Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
กราบสาธุครับ
ชวลิต ฉวีอังกาบ รับฟังทุกวันครับ กับภรรยาครับสาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ🎆🎆🎆🙏
สาธุ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ
กราบอนุโมทนาสาธุ
สาธุ อนุโมทนาธรรมครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอให้ท่านอย่ไปนานเท่านานเป็นหลักชัยของศาสนา. สาธุ
Super like 04
สุดยอดของพระ
สาธุ สาธุ สาธ🙏
ควรเอาพระสงฆ์เถรวาทมาสอนศีลธรรมในโรงเรียนเหมือนเดิมนะคะ
🌻 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 🌹
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
Like
🙏🙏🙏
กราบขอบพระคุณท่านเจ้าประคุณอาจารย์มากครับ
อยากรู้ที่มาของสมถกรรมฐาน40 มีคนบอกว่าไม่มีในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เพิ่งมาใส่ในฉบับ มจร. มันเป็นสักกายทิฏฐิหรือเปล่า
ลองอ่านตรงนี้นะคะ..***กรรมฐาน 40 แบ่งเป็น 7 หมวดคือ1. กสิณกรรมฐาน 10 อย่าง2. อสุภกรรมฐาน 10 อย่าง3. อนุสสติกรรมฐาน 10 อย่าง4. พรหมวิหารกรรมฐาน 4 อย่าง5. อรูปกรรมฐาน 4 อย่าง6. อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 อย่าง7. จตุธาตุววัฏฐาน 1 อย่างรวมทั้ง 7 หมวดเป็น 40 อย่างพอดี www.meemodo.com/kamathan.html***สักกายทิฏฐิ สก (ของตน) + กาย (ที่ประชุม) + ทิฏฺฐิ (ความเห็น)ความเห็นว่าเป็นกายของตน ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตามสภาพธรรม เช่น ยึดถือ ขณะที่ว่า เห็น เป็นเราที่เห็น เป็นเราที่ได้ยิน เป็นต้นสักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่เป็นพื้นฐาน เป็นอนุสัยกิเลสซึ่งมีอยู่กับทุกบุคคลที่ไม่ใช่พระอริยะ เรียกว่า ทิฏฐิสามัญ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดทิฏฐิพิเศษที่มีโทษมากได้ เช่น สัสสตทิฏฐิ อเหตุกทิฏฐิ อกิริยทิฏฐิ นัตถิกทิฏฐิ คือ เห็นว่าบุญไม่มี บาปไม่มี และ สักกายทิฏฐิ ยังแบ่ง เป็น ๒๐ ประการ ด้วย ลักษณะของความยึดถือ ว่าเป็นตัวตน มีลักษณะ หลายประการ ๒๐ ประการมีดังนี้ครับ๐๑. เห็นรูปเป็นตน คือ ขณะที่เห็นผิดยึดถือว่า รูปร่างกายเป็นเรา (ตน) อุปมา เหมือนเห็นเปลวไฟและสีของเปลวไฟเป็นอย่างเดียวกัน๐๒. เห็นตนมีรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่มีรูปร่างกาย อุปมา เหมือนเห็นต้นไม้มีเงา๐๓. เห็นรูปในตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเรา และรูปอยู่ในนามที่เรา อุปมาเหมือนกลิ่นในดอกไม้๐๔. เห็นตนในรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่อยู่ในรูปร่างกาย อุปมา เหมือนแก้วมณีในขวด๐๕. เห็นเวทนาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความรู้สึกเป็นเรา (ตน) อุปมาโดยนัยเดียวกันกับรูป๐๖. เห็นตนมีเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็นเรา และเรามีเวทนา๐๗. เห็นเวทนาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีเวทนาในเรา๐๘. เห็นตนในเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในเวทนา๐๙. เห็นสัญญาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความจำเป็นเรา (ตน)๑๐. เห็นตนมีสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีสัญญา๑๑. เห็นสัญญาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีสัญญาในเรา๑๒. เห็นตนในสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในสัญญา๑๓. เห็นสังขารเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า สังขารตัวปรุงแต่งเป็นเรา๑๔. เห็นตนมีสังขาร คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีสังขาร๑๕. เห็นสังขารในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีสังขารในเรา๑๖. เห็นตนในสังขาร คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในสังขาร๑๗. เห็นวิญญาณเป็นตน คือในขณะที่ยึดถือว่า วิญญาณเป็นเรา (ตน)๑๘. เห็นตนมีวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และเรามีวิญญาณ๑๙. เห็นวิญญาณในตน คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และมีวิญญาณในเรา๒๐. เห็นตนในวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในวิญญาณwww.dhammahome.com/webboard/topic/20349
... 84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=354 ...
กราบสาธุครับ
ชวลิต ฉวีอังกาบ รับฟังทุกวันครับ กับภรรยาครับสาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ🎆🎆🎆🙏
สาธุ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ
กราบอนุโมทนาสาธุ
สาธุ อนุโมทนาธรรมครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอให้ท่านอย่ไปนานเท่านานเป็นหลักชัยของศาสนา. สาธุ
Super like 04
สุดยอดของพระ
สาธุ สาธุ สาธ🙏
ควรเอาพระสงฆ์เถรวาทมาสอนศีลธรรมในโรงเรียนเหมือนเดิมนะคะ
🌻 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 🌹
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
Like
🙏🙏🙏
กราบขอบพระคุณท่านเจ้าประคุณอาจารย์มากครับ
อยากรู้ที่มาของสมถกรรมฐาน40 มีคนบอกว่าไม่มีในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เพิ่งมาใส่ในฉบับ มจร. มันเป็นสักกายทิฏฐิหรือเปล่า
ลองอ่านตรงนี้นะคะ..
***กรรมฐาน 40 แบ่งเป็น 7 หมวดคือ
1. กสิณกรรมฐาน 10 อย่าง
2. อสุภกรรมฐาน 10 อย่าง
3. อนุสสติกรรมฐาน 10 อย่าง
4. พรหมวิหารกรรมฐาน 4 อย่าง
5. อรูปกรรมฐาน 4 อย่าง
6. อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 อย่าง
7. จตุธาตุววัฏฐาน 1 อย่าง
รวมทั้ง 7 หมวดเป็น 40 อย่างพอดี www.meemodo.com/kamathan.html
***
สักกายทิฏฐิ สก (ของตน) + กาย (ที่ประชุม) + ทิฏฺฐิ (ความเห็น)
ความเห็นว่าเป็นกายของตน ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตามสภาพธรรม เช่น ยึดถือ ขณะที่ว่า เห็น เป็นเราที่เห็น เป็นเราที่ได้ยิน เป็นต้น
สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่เป็นพื้นฐาน เป็นอนุสัยกิเลสซึ่งมีอยู่กับทุกบุคคลที่ไม่ใช่พระอริยะ เรียกว่า ทิฏฐิสามัญ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดทิฏฐิพิเศษที่มีโทษมากได้ เช่น สัสสตทิฏฐิ อเหตุกทิฏฐิ อกิริยทิฏฐิ นัตถิกทิฏฐิ คือ เห็นว่าบุญไม่มี บาปไม่มี และ สักกายทิฏฐิ ยังแบ่ง เป็น ๒๐ ประการ ด้วย ลักษณะของความยึดถือ ว่าเป็นตัวตน มีลักษณะ หลายประการ ๒๐ ประการมีดังนี้ครับ
๐๑. เห็นรูปเป็นตน คือ ขณะที่เห็นผิดยึดถือว่า รูปร่างกายเป็นเรา (ตน) อุปมา เหมือนเห็นเปลวไฟและสีของเปลวไฟเป็นอย่างเดียวกัน
๐๒. เห็นตนมีรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่มีรูปร่างกาย อุปมา เหมือนเห็นต้นไม้มีเงา
๐๓. เห็นรูปในตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเรา และรูปอยู่ในนามที่เรา อุปมาเหมือนกลิ่นในดอกไม้
๐๔. เห็นตนในรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่อยู่ในรูปร่างกาย อุปมา เหมือนแก้วมณีในขวด
๐๕. เห็นเวทนาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความรู้สึกเป็นเรา (ตน) อุปมาโดยนัยเดียวกันกับรูป
๐๖. เห็นตนมีเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็นเรา และเรามีเวทนา
๐๗. เห็นเวทนาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีเวทนาในเรา
๐๘. เห็นตนในเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในเวทนา
๐๙. เห็นสัญญาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความจำเป็นเรา (ตน)
๑๐. เห็นตนมีสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีสัญญา
๑๑. เห็นสัญญาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีสัญญาในเรา
๑๒. เห็นตนในสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในสัญญา
๑๓. เห็นสังขารเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า สังขารตัวปรุงแต่งเป็นเรา
๑๔. เห็นตนมีสังขาร คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีสังขาร
๑๕. เห็นสังขารในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และมีสังขารในเรา
๑๖. เห็นตนในสังขาร คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในสังขาร
๑๗. เห็นวิญญาณเป็นตน คือในขณะที่ยึดถือว่า วิญญาณเป็นเรา (ตน)
๑๘. เห็นตนมีวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และเรามีวิญญาณ
๑๙. เห็นวิญญาณในตน คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และมีวิญญาณในเรา
๒๐. เห็นตนในวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น เรา และเรามีอยู่ในวิญญาณ
www.dhammahome.com/webboard/topic/20349
... 84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=354 ...