สัญญาจะซื้อจะขายบ้านคืออะไร สำคัญขนาดไหนสำหรับคนที่จะซื้อขายบ้าน | Guru Living

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 6 сен 2024
  • สัญญาจะซื้อจะขายบ้านคืออะไร สำคัญขนาดไหนสำหรับคนที่จะซื้อขายบ้าน | Guru Living
    สวัสดีครับวันนี้ผมจะชวนทุกคนมาคุยถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านมือสองหรือกำลังจะขายบ้านนะครับ เวาลที่ทั้งเราจะซื้อหรือจะขายบ้านมันจะมีเอกสารสำคัญตัวหนึ่งที่มาเกี่ยวข้องครับสัญญาฉบับนี้คือ “สัญญาจะซื้อจะขายครับ”
    สัญญาจะซื้อจะขายคืออะไร
    สัญญาจะซื้อจะขายคือสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อแสดงเจตนาว่า เราในฐานะผู้ขายมีความประสงค์จะขายบ้านหลังนี้ และ เขาในฐานะผู้ซื้อมีความประสงค์ที่จะซื้อบ้านหลังนี้ ซึ่งเอกสารฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายครับ
    หากมีฝ่ายๆใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ ฝ่ายใดๆฝ่ายหนึ่งก็สามารถฟ้องร้องได้ครับ ก็เป็นประมาณนี้ ซึ่งในข้อตกลงต่างๆเราจำเป็นจะต้องระบุให้ละเอียดไปเลยนะครับในสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าจะเป็น ราคา , มัดจำวางเท่าไร, ค่าใช้จ่ายใครออกบ้าง , ระยะเวลา หรือ เงื่อนไขอื่นๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องสำคัญมากๆเลยนะครับ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาเวลาเราซื้อขายกัน เดี๋ยวผมจะมาขยายรายละเอีดให้ครับ
    ส่วนประกอบหลักๆของสัญญาจะซื้อจะขายจะมีหลักๆดังต่อไปนี้ครับ
    ข้อมูลของผู้ซื้อขาย ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน
    ส่วนแรกของเอกสารจะเป็นข้อมูลของทั้งสองฝ่ายครับซึ่งถ้านในสัญญาเขาจะเรียกแทนผู้ซื้อผู้ขายด้วยคำทางกฎหมายครับคือ
    ผู้ซื้อ = ผู้จะซื้อ ผู้ขาย = ผู้จะขาย ซึ่งเอกสารส่วนแรกนี้สำคัญมากควรตรวจสอบข้อมูลไห้อย่างรอบคอบครับ
    รายละเอียดทรัพย์ที่จะซื้อขาย
    ส่วนที่สองคือรายละเอียดของทรัพย์ที่เราจะซื้อขายครับ ข้อมูลตรงนี้ต้องเอาข้อมูลที่ถูกต้องเช่นกันครับเช่น เลขที่โฉนด พื้นที่ ลักษณะอาคาร บ้านเดี่ยว หรือ อาคารชุด , ที่ตั้งตามทะเบียนบ้านเหล่านี้ต้องตรวจสอบให้ครบนะครับ
    ราคาซื้อขาย + เงินมัดจำ
    ส่วนนี้จะเป็นส่วนระบุราคาที่เราจะซื้อขายกันครับ วาสเราตกลงซื้อขายกันในราคาเท่าไร และจะเพิ่มเรื่องการวางมัดจำในสัญญาฉบับนี้ครับซึ่งโดยส่วนมากการวางมัดจำก็จะเริ่มที่ 5-10% หรือว่าก็แล้วแต่ตามตกลงกันในสัญญาครับ ซึ่งเงินตรงนี้วางไว้เพื่อป้องกันการทำผิดสัญญาหรืออื่นๆครับ
    ค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ
    ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญมากๆสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายครับ คือเวลาเราไปโอนกรรมสิทธิบ้าน ที่ดิน หรือคอนโด ที่กรมที่ดินเนี่ยเขาจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นครับซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะมี
    ค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าอากรณ์แสตมป์ ภาษีธุรกิจจำเพาะ และ ภาษีเงินได้ ซึ่งผมได้ทำคลิปอธิบายอย่างระเอียดไว้แล้วในเรื่องนี้ครับสามารถเข้าไปดูได้เลย
    แต่ในสัญญาจะซื้อจะขายมีหน้าที่ระบุว่าค่าใช้จ่ายข้างต้นที่ผมพูดไปทั้งหมด ใครมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบ ผู้ซื้อไหม ผู้ขายไหม ดังนั้นในส่วนนี้เราจะต้องตรวจเช็คให้ดีมากๆเลยนะครับ
    ระยะเวลาการส่งมอบ
    ระยะเวลาในการส่งมอบคือระยะเวลาที่ถูกกำหนดและตกลงกันไว้สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายว่าเราจะทำการโอนบ้านให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาเท่านี้ซึ่งโดยปกติระยะเวลาตรงนี้ก็จะอยู่ที่ 1 เดือนไม่เกิน 2 เดือนเป็นต้นไปครับ ทำไมถึงต้องกำหนดระยะเวลาตรงนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะป้องกันผลประโยชน์สำหรับผู้ขายว่าไม่ให้ระยะเวลายืดยาวจนเกินไปจนเสียโอกาสการขายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ
    เงื่อนไขอื่นๆในสัญญา
    เงื่อนไขอื่นๆในสัญญาก็จะเป็นรายละเอียดยิบย่อยที่จะเพิ่มเติมเข้ามาครับเช่นบ้านหลังนี้แถมอะไรให้บ้างคอนโดห้องนี้มีสภาพเป็นยังไง เฟอร์นิเจอร์อันไหนให้บ้างเฟอร์นิเจอร์อันไหนไม่ให้บ้างและละเอียดต่างๆนี้ผู้ขายสามารถกำหนดให้ผู้ซื้อได้เลยครับ
    เงื่อนไขการผิดสัญญา
    ในส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญครับที่ต้องระบุไว้ให้อย่างละเอียดเลยว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายถ้าหากว่ามีการทำผิดสัญญาจะต้องมีการเรียกปรับนะครับในส่วนของผู้ซื้อนั้นอาจจะเป็นการยึดเงินมัดจำที่ให้ไว้ในสัญญาฉบับนี้หากเกิดทำผิดข้อกำหนดครับไม่ว่าจะเป็นไม่ยอมโอน เปลี่ยนใจหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ แต่ในฐานะผู้ซื้อหากผู้ขายทำผิดสัญญาเราสามารถเอาสัญญาฉบับนี้ไปฟ้องผู้ขายได้และดำเนินคดีตามกฎหมายครับในฐานะที่เขาทำผิดสัญญาซึ่งควรจะมีรายละเอียดการเรียกร้องความเสียหายไว้ในสัญญาฉบับนี้ด้วยนะครับ
    เซ็นรับรองเอกสารทุกหน้าและท้ายสัญญา ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
    เรื่องสุดท้ายที่ต้องมีทุกหน้าเลยนะครับคือการเซ็นสัญญารับรองไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายครับและถ้าให้ผมแนะนำก็คือคุณควรจะเซ็นสัญญาทุกหน้านะครับเพื่อให้มีผลบังคับใช้จริงตามกฎหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยสัญญาจะซื้อจะขายเนี่ยจะต้องมีการทำกันทั้งหมด 2 ฉบับนะครับผู้ซื้อเก็บไว้ 1 ฉบับและผู้ขายเก็บไว้ 1 ฉบับ
    ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดต่างๆที่สำคัญมากๆในสัญญาจะซื้อจะขายนะครับ ดังนั้นแล้วผมสรุปให้ทุกคนฟังอีกทีนะครับ ถ้าเราเป็นคนที่กำลังจะขายบ้าน หรือ จะซื้อบ้านเน้นว่าเป็นมือสองนะครับเราควรที่จะศึกษาเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายไว้ให้ดี และทุกครั้งที่มีการซื้อขายบ้านหรือคอนโดทุกครั้ง เราจำเป็นต้องอ่านรายละเอียดในสัญญาจะซื้อจะขายให้อย่างระเอียดมากๆเลยนะครับ เพราะถ้าไม่อ่านโดยละเอียดแล้วเราอาจโดนทั้งผลักภาระค่าใช้จ่ายบางตัวที่เราไม่ควรต้องออก หรือโดนตุกติกบางอย่างจนเสียเงินมัดจำไป ดังนั้นเแล้วผมยืนยันนะครับว่าก่อนนจะวางมัดจำและก่อนจะเซ็นสัญญาเราต้องอ่านให้รอบคอบมากๆเลยนะครับ
    แต่สำหรับใครที่ซื้อขายบ้านมือสองผ่าน Agent อสังหาริมทรัพย์โดยส่วนมากเขาจะมีการจัดเตรียมสัญญาจะซื้อจะขายให้เราเรียบร้อยแล้วครับ แต่อย่างไรก็ดีเราก็ควรที่จะศึกษาและสอบถามเงื่อนไขต่างๆให้ครบถ้วนก่อนที่เราจะเซ็นสัญญานะครับ
    #สัญญาจะซื้อจะขาย #สัญญาซื้อขายบ้าน #ขายบ้าน

Комментарии • 88