ช่วงซิ่วเพื่อหาตัวเองดีที่สุดแล้วผมว่า ผมจบป.ตรีทำงานแรกแล้วเหนื่อยมาก เลย Gap year เป็นปีพักผ่อน หาแนวทาง พอได้ทำงานที่โอเค รู้สึกว่าสตาร์ทช้า รู้สึกเสียเวลาช่วง gap year พอมาทำงานแล้วมันไม่ไฟแรงเท่าช่วงจบใหม่ เลยไม่โอช่วงหลังเรียนจบป.ตรี แต่โอช่วงม.6 มากกว่า ซึ่งมันเป็นแล้วแต่วิถีไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยจริง ๆ
ของน่ะเค้าสั่งไปตั้งแต่มันยังใหม่ครับแต่กว่าของจะมาให้เรียนมันก็เป็นรุ่นเก่าไปแล้ว อาจารย์ผมว่ามางี้อ่ะผมเรียนช่างยนต์เรียนรุ่นเก่าตลอด ยิ่งตอนนี้รถ EV เริ่มเข้ามามีบทบาทกลับได้แค่ค้น google เรียนในจินตนาการโคตรแย่อ่ะ
" การศึกษาควรเป็น ชอยซ์ ไม่ใช่ โชค " ชอบคำนี้มากครับ ♥
คมกริ้บ
10กระโหลก!!!
โคตรจะจริง
เคยหวังไว้จะได้เรียน มหาลัย
แต่เพราะจน จึงอดเรียน ทุกวันนี้ ก็ยังหวังจะได้เรียนอยู่
เพราะมองว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
The waffle house has found it's new host
@@bangueng คมตรงไหน ไอ้เจ้าพ่อก็อปคอนเทน
จริงๆ หลังเรียนจบ ม6 หรือ ป ตรี ควรจะมี Gap year สัก 1 ปี เพื่อจะได้ค้นหาตัวเอง
แต่อย่างว่า ไม่ใช่ทุกคนหรือครอบครัวทุกคนจะมีแรงซัพพอร์ตให้ลูกไปค้นหาตัวเอง
บางบ้านเรียนจบปุ๊ปมึงก็ต้องหางานทำเดี๋ยวนั้นเลย
เรียนไปเถอะครับ เอาคนเรียนจบ 100 คน กับเรียนไม่จบ 100 คน
ชั่งน้ำหนักกันก็รู้ครับว่า คนแบบไหนชีวิตดีกว่ากัน
(ไม่นับที่บ้านรวยอยู่แล้วนะ)
ตอนนี้ผมก็gap yearอยู่ครับตอนแรกวุ่นใจมากเพราะเพื่อนเรียนมหาลัยหมด ผมต้องตั้งสติแล้ววางแผนชีวิตตัวเองใหม่จนตอนนี้ผมมีงานทำแบบfulltime หาเงินเองได้แล้ว ส่วนความรู้ถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มก็ลงคอร์สเอาครับแฮปปี้มากครับ
ผมเห็นด้วยจริงๆเลยครับ จากเด็กซิ่ว 1 ปี ซิ่วไปคณะอื่นๆ เป็น 1 ปีที่ผมได้ค้นหาตัวเองสุดๆไปเลย ทำสิ่งที่ชอบ จนรู้ตัว
ช่วงซิ่วเพื่อหาตัวเองดีที่สุดแล้วผมว่า ผมจบป.ตรีทำงานแรกแล้วเหนื่อยมาก เลย Gap year เป็นปีพักผ่อน หาแนวทาง พอได้ทำงานที่โอเค รู้สึกว่าสตาร์ทช้า รู้สึกเสียเวลาช่วง gap year พอมาทำงานแล้วมันไม่ไฟแรงเท่าช่วงจบใหม่ เลยไม่โอช่วงหลังเรียนจบป.ตรี แต่โอช่วงม.6 มากกว่า ซึ่งมันเป็นแล้วแต่วิถีไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยจริง ๆ
ถ้าไม่ได้เรียรด รด. มาชายไทย gap year ยากครับ ยิ่งคุณช้าทุกอย่างจะ delay และเสียโอกาศไปหมด ควรยกเลิกเกณทหารครับ
@lazii man ถ้าเราเอา 1 ปีตรงนั่นไปพักผ่อน หาความรู้ใหม่ๆ เรียนเสริม เช่น ภาษาอังกฤษ(ไปสอบToeic เอาคะแนนไปยื่น)ภาษาที่ 3 หรือไปสอบ ใบ Cert. ต่างๆ
ผมเชื่อว่าบริษัทที่มี Mindset ที่ดี เขาจะไม่เห็น 1 ปีที่เรา Gap year นั้นว่างเปล่า แน่นอนครับ
เรียนไปเถอะ มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือน มันรวมไปถึงคอนเนคชั่น ทัศนคติ และอีกมากมายที่เราได้จากมัน คนที่ไม่เคยเรียนหนังสือจะเห็นคุณค่าของมัน คนที่เยาะเย้ยคือมีปม
เล่นสูงๆ จะได้มีงานทำสูงๆ
คอนเนคชั่นถ้าคุณคิดว่าเรียนจบถึงจะมี คอนเนคชั่นของคุณมันจะห่วยกว่าของคนที่เค้าสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
ทุกวันผมเรียนเพื่อเอาปริญญาพออย่างน้อยมันก็เป็นเซฟตี้ได้อย่างนึงอ่ะ
@@kuruma5037 ขอออกความเห็นนะครับ ใบปริญญาไม่เซฟตี้นะครับ คุณสามารถไปหาข้อมูลได้ ในไทยปริญญาตรีจบง่ายมากคนจบโคตรเยอะ ถ้าคุณไม่มีความสามารถจริงๆชีวิตคุณคงจบถ้าหวังพึ่งมัน
เอาอะไรกับประเทศไทย5555
หลายอย่างที่สำคัญไม่ได้ถูกพูดถึง
1. เรียนจบตรีเป็นแค่จุดเริ่มต้นยังมีระดับสูงกว่า คนเก่งๆจะขนขวายให้เก่งขึ้นไปอีก ทั้งเรียนภาษา และความรู้จากประสบการณ์ที่ได้จากการทำงาน ปริญญาคือใบเบิกทาง
2. 15,000 ไม่ใช่จุดจบ หลายคนที่จบมาแต่ไม่เก่งก็ติดแหง่กกับเงินเดือนต่ำๆไปทั้งชาติ แต่คนเก่งหลายคนสตาร์ทก็ไป 30,000+ แล้ว ต่อยอดไปได้เงินหลักแสนก็มีไม่น้อย ปลายทางบางคนก็เป็นเจ้าของกิจการ
3. สิ่งที่ทำให้มีรายได้สูงไม่ใช่ปริญญาแต่เป็น "ความสามารถ" อย่างนักวาดภาพประกอบเก่งๆหรือสตรีมเมอร์รายได้เป็นแสน เขามีความสามารถที่ฝึกฝนมาถึงทำได้ ไม่ใช่ว่าไม่เรียนความสามารถอื่นก็ไม่มีแล้วแบบนั้น 50,000 มันจะมาจากไหน
ถูกต้องเลย แล้วแต่ละคนความสามารถก็ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะค้นพบและสามารถต่อยอดพัฒนาได้ไกลมากกว่า
เพราะเป็นทุนนิยมถึงกำหนด เงินเดือนตายตัวไม่ได้ครับ ตลาดเป็นคนกำหนด ถ้าเขาอยากให้เงินเดือนสูงก็ต้องผลักให้GDP มากกว่านี้ ซึ่งคนเก่งๆก็ไปทำงาน ตปท.อีก แล้วจะให้โตยังละทีนี้
ผมจบ ปวชตอนนี้ก้มีบ้านมีรถครบทุกอย่าง ผมยังอยากกลับไปเรียน ฝากบอกพวกที่คิดจะไม่เรียน มันจะเหนื่อยกว่าชาวบ้านเค้านะ วุฒคือใบเบิกทาง เงิน15000 มันคือจุดเริ่มต้น มันไปได้อีก
ลองเทียบเป็นGDPระหว่างคนเรียนจบทั่วประเทศ กับ ไม่จบทั่วประเทศสิ ใครรวยกว่า
คนจบป.4 หรือเจ้าสัวหลายคนก้ไม่ได้เลียนจบ พวกเขากะบมีเงินถลุงเปนว้เล่น สามารถแจกงเงินได้หลักหมื่นล้าน เรียนไปก้เท่านั้น ต้องรับใช้เจ้าสัวจบป.4 อยู่ดี
เห็นด้วยทุกอย่าง แต่ส่วนตัวคงเรียนเพราะเอาเซฟตี้เหละ คงเพราะบ้านเราค่อนจะชนชั้นกลางไปล่างเลย มองว่าวุฒิคือเซฟตี้ให้ได้มีงานทำ ไม่กล้าหวังสูงเลย 🥲 ขอแค่มีงานทำในบริษัทสักที่ก็คือพอแล้ว รู้สึกไปได้สูงแค่นี้
อาจารย์ที่ เมกา (ระดับโปรเฟสเซอร์) หลายคนเดี๋ยว เขาก็ไม่แนะนำให้เรียนมหาลัยทันทีนะ เขาบอกเดี๋ยวนี้เรามีช่องทางการหาเงินได้มากกว่าอาชีพปกติเยอะ และ 4 -6 ปีในมหาลัยเขาบอกถ้าเรา หาตัวเองเจอแล้วรู้จริงๆ ว่าต้องการอะไร ความรู้ข้างนอก หาได้เยอะกว่า เขาบอกงี้จริงๆ ตอนจบ High school มาเขาอยากให้ค้นหาตัวเอง 1-3 ปีด้วยซ้ำ ยกเว้นคนที่มีเป้าชัดเจนว่าอยากเป็นอาชีพที่ต้องการความรู้จริงๆ เช่น หมอ ทนาย วิศวะ หรือคณะที่ต้องใช้ knowledge จริงๆอ่ะ อันนี้เขาบอกเรียนได้เลย แล้วคุณเอาคุณคนนี้เป็นตัวอย่างไม่ได้ เขาเป็นระดับ TOP 1% คุณว่ามี สตรีมเมอร์เอาแค่ เลี้ยงตัวเองได้ ถึง 1000 คนหรือเปล่า แต่อาชีพอื่นๆ มีงานรองรับเป็นแสนๆ ตำแหน่ง อีกอย่าง เท่าที่ฟังคุณคนนี้ เขาบ้านน่าจะมีฐานะ พ่อเขาส่งเงินให้มากพอที่เขาจะอัพคอม กินข้าว อยู่เฉยๆ ได้เป็นปีๆ ถ้าคนทั่วไป ที่แบบแค่เริ่มเรียนก็เป็นหนี้แล้ว ผมเห็นด้วยกับคนนี้เลยว่าต้องดูเป็นคนๆ
แต่นี้มันเมืองไทยครับ ควรเรียนซะ
@@handsomeguy1234 ก็บอกแล้วว่าดูเป็นคนๆ
อาจารย์คนไหน บอกคุณ 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
เหมือนที่ลุงไนท์บอกแหล่ะค่ะว่าถ้ามีโอกาสควรเรียน เพราะไม่ใช่ใครก็ประสบความสำเร็จได้ เราไปทำพาร์ทไทม์เรารู้เลยว่าคนที่เค้าไม่ได้เรียนแล้วรำบากเยอะกว่าคนที่ไม่เรียนแล้วสบาย ขนาดพี่ชายเราแกจบ ปวส.ทำงานแกต้องกับมาเรียนเพื่อเลื่อนขั้นเอาวุฒป.ตรี ถ้าอาจารย์เค้าชี้มาแบบนั้นเราไม่รู้ประเทศเค้ารองรับแค่ไหนแต่ในไทยก็ตามที่เราพูดเลยอยากได้ทำแหน่งดีบางที่ต้องใช้วุฒป.ตรี
ก็นั่นเมกา??? ลองทำดูที่ไทยก็ได้นะ
พาลุงไนท์มาซะคุ้มเลยครับ 55
จริงคับ คนเรียนไม่จบก็มีรายได้มากกว่าคนเรียนจบได้
แต่ถ้าว่าโดยภาพรวม คนเรียนจบมีโอกาสมีรายได้มากกว่า
มันมีจะคนห่วยๆบางคนพออ่านเจอแบบนี้ก็ทิ้งการเรียนไปเลย
ส่วนตัวเราสอบติดที่ดีๆม.ดังอ่ะ ที่บ้านไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เลยโดนไล่ออก
วุฒิต่ำกว่าป.ตรี และหางานได้งานแค่ค่าแรงขั้นต่ำ และโดนเอาเปรียบจากคำว่าพาทไทม์แต่บังคับให้ทำงานเหมือนคนทำประจำอ่ะ ต่างคือได้เงินน้อย หรือแบบงานที่มีกะดึก เข้านอนไม่เป็นเวลา ทำงาน6วัน 1วันหยุดเพื่อทำงานบ้าน แล้ววันต่อมาไปทำงานต่อ
ต่อรองกับนายจ้างได้ยากมากๆ
💪💪
จริงค่ะเราจบม.6และดรอปเรียน ระหว่างดรอปเราไปทำพาร์ทไทม์ช่วงนึง ช่วงนั้นผจก.เค้าเข้าใจว่าเราไม่เรียนแล้วเลยค่อนข้างจะกดและดูถูกเรา งานก็หนักกว่าพนักงานประจำกับเด็กฝึกงาน
ผมสนับสนุนที่พี่ไนท์พูดเลยครับ การศึกษาป.ตรี ไม่ใช่แค่สกิลการศึกษา แต่มันคือการเข้าสังคมในระดับคนอายุ 20
สังคมของวัยรุ่นพร้อมทำงาน สิ่งที่ได้รับมากหรือน้อยแล้วแต่ประสบการณ์สังคมที่เจอ แต่มุมมองเปลี่ยนไปแน่นอน
แต่สำหรับ ป.โท พี่ผมเรียนป.โท จะนำเรื่องมาเล่าให้ฟังทุกวัน ผมรู้สึกว่ามันเป็น exp ที่คุ้มค่ามาก
หลังจากเรียน ป.โท เขากลายเป็นคนที่สุขุม ตัดสินใจดี ให้คำแนะนำที่ใช้ได้จริง
ป.โท คือสังคมผู้ใหญ่ คนที่มาเรียนมีอาชีพตั้งแต่พนักงานประจำธรรมดาไปถึงลูกหลานคนมีอิทธิพลในธุรกิจ
เจอทั้งด้านมืด และด้านดี ได้พบคอนเนคชั่นของผู้ใหญ่ว่าเขาคุยกันอย่างไร
เปลี่ยนมุมมองการวางตัวในระดับผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ตัวอย่างที่ดีต้องทำอย่างไรจากสังคมที่เจอ
พูดยาก มันอยู่ที่มนุษยสัมพันธ์ดีพูดคุยสนุกพูดลื่นไหลไปเรื่อย และ ตั้งใจทำงาน ยังไงก็รวย (ไม่ใช้เงินจนเกินกำลังทรัพย์ด้วย) ผมก็เด็กท้ายห้องติดเกม เป็นคนเงียบๆเรียบร้อยคุยไม่เก่ง จบป.ตรี ทำงานตามระบบก้มหน้าก้มตาทำไปรายได้2หมื่นกว่าต่อเดือน แต่คนรู้จักหลายคน พูดเก่งน้ำไหลไฟดับ จบม6ปวช ค้าขายรวยซื้อบ้านเดียวซื้อรถยุโรปใช้กันหลายคน เท่าที่วิเคราะห์ได้คือ 1.พูดเก่งคิดไว 2.ตั้งใจทำงาน 3.อาชีพค้าขายหรือเซลล์ทุกชนิด 4.ปาร์ตี้ไปเรื่อยเข้าไปคุยกับคนอื่นได้แม้ไม่รู้จักกัน มีสี่อย่างนี้โอกาสหาเงินได้เยอะ ปล.การวิเคราะห์นี้เป็นมุมมองส่วนตัวจากคนรู้จักจริงรอบตัว
เห็นด้วย นี่อิจคนพูดเก่งนะ เข้าสังคมเก่ง มันเปิดทางได้หลายอย่างเลย
จริง อันนี้เห็นด้วย ถึงแม้ทำงานบริษัททำไม่เก่ง แต่พรีเซ้นเก่งพูดเก่ง ก็ดูดีกว่า
@@punch3983ผมนี่ตัวเด่นเลยพูดมากสุดในกลุ่มเพื่อนเลยโดนจับเป็นตัวพรีเซนต์ทุกครั้งเวลาทำงานกลุ่ม ซึ่งมันก็มีข้อดีนะคือผมก็กล้าที่จะพูดกล้าเข้าหาคนอื่น กล้าถามอาจารย์ทำให้ได้คอนเนคชั่นเพิ่มด้วยไม่ว่าจะจาก รุ่นพี่ อาจารย์ เพื่อน
ผมเรียนไม่จบ ม.3 แต่ทุกวันนี้เป็นช่างอาวุโสในบริษัทระดับโลก แต่!!! การที่คุณเรียนจบมันเป็นบันไดก้าวแรกที่ดีมากๆ กว่าผมจะมาถึงขั้นนี้ได้ ผมต้องขยันกว่าคนอื่น พยายามกว่าคนอื่น ต้องเก่งกว่าคนอื่น แต่กลับน้องๆที่ฝึกงาน หรือจบ ปวช ปวสจบใหม่มา ทำงานไม่เป็นเลย เงินเดือนแม้งน้อยกว่าผม2-3พัน
จริงคับ
เรียนจบ กับไม่จบ สุดท้ายแล้วไม่ได้มองที่จุดนั้นแต่มองจุดที่จะทำอะไรเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน แต่การเรียนนั้นสำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งสำคัญที่ว่าเรียน ศึกษาแล้วได้อะไรจากที่เรียนรู้ในสิ่งนั้นๆ การเรียนการศึกษาไม่มีคำว่าจบ นั่นก็เพราะมันมีอะไรที่ต้องพัฒนาเสมอ โลกพัฒนา สิ่งใหม่ๆพัฒนาตลอดเวลา นั่นแหล่ะคือการเรียนรู้... จบ ไม่จบที่มองกันคือ ใบจบที่เป็นหลักฐานยืนยันความรู้ที่เรียนเท่านั้น ใบจบที่ว่ามันสำคัญแค่นั้น เป็นใบเบิกทางให้มีงานทำ แต่ไม่ใช่ใบเพื่อบอกว่าคุณจะได้เงินตามที่คุณคาดหวังสูงๆ หากใครถามว่าการเรียนจำเป็นไหม คุณครับ คุณลองถามตัวเองว่า ถ้าหากคุณไม่มีความรู้ใดๆเลย ไม่มีทักษะ ความสามารถอะไรก็ตามเลย คุณจะอยู่รอดไหม สิ่งสำคัญที่สุดคือจงอย่าหยุดในสิ่งที่ทำแล้วจงเรียนรู้กับสิ่งที่คุณชอบแล้วจงพัฒนากับสิ่งที่เรียนรู้แล้วนำไปใช้ในชีวิตและการงาน เงินเดือนหรือเงินที่ได้รับที่มองกันที่ต้องได้สูง ก็มาจากประสบการณ์เหล่านั้นครับ ซึ่งจุดนี้ทุกคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ดังนั้นอย่าไปมองเลยว่าใครดีกว่าใคร เช่น Steamer หรือ นักแข่งเกม ต่างๆที่เก่งๆเนี่ย พวกเขาเหล่านี้เงินสูงเพราะมาจากฝีมือ content ต่างๆที่ทำให้เหล่าคนดูชอบกัน แต่ว่าพวกเขาจะทำไม่ได้ ถ้าไม่มีคนคิด และคนสร้างให้ถึงแม้ว่าจะเงินเดือนน้อยกว่า แต่ทำไมต้องมาสนใจตรงนี้ มีใครสนไหม เขาสร้างให้คุณมีอาชีพใหม่ มีรายได้ดีกว่า ต้องมาคิดจริงๆหรอว่า เงินเดือนน้อยกว่า เพราะถ้ามองกันดีๆ คนคิดและคนสร้าง ก็ต้องการคนออย่างเราๆ เพื่อให้เขามีรายได้ นี่แหล่ะคือการที่อย่าไปมองใครดีกว่าใคร ทำของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
จริงที่การศึกษาในประเทศนี้ ไม่ได้ช่วยให้เราค้นหาตัวตน แต่การศึกษาก็เป็นการเปิดโลกอีกมุมที่เราไม่เคยเจอ อาจทำให้คนแต่ละคนเจอทางของตัวเองในโอกาสข้างหน้าครับ
เอาง่ายๆ ถ้าคุณรู้ตัีวว่าคุณอยากเป้นอะไร อยาำทำอะไร ไม่ต้องเรียนก็ได้ ถ้าคิดว่าความรุ้ หรือสิง่ที่ทำไม่ต้องใช้ปริญญา แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร เรียนซะ ใบปริญญามันช่วยให้คุณหาง่ายได้ง่ายขึ้น
ผมเป็นคนหนึ่งจบเเค่ป6 เเต่ผมบอกเลย ผมอ่านหนังสือเยอะมากๆ ไม่เคยหยุดที่จะศึกษาหาความรู้ ไม่จำเป็นหรอกว่าจะวุฒอะไร เเต่สิ่งที่จำเป็นที่สุด คืออย่าหยุดหาความรู้ เพราะความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเรามากๆนะครับ
#ผมไม่ใด้เรียนรู้เยอะๆเพื่อจะหางาน #เเต่ผมพยายามเรียนรู้ให้มากๆว่าจะสักวันจะสร้างงานให้กับตัวเอง
ความคิดดีมากครับ
ถ้าคิดว่าชีวิตคุณจะสร้างอาชีพเป็นของตัวเอง ไม่ได้ไปเป็นพนักงานออฟฟิต ก็ดีครับ อาจจะตอบโจทย์ ข้อให้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพครับ
วุฒิการศึกษา vs โชคชะตา
กับประโยคนี้คนที่มีวุฒิภาวะมีการศึกษาจะเข้าใจอย่างแท้จริง
มีโอกาสเรียนจงเรียนครับ เรียนเพื่อให้เราได้รู้จักสิ่งนั้น เรียนเพื่อมีโอกาสในด้านต่างๆ สมมติคุณเป็นลูกชาวสวน คุณก็จะรู้เรื่องแค่ในสวน อาชีพคุณก็จะทำได้แต่ชาวสวน แต่ถ้าคุณเรียนเพื่ม เช่น ประมง อาชีพที่คุณทำเป็นก็มีทั้งชาวสวนและชาวประมง โอกาสในชีวิตคุณก็เพิ่มขึ้นแล้ว
แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้จะเรียนอะไรหรือยังหาทางของตัวเองไม่เจอ **จงเรียนภาษาอังกฤษครับ เอาให้เทพเลย แล้วโอกาสในโลกนี้จะเปิดขึ้นอีกมาก**
หมายถึงเรียนด้วยตัวเองหรอครับ
@@gggs6940 อันไหนเรียนด้วยตัวเองได้ก็ดีครับ แล้วแต่เลยครับ จะเรียนกับครู คอร์สออนไลน์หรืออะไรก็ได้ครับ แต่เรียนกับคนที่มีความรู้หรือมีแนวทางให้ น่าจะเป็นเร็วกว่าศึกษาเองครับ มันต้องมีซักทางให้ได้เรียนแหละ
@@berserk8040 คุณนิยาม เรียนด้วยตัวเองคืออะไรครับ แต่ละคนต้องการมีเงินเพราะ
ถ้าไม่มีเงินก็ไม่มีอะไรไปซื้ออาหารแค่นั้น ส่วนผมมีที่ไร่ ปลูกอาหารกินเอง ซึ่งนั้น
ก็ไม่มีปัญหา ผมคิดว่าครูนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะครูนั้นไม่มีประสบการณ์
เพราะมีหน้าที่แค่สอนสิ่งที่เค้าทําก็คือ เขียน
ถ้าผมต้องการจะมีเงินเดือน คือต้องทําธุรกิจ หลากหลายเท่านั้นและค่อยๆ เดินช้าๆ
จริงเลยครับ วิชาความรู้ดีๆมีมากมายในเน็ต แต่เป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ ถ้าได้ภาษานี้ก็จะเข้าถึงข้อมูลดีๆได้อีกมากมายเลย
@@berserk8040 เรียรกับคนที่มีความรู้ ผมคิดว่า
ต้องหา ประสบการณ์เอง เสียมากกว่า
แต่ความล้มเหลว มันก็มีไว้ให้เรียนรู้ และการเปลี่ยนแปลง
จำเป็นหรือไม่จำเป็นขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ แต่ค่อนข้างจำเป็นอยู่กับคนที่ค้นหาตัวเองยังไม่เจอแบบผม แต่ผมคิดว่าระบบการศึกษาของไทยเรามันมีปัญหาเหมือนกันอย่างที่ลุงไนท์พูด ผมเคยมีโอกาสเรียนปวสเทคคอม เพราะรู้สึกชอบด้านนี้ กะจะว่าจบไปก็เปิดร้านซ่อมได้ พอได้เรียนจริงๆหลักสูตรกลับเหมือนกับสายอิเล็กส์ ได้ฝึกประกอบคอมอยู่สองครั้งในเทอมนึง แถมคอมยังเป็นรุ่นโบราณที่ทุกวันนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว เหมือนเรียนไปก็คงไม่มีใครเอาคอมรุ่นนี้มาซ่อมแล้วอะ นอกนั้นวงจรล้วนๆ ทำแผงวงจรไฟกระพริบคำนวนค่าไฟไรงี้ส่งจารย์ ซึ่งแม่งเราไม่ได้คิดว่าจะเจอพวกนี้(เยอะขนาดนี้)เลยเพราะไม่เก่งคำนวนด้วย เลยเรียนไม่ได้จนเครียดนอนไม่หลับจำใจต้องออก แรกๆตอนขอที่บ้านออกเขาก็ไม่เข้าใจจนเป็นซึมเศร้า สุดท้ายก็ได้ออก แต่คงไม่มีโอกาสกลับไปเรียนแล้วเพราะทุกวันนี้ก็เป็นอยู่ 5 ปีแล้วกับโรคนี้ต้องกินยาตลอดไม่ได้ทำงานเพราะนอนไม่หลับเรื้อรังแค่ใช้ชีวิตไปวันๆก็ยากแล้ว เคยมีแฟนแฟนก็เพิ่งขอเลิกเพราะรอเราหายไม่ไหวและมีคนใหม่ไปแล้ว ทุกวันนี้โฟกัสแค่เรื่องนี้ว่าซักวันต้องหายอย่างเดียวละ แต่สำหรับใครที่ยังเรียนได้และรู้สึกว่ามันยังไม่เกินกำลัง ก็เรียนๆไปเถอะครับ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ทำใจยอมรับมัน เพราะคนเราไม่ได้เหมาะกับการเรียนทุกคน สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็อยากจะให้เข้าใจลูกด้วยว่าถึงมันจะจำเป็น แต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ถามว่าเสียดายมั้ยก็เสียดาย แต่ก็ยอมรับมันได้ เพราะถ้าวันนั้นผมฝืนเรียนต่อ วันนี้ผมก็คงไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้วล่ะ...
สู้ๆครับเป็นกำลังใจให้
เราก็เกือบตายเพราะเรียน เรียนมอดังแต่การสอนโบราณจนเรางง
เราก็เกือบตายเพราะเรียน เรียนมอดังแต่การสอนโบราณจนเรางง
ของน่ะเค้าสั่งไปตั้งแต่มันยังใหม่ครับแต่กว่าของจะมาให้เรียนมันก็เป็นรุ่นเก่าไปแล้ว อาจารย์ผมว่ามางี้อ่ะผมเรียนช่างยนต์เรียนรุ่นเก่าตลอด ยิ่งตอนนี้รถ EV เริ่มเข้ามามีบทบาทกลับได้แค่ค้น google เรียนในจินตนาการโคตรแย่อ่ะ
@@kifinz8737 ขอบคุณครับ
ถ้าจำไม่ผิดฐานะที่บ้านคุณไนท์ค่อนข้างดีเลยมีคนซัพพอร์ตคุณพ่อเป็นตระกูลผู้ว่ากทมคนปัจจุบัน คุณไนท์ก็เป็นสตีมเมอร์ดังเเล้ว เเต่เราๆปกติไม่มีก็ควรจะเรียนเพื่อนำไปทำงานได้หลากหลายครับ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่งานไม่เยอะเหมือนในเมือง เรียนป.ตรีก็ยังนำเอาไปสอบราชการได้
เรียนไปเถอะ มีโอกาสหาความรุ้เข้าสมองก้คว้าไว้ จบไม่จบอีกเรื่อง แต่อย่าหยุดศึกษาหาความรู้ สังเกตุประเมินและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
เห็นด้วยครับ ยิ่งเรียนยิ่งทำให้เปิดโลกกว้าง ได้พบสกิลใหม่ๆให้กับตัวเองอีกด้วย
ไม่จบปริญญาตรี รายได้ 50000 เป็นเรื่องของคนเนคชั่น ซึ่งแม่งหายากกว่าเรียนให้จบ ป.ตรี ซะอีก เพราะเงิน 50000+ มันไม่ใช่ว่าจะเอาคอนเนคชั่นไก่กาที่ไหนก็ได้
พ่อของผมจบม.6 สมัยนั้นเกรดได้น้อยสมัครงานไหนเขาก็ไม่รับ สุดท้ายมาเปิดร้านถ่ายเอกสารจนถึงปัจจุบันจากร้านเล็กๆตอนนี้ขยายร้านจนใหญ่ รายได้ต่อวัน 2000+ เดือนไหนโชคดีมีงานใหญ่เข้ามาได้ประมาณ 20000+ แต่ก็แลกมากับสุขภาพเพราะงานมันหนักมาก อดหลับอดนอนทำทุกวัน แต่ก็แลกมากับจำนวนเงินมหาศาล ผมอยูม.6 อีก 2 เดือนก็จะ สอบ admission แล้ว ถ้าสอบไม่ติดผมไม่เสียหรอก กลับมาทำธุรกิจครอบครัวได้เงินดีกว่าเยอะ ได้อยู่พัฒนาร้านต่อจากพ่อด้วย
ปีหน้าเข้ามหาลัยแล้วครับ ดูคลิปนี้พอจะฉุกคิดได้ว่า เราก็เสียเวลามา17ปีในการเรียนอะไรก็ไม่รู้รู้สึกเสียเวลามาก ตอนนี้ตั้งใจจะทำ "ตามฝัน" อย่างเดียวแล้วครับ จะเรียนจบไม่จบ จะได้เงินเยอะไม่เยอะ แต่ผมว่าการใช้ชีวิตให้คุ้มให้มีความสุขมันสำคัญที่สุดเลยครับ
ผมที่หลุดจากระบบการศึกษาเพราะเรื่องเงินทุนที่จะเรียนต่อ บวกกับต้องไปเกณฑ์ทหารต่อ ตอนนี้ ทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ เงินเดือน2-3หมื่น แต่เป็น2-3หมื่นที่เหนื่อยมาก แต่กลับกัน ถ้าคิดว่าตอนนั้นเรียนจนจบ อาจจะมีโอกาสทำอะไรได้มากกว่านี้ ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ แต่นั้นแหละครับ ตอนนี้มีงบที่จะเรียนต่อแล้ว อยากกลับไปเรียนไหม อยากนะ แต่ก็ไม่คิดจะกลับไปเรียนให้จบแล้ว เพราะปัจจัยหลายๆอย่างที่เวลาผ่านไปจะเห็นมุมมองที่แลกกันแล้วรู้สึกไม่คุ้มค่ากับการส่งให้คนอื่นเรียนดีกว่า
+
ผมว่าควรตั้ง topic ว่าการเรียนกับความรู้นะ
1.สำหรับผมการเรียนก็ คือ การได้รับความรู้จากกระทรวงการศึกษาที่ตั้งและสร้างมันขึ้นมา
2.สำหรับผมความรู้ คือ มิติในการรับรู้ของแต่ละคน ซึ่งคนเราสามารถเรียนรู้ได้จากหลายๆอย่าง และคนเราไม่ได้เรียนรู้เหมือนกัน
โดยรวมผมคิดว่า จะเรียนหรือไม่ มันไม่สำคัญเท่าประสบกาณ์ ซึ่งแต่ละคนก็น่าจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
ซึ่งองค์ประกอบของสังคมคิดว่า การเรียนจะดีกว่า มีโอกาสเรียนก็ควรเรียน เรียนจบจะมีหลักประกันได้งาน บลาๆ
ซึ่งผมคิดว่า ตรงนี้ไม่ควร judge คนอื่น มันขึ้นกับการเตรียมพร้อมและเตรียมใจ ของผู้จัดสินใจ
จากคนที่เรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จ นะครับ เห็นด้วยกับการเรียนครับ เรียนจนกว่าจะเจอตัวเอง เจอสิ่งที่ชอบ เจอสิ่งที่รักค่อย ออกมา ในโลกของวัยนั้นยังได้มีโอกาสได้เลือก และสามารถต่อยอดเจาะลึกไปได้อีก
ณตอนนี้ก็ยัง เรียนสัมนาต่างๆ อยู่ตลอดเพื่อพัฒนาตัวเอง
จบหรือไม่จบก็ได้ครับ อย่างน้อยๆคนที่ได้มีโอกาสเข้าไปในโลกของมหาวิทยาลัย สิ่งที่ได้แน่ๆคือวุฒิภาวะของปัญญาชน แค่นี้ก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้มแล้ว ส่วนจะได้วิชาการออกมาแค่ไหนอันนั้นค่อยว่ากันอีกที
ส่วนตัวผมเรียนจบแค่ ม.6 กศน แต่ตอนนี้เงินเดือน 40k มันมีจริงครับ แต่ช่วงแรกๆอาจจะเหนื่อยกว่าคนที่เรียนจบสูงมาหน่อย ถือว่าเอาวิชานอกรั่วมาใช้ชีวิต ประสบความสำเร็จครับ
ใบปริญญามันก็คือหลักประกันของคนที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ
ความขยัน มุมานะ ความสามารถ แรงผลักดัน ความคิดสร้างสรรค์ ความกระตือรือร้น โชค คนสนับสนุน ฯลฯ
ยิ่งถ้ากระจอกแบบเต็มคราบเลย กำปริญญาเอาไว้ จากอดตาย จะแค่คางเหลือง นั่นแหละ ความสำคัญของใบปริญญาในประเทศไทย
เห็นแล้วท้อจริงๆนะครับพ่อแม่ส่งเรียนรวมๆทั้งโรงเรียนทั้งมหาลัยแทบจะถึงล้านแล้วเพื่อจบมาได้เงินเดือนแค่นี้เห็นมันท้อจริงๆนะครับผมเห็นใจพ่อแม่มากเลย
ปัจจุบันเรียน จบป.ตรีทำงานออฟฟิศเงินเดือน 15000 ปัจจุบันยังหายากเลยครับถ้าเป็นมหาลัยดาดๆหรือเรียนภาคเสาร์-อาทิตย์เวลาสัมภาษณ์งาน hr นี่แทบไม่สนใจเลยครับส่วนใหญ่ถ้าได้ก็จะมีแต่งานเกรด B เกรด C เงินเดือน 12000-13000 สวัสดิการไม่มีอะไรเลย อยู่กันไม่ได้หลอกครับ ปัจจุบันคนจบป.ตรีหลายๆคนไปทำฝ่ายผลิตทำงานกะกันหมดแล้วครับ บางคนเอาวุฒิ ม.6 ไม่ก็ ปวช. ปวส. ไปสมัครกัน เพราะสวัสดิการดีกว่างานออฟฟิศอีกครับ ค่าแรง+เงินสวัสดิการ+OT บางคนได้เดือนนึง 16-20K (ไม่รวมโบนัส) ปัจจุบันมันเป็นแบบนี้จริงๆ
มันหลายปัจจัยครับ จบป.ตรี แต่ท่าคุณไม่รู้เรื่องใน ตำแหน่งที่คุณมาสมัคเลยก็ไม่มีความหมายครับ +กับความต้องการในแต่ละสายอาชีพมีไม่เท่ากันสกิลที่เรียนมาก็มีความต้องการไม่เท่ากันอีกอันนี้พูดในมุมของเด็กจบใหม่นะครับยังไม่ต้องพูดถึงประสบการณ์เป็นคุณจะยอมจ่ายแพงไหมกับสกิลที่ไม่ตอบโจทย์ แต่ท่าตรงกันข้าม อย่างหมอ วิศวะ หรือสาขาเฉพาะทางต่างๆ กับบุคคลที่มีควายเข้าใจในสิ่งกำลังจะเข้าไปทำ เขาคัดมาตั่งแต่ตอนยื่นใบสมัคระดับนึงแล้วครับ คุณต้องลองคิดในมุมของผู้ประกอบการดูครับ
ลองตั้งคำถามดูนะว่า อาชีพไรที่เงินเดือนเยอะแล้วทุกคนสามารถฝึกที่จะเป็นได้
ถ้าบอกว่าเรียนรู้ไม่ได้ มันยากไปนั้นคือปัญหาของตัวบุคคล ก็ต้องก้มหาก้มตายอมรับทำงานที่เงินมันไม่ดี ที่ใครๆก็แย่งกันทำ
จริงๆถ้ามีโอกาสก็เรียนไปเถอะครับ เป็นความรู้ติดตัวไว้ พี่เราเสียสละให้เราเรียนต่อ ส่วนเขาไปทำงานตั่งแต่อายุ17 จนตอนนี้เราขอบคุณพี่เรามาก❤ เราจบ ป.ตรี เงินเดือน24,000 พี่เราจบแค่ม.6เงินเดือน3แสน เพราะอะไร เพราะเขามีธุรกิจของเขาและธุรกิจนั้นได้เงินจากเราไปลงทุน แล้วเขาก็บริหารของเขาเก่งจนตอนนี้มีลูกน้องมีชีวิตที่มั่นคง เราก็ได้ส่วนแบ่งจากตรงนั้น ตอนนี้มีความสุขมากๆเลย
ผมในฐานะคนจบแค่ ม.6แต่มีธุระกิจร้านขายล้อแม็กเป็นของตัวเอง เงินไม่ต้องพูดถึงนะครับ แต่ขอตอบในฐายะที่คนเรียนไม่จบนะครับ คนเรียนไม่จบใช่ว่าจะโชคดีมีเงินเดือนได้เงินเยอะเสมอไปนะครับ มีโอกาศเรียนไปเถอะครับความรู้ได้เราด้วย กว่าผมจะได้มาเปิดร้านเป็นของตัวเองบอกเลยว่าลำบากมากเงินเดินรวมโอที หมื่น6หมื่น7 ทำโรงงานอยูพักใหญ่เลยกว่าจะตัดสินใจลองเสี่ยงดู บอกเลยการตัดสินใจแบบนี้ถ้าคุณพลาดมาคือจบ แต่ถ้าคุณเรียนสูงถ้าคุณพลาดมาคุณก็ยังทำงานนู้นนี่นั่นได้เพราะอะไรเพราะคุณมาความรู้ที่สูงใครๆเขาก็อยากรับคนเก่งเข้าทำงานแถมคุณยังได้ประสบการทำงานด้วย เรียนไปเถอะครับถ้ายังมีคนส่งคุณเรียน
อย่างผม ผมทำงานส่งตัวเองเรียน กศน แต่ผมรักในการทำรถซ่อมรถมาตั้งแต่เด็กๆเลยพอรู้เรื่องเครื่องยนต์ช่วงล่างหน่อยแรกๆตอนเปิดร้านพูดได้เลยครับว่าลำบากมากเพราะการเปิดร้านล้อแม็ก ทำช่วงล่างแบบนี้ไปร้านไหนก็ได้ถูกไหมครับ พูดตรงๆทำไปปีกว่าๆจนมีลูกค้าประจำก่อนหน้านี้แทบจะพูดได้เลยว่าเงินไม่พอต้องกู้หนี้ยืมสินมา แต่พอมันเริ่มลงตัว ลูกค้าเริ่มเยอะมันก็เริ่มดีจนตอนนี้ไม่มีหนี้มีสินแล้วมีของที่อยากได้แล้ว แต่ผมก็ไม่ประมาทนะครับเพราะอาชีพแบบผมไม่มั่นคงพร้อมล้มได้เสมอ
สำหรับผมนะครับ การเรียนเป็นหนึ่งในทางที่ง่ายที่สุดในการประสบความสำเร็จครับ
จริงค่ะ
เรียนจบดีกว่าครับ แต่ไม่ใช่ในประเทศนี้ครับ ถ้าประเทศนี้ ตอบตามตรง เรียนจบมาทำไรไม่ได้มากกว่านี้ หรือต้องเรียนเก่งจริงๆ ป.เอก แบบนี้ถึงจะดีสำหรับประเทศนี้ แต่มันไม่คุ้ม กับเวลาที่เสียไป
ประเทศนี้มันแข่งขันด้วยใบปริญญา มีคนบางส่วนที่เขาเป็นคนมีความสามารถไม่มีใบปริญญาเก่งในด้านที่เขาถนัด แต่ไม่มีใบปริญญาก็ไม่มีใครรับน่ะครับ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสสำเร็จนะครับ แนะนำให้เรียนเข้าไว้ครับ ส่วนตัวผม จบ ม.6 แต่ได้เข้ามาในสายงานช่าง เป็นช่างในบริษัท เพราะมาจากประสบการณ์ ใบเซอร์ ถึงได้ทำงานในตำแหน่งเดียวกับคนวุฒิสูงๆ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายนะครับ และโอกาสแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อย เพราะฉะนั้น แนะนำให้เรียนดีกว่าครับ เพื่อโอกาสที่มากขึ้น
เรียนจบมาแล้ว5ปี เริ่มจากเงินเดือน13000ในกทม หลังจากนั้นก็มาคิดว่ามันคงไม่พอแน่นอน หมั่นฝึกฝนตัวเองพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แข่งขันกับตัวเองลองทำอะไรใหม่ๆ เช่น ฝึกการพูดคุย เจรจา สิ่งเหล่านี้สำคัญมากๆในการทำงาน ปัจจุบันรายได้40k+ ซึ่งผมมองว่าเรายังสามารถไปต่อได้อีกครับ อยากแนะนำทุกคนที่เรียนจบรายได้น้อยหรือน้องๆจบใหม่แล้วเงินเดือนน้อย อยากให้ลองฝึกฝนสิ่งที่ตัวเองทำให้เชี่ยวชาญครับแล้วจะเห็นผลอย่างแน่นอน
ฝึกยังไงคะ🎉
@@Pppppppio เริ่มจากการสังเกตุก่อนครับพี่ในทีม หรือตำแหน่งอื่นๆเวลาพูดเค้าวางตัวยังไงสื่อสารยังไง อันไหนที่เค้าทำแล้วเราว่าดีเราก็เอามาทำตามครับ
ส่วนเรื่องการฝึกสกิลในการทำงาน อันดับแรกผมมองว่าต้องเข้าใจก่อนครับว่าเราทำตำแหน่งไหน ยกตัวอย่าง งานแรกที่ผมทำ ผมเป็นกราฟิกดีไซน์ครับ ระหว่างที่ทำงานก็เห็นพี่ๆที่ทำ 3Dผมก็สนใจก็ไปถามไปฝึกให้เค้าสอนบ้างศึกษาจากยูทูปเพิ่มบ้าง แล้วก็ระหว่างนั้นก็มีไปฝึกตัดต่อ vdoด้วย ซึ่งเวลาไปสมัครงานที่ใหม่ๆ การที่เราทำได้หลายอย่างเราจะเป็นตัวเลือกแรกๆครับที่เค้าจะพิจารณา แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราฝึกมากเราต้องรู้จริงทำได้จริงด้วยนะครับ เท่านี้ก็สามารถ upเงินได้มากขึ้นครับ
สุดท้ายอยากบอกคนที่อายุไม่ถึง30 พยายามย้ายงานไปก่อนนะครับupเงินไปเรื่อยๆ และก็ฝึกฝนไปเรื่อยๆครับ
จริงๆ แล้ว ทุกคนควรได้เข้าถึงการศึกษา แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายอย่างของบางคน ทำให้ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ เมื่อไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ ก็ควรอัพเกรดสกิลชีวิตด้วยการไปพัฒนาทักษะที่ชอบก็หรือที่เราตั้งใจจะทำเพื่อหาเลี้ยงชีพก็ได้ครับ ผมเห็นช่างเก่งๆ บางคนก็จบไม่สูงแต่เค้าก็พัฒนาสกิลทางที่เค้าไปจนถึงขีดสุด ลูกพี่เก่าผมจบแค่ป.6 เอง เป็นได้ถึง supervisor งานที่แกทำก็ถือเป็นบุคลากรแนวหน้าของบริษัท ภาษาอังกฤษแกก็ซื้อหนังสือมาอ่านจนสื่อสารภาษางานทางช่างกับชาวต่างชาติได้ดี การคิดคำนวณการกดสูตรเครื่องคิดเลข แบบที่ต้องใช้ sin cos tan แกก็ฝึกฝนจนเก่ง ผมว่าตัวเองสำคัญสุดว่าจะพัฒนาตัวเองทะลุขีดจำกัดของตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน เพื่อเอาชีวิตรอด
คนจบปริญญาเงินเดือน 500,000
บางคนเรียนจบไม่สูง เงินเดือน 6,500
มันก็คือเรื่องจริง และพบได้เยอะกว่ามากๆ
“ความเห็นส่วนตัวนะครับ”
ผมเคยเป็น 1 ในคนที่ไม่คิดจะเรียนต่อ แต่ก็กลับมาเรียน ดรอปจากมหาลัย ปี3 เพราะไม่มีความรับผิดชอบ ออกมาหางานทำให้รู้ถึงความรับผิดชอบจริงๆ โชคดีที่ได้งาน ได้ฝึกความรับผิดชอบ ที่บ้านก็เลยขอให้กลับมาเรียน
ช่วงที่ดรอปผมมีอีโก้อย่างนึงคือ กูเรียนไม่จบแต่กูหาเงินได้จากการทำงานตัดต่อ รับงานถ่ายภาพถ่ายวิดีโอ พีคๆเดือนนึงเกือบแสน ไม่ต้องกลับไปก็ได้มั้ง
จนวันนึงมาเจอเพื่อนสมัย มอปลายที่ไม่ได้ต่อมหาลัย
ผมเลยคิดว่า ถ้าเค้าอยากอัพเกรดสภาพชีวิต ด้วยการหางานเพื่อเก็บเงินเป็นต้นทุนในอนาคต
“ถ้า” ไม่มีใบปริญญาคงจะใช้เวลามากกว่า กว่าจะไต่เต้าฐานเงินเดือนมาจนพอเหลือเก็บ
กับ มีใบปริญญา เงินเดือนสตาร์ทอาจจะสูงกว่า เก็บเงินได้ไวกว่า แล้วได้ทำในสิ่งที่ฝันไว้ในเวลาที่น้อยกว่า
ผมคนนึงที่จบ ป.ตรี วิศวะคอม เคยได้เงินจากการทำงานตรงสาย เดือนละ 15500 มีโอกาสสอบติดรัฐวิสาหกิจ แต่ก็เลือกเดินออกเพราะสังคมในหน่วยงานที่กลั่นแกล้งกันแบบสุดๆ และมีโอกาสเข้าวิสาหกิจอีกที่เพราะได้โควต้านามสกุลพ่อ แต่ก็ไม่ชอบเลยไม่ไป สุดท้ายมารู้ตัวชอบค้าขายเพราะลองมานั่งคิดๆดูระหว่างช่วงชีวิตผมขายของมาตลอด จนต่อเดือนผมได้ประมาน 50000-80000 ในตอนนั้น สุดท้ายยุคโควิด2ปีกว่านี้ ผมมีเงินเดือนประมาน 3000-5000 เท่านั้นเอง สุดท้ายผมจะบอกว่าเรียนไปเถอะครับ ถ้าผมไม่มีกระดาษโง่ๆใบนั้นก็คงไม่มีโอกาสเลือกได้ขนาดนี้ และ อีกทางคือธุรกิจส่วนตัวที่มันไม่ตรงสายและไม่เกี่ยวอะไรกับที่ผมเรียนมาเลย มันก็ไม่แน่นอนเสมอไป ผมเชื่ออยู่หนึ่งคำเลยคือ บนโลกนี้ผมเชื่อว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนและมั่นคงจริงๆ
ไม่ได้เรียนครับ เพราะปัญหาทางบ้าน ค่าแรงก็ต่ำ รอถูกรางวัลที่1ค่อยขิงชาวบ้าน
ถ้าเป็นคนฉลาดไม่ว่าจะจบหรือไม่จบอะไร เป็นคนเมืองหรือคนบ้านนอก หรือเป็นผู้ชายหรือผู้หญิ.... หาตังได้มากกว่า5หมื่นแน่นอน (ฉลาดที่หมายถึงความรู้+ความคิดสร้างสรรค์)
หนังสือเรียนอาจสอน ให้คิด แต่ไม่มีใครสอนให้ใช้ชีวิต
การเรียนจบป.ตรีมันเปรียบเหมือน Thailand Standard ที่บรรทัดฐานสังคมขีดไว้ ซึ่งไม่ว่าคุยจะจบหรือไม่จบ ถ้าเก่งหรือมีความพยายามมากพอไม่มีทางอดตาย (แต่อาจจะไม่รวย)
แต่สิ่งที่แนะนำคือ ไม่ว่าจะจบหรือไม่จบ สิ่งที่คุณชอบมันควรเป้นตัวกำหนดคุณมากกว่า การศึกษาควรมี Testing skill ต่างๆ โดยการลองไปทำงานหลายๆ รูปแบบเพื่อค้นหาตัวเอง
ไม่มีผิด ไม่มีถูก
ได้เรียน
ได้รู้
ต่างกันมาก บอกเลย
สรุปแล้ว มึงจะจบไม่จบเรื่องของแม่ง
มีเงินใช้พอ
"เรียนจบได้ 15000" อันนี้มันหมายถึงขั้นต่ำครับ การันตีว่าถ้าคุณเรียนจบแล้วมาทำงานทั่วๆ ไป ขี้หมูขี้หมานี่คือหมื่นห้าแน่ๆ (โดยมากนะ) แต่ถ้าเรียนไม่จบ เงินเดือนคุณอาจจะแค่ห้าพันก็ได้ นี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการเรียนจบ แต่ถ้าคนที่เก่งๆ งานที่ต้องใช้ทักษะสูงกว่านั้น จบใหม่การันตีเงินเดือนสองหมื่น สามหมื่นก็มีครับ
"เรียนไม่จบได้ 50000" มันก็ไม่ใช่ทุกคน คือถ้าไม่มองในแง่ว่าเรียนจบหรือไม่จบ ทุกคนสามารถมีรายได้ห้าหมื่นกันทั้งนั้น "ถ้ามีความสามารถ" แต่นั่นก็แปลว่าคุณต้องขวนขวายให้หนัก ทั้งคนเรียนจบเรียนไม่จบนั่นแหละ ถามว่างานอะไรได้ห้าหมื่น? อ่ะถ้านับว่าไม่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญอะไรมาก ขายของ ขายให้เก่งๆ ขายให้ดี ได้ห้าหมื่นแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้ทุกเดือน ถ้าของหมดความนิยม ก็ขายไม่ได้ ของเก่าเก็บ บางทีก็ขายไม่ได้ เสียหายละ (ในขณะที่เงินเดือนหมื่นห้า อย่างน้อยสิ้นเดือนก็ได้แน่ๆ)
จะเรียนจบหรือไม่จบก็เรื่องนึง แต่คนเรียนจบ มันก็มีความรู้ มีปริญญาให้เอาไปใช่ต่อยอดได้ล่ะ ซึ่งคนที่ไม่ได้เรียนจบก็ต้องใช้ประสบการณ์จากการทำงานจริงมาต่อยอดด้วย สรุป ยังไงก็ต้องขวนขวายกันทั้งนั้น คนที่มานั่งอิจฉาอีกฝ่ายเห็นมีแต่พวกขี้แพ้ทั้งนั้นแหละ เรียนก็ไม่จบ ความรู้ก็ไม่มี
สรุป ลุงไนท ยังไม่จบเหรอฮะ ยังมีแพลนจะเรียนให้จบ อยู๋ไหมฮะ
ส่วนตัวผมก็เรียบไม่จบฮะ thesis ผ่านแล้ว เหลือวิชา ที่Fอยู่สองตัว แต่ตอนนั้นไม่มีตังจ่ายค่าเทอมฮะ 555 เลยไปหางานทำ พอได้เงินเดือนมา(ตอนนั้นได้15k)มาความคิดในหัวคือกุจะเอาตังไปจ่ายค่าเทอมทำไมวะ ทำงานต่อไปดีกว่า 555 ตอนนี้ก็ได้เกิน 50k ไปเยอะเลยครับ(สาย IT ประสบการ 5 ปี)
แต่ส่วนตัวคิดว่าเรียนจบดีกว่านะครับ เพราะว่า บาง องกรณ์ เห็นว่าเราไม่มีใบปริญญา เขาก็ไม่เรียก สัมภาษแล้วถึงแม้ว่าเราจะเก่งจริงๆก็ตาม
ผมจะมาพูดในนามของเรียนไม่จบ
แต่สามารถหาเงินได้มากกว่า หลักแสนต่อเดือน ไม่ได้มาเหยียด แต่มาอธิบายเส้นทาง
คนที่หาได้มากกว่าไม่ต้องมาเกทับนะ
1.ผมเกลียดระบบการศึกษาไทย
ที่โคตรล้าหลัง
2.ผมมีความคิดที่ไม่ค่อยเข้าใจโลก
เช่น ทำไมเขาไม่สอนให้เราทำเป็นเลย ทำไมต้องเอาทฤษฎี ต่างๆมากมาย มากองที่หัวให้ จดจำ
3.ผมเรียนไม่เก่ง ระดับผมอยู่ที่กลางๆ
4.บ้านผมจนมากๆ
ผมพยายามหนีออกจากบ้านตอน อายุ 16
และก็สำเร็จ จนกระทั่งได้เจอสายงานที่ตัวเองชอบตลอดเวลา
จนกระทั่ง หาช่องทาง และลู่ทางทำเงิน
ผมเป็นผู้ที่ตามหลังเขา ผมได้แต่คิดว่าทำงานเท่านี้ผมก็จะมีเงินเดือนแค่นี้
ผมลองคิดใหม่ ถ้าเราทำอย่างอื่นอีกหล่ะ มันคงจะได้มากกว่านี้ไหม
ผมค่อยไปศึกษา จากการที่ใช้อินเทอร์เน็ตมือถือ โอกาสที่ผมมองออก เป็นช่องทางการทำเงินมากมายเลย เช่นกลุ่มเฟสบุ๊คนี้ เขาขายที่ดินแต่ไม่มีใครซื้อ เราแค่ไปเสนอดีล ว่าเราจะหาคนซื้อมาให้ได้ เราจะได้ค่านายหน้าไป
หลังจากนั้น อะไรที่ลงขาย แต่กลุ่มลูกค้าเขาน้อยเราทำดีลไปเรื่อยๆ ยิ่งขยันเราก็ยิ่งได้
โดยไม่ต้องไปใส่สูทผูกไทด์ นั่งในออฟฟิต
ของบางอย่างเราได้ราคาน้อยมากแต่เราทิ้งไม่ได้นั่นคือเงิน แต่เราต้องมีงานประจำไปด้วยนะ ไม่ใช่แค่ทำพาร์ทไทม์
ที่สำคัญต้องแบ่งเวลาชัดเจนมากๆ
และทั่สำคัญต้องมีความรับผิดชอบ
ที่กล่าวมาทั้งหมดผมไม่ได้ได้ทำแค่สองอย่างนี้เท่านั้น ผมยอมเสียเวลา 4ปี เพื่อเรียนรู้ การทำเงินตลอดเวลาและทุกช่องทาง รายการทีวี
เช่าเครื่องปั่นไฟ เช่าเครื่องดนตรี อุปกรณ์เวทีเช่า รถเช่า ขายรถหรู ต่างๆ ล้วนทำเงินให้ได้ดีกว่าการ นั่งจับเจ่าในออฟฟิต หรือพูดง่ายๆว่าเป็นงานได้หลายด้านดีกว่าด้านเดียว
บางครั้งมีงานติดตั้งอุปกรณ์บางอย่าง ผมนังรับเลยครับ เพื่อไม่ให้เป็นการขาดรายได้แบบต่อเนื่อง ทุกนาทีทุกวินาทีมันมีค่ามากๆครับในการทำเงิน หรือบางวันเราโชคดีเปิดเฟซไปมีคนขายรถในราคาที่ถูกแต่รถคันนั้น เป็นรถไปกระแส แต่เราต้องดูให้แน่ใจว่ามันผิดปกติหรือเปล่า ของขาดและดูเป็นเราก็ คว้ามันมาเพื่อทำกำไร ซื้อมาขายไปเหมือนหุ้น หลายๆครั้งมันก็มีเสียงบ้าง ใช้เวลาและโอกาสให้คุ้มครับ
การศึกษาไทย มันมีจัดเด็กเก่ง เด็กไม่เก่ง จัดเด็กวิทย์ เด็กศิลป์ จริงๆควรจะให้เด็กเลือกลงวิชาเรียนเอง เก็บหน่วยกิตเหมือนมหาลัย จะได้ค้นหาตัวเองเจอ
คนที่เรียนไม่จบแล้วประสบความสำเร็จมีเยอะจริง แต่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมีเยอะกว่า ไม่มีอะไรการันตีชีวิตได้เลย เพราะงั้นถ้ามีโอกาสก็เรียนเถอะ อย่างน้อยถ้าลองไปสร้างตัวแล้วมันล้มเหลวก็ยังมีใบปริญญาที่เป็นฟูกรองรับตอนล้มไปชั้นนึง
ส่วนที่เคยมีคนบอกว่าเรียบจบมาก็ตกงานอยู่ดีคือไม่จริง มีงานมากกว่าคนเรียนไม่จบแน่นอน อยู่ที่เราเลือก แต่คนเรียนไม่จบแทบไม่โอกาสได้เลือกเลย
เราคิดว่า การเรียน มันเหมาะกับคนที่อยากทำงานเฉพาะทางค่ะ เช่น ครู หมอ วิศวะ สถาปนิก เพราะต้องอาศัยความรอบคอบ แม่นยำ เกี่ยวพันกับชีวิตคน
ถ้านอกเหนือจากอาชีพเหล่านี้ บางอาชีพไปทำงานจริง เรียนประสบการณ์จากงานเลย น่าจะมีประโยชน์มากกว่า เช่น เชฟ ช่างต่าง ๆ แล้วเข้าคอร์สย่อย ๆ เพิ่มความรู้เอาได้
เพราะฉะนั้น มันอยู่ที่เราหาตัวเองเจอรึเปล่า ว่าชอบอาชีพแบบไหน ถึงจะเลือกได้ว่าเรียน จบ หรือลาออก
การไปเรียนในระบบมันได้คอนเนคชั่น+ความรู้ แต่ถ้าไม่เรียนแล้วคุณประสบความสำเร็จมันก็ดีคุณเก่งขวนขวายเอง แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าคุณสะสมคอนเนคชั่นสะสมความรู้ลู่ทางได้ตั้งแต่เด็ก? เหมือนจุดสตาร์ทที่เริ่มด้วย รถยนตาร์ธรรมดา กับ รถสปอร์ต มันไปถึงความสำเร็จได้ไวกว่าง่ายกว่า
เอาจริงคนเรียนไม่จบแต่ได้เงินเดือนเยอะก็ไม่ได้คิดจะมาเหยียดใบปริญญาของใคร เพราะถ้าเลือกได้เราก็อยากได้ใบปริญญาเพราะมันสะดวกกว่าเยอะเลยเวลาเริ่มอะไรแรกๆ คนเรียนไม่จบก็เหนื่อยหน่อยพยายามหน่อยแต่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่นี่หลุดจากระบบการศึกษาก็เพราะไม่มีตังค์5555
เพื่อนผมจบ ม6 ไม่มีเงินต่อปี1 มันเลยออกไปทำงาน ระหว่างนั้นผมก็เรียนปี1อยู่ ผมก็รอมันทำงานเก็บเงินหวังให้มันมาเป็นรุ่นน้อง สรุป คือ มันไม่มาเรียนเพราะมันทำงานได้ละ มีเงินเก็บอย่างเยอะ ผมนี่เรียนๆ ขอเงินพ่อแม่อย่างเดียว จนตอนนี้ผมปี4ละ
คนเรียนไม่จบแต่เงินเดือนเยอะ เพราะว่าเค้ามีเป้าหมายชีวิต รู้ว่าอยากทำอะไร และมีความสามารถ ถ้ายังไม่มีเป้าหมายชีวิตหรือความสามารถ ก็เรียนให้จบเถอะ
จะบอกว่าโคราชจบใหม่ สายกราฟฟิก-ตัดต่อ ในบริษัทเอกชน เงินเดือน เริ่มต้น 9000-12,000เองนะครับ ต้องเปลี่ยนงานไปมาจนกว่าจะเจอบริษัทที่รองรับเงินเดือนพื้นฐานในเรท 15,000-18,000 แต่ 20,000 นี่หายากเลย สายงานนี้ แต่ละเดือนก็แทบไม่พอใช้จ่ายแล้วครับ ถ้าไม่หางานฟรีแลนซ์เสริมอยู่ยากครับ 😅
คนอยากเรียนไม่ได้เรียนคนไม่อยากเรียนพอได้เรียนแต่กลับไม่ยอมเรียนทุกวันนี้เจอแบบนี้เยอะมากเพราะฉะนั้นอยากจะบอกน้องๆว่าใครมีโอกาสได้เรียนมีทุกอย่างซัพพอร์ตเรียนได้ก็เรียนไปเถอะค่ะมันดีกับตัวเองไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้นที่ได้สิ่งต่างๆรอบตัวก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชั้นดี การศึกษาคือรากฐาน ที่จะพัฒนาคนเราได้นะคะ
เอาจริง มันเหมือนขิงกันไปขิงกันมา คนจบก็ขิงไม่จบ คนไม่จบก็ขิงคนจบ ตามเพจเยอะมาก บลัฟกันไปมา เอาจริงๆใครอยากเรียนเรียน ใครไม่อยากเรียนก็ไปทำอย่างอื่นจบ ต่างคนต่างอยู่ แต่คลิปนี้ดีครับชื่นชมเปิดโลกอีกทาง
มันเป็น quote ที่ทั้งจริง แล้วก็ไม่จริงมารวมผสมกัน จนอธิบายยาก จนบางทีคนที่ตรรกะดีๆ ฟังแล้วขี้เกียจอธิบาย จนแบบปล่อยไปเหอะ
อันดับแรกต้องแยกสองประโยคนี้ก่อนแล้วพิจารณา
1.อย่างแรกคนที่เรียนจบ ประกอบด้วย มีทั้งตกงาน ได้งาน เรียนต่อ พวกที่ได้งานก็มีทั้งได้เงินเดือน ตามขั้นต่ำ หรือ ได้ สูงไปเลยก็มี ฉะนั้น คนที่เรียนจบได้เงินเดือน 15k จริง แต่ไม่ใช่ทุกกรณี บางคนจบมาได้เงินเดือน 30-40k เลยคนที่ได้เค้าอาจจะไม่ออกมาบอก เพราะบอกไปได้อะไรละ เช่น คนไม่เชื่อก็บอกว่าโม้ คนเชื่อก็เกิดมาตรฐานการจ้างงานตามมา เพราะบางอาชีพ ยอมให้ first jobber สูง ยอมจ่ายสูง เพราะ ถ้ามีความสามารถจริง หรือ ขาดตลาดมาก มีการจ่ายจริง แต่คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของคนเรียบจบ
2.เรียนไม่จบได้เงิน 50k ก็จริงอีกแต่ไม่ใช่ทุกรณี ต้องถามว่ากี่เปอร์เซนต์ที่
ทำได้ สังเกตคนที่ไม่จบแต่ยังหาเงินได้เค้าจะรู้ตั้งแต่ตอนเรียนว่าจะทำอะไรมีเป้าหมายชัดเจน มีวินัย และลงมือทำ
ถ้าเข้าใจไม่ผิด quote ต้องการจะสื่อว่าการเรียนไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ได้เงินเยอะ แต่ เป็นการปลูกฝังความเข้าใจผิด เล็กๆทำให้เหมือนกลัดกระดุมผิดไปทีละเม็ด ซึ่งไม่ถูก แถมยัง ยกตัวอย่างที่ไม่ตรงประเด็น ผสมกับความจริงบางส่วนไปอีก 😂
ถ้าจะบอกว่าการศึกษาในระบบไม่ใช่ทุกสิ่งอันนี้น่าจะตรงกว่า แต่ต้องเพิ่มว่าความรู้คือสิ่งสำคัญด้วย quote ถึงจะสื่อได้ดี เพราะเรียนจบหรือเรียนไม่จบ คุณจะทำเงินได้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีความรู้!!
จริงครับ คนเรียนไม่จบแล้วรวยนี่คือยอดปิรามิดชัดๆ พวกฐานล่างไม่มีใครพูดถึง ตลกดีหลายคนยังมีความเชื่อผิดๆ ผมนี่ประสบการณ์ตรง เรียนไม่จบ แต่เงินเดือนระดับ 50,000 แต่กว่าจะถึงตรงนี้ล้มลุกคลุกคลานมามากมาย ใจยังคิดอยู่เลยว่ารู้งี้สู้เรียนให้จบดีกว่า โอกาสคงเปิดกว้างกว่านี้อีกมาก และคงไม่ต้องเหนื่อยถึงขนาดนี้กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันยากจริงๆ และถ้าผมจบสูงๆตอนนี้ก็คงอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อีกมาก วุฒิการศึกษามันคือใบเบิกทางที่ดีจริงๆ ดังนั้นใครมีโอกาสเรียน เรียนไปเถอะครับ
ตรงไหนบอก ป.ตรี 15000 หายากมากนะในต่างจังหวัด 9000 อย่างเยอะเลยรับวุฒิ ป.ตรี สุดๆ ก็ 12000 แต่ตอนนี้ผม 14000 เเต่ค่าเช่าค่านู้น นี้ มีอีก หักๆ ไม่มีเงินเก็บต้องทำอาชีพเสริมจนทุกวันนี้
ผมจบใหม่ 15000 ดีใจน้ำตาไหล เจอค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟไป ในเมืองหลวงจุกๆเลย
ใบปริญญามันคือใบเบิกทาง แต่ถ้าประสบการณ์ต้องยกให้คนที่เรียนไม่จบครับ ผมเรียนจบแค่ ม.6 ต้องวิ่งหาโอกาศแล้วค่อยกลับไปเรียน(ทำงานไปเรียนไป)✌️
ผมเป็นคนนึงที่ตอนเด็กๆเกเรมาก ไม่เอาการเรียนเลย จนตอนนี้กำลังจะเรียนจบปริญญาตรี ในอายุ31ปี ฟังแล้วเป็นเรื่องตลกมาก เรียนจบป.ตรีตอนอายุ30 เชื่อผมเถอะ เมื่อถึงจุดนึงของชีวิตพวกคุณจะรู้เองว่าการศึกษาสำคัญมากจริงๆ จนปัจจุบันกำลังวางแผนทำงานเก็บเงินจะไปต่อโทอเมริกา
จากใจที่เรียนมาแล้วหลายที่ ปริญญามันก็คือการศึกษาทางเลือกมากๆ ทั้งสาขาวิชา มหาลัย สภาพแวดล้อม จะไม่เรียนก็ได้นะถ้าคิดว่าตัวเองมีสกิลหรือความสามารถที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วพอใจกับเงินจำนวนนั้น เพราะมหาลัยมันมีค่าใช้จ่ายมากมายเลยทั้งทางตรงอย่างการลงทะเบียน ค่าบำรุุงสถานที่ ชุดยูนิฟอร์ม อุปกรณ์การเรียน และที่สำคัญคือ เวลา เวลาสำคัญมากนะคะ ถ้าเกิดคุณเป็นฟรีแลนซ์หาเงินได้เดือนละล่ำซำ ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย สภาพคุณจะสะบักสะบอมมาก ไอเดียจะหดหายเพราะแค่กลับมาจากเรียนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
แต่ถ้าสกิลที่คุณมีมันยังไม่พอ การเรียนมหาลัยก็เป็นการเจาะลึกในสาขาวิชาที่คุณเลือก มีผู้ที่เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดประสบการณ์ ในทุกๆวันคือการเรียนรู้ที่เราจะได้เพิ่มมากขึ้น
เรื่องของเรื่องคนเราไม่ได้มีแค่คนที่เรียนในห้องแล้วเข้าใจ ครูผู้สอนในมหาลัยก็ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน บางคนอาจจะชอบการที่คลุกตัวอยู่กับหนังสือ เรียนรู้ด้วยเอง เรียนผ่านประสบการณ์การทดลองทำก็ได้
ดังนั้นให้พิจารณาจากสิ่งที่เรามุ่งหวัง ว่าเราคาดหวังว่าจะได้เรียนรู้อะไรจากมหาลัย คุ้มค่ากับเวลาและทรัพยากรอย่างเงินที่เราเสียไปไหม ถ้าไม่ก็มั่นใจในความสามารถและทางเลือกของตนเอง มีเงินแล้ววันนึงจะมาเรียนทีหลังก็ไม่สายเกินไปที่จะเรียนแน่นอน
เรียนเถอะ ผมจบแค่ ปวช.เงินเดือนยัง2หมื่นกว่าเลย จบมาแรกๆมันก็ได้น้อยนั่นแหละ แต่พอเรามีประสบการณ์สัก5ปีขึ้น เงินเดือนเราอัพได้ครับ ยิ่งไปเรียนต่อเรายิ่งอัพเงินเดือนได้สูงขึ้นอีก
เพราะประเทศนี้มันเอื้อคนมีเงินไง การศึกษามันคือธุรกิจซึ่งมันต้องจ่ายเงินเพื่อเรียนไม่ใช่น้อยๆ บางคนไม่มีเงินจะเรียนไง คนมีเงินได้เรียนมันก็ได้เปรียบกว่าคนเรียนไม่จบดิ เเถมต้องมากู้เรียนอีกเพื่อได้เงิน เรียนจบมาได้เงินเดือน15k ค่าเรียนเทอมละเท่าไหร่ เอามาบวกกัน4ปีดิ เพราะฉะนั้นใครเจอทางที่ชอบสิ่งที่ชอบก็ลุยเลย ใบปริญญาไม่ได้การันตีความสำเร็จ ใบปริญญาชีวิตจะสอนทุกอย่างเอง
ประเทศนี้ ค่าแรงไม่สมเหตุสมผลจริง ไม่ใช่แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าแรงที่กระเถิบขึ้นมาในบางสายงานก็น้อยมาก จนน่าตกใจ บางทียังมีเปิดรับอยู่เลย ตำแหน่งผู้จัดการ 25000-30000 คุมทุกอย่าง บางทีเอาประสบการณ์สิบปี แต่ให้สองหมื่น เงินเดือนยังผ่อนบ้านไม่ได้ คือมันน่าตลกมาก ในขณะที่บางสายงานก็ได้เงินเยอะจริงตั้งแต่ เริ่ม แต่ก็อย่างที่ในคลิปบอกไม่มีใครแนะนำอะไรเราเลย เด็กไม่รู้ว่าชอบอะไร เด็กไม่รู้ว่าจบมาวิถีในการทำงานของคณะที่จบเป็นแบบไหน
เปิดมุมมองมากเลยค่ะะ ขอบคุณมากนะคะ
ตอนแรกนึกคำตอบไว้แค่ "ที่ว่ามามันก็ไม่ใช่ทุกคนรึป่าวที่จะทำได้แบบนั้น" แต่ได้อะไรที่ลึกกว่ามากเลยค่ะ
การศึกษา มันก็คือช่องทางเพิ่มโอกาสให้กับเรานั่นแหละ ใช่ว่าเรียนจบจะเงินเดือน 50Kทุกคน และ ใช่ว่าคนเรียนไม่จบจะได้เงินเดือน 50Kทุกคน มันอาศัยหลายอย่าง ต้นทุน ความสามารถ โอกาส ความพยายาม ความอดทน เวลา ทัศนคติ และ ดวงด้วย ยิ่งคนที่สามารถมองเห็นโอกาสได้ ทุกที่ทุกเวลาก็ยิ่งเพิ่ม ช่องทางการเติบโตได้มากขึ้น บางคนทำงานประจำเงินเดือนก็มากกว่า คนอาชีพอิสระ บางคนอาชีพอิสระก็ได้รับเงินมากกว่า คนทำงานประจำ รายได้มันก็หมุนเวียนกันไปนั่นแหละ ถ้าสมุติตะให้คนออกมาทำงานอาชีพอิสระ หรือค้าขายกันหมด ใครจะมาซื้อของเรา คนทำงานประจำถ้าไม่มีคนขายของกินมีแต่เงินจะซื้อข้าวกันยังไง
ประโยคมันก็บอกแล้วครับว่า "บางคน" สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างมันเป็นความผิดของดีเคท ขอบคุณครับ
wtf 5555555555555555555
5555555555😂
เคยอ่านเจอในหนังสือ เรียนไม่จบปริญญาประสบความสำเร็จได้จริง แต่น้อย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วน้อยมาก
เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ก็จบทั้งนั้น เพราะมหาลัยมันเปิดโลก เปิดมุมมองความคิด
จะเรียนหรือไม่เรียนมันก็รวยได้ทุกคน แต่แม่งไม่ควรเอาคำเฉพาะมาพิม หลายคนเรียนไม่จบแล้วสำเร็จ หลายคนเรียนไม่จบแล้วดับ หลายคนที่เรียนจบก็สำเร็จและไม่สำเร็จ
ผมเองจบแค่ ม3 เอง ผมไปทำธุรกิจกับพ่อได้ เงินก็ดี อะไรก็ดี แต่ ผมก็ไปเป็นหมอไม่หนิ
บางคนจบไม่สูง แต่เงินเดือน50,000 ฉันมีโอกาสแค่ไหนที่จะได้เป็นบางคนนั้น
เห็นด้วยมากๆครับ แต่อยากให้คนที่มีโอกาศได้เรียนแต่ที่บ้านไม่ค่อยมีฐานะ เรียนไปเถอะครับ คนที่ส่งเราเรียนก็คือครอบครัว เวลาจะทำอะไรต้องตัดสินใจคุยกับคนในครอบครัวด้วยน้ะครับ ไม่ใช่อยากจะทำไรก็ทำ ต้องปรึกษาก่อน เพราะถ้าเลือกผิดต้องแก้อีกยาว ดังนั้นเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆน้องๆทุกคนที่ สงสัยว่าเรียนจบกับไม่จบอ้นไหนสำคัญ ขอให้ยึดหลักฐานะทางบ้านว่าพร้อมไหม มีแพลนยังไงต่อ ถ้าที่บ้านไม่ไหวที่ส่งต่อ ตัวเองสามารถหาเงินได้เองไหม เพราะอย่างที่พวกพี่เขาบอกเลยครับ ทุกคนมาจากครอบครัวที่หลากหลายและสภาพการเงินทางครอบครัวแต่ละคนก็ต่างกัน ดังนั้นจะทำอะไรต้องนึกถึงอนาคตด้วย บางทีเราเลือกความสุขของเราแต่อาจจะเป็นทุกข์กับคนใกล้ตัวโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นพิสูจน์ให้เขาเห็นและเป็นกำลังใจให้ครับ
ไอ้ที่โพสๆ กันอะ บอกเรียนไม่จบ คือบางคนมันเรียน แค่ ครึ่งเทอม ปี1 ไง บางคนไม่จบ ปวช. หรือ ม.6 ถ้าเรียน ถึงปี 3 แล้ว อย่างน้อยก็มีพื้นฐาน แล้ว แต่มันก็มี คนที่เรียนไม่จบ แต่เงินเดือน 50000 อัพ แต่คุณรู้ไหมเขา เก็บประสบกราณ์ กี่ปี และพยายาม ขนาดไหน ต้องอบรม ฝึกทักษะ และนำมาปฎิบัติจริง ได้เท่าไร คุณเห็นแค่ เขาได้มาไง แต่คุณไม่รู้ว่า จะผ่านอะไร มาบ้าง และคนที่บอกจบ ป.ตรี มา ทำไมได้ 15000 คุณเข้าไป คุณทำอะไรเป็นบ้าง สร้างรายได้ ให้กับ บริษัท หรือ ลดต้นทุนในการทำงานไหม คิดสิคิด เอะอะ จะเอาลูกเดียว
เราใช้ชีวิต เพื่อหาทักษะบางอย่าง แล้วเอาไปทำเงินทำงาน ให้ชีวิตมันไปต่อได้ การเรียนก็เป็นทางๆนึง ที่จะหาทักษะนั้นๆเฉยๆ
ระบบการศึกษามันห่วยไง แล้วการเรียนการทำความเข้าใจของแต่ละคนมันก็ต่างกัน ความสนใจก็ต่างกัน การศึกษาปัจจุบันทำให้เกิดการตัดสินกันและการ เพราะมีแบบเดียวระบบเดียวที่แทบจะถูกยอมรับ เลยมีคนโง่ การเหยียด เปรียบการศึกษาเป็นการเดินทาง คนนึงหลงทาง แต่มีคนบอกว่ามาถูกทางแล้ว เขาก็จะหลงทางอยู่แบบนั้น กลายเป็นคนโง่ของคนอื่นๆ การศึกษาไทยปัจจุบันไม่ได้สอนให้คนยอมรับความแตกต่างของกันและกันเลย ซึ่งมันควรจะเป็นพื้นฐาน เพราะคนไม่ใชาเครื่องจักรกลในระบบแบบนี้มันทำให้ขาดโอกาส ที่บางทีอาจจะเรียกว่าความสุข
สำหรับผมแล้วที่กำลังจะศึกษาจบ ป ตรี สำหรับผมแล้วคือคนเราจะต้องเรียน ไอโพสต์ที่พี่เอามานั้นมันคือของพวกเด็กแว้น ทำไมต้องเรียน ก็อยากที่พี่ไนท์พูด เข้าไปเรียนเราได้สังคม ได้เพื่อน และมันไม่ใช่แค่นั้นนะ มันได้ทั้งมารยาท การเข้าสังคมที่ดี เช่น พวกที่ไม่ได้เล่นแม่งก็ไม่รู้หรอกว่าควรพูดอะไรในสถานะการณ์แบบไหน การกระทำ สิ่งต่างๆในการใช้ชีวิต มันอยู่ที่ โรงเรียนและมหาลัย จริงๆนะ ทำไมพวกเด็กแว้นมันถึงคิดไม่ได้แล้วกระทำอะไรบางอย่างที่มันแย่ๆ ก็เพราะมันไม่มีความคิดพอที่จะเข้าใจในการกระทำของพวกมัน ยกตัวอย่างเช่น ไอข่าวที่มีพนักงานเซเว่นขึ้นไปเต้นบนที่จ่ายตัง นั้นแหละมันคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่มันทำมันไม่ถูก มันคิดไม่ได้ว่ามันไม่ดี มันคิดว่ามันเท่ ก็เพราะมันไม่ได้เรียนมันเลยคิดไม่ได้ว่าสิ่งไหนถูกผิดจริงไหม ไปเรียนมัธยม มันก็มีการไหว้อาจารย์ก่อนจะเรียน การเข้าห้องพักครู ก็มีการเคาะก่อนเข้า มีการขออนุญาติ คำพูดคำจา พวกนี้มันถูกสอนโดยอัตโนมัติในสถานศึกษาอะ พวกที่มันไม่ได้เรียนมันถึงคิดไม่ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
ความรู้เป็นสิ่งจำเป็น การศึกษาทำให้เรามีความรู้สามารถนำไปต่อยอดได้ แต่กับในไทยรู้สึกว่าการศีกษาแค่เอาไว้แลกใบปริญญาเฉยๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนที่ไหน ครูสอนแบบไหน สังคมที่เจอเป็นยังไง คือการศึกษาไทยแมร่งมีปันหาแล้วก็ไม่แก้ไขสักที มันควรเป็นสิทธิพื้นฐานสำหรับเด็กทุกคนอะ
ตอบสั้นๆสำหรับเรามนุดเงินเดือน ปัจจุบัน ปวส ทำงานจะสามปี เงินเดือนหมื่นสาม อยากเรียนต่อเพื่อเอาใบวุฒิ เพื่อไปสมัครงานใหม่และเรียกเงินเดือนที่สูงกว่า
จบปริญญาบางคนจบมาได้เงินเดือน 15000 คนเรียนไม่จบบางคนได้เงินเดือน 50000 ส่วนกูเรียนจบมาทำงานไรดีวะ 🥲🥲
ตอนเด็กเราไม่มีโอกาสได้เรียน ตอนนี้เราเรียนโท ได้ A ทุกวิชา โคตรขยัน เราคิดว่ามันควรตั้งใจทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด
การศึกษาในสถานศึกษาก็สำคัญแต่แล้วไงอ่ะคุณเรียนมาสูงประสบการณ์ข้างนอกคุณไม่มีหรือน้อยก็ไม่ต่างอะไรจากโดนตัดแขนตัดขา ในแง่ของผมนะครับ มันแล้วแต่คนจะคิด
ทำ "มหาลัยมีชื่อเสียง" กับ "มหาลัยทั่วไป" หน่อยครับ ตอนนี้ ม.6ช่วงกำลังสอบเข้าเลยมีคำถามมากมายเลยครับ ทำไมเรียนตรงนี้?มหาลัยไม่มีชื่อเสียงนะ และอีกประโยคเด็ด "จบมาจากมหาลัยไม่มีชื่อเสียงจะไม่มีงานทำ"
อยากให้เอามาทำแบบคลิปนี้ จะได้เห็นมุมมองต่างๆครับ
ผมกำลังจะจบมัธยมแต่ไปต่อมหาลัยไม่ได้ครับเพราะครอบครัวผมยากจนทุกวันนี้เครียดมากครับใกล้จะจบละยังหางานไม่ได้เลยพ่อแม่ยังตกงานอีกเพราะงานที่พ่อแม่ทำเขาให้เงินน้อยไม่พอใช้จ่ายตอนนี้กำลังหางานใหม่ทั้งครอบครัวเลยครับโคตรจะเครียด
ธีสิสอยู่ค่ะ อินทีเรีย 55555555555จริง อะไรชัดๆมันมาที่ปี4จริงๆ นี่ชอบการตัดสินใจของคนซิ่วมาก (แต่เพราะเจอแต่คนซิ่วเพราะรู้จักตัวเองจริงๆถึงซิ่ว) อย่างน้อยได้ตัดสินใจแล้ว
ผมจบจากวิศวะจากม.ดัง เคยเชื่อว่าจบมาจะได้เงินเดือน 2x,xxx บาท จนกระทั่งเริ่มทำงานใหม่ๆ ตกใจกับเงินเดือนตอนแรกมาก ได้เดือนละ 15,xxx บาท ในหัวคิดเลยว่า 5 ปีที่แล้วรัฐบาลเคยบอกว่าวิศวะขั้นต่ำ 18,xxxx บาท ไม่ใช่หรอวะ😢
คนที่ไม่อยากเรียนเพราะมีไอเดียที่ดีครับ
เลยไม่อยากเรียนและไปทำในสิ่งที่ชอบ
อันดับแรกคือ โพสต์นั้นมันก็มีความจริง ที่หลายคนไม่อยากฟัง และสร้างความแตกแยกในสังคม
ซึ่งบ้านเราชอบหยิบยกเอา ป.ตรี มาเป็นตัวตั้ง
ไหนจะคนทำออฟฟิศ ชอบโดนเปรียบ
คือจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ มัน 15000 ปกติ
บางคน 18000-20000 หรือ 30000 อัพ ในวุฒิป.ตรี มีค่อนข้างเยอะ แต่เขาไม่ได้มาป่าวประกาศบอก
การเรียนในห้องมันคือการเรียนประสบการณ์ของคนอื่นเเต่ถ้าการทำงานมันคือประสบการณ์ของตัวเองครับ ไม่ว่าจะชอบเเบบไหนสิ่งนึงที่ทั้งคู่ต้องมีคือการเรียนรู้ ใบปริญญาหลายๆสาขาใช้เบิกทางได้จริง ทุกคนที่รู้จักก็อยากให้ลูกหลานหรือเเม้เเต่ตัวเองเรียนเลยครับเพียงเเค่ตอนนั้นเขาไม่มีโอกาส
15000ของพี่ดูน้อยนิด
แต่ชีวิตคนระดับล่างแบบผมเงินเดือน9900
ต้องเลี้ยงดูครอบครัว
ถ้าผมไปถึงเงินเดือนหรือมีงานที่สร้างเงินได้15000-20000บาท ชีวิตผมคงสบายขึ้นเยอะในเรื่องค่าใช้จ่าย
การเรียนไม่ใช้สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต แต่ความรู้คือสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต
ใช่ครับ เราเรียนเพื่อให้ได้รู้ในสิ่งนั้น ต่อให้ความรู้ที่ได้จากการเรียนอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่มันสามารถให้เรานำความรู้พื้นฐานไปปฏิบัติต่อยอดในเรื่องนั้นๆได้
@@NJ_12lost เห็นภาพเลยครับ
ของเเบบนี้อยู่ที่ตัวคนคะ จบไม่จบ โอกาส สกิ้ว เราคนหนึ่งที่เรียนไม่จบขาดตัวเดียว เเต่รายรับ 20000+++ รวมสังคมดี โอกาสเยอะ เเนวเพื่อนต่างชาติ สังคมเมืองนอก ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ถ้าคุณอัพตัวเอง ค้นหาจุดยืน คุณรอดคะ ถ้าเราโอเคในอีกระดับเราจะไปเรียนใหม่เเนวนักจิตเเต่เลือกเรียนที่ต่างประเทศคะ เมืองนอกน่าจะดีกว่า
ส่วนตัวเรียนเพื่อเอาวุฒิ มันจะได้รู้สึกมีกำลังใจอยากจบเอาวุฒิไวไว
จะโดนเหล่านิสิต กำหมัดไหมน้อออ......
ยังเชื่อว่า..เรียน..ดีกว่า ไม่เรียน
ก็เลือกเรียนคณะดีๆดิวะ เช่นพยาบาล ไปยืนคลืนิกเสริมความงานก็ได้เยอะละ5555
ไปเรียนแบบคณะที่มันเรียนง่ายๆ แล้วตอนเรียนก็จบมาชุ่ยๆได้ ออกมาทำงาน ศักยภาพไม่เต็มที่ได้เงินเดือนน้อยก็มาบ่น ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียนสิ
% น้อยนะครับ คนที่เรียนไม่จบแล้วประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของธุรกิจ คือ ฐานะทางบ้านต้องดี มีธุรกิจครอบครัว หรือไม่คุณก็ต้องมีทักษะที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ แบบ ความจำดี เก่งภาษา ซ่อมนู่นซ่อมนี่ได้ เก่งตัดต่อ อะไรแบบเนี่ย แต่ถ้าคุณที่บ้านไม่ได้รวย หาเช้ากินค่ำ ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ผมว่าเรียนเหอะ อย่างน้อยวุฒิมันก็เป็นเหมือนใบเบิกทางชีวิต (ดีกว่าไม่มี) ถึงมันจะไม่ค่อยได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาก็เหอะ ใครจะไปรู้วันนึงคุณอาจจะไตร่เต้าได้เป็น ผู้จัดการ , CEO กับเขาก็ได้
ถ้ามีโอกาสเรียนควรเรียน เพราะปริญญาคือใบเบิกทางและจะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยมากกกกก จากใจคนจบมัธยมต้นที่หาเงินต่อเดือน 50K มันเหนื่อยมากกกกกกกว่าจะสำเร็จได้ถึงจุดนี้
มันอยู่ที่ว่าจบแล้วเลือกจะทำงานอะไร จะเลือกงาน 15,000 หรือ 50,000
มันขึ้นอยู่กับที่แต่ละคนจะเลือก