ไม่ฆ่าแต่กินผิดศีลหรือไม่
HTML-код
- Опубликовано: 6 сен 2024
- ได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล ประธานสงฆ์วัดนาป่าพง ลำลูกกาคลอง 10 ปทุมธานี ผู้เปิดธรรมที่ถูกปิด …พระธรรมคือพระพุทธ
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
ช่องยูทูป ทุ่งศรีอุดม66 : youtube.com/@T...
ช่องยูทูป ทุ่งศรีอุดม : youtube.com/@b...
แหล่งสืบค้นข้อมูล: watnapp.com/
ที่ตั้ง:maps.app.goo.g...
_______&&&&&&&&&_______
#พุทธวจน #พระอาจารย์คึกฤทธิ์ #พุทธศาสนา #พระพุทธเจ้า #กรรม #กิเลส #ตาย #ทุ่งศรีอุดม
_____****____
#พระอาจารย์คึกฤทธิ์ #พุทธวจน #พุทธศาสนา #reels #กรรม #กิเลส #พระพุทธเจ้า #ทุ่งศรีอุดม #ตาย #ตายแล้วไปไหน
สาธุ ๆๆ ครับ
สาธุๆๆ
ศีลข้อที่1 พระสอนว่าห้ามฆ่าสัตว์ แต่เมื่อคนฆ่าสัตว์ ทำอาหารอร่อยๆมาถวาย พระก็ฉันอย่างเอร็ดอร่อย อย่างนี้แสดงว่ายินดีต่อการฆ่าหรือไม่ครับ และทำให้ศีลข้อที่1 ด่างพล้อยหรือไม่ครับ และการที่พระติดยึดในรสอร่อยของเนื้อสัตว์จะบาปมั้ยครับ ผมเคยทดลองกินมังสวิรัติมา1ปีกว่า รู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้นมากเลย มีเมตตาต่อสัตว์มากขึ้น รู้สึกสงสารสัตว์ จิตไม่คิดฆ่าสัตว์อีกเลย อีกอย่างหนึ่งด้านกายภาพของมนุษย์ทางวิทยาศาสตร์ได้วิจัยมาแล้วว่าไม่ใช่สัตว์กินเนื้อ เพราะสัตว์กินเนื้อจะมีเขี้ยวที่ยาว มีกงเล็บที่แหลมคม มีลำไส้ที่สั้น เช่นเสือ แมว สุนัข ชนเผ่าฮันซา เขาไม่กินเนื้อสัตว์เลย อายุของพวกเขายืนยาวมาก บางคน120ปียังนั่งยิ้มอยู่เลย และ800ปีมานี้ ไม่มีใครเป็นมะเร็งเลย
....มีพระสูตรของฝ่ายมหายาน อยู่สูตรหนึ่ง เกี่ยวกับการไม่กินเนื้อสัตว์ที่ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้แปลไว้ ชื่อว่า ลังกาวตารสูตร น่าสนใจมาก หาฟังได้ในยูทูป
...อีกอย่างหนึ่งศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา การกินก็ควรใช้ปัญญา ไม่ยึดติดทั้งในเนื้อสัตว์ และไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่เนื้อสัตว์มันมีรสชาติที่อร่อยกว่าผักผลไม้ การละเนื้อสัตว์ได้น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
....ทุกชีวิต ย่อมรักชีวิตตัวเอง แล้วทำไมต้องไปฆ่าสัตว์อื่นให้เขาเจ็บปวดทรมาน เพื่อความอร่อยเพียงเล็กน้อยที่ปลายลิ้นของเราเล่า
....พระส่วนมากจะอ้างถึงพระเทวทัตที่ขอพระพุทธเจ้าว่า พระภิกษุต้องเว้นจากเนื้อสัตว์ แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาติ เราทุกคนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น เชื่อได้หรือว่า เรื่องนี้ไม่ได้เขียนเสริมเข้าไปในภายหลัง เพราะที่ศึกษามา สมัยก่อนจะถ่ายทอดคำสอนปากต่อปาก แบบมุขปาฐะ กว่าจะได้บึนทึกเป็นตัวอักษรก็400กว่าปีมาแล้ว
....นี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ได้มีอคติใดๆทั้งสิ้น
หลักฐานทางพระพุทธศาสนา ในโลกต้องย้อนไปในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ เมื่อ พศ.234 หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน และกระจายคำสอนไป 9 สาย ทั่วโลก ส่วนมาในสุวรรณภูมิ ทุกวันนี้ก็ยังตั้งอยู่ที่ประเทศอินเดียค่ะ สามารถไปดูได้ค่ะ...สาธุ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เป็นคอมเม้นแรกที่ผมประทับใจ เห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านผู้เจริญ และมีปัญญา ท่านกล่าวได้ถูกต้อง
ถ้าพระภิกษุสอนให้คนถือศีลข้อที่1 สำเร็จจริงๆจนเกิดเมตตาในจิต รับรองไม่มีเนื้อสัตว์ให้ฉัน เพราะ ถ้าฆ่าเองศีลขาด ใช้ให้คนอื่นฆ่าศีลทะลุ ยินดีในการฆ่า(กิน) ศีลด่างพล้อย มิจฉาอาชีวะ5 ในข้อที่3 พระพุทธเจ้าห้ามค้าขายเนื้อสัตว์(มังสวณิชชา) ในเมื่อพระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ฆ่า สอนไม่ให้ขาย แล้วพระองค์จะสอนให้กินได้อย่างไร จะเอาที่ไหนมากินละครับ พระพุทธเจ้ามีมหากรุณาต่อสัตว์โลกย่างยิ่ง มีปัญญาอย่างยิ่ง มีความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง แล้วท่านประพฤติย้อนแย้งต่อคำสอนของท่านเอง โดยการกินเนื้อสัตว์รึ ลองพิจารณาดูเถิด
ผมว่ามันอยู่ที่เจตนามากกว่าครับ ผมเคยไปกินเจรอบนึง เมนูต่างๆจะยังเป็นชื่อสัตว์อยุ่ เช่น เป็ดสวรรค์ หรือเนื้ออะไรอย่างนี้เป็นต้น ผมว่าเจตนาเลียนแบบเนื้อสัตว์ กินเจแต่ใจยังใฝ่เนื้อแบบนี้ ตอนนี้ผมเลยกินปกติ แต่ไม่คิดว่ารสชาติจะอร่อยอะไร กินแค่พออิ่มไป ไม่ติดในรสกลิ่นสัมผัสครับ
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุค่ะ🙏🙏
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🪷🪷🪷
🌈✨ ลูกขอน้อมกราบอนุโมทนาบุญในธรรมะอันประเสริฐ ธรรมะคุ้มครองดูแลคนดีมีศีลธรรม ขอให้ญาติธรรม ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่มีศรัทธา และนักปฏืบัติทุกๆท่านเจริญในธรรม สาธุ สาธุ สาธุครับ👏👏👏
พระพุทธองค์ ท่านตอบ เทวทัณฑ์ แบบเป็นกลางครับ ท่านไม่ได้บอกว่ากินไม่ผิดจาปากท่านเลยและท่านก็ไม่ได้บอกว่าไม่กินก็ไม่ผิดน๊ะครับท่าน ธรรมไม่เป็นสอง ไม่ใช่ทวินิยม แต่ธรรมนั้นเกิดมาใช่หนึ่ง สาธุครับ
สาธุในธรรม ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ต้องหาโอกาศไปให้ได้
อนุโมทนา สาธุค่ะ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
อัญเชิญพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
🙏
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ธรรมิกสูตรที่ ๑๔
.
[๓๓๓]
จริงอยู่สาวกไม่พึงได้เพื่อจะถูกต้องธรรมของภิกษุ ล้วนด้วยอาการที่มีความหวงแหน สาวกวางอาชญาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ทั้งผู้ที่มั่นคงทั้งผู้ที่ยังสะดุ้งในโลกแล้ว ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า
.
แต่นั้น สาวกรู้อยู่ พึงเว้นสิ่งที่เขาไม่ให้อะไรๆ ในที่ไหนๆ ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก
🙏
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑
สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
.
เวฬุทวารสูตร
ว่าด้วยธรรมปริยายอันควรน้อมเข้ามาในตน
"ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์โดยส่วนสามอย่างนี้."
🙏
(1)"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"
(2)"ไม่พึงลักเอง ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก"
(3)"ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาต"
(4)"มังสวณิชชา" พึงเว้นจากการค้าขายเนื้อสัตว์
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้อย่างชัดเจน
🙏
สำหรับฆารวาสที่ซื้อหาอาหารกินเอง
(ภิกษุขอทานเลี้ยงชีพ ซื้อสิ่งของอาหารเองไม่ได้ตามธรรมวินัย แต่ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉันก็ต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3 ก่อนฉันเนื้อ)
.
การ "ซื้อเนื้อสัตว์" มากิน ในศีลข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีทั้งการลงมือฆ่าเอง และรวมถึง อาณตฺติกปโยค คือ"การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าให้เรา" ด้วยซึ่งรวมถึง การซื้อเนื้อสัตว์มากิน คือการใช้บริการผู้อื่นเข่นฆ่าแล่เนื้อสัตว์แทนเรา เราจึงไม่ต้องลงมือเข่นฆ่าเอง แม้ไม่ทำให้ศีลข้อหนึ่งขาดทะลุแต่ก็ทำให้ด่างพล้อยเศร้าหมอง (ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร) (ธัมมิกสูตร)
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาฆ่า และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นทำปาณาติบาตด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
.
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" ในศีลข้อสอง พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติเรื่อง (อนุโลมโจรกัมม์) ไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งใน อนุโลมโจรกัมม์ ก็คือการเว้นจากการสมคบโจร การรับซื้อของโจร การซื้อกินเนื้อสัตว์นั้น เป็นการซื้อของโจร โจรที่เข่นฆ่าตีชิงเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์เจ้าของ ที่เขาไม่ยินยอมให้ มาเป็นของตน ก่อนเอามาขาย
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาลัก และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นลักเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์ด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
🙏
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" เมื่อขัดแย้งกับศีลข้อหนึ่งและศีลข้อสอง จึงขัดแย้งกับอริยมรรคข้อสัมมากัมมันตะ
.
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพุทธวจน"เป็นเหตุ"
กินมังสวิรัติ"เป็นผล" และเมื่อฆารวาสตั้งใจปฏิบัติตามพุทธวจน ไม่ย่อหย่อน ก็จะถวายอาหารมังสวิรัติแก่ภิกษุโดยอัตโนมัติ
🙏
เชิญฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธที่นิยมกินเนื้อสัตว์ พากันมองข้ามและไม่พูดถึงกัน ที่ยูทูปที่มีชื่อวีดีโอว่า "660815 13 รวมสูตรการไม่กินเนื้อสัตว์กับพุทธ"
เรื่องนึงที่ท่านคึกฤทธิ์กล่าวผิดไม่ตรงกับคำตถาคตในคลิปนี้คือ
.
"เนื้อที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อเรา ทานได้ตามปกติ" ซึ่งท่านคึกฤทธิ์กล่าวโดยหมายว่า ธรรมะนี้ใช้กับทั้งฆารวาสและภิกษุ
🙂
แต่ที่พระพุทธองค์ตรัสสอนจริงๆคือ
ภิกษุต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3"ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉัน
.
ชีวกสูตร ม. ม. (๕๗)
ตบ. ๑๓ : ๔๘-๔๙ ตท.๑๓ : ๑๓ : ๔๗ กล่าวถึงเนื้อบริสุทธิ์ 3
เนื้อบริสุทธิ์ 3 คือเนื้อที่ภิกษุไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รังเกียจว่าฆารวาสเข่นฆ่าสัตว์เพื่อนำเนื้อมาถวายเจาะจงที่ภิกษุ (อธิบายใจความโดยสรุป คือภิกษุไม่รู้โดยบริสุทธิ์ใจว่าเขาฆ่าสัตว์เพื่อเจาะจงถวายเนื้อท่าน จึงถือว่าเป็นเนื้อบริสุทธิ์รับมาฉันได้ไม่อาบัติ)
https: //84000. org/tipitaka/ book/ v.php?B=13 & A=950&Z=1043
.
ซึ่งพระสูตรนี้เป็นพระสูตรที่กล่าวถึง"พระธรรมวินัย"ของภิกษุ ที่ต้องเลี้ยงชีพด้วยการขอทาน...ไม่ได้กล่าวถึงฆารวาส ที่หาซื้ออาหารทานเองได้ ไม่ต้องขอทาน
.
เป็นการนำ"วินัยของภิกษุ" มาใช้ผิดๆกับฆารวาสที่ไม่ได้เป็นนักบวชขอทานเหมือนภิกษุ
.
ซึ่งพระพุทธองค์ไม่เคยตรัสสอนกับฆารวาสเช่นนั้น มีแค่ชีวกสูตร ม. ม. (๕๗)นี้ที่ท่านตรัสถึงภิกษุเท่านั้น แต่พระสูตรอื่นที่ตรัสสอนธรรมแก่ฆารวาสโดยทั่วไป พระพุทธองค์ไม่เคยนำ"เนื้อบริสุทธิ์ 3" มาสอนแก่ฆารวาส
.
แต่พุทธวจนที่ว่า
"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"
มีพบได้มากมายในหลายพระสูตร
ผมยอมรับครับผมเกิดมาจนผมเลือกเกิดไม่ได้ ทุกวันนี้ผมยังหาอยู่หากินวิถีชาวบ้าน ดักหนูดักนก หาปลากินขายเลี้ยงชีพ เลี้ยงพ่อแม่เลี้ยงครอบครัว บาปทั้งหมดที่ผมก่อ ผมยอมรับแต่เพียงผู้เดียว แต่ถ้าผมไม่ทำผมก็ไม่มีกิน ผมรู้ว่าการเบียดเบียนชีวิตมันเป็นบาป 😢
เราสามารถทำข้ออื่นได้ครับท่าน เราจำเป็นต้องฆ่าเพื่อชีวิต แต่เราไม่โกหกได้ ไม่ผิดลูกเมียคนอื่นได้ ไม่ขโมยได้ ไม่ดื่มสุราเมรัยได้ ลองเปรียบเกลือในน้ำน้อยๆ กับเกลือก้อนเดียวกันแต่อยู่ในแม่น้ำ ปริมาณเท่าเดิมแต่ความเค็มต่างกัน ครับท่าน
รู้ว่าผิดแสดงว่ามีปัญญาแล้ว เราลองใช้ปัญญาหาทางออกอีกนิ๊ดนึง ว่ามีทางอื่นไหมที่เราจะหากินเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ อาจจะเก็บผักปลูกผักขายไหม แล้วเอาเงินไปซื้อเนื้อหมูเนื้อไก่ที่เขาทำไว้แล้วมากิน โดยที่เราไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องก่อกรรมอย่างที่เรารู้ว่ามันเป็นกรรม ความจนไม่ผิดแต่หากเราฆ่าคือผิด อาชีพมีอีกเยอะแยะครับลองดู
@@อนัตตา66 แล้วจะเบาบางลงไปเอง..
น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุๆกราบขอบพระคุณสูงสุดเจ้าค่ะสาธุๆ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻สาธุค่ะ🍀🍀🍀
สาธุสาธุสาธุ นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
สาธุ
ถ้าฆ่าแล้วไม่มีคนกิน ปล่อยให้บูดทิ้ง แล้วยังจะมีคนฆ่าอยู่มั๊ยคะ ถ้ายังกินอยู่เหมือนสนับสนุนให้มีการฆ่า
สาธุๅๅ
สาทุครับ
" การให้ พุทธวจน ชนะการให้ทั้งปวง " อนุโมทนา สาธุ ในการเผยแผ่ คำสอนของตถาคต พระผู้มีพระภาค พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ครับ
กราบสาธุค่ะ
กราบ นมัสการ หลวงพ่อครับ
สาธุๅๅ❤
สาธุครับ
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ไม่ผิดศีลหรอกจะผิดก็ผิดที่ความรู้สึกที่ใจเรานี้แหละค่ะเพราะแค่รู้สึกผิดที่กินเลือดกินเนื้อกินกายสังขารเขาถ้าใครมากินเนื้อเราเอาเนื้อเราไปทำต้มเเซบทำลาบเราชอบมั้ยเราก็ไม่ชอบดังนั้นสัตว์เขาก็ไม่ชอบใครจะกินก็ได้พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามไม่ได้บังคับห้ามไม่ให้ฆ่าอย่างเดียวคนที่เขากินเจเขาแสดงให้เห็นถึงความเมตตาเพื่อนสรรพสัตว์ด้วยกันแค่นั้นพระพุทธเจ้าทรงมองเห็นว่าหากมนุษย์ไม่กินสัตว์!สัตว์ก็จะครองโลกมนุษย์จะอยู่ไม่ได้เพราะขยายพันธุ์เร็วมากสัตว์มีหลายชนิดดุร้ายไม่ดุร้ายมนุษย์ไม่กินสัตว์ก็จะกินมนุษย์สรุปพระพุทธเจ้าฉลาดมากๆค่ะ
ແມ່ນຂ້ອຍກໍ່ຮູ້ວ່າພະພຸດທະເຈົ້າສະຫຼາດແລະຮູ້ແຈ້ງທຸກສັບປະສິ່ງໃນໂລກມີເກີດມີດັບເພາະພະພຸດທະເຈົ້າບັນລຸທຳຕຣັດສະລູ້ແລ້ວ
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
สาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
🙏🏼🙏🏼🙏🏼
ชอบการตอบคำถามของท่านค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ฉันสงสัยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจนแบบท่าน
เลื่อมใสศรัทธาวัดนี้ที่สุด
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ พระอาจารย์
สาธุ...ครับ
สาธุธรรมครับ
🙏🙏🙏กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
กราบอนุโมทนา..ในพระธรรม...พุทธวจน..เจ้าค่ะ
แต่ละคนแตกต่างกันครับ คิดกันไปร้อยแปด อย่างท่านว่านั่นหล่ะครับ นั่นไม่ใช่เรา ทุกอย่างก็จบ สาธุครับ
🙏🙏🙏🌹🇰🇭
🙏🙏🙏
สาธุครับ
กราบสาธุๆๆคับ
พระศาสดา ขอกับฆราวาส แค่ศีล๕ แต่ถ้าไม่ได้ ขอศีล๔ ขอศีล๓ ขอศีล๒ ขอศีล๑ แต่ต้องมีศีลบ้าง ...แต่ถ้าเลือกอาชีพที่ดีไม่ผิดศีล๕ ได้ก็จะดีค่ะ...หรือจะต้องเจริญอานาปานสติ ให้มาก หรืออย่างน้อยตอนนอนก็ไม่ผิดศีลข้อใดเลยค่ะ...สาธุ
การไม่ฆ่าสัตว์โดยตั้งใจก็คือศิลข้อ1การไม่ฆ่ามดไม่ยุงและแมลงเท่าที่ทำได้จะไม่บาปส่วนการฆ่าโดยตั้งใจเป็นบาป ส่วนถ้าฆ่าสัตว์โดยไม่ตั้งใจก็ขออโหสิกรรมและแผ่บุญให้สัตว์เหล่านั้นมีความสุขแล้วคนนั้นก็ทำการสวดมนต์ขอศิลใหม่ให้ศิลบริสุทธิ
ขอบคุนครับท่านสาธุสาธุครับท่าน
คิดเองละกันในขณะที่เรากินเนื้อสัตว์เราเคยคิดมั้ยว่าสัตว์เจ้าของเนื้อนั้นมันรู้สึกกลัวแค่ไหนขณะโดนฆ่า ผู้บำเพ็ญไม่รู้สึกสงสารหรือรู้สึกผิดบ้างเหรอ ที่เอาเลือดเนื้อมันเพื่อมาต่อชีวิตเรา
ตถตา...มันเป็นเช่นนั้นครับ ตถาคตจะเกิดขึ้นหรือไม่มันก็มีการฆ่ากันเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ เป็นหนึ่งในอจินไตย 4 ,เรื่องไม่ควรคิด หรือง่ายๆคือ มันเป็นกฎหรือความจริงในธรรมชาติอย่างหนึ่ง เหมือนดวงอาทิตย์ขึ้นทางคะวันออก เปลี่ยนไม่ได้ครับ แต่ถ้าเราน้อมเอาคำสอนพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติ การเข่นฆ่า เบียดเบียนที่ไม่จำเป็น จะลดน้อยลง..สาธุ
@@อนัตตา66 ผู้บำเพ็ญย่อมมีความเมตตาต่อสรรพสัตว์
ท่านก้อแผ่เมตตาตลอดนะ
@@user-bc3tp4wu1e ก็ไม่อยากอะไรนะพระพุทธะไม่ฉันเนื้อแน่นอนควรจะเป็น ใครบอกพระพุทธเจ้าฉันเนื้อไม่ถูก ท่านบอกแผ่เมตตาตามันย้อนแย้งกับเอาเลือดเนื้อเขามากิน เมตตาแบบไหนกันเล่า
@@user-id2wy2bz3p พระเขาเมตตาอยู่แล้ว แต่เนื้อเหล่านั้นพระไม่ได้ซื้อมาทำเอง เพียงแค่คนธรรมดานำมาถวาย ซึ่งคนปกติยังไงก็ต้องฆ่าเพื่อ ธุรกิจหรือ ปากท้อง เพราะคนธรรมดาทุกๆคนนั้นจะห้ามไม่ให้ฆ่ามันห้ามยาก บนโลกใบนี้มันมี 2 ด้าน
🙏🏼
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ
🙏🙇🙇🙇
ศีลข้อ๑นี่ ท่านไม่ได้หมายความแค่ฆ่าสัตว์เดรัจฉานอย่างเดียวนะครับ หมายรวมถึงฆ่ามนุษย์ด้วย บาปหรือไม่อยู่เจตนา จะฆ่าเพื่อกินเพื่ออะไรก็บาปทั้งนั้น แต่คนที่กินด้วยมีสองพวก พวกหนึ่งคือรู้เห็นและยินดีในการฆ่า เพื่อจะได้กินด้วย นี่บาปเพราะยินดีในการผิดศีลข้อ๑ของผู้ฆ่า ไม่ได้บาปเพราะกินด้วย อีกพวกหนึ่ง ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินดีด้วยที่เขาฆ่า เเต่กินด้วย คือเขาคิดแค่กินกับข้าว ไม่มีแม้แต่บาปสักเศษเสี้ยว บาปไม่ได้อยู่ที่กิน อยู่ที่เจตนา ยินดีในการฆ่าด้วยหรือไม่เท่านั้น
สาธุครับ
อวดรู้ทั้งที่ไม่รู้มันน่าอาย
@@user-ss4zj3hy4i ไหนท่านลองแจงความรู้ของท่านมาให้ผมทราบหน่อย ว่าท่านรู้อย่างไร และผมอวดรู้ตรงไหน😊
ปจฺจตฺตํรู้ได้เฉพาะตัวคนที่รู้จริงจะไม่แสดงอะไรๆออกมาดีชั่วตัวเราเท่านั้นที่รู้ สุทธิ อสุจิ ปจฺจตฺตํ อนฺโนรยํ ปริโยทเย. ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเรากล่าวว่า เจตนาหํ ภิกขุ สีลํ วทามิ. เจตนานั้นแหละคือกรรม. จะเป็นกรรมขาว(ดี)หรือกรรมดำ(ชั่ว)ก็ตามขึ้นอยู่กับเจตนาทั้งสิ้น..เจริญพวงนะทั่นผู้เจรินพวง
@@user-ss4zj3hy4i ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ รู้ได้เฉพาะตน นั่นคือการเจริญสมาธิ พระกรรมฐาน ได้ฌาน ได้ญานต่างๆ ได้ฌานขั้นไหน ได้ญานขั้นไหน นั่นผู้ปฏิบัติรู้ได้ด้วยตนเอง คนอื่นไม่อาจรู้ได้ ที่ผมเม้นก่อนหน้านี่ ไม่ได้เม้นมั่ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกล่าวไว้ พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสไว้ กรรมอยู่ที่เจตนา คนที่รู้เห็นการฆ่าสัตว์ ยินดีในการฆ่านั้น นั่นแหละบาป ไม่เกี่ยวกับรู้ได้เฉพาะตนอะไรเลย แค่ปัญญาพิจารณาพิ้นฐานเอง กรรมอยู่ที่เจตนา เข้าใจไหมครับ ท่านอ้างถึงปัจจัตตังฯ รู้ได้เฉพาะตน ท่านรู้จริงหรือเปล่า แต่กินเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่า บาปหรือไม่บาปอย่างไรท่านยังไม่รู้ อ้างถึงปัจจัตตังฯ ทิฏฐิมานะสูงมาก คิดว่าตนรู้มาก รู้จากตำรา แต่ไม่เคยปฏิบัติ ปรามาสผู้อื่นว่ารู้น้อยกว่าตน ท่านรักษาศีล๕เป็นอธิศีลไหม เอาแค่ศีล๕ ท่านรักษากุศลกรรมบท๑๐มั่นคงไหม ท่านมีบารมี๑๐ ท่านมีจรณะ๑๕ มีอิททิบาท๔ มีพรหมวิหาร๔พร้อมไหม แค่ฌานโลกีย์ท่านได้หรือยัง แค่ความจริงพื้นฐานว่ากรรมอยู่ที่เจตนา เขาฆ่าสัตว์กิน คนกินด้วยบาปหรือไม่อยู่ทึ่เจตนาคนกิน รู้เห็นยินดีในการฆ่าสัตว์นั้นหรือเปล่า ถ้ารู้เห็นยินดีด้วยนั่นบาป ถ้าไม่รู้เห็น ไม่ยินดีในการฆ่าสัตว์นั้น แต่กิน จะบาปยังไง ผมก็กล่าวตามพระพุทธเจ้าตรัส และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านกล่าวไว้ คำว่าเจริญพรเป็นคำพระคำสูง ท่านเอามาเป็นเจริญพวง กรรมนั้นก็ตกแก่ท่าน ถ้าท่านเจตนา รู้ให้จริงนะครับ แล้วอย่าติดดี คิดว่าตนรู้มากกว่า เที่ยวติเตียนผู้อื่นว่ารู้น้อยกว่า ถ้าคนที่มีศีล เจริญสมาธิกรรมฐาน จะไม่เที่ยวปรามาสติเตียนผู้อื่น เขาติเตียนตนเองครับ
น้อมรับคำสอน🙇เจ้าค้ะ
เหรียญสมมุติที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีทั้งหัวและก้อย ถ้ามีหัวทั้งสองด้าน หรือ มีก้อยทั้ง 2 ด้าน ก็ไม่มีใครใช้
ทางเสียเวลา คือหาประเด็นงัดค้าน คือสงสัย คือเห็นตรงข้าม คือเอาความคิด ความเห็น ความรู้สึก เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง เป็นที่ตั้ง ฯลฯ
ทางเร็วที่สุดคือลงมือปฏิบัติ ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า แต่ละคนที่มุ่งมั่นลงมือปฏิบัติจริงเขาได้พบเจอแต่ละขั้นแต่ละจุดแตกต่างกันไปแล้ว ...
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ
กราบสาธุสาธุค่ะ
พืช,สัตว์ เป็นอาหารและเป็นยา นี่คือสิ่งที่โลกให้ มันเป็นธรรมชาติของภพภูมินี้ ส่วนที่ใครจะกินอะไร ก็แล้วแต่ ธาตุขันธ์ของแต่ละคน
พระ จ.มีองค์เดียวในปทท.ที่เผยแพร่พุทธวจน
มีท่านภิกขุ ที่ศึกษาและเผยแผ่คำสอนของพระศาสดา(พระพุทธวจน) ที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หลายรูปค่ะ เข้าไปดูเพิ่มเติมที่ web.วัดนาป่าพง ค่ะ
ซึ่งได้รับธรรมะที่พระจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล ได้เป็นผู้เปิดธรรมที่ถูกปิดค่ะ
สาธุค่ะ
ถูกต้อง
ปาบโยนให้ผู้ฆ่าผิดศีล เป็นบาป ดำรงค์ชีวิตอยู่ด้วยการให้ผู้อื่นฆ่า ศีลข้อนี้ไม่เคยเข้าใจ ส่วนตัวคือเห็นแก่ตัว
เห็นด้วย กับ คำตอบนี้ คนกินไม่บาป ไม่สมเหตุสมผล ถ้าคนไม่กิน การฆ่า ก็จะน้อยลง
ไม่ใช่เห็นแก่ตัวครับ เราต้องตีความหมายของศีลข้อนี้ให้ออกครับ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ฆ่ามาเพื่อเรา เราต้องตีความศีลข้อแรกให้ออก
ใสซื่อโลกสวยจะบอกว่าไม่รู้ว่าในโลกนี้ไม่มีการฆ่าสัตว์เพื่อกินรึแค่ไม่รู้ก็ไม่มีอยู่จริงแล้วเหมาะกับเด็กน้อยที่ยังไมเดียงสาถึงกินได้ การกินส่งเสริมการฆ่าแน่นอนดีมานซัพพลาย
ไม่บาปครับ ดั่งที่พระพุทธองค์เคยได้ตรัสกับพระเทวทัตไว้ว่า การจะฉันเนื้อสัตว์ ให้ พิจารณาไว้ 3 อย่างคือไม่รู้ไม่เห็น และ ไม่ ทำมาเพื่อเรา เพราะว่าคนขายเขาทำเพื่อการค้าการขายของตัวเขาเองไม่ได้เจาะจงมาทำมาเพื่อบุคคลใดคนหนึ่ง เรื่องแบบนี้ต้องเข้าใจด้วยปัญญาครับ ถ้างั้น คนเราจะบาปในการกินก็ไม่ใช่ครับบาปเกิดที่จิตที่ใจครับถ้าบาปเกิดจากการกินนั้นผมว่าไม่ใช่ครับ การจะกินหรือการจะทำอะไรทุกอย่างมันเกิดจากที่จิตครับจะกิน เนื้อก็ไม่ผิดครับ เพราะเราไม่ได้ไปสั่งเขาให้ไปฆ่ามาเพื่อเรา อันนี้ต้องใช้ปัญญาครับ ถามว่าการศึกษาในพระ ธรรมพระวินัยนั้นถูกต้องครับแต่ต้องถูกด้วย ตรงด้วยจิตของเราครับ เพราะบาปบุญทุกๆอย่าง เกิดจากตัวเจตนาตัวเดียวครับ
การกินคือการสั่งฆ่าโดยแท้คุณคือผู้บงการของการฆ่าซึ่งโทษหนักกว่านักฆ่า หากไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่าพิจารณาให้ดี
@@user-ne6vw2rf7g ถ้างั้นคุณก็เชิญบาปไปคนเดียวเถอะครับถ้าคุณเชื่อแบบนั้นผมเชื่อในเจตนาของผมครับบาปกับบุญเกิดจากเจตนาตัวเดียวครับ เจตนาคุณทำแบบไหน ก็ได้แบบนั้นครับถ้าคุณเอาการกินมาเป็นการสร้างบาปคุณก็เชิญบาปแต่คนเดียวครับผมช่วยไม่ได้ครับ
@@user-ov8jq8hu3j เพราะอย่างนั้นผมถึงเลิกกินสัตว์แล้วผมจะปาบยังไง
@@user-ne6vw2rf7g นั่นก็เป็นเจตนาที่ดีของคุณไงครับ ผมถึงบอกไงว่าบาปไม่บาปอยู่ที่เจตนาไงครับ ถ้าคนเราเอาการกินเนื้อสัตว์ไม่กินเนื้อสัตว์มาวัดกันทั้งนั้นวัวควายคงดีกว่าเราเยอะครับ
@@user-ov8jq8hu3j -บาลี ม. ม. ๑๓/๑๒๕/๑๒๘ “ราหุล ! กระจกเงามีไว้สำหรับทำอะไร ?” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! กระจกเงามีไว้สำหรับส่องดู พระเจ้าข้า ! ”. “ราหุล ! กรรมทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่บุคคลควรสอดส่องพิจารณาดูแล้วดูเล่าเสียก่อน จึงทำลงไปทางกาย, ทางวาจา หรือ ทางใจ ฉันเดียวกับกระจกเงานั้นเหมือนกัน”.
อธิบายได้ละเอียดดีครับ คงบรรลุเป็นพระอริยเจ้าเป็นแน่ หรือยังขัดข้องน้อยๆทีตรงไหนหรือไม่? เรียนมาด้วยความเคารพครับ.
ไม่กินไม่ฆ่าดีที่สุดคับ
ຖ້າຍັງມີຄວາມເມຕຕາແກ່ສັດທັ້ງປວງທີ່ມັນຖູກຂ້າກ່ໄມ່ຕ້ອງກີນເລີຍ.ງາ່ຍ.....
ใช่ปุทุชนบรรลุได้ยาก เหมือนเส้นผมบังภูเขา แม้บรรลุแล้วจะสอนให้ผู้อื่นบรรลุตามยิ่งยากกว่า
การไม่ฆ่าสัตว์จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ควรขอรับศิลใหม่แล้วพยามไม่ทำอีก
ที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์บอกว่า ความเป็นอัตตามีอยู่แต่อยู่ชั่วคราวนั้น อาตมาคิดว่า คำนี้ไม่ใช่ความจากพุทธเจ้า อาตมาคิดว่า ความเป็นอัตตาไม่มีอยู่เลยแม้จะชั่วคราวก็ไม่มีอัตตา หรือจะกล่าวอีกอย่างว่า ความเป็นอนัตตามีอยู่ตลอดไม่มีอัตตามาแทรกแม้ชั่วคราวก็ไม่มีมาแทรก ที่เราๆเห็นว่ามีอัตตาตลอดหรือชั่วคราวแว๊บๆแต่ส่วนใหญ่เป็นอนัตตานั้นคงเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกับพุทธองค์ ลองพิจารณาดูเองนะ
อีกส่วนในคลิป เรื่องทำสมาธิระวังจะติดสมาธิหรือติดสุขในสมาธินั้น อ.ท่านว่า ทำสมาธิไปเถอะอย่าไปกลัว ข้อนี้อาตมาเห็นด้วย แต่เสริมเพิ่มเติมว่า ที่เขาเตือนนั้นคือ บางคนเข้าสมาธิแล้วติดอยู่แค่สภาวะนั้น ไม่พัฒนา ทำอยู่อน่างนั้น คิดว่านั่นคือที่สุดแห่งทุกข์นั่นคือสุขที่สุดแล้ว ไม่เอาสมาธินั้นไปคิดค้นธรรม ไม่เอาสมาธิไปทำวิปัสสนา นี่คือคนที่ติดสมาธิ ที่เขาเตือนกัน แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่เราๆจะไปถึงสมาธิขั้นนั้น ฉะนั้น อ.คึกฤทธิ์จึงบอกว่า อย่ากลัวว่าจะติดสุขในสมาธิ ทำไปเถิด ก็ถูกต้องของท่าน เพราะบอกคนส่วนใหญ่ซึ่งสมาธิยังไม่ถึงที่สุด คนที่ทำสมาธิพัฒนาสูงๆก็มีน้อยที่จะติดในสมาธิ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี เราทั้งหลายก็ควรตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ(โยนิโสนมสิการ) ลองพิจารณาดูเอง อย่าเพิ่งเชื่อ เจริญพร
กราบสาธุครับ
ประเด็นนี้หลวงพ่อพูดได้ถูกต้องทุกวันนี้ยังมีสมัยนี้คนไทยนับถือศรัทธากันจังเลยไม่ฉันเนื้อสัตว์ฉันข้าวมื้อเดียวไม่จับปัจจัยเดินไม่ใส่รองเท้าเย็บตัดจีวรหลายสีดูเศร้าหมองแท้ที่จริงบางอย่างเขาทำเพื่อให้ดูหน้าเลื่อมใสเรียกความศรัทธาอย่าลืมว่าสิ่งเหล่านี้เถรเทวทัตได้ทำมาก่อนแล้วเมื่อครั้งเสื่อมลาภจะเป็นสาวกเทวทัตกันยังไม่รู้ตัว😂😂
ไม่ได้เจาะจงชื่อนาย ก , นาย ข แต่ในภาพรวมเจาะจงกับคนที่ซื้อไปกิน (ก็มีส่วนรับกรรม เพราะยังมีคนกิน , ถ้าไม่มีคนกิน คนฆ่าก็ไม่มี ) สรุปขายให้คนกิน โดยภาพรวม ไม่ได้ระบุชื่อนั่นนี่. (ที่ไม่ทรงอนุญาต ต่อพระเทวทัต เรื่องให้ภิกษุฉันมังสวิรัติ เพราะ ทรงรู้ว่าทุกชีวิต ต้องมล้างกันด้วยกรรม กรรมเป็นใหญ่.
ถ้าไม่มีคนชื้อ คนขายจะมีไหมครับพระอาจารย์ จริงพระพุทธเจ้าพระองค์สอนไว้ดีแล้วแต่ด้วยมนุษย์ผุ้ปัญญาน้อยย่อมผุ้รุ้มากเพื่อบรรลุในข้อสงสัยและเข้าใจในธรรมะ
เหมือนไม่มีหมอจะมีคนป่วยไหมอะไรแบบนี้หรอครับ
ขอบคุณ ครับได้รุ้อีกขั้นของธรรมะ@@user-bc3tp4wu1e
อยากให้ทำหุ้นปันผลรายเดือน เหมือนเงินเดือน เพื่อช่วยเหลือคนที่ตกงาน และ ไม่มีรายได้
หมายถึงอะไรครับท่าน!
ปัญหานั้น..น่าจะปลายเหตุ….ไปแก้ที่ต้นเหตุสร้างปัจจัยให้ถูกต้องน่าจะดีกว่าครับ…
ບາງສຳນັກປະຕິບັດທັມກ່ພູດວ່າ ຄົນທີ່ຍິນດີກັບການກິນເນື້ອສັດຍັງໄມ່ໄດ້ແມ້ດວງຕາເຫັນທັມ ເພາະບຽດບຽນສັດຢູ່
วัยรุ่นเดียวนี้เขาไม่เอาศีลเอาธรรมเขาไปเอายาบ้ายาเสพติด เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด คนถือกฏหมายก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือว่าเป็นกรรมของเขาชาติที่แล้วมาค้าขายยาเสพติด
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
ผมทั้งล่าทั้งกิน เพราะไม่มีเงินซื้อ ของแพง เงินสำคัญ หากินเลี้ยงครอบครัวคับ แต่สวดมนต์คงจะช่วยอะไรไม่ได้
ทุกความ เอร็ดอร่อย จากเนื้อสัตว์ คือเสียงกรีดร้องขอชวิตของสัตว์ผู้ไม่มีทางสู้เหล่านั้น การกินเนื้อสัตว์ก็เท่ากับว่าเราส่งเสริมหรือยินเห็นด้วยกับการฆ่าสัตว์ หรือเปล่าครับ
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
ไม่ผิดศีล เพราะเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ เรากินเพื่อความอยู่รอด สัตว์มนุษย์ย่อมต้องการประทังอาหารในแต่ละครั้งเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น อย่าว่าแต่ไม่ฆ่าสัตว์เลย สิ่งมีชีวิตก้อมีวิญญาน พืชก้อมีชีวิตมีวิญญานเช่นกัน ก้อเห็นกินกันทั่วโลก ถ้าจับมาแล้วนำมาทำให้ชีวิตเขาตกแล้วเอามากิน อันนี้ผิดศีลข้อ1จงใจเจตนาทำให้เขาตายเพื่อนำมาเป็นอาหาร ส่วนคนกินเขาไม่รู้เขาไม่เห็นการกระทำของใครฆ่า เช่นแม่ค้าพ่อค้าฆ่าสัตว์มาแล้วเราซื้อมากิน ถวายพระ แล้วเรากินเข้าไป แล้วก้อจะเป็นการผิดศีลกันหมดทั้งโลก
ผมคือมนุษย์คนหนึ่งที่ดำรงชีพและใฝ่ในขข้อธรรมคำสอนของพระศาสดาขอถามเพื่อเข้าใจในธรรม #กินไม่บาปเราไม่ได้ฆ่าเพราะเราชื้อพ่อค้าแม่ค้า ถ้าเราไม่ชื้อเนื้อสัตว์มากินจะมีพ่อค้าแม่ค้ามัยคับ เพราะเราชื้อพ่อค้าแม่ค้าจึงมี ถ้าไม่คนกินคนชื้อไม่มีคนขาย ยังชาวนารุ้ว่าทำนาในดินมีสัตว์มากมายแต่ต้องไถเพื่อปลูก คำถามชาวนาบาปไหมคับ
ลองหยุดกินสัก 1ปี แล้วจะมีการฆ่าหรือไม่... (ถ้าจะให้คนทั้งโลกหยุดกินเนื้อสัตว์ ทำได้ หรือไม่? คำตอบ คงยาก)
ัจริงฯฯร่างกายของคนเหมาะสำหรับ
กินพืชมากกว่า
ไม่ว่าสัตว์ มุนษย์
หรือสัตว์เดฉาน
รักชีวิต ตัวเองหมด
เวรอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนกิน
เหมือนได้ไปนั่งฟังธรรมขององค์พระพุทธเจ้าจริงๆ
ไม่ฆ่าสัตว์แค่กินก็ผิดศีลข้อ1ครับ
ไม่ปาบ เราไม่ได้บังคับเขาฆ่า เขาทำเขาเอง เขาขายเราชื้อ เขาไม่ขายก้อไม่ชื้อ เรื่องของคนฆ่า ไม่เกี่ยวกับเรา
ขอไม่ได้ แต่ทำไม่ได้ต่างหาก
เกี่ยวอย่างที่สุด ฆ่ากับกิน เหมือนกัน
ตรรกะบิดมาก งดกินเนื้อสิ การฆ่าจึงจะลดลงบ้างส่วนหนึ่ง และเป็นการแสดงออกว่าไม่ยินดีกับการฆ่าชีวิต หรือแค่จริงๆแล้ว กลัวไม่ได้กินของอร่อย
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
@@siammunkong2516 คือ?
สาธุ แต่เห็นต่างอาจารย์อยู่นิดหนึ่ง สำหรับภิกขุ วิสัยต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย เพื่อบรรลุธรรมนั้นจุดหมาย จะอะไรก็ฉันได้ เวัน รู้ รังเกียจ โดยเจตนา แต่สำหรับฆารวาสชาวพุทธ เห็นควรละเว้นการทานเนื้อเพราะเป็นการสนับสนุนการฆ่า เป็นบาป
อนุโมทนา สาธุครับ ท่านผู้มีอายุ!
สาธุๆๆ
ควรใช้ความเห็นของพระศาสดาดีกว่าครับ
มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง
ท่านบอกว่า มีบาป
เป็นเยื่อท้อง ถ้าไม่
ทำบาปก็ไม่
ควรอ้างอิงพระไตรปิฏกครับท่าน จะได้ไม่ขัดแย้งกัน เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคำสอนพระพุทธเจ้า(พุทธวจน)มากที่สุด
การฆ่าจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีคนกิน ใช้ปัญญาพิจารณาด้วย
๒๕ วิธีดับกรรม -บาลี ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๕/๓๓๔. ภิกษุทั้งหลาย ! ...อริยมรรคมีองค์แปด นี้นั่นเอง เป็นกัมมนิโรธคามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม); ได้แก่ สิ่งเหล่านี้คือ :- สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ) สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีวิตชอบ) สัมมาวายามะ (ความพากเพียรชอบ) สัมมาสติ (ความระลึกชอบ) สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ). (รายละเอียดเกี่ยวกับอริยมรรคมีองค์แปด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ หน้า ๑๔๕)
คนฆ่าบาป คนกินไม่บาป ตรรกะแปลกๆนะ
ของมันอร่อย
๒๕ วิธีดับกรรม -บาลี ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๕/๓๓๔. ภิกษุทั้งหลาย ! ...อริยมรรคมีองค์แปด นี้นั่นเอง เป็นกัมมนิโรธคามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม); ได้แก่ สิ่งเหล่านี้คือ :- สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ) สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีวิตชอบ) สัมมาวายามะ (ความพากเพียรชอบ) สัมมาสติ (ความระลึกชอบ) สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ). (รายละเอียดเกี่ยวกับอริยมรรคมีองค์แปด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ หน้า ๑๔๕)
ผมไม่ฆ่าเลย แต่ทานเนื้อสัตว์
🙏🙏🙏🧎♂️
ในสมัยกาลก่อน ชาวบ้านทานผลิตผลจากพืช
เอาพอดีไม่ย่อนย่านเกินไป
ถ้าฆ่าเพื่อทำอาหารไปวัด คนฆ่าจะได้บุญหรือบาปครับ
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม เพราะว่าบุคคลเจตนาแล้ว ย่อมกระทำซึ่งกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ....
***ตามพระสูตร ถ้าเจตนา(จิต)ตั้งใจฆ่ายังไงก็ผิดครับ ...ในชีวิตจริงบางครั้งเพื่อความอยู่รอดก็จำเป็นต้องทำ เราต้อง...ลองอ่านดูครับ......บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดไร ทำแล้ว บาปกรรมนั้น จึงนำเขาไปนรกได้ ?
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายมิได้อบรม มีศีลมิได้อบรม มีจิตมิได้อบรม มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย เป็นอัปปาตุมะ (ผู้มีใจคับแคบ ใจหยาบ ใจต่ำทราม) เป็นอัปปทุกขวิหารี (มีปกติอยู่เป็นทุกข์ด้วยเหตุเล็กน้อย คือเป็นคนเจ้าทุกข์) บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้.
บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกัน บุคคลชนิดไร ทำแล้ว กรรมนั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย ?
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว มีศีลได้อบรมแล้ว มีจิตได้อบรมแล้ว มีปัญญาได้อบรมแล้ว มีคุณความดีมาก เป็นมหาตมะ (ผู้มีใจกว้างขวาง ใจบุญ ใจสูง) เป็นอัปปมาณวิหารี (มีปกติอยู่ด้วยธรรม อันหาประมาณมิได้คือเป็นคนไม่มีหรือไม่แสดงกิเลส ซึ่งจะเป็นเหตุให้เขาประมาณได้ว่าเป็นคนดีแค่ไหน) บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย.....-บาลี ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐.
ตอนฆ่าบาป ตอนขณะถวายได้บุญ จิตคนละขณะ
ຜິດຫືລຖູກ(ເລ່ມ 27 ຂ້ທີ່ 342) “ວ່າດ້ວຍຄົນມີປັນຍາ ບໍຮິໂພກ“
ที่ท่านพูดมาคงอิงกันเรื่อง (เคยอ่านเรื่องการแตกนิกายเป็นมหาสังฆิกะ- มหายาน) ที่เคยปรารภกับพระเทวทัต ว่าการถือเคร่งเกินไป จะทำให้ภิกษุลำบาก เพราะหาดำรงชีพได้ยาก(เลือกกิน).. การจัดให้มีเทศกาล 7 วัน 10 วันก็ยังดี ไม่ได้ถือเคร่งทั้งปี คือเป็นเชิงอธิษฐานจิต.. แผ่เมตตาและเจริญจิตภาวนา เชิงสัญลักษณ์ว่า แม้คนทั้งโลกจะทำเช่นนี้จริง คงยากอยู่.. แต่มิใช่ว่าจะทำไม่ได้ ถ้าตั้งใจจริง(วันหนึ่ง อนาคตข้างหน้า) ย่อมเป็นไปได้.. คนติดบุหรี่/ติดยายังว่าเลิกยากนัก แต่เอาจริงก็เลิกได้ พระไทยท่านกล่าวอุทาหรณ์เช่นนี้ เหมือนจะแก้ตัว (แทนคณะสงฆ์ทั้งหมด) ว่าถึงอย่างไรก็มีตลาด ถึงอย่างไรก็มีปศุสัตว์ ฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู แม้แต่ วัวควายก็มีทั้งนั้น (หมูป่า เก้งกวาง ซาฟารีเวิลด์) เราไปห้ามเขาไม่ได้ (พูดเลยไปถึงเรื่องสงครามห้ามไม่ได้.. คือเอาพระไปกลางสนามรบมันก็ยิงเอาตายเปล่า เช่นนั้นก็จริงอยู่) แต่มันไม่เข้าประเด็น ..มักพููดแก้ว่าใครกินแต่ผัก "ก็ไปอยู่กับพระเทวทัตนั่นเสียเถิด" เลยกลายเป็นว่า"ละเนื้อ/เจริญเมตตา" จะกลายเป็นพวกเทวทัต.. เรื่องนี้ยาว ว่าด้วยหัวข้อ "ศีลภรตปรามาส" คือการข่มกันด้วยศีล (ว่าวัตรปฏิบัติของใครเคร่งกว่ากัน พระไทยถือตาม (อ้างว่า)พระพุทธเจ้ากล่าวไว้? ไม่ควร(ข่มกัน)เช่นนั้น ไม่ว่าการอยู่โคนไม้ การปลีกวิเวก การอยู่ป่าช้า การนุ่งห่มผ้าเก่าขาด (หรือไม่นุ่งเลย) การทำตัวให้ลำบาก ไปจนถึงทรมานกาย.. ขั้นนี้เกินเลยแล้ว(อัตถกลิมัตถานุโยค) พระพุทธเจ้าติเตียนหนัก-เบา ตามแต่การลำบากทรมานนั้น คือไม่เป็นประโยชน์ซ้ำยังเป็นโทษ คือไม่ทำให้ยังดำรงสติอยู่ได้ (อย่าว่าแต่แค่ไม่ฉันเนื้อ เพราะกายทรมานกาย จิตก็ไม่อาจตั้งอยู่ได้.. โพชฌงค์๘ ?).. ใครเคร่งกว่าใคร ลองไปถาม (ตำนาน) อรหันต์"จี้กง"(พระเพี้ยน) ดูสิ.. คือแอนตี้(ต่อต้าน)-ศีลภรตปรามาส ชนิดสุดขั้ว ; พระนี่กินเนื้อหมา(สุนัข) แกล้มเหล้า (สุรา-ปลาปิ้ง).. แล้วเลยสงสัยว่านิทานหรือโกหก บรรลุได้จริงหรือ พระอรหันต์ฉันเนื้อหมาแกล้มเหล้า (คงเป็นเชิงสัญลักษณ์..อีกแล้ว?). จบเลยว่าใครมันจะเคร่งกว่าใคร ใครได้บุญไม่ได้บุญอย่างไร (กินเนื้อหมาแล้ว ก็มีเมียเลยซะงั้น จะได้ครบเมถุนธรรม.. อาบัติขาดจาก.. แต่นุ่งห่มสีอื่นๆได้ ไว้ผมยาวได้?)) ความพอดีอยู่ที่ใด.องค์ปฐมท่านก็ไม่อยุ่แล้ว มหากัสสปะ ท่าอานนท์ล้วนนิพพานหมดแล้ว คงเหลือแต่คณะสงฆ์ได้ตกลงกันเอง เช่นนี้ (ว่าฉันเนื้อได้ไม่ผิด!?!)
คือคนถาม เค้าคงค้างคาใจจริงๆ แต่ท่านน่ะตอบสั้นเหลือเกินครับ อยากให้ท่านกรุณาแจกแจงประเด็น อย่างที่ผมสงสัย เรื่องเทวทัต (ที่ว่าแนะให้ไม่ฉันเนื้อ) เรืองศีลภรตปรามาส เรื่องตำนานจี้กง อรหันต์กินเนื้อหมาแกล้มเหล้านี้ เป็นเคล็ดลับ เกลือจิ้มเกลือ หรือเป็นข้อคำคมขำอย่างไร รึเป็นแค่นิทานหลอกเด็ก (เรื่องศีลภรคปรามาสนี้ได้ความมากหลายมาจากพระเดชฯ หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านบรรยายถอดเทปไว้ยืดยาวเหลือเกิน (และท่านพูดช้าอีกด้วย เลยสมัยน้้นผมไม่ค่อยสนใจ.. จนนานเข้าก็นึกถึงเป็นความรู้ติดตัว (ฟังไปก็หลับไปเลย..เสียงท่านเหมือนอยู่ในฝันไกลๆๆ..) ใครจะเก่งจะเคร่งกว่ากัน (คงต้องอ่าน ตอนพระพุทธเจ้าปราบเดียรถีย์ (ภาคอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์) คือกำลังภายในในพุทธศาสนา..! ขอบพระคุณครับ
น่าคิดไปอีกแบบครับ แต่หาที่จบคงยากมาก โลกสงสารนี้ช่างมีเรื่องทำนองนี้มากเหลือเกิน ผมขอเดินตามทางที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่อินทรีย์ภาวนาจะพึงมีครับ ท่านผู้มีอายุ!
เรื่องจี้กงไม่ใช่ศาสนาพุทธนะคุณเอามาจากไหนครับอย่าว่านะดูหนังจีนมากเกินไปลองไปถามพระที่เรียนดูนะว่ามีไหมพระจี้กงในศาสนาพุทธต้องศึกษาจากพระไตรปิฎกถึงจะเข้าใจ
ไม่ผิดครับ พระอรหันต์ท่านก็ฉันลาบก้อยเลย พระพุทธเจ้าตรัสว่า เจตนาหัง สีลัง ภิกขเว
วัดนี้เน้นการนั่งสมาธิอย่างเดียว และสอนพุทธวจนที่วัดอื่นๆ ไม่มีเลย
*คติ รู้ผิด รู้ถูก รู้บุญ รูปบาป และยอมรับในสิ่งที่เราทำ*:: ชีวิตยังโลกมี 2 ประเภท 1 สัตว์ประเสริฐ มี ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ในการดำรงชีวิต ไม่กินเนื้อสัตว์ เช่น ช้างม้าวัวควายเป็นต้น 2 สัตว์เดรัจฉาน เบียดเบียนชีวิตสัตว์ในการดำรงชีวิต มี มนุษย์ และ สัตว์ เป็นต้น หมายเหตุ::* ชีวิตเกิดตายดังนี้ *1 มนุษย์เมื่อตายจะกลับมาเกิดเป็นสัตว์ 2 สัตว์เมื่อตายจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ 👍👈🐱🐵🐶😂😢😃😎
นรกไม่มี อย่าวิตกอยู่ในกรอบ ทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบนี้มาจากจุดเริ่มต้นเดียวกันทั้งหมด
ทุกสิ่งคือหนึ่งเดียว ชีวิตทุกชีวิต ต่างมีดวงจิต
กรรมผูกพัน มีจริง อยู่ที่ที่จิตใต้สำนึก กับการเจตนา ไม่เจตนา นรก
ลงกระทะไฟท่วมขนาดนั้น คนตักน้ำคงเป็นผู้ตก
นาม ..พระผู้สร้าง
พระพุทธองค์ไม่ได้สอนเพื่อล้มล้างความศรัทธาหรือความเชื่อใคร แต่ท่านสอนเพื่อให้มนุษย์รู้และออกจากทุกข์ให้ได้ ตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน...อย่าคิดว่าสิ่งนี้จริง สิ่งอื่นเปล่า ...สาธุ
ศิล ฃ้อ1 ก็บอกแล้วว่า ห้ามฆ่าสัตว์ จะบาป
๔๔ ศีล ๕ -บาลี ปา. ที. ๑๑/๒๔๗/๒๘๖., -บาลี สี. ที. ๙/๘๓/๑๐๓., -บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๒๘๕/๑๖๕. (ปาณาติปาตา เวรมณี) เธอนั้น ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต (ฆ่าสัตว์) วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่. (อทินนาทานา เวรมณี) เธอนั้น ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน (ลักทรัพย์) ถือเอาแต่ของที่เขาให้แล้ว หวังอยู่แต่ของที่เขาให้ ไม่เป็นขโมย มีตนเป็นคนสะอาดเป็นอยู่. (กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี) เธอนั้น ละการประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม (คือเว้นขาดจากการประพฤติผิด) ในหญิง ซึ่งมารดารักษา บิดารักษา พี่น้องชาย พี่น้องหญิง หรือญาติรักษา อันธรรมรักษา เป็นหญิงมีสามี หญิงอยู่ในสินไหม โดยที่สุดแม้หญิงอันเขาหมั้นไว้ (ด้วยการคล้องพวงมาลัย) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจารีตในรูปแบบเหล่านั้น.
(มุสาวาทา เวรมณี) เธอนั้น ละมุสาวาท เว้นขาดจากมุสาวาท พูดแต่ความจริง รักษาความสัตย์ มั่นคงในคำพูด มีคำพูดควรเชื่อถือได้ ไม่แกล้งกล่าวให้ผิดต่อโลก. (สุราเมระยะมัชชะปมาทัฏฐานา เวรมณี) เธอนั้น เว้นขาดจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งของความประมาท.
จะกิน ก็อย่ามาคิดเรื่องศิลเลย จากปากพระโอษฐ์ ไม่จริงมั้งแต่งเสริมมาภายหลายหลัง
วัดใน กทม.ไม่มีการสอนพุทธวจนเลย ก็ยังสวด บทอื่นๆ อยู่
๔๓ คำชี้ชวนวิงวอน
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔., -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. ภิกษุทั้งหลาย ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์”. นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย.
Buddha ไม่ได้ห้ามค่ะ