แม่โนบิตะเป็นแม่ที่ Toxic มาก
HTML-код
- Опубликовано: 8 сен 2024
- เอาใจช่วยคุณแม่ทุกท่านครับ (ง่อวว โคตรหล่อเลยคนพิมพ์)
Reference:
woman.excite.c...
xn--r8j5f0bvmz...
********************************************************
Credit BGM:
Music by MusMus musmus.main.jp/
BGM from DOVA-SYNDROME : dova-s.jp/
********************************************************
FB : / cloudspherecaster
Twitter : / cloudspherech
********************************************************
แม่เรานะ ตอนเราเด็ก นางขี้โมโหมาก ชอบทำลายข้าวของ แล้วเราดันลอกเลียนแบบ พอเราพยายามบอกแม่ นางหาว่าเราอกตัญญู แถมเวลาโกรธ ก็ชอบเอาความรุนแรงมาลงที่เรา ซึ่งจะมีสัญญาณเป็นการถอนหายใจ ตอนนี้เราเลยเป็นคนที่หวาดกลัวคนถอนหายใจ ส่วนพ่อเรา ตอนช่วงสอบเข้ามหาลัย เราเลือกจะไม่สอบที่นึงเพราะมันยากเกิน พ่อเราตีเราจนตัวลาย หาว่าเราตัดอนาคตตัวเอง เรื่องพวกนี้เอามาพูดในปัจจุบัน มองยังไงก็คือเป็นพฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ แต่เชื่อสิ จะมีคนแก่บางคนด่าเราที่เอาด้านไม่ดีของพ่อแม่มาเล่า
คนแบบนั้นไม่ต้องเรียกว่าแม่ก็ได้ครับ
โอ๋ๆนะครับ อะไรที่ร้ายๆมันผ่านไปแล้ว เดี๋ยวก็จะแต่สิ่งดีๆเข้ามานะครับ
คนแบบนั้นไม่สมควรเป็นพ่อแม่หรอกครับ
มันคือความจริง บางคนรับไม่ได้ โดนล้างสมอง
แย่เลย ของเรายังดีที่มีพ่อใจดี และเป้นคนคุมแม่ด้วย
ตัวละครนี้สะท้อนผู้ปกครองยุค baby boom ค่อนข้างหนักเลยนะ ยุคที่เขียนแรกๆ ทามาโกะก็เกิดหลังสงครามโลกที่ญี่ปุ่นลำบากมาก ต้องแข็งแกร่งถึงจะอยู่รอด และมีทัศนคติว่าการดุด่าจะทำให้เด็กเป็นเด็กดี ยิ่งเป็นการ์ตูนการแสดงออกยิ่งเวอร์ แล้วเวอร์จนน่ารังเกียจไปเลย
นอกจากนี้เนื้อเรื่องมีซีนความสัมพันธ์ระหว่างโนบิตะกับแม่ในทางที่ดีน้อยมาก การเห็นชอบตรงกันน้อย การชมลูกนี่แทบไม่มีเลย
ไม่ใช่หลังสงครามโลก แต่ก่อนสงครามโลกเลย แม่ใจแอน แม่ซูนิโอะด้วย
@@framekefun3889ระหว่างสงครามโลกครั้งที่2ต่างหาก แถมตามบริบทการเติบโตแล้วก้ถือว่าคือช่วงหลังจากที่ญี่ปุ่นถูกบอมอีก
ประเทศไทย ปัจจุบันทั้งโรงเรียน,บ้าน คือยุค Baby BOOMครับ
แม่ไทยรวมทั้งแม่เราก็เอาทามาโปะเป็นแบบอย่างด้วย เคยโดนด่าเกือบทุกวันว่าทำไมมันสมองเป็นโนบิตะ ข้างบ้านได้ที่1มา2เทอมติดทำไมมึงทำไม่ได้ บลาๆๆ
@@framekefun3889 อั้้นนั้นยุคพ่อโนบิตะ โดนครูทำร้ายร่างกาย ตบตี จนจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว
ดีที่โดเรม่อนกับโนบิตะย้อนเวลามาช่วยแบบลับๆ
เดคิสุงิคือตัวละครที่ healthy ที่สุดในเรื่องแล้วมั้ง ฉลาดใจดี เปิดใจรับฟังเพื่อน แต่พอเพอร์เฟคเกิน ตัวละครที่ไม่เก่ง self-esteem ต่ำอย่างโนบิตะเลยแอบอิจฉาซะงั้น ทั้งที่ความจริงถ้าโนบิตะไปสนิทกับเดคิสุงิ น่าจะมีพัฒนาการที่ดีกว่านี้ (แต่แม่ก็ต้องเลิก toxic ด้วย)
ไม่มีทางหรอกค่ะ เราว่า เผลอิๆแย่กว่าเดิมอ่าดิ
ค่อนข้างจริงนะ ถ้าเราอยู่กับสังคมแบบไหนเราก็มีโอกาสที่จะเป็นคนแบบนั้นตาม ถ้าโนบิตะลองเปิดในอยู่กลุ่มเพื่อนกับเดคิสุงิลดความอิจฉา พูดคุยกันหน่อยพอที่เดคิสุงิจะเข้าใจความรู้สึกและโนบิตะจะเป็นคนที่ต่างจากเดิมก็ได้ จากหลายตอนที่ดูไม่เคยเห็นเดคิสุงิมองโนบิตะต่ำเลยมีแต่โนบิตะคิดไปเอง
เดคิสุงิ ตัวแทนของคน ที่ดีไม่พอ
แม่โนบิตะ เป็นตัวสะท้อนของพ่อแม่ ความคิดเก่าแก่เลยครับ แม่แบบนี้ ทำให้ลูก หันไปพึ่งเพื่อนๆ เชื่อใจ ปรึกษาแค่เพื่อนๆอย่างเดียวนะ จนครอบครัวไม่ใช่ คนที่ลูกอยู่ด้วยแล้วสบายใจ สังคม จึงมีเด็กหลายคน ที่ไม่สบายใจ เมื่ออยู่ในบ้าน จนต้องหนีไปบ้านเพื่อน
เวลามีใครถามว่า เกลียดตัวละครไหนที่สุดในโดราเอม่อน หลายคนก็จะตอบคล้ายๆ กัน ไจแอนท์ ซึเนโนโอะ หรืออาจมีคำตอบว่า โนบิตะ หลงมาบ้างประปราย
แต่คำตอบของเราให้ "ที่สุด" เลยก็คือ แม่ของโนบิตะ โนบิ ทามาโกะ นี่แหละ
ส่วนที่ทำให้เกลียดมากๆ เลย ก็มีหลายครั้งที่โนบิตะจะขอออกไปเล่น แต่โดนแม่ไล่ไปทำการบ้าน โนบิตะก็กล้ำกลืนฝืนทนทำจนเสร็จก่อนเวลา (ถึงจะดูปาฏิหาริย์ก็เถอะ) แต่ผลที่ได้คือแม่ไม่เชื่อ แถมไล่กลับไปทำการบ้านต่อ (ก็แล้วทำไมเอ็งไม่ส่งการบ้านที่เสร็จให้แม่ดูละฟะ)
แถมที่สำคัญที่สุดคือแม่จะมองสิ่งแปลกปลอม "ทุกอย่าง" ในห้องโนบิตะ = ขยะ หมด และนะหาสารพัดวิธีที่รุนแรงเพื่อกำจัดขยะนั้นทิ้งให้พ้นๆ สายตา เพื่อความสะใจของตัวเอง ทั้งเผาทิ้ง ทุบให้เละ เรียกรถขยะมาเก็บ ฯลฯ ซึ่งที่ขัดใจที่สุดก็ตามในคลิปนั่นแหละครับ ที่มองเห็นลูกโลกจำลองที่ลูกชายสร้างขึ้นเป็นแค่ก้อนดิน แถมยังหัวฟัดหัวเหวี่ยงว่าลูกเอาดินมาเล่นในห้องอีก คือต้องเป็นคนขาดจินตนาการขนาดไหนถึงมองเห็นเป็นแบบนั้นได้เนี่ย
คือเข้าใจว่ามันเป็นมุกนะ แล้วก็เป็นชุดค่านิยมของคนยุคก่อน แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นสิ่งที่ทีมสร้างควรปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาได้แล้ว เพราะมันไม่ฮาเลยสักนิด
เป็นไปตามขนบค่านิยมของพ่อแม่เจน baby boomer แบบเอเชียเลยครับ แค่พ่อแม่ขอโทษลูกก่อนบ้างผมยังไม่เคยเจอเลย เชื่อว่าหลายคนเจน Y น่าจะผ่านอะไรแบบนี้มา พอโตขึ้นมาก็ต้องคอยแก้ปม หรือยอมรับรอยเว้าแหว่งในใจกันไป คนเจน Y ที่มีพ่อแม่ในลักษณะหัวก้าวหน้าเลี้ยงลูกแบบเพื่อน คอยรับฟังไม่ตัดสินนี่หายากครับ
แม่โนบิตะเคยรุนแรงสุดก็กระทืบลูกตัวเองนั้นแหล่ะเพราะซ่อนข้อสอบ0คะแนนกระทืบจนตาช้ำเลย (จากตอนไจแอนท์1000 คน)
โห เกินปาย เป็นเเม่ยังไงวะทำร้ายลูกตังเอง@@siripunsiripun4740
คนที่กำลังจะเป็นพ่อคนแม่คน อยากให้สละเวลาฟังซักนิด จะเป็นประโยชน์ต่อรุ่นต่อไปมาก ใครที่มีพ่อแม่ที่ toxic อยากให้อดทนแล้วบอกกับตัวเองว่า”ให้มันจบที่รุ่นเรา ตอนเราเป็นพ่อคนแม่คน อะไรที่ตอนเด็กๆเราไม่ชอบ ก็อย่าทำกันนะ”
เอาจริงๆก็เคยคิดนะว่านี่อาจเป็น1ในเหตุผลหลักๆที่โนบิตะต้องมีโดเรม่อนเลยก็ได้นะ เพราะเรารู้กันดีว่าโดเรม่อนมาอยู่กับโนบิตะ เหตุผลสำคัญเลยคือเพราะในอนาคตโนบิตะเป็นคนที่ทำตัวเหลวแหลกมากจนครอบครัวชิบหายกันหมด พอรู้แบบนี้มันก็ต้องสงสัยบ้างแหละว่า ทำไมคนคนนึงถึงกลายเป็นคนที่แหลกเหลวได้ขนาดนั้น ถึงเราจะเข้าใจว่า ในด้านของการเรียนโนบิตะก็ทำได้ไม่ค่อยดี ด้านสังคมก็เป็นคนที่โดนสังคมกลั่นแกล้งโดยทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญเลยมันคือครอบครัวนี่แหละ โนบิตะแทบจะไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัวเลยสักครั้ง ถึงได้ก็แค่ช่วงเวลาที่โดเรม่อนใช้ของวิเศษใส่เฉยๆและลองคิดดูว่าช่วงเวลาปกติที่ไม่มีโดเรม่อนอยู่ด้วยละ? โนบิตะก็คงไม่เคยได้รับอะไรเลยแบบไม่ได้รับจริงๆ ถึงเราจะเข้าใจอยู่ว่า 1ในเหตุผลที่แม่ของโนบิตะทำไม่ค่อยดีใส่เนี่ย ส่วนนึงก็มาจากโนบิตะเอง ที่ไม่ตั้งใจเรียน ทำการบ้าน หรือไม่ทำอะไรเลย แต่อีกมุมนึง ถึงแบบนั้นโนบิตะก็คือลูก ถึงจะต้องใช้ไม้แข็งใส่บ่อยๆ แต่มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องให้ความสำคัญต้องมีบ้างที่ใช้ไม้อ่อน
ระบบการศึกษาสมัยนั้นมันไม่ได้ดี แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่นก็เหอะ
โนบิตะเก่งยิงปืน พันด้าย ก็โดนมองว่าไร้สาระ ไปด้อยค่าเขา
แล้วก็อีกนิดนึงของตอนสลับเปลี่ยนคุณแม่นะที่มีการเปลี่ยน แม่กัน จะเห็นว่ามีฉากที่แม่ของซูเนโอะกับแม่ของชิซูกะ มาขอโทษลูกที่ใช้คำพูดแรงเกินไป จนทำลูกเสียความรู้สึกแต่ที่ประหลาดใจที่สุดก็คือ ไม่มีของแม่โนบิตะเลยสักเวอร์ชั่น เหมือนกับว่า ดุด่าลูกเพราะความเป็นห่วง ลูกคงเข้าใจและให้อภัยก็เลยไม่มาพูดขอโทษ หรือมีท่าทีสำนึกผิด ซึ่งเป็นพื้นฐานของคนที่ อารมณ์ Toxic. ที่เหมือนกับว่าตัวเองถูกเสมอ คนอื่นผิดแต่ฉันไม่ผิด
แม่โนบิตะนี่ต้นตำรับasian parents มาก
สมัยเด็กดูโดเรม่อน แม่เราก็เลี้ยงเราแบบนี้ มีลงไม้ลงมือ กรี๊ดกร๊าด บ้าบงการ
โตมาคือไม่มีความรู้สึกรักเขาแล้ว ใครบ้างจะไม่อยากรักพ่อแม่ตัวเอง
Xrr
😢cye45u6. #33566; 345ergv
มีครับ
@@Dxrkd0vil สาเหตุเกือบ80%มาจากครอบครัวที่่ทำร้ายเด็กก่อน จนเด็กไม่มีความไว้ใจค่ะ
@@alitcher4425 ผมหมายถึงมีตรงที่เด็กไม่รักครอบครัวน่ะครับ
@@Dxrkd0vil สาเหตุที่ไม่รักคืออะไรหรือคะ ตั้งแต่เด็กจนโต เรามันก็โดนยัดเยียดให้กตัญญูรู้คุณพ่อแม่อยู่แล้ว ถ้าครอบครัวดีจริง มันก็รักได้ไม่มีเงื่อนไขแหละค่ะ มันต้องมีสาเหตุที่ทำให้ความรักความไว้ใจนั้นไม่มี
อีกอย่าง ความรักมันบังคับกันไม่ได้ พ่อแม่ไม่ได้รักลูกทุกคน และเช่นกัน ลูกหรือหลานก็ไม่ได้รักพอแม่พี่น้องปู่ย่าตายายทุกคน
แต่มัยเป็นหน้าที่ ที่เลี้ยงลูกและหลานให้มีชีวิตที่ดี และไม่ต้องหวังว่าเขาต้องมาเลี้ยงเราตอนแก่
ในสมัยก่อน การดุด่าหรือตีลูกเป็นที่ยอมรับด้วยซ้ำ คิดว่ายิ่งด่ายิ่งตี ลูกจะยิ่งได้ดี แต่สิ่งที่พวกผู้ใหญ่ลืมไปก็คือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา มองแต่ในมุมของตัวเอง และคิดไปเองว่ามันดี แถมพอลูกไม่เชื่อฟังก็สามารถง่ายการ์ดลูกอกตัญญูได้ด้วย พ่อแม่ทำร้ายลูกไม่ผิด แต่ถ้าลูกทำร้ายพ่อแม่ ลูกไม่เจริญ มันเป็นกับดักที่พวกผู้ใหญ่คิดมาหมดแล้ว ไม่ว่าเด็กจะพูดยังไง ก็ผิดหมด
มาสมัยนี้ ญี่ปุ่นมีข่าวลูกฆ่าพ่อแม่เยอะ เพราะพ่อแม่ไปกดดันเด็กจนเครียดนี่แหละ
มันต้องtoxicขนาดไหนถึงทำให้เด็กทำอะไรโหดร้ายแบบนั้น
และเพราะแบบนี้คนญี่ปุ่นถึงไม่อยากมีทายาท ส่วนนึงเชื่อว่าเพราะไม่อยากถ่ายทอดประสบการณ์แย่ๆที่ได้รับมาจากครอบครัวแบบโนบิตะนี่แหละ
แม่ของโนบิตะและความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้น เป็นอีกเหุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ จากที่ดูรู้สึกได้ถึงช่องว่างระหว่างครอบครัวกับโนบิตะดูห่างเหินมากอยู่และถ้าโนบิตะไม่มีโดเรม่อนสภาพจิตใจคงแย่มาก ทั้งๆ ที่โนบิตะมีข้อดีหลายอย่างนะ เช่นยิงปืนแม่น เป็นเด็กที่ละเอียดอ่อนและจิตใจดี ถ้าสอนด้วยความอ่อนโยนและเสริมความแข็งแกร่งทางอารมณ์โนบิตะคงเป็นเด็กที่ฉลาดทางอารมณ์แน่นอน แต่แม่โนบิตะกับใช้อารมณ์ที่รุนแรงกับโนบิตะ
สำหรับเราสังเกตแม่โนบิตะมานานละ
แต่เราติดอยู่ประเด็นเดียวคือโนบิตะโดนต่อยมีแผลกลับบ้าน แต่แม่ไม่ปกป้องเลย
เพิกเฉยตลอด ที่แย่คือตอนที่โนบิตะหนีไจแอ้นกับซูเนโอะกลับบ้าน แต่แม่กลับให้ออกไปธุระให้
เฮ้ย ไม่เป็นที่พึ่งให้ลูกเลย
ก็เข้าใจอ่ะนะว่าต้องเขียนบทแม่แบบนี้เพราะไม่งั้นโดราเอมอนจะไม่ได้ออกโรง
เอาจริงๆแม่ของไจแอ้นยังจะดีกว่าแม่ของโนบิตะเยอะเลย
คือเห็นว่าลูกแกล้งเพื่อนก็จะปรามทันที(ถึงจะใช้การดึงหูหรือตีก็เถอะ)
แต่ยังมีการสั่งสอนลูกว่าทำไม่ถูก
ในขณะที่แม่โนบิ…เพิกเฉย 100%
ลูกกูจะได้แผลหรือยังไงก็ช่างมัน เอาผลสอบมาดู ไปซื้อของ
บ้งมาก
ซึ่งสำหรับเราตอนเด็กๆชอบโดราเอมอนมาก
แต่ยิ่นโตก็ยิ่งเบื่อ กับพล็อตและตัวละครบ้งๆ
-โนบิตะ ขี้แพ้ ขี้เกียจ ชอบหาทางลัด
-ไจแอ้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจัดรวาล ใช้ความรุนแรง บังคับคนอื่นตลอดไม่เฉพาะโนบิตะ
-ซูเนโอะ เฉพาะประเด็นที่ช่วยไจแอ้นรุมโนบิตะ
โดยเฉพาะเดอะมูฟวี่
ต้นเรื่องโนบิตะโดนแกล้ง ร้องไห้กลับมาหาโดราเอมอน
ได้ของวิเศษ เอาไปเล่น
ไจแอ้นกับซูเนโอะมาเจอ บังคับให้พาไปเล่นด้วย
เจออุปสรรค >>> ช่วยกัน>> สามัคคี จบ…
แล้วก็กลับมาแกล้งโนบิตะต่อ วนลูปบ้งๆ
คือความเป็นจริงนะ เราไม่มีทางจะเป็นเพื่อนกับคนที่เอะอะก็ต่อยเราแบบนี้ได้หรอก
บูลลี่ใช้ความรุนแรงขนาดนี้ ยังจะให้จบสวยแบบเป็นเพื่อนกัน บ้าบอ
การ์ตูนบทงี่เง่า
อีกเรื่อง เวลาโนบิตะอยากจะหาที่พึ่ง เวลาน้อยใจ หมดกำลังใจ
คนที่โนบิตะคิดถึงคือคุณย่า ที่ให้นอนหนุนตัก คอยลูบหัว ปลอบใจให้
หรือเวลามีปัญหาอะไรโนบิตะไม่กบ้าบอกพ่อแม่ เพราะบอกก็จะโดนด่า
พฤติกรรมลูกสะท้อนการเลี้ยงดูสุดๆ
เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่ไม่ใช่ที่พึ่งทางใจของโนบิตะเลย
สงสารนะ ถ้าไม่มีโดราเอมอน ไม่รู้ชีวิตในแต่ละวันของโนบิตะจะปย่ขนาดไหน
จริง the movie doraemonเป็นอะไรที่ซ้ำศากมากกกกก มีเยอะ เเต่ไม่ได้เเตกต่างอะไรเลย รีสกินตัวละครเดล้วเอามาถ่ายใหม่เเค่นั้นเเหละ55555
มันเป็นการ์ตูนสำหรับให้เด็กอ่านน่ะครับ จบในตอนเป็นฟอร์มูล่าของมัน พอโตแล้วเราจะเบื่อไม่อยากอ่านก็ไม่แปลก มันเป็นธรรมชาติของมีเดียมัน น่ะครับ
@@NaWa1stเรามาคิดแบบวิเคราะห์ดู ตามที่คุณเม้น มันคือใช่เลยนะสำหรับครอบครัวโนบิตะ เอาจริงเรื่องความรุนแรงในครอบครัวโนบิ ฉากย้อนอดีตของวัยเด็ก พ่อแม่โนบิตะ มีตอนหนึ่ง ทามาโกะ ตอนเด็กๆ เธอเป็นคนเอาแต่ใจมาก บางครั้งก็โผงผางไป ด้วยนิสัยแบบนี้ มันตรงกับตอนโตที่เอาแต่สั่งลูกเลยอ่ะ แต่ครอบครัวการสอนของคุณยายโนบิตะ ทำไมดูไม่มีปัญหาเท่ามาทาโกะเลย คือ เตือนให้เก็บของ รักษา ในส่วนของพ่อโนบิตะ ก็เหมือนโนบิตะเลย แต่โดนกดดันจากคนเป็นพ่อแทน เราว่า ครอบครัวโนบิตะไม่ค่อยพร้อมเลี้ยงเด็กจริงๆนะ เหมือนสองสามีภรรยาคู่นี้ เอาสิ่งที่ตนเองโดนมาลงกะลูกอย่างไงอย่างงั้น
แม่โนบิตะก็คงฟิลพ่อแม่ทั่วๆไปอะ ที่แบบเออ ลูกโดนบูลลี่ หรือโดนแกล้งทำลายร่างกายมาก็คงจะชอบแบบ เพื่อนแค่หยอกเล่นน่ะ เพื่อนแค่เล่นกันขำๆน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ซึ่งความเป็นจริง นี่เหรอคือการหยอกเล่น นี่เหรอคือการที่เรียกว่ส เด็กลเ่นกันสนุกขำๆ
มีไม่กี่ตอนเองมั้งที่ทามาโกะจะพูดดีๆ กับโนบิตะ เราจำได้ว่าเคยดูตอนหนึ่งที่โนบิตะยังสอบได้ศูนย์คะแนนเหมือนเดิม แต่แทนที่จะด่าแบบทุกครั้ง ทามาโกะกลับบอกว่าข้อสุดท้ายใกล้จะถูกแล้ว ถ้าพยายามอีกนิดก็คงได้คะแนนไอ้เราที่นั่งดูก็แบบ อ้าว ก็พูดดีกับลูกได้นี่หว่า
บ้านโนบิตะกับความจริงของคนตะวันออกเหมือนจะสลับกัน เพราะส่วนใหญ่คนตะวันออกพ่อจะใหญ่และดุสุด ส่วนแม่จะใจดีสุด
แม่คนไทยหลายคนค่อนข้าง toxic โดยเฉพาะกับลูกผู้หญิง (เรื่องใช้งานและเรื่องแต่งตัว ทำดีไม่เคยชม ทำพลาดนิดเดียวโดนด่าเป็นชุด) สังเกตจากแม่ตัวเองและแม่คนอื่น โดยเฉพาะบ้านที่มีทั้งลูกชาย ลูกสาว
เราเร็ด้วยค่ะ ดีนะพ่อเราใจดี+คมแม่ก้เลยไม่หนักเท่าไร เราแย่มากตอนเด้ก ตอนจับไว้ในบ้านไม่พอโดนแม่ว่าอีก ร้องให้บ่อยมากตอนเด้กๆ
ตอนเด็กๆ เรานี่ชอบคิดว่า มิซาเอะ กับ ทามาโกะ เป็นแม่ขี้บ่นพอกันนะ ชอบใช้กำลัง แต่พอโตขึ้นแล้วมุมมองเปลี่ยนไป เลยทำให้เห็นความต่างของแม่ทั้งสองคนชัดเจนเลย พอมามองย้อนดูแล้วเข้าใจมากขึ้นก็รู้สึกโตขึ้นแฮะ
ก็นะ คนต่างยุคกันละนะ ถึงทามาโกะหลังๆจะถูกปรับเยอะแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังมีกลิ่นและแนวคิดยุคสร้างชาติพอสมควร
ถ้าถามว่าใครใช้กำลังมากกว่า ก็คงมิซาเอะแหละ เขกหัวบ่อยขนาดนั้น (ส่วนหนึ่งก็มาจากชินจังกวนส้นเท้าด้วยแหละ) 5555
เห็นแบบนี้แต่มิซาเอะโคตรเห่อลูกเลยนะจะบอกให้555 ขนาดชินจังมันเป็นคนกวนตีนขนาดนั้น
มิซาเอะรักลูกกว่าเยอะครับ😅
ทามาโกะเทียบมิซาเอะไม่ติดเลยค่ะ มิซาเอะใส่ใจลูกสุด ๆ และมิซาเอะก็ไม่ถึงกับใช้คำว่าขี้บ่นได้นะคะ เพราะสิ่งที่นางพูด ชินจังควรจะทำจริง ๆ นั่นแหละ5555555 แต่ทามาโกะคือโนบิตะยืนเฉย ๆ ยังโดนบ่นได้เนี่ย ใช้คำว่าขี้บ่นได้เต็มปากเลย
ส่วนตัวนี่ชอบแม่ของสึนะจากเรื่องรีบอร์นมาก เป็นแม่ที่ชิลสุดๆ มองโลกบวก แถมเข้าใจลูกแทบทุกอย่าง
คหสต.อาจจะเป็นเพราะ คนแต่ง ผู้เขียน คือ ผู้หญิง เลยดูออกมาชิลๆ ซึ่งต่างกับ ผู้แต่ง โดราเอมอน ที่เป็น ผู้ชายนะ
แม่ยุคเก่าของจริง ชั้นใหญ่สุดแกต้องฟังเท่านั้นภาคอาหรับราตรีตอนเด็กดูละโกรธแทน เอาหนังสือไปเผา ชิซุกะเกือบกลับมาไม่ได้อ่ะ(แต่เป็นเดอะมูฟวี่นึงที่เราชอบมาก สนุกดี)
@@kotori7367เผาเลยหรอ เก็บของไม่เป็นทาง ลองกลับกันคนเป็นเเม่ลืมของไว้ลูกเผาทิ้งเลย ? คนละเรื่อง
@@kotori7367แต่เอาไปเผาก็เกินไปคะ ปล่อยกองไว้ไม่ต้องไปเก็บให้ลูกก็ได้ แล้วมาด่าตอนกลับมาก็ไม่สาย เพราะถ้ามีของสำคัญอยู่ในนั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็คงไม่ค่อยจะชดใช้อะไรให้ลูกหรอก ใครๆก็อยากได้บ้านไม่รกใช่คะ แต่เอาความเหนื่อยมาลงกับคนอื่นและมองของที่เขาวางกองอยู่ว่ารกหูรกตา นี่ก็เรียกว่า โรคจิตได้นะ คนแบบนี้ถ้าไม่โดนเอาของของตนเองไปเผาบ้างคงไม่รู้สึกหรอก ว่าการเอาของคนอื่นไปทำลายเป็นไง
@@kotori7367แต่แม่ไม่มีสิทธิเผาของลูกนะคะ มันมีวิธีแก้อื่นๆเยอะมาก
ยิ่งตอนเอาข้าวของไปทิ้งไปเผาเนี่ยคือชีก็ขยันเหลือเกิน พอลองมาคิดอิงตามความเป็นจริงคือโคตรย้อนแย้งมาก ทั้งที่ค่าใช้จ่ายในบ้านติดตัวแดงขนาดนั้นก็ยังเอาข้าวของไปทิ้งเหมือนบ้านกูรวยมากแบบไม่เสียดายเงินสักเยน แล้วเด็กประถมคนนึงที่ไม่ได้บ้านรวยเหมือนซูเนโอะจะไปหาการ์ตูนหานิทานมาจากไหนได้เต็มห้อง ถ้าไม่เก็บตังซื้อเองกับพ่อซื้อให้(เพราะดูจากนิสัยแม่แล้วไม่น่าซื้อให้แน่ๆ) แล้วไหนจะเข้าห้องไปขนของลูกโดยไม่บอกอีก คื๊อออ!!...นั่นห้องส่วนตัวลูกปะ!? ความเป็นส่วนตัวอยู่ไหน!? 🤦🏻
( จำได้ว่าช่องสุริยะบุตร ก็เคยทำประเด็นนี้มาก่อนนะ )
ในเมะเวอร์ชั่นก่อนปี 2005 นั้น
แม่ทามาโกะ ค่อนข้างเป็นแม่ที่แย่มากในบรรดาแม่ๆโลกอนิเมะ สะท้อนว่าเป็นแม่ที่ไม่ควรเป็นแม่เมื่อพร้อม (บางคนอาจเทียบกับมิซาเอะ แต่ถ้ามองจริงๆ มิซาเอะเป็นแม่ที่ดีกว่ามาก)
ความแย่ของแม่ มันเริ่มต้นจากตอนเด็กๆที่ทำตัวซุกซน แถมยังขโมยแหวนเพชรเอาไปเล่นเป็นเจ้าสาวในงานแต่ง พอเล่นๆไปสักพักก็ทำหล่นเอง แต่กลับไปเหวี่ยงใส่คนอื่น ชอบป้ายความผิดให้คนอื่นเพื่อให้ตนเองรอดจากการถูกทำโทษ แต่สุดท้ายก็โดนทำโทษอยู่ดี
ภายหลังโนบิตะกับม่อน ที่ย้อนอดีตไปดูวีรกรรมของแม่ ก็รู้ว่า คุณยายพยายามดัดนิสัยแย่ๆ โดยที่บิลด์อารมณ์ว่า แหวนที่แม่เอามาเล่นเป็นแหวนหายาก แต่แท้จริงเป็นแหวนของเก๊
แต่เหตุการณ์นั้น *มันไม่ได้ช่วยให้แม่ทำตัวดีขึ้นมาสักนิด แถมยังก่อให้เกิดโรคฮิสทีเรีย ที่แอดคราวน์ได้กล่าวไป* เนื่องจากความแค้นจากการถูกทำโทษในครั้งนั้น
และนิสัยเสียเรื่องการป้ายความผิดให้คนอื่นก็ส่งผลกระทบไปยังโนบิตะโดยตรง
ส่วนนิสัยตอนเป็นแม่คน แทบจะเป็นอาการของคนรั้นชัดเจนมากๆ แถมยังทึกทักเอาเองหลายหน งกในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทีกับเรื่องตนเองยกตนข่มท่านจนน่ารำคาญ
คนแบบแม่ทามาโกะ จะไม่มีวันได้เจอเพื่อนที่เป็นมิตรแท้ใดๆ เพราะความรั้นของนางล้วนๆ
ที่น่าสังเกตอีกอย่าง ตอนใช้ของวิเศษสลับแม่นั้น ก็เลือกปฏิบัติชัดเจน กับลูกคนอื่นคอยเอาใจไม่ดุด่า ซึ่งในโลกจริง ถ้าเจอแบบนี้ อย่าคิดว่าลูกจะกตัญญู เพราะมันเป็นการสร้างปมด้อยให้เด็ก และทำให้การมองทัศนคติต่อแม่ รวมไปถึงเพศหญิง ลดลง
พอเข้ายุคเวอร์ชั่น 2005
มีการลดความกร่าง ความรั้นของแม่ทามาโกะ ลงไปพอควร และเสริมเนื้อเรื่องให้มีเหตุผลรองรับในการกระทำมากขึ้น
ช่าย ทามาโกะตอนสาวๆก็ด้วย ตอนนัดเดทกัน
พ่อโนบิตะมาสายนิดหน่อยก็โกรธพัดเหวี่ยงเดินหนี แล้วก็ไปควงหนุ่มอื่นฉีกหน้ากันจะๆ
ถึงเพราะนางสายตาสั้นมองคนผิด หายงอนแล้วไปกะคนแทน
พอรู้ตัวรีบกลับมา เจอพ่อโนบิตะอยู่กับหญิงอื่น ก็คิดเองเออเองโทษแต่คนอื่น ต้องให้เค้ามาง้อ
ถ้าโดรเรมอน/โนบิตะไม่ช่วยตงไม่ได้แต่งงานกัน
มิซาเอะนี่เป็นแม่ที่โคตรดีเลยสำหรับผม จะด่าจะตีบอกเหตุผลก่อนรับฟังเหตุผลก่อนทุกครั้ง❤
@@bankzachannel ใช่ครับ
@@bankzachannelมิซาเอะนิน่าจะต้องเทียบกับชิซุกะ เพราะน่ารุ่นใกล้เคียงกัน
ผู้ใหญ่ก็คือเด็กที่มีลูก มอตี้ได้กล่าวไว้
แม่ผมเคยบอกกับผมว่า "ฟังที่แม่พูดบ้างเถอะ" ผมพอได้ยินคำนี้ผมก็ซึมเป็นเดือนเลยนะผมคิดอยู่ทั้งเดือนเลยว่า "นี่เรามันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ เราไม่เคยทำตามที่แม่บอกบ้างเลยหรอ ที่เราล้างจานซักผ้าเก็บขยะในบ้านไปทิ้งโดยที่นั่นเป็นของทุกคนในบ้านเนี่ยไม่นับว่าเราฟังคำสั่งแม่เลยใช่ไหม เรามันเ_ี้ยมาก ฯลฯ" มันเป็นเรื่องน่าเสียใจมากๆเลยนะ
ถ้าจะถามว่า โนบิ ทามาโกะ เป็นแม่ที่ดีไหม ก็คงต้องย้อมถามกลับว่า “เป็นแม่ที่ดีในมาตราสำหรับยุคไหนหล่ะ” ในโดเรม่อน โนบิตะมีช่วงชีวิตในปี 60 หรือ 70 เป็นยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ผู้คนไม่มีความเข้าใจถึงจิตใจและจิตวิทยาของเด็ก พวกเรื่องผลกระทบทางจิตใจ เรื่องพวกบูลลี่ยังไม่ได้รับความสนใจเป็นเรื่องใหญ่ แบบปัจจุบัน วิธีการเลี้ยงลูกในสมัยก่อนมาจากประสบการณ์และสืบทอดการเลี้ยงดูมาอีกที ซึ้งในเมื่อแม่โนบิตะ โตมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันก็ไม่แปลกที่จะเน้น การด่า เน้นให้เด็กแข็งแกร่ง เพื่อลูกอยู่รอด โดยไม่สนใจสุขภาพจิต ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน โนบิ ทามาโกะ คงเป็นแม่ที่แย่มาก แต่ถ้าในยุค 60-70 แบบในเรื่อง มันก็คงตามมาตรฐานในสมัยนั้น
เราเห็นด้วยนะมันไปตามยุคสมัยประเด็นคือเทียบกับเรื่องชินจังการแก้สถานการณ์ตามยุคสมัยในเรื่องเราว่าทำได้ดีกว่า
แม่ชิสุกะกับแม่ซึเนโอะก็ไม่เห็นเป็นแบบแม่โนบิตะนิ?ก็เกิดยุคเดียวกัน ย่าโนบิตะก็ด้วย เกิดในยุคสงสรามของแท้ จะยุคไหนๆมันก็มีคุณแม่ดีเด่นและคุณยอดแย่ทั้งนั้น ในยุคอินเทอร์เน็ต ผู้คนมีความเข้าใจถึงจิตใจและจิตวิทยาของเด็ก พวกเรื่องผลกระทบทางจิตใจ เรื่องบลูลี่ได้รับความสนใจเป็นเรื่องใหญ่ ก็ยังคงมีแม่โนบิตะเหมือนเดิมไม่ต่างจากยุค60หรือ70หรือ50 พูดอย่างหยาบๆของแบบนี้มันอยู่ที่สันดานล้วนๆจะยุคไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงได้
แล้วทำไมย่าของโนบิตะถึงไม่โหดกับโนบิตะละถ้างั้น? คุณย่าที่เกิดก่อนสงครามโลก อยู่ในยุคที่ชายเป็นใหญ่หญิงเป็นทาส ยุคจักรวรรดินิยมที่เน้นฝึกเด็กผู้ชายให้แกร่งให้โหดเพื่อเป็นทหารเกณฑ์ให้ชาติ ผ่านสังคมนิยมสงครามจนมาโดนอเมริกาทิ้งระเบิดคาบ้านและจบลงด้วยระเบิดปรมาณู 2 ลูกที่ทำลายญี่ปุ่นแบบไม่เหลือซาก ในขณะที่ต้องเลี้ยงดูทามาโกะในยุคที่ข้าวยากหมากแพง คนญี่ปุ่นต้องกินศพมนุษย์เพื่อประทังชีวิต คนอดตายเป็นแสนเป็นล้านคน ทำไมคนแบบนั้นถึงไม่โหดกับโนบิตะละ?
@@Heylanda-fb9xb เราว่า แม่โนบิตะ นิสัยแย่ตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ โดนคุณย่าสั่งสอนก็หลายรอบอยุ่ ขนาดแอบบอกว่าแหวนไม่มช่ของจริงให้นางด้วยซ้ำ คุณย่าน่าจะรุ้นิัยของแม่โนบิตะนั่นแระ
มีตอนนึงเคยดูตอนเด็กที่โนบิตะโดนแม่วีนอะไรสักอย่างแล้วโดนแม่ตบหน้า ดูตอนเด็กไม่ได้คิดไรนะ พอโตมาจำฉากนี้ได้สงสารโนบิตะเลย คือเด็กประถมเองนะ.. แล้วโดนแม่ตบหน้า ถ้าเป็นในชีวิตจริงเด็กคงมีปมในใจไม่น้อยเลย
โนบิตะเป็นเด็กน่าสงสารนะคนรอบตัวจริงๆก็ Toxic หมดเลย
1.ชิซูกะเหมือนจะใจดีนะแต่เวลาโนบิตะโดนแกล้งหรือมีคนหัวเราะเยาะก็เลือกที่จะเงียบยืนดูหรือหัวเราะไปด้วยเลยยิ่งเวลาซึนิโอะชวนไปเที่ยวแล้วไม่ชวนโนบิตะก็เออออและไปด้วยซะอย่างนั้น
2.ซึนิโอะ เจ้าเล่ห์ ไม่มีความจริงใจ เห็นแก่ตัว ขี้อวด ชอบมองคนอยู่ต่ำกว่าตัวเองเสมอ หลงตัวเอง (แทบไม่มีข้อดี)
3.ไจแอนท์ จริงๆแล้วลึกๆอาจจะนิสัยดีกว่าซึนิโอะด้วยซ้ำเพราะเป็นคนรักเพื่อน แต่ขี้โมโห ชอบรังแกบังคับจิตใจคนอื่น หลงตัวเอง
4.พ่อโนบิตะ ไม่ค่อยสนใจครอบครัวเท่าไหร่โฟกัสทำแต่งานแต่ไม่รวยซักทีตังในบ้านไม่เคยมีพอ(ดูการเงินแย่กว่าบ้านชินจัง)ถ้าแม่ดูโนบิตะก็จะทำเป็นเฉยไม่รู้ไม่เห็น ตัดสินใจอะไรเองไม่ค่อยได้
(แต่บางทีเราก็ไม่ชอบโนบิตะนะที่มีของวิเศษอะไรก็ชอบเอามาลองเอามาแกล้งกับแม่ตัวเองบางครั้งทำบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะตายได้เลยก็มีแต่โนบิตะก็ยังเห็นเป็นเรื่องตลก😅)
โนบิตะอาจจะเกลียดแม่ตัวเองด้วยซํ้าเพราะไม่เคยรับฟังอะไรเลย
ด่าแบบไม่มีเหตุผล มูลเหตุ อาศัยอารมณ์เป็นที่ตั้ง แบบนี้คือพฤติกรรมที่ไม่ควรจะเป็นแม่เลย แต่ถ้ามองช่วงที่การ์ตูนโดเรม่อนกำเนิดขึ้นมามันคือช่วงที่ญี่ปุ่นนั่นพัฒนาแบบการแข่งขันดุเดือดมากโดยเฉพาะในโรงเรียน มหาวิทยาลัยนี้เข้มข้นมาก ถ้าไม่เก่งจริงคือไม่รอดแน่ในยุคนั่น โดเรม่อนก็ถือกำเนิดช่วงนั้นพอดี ไม่แปลกว่าทำไมพฤติกรรมของอม่โนบิตะถึงแย่มากอย่างนี้ แต่ในสมัยนั้นคำด่าเหมือนแรงจุดไฟให้ก้าวหน้าต้องผลักดันตัวเอง และมามองในปัจจุบันที่เหตุการณ์มันไม่หนักเท่ายุคนั้นแล้ว ไม่แปลกที่จะมองแม่โนบิตะว่าเป็นแม่ที่แย่มากในยุคปัจจุบันนนี้
ผมโชคดีมากที่แม่ค่อนข้างใช้เหตุผล และยกมาว่า ทำไมแม่ถึงต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมโตมากับฐานะยากจน ถึงจะเป็นเด็ก แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมถึงซื้อการ์ตูนหรือของเล่นไม่ได้ เพราะแม่อธิบาย
คำพูดมีผลต่อเด็กจริง ๆ นะ ต่อให้เป็นเด็กที่ไม่เข้าใจเรื่องซับซ้อน ก็ไม่ได้โง่ซะทีเดียว อย่าคิดว่าพูดด่าอะไรแรง ๆ ไปเดี๋ยวเด็กก็ลืม แต่บางทีมันติดจนมาจนโตเลยก็มี รวมถึงคำชื่นชมด้วย แต่ก็อย่าเอาแต่อวย ตำหนิเมื่อต้องตำหนิ ชมเมื่อต้องชม
ของเราแม่คือแบบเดี๋ยวกับแม่โนบิตะเลยแต่ไม่หนักเท่า ส่วนพ่อเราใช้เหตุผลและใจดีมาก แต่พอดุก็ทำเราซึเลย แต่พอเราซึมพ่อก็ปลอบเช่นกัน
โนบิต้องสลับกับครอบครัวชินจังแล้วแหละ บอกเลยโนบิมีความสุขมากๆแน่เลย แล้วก็ชินจังไม่มีปัญหากับครอบครัวโนบิเพราะชินจังเนี่ยตัวป่วนเลยชินจังน่าจะปั่นหัวครอบครัวโนบิหัวปั่นหมดอะ
บ้านโนฮาระสอนดีมากครับ จะด่าจะตีบอกเหตุผล รับฟังลูก มิซาเอะนี่แม่ในฝันเลย
ไม่แน่หรอกครับ ถ้า มิซาเอะ มีลูกแบบโนบิตะ อาจจะโดนรีวิว ไม่ต่างกับ ทามาโกะ ก็ได้
ตอนเปลี่ยนแม่เราก็ได้ดู มีแม่โนบิตะคนเดียวที่ไม่ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป แต่แม่คนอื่นขอโทษลูกหมด ส่วนแม่โนบิตะ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วปล่อยผ่านไป 😢
จริงค่ะ สงสาโนบิตะมาก พ่อมีก้เหมือนไม่มี ตัวประกอบชั้นดีเลย เวทนาจัดๆ
พ่อผมคล้ายๆ แบบนี้ เป็นคนที่โมโห หงุดหงิดง่าย ใช้ความรุนแรงทั้งข้าวของ ไม่ฟังเรื่องที่คนอื่นพูด บ่นเรื่องเดิมได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง พูดจาดูถูกผมหลายอย่าง คิดว่าตัวเองถูกหลาบเรื่อง ขอโทษไม่เป็น เรียกว่าถ้าพ่อผมเป็นอะไรยังไงขึ้นมาผมคงรู้สึกเฉยๆ
ทุกวันนี้ผมเลยต้องหาเลี้ยงตัวเองไป มีพ่อก็เหมือนไม่มี
เหมือนกันค่ะ
ไม่แปลกครับ เพราะการกระทำของตัวพ่อคุณเองล้วนๆ
ดีแฮะที่พ่อเราสลับนิสัยกับแม่เต็มๆแม่เราน่ากลวค่ะ ส่วนพ่อเรานั่นใจดีมากกกก
ตัวละครโดราเอมอน ไม่มีใครเพอร์เฟคเลยสักคน(ยกเว้นเดคิสึงิ)
ทุกคนเลยมีข้อเสีย ข้อดีให้คนดูวิเคราะห์ เอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
เรื่องนี้ ผมมอง ตัวละคร 7 บาป
โดราเอม่อน = ตะกละ
โนบิตะ = เกียจคร้าน
ชิซูกะ = ราคะ
ซึเนโอะ = โลภะ
ไจแอ้นท์ = โทสะ
โดเรมี่ = ริษยา
เดคิสึงิ = เย่อหยิ่ง
@@tonpalmitadoriyuji เดคิสึงิ = เย่อหยิ่ง กับ โดเรมี่ = ริษยา เหรอ ชิซูกะ = ราคะ เหรอ ที่ดูในเรื่องไม่มีความใกล้เคียงเลย เย่อหยิ่งควรยก ไจแอ้นท์ ที่คิดว่าตัวเองร้องเพลงดี แต่จริงไม่ใช่ ส่วนริษยาจริงก็โดราเอม่อนเพราะอิจฉาโดราเอมี่จนตกโดราเอมี่ยอมตัดหูให้เหมือนกัน 2IN1 ไปเลยคู่นี้
โดเรมี่ไปอิจฉาใครเหรอครับ@@tonpalmitadoriyuji
เดคิเก่งเกิน จนถูกลืม555
@@alitcher4425 พี่เทพเทนโดในโลกโดราเอม่อน ทำอะไรก็เทพไปหมด 5555
ตอนเด็ก รส.โนบิตะงี่เง่าเอาแต่ใจไม่ได้เรื่องมากๆๆ พอโตขึ้นก็รู้สึกมันงี่เง่าเหมือนเดิม เอ้า ล้อเล่น รส.ว่าเด็กผลผลิตของผู้ปกครอง โนบิตะที่มันเป็นคนแบบนั้นส่วนนึงก็มาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่นั่นแหละ
แม่ก็มีการเลี้ยงลูกหลายๆแบบ แต่ไม่ว่าแบบไหนแม่ก็ไม่ค่อยเชื่อใจในตัวลูกหรือไม่พอใจกับความ’ผิดพลาด’ของลูก ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุผลที่ลูกๆต้องการเพื่อนมากกว่าแม่ เพราะลูกๆเคารพแม่แต่ก็เจ็บปวดจากสีหน้าผิดหวังของแม่เช่นกัน เพราะฉะนั้นแม่โชคดีที่มีลูกคอยให้อภัยเสมอ ไม่ว่าแม่จะดุแค่ไหน
จริง ทุกวันนี้เลิกคุยกับคนที่บ้าน เพราะถ้าทำอะไรไม่ได้ดั่งใจแม่แค่เรื่องเดียวก็จะเป็นอย่างนั้น หลังจากไปหาหมอเหมือนจะดีขึ้นแต่สุดท้ายแค่ไม่พูดแต่สีหน้ายังอยู่จนต้องแอบทำทุกอย่าลลับหลัง พ่อยิ่งแย่กว่าทำได้แค่อดทน เราเลือกพ่อแม่ไม่ได้ เขาแก่เราก็ต้องดูแล ไม่ว่าเขาจะทำร้ายเราแค่ไหน หรือไม่เคยภูมิใจอะไรกับสิ่งที่เราทำเลยแม้แต่อย่างเดียว
ภาพซ้อนกับแม่ตัวเองแบบสุดๆ เลยค่ะ 😔🤌 แม่เราก็แบบนี้เลยแต่อาการหนักกว่าเยอะเลย ระดับความ toxic แบบเต็ม Max เลย มันจะแบบ อื้มม น่ะนะ
เอาน่าๆ ไม่เป็นไรนะสู้ๆ(｡•̀ᴗ-)✧
@@wanavee86 แงง ขอบคุณนะคะ ☆(ﾉ◕ヮ◕)ﾉ*
@@klapis7575 กอดๆนะคะ
วันนึงพอเราโตขึ้นและ บรรลุนิติภาวะมันจะมีสิ่งที่เราสามารถเลือกได้คือChosen Family คือเพื่อนคนรอบข้างหรืออื่นๆและมันจะมา ทดแทนตรงที่ครอบครัวเราไม่มีให้เราได้ดีเลยแหละบางทีครอบครัวก็ไม่ใช่เซฟโซนอะนะ สู้ๆครับ
อันนี้เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ คลิปนี้ค่อนข้างจะสะท้อนชีวิตผมในช่วง 3-4 ปีก่อนได้ตรงมาก 😢
ของผมจะโดนหนักหน่อยทั้งพ่อทั้งแม่เลย อย่างหนักก็มีบีบคอ สาเหตุคงเป็นที่พวกเขาทำงานแล้วเครียด + ผมเรียนไม่เก่ง ทำอะไรแบบที่พวกเขาคาดหวังไม่ได้ ถึงตอนนี้ทุกอย่างจะ Soft ลงไปแล้ว แต่เรากลายเป็นคนที่ไม่สามารถมีเพื่อนหรือปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกได้แบบคนปกติ
คุณยายของโนบิตะคือเซฟโซนที่สุดล่ะ
เคยอ่านหนังสือ การ์ตูนเพื่อนรัก ของ น.พ.ประเสริฐ์ ผลิตผลการพิมพ์ แกวิเคราะห์ไว้ว่า ในทางจิตวิทยา โนบิ ทามาโกะ = แม่ใจร้าย คอยดุด่าว่ากล่าว
โดราเอม่อน = แม่ใจดี คอยตามใจ
ง่ายๆก็ โดเรมอน เป็นตัวแทนผู้ปกครองที่เด็กๆอยากมีในทางจิตวิทยาครับ
ปกติมากๆครับ ยุคนั้น อันนี้ดูดีกว่าแม่ผมเยอะในด้าน toxic แต่ค่านิยมของยุคนั้น เขาจะประหยัดโคตรๆ ทำงานนอกบ้านแล้วกลับมาทำงานบ้านต่อถึงตี 1 ตื่นตี5 ครึ่ง มาทำอะหารเพื่อลดรายจ่ายบ้าน แถมวันหวยออกยังมีทำงานสีเทาเสริมรายได้ อาจจะเพราะโตมาแบบยากลำบากมากๆ และไม่มีการใส่ใจกันหลักการ แต่ต้องเอาตัวรอด
พ่อผมเป็น แบบนี้เลย
1.ทะเลาะกับแม่แล้วก็พาล กับลูก
2.ชอบหยิบของที่เก็บไม่ดีเอาไปทิ้งแล้วไม่บอก
3.เวลาผมโดน แกล้ง ตอน มัธยม ก็บอกแค่ให้สู้กับ ทั้งทีเด็กเกเรส่วนมากมีซ้ายและขวา
4.พอทำไรผิดพลาด ก็มีแต่ซ้ำเติม ไม่เคยให้กำลังใจ(จนเป็นคนเฉยชา
ไม่เข้าสังคม ไม่อยากทำไรเลย)
ชีวิตผมเหมือนโนบิตะ ที่ไม่มีโดเรม่อน
เหมือนกัน แต่ของเราเป็นแม่น่ะ
@@bahamutzero6945 อายุเท่าไรแล้ว
ผมเข้าใจโนบิตะนะเพราะตอนเด็กๆ ผมก็โดนแม่ทำแบบนี้บ่อยๆ แต่ต่างตรงที่ผลการเรียนผมไม่เคยแย่เลยสักครั้งได้อยู่ในระดับกลางๆ มาตลอดแต่ที่ผมจะโดนแม่ดุด่าตลอดเลยคือการเคลื่อนไหวของผมที่สำหรับแม่คือเขาบอกว่าผมเคลื่อนที่ช้าเหมือนซาลาแมนเดอร์ เวลาที่เขาใช้ผมให้ไปทำอะไรถ้าผมช้าแม้แต่นิดเดียวผมก็จะโดนด่าแรงๆ ใส่ตลอด และเวลาเขาเรียกใช้ผมด้วยความที่แม่ผมเป็นคนที่ปกติพูดเสียงเบามาก จนบางทีผมไม่ได้ยินเลย เขาก็จะงอนผมบางทีงอนผมเป็นเดือนแบบไม่คุยไม่ถามไถ่อะไรเลยเป็นเดือนๆ เลยก็มี ด้วยทั้งหมดนี้มันเลยทำให้ผมเป็นคนที่ขี้ระแวงตลอดว่าจะมีมครเรียกไหม จนทุกวันนี้มันก็กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว หูผมไวต่อเสียงมาก แต่ปัจจุบันนี้แม่ผมก็เปลี่ยนไปเยอะหลังจากที่น้องสาวผมเสียไปเขาก็กลายเป็นคนละคนเลย
โดราเอมอนนี่ถ้าไม่ใช่ตัวหลักอย่างโนบิตะ ม่อนและผองเพื่อนนี่ ตัวละครอื่นๆส่วนใหญ่นี่คือจะมามิติเดียวหมดเลย โดยเฉพาะแม่โนบิตะนี่ตอนมีบทคือแทบจะไม่อะไรอย่างอื่นนอกจากหาเรื่องดุด่าโนบิตะไปวันๆ แต่ถามว่ามันเรียลมั้ย มันก็เรียลอะแหละ เพราะแม่โนบิตะมันคือ typical asian mom เลย 555 แต่ยังดี ที่โนบิตะยังมีพ่อ ที่ค่อนข้างใจดี พอรับฟังลูกบ้าง เลยทำให้โนบิตะยังพอมีที่พึ่งบ้าง
แต่ส่วนมากจะพึ่งไม่ค่อยได้ก้ตามนะนะ นบิตะนี้ตัวประกอบชั้นดีเลยแระเราว่า
เป็นเหมือน typical พ่อแม่ยุคหลังสงครามที่เลี้ยงรุ่นเบบี้บูเมอร์เลย ไม่แปลกใจทำไมลูกที่ถูกเลี้ยงมาโดยพ่อแม่แบบนั้น ทำให้ลูกที่เกิดมา toxic แบบนี้ ซึ่งพ่อแม่บูเมอร์คือพ่อแม่ของ gen y นี่แหละค่ะ
ถ้าไม่มีโดราเอมอน โนะบิตะคงเป็นโรคซึมเศร้า และ เป็นไม่ชอบเข้าสังคม (เก็บตัว) มาก 😢 [ผิดตรงไหนบอกด้วยนะครับ]
สังคมญี่ปุ่นคงมแงเป็นนีทมากกว่า
อาจจะตามพ่อโนบิสึเกะไปอีกคนแน่ๆ เพราะพ่อก็มีความเป็นอินโทรเวิร์สค่อนข้างมาก
แต่การมาของม่อน และไปย้อนอดีตเจอคุณปู่ เลยทำให้ความอินโทรเวิร์สของคุณพ่อ ลดลงไปมาก
อันนี้จะสื่อว่าอินโทรเวิร์ดเกิดจากการมีปมในจิตใจเหรอครับ ??
อาจจะถึงขั้นชินจิในเอวานเกเลี่ยน กับ ชูเล็ตต้าในกันดั้มแม่มดแน่นอน
@@AFcRVR ก็สวนหนึ่งน่ะ
เราว่าปรกติมากเมื่อเทียบกับยุคสมัยของกาตูน จากที่เคยได้รับฟังมาจากคนแก่สมัยก่อน ป้อนคำหวาน ให้กำลังใจ คมชม เท่าเที่ยม หลาย ๆ อย่างที่สมัยนี้ท็อคสิคสมัยก่อนแทบเป็นเรื่องปรกติ คนเลี้ยงลูกตามคำสอนและความเชื่อต่อ ๆ กันแบกรับ อะไรไม่เหมือนกัน เหมือนคนแก่จะบอกว่าสมัยนี้เด็กเปราะบางแต่สมัยก่ิอนพ่อแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกไม่มีเวลามาละเอียดอ่อนกับลูกขนาดนั้นเพราะอ่อนแอก็อดตาย 😢 เรามองว่ามันคือจมหมายเหตุมากกกว่า แสดงให้เห็นถึงยุกต์สมัยนั้น ๆ เหมือนกาตูนร์สมัยนี้ ถ้าย้อนให้คนแก่ดูคงตกใจ ตามเวลาหละครับ มองอะไรแบบนี้จะพาจิตหม่นหมองเอา เลือกที่จะมองจุดดีมากกว่าจุดด่าง
แม่แบบ toxic หนึ่งในนั้น คือ ริน บ้านนี้มีรัก เป็นแม่ที่ toxic สุด ๆ
1. ทะเลาะกับพ่อทุกวัน
2. จู้จี้ขี้บ่น
3. ชอบบังคับ
4. ไม่ฟังเหตุผลของใคร
5. เอาแต่ใจตัวเอง
6. ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี
7. ไม่ส่งเสียลูก (ให้รักจ่ายหมด)
เป็นแม่ในละครที่น่าตบสุด ๆ
และชอบใช้กำลังด้วยครับ ยิ่งลูกตัวเองแล้วให้คนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ส่งเสียแบบนี้นี่ สุดๆครับ
+1
ใช้กำลังบ่อย จนamber heardยังต้องกราบ ติดแค่ยังไม่ขี้บนเตียงแค่นั้น
เอาจริงๆนี่เป็น FC ชินจังนะอาจจะมีความ Bias แต่ส่วนตัวมองว่าแม่ชินจัง(มิซาเอะ)ดีกว่าแม่โนบิตะมาก มิซาเอะถึงจะขี้เหนียวบ้างแอบงกไปหน่อย แต่นางมีเหตุผลจะด่าจะตีนางบอกเหตุผลก่อนและกล้าที่จะขอโทษและกล้าที่จะเล่นกับลูกทั้งทีบางทีนางไม่จำเป็นต้องเล่นด้วยเบอร์ใหญ่ขนาดนั้นแต่นางก็ทำ ต่างจากแม่โนบิตะแม่โนบิตะคือแม่ที่ทุกคนไม่อยากมีจริงๆคือดูไร้เหตุผลมากบางที
พ่อแม่ยุคนั้นน่าจะเป็นแบบนี้กันปกติเลย ที่บ้านคุณแม่สั่งให้ทำอะไรคือขัดไม่ได้นะโดนบ่น บทจะเอาแต่ใจก็ไม่สนความรู้สึกลูกเลย เคยนะตอนกลับจากโรงเรียนมาเหนื่อยๆ ร้อนๆ อยากนอนพักแต่แม่ใช้ให้ไปซื้อของให้หน่อยได้ไหม พอบอกไม่อยากแม่ก็งอนใส่เฉยแล้วก็ไม่คุยด้วยเป็นวันเลย
สอบถามครับพี่ใช้ไมค์อะไรอัดเสียงครับ เสียงดีมากๆ เลย
ช่างเป็นคริปที่ลงถูกวันจริงๆ สุขสันต์วันแม่คร้าบบบ😊🎉❤
แม่เราก็เป็นแบบนี้ เราอายุ 34 แล้ว ก็ยังเป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ ตัดสินใจด้วยตนเองไม่ได้ ต้องถามเขาตลอดเวลา
ความมั่นใจในตัวเองก็ไม่มี จะทำอะไรก็ห้ามไปสะหมด
ถ้าที่บ้านอบอุ่น โนบิตะก็คงไม่ต้องพึ่งม่อนนะ อ. อาจจะปูทางมาทางนี้เพื่อให้เนื้อเรื่องมันสมเหตุสมผลละมั้ง ส่วนตัวไม่ได้อินกับครอบครัวโนบิตะและโดเรมอนขนาดนั้น เพราะจุดขายมันคือของวิเศษมากกว่า ส่วนตัวชอบครอบครัวชินจังมากสุดแล้ว แต่ก็พอเดาออกนะว่า มิซาเอะอาจแก่ตัวไปคล้ายแม่โนบิตะก็ได้ เพราะชินจังแสบกว่าโนบิตะเยอะ
ถ้าเป็นโฆษณาฮอลล์ ต้องส่งฮอลล์ซูทเตอร์ให้แม่โนบิตะ และส่งฮอลล์คูลให้โนบิตะ
จริงๆแม่โนบิตะโหดน้อยกว่าแม่ชิซูกะ รายนั้นกดดันลูกหนักกว่านี้อีก บังคับให้เรียนเปียโน แค่ลูกไม่ได้คะแนนเต็มมีวีน แต่ที่นางแสดงความโหดมากกว่าแม่ชิซูกะ ก็ดูนิสัยโนบิตะสิคะ ถ้าโนบิตะเป็นเด็กดีนางก็จะใจดีมากเลย
เอาตามตรงก็เพราะโนบิตะส่วนนึงอะที่เกเรตัวเองทำตัวเองทั้งนั้น จนแม่ไม่เชื่อใจ
ชีวิตจริง บ้างคนชอบนะมีลูกเเบบโนบิตะ ไม่เกเรสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็ดีเเล้ว
พ่อแม่ของเราไม่ได้ดุเลย ออกแนวสบายกว่าโนบิตะด้วยซ้ำ แต่นี่เข้าใจโนบิตะเรื่องนึงเลยคือ
เคยเล่าว่าสอบได้คะแนน 28/30 หรืออื่นๆ จะพ่อหรือแม่ก็บอกว่า กามั่วแล้วถูกรึเปล่า
หลังจากนั้นก็ไม่เอาเรื่องคะแนนสอบมาอวดอีกเลย เพราะรู้ว่าเขาจะตอบอะไรมา กลัวเสียใจอีก
7:10 เหมือนพ่อจะหน้าตาเปลี่ยนไปนะครับ😂
Ntr💀💀
คุณครูเป็นพ่อคนที่2 ของโนบิตะไง 555
ไม่เคยคิดมาก่อนเลย เพราะคิดว่ามันเป็นการ์ตูนที่ดูเเล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ได้จริงจังอะไร พอดูคลิปนี้เเล้วมันก็จริงเเฮะ ที่เเม่ของโนบิตะเป็นเเบบนี้จริงๆ เเย่มากๆ ถ้าเด็กคนไหนในชีวิตจริงมีเเม่เเบบนี้น่าเห็นใจ น่าสงสารมาก
ด้วยความที่เรื่องนี้ถูกเเต่งหลังช่วงสงครามโลกรอบสอง(ในเรื่องคือพวกผู้ใหญ่ล้วนผ่านช่วงสงครามที่ยากลำบากกันมาทั้งสิ้น) มันเลยมีความเป็นเบบี้บูมเมอร์ยุค 40-50 ที่ฝังรากยาวมานานเป็นหลายสิบปี ชุดค่านิยมสมัยก่อนที่ถือสุภาษิตรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี เเต่คนญี่ปุ่นไม่ตีเด็กเลยดุด่ารุนเเรงเเทน ห้องนอนลูกนี่เข้าออกเป็นว่าเล่นไร้การขอก่อน คิดว่างานบริษัทคืองานที่มั่นคงกว่างานสายอาชีพอื่น ไม่เห็นถึงพรสวรรค์ในตัวลูกซึ่งเอาตามตรง ก็เป็นพรสวรรค์ที่โตได้ยากด้วยในยุคนั้น คนเป็นพ่อของโนบิตะยังมีโมเม้นรักลูกสอนลูกดีกว่าเลย
ฉากเผาหนังสืออาหรับราตรีนี่คือโคตร toxic สำหรับวัยเด็กของผมเลย
จากปมการเลี้ยงดูนี้หรือไม่ว่าจะอะไรก็ตาม โนบิตะนายมีจิตใจที่เข้มแข็งมากกว่าลักษณะภายนอกเยอะ นายนี่เจ๋งชะมัด
โนบิตะเกิดช่วงพ.ศ.2507แม่โนบิตะน่าจะเกิดในช่วงราวๆสงครามโลกครั้งที่2คือแน่นอนแม่โนบิตะในวัยเด็กน่าจะลำบากมันก็ไม่แปลกที่แม่ๆในยุคนั้นจะเข้มงวดถึงแม่โนบิตะจะเข้มงวดผมว่าก็ไม่เท่าแม่ใจแอ้นหรอกอันนั้นมือตีนถึง
7:11 หืมมมมมมมมมมมมมม
7:10 นี่มันแปลกๆนะครับ55555 พ่อโนบิเปลี่ยนไป
ความเครียดของแม่โนบิตะต้องยอมรับว่ามาจากตัวโนบิตะด้วย เป็นเด็กที่ไม่มีอะไรดีเลย เรียนห่วย กีฬาแย่ แถมขี้เกียจอีก โดยเฉพาะขี้เกียจนี้คือที่สุดเลย พยายามได้นิดเดียวก็ล้มเลิก ไม่คิดแก้ปัญหาพึ่งพาโดเรม่อนตลอด แต่มักฉลาดใช้ของวิเศษในทางที่ผิด
เวลาเพื่อนแม่ ๆ พูดถึงลูกกัน ตัวเองจะเอาอะไรไปอวด มันเลยเก็บกดว่าฉันเลี้ยงลูกมาไม่ดีเหรอ ทำไมฉันแย่แบบนี้ เลยทำให้เห็นหน้าโนบิตะทีไรก็จะอารมณ์ขึ้น
ส่วนหนึ่งเพราะโนบิตะคือความคาดหวังด้วยแหละ เป็นลูกคนเดียว แต่ดูท่าอนาคตจะเอาตัวไม่รอด พ่อแม่ก็ต้องเครียดกันทั้งนั้น
เอาจริง ๆ วิเคราะห์การเลี้ยงลูกบ้านโนบิ ตอนเด็กโนบิตะอยู่กับย่า ติดย่ามาก โนบิตะได้นิสัยที่ดีมาจากย่า ในขณะที่พ่อทำงานไม่มีเวลาให้ แม่ก็ทำงานบ้านปล่อยย่าเลี้ยง สายสัมพันธ์พ่อแม่มีต่ำ พ่อแม่ดึงมาทางที่ถูกไม่ได้ เพราะคนที่โนบิตะไม่อยากให้เสียใจได้จากไปแล้ว
โนบิตะเป็นเด็กที่มี EF ต่ำมาก ไม่รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่รู้จักทำงานที่ต้องทำก่อนเล่นสนุก เห็นได้ว่ากลับบ้าน จะออกไปเล่นก่อนเสมอ ถ้า EF ดีต้อง กลับมาทำการบ้าน ช่วยงานบ้าน แล้วค่อยออกไปเล่น เรื่องนี้ต้องคิดก่อนจะไปสัญญาว่าจะไปเล่นกับเพื่อนด้วย
นั้นสิ นางจะเป็นแบบนั้นไม่แปลกอะทำตัวเองทั้งนั้นโนบิตะขี้แพ้สุดๆ
@@unpersilverstudio4741 แต่ผมไม่โทษโนบิตะเลยนะ เพราะที่โนบิตะเป็นแบบนี้เพราะพ่อแม่เลี้ยงมาไม่ดีพอ
พ่อแม่เอาแต่ทำงาน/งานบ้าน ไม่มีเวลาให้ น้อยครั้งมากที่จะเห็นพ่อกับโนบิตะทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนแม่นี้คืออยู่คนละมิติเลย
แล้วคือเอาแต่ดุด่าไม่ฟังเหตุผลทำให้โนบิตะกลายเป็นคนต้องโกหกเอาตัวรอดเพราะไม่อยากโดนด่า ทำให้แม่ไม่เชื่อในโนบิตะอีก กลายเป็นลูปวนไป
โนบิตะ ป4 คืออายุ 9 ขวบแล้ว บ่มเพาะ identity ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว นิสัยนี้จะติดตัวไปจนวันตายแก้ไม่ได้แล้ว โดเรม่อนมาสายเกินไป
ถ้าแม่โนบิตะใส่ใจลูกตัวเองสักหน่อยก็จะได้ความภาคภูมิใจที่มีลูกเป็นนักกีฬายิงปืนเยาวชนกับนักกีฬายิงปืนทีมชาติแล้วแท้ๆนะ
พูดงี้แปลว่าไม่ได้ดูโดเรมอนจริง โนบิตะยิงปืนแม่น และความฉลาดทางอารมณ์สูงคนนึงเลยนะ ถ้าโนบิตะเกิดในยุคคาวบอย หรือไปโตในอเมริกา ก็จะถูกยกย่องเลย แต่เอเชี่ยนมันบ้าเกรดบ้าการจัดอันดับความฉลาด พอออกจากโรงเรียนไปก็ติ๋มกันหมด
ว่ากันตรงๆแม่โนบิตะนี้ระดับความรักลูกพอๆกับแม่ของมุนดงอึนใน The Glory ด้วยซ้ำ (แถมแม่ชูเล็ตต้าในกันดั้มแม่มดอีกแรง)
สังเกตมานานแล้วนะหลายๆตอนนี่เวลาเจอไจแอนท์กับซูเนโอะบูลลี่ แทนที่จะช่วยกลับผลักไสไล่ส่งไปให้อยู่จุดนั้น เอะอะอะไรก็การบ้านๆๆๆๆๆ (จนอยากจะเรียนว่าเป็นราชินีการบ้านไปแล้ว)
ปล.เชื่อว่าถ้าแม่โนบิตะมีแฟนใหม่ขึ้นมา พอโนบิตะเถียง แม่ไล่ทำการบ้านแน่นอน
ตั้งแต่ผมดูช่องนี้มาก็ประมาณสักปีสองปีผมพึ่งเข้าใจวันนี้เองว่าช่องนี้ไม่ใช่ช่องสำหรับการ์ตูนเป็นช่องสอนคุณแม่สมัยใหม่นี่เอง หยอกกกก ติดตามอยู่นะครับบ
ลองตัดกลับมาที่มุมในแง่ดีของแม่ดูครับ ส่วนตัวแล้วเขาก็เป็นแม่ที่ดีครับ แต่แค่ความที่ว่าเจอโนบิตะทีไรก็มัวแต่ว่าตัวแม่ด่าแต่มันก็เพราะตัวโนบิตะด้วย ที่มัวสอบได้ศูนย์คะแนนตลอด ไม่เคยตั้งใจเรียน ไม่เคยพัฒนาตัวเอง คอยแต่ให้โดเรม่อนพึ่งพา และส่วนที่ในตอนที่โนบิตะสอบได้ดี แต่แม่ไม่สนใจก็เพราะในเรื่องแม่เขากังวลกับเรื่องๆนึงอยู่ แต่สุดท้ายแล้วแม่เขาก็ดูอยู่ดี แล้วส่วนที่แม่เห็นว่าโนบิตะเรียนดีโดนครูชมแต่แม่ไม่เชื่อก็เพราะสิ่งที่โนบิตะเคยทำมันไม่ดีอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ(ผมคนนึงที่เจอกับแม่เหมือนกัน)เลยทำให้ในมุมความคิดของแม่เป็นอย่างนั้น แต่ไอที่ว่าแม่ไม่ฟังลูกมันก็ไม่ถูกอย่างที่ว่าแหละครับและรวมถึงคำพูดที่ตัดพ้อลูกอันนั้นก็เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่คำพูดพวกนี้ก็แค่อยากจะให้โนบิตะลองคิดเองให้เป็น ลองให้คิดได้ว่าต้องทำอย่างนี้ๆ เพราะโนบิตะ แทบจะไม่เคยคิดได้เองเลย อยู่แค่บางตอน ถึงมันจะเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมกับลูก แต่มันก็เป็นสไตล์ แต่ละคนไม่เหมือนกันด้วย ส่วนตัวผมแม่ก็คือสีสันของเรื่องโดเรม่อนในส่วนหนึ่งครับ แล้วทั้งหมดที่กล่าวในคริปก็ไม่ต่างจากแม่ในชีวิตจริงซักเท่าไหร่เลยครับ ผมเลยมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของอารมณ์แม่ ถึงทุกคนจะคิดว่าแม่เขาเป็นแม่ที่แย่มาก แต่ก็มีตอนที่แสดงให้ถึงความรักความเป็นห่วงลูกที่แม่มอบให้กับลูก ไม่ใช่แค่ในซีรี่ย์หลัก แต่ก็รวมกับเดอะมูฟวี่ด้วย สำหรับใครที่ไม่เห็นด้วยก็ขอโทษด้วยครับ มันคือส่วนความคิดของผม ขอบคุณครับ
ผมเคยคิดเล่นว่า หลายๆตอนที่โนบิตะถูกไจแอนด์ซูเนโอะวิ่งไล่จนมาถึงหน้าบ้าน โนบิตะวิ่งร้องไห้มาหาโดราเอม่อน แล้วถ้าไม่มีโดราเอม่อนอยู่ละ จิตใจจะแย่ขนาดไหนจากการถูกบูลลี่
มิซาเอะ มีมิติกว่าเยอะเลย พอเทียบกับแม่โนบิตะ
เยอะครับ รับฟังเหตุผล จะด่าจะตีมีเหตุผลตลอด และนางกล้าที่จะขอโทษลูกด้วยถ้านางผิด ผมยกให้เป็นแม่ที่ดีคนนึงเลย
ชอบคอนเทนต์นี้มาเลยฮะ ขอบคุณที่ทำคอนเทนต์นี้น้าค้าบ 🙏😊
แนะนำครับ ถ้าใครรู้ตัวว่ามีนิสัยแบบแม่โนบิตะ ให้รีบไปโรงพยาบาลและไปทำหมันซะ จะได้ไม่ต้องสร้างปัญญหาในครอบครัวขึ้นมา เด็กเลือกไม่เกิดไม่ได้ แต่ตัวแม่ที่มีปัญหาเลือกที่จะไม่มีลูกได้
7:13 นั่นมันครูหนิ ไม่ใช่พ่ออออ
Plot twist: ครูคือพ่อที่แท้จริงของโนบิตะ
นี่แหละ ตัวละครที่ผมเกรียดที่สุดในโลก อนิเมะ
+1
จะว่าไปก็มีเพจไทยจัดดับคุณแม่toxicในอนิเมด้วย
มันจะมีโพลคุณแม่ดีเด่นในอนิเมบ้างมั้ยนะ
7:10 มันแปลกๆนะ
เรื่องที่คิดว่าต้องทำอะไรก็ได้ไม่ให้แม่โกรธนี่เป็นมาตั้งแต่เด็ก
อนุบาล ประถม มีแต่ความทรงจำลักษณะนี้ของแม่ แม่โกรธแรงมาก ทำไรก็เหมือนผิดไปหมด😢
รู้สึกว่าเป็นปมพอสมควร ทุกวันนี้วัยทำงานแล้ว ยังไม่หายกลัวแม่ด่า
กลับกลายเป็นว่าห่างเหินกับแม่ไปเลย ไม่ค่อยได้คุยกัน
นี่เลยไม่อินกับสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวเลย
0:42宿題 ชูคุได การบ้าน
問題 มนได ปัญหา
7:09 เดี่ยวๆ😅
ntr
55555 ไม่น่าทำไมครุถึงเขี้ยวเข็นจัง
แม่โนบิตะ สะท้อนญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก ทุกคนบ้างาน ต้องประหยัดทุกอย่าง เลี้ยงลูกแบบดุด่าลูก แต่ไม่มีเวลาให้ลูก ส่วนแม่ซุเนโอะก็ใช้เงินเลี้ยงลูก
แม่ชินจัง สะท้อนญี่ปุ่นยุคเศรษฐกิจเติบโต (ช่วงเข้าทศวรรษที่หายไป) พ่อทำงานคนเดียวเลี้ยงดูคนทั้งบ้านได้ พ่อว่างๆก็เล่นกับลูกกับหมา
Edit: ถึงแม่โนบิตะจะมีพฤติกรรมน่ารังเกียจ แต่สิ่งนึงที่แกไม่เคยทำคือด่าว่าโนบิตะโง่ มีแต่บอกว่าให้พยายามให้มากขึ้น ตั้งใจเรียนอย่ามัวแต่เล่น
โนฮาระ มิซาเอะ เป็นคุณแม่ที่ดีที่สุดแล้วววววว
ถ้าวันไหนที่โนบิตะโดนมากๆจนทนไม่ไหว แล้วลงมือลงไม้ใช้กำลังกับแม่ตัวเองนี่ก็ไม่แปลกใจ เพราะความอดทนคนเรามีอย่างจำกัด
ผมเคยลงไม้ลงมือกับพ่อไปครั้งนึง เพราะทนไม่ไหวจริงๆ กับคำพูดกวนประสาท ด่าผมเหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้
ถ้าอยู่ในยุคนั้นไม่ Toxic หรอครับ เรียกว่าเป็นเรื่องปกติเลย เรียกได้ว่าแม่แบบนี่เป็นพื้นฐานทุกครอบครัว
พี่ครับถามหน่อยครับ ตัวละครมาสคอตช่องพี่เป็นตัวอะไร มันคือก้อนเมฆมันคือเพนกวินหรือมันคือนกหรือมันคือกล้อง อะไรสักอย่าง ตอบเม้นผมทีครับ
คือ ถ้ามองอีกมุม
นี่ขนาดแม่Toxic ขนาดนี้ โนบิตะ ยังเหลวไหล เละเทะ เอาแต่ใจเลย
ถ้าแม่โนบิตะใจดี โนบิตะจะขนาดไหนอะ?? เรามองในมุมที่ต่างกันออกไป
- โนบิตะสอบได้ 0 บ่อย เเถมยังเอากระดาษไปซ่อน โกหกอีก คนเป็นแม่พอรู้แล้วจะยังไงต่อละ ให้กำลังใจ? พูดปลอบ? ในขณะที่ลูกตัวเองโกหก หลายครั้ง ขนาดแม่ด่าขนาดนี้ก็ไม่เปลี่ยน ถ้าเเม่ใจดีนี่คงว่าไม่ไป รร ละ
- ถึงบางมุม แม่เองก็อาจทำตัวไม่ดี เขาก็ไม่อยากให้ลูกตัวเอง มาทำตัวไม่ดี เหมือนกับเขาหรอก โนบิตะขโมย กระเป๋าตัง ใช้นู้นใช้นี่ อยากได้นั่นนี่ แต่ 2-3 วันก็เบื่อละ คิดสภาพนะ ซื้อจักรยานมาเพราะลูกอยากได้ แต่ ขี่ได้2-3 วันพอไม่ขี่ละ...ทิ้งให้มันเก่า คิดว่าแม่จะรู้สึกยังไงอะ? หลายบาทด้วยนะ และบ้านก็ไม่ได้รวย ไม่แปลกที่โนบิตะขออะไรแล้วจะไม่ได้
- ตอนนี้หลายๆคนในคอมเม้น ก็อาจจะไม่ชอบ แต่ลองโตเป็นผู้ใหญ่มีลูกก่อนแล้ว ถ้าลูกเป็นแบบ โนบิตะ จะทำยังไงกัน? เหมือนกับที่โนบิตะคิดนั่นแหละว่าถ้ามีลูกตัวเองจะใจดี ให้ค่าขนม สุดท้าย พอมาในอนาคต ลูกโนบิตะ ก็มาบ่นว่าพ่อ นู้นนี่ น่ารำคาญ ไม่ต่างจากโนบิตะบ่นแม่หรอก
ตัวแม่เองก็มีช่วงที่เป็นห่วงโนบิตะมาก รักมาก เหมือนกัน เอาความจริงเลย หลายครอบครัว ถ้ามีกินมีใช้ ก็จะอารมณ์ บ้าน ซูเนโอะ ถ้าลดลงมา ก็จะบ้านชิซุกะ แต่ซิซุกะเรียนดี ไม่ได้เหลวไหลอะไรมาก ก็อาจจะไม่ได้เข้มงวดมาก สุดท้าย ไจแอ้น อันนี้ก็โดนไม่ต่างจากโนบิตะเลย แค่ไจแอ้นมีความมั่นใจ แรง กำลังกายมากกว่า
ทั้งหมดนี่ก็คือชีวิตจริงที่แบ่งแยกเราในหลายๆแบบ ถึงอยากได้ความเท่าเทียม แต่สุดท้ายมันก็เหมือนเป็นแค่คำพูดหลอกตัวเองให้สบายใจแค่นั้น
มันมีหลายส่วนหลายมุมมอง
ทั้งดีและไม่ดี แต่โดยรวมมันก็คือ มนุษย์อะ (อย่างตอน สับเปลี่ยนแม่) ที่ทุกคนเคยพูดไว้❤❤
อันนี้ไม่ได้มองมุมใหม่เลย ถ้าแม่โนบิตะเป็นคนดี แต่ไม่ตามใจ ก็จะเป็นเด็กดีปกติ ถ้าอีกแบบคือแม่โนบิตะเป็นคนดีแล้วยังตามใจจะเกิดเด็กที่มีปัญหาเอาแต่ใจเหมือนแม่โนบิตะเวอร์ชั่นแรก
อีกตัวอย่างที่ข้างบนสงสัย(ไม่ใช่มองมุมอีกแบบ) ถ้าแม่โนบิตะเป็นคนดีแล้วโนบิตะยังเกเร? คำตอบก็คือเกิดได้จากสาเหตุโนบิตะไม่อยู่กับแม่ตั้งแต่เป็นเด็กทำให้สิ่งแวดล้อมที่เด็กอยู่เป็นคนสอนซึ่งเด็กวัยแค่นี้คงแยกไม่ออกหรอกว่าอะไรดีไม่ดี ทำให้เด็กรับทุกสิ่งมา หรืออีกแบบเลยอยู่กับแม่ปกติแต่เด็กยังเกเร? อันนี้เกิดได้หลายสาเหตุแต่ขอยกมาแค่หนึ่งอันพอคือให้เด็กทำงานช่วยพ่อแม่ วันหยุดต้องมาช่วยไม่มีเวลาเล่นกับเพื่อนๆจนเกิดการอิจฉาเพื่อนๆ จนทนไม่ไหวเกิดการประชดขึ้นทำให้ต้องหาวิธีที่จะไม่ได้ทำงาน คือ 1.เกรดตกต้องไปแก้ทำให้มีเวลาไปเล่นกับเพื่อน 2.งานค้างต้องทำวันหยุดซึ่งทำให้มีเวลาไปเล่นกับเพื่อนเพราะสามารถบอกว่าจะไปทำงานค้างกับเพื่อนๆได้ ทำให้เด็กไม่ต้องทำงานช่วยพ่อแม่ พอเกิดมากเด็กก็ทำเป็นเป็นนิสัย
ผมสามารถตอบได้ทุกข้อข้างบนได้ แต่ขอไม่พิมพ์ตอบทั้งหมด เพราะคำถามมันป่นกับความสงสัยและคำตอบซึ่งทำให้ตอบยากมาก ถ้าพิมพ์ตอบทั้งหมดให้เข้าใจ 5หน้ากระดาษa4 คงไม่พอ
ชอบครับ ประเด็นนี้น่าสนใจ เคยคิดแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
07:09 เดียวๆๆ พี่ นี่มันคุณครูไม่ใช่หรอพี่
เห็นคอมเม้นท์ ไปเทียบกับ มิซาเอะ แม่ชินจัง มันเทียบไม่ได้นะ เพราะชินจังเด็กแค่ 5ขวบ ทำไรผิดไม่ต้องโดนว่า เพราะ ไม่ต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งต่างกับ โนบิตะ ต้องมีความรับผิดชอบในหลายด้าน เมื่ออายุเข้าสู่วัยเรียน
จริงๆมันก็มีตอนที่โนบิตะ กับแม่อยู่ เช่นตอนเเม่กลายเป็นเด็กประถม หรือ ตอนปี2007 มั้ง จำไม่ได้เเล้ว55 แต่มันมีน้อยมาก เดอะมูฟวี่จะวางเป็นร้ายๆ ดุๆ ไรงี้ จะเน้นไปทางพ่อสะมากกว่า อาจจะเพราะสิ่งที่เคยเจอมา พ่อโนบิตะยังเคยคิดฆ่าตัวตายเลย
อยากลองเปิดให้แม่ฟังเลยครับ
มีพ่อแม่เป็นแบบ แม่โนบิตะเลย ไม่ฟังเหตุผล พออธิบายก็ตะคอกใส่ เอาชนะ ขนาดตัวเองทำไม่ถูกยังแถ ตะแบงฉอดๆ เคยหนีออกจากบ้านตอนประถม วันเดียวโดนตามเจอ เค้าไล่หาทีล่ะบ้านเลย ไปค้างบ้านเพื่อน 555+ โดนเอากุญแจบ้านปาใส่หน้าอีก
เคยหนีออกจากบ้านเหมือนกันสมัยประถม แม่ toxic มาก แต่หนีไปได้แค่หน้าปากซอยเพราะสำหรับเด็กโลกสมัยนั้นมันอันตรายจริง ๆ (เด็กเจอแก๊งหลอกไปขายหรือขอทาน เป็นต้น) ความกลัวทำให้เราย้อนกลับเข้าบ้านเพราะอย่างน้อยมันแย่ แต่ก็ยังไม่ถึงกับฆ่าเราตาย การเจอแม่ toxic ทำให้เกลียดวัฒนธรรมการรับน้องแบบไทยที่พวกรุ่นพี่ชอบทำตัว toxic
แม่โนบิตะ คงเข้าชิงรางวัลแม่ยอดแย่ได้ไม่ยากเท่าไหร่😂
หากพิจารณาจากยุคสมัยก็จะเข้าใจ เพราะหากเอาบรรทัดฐานของยุคนี้ไปจับมันไม่น่าจะเหมาะสม สมมุติในอนาคตรุ่นหลานรุ่นเหลนเรามองกับมาที่ยุคนี้ หลานๆเขาอาจนะมาว่าคุณในยุคนี้เช่นกัน
เอาจริงนะเราแอบเกลียดแม่ของโนบิตะอยู่นะแบบถ้าในชีวิตจริงมีแม่แบบนี้เราคงจะป่วยทางจิตน่าดูอ่ะ
นี่ไม่ได้ดูโดเรม่อนนานแล้วเพราะพล็อตจำเจไม่อัพไปตามยุคสมัย เปลี่ยนไปดูชินจังแทน เพราะชินจังพัฒนาเนื้อหาอยู่ทุกปี ปรับเปลี่ยนบุคลิกตัวละครให้เข้ากับยุคสมัยไม่เหมือนกับโดเรม่อนที่ไม่ปรับอะไรเลย แม่โนบิตะดูโรแมนติไซส์มาก
เอาปัจจุบันไปเปรียบเทียบอดีตไม่ได้หรอกค่ะ ในบริบทยุคนั้นไม่ได้เหมือนยุคเรา
แม่โนบิตะเป็นตัวแทนbaby bloomer(ความคิดแบบเก่า) แม่ชินจังจะออกแนวbaby bloomerปลายๆหรือไม่ก็gen y (มีความคิดแบบเก่ากับแบบใหม่ในเวลาเดียวกัน)
อย่างน้อยก็ยังมีใจทำงานบ้านกับไม่พูดอะไรที่ทำให้เสียอารมณ์(แบบคนเขาอยู่ดีๆก็เข้ามาทำเสียอารมณ์ทั้งบ้านอะ)😥😢
แต่ฟังไปฟังมาก็ใกล้เคียงแหะ
ขนาดช่วงแรกๆของชีวิต เคยทำได้ใกล้เคียงตัวละครแบบเดคิสึงิ
ก็ไม่รู้ไปสรรคหาtoxicจากไหนมาใส่เยอะแยะ
จนพักใหญ่เลยที่ไม่ไหว
ปัจจุบันออกมาเรียน กศน.ซะเลย
ยังดีที่ก่อนหน้านี้ทำดีไว้ประดับพอตัว เขาเลยมองว่าเป็นทางลัด(+ที่รร.คุณครูมีพฤติกรรมที่เขาไม่ชอบพอดีด้วย)
เมื่อก่อนไปรร.ธรรมดา ก็เจอสังคมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พออยู่บ้านก็เจอเรื่องอีก ล้าขนาดโทรศัพท์ยังไม่อยากเปิดเลย
แต่ก็ไม่วาย ขนาดตอนนี้เรียนวันเดียว ยังสรรหาเรื่องทะเลาะทั้งสัปดาห์
อะไรก็ไม่ขอ ไม่ได้อยากได้
ขออย่างเดียว คืออย่ากวนตอนวาดรูป
เพราะอยากวาดการ์ตูนแบบเต็มๆไประยะหนึ่ง ก่อนที่จะถึงอายุที่ต้องคิดเรื่องทำมาหากินอย่างเต็มตัว เพื่อไม่ให้รบกวนกับงานที่ทำเงินได้จริงๆ
ไม่อยากบอกว่าแม่เราก้กือบเป็นแบบนี้เหมือนกันค่ะชอบเอาเราไปเทียบกับคนอื่นด้วย ดีหน่อยที่พ่อเราคุมทุกอย่างอยู่ แม่เรายอมแพ้หนักมาก พ่อเราใจดีมากค่ะแต่ถ้าดุหรือว่าเมื่อไร ซึมเป็นเดือนเลย ใจดีนะแต่ถ้าดุแล้วยอมเลยค่ะ
อย่างนึงที่อยากให้คนที่คิดว่าจะเป็นหรือกำลังจะเป็นพ่อแม่คำนึงเวลาลูกมีผลการเรียนไม่ดีคือให้พยายามหาสาเหตุครับ หาสาเหตุไม่ใช่ว่าเห็นว่าเหตุผลนี้ใกล้มือดังนั้นต้องเป็นอันนี้แน่ๆ หาสาเหตุคือเข้าใจว่าไม่ใช่แค่ในเชิงของ narrative ว่าลูกบอกอะไร ครูบอกอะไร แต่เข้าใจสภาวะเป็นจริง อย่างครูบอกว่าลูกนอนเรียนบนพื้นทั้งวัน คุณควรตั้งข้อสังเกตแล้วว่าลูกอาจจะมีอะไรไม่เหมือนเพื่อนและเขาอาจจะไม่มีวันเหมือนแม้คุณจะอยากให้เขาเป็นแค่ไหน ยกตัวอย่างคือตัวผมเองนะครับ พ่อแม่ส่งเรียนเปียโน เรียนคุมอง เปียโนผมเรียนตอนป. 4 1 ปี ผมได้แค่ครึ่งของเล่มแรกเพราะครูสอนดนตรีบอกผมอ่านโน้ตไม่ได้ คุมองผมเรียนตอนป. 6 ก็ไม่พ้นการหารที่นับว่ายังเป็นขั้นพื้นฐานอยู่ มีอย่างเดียวที่ครูจะชมบ่อยๆคือผมได้ภาษาต่างประเทศค่อนข้างเร็วกว่าเพื่อน ผมเรียนจบมัธยมด้วยเกรคคณิต 1.0-1.5 ทุกเทอมแต่เป็นคนแรกๆที่ได้คะแนนผ่านเกณฑ์เพชรยอดมงกุฎภาษาญี่ปุ่นของจังหวัดบ้านเกิดเล็กๆ (แต่อันดับไม่ดีนะครับ 5555555) ตัดภาพมาตอนต้นปีนี้ ผมไปหาจิตแพทย์เพราะผมฝังตัวอยู่ในห้องตลอดเวลาจนพักการเรียนไปเลย หมอบอกว่าผมมีสภาวะ dyslexic แต่เพราะมันไม่ได้ชัดเจนแบบสับสนทุกครั้งที่อ่านหรืออะไรแบบนั้น ครูเอย พ่อแม่ผมเอย หรือแม้แต่จิตแพทย์เด็กที่เคยไปตอนเด็กๆก็คิดว่าปกติแต่แค่ดื้อ/ซนครับ ที่อยากจะบอกคือบางทีมันไม่ได้ดั่งใจแหละ แต่เราในฐานะคนดูแลเขาต้องใจเย็นๆนะครับ ถ้าเขาไม่ชอบก็ให้เขาเรียนอะไรที่ชอบ ถ้าเขาทำไม่ได้เราลองหาวิธีใหม่ที่จะช่วยเขา อย่าบีบเขาเข้าแม่พิมพ์ครับ คนก็หมือนต้นไม้ ปล่อยให้เขาเติบโต และยืนมือเข้าไปช่วยเมื่อจำเป็นหรือเห็นสมควรครับ
อีกตอนคือ
1. มีแขกมาบ้าน แล้วแขกพาลูกมาด้วย แม่โนบิตะก็ให้โนบิตะซึ่งกำลังจะไปเล่นเบสบอลกับเพื่อนๆ เล่นกับลูกของแขก ซึ่งลูกของแขกเอาตุ๊กตาที่เตรียมมา มาให้เล่น พอโนบิตะไม่อยากเล่น แม่โนบิตะก็บังคับ คือแบบเฮ้ยยยย ถามลูกหน่อยมั้ยว่าลูกสะดวกหรือเปล่า ลูกเขามีนัดกับเพื่อน เพื่อนต้องรอ เพื่อนต้องมาตาม เพื่อนมาเห็นแล้วล้อ
2. มีแขกมาบ้าน แล้วแขกพาลูกมา ทีนี้เด็กคนนี้ร้องไห้ง่าย แค่อ่านนิทานเศร้าก็ร้องทั้งที่ตัวเองเอาหนังสือมาให้อ่านเองแท้ๆ โนบิตะไม่อยากยุ่งเลยรีบออกไปเล่น โดราเอมอนก็เลยรับหน้าแทน พอโดราเอมอนอ่านนิทานให้ฟังก็ร้องไห้ แล้วกลายเป็นว่าแม่โนบิตะโทษว่าเป็นความผิดโดราเอมอน (ตอนแรกโดราเอมอนไม่เห็นด้วยที่โนบิตะชิ่งหนี แต่พอเจอกับตัวก็เลยเข้าใจว่าทำไมโนบิตะถึงไม่อยากยุ่งกับเด็กนั่น)
มันคือใช่น่ะตอนผมเป็นเด็ก จนตอนนี้ผม40ก็ไม่เลี้ยงลูกใก้เหมือนที่เคยโดนมา นี้ไม่รวมที่เคยโดนรังแกตอนเป็นเด็กน่ะ สู้ๆลูกใครที่โดน😊
พอมาฟังแบบนี้แล้วมันก็แบบ เอ้า นี่มันฉันกับแม่ฉันเลยนี่หว่า ทรงเดียวกันเลย
เหมือนแม่ผมตอนเด็กเวลาทำผิดหรือเสียมารยาทโดนเรียกไปนั่งคุย1-2ชั่วโมง แม่โมโหร้ายมาก แต่พอโตก็พอเข้าใจเพราะแม่ก็โดนเลี้ยงมาแบบโหดร้าย แต่พอเป็นน้องแม่ก็เลิกเลี้ยงน้องแบบผมละ เพราะผลกระทบที่ได้คือผมเป็นเด็กเกเรแล้วดันไปเรียนช่างกลตำรวจ เจ้าหน้าที่มาหาที่บ้านบ่อย555เสียเงินหลายเเสน
เหมือนแม่ผมทุกอย่างเลยครับ
ไม่ว่าชายหรือหญิง โตหรือไม่โต พอเจอการพูด(ที่อ้างว่าดุเพื่อสอน) แบบที่ไม่ฟังอะไรเลย หรือยิ่งพูดยิ่งแย่ ก็ไม่มีใครอยากฟังหรอกค่ะ สุดท้ายมันก็ทำให้เด็กได้แค่พยายามสกัดอารมณ์ไม่ให้แสดงออกไปให้แย่กว่าเดิม จนเก็บกดหรือมีปัญหาในการจัดการอารมณ์ หัดโกหกเพื่อไม่ต้องฟังหรือแม้แต่พูดในเรื่องที่แค่ไม่อยากคุยจนลามไปถึงเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวัน แล้วก็ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปเร็วๆ จนกลายเป็นคนไม่สนใจหรือไม่สามารถให้ความสนใจหรือสำคัญกับอะไรโดยง่าย และความจำสั้นจากการถูกเทรนที่สมองเพื่อลดทอนความเจ็บปวด ซึ่งพอวันนั้นมาถึงเขาก็แทบจะไม่อยากหันกลับมามองอีก
สุดท้ายการทำแบบนั้นมันก็แค่การสนองทางอารมณ์ของผู้ใหญ่เพื่อตัวผู้ใหญ่เอง โดยใช้เด็กมาเป็นข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนเองเท่านั้น