BYD ที่วิ้งได้ 180km แต่ที่เหลือใช้พลังงานปั่นไฟจากน้ำมัน อาจไม่เข้าหลักเกณฑ์การเป็นรถ EV ในตลาดยุโรปหลายๆประเทศ อาจต้องเพิ่มความจุแบตหรือลดความแรงของมอเตอร์ลง ควรจะวิ่งไฟฟ้าได้สัก 250km แล้วปั่นไฟเพิ่มวิ่งได้รวมเป็นสัก 800 km น่าจะผ่านหลักเกณฑ์เป็นได้ทั้ง hybrid และ EV ไม่โดนภาษี CO2 มหาศาล
เหตุผลที่ยังต้องพึ่งเครื่องยนต์อยู่เพราะเทคโนโลยีแบตยังไม่เจ๋งพอในตอนนี้ อนาคตถ้าเขาพัฒนาเรื่อง Energy density ของแบต เอาแค่ให้ได้มากกว่าปัจจุบัน 2 เท่า แค่นี้รถน้ำมันก็จะอวสานแล้ว
มันก็คล้ายระบบของ Chevrolet Volt ที่ไม่มีขายในไทยนั่นแหละครับ ต่างกันที่รถจีนใช้มอเตอร์ขับเพียวๆ แต่ Volt จะสามารถใช้เครื่องยนต์ช่วยขับเคลื่อนได้หากจำเป็น Volt ถ้าไฟแบตเหลือเยอะ มันจะใช้ไฟจากแบตฯ วิ่งอย่างเดียว ไม่ว่าจะที่ความเร็วต่ำหรือสูง แต่ถ้าไฟแบตเหลือน้อย ที่ความเร็วต่ำ เครื่องยนต์จะติดมาช่วยปั่นไฟ แต่ถ้าขับความเร็วสูง ระบบถึงจะเชื่อมต่อชุดคลัตช์เอากำลังเครื่องยนต์มาช่วยขับล้ออีกที
มีเรื่องรถยนต์เราค่อยเป็นค่อยไปเราลงทุนตอนนี้รถมือสอง EV ราคาตกเพราะเทคโนโลยีมาไวเกินไปเราจะสูญเสียหุ้นส่วนด้านการลงทุนซึ่งคบค้ากันมายาวนานถึง 70 ปีจากบริษัทผลิตรถในญี่ปุ่นเขาอาจถอดใจเนื่องจากยอดขายตกต่ำคนตกงานมากมาย
พลังงานไฟฟ้าในอนาคต หรือน้ำมัน สิ่งสำคัญที่สุด
ก็คือ พลังงานแบ้งค์ในกระเป๋าสตางค์
ฃ
จีนจะเป็นที่สุดในโลกด้านเทคโนโลยีจริงๆหรือรถไฟความเร็วสุงวิ่งได้630กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่ากับเครื่องบินไปลำปาง
ทุกระบบไม่มีจุเจบ
ถ้า ทำให้การเดินทางประหยัดเงินในกระเป๋า
ที่สำคัญ ใช้ดีไม่มีปัญหาจุกจิก และใช้ได้คงทนยาวนาน
ขอแค่อย่าทำให้เหมือน รถมอไซค์จีนแดง ที่ใช้ไป 1ปี ต้องจอด ไม่มีอะไหล่ซ่อม ขายซากชั่งกิโลยังยาก😂😂😂😂
กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟ ใส่ท้ายรถ EV พอดี concept เดียวกันเลย👍👍👍
แบบนี้ก็ไม่ต้องแวะชาร์จวิ่งยาวๆๆ
หลักการเดียวกับ nissan e-power เลยครับ😊 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนล้อ ได้ไฟมาจากน้ำมัน
ของนิสสันปั่นไฟตลอด แบตเล็กนิดเดียว
@@sugoivlog9944 หลักการ ต้นแบบครับ ค่ายอื่นนำมาพัฒนาต่อยอดได้
@@Thailand-Servant-111 จริงครับ กำลังจะเม้น พอดีเลย
ใช่ครับหลักการเดียวกัน แต่เท่าที่ฟังมีหลายจุดที่ผมเคยคอมเม้นท์ใน Nissan e-Power คือเขามีแบตน้อยไป น่าจะมี Version แบตใหญ่ แบบรถจีน EREV เพราะ
1. แบตใหญ่กว่า 50-60 kWh จะทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าได้จริง และถ้าชีวิตจริงใช้ไม่เยอะแทบจะเป็นรถ EV เลย
2. ชาร์จไฟได้ (Nissan ไม่มีที่ชาร์จ) ยิ่งถ้าชาร์จ DC ได้บอกเลยแทบไม่ได้ใช้เครื่องยนต์แม้จะเดินทางไกล
3. แบตน้อยทำให้ KERS ได้น้อย เช่นถ้าวิ่งลงจากดอยอินทนนท์ แบตจะเต็มก่อนที่จะถึงตีนเขา พอแบตเต็มและรถไม่มี Engine Break ด้วยเบรคจะต้องทำงานหนักมากทำให้อันตรายมาก
ไม่ใช่ แค่ nissan นะ honda ก็ทำ city hrv crv ที่เป็น e-HEV ตอนแรก็เข้าใจว่า มันใช้เครื่องยนต์น้ำมันเป็นหลัก แต่จริงๆ แค่ปั่นไฟ
BYD ที่วิ้งได้ 180km แต่ที่เหลือใช้พลังงานปั่นไฟจากน้ำมัน อาจไม่เข้าหลักเกณฑ์การเป็นรถ EV ในตลาดยุโรปหลายๆประเทศ อาจต้องเพิ่มความจุแบตหรือลดความแรงของมอเตอร์ลง ควรจะวิ่งไฟฟ้าได้สัก 250km แล้วปั่นไฟเพิ่มวิ่งได้รวมเป็นสัก 800 km น่าจะผ่านหลักเกณฑ์เป็นได้ทั้ง hybrid และ EV ไม่โดนภาษี CO2 มหาศาล
สำหรับผมชอบรถไฟฟ้าล้วน ติดแผงโซล่าเซลไว้บนหลังคา เพิ่มแบตสำรองอีกสักลูก ต่อสายไฟพวงระหว่างแบตสำรองกับแบตหลัก ทำสวิชปิดเปิดชาร์ตอัตโนมัติ แบตเวลาชาร์ตเต็มแล้วต้องมีระบบตัดอัตโนมัติ มิฉะนั้นแบตจะบวมไวเสียไว(ถ้าผมเป็นผู้สร้างรถ) ผมจะสร้างรถแบบที่ไม่ต้องเกี่ยวกับนํ้ามันอีกเลย
ควาดคิดดีมากครับ บางทีค่ายญี่ปุ่นอาจกำลัง ซุ่มสร้างอยู่ก็ได้ 🎉
แผลโซลาร์ใช้ชาร์ทรถได้ใช้พื้นที่เท่ากับบ้าน 1 หลัง ชาร์ท 8 ชั่วโมงเต็มนะ จะเอาแบบเร็วใช้พื้นที่ 1 ไร่น่าจะพอ
ค่ายพี่ยุ่นว่าไงครับ เจอพี่จีนจัดเต็มออฟชั่นแบบนี้ ยังจะกั๊กออฟชั่นไว้โก่งราคาฟันหัวคนไทยแบะอีกรึป่าวครับ ยังรักพี่ยุ่นนะแต่ทุกอย่างต้องมีการแข่งขัน
เค้ารอให้รถจีนเจ๊งก่อนเพราะมันไม่ได้คุณภาพ แล้วพอคนใช้รถเริ่มยี้กับรถจีน เดี๋ยวญี่ปุ่นก็มาเพื่อที่จะบี้รถจีนให้จมดินไง รีบหัวเราะเยาะก่อนระวังเหงือกแห้งเอานะ
โคโยต้าบอกรถไไฟ้ากินส่วนแบ่งตลาดแค่30% ไม่กลั้้วไม่กลัวจริงจริ้ง😂😂 bz4 ขายไม่ออกแถบอาจโดนฟ้องเรื่องโฆษณาเกินจริง
ที่บ้านโตโยทั้งบ้าน ไฮบริด +นำมันแน่นอน ไฟล้วนยัวไม่กล้า โดยเฉพาะของพี้จีนเขา
@@tongbabooฟ้องยังงัยครับ เห็นยอดขายในยุโรปอย่างโต ในจีนก็ขายรัวๆนี่ครับ BZ4X
@@PhatrawuthKensomsri ขายได้เฉพาะในอเมริกา แล้วก็มีการร้องเรียนที่อเมริกา
kicks เพิ่มแบต สัก 10-20 kWh ก็แจ่มแล้วน้า
ถ้าจอดรถนอนไม่ต้องสตาร์ทเครื่องได้ รันแบตอย่างเดียว ซื้อเลย 6-7 hrs
ใช่ นี้แบตเล็กเกิน
ถ้า kick เพิ่มแบตราคามันคงไม่ใช่ราคาที่ขายปัจจุบันแน่นอน
นิสสันทำราคาไม่ได้ มันแพงเกินไป
แนวคิดนี้ เหมาะในการสร้างรถบรรทุกไฟฟ้ามากกว่า แต่จุดคุ้มค่าคือน้ำมัน 1 ลิตรผลิตพลังงานไฟฟ้าได้กี่ kw วิ่งได้กี่กิโลเมตร เทียบกับน้ำมัน 1 ลิตรเครื่องยนต์สันดาบน้ำมันวิ่งได้กี่กิโลเมตร เพราะมันมีเรื่องของน้ำหนักแบต+น้ำหนักเครื่องเจนปั่นไฟ เข้ามาด้วย
ไม่ได้ใช้บ่อย มีไว้ตอนไฟฟ้าหมดแต่มีปั้มน้ำมัน อาจจะไม่คุ้ม แต่นานๆ ครั้งยอม
ทำได้แน่ๆครับเพราะหัวรถไฟดีเซลก็ใช้ระบบนี้มานานมากแล้ว มันพิสูจน์แล้วว่าลากน้ำหนักสบายๆ
ที่แน่ๆมั่นใจได้อย่างหนึ่ง Byd รุ่นนี้มาไทยคงไม่กลัวน้ำท่วมรถแน่ๆ 1.4เมตร ขับไปจอดที่สูงๆสัก40 cm +เปิดระบบ ก็ 1.8เมตร ไม่น่าจะท่วมถึงละ แถมตอนท่วม ยังเอารถไปว่ายน้ำล้างได้สบายๆ ไม่ต้องไปใช้เรืออีก คุ้มฝุดๆ
เชื่อมะ คนไทยต้องขับลงแม่น้ำหรือทะเลโชว์แน่ๆ
ก็แค่ kicks เพิ่มแบตหรือเปล่า ?
Haval phev หล่ะ วิ่งได้ 150-200km เติมน้ำมันได้ วิ่งไฟฟ้าล้วนได้
erev/reev หรือจะเรียกอะไร มันก็แค่เครื่องหมายการค้าอ่ะ สำหรับคนทั่วไปก็มองเป็น hybrid เพราะ hybrid มันก็แปลว่า ผสมผสาน จะผสมแล้วใช้มอเตอร์ขับอย่างเดียว หรือผสมแล้วใช้ขับเคลื่อนด้วยสองระบบเพื่อเพิ่มแรงหรือประหยัด คนปกติก็รวมเป็น hybrid หรือระบบขับเคลื่อนผสมผสานแหล่ะ
ไม่เหมือน ระบบขับเคลื่อนขั้นต่ำต้องเทียบเท่า e power นั่นแหละ
hybrid มันวิ่งทั้งน้ำมันทั้งไฟฟ้า ส่วน e-power กับ erev มันใช้เครื่องปั่นไฟ วิ่งมอเตอร์เท่านั้น มันจะเหมือนกันได้อย่างไรครับ 😅😅
มันเป็นไฮบริดแบบที่ใข้ไฟฟ้าขับเคลื่อน ไม่ต้องรอรอบแบบรถไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์กับมอเตอร์ขับเคลื่อน มันจะต่างกันตรงการขับเคลื่อน
ไม่เหมือนครับ หลักการคล้าย kick แต่ดูในรายละเอียดมันแตกต่าง สรุปง่ายๆมันคือ รถไฟฟ้าที่พกเครื่องปั่นไฟไปด้วย นี่อธิบายแบบภาษาชาวบ้านเลย ส่วนของ kick นั่นการทำงานเขาซับซ้อนเพราะ แบตเตอรี่เล็กมากๆแค่ 1.5kw แม้จะขับเคลื่อนนด้วยไฟฟ้า ไม่มีการเชื่อมต่อเครื่องยนต์เพื่อถ่ายกำลังไปสู่ล้อแบบ โตโยต้า ฮอนด้า ผ่านชุดเกียร์ แต่เนื่องจากแบตเตอรี่เล็กมากจึงต้องอาศัยกำลังเครื่องยนต์ปั่นไฟเพื่อจะจ่ายกระแสให้ทัน ทำให้ขับทางไกลด้วยความเร็วกินน้ำมันมาก
แต่แบบของ จีน เครื่องปั่นไฟเขามันเป็นเครื่องปั่นไฟจริงๆ อันเล็กๆ แต่ไปเน้นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สมรรถนะมันคือรถไฟฟ้า ที่ขยายระยะทางวิ่งให้ไกลขึ้น
Kick มันคือรถน้ำมันที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนครับ แม้ผู้ผลิตพยายามพูดว่ามันคือรถไฟฟ้าที่มีเครื่องไว้ปั่นไฟ อันนั้นเป้นการผลักดันทางการตลาด ส่วนของ จีน นี่มันคือทรถไฟฟ้า ติดเครื่องปั่นไฟจริงๆเลยครับ ออกแบบง่ายๆกำปั่นทุบดินนี่แหละ เอารถไฟฟ้าทึ่ตัวเองมีติดเครื่องปั่นไฟเข้าไปแค่นั้น ระบบไม่ซับซ้อนแบบ kick
ไม่น่ากังวลกับการต้องบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เพราะถ้าคุณใช้รถในชิวิตประจำวัน วันละไม่เกิน 150 กม คุณจะไม่ต้องใช้เครื่องยนต์เลย ฉนั้นรอบการบำรุงรักษาเครื่องยนต์จะยาวมากจนลืมไปเลย แล้วยังสะดวกในการเดินทางไกล เข้าป่า ยิ่งถ้าแบตวิ่งได้สักสองร้อยโล แจ่ม
ของเหลวมันมีระยะเปลี่ยนนพครับ ลูกยางต่างๆ ก็เสื่อมตามสภาพ และระยะเวลา😊
@@TimeTichaรถไฟฟ้าไม่มีของเหลวให้เปลี่ยนถ่ายครับ ระบบเบรคยังเป็นแบบไฟฟ้าเลย
เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามรอบเหมือนเดิมครับ ต่อให้ใช้ไฟฟ้าล้วน ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ยังเคลื่นไหวแค่ไม่มีความร้อนจากการจุดสันดาบนํ้ามัน แอรรถจะเย็น ผมใช้ MG HS PHEV อยู่ระบบเดียวกันเลย ตอนซื้อได้โปรฟรีค่าใช้จ่ายของเหลว5ปี หรือ120,000km
นี่แหละที่รอคอย แต่ขอขนาดเล็กลงหน่อยนะทั้งตัวรถและแบต วิ่งไฟฟ้าสัก 100กม.ก็พอ ราคาจะได้ถูกลง
MG มีแล้ว
รถ EV ราคา 4 แสนก็ว่า.. ใช้ 10 ปี..ขายซาก คุ้มแล้ว..
รอเลยครับ EREV อย่างน้อยรถครอบครัวเดินทางไกลจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จไฟให้เป็นห่วงคนในครอบครัว ยังไม่นับรวมช่วงเทศการนะครับ หรือถ้าเอาให้ถูกใจสุดๆ ก็ลดขนาดแบตฯ ครึ่งนึงของ EV ให้ราคาถูกลงก็ยังได้ เพราะยังไงเวลาเดินทางไกลก็เติมแต่น้ำมันระหว่างทางอยู่แล้ว ถึงที่หมายหรือใช้ในเมืองค่อยชาร์จไฟ
ใช้honda HRV ไฮบริท แค่นี้ก็ประหยัด พอใจเติมนึ่งพัน ถึงเชียงใหม่สบายๆ ไม่ต้องเสียเวลา จอดชารจ์ ราคาปล่อยมือสอง ยังสูงคุ้มค่าครับ
จริงครับพี่ ไม่ใช่แวะเติมไฟ300 แล้ว แวะเติมน้ำมันอีก1000 ไปๆมาๆ HRV CHR ประหยัดกว่า
ขอเลือก ev 100 สั้นๆ ไม่ยุ่งยาก ประหยัด ดูแลบำรุงง่าย สบายกระเป๋า
มีเหตุผล
ตอนขายเปลี่ยนรถใหม่ อีกสัก 8 ปีเต๊นท์ไม่น่าจะรับเข้า ev ยุคแรกน่าจะขายซาก ไม่รู้จะคุ้มจิงรึป่าว
@@ManMan-or3mzรถน้ำมันก้เป้นสุสานแล้ว เต้มลาน เต้มเต้นท์ บดทำลายขายซากเหมือนกัน
@@kamonsuwanpradit9566 ตลกดี 555
เค้ามองว่าหากทำไฮบริดแบบปกติคงไม่สามารถสู้กับแบรนด์อื่นได้ คิดต่างได้แบบฉลาดดี ทำให้ตอบโจทย์ที่บางคนยังห่วงที่ต้องเสียเวลามาชาร์จในเวลาเร่งรีบหรือในช่วงเทศกาล และสามารถชาร์จDCได้อีกในสถานการณ์ที่ไม่ได้เร่งรีบ แต่ยังมีเรื่องราคาที่มันแพงกว่า ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะได้รับความนิยมมากแค่ไหน
มันก็มีมานานมากแล้วนี่ครับ จนหลายค่ายเค้าใช้ FCEV ใน EREV กันแล้ว
Nissan kick ก็มี
ในที่สุดก็จะกลับมาแบกเครื่องปั่นไฟไปด้วยกัน เติมไฟ 300 เสร็จแวะเติมน้ำมันอีก 1000รึเปล่า เนี้ย 🤣🤣
@@dachajsn6675 แต่ขายไม่ได้มากไง นิสสัน
จะรอจีน พัฒนา2-3ปี ให้รถEVใช้ไป ชาร์จไฟ้เข้าตลอดโดยไม่มีหมดไม่ต้องกำหนดระยะทาง
นี่แหละรถที่ผมรอคอย ทำงานคล้ายแบบนิสสันคิก เป็นไฟฟ้ามีแบตใหญ่ชาร์จได้แบบรถไฟฟ้าทั่วไปและมีเครื่องยนต์สำรองคอยชาร์จไฟเมื่อแบตเหลือน้อย แบบโฮปริดทั่วไปมันซับซ้อนบำรุงรักษายาก แบบนี้มันแยกซ่อมได้ เครื่องยนต์เสียก็วิ่งได้ปกติ หรือยกเครื่องยนต์ออกไปซ่อมรถก็ยังใช้ได้ปกติ
สุดยอดครับเพราะ หน้าสนใจครับ อยากได้ เลยครับแบบเนี้ย
มีคำถามคาใจ คือ นิสสันคิ๊กทำไมไม่ใส่แบตให้มาเยอะๆเลย รึว่าเขารู้อยู่แล้วว่าถ้าใส่มา ต้นทุนมันอาจจะสูง จนผู้คนไม่อาจจับต้อง หรืออีกแบบคือ กั๊กๆไว้ดูท่าทีผู้บริโภค ถ้ากระแสดี แฟนคลับเหนียวแน่นค่อยใส่เพิ่มมาให้อีกในรุ่นใหม่ๆถัดไป แต่แอบเชื่ออย่างหลังเพราะระดับผู้นำระดับโลกในเรื่องรถ คงมีประสบการเยอะ ลูกล่อลูกชนในการดึงเงินในกระเป๋าเราๆท่านๆ แกมีสูง
นิสสันคงมองว่าไม่คุ้ม
ผมคิดเอาเองว่า น่ากลัวทำราคา ณ ตอนนั้นไม่ได้ ราคาแบตตอนนั้น และตอนนั้นเทรนด์ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปทางไหนด้วย
กั้กสเปค เอากำไร ขายของเก่านานๆ
@@natthapongtochpan6734 ออกรถไฟฟ้ามาขายเมืองไทยก่อน แทนที่จะรุ่งแต่ล่วงเพราะขายคันละ1.9ล้าน ถ้าขายล้านต้นได้เป็นเบอร์1รถไฟฟ้าในไทยตอนนั้นละ
@@kamonsuwanpradit9566 ผมพูดอ้อมหรือคุณพูดตรง
จีนผลิตสินค้า ไม่มีความทนทานและอะไหล่ไม่มีคุณภาพและอาจลองผิดลองถูก กส่าจะเข้าร่องเข้ารอยใช้เวลาอีกนาน ฃึ่งญี่ปุ่นผลิตสินค้ามีคุณภาพ อะไหล่มีความทนทาน หาอะไหล่ง่ายราคาไม่แพง ฃึ่งเกิดความน่าเชื่อถือมาเป็นเวลานาน นี่คือสินค้าญี่ปุ่นมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
หุ้นรถยนต์ญี่ปุ่นจึงราคาตก นี่คือความเห็นของนักลงทุน สวนทางกับความคิดเห็นคุณ
ความคิดเห็นนี้เหมาะกับยุคก่อน
ยุคนี้ คิดแบบนี้คือ..ตกยุค
ความคิดไดโนเสารมาก ยังกับคนไม่เคยเห้นโลก ที่มันก้าวไปแล้ว😂😂
ไม่อัพเดตข้อมูลบ้างเลย ติดแต่ข้อมุลเก่าๆ
ยังหลงคิดว่า...ญี่ปุ่นจะผลิตของได้.....ดีกว่า!
จีนกันอีกเหรอ!...เผลอๆ
เจอของแพง คุณภาพ
อาจห่วยกว่าจีนซะอีก!
ช่วงที่ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟเข้าแบต ระบบจะตัดไปใช้ไฟฟ้าวิ่งเมื่อแบตได้กี่เปอร์เซ็นต์ ครับ แลัวระบบลอยตัว ถ้าถึงระยะเวลาที่กำหนดแล้วแล้วยังไม่พ้นระยะที่ระบบลอยตัวทำงาน รถจะจมรึป่าวครับ
ขอชื่นชมแคปชั่นที่ใส่คำว่า หรือไม่ แทนที่จะ ? เฉยๆ ถือเป็นการรับผิดชอบสังคมเลี่ยงความเข้าใจผิด ไม่ใช่จะเอาแต่คลิกแบทอย่างเดียว
ถ้าติดเครื่องยนต์ชาร์จไฟขนาดเล็กได้ เป็นตัวเลือกทีน่าใช้มาก ลดการบำรุงรักษาได้เยอะ กว่าไฮด์บริจด์ จีนยังไงก็ขายได้ เพราะล้ำหลายเรื่อง
แต่แปลกนะครับ นิสสันทำขึ้นมาก่อนหลายปีแล้ว แต่คนไทยไม่นิยมสักที พอจีนเลียนแบบ คนกับสนใจซะอย่างงั้น
@@โกวิทดวงเดช-ฉ4ฐตอนนี้ไอ้ยุ่นกลับมาเลียนแบบแทน เทคโนโลยีล้าหลัง มาก ซอฟแวร์นี่แทบจะไม่มีด้วยซ้ำ
@@โกวิทดวงเดช-ฉ4ฐ น่าจะเป็นที่ราคา เข้าถึงยากครับ
@@โกวิทดวงเดช-ฉ4ฐ ผมใช้ MG HS PHEV มา3ปีกว่าละครับ ระบบเดียวกันแค่แบต EVวิ่งได้67km นํ้ามันวิ่งได้ 450-500km นิสสันคิกมันคนละระบบครับ นิสสันเหมือนรถไฟดีเซลรางบ้านเรา เอาเครื่องยนตมาปันไฟใส่แบตลูกเล็กปั่นตลอดเวลาไม่สามารใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ และไม่สามารถเสียบปลั๊กได้ รถ"ไฮบริสที่เสียบปลั๊กได้ จะเรียกระบบ PHEV มีของยี่ห้อ MG {MG HS PHEV} กับ ยี๋ห้อGWM {Haval H6 PHEV} และ Mitsubishi Outlander PHEV
@@โกวิทดวงเดช-ฉ4ฐNissan ทำไม่สุดงัยครับ Technology มีทุกอย่างเริ่มมาก่อนตั้งนานแต่วาง Product ไม่ถูกจริตของตลาด x-trail วิ่ง Motor ได้ 120 km/h เพิ่มความจุ Battery กับใส่ที่ชาร์จมาให้เป็น Plug-in HEV ก็ล้ำในช่วงนั้นแล้วก็ไม่ทำ Kick เพิ่มความจุ Batterry เพิ่มที่ขาร์จก็เป็น EREV แล้วก็ไม่ทำ ทั้งที่ Technology ระบบไฟฟ้ายืมเอาจาก Nissan Leaf ก็ได้ ไม่แน่ใจว่าติดเรื่องสิทธิบัตรยังไม่หมดอายุหรือเปล่า เพราะ EREV นี่ Chevrolet ทำขายในชื่อ Volt มาตั้งแต่ 2010 แล้ว และเรียกระบบว่า Range Extender แต่ในวงการรถเรียกรวมเป็นรถไฮบริด และตอนนี้ก็ยกเลิกสายการผลิตไปแล้ว
เอานิสสันลีฟมาผสมกับนิสสันคลิกก้อสู้ได้แล้วครับ หวังว่าจะได้เห็นนิสสันทำออกมา❤
ผมก็คิดว่ามันคล้าย นิสสันคิ๊ก มากเลยครับ ที่แตกต่างกันคือ แบตลูกใหญ่ขึ้นและสามารถชาร์ตไฟจากเต้าเสียบได้ แบบนี้คิ๊กรุ่นต่อไปเอาแบบในคลิปไปเลย (เครื่องปั่นไฟตัวเดิม ขอแบตใหญ่ขึ้นคือวิ่งได้ 50 โลก็โอเคแล้ว)
@@mooham16 ผมว่าถ้าเหมาะน่าจะอยู่ที่150กม.นะครับ ชาร์จไฟบ้านวิ่ง150ถ้าเกินนั้นค่าใช่เครื่องปั่นไฟ จะเหมาะกับในเมือง และควรกดปรับได้ว่าจะให้ใช่เครื่องปั่นไฟได้หากไฟต่ำกว่า25%
EREV จะคล้ายกับ e-power เลย แต่ e-power ในตอนที่เราต้องการเร่งแล้วมอเตอร์มีกำลังไม่พอ เครื่องยนต์จะเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนด้วย แต่ EREV เครื่องยนต์จะมีไว้แค่ปั่นไฟ 100% มอเตอร์มีกำลังแค่ไหนก็คือแค่นั้น
ดังนั้น EREV จึงไม่จำเป็นต้องมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ อาจจะเลือกใช้เครื่องยนต์ไม่ถึง 1000 cc มาใช้ปั้นไฟก็ได้
เหตุผลที่ยังต้องพึ่งเครื่องยนต์อยู่เพราะเทคโนโลยีแบตยังไม่เจ๋งพอในตอนนี้ อนาคตถ้าเขาพัฒนาเรื่อง Energy density ของแบต เอาแค่ให้ได้มากกว่าปัจจุบัน 2 เท่า แค่นี้รถน้ำมันก็จะอวสานแล้ว
ในความคิดเห็น ไทยเป็นประเทศที่ร้อน ชื้น รถEV 100% batteries มีขนาดใหญ่รอให้ผ่านหน้าฝน น้ำท่วมใน กทม.สัก2-3ครั้งแล้วถึงจะรู้ว่ารถมีความเหมาะสมในการใช้งานกับสภาพอากาศของไทยรึเปล่า
รถต้องแปรสภาพเป็นเรือได้ด้วยครับ
เครื่องยนต น่าใช้แค่ไม่เกิน800 เอาไว้ใช้ชารทไฟกรนีฉุกเฉินพอ(เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน ชารทไฟไม่เกิน10Kก็เกินพอแล้ว) .โดยที่แบตส่วนมาก ก็จะชารทไฟได้ตามตู้ไฟ ที่มีทั่วๆไป และเพิ่มแบตให้ความจุมากอีกเท่าตัววิ่งได้ระยะทาง400-600กม จะเวคกว่าน่ะ
เหมาะดีสำหรับเมืองไทยที่เจอน้ำท่วมกระทันหันบ่อยๆครับ ผมว่าระบบไฟฟ้า100%ที่กำลังฮิตตอนนี่ก็ไม่่ได้แย่นะครับดีตอนนี้แต่น่าจะสร้างปัญหามลพิษโลหะหนักในอีก10-20ปีข้างหน้าครับคิดถึงรถเป็นล้านๆคันที่แบตฯหมดอายุต้องเปลี่ยน ก็จะมีขยะแบตฯปริมาณมหาศาลที่ต้องกำจัด โลหะหนักที่เป็นของเสียที่จะรั่วไหลถ้าจัดการไม่ดีไหนจะค่าการจัดการสิ่งเหล่านี้อีก ผมว่าระบบไฮบริทไฮโดรเจน+ไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นกำลังทดสอบและพัฒนาน่าจะตอบโจทย์กว่าครับ
ระบบไฮบริดผมว่าล้มยากครับ ไปได้อีกไกล มันมีประโยชน์ค่อนข้างครบครัน
range แค่ 300 ก็อยู่ได้ละครับ สบายๆ
เมืองไทย ถือว่าที่ชาร์จเพียงพออยู่ ตอนนี้ราคา dc charger ก็ถูกลงมาก อีกหน่อยก็มีทุกร้านกาแฟแน่นอน
ดีครับเป็นทางเลือกที่หลากหลาย แต่ราคารถ กับค่าใช้จ่ายในการดูเเลเครื่องยนต์ก็จะสูง เกือบๆรถน้ำมัน
จริงๆ แล้ว คาใช้จ่ายในการดูแลเฉพาะเครื่องยนต์น่าจะถูกกว่ารถน้ำมัน เพราะไม่มีระบบส่งกำลัง เกียร์ ซึ่งเป็นตัวเสื่อมเร็วกว่าเครื่องยนต์มาก แถม การเดินเครื่องยนต์เพื่อชาร์จไฟ จะเป็นการทำงานที่ราบเรียบ สม่ำเสมอ ต่างกับการขับเคลื่อนล้อที่มีการเปลี่ยนความเร็ว กระชาก หยุด ฯลฯ บ่อยๆ ทำให้อายุการใช้งานเครื่องยนต์ยาวกว่ากันเยอะครับ
ทำไหมไม่ดัดแปลงเพลาล้อรถที่หมุนได้ นำมาใช้ปั่นไฟให้ไดรชาร์ทและนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้กลับไปชาร์จแบตเตอรี่อีกครั้งเพื่อเพิ่มระยะทางได้อีกเยอะเลยนะ วิ่งไปด้วยชาร์ทไปด้วยเลยดีไหม
ดูแล้ว ก็เหมือน กับพี่ยุุ่น เอานิสสันคลิก มาใส่แบตเพิ่มจาก เดิมที่แบตมีเอาไว้แค่จ๋ายไฟDC ขับมอเตอร์และรองรับรีเจนจากเพลาขับ , ถ้านิสสันคลิกใส่แบตเพิ่มก็น่าจะดี นะคะรับ
❤❤❤
แต่ nissan kicks ชาร์จแบตไม่ได้นี่สิครับ
ถ้า hybrid พัฒนา จนได้เกือบ 40 โล / ลิตร เขาจะทำได้ไหมครับต่อไป
พอพูดถึงรถไฮบริด ก็ชวนให้นึกถึง ระบบที่ต้องใช้กำลังเครื่องผสมไฟฟ้า ซึ่งดูเหมือนเพิ่มภาระ เพราะไม่สามารถใช้ไฟฟ้าล้วนๆ ได้ แต่ ถ้าเป็นระบบ ใหม่นี้ ผมเชื่อว่า Work น่าใช้งานได้ดีกว่าเยอะครับ
จริง ๆ มันก็คือ hybrid ประเภทหนึ่ง เหมือน e-power ของ nissan เลย ตราบใดที่ยังมีเครื่องยนต์ก็หนีไม่พ้นคำว่า hybrid และปรกติ hybrid ขนาดรถเล็กยังขับกัน 800 - 900 โลอยู่แล้วครับ
แบตเตอรี่หมดอายุเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็หนาวเงินในกระเป๋าเลยทีเดียว ระยะสั้นรถไฟฟ้าดีมาก ระยะยาวจะทำอย่างไรให้แบตเตอรี่มีราคาถูกลงอย่างน้อยแบตเตอรี่ไม่ควรมีราคาสูงเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของราคารถทั้งคัน ยกตัวอย่างเช่นราคารถ 1 ล้านบาท ราคาแบตเตอรี่ก็ไม่ควรมีราคาเกิน 1 แสนบาท
ไม่ ที่อเมริกาและจีน มากกว่า 50% ผู้ใช้ EV หันกลับไปใช้รถ ICE และ Hybrid.
ตอนนี้ยังเป็นญี่ปุ่น ติดแก๊สก็ยังดูคุ้มค่าทั้งค่าพลังงานและบำรุงรักษา ส่วนอนาคตว่ากันอีกที
ตอนฟังคอนเซ็ปชอบมาก ลุยได้ น่าเอามาใช้แทน pajero ขับ 4 ที่ใช้อยู่ พอไปสืบราคาเริ่มต้น 5.6M อืมนะ ใคนจะใช้ก็ใช้ไปเลย ผมเติมน้ำมันกับ maintenance คันเดิมต่อไปดีกว่า 5555
ลองดูครับ สงครามรถยนต์ จีน vs japan พึ่งเริ่มต้นนะ ไปยาวๆๆ จะรู้ว่าใครได้เปรียบครับ
ใช้ ช้าง,ม้า,วัว,ควาย ผสมไฟฟ้าดีไหมครับ😊
ระบบ E - power ของ Nissan คือ ระบบ EREV มั้ย..?
ถ้าถามชนชั้นล่างอย่างผม ผมว่ามันตอบโจทย์ เพราะเหตุผลที่ต้องการรถไฟฟ้า ต้องการจ่ายถูกกว่าน้ำมัน
แต่ถ้าเพื่อความประหยัดอีกระดับนึง เปลี่ยนเป็นระบบแก๊สปั่นไฟได้ไหมครับ ถ้าทำได้ ว่าฆ่ารถน้ำมันได้สบาย
พี่ยุ่นขายไทย อาเซียนโมเดล ตัดออฟชั่น ออกหลายอย่าง คนละเกรดกับยุโรปโมเดล แถมแพง เทียบกับรถจีนเป็นรุ่นที่ขายทั่วโลก ราคาถูกแถมมีครูสคอนโทรล
ไม่เวิร์คทั้งน้ำหนักมากต้องซ่อมบำรุงทั้งเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ พอมือสองราคาตกมากและขายไม่ได้เลย
สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับรถน้ำมันอ่ะครับ ต้นทุนเป็นน้ำมันแล้วเอามาปั่นไฟลงแบต แล้วก็ต้องคำนวณค่าเชื้อเพลิงกลับด้วยว่า ถ้ามีเครื่องยนต์เอาไว้ปั่นไฟลงแบต ใช้น้ำมันเท่าไรกี่ลิตรกี่บาทในการปั่นไฟลงแบตให้ได้เต็ม 100% เมื่อเทียบกับการชาร์จที่สถานีชาร์จ
ลองย้อนไปดูจุดประสงค์ของรถแบบนี้ด้วยครับ มันมีที่ชาร์จ แสดงว่าไปชาร์จตามจุดชาร์จได้ เครื่องยนต์ปั่นไฟ ใช้ฉุกเฉินเวลาหาที่ชาร์จไม่ได้ ไม่ใช่นิสสันคลิ้กครับ ที่ต้องเติมน้ำมันอย่างเดียว
มันก็คล้ายระบบของ Chevrolet Volt ที่ไม่มีขายในไทยนั่นแหละครับ ต่างกันที่รถจีนใช้มอเตอร์ขับเพียวๆ แต่ Volt จะสามารถใช้เครื่องยนต์ช่วยขับเคลื่อนได้หากจำเป็น
Volt ถ้าไฟแบตเหลือเยอะ มันจะใช้ไฟจากแบตฯ วิ่งอย่างเดียว ไม่ว่าจะที่ความเร็วต่ำหรือสูง
แต่ถ้าไฟแบตเหลือน้อย ที่ความเร็วต่ำ เครื่องยนต์จะติดมาช่วยปั่นไฟ แต่ถ้าขับความเร็วสูง ระบบถึงจะเชื่อมต่อชุดคลัตช์เอากำลังเครื่องยนต์มาช่วยขับล้ออีกที
นั่นแหละครับคือความต่าง เพราะกลุ่มรถ EREV จะไม่มีชุดคลัทช์ ไม่มีระบบเกียร์ ไม่มีเพลากลาง เพื่อลดความซับซ้อน ใกล้เคียงที่สุดตอนนี้คือ Nissan Kicks แต่ Kicks แบตเตอรี่ขนาดเล็กมาก และไม่มีระบบชาร์จไฟจากภายนอก
จีนใช้กลยุทธเทคโนและคุณภาพที่เหนือกว่าที่สำคัญราคาที่ ไม่เอาฟันกำไรสูงเท่าค่ายญี่ปุ่นและค่าย ชาติตต.ต.จึงแซงคู่แข่งลง อย่างราบคาาบในเวลาเพียง3ปีเท่านั้น
ใช้ร่วมกับน้ำมัน 1 ถัง ได้ระยะทาง 1000 กม. เปรียบเทียบรถน้ำมันใช้ 1 ถัง เหมือนกัน 65 ลิตร ประมาณ 18 กม.ต่อลิตร ได้ระยะทางถึง 1000 กม.เศษ อันไหนประหยัดกว่า ต้นทุนถูกกว่า การดูแลถูกกว่า พิจารณาละอียดแล้วจะรู้ครับ
การเติมน้ำมันเต็มถัง 65ลิตร ไม่ได้หมายถึงต้องใช้หมดถัง เพราะรถสามารถชาร์จไฟได้เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องกังวลว่า จะไปถึงจุดชาร์จไหม จุดชาร์จคิวเต็มไหม เสียไหม วิ่งต่อไม่ได้ การมีเครื่องเติมไฟให้แบตฯ จะแก้ปัญหาข้างต้นได้หมดครับ ไม่ใช่ต้องใช้น้ำมันจนหมดถังครับ หรือถ้าเป็นคนอื่นที่เขารู้ระบบ น้ำมันหนึ่งถังอาจวิ่ง 5พันกิโลก็ได้
@@stefanheebnga9142 ใช่ครับ รถระบบนี้ เขามีไว้เพื่อสำรอง ป้องกันปัญหา ในเรื่องหาที่ชาร์จไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาล ซึ่งในอนาคต ถ้าหากที่พักต่างๆ ปั้มต่างๆ มี สถานีชาร์จไฟพร้อม รถระบบนี้ก็จะเป็นที่นิยมน้อยลง
เพราะในเรื่องประสิทธิภาพ นำแรงเครื่องยนต์มาปั่นไฟแล้วไปหมุนมอเตอร์ มันลดลงเยอะ ยิ่งผ่านแบตเตอรี่ด้วย จะเหลือไม่ถึงครึ่ง เพียงแต่ ถ้าชาร์จไฟเต็มจากบ้านไปต่างจังหวัดไกลๆ แล้วใช้ระบบนี้ จะพาไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน และเมื่อถึงที่พักปลายทาง ถ้าหากมีจุดชาร์จไฟก็จะไม่ต้องเสียน้ำมันอีกครับ
ยังมีความคิดจะดมควันกันอีกเหรอครับ
ที่ว่ารถรุ่นนี้ราคาสูงกว่ารถ อีวี บอกได้ไหมว่าราคาแตกต่างกันกี่บาท ดีตรงที่วิ่งไปชาร์ทไฟไปด้วย ควรบอกราคาที่ต่างกันด้วย มาบอกข่าวให้คนกลัวว่าราคาแพงกว่า คนใช้เขาตัดสินใจได้เอง รถรุ่นนี้สุดยอกเลย น่าใช่มากที่สุดเลย
ไฮบริดเป็นเพียง แผนระยะสั้นไป ระบบไฟฟ้า หรือ EREV ผมไม่สนใจอยู่แล้ว สนใจ EREV ที่รอพัฒนาให้ใช้ได้พอควร
ไม่ทำซับฝังได้ไหมครับ ให้คนดูเลือกเปิดปิดเอง
ยังตามหลังรถของค่าย เกมส์บอร์น007อยู่นะครับ ต้องพัฒนาระบบลอยตัวในน้ำให้เท่าของ เกม์บอร์นก่อนถึงจะผ่านครับ😢😢😢
สำหรับรถออฟโรดมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ไฟฟ้ามาแทนที่น้ำมัน ถ้าต้องลุยป่าเป็นเวลานานๆมันก็สามารถแบบน้ำมันสำรองไปด้วยได้ แค่20-50ลิตรก็สบายแล้วแต่รถไฟฟ้าละจะทำไง แบกแบตสำรองแบกเครื่องปั่นไฟและแบกน้ำมันไปด้วยอย่างนั้นเหรอ สนุกตายแล้ว ผมถึงยังคิดว่ารถน้ำมันยังใช้ได้ดีกว่าครับ
BYD U8.มัน เป็น SUV OFF ROAD.ที่สุดจริงๆๆ...เห็นทดในทางดินเละๆๆขึ้นเขาทางโค้งหักศอก..เขาไปได้แบบชิลๆๆเลย...
รถเจ๊กคุณภาพไม่ค่อยดีและมีแต่รถไฟฟ้า..เราชอบรถไฮบริดญี่ปุ่น
เจ็ก ลาว แม้ว ความคิดไดโนเสาร์มาก ยังใช้คำยังกับพวกด้อยพัฒนายุเลย
ถือเป็นทางเลือกที่ดีทางนึง ตอบโจรท์เกือบทุกอย่าง ไม่แน่ว่าถ้าระบบใดระบบนึงเสีย รถยังสามารถวิ่งได้ไหม ถ้าได้ถือว่าสุดยอด กรณีเครื่องเสียมีไฟฟ้ารถยังใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้ หรือไฟฟ้าเสียก็ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน ซึ่งยังไม่มีค่ายไหนทำได้
EREV คือ Kick เพิ่มแบตชาร์จได้ ไม่ก็ Haval H6 Phev
ให้ผมเลือก ผมเลือกไฮบริดนะ ไม่ต้องรอชารจไฟ ไม่ต้องแย่งกันเวลาเทศกาล แถมเวลาชารจ ยังนานกว่าเติมน้ำมัน
เคยมองว่าทำไม Nisan Kick ไม่ทำ แค่เพิ่มแบตทำ Plug in ลดขนาดเครื่องลงให้แต่ชาร์จพอฉุกเฉิน
ใช่ๆ คิกส์ ขนาดเครื่องยนต์และขนาดตัวรถ นั้นกำลังพอดีแล้ว ,
ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มแบตขึ้น เพิ่มรูชาจเถอะครับ คงจะเพิ่มค่าตัวไม่กี่แสน฿
สรุป erev ไม่ตอบโจทย์สำหรับผม รถแพงค่าบำรุงรักษาแพง รอไฟฟ้าล้วน วิ่งใกล1200km ค่อยผ่อน555
มองว่าเครื่องยนต์ใช้เเค่ปั่นไฟฟ้าเพื่อชาติเเบตเตอรีขนาด2000cc +เทอร์โบ มันใหญเเละสิ้นเปลืองไปใหมถ้าแค่ปั่นไฟอย่างเดียวผมว่าควรใช้เครื่องไม่เกิน1000cc หรือถ้ามีเทอร์โบด้วยน่าจะใช้เครื่องยนต์ต่ำกว่า1000ccน่าจะเหมามากกว่าประหยัดเชื้อเพลงมากกว่าในขนาดความจุถังเท่าเดิมอาจวิ่งได้ใกลกว่า2เท่าค่าบิรุงรักษาเครื่องยนต์ถูกลงด้วยความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ขอให้มีคู่แข่งเยอะๆนะครับ ราคาจะได้ลดลงหน่อย😆
ประเทศไทย..จะสร้างรถที่ไม่ใช้น้ำมัน.ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า แต่ไทยจะใช้น้ำเปล่าสะอาดๆเติมแทนน้ำมัน..เชื่อมะ
ระบบนี้ Nissan รถญี่ปุ่นก็ทำอยู่แล้วมิใช่หรือ kick ราคาประมาณ 8 แสนบาท
EREV มันคือ Serie Hybrid ( แบบ epower ) ที่มีแบตใหญ่ + ชาจได้แบบ PHEV
"ถึงจุดจบของรถยนต์ Hybrid" เพราะ EREV (ซึ่งก็คือ Serie Hybrid) คงไม่ใช่ และมันย้อนแย้งมาก
ในมุมมองของผมในด้าน maintenance มันก็ hybrid ดีๆ นี่ล่ะนะ แค่เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนผสมเป็นไฟฟ้าล้วน แต่การบำรุงรักษายังต้องดูแลทั้งเครื่องยนต์และระบบ motor อยู่ดี .... ถ้าราคามันเท่าๆ hybrid อันนี้อะน่าสน แต่ถ้าแพงกว่าก็คิดดูก่อน
U8ลุยน้ำได้ …. แค่นี้ก็ทำให้ขายดีแล้ว 😊
เครื่องยนต์กับเครื่องปั่นไฟ การออกแบบก็ต่างกันแล้วครับ ค่าบำรุงรักษาไม่แพง เพราะไม่ต้องเค้นแรงบิด
มันไม่มีเครื่องยนลูกพี่ มีแต่เจนเนอเรเตอกับมอเตอขับ😂 เอาไรมาแมนเทนแน้น
@@รถบ้านมือ2สภาพดี เครื่องยนต์ปั่นไฟไง
ไม่มีทางเป็นไปได้รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อหน้าหนาวแบตไม่ค่อยทำงานน รถยนต์ไฟฟ้าไม่น่าขับเพราะระเบิดตอนไหนก็ไม่รู้ เรียกว่าเอาชีวิตไปแขวนไว้ในเส้นด้าย ซ่อมก็แทบไม่มีสถานี ไฟดับก็ชาร์ตไม่ได้ เห็นตัวอย่างมาแล้ว
ERVE เหมือนอีพาวเวอร์ของนิสสันไหม ต่างตรงที่ขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเท่านั้น
นิสสันจะใช้เครื่องยนต์ของรถยนต์ แต่ REEV จะเป็นเครื่องปั่นไฟ (ไม่ต้องแคร์แรงบิด) และสามารถชาร์จได้ พอกลับบ้านเราก็ชาร์จ แต่นิสสันต้องสตาร์ทเครื่องถึงจะชาร์จแบต
@@nickyuttased7910 เพิ่มช่องเสียบชาร์จและขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น หลักการทำงานหลักก็เช่นเดียวอี-พาวเวอร์ที่ต่อยอด ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง
มันก็คือระบบ Serial Hybrid ดีๆนี้เอง อย่างใน E-Power ของนิสสัน ไม่รู้จะไปตั้งชื่อใหม่ทำไหม
มันก็เป็นความเหมือนที่แตกต่างครับ เหมือนคือใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟชาร์จแบต แต่ความต่างคือ Nissan ใช้น้ำมันเป็นหลัก เครื่องยนต์ทำงานตลอดเวลา และไม่มีระบบชาร์จไฟจากภายนอก (ต้องเติมน้ำมันเท่านั้น รถถึงวิ่งได้) ส่วน EREV คือการใช้แบตเตอรี่เป็นหลัก หลังจากที่แบตหมด จึงเริ่มใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟ หรือหากไม่อยากใช้น้ำมัน ก็สามารถแวะชาร์จไฟได้ครับ
Nissan ทำก่อนเพื่อน แต่พัฒนาช้า ไม่เอาจริงจังราคาแพงเกินจริงเลยเกิดยาก พอจีนทำก็ใส่แบตมาให้มากกว่าและราคาถูกกว่า ทำให้ค่ายจีนตีตลาดได้กว้างกว่า
เทคโนโลยีนี้จะได้รับ ความนิยม เพราะ จะเป็นรถ ev แต่เครื่องยนต์น้ำมัน มาปั่นไฟเข้าแบต ทำให้วิ่งได้ไกลโดยไม่ต้องแวะชาจ์ แล้วมันดีกว่า hybrid ยังไง ก็เพราะ ถ้า รถแบตไม่หมด เช่น วิ่งไกล 500กม เราสามารถแวะชาร์จแบบรถev ได้ปกติเลย แปลว่าน้ำมันมันจะยังไม่ได้ใช้ มันจึงจะประหยัดหว่า และหมดปัญหาเรื่อง ระยะทาง เหมือนเรามีรถ ev แต่มีเครื่องปั่นไฟติดไว้ที่รถครับ สะดวก ประหยัดด้วย น้ำมันไม่ได้เติมตลอดเวลา เอาไว้ใช้แค่ตอนจำเป็นเท่านั้น
ตามที่แอ็ดทินบอกละครับ ทั้งข้อดีข้อเสีย
แบตโคตรแพงจะไหวรึอาชีพสถานะพี่น้องไทยยกเว้นคนรวยไทยก้ไม่ใช่เยอะคิดดีก่อนจะซื้อผมคนนึงละงบน้อยรอไฟฟ้ายุ่นเจ้าตลาดจร้ากว่าจะมาข้อเสียบกพร่องหายไปหมดละไม่อยากเปนหนูลองยารถอีวีอาเจ้กตอนนี้
แนวคิดนี้ที่เอาน้ำมันมาปั่นเครื่อง เพื่อชาร์จไฟเก็บเข้าแบต ก็เป็นแนวคิดที่ญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนั่นแหละ
ก็คือ Nissan kick เพิ่มแบตใช่ไหม?
น่าจะเอาแผงโซล่าเซลล์ มาผสมผสานให้เป็นตัวถังรถยนต์ สามารถชาร์จพลังงานไปในตัว เหมาะกับเมืองร้อนแบบประเทศไทย
อีกไม่นานค่าไฟจะทะลุ5บาทและแพงไปเรื่อยๆ สำหรับค่าน้ำมันที่เค้าขายกันวิ่งอยู่ลิตรละประมาณ20บาท ถ้าไทยทำลายโครงสร้างราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรมต่อคนซื้อได้ไกลกับราคาที่ควรจะเป็น รถไฮบริดจะยังเป็นทางเลือกแรกๆไปอีกนาน
อยากจะบอก รถค่ายญี่ปุ่นในไทยว่า รถไฟฟ้ามาช้าก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อมาแล้วต้องมาอย่างคุณภาพ แบตวิ่งได้ไกลๆ เข้าหลักพันโลยิ่งดี ซึ่งถ้าเมื่อถึงเวลานั้น รถจีนคงเหนื่อย เพราะค่ายญี่ปุ่นมีศูนย์บริการอยู่ทุกอำเภอของประเทศไทย ได้เปรียบในเรื่องนี้แน่นอน
😅ทำแบบนี้กินเต้มคำ แบตหมดเติมน้ำมันชาร์จไฟ ไฟเติมเปลี่ยนไช้ไฟฟ้าโห้ แม่จ้าว
ก็ลองนึกถึงมือถือจีนกับiPhoneของฝรั่ง อย่างไหนคุณภาพดีกว่ากัน…ของถูกคุณภาพดี มีด้วยหรือ
ประหยัดเงินเป็นหลักแต่ไม่ให้ความสำคัญเรื่องพลังงานสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่น่าสนใจเลยสำหรับส่วนตัว รถไฟฟ้าต้องไม่พึ่งพาแบตเตอรี่ ไฟฟ้าเต็มร้อยพลังงานสะอาดแท้จริง ไม่แบตเตอรี่ไม่น้ำมัน ต้นทุนจะหายไปกว่าครึ่ง ซุ่มเงียบพัฒนาจนสำเร็จ แต่ที่สุดของความแย่คือเราจะรอดแต่เพียงผู้เดียว ขัดผลประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาดและธุรกิจที่สั่งสมความมั่งคั่งตลอดชีวิต เดินสายกลางพึ่งพาตนเองคือดีที่สุด
สู้กันต่อไป
รอ Mazda หลักการเดียวกัน แต่ใช้ เครื่อง โรตารี่...ปั่นไฟ😊
ตัวก่อมลพิษสูงเลยแหละ เครื่องโรตารี่
มีเรื่องรถยนต์เราค่อยเป็นค่อยไปเราลงทุนตอนนี้รถมือสอง EV ราคาตกเพราะเทคโนโลยีมาไวเกินไปเราจะสูญเสียหุ้นส่วนด้านการลงทุนซึ่งคบค้ากันมายาวนานถึง 70 ปีจากบริษัทผลิตรถในญี่ปุ่นเขาอาจถอดใจเนื่องจากยอดขายตกต่ำคนตกงานมากมาย
เรียกว่า REEV ได้ไหม EREV ออกเสียงยากเกิ๊น แต่สุดท้ายก็ต้องดูว่าอัตราการเผาผลาญใน segment เดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน ออพชั่นเท่ากัน อัตราเผาผลาญอยู่ที่เท่าไร เพราะ REEV มันเอาเครื่องยนต์ไปปั่นไฟแค่นั้น
มีทั้งที่เรียกแบบ EREV (Extended Range electric vehicle) และ REEV (Range Extended electric vehicle) ครับ ความหมายเดียวกัน แล้วแต่บางค่ายจะใช้คำไหนครับ
@@CarRaver แค่อยากให้สื่อ ใช้ REEV แค่นั้นแหละครับ EREV มันไม่พูดยากไปหน่อยเหรอ 5555 แต่แล้วแต่แหละครับ
ก็ไม่ได้ต่างจากรถน้ำมันเท่าไหร่ ยังคงใช้น้ำมันอยู่ แต่ข้อดีคือเครื่องยนต์ อย่าเรียกว่าเครื่องยนต์เลย เรียกเครื่องปั่นไฟดีกว่า ตัวเครื่องปั่นไฟสามารถพัฒนาในทิศทางเดียวได้คือประหยัดน้ำมันในขณะที่ปั่นไฟได้กำลังสูง ซึ่งต่างกับรถน้ำมันที่เครื่องยนต์ต้องประหยัดและแรงด้วย ทำให้พัฒนาได้ยากกว่า
จริงๆ แนวคิดนี้ก็ดี อยู่ที่การปรับจูนระบบปั่นไฟให้ทันชาร์จได้ก็พอ เพราะเคยได้ยินว่ารถไฟฟ้าที่ขึ้นเขานานๆ แบตจะถูกสูบไปเยอะ ในกรณีรถแบบนี้แบตก็ไม่ได้มากมายดังนั้นต้องชาร์จเติมได้ไวทันใช้ก็จะไม่มีปัญหา แต่สำหรับผมสายจอด รถน้ำมันยังตอบโจทย์ เพราะถ้ามารถไฟฟ้าแล้วจอดอย่างเดียว แบตคงพังก่อนแน่ ไม่คุ้มเลย เหมือนบังคับให้เราต้องใช้รถบ่อยๆ
ระยะเวลาที่ดูคลิปนี้จบ บริษัทรถEVในจีนแจ้งไปอีก2บริษัท
ส่วนที่ยังอยู่ก็พยายามเอามาขายให้คนไทย
ใช้กับ แบตเตอรี่เกลือ รอบการใช้งานน่าจะนานขึ้น
รถไฟฟ้าแบรนจีนออกแบบสวยมากๆ
จ้าง ดีไซน์เนอร์ ยุโรป กลุ่มออกแบบรถหรูๆทั้งหลาย
แทบจะก็อปทรงค่ายอื่นมาหมดไม่มีจุดยืนเลย ซีลนี่ไปดูสิกี่แบรนดังผสมอยู่ในนั้น
@@weareonenopporn6841เขาจ้างนักออกไปรถยุโรปไปสอน โง่เสิอกเม้นต
@@weareonenopporn6841เรียกว่าเอาทรงแต่ละยี่ห้อมายำ หรือเปล่านะ😂😂😂
@@TheLungNuad และชอบก๊อปรถแพงๆด้วยนะ555 หนึ่งในนั้น ที่จะถูกก๊ปปต้องมีปอเช่
ส่วนตัว ยังเชื่อในสินค้าพี่ยุ่น👍👍👍👍👍👍👍
รถลอยน้ำได้สุดยอดมาก
เมื่อไหร่รถ พวก Toyota Nissan รถญี่ปุ่น จะเอาแนวคิดนี้ไปทำบ้าง
มองว่ามันเป็นระบบง่ายๆเองโรงงานไฟฟ้าในรถไม่มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ไฮบริดเทคโนโลยีสูงกว่าครับ
❤❤❤❤❤เคยแสดงความคิดเห็นมาก่อนแล้วว่าทุกอย่างที่เคลื่อนไหวสามารถให้กำเนิดไฟฟ้าได้เราก็ไม่ต้องใช้แรงดันน้ำ กังหันลมผลิตไฟฟ้าอย่างเดียว เมื่อมีการใช้ในรถยนต์EREVจะดีถ้าปราศจากการใช้นำ้มันมาปั่นแต่เป็นล้อรถแทน แต่ตอนนี้ดีมากเป็นการประหยัดพลังงานน้ำมันลงไปสู่การพัฒนาที่สูงขึ้นในอนาคตครับ😊😊😊😊😊😊😊😊😊
ดี มาก ER EV ผม ซื้อ