BMW i5 M60 ดีกว่า Tesla ทุกอย่าง ยกเว้น Software ในราคา x2
HTML-код
- Опубликовано: 3 окт 2024
- 1 วันเต็มๆ กับ BMW i5 M60 รถยนต์ไฟฟ้าที่แรงระดับรถสปอร์ต แต่พกความหรูหรามาแบบจัดเต็ม ทำทุกอย่างดีกว่า Tesla ต่างกันตรง Software ที่ยังด้อยกว่าพอควร ในราคาสูงกว่า 2 เท่า นำเข้าจากเยอรมันทั้งคัน
ติดต่อโฆษณาที่
Email : kritanu.vis@gmail.com
Instagram : Paknamfoto
FB : Paknam536
หัวข้อมีอ้างถึงเทสล่าด้วย เลยอยากแจมด้วย แต่ก่อนยอมรับว่าความคิดว่าเทสล่าเป็นรถที่ภายในเรียบๆเกินไปไม่ชอบเลย แต่หลังจากได้ลองใช้ขับอยู่2วัน กลับชอบความเรียบๆภายในของเทสล่า มันไม่รกและด้วยความเรียบของมันทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง ตอนนี้ชอบมากสบายตาดี ส่วนซอฟแวร์ เจ๋งสุดแล้ว รอ Y Jupiter
Neptune แทนได้มั้ย 55 Jupiter
@@pu7768เนี่ย ผมรอคุณมาตบมุขอยู่เนี่ย จะแป้กอยู่แล้ว 55555 juniper
ถ้าพูดถึงความเป็นยนตรกรรม เป็นรถยนต์ เป็นยานภาหนะ BMW ชนะแบบไม่ต้องลอง ไม่ต้องขับ ทั้งการออกแบบในแบบของรถที่ควรจะเป็น ลองการใช้งานรับการใช้งานแบบใช้รถยนต์ เทสล่าคือเทคโนโลยีชนะ อย่างเดียวเลยค่ะ ถ้าเทคโนโลยี ไปทางเทสล่าได้เลย ถูกกว่าด้วย แต่ถ้า Petrol head และเงินถึง ยังไงก็มาทาง BMW ค่ะ
BMW เป็นมาตรฐานรถที่ขับสนุกและขับดี เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกอยู่แล้ว 😊 แต่รถไฟฟ้า มีระบบอิเล็กทรอนิกส์มากและต้องใช้ซอฟต์แวร์มาช่วยจัดการเยอะ ยันช่วยขับขี่แบบ ออโต้ไพลอท 😊 เหมือนโน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ฮาร์ดแวร์แทบไม่ต่างกัน แต่เครื่องหนึ่งมีโปรแกรมช่วยตัดต่อ ระดับมืออาชีพ ทำให้เครื่องนั้นที่มีซอฟต์แวร์ดีๆ น่าใช้มากกว่าอีกเครื่อง สำหรับผมแล้ว รถยนต์ในอนาคต มีซอฟต์แวร์ที่ดี ช่วยขับ ช่วยเซฟตี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากครับ😊
ณ ตอนนี้ขอเลือก Tesla model 3 per ชอบมาก
เพราะส่วนที่เกินมายังไงก็ไม่ได้ใช้ ซื้อเทสล่าได้2คันดีกว่า
เหมือนผมตอนแรกผมอยากได้ IX3 M SPORT PRO สรุปผมเอา Xc40 2 ล้าน กับ M3H 1.6 ล้าน เพราะรถ EV ต้องมีสลับขับแล้วก็จริง รถโดนเฉี่ยวทำสีประมาณ 1 เดือน 🤭 ถ้าออก IX3 โดนเฉี่ยวก็ไม่ขัวร์ว่าเขาจะมีรถให้ใช้ไหม
เคยไปลองนั่งเบาะแถวหลังของ i5 แล้วนั่งไม่สบายเลย สอบไม่ผ่านอย่างแรง
มันต้องเทียบ model s ไหมครับ i5 เทียบจาก มิติตัวรถ
ส่วน model3 เทียบ sieres3 รึป่าว
ไม่แน่ใจนะครับ
BMW vs Cadillac ค่ายใหนมีเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่ากัน
ผมเลือกที่รถขับให้เราดีกว่า
ผมใช้ iX40 กับ iX2 อยู่ จะบอกว่าจริงๆระบบ Auto One Paddle ของ BMW ไม่มีนะครับ ถ้าจะอธิบายให้ถูกต้องคือ ระบบ Regen ของ BMW มีให้ตั้งค่าอยู่ 4 ระดับ คือ ต่ำ กลาง สูง และ Adaptive ซึ่งต้องเข้าไปตั้งค่าในหัวข้อการขับขี่บนหน้าจอ iDrive
ถ้าต้องการขับแบบ One Paddle เหมือน Tesla Model 3 Highland คือต้องเข้าไปตั้งค่า Regen เป็นระดับสูง หรืออีกวิธีคือ เข้าเกียร์ B
ส่วนในคลิปคือตั้งระบบ Regen เป็น Adaptive คือรถจะเอาเรดาร์ที่ตรวจจับรถคันหน้าเข้ามาร่วมประมวลผลและปรับการ Regen โดยอัตโนมัติ ถ้าถนนโล่ง รถจะปล่อยไหล เพื่อให้ได้ระยะทางวิ่งมากที่สุด และเมื่อเริ่มเข้าใกล้รถคันหน้า รถจะเริ่มปรับระดับการ Regen ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในการใช้งานบางครั้งถ้าเจอรถปาดหน้าเข้ามากระชั้นชิดในจังหวะที่เรายกคันเร่งอยู่ รถจะ Regen แรงเลย ทำให้คนนั้งเวียนหัวได้ ส่วนตัวแนะนำให้ปรับ Regen เป็นระดับ ต่ำ หรือกลาง กำลังดี แล้วถ้าช่วงไหนอยากขับแบบ One Paddle ค่อยเปลี่ยนเกียร์ไปที่ B ครับ
ขอขอบคุณที่มาแชร์ประสบการครับ
สำหรับพารากราฟสุดท้ายที่พี่อธิบายมา นี่แหละครับคือหลักการ Auto 1 Pedal
เพียงแต่ว่าแต่ละแบรนด์เค้ามีวิธีเรียกระบบของเค้าต่างกันออกไปครับ
รถที่มีระบบเหมือนกันอีกเจ้าคือ Volvo XC40, C40 MY 24 มีเหมือนกันครับ ใช้หลักการเดียวกับพารากราฟที่พี่อธิบายเด้ะๆ เลยครับ
ขอยกตัวอย่างเรื่องชื่อเรียกแต่ละแบรนด์ที่ต่างๆ กัน
อย่างที่เจอกันบ่อยๆ คือระบบ ACC + ADAS + LKAS
บางแบรนด์เรียกระบบกลุ่มนี้รวมกันเป็น Pilot Assist บางแบรนด์เรียกเป็น Autopilot บางแบรนด์เรียกเป็นระบบ EyeSight, Sensing
ถึงยังไง มันคือการให้ผลที่เหมือนกันครับ
ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ประสบการกันครับ 🙏
B นึ่ถ้ายกเท้าจะถึงจุดหยุดนิ่งไหมครับ
@@TheKorndodo หยุดครับ
@@TheKorndodo B หน่วงจนหยุดเลยครับ
@@iPeck ขอบคุณมากนะครับ
ยอมเลือกเทสล่าถ้าเราไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี