สุดท้ายเขาก็ต้องเข้าไปใช้ที่ระบบอัลตรา fast charge ของ EA EA สามารถขายระบบอัลตร้า fast charge ไปได้ เพียงแต่อเมริกากลัวเสียหน้าและรถมันก็ต้องไปปรับเยอะ รถรุ่นต่อไปเป็น ultra fast charge ทั้งหมดคนก็จะนิยม
สถานี Super Charger version 3 ของ Tesla ชาร์จที่ระดับพลังงาน 250W คิดเป็นระยะทางที่วิ่งได้ต่อเวลาชาร์จ1ชม. ได้ 800ไมล์ หรือ 1,300 กม. สำหรับ Tesla Mode l3 ครับ
ใช้e-power ฟินสุด ออกจัวได้ฟิล หลังติดเบาะ เติมน้ำมันแบบeco car รถขนาด mini suv เจอนิสสัน จดสิทธิบัตรไปแต่โฆษณาให้คนเข้าใจไม่ได้ รถไฟฟ้าจะใช้ บางวันไฟดับ กลับมาางคืนเช้าไปทำงานไม่ได้เลย อยู่คอนโดก็ชาจไม่ได้
📌สมัครสมาชิก กอดคอกันดันกันโต
bit.ly/3tyr1fC
⚡สนใจเรียนรู้แปลงรถมอไซค์ไฟฟ้า bit.ly/39R13Kq
‼️ก่อนซื้อรถ เช็คก่อน‼️
🔥โชว์รูมไหน ลดเยอะ ของแถมดีสุด
⭐️ เปรียบเทียบก่อนที่ bit.ly/car-deal หรือ add LINE: @cardeal
ไม่ได้ดูพี่มานาน คิดถึงสาวดุ้น 5555
ได้ข้อมูลเยอะเลยค่ะ เพราะกำลังตัดสินใจอยากได้ข้อมูลพอดี แต่ที่สนใจเพิ่มเติมคือ แว่นตาของอะไรคะ สวยดี
คือรถไฟฟ้าพรุ่งนี้ผมก็สนับสนุนนะครับ แต่ถ้าผมจะซื้อเป็นรถกระบะ ก็จะเป็นระบบไฮบริด ใช้ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ความเร็วไม่เกิน 90 ทำงานด้วยระบบมอเตอร์ แต่ถ้าเป็น 100 กิโลเมตรขึ้นไป ก็จะเป็นระบบเครื่องยนต์ทำงานปกติ มันต้องมีการชาร์จแบตไฟไว้ในตัวด้วยเผื่อฉุกเฉิน แบบนั้นน่ะผมสนับสนุนอยู่ คุณก็ต้องเข้าใจผมด้วย เพราะผมก็ศึกษามาก่อน
รถคันต่อไปของผมต้องเป็นรถไฟฟ้าแน่นอนครับ อบตไปน้ำมันคงจะแพงขึ้นเรื่อยๆ
อีกกลุ่มที่ควรสนับสนุนให้ทำใช้ EV มากที่สุดคือภาคขนส่ง และรถสาธารณะ เช่นรถเมล์ เรือเมล์ รถบรรทุก แท็กซี่ ขนส่งเดลิเวอรี่ เพราะ
1. รถเหล่านี้ มักมีเส้นทางประจำเป็นของตัวเอง สามารถวิ่งใน route ซ้ำๆ วางแผนการเดินทางและการชาร์จได้ง่าย
2. การที่มอเตอร์ไฟฟ้า มี peak torque ตั้งแต่ 0 RPM ทำให้เหมาะกับการใช้กับรถที่มีน้ำหนักมาก หรือมีการเร่งและเบรกบ่อย (ทำให้ได้ประโยชน์จาก regenerative brake เยอะ)
3. วิ่งมาก ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรทั้งค่าเชื้อเพลิงและบำรุงรักษาต่ำกว่ารถน้ำมัน ต้องวิ่งมากๆ จึงจะคุ้มทุน และยิ่งวิ่งมาก ทำให้การลดการปล่อยไอเสียลดลงไปมาก
4. เดิมรถเหล่านี้ส่วนมาก ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งปล่อยมลพิษมาก โดยเฉพาะดีเซลเก่าๆ หรือแต่งมา
ใช่เลยครับ
เห็นด้วยมากๆค่ะ ควรสนับสนุนผลักดัน
totally agreed
คิดเหมือนท่านเลย
ขออนุญาตเพิ่มอีก ถ้าขนส่งสาธารณะเป็นไฟฟ้าอนาคตก็ไม่ต้องเสียค่าอุดหนุนน้ำมันดีเซลด้วย
เห็นด้วยครับ รถสาธารณะวิ่งเยอะปล่อยมลพิษเยอะ อีกอย่างคือรถหน่วยงานราชการ ควรปรับเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าด้วย
คุณต้องมีรถหลายคันหลายประเภท ไม่ใช่เป็นรถคันเดียวจะใช้ไปทุกที่อันนี้ผิด รถไฟฟ้าใช้ไปทำงาน ส่งลูก ไปห้างฯ หรือไป ตจว.ใกล้ๆ หากไปไกลๆก็ต้องรถน้ำมัน วางแผนให้ดีให้ถูกมันก็โอเค
ถูกอย่างที่พี่พูดครับ จะเปลี่ยนจากรถน้ำมันไปเป็นไฟฟ้าได้ จุดชาร์จต้องเยอะเหมือนปั๊มน้ำมัน และระยะเวลาชาร์จต้องเร็วพอๆกับการเติมน้ำมันครับ ถึงจะพร้อมเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า
เขาเน้นลูกค้าในเมือง ขับรถไปทำงานเป็นหลัก ชาร์จที่บ้านตอนกลางคืน
@@Ningnong619 ในอนาคตรถยนต์ประเภทนี้ก็คงแพร่หลายครับ คนที่จะซื้อใช้ อาจจะไม่ใช่แค่เฉพาะคนเมืองเท่านั้น เพราะงั้นมันก็จะต้องย้อนกลับเข้าเรื่องจุดชาร์จที่มากพอ และความเร็วในการชาร์จเหมือนเดิมล่ะครับ เพราะรถซื้อมาใช้มันก็ต้องมีเดินทางไกลบ้าง ไม่ได้ชาร์จที่บ้านตลอดเวลาเสมอไปหรอกครับ
@@Slow_Wut. เข้าใจครับ ก็เป็นเรื่องของอนาคต ไม่ใช่กับ early adopter อิอิ
@@Ningnong619 ถูกครับ ผมพูดถึงอนาคต
น่าจะมีสถานีสลับแบตเตอรี่ น่าจะ work ไม่ต้องรอ
EV มาเรื่อยๆ อีกหน่อยก็คงเหมือนรถน้ำมันนั่นหละครับ ที่เต็มประเทศ วันนั้นชาร์จที่บ้านทุกคน และชาร์จที่สถานีเวลาออกต่างจังหวัด ข้อดีเค้าเยอะ ข้อเสียก็มี รอไปด้วยกันครับ เยี่ยมครับคุณเวล
อย่าลืมคำนึงถึงกลุ่มที่อาศัยตามคอนโด หรือบ้านเช่านะครับ
สำหรับผมอีก 2-3 ปีข้างหน้า รถที่จะมองหาคงยังเป็นแบบ HEV PHEV หรือรถที่ใช้เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าไปก่อน น่าจะเหมาะกับสภาพเมืองไทยในตอนนี้มากกว่า แต่อีก 12-15 ปีข้างหน้า เมื่อการชาร์จไฟให้รถไม่ใช่ปัญหาแล้ว รถยนค์ EV 100% จึงน่าใช้
ตอนนี้ใช้ kicks ขับใน กทม เดินทางไม่ไกล ขับทุกวัน เติมน้ำมัน เดือนละ 1000 บาท ครั้งเดียว ขับดี ขับสนุก ประหยัดกว่าเยอะ
@@kositsupansa861kicks ราคาเก้าแสนกว่าบาทใช่ไม๊คะ
เห็นด้วยครับ
เหมาะสำหรับในเมืองนั่นล่ะ
@@penguinpoey1238 ใช่ครับ ผมซื้อ MY23 ในราคาจองที่ 899000
ความสะดวก ไง เติมนำ้มัน ง่ายเร็ว ไม่ต้องวางแผนเดินทางเยอะ เจอปั้มแล้วเติม ไม่ต้องรอชาจนาน แต่ เอาง่ายๆ ยังไงรถไฟฟ้าก็ต้องมา เพราะพลังงาน ที่มาเป็นไฟฟ้า หลากหลายกว่า ยังไงอนาคตรถไฟฟ้าก็ต้องมา
ทำสถานีเปลี่ยนแบตแบบค่ายNIOของจีนได้ และแบตเตอรี่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกยี่ห้อ จะหมดปัญหาเรื่องการชาร์จไป น่าจะเป็นตัวเร่งความนิยมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อีกมาก
ตรงนี้ก็เป็นไอเดียที่ดี คือไม่ต้องรอชาร์จ ทำแบบให้เช่ายืมใช้ หรือแลกกันไปเรื่อยๆ คล้ายกับถังแกสที่ใช้ในครัวเรือนครับ เพียงแต่ สถานีเองต้องมีแบตให้เปลี่ยนเพียงพอ แต่ถ้าในช่วงเทศกาล อย่างไรก็ไม่พอให้เปลี่ยนแน่นอนครับ
รถไฟฟ้ามันยังไม่สุดครับคือการพัฒนาได้แค่ครึ่งเดียวคือมันยังมีปัญหาเรื่องการที่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีในการชาร์จครับ ขั้นสุดคือ fuel cells ครับมันเป็นเครื่องเปลี่ยน ไฮโรเจนและออกซิเจนเป็นไฟฟ้าโดยตรงโดยไม่มีการสันดาบ
ทุกการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเริ่มต้นราคาสูงทั้งนั้นละครับ ดูง่ายๆยุคมีมือถือใหม่ๆเครื่องหลักแสน คงรอ 5-10 ปีข้างหน้าผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าจะมาแทนที่ อะไหล่ถูกลง เทคโนโลยีกชาร์ตจะเร็วขึ้นเอง
มันต้องใช้เวลา อีกนิดครับ คล้ายๆกับเทคโนโลยีโทรศัพท์ในยุคโนเกียร์ผงาด ระบบแอนด์ดรอยออกใหม่ ก็ไม่มีใครนิยมชมชอบ พอเวลาผ่านไปไม่นาน เฮ้ย!!!มันใช้ง่าย!!! มันดีโว้ย!!!
รถไฟฟ้าดีอย่างเสียอย่าง น้ำมันก็ดีอย่างเสียอย่าง
แต่ถ้านับรวมแต่ข้อดี รถไฟฟ้าทำได้ดีกว่าแน่นอน
1.สิ่งแวดล้อม 2.ค่าMaintenanceต่างๆ 3.ภาษีต่ำ
ข้อดีของรถไฟฟ้าไม่ใช่แค่นี้ โดยรวมยังมีอีกเยอะ
แต่ข้อเสียหลักๆเลยคือ เรื่องระยะเวลาในการชาร์จ
และจุดชาร์จที่ยังไม่ทั่วถึง และ ระยะทางที่ทำได้
แต่ในอนาคตข้อเสียเหล่านี้จะหมดไปแน่นอน 100%
เพราะว่าเทคโนโลยีสมัยนี้มีนพัฒนาไปได้เร็วมากๆ
Tesla model 3 long range. พึ่งซื้อมาสองเดือนที่แล้ว และคงไม่กลับไปใช้รถน้ำมันอีกแล้วค่ะ ดีมากๆ ออกตัวเร็ว เสียงเงียบหมาแมวที่บ้านไม่รู้ว่าเรากลับมาแล้ว พวกมันปกติต้องวิ่งมาต้อนรับตั้งแต่ขับTesla🐈เปิดประตูเข้าบ้านพวกมันยังนอนสบายอยู่เลย เราซื้อตัวtesla self driving เพิ่มอีก$12,000 ใช้ดีที่สุดค่ะ บ้างที่ก็ขี้เกียจขับ อย่างขับระยะไกล หรือพึ่งออกจากร้านหมอฟันกำลังมึนๆหัว แค่ใส่ที่อยู่เสร็จก็ปล่อยขับเอง เปลี่ยนเลนเอง เลี้ยวเอง แต่เราต้องกดสัญญาณเลี้ยวเมื่อรถบอกให้เปลี่ยนที่หน้าจอเป็นการconfirm อีกอย่างมือข้างใดข้างหนึ่งต้องจับอยู่ที่พวงมะลัยน่ะค่ะ เหมือนจะมีระบบติดอยู่จะรู้ว่าเราจับอยู่หรือเปล่าถ้าไม่จะมีสัญญาณเตือน ส่วนที่ชาร์จไฟก็ติดไว้ที่ทำงานบริษัท เพราะไม่สามารถติดที่บ้านได้ พอดีมีรถโบราณของแฟนจอดอยู่ในโรงรถ ไปทำงานก็เอาไปชาร์จสัก3-4ชั่วโมง และถ้าจะชาร์จที่สถานนีชาร์จไฟของTesla ก็อยู่ทุกที่ ง่ายๆอาจเป็นเพราะเราอยู่ Californiaค่ะ
หุยๆๆๆอยากได้บ้างจังคะ
ม.ย.ม
ดีจังที่ทำงานมีที่ชาร์ตตจด้วยเขาคิดค่าชาร์จเท่าไหร่ครับ
หลอกให้อ่านตั้งนาน นึกว่าอยู่สวนหลวง ลาดกะบัง เเหม่ อยุ่เมกา
จบหักมุม
อย่าลืมว่า 1:5 นี่คือศึกษาในอเมริกา ซึ่งมีเทสล่าและแบรนทางเลือกอื่นๆ ซึ่งราคาไม่สูง แถมมีรัฐสนับสนุนเรื่องภาษี แถมสถานีชาร์ตเร็วแทบจะทั่วไปหมด ซึ่งในไทยไม่มีที่ว่าเลย ถ้ามาสำรวจในไทยมากกว่า1:5แน่ๆครับ แค่เอาเรื่องต้องเสียเวลาจอดชาร์ตชม. สองชม.แทนที่จะเข้าปั้มห้านาทีออก แค่นี้ก็ขอบายละครับ อีกสิบปีเจอกันรถไฟฟ้า
ปัญหาที่คุณกล่าวมายังไม่รวมถึงปัญหาของรถไฟฟ้านะครับ เพราะส่วนใหญ่Ev ในประเทศไทยเป็นรถสัญชาติจีน ซึ่งแน่นอน ปัญหามีเยอะอยู่แล้วครับ
ตอบโจทย์คนใช้งานในเมืองครับ เสียบกลางคืน ใช้กลางวัน ไม่พอเทียบกิโล ต่อกิโลไฟฟ้ากินขาด
ถ้าไม่เน้นว่าต้องรักโลกเพื่อสิ่งแวดล้อม ผมไม่เห็นเหตุผลใช้รถไฟฟ้า ที่สำคัญถ้าแพงกว่ารถน้ำมัน 3 แสนบาทขึ้นไป ผมคงซื้อรถน้ำมันเหมือนเดิม
เป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัว และไม่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมาก ๆ เลยครับ
ลิตรละ 100 บาทเมื่อไหร่ละ ไอ้ 1 ใน 5 ก็ไม่เหลือ
ตอนนี้เรายังเลือกได้อยู่ ใครชอบแบบไหนก็ใช้กันไป แต่ในอนาคต เราคงไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะโลกมันต้องเปลื่ยนไป ชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องเอา
ยุโรปหลายประเทศ ไม่สามารถ กลับไปใช้ รถน้ำมันได้อีก เพราะ ใช้นโยบายเลิกใช้รถน้ำมัน มันเป็นมุมมองที่เห็นได้ว่า รัฐคือปัจจัยสำคัญ ถ้ามีการส่งเสริม อย่างจริงจัง มันก็จะเป็นประโยชน์
ท่ารัฐบาลและประชาชนเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เราเชื่อว่าการพัฒนาทางด้านนี้จะพัฒนาแบบก้าวกระโดด การซ้อม การปรับปรุง องค์ความรู้ต่างๆและประโยชน์ต่อประชาชนจะเกิดขึ้นมากแน่นอน 🙏🏻
ดีมากกกเลยนะคะ ช่วยลดมลภาวะให้กับอากาศได้เยอะ บ้านเมืองเราคงอีกนานนนกว่าจะไปถึงจุดนั้นนน คิดดแล้วเศร้าาา 😷😷
แหม ก็เขาซื้อได้ถูกแถมเงินเดือนยังสูง
ของไทยราคาสูง เงินเดือนต่ำ
ใช้มอไซด์ไฟฟ้าใช้อยู่ ไม่ชอบชาร์จเต็มทุกวัน ไปไหนก็กลัวแบตหมด เลยใช้ มอไซดฺฮอนด้า อย่างเดิม เพื่อนไต้หวันว่าที่เขามีจุดแลกแบตได้ แต่ก็ไม่เวริคเท่าใช้น้ำมัน
แลกแบตผมว่าไม่ดีครับ ถ้าแบตเราใหม่ๆ 2 เดือน ร้านเอาแบต 2 ปีมาเปลี่ยนให้เรา ยิ่งพี่ไทยด้วย หัวหมอ
ทำไมพูดกันแต่เรื่องสถานีชาร์จไฟอย่างเดียวอีกอย่างที่หนักกว่าคือค่าแบเตอรรี่ที่ใช้ได้10ปีต้องเปลี่ยนใหม่ราคา5แสนกว่าไม่พูดกันเลยเวลาแบตฯหมดอายุชิ้นส่วนอื่นๆก็หมดอายุด้วยคนที่เมกาเขาถึงกับระเบิดรถทิ้งตามที่เป็นข่าว อย่าหวังว่าค่าแบตฯจะถูกลงไม่มีทาง แบตเตอรี่รถนำ้มันเมื่อก่อนลูกละ1พันเดี๋ยวนี้เกือบ2พันแล้ว มัวแต่ประหยัดค่านำ้มันที่เติมทุกวันที่เติม พอถึงตอนจบจ่าย5-6แสนเป็นค่าแบตฯอาจจะต้องทิ้งรถเพราะใช้10ปีเก่าและล้าสมัยแล้ว รถนำ้มัน15-20ปีก็ยังขับกันไได้ดีอยู่
อุ๊ย…จริงอยู่ว่าค่าแบตเตอรี่แพง ทำลายก็ยาก แต่เขาต้องการลดการใช้น้ำมัน ลดมลพิษทางอากาศ และอีกอย่างเพราะรัฐเซีย และ ประเทศกลุ่มอาหรับ ขายน้ำมัน กุ่มราคาน้ำมันอยู่ตอนนี้ เกมการเมืองค่ะ
เทคโนโลยีก้าวหน้าถึงตอนนั้นอีกสิบห้าปี รถยนต์อาจใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนแล้ว
ถึงยังไร น้ำมันดิบมันสามารถหมดโลกได้ เราก็จำเป็นต้องหาพลังงานอย่างอื่นมาใช้ทดแทนอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว
แบบเติมน้ำที่คนไทยคิดได้ก็น่าจะออกมาโชว์บ้าง?
ค่าแบ้ตแพงจังมันใช้ทองคำทำหรือไง
5 แสนนี่เติมน้ำมันได้หลายปีเลย😂😂😂
@@peaceful855ไม่เร็วหรอกครับคุณไม่มีชีวิตรอดูหรอก
ไม่เกินสิบปี น่าจะวิ่งได้1000โล
ต่อการชารท์ 1 ครั้ง และจุดชารท์
จะมีเยอะขึ้น เพราะเป็นธุรกิจ
เหมือนปั้มน้ำมัน อายุแบตเตอรี่จะใช้ได้นานขึ้น เทคโนโลยี่ นาโน
จะทำให้เล็กลง แต่ความจุเยอะขื้น
ไม่มีทางลดน้ำหนักได้เลยถ้าจะพูดถึงน้ำหนักแบต...
อนาคตบนหลังคารถยนต์ก็จะเป็นแผงโซล่าเซลล์ ใต้ท้องรถยนต์ก็จะเป็นแบตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟอีกต่อไปครับ
กำลังไม่พอหรอกค่ะต้องวิ่งที่โล่งๆตอนเทึ่ยง
ถ้าแดดร่มก็จอด จะวิ่งจากชุมพรไปกรุงเทพ
น่าจะใช้เวลากว่าจะถึงอย่างน้อยคง2วันแน่ๆ
@@bookbook8415 อนาคตมันก็จะพัฒนาได้ดีกว่าเดิม รับแสงได้เร็วกว่าเดิม เก็บไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม เราไม่ได้พูดถึงณเวลานี้
ขับได้ 100 เมตรได้ หมดแรง
กำลังไฟไม่พอหรอก
ทำยังไงก็ไม่สามารถรับพลังงานไห้มากพอที่จะเอามาใช้งานคับ..
มันคือจำกัด..
ใจเย็นครับ ให้เวลารถยนต์ไฟฟ้าหน่อย
มันเหมือนสมาร์ทโฟนที่มาช่วงแรกๆ
แบตหมดเร็วมาก แถมเครื่องแพงอีก
แต่เดี๋ยวนี้แบตอึด เครื่องไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน
เพราะผมมั่นใจมาก ว่าอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกกว่ารถน้ำมัน หรือราคาไม่ต่างกัน
ใช่เลย
เห็นด้วยครับ โลกหมุนไปข้างหน้า อีกหน่อย รถไฟฟ้าก็เป็นที่นิยมใช้เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนนะครับ โดยเฉพาะในเมืองที่วิ่งไม่ไกล ยิ่งความซับซ้อนของระบบถ่ายเทพลังงานมาที่ล้อ นั้นง่ายๆ ทำให้สามารถผลิตได้เยอะ มีโอกาสที่จะราคาถูก เผลอๆ อาจไม่ถึงแสนบาท ด้วยซ้ำครับ แม้กระทั่งแบตเตอรี่ ถ้าหากผลิตเยอะๆ ก็ถูกได้เช่นกัน ไม่แน่อาจจะไม่ถึงหมื่นบาทต่อชุดด้วยซ้ำในอนาคต
แปลว่ารอสัก13ปีค่อยซื้อจะดีกว่าใช้ไหมครับ
@@chaiwatvlt มันมีวัสดุอย่างอื่นเช่นเหล็กไม่นาจจะถูกได้ขนาดนั้นนะครับ
@@phurijtg4285 อยู่ที่จำนวนการผลิตด้วยครับ ถ้าหากทำรุ่นเดียวกันเยอะๆ เหมือนสั่งของมาคราวละมากๆ ค่าต้นทุนก็จะลดลง ยิ่งถ้าจีนเข้ามาทำเลียนแบบด้วย ราคาอาจถูกลงได้มากกว่าที่คิดครับ
จุดเปลี่ยนจะอยู่ที่ แบตเตอรี่แบบใหม่ ที่มีขนาดเล็กลง ถอดและเปลี่ยนในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย และรวดเร็ว ไม่ต้องรอชาร์ตเลย โดยใช้การวิธีแบ่งเป็นแพคๆ และใช้จำนวนแพคตามขนาดของรถ (ให้ เหมือนถ่านไฟฉาย) ส่งเสริมสถานีชาร์ตและเปลี่ยน แต่ถ้าใครไม่อยากเวียนแบตซ้ำกับคนอื่น ก็สามารถชาร์ตเองได้ปกติ และแบตเวียนให้ประกันตลอดชีพ
แบบนีแหละ เข้าสถานีบริการ ถอดแบตออก ใส่ชุดใหม่แทน ของเก่าเข้าเครื่องชาร์จ จ่ายค่าบริการรายปี
ด้วยความเคารพ และ ความสัตย์จริงครับ
วิศวกรยานยนต์พันธุ์แท้ ที่เป็นคนไทย ทำงานในประเทศไทย และ อาศัยอยู่ในประเทศไทยพร้อมครอบครัว หรือแม้กระทั่งวิศวกรเครื่องกลสาขาย่อยอื่นๆ ที่เป็นคนไทย ทำงานในประเทศไทย และ อาศัยอยู่ในประเทศไทยพร้อมครอบครัว เจตนาไม่จัดซื้อจัดหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานในช่วงเวลานี้ครับ เนื่องด้วยความไม่พร้อมของเทคโนโลยีดังกล่าว(ในทุกๆด้าน) ที่มีอยู่ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน
มีความจำเป็นต้องรออีกอย่างน้อย 5 ปี ถึง 10 ปี เพื่อความพร้อมของเทคโนโลยีดังกล่าว(ในทุกด้าน)ในประเทศไทย หรือ หลังจาก พ.ศ. 2570 ไปแล้ว ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้งครับ ว่าสมควรจะจัดซื้อจัดหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน หรือ ไม่ อย่างไร
ความก้าวหน้าเกิดจากความเปลี่ยนแปลง และไม่เคยรอใครครับ
รถไฟฟ้าไม่ใช่สำหรับทุกคนค่ะ ก่อนซื้อต้องศึกษาให้ดีว่าจะชาร์ตยังงัยที่ไหน ส่วนตัวโดยปกติไปไม่ไกลมาก ชาร์ตที่บ้านทุกวัน มันดีมาก ใช้มา 7 ปีแล้วไม่ได้จ่ายอะไรเลยยกเว้นค่าไฟค่ะ เคยมี Tesla ส่วนตัวไม่ชอบเนื่องจาก เวลาจะปรับอะไรตอนเราวิ่งอยู่ เราต้องเอาตาออกจากถนนเพื่อดูจอ เช่น จะปรับแอร์ จะกดจะจิ้มอะไรมันต้องดู มันค่อนข้างอันตรายนะ เลยขายทิ้งค่ะ.....ลืมบอกว่า อยู่เมกานะคะ ถ้าอยากให้ที่บ้านมี level2 เราสามารถติดต่อการไฟฟ้ามาติดตั้งให้ได้นะ แต่เสียตังค์อ่ะ ถ้าคิดว่าคุ้มก็น่าจะติด ที่บ้านไม่ได้ติดเพราะเช่าบ้านอยู่จ่ะ
เปลี่ยนแบตรึยังคับ...
แบตลูกละเท่าไรคับ...
สำหรับผมเจอมา แพง อะไหล่ ค่าบริการ(ค่าช่าง) ชาร์ต จุดที่บริการ เวลา เชื่อมต่อ(ปลั๊คสายชาร์ต แต่ละยี่ห้อ ต่างคนต่างทำ)
ที่เมกา ค่าไฟแพงมากค่ะ พี่สาวใช้รถไฟฟ้าบอกค่าไฟบานนนนน ขนาดเป็นลม เพราะ น้ำมันที่นุ่นถูกนะคะ แล้ว ที่เมกาทุกอย่างไกลกันวันนึงวิ่งขึ้นฟรีเวย์กันขับวันเป็ร ร้อยโล ต้องคนพยายามอยากช่วยสิ่งแวดล้อมจริงๆค่ะ
น้องชายใช้เทสล่า บอกคุ้ม ดีมากๆ
ตามตลอดครับ จนได้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าแบบประกอบเอง ไปจนยี่ห้อผลิตไทย ตามจนถอย รถยนต์ev มาอีกคัน ได้ความรู้ดีครับ ตอนแรกลังเลมากไม่กล้าก้าวไป ev จนตอนนี้ผมเองพูดได้ว่าไม่หันไปมองรถน้ำมันอีกคนแล้วครับ
ดีใจด้วยครับ 🥰🥰
ดีใจด้วยครับ 🥰🥰
วิธีคิดของผมคือใส่แบตเพิ่มอีก1ลูกใช้หลักการpower bankเป็นก๊อก2 ให้วิ่งถึง800-1000กิโลคราวนี้ก็ตัดปัญหาวิ่งทางไกล ไม่ต้องเสียเวลาจอดไม่ต้องชาร์จถึงปลายทางแน่นอนค่อยชาร์จทีเดียว
ปัญหาคือ นน.แบต หรือ บรรทุกแบตได้จำกัด เพียงแต่ ไอเดียของคุณคือ แบ่งแบตที่่ใช้เป็น 2 ชุด ใช้ทีละชุด ซึ่งก็หมายถึงระยะทางสั้นลงเท่าตัว เพียงแต่ เจ้าของรถจะทราบว่าแบตก้อนแรกหมดแล้ว ตอนนี้ใช้ก้อนสอง หรือก้อนสำรอง (ในกรณี ก้อน 2 เล็กกว่า) ต้องมองหาสถานีชาร์จไฟได้แล้ว เพียงแต่ไม่ต้องรีบ ซึ่งก็คงเหมือนกับการมีแบตชุดเดียว ยกเว้นว่า มีบริการสลับเปลี่ยนแบตที่สถานีชาร์จไฟได้ในทันที ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบ กว่า การมีแบตชุดเดียว ชนิดสับเปลี่ยนได้ เพราะถ้าไฟยังไม่หมดแบต คนเราก็จะเสียดายที่ต้องเปลี่ยน แต่บางทีก็ต้องเปลี่ยน เพราะระยะทางข้างหน้าอีกไกล จะรอให้แบตหมดแล้วเปลี่ยนไม่ได้ แต่ถ้ามีแบต 2 ลูก ลูกแรกหมด ก็เปลี่ยนได้ทันที ที่เจอสถานีเปลี่ยนแบต ครับ
ทำแบบนี้แล้วมันดีเขาคงจะออกแบบมาแล้วละ
เจย์ เลโน เป็นพิธีกรทอล์คโชว์ระดับตำนาน น่าจะเปรียบได้กับ ดำรง พุฒตาล ของบ้านเราได้มั้ง เป็นคนรักรถมาก มากจนไปออกรายการรับเชิญเกี่ยวกับรถหลายรายการ บ่อยซะจนมาทำรายการรถของตัวเอง
รถไฟฟ้าผมว่าน่าจะเจาะตลาดการใช้ในเมืองก่อนดีกว่า รอจนเทคโนโลยีแบตกับที่ชาร์จก้าวไปอีกขั้นค่อยคิดถึงตลาดที่ใช้ในการเดินทางระยะไกล
ยังไงเทคโนโลยี EV ต้องพัฒนาไปอีกมากแน่นอน ชาร์จ 1 ครั้งวิ่ง 1000 โล ได้เห็นแน่ๆ (รอ X-Peng อยู่น๊าา)
ตอนนี้มันยังติดปัญหาเรื่องความร้อนของแบตเตอรี่อยู่ครับ คือยังไม่ค่อยเหมาะกับเมืองร้อนเท่าไหร่
@@soulwingzs ถ้าแบตระเบิด คนต้องกลัว ยุครถไฟฟ้าใหม่ๆ อาจมีการผิดพลาดได้แต่ยังไม่รุ้ว่าจะเป็นค่ายใหน
ผมคิดว่าจุดชาร์จไม่จำเป็นต้องใหญ่โตแบบปั๊มน้ำมัน ให้บ.สตาร์ทอัพ สร้างจุดชาร์จกระจายตามบ้านแบบพวกตู้เติมเงินมือถือได้เลย ทีนี้มันก็เป็นการกระจายรายได้ให้ชาวบ้านได้ ถ้าทำเลเหมาะ ก็สามารถขอให้บ.ผลิตจุดชาร์จมาตั้งหน้าบ้าน แชร์กำไรกันแบบนี้ จุดชาร์จมันต้องเยอะมากๆๆๆ มันถึงจะน่าเล่น
คิดว่าปัญหาอยู่ที่การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของรถ ที่ทุกคนยังยึดติดกับรูปทรงเดิมๆ เลเอ้าเดิมๆสมัยเครื่องานดาป มันทำให้การวางแบตเตอรี่ไม่สะดวกต่อการเปลี่ยนได้ทันที (swap) เพราะจะรอเทคโนโลยีชาร์จ 10 นาทีเต็ม คงอีกหลาย 10 ปี
ปัญหาของรถไฟฟ้าคือระยะเวลาการชาร์จ ถ้าสามารถทำได้แบบรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่ไต้หวัน คือมีสถานีเปลี่ยนแบตให้เลย ไม่ต้องชาร์จ ก็จะลบข้อจำกัดนี้ได้
แนวคิดนี้ tesla ก็ทดสอบอยู่
ที่เติมพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และต่อให้มีก็ชาร์จนาน ต่างประเทศ fast change เต็มถังครึ่งชั่วโมงถึงชั่วโมง
สอบถามคับ ประหยัดกว่าน้ำมันจริงแต่แบตใช้งานมันน่าจะต้องมีเสื่อมคงจะไม่เป็น อมตะ และถ้าต้องเปลี่ยนยกชุด
ราคาเท่าไหร่เอามาหารกับน้ำมันที่ประหยัดไป แต่มาโดนค่าเปลี่ยนแบตคุ้มไหมตรงนี้มี
คำตอบน่าจะดีน่ะ เชื่อว่าหลายคนอยากรู้คำตอบ
ไม่ต้องเปลี่ยนยกชุดคับ มันแยกอันไหนเสียก็ยกแค่อันเดียว
รถนน้ำมันมันตกยกเครื่องไหมละครับ เวลาผ่านนานไป
รอพัฒนาแบตเตอรี่ และตัวรถ เหมือนคอมพิวเตอร์พัฒนาจนต้นไม่รู้จะไปทำอะไรแล้ว รถไฟฟ้าก็เหมือนกัน พัฒนาสุดๆแล้วค่อยซื้อรถไฟฟ้าใช้ ตอนนี้มอเตอร์ใช้ไฟ DC 480Vแล้ว จะทำให้ไฟสูงกว่านี้ไม่ได้ เพราะอันตราย ถ้ามันช็อตกันมันจะระเบิิดรุนแรง ดังเหมือนแปลงไฟฟ้าระเบิด
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ในอนาคตผมมองว่าเราน่าจะใช้รถไฟฟ้า แต่ตอนนี้น่าจะต้องเป็นระบบ hybrid ไปก่อนนะครับ ไม่ใช่รถไม่ดี แต่สถานบริการชาร์จยังไม่เพียงพอครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
สำหรับผม ผมไม่ชอบรถไฟฟ้าคือ รถไฟฟ้ายิ่งใช้างาน top speed จะลดลงเรื่อยๆตามกำลังไฟฟ้าที่ลดลง หรือเอาง่ายๆ ยิ่งขับไป แรงไฟยิ่งลดลง พอแรงไฟลดลง ความเร็วก็ตกลงด้วย แต่รถน้ามัน ไม่ว่าน้ำมันจะเต็มถัง หรือ น้ำมันจะเหลือแค่ลิตรเดียว ความแรงและความเร็วก็เหมือนเดิมครับผม ขอบคุณครับผม
นับเป็นข้อคิดที่ดีเลยนะครับ ยกเว้นว่าแบตเตอรี่จะพัฒนาจนมีความสามารถจ่ายไฟได้คงที่ จนเกือบหมด ซึ่งแบตมือถือก็มีลักษณะเช่นนี้ แล้วออกแบบวงจรจ่ายไฟชดเชยกำลังตอนไฟจะหมดเพิ่มอีกนิด แต่อย่างไรก็ดี ถ้าไฟจะหมดจริงๆ ก็ควรวิ่งช้าๆ ใช้ไฟให้ประหยัด คล้ายรถที่ใช้นำ้มัน น้ำมันใกล้หมด ก็ควรวิ่งช้าๆ ดีกว่าหมดไปก่อนถึงปั้มครับ
พี่ครับนิสัน e - power ที่มีมอเตอร์ปั่นไฟฟ้าเอง
ที่ผ่านจากเครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนค์ไปหมุนมอเตอร์ปั่นไฟเร็ว รอบมอเตอรไฟฟ้าสัก 10000 rpm แบ็ตเตอร์รี่เต็มเร็วใช่มั้ย หรือ มอเตอร์ปั่นไฟฟ้าต้องมีขนาดใหญ่ด้วยครับ
สำหรับไทย ปัญหาหลักเลยคือราคา
-คนที่เงินเดือน 50,000 +- ( ซึ่งถือว่ามากแล้วสำหรับคนทั่วไปยุคนี้) ไม่สามารถใช้รถไฟฟ้าได้ ต้องเงินเดือนแตะแสน
- ถ้ายังไม่มี"บ้านเดี่ยว"ของตัวเอง แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้รถไฟฟ้า
- รายได้ของคนไทยโดยเฉลี่ยสามารถมีรถได้เพียงครั้งละคัน
เออ...มีไฟฟ้ามาแทน คูโบต้าไหมคับ รถกะบะบรรทุก3ตันวิ่งยาว800กม.ไปกลับ1600 ..
รถเกี่ยวข้าว...ถ้ามีผมก็ไม่ใช้นะคับ..ยังไงมันก็มีจุดด่อยอยู่ดี..
ทำไมถึงต้องเงินเดือน 50,000 บาทเหรอครับถ้าสัก 30,000 บาทนี่ใช้ไม่ได้เหรอครับ
ข้อเสียอย่างเดียวสำหรับเราคือ ชาร์จยาก เพราะถ้าเราไปเที่ยวแล้วพักโรงแรม มันหาที่ชาร์จลำบาหและใช้เวลานานเกินไป
สุดท้ายเขาก็ต้องเข้าไปใช้ที่ระบบอัลตรา fast charge ของ EA EA สามารถขายระบบอัลตร้า fast charge ไปได้
เพียงแต่อเมริกากลัวเสียหน้าและรถมันก็ต้องไปปรับเยอะ
รถรุ่นต่อไปเป็น ultra fast charge ทั้งหมดคนก็จะนิยม
ธรรมดาของการวิวัฒนาการของเทคโนโลยีครับ เดียวทุกอย่างพร้อมมันก็จะไปพร้อมๆกัน
ลุงใช้รถไฟฟ้าเกือบสี่ปี ทุกวันนี้ลุงใชรถน้ำมันเหมือนเดิม สบายๆๆๆๆๆๆไม่ต้องกังวล ไปไหนทั่วประเทศ น้ำมันดีที่สุด รถไฟฟ้าลุงขายแล้ว น้ำมันสบายกว่าล้าน%%%%%%%%%%%%%%
ปัญหาเดียวเลยคือเรามี ปตท. ที่เป็นน้ำมันอยู่ตราบใดที่เค้ายังไม่อนุญาติอย่างเต็มที่ก้อยากกกกครับ เรื่องการเปลี่ยน การใช่เชื้อเพลิงบ้านเรา เพราะปตท.แหล่งหากินใหญ่ของใครหลายๆคน ผลประโยชน์มันเยอะครับ
คุณครับ ตอนนี้ ปตท เป็นเจ้าหลักที่ลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว ตรวจสอบดูได้ครับ ปตท เป็นมหาชน ง่ายที่ตรวจสอบ อย่าถูกหลอกง่ายครับ หาข้อมูลต้นทางเองครับ เปรียบเทียบใช้กานวิเคราะห์คุณจะไม่ได้ถูกใครหลอกง่ายครับ
ความคิดเห็นแค่หางอึ่งนะครับ....รถไฟฟ้ายังพัฒนาอยู่..ที่ชาร์จไม่เพียงพอ..แบตแพง..ที่สำคัญเกิดปัญหาไฟไหม้บ่อย...
1ต้องวิ่งได้600_1000กิโลเมตรต่อการชาร์จ1ครั้งรับรองขายดีแน่เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากไปชาร์จตามสถานี
2ต้องใช้เวลาชาร์จไม่เกิน20_30นาที
3สถานีชาร์จไฟยังน้อยเกินไปถ้าเรางวิ่งไปต่างจังหวัดแบตหมดกลางทางจะทำอย่างไร
เชียร์รถไฟฟ้าสุดๆ
ซื้อมา2คันปานกลางคันถูกคันสลับกันใช้คันละ2วันอีกคันจอดชาร์จให้คนในบ้านมีรถใช้ใกล้ๆ
เหมาะกับคนใช้รถมากๆถึงจะคุ้มเฉลี่ยต่อกิโลเมตรถูกกว่า แลกกับ ค่าประกันภัยแพงขายต่อราคาตกมากๆ รีบใช้ก่อนหมดประกัน
#ขับยิ่งมากยิ่งขาดทุนน้อย วิ่งกันเป็นแทกซี่เลย
เมืองนอกที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เค้ามีสถานนีชาร์จไฟฟรี กระจายอยู่ทั่วประเทศเลย
เพราะเค้าวางแผนเรื่องนี้มานานแล้วในระยะยาว
ส่วนไทยล้าหลัง เพิ่งจะเริ่มต้นคิดเป็น
ส่วนตัวผม ยังไงก็ชอบรถไฟฟ้ามากกว่าอยู่ดี
รถไฟฟ้าคุ้มค่ากว่า ในระยะยาว
(มีฝรั่งคนนึง ใช้รถเทสร่า ใช้งานขับวิ่งไป 8-9 แสนโล เข้าศูนย์ทีนึง เสียเงินไม่กี่บาทเอง เซอร์วิสแค่เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนคู่เดียว จบเลย)
ค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถน้ำมัน มากมาย
นั้นเมืองนอกครับ นี้เมืองไทย น้ำมันยังจำเป็นเพราะเรามี ปตท.อยู่แค่นั้นเอง จะเปลี้ยนเทคโนโลยีในบ้านเราเรื่องรถยนต์บอกเลยยากกกกก เพราะมันเป็นแหล่งหากินของหลายๆคน
@@beer1045 ปตท. มันแอบวางแผนเรื่องรถไฟฟ้ามานานแล้ว
มันกำลังแอบสร้างพัฒนารถไฟฟ้าของตัวเอง
แล้วจะเปิดสถานีชาร์จไฟ ให้อยู่ประจำในปั้มน้ำมัน ปตท. ของตัวเอง
ถ้าปตท. ทำได้แบบนี้จริง
รวยเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เพราะคนใช้รถไฟฟ้า (โดยเฉพาะรถไฟฟ้าของปตท.เอง) จะมีสถานีชาร์จไฟ มากที่สุดในประเทศไทย ทันที
เดินทางไกลช่วงเทศกาลคงสนุกมากมาย ตามสถานีชาร์ทคงมีการทะเลาะวิวาท
อนาคตคงเหมือนเติมน้ำแหละ คงชาร์จประมาณ5นาทีเต็ม ขืนชาร์จเป็นชม. ได้ฆ่ากันตายแน่
ข้อดีของไฟฟ้า บำรุงรักษาง่ายกว่าน้ำมัน ปัญหา และอาการเสียของรถยนต์น้อยลง เปลี่ยนอะไหล่น้อยชิ้นมาก ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวในเครื่องยนต์ ไส้กรองน้ำมันและอื่นๆ ไม่ต้องเติมน้ำมันราคาที่แพงโคตร ติดตั้งโซล่าเซลล์ที่บ้านสำหรับชาร์จรถ เราสามารถผลิตพลังงาน ทางเลือกใช้เองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทน้ำมัน
ข้อเสียล่ะครับ
@@thongchaitotong3749 ข้อเสียหาที่ชาต์ตามปั้มไม่มี
การซ่อมระบบอิเล็คโทรนิค drive moter ขั้นต่ำ10000
@@พงษ์สิทธิ์-ฌ2ง เอาไว้แบบชาตแบตไม่เกิน20 นาที ถึงเวลานั้นค่อยซื้อครับ
อวยแต่ข้อดี แต่ข้อเสียมากมายไม่พูดถึง
ถ้าอยากใช้รถไฟฟ้ามันต้องใจรักจริงๆจะได้ไม่คิดมาก
ราคาแพง
ไร้การเหลียวแล
ความมั่นใจในคุณภาพน้อยลง
เก่าแล้วซ่อมบำรุงแพง ยาก การให้บรการน้อย
ใช่ครับ
รถEV ถ้ามองเหมือนกับอุปกรณ์อิเลคทอนิกส์มีเสื่อมมีล้าหลัง อัพเกรดไม่ได้ก็ต้องทิ้ง แต่รถน้ำมันจะเป็นanalog ซึ่ง ยกตัวอย่างถ้าเครื่องพังยังหาเครื่องลูกใหม่แทนได้ อายุใช้งานเลยมากกว่าครับ
ถ้าถึง 800km /ชาร์จ, อายุแบต life cycle 1000 loop, รองรับการชาร์จไว 250kw ค่อยซื้อครับ
สถานี Super Charger version 3 ของ Tesla ชาร์จที่ระดับพลังงาน 250W คิดเป็นระยะทางที่วิ่งได้ต่อเวลาชาร์จ1ชม. ได้ 800ไมล์ หรือ 1,300 กม. สำหรับ Tesla Mode l3 ครับ
ทุกวันนี้ใช้รถ ev วิ่งรับคนผ่านแอพ มันดีมาก แต่เสียเวลาชาร์ท วันนีง 3-6 ชม แล้วแต่วิ่งมากหรือน้อย อนาคตถ้ามีแบบชาร์ท ชม เดียวเต็ม จะสุดยอดเลย
สำหรับเราผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งในเหตุผล ที่หวนกลับไปใช้รถน้ำมันก็คือ
“กลัวมันพัง จอดนาน” 😅
😂😂😂
ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า เมื่อครบรอบเปลี่ยนแบตเตอรี่ จะต้องซ่อมใหญ่หรือเปลี่ยนมอเตอร์ขับเคลื่อน ค่าใช้จ่ายจะ แพงมากกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายใน โดยเฉพาะรถใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความทนทาน ใช้งานแบบสมบุกสมบันได้ดีกว่ารถไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบแบบตัวต่อตัว
ประหยัดค่าน้ำมัน แต่คนไทยเอาส่วนที่ประหยัดไปถลุงส่วนอื่น เปลืองอยู่ดี แต่เพื่อสิ่งแวดล้อมดีมาก ผมมี2แบบ จะไปทางไหนก้อไป
คันเก่ายังผ่อนไม่หมดเลย ส่วนตัวผมแบบไหนก็ได้ สำคัญตังนะมีมั้ยๆเถียงกันจัง😆
ขอบคุณน้ะจ้ะ คุณ well ข้อมูลแบบนี้ดีมากเลนจ้า
ยุค5G ทุกอย่างต้องเร็ว ถ้ามีเล่นๆ รถคันนึงชาร์จ20-30นาที บางคันก็ชั่งโมงแล้วปั๊มนึงมีให้บริการ3-4เครื่อง ถ้าบริษัทที่มีคนทำงาน1-200คนถ้ามีกันทุกคนคุณคิดว่าใช้เวลาเท่าไหร่ในการชาร์จแบต ไม่ใช่ทุกคนที่จะชาร์ตกันที่บ้านเพราะในเรื่องค่าไฟที่ขึ้นไม่แพ้น้ำมัน นี้ยังไม่เหมาพวกคนทั่วไปอีกน่ะ แถมราคารถก็ไม่ใช้ถูกๆ ถ้าอยากขับหน้าฝนลุยฝนได้หน่อยก็ต้องซื้อรถยนต์เท่านั้น ซึงมันก็ต้องแพงกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน อีกอย่างแรงขับรถไฟฟ้าไม่มีกำลังเท่ารถใช้น่ำมัน เพราะงั้นยิ่งแบกน่ำหนักมากก็ต้องยิ่งเพิ่มไฟเพื่อเพิ่มความเร็ว แปปๆเดี๋ยวแบตก็หมดอีก เพราะงั้นถ้าอยากขับเร็วๆ แบกน้ำหนักของ ก็ต้องซื้อรถราคาแพงกว่าจำเป็น เวลารีบๆคงไม่ขับ3-40กิโล/ต่อชั่วโมงหรอกจริงไหม ขั้นต่ำของคนทำงานก็ต้อง80-120กิโล/ชั่วโมง
หาสถานีชาร์จไฟยากไงครับคำตอบง่ายๆ
รอรถเทสล่าครับ คุณเวล ผมดูคุณตลอดครับ เป็นแนวทางที่ดี เพื่ออนาคตครับ ชอบมากครับ👍❤️😷
หาที่ชาทยากจากชลบุรี
มองภาพรวม คือ ดีครับ
แต่ ชื่อว่ารถ ใช้แล้ว มีซ่อม บำรุ่ง และ เชื้อเพลิง ต้อง รองรับ ถ้า จัดมา แล้ว หาแหล่งชาร์ท อุปกรณ์ชาร์ท ไม่รองรับ ก้อไปต่อ ยาก
ยากมาก มีข้อจำกัด ในการถูกน้ำ โดนน้ำก้อ มีปัญหา
ศูนย์ซ่อมบำรุ่ง เรื่องระบบ ไฟๆๆๆ คนเป็นรู้ ก้อ พอเข้าใจ แก้ไขเบื้องต้นได้ แต่ ถ้าไม่รู้ ก้อ คือ ต้นทุน และ ความลำบาก แน่นอน ครับ
เป็นช่องรายการที่ดีมากอีกช่อง เพราะให้ความรู้ในหลายเรื่องดีมากคับ
ขอทนๆวิ่งได้ใกลๆ แบตอึด บรรทุกของได้ เยอะ ขึ้นดอยลงดอยเยี่ยม
มันต้องเปนระบบเเบบรถน้ำมัน คือติดตั้งตัวชาร์ทแบตเตอรี่ในรถด้วย ไม่ใช่เอามาใช้ชาร์ทข้างนอก ควรชาร์ทในตัวเองสิ คนจะได้นิยม
แต่ยังไงเชื่อว่า รถไฟฟ้ามาแน่ อยู่ในช่วงเร่งพัฒนาแบตอยู่ หรือแบบรถ X peng ของจีน เสนอแนวเปลี่ยนแบตอย่างเร็ว (swap) ใช้เวลาไม่กี่นาที
ไม่ว่าสิ่งใด หากยังแข่งขันกันอยู่ อย่าพึ่งตัดสิน การแพ้ ชนะ และเสมอ หากไม่อาจมองความได้เปรียบ เสียเปรียบ ได้อย่างชัดเจน.
ประเทศ อื่นไม่ทราบ แต่ ประเทศไทย ไม่มีวันเกิด ขนาดไฮบิด ที่มีเครื่องเชื้อเพลิงน้ำมันยังขายแทบไม่ออก เจ้งกันเป้นแถบๆ ถ้าev 100% ไม่ต้องพุด อย่าลืม ประเทศนี้ ปตท คือมหาอำนาจสูงสุด เรื่องยานยนต์ ปัญหาหลักเลย คือแหล่งชาท และเวลานานกว่าจะเต้ม ส่วนอแดปพกพา ไม่ต้องพุดถึงเลย แม้ง เป็นวันๆ สมมุติ คงอยุ่ กทม ต้องการกลับบ้านที่ สงขรายังงี้ จากที่วัน ซัดยาวตรงถึงได้เลยถ้าเป้นรถเชื้อเพลิงน้ำมัน แต่ถ้า ev ละ ต้องจอดแวะชาทกี่รอบ แล้วกี่วันละจะถึง นั้นยังไม่พูดถึงหาก เรามีรถคันเดียว แล้วต้องเข้า ไปเที่ยวดอย หรือจะไปตั้งแค้มปิ้งในป่างี้ ข้อจำกัดเยอะเกินไปอยุ่ในขั้นที่ไม่สามารถยอมรับได้ สำหรับพวกทีมีรถไฟฟ้าเป้นรถคันเดียว และคันแรก
จริงแหละ เพิ่งเริ่มต้นเอง การวิจัยยังไม่หยุดกับที่ สมัยก่อนรถยนต์ยังมีปัญหามากมาย ทำไมไปไม่กลับไปใช้เกวียนกัน
อย่าว่าแต่รถไฟฟ้าเลยครับ. ผมใช้รถไฮบริด 2 รุ่น. เกือบ10ปีแล้ว. ไม่เสียอะไรเลย. ถ้าจะเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่. ผมขอเลือกรถยนต์เครื่องยนต์ธรรมดาครับ. กินน้ำมันหน่อยแต่. สบายใจเวลาซ่อมบำรุงครับ.
พูดให้ชัดเจนกว่าเดิมคือ 1 ใน 5 ของผู้ที่เคยใช้รถยนต์ไฟฟ้าเลือกกลับไปใช้รถยนต์สันดาปเหมือนเดิม แปลว่า 4 ใน 5 ไม่กลับไปใช้รถสันดาปอีกแล้ว 🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄
อาจจะเพราะเขารับได้เรื่องบำรุงรักษาที่แพงโครตหรืออาจจะเพิ่งซื้อมาใหม่1-2ปี อาจจะยังไม่มีปัญหาอะไรและมีการบริการที่น่าพอใจเขาก็ใช้ต่อ แต่คนที่เขากลับมาใช้รถน้ำมันอาจจะเพราะมันไม่ตอบโจทย์เขาแหละผมว่ามันต้องมีเหตุผลแน่นอน
มันก็มีข้อด้อยข้อเสียอยู่
แต่ส่วนตัวผมว่าในอนาคตมันต้องมาแน่ๆดีกว่าแน่นอนคับ เพราะตอนนี้มันแค่ยังใหม่อยู่
มันพึ่งเริ่มใช้จริง ยังไม่ถึง 10 ปี กับรถน้ำมันมีมา 110 ปี
ประเด็นคือระยะทางของรถคันนั้นๆ จุดชาร์จดีๆใกล้บ้าน ถ้าอีกหน่อยได้ใกล้เคียงรถน้ำมันไม่มีใครกลับมาใช้น้ำมันแน่นอนคับ
ช่วงเริ่มต้นเท่านั้นหละอนาคตต้องเปลี่ยนหมดล่ะครับ
ธรรมดาครับ อาจจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม หรือไม่ก็คนที่คลั่งไคล้ เติบโตมากับเครื่องบนต์สันดาป
เทคโนโลยีของแบต พัฒนาขึ้นทุกๆวัน ถ้ารถที่ผมใช้อยู่กลายเป็นรถไฟฟ้า ในราคาเท่าเดิม เท่ากับรถน้ำมัน ผมก็ใช้นะ แต่วันนี้ราคามันยังสูงกว่าอยู่พอสมควรเลย
ดูแลรถคันปัจจุบันให้ดี ถ้าจำเป็นต้องซื้อคันต่อไป EV แน่นอนคับ
คิดเหมือนกันเลย เพราะเราจะไม่ทนกับ pm 2.5 เพื่อลูกหลานเราด้วย หวังว่าจะมีพัฒนาขึ้นไปอีกเพื่อให้ใช้งานได้จริงไม่สะดุด และ....ลดๆราคาลงหน่อยน้า~
สนใจรถยนต์-เติมน้ำ ครับ สกัดน้ำเป็น*ไฮโดรเจน*ใช้สันดาปเเทน*น้ำมัน
สิ่งที่รอไม่ใช่รถ แต่เป็นสถานีจ่ายไฟ และ TECNOLOGYที่ใช้บรรจุกระแสไฟ.
สถานีจ่ายไฟสร้างง่ายกว่าปั๊มนน้ำมันครับ ไม่นานก็เต็มเมือง
รถไฟฟ้าใช้ดีต้องเป็นแบตเตอรี่สำรองทีมีน้ำหนักเบาบรรจุไฟฟ้าได้มาก แบตเตอรี่สำรองที่สามารถเอาออกมาแชปฺ์ข้างนอกได้ เช่นชาร์จห้องคอนโดได้ และสามารถซืัอแบตเตอรี่สำรองหลายลูกได้ ไว้ในรถ ยามแล้วแบตเตอรี่สำรองหมด สามารถเปลี่ยนได้
แบตเตอรี่สำรองต้องชาร์จได้ทุกที่แม้แต่แสงอาทิตย์ ในบ้าน ในห้องคอนโด และได้ทุกที่แห้งไม่จำกัด คนจะใช้รถไฟฟ้าได้ เหมือนในหนังเรื่องเจาะเวลาหาอดีตภาค2
เรื่องคงทน จะยังไงละ เพราะเฟืองขับเคลื่อนมันก็ต้องใช้โลหะ มีน้ำมันหล่อลื่นไหม ระบบเสียดทานต่างๆคงเหมือนพัดลม น่าคิดคือบ้านเรามันครึ่งบกครึ่งน้ำ เมื่อโดนลุยน้ำถึงระดับแบตเตอร์รีใต้ท้องรถมันจะกันน้ำได้ไหม น้ำกับไฟนี่ไปกันได้ไหม รับประกันยังไงไม่เจ้ง มีบริษัทประกันภัยเรื่องนี้ไหม...ดูสักสองสามปี ถ้าไม่มีปัญหาจะซื้อ ตอนนี้ขอใช้สันดาบไปก่อน.
เวลาครับที่เสียไป เหมือน NGV ราคาเชื้อเพลิงประหยัดแต่เติมแต่ละทีเสียเวลาไปเท่าไร10-20 นาทีต่อครั้งไม่รวมที่ต่อคิว ไม่รวมกลับรถไปเติมเวลาครึ่ง-ชั่วโมงรถวิ่งไปได้กี่กม. ส่งเสริมให้ใช้เหมือนตอนNGVใหม่ๆฟังก็เข้าท่าดี พอได้ใช้กลายเป็นรถกูบรรทุกระเบิดไปอีก อีตอนรอเติมแม่งน่าเบื่อก๊าซมาเมื่อไหร่ ไม่รู้ เด็กปั้มบางที่ก็น่า.เ.ะ
มันจะเป็นเหมือน NGV ไหม
ดูหลายคลิปเกี่ยวกับรถไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากๆ แต่กลับหาข้อมูลความปลอดภัยของรถประเภทนี้ไม่เจอเลย เช่น การป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า หรือแม้แต่กระทั่งหากเกิดอุบัติเหตุบนถนนแบตเตอรี่ที่มีความจุไฟฟ้าสูงมากแบบนั้นมีระบบป้องกันแบบไหนที่จะไม่ทำให้ไฟฟ้ารั่วไหลทำอันตรายต่อคนที่อยู่ในรถ หรือว่าแบตเตอรี่เหล่านั้นจะกลายเป็นเตาฌาปนกิจความร้อนสูงหลายพันองศาให้แบบอัตโนมัติเลย น่าจะหาข้อมูลพวกนี้มาทำคลิปบ้างนะครับไม่มีใครทำเลย งงมาก
ได้เลย ดูนี่ไปพลางๆก่อน
ruclips.net/video/8gCDtX2Dqm0/видео.html
คิดถึงราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไว้แล้วหรือยังครับ อู่ซ่อมทั่วไปสามารถซ่อมได้แล้วหรือยังครับหากเดินทางไกล
รถไฟฟ้า หลายสิบปีผ่านมา และผ่านไป ยังคงเป็นรถอนาคต อยู่ดี อีกกี่สิบปี ทั้งประเทศถึงจะมียอดใช้เกิน 50 %
หัวปลั้กตัวชาร์จนี้-มันเท่ากันหมดไหม?มันเหมือนตัวชา้ร์จของของยี่ห้ออื่นไปไหม
แต่ผมเป็นคนนึงที่ใช้รถไฟฟ้าแล้วไม่กลับไปใช้รถสันดาปเลย ส่วนตัวรู้สึกว่าไปต่างจังหวัดไกลๆก็ไม่ได้เหนื่อยมากแค่ต้อง Plan เรื่องเส้นทางก่อนแค่นั้นเองส่วนเวลาในการชาร์จรู้สึกว่าได้พักคนพักรถกินข้าวไปด้วย โดยร่วมไม่กลับไปใช้รถสันดาปครับ ยังไงอนาคตการใช้รถไฟฟ้าจะดีขึ้นเป็นอย่างมากระยะทางจะวิ่งได้ไกลและแบตเตอรี่ราคาจะถูกลง❤❤
ใจเย็นๆ อย่าด่วนสรุป ยิ่งวันเทคโนโลยีของประเทศผู้ผลิตรถไฟฟ้ายิ่งก้าวหน้า ล่าสุดเบนซ์ออกรุ่นใหม่ชาร์จได้ภายใน 15 นาทีแล้ว แล้วปั๊มชาร์จไฟก็มากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเวลาคลิป 14.34 นาที
อารัมภบทยืดยาว (ในเรื่องที่ผู้คนรู้อยู่แล้ว) 3 นาที
ตามด้วย "พูดซ้ำ" กับ 3 นาทีแรก อีก 1 นาที
รวมเป็น 4 นาทีแรกที่ "ยังไม่เข้าประเด็น"
หลังจากนั้นภายใน 10 นาทีที่เหลือ ก็เป็นการ "ฟูมฟาย" แทบจะแทรกอยู่ในทุกๆ 30 วินาที
ทั้งๆ ที่เนื้อหาจริงๆ หากพูดแบบเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ต้องเร่งกระหืดกระหอบ
...ไม่ถึง 3 นาที
ปัญหาหลักคือ เวลาชาร์จ ในอนาคต ถ้ามี ชาร์จ Lv.4 อาจจะดีขึ้นเพราะไปจอดรอป้ำนานๆ มันดูเสียเวลามาก บางคนเวลาในชีวิตสำคัญมากๆ ไปจอดรอ1ชม. นี้เสียเวลาไปหลายๆอย่างเลยน่ะ ระยะทางสำหรับตอนนี้คือพอรับได้ แค่เวลาชาร์จนี้และ
อรรถรสต่างๆ ..เสียงอันเร้าใจ.แรงสั่นสะเทือนจากการจุดระเบิด.มั้ง
และการสับเกียร์มันส์ๆด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีดีนะคะ จะเข้ามาหาความรู้ในนี้บ่อยๆนะคะ 🙏🙏🙏
ขอบคุณมากครับ 🙏🙏😍😍
ข้อมูลถึงแค่ปี 2018 คือ 3 ปีกว่าแล้ว เทคโนโลรถไฟฟ้าปัจจุบันก็พัฒนามาตั้งไกลแล้ว แต่ยังเอาข้อมูลเก่ามากมาเล่าอยู่อีก
ข้อมูลปัจจุบันมันยังใหม่และไม่แน่นอนอยู่ไงครับ เหมือนเวลาเราทำวิจัยหรือหาค่าสถิติ เราจึงต้องหาข้อมูลย้อนหลัง1-3 ปี เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องที่สุดครับ อย่างรถไฟฟ้าใหม่ๆตอนนี้กว่าจะใช้กันแพร่หลายก็2-4ปีนู่นแหละ
ผมอยู่ต่างจังหวัดข้อมูลนี้ ใช้ได้ถูกต้องเลย ครับ ตอนแรก จะออก ซีรีย์7 ปลั๊กอินไฮบริด เนื่องจากกลัวเรื่องต้องหาที่ชาร์จไฟระหว่างทาง แต่เห็นว่า รออีกหน่อย เมอซีเดส จะมีรุ่นใหม่เป็นไฟฟ้าทั้วหมดน่าสนใจ และทาง ปตท จะมีรถไฟฟ้าของตัวเองและจะทำให้มีสถานี ชาร์จไฟมากขึ้น เลยขอใช้รถน้ำมันไปก่อน แล้วข้ามไปใช้รถไฟฟ้าเต็มตัวเลยดีกว่า ไม่เอาแล้วปลั๊กอินไฮบริด
@@worapongk1 ปลั้กอินต้องหาทีชาร์จด้วยหรือ
@@fince09 มันได้ทั้งสองอย่างครับ จะชาร์จแบตเตอรี่ หรือน้ำมันก็ได้ ระบบมันสลับได้ แต่ใจผมอยากได้ ไฟฟ้าเพียวๆมากกกว่า ไม่อยากต้องดูแล สองระบบ ตอนนี้แคมรี่ ที่ผมใช้ รุ่น 3.5 cc มันเริ่มเก่า งอแงแล้ว เพราะคอนนี้มีคนรู้จัก แกออกซีรี่ย์7 ปลั๊กอินไฮบริด ตอนเช้าขับไปทำงาน คนขับรถแกก็เอาไปจอดชาร์ทไฟไว้สถานีชาร์ทใกล้ที่ทำงานของแกตอนเย็นขับกลับ แทบจะใช้น้ำมันน้อยมาก เลยอยากได้แต่คงทำแบบแกไม่ได้
@@worapongk1 ๘ฃ
ใช้e-power ฟินสุด ออกจัวได้ฟิล หลังติดเบาะ เติมน้ำมันแบบeco car รถขนาด mini suv เจอนิสสัน จดสิทธิบัตรไปแต่โฆษณาให้คนเข้าใจไม่ได้ รถไฟฟ้าจะใช้ บางวันไฟดับ กลับมาางคืนเช้าไปทำงานไม่ได้เลย อยู่คอนโดก็ชาจไม่ได้
ถ้ามายุครถไฮบริด ขายระเบิดเลย
Ev ปัจจุบ้น เหมาะกับขับในเมือง มากกว่า ขับไปเรียน ทำงาน ส่งลูก ระยะทางใช้งาน50 โลต่อวันนี่ ซื้อได้เลย สำหรับเป็นรถคันที่สอง ถ้าดูในบ้านเรา ณวันนี้ MG กินขาดทั้ง2รุ่น ในด้านความคุ้มค่า
สำหรับตัวผม ผมว่าขับระหว่างเมืองดีและประหยัดกว่าครับ(แต่ก็ขึ้นกับพฤติกรรมของคนขับอีกนิดหน่อยครับ ผมใช้อัลติสไฮบริดตัวล่าสุดครับ)
ตอบง่ายๆ eco sytem มัน friendly.
ทุก cost,service store,parts etc...
สำหรับใครอยากใช้รถไฟฟ้า แต่ต้องเดินทางไกล ลองดูคลิปของ นายอาร์ม ดูครับ ถ้าทางใกล้ๆในเมืองนี่ไม่น่ามีปัญหา
ส่วนเรื่องต่อคิวกันชาร์จ เคยบอกไปแล้วว่ามีแน่ๆ
ส่วนตัวมองว่า ยังใช้เวลาชาร์ดไฟยังช้าอยู่แถมถ้ามีรถจอดชาร์ดอยู่ก่อนยิ่งช้า แถมมีการขึ้นราคาไฟฟ้าอีก ต้องวางแผนใช้งานดีๆเพื่อเวลาชาร์ด
การเติมพลังงานให้รถยุงยาก ต้องใช้โซล่าร์บนหลังคารถให้ได้
ผมรอราคาลดไฟฟ้า ให้ราคาถูกลงกว่านี้. ยังรู้สึกว่าหักบวกลบกัน ใช้น้ำมันยังคุ้มกว่า สำหรับผม. ผมขับวันละ 10ไมล์ เอง เติมน้ำมันเดือนละครั้ง
ผมคนหนึ่งที่ใช้รถน้ำมัน2คัน ดีเซลและเบนซิล ที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า คือตัดสินใจแล้ว ถ้ารถยนต์คันต่อไปที่จะซื้อ ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ปีนี้ชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอให้มีการขยายจุดชารจ์เพิ่มเติมกว่านี้ก่อน จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจและยอมเปิดใจในการยอมรับและซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คันต่อไป
ที่น่าสนใจคือทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์แบบไม่ต้องชาร์จ สามารถถอดเปลี่ยนแบตได้เลย เห็นมีคนจะทำอยู่ และต่างประเทศมีทำแล้ว แต่แค่มอเตอร์ไซค์
คิดถึง ลูกผสม ค่ายนึงเลย บอกประกันแบท 10 ปี ใช้ไป 1-2 ปี ต้องกลับมาเปลี่ยนแบท 1-2 แสน
บริษัทอะไรเหรอครับ
มั่ว นะคุณ
ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นการ disrupt แต่ผู้บริโภคมีทางเลือกในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ในช่วง 10-20 ปี
ต่างจากผม อยากทิ้งรถน้ำมันให้หมด เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าแทน
ลูกใช้ byd มาปีกว่าแล้ว ติดวอลชาร์ทที่บ้าน ขอมิเตอร์ tou เพิ่ม ชาร์จ ครั้งหนึ่งใช้เวลา 6-8ชม. ใช้ได้ระยะทาง 480 กม. (ใช้จิงๆได้ระยะทางราวๆ 380-420 ระยะทางที่ได้ ตามความเร็วที่เราใช้) เฉลี่ยที่ผมใช้ .75-1บาท/กม.
จากเดิมเติมน้ำมันเดือนละ 5-6พัน แต่ตอนนี้ จ่ายค่าไฟเดือนละ 1000บาท ชาร์จวีคบะครั้ง ครั้งละ250บาท
ไม่ต้องวุ่นวายกับการเปลี่ยนของเหลวทุก 5,000-10,000โล
เดินทางไกล ก็วางแผนหน่อย ไม่ยากเหมือนที่คิด
ดีมากๆ เลยคับขอบอก 👍👍👍
กำลังจะถอย byd seal ให้ลูกอีกคัน
น่าจะมีทำระบบ solar cell บนพื้นผิวหลังคา ฝากระโปรง ฝาท้าย เอาพลังงานที่ได้มาทำเป็นพลังงานไฟฟ้าให้เกิดการระบายความร้อนในห้องเครื่อง และห้องโดยสาร สำหรับรถน้ำมัน
นับเป็นไอเดียที่ดี ที่จะช่วยยืดระยะทางรถวิ่งไปได้บ้าง แต่ก็คงไม่มาก เพราะไฟจากโซล่าเซลส์ มีพลังงานน้อย เนื่องจากขึ้นอยู่กับพื่นที่ผิวที่โดนแดด ลำพังหลังคารถ ฝากระโปรงหน้าหลัง ก็ถือว่าน้อย แต่ก็ดี ถ้าหากแบตเกิดจะหมดจริงๆ แค่จอดทิ้งไว้สัก 2 - 3 ชั่วโมง (ถ้ามีแดด) ก็วิ่งต่อได้ แต่คงวิ่งไปได้แค่สถานีชาร์จไฟนะครับ
ใช่ครับหลังคารับแสงอาทิตย์เอากลับมาชาร์จ และเปิดแอร์ด้วย น่าจะยิ่งดีครับ
ไม่ได้อยู่ดี คุณต่องเอารถไปตากแดดทิ้งไว้
แล้วถ้าติดตั้งระบบให้รถมันใช้การวิ่ง มาหมุนมอเตอร์เพื่อผลิตไฟฟ้า ชาร์จกลับคืนเข้าไปที่แบตเตอรี่ ในขณะที่วิ่ง
อยู่ มันจะยิ่งช่วยให้คนที่ใช้รถไฟฟ้า เสียค่าไฟที่ใช้ชาร์จประหยัดเพิ่มขึ้นมัย