"ปัญญารู้ทันอนิจจัง" สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต
HTML-код
- Опубликовано: 6 сен 2024
- วัดญาณเวศกวัน สามพราน นครปฐม
ธรรมบรรยายเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๑
หมวด ธรรมบรรยายปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑
เรื่อง มีปัญญารู้ทันอนิจจัง หันหลังให้ตัณหามาสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้ากันให้เต็มที่
@punjanin
7 ก.พ. 66
ฟังธรรมโดยความรู้สึกตัว และไม่ปรุงแต่ง เข้าใจ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทำชีวิตให้เจริญ ไม่เสื่อม สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
Buddha has the highest wisdom to understand the link between natural laws/ mechanisms and sufferings. Such wisdom allows us to deal with sufferings wisely and correctly.
ท่านอธิบายคำว่า
"ฉันทะ,ตัณหา,วิจิกิฉา
อุเบกขา,ไตรลักษณ์,
(อนิจจัง ทุกขัง อนันตา)
ปฏิจจสมุปาท,เหตุปัจจัย"
เปนคุณูปการยิ่งแก่การเจริญ
สมาธิ(สมถวิปัสสนากรรมฐาน)
กราบนมัสการท่าน
ขออนุโมทนาสาธุครับ
การให้คะแนน,ประเมินแบบ รูบริค มาจากพระพุทธเจ้าเป็นต้นฉบับนี่เอง สาธุ.
สาธุๆๆ
อนุโมทนาด้วยครับ ผมได้อ่านหนังสือหลายเล่มที่ท่าน ป.อ. ปยุตโต เขียนไว้ รวมทั้งที่รวบรวมจากปาฐกถาธรรมในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับสังคมในแง่มุมต่าง ๆ เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาก และผมมีหนังสือ "พุทธธรรมฉบับปรับขยาย" ที่ขอมาจากวัดญาณเวศกวัน ได้อ่านหลายครั้งตามวาระโอกาส ท่านพูดและเขียนได้ละเอียดมากครับ เข้าใจไม่ยาก นับเป็นปราชญ์ทางพุทธศาสนาท่านหนึ่งที่ผมเคารพนับถือในยุคนี้
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊ฃ😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊ฃ😊😊😊😊ฃฃ😊😊😊ฃ😊😊😊😊😊😊ฃ😊😊😊😊ง😊ฃ😊ฃ😊😊😊😊😊ฃ😊😊😊😊😊😊😊ฃ😊😊ฃ😊😊ง😊ฃฃฃฃฃฃฃฃ😊ฃ😊ฃฃฃฃ😊ชชชขฃ😊
กราบนมัสการเจ้าประคุณสมเด็จ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ด้วยจิตอันระลึกคุณอย่างสูงยิ่ง
Thanks our brilliant Buddhist monk to confirm and teach us Buddha s wisdom.
ชวลิต ฉวีอังกาบ สาธุในธรรมเทศนาของท่านป.อ. ปยุตฺโต
สาธุ สาธุ สาธุ
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าคะ
ติดตามผลงานของท่านเจ้าคุณมานานครับ ทั้ง พุทธธรรมและ วิธีคิดตามหลักพุทธธรรม อื่นๆอีกมากมาย
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
กราบสาธุในพระธรรมเทศนาเจ้าค่ะ
สาธุครับ
ขอกราบนมัสการ พระรัตนตรัย... ด้วย ความเคารพ อย่างสูงสุด... 🙏🙏🙏
ขอกราบนมัสการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต... ด้วย ความเคารพ อย่างสูงยิ่ง... 🙏🙏🙏
กราบขอ อนุโมทนา ในบุญ ของทุกๆท่าน... ด้วย ความเคารพ อย่างสูง... 🙏🙏🙏
กราบขอ ขมา ในโทษล่วงเกิน ทุกๆท่าน... หากว่ามี... ด้วย ความเคารพ ครับ... 🙏🙏🙏
ขอกราบนอบน้อมสาธุธรรมเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏❣️
ขอนอบน้อมกราบสาธุคุณพุทธะบารมีธัมมะบารมีสังฆะบารมี เหนือเศียรเกล้าเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ
🍇🍇🍈🍈🍊🍊🍋🍋🍍🍍🥭🥭🍎🍎🍏🍏🍐🍐🍑🍑🍒🍒🍓🍓🫐🫐🍅🍅🫒🫒🫑🫑
อยาก เพื่อบำเรอ (สันสกฤต.ปราถนา)
ฉันทะ อยากให้สิ่ง(ทั้งคนทั้งสัตว์)นั้นๆให้เขาอยู่ในภาวะที่ดีเต็มที่ของมัน
🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุธรรม ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏
หลวงพ่อท่านอยู่สูงมากๆ กราบอนุโมทนาสาธุด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ...
กราบนมัสการ..ครับ
ฉันทะ พาไปสู่ความสว่าง แต่ตัณหา นำไปสู่ความมืด สาธุ
น้อมกราบสาธุ... เจ้าค่ะ🙏🙏🙏😇💓
กราบนมัสการ สาธุในพระธรรมเทศนาเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ กราบอนุโมทนา
กราบสาธุพระธรรมคำสอนเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
สาธุท่านป.อ.ประยุตฺโตธรรมบรรยายเรื่องปัญญารู้ทันอนิจัง นายชวลิต ฉวีอังกาบ
สาธุๆขอความไม่รู้แจ้งจงถูกกำจัดไปด้วยคำสอนที่ถูกต้งาน...ได้ฟังธรรมจากพระเดชพระคุณทำให้เกิดปัญญาตาม
กราบอนุโมทนาค่ะ
ข้าพเจ้าน้อมกราบไหว้บูชาพระรัตนตรัยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ 🙏🙏🙏
สาธุในธรรมอันประเสริฐ
อนุโมทนาสาธุในธัมมบรรยาย 🙏🙏🙏
ขอน้อมกราบสาธุสาธุสาธุขอรับ
๓ ๓ ๖๖ ถวายความเคารพเจ้าพระคุณสมเด็จฯ
🙏🙏🙏
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
กราบสาธุสาธุเจ้าค่าบูชาธรรมอันประเสริฐกราบสาธุ
🙏🙏🙏คุณพระรัตนตรัยฯลฯ
สาธุครับสาธุ นมัสการขอรับพระคุณเจ้าผู้ทรงธรรม สาธุ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ฉันทะ..แปลว่าใฝ่ดี..ตัณหา..แปลว่าใฝ่ต่ำ..ได้ไหมครับ..สาธุ
กระผม เคยจำได้ คำสอน ของหลวงพ่อ เอง สรุปว่า ฉันทะ คือ อยาก ทำ อยาก รู้ ส่วน ตัญหา คือ อยากได้ อยาก เสพ นะ
ลอง พิจารณา ซิ
สาธุ🙏🙏🙏
สาธุครับ คนที่อัปคลิป น่าจะตั้งค่าไม่ให้มีโฆษณาแทรก ผู้ฟังจะได้ไม่ถูกขัดจังหวะในการฟังธรรมครับ แนะนำเฉยๆครับ ควรไม่ควรแล้วแต่จะพิจารณาครับ
มีโฆษณาบางทีก็เป็นการฝึกสติ สมาธิไปในตัวนะครับ ได้สังเกตจิตตัวเองว่าหงุดหงิดรำคาญหรือเปล่า
ขอบคุณค่ะ อนุโมทนา เพิ่งเปิดฟังตลอดคลิป วันนี้ไม่มีโฆษณาค่ะ
กราบสาธุ
น้อมกราบสาธุ. . .
กราบสาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
สาธุ
กราบสาธุเจ้า
บางสำนัก สอนอยากสงบนั่งสมาธิเป็นตัญหา
🙏🙏🙏🌺💐🌻🙇♀️
กลับไปอ่านและดูรูปประกอบดีๆนะ...จะได้ตาสว่างสะที!!ถึงว่าล่ะทำไมถึงไม่มีใครรู้ตัวกันสักที...อ่านๆๆๆ ในพุทธประวัติก่อนปรินิพพาน..
ดูกร...(ตรงนี้ดันอ่านว่าดูกะระ)!!!
อานนท์:อุบาสกชื่อจุนทะผู้ถวาย...
☆สูกร. มัทวะ ...(ตรงนี้ก็อ่านแบบเดียวกัน!)
คือดูและฟังก่อน..!!!!
"การถวาย ซึ่งเป็นอนิสสงส์มากมีอยู่" สองครั้ง"!
คือก่อนตรัสรู้ " ครั้งหนึ่ง!...!!!!
ครั้งนั้นเมื่อ เสวยอาหาร ของนาง.
" สุชาดาตถาคตก็ถึงกิเลสนิพพานคือดับกิเลส !ครั้งหลังเสวยอาหาร. ของนายจุนทะบุตรช่างทองเราก็นิพพานด้วยขันธนิพพาน คือ ดับขันธ์อันเป็นกรรมที่ยังเหลืออยู่ถ้าใครๆจะกล่าว.
ตำหนิจุนทะขอให้เธออธิบายให้เขาเข้าใจ และถ้าจุนทะเดือดร้อนใจจงเล่าให้เขาคลายวิตกเถิด "อาหารของจุนทะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายสำหรับ ตถาคต"
"ขันธปรินิพพาน"=ดับกิเลส การเสด็จดับขันธ์ ของ พระพุทธเจ้า.....!!!!!
___________________________________________
อ่านดีๆ. สิ่งที่เป็นในคำทำนาย"
เมื่อวันที่พระอริยะเมตไตรย์อุบัติ...
"น้ำจะท่วมฟ้า" "ปลาจะกินดาว"
"มนุษย์จะรู้ ในสิ่งที่ไม่เคยรู้(อจินไตย).
"จะเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น" มนุษย์จะสามารถขี่ลมไปได้ในพื้นที่และอากาศมีรอยงูในที่ต่ำจะถูกถม ให้สูง ในที่สูงจะถูกขุดแผ่นดินให้ราบเรียบ"
"ชนชาติผิวขาวจะย่นย่อระยะทางให้สั่นเข้า โลกจะเล็กลง คนจะพูดทางไกลจะได้เห็นหน้ากันและกัน. โลกจะมีตาทิพย์ หูทิพย์ เสียงทิพย์บนท้องฟ้า จะมีลูกไฟพุ่งเข้าหากัน คนจะพกพา อสรพิษติดกายไว้ต่อสู้เพราะ อวิชาโจรผู้ร้ายตา2 ชั้นจะนำพิษมาทำลายโลก.
มนุษย์ผู้หญิงจะกลายเป็นผู้ชาย !ผู้ชายจะเป็นผู้หญิง!
☆ขึ้น๔ค่ำ .ผู้มีบุญจะลงมาเกิดพร้อมหนังสือ ใบลานนี้ถ้าไม่มีอยู่ในบ้านเรือนบ้านช่องของผู้ใด. จะมีแต่พวกผีปีศาจร้ายเข้าทำลายอย่างแน่แท้!...
☆ในปี"จอ" นี้เมืองเวียง 'จันทร์จะมีองค์ฤษี. ทอง. คำสิกขาลา. บวชออกมาเป็นพ่อค้า..ในปี. "จอ"ขึ้น๘ค่ำ..
...
☆พระสงฆ์องค์หนึ่ง ได้เห็นเนื้อในอักษร"ธรรม"เขียนจารึกไว้บนก้อนหินศิลาที่พึ่ง
โผล่พ้นจากพื้นดินในป่าแห่งหนึ่งที่พระรูปนี้ได้เดิน"ธุดงค์ วิปัสสนากรรรมฐาน...ผ่านไป..
พระอินทร์จะลงโทษมนุษย์ใจบาป 9ข้อนับแต่ปีจอถุงปีกุน..ข้อ8 กับข้อ9.
●๘.จะเกิดอดอยาก"..!!!
●๙.จะเกิดอาฆาต ฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนบาป..!!!
ต้องอ่านหนังสือ พุทธธรรมของท่านก่อน ผมว่าจะช่วยให้ฟังเข้าใจมากขึ้นเมือมาฟังท่านเทศ ศัพท์บางศัพท์อาจฟังไม่เข้าใจถ้าคนที่ไม่เคยอ่านมาก่อน
ต้องถามว่ามีภูมิปัญญาพื้นฐานความรู้แค่ไหนคับ
●จะแปลให้อ่านความตรงความหมายให้นะ.!
●ละความเป็นตัวตนเราไปก่อน แล้วจะเห็นว่า ไม่มีเราหมายถึงอะไร!.
☆☆☆"ปาราชิก"
พรพระพุทโธวาททรงกำหนด
โดยตรัสเป็นอักษรไว้ว่า:คำว่า"ปาราชิกนี้หมายถึง
ประเภทของ. ▪︎โทษ▪︎ที่เกิดจากการล่วงละเมิด
สิกขาบทประเภท
》》》ครุกาบัติ《《《
●คำที่ใข้กำหนดที่นำไปพูดกล่าวเรียกว่า อาบัติปาราชิก"
คำศัพท์ว่า ปาราชิกนั้น,
แปลความหมายว่า▪︎ ยังผู้ต้องพ่าย ▪︎หมายถึง
●ผู้ต้องพ่ายแพ้ในตัวเองที่ไม่สามารถปฏิบัติ
ในพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ได้,
"ปาราชิก" มี 4 ข้อ
. อยู่ใน ศีล 227ข้อ
คือทั้งหมดที่มี 227 ข้อในศีลเป็นข้อห้ามปพฤติห้ามปฏติบัติทุกข้อที่มีอยู่ในนั้นทั้ง 227.ทุกข้อเป็น อาบัติ"
●ปาราชิก! ●
รวมทั้งหมด227ข้อมีความหมาย 4. ประเภท!
1,เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉาน (ร่วมสัมพันธ์ทางเพศกับมนุษย์ หรืออมนุษย์ หรือสัตว์ แม้แต่ซากศพก็ไม่ละเว้น)
2 ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ได้ราคา 5 มาสก (5 มาส
กเท่ากับ 1 บาท)
3,.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) แสวงหาและใช้เครื่องมือกระทำเอง หรือจ้างวานฆ่าคน หรือพูดพรรณาคุณแห่งความตายให้คนนั้น ๆ ยินดีที่จะตาย (โดยมีเจตนาหวังให้ตาย) ไม่เว้นแม้แต่การแท้งเด็กในครรภ์
4.!กล่าว(พูดอธิบายไปมีความหมายอื่นจากสิ่งที่อ่าน)
อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวเองว่า เรารู้อย่างนี้ เราเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)ยกเว้นเข้าใจตัวเองผิด
●อาบัติปาราชิกทั้ง 4 นี้
เป็นอาบัติหนักที่เรียกว่า ☆อเตกิจฉา☆ คือแก้ไขไม่ได้เลย
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง
แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที .
เมื่อความผิดสำเร็จ เมื่อขาดจากความเป็นพระแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่พระภิกษุอีกต่อไป .
ไม่สามารถอยู่ร่วมกับภิกษุอื่นหรือคณะหมู่สงฆ์ได้
เลย ต้องลาสิกขาบทออกจากเป็นพระภิกษุทันที
มิฉะนั้นจะกลายเป็นพวกอลัชชี (แปลว่า ผู้ไม่ละอาย)
นอกจากนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาบวชใหม่ได้
เลยตลอดชีวิต แม้จะบวชเข้ามาได้ก็ไม่ใช่
● พระภิกษุที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย,
นอกจากอาบัติปาราชิกทั้ง 4 ที่มีอยุ่ในพระวินัยนี้แล้ว
ยังมีคำสอนต้องห้ามสำหรับ》พระภิกษุที่เหมือนกับอาบัติปาราชิก
●ซึ่งก็คือ" อกรณียกิจ 4 "คิอ
กิจที่สมณะไม่ควรทำ
ซึ่งอยู่ในส่วนของคำสอน》อนุศาสน์ 8 ประการ่《
ภิกษุผู้เป็นอุปัชฌาย์
จะต้องมีหน้าที่บอก
อกรณียกิจ 4 ประการ
แก่กุลบุตรผุ้ที่กำลังจะเข้ามา
บวชเป็นพระภิกษุใหม่
ทันที เพราะมันล่อแหลมทำให้ต้องอาบัติง่ายๆ
จนขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที และนอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่คอยระลึกเตือนใจ
ภิกษุเก่าผู้บวชมาก่อนว่าสิ่งนั้นทั้งสี่ข้อไม่ควรทำ....
■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■
ละตัวตนคืออะไรคับ แนะนำท่านไปเปลี่ยนชื่อเสียคับ พระพุทธเจ้าสอนอะไรคับ พระพุทธเจ้าให้ละกิเลสตัณหา ที่มีอยู่ในตัวตนเราคับ พูดง่ายๆว่านิสัยสันดานที่มีความโลภโกรธหลง นิสัยสันดานเสียที่มีอยู่ในตัวตนเราคับ มันเป็นสภาวะอารมณ์มันเป็น อนัตตา ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่เขา ไม่ใช่เรา อัตตากิเลสราคะ ตัวตนเราที่มีจิตใจเป็นอกุศลกรรม (กิเลสราคะ นี้แหละที่เป็น อนัตตา ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช้เขา ไม่ใช่สัตว์ แต่มันมีการเกิด~ดับ ของกิเลสราคะอยู่ในตัวตนเราคับ จริงต้องเรียกว่า อหังการ ที่แปลว่า อัตตา ส่วน อาตมัน เเปลว่าตัวตน ความอหังการ คือ อัตตา ) อย่ามาป่วนคับ เดียวจะไม่เหลือตัวตนคับ จะเรียกแต่ชื่อ ก็นามรูป ติดข้างฝาบ้านคับ
ความทุกข์เกิดจากความประพฤติชั่วทุจริตทางใจ (คิดชั่วในใจ)
มโนทุจริต ความประพฤติชั่วด้วยใจ, ความทุจริตทางใจมี ๓ อย่าง
๑. อภิชฌา ความเพ่งเล็งอยากได้จ้องจะเอาของเขา
๒. พยาบาท ความขัดเคืองคิดร้าย
๓. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากคลองธรรม
(ข้อ ๓ ในทุจริต ๓)
อกุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมชั่ว, ทางแห่งกรรมที่เป็นอกุศล,
กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ทุคติ มี ๑๐ อย่าง คือ
ก. กายกรรม ๓ ได้แก่
๑. ปาณาติบาต การทำลายชีวิต
๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่
๔. มุสาวาท พูดเท็จ
๕. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด
๖. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ
๗. สัมผัปปลาปะ พูดเพ้อเจ้อ
ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่
๘. อภิชฌา ละโมบคอยจ้องอยากได้ของเขา
๙. พยาบาท คิดร้ายเขา
๑๐. มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากคลองธรรมเทียบ กุศลกรรมบถ
อภิชฌา โลภอยากได้ของเขา, ความคิด เพ่งเล็งจ้องจะเอาของของคนอื่น (ข้อ ๘ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
...เห็นความเป็นอนิจจัง โคตรเหง้ากิเลสพังครืน...เห็นความแปรปรวนของขันธ์ห้า อวิชชาหัวหด...เห็นความไม่จีรังของสรรพสังขาร พระนิพพานไม่ไกลเเกินเอื้อม...!
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบสาธุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆเจ้าคะ
สาธุๆๆ
สาธุ🙏🙏🙏
หนังสือพุทธธรรมซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ
🙏🙏🙏
สาธุๆๆๆๆๆๆ
🙏🙏🙏
สาธุๆๆๆค่ะขอบคุณค่ะ💐🌻🦚🌿🙏🙏🙏👍🍧🐉
กราบสาธุครับได้ฟังพระเดชพระคุณบรรยายแล้วดุจดั่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเสมือนท่านยังมีชีวิตอยุู่ในปัจจุบันทุกวันนี้ครับ
ขอกราบนอบน้อมด้วยเศียรเกล้าเเก้พระรัตนตรัยขอรับ
พระพุทธองค์สอนให้รู้ความจริงของกฎธรรมชาติแต่ต้องรู้อย่างเข้าใจเข้าถึงและพัฒนาคือเอาความจริงที่รู้เข้าใจมาทำให้เกิดประโยชน์ใดยไม่มีโลภโกรธหลงและการทำให้ถึงทีี่สุดเช่นรู้อนิจจังเราจะทำอย่างไรให้เป็นนิจจังเป็นต้น
คุณต้องเข้าใจไตรลักษณ์ก่อนคับ ไตรลักษณ์มี 3 อนิจจัง~ทุกขัง~อนัตตา ส่วนไตรลักษณะมี 2 อนิจจัง:อนิจจา คุณต้องไปเข้าใจให้ลึกคับ ไตรลักษณ์แปลว่า 3 ไตรลักษณะหรือสามัญลักษณะมี 2 ลัก
๑.เป็นธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย(ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานา สงฺขารา)
~สงฺขารา~สังขารา = สิ่งที่เป็นไปแปรปรวนตามธรรมชาติ (สังขารร่างกายนี้ไม่เที่ยงจากเด็กเป็นผู้ใหญ่มีความเปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปตามธรรมชาติ)
~สงฺขตา~ สังขตา = เพราะสังขตาทั้งหลายเป็นธรรมชาติที่ประกอบด้วยปัจจัยปรุงแต่ง
(สังขารขันธ์ ในขันธ์ 5 เป็นนามธรรม คือเป็นธรรมชาติที่เกิดจากความคิดปรุงแต่ง)ต้องแยกให้ออกก่อนนะคับ
สติปัฏฐาน ๔ ประการ อะไรบ้าง
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑. พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้
๒. พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ
มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้
๓. พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้
๔. พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ
มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้
(อภิชฌาและโทมนัส อภิชฌา อยู่ในมโนกรรม อกุศลกรรมบถ 10 “อภิชฌาแปลว่าความละโมบโลภมากอยากได้ของผู้อื่น (กิเลส ราคะ~โทสะ~โมหะ) พระพุทธเจ้าให้ละนี้คับ กิเลสราคะที่มีอยู่ในตัวตนคุณอ่ะคับ ไม่ใช่ละตัวตนคับ ทำจิตใจให้ปราศจากกิเลสราคะ จิตใจที่เป็นอกุศลกรรม ละออกจากตัวตนคุณบ้างนะคับ “จาคะ” คือคานกิเลสราคะ ออกมาจากตัวตนคุณบ้างนะคับ มันเป็นสิ่งของปฏิกูลเป็นขยะคับเป็นสิ่งไม่ดี อย่าหมักดองของสกปรกไว้นานคับ มันจะเป็นอนุสัย คือ จะเป็นนิสัยสันดาน จนเป็นอุปนิสัยกิเลสคับ (ละสังโยชน์ ละฉันทะ กามราคะ กาม หมายถึง รูป~เสียง~กลิ่น~รส~โผฏฐัพพะ(สัมผัสทางกาย) กามคุณ 5 นี้แหละคับ ราคะ แปลว่า ความโลภ ฉันทะ คือ ธรรมฝ่ายกุศลกรรม จะละทำไมคับความพอใจ (สังโยชน์ 3 คือให้ละ ราคะ~โทสะ~โมหะ กิเลสตัวสำคัญนี้คับ อยู่ในอกุศลกรรมบถ 10 คือ มโนธรรมทุจริต ความประพฤติชั่วทางใจคับ ความคิดชั่ว โลภโกรธหลง ( ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางสายเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของ
เหล่าสัตว์ เพื่อล่วงโสกะและปริเทวะ เพื่อดับทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม
เพื่อทำให้แจ้งนิพพาน ทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ
ความทุกข์เกิดจากความประพฤติชั่วทุจริตทางใจ (คิดชั่วในใจ)
มโนทุจริต ความประพฤติชั่วด้วยใจ, ความทุจริตทางใจมี ๓ อย่าง
๑. อภิชฌา ความเพ่งเล็งอยากได้จ้องจะเอาของเขา
๒. พยาบาท ความขัดเคืองคิดร้าย
๓. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากคลองธรรม
(ข้อ ๓ ในทุจริต ๓)
อกุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมชั่ว, ทางแห่งกรรมที่เป็นอกุศล,
กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ทุคติ มี ๑๐ อย่าง คือ
ก. กายกรรม ๓ ได้แก่
๑. ปาณาติบาต การทำลายชีวิต
๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่
๔. มุสาวาท พูดเท็จ
๕. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด
๖. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ
๗. สัมผัปปลาปะ พูดเพ้อเจ้อ
ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่
๘. อภิชฌา ละโมบคอยจ้องอยากได้ของเขา
๙. พยาบาท คิดร้ายเขา
๑๐. มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากคลองธรรมเทียบ กุศลกรรมบถ
อภิชฌา โลภอยากได้ของเขา, ความคิด เพ่งเล็งจ้องจะเอาของของคนอื่น (ข้อ ๘ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
~สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์(ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ) สังขารขันธ์คือ ความคิดปรุงแต่ง คำพูดที่ไม่เที่ยงไม่มีสัจจะวาจาน่าเชื่อถือ คำพูดโกหกหลอกลวง พูดปลดพูดเท็จ “สัจจะวาจาคำพูดไม่ซื้อตรง มันไม่เที่ยงไงคับมันเลยเป็นทุกข์ใจคับ ปรุงให้มันเที่ยงก็ไม่ทุกข์คับ”(รูปขันธ์ เป็น อนิจจัง ไม่เที่ยงเปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปตามปัจจัยตามธรรมชาติ เราไม่สามารถบังคับไม่ให้แก่ชราได้คับ ถ้าเขาไปยึดว่าเราจะไม่แก่ชรา ไม่ป่วย มันก็เป็นทุกข์ใจคับ )