เนเธอร์แลนด์ สมรสเท่าเทียมชาติแรกของโลก กับทางต่อสู้ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ | GLOBAL FOCUS #77
HTML-код
- Опубликовано: 13 июн 2024
- ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองในเดือน Pride Month ซึ่งสถานที่หลายแห่งถูกประดับประดาด้วยธงสีรุ้งสดใส แสดงถึงการโอบรับความหลากหลายทางเพศ
Global Focus สัมภาษณ์พิเศษ แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ในฐานะที่ท่านเป็นชาว LGBTQIA+ ซึ่งสมรสมานานกว่า 15 ปี และมาจากเนเธอร์แลนด์ ชาติแรกของโลกที่เปิดให้คนเพศเดียวกันสมรสกันได้เหมือนคู่รักชายหญิง เพื่อเปิดมุมมองถึงเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของชุมชน LGBTQIA+ ที่ต่อสู้จนมีวันนี้
---------------------------------
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง : bit.ly/3Naelc3
ติดตาม THE STANDARD ในช่องทางอื่นๆ
Website : thestandard.co/
TikTok : / thestandardth
Facebook : / thestandardth
Twitter : / thestandardth
Instagram : / thestandardth.ig
#เนเธอร์แลนด์ #สมรสเท่าเทียม #GlobalFocus #TheStandardNews #PrideMonth #LGBTQIA
ทรัมป์ เสี่ยงคุกคดีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊ อนาคตการเมืองสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร
▶ruclips.net/video/SxDoLtyqawM/видео.html
ทำไมในโปรยหัวมี "ของจริง"
ใคร "ของจริง" ใคร "ของปลอม" ใครตัดสิน?
นิสัยช่าง Judge ของ The Standard นี่แก้ไม่หายเลยนะ
แบ่งขั้ว เลือกข้าง ตาชั่งเอียง
Standard Deviation คงเป็นชื่อเต็ม
ผาดหัว topic แบบเนี้ย ดูสร้างความแตกแยก สมรสเท่าเทียมในแต่ละเป็นประเทศ และ Regions มีบริบทที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่สังคม ศาสนา และผู้คนที่หลากหลาย ไม่มีอะไรที่แท้กว่า หรือบริสุทธิ์ ปชต ก็เช่นกัน
เรายังไม่เปิดกว้างเท่าเขา
แต่เรากำลังเรียนรู้อยู่
เรียนรู้ไปด้วยกัน
อย่างน้อยตอนนี้เราก็ได้ก้าวไปอีกก้าว
ชอบคำนี่ครับ " แต่เรากำลังเรียนรู้"
รู้สึกติดใจช่วงที่ท่านทูตพูดถึงโรงเรียนของลูกๆมาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติมาตรฐานสูง เพราะหากเป็นโรงเรียนโดยทั่วไปของไทยที่คนไทยส่วนใหญ่เรียนกัน สถานการณ์ไม่น่าจะเป็นเชิงบวกแบบท่านทูต...
เนื้อหาดีมากครับ
ขั้นต่อไปอยากให้มีการแปลงเพศรวมใน 30 บาท จริงๆรัฐบาลก็มีโยนหินถามทางเรื่องนี้แต่ก็มีคนออกมาต่อต้านฉ่ำ แล้วคนต่อต้านสมาทานแนวคิดฝ่ายซ้ายด้วยนะ
เห็นด้วยนะคะ แต่เรื่องนี้พวกฝ่ายขวาหรือฝ่ายขวาจัดไม่ยอมแน่นอนค่ะ กว่าจะผ่านได้ก็คงกินเวลาหลายสิบปี หรืออาจจะเป็นไปไม่เลย
ท่านทูต ดีมาก
ตอนนี้ข่าวอินเดียก็เอาสมรสเท่าเทียมของเราไปออกข่าว เหมือนกัน
Love win❤
เดอะเนเธอแลนด์ เหมือนไปไกลกว่าเรา50ปี เขาคิด คำนึง ประมวลผล และทำจริงจัง
อัตราการเกิดของมนุษย์คงไม่สำคัญเท่าสิทธิเสรีภาพทางเพศ ประเทศใหญ่ๆของเอเชียส่วนใหญ่เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เขาคงมองเห็นอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ต่อต้านกฎหมายเหล่านี้อยู่
ต้องบอกว่าสองเรื่องนี้ การเกิด และสิทธิความเท่าเทียมทางเพศคือคนละเรื่องกันค่ะ
เพราะ ณ ปัจจุบันก่อนกฎหมายจะผ่าน อัตราการเกิดน้อยลงอยู่แล้ว เพราะสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และสภาพสังคมที่อยู่ยากขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่ก็คิดหนักขึ้นในการจะมีลูกสักคน จะเลี้ยงอย่างไรให้โตมามีคุณภาพ
ซึ่งกลุ่ม LGBQIA+ เค้ารู้ตัวของเค้าอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะโฟกัส ก็ไปดูฝั่งสเตรทกับสเตรทเถอะค่ะ ว่าทำไมไม่อยากจะมีลูกกัน
แต่ถ้าเอาจริงๆ การที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมา และถ้าในอนาคตก็คือมีสิทธิ์รับบุตรบุญธรรมมา จริงๆเป็นผลดีมากกว่าผลเสียอีก เพราะการที่คนเริ่มต้นด้วยความรักที่แท้จริง จะส่งต่อความรักให้เด็กที่จะโตมาอย่างเต็มอิ่มในอนาคตค่ะ 😊
ปล. เราพูดในฐานะสเตรทที่สามารถมีบุตรได้ และมุมมองต่อสังคมปจบ.และมุมมองของคนรอบข้างส่วนใหญ่ค่ะ รวมถึงเรามีเพื่อนกลุ่ม LGBTQIA+ จึงมองว่าพวกเค้าจึงสมควรได้รับสิ่งนี้ เพราะเค้าก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรัก ป่วยได้ ตายได้ จึงควรพึงมีสิทธิ์เท่าชายหญิงในการตัดสินใจเรื่องชีวิตเค้าและคู่ของเค้าค่ะ
การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แต่งงาน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอัตราการเกิด เพราะต่อให้ไม่ให้เค้าแต่งกับเพศเดียวกัน เค้าก็ไม่ได้จะหันมาแต่งกับต่างเพศอยู่แล้ว ตรรกะว่าคนจะเกิดน้อยลง มันเป็นตรรกะที่อิหยังวะ มากๆ ตรงกันข้ามถ้ากม.อนุญาติให้คู่รักเพศเดียวกัน ให้ใช้การรักษาภาวะมีบุตรและรับรองบุตรให้ตามกฏหมาย จะมีคนเกิดเพิ่มด้วยซ้ำ
อัตราการมีบุตรของมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับค่าครองชีพเป็นส่วนใหญ่
เมื่อสิ่งมีชีวิต นั้นรู้สึกว่าชีวิตมั่นคง และปลอดภัย สิ่งต่อไปที่สิ่งมีชีวิตจะทำก็คือ สืบพันธุ์ครับ
ถ้าหากคุณไปดูผลสำรวจคุณก็จะรู้ว่าคนรวยนั้นมีลูกเยอะ(ในประเทศชนชั้นกลางขึ้นไป ไม่นับประเทศที่มีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขาดความรู้เรื่องการคุมกำเนิดบุตร)
แต่กลับกัน ถ้าเรามาดูประเทศที่เป็นชนชั้นกลางขึ้นไป หรือประเทศที่ร่ำรวย คนส่วนใหญ่ของประเทศจะมีลูกน้อยคน หรือไม่มีลูกเลย ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่ก็มีต่างๆนานาไป ส่วนใหญ่แล้วเหตุผลก็จะกลับมาที่ว่า เพราะค่าครองชีพสูง ทำให้การรับผิดค่าครองชีพของลูกมีราคาแพงไปด้วย เพราะฉะนั้นการมีลูกในบางประเทศที่เป็นชนชั้นกลางขึ้นไป หรือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ถึงได้เป็นอภิสิทธิ์ของคนรวยมากพอนั่นเอง คนที่ไม่รวยพอ ไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกและ ใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่ต้องการได้ ในพร้อมๆกัน แน่นอนคนส่วนใหญ่ก็ต้องเลือกเอาทรัพยากรที่มี ไปใช้ชีวิตของตัวเองอยู่แล้วถ้าเลือกได้ แต่ถ้าหากเรามีทรัพยากรมากพอ และการมีลูกไม่ได้ทำให้เราลำบากมากนัก มนุษย์ก็เลือกที่จะมีลูก เพื่อส่งยีนของเผ่าพันธุ์ตัวเองต่อไป
Cancel
Reply
😢 👍🏻 💕
12:25
โรแมนติกมาก🥹🥹🤍🤍
ชาติที่พัฒนาเขาเห็นประชาชนเป็นหลักและสำคัญ แต่ไทยทำไร ค้านอย่างเดียว ฝ่ายค้านก็ค้านๆๆๆๆๆๆๆอยู่นั่นแหละ
ข่อยไปยากตายกะบ่เห็นข่อย
😅😅😅😅😅
ที่กฏหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน เพราะพุงโลขาถ่างหัวไม่หวีกีไม่ล้างเป็นทอมแต่ประชาธิปไตย กระจายอำนาจ อด
.. พึ่งจะรู้หรือ ? ... สวีเดน - เดนมาร์ก ก็เช่นกัน ..
ผึ้งได้กินใช่กินเพียงตัว ทางครอบครัวก็อิ่มกัน จะมาพึ่งจะรู้อะไร❤❤
รู้ยังว่าปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ได้เป็นนางจักรวาลปี 31 แล้วนะ
ลุ้นรัก นักขุดทอง
😂😂😂
สมัยนี้แล้วยังมีคนพูดแบบนี้อยู่เหรอ?..
ทัศนคติน่าจะต่ำตมเหมือนโคตรเง่าอ่ะเนาะ ถึงได้กล้ามาแสดงความคิดเหนอะไรแบบนี้
มีเม้นแบบ นี้อีกหรอ
@@nuits.8815ตราบใดที่ประเทศเรายังด้อยพัฒนาเรื่องการศึกษาอยู่ ก็จะยังคงมีคนประเภทนี้อยู่ในสังคม ทนๆเอาหน่อย คิดซะว่าเป็นสีสันของสังคม ถ้าไม่มีคนประเภทนี้อยู่ เดี๋ยวสังคมจะน่าอยู่จนเกินไป😂 เดี๋ยวมันจะน่าเบื่อ
❤️💗💛🩵💚🧡