เมื่อมีรัก

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 11 июн 2024
  • ตอนที่ 4 เมื่อมีรัก
    เรานั่งเงียบกันอยู่สักครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาใกล้ๆ เพื่อนผมเอง มันบอกว่าครูให้มาตามไปพบครูด่วนเดี๋ยวนี้เลย
    ครูนาฏศิลป์เรียกเราไปนั่งเกือบด้านหน้าของเวทีแยกโต๊ะออกห่างจากคนอื่นๆ ที่จัดงานยังไม่ได้มีการเต้นอะไรทุกคนนั่งอยู่ที่นั่งของตนเอง อาจารย์สีหน้าไม่ค่อยจะดีนักน่าจะวิตกกังวลว่าผมและน้องซึ่งเป็นเด็กที่ใกล้ชิดมากที่สุดแอบไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า
    พอผมและน้องนั่งลงและยกมือไหว้ขอโทษอาจารย์ที่ทำให้ต้องไปเรียก
    “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมเธอสองคนถึงไม่เข้ามา” น้ำเสียงอาจารย์ไม่ค่อยดีนัก ผมคิดว่าอาจารย์อยากจะถามว่าผมกับน้องไปทำอะไรกันมามากกว่า
    “อาจารย์ครับ ขอผมอธิบายก่อนได้ไหมครับ ผิดถูกอย่างไรอาจารย์ค่อยว่าผมกับน้อง” อาจารย์นิ่งแล้วบอกว่า
    “เอ้า เธอว่ามา”
    “ความจริงแล้ว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนๆและน้องๆหลายคนออกไปข้างนอกกัน จนมีเพื่อนมาบอกผมผมถึงตามออกไปข้างนอก พักเดียวอาจารย์ก็ให้คนไปตาม ขณะที่เขากำลังเดินกลับกัน ผมได้ยินเสียงเหมือนคนเถียงกัน ผมเลยเดินสวนไปดูก็เห็นน้องยืนร้องไห้อยู่คนเดียวแล้ว ทุกคนต่างก็กลับเข้ามากันหมด ผมพยายามถามน้องว่าเป็นอะไร น้องก็บอกแค่ว่าไม่เป็นไร ผมบอกให้น้องกลับเข้ามาด้วยกัน น้องบอกผมว่าขอเวลาสักพักให้ผมกลับเข้ามาก่อน อาจารย์ครับผมทิ้งน้องไว้ข้างนอกคนเดียวไม่ได้ครับ ผมเลยบอกว่าถ้าไม่เข้ามาผมก็จะไม่เข้ามาด้วย และขออยู่เป็นเพื่อนน้องครับ เรื่องมีแค่นี้จริงๆ”
    อาจารย์เลยหันกลับไปถามน้องซึ่งน้องก็ตอบว่า”ใช่” อาจารย์สบายใจขึ้นแต่ก็ต้องอบรมผมกับน้องต่ออีกพักหนึ่งแล้วบอกให้ไปสนุกกับเพื่อนได้ น้องกลับเข้ากลุ่มเพื่อนๆไป ผมก็ไปหาเพื่อนเช่นกัน แล้วช่วงสุดท้ายของงานทุกคนออกไปเต้นรวมทั้งผมด้วยท่ามกลางไฟสีที่กระพริบ ผมแอบมองและสบตากับน้องบ่อยครั้ง ผมเชื่อว่าไม่ได้คิดไปเองแน่นอน
    หลังจากคืนนั้นผมเริ่มเห็นสัญญาณดีๆเกิดขึ้น เมื่อเจอกันมีรอยยิ้มทักทายและคุยกันมากขึ้น โดยเฉพาะหน้าต่างห้องเรียนผมเหมือนหน้าต่างหัวใจเลย ปกติผมนั่งชิดหน้าต่างอยู่แล้วแต่ไม่เคยที่จะสนใจข้างนอกเลยผมอยู่ชั้น2 ห้องน้องเป็นอาคารชั่วคราวเหมือนเล้าไก่ไม่มีฝากั้นข้าง แถมเธอนั่งด้านข้างซะด้วยเลยมองเฉียงหลังคาเล้าไก่เห็นเธอพอดีเลย ทีนี้พอผมสั่งนักเรียนทำความเคารพเสียงผมก็ดัง น้องก็จะได้ยินแล้วจำได้พอยืนขึ้นก็จะหันมองลงไปและยิ้มให้กันทุกวัน วันละหลายครั้ง
    มีอยู่วันหนึ่งมีน้องผู้ชายคนหนึ่งมานั่งคุยกันกับพวกผมแล้วพูดถึงน้องในทำนองที่ไม่ดีว่าเหมือนให้ท่าเขา ซึ่งผมและเพื่อนก็ได้แต่ข่มใจฟังกัน แต่ผมกับคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสผม จะต้องใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะบรรลุจุดประสงค์ของผมให้ได้เสียที
    วันศุกร์แล้วโรงเรียนเลิกนักเรียนค่อยๆทยอยออกไปขึ้นรถรับส่งนักเรียน ผมเดินมาดักรอน้อง เธอเดินมากับเพื่อนพอดี ผมเลยขอคุยด้วยเธอยิ้มและเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน
    “มีอะไรหรือพี่”
    “พี่มีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วยได้ไหม”
    “ได้ซิ แต่ตอนนี้เลยหรือคะ”
    “ไม่หรอกไม่ใช่ตอนนี้และไม่ใช่ที่นี่”
    เธอทำหน้างงๆ
    “พี่อยากไปคุยที่โรงเรียนประถมใกล้บ้านน้องได้ไหม พรุ่งนี้ เวลาประมาณเที่ยงวัน”
    น้องนิ่งไปนิดหนึ่งจนผมใจเสีย เธอมองหน้าผมก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้า แล้วรีบเดินไปขึ้นรถรับส่งกลับบ้าน
    คืนนี้กว่าผมจะหลับ มันตื่นเต้นมาก
    ผมมาถึงโรงเรียนที่น้องเคยเรียนตอนอยู่ประถมศึกษาตั้งแต่ 10 โมงเช้า มันตื่นเต้นตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว
    ประมาณ11.30 น. ผมเห็นเธอเดินเข้ามาที่หน้าโรงเรียน เธอใส่กางเกงขาสั้นแต่ดูเรียบร้อยทะมัดทะแมงดีใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนมากๆก็น่าจะเป็นชุดที่อยู่กับบ้านปกติธรรมดานั่นเอง เมื่อเธอเดินมาและเห็นผมนั่งรออยู่ก็รีบเดินเลี้ยวเข้าอาคารตรงมาหาผม ใจผมตอนนี้มันเต้นไม่ปกติเอาเสียเลย ตอนเล่นละครก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมลุกขึ้นยืนเมื่อเธอมาถึงและพยายามยิ้มก็คิดว่าหล่อและเท่นั่นแหละเอาตามนั้น และเชิญเธอนั่งก็ห่างกันพอประมาณโดยหันหน้าเข้าหาอาคารเรียน ก็ต้องเอียงหันหน้าพูดคุยกัน
    บทสนทนาช่วงแรกส่วนมากก็ถามไถ่ว่าบ้านอยู่ตรงไหน เรียนที่นี่เป็นอย่างไรจนกระทั่งเริ่มหายตื่นเต้นและคุยเป็นธรรมชาติมากขึ้นคุยไปสักพักใหญ่เธอถามผมก่อนว่า
    “พี่มีอะไรสำคัญเหรอที่อยากจะคุยกับหนู” ผมก็เลยเอาละเรื่องที่เอามาคุยด้วยไม่รู้จะมีน้ำหนักเพียงพอหรือเปล่าแต่นัดเขาเอาไว้แล้วนี่ก็เลยเล่าเรื่องที่มีน้องผู้ชายมาพูดให้เสียหาย เธอฟังแล้วก็อมยิ้มไม่ได้ซีเรียสอะไรพร้อมทั้งอธิบายให้ผมฟังว่าเหตุการณ์อะไรเป็นอย่างไร ซึ่งจริงแล้วผมไม่ได้ใส่ใจนักเพราะไม่ใช่เป้าหมายของผม เมื่อเธออธิบายจนจบแล้วก็ต่างคนต่างนิ่ง จนเธอหันกลับมาถามผมว่า พี่มีเรื่องแค่นี้หรือแล้วทำหน้ายิ้มๆ ตอนนี้ผมคิดว่าโอกาสคงมีไม่มากนักหรอกเธออาจจะลุกกลับบ้านเลยก็ได้เพราะเรื่องมันหมดแล้ว
    แต่ผมตอบไปอ้อมแอ้มว่า “มันก็ยังไม่หมด แต่พี่ไม่รู้จะพูดดีหรือเปล่า”
    เธอยิ้มหวานแล้วพูดว่า”ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คะ อยากพูดก็พูด”
    “ไม่โกรธพี่นะ” เธอพยักหน้า ผมไม่มีทางบิดพลิ้วอะไรอีกต่อไปแล้ว
    “พี่รักเธอนะ” เธอมองหน้าผม หน้าเธอดูเหมือนนิ่งแล้วหันมองตรงไปในห้องเรียนก้มหน้านิดหน่อย
    ทุกอย่างมันนิ่งเงียบชั่วขณะตัวผมเหมือนไม่มีตัวตนตรงนั้นเลย
    เธอลุกขึ้นยืน ผมใจเสียลุกขึ้นยืนตามแบบไม่รู้สึกตัวเลย เธอเหมือนจะหันเดินออกไปก้าวหนึ่งแล้วหยุดนิ่ง
    ผมอยากจะเรียกให้เธอหยุดก่อน ผมเสียใจมากและอยากจะขอโทษเธอ
    เธอกลับหลังหันมาช้าๆหันหน้ามาจ้องตาผม พูดเบากับผมว่า
    “หนูก็รักพี่ค่ะ”เธอยิ้มอายๆก่อนผมจะพูดอะไรเธอบอกว่า
    “หนูกลับบ้านก่อนนะ ไปซักผ้าก่อน เจอกันที่โรงเรียนนะคะ”
    เธอรีบเดินออกไปโดยไม่รอผมจะพูดอะไรอีก ทิ้งให้ผมช็อคแข้งขาอ่อนอยู่ตรงนั้น ต้องนั่งทบทวนอยู่สักพัก
    “ผมมีรักแล้วครับ”
    ตอนที่1 เพ้อ
    • เพ้อ
    ตอนที่2 เธอคือดวงจันทร์
    • เธอคือดวงจันทร์
    ตอนที่ 3 น้ำตาฉาบแสงจันทร์
    • น้ำตาฉาบแสงจันทร์
    ตอนที่ 5 อารมณ์รัก
    • อารมณ์รัก
    ตอนที่ 6 จบรัก
    • จบรัก

Комментарии •