Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
น้องโป๊งเหน่งนั่งรอรีวิว 100X Ultra สายชมพูวันอังคาร โค้ชสิงโต
ถ้าเป็นไม้ limited จะไม่รีวิวครับ เนื่องด้วย ถ้ามีลูกค้าสนใจแล้ว ผมไม่มีสินค้าให้ครับ
@@SingtoBadminton ให้น้องโป๊ง ส่งไปให้มั๊ยครับ ผมขีเกียจเขียนรีวิวครับ เด่วเล่าเป็นนิยายอีกรอบ 555
@@โป๊งเหน่ง-ว1ฒ ขนาดผมรีวิวไม้ยังมีครูสอนภาษาอังกฤษมาเต็มเลย555
เทียบกับ auraspeed hypersonic ตัวแรก ตัวไหนตีสบายกว่ากันครับ
หากเปรียบเทียบ Brave Sword 12 Pro กับ Auraspeed Hypersonic ตัวแรก ในแง่ของการตีง่าย มีความแตกต่างที่ควรพิจารณาดังนี้:---1. Brave Sword 12 Proสมดุล: 295 mm (สมดุลกลาง)น้ำหนัก: 4Uฟีลการตี: เบา คล่องตัว ตอบสนองเร็วเหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่ตีง่าย เน้นการควบคุมและความคล่องตัวในทุกจังหวะของเกมการตีง่าย: สูง เหมาะกับทั้งเกมรุกและเกมรับ---2. Auraspeed Hypersonicสมดุล: ประมาณ 300 mm (ค่อนไปทางหัวเล็กน้อย)น้ำหนัก: 4U หรือ 3Uฟีลการตี: เร็ว ตอบสนองดี แต่เน้นพลังเพิ่มในจังหวะตบเหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้สาย Speed ที่เพิ่มพลังในการตบและการโต้ตอบเร็วการตีง่าย: ปานกลาง เน้นความเร็วและพลังมากกว่า แต่ต้องอาศัยเทคนิคเพิ่ม---สรุปBrave Sword 12 Pro: ตีง่ายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม้ที่คล่องตัวและใช้งานได้หลากหลายAuraspeed Hypersonic: เน้นพลังและเกมรุกมากกว่า อาจต้องใช้แรงและเทคนิคเพิ่มในการควบคุมหากคุณชอบไม้ที่ตีง่าย เปลี่ยนจังหวะเร็ว และคล่องตัว Brave Sword 12 Pro จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเกมเร็วที่มีพลังตบเพิ่ม Auraspeed Hypersonic อาจเหมาะกับคุณครับ!
น่าลองมากครับ
จัดเลยไหม shopee.co.th/product/84633693/27070390468/
เทียบกับ 100 x ultra เลือกไม้ไหนครับ
@@drsompoch เอาด้านไหนครับ ถามกรอบกว้างๆผมตอบไม่ถูกครับ
Brave Sword 12 Pro กับ HS Plus สองตัวนี้ตัวไหนตีง่ายกว่ากันครับ ตอนนี้ผมใช้ auraspeed 9000 อยู่ อยากหาไม้ท๊อป victor สักไม้ครับ
ความแตกต่างเมื่อเทียบกับ Auraspeed 9000Auraspeed 9000 เป็นสาย Speed เช่นเดียวกับ Brave Sword 12 Pro ซึ่งจะใกล้เคียงกันในด้านความคล่องตัวและการเล่นเกมเร็ว แต่ Brave Sword 12 Pro มีความสมดุลที่หลากหลายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม้ All-RoundHS Plus จะต่างออกไป เพราะเป็นสาย Control/Power มีหัวที่หนักกว่าและอาจช้ากว่าเล็กน้อยในจังหวะการรับลูกเร็ว แต่ให้พลังและความแม่นยำสูงคำแนะนำ : หากคุณชอบความคล่องตัวและเกมเร็ว: Brave Sword 12 Pro จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะน้ำหนักเบา สมดุลกลาง และใช้งานได้หลากหลายเน้นการคุมลูกและเกมหนักแน่น: HS Plus เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบการควบคุมและต้องการความแม่นยำในจังหวะตัดสินครับ
อยากให้แนะนำ ไม้ฟีล bs12 3U หน่อยคับ
ถ้าแบบ 100% น่าจะยากครับ แต่ถ้า 70-80% พอได้นะครับ
เบรฟ - ซอด ครับ
I'm so sorry talk with Thai accent, because I think thai accent easily to hear for thai people.
จะซอร์ด สวอด มันก็คือสำเนียงที่ใช้ เอาความหมายไม่เพี้ยน เข้าใจ พอแล้วครับ
@@lokivariants ขอบคุณมากๆครับ ที่เข้าใจผม
เอาจริงผมชอบ สวอต นะมันฟังละดูเท่ดี
@@SingtoBadminton Accent is another story. But this is about pronounciation. Isn't it good to guide other what correct is? Anyway, I found myself only conflict among community here. I will have my leave. Apologize.
ช่องแรกเลย
โชคดีครับ 555
@@SingtoBadmintonสอบถามเพิ่มเติมคับ ในกรณีเอ็นเส้นเล็ก 0.58 มิล เรื่องการคอนโทรลเป็นยังไงบ้างครับ
@MegaPAVARIT ขนาดเอ็นที่บางช่วยเพิ่มความสรุกในการตีลูกและความแม่นยำที่ค่อนข้างจะดี ให้ความรู้สึกตอบสนองที่ดีเมื่อสัมผัสลูก เด้งดีครับเวลาเล่นเกมบุกเวลาไล่ลูกเร็วๆสนุกมากๆครับ เสียงสนั่นดี แต่เหลือเรื่องความทนต้องดูซักระยะนึงครับ
พันกริปขึ้นเอ็นแล้ว ไม่ทราบว่า swing weight เท่าไรคับ
ขออภัยครับ ผมไม่มีเครื่องวัด swing weight ครับ
VBS58 @30lbs ฟิลเป็นยังไงบ้างครับ
@@suntajosuntameal4237 ขนาดเอ็นที่บางช่วยเพิ่มความคมชัดในการตีลูกและความแม่นยำให้ความรู้สึกตอบสนองที่ดีเมื่อสัมผัสลูกเวลาบุกเนื่องด้วยเส้นมันเล็กเสียงก็เลยตบได้สนุกและมันส์ดีมากครับแต่เรื่องของความทนอาจจะต้องลองเล่นกันยาวๆสักพักนึงครับ
ขอบคุณครับ
มีลิงค์การสั่งซื้อไหมครับ
shopee.co.th/product/84633693/27070390468/ จัดไปครับ
เปรียบ เทียบ ตัว 55ปี หน่อย ครับ
เปรียบเทียบ Brave Sword 12 Pro และ Brave Sword 12 SE 55th Year Anniversary1. ระดับไม้และการใช้งานทั้ง Brave Sword 12 Pro และ SE เป็นไม้ระดับ Professional ที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไม้คุณภาพสูงสำหรับการเล่นจริงจัง ความแตกต่างคือ Pro เน้นความสมดุลระหว่างเกมรุก-รับ ส่วน SE เน้นเกมรุกที่หนักแน่นกว่า2. น้ำหนักและความสมดุลBrave Sword 12 Pro: น้ำหนักเบา (4U) และสมดุลกลาง (295 mm) เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความคล่องตัวและความหลากหลายBrave Sword 12 SE: มีตัวเลือกทั้ง 3U และ 4U พร้อมสมดุลหัวหนัก (310 mm) ให้พลังที่มากกว่า โดยเฉพาะในเกมรุก3. วัสดุและเทคโนโลยีBrave Sword 12 Pro: ใช้วัสดุ High Resilience Modulus Graphite + Nano Resin พร้อมด้ามจับ Free Core Handle ที่ช่วยลดแรงสะเทือนและเพิ่มความสบายBrave Sword 12 SE: ใช้วัสดุ Pyrofil ที่ยืดหยุ่นและเบากว่า พร้อมเทคโนโลยี Hard Cored Technology เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเฟรม4. ฟีลการตีBrave Sword 12 Pro: ฟีลการตีเน้นความสมดุล ตีง่าย และคล่องตัว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความหลากหลายในเกมBrave Sword 12 SE: ฟีลการตีหนักแน่น ตอบโจทย์เกมรุกที่ต้องการพลังในการตบและความมั่นคงในการควบคุม5. การออกแบบและความพิเศษBrave Sword 12 Pro: ดีไซน์เรียบหรู สี Midnight BlueBrave Sword 12 SE: รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปี สี Metallic Blue พร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สรุป:Brave Sword 12 Pro เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไม้ตีง่าย คล่องตัว และเหมาะกับการเล่นหลากหลายรูปแบบBrave Sword 12 SE เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเกมรุก ต้องการพลังในการตบ และสัมผัสความพิเศษของรุ่น Limited Edition
@ โดนใจมากครับ ขอบคุณครับ
ลูกตบแปลกๆไหม กลัวตรง free core นี่แหละ เคยใช้ เรียวกะ2 พอตบละไม่กระด้าง ไม่ชอบเลย ไม่รู้เพราะฟรีคอไหม
เทียบกับ nf700 เป็นไงบ้าง
Free Core เป็นเทคโนโลยีนี้ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน เลยทำให้ฟีลการตบอาจดู 'นุ่ม' หรือไม่กระด้างเหมือนด้ามไม้แบบดั้งเดิม ถ้าคุณเคยใช้ Ryuga 2 แล้วรู้สึกไม่ชอบตรงนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าฟีลเดียวกันอาจเกิดขึ้นกับ Brave Sword 12 Pro ที่ใช้ Free Core เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ Free Core มีจุดเด่นเรื่องความสบายและลดอาการเมื่อยล้าระยะยาว ถ้าคุณต้องการฟีลลูกตบที่หนักแน่น กระแทกชัด ๆ อาจต้องลองพิจารณาไม้ที่ไม่มี Free Core เช่น Ryuga Meltalic หรือ Auraspeed 90k Meltalic น่าจะตอบโจทย์กว่าครับ
@@mymelidiizeNanoflare 700: หากคุณเน้นความเร็วและคล่องตัวในการเล่น โดยเฉพาะการรับและโต้กลับBrave Sword 12 Pro: หากคุณต้องการไม้ที่สมดุลระหว่างรุกและรับ พร้อมฟีลการตีที่มั่นคงและพลังที่เพียงพอสรุป:ชอบความเร็วและเกมรับที่ตอบสนองไว: เลือก Nanoflare 700ชอบความสมดุล ตีง่าย ใช้ได้หลากหลาย: เลือก Brave Sword 12 Proรายละเอียด:Yonex Nanoflare 700เบาหัว ตีง่าย เหมาะสำหรับเกมเร็วและเกมรับเฟรม Aero Frame ลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความเร็วในการสวิงSonic Flare System ช่วยเพิ่มพลังและความเร็วในการตีน้ำหนักเบา (4U/5U) ช่วยให้ควบคุมลูกได้ง่ายและเล่นต่อเนื่องได้นานฟีลการตีตอบสนองไว เหมาะสำหรับการป้องกันลูกตบและการโต้กลับรวดเร็วVictor Brave Sword 12 Proสมดุลกลาง ตีง่าย ใช้ได้ดีทั้งเกมรุกและรับเฟรม SWORD Frame Design ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความคล่องตัวFree Core Handle ลดแรงสะเทือน เพิ่มความสบายในการจับน้ำหนัก 4U ช่วยให้การตีมีความเร็วและความคล่องตัวสูงฟีลการตีสมดุล มีพลังเพียงพอสำหรับลูกตบและการเล่นเกมรุก
เทียบกับ halbertec6000, 9000 ตัวไหนน่าสนใจกว่ากันคะ เป็นมือกลางๆค่ะ
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นระดับกลางและต้องการไม้แบดมินตันที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณ ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่าง Brave Sword 12 Pro, Li-Ning Halbertec 6000, และ Li-Ning Halbertec 9000 เพื่อช่วยในการตัดสินใจ:1. Brave Sword 12 Proสมดุล (Balance): 295 mm (สมดุลกลาง)น้ำหนัก: 4U (≤ 83 g)ก้านไม้: Medium-Stiffจุดเด่น:ใช้งานง่าย ตีสบายด้ามจับ Free Core ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนเหมาะกับเกมรุก-รับที่ต้องการความคล่องตัวเหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่ตีง่ายและสมดุลในทุกจังหวะเกม2. Li-Ning Halbertec 6000สมดุล (Balance): ประมาณ 290-295 mm (สมดุลกลางค่อนไปทางเบาหัว)น้ำหนัก: 4U หรือ 3Uก้านไม้: Medium (ยืดหยุ่นมากกว่า Brave Sword 12 Pro)จุดเด่น:เน้นความคล่องตัวและความเร็วก้านยืดหยุ่นช่วยเพิ่มพลังในการตีลูกเหมาะสำหรับเกมที่เน้นการตอบโต้รวดเร็วและการควบคุมเหมาะสำหรับ: ผู้เล่นระดับกลางที่ชอบไม้ที่เบาหัวและตีง่าย3. Li-Ning Halbertec 9000สมดุล (Balance): ประมาณ 300 mm (ค่อนไปทางหัวหนัก)น้ำหนัก: 3U หรือ 4Uก้านไม้: Medium-Stiffจุดเด่น:เพิ่มพลังในจังหวะตบการควบคุมลูกดีเยี่ยม เหมาะกับการเล่นเกมรุกสมดุลหนักหัวช่วยเพิ่มพลังในเกมรุกเหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการเพิ่มพลังในเกมรุกหรือเน้นลูกตบหนักสรุปBrave Sword 12 Pro:ตีง่ายที่สุดในสามรุ่นเหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางที่ต้องการไม้ที่คล่องตัว ใช้งานได้หลากหลายทั้งรุกและรับLi-Ning Halbertec 6000:ตีง่ายและคล่องตัวก้านยืดหยุ่นมากกว่า เหมาะกับการตอบโต้และการควบคุมลูกLi-Ning Halbertec 9000:เน้นพลังในเกมรุก ต้องการเทคนิคและแรงที่มากขึ้นเล็กน้อยเหมาะกับผู้เล่นที่ชอบลูกตบและเกมหนักแน่นคำแนะนำสำหรับมือระดับกลางหากคุณต้องการไม้ที่ตีง่าย คล่องตัว และเหมาะสำหรับเกมผสมผสาน Brave Sword 12 Pro หรือ Li-Ning Halbertec 6000 จะตอบโจทย์หากคุณเริ่มอยากพัฒนาเกมรุกและเน้นลูกตบที่หนักขึ้น Li-Ning Halbertec 9000 จะเหมาะกว่าข้อสรุป:ตีง่ายและสมดุล: Brave Sword 12 Proเกมเร็วและเบาหัว: Li-Ning Halbertec 6000พลังเกมรุก: Li-Ning Halbertec 9000เลือกตามสไตล์การเล่นและสิ่งที่คุณต้องการพัฒนาจะดีที่สุดครับ!
shopee.co.th/product/84633693/27070390468/
ขอบคุณค่ะ
น้องโป๊งเหน่งนั่งรอรีวิว 100X Ultra สายชมพูวันอังคาร โค้ชสิงโต
ถ้าเป็นไม้ limited จะไม่รีวิวครับ เนื่องด้วย ถ้ามีลูกค้าสนใจแล้ว ผมไม่มีสินค้าให้ครับ
@@SingtoBadminton ให้น้องโป๊ง ส่งไปให้มั๊ยครับ ผมขีเกียจเขียนรีวิวครับ เด่วเล่าเป็นนิยายอีกรอบ 555
@@โป๊งเหน่ง-ว1ฒ ขนาดผมรีวิวไม้ยังมีครูสอนภาษาอังกฤษมาเต็มเลย555
เทียบกับ auraspeed hypersonic ตัวแรก ตัวไหนตีสบายกว่ากันครับ
หากเปรียบเทียบ Brave Sword 12 Pro กับ Auraspeed Hypersonic ตัวแรก ในแง่ของการตีง่าย มีความแตกต่างที่ควรพิจารณาดังนี้:
---
1. Brave Sword 12 Pro
สมดุล: 295 mm (สมดุลกลาง)
น้ำหนัก: 4U
ฟีลการตี: เบา คล่องตัว ตอบสนองเร็ว
เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่ตีง่าย เน้นการควบคุมและความคล่องตัวในทุกจังหวะของเกม
การตีง่าย: สูง เหมาะกับทั้งเกมรุกและเกมรับ
---
2. Auraspeed Hypersonic
สมดุล: ประมาณ 300 mm (ค่อนไปทางหัวเล็กน้อย)
น้ำหนัก: 4U หรือ 3U
ฟีลการตี: เร็ว ตอบสนองดี แต่เน้นพลังเพิ่มในจังหวะตบ
เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้สาย Speed ที่เพิ่มพลังในการตบและการโต้ตอบเร็ว
การตีง่าย: ปานกลาง เน้นความเร็วและพลังมากกว่า แต่ต้องอาศัยเทคนิคเพิ่ม
---
สรุป
Brave Sword 12 Pro: ตีง่ายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม้ที่คล่องตัวและใช้งานได้หลากหลาย
Auraspeed Hypersonic: เน้นพลังและเกมรุกมากกว่า อาจต้องใช้แรงและเทคนิคเพิ่มในการควบคุม
หากคุณชอบไม้ที่ตีง่าย เปลี่ยนจังหวะเร็ว และคล่องตัว Brave Sword 12 Pro จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเกมเร็วที่มีพลังตบเพิ่ม Auraspeed Hypersonic อาจเหมาะกับคุณครับ!
น่าลองมากครับ
จัดเลยไหม shopee.co.th/product/84633693/27070390468/
เทียบกับ 100 x ultra เลือกไม้ไหนครับ
@@drsompoch เอาด้านไหนครับ ถามกรอบกว้างๆผมตอบไม่ถูกครับ
Brave Sword 12 Pro กับ HS Plus สองตัวนี้ตัวไหนตีง่ายกว่ากันครับ ตอนนี้ผมใช้ auraspeed 9000 อยู่ อยากหาไม้ท๊อป victor สักไม้ครับ
ความแตกต่างเมื่อเทียบกับ Auraspeed 9000
Auraspeed 9000 เป็นสาย Speed เช่นเดียวกับ Brave Sword 12 Pro ซึ่งจะใกล้เคียงกันในด้านความคล่องตัวและการเล่นเกมเร็ว แต่ Brave Sword 12 Pro มีความสมดุลที่หลากหลายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม้ All-Round
HS Plus จะต่างออกไป เพราะเป็นสาย Control/Power มีหัวที่หนักกว่าและอาจช้ากว่าเล็กน้อยในจังหวะการรับลูกเร็ว แต่ให้พลังและความแม่นยำสูง
คำแนะนำ :
หากคุณชอบความคล่องตัวและเกมเร็ว: Brave Sword 12 Pro จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะน้ำหนักเบา สมดุลกลาง และใช้งานได้หลากหลาย
เน้นการคุมลูกและเกมหนักแน่น: HS Plus เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบการควบคุมและต้องการความแม่นยำในจังหวะตัดสินครับ
อยากให้แนะนำ ไม้ฟีล bs12 3U หน่อยคับ
ถ้าแบบ 100% น่าจะยากครับ แต่ถ้า 70-80% พอได้นะครับ
เบรฟ - ซอด ครับ
I'm so sorry talk with Thai accent, because I think thai accent easily to hear for thai people.
จะซอร์ด สวอด มันก็คือสำเนียงที่ใช้ เอาความหมายไม่เพี้ยน เข้าใจ พอแล้วครับ
@@lokivariants ขอบคุณมากๆครับ ที่เข้าใจผม
เอาจริงผมชอบ สวอต นะมันฟังละดูเท่ดี
@@SingtoBadminton Accent is another story. But this is about pronounciation. Isn't it good to guide other what correct is? Anyway, I found myself only conflict among community here. I will have my leave. Apologize.
ช่องแรกเลย
โชคดีครับ 555
@@SingtoBadmintonสอบถามเพิ่มเติมคับ ในกรณีเอ็นเส้นเล็ก 0.58 มิล เรื่องการคอนโทรลเป็นยังไงบ้างครับ
@MegaPAVARIT ขนาดเอ็นที่บางช่วยเพิ่มความสรุกในการตีลูกและความแม่นยำที่ค่อนข้างจะดี ให้ความรู้สึกตอบสนองที่ดีเมื่อสัมผัสลูก เด้งดีครับ
เวลาเล่นเกมบุกเวลาไล่ลูกเร็วๆสนุกมากๆครับ เสียงสนั่นดี แต่เหลือเรื่องความทนต้องดูซักระยะนึงครับ
พันกริปขึ้นเอ็นแล้ว ไม่ทราบว่า
swing weight เท่าไรคับ
ขออภัยครับ ผมไม่มีเครื่องวัด swing weight ครับ
VBS58 @30lbs ฟิลเป็นยังไงบ้างครับ
@@suntajosuntameal4237 ขนาดเอ็นที่บางช่วยเพิ่มความคมชัดในการตีลูกและความแม่นยำ
ให้ความรู้สึกตอบสนองที่ดีเมื่อสัมผัสลูก
เวลาบุกเนื่องด้วยเส้นมันเล็กเสียงก็เลยตบได้สนุกและมันส์ดีมากครับ
แต่เรื่องของความทนอาจจะต้องลองเล่นกันยาวๆสักพักนึงครับ
ขอบคุณครับ
มีลิงค์การสั่งซื้อไหมครับ
shopee.co.th/product/84633693/27070390468/ จัดไปครับ
เปรียบ เทียบ ตัว 55ปี หน่อย ครับ
เปรียบเทียบ Brave Sword 12 Pro และ Brave Sword 12 SE 55th Year Anniversary
1. ระดับไม้และการใช้งาน
ทั้ง Brave Sword 12 Pro และ SE เป็นไม้ระดับ Professional ที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไม้คุณภาพสูงสำหรับการเล่นจริงจัง ความแตกต่างคือ Pro เน้นความสมดุลระหว่างเกมรุก-รับ ส่วน SE เน้นเกมรุกที่หนักแน่นกว่า
2. น้ำหนักและความสมดุล
Brave Sword 12 Pro: น้ำหนักเบา (4U) และสมดุลกลาง (295 mm) เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความคล่องตัวและความหลากหลาย
Brave Sword 12 SE: มีตัวเลือกทั้ง 3U และ 4U พร้อมสมดุลหัวหนัก (310 mm) ให้พลังที่มากกว่า โดยเฉพาะในเกมรุก
3. วัสดุและเทคโนโลยี
Brave Sword 12 Pro: ใช้วัสดุ High Resilience Modulus Graphite + Nano Resin พร้อมด้ามจับ Free Core Handle ที่ช่วยลดแรงสะเทือนและเพิ่มความสบาย
Brave Sword 12 SE: ใช้วัสดุ Pyrofil ที่ยืดหยุ่นและเบากว่า พร้อมเทคโนโลยี Hard Cored Technology เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเฟรม
4. ฟีลการตี
Brave Sword 12 Pro: ฟีลการตีเน้นความสมดุล ตีง่าย และคล่องตัว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความหลากหลายในเกม
Brave Sword 12 SE: ฟีลการตีหนักแน่น ตอบโจทย์เกมรุกที่ต้องการพลังในการตบและความมั่นคงในการควบคุม
5. การออกแบบและความพิเศษ
Brave Sword 12 Pro: ดีไซน์เรียบหรู สี Midnight Blue
Brave Sword 12 SE: รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปี สี Metallic Blue พร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
สรุป:
Brave Sword 12 Pro เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไม้ตีง่าย คล่องตัว และเหมาะกับการเล่นหลากหลายรูปแบบ
Brave Sword 12 SE เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเกมรุก ต้องการพลังในการตบ และสัมผัสความพิเศษของรุ่น Limited Edition
@ โดนใจมากครับ ขอบคุณครับ
ลูกตบแปลกๆไหม กลัวตรง free core นี่แหละ เคยใช้ เรียวกะ2 พอตบละไม่กระด้าง ไม่ชอบเลย ไม่รู้เพราะฟรีคอไหม
เทียบกับ nf700 เป็นไงบ้าง
Free Core เป็นเทคโนโลยีนี้ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน เลยทำให้ฟีลการตบอาจดู 'นุ่ม' หรือไม่กระด้างเหมือนด้ามไม้แบบดั้งเดิม ถ้าคุณเคยใช้ Ryuga 2 แล้วรู้สึกไม่ชอบตรงนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าฟีลเดียวกันอาจเกิดขึ้นกับ Brave Sword 12 Pro ที่ใช้ Free Core เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ Free Core มีจุดเด่นเรื่องความสบายและลดอาการเมื่อยล้าระยะยาว ถ้าคุณต้องการฟีลลูกตบที่หนักแน่น กระแทกชัด ๆ อาจต้องลองพิจารณาไม้ที่ไม่มี Free Core เช่น Ryuga Meltalic หรือ Auraspeed 90k Meltalic น่าจะตอบโจทย์กว่าครับ
@@mymelidiize
Nanoflare 700: หากคุณเน้นความเร็วและคล่องตัวในการเล่น โดยเฉพาะการรับและโต้กลับ
Brave Sword 12 Pro: หากคุณต้องการไม้ที่สมดุลระหว่างรุกและรับ พร้อมฟีลการตีที่มั่นคงและพลังที่เพียงพอ
สรุป:
ชอบความเร็วและเกมรับที่ตอบสนองไว: เลือก Nanoflare 700
ชอบความสมดุล ตีง่าย ใช้ได้หลากหลาย: เลือก Brave Sword 12 Pro
รายละเอียด:
Yonex Nanoflare 700
เบาหัว ตีง่าย เหมาะสำหรับเกมเร็วและเกมรับ
เฟรม Aero Frame ลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความเร็วในการสวิง
Sonic Flare System ช่วยเพิ่มพลังและความเร็วในการตี
น้ำหนักเบา (4U/5U) ช่วยให้ควบคุมลูกได้ง่ายและเล่นต่อเนื่องได้นาน
ฟีลการตีตอบสนองไว เหมาะสำหรับการป้องกันลูกตบและการโต้กลับรวดเร็ว
Victor Brave Sword 12 Pro
สมดุลกลาง ตีง่าย ใช้ได้ดีทั้งเกมรุกและรับ
เฟรม SWORD Frame Design ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความคล่องตัว
Free Core Handle ลดแรงสะเทือน เพิ่มความสบายในการจับ
น้ำหนัก 4U ช่วยให้การตีมีความเร็วและความคล่องตัวสูง
ฟีลการตีสมดุล มีพลังเพียงพอสำหรับลูกตบและการเล่นเกมรุก
เทียบกับ halbertec6000, 9000 ตัวไหนน่าสนใจกว่ากันคะ เป็นมือกลางๆค่ะ
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นระดับกลางและต้องการไม้แบดมินตันที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณ ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่าง Brave Sword 12 Pro, Li-Ning Halbertec 6000, และ Li-Ning Halbertec 9000 เพื่อช่วยในการตัดสินใจ:
1. Brave Sword 12 Pro
สมดุล (Balance): 295 mm (สมดุลกลาง)
น้ำหนัก: 4U (≤ 83 g)
ก้านไม้: Medium-Stiff
จุดเด่น:
ใช้งานง่าย ตีสบาย
ด้ามจับ Free Core ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน
เหมาะกับเกมรุก-รับที่ต้องการความคล่องตัว
เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่ตีง่ายและสมดุลในทุกจังหวะเกม
2. Li-Ning Halbertec 6000
สมดุล (Balance): ประมาณ 290-295 mm (สมดุลกลางค่อนไปทางเบาหัว)
น้ำหนัก: 4U หรือ 3U
ก้านไม้: Medium (ยืดหยุ่นมากกว่า Brave Sword 12 Pro)
จุดเด่น:
เน้นความคล่องตัวและความเร็ว
ก้านยืดหยุ่นช่วยเพิ่มพลังในการตีลูก
เหมาะสำหรับเกมที่เน้นการตอบโต้รวดเร็วและการควบคุม
เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นระดับกลางที่ชอบไม้ที่เบาหัวและตีง่าย
3. Li-Ning Halbertec 9000
สมดุล (Balance): ประมาณ 300 mm (ค่อนไปทางหัวหนัก)
น้ำหนัก: 3U หรือ 4U
ก้านไม้: Medium-Stiff
จุดเด่น:
เพิ่มพลังในจังหวะตบ
การควบคุมลูกดีเยี่ยม เหมาะกับการเล่นเกมรุก
สมดุลหนักหัวช่วยเพิ่มพลังในเกมรุก
เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่ต้องการเพิ่มพลังในเกมรุกหรือเน้นลูกตบหนัก
สรุป
Brave Sword 12 Pro:
ตีง่ายที่สุดในสามรุ่น
เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางที่ต้องการไม้ที่คล่องตัว ใช้งานได้หลากหลายทั้งรุกและรับ
Li-Ning Halbertec 6000:
ตีง่ายและคล่องตัว
ก้านยืดหยุ่นมากกว่า เหมาะกับการตอบโต้และการควบคุมลูก
Li-Ning Halbertec 9000:
เน้นพลังในเกมรุก ต้องการเทคนิคและแรงที่มากขึ้นเล็กน้อย
เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบลูกตบและเกมหนักแน่น
คำแนะนำสำหรับมือระดับกลาง
หากคุณต้องการไม้ที่ตีง่าย คล่องตัว และเหมาะสำหรับเกมผสมผสาน Brave Sword 12 Pro หรือ Li-Ning Halbertec 6000 จะตอบโจทย์
หากคุณเริ่มอยากพัฒนาเกมรุกและเน้นลูกตบที่หนักขึ้น Li-Ning Halbertec 9000 จะเหมาะกว่า
ข้อสรุป:
ตีง่ายและสมดุล: Brave Sword 12 Pro
เกมเร็วและเบาหัว: Li-Ning Halbertec 6000
พลังเกมรุก: Li-Ning Halbertec 9000
เลือกตามสไตล์การเล่นและสิ่งที่คุณต้องการพัฒนาจะดีที่สุดครับ!
shopee.co.th/product/84633693/27070390468/
ขอบคุณค่ะ