Это видео недоступно.
Сожалеем об этом.
ทำไมรถไฟฟ้า(EV)ชาร์จตัวเอง ถึงเป็นไปไม่ได้ - รถซิ่งวิทยา EP29
HTML-код
- Опубликовано: 22 фев 2023
- ทำไมรถไฟฟ้า(EV)ชาร์จตัวเอง ถึงเป็นไปไม่ได้
รถไฟฟ้า หรือ EV หรือ Electric Vehicle ดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นทางสายหลักของยานพาหนะในอนาคต นับจาก Tesla ที่สร้างปรากฎการณ์ ก็ดูเหมือนว่าค่ายรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆก็ต้องเริ่มเดินเกมรุก ในช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเจรเลยว่ามียานพาหะนะพลังงานทางเลือกออกมามากมาย ตั้งแต่ EV - Electric Vehicle รถไฟฟ้าแท้ๆ , HEV - Hybrid EV รถไฮบริด , PHEV - Plug-in Hybrid EV หรือปลั้กอินไฮบริด และล้ำสุดๆเลยก็คือ FCEV หรือ Fuel cell EV
แต่เคยสงสัยไหมครับ ทำไมเรายังต้องชาร์จ EV ทำไมถึงไม่เอาแรงจากการวิ่งไปชาร์จรถตัวเอง? ในวันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้กัน
ติดต่อโฆษณา :
sandwish.crew@gmail.com
096-963-7007
ติดตามพวกเราในช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook
/ sandwishmedia
Tiktok
/ sandwish_media_official
Instagram
/ sandwishmedia
#sandwishmedia #ซวมด
*ขอตอบหลายๆ คำถามไว้ตรงนี้นะครับ*
1 ทำไมไม่เอาไดร์ชาร์จไปชาร์จแบตคนละลูกกับที่ใช้ขับมอเตอร์แล้วค่อยสลับกันใช้ - ชาร์จแบตอีกลูกก็กินกำลังมอเตอร์เท่ากันครับ คือจะกินแรงจากมอเตอร์เท่ากับกำลังไฟที่ไปชาร์จแบต + Loss ของไดร์ชาร์จ เช่นถ้าเราต้องใช้กำลังไฟในการหมุนล้อ 100 วัตต์ แล้วเราปั่นไฟไปชาร์จแบตอีกลูก 100 วัตต์ มอเตอร์ก็ต้องออกแรงอย่างน้อย 200 วัตต์(ถ้าไม่นับ Loss ของทั้งระบบ)แล้วได้กลับมา 100 วัตต์ เท่ากับเราเอาพลังงานไปแปลงไปแปลงมาเฉยๆ อยู่ดีครับ
2 ทำไมไม่ทดรอบให้ไดร์ชาร์จหมุนเร็วกว่ามอเตอร์ - ทดรอบให้ไดร์ชาร์จหมุนเร็วขึ้นมอเตอร์ก็ต้องออกแรงมากขึ้นครับ หรือถ้าทดรอบให้หมุนช้าลงแต่ทำให้แม่เหล็กไฟฟ้าข้างในไดร์ชาร์จแรงขึ้นเพื่อให้ได้ไฟมากขึ้นก็จะกินแรงมอเตอร์เหมือนเดิม (ถ้าเป็นไดร์ชาร์จของรถยนต์ที่มีวงจรข้างใน เวลาหมุนเร็วมันจะลดกำลังลงไม่ให้ชาร์จแบตเกิน)
3 ทำไมไม่ใช้กังหันลมปั่นไฟ - กังหันลมมันต้านลมครับ การจะเอาแรงจากลมไปหมุนกังหันได้คือมันต้องต้านลม ยิ่งอันใหญ่ปั่นไฟได้เยอะยิ่งต้านลม ทำให้มอเตอร์ต้องออกแรงมากขึ้น ก็จะได้พลังงานกลับมาน้อยกว่าที่เสียไป แบบเดียวกับการเอาแรงจากล้อไปปั่นไฟครับ
4 ต้องหาวิธีทำไดร์ชาร์จที่ไม่กินกำลังเครื่อง - ไดร์ชาร์จไม่ได้กินกำลังเครื่องครับ ถ้าลองเอามือหนุนไดร์ชาร์จดูจะรู้ว่ามันหมุนได้ง่ายมาก ที่มันหมุนยากตอนชาร์จแบตเพราะมันแปลงแรงจากการหมุนเป็นไฟฟ้าไปชาร์จแบต ยิ่งมันต้องปั่นกระแสไฟเยอะยิ่งหมุนยากครับ
5 แล้วถ้าเราปั่นไฟแค่ตอนเบรคล่ะ - อันนั้นทำได้ครับ เรียกว่า Regenerative braking มีในรถไฟฟ้าและ Hybrid แทบทุกรุ่น
6 ต้องหาวิธีทำให้ไม่เสียพลังงานเป็นความร้อน - อันนี้จะทำให้ประหยัดไฟขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ได้ทำให้วิ่งได้ตลอดกาล
7 ใช้ Nano Diamond Battery แล้วรถไฟฟ้าจะวิ่งได้ 20000+ ปี - Nano Diamond Battery หรือแบตเตอรี่เพชร+นิวเคลียร์มีจริงๆ และใช้งานได้นานจริง แต่จ่ายไฟได้แค่ประมาณ 0.0001 W เท่านั้นเองครับ ในปัจจุบันมันยังไม่มีแรงพอจะเอาไปขับรถไฟฟ้า
ไม่ต้องไปแหกกฎครับเรื่องแค่นี้คิดกันไม่ได้เราก็เปิดร้าสำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกเซเวนและต้องมีทุกยี่ห้อที่ขายในประเทศทีนี้คุณจะไปไหนก็ได้ทั่วประเทศเพราะเซเว่นมีทุกอำเภอ
ทำได้ แต่ ติดที่ ...
สมดุลพลังงาน
จากคำอธิบายข้อ 4 ที่มันหมุนยากตอนชาร์จแบตเพราะมันแปลงแรงจากการหมุนเป็นไฟฟ้าไปชาร์จแบต ยิ่งมันต้องปั่นกระแสไฟเยอะยิ่งหมุนยาก
ทำให้ผมฉุกคิดเรื่องเกียร์ขึ้นมาครับ ที่จุดประสงค์ทำให้มีแรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น แต่กำลังขับจะยังคงเท่าเดิมจะเป็นไปได้มั้ยที่อนาคตจะพัฒนาไดร์ชาร์ทที่มีเกียร์ในตัวครับ
เพื่อให้การชาร์ทไฟเข้าสัมพันธ์กับการจ่ายไฟออก มันจะไปถึงขนาดใช้พลังงานใน Cycle ของตัวเองได้มั้ย
ทำไมเราไม่มุ่งไปที่การพัฒนาหรือการลดข้อจำกัดของไดชาร์ท หรือจริงๆแล้วมันทำไม่ได้จริงๆ
@@BaszBoochakiat ไม่คุ้มกันนะสิครับ เพิ่มเกียร์คือเพิ่มต้นทุน ยิ่งแปลงยิ่งมีloss ครับ
ถ้าคนส่วนใหญ่ในประเทศใช้รถไฟฟ้าปัญหาเรื่องไฟฟ้าไม่พอใช้งานจะเกิด ทีนี้ต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มอย่างมาก เพราะแบบนี้น้ำมันไม่มีทางหายหปจากโลก แค่มันอาจจะมีส่วนใช้น้อยลง เครื่องยนต์บนโลกนี้ส่วนใหญ่ยังต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
เก๊กเสียงหล่อๆ มา 40-45 วิ นึกว่ามีสมาชิกคนลงเสียงใหม่ แต่เอ๊ะ นี่มันเสียงแอดฯ ภูเขานี่ (ผ่าม!!)
ในช่วง 02:40 กับเรื่อง perpetual motion effect เจ้าปัญหา ถ้าต้องการให้มอเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น base power (ต้นกำลัง) หมุนที่ความเร็วเพียงพอต่อการกำเนิดไฟฟ้า VDC ได้ตลอดเวลา โดยที่จะต้องใช้ไฟ VDC จาก alternator (ไดชาร์จ) / generator อย่างเดียวเท่านั้น
ด้วยความที่มอเตอร์ไฟฟ้าก็ต้องการแรงมหาศาลในการปั่น alternator หรือ generator ก็เลยต้องมีชิ้นส่วนที่มาช่วยเก็บสะสมพลังงานส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งในที่นี้คือ "แรงเหวี่ยง" โดยที่ชิ้นส่วนนั้นก็คือ มู่เล่ย์ (ล้อช่วยแรง) ซึ่งเมื่อมีชิ้นส่วนนี้เพิ่มเข้าไป เวลาสตาร์ทจะต้องใช้ไฟบ้าน หรือแหล่งพลังงานอื่นๆ ในปริมาณมากๆ มาขับให้มอเตอร์มีรอบที่มากพอที่จะไปหมุนอุปกรณ์ดังกล่าวถึง 2 ชิ้นนี้ให้ได้เสียก่อน จึงจะสามารถตัดพลังงานออกแล้วปล่อยให้หมุนเองต่อไป
Krit tone No
mountain Tone Yes!!!!555555
พอ มูเลย์ ส่งแรงไปช่วยหมุน ไดชาร์จ ความเร็วของ มูเลย์ ก็จะลดลง
เพื่อให้รอบการหมุนในการผลิตไฟฟ้าคงที่
คราวนี้ มอเตร์ ต้องออกแรงหมุนทั้ง มูเลย์ และ ไดชาร์จ ให้กลับไปมีความเร็วเท่าเดิม
มอเตอร์ ยิ่งต้องออกแรงมากกว่าตอนที่หมุน ไดชาร์จ เปล่า ๆ เปลืองพลังงานหนักเข้าไปอีก
ยังไงพลังงานที่ออกมาก็ขาดทุนอยู่ดี
คลิปนี้ ให้ เต็ม100 เลย ครับ ให้ความรู้ดี มาก
จริงๆมีการใช้ทฤษฎีเรื่องนี้มาใช้ในรถยนต์อยู่เหมือนกันนะครับ ในรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ และมีแบตเตอรี่ (นับรวมทั้ง รถตระกูล hybrid ด้วยนะครับ) จะมีการออกแบบมอเตอร์รถให้เปลี่ยนตัวเองเป็นไดนาโมได้ครับ ขอยกตัวอย่างเป็นรถยนต์ไฟฟ้านะครับ เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายๆ ในรถยนต์ไฟฟ้า เวลาเราเหยียบคันเร่ง มอเตอร์จะเอาไฟฟ้ามาเร่งรอบการหมุนมอเตอร์ให้รถเคลื่อนที่ แต่เวลาที่เราผ่อนคันเร่ง ตัวมอเตอร์เราจะทำงานตรงกันข้าม แทนที่มอเตอร์จะเอาไฟฟ้ามาใช้ มันจะอาศัยล้อที่หมุนอยู่ มาหมุนมอเตอร์(จริงๆต้องเรียกว่า ไดนาโม นะครับ)เพื่อปั่นไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ โดยแลกกับรถจะชลอความเร็วลงเร็วกว่ารถน้ำมันครับ ถ้าใครที่ใช้รถไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้า จะสังเกตได้ครับว่า เวลาเราถอนคันเร่ง รถเราจะหน่วงๆ เหมือนมันโดนดึงล้อ ก็เพราะระบบ Regenerative breaking นี่แหละครับ
Note : มอเตอร์ คือการรับเอา พลังงานไฟฟ้า มาเป็น พลังงานกล
ไดนาโม คือการรับเอา พลังงานกล มาเป็นพลังงานไฟฟ้า
2 อย่างนี้สามารถอยู่ในสิ่งเดียวกันได้ครับ ตัวอย่างคือมอเตอร์รถยนต์ครับ
ถ้าผมพิมพ์อังกฤษบ้างไทยบ้างก็ขออภัยนะครับ เนื่องจากคิดไปเขียนไป + ศัพท์บางคำผมก็ชอบทับศัพท์ไปเลย/ไม่รู้จะเขียนภาษาไทยไง มันเลยจะสลับๆกันบ้างนะครับ 😅
มันเป็นไปได้ แต่ก็ติดอย่างที่อธิบายมา มันจะแบ่งการชาร์จและการดึงไฟออก พอผ่อนคันเร่งมันถึงจะชาร์จ พอเร่งก็จะหยุดชาร์จและดึงไฟไปเลี้ยงมอเตอร์ สุดท้ายก็จะไม่สามารถทำให้มันเป็นแบบพลังงานไม่จำกัดได้ คงต้องรอเทคโนโลยีใหม่ๆผลิตมอเตอร์ใหม่ๆออกมา สามารถชาร์จไปด้วยขนาดวิ่งได้ และแบตใหม่ๆที่ทนความร้อนได้ หรือว่าอาจจะมีแนวคิดที่ว่าเอาพลังงานไฮโดรเจนมาผสมกับแบตและมอเตอร์ไฟฟ้าละ มันจะทำได้หรือป่าว เหมือนรถhybridแต่เปลี่ยนจากน้ำมันเป็นไฮโดรเจน
คิดง่ายๆว่า มอเตอร์ตัวเดียวกัน เปลี่ยนตัวเองเป็นไดนาโม ให้ได้รับพลังงานเท่ากับที่เสียไปตอนวิ่ง ต้องใช้ระยะทางที่เท่ากันในความเร็วเท่ากัน คือ สมมุติว่าวิ่งมาที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ในระยะทาง 1 กม. จะให้ได้ไฟกลับมาเท่าที่เสียไป คือรถต้องไหลเร็ว 100กม./ชม. เป็นระยะทาง 1 กม. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง
@@naruesornwattanapipat9718 ใช่ครับ เพราะในทางปฏิบัติ พลังงานไฟฟ้าที่ใส่ไปในมอเตอร์จะไม่ได้ออกมาในรูปพลังงานกล 100% แต่จะมีพลังงานบางส่วนออกมาในรูปพลังงานความร้อนแทน
@@palmsutthinan8781 อันนี้แค่คิดโง่ๆเลยครับ ว่ามันเปลี่ยนรูปจากพลังงานไฟฟ้าเป็นแรงขับ 100% มันยังทำไม่ได้เลย รถอะไรจะไหลเร็ว 60-70 ได้เกินกิโลแบบไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม ไม่ต้องมองถึงสูตรคำนวณ มองแค่การใช้งานจริงก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
สงสัยมานานแล้ว ขอบคุณมากครับ เห็นภาพและเข้าใจขึ้นเยอะเลย
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล👍👍👍
ต่อไปต้องทำได้แน่ครับ การพัฒนาไม่หยุดยั้ง ย่อมไม่สิ้นสุด แต่เมื่อคิดว่าสิ้นสุดเช่นเป็นไปไม่ได้ ก็ทำให้หยุดพัฒนา
ลองคิดเล่นๆ แก้ปัญหา เช่นแบตเตอรี่ 2ช่วง สลับชาจน์สลับจ่ายไฟ แยกส่วน +พลังงานเสริมจากโชล่าเซลล์ ไดชาจถ้ามันหนักปั้่นไฟได้น้อย ก็คิดออกแบบให้มันเบาและผลิตไฟได้เยอะขึ้นได้ครับ ระบบเพลาลูกปืนลดแรงต้าน ลองคิดถึงรอกขนาดเล็กนิดเดียว แต่ใช่ยกของหนักกว่าตัวรอกได้เป็นร้อยเป็นพันหลายพันเท่า ไม่หยุดคิดไม่หยุดทดลองซะอย่างอะไรก็เกิดได้
คุณเก่งมากครับ..ทั้งความรู้ ทั้งความสารถในการถ่ายทอด และความมานะหาสื่อประกอบ
ก่อนที่จะคิดเรื่องพลังงานอนัน สิ่งที่ควรคิดก่อนคือ จะทำยังใงให้ค่าต่านกระแสไฟฟ้าในวงจรทุกอย่างเป็น0 เข้า100 ออก100 โดยที่ไม่เสียพลังงานให้ได้ก่อน
I think so.
มันก็ย้อนมาเข้ากฎthermodinamicอยู่ดี เพราะยังไงก็เกิดความร้อนในระบบ
เปลี่ยนสายไฟเป็น superconductor ครับ แต่อาจจะเปลืองค่าฮีเลี่ยมเหลวหนอย
ถ้าใช้เเบตสองก้อนละพออีก้อนหมดให้สลับโดยอัตโนมัติ
เคยสงสัยแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่ชี้ทางสว่าง
ติดตามครับ.. ได้สาระ.. มากเลย.. ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆ..
สูตรตายตัวของกำลังงานขาออกคือ P out = P in - Loss เสมอ ดังนั้นไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนบนโลกที่จะทำให้พลังงานขาออกได้มากกว่าพลังงานขาเข้าแน่นอน ขนาดแค่ทำให้พลังงานขาออกได้เท่ากับพลังงานขาเข้า (ประสิทธิภาพ 100%) ยังไม่มีใครทำได้เลยครับ
ถ้าทำได้คงมีพลังงานฟรีๆแล้วละครับ😂😂
ถ้าเพิ่มefficiencyให้ได้มากที่สุดแล้วชดเชยlossด้วยโซลาร์เซลล์อาจจะเป็นไปได้ แต่ถ้าถึงยุคที่effสูงขนาดนั้นคงยัดเตาปฎิกรณ์ใส่รถได้แล้วมั้ง555
@@PrasinMike ถ้าใครที่ฝืนกฏเทอร์โมไดนามิกได้นี่ เขาคนนั้นคือเทพแน่นอนครับ 😂
@@user-wp4xl6yc3l ทำได้เอารางวัลโนเบลไปเลย
พูดแล้วพูดอีกครับเรื่องนี้ จำเรื่องที่มีลุงแก่ๆคนนึง ผลิตเครื่องปั่นไฟโดยใช้มือหมุนแค่ 2-3 ที แล้วสามารถใช้ไฟได้เป็นวันได้ไหมครับ ผมแค่ไปแสดงให้เห็นในเรื่องที่ได้เรียนมา ว่าถ้าทำตามที่ลุงทำ แค่ใช้มือหมุน 2-3 ที แล้วใช้ไฟได้ทั้งวัน มันไม่สามารถทำได้ โดนทัวร์ลงยับเลย โดนด่าสะเสียคน จนผมต้องลบเม้นทิ้ง
ถ้าลุงคนนั้น ทำแบบนั้นได้จริง ป่านนี้คงรวยกว่าอีลอน มัสก์ แล้วล่ะครับ สามารถผลิตกำลังไฟขาออกได้มากกว่าขาเข้าเป็น 1000 เท่าเลย 😂
แบต2 ลูก มี function switch battery bat 1 ไช้งาน bat2 ชาร์ต bat1 หมด switch bat2 ใช้งาน bat1 ชาร์ต function ชาร์ต ใช้ ขดลวดทองแดง ปั่นไดนาโม ไม่มีการเสียดสี มี function สัก 3 ตัว แล้วแต่กำลังไฟที่ไห้ อีกอย่าง ถ้า bat ก้อนเดียว ไช้ไป ชาร์ตไป เสือมไว ร้อนด้วย อันตราย
ไม่มีการเสียดสี อันนี้ทำยังไงครับ
ขอคุณความรู้ที่ท่านให้มา กระจ่างแจ้งเลยทีเดียว เห็นผลลับและข้อสรุปแล้วโดยที่ไม่ต้องลงมือทดลองอีกเรา
ขอบคุณมาก สงสัยมาตั้งนานแล้วครับ
วันนี้ทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีวันเป็นไปได้.....
Power bankมีแน่นอน
เท่าที่ผมจำได้ตอนผมเรียน อาจารที่สอน Thermodynamic แกมักจะพูดเสมอว่า"ไม่มีเครื่องจักรกลความร้อนใดๆเลยที่จะไม่เกิดการสูญเสียพลังงานในการทำงาน" (อันนี้ผมไม่รู้ว่าใช้ได้กับมอเตอร์ในปัจจุบันไหมนะ) ค่อนข้างจริงครับเพราะ กฎข้อที่ 1 มักจะมองว่าการย้อนกลับของวัฏจักรการทำงานหรือการสร้างพลังงานเองโดยที่ไม่มีแหล่ง เป็นไปได้ แต่กับกฏข้อที่ 2 มันจะขัดกันทันที่ครับ ประมาณว่าถ้าคุณอยากฝืนธรรมชาติคุณต้องแทรกแซงมัน
สุดยอดมากครับ ทรงคุณค่าสุดๆ
ทำคลิปได้ดีมาก และมีความรู้จริงๆ ยอมซับเลย
ถ้าตราบใด ยังมีปั้มน้ำมัน+ค่าน้ำมันไม่ใช่1ลิตร/100บ(ค่าแรงต่ำกว่า600)
ผมก็จะยังใช้รถน้ำมันอะครับ
ปล. ยกเว้นมีชุดแปลงรถเก่าเป็นรถไฟฟ้า+จำลองเสียงเครื่องสันดาบอะครับ
ง้อวววว ...เสียงตอนเรียกอย่างติ๋มเลยครับ🤣🤣🤣หยอกๆ เท่ดีครับ
ชอบเสียงตอนเปิดคลิปมากครับ แลดูมีอนาคต
ใครสามารถสร้างอุปกรณ์ที่มี Perpeputual motion แบบสมบูรณ์ได้นี่คือเทพ แต่อย่างว่า หลักของการ conserve/ convert พลังงานคือ พลังงานเข้ากับออกต้องเท่ากัน แต่ที่ดูเหมือนหายไปคือมันแปลงไปเป็นพวกความร้อน หรือพวก kinetic energy ที่หายไป
ถ้าแนวความคิดเปลี่ยนไป คือไม่ได้ให้วิ่งตลอดไป แต่จะเป็นการลดการชาร์ตไฟลงหละครับ คือทำแบตเตอรี่เป็น 2 สวิทซ์ คือใช้แบตก้อนที่ 1 (ปิดสวิทซ์ส่วนที่2) ด้วยระบบชาร์จไฟ แล้วทำแบบที่ 2 ให้เป็นแบตชาร์ตไฟจากการวิ่ง และเมื่อใช้แบตส่วนที่ 1 หมดแล้ว ให้สับสวิตซ์มาใช้ส่วนที่ 2 แล้วกลับส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่ชาร์จไฟจากการวิ่งแทน สามารถทำได้ใช่หรือไม่
ยากครับ มันต้องใช้พลังงานกลมากในการสร้างไฟฟ้า ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ เช่น ไฟฟ้า100 หมุนมอเตอร์ได้ 50 แล้วมอเตอร์ที่หมุนได้50 ชาร์จไฟฟ้าได้แค่10-20 มันได้ไฟฟ้ากลับมาน้อยกว่าเดิมครับ พลังงานฟรีมันเลยยังเป็นไปไม่ได้ครับ
@@user-oe1vk5yz8zถูกต้องสุดครับ
ได้ แต่ต้อง มีการ switch แบตแบบ manual และรถต้องหยุดนิ่ง ก่อน ถ้า switch แบต จาก 1 ไป 2 ขณะขับขี่รถวิ่งอยู่นั้น กินกระแสสูงมาก จะเกิดการอาร์ค และความร้อนสูงมาก อาจระเบิดหรือไหม้ได้
กินไฟกว่าเดิมครับ เพราะคุณไปเพิ่มวงจรมากขึ้น วงจรชาร์จไฟที่เพิ่มมามันก็ทำให้มีพลังงานlossในระบบมากขึ้นไปอีก
แค่ใช้โซล่าเซลล์แผ่นเล็กๆก็อัปไฟสูงๆต่ไปเลื่อยๆและใช้วัสดุที่เบา แค่นี้ก็ได้พลังงานมากพอที่จะขับเคลื่อนได้แล้วครับ เช่นการอัปไฟที่ผมทำที่บ้าน ผมใช้แค่ 0.20 โวลต์ อัปเป็น12DCอัปกำลังวัตแล้วก็อัปเป็น24 โวลต์วัตสูงแล้วก็อัปเป็น 220โวลต์ACวัตสูงให้เท่ากับไฟบ้านปกติ แล้วใช้แปลงเป็นไฟ24vเมื่อไฟคงที่ก็อัปเป็น220v. แค่นี้ก็ได้พลังงานฟรีที่ไม่มีวันหมดแล้วครับ แค่มีข้อจำกัดเล็กๆคือถ้าใช้ไปนานๆมากๆวงจรบางส่วนอาจเสียแต่ก็ไม่แพงมากครับไม่ถึง500บาท โปรเจคนี้ผมทดลองแล้วได้ผลจริงๆดีมากๆ อยากให้มีคนต่อยอดมากๆครับ ผมแค่เป็นเด็กอายุ16ครับ คงไม่มีงบที่จะทำโปรเจคใหญ่ๆได้ครับ😅😅 อนาคตของชาติ
โซล่าเซลล์เป็นพลังงานฟรีจากแสงอาทิตย์ แต่แผงโซล่าเซลล์ให้พลังงานจำกัดครับ พลังงานคือโวลต์ x แอมป์ = วัตต์ครับ ยกตัวอย่างในคลิปสกูตเตอร์ไฟฟ้าใช้ไฟ 2 แอมป์จากแบต 45 โวลต์เท่ากับ 90 วัตต์ ถ้าต้องการไฟ 90 วัตต์จากแผงโซล่า 0.2 โวลต์แผงโซล่าต้องจ่ายกระแสได้ 450 แอมป์เลยนะครับ สมมุติแผงมันจ่ายไหว สายไฟจะเส้นเท่าท่อน้ำ แนะนำให้ทดลองกับแผงโซล่าที่โวลต์และกระแสสูงหน่อยนะจะได้กำลังวัตต์สูงครับ อาจจะไม่พอสำหรับรถไฟฟ้าแต่เอามาชาร์จแบตเปิดไฟแสงสว่างลดค่าไฟได้ครับ ชอบทดลองและประดิษฐ์อะไรพวกนี้เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ พัฒนาต่อไปนะครับ
@@SandwishMedia เยี่ยมมากเลยครับ ขอบคุณครับผม
@@SandwishMedia ช่วยเสริมครับเผื่อจะมีใครแวะมาอ่าน ตามหลักการข้างบนทำให้ระบบจ่ายไฟจะมีแรงดันหลายระดับ เพื่อให้ส่งกำลัง(Watt)ได้เท่าเดิมโดยใช้ขนาดสายไฟที่เล็กลง
ตอนนี้ทำดีมากๆเลยครับ เวลามีคนตั้งคำถามนี้ เอาคลิปนี้ไปเปิดให้ดูได้เลย สุดยอด
ดีมากเลยครับแบบนี้
จารย์ ทำเรื่องรถ ไฮโดรเจนหน่อยครับ
คือถ้ามันจะให้มีรถไฟฟ้าที่วิ่งได้ตลอดจริงๆวิธีการเอามอเตอร์ไปหมุนไดชาร์จคงไม่ได้อยู่แล้ว คงต้องไปแก้ตรงระบบชาร์จไฟที่ได้จากแหล่งอื่นอย่างโซลาร์เซลล์หรือตอนเบรคไม่ก็ระบบกันสเทือน(ซึ่งที่พูดมาค่ายรถใหญ่ๆก็ทำกันหมดแล้วล่ะ)
มันมีการสูญเสียคาร์บอน(พลังงานพื้นฐานที่ถูกใช้ไป) มวลหรือสภาพภายในของทุกสิ่ง มันก็ล้วนผุพัง ไม่มีอะไรเสถียรได้หรอก นอกเสียจากจะไม่สูญพลังงาน(คาร์บอน)หรือ ทำให้พลังงานนั้นแปลงกลับมาในรูปเดิมได้แบบอุดมคติ
สุดยอดมนุษย์จริงๆความคิด
น่าจะทดลองขับเคลื่อนล้อหน้า
แล้วล้อหลังใช้ปั่นไฟกลับน่าจะได้ระยะทางเพิ่ม
และแล้วสิ่งที่ผมคิดมาตั้งแต่เด็ก ว่าทำไมไม่ชาทที่ล้อก็มีคนคิดเหมือนผมแล้ว😂
มีคนคิดแบบนี้เยอะครับ แต่มันทำไม่ได้จริงไงครับ
บางคนแก่จนตายก็ยังปักใจเชื่อว่ามีฟรีเอนเนอยี่
ถ้าใช้แรงกดของล้อแล้วไปช้าจน่าจะทำได้
ได้ความรู้มากขึ้นคับ
ใช้พลังน้ำปั่นไดนาโม น่าจะถูก หรือใส่แบตเตอรี่ในรถขนาดเล็ก ติดแผงโซล่าเซลล์ วิ่งไปชาร์จไป แต่ไม่ต้องวิ่งเร็วครับ
คือพอเราใช้พลังงาน พลังงานมันก็ต้องเปลี่ยนรูปจากแบบหนึ่งไปอีกแบบหนึ่งอะ เช่นรถน้ำมันจากพลังงานที่เป็นน้ำมันก็จะเปลี่ยนมาเป็นความร้อนเครื่องยนต์-เสียงท่ออะไรแบบนี้ แต่ถ้าสมมุติว่าเราสามารถกักเก็บพลังงานทุกรูปแบบได้100% แล้วเอามาเปลี่ยนใช้ไปมาเรื่อยๆ โดยไม่เกิด loss ระหว่างทางแบบนี้น่าจะเข้าท่ากว่า
มันทำแบบนั้นไม่ได้ตลอดครับ เดี๋ยวมันก็หมดไป แค่นานขึ้น แต่ยังไงก็หมด
มีอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์คือ ไฮโดรเจนยิงตรง มลพิษแทบไม่มี แต่ยังได้ฟิลิ่งเหมือนรถน้ำมัน
ขั้นตอนการผลิตไฮโดรเจน ก็สร้างมลพิษครับ เทียบกับรถน้ำมัน มันต่างกันแค่สร้างตอนไหน รถน้ำมันสร้างมลพิษตอนเครื่องยนสันดาป รถไฮโดรเจน สร้างมลพิษตอนผลิตเชื้อเพลิงครับ
อะไรที่เป็นประโยชน์ มักจะโดนคุมกำเนิด100%
สุดยอดครับ กะจ้างเลยครับผม
ใครทำได้ คนนั้นตายก่อน โดนเก็บ เพราะโลกถูกขับเคลื่อนด้วยอำนาจและผลประโยชน์ ดูอย่างประเทศเรา คนเก่งๆฉลาดๆเป็นนายกไม่ได้ หลักๆเพราะอะไร??
ไปเก่งกว่าหลักฟิสิกซะละ
ผมว่าเจ้าของเม้นนี้เขาพูดถึงความเป็นจริงนะครับ
@@elzaznk1160จริงๆแล้วผมว่ามันไม่ได้ยากเลยนะถ้าจะทำ...ยกตัวอย่างรถยนต์กับรถมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้...มันก็ชาร์จแบตในตัว..แบตเตอรี่ 1 ลูกใช้ได้ 2-3 ปี...แล้วรถไฟฟ้าถ้าจะทำจริงๆทำไมจะทำแบบชาร์จแบตในตัวไม่ได้...การตลาดล้วนๆครับ
หลอนเห่ไรครับ
ถ้าเขาปล่อยให้ทำ ใครจิมาจ่ายภาษี ระบบจิไปรอดนิ
หลังจากนั้นเราก็ไม่เจอ แซนวิซ มิเดีย อีกเลย 💀
เก็จเลยงานนี้👏👏
ตามหลัก thermodynamic เป็นไปแทบไม่ได้เลยครับ มันมีการสูญเสีย ต่อให้สูญเสียน้อย มันก็จะหยุดในที่สุด
ที่แหกกฎไม่ได้เพราะมันไม่ใช่กฎหมาย แต่มันเป็นกฎธรรมชาติ555
แต่มนุษย์เราชอบฝืนกฎธรรชาติอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรได้แบบทุกวันนี้
มันก็แค่กฏที่คนตั้งขึ้นแหล่ะครับ เพียงแต่ตอนนี้กฏนี้มันยังถูกอยู่ แล้วคนคิดจะแหกมันก็ยังคิดไม่ได้ด้วย แต่กฏนี้มันน่าจะผิดยากแล้วล่ะครับ
@@user-vh5bk9lh8v เช่นอะไรครับ
@@user-vh5bk9lh8v ไม่จริงครับ ไม่มีอะไรฝืนกฏธรรมชาติได้ครับ เครื่องบินยังไม่ฝืนกฏธรรมชาติเลยครับ
@@user-vh5bk9lh8v แต่สิ่งประดิษฐ์ที่สำเร็จมาทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรแหกกฎธรรมชาติเลยซักอันนะครับ
ตอนหน้าอยากให้ทำ ประวัติการเเข่งขัน Dakar ได้ไหมครับ 😊
+1
การใช้เฟืองทดแรง ไม่รู้จะเอามาใช้กับการชาร์จแบตได้หรือเปล่า หรือแค่สว่าน โปรดักชั่นดีมากครับ
ยิ่งเพิ่มเฟืองยิ่งสูญเสียพลังงานที่่เฟืองครับ
อยากดูประวัติรถ suzuki hayabusa ครับ
บอกตรงๆเลยนะว่า admin ช่องนี้และทีมงานช่องนี้ ไอดอลเลยครับ ไลฟ์สไตล์การตัดต่อการทำวีดีโอสุดยอด อยากมีคุณสมบัติแบบพวกคุณมากๆเลย 👍
อนาคตอาจจะเป็นพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นครับ พลังงานที่ใส่ทรัพยากรไปและผลลัพธ์ได้เยอะกว่าทรัพยากรแบบเดียวกับดวงอาทิตย์ที่ใช้อะตอมชนกันจนหล่อหลวมกันเป็นพลังงานแสงอาทิตย์และส่งมาที่โลก ตอนนี้มีนักวิจัยคิด algorithm เสร็จแล้วเหลือแค่วิธีออกแบบและสร้างแต่มันต้องวิจัยผลเสีย ผลลัพธ์อีกว่ามีปัญหาที่ยากเกินแก้หรือไม่ อนาคตไม่แน่ไม่นอนครับทุกวันนี้มนุษย์วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์ได้ไวมากกว่าเมื่อก่อนหลายร้อยเท่า
แต่นานมากกกกที่จะมาอยู่ในรถยนต์ครับ เพราะขนาด เร็วสุดก็เป็นโรงงานผลิตไฟฟ้า ถ้าย่อส่วนมาได้ก็ยานพาหนะขนาดใหญ่ เรือสินค้า เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำน้ำ
นิวเคลียร์ มีใช้แล้วในเรือดำน้ำ เอาความร้อนไปปั่นไฟฟ้าเหมือนกัน
@@PrasinMike นั่นมันนิวเคลียร์ฟัชชั่นครับ ต่างจากฟิวชั่นเยอะ ผลลัพธ์น้อยกว่า(มากๆ) ผลเสียเยอะกว่า อันตรายกว่า
คำถาม ฟิวชั่นกับฟัชชั่นผลลัพธ์ต่างกันอย่างไร
สมุมุติคุณมีทรัพยากร 100 หน่วย
ปฏิกิริยาฟิวชั่น
คุณให้พลังงานไป 100 หน่วย
ผลลัพธ์จะได้ 120 หน่วย
ปฏิกิริยาฟิชชั่น
คุณให้พลังงานไป 100 หน่วย
ผลลัพธ์จะได้ 50 หน่วย
และนี่คือข้อแตกต่างของผลลัพธ์ และแน่นอนยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆเช่น กระบวนการ วิธีการผลิต ต้นทุน ทรัพยากรที่ใช้ ระยะเวลาคืนทุน และผลลัพธ์จริงมันจะเป็นเหมือนดวงอาทิตย์หรือไม่ที่ยืออายุพลังงานของตัวเองให้อยู่ด้วยนิวเคลียร์ฟิวชั่นได้นานมากกว่า5พันล้านปี สุดท้ายก็ต้องดูนายทุนรายใหญ่ตึงๆที่กล้าลงทุนในอนาคตแหละครับ เพราะมันเป็นพลังงานแก่ทุกสิ่งในโลกของเราจริงๆ
@@ELGATOlikeyourcat เอามาใส่ในรถใช่ไหมครับ หรือใช้ในการผลิตไฟฟ้า ?
@@sreebuarom ผมว่าอยู่ที่ขั้นตอนการผลิตของมันว่าจะยากหรือง่าย ในอนาคตยังมีเทคโนโลยีอีกหลายอย่างให้ตั้งตารอดูครับ ทุกวันนี้เทคโนโลยีไปไวมากๆจนมนุษย์ทั่วไปแทบจะตามกันไม่ทัน ทั้ง การใช้โซล่าเซลล์เป็นไฟฟ้า ใช้พลังงานไฟฟ้ากับรถ aiวาดภาพ aiจำลองเอกภพ aiเทรด Chatgpt ระบบสกุลเงินดิจิทัล พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น กล้องเจมส์เว็บ ทฤษฎีควอนตัมที่ถูกต่อยอด การพัฒนาเทคโนโลยี%จีโนม และอื่นๆอีกมากมายมหาศาล ที่รอพัฒนาขึ้นไวมากๆ สมัยยุคก่อนจะวิวัฒนาการเป็นโฮโมเซเปียนเราใช้เวลาเป็นแสนๆปีเลยนะครับกว่าจะวิวัฒนาการเป็นลายลักษณ์อักษรและใช้เครื่องมือเป็น หลังจากนั้นก็วิวัฒนาการไวเป็นทวีคูณจนมาถึงปัจจุบัน ลองดูการเปรียบเทียบปีเป็น%หรือเป็น^ ได้ครับ มนุษย์ใช้เวลาวิวัฒนาการไวกว่าเมื่อก่อนมากและมีแนวโน้มจะมากกว่านี้อีกหลายเท่า ปราบใดที่ทรัพยากรโลกไม่หมดไปก่อนหรือสภาพแวดล้อมในโลกมันไม่แย่ไปมากกว่านี้อ่ะนะ
ได้แค่นิดหน่อยครับ ตัวมอเตอร์ จะสลับกลับเฟรทไฟไปที่ตัว Inverter และจะแปลงกระแสจาก AC มาเป็น DC แล้วไหลกลับมา converter จากนั้นจะไหลกลับไปยังแบตเตอรี่ โดยมีBMSเป็นตัวควบคุม แต่เปอร์เซ็นต์การไหลกลับมาชาร์จนั้น น้อยมาก เมื่อเทียบกับกำลังไฟที่ใช้งานไป คิดเป็น 5-10%จากการใช้งานเมื่อชาร์จกลับ ผมเป็นfcนะครับ 2ปีแล้วชอบการนำเสนอมากๆครับ
ยังมีการสูญเสียพลังงานในระหว่างการแปลงพลังงานหรือการเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานอยู่พอสมควร แถมเทคโนโลยีในปัจจุบันยังทำไม่ได้ ถึงทำได้ก็แพงมากๆครับ
ถ้าเป็นในเชิงอุดมคติก็ทำได้ครับ เพราะไม่คิดการสูญเสียพลังงานในระหว่างการแปลง
ลองไปหาเรื่อง perpetual motion ในการผลิตเฟืองของนาฬิกาดูนะครับ ที่ต้องสบัดบ่อยๆอะ แรงในโลกมี
1แรงโน้มถ่วง
2แม่เหล็กไฟฟ้า
3นิวเคลียอ่อน
4นิวเคลียเข้ม
แรงเหล่านี้จะเปลี่ยนกันไปมาระหว่าง4แรง เสมอแล้วมันไม่เคยเกิดใหม่หรือหายไปครับ
มันทำได้เขาทำแล้วครับ กว่าจะได้รถสักคัญวิศวกรนั่งคิดนอนคิด ถึงขั้นเก็บไปฝันเลย
มอเตอร์-เจนเนอเรเตอร์มันมีค่าP loss
ถ้า ทำได้จริงๆคงใช้ไฟฟ้าฟรีไปแล้วละครับ
1 มีไม่หายอย่างเดียวคือแรงโน้มถ่วง แต่จะเอาอะไรมาถ่วงให้เกิดพลังงานจล ไปปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าละครับ ถ้าบอกว่าน้ำ แล้วเอาพลังงานอะไร ขนน้ำขึ้นไปปั่นอีก สรุปมันก็เสียไปอยู่ดี
2 แม่เหล็กไฟฟ้า ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำแม่เหล็ก อยู่ดี
3 - 4 ก็ต้องใช้ยูเรเนียม ในการสร้างพลังงนความร้อนไปต้มหม้อไอน้ำ ปั่นออกมาเป็นไฟฟ้า สิ่งที่เสียไปคือ ยูเรเนียม
นาฬิกาใช้แรงจากการที่เราต้องสบัดไปไขลานครับ ไม่ใช่ perpetual motion
0:00ไม่ชอบครับ ชอบฟังเสียงท่อหวานๆ🗿
เสียงมอเตอร์ก็หวานไปอีกแบบนะครับ อุอิ
ผมกำลัง พัฒนาไฟฟ้าไร้สายอยู่ครับ หลักการทำงาน คล้ายๆกับสัญญาญมือถือ แต่เป็นรูปแบบไฟฟ้า ตอนนี้พัฒนาไปได้80%แล้ว ต่อไปรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องจอดชาร์ทไฟฟ้าครับ
ผมกำลังศึกษาโปรเจคนี้อยู่ แล้วมองว่าสิ่งที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่องและทดแทนการใช้งานไฟฟ้าได้มากที่สุดคือลมครับ ใช้พลังงานกังหันจากแรงลมรถที่ขับ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและระบายความร้อน ได้ประโยชน์สองอย่างและลดอัตราการกินไฟเหมือนการใช้หัวฉีดแทนการจ่ายน้ำมันโดยตรง ถึงไม่สามารถใช้หมุนเวียนตลอดได้แต่สามารถทดแทนและลดการใช้พลังงาน ทำให้ทำงานได้นานขึ้น
ส่วนตัวคิดว่ารถไฟฟ้าควรพัฒนากับเก๋งก่อนมากระบะ เพราะกระบะตัวถังใหญ่และโต้ลม จะกินพลังงานเยอะมาก แถมมอเตอร์ต้องใหญ่ตามเพื่อส่งกำลัง ราคาแพงขึ้นไปอีก กระบะควรเป็นไฮร์บริดก่อน
8:46 กดให้เขาเถอะครับลงทุนตัดซะขนาดนี้555555
แล้วเสียงตอนท้ายนี่มัน!!!55555
Yamete kudasai~~ah~~~
เคยทดลองแล้วครับ ไม่เป็นอย่างที่คิด เราไม่สามารถแหกกฏได้ เหมือนกินข้าวเข้าไปทางปากแล้วเอาอุจจาระมา รีไซเคิลกิน วนไปวนมาอีกรอบ
เพราะการคิดค้นเพื่อหาประโยชน์ ในสินค้าอบ่างต่อเนื่อง
เคยคิดอยู่ว่า แบ่งแบ็ทตารี่เป็นสองชุด ชุดหนึ่งใช้งาน อีกชุดใช้ไดปั่นไฟเข้า สลับกันไปมาระหว่างวิ่งเมื่อชุดที่วิ่งหมดก็สลับกลับไปชาร์ท มันยังงี้นี่เองถึงทำไม่ได้ แต่ต่อไปอาจจะมีการพัฒนาต่อไปได้ ทำอย่างไรจะไปลดแรงหน่วงในขณะล้อที่สี่หมุน ลดความร้อนจากมอร์เตอร์ หรือเอาความร้อนจากมอร์เตอร์กลับมาเป็นพลังงาน เสียดายไม่มีความรู้เรื่องนี้จึงได้แต่เดาถึงความจะเป็นไปได้. แต่เชื่อว่าอยู่ว่า มนุษย์ต้องทำได้สักวัน
แบ่งแบบนั้นมันจะมีน้ำหนักเพิ่มมามอเตอร์ใช้ไฟมากขึ้นเพราะน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ทำได้ง่ายมากๆ ชาร์ทระหว่างวิ่งได้ครับผมมีวิธีการให้พลังงานมีใช้ตลอดครับ
เเล้ววิธีของคุณคืออะไรครับ อยากรู้มากเลย
1.แรงแม่เหล็ก ที่ผลักหมุนกันไปมา อาจจะพัฒนาไปได้ไกล จนปั่นไฟได้
2.โซล่าเซลล์ แผงที่พัฒนาดูซับ
3.ตอนนี้ เห็นช่วยแค่เวลาเบรค แล้วไปปั่นไฟ
1จีนทำอยุ่แนวคิดดรสลัม
ใช่ผมก็คิดแบบพี่นี้และ..ใช้พลังงานกล..แปลงเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า
ลงลึกแล้วน่ะครับ มอเตอร์ขับเคลื่อนใช้ไฟฟ้าเยอะครับ ถ้าเอาอันเทอร์เนเตอร์มาปั่นไฟก็ได้ครับ แต่ได้น้อยกับพลังที่ใช้ไปมากกว่าครับ มอเตอร์ขับเคลื่อน W เยอะกินไฟมาก แต่อันเทอรเนเตอร์ W น้อยคงไม่ไหวเราะครับ ไฟจากแบตเตอรี่ก็หมดอยู่ดี
ต้องคิดให้เยอะครับ
แสงอาทิตย์ น้ำ อากาศ ฟรี
เราทำแบบมีแบตเตอรี่เอาไว้-2-ชุดสิครับ-ชุดหนึ่งทำงาน-และจ่ายไฟไปที่-แบตสำรองสัก-30-/*%ส่วน70%ไปขับมอเต้อร์ที่ใช้งานอยู่-
ถ้าจะทำผมว่าก็ทำได้ โดยเพิ่มแบตเข้าไป เช่นจากเดิมใช้ 4 เพิ่มเป็น8 โดยแบ่งเป็น2ส่วน เวลารถวิ่งแล้วไฟจะทำการชาร์จแบต4ลูกในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานพอรถวิ่งไปจนไฟแบตในส่วนที่ใช้งาน(4ลูกต่ำกว่า30%)เราก็กดปุ่มให้สลับไปใช้ในส่วนอีก4ลูกที่ถูกชาร์จไฟจนเต็มแล้วแทน แล้วไฟที่ชาร์จก็จะสลับไปชาร์จแบตในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานแทน สลับไปสลับมาแบบนี้ไปตลอดผทว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า เพราะไฟที่ชาร์จไม่ถูกจ่ายออกเพราะมันเป็นคนล่ะส่วนกัน
วิ่งได้ไกลกว่ามีแบต ชุดเดียว คิดเหมือนกัน การชาร์จ1ครั้งก็จะประหยัดไปอีก
เสียงต้นคลิปอย่างหล่อ เสียงท้านคลิปขนลุกเลย
ต้องมีไดชาร์จรุ่นอื่น ที่มันไม่กินแรงมอเตอร์ แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาขึ้น
แล้วก็ เมื่อรถวิ่งก็หลีกเลี่ยงลมที่ต้านกับตัวรถไม่ได้ ก็หาวิธีใช้ลมช่วยปั่นไดชาร์จด้วยเลยละกัน
ไม่มีทางครับ
ขอประวัติ ohlins หน่อยครับ ขอบคุณครับ สู้ๆคับพี่
สุดยอด
ปัจจุบันพัฒนา generator ไปถึง generation 3 แล้วครับ ทำงานได้โดยไม่มีส่วนใดหมุนหรือเคลื่อนที่
Motionless เพื่อตัดปัญหาการสูญเสียพลังงานโดยใช่เหตุ จึงได้พลังงานส่วนเกินมากขึ้น จึงขาดเหตุผลที่กล่าวอ้างว่าขัดกฏเทอร์โมไดนามิกส์ ผลพลอยได้คือไม่มีกลไกส่วนไหนสึกหรอครับ
หากใช้เทคโนโลยี การหมุนเพื่อปั่นไฟ อาจเป็นไปได้ครับ หากใช่ เเบตเตอรี่ 2ชุด ครับ ชุดแรก ใช้พลังงานเพื่อขับเคลื่อน รถและได้แรงหมุน ไดนาโม เพื่อไปชาร์จ แบตเตอรี่อีกชุด ครับ และเมื่อ ชุดแรกแบตเตอรี่หมด ก็มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์สลับไปใช้ ชุดแบตเตอรี่ชุดที่2 แล้วชาร์จชุดที่1 วนสลับไปเรื่อยๆ แบตเตอรี่ชุด1และ2 สลับกันใช้พลังงาน และชาร์จ อาจะเป็นไปได้
อันนี้ได้ครับ ผมคิดจะทำยังนี้นานแล้ว แตงบประมาณไม่มีครับ
เดี๋ยวไม่นานก็แก้ได้ปัญหาแค่นี้เอง เช่น1.แบตที่ชารต์เต็มเร็วขึ้น ในรถถึงจะเสียแรงการการชาร์ตไปบ้างแต่รถก็ไปต่อได้ไม่ต้องหยุดชาร์ตนานๆ 2.รถยนต์ไฟฟ้าน้ำหนักเบา ใส่ชุดแบตไว้2-3ชุด ก็คงไม่หนักเท่าไหร่ แต่รถไปได้ไกลขึ้น
ถ้าพูดถึงเรื่องปัญหาของแบตเช่นชาร์จได้เร็วขึ้น น้ำหนักรถร้อยลงใส่แบตได้มากขึ้นอาจจะเล็กน้อยเหมือนที่พี่บอกครับต้องรอดูกันไปแต่เรื่องของกฎเทอร์โมที่จะให้มีพลังงานทดแทนไปเรื่อยๆไม่มีวันหมดยังเป็นไปไม่ได้นะครับถ้าพอรู้เรื่องนี้จะเข้าใจ
ติดตามครับ
สมมุติถ้าเรามีแบต2ลูกอยู่ในรถ1คันสลับกันใช้ทีละลูก ลูกที่1ใช้ไปเหลือความจุ50%สลับมาใช้ลูกที่2 ความจุ100% ชาร์จลูกที่1ระหว่างขับไปจนเต็มสลับกลับมาใช้ลูกที่1 สลับกลับไปชาจลูกที่2ระหว่างขับต่อ
ขอประวัติtoyota chaser cresta mark2 หน่อยได้ไหมครับ
ถ้าสรุปจากคลิปคือ ตัวต้นกำเนิดที่จะให้พลังงานได้ไม่มากเท่ากับที่เสียไป
ซึ่งในส่วนของรถ hybrid ก็ไม่ใช่พลังงานอนัน มันคือการเอา lose ที่จะเกิดขึ้นขณะขับด้วยน้ำมันมาสร้างพลังงาน
งั้นเราสามารถใช้ lose ที่เกิดกับรถ ev มาใช้ได้ไหมครับ หรือมันมีน้อยมากจนใช้ไม่ได้ 🧐
ทำฝาครอบล้อเป็นใบพัด ให้มันหมุนชาร์ตแบตสำรองใว้อีกลูก ได้ใหมครับ
ใช้ แบต 2 ชุดครับ และใช้ bms มาบริหารจัดการแบต ใช้งานลูกที่ 1 เหลือ 30% bms จะตัดไปใช้แบตอีกตัว ส่วนอีกตัว ก็ทำการชาร์จตัวมันเองจาก ไดร์ชาร์จครับ แล้วจะใช้กำลังจากตรงไหนมาหมุนไดร์ เราก็ ทำเกียร์ทดรอบเพื่อนำมาหมุนไดร์ชาร์จ ไม่ใช้กำลังโดยตรงจากมอเตอร์ขับ และอีกทาง ใช้กำลังลมในระหว่างวิ่งมาผลิตไฟฟ้าแทน
ถูกต้อง
สิ่งเหล่านั้นคือ loss ก็จะไปกินพลังงานของแบตเตอรี่เหมือนเดิม
นิสสันคิกเลยครับแน่นอน❤
ผมชอบนะ แต่แค่เครื่องสันดาบยังไม่มีปัญญาซื้อเลยตอนนี้ ขับ cc น้อยไปอย่างเวฟ110i โฉมแรกไปก่อน😅😅
เขาเรียก free energy ไม่สามารถทำได้ครับ พลังงานไม่พอ มันกินกำลังกันเฉยๆ รถไฟฟ้าถ้าอยากให้ไว แนะนำหาที่สลับแบต ดีที่สุด
ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ชอบ และอยากมีรถไฟฟ้า แต่รอให้ระบบชาร์จสาธารณะมันครอบคลุม และต้องมีบ้านของตัวเองที่มีจุดชาร์จ ยังมีคนที่เช่าที่อยู่อาศัย อยู่คอนโดบ้าง จึงไม่สะดวกมีจุดชาร์จของตัวเอง
ต้องลองใช้มอเตอร์กำเนิดไฟ2-4 เท่าและใช้กลไกเฟืองทดอัตราให้เร็วกว่ารอบเดิมไหนๆจะกินไฟแล้วก็ขอทดรอบให้มันเร็วขึ้นเพื่อให้ได้ไฟที่จ่ายมาชดเชยกันได้
พี่คับๆข้อประวัติ ford f-150 raptor หน่อยคับ
ต้องถามโทนี่สตาร์ค ไอรอนแมน ให้ผลิตแบตเหมือนที่อยู่บนหน้าอกนายได้ไหม😅😅
ฟังตั้งนาน
ขอให้โชคดี คนซื้อ แบตแพงมาก
ผมเชื่ว่า อีกไม่นานคงทำได้แน่นอน... วิ่งไปโดยพลังงานไม่มีวันหมด.... หรือขอแค่ชาร์ทไฟในเวลาที่ไม่เกิน10นาที... แล้ววิ่งได้ระยะทางมากๆ... มากๆ นี่คือขอสัก 1,500 กม. ขึ้นไปคับ.... ✌✌✌👍👍👍❤❤❤❤❤
ใกล้เคียงสุดตอนนี้ก็คงติดแผ่นโวล่าแหละครับอาจจะเพิ่มได้อีกนิดหน่อย
ในคลิปลืมพลังงานจากลม เวลารถวิ่ง
ทำข้อมูล รถพลังงานแอมโมเนียหน่อยคับ เห็นว่าประหยัดกว่าไฟฟ้ามาก เติมได้ไวกว่ารถไฮโดรเจน
พลังงานที่ดีที่สุดและสะอาดที่สุดจริงๆคือนิวเคลียร์
เคยคิดอยู่เหมือนกันครับ
ใช่ครับผมก็อยากรู้เหมือนกัน ไม่มีที่ชาร์จ
ทำประวัติโช๊ค ohlins ได้ไหมครับ
เคยคิดเรื่องแบบนี่อยู่ว่าทำไม ตอนนี้รู้ละจากช่องนี้
ขอบคุณที่ทำให้หายสงสัยครับ ได้คำตอบแล้วว่าผมไม่ใช่คนอินเดียนั่นเอง กดLike+Sub รัวๆ
มาแบบเสียงหล่อเลยน่ะ
วันนี้ยังทำไม่ได้ แต่อนาคตจะทำได้แน่นอน...
ต้องใช้พลังงาน ลม ช่วย ติด เจน ตัวเล็กไปเยอะๆ เวลา วิ่ง ชาร่จเข้าแบต ที่2
แล้วก็สลับกันชาร์ท
แบตสำรองเหมือนโทรศัพท์น่าสนใจนะ