ่มอีกคัน ใครจะยอกว่าไม่รักโลก ช่างมัน ก็คนรวยเขาไม่สนใจแบ้วเราจะไปแคร์อะไร เราไม่ใช่คน กทม,ไม่เดือดร้อน ครับ รถยนต์เราบ้านนอกไม่สนออฟชั่น ที่ไม่ได้ใช้ จอดรถไม่จำเป็นต้องกล้องรอบคัน ไม่ต้องมีระบบเบรคทิ้งระยะห่างคันหน้า ไม่กลัวใครจัหาว่าไม่ทันสมัย ที้กลัว คือการเป็นหนี้เพราะแห่ตามพวกชี้นำทั้งหลาย ตอนนี้ขอให้บริษัท รถยี่ปุ่น นั้นนำในไทย ลดราคาหน้าบริษัท สำหรับรถในโชว์รูมลง2-3แสนบาท ครับคุณขายหมดในเวลาไม่นาน รถไ่ฟฟ้าคนบ้านนอกที่มีเงิน เขาไมเห่อตามหรอก เพราะเขาซื้อรถ เพื่อใช้งาน ไม่ซื้อไว้อวดรวยแต่ต้องผ่อน72เดือน ครับ
อยู่ที่กระเป่าเงินจะใช้แบบใหน.ราคาตัวรถ
👍
@@jtjt4691 ถูกแล้วความสามารถในการดำรงชีพ เงินในกระเป๋า แต่กลยุทธ์ทางการตลาดที่มันกระหน่ำจะด้วยอามิสสินจ้างให้ระดมกระตุ้นการอยากได้ ยกแต่ความเป็นเลิศ ยกบางจุดมาสร้างให้สูงดี จนสินค้าตัวเก่ามันสุดแสนจะแย่และคนใช้ไม่คิดอายคนอื่นที่ไม่ก้าวตามไม่ทัน เช่น ใช้รถไฟฟ้า คือการอนุรักษ์โลกให้อยู่อย่างปลอดภัย แต่ทำไมไม่มองกลับว่าก่อนจะมาเป็นรถไฟฟ้า1คันกระบวนการผลิต าันใช้พลังงานมาจากไหน ไฟฟ้าทั้งหมด แล้วไฟฟ้าผลิตจากอะไร ครับ ทุกคนหยิบแต่ความคุ้มค่า ของการใช้งานประหยัดชาร์จไฟครั้งเดียวใช้ได้800-1000 กม.ผมขอถามว่า ราคารถกี่ล้าน ครับ และคนที่มีกำลังใช้รถราคานี้ เขาขับเองหรือไม่ หากท่านเหล่านั้นจะไปเชียงใหม่,ภูเก็ต ท่านจะนั่งรถไฟฟ้าหรือเครื่องบินชั้นfirst class การอัดโฆษณาเพื่อมอมเมาประชนคือเป้าหมายหลักของธุรกิจ ขายของได้ กำไรสูง ร่ำรวย การทำรายการทับถมรถใช้น้ำมัน หยิบเอาจุดด้อยเล็กๆน้อยๆมาขยายให้กว้าง จนคนไทยกลัวเหมือนกุ้งขี้ขึ้นหัว
สถานีชาร์จมีกี่หัว รถไฟฟ้ามากๆจะพอชาร์ทหรือ.ไม่เหมือนเติมนํ้ามัน
🤔👍👍👍
รถน้ำมันยังคงเดิม รถเติมน้ำมาราคาจับต้องได้รถน้ำมันต้องหลบ รถไฟฟ้ามาแบบเด็กๆเหมาะกับผู้เฒ่าผู้พิการ
อาจารย์ลืมนึกถึงการชาร์จในบ้านรึ้ปล่าครับ สถานีอัดประจุ ไม่ได้มีความสำคัญต่อรถไฟฟ้าเหมือนสถานีจ่ายน้ำมันสำหรับรถน้ำมันนะครับ เพราะคนใช้รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ชาร์จบ้านมากกว่า
รออออเก็บรถน้ำมันปีหน้าาาาาาสนอกิเลสล้วนๆ ไฟฟ้าไว้รอเกาหลีกะญี่ปุ่นมาเต็มๆก่อน😂😂😂
ขอไม่คอมเม้นเรื่องรถไฟฟ้านะครับ โลกจะเปลี่ยนอะไรก็ต้านไม่อยู่ แต่จะบอกว่าพิธีกรสวยมาก ๆ ครับ
รถไฟฟ้าในความคิดข้อดี รักสิ่งแวดล้อม ข้อเสีย เปลี่ยนแบตรี่ทีนึงเกือบซื้อรถใหม่ได้1คัน เทศกาลสถานีชาร์จแบตเตอรี่ต่อแถวจับบัตรคิว ชาร์จก็นานเสียเวลาที่รอคอย ขายราคาก็ตก ประกันชั้น1ก็แพง เปลืองไฟ เข้าศูนย์ Service หรือเช็คระยะทีนึงแพงมาก ขายต่อราคาตกเพราะผู้ที่ซื้อคิดค่าเสื่อมสภาพแบตเตอรี่ เมื่อรถเกิดเสียต้องเรียกรถยก รถ EV รออะไหล่เป็นสามเดือน ถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่ต้องพูดถึงไม่มีอู่ไหนรับซ่อม รถยนต์ EV คือใช้แล้วทิ้งครับ มันคือของเล่นของคนรวยครับ
มันคือพลังงานทางเลือกครับผมใช้ทั้งรถน้ำมัน กับรถไฟฟ้าครับรอน้ำมันลิตรละ 15 บาท ครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน 95 ครับ
ดีแล้วค่าอะไหล่ยังแพง
คนก็แค่อยากได้รถใหม่แหละ 😅เป็นธรรมดา🎉🎉เพราะทุก ๆปีจะมี ความต้องการซื้อรถในประเทศไทย ปีละ ราว ๆ 1 ล้านคัน .บวก ลบ😂ทุกๆ ปี.จะมีคนที่พร้อมซืัอรถใหม่.ป้ายแดง เสมอๆ ราว 1 ล. คันพอมีรถ EV มานำเสนอ.design สด.ใหม่.เทคโนโลยี. ออปชั่นตลาดก็ตอบสนอง 😅
อย่าลืมคิด ต้นทุนแบตเตอรี่ kmเมตรละเท่าไร
รถไฟฟ้ากระแสมาก็ดีครับ รถน้ำมันจะได้พัฒนาจริงจัง ไม่ใช้พัฒนาแค่ก้าว 2 ก้าวเหมือนปัจจุบันนี้ ลองศึกษาดูดีๆ ประเทศที่ใช้รถไฟฟ้ากันเยอะๆ ทำไมรถน้ำมันยังมีขายอยู่ได้ และกระแสรถไฟฟ้าดันหดเอง เพราะอะไร ลองดูครับ
อากาศบ้านเขาหนาวครับ
ดีมาก
เริ่มแรกผมก็มีอคติกับรถไฟฟ้าเริ่มแรกคือคุณต้องเปิดใจ ผมเริ่มต้นจากลองสกู้ตเตอร์ไฟฟ้าขับในหมู่บ้าน ตอนนี้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวแล้วครับ
รถยนต์ไฟฟ้า เสีย เปลี่ยนใหม่ ถูกกว่าซ่อม ครับประกัน 80%
ก็อยู่ที่เดิม ครับ คนใช้ EV เดี๋ยวเจอค่าซ่อม จะรู้สึก ไม่ได้หมด เงิน พัน หรือหมื่น แต่เป็นแสนขึ้น จะซ่อมไหวหรือ คอยดูต่อไปเมืองไทยจะเต็มไปด้วยซาก รถไฟฟ้า
ไม่รู้ว่าจะมีซากรถไฟฟ้าเยอะไหมแต่ที่แน่ๆ ปีหน้า จะมีศูนย์รถเกือบ 100 ศูนย์หลายๆ แบรนด์ เปลี่ยนมาขายรถไฟฟ้า
พ่อค้า ก็คือ พ่อค้า ธุรกิจ ก็คือ ธุรกิจ เรื่อง ราคา แบตฯ ผมยังมีความเชื่อ เหมือน แบตฯ มือถือ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มี มือถือ ยี่ห้อไหน ขาย แบตฯ ราคาต่ำลง มากๆๆๆ เผลอๆ ราคา เท่าเดิม
รถไฟฟ้าอาจจะดี แต่ยังดีไม่พอ ณ ตอนนี้ รถไฟฟ้าคนยังไม่มั่นใจในหลายๆเรื่องรถน้ำมันคนใช้มานานความมั่นใจย่อมสูงกว่า รถน้ำมันจะหายไปก็ต่อเมื่อบังคับให้เลิกผลิต แต่ถ้ายังผลิตอยู่คนก็ยังซื้อรถน้ำมันต่อไป รถไฟฟ้ายังต้องพิสูจน์อีกหลายเรื่องให้คนมั่นใจในคุณภาพก่อน
รถยนต์สันดาบ จะถูกรถไฟฟ้ากลืนกลินไปทีละน้อย ไปเรื่อยๆทุกๆวัน
เอ้า เป็นยุคของช่างอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ที่ไหนเปิดสอน รีบๆไปหาความรู้เพิ่มเติม เปิดอู่ รวยๆๆๆ
เอาจริงๆง่ายกว่าเครื่องกลหลายอย่างเลย
ดูว่ามีประสิทธิ์ภาพมากแค่ไหนเมืองไทยช่วงฤดูฝนน้ำท่วมวิ่งได้แค่ไหน สู้รถน้ำมันได้รึเปล่า
อยากให้รถยนต์ ไฟฟ้า เจริญพัฒนาการ ทางเทคโนโลยี ที่สูง ใน ด้านคุณภาพ.ของรถยนต์ .ราคาไม่แพง ไม่กีนไฟ มาก คุณภาพ แล็ตเตอร์ลี ทนทานไม่แพง .จะเป็นคุณประโยชน์ต่อชาวโลก เพราะ ราคาน้ำมัน มันแพงทุกวันเวลา..
ใครสะดวกเเบบนี่ใช้เเบบนั้นครับ การตอบโจทย์การใช้งานของเเต่ละคนเเตกต่างกันไปไม่ใช่ว่าของใครเเบบไหนมันจะดีกว่ากัน
ค่าซ่อมละครับ คุณพร้อมหรือยัง
ครบ8ปีก็จะรู้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือกี่%และค่าใช่จ่ายในการเปลี่ยนเท่าไหร่
ฟังครบมั้ย ที่พูดมาคือความเชื่อไม่ใช่ความรู้ใช่มั้ย
ปีหน้าผมจะซื้อรถไฟฟ้าแน่นอน ตอนนี้ใช้เบนซินอยู่ อิอื
ยังไงรถน้ำมันก็ยังมีอยู่ (เช่น รถบรรทุก ยังอยู่ 99.999999% ) ช่วยเอาสถิติ รถไฟฟ้าจดทะเบียน ณ.วันนี้ (ยอดจองไม่เอานะครับ) มาบอกหน่อยครับ ว่ามีเท่าไหร่แล้ว จะได้รู้เลยว่า รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน
คุณรู้มั้ยว่ารถบรรทุกจะไปไฟฟ้าก่อนรถส่วนบุคคล เริ่มต้นผิดคุณก็เข้าป่าตลอดทางละ
@@poompoomponi4399 รถบรรทุกได้แค่ระยะสั้น ครับ และ ลงทุนสูง
ผมคงยังไม่ซื้อรถไฟฟ้าไปอีกนาน เพราะตอนนี้มีรถเก๋งกับรถกระบะอย่างละคัน ถ้าจะต้องใช้เงินเกือบล้านไปซื้อรถไฟฟ้าคงไม่มีปัญญา เอาเงินส่วนนั้นไปเติมน้ำมันให้รถทั้ง2คัน น่าจะได้อีกหลายสิบปี อาจจะตายก่อนที่จะใช้เงินเติมน้ำมันถึงเกือบล้าน ตอนนี้ก็พยายามใช้เงินให้คุ้มค่ากับชีวิตประจำวัน
ขอทุกๆบริทษ์ที่ผลิตรถน้ำมันออกมาจงร่วมมือกันเปลี่ยนรถเก่าที่ขายไ 5:43 ปแล้วมาเป็นไฟฟ้าให้หมดเพื่อประหยัดและลดโลกร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วนด้วยครับต้องรัยผิดชอบต่อโลกนะ
พลังงานไฟฟ้าก็ทำเกิดภาวะโลกร้อนนะ
ซื้อได้ที่ไหน รถไฟฟ้านี่
ขำหนักจริง ที่จั่วหัว รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน? ก็อยู่ตรงที่มันอยู่สิครับ คนใช้รถน้ำมันก็ยังมีเยอะแยะเต็มไปหมดพอมีรถไฟฟ้ามา และขายได้มากขึ้น ก็พากันตื่นเต้นตื่นตูมไปได้ เอาตรงๆ นะ วันหน้าอีกไม่กี่ปี รถไฮโดรเจน ก็จะเริ่มเข้ามาแล้วรถไฟฟ้าจะอยู่ตรงไหนล่ะทีนี้?
Ioรถน้ำมัน อื้อเลย ใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วย
น่าใช้ แต่ ยังไม่พร้อมใช้
เฉพาะเมืองไทย ในอาเซียน มีประเทศไหนบ้าง
ตราบใดที่ยังมีจยย ๒จังหวะในไทย นโยบายรัฐที่ไม่เคยนิ่ง รถน้ำมันยังคงอยู่ อีกนาน ดู NGV เป็นตัวอย่าง
คู่กันไปนี่แหละครับ😂
รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหนเหรอ ก็จอดอยู่บ้านใครบ้านมันนั้นแหละ รถไฟฟ้านะอยากได้กันทั้งประเทศนะแหละ แต่จะเอาเงินไหนไปเปลี่ยนรถคันเดิม ตราบใดที่คันเก่ายังไม่รวนยังใช้ได้ดีอยู่ ยากที่คนจะเปลี่ยน มันคือภาระล้วน😅😅😊😊
นอก่อนรถไฟฟ้าราคายังแพงไปรอก่อนครับ
วิเคราะห์เพ้อเจ้อว่า EV จะมาแทนภายใน 5 ปีตราบใดที่ยังแก้ปัญหาสถานที่ชาร์จ และความเร็วในกาชาร์จคนทีาใช้รถไฟฟ้า ต้องมีบ้านส่วนตัว บ้านเช่า ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดหมดสิทธิ์แล้วการชาร์จตามปั๊ม ตามห้าง ใครจะไปอดทนรอต่อคิว
คำว่ากระแสมันอาจตีกลับเพราะปัจจัยเรื่องแบตฯศูนย์บริการฯ ความสะดวกในการชาตและเวลาที่ต้องรอ
ผมขายของเข้าป๊มมาหลายปี บอกแบบนี้หลายปี 2567ในอีกหลายปั๊มน้ำมันล้วน ถ้าอีก5ปีคงซัพพอร์ตรถEVได้มากขึ้น
น้ำมันจะได้ถูก และอีกอย่างผมใช้รถแค่ยานพาหนะใช้ไปธุระ คือผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เอาเงินไม่ลงทุนอย่างอื่นดีกว่า
ราคารถน้ำมันก็ยังคงสูงลิบลิ่ว..คนจนไม่สามารถจับต้องได้มือ2ดอกเบี้ยยิ่งโหด😅😅😅
จริงครับ ถ้าได้ใช้รถไฟฟ้า เลิกใช้รถน้ำมันไปเลย ไม่มองเลย
นาที 5:42 ขอแก้ข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ
Driving Range หรือ ระยะวิ่ง 400 กม/การชาร์จ
ไม่ใช่ 400 กม/ชม ค่ะ
คนเขาเบื่อรถน้ำมันใช้มา5-60ปีแล้ว,ประเทศที่เจริญแล้วเขาใช้รถไฟฟ้า,ไม่สร้างมลพิษทางอากาศให้ใครเดือดร้อน,PM2,5,มิฉะนั้นตายเร็ว,อายุไม่ยืนยาว,ใช้รถไฟฟ้าลูกหลานก็สบาย,นอนในรถยนต์ก็ได้,รักโลกใบนี้ไปด้วย,ประหยัดเงินดี,คนกรุงและจังหวัด,อำเภอใหญ่ๆ,ต้องช่วยกันใช้รถไฟฟ้า,เพื่อลดอากาศที่เป็นพิษ,PM2,5,และควันดำ,😅😅😅😅
บ้านผมมีรถหลายคัน ดีเซล 2 เบนซิน 3 ไฟฟ้า 1 500 โล ผมใช้รถน้ำเดินทางต่างจังหวัด ไฟฟ้าขับชิวๆในกรุงเทพ ผมว่ารถไฟฟ้ายังไม่พร้อมหลายอย่างในเวลานี้ น้ำมันคุ้มกว่าในแง่เทคโนโลยีที่สั่งสมมานานนะครับ การซ่อมที่ถูกกว่าด้วย
โดยส่วนใหญ่ประกันไม่ซ่อมครับ เปลี่ยนอย่างเดียว แต่ถ้ารถใช้ไปแล้ว ความเสื่อมของแบตจะไม่เท่ากัน หากเปลี่ยนแค่โมดุล ความจุของแบตจะเท่ากับตัวที่เสื่อมจะไม่ใช่แบตใหม่ ระยะทางลดลง และจะลดลงเรื่อยๆจนแบตเสียทั้งแพคตามอายุแบต พูดง่ายๆแบตมีอายุของมันใช้ไม่ใช้มันก็เสื่อม แต่ระยะทาง 1-2แสนนี้สบายครับ สำหรับรถไฟฟ้า คำถามคือ เมื่อมันถูกขายในเต้น เราจะทราบได้อย่างไรว่ามันเสื่อมแค่ไหน ต้องมีหน่วยงานที่สามารถการันตีได้ว่ารถนี้มีอัตราเสื่อมแบตอยู้ที่เท่าไร
มีเหตุผลมากครับ 😮😮
อ่านหนังสือเยอะๆครับอย่าคิดเองเออเอง
@@09042512ตกลงรู้ดีทุกอย่างแค่อ่านหนังสือ สามารถบอกได้ว่าคันนี้เสือมแค่ไหน
รถน้ำมันเนี่ยนะยังก็ต้องมีในบ้านเราเพราะยังไม่ไว้ใจในรถไฟฟ้าราคาตอนที่ตกเป็นมือสองมีหลักประกันอะไรได้หรือเปล่า ซ่อมแล้วก็ใช่ว่าจะอยู่ในสภาพเดิมหรือป่าว
@@09042512เป็นใครมาบอกให้เขาอ่านหนังสือเยอะเลี้ยงเขามาหรอ
ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าดูแลรักษา เอาไปจ่ายประกันกับเปลี่ยนแบต พอ5ปีขึ้นไปยุคแบตรี่เสื่อมเริ่มมา พอขายต่อขายยากรถล้นตลาดไม่มีใครซื้อไปเปลี่ยนแบต ยกเว้นแบตราคาจะถูก มันอยู่ที่การใช้งานของแต่ละคน ส่วนตัวยังใช้น้ำมันอยู่ รถไฟฟ้ายังไม่เหมาะกับตัวเราในยุคปัจจุบัน
เอาข้อมูลจากไหนว่า 5 ปีครับ
ถ้าไปค้นคว้าดูจริง ๆ แบตอยู่ได้ 10 ปี โดยยังไม่เสื่อม (ประกันแบตให้ 8 ปี)
รถยนต์น้ำมันก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมไม่หายไปไหน และคิดว่าน่าจะยังมีอยู่อีกสัก 100+ ปี (ถ้าหากว่าถึงตอนนั้นแล้วยังไม่มีกฎหมายบังคับ ว่าห้ามมี) เพราะปัจจุบันนี้รถน้ำมันกับอีวีต่างก็มีข้อดีข้อเสียคนละแบบกัน คือตอนนี้ยังไปไม่ถึงจุดที่อีวีจะได้เปรียบหรือเหนือกว่าในทุกๆด้าน
อีก100 ปี จะมีอู่ซ่อมเหรอครับ ช่างตายไปหมดแล้ว
😂
@@banakornมันก้มีช่างใหม่เกิดขึ้นมารึป่าว
ข้อมูลดีมากครับทั้งผู้ถามผู้ตอบ เตรียมข้อมูลมาดีมากครับ ดีต่อการตัดสินใจ
ชอบ อาจารย์ อธิบายครับ... ชัดเจน เข้าใจได้ไม่ยาก ..
ขอบคุณทางเจ้าของช่อง. ที่หาคนมาให้ความรู้ ประชาชนคนธรรมดา. ให้มีความรู้มากขึ้น
จากราคาน้ำมันดิบที่กำลังลดลงเรื่อยๆ .... ผมว่า คนที่ซื้อรถ ev เวลานี้ กำลังหนีเสือ ปะ จระเข้ เพราะคนส่วนใหญ่ ซื้อเพราะคิดว่า จะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันมากขึ้น แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ราคาน้ำมันกำลังจะลดลง อย่างมาก เพราะความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง และ ค่าไฟฟ้า ที่กำลังจะเพิ่มขึ้น ทำให้สุดท้ายแล้วการใช้รถ ev ไม่ได้ทำให้ประหยัดขึ้น อย่างที่คิด
การชาร์จไฟแต่ละครั้ง คิดเป็น กี่บาท ครับ..
.. แล้ววิ่งไปได้กี่กิโล ครับ..
.. ชาร์จแล้ว ไม่ได้วิ่ง ไฟก็หมดได้ ครับ...
เดี๋ยวก็ได้เอามือก่ายหน้าผากค่ะ
หนูใช้ยาริสประหยัดกว่าเยอะค่ะ
แล้วน้ำมันที่เติมรถมันลดหรือเปล่า
พูดถึงน้ำมันดิบ มันลดลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้หรอก ต้นทุนมันค้ำอยู่
@@pongpalanun
ชาร์จอยู่หน่วยละ 2.6 บาท
หน่วยนึงวิ่งได้ 10 กิโล หารตรงๆ ก็กิโลละ 26 สต. บวกเผื่อๆ พลังงานที่สูญเสียอีกสัก 20% ก็ตกกิโลละ 30 กว่า สต. ถ้าไฟรถถูกกว่าค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งระยะทางเท่ากัน
ถ้าไม่ได้วิ่งก็ชาร์จทิ้งไว้สัก 50% จาก 0 ถึง 50% ผมจ่ายประมาณ 60 บาท
เกิดมาน้ำมันไม่เคยลดเลย เคยใช้ลิตรละ สิบกว่าบาท ทุกวัน สิบสี่สิบบาท
แล้วแต่ความเหมาะสมในกาาใช้งานครับ รถไฟฟ้าเหมาะสมกับการวิ่งระยะสั้นๆในเมืองไม่เหมาะกับการเดินทางไกลไม่เหมาะกับการออกสู่ถนนที่ไม่ดี และที่สำคัญชั่วโมงนี้ความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้าในสายตาคนใช้มันยังไม่เต็มร้อยเหมือนรถน้ำมัน
ตอบผิดครับเรื่องแบตฯ
คำถามถามว่ามันทนทานนานแค่ไหนต่อ1แพ็ค
คำตอบคือขึ้นกับชนิดของแบตจะเป็นแบตแบบNMCหรือLFPและรอบการชาร์จได้มากกี่รอบจนกว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่
เท่าที่รู้ข้อมูลคือแบตNMCชาร์จได้1,500-2,000รอบ แบตแบบLFPชาร์จได้2,500ถึง3,000รอบ รอบนึงวิ่งได้300-500กม. ฉะนั้นถ้าใช้แบบไม่เปลี่ยนจะวิ่งได้สูงถึง450,000-1,500,000กม. โอนขายรถไปกี่มือแล้วก็ไม่รู้หรือว่าทิ้งรถเป็นซากไม่ใช้แล้ว แต่แบตยังคงไปสู่การรียูสต์หรือรีไซเคิลต่อไป
รถโดยสารสาธารณะทั้งหมดใน กทม. ต้องเป็นEVทั้งหมดก่อนเลย
อยากให้สื่อช่วยกันทำประเด็นนี้ด้วยควันดำทุกคันเลย
ผมมองแบบนี้ครับ ด้วยนิสัยคนไทยชอบความสะดวกสบายและชอบยึดติดวัตถุตามแต่ละคนแต่ละแบบไป. ในประเทศจีน เขาใช้รถไฟรางไปกระจายความเจริญในภูมิภาคใช่ไหมครับ ทำไมเราไม่ใช้รถไฟฟ้ามาเป็นตัวกระจายอุตสาหกรรมหลายๆอย่างไปสู่จังหวัดอื่นๆ และยังดึงการลงทุนอื่นๆตามมา จากผลพ่วงนี้ได้ อาจจะ ไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วน การผลิตไอที การผลิตชิ้ปส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือเทคโนด้านอื่นๆ อีกมาก นอกจากการเกษตรในบ้านเรา ลดความแออัดใน กทม. ส่วนรถไฟที่มีอยู่ ก็ไปทำเชิงการท่องเที่ยวแบบดีๆ เหมือนรถไฟคลาสสิค เหมือนฝรั่งเศษมากินหรูๆ นอนชั้นเยี่ยมแบบบยรถไฟ ทำนองนี้ ##เอารถไฟฟ้านี่แหละ กระจายความเจริญไทยไป ตจว.
ทำแบบนั้นก็เหมือนทำถนนเข้าป่าครับ มันไม่คุ้ม สิ่งที่เราต้องทำคือ เลิกอยู่ตามป่าเขาไร่นาสวน ซึ่งคนกระจายตัวมากๆ ราชการเข้าถึงยาก ประชาชนก็ออกไปใช้บริการพื้นฐานได้ยาก การจะทุ่มงบดูแลประชาชนอย่างในเมืองก็ไม่คุ้ม แต่ต้องทำกลายเป็นจ่ายงบประมาณเลือดไหลออก
😃😃ดังนั้นต้องทำตัวอำเภอให้เป็นเมือง มีคนเมืองเกิน 50% ของประชากร เพื่อคนเข้าใช้โครงสร้างพื้นฐานและบริการพื้นฐานร่วมกัน แชร์กันแล้วประหยัด จึงจะสามารถทำระบบคมนาคมให้คุ้มค่าได้ ส่วนโครงสร้างพื้นฐานในไร่นาป่าเขา โอนให้ท้องถิ่นซะ ใครอยากอยู่ก็ซ่อมกันเอาเอง
😃😃 ในขณะที่เรียกร้องให้กระจายความเจริญ ก็ต้องคิดด้วยว่า ทำโรงงานไกล้เมือง หาคนทำง่ายเลือกคนได้เยอะ เดินทางสะดวก กับไปทำอำเภอเล็กๆ หาคนยาก สารพัดปัญหาเจ้าของโรงงานจะเลือกที่ไหนหละ.. ดังนั้น ออกฏหมายการตั้งถิ่นฐาน เพื่อทำตัวอำเภอให้เป็นเมืองก่อน ลดภาษีบ้านเรือนและกิจการก่อนเลย ถ้ามีคนมากพอ+กิจการได้ประโยชน์มากพอ ก็มีงานได้ แล้วคนจะเข้าตัวอำเภอเอง แต่นั่นหมายถึงเมื่อคนแก่ๆตายไป ลูกหลานเข้าตัวอำเภอ บ้านเรือนที่กระจายตัวตามไร่นาป่าเขาจะร้างเยอะเลยนะ ถนนหลายสายจะเป็นแค่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ไม่มีการดูแหม้อแปลงไฟฟ้า ท่อประปาต่างๆนะ
แบบญี่ปุ่น เน้นขนส่งมวลชน ไม่เน้นให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ถ้าใช้ ก็เป็นรถเล็ก แต่พี่ไทยโดนญี่ปุ่นหลอกให้ติดนิสัยฟุ้งเฟ้อเสรีนิยม ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวแบบอเมริกันชน ว่ากันว่าหากรัฐบาลไทยจะกู้เงินจากญี่ปุ่นมาทำระบบขนส่งมวลชนทางราง ญี่ปุ่นจะไม่ให้กู้ แต่ถ้าจะกู้มาสร้างถนน ญี่ปุ่นจะยินดีให้กู้ เพราะอยากขายรถยนต์ รถมอไซค์ คนไทยก็ติดกับดักการผลาญน้ำมันไปกับรถติด และกว่าระบบรางจะพัฒนาได้ในระดับที่เห็นในปัจจุบัน ก็ต้องรอมาหลายรัฐบาล ที่ผ่านมาหลายสิบปี ถ้าคิดเฉพาะน้ำมันที่เผาไปเปล่าๆบนถนน(เพราะรถติด และ เพราะรถแท๊กซี่ วิ่งรถเปล่าหาผู้โดยสาร แทนที่จะทำป้ายแท๊กซี่ taxi stand แบบประเทศที่เจริญแล้ว มันก็คิดกันไม่ได้เนอะ) คงเป็นเงินมหาศาล สามารถนำมาใช้พัฒนาประเทศให้ถูกทางได้มาก
รถไฟชิงกันเซนในญี่ปุ่น เขาก็มิได้คิดจะไปสร้างให้มันวิ่งเข้าป่าไร้ผู้คนเสียเมื่อไร? สมัยแรกมันอาจมีบางช่วงที่รกร้างไร้ผู้คนบ้างระหว่างสถานี แต่มันก็ผ่านเมือง ชุมชนใหญ่ ตามรายทางไปตลอด จริงๆ ตั้งแต่สามสิบกว่าปีก่อนแล้ว ใครไปญี่ปุ่นไปนั่งชิงกันเซนก็จะบอกว่า ไม่รู้เมืองไหนเป็นเมืองไหนแล้ว เพราะข้างทางแทบไม่มีที่ว่างระหว่งสถานีแล้ว และนี่ละ รถไฟนำความเจริญกระจายไปทุกภูมิภาค สถานีรถไฟ สร้างงานเพิ่มอีกเท่าไร
เอาแค่ห้องน้ำสาธารณะในญี่ปุ่น ตามถนน ตามสถานีรถไฟ ตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ สร้างงานให้คนแก่เท่าไร ยังไม่นับร้านอาหาร ร้านรวงขายของต่างๆ
คนไทย เรียนจบมาทำงาน ก็เป็นหนี้ซื้อรถเงินผ่อนแล้ว เพราะการพัฒนาประเทศมันไม่ค่อยจะถูกทาง มันไปเข้าทางญี่ปุ่น และฝรั่ง รัฐบาลไทยไร้ยุทธศาสตร์
อย่างเรื่อง EV ก็เหมือนเหวี่ยงแหให้ทุกคนหันมาใช้ EV แทนที่จะเน้นรถเมล์ รถแท๊กซี่ มอไซค์วิน ก่อน
ในส่วนรถเก๋ง EV แทนที่จะส่งเสริมรถเล็ก City EV ใช้ชานเมืองระยะทางสั้นๆ วิ่งมาขึ้นรถไฟBTS หรือรถใต้ดิน มันก็เหวี่ยงแห แบบไร้ strategy เอาหมด รถ EV ระดับไฮเอนด์ แรงๆ หรูๆ คันเป็นล้าน มันก็แห่ตามกันไปตามกระแสเดิมคือ ทุกคนต้องมีรถประดับบารมี
@@SwingEzzZZ ญี่ปุ่นทำแบบนั้นได้เพราะคนกระจุกตัวมากครับ เขามีคนเมืองถึง 90%😃😃 ในขณะที่ตอนนี้บางจังหวัดในไทยยังมีคนเมืองไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ เพราะคนกระจายตัวแบบนี้ ต่อให้ทำ โครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา สายสื่อสารไปถึงหมด😃😃 แต่จะให้รัฐบาลเอา บริการพื้นฐาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง กู้ภัย สนามบิน ไปใว้ทุกตำบลก็ไม่ไหวนะครับ
ได้ฟังข้อมูลแล้วสบายใจมากขึ้นค่ะ...เพิ่งจองรถไฟฟ้ามา..❤❤ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล..
วิทยากรท่านพูดถูกครับผมซื้อรถอีวีรุ่นแรกๆราคา1.2ล้านผ่านไปอีกปีรถพัฒนาแรงม้า แรงทอร์คระยะทางเพิ่มขึ้น แต่ราคาลดลงกลายเป็นเราตกรุ่นไปเลยครับ
สัญชาติญาณนักบุกเบิก เสี่ยงมากกว่าคนอื่นแต่จะประสบผลสำเร็จมากกว่าคนอื่นหลายเท่า 👍
มีคนจำนวนมากที่พร้อมรับรถแรงน้อย(ตกรุ่น)ไปต่ออย่างมีความสุข
ดูอย่างทุกวันนี้คนรุ่นเก่าขับรถช้าก็ยังอยู่บนถนน ใช่ว่าเขาจะต้องขับรถเร็วขึ้นกว่าที่เคยซะเมื่อไหร่ ถ้าเขาไม่ได้อยากเพิ่มฝีมือและความเร็ว ต่อให้ขับรถสปอร์ตเขาก็จะยังอยู่กับความสามารถเดิมๆ
อย่าคืดมาก. ทุกอย่างต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคของมันครับ
ไม่ต้องกลัวว่า ไม่มีที่ชาร์ทไฟ อีกหน่อย
ตัวรถไฟฟ้า ต้องติดโซล่าเซลล์..ขับไปชาร์ทไป..เมืองไทยแสงแดดมีตลอดปีครับ
ติดแผงโซล่าเซลบนหลังคารถ เพิ่มแบตสำหรับแผงโซล่าเซลอีกซักตัว ต่อสายแบตหลักกับแบตสำรอง ทำสวิชปิดเปิดชาร์ตอัตโนมัติ จบเรื่องจบราว เผลอๆไม่ได้เข้าปั้มชาร์ตเลย แต่ทีเขากลัวกันคือกลัวนายทุนขายพลังงานไม่ได้ แต่คนที่รู้จักทำพลังงานอิสระใช้ได้เองก็รวยเงินเหลือเก็บเยอะขึ้นกว่าเดิม
@@win4598ไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลมันน้อยมาก เมื่อเทียบกับการกินกระแสไฟฟ้าของรถ ev ผู้ผลิตจึงไม่ติดตั้งมาด้วย มิใช่เพราะนายทุนอะไรหรอกคับ
ปัจจัยหลีกๆที่คนหันมาใช้รถไฟฟ้าเพราะน้ำมันแพง การปนะหยัดค่าใช่จ่ายเริ่มต้นในการใช้รถไฟฟ้าทำให้การผ่อนรถสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้มากกว่ารถน้ำมัน การบำรุงรักษาง่าย แต่อายุการใช้งายน่าจะน้อยกว่สรถน้ำมัน ถ้าคิดว่าใช้ทำงาน5-6ปีเปลี่ยนถือว่าคุ้มถ้าจะใช้เป็นรถบ้านใช้ยาวๆรถน้ำมันก็ยังเป็นทางเลืแก
ท่านผู้หญิงน่ารักมากๆเลย นี่แหละเหตุผลที่มาดู😂
ใครไม่ใช้ ขอซื้อต่อราคาถูกครับ ยังไงก็ยังสะดวกกว่ารถไฟฟ้า
ผมมีความมั่นใจว่าในอนาคตถ้าคนใช้รถไฟฟ้าทั้งประเทศเกิน 70% เมื่อไหร่ค่าไฟฟ้า+เงื่อนไขในการเข้าชาร์ต ตามจุดบริการต่างๆจะแพงขึ้นแน่นอนครับ เผลอๆอาจจะเท่ากับราคาน้ำมันทุกวันนี้ครับ
ใช่ครับ รัฐต้องหาทางเก็บภาษีให้ได้ใกล้เคียงกับภาษีน้ำมันที่ได้ หรืออาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
ถ้าค่าไปเท่าน้ำมัน อุตสาหกรรมในประเทศคงล้มละลาย ค่าไฟบ้านคงจ่ายไม่ไหว อีก10-20ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยขึ้น กลุ่มทุนต่างๆจะกินรวบยากขึ้น
@@damrong3รอวันที่ประเทศจะลืมตาอ้าปาก พ้นจากเงื้อมมือพวกนายทุนหน้าเลือด ตอนนี้นับถอยหลังรอเลือกตั้งครั้งใหม่😂😂😂😂
สุดยอดครับ ที่ตอบมาถูกจริงครับ ขอบคุณมากครับ ขอเสริมเรื่องมอไซด์ไฟฟ้าด้วยนะครับ
และผมก็เช่าอพาร์เม้นอยู่ด้วยครับ ยังมีอุปสรรค อยู่
ใจอยากออกรถไฟฟ้านะครับ
หวังว่าอีก 5 ปี ขอให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทยนะครับ
ขอบคุณครับ
เครื่องยนต์สันดาบยังอยู่กับเราอีกนานเนื่องจาก ถ้าไปศึกษาดีๆหรือชั่งน้ำหนักค่าไม่ทาแนนซ์ซ่อมบำรุงดีๆจะพบว่าศูนย์บริการ อะหลั่ย ยังไม่กว้างขวางพอ
ในทางเทคนิคควรเปลี่ยนทั้งแผง ถ้าเปลี่ยนบางเซลจะไม่เสถียนเท่าเปลี่ยนทั้งหมด เราจะไม่เชื่อนักวิชาการ เปลี่ยนแบตทีครึ่งล้านขอบายev😂😂😂
อยากได้รถไฟฟ้า แต่ขาดเรื่องเดียวคือตังค์
รถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด(เพราะมันสวย,option ครบ,แถมมีส่วนลดที่ได้จากภาครัฐ) ก็เลยซื้อกันตรึม แต่ที่ไม่ได้คิดคือ.....ระบบนิเวศน์ที่จะมารองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดดังกล่าว ถามว่า....แล้วรถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน.....ตอบได้เลยว่าอยู่เหมือนเดิม เพราะคนที่ซื้อรถไฟฟ้าเกือบทั้งหมดก็คือคนที่มีรถน้ำมันใช้อยู่แล้ว คนซื้อรถไฟฟ้าจะเป็นการซื้อเป็นคันที่ 2,3 ของบ้าน เพราะรถไฟฟ้านั้นเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก และเหมาะสำหรับคนที่มีบ้านที่สามารถติดตั้ง wall charger ที่บ้านของตนเองได้ คงมีน้อยคนที่จะเสี่ยงมีรถคันแรกและคันเดียวของบ้านเป็นรถไฟฟ้า เพราะความไม่พร้อมของระบบ infrastructure ดังกล่าว ดังนั้นสำหรับ ปทท. บอกได้เลยว่าต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 5-10ปี ที่รถไฟฟ้าจะถูกใช้แทนรถน้ำมันอย่างจริงจังในภาพรวมของทั้งประเทศ และรถน้ำมันไม่มีที่อยู่ในสังคมยานยนต์อีกต่อไป..........
จริง ผมก็จะออกไฟฟ้าอีก3ปี แต่รถ น้ำมัน ก็จะเกบไว้ สำรอง ไม่ขายครับ ใช้ชีวิตปกติใช้ไฟฟ้า ไปตจว.ไกลๆ ก็รถน้ำมันไป ประหยัดขึ้นเยอะครับ
รถน้ำมันโบราณจะค่อยๆน้อยลง ไม่จำเป้นต้องเป้นคันที่1อีกต่อไปแล้ว สถานีชารจไม่ต้องยึดติดกับปั้มแบบเดิม คาเฟ่ โรงพยาบาล วัด ก้สามารถทำสถานีชารจได้ความถี่จะมากขึ้นกว่าปั้มน้ำมันแน่นอน
ผมก็จะใช้รถน้ำมันต่อไป
รถไฟฟ้า มือสองจะขายใด้ใหมครับ
ผมให้อีก20ปี
ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อครบประกัน 8 ปี/10 ปี ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแบตจะยังสูงเหมือนปัจจุบันหรือไม่ ถ้ายังสูงก็ไม่คุ้มที่จะใช้ต่อ
ต้องเปลี่ยนแบตด้วยหรอครับเมื่อครบ8ปี
เหมือนเมื่อก่อน ที่ถกเถียงกันระหว่างกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอล 😁
ไม่เหมือนเท่าไหร่ครับ เพราะกล้องดิจิทัลใช้งานสะดวกกว่ากล้องฟิล์มค่อนข้างชัดเจน (และปัจจุบันมือถือใช้งานสะดวกกว่ากล้องดิจิทัลมากๆอีกทีหนึ่ง) แต่ปัจจุบันยานยนต์น้ำมันยังคงใช้งานสะดวกกว่าอีวี ข้อดีกว่าของอีวีจะเป็นในด้านอื่นๆแทน
ไม่เหมือนกันนะครับ😅😅😅😅
ถ้ารถ ev ทำออกมาคุณภาพดี และ #บรอการหลังการขายดี มันก็จะเป็นอย่างที่พูด แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ลูกค้ายังเจอปัญหาแปลก ๆ หลายคน จนยังต้องขึ้น #รถสไลด์ กันบ่อยเป็นว่าเล่น สุดท้ายรถน้ำมันจะไม่หายไปไหน กลับกัน จะมีพวกลูกค้าจากคนที่ผิดหวังกับ EV จะยังหันไปซื้อรถน้ำมัน หรือรถยี่ห้อตลาดกันอยู่ดี
รถยนต์นั่งไฟฟ้ามาเร็วจริง แต่ต้องใช้เวลาอีกราว 10-15 ปี กว่ารถไฟฟ้าจะเกินครึ่ง แม้การผลิตรถไฟฟ้าจะเป็น 100% แต่ยังต้องซ่อมบำรุงรถยนต์น้ำมัน
ส่วนรถยนต์น้ำมันก็ยังอยู่ในฐานะของสะสมจนกว่าจะหาน้ำมันไม่ได้ ซึ่งอย่างน้อยก็ 50 ปี เพราะต่อให้รถทั่วไปเป็นรถๆฟฟ้าหมดแล้ว แต่ยังใช้น้ำมันในอุตสาหกรรมอื่นๆที่ไม่สามารถทดแทนได้เร็ว เช่น เรือขนาดใหญ่ รถบรรทุกในเหมือง อะไรต่างๆ
จริงๆ ไม่เกี่ยวกับไฟฟ้าเท่า แต่ที่ขายได้ เยอะๆ คือการออกแบบที่ล้าล้ำสมัย ออฟชั้นที่ไม่เคยกั๊กมากกว่า ดูสิ หน้าตา มาสด้า กี่รุ่น ต้อนทนใช้ จนกว่าเทรนนี้ตะหมด โตโยต้าหน้าปลาดุกเริ่มเยอะ น่าเบื่อ ลองทำหน้า ไฟ ตัวถังเหมือนเล็กซัส สิ ถล่มทลายแน่ ทำไม ค่ายรถ ไม่มอง
สรุปรอดู4-5ปี/รวมถึงตลาดมือ2รถไฟฟ้า จะเหลือเท่าไร,ช่วงเทศกาลปีใหม่สงกรานจุดชาจต่างๆดราม่า /ช่วงนี้น่าจะเป็นการวิเคาระหและคาดเดาเท่านั้น
สอบถามเป็นความรู้ครับ
-ต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น คิดว่าค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นไหม หรือ ตามสถานีชาร์จค่าไฟฟ้าจะแพงกว่าชาร์จที่บ้านเยอะไหม หรือ จะมีเรทค่าไฟฟ้าที่ต่างกันไหม กรณีใช้ไฟฟ้าปกติ กับเอามาชาร์จรถยนต์
-ต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น น้ำมันมีโอกาสราคาถูกลงไหม หรือถูกลงจนราคามาใกล้เคียงกับการใช้รถไฟฟ้า
-และต่อไปถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ค่าไฟฟ้าจะขึ้น และ น้ำมันจะลดลง จนค่าใช้จ่ายต่อระยะทางใกล้เคียงกัน จะเป็นไปได้ไหมครับ
-ข้อดีของรถไฟฟ้าคือ เป็นพลังงานสะอาด ไม่มีมลพิษ ไม่มีควันใช่ไหมครับ
แต่ถ้าต่อไป คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น การผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้น จะสร้างมลพิษเพิ่มขึ้นหรือเปล่า หรือเพิิ่มขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่าการใช้รถน้ำมันครับ คือภาพรวมยังไงก็ดีกว่า หรือว่าอย่างไรครับ
ยิ่งใช้ไฟฟ้าเยอะค่าไฟจะถูกลงครับ เพราะกฟผ.สำรองไฟเกินในระบบอยู่50%ยิ่งหลังโควิดด้วยไฟฟ้าสำรองยิ่งเหลือเยอะ ต้องรีบใช้ให้มากพอมิฉะนั้นภาระสำรองไฟ(แบบอยู่เฉยๆก็ได้เงินของโรงไฟฟ้าเอกชน)จะถูกผลักไปทุกบ้านทุกเรือนทั่วไทยร่วมกันแบกรับค่าใช้จ่ายในรูปค่าftอย่างทุกวันนี้ที่เป็นอยู่
วิธีแก้กรณีความต้องการไฟมากเป็นทวีคูณคือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร ืครับ จะได้ไม่ต้องสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าหรือโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานใต้ดินทุกชนิด
ค่าไฟแพงขึ้นแน่นอนครับ ไฟฟ้าผลิตจากแก๊ส 70% ครับลองหาข้อมูลดูได้
น้ำมันจะถูกลงเมื่อลดปริมานการใช้ลง มองที่ประเด็นหลักนะครับ รถไฟฟ้าต้องการพลังงาน ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าได้เอง ฉนั้นหลักคือไฟฟ้าผลิตจากอะไรเป็นหลักครับ หากผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่กลับกัน จะช่วยลดมลพิษ เช่น จากพลังงานหมุนเวียน 70 % จากแก๊ส 30% ก็ช่วยได้ แต่ ตอนนี้ยังทำไมได้
เรื่องมลพิษพอๆกันแต่ของรถน้ำมันจำกัดพื้นที่ยากกว่าเพราะมลพิษมันเกิดตอนใช้งาน รถไฟฟ้าควบคุมมลพิษตอนผลิตกับตอนทิ้งได้เจาะจงกว่า
อีกสองสามปี เทคโนโลยีจะดีขึ้นมาก เหมือนมือถือ รถรุ่นใหม่จะถูกลงอีก ส่วนตัวคิดว่าจะพัฒนาได้อีกเยอะ แบตเตอรี่แพงมาก
ในความคิดเห็น ตอนนี้ จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มระดับรายได้ น้อยจะใช้น้ำมัน เพราะรถน้ำมันถูกลงซื้อง่าย ราคาถูก บรรทุกของ ขึ้นเขา และจุดบริการมากกว่ารถไฟฟ้า รายได้ระดับกลางหรือรายได้ดี จะนิยมใช้ ไฟฟ้า แต่ระยะยาว ดูผลรถไฟฟ้าว่าจะพบปัญหาแบบใด ค่าอะไหล่ ค่าเสื่อมสภาพแพง การบริการ หายากหรือไม่ / เคยใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พอไฟอ่อน เกือบขึ้นเขาไม่ได้เลย
ในด้านความพร้อมใช้ ไทยมีความพร้อมที่สุดในอาเซียน เพราะ ในอาเซียน มีกำลังไฟฟ้าส่วนเกิน มากที่สุดในอาเซียน สามารถจะรองรับปริมาณรถไฟฟ้า ที่สามารถจะให้มีรถไฟฟ้าสัก 10 ล้านคันได้อย่างสบาย สำหรับเรื่องกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ไทยมีกำลังผลิตได้สบาย แต่เพียงตอนนี้ต้องในพื้นที่ในแต่ละพื้นที่ ให้การไฟฟ้า ช่วยสื่อสาร และรองรับการจัดการเรื่องระบบไฟฟ้า หรือ การจัดการระบบกริดไฟฟ้าทั่วประเทศให้เหมาะสมสำหรับพื้นที่การใช้กำลังไฟฟ้าได้เหมาะสมกับการใช้งานรถไฟฟ้าเท่านั้นครับ ประเทศอื่นๆยังไม่มีความพร้อมเท่าไทยหรอกครับ อย่างลาว ก็ประชากรน้อย ต่อพื้นที่ของประเทศน้อยไป เพราะต้องลงทุนการทำสถานีชาร์ตให้เพียงพอ การใช้งานทั่วถึง อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไร ส่วนตัวจึงมองว่า ไทยนะมีความพร้อมใช้มากที่สุดเลย
แบตเตอรี่ยังพัฒนาได้อีก อย่ารีบ ถ้ามีเงินรีบเลยมันเป็นการกระตุ้นให้การพัฒนาไวขึ้น
พิธีกรสวยครับ 😊
มาแน่ๆ100% รถไฟฟ้า การสร้างแท่นชาร์ตง่ายกว่า สร้างปั้มน้ำมันเยอะ
ไฟฟ้ามนุษสร้างได้ผลิตได้ เช่น นไฟพลังน้ำ แต่น้ำมันคนผลิตเองไม่ได้ ไม่มีเครื่องปลิตน้ำมันมีแต่เครื่องกลั่นน้ำมัน
ปัญหา คือ การซ่อมบำรุง รถไฟฟ้า ซ่อมแพงคนชั้นกลางไม่มีปัญญาซ่อม เพราะมีราคาแพง มาก ราคาแบตเตอรี่ และ มอเตอร์ มีราคาแพง
อร่อยใคร อร่อยมัน และความมันส์ไม่เคยปราณีใคร ไม่สนถูกผิด
รอได้ที่จอดชาร์ท เหมือนเราชาร์ท มือถือไม่รีบ แต่เราซื้อ เวลาในการขับมันขับได้ทันใจและประหยัดค่านำ้มันไปได้เยอะมาก สถานี เราเช็คได้ว่ามีชาร์ทที่ไหนบ้าง สะดวก อย่ากลัวที่ใช้ชีวิต จะได้ไม่เบื่อ อยากที่จะเติมนำ้เองมานาน ละเพราะฝานำ้มัน มันชอบเสียหาย เป็นรอย เราก็ไม่อยากที่จะไป ดุด่า ตนเติมนำ้มันให้
การนำมารีไซด์เคิ้ล ต้องมีหน่วยงานภาครัฐจัดอบรม เพื่อผู้ใช้รถจะได้เกิดแนวคิดในการนำไปใช้ประโยชน์ส่วนอื่น ไม่งั้นจะเกิดขยะจากแบตเตอร์รี่รถไฟฟ้าหลายแสนตันต่อปีแน่นอน...
น้ำมันก็เน้นขายให้รถบรรทุกหนัก เครื่องจักรใหญ่ ต้องใช้พละกำลัง ยิ่งทำงานห่างไกลในป่าเขายังต้องใช้น้ำมันไปอีกนานโข ขอให้มันลงถูกลงเหลือ 20-25 บาท/ลิตร ด้วยเหอะกำลังดี
รถยนต์ไฟฟ้ายังแพงอยู่ สักพักก็คงจะราคาลดลง พิธีกรน่ารักมาก
การใช้คำว่า "มาเร็วกว่าที่ดิด" เหมือนกับใช้คำว่า "เกินคาด" บ่งบอกนัยอะไร? 1. mindset ที่มีมุมองต่ออุตสาหกรรม จะด้วยขาดองค์ความรู้ที่เพียงพอ หรือ มี negative mindset ยังไม่เชื่อ จึงคิด คาดการณ์ไปแบบนั้น ยกตัวอย่างเช่น ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นทั้งหมด โดยเฉพาะ "พี่โต" บอกว่าประเทศไทยยังไม่พร้อม ต้องรออีกสัก 10 ปี ตอนนี้ต้องใช้ hybrid ไปก่อน เ็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แล้วเป็นไง ??!!
ถ้าจัดชั้นเทคโนรถยนต์/ยานพาหนะ จัดแบ่งเป็น 3 คลาส 1. ICE + hybrid 2. BEV หรือ ที่จีนใช้คำว่า NEV นี่แหละคือช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่...คลาสที่ 3. คือ รถยนต์/ยานพาหนะ ที่สามารถผลิตเชื้อเพลิงภายในได้เอง โดยไม่ต้องเติมพลังงานจากแหล่งภายนอกใดๆ
น่าเสียดาย ... ที่ตอนนี้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นวิ่งกระหืด กระหอบตามหลังทั้งยุโรป Tesla ไม่ต้องพูดถึงจีน เป็นรองทุกด้าน และวิ่งตามหลังไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะ วิ่งตาม Tesla ไม่ต่ำกว่า 8 ปี แต่ก็เชื่อว่า พี่ใหญ่ พี่โต และ 4-5 บริษัทญี่ปุ่นลำดับต้นๆไม่ถึงกับล้มหายตายจากไป แต่เหนื่อยแน่ๆ ส่วนบริษัทที่เหลือ ไม่แน่!!
เอาง่ายๆรถน้ำมันชอบกั้กไงพวกญี่ปุ่น เจอจีนไปออฟจัดเต็มมันคุ้มค่า ลองเปลี่ยนตรงนี้ก่อนดีกว่ารถน้ำมัน รถน้ำมันยังหน้าใช้อีกนานครับ
ใน5ปีนี้ผมยังไม่คิดใช้รถEV.ตราบที่ค่าไฟในปท.แพงไร้เหตุผลแบตก็ยังดีไม่พออย่าว่าแตหัวชาร์ดแพงไม่คุ้มลงทุน
ถ้าปลายทางรับได้ว่าต้องทิ้งเป็นเศษเหล็ก คุณก็คือผู้พร้อมและเหมาะที่จะใช้
Fc น้องภัทร
แล้วรถยนต์ใช้NGV อยู่ตรงไหนคะเมื่อก่อนเห็นรัฐ.ส่งเสริม
อยากทราบ วิ่งได้ 400 km บรรทุกได้กี่ kg.
ถ้า ผดส.4 คน(4×55kg.) สัมถาระ ทางราบทางชัน จะขับได้ กี่km.
ปัญหาที่คนทั่วไปมองไม่เห็น มองแต่ค่าไฟฟ้าถูก
อันที่จริง ราคาขายปลีกน้ำมันนั้น มันดูแพง มันมีภาษีสรรพสามิต มีกองทุนน้ำมัน ที่ไม่มีในค่าไฟฟ้า
ภาษีสรรพสามิต มีส่วนสำคัญอย่างมากในงบประมาณรายได้ของรัฐบาล ในการใช้จ่าย และมันจะย้อนกลับสู่การสร้าง ขยาย การซ่อมบำรุงถนน
ค่าไฟฟ้าไม่มีภาษีส่วนนี้ ยิ่งใช้รถไฟฟ้ามาก รัฐก็ยิ่งขาดภาษี
แล้วจะหาภาษีชดเชยได้อย่างไร หากมีการเก็บภาษีสรรพสามิตหรือภาษีอื่นใด กับไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ ราคาค่าไฟฟ้าที่เทียบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูป ก็ไม่ใช่แตกต่างกันมากในขนาดที่เป็นอยู่ เผลอๆอาจจะเท่ากัน
ที่มองว่าประหยัดค่าพลังงานในการเดินทาง มันก็ไม่ใช่
เดี๋ยวเขาก็ไปเก็บกะน้ำมันเพิ่มอีกเท่าแทนที่ขาดไปไง ประเทศก็จะได้หน้าเรื่องผลักดันพลังงานสะอาด กำไรสองต่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องรัฐบาลจะได้ภาษีน้อยลงหรอกเดี๋ยวเขาก็หาเรื่องเก็บเพิ่มจนได้
ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่ารถไฟฟ้าดูดีตอนแรกๆแล้วจะเสียใจเมื่อต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่กับมอเตอร์ 2อย่างก็หน้ามึดแล้ว ดังนั้นจะเห็นว่ารถน้ำมันจะดีกว่า ถูกกว่า เติมน้ำมันไวกว่า ที่แพงกว่ามีแค่การถ่ายของเหลวเมื่อถึงเวลาและราคาน้ำมันที่ผันผวน
อยู่ได้ 🎉🎉🎉🎉
ถ้า ไม่มี รัฐบาลช่วย ราคา ที่ขาย ใน ปัจจุบัน คงไม่ใช่ราคานี้
แล้วปีที่8-9-10 ต้องเปลี่ยนแบต จะออมเงินได้ไหม 5-6 แสน ต้องผ่อนแบตต่อไหม
เอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ที่ว่า 8-10 ปีต้องเปลี่ยนแบต
เอาเถอะครับ คนรวยๆ กรุวเทพฯ หรือเมืองใหญ่ทขายรถใช้น้ำมันออกม่ในราคาถูกๆ ขอให้เจ้าของขายโดยตรง ไม่ใช่เต้นต์รถมือสองไปตัดราคามาถูกๆแต่ขายต่อ เอากำไร 2เท่าตัว เราต่าวจังหวัดไม่สนใจโลกจะร้อน หริอฉิบหายเพราะควันจากท่อไอเสีย ขอให้ให้รถสภาพใหม่ ราคาถูก หรือรถยนต์น้ำมันที่ออกห้างมือ1 ลดราคาสัก1-2แสนบาท จะซื้อเพิ่มอีกคัน ใครจะยอกว่าไม่รักโลก ช่างมัน ก็คนรวยเขาไม่สนใจแบ้วเราจะไปแคร์อะไร เราไม่ใช่คน กทม,ไม่เดือดร้อน ครับ รถยนต์เราบ้านนอกไม่สนออฟชั่น ที่ไม่ได้ใช้ จอดรถไม่จำเป็นต้องกล้องรอบคัน ไม่ต้องมีระบบเบรคทิ้งระยะห่างคันหน้า ไม่กลัวใครจัหาว่าไม่ทันสมัย ที้กลัว คือการเป็นหนี้เพราะแห่ตามพวกชี้นำทั้งหลาย ตอนนี้ขอให้บริษัท รถยี่ปุ่น นั้นนำในไทย ลดราคาหน้าบริษัท สำหรับรถในโชว์รูมลง2-3แสนบาท ครับคุณขายหมดในเวลาไม่นาน รถไ่ฟฟ้าคนบ้านนอกที่มีเงิน เขาไมเห่อตามหรอก เพราะเขาซื้อรถ เพื่อใช้งาน ไม่ซื้อไว้อวดรวยแต่ต้องผ่อน72เดือน ครับ
อยู่ที่กระเป่าเงินจะใช้แบบใหน.ราคาตัวรถ
👍
@@jtjt4691 ถูกแล้วความสามารถในการดำรงชีพ เงินในกระเป๋า แต่กลยุทธ์ทางการตลาดที่มันกระหน่ำจะด้วยอามิสสินจ้างให้ระดมกระตุ้นการอยากได้ ยกแต่ความเป็นเลิศ ยกบางจุดมาสร้างให้สูงดี จนสินค้าตัวเก่ามันสุดแสนจะแย่และคนใช้ไม่คิดอายคนอื่นที่ไม่ก้าวตามไม่ทัน เช่น ใช้รถไฟฟ้า คือการอนุรักษ์โลกให้อยู่อย่างปลอดภัย แต่ทำไมไม่มองกลับว่าก่อนจะมาเป็นรถไฟฟ้า1คันกระบวนการผลิต าันใช้พลังงานมาจากไหน ไฟฟ้าทั้งหมด แล้วไฟฟ้าผลิตจากอะไร ครับ
ทุกคนหยิบแต่ความคุ้มค่า ของการใช้งานประหยัดชาร์จไฟครั้งเดียวใช้ได้800-1000 กม.ผมขอถามว่า ราคารถกี่ล้าน ครับ และคนที่มีกำลังใช้รถราคานี้ เขาขับเองหรือไม่ หากท่านเหล่านั้นจะไปเชียงใหม่,ภูเก็ต ท่านจะนั่งรถไฟฟ้าหรือเครื่องบินชั้นfirst class การอัดโฆษณาเพื่อมอมเมาประชนคือเป้าหมายหลักของธุรกิจ ขายของได้ กำไรสูง ร่ำรวย
การทำรายการทับถมรถใช้น้ำมัน หยิบเอาจุดด้อยเล็กๆน้อยๆมาขยายให้กว้าง จนคนไทยกลัวเหมือนกุ้งขี้ขึ้นหัว
สถานีชาร์จมีกี่หัว รถไฟฟ้ามากๆจะพอชาร์ทหรือ.ไม่เหมือนเติมนํ้ามัน
🤔👍👍👍
รถน้ำมันยังคงเดิม รถเติมน้ำมาราคาจับต้องได้รถน้ำมันต้องหลบ รถไฟฟ้ามาแบบเด็กๆเหมาะกับผู้เฒ่าผู้พิการ
อาจารย์ลืมนึกถึงการชาร์จในบ้านรึ้ปล่าครับ สถานีอัดประจุ ไม่ได้มีความสำคัญต่อรถไฟฟ้าเหมือนสถานีจ่ายน้ำมันสำหรับรถน้ำมันนะครับ เพราะคนใช้รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ชาร์จบ้านมากกว่า
รออออเก็บรถน้ำมันปีหน้าาาาาาสนอกิเลสล้วนๆ ไฟฟ้าไว้รอเกาหลีกะญี่ปุ่นมาเต็มๆก่อน😂😂😂
ขอไม่คอมเม้นเรื่องรถไฟฟ้านะครับ โลกจะเปลี่ยนอะไรก็ต้านไม่อยู่ แต่จะบอกว่าพิธีกรสวยมาก ๆ ครับ
รถไฟฟ้าในความคิดข้อดี รักสิ่งแวดล้อม ข้อเสีย เปลี่ยนแบตรี่ทีนึงเกือบซื้อรถใหม่ได้1คัน เทศกาลสถานีชาร์จแบตเตอรี่ต่อแถวจับบัตรคิว ชาร์จก็นานเสียเวลาที่รอคอย ขายราคาก็ตก ประกันชั้น1ก็แพง เปลืองไฟ เข้าศูนย์ Service หรือเช็คระยะทีนึงแพงมาก ขายต่อราคาตกเพราะผู้ที่ซื้อคิดค่าเสื่อมสภาพแบตเตอรี่ เมื่อรถเกิดเสียต้องเรียกรถยก รถ EV รออะไหล่เป็นสามเดือน ถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่ต้องพูดถึงไม่มีอู่ไหนรับซ่อม รถยนต์ EV คือใช้แล้วทิ้งครับ มันคือของเล่นของคนรวยครับ
มันคือพลังงานทางเลือกครับ
ผมใช้ทั้งรถน้ำมัน กับรถไฟฟ้าครับ
รอน้ำมันลิตรละ 15 บาท ครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน 95 ครับ
ดีแล้วค่าอะไหล่ยังแพง
คนก็แค่อยากได้รถใหม่แหละ 😅เป็นธรรมดา🎉🎉
เพราะทุก ๆปีจะมี ความต้องการซื้อรถในประเทศไทย ปีละ ราว ๆ 1 ล้านคัน .บวก ลบ😂
ทุกๆ ปี.จะมีคนที่พร้อมซืัอรถใหม่.ป้ายแดง
เสมอๆ ราว 1 ล. คัน
พอมีรถ EV มานำเสนอ.design สด.ใหม่.เทคโนโลยี. ออปชั่น
ตลาดก็ตอบสนอง 😅
อย่าลืมคิด ต้นทุนแบตเตอรี่ kmเมตรละเท่าไร
รถไฟฟ้ากระแสมาก็ดีครับ รถน้ำมันจะได้พัฒนาจริงจัง ไม่ใช้พัฒนาแค่ก้าว 2 ก้าวเหมือนปัจจุบันนี้ ลองศึกษาดูดีๆ ประเทศที่ใช้รถไฟฟ้ากันเยอะๆ ทำไมรถน้ำมันยังมีขายอยู่ได้ และกระแสรถไฟฟ้าดันหดเอง เพราะอะไร ลองดูครับ
อากาศบ้านเขาหนาวครับ
ดีมาก
เริ่มแรกผมก็มีอคติกับรถไฟฟ้าเริ่มแรกคือคุณต้องเปิดใจ ผมเริ่มต้นจากลองสกู้ตเตอร์ไฟฟ้าขับในหมู่บ้าน ตอนนี้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวแล้วครับ
รถยนต์ไฟฟ้า เสีย เปลี่ยนใหม่ ถูกกว่าซ่อม ครับ
ประกัน 80%
ก็อยู่ที่เดิม ครับ คนใช้ EV เดี๋ยวเจอค่าซ่อม จะรู้สึก ไม่ได้หมด เงิน พัน หรือหมื่น แต่เป็นแสนขึ้น จะซ่อมไหวหรือ คอยดู
ต่อไปเมืองไทยจะเต็มไปด้วยซาก รถไฟฟ้า
ไม่รู้ว่าจะมีซากรถไฟฟ้าเยอะไหม
แต่ที่แน่ๆ ปีหน้า จะมีศูนย์รถเกือบ 100 ศูนย์หลายๆ แบรนด์ เปลี่ยนมาขายรถไฟฟ้า
พ่อค้า ก็คือ พ่อค้า ธุรกิจ ก็คือ ธุรกิจ เรื่อง ราคา แบตฯ ผมยังมีความเชื่อ เหมือน แบตฯ มือถือ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มี มือถือ ยี่ห้อไหน ขาย แบตฯ ราคาต่ำลง มากๆๆๆ เผลอๆ ราคา เท่าเดิม
รถไฟฟ้าอาจจะดี แต่ยังดีไม่พอ ณ ตอนนี้ รถไฟฟ้าคนยังไม่มั่นใจในหลายๆเรื่องรถน้ำมันคนใช้มานานความมั่นใจย่อมสูงกว่า รถน้ำมันจะหายไปก็ต่อเมื่อบังคับให้เลิกผลิต แต่ถ้ายังผลิตอยู่คนก็ยังซื้อรถน้ำมันต่อไป รถไฟฟ้ายังต้องพิสูจน์อีกหลายเรื่องให้คนมั่นใจในคุณภาพก่อน
รถยนต์สันดาบ จะถูกรถไฟฟ้ากลืนกลินไปทีละน้อย ไปเรื่อยๆทุกๆวัน
เอ้า เป็นยุคของช่างอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ที่ไหนเปิดสอน รีบๆไปหาความรู้เพิ่มเติม เปิดอู่ รวยๆๆๆ
เอาจริงๆง่ายกว่าเครื่องกลหลายอย่างเลย
ดูว่ามีประสิทธิ์ภาพมากแค่ไหนเมืองไทยช่วงฤดูฝนน้ำท่วมวิ่งได้แค่ไหน สู้รถน้ำมันได้รึเปล่า
อยากให้รถยนต์ ไฟฟ้า เจริญพัฒนาการ ทางเทคโนโลยี ที่สูง ใน ด้านคุณภาพ.ของรถยนต์ .ราคาไม่แพง ไม่กีนไฟ มาก
คุณภาพ แล็ตเตอร์ลี ทนทาน
ไม่แพง .
จะเป็นคุณประโยชน์ต่อชาวโลก
เพราะ ราคาน้ำมัน มันแพง
ทุกวันเวลา..
ใครสะดวกเเบบนี่ใช้เเบบนั้นครับ การตอบโจทย์การใช้งานของเเต่ละคนเเตกต่างกันไปไม่ใช่ว่าของใครเเบบไหนมันจะดีกว่ากัน
ค่าซ่อมละครับ คุณพร้อมหรือยัง
ครบ8ปีก็จะรู้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือกี่%และค่าใช่จ่ายในการเปลี่ยนเท่าไหร่
ฟังครบมั้ย ที่พูดมาคือความเชื่อไม่ใช่ความรู้ใช่มั้ย
ปีหน้าผมจะซื้อรถไฟฟ้าแน่นอน ตอนนี้ใช้เบนซินอยู่ อิอื
ยังไงรถน้ำมันก็ยังมีอยู่ (เช่น รถบรรทุก ยังอยู่ 99.999999% ) ช่วยเอาสถิติ รถไฟฟ้าจดทะเบียน ณ.วันนี้ (ยอดจองไม่เอานะครับ) มาบอกหน่อยครับ ว่ามีเท่าไหร่แล้ว จะได้รู้เลยว่า รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน
คุณรู้มั้ยว่ารถบรรทุกจะไปไฟฟ้าก่อนรถส่วนบุคคล เริ่มต้นผิดคุณก็เข้าป่าตลอดทางละ
@@poompoomponi4399 รถบรรทุกได้แค่ระยะสั้น ครับ และ ลงทุนสูง
ผมคงยังไม่ซื้อรถไฟฟ้าไปอีกนาน เพราะตอนนี้มีรถเก๋งกับรถกระบะอย่างละคัน ถ้าจะต้องใช้เงินเกือบล้านไปซื้อรถไฟฟ้าคงไม่มีปัญญา เอาเงินส่วนนั้นไปเติมน้ำมันให้รถทั้ง2คัน น่าจะได้อีกหลายสิบปี อาจจะตายก่อนที่จะใช้เงินเติมน้ำมันถึงเกือบล้าน ตอนนี้ก็พยายามใช้เงินให้คุ้มค่ากับชีวิตประจำวัน
ขอทุกๆบริทษ์ที่ผลิตรถน้ำมันออกมาจงร่วมมือกันเปลี่ยนรถเก่าที่ขายไ 5:43 ปแล้วมาเป็นไฟฟ้าให้หมดเพื่อประหยัดและลดโลกร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วนด้วยครับต้องรัยผิดชอบต่อโลกนะ
พลังงานไฟฟ้าก็ทำเกิดภาวะโลกร้อนนะ
ซื้อได้ที่ไหน รถไฟฟ้านี่
ขำหนักจริง ที่จั่วหัว รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหน? ก็อยู่ตรงที่มันอยู่สิครับ คนใช้รถน้ำมันก็ยังมีเยอะแยะเต็มไปหมด
พอมีรถไฟฟ้ามา และขายได้มากขึ้น ก็พากันตื่นเต้นตื่นตูมไปได้ เอาตรงๆ นะ วันหน้าอีกไม่กี่ปี รถไฮโดรเจน ก็จะเริ่มเข้ามา
แล้วรถไฟฟ้าจะอยู่ตรงไหนล่ะทีนี้?
Ioรถน้ำมัน อื้อเลย ใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วย
น่าใช้ แต่ ยังไม่พร้อมใช้
เฉพาะเมืองไทย ในอาเซียน มีประเทศไหนบ้าง
ตราบใดที่ยังมีจยย ๒จังหวะในไทย นโยบายรัฐที่ไม่เคยนิ่ง รถน้ำมันยังคงอยู่ อีกนาน ดู NGV เป็นตัวอย่าง
คู่กันไปนี่แหละครับ😂
รถน้ำมันจะอยู่ตรงไหนเหรอ ก็จอดอยู่บ้านใครบ้านมันนั้นแหละ รถไฟฟ้านะอยากได้กันทั้งประเทศนะแหละ แต่จะเอาเงินไหนไปเปลี่ยนรถคันเดิม ตราบใดที่คันเก่ายังไม่รวนยังใช้ได้ดีอยู่ ยากที่คนจะเปลี่ยน มันคือภาระล้วน😅😅😊😊
นอก่อนรถไฟฟ้าราคายังแพงไปรอก่อนครับ
วิเคราะห์เพ้อเจ้อว่า EV จะมาแทนภายใน 5 ปี
ตราบใดที่ยังแก้ปัญหาสถานที่ชาร์จ และความเร็วในกาชาร์จ
คนทีาใช้รถไฟฟ้า ต้องมีบ้านส่วนตัว บ้านเช่า ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดหมดสิทธิ์
แล้วการชาร์จตามปั๊ม ตามห้าง ใครจะไปอดทนรอต่อคิว
คำว่ากระแสมันอาจตีกลับ
เพราะปัจจัยเรื่องแบตฯ
ศูนย์บริการฯ ความสะดวก
ในการชาตและเวลาที่ต้องรอ
ผมขายของเข้าป๊มมาหลายปี บอกแบบนี้หลายปี 2567ในอีกหลายปั๊มน้ำมันล้วน ถ้าอีก5ปีคงซัพพอร์ตรถEVได้มากขึ้น
น้ำมันจะได้ถูก และอีกอย่างผมใช้รถแค่ยานพาหนะใช้ไปธุระ คือผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เอาเงินไม่ลงทุนอย่างอื่นดีกว่า
ราคารถน้ำมันก็ยังคงสูงลิบลิ่ว..คนจนไม่สามารถจับต้องได้มือ2ดอกเบี้ยยิ่งโหด😅😅😅
จริงครับ ถ้าได้ใช้รถไฟฟ้า เลิกใช้รถน้ำมันไปเลย ไม่มองเลย