Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
Power Creep กับ Learning Curve ของ RO มันสอดคล้องกันครับ ผมใช้เวลากับเกมนี้มานานแล้วเลยไม่มีปัญหากับการที่เจ้าของเกมมันจะยัดอะไรเข้ามาใหม่ คอนเท้นมันจะยากแค่ไหนมันก็มีวิธีเอาชนะครับ ผมพูดจากประสบการณ์ที่ผมเล่นมาไม่ว่าจะคอนเท้นไหนก็ตาม และ ถ้ามีคนมาจุดประเด็นการ pay to win ของเกมนี้ใต้คอมเม้นผมอีก ผมจะไม่มานั่งเถียงให้เสียเวลาพิมพ์ตอบกลับแล้ว เสียเวลาพิมพ์มาก หลักการที่ใช้ตัดสินร่วมกันไม่มี มีแต่จะเถียงเอาชนะกัน ควรจะยอมรับกันได้แล้วว่าไอ้ RO เนี่ยมันเป็นเกม pay to win ถ้ายอมรับได้แล้วจะเล่นต่อ หรือ จะเลิกเล่นก็แล้วแต่ผู้เล่นจะตัดสินใจ
เคยเจอกับทั้งเกมที่มีและไม่มี Power Creep มันมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันพอสมควร แต่อีกสิ่งนึงก็คือช่วงเวลาในการ Grinding ของเกมนั้น ๆ ด้วย ที่จะมีผลกระทบกับตัวเกมที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดผมจะขอแยกเป็นเกมที่เล่นตามแพทช์ และเกมที่เล่นตามการ Grinding นะครับเกมเล่นตามแพทช์ข้อดี ผู้เล่นใหม่ตามมาทันได้ง่ายขึ้น (ตย. ในเกมอื่น ๆ เช่น Dragon Nest, Vindictus, BnS, PoE, etc. ที่เล่นกันตามแพทช์) ด้วยความที่ไอเทมใช้กันตามแพทช์ คนที่มาทีหลังจะได้ใช้ของตกแพทช์ที่ราคาถูกลง และการขยาย Power creep ทำให้เกมพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ (RO Renewal)ข้อเสีย Pay to win กันไม่จบสิ้น ทำให้คนที่เล่นอยู่หลังหัก Power Creep ถ้าสูงเกินไปจนคนไม่มีปัญญาเอื้อมถึง (ในตอนนั้น) ก็ต้องรอแพทช์ใหม่กันต่อไปผมว่าจากข้อดีข้อเสียจะเหมาะกับสาย Casual มากกว่านะครับ แต่ติดอย่างเดียวที่ Power Creep ของ RO นั้นสูงเกินไปมาก ๆ เกินระดับ Casual เกินไป จนมีแต่ระดับเงินถุงเงินถังที่ไปกันไหว ถ้า Power creep สูงเกินไป คนที่เข้าถึงจะน้อยลง เกมก็จะน่าเบื่อที่มีคนไปถึงได้น้อย แต่ถ้า Power Creep ต่ำเกินไป เกมจะง่ายเกินไปจนทำให้คนเบื่อกันเร็วเกินไปอีก (สรุปมันแย่ทั้งคู่ไหมนะ 55555)เกมเล่นตามการ Grindingส่วนเกมที่ Learning Curve น้อยมากจนแทบจะเหมือนไม่มี และมี Power Creep เดียวไม่ว่าแพทช์จะขยายไปไกลแค่ไหนผู้เล่นก็ยังใช้ของแบบเดิมในการเล่นได้ ซึ่งจะเน้นไปที่การ Grinding เป็นหลัก (จากประสบการณ์ตรงก็ Cabal Online ไม่มีไอเทมตามแพทช์เลย มีแต่อัพเกรดไอเทมรูปแบบเดียวใช้เหมือนกันทุกอาชีพ และต้องเพิ่มระดับไปเรื่อยจนไปถึงจุดสูงสุดของแพทช์นั้น ๆ เมื่อฟาร์มจนใช้ของพวกนั้นได้ก็ไม่ต้องทำของใหม่เลย จนกว่าจะมีแพทช์ใหม่ที่เพิ่มระดับไอเทมขึ้นไปอีกสัก 2 - 3 แพทช์ใหญ่ ๆแต่ของใหม่ก็แค่ดีกว่าของเก่าแค่ 20-30% เท่านั้นราคาไอเทมแทบจะนิ่งมาก ไม่มีแพงขึ้นหรือถูกลงจนเกินไป ซึ่งนั้นเป็นข้อดีไม่กี่อย่างของเกมแนวนี้ ลงทุนครั้งเดียวเล่นได้ยาว ๆ จนเลิกเล่นขายของทิ้งก็ยังมีราคาสูง) ส่วนข้อเสีย จาก Learning Curve ที่ต่ำเตี้ยมาก เรียนรู้แปปเดียวก็สามารถเล่นทุกคอนเทนต์ได้ แต่การที่ผู้เล่นจะไปเล่นคอนเทนต์ระดับสูง ๆ ก็ต้องมีทุนที่สูงพอหรือต้องไปเจอกับการ Grinding ที่เข้มข้นระดับที่ว่าต้องลงดันกันเป็นแสนรอบกว่าจะปลดล็อค Achivement เพื่อเพิ่ม Stat ของตัวละครหรือมีเงินพอมาอัพของ เป็นการอัดทุกสิ่งทุกอย่างใส่ตัวละครตัวเดียวให้เทพที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว ซึ่งไม่ค่อยจะเหมาะกับผู้เล่นใหม่ๆสักเท่าไหร่เพราะการช่วยผู้เล่นใหม่ค่อนข้างน้อย การ Grinding ที่เข้มข้นไม่เหมาะกับสาย Casual เพราะกว่าจะไปคอนเทนต์ระดับสูงก็ต้องเสียเวลาเสียเงินไปมากโขอยู่ถึงจะไปถึงจุดนั้นได้เล่ามาซะยาวถ้าเทียบประสบการณ์ของทั้ง 2 เกมที่ผมเล่น RO (Power creep ขยายเรื่อย ๆ Grinding ตามแพทช์) และ Cabal (ไม่มี Power Creep เน้นไปที่การ Grinding อย่างเดียว) ผมชอบที่ RO เป็นแนวนี้มากกว่าเพราะแพทช์ที่ขยายเพิ่มขึ้นก็จะช่วยผู้เล่นใหม่ ๆ ให้เล่นได้ง่ายขึ้น แต่ติดอย่างเดียวของเซิฟไทย แม่ง Power Creep สูงลิ่วจนคนเข้าถึงได้ไม่กี่กลุ่ม แต่ยังดีที่การมาถึงของแพทช์ใหม่ ๆ ก็ช่วยซัพพอร์ตผู้เล่นใหม่ ๆ ได้ดีกว่าการที่ต้องมาเริ่ม Grinding ตั้งแต่ 0 ครับ
คำว่า Power Creep ล่าสุดผมเจอในเกมออนไลน์ชื่อว่า TS Online เซิฟไต้หวัน (PC) ก็ขุนพลจากที่มีสี่ธาตุดั้งเดิม มีสองธาตุเพิ่มอีกเป็นหกธาตุขุนพลจากสามก็กเท่าที่เจอใน TS Online สองธาตุใหม่ก็มีกวนอูธาตุมืดกับลิโป้ธาตุแสงและPower Creep อีกอย่างใน TS Online คือพวกมอนเตอร์ธาตุใหม่ที่ดูโหดมากโดยเฉพาะค่าHPค่าโจมตีและค่าSP(มานา)นั่นเองครับ
+1
กำลังแปลเกมอยู่พอดี ขอบคุณที่อธิบายครับ ผมก็เล่นเกมมาเยอะ เล่นแบบสุดชีวิต ก็ Warframe ทั้งหลายทั้งมวลนี้คือระบบการตลาดจิตวิทยาที่วางแผนมาอย่างดีครับ "ทำยังไงให้ได้กำไรสูงสุดต่อบริษัท" "ทำยังไงให้พวกคนเล่นมันเอาเงินมาให้เรา" ทำให้เกิดการแข่งขันของผู้เล่น มีการแบ่งชนชั้น อย่าง RO นี่คือเท้าแสง แบ่งชนชั้นกันเห็นๆ ให้รู้สึก ทะเยอทะยาน ด้อยกว่า สูงส่งกว่าผมก็จ่ายไปเยอะกับ Warframe รวมๆ ประมาณ 20,000 ได้มั้ง เล่นติดงอมแงมมาก แต่เป็นการจ่ายในระยะ 3 ปี ไม่ได้ตูมเดียว และเป็นเงินที่หามาเอง และตอนนี้ก็ไม่ได้เอาเงินไปให้มันละ เพราะเทพละ พอเราตั้งสติได้ ว่าเราเล่นเกม หรือเกมเล่นเรา มันก็เท่านั้นจริงๆ ครับ ชีวิตPower creep/ Pay to win ผมว่ามันทับซ้อนกันอยู่ ผมก็อธิบายไม่ถูก มันควรจะเป็น Pay to reach the power มันอาจจะไม่ Win แต่เราได้ครอบครองพลังล่าสุดของเกมนั้น ซึ่งผมทำบ่อยใน Warframe ในช่วงที่ติดเกมนั้นเว้นแต่ว่า ใครเงินถุงเงินถังรายได้เดือนละ 5-6 แสน ก็ความสุขเขาครับ เราก็เล่นของเราไป เว้นแต่อยากเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นในเกม ก็แล้วแต่เหมือนกัน
เกมกาชาศูนรวม power creep เยอะมหาศาล
จริงครับผมนี้ผู้เล่นตกแพต งงไปหมด ของแคชก็แสนแพง ของที่ได้จากเควสก็ใช้เวลานาน แถมไปไม่ไหวอีกของไม่ถึง เลยไม่ได้เล่นต่อ
มันมีเรื่องของมูลค่าและความสมดุลเกมที่เปลี่ยนไปด้วย เช่นเกมที่มีการเอาของโลกอนาคตที่โอเวอร์มาขายแล้วกั๊กแพทไว้ บางคนก็ไม่รู้ก็เสียตังไปแต่เมื่อเวลาผ่านไปของเทพก็กลายเป็นแค่ของเควสธรรมดาเขาก็เสียความรู้สึก ส่วนพวกที่รู้ทันก็ไม่เล่นต่อแล้วรอให้มันอัพเดทแพทใกล้เคียงต่างประเทศก่อน ผู้เล่นก็หายไปอีก มันคือความไม่ซื่อตรงของผู้ให้บริการ
ขอบคุณที่ย่อยเรื่องยากให้เข้าใจง่ายครับ***ขอเล่าอะไรหน่อยนะครับ คือบางคนมาเล่นใหม่ ไม่ว่าจะเกมอะไรก็ตาม มักชอบถามว่า "เล่นทันมั้ยครับพี่?" ยิ่งเกมเปิดนานยิ่งมี Learning Curve ที่สูงมาก มันอาจจะลำบากคนมาใหม่ต้องเรียนรู้เกมเยอะกว่าปกติ แต่ถ้าคุณอยากเล่นเกมนั้นอยู่แล้ว ก็เล่นไปเถอะครับไม่ต้องกลัว ความสนุกจะทำให้คุณเรียนรู้เกมแบบไม่รู้ตัวไปเอง อย่าให้คำว่า "เล่นทันมั้ยครับพี่?" มาเป็นกรงขังตัวเองเลย
ใส่กบแดง 2 ใบ 555 ปัญหา Power Creep ไม่ใช่แค่เยอะจนเรียนรู้มากเกินไป แต่ยังทำให้เยอะจนจำไม่ได้แม้จะเป็นแฟนเกมส์มานาน 555
🤣🤣🤣🤣มานั่งนึกอีกที ไฮดร้า 2 เหมือง 2 นี่หว่ากบแดงเฉย
Power Creep กับ Learning Curve ของ RO มันสอดคล้องกันครับ ผมใช้เวลากับเกมนี้มานานแล้วเลยไม่มีปัญหากับการที่เจ้าของเกมมันจะยัดอะไรเข้ามาใหม่ คอนเท้นมันจะยากแค่ไหนมันก็มีวิธีเอาชนะครับ ผมพูดจากประสบการณ์ที่ผมเล่นมาไม่ว่าจะคอนเท้นไหนก็ตาม และ ถ้ามีคนมาจุดประเด็นการ pay to win ของเกมนี้ใต้คอมเม้นผมอีก ผมจะไม่มานั่งเถียงให้เสียเวลาพิมพ์ตอบกลับแล้ว เสียเวลาพิมพ์มาก หลักการที่ใช้ตัดสินร่วมกันไม่มี มีแต่จะเถียงเอาชนะกัน ควรจะยอมรับกันได้แล้วว่าไอ้ RO เนี่ยมันเป็นเกม pay to win ถ้ายอมรับได้แล้วจะเล่นต่อ หรือ จะเลิกเล่นก็แล้วแต่ผู้เล่นจะตัดสินใจ
เคยเจอกับทั้งเกมที่มีและไม่มี Power Creep มันมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันพอสมควร แต่อีกสิ่งนึงก็คือช่วงเวลาในการ Grinding ของเกมนั้น ๆ ด้วย ที่จะมีผลกระทบกับตัวเกมที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดผมจะขอแยกเป็นเกมที่เล่นตามแพทช์ และเกมที่เล่นตามการ Grinding นะครับ
เกมเล่นตามแพทช์
ข้อดี ผู้เล่นใหม่ตามมาทันได้ง่ายขึ้น (ตย. ในเกมอื่น ๆ เช่น Dragon Nest, Vindictus, BnS, PoE, etc. ที่เล่นกันตามแพทช์) ด้วยความที่ไอเทมใช้กันตามแพทช์ คนที่มาทีหลังจะได้ใช้ของตกแพทช์ที่ราคาถูกลง และการขยาย Power creep ทำให้เกมพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ (RO Renewal)
ข้อเสีย Pay to win กันไม่จบสิ้น ทำให้คนที่เล่นอยู่หลังหัก Power Creep ถ้าสูงเกินไปจนคนไม่มีปัญญาเอื้อมถึง (ในตอนนั้น) ก็ต้องรอแพทช์ใหม่กันต่อไป
ผมว่าจากข้อดีข้อเสียจะเหมาะกับสาย Casual มากกว่านะครับ แต่ติดอย่างเดียวที่ Power Creep ของ RO นั้นสูงเกินไปมาก ๆ เกินระดับ Casual เกินไป จนมีแต่ระดับเงินถุงเงินถังที่ไปกันไหว ถ้า Power creep สูงเกินไป คนที่เข้าถึงจะน้อยลง เกมก็จะน่าเบื่อที่มีคนไปถึงได้น้อย แต่ถ้า Power Creep ต่ำเกินไป เกมจะง่ายเกินไปจนทำให้คนเบื่อกันเร็วเกินไปอีก (สรุปมันแย่ทั้งคู่ไหมนะ 55555)
เกมเล่นตามการ Grinding
ส่วนเกมที่ Learning Curve น้อยมากจนแทบจะเหมือนไม่มี และมี Power Creep เดียวไม่ว่าแพทช์จะขยายไปไกลแค่ไหนผู้เล่นก็ยังใช้ของแบบเดิมในการเล่นได้ ซึ่งจะเน้นไปที่การ Grinding เป็นหลัก (จากประสบการณ์ตรงก็ Cabal Online ไม่มีไอเทมตามแพทช์เลย มีแต่อัพเกรดไอเทมรูปแบบเดียวใช้เหมือนกันทุกอาชีพ และต้องเพิ่มระดับไปเรื่อยจนไปถึงจุดสูงสุดของแพทช์นั้น ๆ เมื่อฟาร์มจนใช้ของพวกนั้นได้ก็ไม่ต้องทำของใหม่เลย จนกว่าจะมีแพทช์ใหม่ที่เพิ่มระดับไอเทมขึ้นไปอีกสัก 2 - 3 แพทช์ใหญ่ ๆแต่ของใหม่ก็แค่ดีกว่าของเก่าแค่ 20-30% เท่านั้นราคาไอเทมแทบจะนิ่งมาก ไม่มีแพงขึ้นหรือถูกลงจนเกินไป ซึ่งนั้นเป็นข้อดีไม่กี่อย่างของเกมแนวนี้ ลงทุนครั้งเดียวเล่นได้ยาว ๆ จนเลิกเล่นขายของทิ้งก็ยังมีราคาสูง)
ส่วนข้อเสีย จาก Learning Curve ที่ต่ำเตี้ยมาก เรียนรู้แปปเดียวก็สามารถเล่นทุกคอนเทนต์ได้ แต่การที่ผู้เล่นจะไปเล่นคอนเทนต์ระดับสูง ๆ ก็ต้องมีทุนที่สูงพอหรือต้องไปเจอกับการ Grinding ที่เข้มข้นระดับที่ว่าต้องลงดันกันเป็นแสนรอบกว่าจะปลดล็อค Achivement เพื่อเพิ่ม Stat ของตัวละครหรือมีเงินพอมาอัพของ เป็นการอัดทุกสิ่งทุกอย่างใส่ตัวละครตัวเดียวให้เทพที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว ซึ่งไม่ค่อยจะเหมาะกับผู้เล่นใหม่ๆสักเท่าไหร่เพราะการช่วยผู้เล่นใหม่ค่อนข้างน้อย การ Grinding ที่เข้มข้นไม่เหมาะกับสาย Casual เพราะกว่าจะไปคอนเทนต์ระดับสูงก็ต้องเสียเวลาเสียเงินไปมากโขอยู่ถึงจะไปถึงจุดนั้นได้
เล่ามาซะยาวถ้าเทียบประสบการณ์ของทั้ง 2 เกมที่ผมเล่น RO (Power creep ขยายเรื่อย ๆ Grinding ตามแพทช์) และ Cabal (ไม่มี Power Creep เน้นไปที่การ Grinding อย่างเดียว) ผมชอบที่ RO เป็นแนวนี้มากกว่าเพราะแพทช์ที่ขยายเพิ่มขึ้นก็จะช่วยผู้เล่นใหม่ ๆ ให้เล่นได้ง่ายขึ้น แต่ติดอย่างเดียวของเซิฟไทย แม่ง Power Creep สูงลิ่วจนคนเข้าถึงได้ไม่กี่กลุ่ม แต่ยังดีที่การมาถึงของแพทช์ใหม่ ๆ ก็ช่วยซัพพอร์ตผู้เล่นใหม่ ๆ ได้ดีกว่าการที่ต้องมาเริ่ม Grinding ตั้งแต่ 0 ครับ
คำว่า Power Creep ล่าสุดผมเจอในเกมออนไลน์ชื่อว่า TS Online เซิฟไต้หวัน (PC) ก็ขุนพลจากที่มีสี่ธาตุดั้งเดิม มีสองธาตุเพิ่มอีกเป็นหกธาตุขุนพลจากสามก็กเท่าที่เจอใน TS Online สองธาตุใหม่ก็มีกวนอูธาตุมืดกับลิโป้ธาตุแสงและPower Creep อีกอย่างใน TS Online คือพวกมอนเตอร์ธาตุใหม่ที่ดูโหดมากโดยเฉพาะค่าHPค่าโจมตีและค่าSP(มานา)นั่นเองครับ
+1
กำลังแปลเกมอยู่พอดี ขอบคุณที่อธิบายครับ ผมก็เล่นเกมมาเยอะ เล่นแบบสุดชีวิต ก็ Warframe
ทั้งหลายทั้งมวลนี้คือระบบการตลาดจิตวิทยาที่วางแผนมาอย่างดีครับ "ทำยังไงให้ได้กำไรสูงสุดต่อบริษัท" "ทำยังไงให้พวกคนเล่นมันเอาเงินมาให้เรา"
ทำให้เกิดการแข่งขันของผู้เล่น มีการแบ่งชนชั้น อย่าง RO นี่คือเท้าแสง แบ่งชนชั้นกันเห็นๆ ให้รู้สึก ทะเยอทะยาน ด้อยกว่า สูงส่งกว่า
ผมก็จ่ายไปเยอะกับ Warframe รวมๆ ประมาณ 20,000 ได้มั้ง เล่นติดงอมแงมมาก แต่เป็นการจ่ายในระยะ 3 ปี ไม่ได้ตูมเดียว และเป็นเงินที่หามาเอง และตอนนี้ก็ไม่ได้เอาเงินไปให้มันละ เพราะเทพละ
พอเราตั้งสติได้ ว่าเราเล่นเกม หรือเกมเล่นเรา มันก็เท่านั้นจริงๆ ครับ ชีวิต
Power creep/ Pay to win ผมว่ามันทับซ้อนกันอยู่ ผมก็อธิบายไม่ถูก มันควรจะเป็น Pay to reach the power มันอาจจะไม่ Win แต่เราได้ครอบครองพลังล่าสุดของเกมนั้น ซึ่งผมทำบ่อยใน Warframe ในช่วงที่ติดเกมนั้น
เว้นแต่ว่า ใครเงินถุงเงินถังรายได้เดือนละ 5-6 แสน ก็ความสุขเขาครับ เราก็เล่นของเราไป เว้นแต่อยากเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นในเกม ก็แล้วแต่เหมือนกัน
เกมกาชาศูนรวม power creep เยอะมหาศาล
จริงครับผมนี้ผู้เล่นตกแพต งงไปหมด ของแคชก็แสนแพง ของที่ได้จากเควสก็ใช้เวลานาน แถมไปไม่ไหวอีกของไม่ถึง เลยไม่ได้เล่นต่อ
มันมีเรื่องของมูลค่าและความสมดุลเกมที่เปลี่ยนไปด้วย เช่นเกมที่มีการเอาของโลกอนาคตที่โอเวอร์มาขายแล้วกั๊กแพทไว้ บางคนก็ไม่รู้ก็เสียตังไปแต่เมื่อเวลาผ่านไปของเทพก็กลายเป็นแค่ของเควสธรรมดาเขาก็เสียความรู้สึก ส่วนพวกที่รู้ทันก็ไม่เล่นต่อแล้วรอให้มันอัพเดทแพทใกล้เคียงต่างประเทศก่อน ผู้เล่นก็หายไปอีก มันคือความไม่ซื่อตรงของผู้ให้บริการ
ขอบคุณที่ย่อยเรื่องยากให้เข้าใจง่ายครับ
***ขอเล่าอะไรหน่อยนะครับ คือบางคนมาเล่นใหม่ ไม่ว่าจะเกมอะไรก็ตาม มักชอบถามว่า "เล่นทันมั้ยครับพี่?" ยิ่งเกมเปิดนานยิ่งมี Learning Curve ที่สูงมาก มันอาจจะลำบากคนมาใหม่ต้องเรียนรู้เกมเยอะกว่าปกติ แต่ถ้าคุณอยากเล่นเกมนั้นอยู่แล้ว ก็เล่นไปเถอะครับไม่ต้องกลัว ความสนุกจะทำให้คุณเรียนรู้เกมแบบไม่รู้ตัวไปเอง อย่าให้คำว่า "เล่นทันมั้ยครับพี่?" มาเป็นกรงขังตัวเองเลย
ใส่กบแดง 2 ใบ 555 ปัญหา Power Creep ไม่ใช่แค่เยอะจนเรียนรู้มากเกินไป แต่ยังทำให้เยอะจนจำไม่ได้แม้จะเป็นแฟนเกมส์มานาน 555
🤣🤣🤣🤣
มานั่งนึกอีกที ไฮดร้า 2 เหมือง 2 นี่หว่า
กบแดงเฉย