Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
"ทำดีดี ทำชั่วชั่ว ไม่มีทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว " โคตรปลดล็อคชีวิตเลยครับ โชคดีมากที่ได้มาฟังอะไรแบบนี้แล้วสนุกแล้วเข้าใจ
อยู่ทีพี่ใช้ชีวิต ถ้าชอบกินเหล้าพี่สามารถบอกอนาคตพี่ จุดจบของชีวิตระดับจะเกิดมากน้อย
@@khatthawut ถ้าน้องไม่เข้าใจ ไปฟังใหม่ อ่านใหม่นะครับ
@@Mike.kronos บอกอะไรผม ถามกับทำดีคืออ่ะไร ทำชั่วคืออะไร
@@khatthawut เรียนภาษาไทย ก่อน
@@Mike.kronos แล้วพี่ไม้บอกพ่อไปเรียนภาษาไทย
เเสดงว่าพุทธของไทย มีพราหมณ์ผสมอยู่เยอะเลย ทั้งเรื่องผี วิญญาณ เทพ มีอัตมันผสมอยู่เพียบ
เพราะ ศาสนาพราหมณ์เข้ามาก่อน คนพยายามหาสิ่งยึดเกี่ยว แต่ทุกวันนี้ คนไทยไหว้ต้นกล้วย ไหว้สัตว์ทีผิดปกติ ฯลฯ. เพียงเพื่อขอรวยขอทรัพย์. หลงผิด ติดกิเลสอยู่ดี...หลักไตรลักษณ์ อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา นี่แหละจริงที่สุดแล้ว
วิณญาน ในพุทธ มีอยู่ แต่ใม่ใช่วิณญานแบบที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจ
พุทธแท้ต้องศึกษาจากพุทธวจน
พุทธ พาหรมณ์ ผี มีทุกที่บนโลกใบนี้
เพราะเราไม่ศึกษา ก็เลยไม่รู้ว่าธรรมคำสั่งสอนของพุทธศาสนามีอะไรบ้างไม่สามารถนำมาแก้ความทุกข์ในชีวิตได้ ดังนั้นใครพูดอะไร นิยมแบบไหนจึงเชื่อและทำตามเขาไปหมด จึงมีพวกที่หากินกับเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ ของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยเวทย์ อิทธิฤทธิ์ พิธีแก้กรรม ฯลฯ ซึ่งเป็นของที่ปลอมปนนำมาหากินหลอกชาวบ้านคนที่ไม่รู้อะไรก็ย่อมตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินทองนับหมื่นนับแสนให้แก่คนหน้าไม่อายพวกนั้นไปตามที่เราเห็นในข่าวทีวีบ่อยๆ นี่เพราะเราไม่ใช้หลักธรรมคำสอนแก้ปัญหาชีวิต(เพราะไม่มีความรู้) จึงใช้เงินแก้ปัญหา(เอาไปจ้างให้เขาช่วยทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น) สุดท้ายจึงมีแต่ถูกหลอก
ถ้าทฤษฎีนี้เป็นจริงงั้นคุณค่าของการดับทุกข์จะมีค่าอะไรหรอครับ สู้ไปเสพสุขทั้งชีวิตไปเลยไม่ดีกว่าหรอ จะเสียเวลาฝึกสมาธิทำไม ทำตัวเป็นคนดีทำไม มีความรักหรือมีความเมตตาไปทำไม ธรรมชาติไม่ยุติธรรมงั้นเรายิ่งต้องเอาเปรียบสิเพราะสุดท้ายจะเอาเปรียบหรือไม่เอาเปรียบก็สูญเปล่า ถ้าสสารเกิดเพราะการประชุมของโมเลกุลงั้นจิตก็อาจจะเกิดจากการประชุมของโมเลกุลก็ได้นิไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอยู่จริง🤔😮😮
งั้นคุณก็เวียนว่ายตายเกิดไปอีกนานถ้าคิดแบบนี้
คุณค่าของมันคือ เมื่อคุณทุกข์ คุณทรมาณ สิ่งที่ ดับทุกข์ คือ การให้เหตุผล ของวิธี ว่ามันเกิดจาก อะไร ทำยังไง ถึงจะไม่ทุกข์ ถ้าไม่ทุกข์ สุข ก็ไม่ใช่มนุษย์ แต่ สิ่งที่ผมได้ คือการ ลดความทุกข์ที่มี ให้น้อยลง หรือ ลดช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ทุกข์น้อย ทุกข์มาก มันก็คือทุกข์ เพราะงั้นพระพุทธเจ้าถุงเน้นไปที่ทุกข์ ไม่ใช่ เน้นไปที่การสร้างความสุข
อยากดับทุกข์ให้เอาความทุกข์ออกไปไม่ใช่หาความสุขเข้ามา
ดีมาก
ตั้งแต่ติดตามคลิปอาจารย์ รู้สึกได้จริงว่า ตัวเองฉลาดขึ้นค่ะ โดยเฉพาะเรื่องศาสนาพุทธที่อาจารย์นำเสนอ ความโง่.. งมงาย ลดลงเยอะมากๆๆ ขอบพระคุณอาจารย์อย่างที่สุดค่ะ
สอนอย่างนี้จึงจะเรียกว่าเป็นการสอนให้เกิดปัญญา ไม่ใช่สอนให้เกิดศรัทธา (ความเชื่อ) แต่มันก็เหมาะสมกับเฉพาะปัญญาชนคนดีเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เพียงพอ จะรับไม่ได้ แล้วเขาก็จะต่อต้าน (เตรียมถูกโจมตีได้เลย)
วิทยาศาสตร์ใช้ได้กับทุกๆศาสตร์เช่นการเกษตร, พลังงาน, การแพทย์, การศึกษา, การประดิษฐ์, การก่อสร้าง, คงไม่มีใครๆเผานาข้าวตัวเองทิ้งนะเพราะยังไงก็ต้องอาศัยนาข้าวอยู่ดี(นาข้าวเหมือนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆศาสตร์)
@@omsinmonk เจริญในธรรม
แนะนำอีกช่องนะคะ ruclips.net/video/CXQ3bl_shhk/видео.html
@@nipongasiprong2532 ในควอนตัมฟิสิกส์ ค่าความเร็วแสงเป็นค่าคงที่ที่มีความหลากหลายนะคะ ถ้าผ่านอากาศจะเร็ว 3แสนกม./วิ ถ้าแสงผ่านน้ำจะเร็ว 2แสน กม./วิ ถ้าผ้านเพชรแสงจะเร็ว 1แสน กม./วิ ราคาหุ้นว่าดอยแล้วยังมีสูงอีก ยอดเขาว่าสูงแล้วยังมีเขาซ้อนเขาสูงในสูงเหมือนเพชรพระอุมา สงครามไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร แม้แต่การเวลาในเอกภพ เวลาบนพื้นโลกกับเวลาในอวกาศยังไม่เท่ากันเลยค่ะนี่แหละเค้าถึงบอกว่าสิ่งที่ว่าแน่นอนแล้วก็ยังไม่แน่นอน
อาจารย์เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา นักคิด นักวิชาการ นับถือจริง ๆ ค่ะ
ทำดีดี ทำชั่วชั่ว ชีวิตไม่จำเป็นต้องได้รับความยุติธรรมเสมอไป คมมากและเศร้ามาก โดยเฉพาะกับประเทศเรา
คนทำชั่วไม่ได้สุขทางใจหรอกค่ะ. แต่เค้าหาเหตุผลเพื่อสบายใจ. เราไม่ควรจะทุกข์กับความชั่วของเค้านะคะ
พุทธพจน์“….เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น….”
ชัดเจนหมดจด
อนาคตเป็นไปตามเหตุปัจจัย แต่เนื่องจาก เหตุปัจจัยที่เราสะสมทำกรรมมานับชาติไม่ถ้วน ทำให้ไม่มีใครสามารถรู้เหตุทั้งหมดได้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อย่าคิดเรื่องกรรมและวิบากว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเหตุปัจจัยมากมาย แต่ให้รู้ว่าเหตุอะไร ทำให้ผลเป็นอย่างไร เพื่อจะละอกุศลและเจริญกุศล ครับ นั่นคือ ผลของอนิจจังที่ทุกคนต้องเจอนั่นเอง
เหตุปัจจัยวันต่อไปมีได้เพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่มีในวันนี้เหมือนลิงกระโดดเกาะต้นไม้ต้นนี้ไปเกาะต้นไม้ต้นโน้น
คำว่า ชาติ ของพุทธาศนาหมายถึง การเกิดความยึดถือว่ามีตัวเรา-ของเราขึ้นมาเมื่อไร ก็เรียกว่า "เกิด" ชาติหนึ่งแล้ว เมื่อความยึดถือนั้นดับหายไป ก็เรียกว่า "ตาย" ซึ่งวันๆเราก็เกิด-ตาย เกิด-ตาย นับเป็นร้อยๆชาติอยู่แล้ว หยุดเกิดเมื่อไรก็นิพพาน (สงบเย็น) ชั่วคราวเมื่อนั้น ส่วนเรื่องการเกิด-ตายทางร่างกายนั้น เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ ไม่ใช่ของพุทธ
@@omsinmonk เรื่องวัฏสงสาร การเวียนว่าย ตายเกิด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระสูตรมากมาย ครับ
@@samartlaocharoensombat6927 จริงอยู่ที่มีในพระสูตรมากมาย แต่เราก็ต้องตีความให้เป็นธรรมะ ไม่ใช่ตีความไปตามตัวอักษร เช่น คำว่า วัฏฏสงสาร หมายถึง การเวียนว่ายเป็นวงกลม คือหมายถึงอาการที่จิตของเราเมื่อเกิดกิเลส (พอใน-ไม่พอใจ-ลังเลใจ) กิลสก็จะกระตุ้นให้จิตของเราทำกรรม (ดีบ้าง ขั่วบ้าง ไม่ดีไม่ชั่วบ้าง) เมื่อทำกรรม ก็จะเกิดผล (คือสุขใจ หรือทุกข์ หรือจืดๆ) เมื่อเกิดผลแล้ว ผลนั้นก็จะกระตุ้นให้จิตเกิดกิเลสต่อไปอีก คือถ้าเป็นผลที่น่าพึงพอใจก็อยากทำกรรมที่ให้ผลที่น่าพึงพอใจนั้นอีก แต่ถ้าได้ผลที่ไม่น่าพึงพอใจ ก็ยังอยากจะทำกรรมใหม่ที่ทำให้ได้ผลที่น่าพึงพอใจอีก วนเวียนอยู่เช่นนี่ตอลดไปทั้งชีวิต เป็นต้นแต่ถ้าเราไปตีความเป็นการเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกาย ก็จะกลายเป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ไปโดยไม่รู้ตัว
ปัจจัยทำให้เหตุเกิด-ดับสืบเนื่องต่อกันมา เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี การดับไม่เหลือซึ่งมูลเหตุนั้นและ คือนิพพาน
ธรรมชาติ คือ สัจธรรม
บางทีพอรู้แล้วใจ สลายครับเหมือนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวไว้ไม่เคยมีอยู่จริง แต่ก็นั่นแหละความจริงของชีวิต ขอบพระคุณครับอาจารย์🙂🙏
ยึดเหนี่่ยว(อุปาทาน) นั่นแหละครับ ต้นเหตุแห่งทุกข์ ละได้ใจก็ไม่สลาย "มันเป็นเช่นนั่นเอง" ไม่ต้องรับมือ แค่วางใจให้ถูกต้องตามที่ควรเป็น
ความไม่รู้จริง ความเชื่อง่ายคือความอ่อนแอ อยากเข้มแข็งต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอและมีเหตุผลอย่าเชื่อง่าย 'ฟังหูไว้หู' สุภาษิตนี้เข้าใจใช่ไหม
พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ ทำดีได้ผลกรรมดี ทำชั่วได้ผลกรรมชั่ว เพราะจิตพระอรหันต์ออกจากระบบของกรรมหรือควันตั้มได้ แ้ต่ผลของกรรมนั้นยังมีอยู่ แต่จะแสดงผลต่อจิตที่เป็นพระอรหันต์ไม่ได้ เพราะการประพฤติปฏิบัติดี ให้ผลกรรมที่ดีขึ้นได้ จึงทำให้ความไม่แน่นอนทางไม่ดีลดน้อยลง อนุสัยความเคยชินในการกระทำชั่วย่อมลดลง ทำให้เกิดนิสัยส่วนดีเพิ่มมากขึ้น แต่จะส่งผลทันทีได้ต้อง ละวิตกวิจารณ์ ละสุข ละทุกข์ ละความไม่สุขไม่ทุกข์ได้ครับ(ฌาณ4)
เรื่องยากๆท่านอธิบายได้ง่ายมากครับ ดูจบดูแล้วดูอีกครับเพื่อให้เข้าใจแตกฉาน#ขอบคุณอาจารย์มากครับ
+1ดูหลายๆรอบเช่นกัน
ตกลง ไม่มีดวงวิญญาณหรอคะ งั้นตายแล้วไปไหน
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ ฟังคลิปแล้ว อ.พูดว่า ไม่มีวิญญาณนี่คะ ไม่มีปรมาตมัน 9:36 ฟัง 2 รอบ ก็ยังสงสัยค่ะ
@@Natapat55 ถ้าเริ่มศึกษาก็จะเกิความลังเลสงสัยเป็นธรรมดา ดังนั้นอย่าเพิ่งปลงใจเชื่อใครๆ ต้องศึกษาต่อไปเรื่อยๆ แต่ต้องศึกษาอย่างปัญญาชน คือใช้เหตุใช้ผล และต้องมีของจริงมายืนยัน ตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงจะเกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิต เห็นแจ้งโลกตามความเป็นจริงได้ ถ้าศึกษาตามความเชื่อ จะไม่มีทางเกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิตและโลกได้
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ ถ้าศึกษาจากตำราจะยิ่งงง ยิ่งสับสน เพราะตำราแต่ละตำราจะมีความขัดแย้งกัน ต้องศึกษาจากร่างกายและจิตใจของเราเอง จึงจะพบความจริง ถ้าศึกษาจากตำราก็ต้องระวังอย่าศึกษาโดยไม่ใช้เหตุใช้ผล อย่ายึดถือในตำรามากเกินไป ถ้ายึดถือหรือเชื่อตามตำรามากเกินไป ก็จะทำให้ไม่ยอมรับเหตุผล ไม่ยอมรับความจริง ก็จะทำให้ได้รับคำสอนที่ผิดพลาดไปโดยไม่รู้ตัว
ใช่เลยครับคนเรามันไม่มีอะไรเป็นตัวตนจริงๆแหละครับ ร่างกายก็แค่เซลล์หลายๆเซลล์มาประชุมกันต่างทำหน้าที่เพื่อให้กายอยู่รอด จิตหลักๆก็แค่ รัก โลภ โกรธ หลง มาประชุมกัน พยายามสร้างตัวตนขึ้นมาทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่มีอะไรเลย ทุกอย่าก็แค่สิ่งสมมุติ
สรรพสิ่งเกิดดับบนที่ว่างสิ่งนี้มีสิ่งนี้ย่อมมีสิ่งนี้เกิดสิ่งนี้ย่อมเกิดที่ว่างเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่มีที่มาไม่มีที่ไป ที่ว่างคือสิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลและมันก็เล็กที่สุดในจักรวาล มนุษย์คุ้นชินกับสิ่งที่มีที่มาที่ไป ที่ว่างตามความหมายของพระพุทธองค์ผู้คนจึงเข้าไม่ถึง ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องธรรมชาติดีมากครับคลิปนี้...
เข้าใจเลยว่าร่างกายเราคือหลายๆสิ่งหลายๆอย่างมาประกอบรวมกัน มันไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ เราแค่ไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา มันเลยทำให้เกิดทุกข์ตามมา
ไม่ใช่แค่ร่างกาย แม้จิตใจก็ไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ เหมือนกับร่างกาย
ดวงจิตมีอยู่จริง..ที่ยู บอกส่องเข้าไปที่นิวเคลียสพบแต่ความว่างเปล่า...จิตอยู่ที่นั่นและมีพลัง แล้วก็ละเอียดมาก...เหมือนกับนักวิทย์ บอกในอวกาศมีสสารมืดอยู่ และมีพลังมาก..แต่ส่องอย่างไรก็ไม่พบ..นั่นแหละ...เจริญพร
พระพุทธเจ้าคือศาสดาที่ยิ่งใหญ่ เป็นได้ทุกสิ่งตั้งแต่แพทย์ คุณครู นักวิทยาศาสตร์ นักประชาธิปไตย และอื่น ๆ อีกมากมาย หาข้อจำกัดในความรู้ที่ค้นพบและมีอยู่ได้ไม่ เป็นบุญวาสนาที่ได้พบเจอในชีวิตก่อนสูญสิ้นไป❤❤❤
เหตุปัจจัยของพระพุทธเจ้ามีกล่าวโดยละเอียดในมหาปัฏฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความแน่นอน คือให้ผลแน่นอน ตรงตามเหตุ ส่วนปัจจัยอื่นๆ มีความไม่แน่นอน ท่านจึงไม่ได้กล่าวสอนไว้ สรุปคือปัจจัยมีทั้งปัจจัยที่แน่นอนและปัจจัยที่ไม่แน่นอน ตามแนวทางของพุทธศาสนาจ้า
อนุโมทนาสาธุค่ะ🙏
พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ผู้รู้แจ้งเห็นจริงทั่วโลกธาตุ ขอแค่พระองค์ต้องการจะรู้ จิตโน้มไปเพื่อจะรู้ก็รู้ได้ โดยมิมีประมาณ ถ้าคำตรัสมาจากพระองค์ นั้นคือสิ่งที่จริง พระพุทธเจ้าผิดไม่ได้
พระพุทธเจ้ารู้แจ้งวิธีการดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน แต่การที่จะรู้แจ้งเช่นนี้ได้ ก็ต้องรู้แจ้งโลกในระดับพื้นฐานตามหลักวิทยาศาสตร์ก่อน
มันไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขชะ คำสอนมันขัดแย้งกันหมด
จัดระเบียบความคิดให้ดี แล้วจะพบสิ่งที่แน่นอน (คือนิพพาน)
บอกคำสอนขัดแย้งก็เหมือนเจอโจทย์เลขที่ทำออกมาแล้วได้คำตอบที่ผิดนั้นละ
ใช่เลยนี่แหละคือการสอนของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง อาจารย์พูดถูกต้องสุดๆ คำสอนดั่งเดิมของพระพุทธเจ้า
ฟังแล้วน้ำตาไหล
ผมโชคดีที่ได้ฟังอาจารพูครับ ขอบคุณ อาจารย์ รอย อย่างสูงครับ
ผมบวชมา9ปีมีควารู้อยู่มากแต่ก็คาใจตีความหมายพอมาฟังอาจารย์พูดวันนี้ผมตาสว่างเลยอธิบายเห็นภาพเลยโอ้อออ..อาจารย์ขอบคุณมากพุทธเชีงวิทย์คัสฉามิ
วิทยาศาสตร์ ย่อมพิสูจน์ได้เพียงสิ่งที่คนมองเห็น รับรู้ สัมผัส ธรรมดาที่นักวิทยาศาสตร์ ย่อมต้องพิสูจน์ และทำให้เชื่อเฉพาะในสิ่งที่มองเห็นได้สิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไป ย่อมไม่ได้นำมาพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์ จะมีจริงหรือไม่ ย่อมพิสูจน์ไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์แต่ที่จำเป็นต้องทำให้เชื่อว่ามีอยู่ อาจจะเพื่อทำให้คนธรรมดาทั่วไป ไม่ประพฤติปฏิบัติไปตามใจ เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน
พุทธแค่บัตรประจำตัวประชาชน พุทธ ทั่วไปฟังไปก็ยังไม่เข้าใจครับแค่บอกร่างกายนี้ จิตนี้ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ก็งงแล้วพวกพุทธไหว้นาค ไว้ศาลนี้เป็นแก่นแท้ที่พระพุทธเจ้าต้องการสอนผู้คนโดยแท้อธิบายได้ดีมากครับ
คอนเทนต์แนวนี้ผมชอบมากครับ รอ Ep. ต่อไปครับ
หรือที่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ทั้งระดับอะตอมไปจนถึงจักรวาล จะเป็นจริง /ขอบคุณความรู้ดีๆจากท่าน อ. เป็นการบรรยายที่ เมื่อจบบทเเล้วเป็นอะไรที่ดูเชื่อมโยงกันไปหมดเลยครับ
ขอบคุณมากๆครับอ.ลอยหลักแหลมยอดเยี่ยมในการอธิบายมาก!!!
ความรู้และความจริง ได้มาบรรจบที่คลิปนี้ ของ อ.ลอย ณ วันนี้ แล้ว..สาธุ
การที่ผมได้มาดูคลิปนี้ทำให้ผมระลึกถึงได้ประโยคที่เคยอ่านเจอในหนังสือมาเนิ่นนานที่กล่าวว่า "เมื่อศิษย์พร้อมอาจารย์จึงปรากฎ"🙏
PARINYA สั้น คม ชัดเจน
ปัญญาทางโลกไม่มีมีทางหลุดพ้น แต่ปัญญาทางธรรมชึ้ทางหลุดพ้น อัลเบิตฉลาดจนแยกมิติปรมณูได้แต่อัลเบิตก็ไม่มีทางเข้าใจนิพพาน เปรียบเหมือนนกที่สงสัยปลาว่าว่ายน้ำได้อย่างไร จิตของปุถุชนที่ไม่เคยฝึกย่อมมีแต่การคาดเดา
ชีวิตทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแต่การส่งผลมีทั้งระยะสั้น ระยะยาวและข้ามชาติ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแน่นอน ครับ เรื่องกรรมจึงรู้เหตุและผล แต่อย่าคิดผลลัพธ์จะออกเมื่อไหร่ เพราะไม่มีทางรู้ ครับ
ปลูกข้าวได้เมล็ดข้าว, ปลูกเงาะได้ผลเงาะ, ทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว
เอาแค่ชีวิตนี้พอ อย่าเพ้อเจ้อไปชาติหน้า มันจะดูว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช้ปัญญาตามหลักพุทธศาสนา
@@อจินไตยเลิศสิริวัฒนา แล้วถ้าเกิดน้ำท่วมขังก่อนเก็บเกี่ยวล่ะ
ถ้าเรายังใช้วันพรุ่งนี้อยู่ก็ไม่ควรปฏิเสธว่าทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว, หรือเรายังใช้อดีต, ปัจจุบัน, อนาคตก็ไม่ควรปฏิเสธว่าทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว
@@Iam-wb3uj เราคงไม่ปลูกแต่ข้าวกินอย่างเดียวหรอกนะ, ในบ้านของคุณคงมีของอย่างอื่นไม่ใช่มีแต่บ้านอย่างเดียว
ทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัยทำดีได้ดี(บุญ) ทำชั่วได้ชั่ว(บาป) ทำอะไรก็ได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน แต่จะเมื่อไร.. ไม่มีใครรู้.. คำพยากรณ์ของพระพุทธแน่นอน คำพยากรณ์ของพระอรหันต์แน่นอน.. ค่ะ!
อนาคตเปลี่ยนแปลงตามเหตุและปัจจัยในปัจจุบันขณะครับ เพราะระบบที่เราอยู่มันไม่เสถียรครับ มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีความคงที่ใดๆกับทุกสรรพสิ่ง(แม้แต่เวลา) อนาคตมันจึงไม่แน่นอนครับ
@@ethanmatthewhunt8021 โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดก็หนีไม่พ้นของกรรม เมื่อถึงเวลาก็หนีไม่พ้นค่ะ พระโมคคัลลานะพาแม่เข้าป่าเพื่อจะฆ่าตามยุยงของภรรยา ทำเสียงเหมือนโจรทำร้ายแม่ แม่ก็ตะโกนให้ลูกหนีอย่าห่วงแม่ สุดท้ายก็กลับใจพาแม่กลับบ้าน เวรกรรมนั้นตามมาถึงชาติสุดท้ายโจรฆ่าท่านตายหลายครั้ง ท่านมีฤทธิ์ประสานร่างกายตามเดิม สุดท้ายท่านก็พิจารณาเวรกรรมอะไร.. ถึงทราบ ท่านก็ไปลาพระพุทธเจ้าเพื่อพระนิพพาน พระพุทธเจ้าก็อนุญาต นี่คือเหตุไม่มีใครหนีกรรมตัวเวร บุญก็ต้องได้รับ ทุกอย่างมีเหตุ & ผล
ขอบคุณ อาจารย์ ลอย มากครับ ที่ให้ความรู้ในเรื่องแบบ นี้ เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและเข้าใจยาก แต่อาจารย์รอย สรุป แบบง่าย และ เห็นภาพ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าคนรู้จริง
เป็นนักวิชาการที่เก่งในการจัดระบบการเรียนรู้และนำเสนอจะถูกต้องกว่า
อนุโมทนาสาธุคะ
ผมเห็นหลายๆท่านที่เขียนต่างๆนาๆ ผมสงสัยว่าได้ดูคลิปตั้งเเต่ต้นเรื่องไหม สิ่งที่ผมเข้าใจสัจธรรมเมื่อ2500กว่าปีก่อนก็คล้ายๆหลักการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมากๆ สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าพิสูจน์ มันมีเหตุเเละผล ซึ่งปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ก็มีเหตุเเละผล ซึ่งคนในโลกส่วนมากการจะยอมรับอะไรสักอย่าง ก็ต้องมีเหตุเเละผมเช่นกัน ซึ่งสัจธรรมก็เเสดงให้เห็นเเล้วนิครับ
สัจธรรมนั้นมันก็แสดงตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่คนเรากลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ไม่น่าตื่นเต้น ไม่น่าสนใจ (เหมือนน้ำจืด) แต่เขากลับไปสนใจเรื่องความเชื่อที่มีคนแต่งขึ้น ซึ่งมันน่าตื่นเต้น น่าสนุก และชวนให้ฝันหา (เหมือนน้ำหวาน) ทั้งๆที่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่ก็ยังพอใจที่จะฝันถึง
คำอธิบายของอาจารย์ เรื่องไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง นั้นถูกต้อง แต่เรื่องอนัตตานั้นยังคลุมเครือ คำว่าอนัตตานั้นไม่ใช่ของไม่มี อนัตตาเป็นสภาวะที่มีอยู่แต่สภาวะนั้นไม่อยู่ในการบังคับบัญชาของเรา เช่นลองพิจจารณาคลื่นเสียง ที่มากระทบสัมผัสหู หูทำหน้าที่รับฟังคลื่นเสียงที่มากระทบสัมผัส แล้วในกายนี้มีผู้สังเกตุการณ์คือจิตใจ ตัวจิตนี้คอยดูการกระทบสัมผัสของคลื่นเสียงที่กระทำกับหู แต่ไม่มีหน้าที่ไปห้ามหรือบังคับบัญชา การกระทบสัมผัสนั้น นั่นคือสภาวะอนัตตา(อนัตตาเป็นของมีอยู่อไม่ใช่ไม่มีตัวตน แต่สภาวะที่มีอยู่นั้นมันไม่อยู่ในบังคับบัญชาของเรา)
มิน่าพระบรมศาสดาจึงสอนให้เราตั้งสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ตอนนี้เวลานี้เท่านั้น
เหตุใด. ใด. ก็ตามคนมีอำนาจ. ในประเทศ. มักเป็นผู้กำหนด
ฟังซ้ำ ๆ โดยละเอียด ทำความเข้าใจซ้ำ ๆ เพื่อรู้ให้ลึกซึ้ง _/|\_ กราบขอบคุณอาจารย์ค่ะ ที่ทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเข้าใจมันค่ะ
เจ๋งครับ.มาแนวนี้ก็ดีนะ เป็นกลางให้รู้จักคิดเองดี มาก และก็ดีกว่าไปวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น ครับ มาแนวประวัติศาสตร์ทฤษฎีพุทธศาสนา ทฤษฎีความเชื่อ ความน่าจะเป็น ความเป็นเหตุเป็นผล วิทยาศาสตร์ วิทยาการการค้นพบ ผมว่าแนวเหล่านี้น่าฟังและเป็นกลางให้คิดให้ พิจารณาตามได้อย่างดีมีประโยชน์มาก อธิบายได้ตรงประเด็นเข้าแก่น ใจกลางสำคัญของเรื่อง น้ำไม่ท่วมทุ่ง เหมือนพระอธิบาย นอกจากจะงงและก็ง่วงเยอะ ไม่เข้าแก่นแท้สักที ผมว่าอธิบายธรรม..แบบนี้ เข้าใจง่าย ฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บเลย ว่าอะไรเป็นอะไรที่ไหนอย่างไรเมื่อไหร่กับใคร โอเคซึ้ง ครับ ขอบคุณครับสวัสดี
อนาคต ขึ้นกับเหตุปัจจัยจริง และปัจจัยเปลี่ยนแปลงได้จริง
ท่านคือบุคลากรอีกท่านนึงที่พลิกกะลาคว่ำให้หงายขึ้นมา
ถึงจะหงายแต่กบอีกหลายตัวก็ไม่ยอมกระโดดหนีไปไหน😄
@@meemaoh907 555 จริงครับ
หงายปุ๊ป กบอีกหลายๆตัว ช่วยกันคว่ำกะลากลับ ทันที แถมโวยวาย อีก
@@thanwa2308 555
@@thanwa2308 555 หงายไม่ได้ เดี๋ยวยุงลายวางไข่
สาธุ อนุโมทามิ ครับ
ผมเชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และเชื่อว่าโลกนี้มีความซับซ้อนกว่าความรู้ของคนอีกมาก เชื่อว่ามีกฎแห่งแรงดึงดูด Gravity Rule คิดดี ทำดี จะดึงดูดแต่สิ่งดีเข้ามาในชีวิต และสัจธรรมในชีวิตที่เชื่อมาเสมอคืออย่าคาดหวังต่อผู้อื่นหรือสิ่งรอบข้าง เพราะเมื่อไม่คาดหวังก็ไม่ต้องผิดหวัง แต่ทำให้ดี ทำให้เต็มที่ และเชื่อว่าผลลัพธ์นั้นคือหนทางที่จะนำพาไปสู่ความสุข :)
ทำดี ย่อมได้รับ(ผล)ดี ทำชั่ว ย่อมได้รับ(ผล)ของความชั่ว... ทำเหตุอย่างไร ย่อมได้ผลของเหตุนั้น ..
แล้วไอ้คนที่ทำชั่วแต่ก็ยังมีคนยกย่องสรรเสริญ มันขัดแย้งทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนะครับ อ.ลอยพูดผมว่าถูกครับ ทำดีคือดี ทำชั่วคือชั่ว
@@ธวัชชัยรัตนภักดี-ฦ5ฟอยู่ที่มุมมองของคำว่าดี ของแต่ละคนอาจจะต่างกัน บางคนอาจมองว่าดีคือร่ำรวย ลาภยศ มีคนสรรเสริญ แต่บางคนอาจจะมองว่าดี คือการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีอยู่มีกินพอเพียง มีสุขภาพดี พบเจอกัลยาณมิตรที่ดี ไม่ต้องกังวลกับเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องเป้าหมายของการเข้าใจสัจธรรมของแต่ละคนก็อาจจะต่างกันเช่นกันครับ :)
ใช่ครับ เหมือนไอ้ สาม ป. ทำระยำยังได้ดิบได้ดี
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นี่ก็สัจธรรม
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ จากใจจริงๆพึ่งมาฟังวันนี้แต่ชอบมากๆๆครับ ที่มีคอนเท้นดีๆแบบนี้ขอบคุณมากจริงๆครับอาจารย์
ขอบคุณมากครับ เข้าใจเเล้วครับ
คุณพยายาม : มันอาจไม่สำเร็จก็ได้ครับ ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม .
อ.ลอยกำลังอธิบาย แก่น พุทธธรรม แล้วก็มีคนเอาเปลือกกระพี้กิ่งใบมาแย้งมันก็ดูตลกดี ทำพื้นฐานที่มันวัดค่าได้ให้ชัดแจ้งก่อน เห็นไตรลักษณ์ในตัวเองในสรรพสิ่งจนเกิดความหน่ายก่อน ส่วนเรื่องนอกเหตุผลที่ปัจจัตตัง เก็บไว้กับตัวเองถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญรู้มากอย่าเที่ยวเอาเรื่องปัจจัตตังไปเถียงกับคนอื่น
สาธุ ครับ
เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจศึกษาปรัชญาพุทธเท่าไหร่ครับ อ่านไปงั๊นๆ แต่พออาจารย์มาอธิบายในแนวทางนี้ถูกจริตมากครับ เริ่มเข้าใจและสนใจมากขึ้น รอ EP. ถัดไปนะครับ
สาธุๆๆจ้าว
โอ้โห สารภาพเลยว่านี่คือคลิปที่2จากช่องนี้ ซึ่งแปลว่าผมไม่ได้ดูแต่คลิปแรกจากเพลลิสท์แต่พอได้ดู คือกดซับเลย
มี 6 ตอนก่อนหน้า
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดให้ ปัจจุบัน หรือ ในอนาคต ยอมมีเหตุทั้งนั้น เมื่อเวลาที่พร้อมจะให้เกิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมมีผลของมัน และผู้ทำให้เกิดขึ้นนั้นเหละจะได้รับผลของมัน เมื่อเวลาอันสมควรมาถึง ไม่ว่าจะเป็นผลดี หรือ ไม่ดี และไม่สามารถหลีกหนีได้เลยเมื่อเวลานั้นมาถึง นอกเสียจากเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง แล้วจิตใจเช้าใจชัดเจนกับสภาพธรรมะละวาง ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งในอดีต ปัจจุบัน ดังนั้นแล้วอนาคตก็ว่างเปล่า ไม่มีทั้งความดี ความไม่ดี ให้เราได้รับกลับคืน ทุกข์ก็ย่อมไม่เกิดกับบุคคลนั้นอีกต่อไป
จากที่ฟัง ที่อ่านแล้วมาเจอคลิปอ.รอยผมเข้าใจได้ว่า การจะเข้าใจพุทธนั่นคือคนนั้นๆ จะต้องมีปัญญา หรือความรู้ ที่ต้องเพิ่มพูนตลอดนั่นคือ ต้องไม่ทิ้งการอ่านนั่นคือ จะเข้าใจพุทธ ต้องอ่านได้แล้วเราจะเห็น เลยว่า เจ้าชายฯเข้าใจธรรม โดยไม่ต้องอ่านหรืออาจจะอ่าน หนังสือ หรือบันทึกนั้นก็น่าจะน้อยกว่ายุคนี้ดีไม่ดี ยุคนั้น มีตัวหนังสือ แล้วรึยังก็ไม่รู้ถึงจุดนี้ จึงบอกได้ว่า เจ้าชายฯ เก่งมากๆเก่งจริงๆ
อาจารย์ผมค้นพบแต่ผมอธิบายไม่ได้เพราะการเข้าถึงจุดนี้จะมีเฉพาะบุคคล อธิบายได้ยากจริงๆ
พอจะเริ่มเข้าใจแล้วครับ จะกลับไปดูย้อนหลังซ้ำๆแกะทีละคำ ทีละประโยคครับเพื่อความชัดแจ้ง ต้องใช้เวลาเพราะแต่ละคำที่สงสัย ไม่เข้าใจ ผมจะหยุดคลิป แล้วไปค้นข้อมูลใน google เอามาทำความเข้าใจ คลิปตอนที่7นี้ทำให้ผมเข้าใจว่ามิน่าล่ะ ผู้ที่มาทางสายวิทย์ คณิต ฟิสิกซ์ วิศวะ ขนาดไปทำงานถึงนาซ่า ท้ายที่สุดหลายคนกลับเข้ามาสู่พุทธ แบบผู้มีปัญญา เป็นเพราะผลการทดลอง หรือเรียกว่าสิ่งที่พบ สิ่งที่ค้นพบของพระพุทธเจ้า มันสอดคล้องกับผลตามหลักฟิสิกซ์ ที่ได้เรียนมานั่นเอง ว่างเปล่าที่แท้จริง การทำเหตุปัจจัยให้นำไปสู่ความว่างเปล่าที่แท้จริงช่างยากยิ่ง และต้องใช้เวลา
พระพุทธเจ้า กับ เลี้ยงลูกแบบพระพุทธเจ้าเกิดมา
ผมเชื่อว่าความดีย่อมส่งเสริม ความชั่วไม่ได้ส่งเสริมอะไร เวลานักการเมืองหาเสียงก็พูดถึงแต่ความดี หรือผลงาน ไม่มีใครเอาเรื่องไม่ดีออกมาพูด เพราะสิ่งไม่ดีไม่ได้ช่วยส่งเสริมอะไร
เข้าใจชัดเจนครับ เป็นอย่างนี้นี่เองถ้าอย่างนั้นการจะเปลี่ยนแปลงอะไรๆเราต้องลงมือทำกันเองรอกรรมมาตามทันคนเลวคงไม่มี เข้าใจแล้วครับ อ.
อ.ลอย สุดยอดปูชนียบุคคลของสังคมยุคใหม่เลยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ อาจารย์อธิบายเรื่องพุทธได้เคลียร์ชัดเจนมากๆครับ
สุดยอดตรงไหน
@@bangonsutถพพำภุวส
สุดยอดตรงที่ เขาสามารถอธิบายความจริงอันสูงสุด ได้เข้าใจง่ายและน่าฟังมากจริงๆ ขอบคุณครับ
@@bangonsut ดีแล้วครับ ไม่ต้องเชื่อทุกอย่างที่คนอื่นพูด แค่ใช้ปัญญาก็พอครับ
@@khemkung ดูจากคำที่พิมพ์กระแนะกระแหน ก็รู้แล้วว่าเขาไม่เขาใจที่อ.ลอยอธิบาย
คำตถาคต พุทธวจนังเลิศที่สุด
ฟ้งแล้วนึกถึงสัจธรรมข้อ "ทางสายกลาง" ชอบมากๆ อาจารย์อธิบายและพูดได้ชัดเจนมาก ขอขอบคุณ
ผมเจอแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ แล้ว ขอบคุณครับ.
ขอขอบคุณคลิปดีๆจาก อาจารย์ลอยค่ะ ติดตามทุกคลิปในซีรีย์นี้ค่ะ เป็นคลิปที่ดีมาก ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในศาสนาพุทธเรายิ่งขึ้นค่ะ
กราบขอบพระคุณค่ะ ชอบเนื้อหาแบบนี้มากค่ะ
เข้าถึงธรรมตัวจริงแระนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ😇
ทุกสรรพสิ่งเป็นเพียงธาตุธรรมชาติ และทุกสรรพสิ่งถ้าเจาะเข้าไปสู่ความละเอียดลงไปเรื่อยๆแล้วจะพบได้แค่สิ่งเดียวคือความว่างเปล่าเราก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราเห็นสิ่งนี้และชี้ทางเข้าถึงให้นั่นคืออริยสัจ 4
ผมตั้งใจฟังทุกคำและข้อความที่ท่านอาจารย์Loyพูด ชัดเจนและดีมากๆครับ ขอบคุณครับ
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ นี่เป็นสัมมาทิฏฐิระดับศีลธรรม ที่จำเป็นต้องมี เพื่อเลื่อนระดับสติปัญญาไปสู่สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ (เหนือโลก) อันเป็นความเห็นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง)
สิ่งมีชีวิตมีลำดับสิ่งไม่มีชีวิตไร้ลำดับ
คอยติดตามฟังทุกตอนของพุทธธรรมครับ
เยี่ยมยุทธ์ ขอบคุณ บุญรักษา1.ทุกสิ่ง เป็นไปตามกฎ เหตุปัจจัย ปรุงแต่ง2.จักรวาล เป็นผล การ ทำงานร่วมกัน ระหว่าง ความมีระเบียบกับความไร้ระเบียบ3.มนุษย์ มีพลังจำกัดที่จะควบคุม ทุกสิ่ง ให้เป็นตามใจ ปรารถนา4.กฎ ที่ใช้ได้ตลอด คือกฎไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ สาธุ สาธุ อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณครับผม บุญรักษา โชคดี ทุกวัน นะครับ
เยี่ยมมากครับ สมกับเป็นปราชญ์แห่งยุค
อาจารย์อธิบายและยกตัวอย่างได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่ายครับ
ข้อ1. จิต วิญญาณ มีเกิดดับตลอดเวลา แต่พระอรหันต์ท่านไม่ทุกข์แล้วครับ เพราะท่านละความเป็นสัตว์ที่ยึดติดเพลินในขันธ์5ได้แล้ว ข้อ2. ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วถูกต้องแล้วครับ แต่เราเคยเกิดมาหลายภพหลายชาติ การทำความดีวันนี้ใช่ว่าจะได้ผลของความดีเลยทันที และทำความชั่ว ก็ใช่จะได้รับผลของความชั่วทันที แต่พระพุทธเจ้าท่านทรงย้ำว่าการทำความดีมีผล และการทำความชั่วก็มีผลเช่นกันครับข้อ3. จะว่ามีตัวตนก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีตัวตนก็ไม่ใช่ครับ ที่มีตัวตนเพราะความยึดติดเพลินในขันธ์5 ว่าเป็นตัวเร าจึงยังคงทำให้ยังมีตัวเราอยู่สรุปว่า พุทธศาสนานั้นพระพุทธเจ้าทรงสอนให้กลับสู่สภาพเดิมที่ไม่มีอะไร กลับสู่สภาพก่อนที่จะมีสัตว์ผู้มายึดขันธ์5 ครับ
นิยาม (ทฤษฎี) 5 ลองไปหาอ่านดูในหนังสือพุทธรรมของท่าน ป.อ.ปยุตโต ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นการทำนายตามเหตุและผลที่น่าจะเป็น สามารถใช้หลักกรรมนิยามอธิบาย ผมเสนอว่าสามารถใช้คำว่า สัจธรรม ได้อยู่ ขอแย้งเจ้าของคลิปที่บอกว่าไม่ใช่สัจธรรม ตรงกับ ทฤษฎีแบบเก่าแต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นคือ ไม่สามารถทำนายได้ ก็ยังสามารถใช้หลักธรรมนิยามอธิบายได้ ตรงกับทฤษฎีควันตั้ม
ทุกอย่างล้วนยุติธรรมแล้วทั้งสิ้น...โปรดใช้วิจารญาณในการฟังพระพุทธเจ้าสอนว่าอย่าเชื่อคนอื่น อย่าเชื่อตัวเองแม้ตัวเราท่านก็ไม่ควรเชื่อแต่จงเชื่อความจริง เช่นเชื่อว่าทำดีได้สุข ทำชั่วได้ทุกข์ เป็นต้น จงศรัทธาในความดีเถิด... ปล.พระไตรปิฏกไม่มีการตัดแต่งธรรมเพราะพระพุทธเจ้าทรงห้าม อาจมีผิดเพี้ยนบ้างก่แนมาถึงเรา แต่เชื่อเถอะเรารับรู้ได้ ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมไว้ ฟังแล้วจะสะท้านลึกซึ้ง ตาสว่างและครอบคลุม ครบจบ**นวโกวาท บทในธรรมวิภาค**เป็นหนังสือเล่มเล็กแต่ดีมาก..หาซื้อได้ในโชปี้หรือลาซาด้าเป็นหนังสือที่ถอดมาจากพระไตรปิฏกเพื่อความเห็นจริงความเห็นถูกเราเท่านั้นที่รู้ เป็นสิ่งที่รู้เฉพาะ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นสิ่งเเท้จริง บุคคลหว่านพืชผลอะไร ก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น เเต่ผลการทำดี -ชั่ว ไม่ส่งผลทันที ก็ส่งย่อมผลในอนาคต
@@drewwyeiei3587 ใช่ครับ หว่านพืชอะไรย่อมได้พืชนั้น แต่มันก็สามารมีเหตุปัจจัยอื่นมาทำให้มันไม่งอกได้ หว่านข้าวถ้างอกก็ได้ต้นข้าว แต่นกมาจิกเสียก่อนข้าวก็กลายเป็นปุ๋ยให้ต้นมะขามที่มันไปเกาะได้
พยายามปฏิเสธความจริงสินะ ทำดีได้ดีไม่มีทางเป็นจริง ที่จารลอยมาเสนอก็คำสอนพระพุทธเจ้า ถ้าคุณบอกว่าที่จารลอยพูดมันผิดคุณก็ไม่ใช่สาวกของพระพุทธเจ้าหรอกครับ คุณคงนับถือศาสนาผีในไทยแน่นอน
สาธุค่ะ
ทำคลิปดีๆออกมาเยอะๆครับ ผมนี้ติดตามอาจารย์ทุกคลิปครับ
"ทำกรรมอย่างไร ได้รับผลของกรรมอย่างงั้น"
แทบไม่มีแล้วครับ ที่ภิกษุจะเป็นพุทธแท้จริงๆ
ต้องช่วยกันสร้างขึ้นมา อย่าท้อ
มีครับ ลองฟัง พุทธวจน. พระอาจารย์คึกฤทธิ์
ขอบคุณมาก ที่ผมโง่มานานใน ศาสนา อจ อธิบายได้ดีมาก
ถ้าพระภิกษุ หรือพระนักเทศน์ อธิบายหลักธรรม แบบง่ายๆๆ เหมือนอาจารย์ลอย ผมว่าคนที่รับฟังธรรม จะเข้าใจง่ายกว่า และสามารถเข้าใจไปถึงหลักปฏิบัติตนได้ดีเลย
อาตมาก็สอนธรรมะวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ลองไปฟังดู ruclips.net/channel/UCiBR_xFCXi68GCVwsCYN6Awvideos
พระภิกษุบางรูปก็อธิบายได้ แต่มักไม่ค่อยเห็น เพราะท่านมุ่งปฎิบัติอย่างเดียว ช้างเผือกย่อมเกิดแต่ป่าฉันใดก็ฉันนั้น
จริตคนฟัง พื้นฐานคนฟัง ไม่เท่ากันครับ บางครั้งถูกทั้งคู่แต่ก็ทะเลาะกันเพราะเหตุนี้ละครับ
ไม่แน่เสมอไปครับ ถ้าคนฟังมีภูมิต่างกัน ตัวกูของกูอะไรก็แล้วแต่ เครื่องรับไม่ตรงกับเครื่องส่ง สิ่งที่ อ.ลอยอธิบายก็ไม่ยังประโยชน์อะไรเลยเหมือนใส่ของลงกล่องไม่ได้น่ะครับ พระพุทธเจ้าจึงเปรี่ยบบัวสี่เหล่าให้เห็นภาพไงครับ ปัญหานี้ผมเชื่อว่าเจอกันมานานแล้ว ถึงได้มีการย่อยให้เข้าใจง่ายแบบสวรรค์ นรก บาป บุญ อะไรงี้ครับ
งั้นคุณต้องไปฟัง พุทธวจน ที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ เทศน์นะครับ. แล้วคุณจะชอบ. หาได้ใน youtube
จบปริญญาตรี เชื่อตัวเองจบปริญญาโท เชื่อหมอดูจบปริญญาเอก เชื่อหลักพุทธ
เดียวนะครับ อาจารย์เค้าอธิบายตามหลักของวิทยาศาสตร์นะครับลองไปดูตั้งเเต่ ep.เเรกนะครับ สิ่งที่อาจารย์พูดดักต่างๆนาๆคือการพูดดักไม่ให้เกิดดราม่าต่างๆนาๆนะ ถ้าคุณโตพอที่จะเข้าใจ คำพูดหรือฟังรู้เรื่อง คุณก็จะไม่พูดอย่าง งี้ หรอกนะ
@@โปเตโต้7 เค้าน่าจะไม่เข้าใจ กับตรรกะป่วยๆเหมือนที่อ เคยกล่าวไว้อะครับ น่าไปสนใจเลย
ทำดีได้ผลดี ทำชั่วได้ผลชั่วครับ ผลของกรรมมี3ระดับคือปัจุบัน เวลาถัดมาและเวลาถัดมาอีก เหตุที่คนทำชั่วแล้วได้ดีคือผลกรรมอันงามยังส่งผลอยู่ หากจะนำมาเสมอตั้งศึกษาให้ระเอียดมันจะกลายเป็นบิดเบือนคำสอน
เมื่อย่อยรูปให้เป็นหน่วยเล็กที่สุดที่แยกต่อไปไม่ได้ เรียกว่า กลาป ประกอบด้วยรูป 8 รูป ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สี กลิ่น รส และโอชาส่วนนามธรรม ละเอียดกว่ารูป ได้แก่ จิต และเจตสิก(สิ่งที่ประกอบกับจิต)ทั้งรูปธรรม และนามธรรม เกิดดับตลอดเวลา
รบกวนอธิบาย คำว่า โอชา หน่อยครับ (จันทร์โอชา..ไม่ต้อง)
Axiom ข้อที่สอง พึ่งเข้าใจก็วันนี้ สาธุ ขอบพระคุณท่าน
น่าสนใจมากครับ ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่นำความรู้มาบอกต่อให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ก่อนตาย ผมไม่สามารถคิดแบบนี้ได้เอง ความรู้เป็นสิ่งที่มีค่ามากจริงแท้ครับ
ผมชอบความคิดและ ชื่นชม อาจารย์ ครับ ที่เอา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มา ชง เข้า กับคำสอนของพุทธได้อย่าง กลมกล่อม จนผม เกือบกลับ ไป พุทธ อีก ครั้ง เพราะผมหันหลัง ให้ พุทธ มา 6 ปีแล้ว ผมอยากให้อาจารย์เอา คัมภีพระไตรปิฏก ออกมากาง สอน ให้คนพุทธได้เข้าใจ ว่า บทไหน ที่พุทธเจ้า ทรงพูดไว้ และ ใครเป็นผู้ที่ได้ จด บันทึก เมื่อ 2500 กว่าปีก่อน เพราะ สอนกัน ปากต่อปาก กันมา2500 กว่าปี มันดูไม่น่าเชื่อถือ ครับ ต้องอาศัย ผู้ที่ ศรัทธา ผู้ รู้อย่างอาจารย์ มาทำคลิปสอน ซึ่ง ผม เอง ก็ นอนอ่านไบเบิล ตอนแรกผมก็คิดว่ามันแค่ นิทาน เล่ม นึง ที่ คนเมื่อ 5000 ปีก่อน จดบันทึก เขียน ต่อๆกันมา แต่ บางอย่าง ก็ ทำให้วิทยาศาส ทึ่ง หลายอย่าง จนผมเอง สับสน ว่า การ ยุแบบ พระพุทธเจ้า คือ บาลานซ์ 50-50 คือ ทางสายกลาง ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่ขาว ไม่ดำ มันคือ สิ่ง ที่ถูกต้องแล้ว แต่ ความจิง มนุษย์ เรา มีบาป มีกิเลส มาแต่เกิด แม้กะทั่ง ตัวพระพุทธเจ้าเอง ก็ หาทางพ้นทุกข์ ทั้งที่เคย เปน ถึง เจ้าชาย แต่มาเจอ ความจิง คือ ยุตรงกลาง หรือ balance นี่แหละ แต่ ผมยังเชื่อทุกอย่างที่มันเปนระบบ หรือ ระเบียบ ย่อม มีผู้สร้างครับ ยุ ดีๆ บิกแบง จะระเบิดตูม อะตอม โมเลกุล นับล้านๆ จับตัวกันเปน ระบบ สุริยะ เรียงตัว หมุนรอบ กัน เป๊ะๆ มันเปนไปได้ยาก วิทยาศาส พยายาม หา เหตุผล ต่าง มาอ้าง ก็ ต้อง งง กัน ฉะนั้น ชาตินิยม จึง ไม่ค่อยมี ใคร ปฎิเสธ สิ่งที่ ไร้ตัวตน นั้นคือ สิ่งที่ทำให้เกิด สรรพสิ่ง อย่าง God หรือ พระเจ้า หรือ อัลเลาะ แต่ พุทธ จะเน้น สอนให้คนเปนคนดี จะไม่พูดถึงผู้สร้าง จะพูดถึงแค่ ความเปนจิง อันนี้ถูกต้องครับ แต่ยัง ไม่ถูกใจผมเท่าเรื่องราวของ พระเยซู เท่าไหร่ครับ ดู เปน รูปประธรรมมากกว่า คือ ปฎิบัติจิง มากกว่า พูด ครับ คือ ช่วยคนก็ช่วยจิง ไม่ ใช่ ยืนดู หรือ นั่งดูครับ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับจารย์ มนุษย์เราย่อมมีความคิดที่ต่างกันเปนเรื่องธรรมดาแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ ผมอาจจะคิดผิดเหมือนคนทั้งโลกก็ได้)😊😊😊😊
ช่วง 10:25 - 12:02 ทำให้ผมนึกถึงนิยายเรื่องกามนิตวาสิตถีเลย ตอนกามนิตเป็นโจรถูกพราหมณ์โจรสอนว่าการฆ่าคนไม่ผิดเพราะเราไม่ได้ฆ่าใคร เราแค่ฟันมีดไปในความว่างเปล่า
เป็นหลักเชื่อของ ภควัทคีตา ครับ ว่าทุกสรรพสิ่งมีหน้าที่ต้องทำ ...ไว่ว่าจะสำเร็จ หรือ ล้มเหลว สุดท้ายก็ไปอยู่กับพระเจ้าอยู่ดี
อย่าเพิ่งจินตนาการเลยเถิดไปว่ามันไม่มีตัวตนใดๆเลย เพราะหลักอนัตตาไม่ได้บอกว่าไม่มีตัวตนเลย (คือเป็นนิรัตตา) แต่บอกว่าเป็นอนัตตา (คือไม่ใช่อัตตาอย่างของพราหมณ์) คือมันก็มีตัวตนอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เป็นตัวตนชั่วคราว (อนิจจัง) ที่เมื่อตัวตนชั่วคราวนี้ทำดีก็มีผลดี (คือสุขใจอิ่มใจ) แต่ถ้าทำชั่วก็จะเกิดผลชั่ว (คือทุกข์ใจ ร้อนใจ) ในขณะที่ทำอยู่ หรืออาจเกิดเมื่อทำเสร็จแล้วก็ได้
เพราะเขาไม่รู้ และไม่เห็นว่ามีตัวที่ไปก่อภพชาติอยู่ จะให้มานึกคิดไม่มีทางได้เห็น100% ต้องทำเท่านั้น
สาธุๆๆ
ในที่สุดผมก็ได้คำตอบ ที่ผมไม่ยอมรับประโยคที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ตั้งแต่เด็กผมเถียงครูและเพื่อนหลายคนว่าประโยคนี้ไม่เป็นสัจธรรม แต่ทุกคนกลับ บอกว่าผมไร้สาระ
ไร้สาระจริงครับ
ความพยามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่นครับเพียงแต่คนที่พยายามมีโอกาสสำเร็จมากกว่าไม่ได้หมายความว่าคนที่พยายามจะสำเร็จทุกคนครับเพราะมีหลายปัจจัยที่สงผลต่อความสำเร็จครับ
สวัสดีค่ะท่านมหา ดร.ลอยฯท่านบรรยายเรื่องแอ๊คเซี่ยมของพระพุทธเจ้าได้จนกระทั่งดิฉันเข้าใจเพราะอธิยายในหลักการวิทยาศาสตร์ ไม่ใช้หลักศรัทธาจริตและไสยศาสตร์ ฉันรู้สึกว่าโชคดีที่เปิดมาเจอคลิปของท่านมหาลอยนี้ สาธุๆนะคะ
สอนถึงชั้นอภิธรรมกันทีเดียว
ที่อาจารพูด มันเป็นจริงมาตลอดอยู่แล้ว
เจอทั้งหมอบีเข้าไป กลับมาดูของอ.ลอยอีก งงไปหมดแล้วครับ
555 เข้าใจเลยครับ แต่น่าจะเป็นจริงทั้ง หมอบี และ อ.ลอย เพียงแต่แสดงในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน อ.ลอย อธิบายให้เข้าใจศาสนาพุทธในส่วนของ ไตรลักษณ์ ได้เข้าใจง่าย ยอมรับได้ง่ายเพราะอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ ส่วน หมอบี คิดว่ามาจากผลของการปฏิบัติครับ สุดยอดทั้ง 2 ท่านครับ
ใครช่วยให้พ้นทุกข์ได้ก็ให้เชื่อคนนั้นมากกว่าครับ
ขอบพระคุณค่ะ😇
หาก อนุมานว่าจิต คือ พลังงาน หรือ อนุภาค ในสภาวะจิตปรุงแต่ง หรือ เปลี่ยนแปลงไป ไม่หยุดนิ่ง แน่นอน อาจใช้หลัก Heisenberg Uncertainty principle หรือ หลักความไม่แน่นอน ของ ไฮเซนแบร์ก อธิบาย ความไม่แน่นอนนั้นได้
อนิจจัง ไม่เที่ยง ไม่แน่
ในคลิปเค้าก็บอกนะครับว่าจิตเป็นอนุภาคควอนตัม เล็กกว่าอนุภาคพลังงานเยอะ ใช้ฟิสิกส์พลังงานมาคิด ต้องใช้ฟิสิกส์ควอนตัม
@@theunicornsstyle6515 ความไม่แน่นอน ของไฮเซนแบร์ก คือ รากฐานของ ฟิสิกส์ควอนตัม ครับ และ วอนเนอร์ ไฮเซนแบร์ก ก็ เป็น นักวิทยาศาสตร์ ชาวเยอร์มัน เจ้าของ รางวัลโนเบล สาขา ฟิสิกส์ ครับ และ ในคลิป เน้นไป ที่ผลงาน ของ ไอสไตน์ และ นิลส์โปร์ หากแต่ ทฤษฎีทางฟิสิกส์ ควอนตัม ที่ อธิบาย หลัก สัจธรรม ความไม่แน่นอน ที่สอดคลองกับ หลักพุทธปรัชญา ที่ ตรงประเด็น ที่สุด คือ ผลงาน ของ Heisenberg uncertainty principle ครับ
"ทำดีดี ทำชั่วชั่ว ไม่มีทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว " โคตรปลดล็อคชีวิตเลยครับ โชคดีมากที่ได้มาฟังอะไรแบบนี้แล้วสนุกแล้วเข้าใจ
อยู่ทีพี่ใช้ชีวิต ถ้าชอบกินเหล้าพี่สามารถ
บอกอนาคตพี่ จุดจบของชีวิตระดับจะเกิดมากน้อย
@@khatthawut ถ้าน้องไม่เข้าใจ ไปฟังใหม่ อ่านใหม่นะครับ
@@Mike.kronos บอกอะไรผม ถามกับทำดีคืออ่ะไร ทำชั่วคืออะไร
@@khatthawut เรียนภาษาไทย ก่อน
@@Mike.kronos แล้วพี่ไม้บอกพ่อไปเรียน
ภาษาไทย
เเสดงว่าพุทธของไทย มีพราหมณ์ผสมอยู่เยอะเลย ทั้งเรื่องผี วิญญาณ เทพ มีอัตมันผสมอยู่เพียบ
เพราะ ศาสนาพราหมณ์เข้ามาก่อน คนพยายามหาสิ่งยึดเกี่ยว แต่ทุกวันนี้ คนไทยไหว้ต้นกล้วย ไหว้สัตว์ทีผิดปกติ ฯลฯ. เพียงเพื่อขอรวยขอทรัพย์. หลงผิด ติดกิเลสอยู่ดี...หลักไตรลักษณ์ อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา นี่แหละจริงที่สุดแล้ว
วิณญาน ในพุทธ มีอยู่
แต่ใม่ใช่วิณญานแบบที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจ
พุทธแท้ต้องศึกษาจากพุทธวจน
พุทธ พาหรมณ์ ผี มีทุกที่บนโลกใบนี้
เพราะเราไม่ศึกษา ก็เลยไม่รู้ว่าธรรมคำสั่งสอนของพุทธศาสนามีอะไรบ้างไม่สามารถนำมาแก้ความทุกข์ในชีวิตได้ ดังนั้นใครพูดอะไร นิยมแบบไหนจึงเชื่อและทำตามเขาไปหมด จึงมีพวกที่หากินกับเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ ของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยเวทย์ อิทธิฤทธิ์ พิธีแก้กรรม ฯลฯ ซึ่งเป็นของที่ปลอมปนนำมาหากินหลอกชาวบ้านคนที่ไม่รู้อะไรก็ย่อมตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินทองนับหมื่นนับแสนให้แก่คนหน้าไม่อายพวกนั้นไปตามที่เราเห็นในข่าวทีวีบ่อยๆ นี่เพราะเราไม่ใช้หลักธรรมคำสอนแก้ปัญหาชีวิต(เพราะไม่มีความรู้) จึงใช้เงินแก้ปัญหา(เอาไปจ้างให้เขาช่วยทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น) สุดท้ายจึงมีแต่ถูกหลอก
ถ้าทฤษฎีนี้เป็นจริงงั้นคุณค่าของการดับทุกข์จะมีค่าอะไรหรอครับ สู้ไปเสพสุขทั้งชีวิตไปเลยไม่ดีกว่าหรอ จะเสียเวลาฝึกสมาธิทำไม ทำตัวเป็นคนดีทำไม มีความรักหรือมีความเมตตาไปทำไม ธรรมชาติไม่ยุติธรรมงั้นเรายิ่งต้องเอาเปรียบสิเพราะสุดท้ายจะเอาเปรียบหรือไม่เอาเปรียบก็สูญเปล่า ถ้าสสารเกิดเพราะการประชุมของโมเลกุลงั้นจิตก็อาจจะเกิดจากการประชุมของโมเลกุลก็ได้นิไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอยู่จริง🤔😮😮
งั้นคุณก็เวียนว่ายตายเกิดไปอีกนานถ้าคิดแบบนี้
คุณค่าของมันคือ
เมื่อคุณทุกข์ คุณทรมาณ สิ่งที่ ดับทุกข์ คือ การให้เหตุผล ของวิธี ว่ามันเกิดจาก อะไร ทำยังไง ถึงจะไม่ทุกข์ ถ้าไม่ทุกข์ สุข ก็ไม่ใช่มนุษย์ แต่ สิ่งที่ผมได้ คือการ ลดความทุกข์ที่มี ให้น้อยลง หรือ ลดช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ทุกข์น้อย ทุกข์มาก มันก็คือทุกข์ เพราะงั้นพระพุทธเจ้าถุงเน้นไปที่ทุกข์ ไม่ใช่ เน้นไปที่การสร้างความสุข
อยากดับทุกข์ให้เอาความทุกข์ออกไปไม่ใช่หาความสุขเข้ามา
ดีมาก
ตั้งแต่ติดตามคลิปอาจารย์ รู้สึกได้จริงว่า ตัวเองฉลาดขึ้นค่ะ โดยเฉพาะเรื่องศาสนาพุทธที่อาจารย์นำเสนอ ความโง่.. งมงาย ลดลงเยอะมากๆๆ ขอบพระคุณอาจารย์อย่างที่สุดค่ะ
สอนอย่างนี้จึงจะเรียกว่าเป็นการสอนให้เกิดปัญญา ไม่ใช่สอนให้เกิดศรัทธา (ความเชื่อ) แต่มันก็เหมาะสมกับเฉพาะปัญญาชนคนดีเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เพียงพอ จะรับไม่ได้ แล้วเขาก็จะต่อต้าน (เตรียมถูกโจมตีได้เลย)
วิทยาศาสตร์ใช้ได้กับทุกๆศาสตร์เช่นการเกษตร, พลังงาน, การแพทย์, การศึกษา, การประดิษฐ์, การก่อสร้าง, คงไม่มีใครๆเผานาข้าวตัวเองทิ้งนะเพราะยังไงก็ต้องอาศัยนาข้าวอยู่ดี(นาข้าวเหมือนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆศาสตร์)
@@omsinmonk เจริญในธรรม
แนะนำอีกช่องนะคะ ruclips.net/video/CXQ3bl_shhk/видео.html
@@nipongasiprong2532 ในควอนตัมฟิสิกส์ ค่าความเร็วแสงเป็นค่าคงที่ที่มีความหลากหลายนะคะ ถ้าผ่านอากาศจะเร็ว 3แสนกม./วิ ถ้าแสงผ่านน้ำจะเร็ว 2แสน กม./วิ ถ้าผ้านเพชรแสงจะเร็ว 1แสน กม./วิ ราคาหุ้นว่าดอยแล้วยังมีสูงอีก ยอดเขาว่าสูงแล้วยังมีเขาซ้อนเขาสูงในสูงเหมือนเพชรพระอุมา สงครามไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร แม้แต่การเวลาในเอกภพ เวลาบนพื้นโลกกับเวลาในอวกาศยังไม่เท่ากันเลยค่ะนี่แหละเค้าถึงบอกว่าสิ่งที่ว่าแน่นอนแล้วก็ยังไม่แน่นอน
อาจารย์เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา นักคิด นักวิชาการ นับถือจริง ๆ ค่ะ
ทำดีดี ทำชั่วชั่ว ชีวิตไม่จำเป็นต้องได้รับความยุติธรรมเสมอไป
คมมากและเศร้ามาก โดยเฉพาะกับประเทศเรา
คนทำชั่วไม่ได้สุขทางใจหรอกค่ะ. แต่เค้าหาเหตุผลเพื่อสบายใจ. เราไม่ควรจะทุกข์กับความชั่วของเค้านะคะ
พุทธพจน์
“….เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น….”
ชัดเจนหมดจด
อนาคตเป็นไปตามเหตุปัจจัย แต่เนื่องจาก เหตุปัจจัยที่เรา
สะสมทำกรรมมานับชาติไม่ถ้วน ทำให้ไม่มีใครสามารถรู้เหตุทั้งหมดได้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อย่าคิดเรื่องกรรมและวิบากว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเหตุปัจจัยมากมาย แต่ให้รู้ว่า
เหตุอะไร ทำให้ผลเป็นอย่างไร เพื่อจะละอกุศลและเจริญกุศล ครับ นั่นคือ ผลของอนิจจังที่ทุกคนต้องเจอนั่นเอง
เหตุปัจจัยวันต่อไปมีได้เพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่มีในวันนี้เหมือนลิงกระโดดเกาะต้นไม้ต้นนี้ไปเกาะต้นไม้ต้นโน้น
คำว่า ชาติ ของพุทธาศนาหมายถึง การเกิดความยึดถือว่ามีตัวเรา-ของเราขึ้นมาเมื่อไร ก็เรียกว่า "เกิด" ชาติหนึ่งแล้ว เมื่อความยึดถือนั้นดับหายไป ก็เรียกว่า "ตาย" ซึ่งวันๆเราก็เกิด-ตาย เกิด-ตาย นับเป็นร้อยๆชาติอยู่แล้ว หยุดเกิดเมื่อไรก็นิพพาน (สงบเย็น) ชั่วคราวเมื่อนั้น ส่วนเรื่องการเกิด-ตายทางร่างกายนั้น เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ ไม่ใช่ของพุทธ
@@omsinmonk เรื่องวัฏสงสาร การเวียนว่าย ตายเกิด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระสูตรมากมาย ครับ
@@samartlaocharoensombat6927 จริงอยู่ที่มีในพระสูตรมากมาย แต่เราก็ต้องตีความให้เป็นธรรมะ ไม่ใช่ตีความไปตามตัวอักษร เช่น คำว่า วัฏฏสงสาร หมายถึง การเวียนว่ายเป็นวงกลม คือหมายถึงอาการที่จิตของเราเมื่อเกิดกิเลส (พอใน-ไม่พอใจ-ลังเลใจ) กิลสก็จะกระตุ้นให้จิตของเราทำกรรม (ดีบ้าง ขั่วบ้าง ไม่ดีไม่ชั่วบ้าง) เมื่อทำกรรม ก็จะเกิดผล (คือสุขใจ หรือทุกข์ หรือจืดๆ)
เมื่อเกิดผลแล้ว ผลนั้นก็จะกระตุ้นให้จิตเกิดกิเลสต่อไปอีก คือถ้าเป็นผลที่น่าพึงพอใจก็อยากทำกรรมที่ให้ผลที่น่าพึงพอใจนั้นอีก แต่ถ้าได้ผลที่ไม่น่าพึงพอใจ ก็ยังอยากจะทำกรรมใหม่ที่ทำให้ได้ผลที่น่าพึงพอใจอีก วนเวียนอยู่เช่นนี่ตอลดไปทั้งชีวิต เป็นต้น
แต่ถ้าเราไปตีความเป็นการเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกาย ก็จะกลายเป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ไปโดยไม่รู้ตัว
ปัจจัยทำให้เหตุเกิด-ดับสืบเนื่องต่อกันมา เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี การดับไม่เหลือซึ่งมูลเหตุนั้นและ คือนิพพาน
ธรรมชาติ คือ สัจธรรม
บางทีพอรู้แล้วใจ สลายครับเหมือนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวไว้ไม่เคยมีอยู่จริง แต่ก็นั่นแหละความจริงของชีวิต ขอบพระคุณครับอาจารย์🙂🙏
ยึดเหนี่่ยว(อุปาทาน) นั่นแหละครับ ต้นเหตุแห่งทุกข์ ละได้ใจก็ไม่สลาย "มันเป็นเช่นนั่นเอง" ไม่ต้องรับมือ แค่วางใจให้ถูกต้องตามที่ควรเป็น
ความไม่รู้จริง ความเชื่อง่ายคือความอ่อนแอ อยากเข้มแข็งต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอและมีเหตุผลอย่าเชื่อง่าย 'ฟังหูไว้หู' สุภาษิตนี้เข้าใจใช่ไหม
พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ ทำดีได้ผลกรรมดี ทำชั่วได้ผลกรรมชั่ว เพราะจิตพระอรหันต์ออกจากระบบของกรรมหรือควันตั้มได้ แ้ต่ผลของกรรมนั้นยังมีอยู่ แต่จะแสดงผลต่อจิตที่เป็นพระอรหันต์ไม่ได้ เพราะการประพฤติปฏิบัติดี ให้ผลกรรมที่ดีขึ้นได้ จึงทำให้ความไม่แน่นอนทางไม่ดีลดน้อยลง อนุสัยความเคยชินในการกระทำชั่วย่อมลดลง ทำให้เกิดนิสัยส่วนดีเพิ่มมากขึ้น แต่จะส่งผลทันทีได้ต้อง ละวิตกวิจารณ์ ละสุข ละทุกข์ ละความไม่สุขไม่ทุกข์ได้ครับ(ฌาณ4)
เรื่องยากๆท่านอธิบายได้ง่ายมากครับ ดูจบดูแล้วดูอีกครับเพื่อให้เข้าใจแตกฉาน#ขอบคุณอาจารย์มากครับ
+1
ดูหลายๆรอบเช่นกัน
ตกลง ไม่มีดวงวิญญาณหรอคะ งั้นตายแล้วไปไหน
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ ฟังคลิปแล้ว อ.พูดว่า ไม่มีวิญญาณนี่คะ ไม่มีปรมาตมัน 9:36 ฟัง 2 รอบ ก็ยังสงสัยค่ะ
@@Natapat55 ถ้าเริ่มศึกษาก็จะเกิความลังเลสงสัยเป็นธรรมดา ดังนั้นอย่าเพิ่งปลงใจเชื่อใครๆ ต้องศึกษาต่อไปเรื่อยๆ แต่ต้องศึกษาอย่างปัญญาชน คือใช้เหตุใช้ผล และต้องมีของจริงมายืนยัน ตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงจะเกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิต เห็นแจ้งโลกตามความเป็นจริงได้ ถ้าศึกษาตามความเชื่อ จะไม่มีทางเกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิตและโลกได้
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ ถ้าศึกษาจากตำราจะยิ่งงง ยิ่งสับสน เพราะตำราแต่ละตำราจะมีความขัดแย้งกัน ต้องศึกษาจากร่างกายและจิตใจของเราเอง จึงจะพบความจริง
ถ้าศึกษาจากตำราก็ต้องระวังอย่าศึกษาโดยไม่ใช้เหตุใช้ผล อย่ายึดถือในตำรามากเกินไป ถ้ายึดถือหรือเชื่อตามตำรามากเกินไป ก็จะทำให้ไม่ยอมรับเหตุผล ไม่ยอมรับความจริง ก็จะทำให้ได้รับคำสอนที่ผิดพลาดไปโดยไม่รู้ตัว
ใช่เลยครับคนเรามันไม่มีอะไรเป็นตัวตนจริงๆแหละครับ ร่างกายก็แค่เซลล์หลายๆเซลล์มาประชุมกันต่างทำหน้าที่เพื่อให้กายอยู่รอด จิตหลักๆก็แค่ รัก โลภ โกรธ หลง มาประชุมกัน พยายามสร้างตัวตนขึ้นมาทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่มีอะไรเลย ทุกอย่าก็แค่สิ่งสมมุติ
สรรพสิ่งเกิดดับบนที่ว่าง
สิ่งนี้มีสิ่งนี้ย่อมมี
สิ่งนี้เกิดสิ่งนี้ย่อมเกิด
ที่ว่างเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่มีที่มาไม่มีที่ไป ที่ว่างคือสิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลและมันก็เล็กที่สุดในจักรวาล มนุษย์คุ้นชินกับสิ่งที่มีที่มาที่ไป ที่ว่างตามความหมายของพระพุทธองค์ผู้คนจึงเข้าไม่ถึง ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
ดีมากครับคลิปนี้...
เข้าใจเลยว่าร่างกายเราคือหลายๆสิ่งหลายๆอย่างมาประกอบรวมกัน มันไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ เราแค่ไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา มันเลยทำให้เกิดทุกข์ตามมา
ไม่ใช่แค่ร่างกาย แม้จิตใจก็ไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ เหมือนกับร่างกาย
ดวงจิตมีอยู่จริง..ที่ยู บอกส่องเข้าไปที่นิวเคลียสพบแต่ความว่างเปล่า...จิตอยู่ที่นั่นและมีพลัง แล้วก็ละเอียดมาก...เหมือนกับนักวิทย์ บอกในอวกาศมีสสารมืดอยู่ และมีพลังมาก..แต่ส่องอย่างไรก็ไม่พบ..นั่นแหละ...เจริญพร
พระพุทธเจ้าคือศาสดาที่ยิ่งใหญ่ เป็นได้ทุกสิ่งตั้งแต่แพทย์ คุณครู นักวิทยาศาสตร์ นักประชาธิปไตย และอื่น ๆ อีกมากมาย หาข้อจำกัดในความรู้ที่ค้นพบและมีอยู่ได้ไม่ เป็นบุญวาสนาที่ได้พบเจอในชีวิตก่อนสูญสิ้นไป❤❤❤
เหตุปัจจัยของพระพุทธเจ้ามีกล่าวโดยละเอียดในมหาปัฏฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความแน่นอน คือให้ผลแน่นอน ตรงตามเหตุ ส่วนปัจจัยอื่นๆ มีความไม่แน่นอน ท่านจึงไม่ได้กล่าวสอนไว้ สรุปคือปัจจัยมีทั้งปัจจัยที่แน่นอนและปัจจัยที่ไม่แน่นอน ตามแนวทางของพุทธศาสนาจ้า
อนุโมทนาสาธุค่ะ🙏
พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ผู้รู้แจ้งเห็นจริงทั่วโลกธาตุ ขอแค่พระองค์ต้องการจะรู้ จิตโน้มไปเพื่อจะรู้ก็รู้ได้ โดยมิมีประมาณ ถ้าคำตรัสมาจากพระองค์ นั้นคือสิ่งที่จริง พระพุทธเจ้าผิดไม่ได้
พระพุทธเจ้ารู้แจ้งวิธีการดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน แต่การที่จะรู้แจ้งเช่นนี้ได้ ก็ต้องรู้แจ้งโลกในระดับพื้นฐานตามหลักวิทยาศาสตร์ก่อน
มันไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขชะ คำสอนมันขัดแย้งกันหมด
จัดระเบียบความคิดให้ดี แล้วจะพบสิ่งที่แน่นอน (คือนิพพาน)
บอกคำสอนขัดแย้งก็เหมือนเจอโจทย์เลขที่ทำออกมาแล้วได้คำตอบที่ผิดนั้นละ
ใช่เลยนี่แหละคือการสอนของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง อาจารย์พูดถูกต้องสุดๆ คำสอนดั่งเดิมของพระพุทธเจ้า
ฟังแล้วน้ำตาไหล
ผมโชคดีที่ได้ฟังอาจารพูครับ ขอบคุณ อาจารย์ รอย อย่างสูงครับ
ผมบวชมา9ปีมีควารู้อยู่มากแต่ก็คาใจตีความหมายพอมาฟังอาจารย์พูดวันนี้ผมตาสว่างเลยอธิบายเห็นภาพเลย
โอ้อออ..อาจารย์ขอบคุณมาก
พุทธเชีงวิทย์คัสฉามิ
วิทยาศาสตร์ ย่อมพิสูจน์ได้เพียงสิ่งที่คนมองเห็น รับรู้ สัมผัส
ธรรมดาที่นักวิทยาศาสตร์ ย่อมต้องพิสูจน์ และทำให้เชื่อเฉพาะในสิ่งที่มองเห็นได้
สิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไป ย่อมไม่ได้นำมาพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์ จะมีจริงหรือไม่ ย่อมพิสูจน์ไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์
แต่ที่จำเป็นต้องทำให้เชื่อว่ามีอยู่ อาจจะเพื่อทำให้คนธรรมดาทั่วไป ไม่ประพฤติปฏิบัติไปตามใจ เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน
พุทธแค่บัตรประจำตัวประชาชน
พุทธ ทั่วไปฟังไปก็ยังไม่เข้าใจครับ
แค่บอกร่างกายนี้ จิตนี้ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา
ก็งงแล้วพวกพุทธไหว้นาค ไว้ศาล
นี้เป็นแก่นแท้ที่พระพุทธเจ้าต้องการสอนผู้คนโดยแท้
อธิบายได้ดีมากครับ
คอนเทนต์แนวนี้ผมชอบมากครับ รอ Ep. ต่อไปครับ
หรือที่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ทั้งระดับอะตอมไปจนถึงจักรวาล จะเป็นจริง /ขอบคุณความรู้ดีๆจากท่าน อ. เป็นการบรรยายที่ เมื่อจบบทเเล้วเป็นอะไรที่ดูเชื่อมโยงกันไปหมดเลยครับ
ขอบคุณมากๆครับอ.ลอย
หลักแหลมยอดเยี่ยมในการอธิบายมาก!!!
ความรู้และความจริง ได้มาบรรจบที่คลิปนี้ ของ อ.ลอย ณ วันนี้ แล้ว..สาธุ
การที่ผมได้มาดูคลิปนี้ทำให้ผมระลึกถึงได้ประโยคที่เคยอ่านเจอในหนังสือมาเนิ่นนานที่กล่าวว่า "เมื่อศิษย์พร้อมอาจารย์จึงปรากฎ"🙏
PARINYA สั้น คม ชัดเจน
ปัญญาทางโลกไม่มีมีทางหลุดพ้น แต่ปัญญาทางธรรมชึ้ทางหลุดพ้น อัลเบิตฉลาดจนแยกมิติปรมณูได้แต่อัลเบิตก็ไม่มีทางเข้าใจนิพพาน เปรียบเหมือนนกที่สงสัยปลาว่าว่ายน้ำได้อย่างไร จิตของปุถุชนที่ไม่เคยฝึกย่อมมีแต่การคาดเดา
ชีวิตทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแต่การส่งผลมีทั้งระยะสั้น ระยะยาวและข้ามชาติ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแน่นอน ครับ เรื่องกรรมจึงรู้เหตุและผล แต่อย่าคิดผลลัพธ์จะออกเมื่อไหร่ เพราะไม่มีทางรู้ ครับ
ปลูกข้าวได้เมล็ดข้าว, ปลูกเงาะได้ผลเงาะ, ทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว
เอาแค่ชีวิตนี้พอ อย่าเพ้อเจ้อไปชาติหน้า มันจะดูว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช้ปัญญาตามหลักพุทธศาสนา
@@อจินไตยเลิศสิริวัฒนา แล้วถ้าเกิดน้ำท่วมขังก่อนเก็บเกี่ยวล่ะ
ถ้าเรายังใช้วันพรุ่งนี้อยู่ก็ไม่ควรปฏิเสธว่าทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว, หรือเรายังใช้อดีต, ปัจจุบัน, อนาคตก็ไม่ควรปฏิเสธว่าทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว
@@Iam-wb3uj เราคงไม่ปลูกแต่ข้าวกินอย่างเดียวหรอกนะ, ในบ้านของคุณคงมีของอย่างอื่นไม่ใช่มีแต่บ้านอย่างเดียว
ทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัย
ทำดีได้ดี(บุญ) ทำชั่วได้ชั่ว(บาป) ทำอะไรก็ได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน แต่จะเมื่อไร.. ไม่มีใครรู้..
คำพยากรณ์ของพระพุทธแน่นอน คำพยากรณ์ของพระอรหันต์แน่นอน.. ค่ะ!
อนาคตเปลี่ยนแปลงตามเหตุและปัจจัยในปัจจุบันขณะครับ เพราะระบบที่เราอยู่มันไม่เสถียรครับ มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีความคงที่ใดๆกับทุกสรรพสิ่ง(แม้แต่เวลา) อนาคตมันจึงไม่แน่นอนครับ
@@ethanmatthewhunt8021 โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอด
ก็หนีไม่พ้นของกรรม เมื่อถึงเวลาก็หนีไม่พ้นค่ะ พระโมคคัลลานะพาแม่เข้าป่าเพื่อจะฆ่าตามยุยงของภรรยา ทำเสียงเหมือนโจรทำร้ายแม่ แม่ก็ตะโกนให้ลูกหนีอย่าห่วงแม่ สุดท้ายก็กลับใจพาแม่กลับบ้าน เวรกรรมนั้นตามมาถึงชาติสุดท้ายโจรฆ่าท่านตายหลายครั้ง ท่านมีฤทธิ์ประสานร่างกายตามเดิม สุดท้ายท่านก็พิจารณาเวรกรรมอะไร.. ถึงทราบ ท่านก็ไปลาพระพุทธเจ้าเพื่อพระนิพพาน พระพุทธเจ้าก็อนุญาต นี่คือเหตุไม่มีใครหนีกรรมตัวเวร บุญก็ต้องได้รับ ทุกอย่างมีเหตุ & ผล
ขอบคุณ อาจารย์ ลอย มากครับ ที่ให้ความรู้ในเรื่องแบบ นี้ เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและเข้าใจยาก แต่อาจารย์รอย สรุป แบบง่าย และ เห็นภาพ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าคนรู้จริง
เป็นนักวิชาการที่เก่งในการจัดระบบการเรียนรู้และนำเสนอจะถูกต้องกว่า
อนุโมทนาสาธุคะ
ผมเห็นหลายๆท่านที่เขียนต่างๆนาๆ ผมสงสัยว่าได้ดูคลิปตั้งเเต่ต้นเรื่องไหม สิ่งที่ผมเข้าใจสัจธรรมเมื่อ2500กว่าปีก่อนก็คล้ายๆหลักการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมากๆ สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าพิสูจน์ มันมีเหตุเเละผล ซึ่งปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ก็มีเหตุเเละผล ซึ่งคนในโลกส่วนมากการจะยอมรับอะไรสักอย่าง ก็ต้องมีเหตุเเละผมเช่นกัน ซึ่งสัจธรรมก็เเสดงให้เห็นเเล้วนิครับ
สัจธรรมนั้นมันก็แสดงตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่คนเรากลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ไม่น่าตื่นเต้น ไม่น่าสนใจ (เหมือนน้ำจืด) แต่เขากลับไปสนใจเรื่องความเชื่อที่มีคนแต่งขึ้น ซึ่งมันน่าตื่นเต้น น่าสนุก และชวนให้ฝันหา (เหมือนน้ำหวาน) ทั้งๆที่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่ก็ยังพอใจที่จะฝันถึง
คำอธิบายของอาจารย์ เรื่องไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง นั้นถูกต้อง แต่เรื่องอนัตตานั้นยังคลุมเครือ คำว่าอนัตตานั้นไม่ใช่ของไม่มี อนัตตาเป็นสภาวะที่มีอยู่แต่สภาวะนั้นไม่อยู่ในการบังคับบัญชาของเรา เช่นลองพิจจารณาคลื่นเสียง ที่มากระทบสัมผัสหู หูทำหน้าที่รับฟังคลื่นเสียงที่มากระทบสัมผัส แล้วในกายนี้มีผู้สังเกตุการณ์คือจิตใจ ตัวจิตนี้คอยดูการกระทบสัมผัสของคลื่นเสียงที่กระทำกับหู แต่ไม่มีหน้าที่ไปห้ามหรือบังคับบัญชา การกระทบสัมผัสนั้น นั่นคือสภาวะอนัตตา(อนัตตาเป็นของมีอยู่อไม่ใช่ไม่มีตัวตน แต่สภาวะที่มีอยู่นั้นมันไม่อยู่ในบังคับบัญชาของเรา)
มิน่าพระบรมศาสดาจึงสอนให้เราตั้งสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ตอนนี้เวลานี้เท่านั้น
เหตุใด. ใด. ก็ตามคนมีอำนาจ. ในประเทศ. มักเป็นผู้กำหนด
ฟังซ้ำ ๆ โดยละเอียด ทำความเข้าใจซ้ำ ๆ เพื่อรู้ให้ลึกซึ้ง _/|\_ กราบขอบคุณอาจารย์ค่ะ ที่ทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเข้าใจมันค่ะ
เจ๋งครับ.มาแนวนี้ก็ดีนะ เป็นกลางให้รู้จักคิดเองดี มาก และก็ดีกว่าไปวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น ครับ มาแนวประวัติศาสตร์ทฤษฎีพุทธศาสนา ทฤษฎีความเชื่อ ความน่าจะเป็น ความเป็นเหตุเป็นผล วิทยาศาสตร์ วิทยาการการค้นพบ ผมว่าแนวเหล่านี้น่าฟังและเป็นกลางให้คิดให้ พิจารณาตามได้อย่างดีมีประโยชน์มาก อธิบายได้ตรงประเด็นเข้าแก่น ใจกลางสำคัญของเรื่อง น้ำไม่ท่วมทุ่ง เหมือนพระอธิบาย นอกจากจะงงและก็ง่วงเยอะ ไม่เข้าแก่นแท้สักที ผมว่าอธิบายธรรม..แบบนี้ เข้าใจง่าย ฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บเลย ว่าอะไรเป็นอะไรที่ไหนอย่างไรเมื่อไหร่กับใคร โอเคซึ้ง ครับ ขอบคุณครับสวัสดี
อนาคต ขึ้นกับเหตุปัจจัยจริง และปัจจัยเปลี่ยนแปลงได้จริง
ท่านคือบุคลากรอีกท่านนึงที่พลิกกะลาคว่ำให้หงายขึ้นมา
ถึงจะหงายแต่กบอีกหลายตัวก็ไม่ยอมกระโดดหนีไปไหน😄
@@meemaoh907 555 จริงครับ
หงายปุ๊ป กบอีกหลายๆตัว ช่วยกันคว่ำกะลากลับ ทันที แถมโวยวาย อีก
@@thanwa2308 555
@@thanwa2308 555 หงายไม่ได้ เดี๋ยวยุงลายวางไข่
สาธุ อนุโมทามิ ครับ
ผมเชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และเชื่อว่าโลกนี้มีความซับซ้อนกว่าความรู้ของคนอีกมาก เชื่อว่ามีกฎแห่งแรงดึงดูด Gravity Rule คิดดี ทำดี จะดึงดูดแต่สิ่งดีเข้ามาในชีวิต และสัจธรรมในชีวิตที่เชื่อมาเสมอคืออย่าคาดหวังต่อผู้อื่นหรือสิ่งรอบข้าง เพราะเมื่อไม่คาดหวังก็ไม่ต้องผิดหวัง แต่ทำให้ดี ทำให้เต็มที่ และเชื่อว่าผลลัพธ์นั้นคือหนทางที่จะนำพาไปสู่ความสุข :)
ทำดี ย่อมได้รับ(ผล)ดี ทำชั่ว ย่อมได้รับ(ผล)ของความชั่ว... ทำเหตุอย่างไร ย่อมได้ผลของเหตุนั้น ..
แล้วไอ้คนที่ทำชั่วแต่ก็ยังมีคนยกย่องสรรเสริญ มันขัดแย้งทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนะครับ อ.ลอยพูดผมว่าถูกครับ ทำดีคือดี ทำชั่วคือชั่ว
@@ธวัชชัยรัตนภักดี-ฦ5ฟอยู่ที่มุมมองของคำว่าดี ของแต่ละคนอาจจะต่างกัน บางคนอาจมองว่าดีคือร่ำรวย ลาภยศ มีคนสรรเสริญ แต่บางคนอาจจะมองว่าดี คือการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีอยู่มีกินพอเพียง มีสุขภาพดี พบเจอกัลยาณมิตรที่ดี ไม่ต้องกังวลกับเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องเป้าหมายของการเข้าใจสัจธรรมของแต่ละคนก็อาจจะต่างกันเช่นกันครับ :)
ใช่ครับ เหมือนไอ้ สาม ป. ทำระยำยังได้ดิบได้ดี
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นี่ก็สัจธรรม
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ จากใจจริงๆพึ่งมาฟังวันนี้แต่ชอบมากๆๆครับ ที่มีคอนเท้นดีๆแบบนี้ขอบคุณมากจริงๆครับอาจารย์
ขอบคุณมากครับ เข้าใจเเล้วครับ
คุณพยายาม : มันอาจไม่สำเร็จก็ได้
ครับ ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม .
อ.ลอยกำลังอธิบาย แก่น พุทธธรรม แล้วก็มีคนเอาเปลือกกระพี้กิ่งใบมาแย้งมันก็ดูตลกดี
ทำพื้นฐานที่มันวัดค่าได้ให้ชัดแจ้งก่อน เห็นไตรลักษณ์ในตัวเองในสรรพสิ่งจนเกิดความหน่ายก่อน ส่วนเรื่องนอกเหตุผลที่ปัจจัตตัง เก็บไว้กับตัวเองถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญรู้มากอย่าเที่ยวเอาเรื่องปัจจัตตังไปเถียงกับคนอื่น
สาธุ ครับ
เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจศึกษาปรัชญาพุทธเท่าไหร่ครับ อ่านไปงั๊นๆ แต่พออาจารย์มาอธิบายในแนวทางนี้ถูกจริตมากครับ เริ่มเข้าใจและสนใจมากขึ้น รอ EP. ถัดไปนะครับ
สาธุๆๆจ้าว
โอ้โห สารภาพเลยว่านี่คือคลิปที่2จากช่องนี้ ซึ่งแปลว่าผมไม่ได้ดูแต่คลิปแรกจากเพลลิสท์แต่พอได้ดู คือกดซับเลย
มี 6 ตอนก่อนหน้า
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดให้ ปัจจุบัน หรือ ในอนาคต ยอมมีเหตุทั้งนั้น เมื่อเวลาที่พร้อมจะให้เกิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมมีผลของมัน และผู้ทำให้เกิดขึ้นนั้นเหละจะได้รับผลของมัน เมื่อเวลาอันสมควรมาถึง ไม่ว่าจะเป็นผลดี หรือ ไม่ดี และไม่สามารถหลีกหนีได้เลยเมื่อเวลานั้นมาถึง นอกเสียจากเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง แล้วจิตใจเช้าใจชัดเจนกับสภาพธรรมะละวาง ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งในอดีต ปัจจุบัน ดังนั้นแล้วอนาคตก็ว่างเปล่า ไม่มีทั้งความดี ความไม่ดี ให้เราได้รับกลับคืน ทุกข์ก็ย่อมไม่เกิดกับบุคคลนั้นอีกต่อไป
จากที่ฟัง ที่อ่าน
แล้วมาเจอคลิปอ.รอย
ผมเข้าใจได้ว่า การจะเข้าใจพุทธ
นั่นคือคนนั้นๆ จะต้องมีปัญญา
หรือความรู้ ที่ต้องเพิ่มพูนตลอด
นั่นคือ ต้องไม่ทิ้งการอ่าน
นั่นคือ จะเข้าใจพุทธ ต้องอ่านได้
แล้วเราจะเห็น เลยว่า เจ้าชายฯ
เข้าใจธรรม โดยไม่ต้องอ่าน
หรืออาจจะอ่าน หนังสือ หรือบันทึกนั้น
ก็น่าจะน้อยกว่ายุคนี้
ดีไม่ดี ยุคนั้น มีตัวหนังสือ แล้วรึยังก็ไม่รู้
ถึงจุดนี้ จึงบอกได้ว่า เจ้าชายฯ เก่งมากๆ
เก่งจริงๆ
อาจารย์ผมค้นพบแต่ผมอธิบายไม่ได้เพราะการเข้าถึงจุดนี้จะมีเฉพาะบุคคล อธิบายได้ยากจริงๆ
พอจะเริ่มเข้าใจแล้วครับ จะกลับไปดูย้อนหลังซ้ำๆแกะทีละคำ ทีละประโยคครับเพื่อความชัดแจ้ง ต้องใช้เวลาเพราะแต่ละคำที่สงสัย ไม่เข้าใจ ผมจะหยุดคลิป แล้วไปค้นข้อมูลใน google เอามาทำความเข้าใจ คลิปตอนที่7นี้ทำให้ผมเข้าใจว่ามิน่าล่ะ ผู้ที่มาทางสายวิทย์ คณิต ฟิสิกซ์ วิศวะ ขนาดไปทำงานถึงนาซ่า ท้ายที่สุดหลายคนกลับเข้ามาสู่พุทธ แบบผู้มีปัญญา เป็นเพราะผลการทดลอง หรือเรียกว่าสิ่งที่พบ สิ่งที่ค้นพบของพระพุทธเจ้า มันสอดคล้องกับผลตามหลักฟิสิกซ์ ที่ได้เรียนมานั่นเอง ว่างเปล่าที่แท้จริง การทำเหตุปัจจัยให้นำไปสู่ความว่างเปล่าที่แท้จริงช่างยากยิ่ง และต้องใช้เวลา
พระพุทธเจ้า กับ เลี้ยงลูกแบบพระพุทธเจ้าเกิดมา
ผมเชื่อว่าความดีย่อมส่งเสริม ความชั่วไม่ได้ส่งเสริมอะไร เวลานักการเมืองหาเสียงก็พูดถึงแต่ความดี หรือผลงาน ไม่มีใครเอาเรื่องไม่ดีออกมาพูด เพราะสิ่งไม่ดีไม่ได้ช่วยส่งเสริมอะไร
เข้าใจชัดเจนครับ เป็นอย่างนี้นี่เองถ้าอย่างนั้นการจะเปลี่ยนแปลงอะไรๆเราต้องลงมือทำกันเองรอกรรมมาตามทันคนเลวคงไม่มี เข้าใจแล้วครับ อ.
อ.ลอย สุดยอดปูชนียบุคคลของสังคมยุคใหม่เลยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ อาจารย์อธิบายเรื่องพุทธได้เคลียร์ชัดเจนมากๆครับ
สุดยอดตรงไหน
@@bangonsutถพพำภุวส
สุดยอดตรงที่ เขาสามารถอธิบายความจริงอันสูงสุด ได้เข้าใจง่ายและน่าฟังมากจริงๆ ขอบคุณครับ
@@bangonsut ดีแล้วครับ ไม่ต้องเชื่อทุกอย่างที่คนอื่นพูด แค่ใช้ปัญญาก็พอครับ
@@khemkung ดูจากคำที่พิมพ์กระแนะกระแหน ก็รู้แล้วว่าเขาไม่เขาใจที่อ.ลอยอธิบาย
คำตถาคต พุทธวจนังเลิศที่สุด
ฟ้งแล้วนึกถึงสัจธรรมข้อ "ทางสายกลาง" ชอบมากๆ อาจารย์อธิบายและพูดได้ชัดเจนมาก ขอขอบคุณ
ผมเจอแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ แล้ว ขอบคุณครับ.
ขอขอบคุณคลิปดีๆจาก อาจารย์ลอยค่ะ ติดตามทุกคลิปในซีรีย์นี้ค่ะ เป็นคลิปที่ดีมาก ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในศาสนาพุทธเรายิ่งขึ้นค่ะ
กราบขอบพระคุณค่ะ ชอบเนื้อหาแบบนี้มากค่ะ
เข้าถึงธรรมตัวจริงแระนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ😇
ทุกสรรพสิ่งเป็นเพียงธาตุธรรมชาติ และทุกสรรพสิ่งถ้าเจาะเข้าไปสู่ความละเอียดลงไปเรื่อยๆแล้วจะพบได้แค่สิ่งเดียวคือความว่างเปล่าเราก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราเห็นสิ่งนี้และชี้ทางเข้าถึงให้นั่นคืออริยสัจ 4
ผมตั้งใจฟังทุกคำและข้อความที่ท่านอาจารย์Loyพูด ชัดเจนและดีมากๆครับ ขอบคุณครับ
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ นี่เป็นสัมมาทิฏฐิระดับศีลธรรม ที่จำเป็นต้องมี เพื่อเลื่อนระดับสติปัญญาไปสู่สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ (เหนือโลก) อันเป็นความเห็นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง)
สิ่งมีชีวิตมีลำดับ
สิ่งไม่มีชีวิตไร้ลำดับ
คอยติดตามฟังทุกตอนของพุทธธรรมครับ
เยี่ยมยุทธ์ ขอบคุณ บุญรักษา
1.ทุกสิ่ง เป็นไปตามกฎ เหตุปัจจัย ปรุงแต่ง
2.จักรวาล เป็นผล การ ทำงาน
ร่วมกัน ระหว่าง ความมีระเบียบ
กับความไร้ระเบียบ
3.มนุษย์ มีพลังจำกัด
ที่จะควบคุม ทุกสิ่ง ให้เป็น
ตามใจ ปรารถนา
4.กฎ ที่ใช้ได้ตลอด คือ
กฎไตรลักษณ์
ความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้
@@เทรดเดอร์-พ9ฏ สาธุ สาธุ อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณครับผม บุญรักษา โชคดี ทุกวัน นะครับ
เยี่ยมมากครับ สมกับเป็นปราชญ์แห่งยุค
อาจารย์อธิบายและยกตัวอย่างได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่ายครับ
ข้อ1. จิต วิญญาณ มีเกิดดับตลอดเวลา แต่พระอรหันต์ท่านไม่ทุกข์แล้วครับ เพราะท่านละความเป็นสัตว์ที่ยึดติดเพลินในขันธ์5ได้แล้ว
ข้อ2. ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วถูกต้องแล้วครับ แต่เราเคยเกิดมาหลายภพหลายชาติ การทำความดีวันนี้ใช่ว่าจะได้ผลของความดีเลยทันที และทำความชั่ว ก็ใช่จะได้รับผลของความชั่วทันที แต่พระพุทธเจ้าท่านทรงย้ำว่าการทำความดีมีผล และการทำความชั่วก็มีผลเช่นกันครับ
ข้อ3. จะว่ามีตัวตนก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีตัวตนก็ไม่ใช่ครับ ที่มีตัวตนเพราะความยึดติดเพลินในขันธ์5 ว่าเป็นตัวเร าจึงยังคงทำให้ยังมีตัวเราอยู่
สรุปว่า พุทธศาสนานั้นพระพุทธเจ้าทรงสอนให้กลับสู่สภาพเดิมที่ไม่มีอะไร กลับสู่สภาพก่อนที่จะมีสัตว์ผู้มายึดขันธ์5 ครับ
นิยาม (ทฤษฎี) 5 ลองไปหาอ่านดูในหนังสือพุทธรรมของท่าน ป.อ.ปยุตโต
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นการทำนายตามเหตุและผลที่น่าจะเป็น สามารถใช้หลักกรรมนิยามอธิบาย ผมเสนอว่าสามารถใช้คำว่า สัจธรรม ได้อยู่ ขอแย้งเจ้าของคลิปที่บอกว่าไม่ใช่สัจธรรม ตรงกับ ทฤษฎีแบบเก่า
แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นคือ ไม่สามารถทำนายได้ ก็ยังสามารถใช้หลักธรรมนิยามอธิบายได้ ตรงกับทฤษฎีควันตั้ม
ทุกอย่างล้วนยุติธรรมแล้วทั้งสิ้น...
โปรดใช้วิจารญาณในการฟัง
พระพุทธเจ้าสอนว่า
อย่าเชื่อคนอื่น อย่าเชื่อตัวเอง
แม้ตัวเราท่านก็ไม่ควรเชื่อ
แต่จงเชื่อความจริง เช่นเชื่อว่าทำดีได้สุข ทำชั่วได้ทุกข์ เป็นต้น จงศรัทธาในความดีเถิด... ปล.พระไตรปิฏกไม่มีการตัดแต่งธรรมเพราะพระพุทธเจ้าทรงห้าม อาจมีผิดเพี้ยนบ้างก่แนมาถึงเรา แต่เชื่อเถอะเรารับรู้ได้ ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมไว้ ฟังแล้วจะสะท้านลึกซึ้ง ตาสว่างและครอบคลุม ครบจบ
**นวโกวาท บทในธรรมวิภาค**
เป็นหนังสือเล่มเล็กแต่ดีมาก..
หาซื้อได้ในโชปี้หรือลาซาด้า
เป็นหนังสือที่ถอดมาจากพระไตรปิฏก
เพื่อความเห็นจริงความเห็นถูก
เราเท่านั้นที่รู้ เป็นสิ่งที่รู้เฉพาะ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นสิ่งเเท้จริง
บุคคลหว่านพืชผลอะไร ก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น
เเต่ผลการทำดี -ชั่ว ไม่ส่งผลทันที ก็ส่งย่อมผลในอนาคต
@@drewwyeiei3587 ใช่ครับ หว่านพืชอะไรย่อมได้พืชนั้น แต่มันก็สามารมีเหตุปัจจัยอื่นมาทำให้มันไม่งอกได้ หว่านข้าวถ้างอกก็ได้ต้นข้าว แต่นกมาจิกเสียก่อนข้าวก็กลายเป็นปุ๋ยให้ต้นมะขามที่มันไปเกาะได้
พยายามปฏิเสธความจริงสินะ ทำดีได้ดีไม่มีทางเป็นจริง ที่จารลอยมาเสนอก็คำสอนพระพุทธเจ้า ถ้าคุณบอกว่าที่จารลอยพูดมันผิดคุณก็ไม่ใช่สาวกของพระพุทธเจ้าหรอกครับ คุณคงนับถือศาสนาผีในไทยแน่นอน
สาธุค่ะ
ทำคลิปดีๆออกมาเยอะๆครับ ผมนี้ติดตามอาจารย์ทุกคลิปครับ
"ทำกรรมอย่างไร ได้รับผลของกรรมอย่างงั้น"
แทบไม่มีแล้วครับ ที่ภิกษุจะเป็นพุทธแท้จริงๆ
ต้องช่วยกันสร้างขึ้นมา อย่าท้อ
มีครับ ลองฟัง พุทธวจน. พระอาจารย์คึกฤทธิ์
ขอบคุณมาก ที่ผมโง่มานานใน ศาสนา อจ อธิบายได้ดีมาก
ถ้าพระภิกษุ หรือพระนักเทศน์ อธิบายหลักธรรม แบบง่ายๆๆ เหมือนอาจารย์ลอย ผมว่าคนที่รับฟังธรรม จะเข้าใจง่ายกว่า และสามารถเข้าใจไปถึงหลักปฏิบัติตนได้ดีเลย
อาตมาก็สอนธรรมะวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ลองไปฟังดู ruclips.net/channel/UCiBR_xFCXi68GCVwsCYN6Awvideos
พระภิกษุบางรูปก็อธิบายได้ แต่มักไม่ค่อยเห็น เพราะท่านมุ่งปฎิบัติอย่างเดียว ช้างเผือกย่อมเกิดแต่ป่าฉันใดก็ฉันนั้น
จริตคนฟัง พื้นฐานคนฟัง ไม่เท่ากันครับ
บางครั้งถูกทั้งคู่แต่ก็ทะเลาะกันเพราะเหตุนี้ละครับ
ไม่แน่เสมอไปครับ ถ้าคนฟังมีภูมิต่างกัน ตัวกูของกูอะไรก็แล้วแต่ เครื่องรับไม่ตรงกับเครื่องส่ง สิ่งที่ อ.ลอยอธิบายก็ไม่ยังประโยชน์อะไรเลยเหมือนใส่ของลงกล่องไม่ได้น่ะครับ พระพุทธเจ้าจึงเปรี่ยบบัวสี่เหล่าให้เห็นภาพไงครับ ปัญหานี้ผมเชื่อว่าเจอกันมานานแล้ว ถึงได้มีการย่อยให้เข้าใจง่ายแบบสวรรค์ นรก บาป บุญ อะไรงี้ครับ
งั้นคุณต้องไปฟัง พุทธวจน ที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ เทศน์นะครับ. แล้วคุณจะชอบ. หาได้ใน youtube
จบปริญญาตรี เชื่อตัวเอง
จบปริญญาโท เชื่อหมอดู
จบปริญญาเอก เชื่อหลักพุทธ
เดียวนะครับ อาจารย์เค้าอธิบายตามหลักของวิทยาศาสตร์นะครับลองไปดูตั้งเเต่ ep.เเรกนะครับ สิ่งที่อาจารย์พูดดักต่างๆนาๆคือการพูดดักไม่ให้เกิดดราม่าต่างๆนาๆนะ ถ้าคุณโตพอที่จะเข้าใจ คำพูดหรือฟังรู้เรื่อง คุณก็จะไม่พูดอย่าง งี้ หรอกนะ
@@โปเตโต้7 เค้าน่าจะไม่เข้าใจ กับตรรกะป่วยๆเหมือนที่อ เคยกล่าวไว้อะครับ น่าไปสนใจเลย
ทำดีได้ผลดี ทำชั่วได้ผลชั่วครับ ผลของกรรมมี3ระดับคือปัจุบัน เวลาถัดมาและเวลาถัดมาอีก เหตุที่คนทำชั่วแล้วได้ดีคือผลกรรมอันงามยังส่งผลอยู่ หากจะนำมาเสมอตั้งศึกษาให้ระเอียดมันจะกลายเป็นบิดเบือนคำสอน
เมื่อย่อยรูปให้เป็นหน่วยเล็กที่สุดที่แยกต่อไปไม่ได้ เรียกว่า กลาป ประกอบด้วยรูป 8 รูป ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สี กลิ่น รส และโอชา
ส่วนนามธรรม ละเอียดกว่ารูป ได้แก่ จิต และเจตสิก(สิ่งที่ประกอบกับจิต)
ทั้งรูปธรรม และนามธรรม เกิดดับตลอดเวลา
รบกวนอธิบาย คำว่า โอชา หน่อยครับ (จันทร์โอชา..ไม่ต้อง)
Axiom ข้อที่สอง พึ่งเข้าใจก็วันนี้ สาธุ ขอบพระคุณท่าน
น่าสนใจมากครับ ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่นำความรู้มาบอกต่อให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ก่อนตาย ผมไม่สามารถคิดแบบนี้ได้เอง ความรู้เป็นสิ่งที่มีค่ามากจริงแท้ครับ
ผมชอบความคิดและ ชื่นชม อาจารย์ ครับ ที่เอา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มา ชง เข้า กับคำสอนของพุทธได้อย่าง กลมกล่อม จนผม เกือบกลับ ไป พุทธ อีก ครั้ง เพราะผมหันหลัง ให้ พุทธ มา 6 ปีแล้ว ผมอยากให้อาจารย์เอา คัมภีพระไตรปิฏก ออกมากาง สอน ให้คนพุทธได้เข้าใจ ว่า บทไหน ที่พุทธเจ้า ทรงพูดไว้ และ ใครเป็นผู้ที่ได้ จด บันทึก เมื่อ 2500 กว่าปีก่อน เพราะ สอนกัน ปากต่อปาก กันมา2500 กว่าปี มันดูไม่น่าเชื่อถือ ครับ ต้องอาศัย ผู้ที่ ศรัทธา ผู้ รู้อย่างอาจารย์ มาทำคลิปสอน ซึ่ง ผม เอง ก็ นอนอ่านไบเบิล ตอนแรกผมก็คิดว่ามันแค่ นิทาน เล่ม นึง ที่ คนเมื่อ 5000 ปีก่อน จดบันทึก เขียน ต่อๆกันมา แต่ บางอย่าง ก็ ทำให้วิทยาศาส ทึ่ง หลายอย่าง จนผมเอง สับสน ว่า การ ยุแบบ พระพุทธเจ้า คือ บาลานซ์ 50-50 คือ ทางสายกลาง ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่ขาว ไม่ดำ มันคือ สิ่ง ที่ถูกต้องแล้ว แต่ ความจิง มนุษย์ เรา มีบาป มีกิเลส มาแต่เกิด แม้กะทั่ง ตัวพระพุทธเจ้าเอง ก็ หาทางพ้นทุกข์ ทั้งที่เคย เปน ถึง เจ้าชาย แต่มาเจอ ความจิง คือ ยุตรงกลาง หรือ balance นี่แหละ แต่ ผมยังเชื่อทุกอย่างที่มันเปนระบบ หรือ ระเบียบ ย่อม มีผู้สร้างครับ ยุ ดีๆ บิกแบง จะระเบิดตูม อะตอม โมเลกุล นับล้านๆ จับตัวกันเปน ระบบ สุริยะ เรียงตัว หมุนรอบ กัน เป๊ะๆ มันเปนไปได้ยาก วิทยาศาส พยายาม หา เหตุผล ต่าง มาอ้าง ก็ ต้อง งง กัน ฉะนั้น ชาตินิยม จึง ไม่ค่อยมี ใคร ปฎิเสธ สิ่งที่ ไร้ตัวตน นั้นคือ สิ่งที่ทำให้เกิด สรรพสิ่ง อย่าง God หรือ พระเจ้า หรือ อัลเลาะ แต่ พุทธ จะเน้น สอนให้คนเปนคนดี จะไม่พูดถึงผู้สร้าง จะพูดถึงแค่ ความเปนจิง อันนี้ถูกต้องครับ แต่ยัง ไม่ถูกใจผมเท่าเรื่องราวของ พระเยซู เท่าไหร่ครับ ดู เปน รูปประธรรมมากกว่า คือ ปฎิบัติจิง มากกว่า พูด ครับ คือ ช่วยคนก็ช่วยจิง ไม่ ใช่ ยืนดู หรือ นั่งดูครับ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับจารย์ มนุษย์เราย่อมมีความคิดที่ต่างกันเปนเรื่องธรรมดาแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ ผมอาจจะคิดผิดเหมือนคนทั้งโลกก็ได้)😊😊😊😊
ช่วง 10:25 - 12:02 ทำให้ผมนึกถึงนิยายเรื่องกามนิตวาสิตถีเลย ตอนกามนิตเป็นโจรถูกพราหมณ์โจรสอนว่าการฆ่าคนไม่ผิดเพราะเราไม่ได้ฆ่าใคร เราแค่ฟันมีดไปในความว่างเปล่า
เป็นหลักเชื่อของ ภควัทคีตา ครับ ว่าทุกสรรพสิ่งมีหน้าที่ต้องทำ ...ไว่ว่าจะสำเร็จ หรือ ล้มเหลว สุดท้ายก็ไปอยู่กับพระเจ้าอยู่ดี
อย่าเพิ่งจินตนาการเลยเถิดไปว่ามันไม่มีตัวตนใดๆเลย เพราะหลักอนัตตาไม่ได้บอกว่าไม่มีตัวตนเลย (คือเป็นนิรัตตา) แต่บอกว่าเป็นอนัตตา (คือไม่ใช่อัตตาอย่างของพราหมณ์) คือมันก็มีตัวตนอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เป็นตัวตนชั่วคราว (อนิจจัง) ที่เมื่อตัวตนชั่วคราวนี้ทำดีก็มีผลดี (คือสุขใจอิ่มใจ) แต่ถ้าทำชั่วก็จะเกิดผลชั่ว (คือทุกข์ใจ ร้อนใจ) ในขณะที่ทำอยู่ หรืออาจเกิดเมื่อทำเสร็จแล้วก็ได้
เพราะเขาไม่รู้ และไม่เห็นว่ามีตัวที่ไปก่อภพชาติอยู่ จะให้มานึกคิดไม่มีทางได้เห็น100% ต้องทำเท่านั้น
สาธุๆๆ
ในที่สุดผมก็ได้คำตอบ ที่ผมไม่ยอมรับประโยคที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ตั้งแต่เด็กผมเถียงครูและเพื่อนหลายคนว่าประโยคนี้ไม่เป็นสัจธรรม แต่ทุกคนกลับ บอกว่าผมไร้สาระ
ไร้สาระจริงครับ
ความพยามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่นครับ
เพียงแต่คนที่พยายามมีโอกาสสำเร็จมากกว่า
ไม่ได้หมายความว่าคนที่พยายามจะสำเร็จทุกคนครับ
เพราะมีหลายปัจจัยที่สงผลต่อความสำเร็จครับ
สวัสดีค่ะท่านมหา ดร.ลอยฯท่านบรรยายเรื่องแอ๊คเซี่ยมของพระพุทธเจ้าได้จนกระทั่งดิฉันเข้าใจเพราะอธิยายในหลักการวิทยาศาสตร์ ไม่ใช้หลักศรัทธาจริตและไสยศาสตร์ ฉันรู้สึกว่าโชคดีที่เปิดมาเจอคลิปของท่านมหาลอยนี้ สาธุๆนะคะ
สอนถึงชั้นอภิธรรมกันทีเดียว
ที่อาจารพูด มันเป็นจริงมาตลอดอยู่แล้ว
เจอทั้งหมอบีเข้าไป กลับมาดูของอ.ลอยอีก งงไปหมดแล้วครับ
555 เข้าใจเลยครับ แต่น่าจะเป็นจริงทั้ง หมอบี และ อ.ลอย เพียงแต่แสดงในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน อ.ลอย อธิบายให้เข้าใจศาสนาพุทธในส่วนของ ไตรลักษณ์ ได้เข้าใจง่าย ยอมรับได้ง่ายเพราะอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ ส่วน หมอบี คิดว่ามาจากผลของการปฏิบัติครับ สุดยอดทั้ง 2 ท่านครับ
ใครช่วยให้พ้นทุกข์ได้ก็ให้เชื่อคนนั้นมากกว่าครับ
ขอบพระคุณค่ะ😇
หาก อนุมานว่าจิต คือ พลังงาน หรือ อนุภาค ในสภาวะจิตปรุงแต่ง หรือ เปลี่ยนแปลงไป ไม่หยุดนิ่ง แน่นอน อาจใช้หลัก Heisenberg Uncertainty principle หรือ หลักความไม่แน่นอน ของ ไฮเซนแบร์ก อธิบาย ความไม่แน่นอนนั้นได้
อนิจจัง ไม่เที่ยง ไม่แน่
ในคลิปเค้าก็บอกนะครับว่าจิตเป็นอนุภาคควอนตัม เล็กกว่าอนุภาคพลังงานเยอะ ใช้ฟิสิกส์พลังงานมาคิด ต้องใช้ฟิสิกส์ควอนตัม
@@theunicornsstyle6515 ความไม่แน่นอน ของไฮเซนแบร์ก คือ รากฐานของ ฟิสิกส์ควอนตัม ครับ และ วอนเนอร์ ไฮเซนแบร์ก ก็ เป็น นักวิทยาศาสตร์ ชาวเยอร์มัน เจ้าของ รางวัลโนเบล สาขา ฟิสิกส์ ครับ และ ในคลิป เน้นไป ที่ผลงาน ของ ไอสไตน์ และ นิลส์โปร์ หากแต่ ทฤษฎีทางฟิสิกส์ ควอนตัม ที่ อธิบาย หลัก สัจธรรม ความไม่แน่นอน ที่สอดคลองกับ หลักพุทธปรัชญา ที่ ตรงประเด็น ที่สุด คือ ผลงาน ของ Heisenberg uncertainty principle ครับ