" เจ้าสัวเรือสำเภา"|จะไม่ให้มีการสืบราชสมบัติ| ประวัติรัชกาลที่ 3พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
HTML-код
- Опубликовано: 19 апр 2023
- พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุราลัย ( เจ้าจอมมารดาเรียม ) ประสูติ ณ วันจันทร์ เดือน 4 แรม 10 คํ่า ปีมะแม ตรงกับวันที่ 31 มีนาคม พุทธศักราช 2330 มีพระนามเดิมว่า "พระองค์ชายทับ"
พ.ศ. 2365 พระองค์ชายทับ ได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กํากับราชการกรมท่า กรมพระคลังมหาสมบัติ กรมพระตํารวจว่าการฎีกา นอกจากนี้ยังได้ทรงรับพระกรุณาให้แต่งสําเภาหลวงออกไปค้าขาย ณ เมืองจีน พระองค์ทรงได้รับพระสามัญญานามว่า "เจ้าสัว"ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชการที่ 2 ทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต โดยมิได้ตรัสมอบราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสองค์ใด พระบรมวงศานุวงศ์ และบรรดาเสนาบดีผู้เป็นประทานในราชการจึงปรึกษากัน เห็นควรถวายราชสมบัติแก่พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ อันที่จริงแล้วราชสมบัติควรตกแก่ เจ้าฟ้ามงกุฎ ( พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ) เพราะเจ้าฟ้ามงกุฎ เป็นราชโอรสที่ประสูติจากสมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 2 โดยตรงส่วนกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เป็นเพียงราชโอรสที่เกิดจากเจ้าจอมเท่านั้น โดยที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งพระราชหฤทัยไว้แล้วว่าเมื่อสิ้นรัชกาลพระองค์แล้วจะคืนราชสมบัติ ให้แก่สมเด็จพระอนุชา ( เจ้าฟ้ามงกุฎ) ดังนั้นพระองค์จึงไม่ทรงสถาปนาพระบรมราชินี คงมีแต่เจ้าจอมมารดา และเจ้าจอมพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นครองราชย์ในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ขึ้น 7 คํ่า เดือน 9 ปีวอกฉศก มีพระชนมายุได้ 37 พรรษา
การทํานุบํารุงบ้านเมือง
การปกครอง เป็นตามแบบเดิมที่เคยมีมา ในรัชกาลที่ 2รายได้ของประเทศ มีการปรับปรุงภาษีอากรใหม่ ยกเลิกภาษีฝิ่นอากรค่านํ้า และอากรรักษาเกาะ ส่วนการค้าขาย ส่วนใหญ่จะค้าขายกับจีน
ศาสนา เป็นยุคของการฟื้นฟูบูรณะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง มีการปฎิสังขรณ์วัดวาอาราม การศึกษาพระปริยัติธรรม การตั้งธรรมยุติกนิกาย และมีการเผยแพร่ศาสนาอื่นเข้ามาในไทยอีกวัดที่ทรงสร้างและปฎิสังขรณ์ที่สําคัญมี วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดราชนัดดา วัดเทพธิดาราม วัดอรุณ วัดกลางเมือง วัดนางนอง วัดพระพุทธบาท วัดมหาธาตุ วัดโมลีโลกยาราม วัดยานนาวา
วรรรคดีและกวี วงการกวีและวรรรคดีจะเฟื่องฟูในยุคต้นๆเท่านั้นบทพระราชนิพนธ์ คือ
1. เสพาขุนช้างขุนแผน
2. บทละครเรื่องสังข์ศิลปไชย
3. เพลงยาวรัชกาลที่ 3
4. โคลงปราบดาภิเษก
กวีที่สําคัญอีกท่านหนึ่งคือ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตโนรส มีพระนิพนธ์ที่สําคัญคือ ลิลิตตะเลงพ่าย พระปฐมสมโพธิกถา สรรพสิทธิ์คําฉันท์ กฤษณาสอนน้องคําฉันท์ศิลปกรรม ทางด้านสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมของต่างประเทศ เช่น ศิลปการช่างของจีน ปฎิมากรรมที่สําคัญได้แก่ การสร้างพระพุทธรูปประจํารัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2สร้างเมือง และป้อม สร้างเมืองใหม่ขึ้น คือ ได้แก่ พนัสนิคม ( เมืองพระรถ ) กบินทร์บุรี ประจันตคาม คําเขื่อนแก้ว ภูเวียงขุนคลองบองบาก คลองบางขุนเทียน เพื่อสะดวกแก่การคมนาคม และการเกษตรป้อมที่สร้างเพิ่มเติม สร้างป้อมที่เมืองสมุทรปราการ เมืองจันทบุรี เมืองสมุทรสงคราม เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก
การติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
ติดต่อกับพม่า ในรัชกาลที่ 3 นี้ อังกฤษติดต่อกับไทยเพื่อขอความช่วยเหลือ ในการยกทัพไปพม่า รัชกาลที่ 3 โปรดให้พระยารัตนจักร คุมกองมอญไปล่วงหน้า และโปรดให้เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรีย) คุมกองทัพมอญออกไปทางด่านพระเจดีย์ 3 องค์ พระยาชุมพรคุมกองเรือชุมพรไปไชยา ยกไปทางเรือเพื่อตีเมืองมะริด และเมืองทวาย พระยามหาอำมาตย์กับพระยาวิชิตณรงค์ขึ้นไปเกณฑ์หัวเมืองฝ่ายเหนือ ยกทัพออกทางด่านแม่มะเมา
การติดต่อกับญวน ในรัชกาลที่ 3 ญวนสนับสนุนให้เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์เป็นกบฎต่อไทย เท่ากับแสดงตนเป็นอริกับไทย ไทยจึงคิดปราบปรามญวนให้หายกําเริบเสียบ้าง จึงโปรดให้เจ้าพระยาบดินทร์เดชา ( สิงห์ สิงหเสนีย์ ) เป็นแม่ทัพบก ยกไปไล่ญวนในประเทศเขมร จนจดไซ่ง่อน และให้เจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่ทัพเรือ ตีหัวเมืองเขมรและญวนแถบชายทะเล ทําสงครามอยู่นานในที่สุดได้เลิกสงครามกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้นักองค์อิน เป็นเจ้าเมืองพระตะบอง และให้นักองค์ด้วงไปครองเมืองมงคลบุรี
ติดต่อกับลาว ลาวมีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมาตั้งแต่รัชกาลก่อนพอเปลี่ยนแผ่นดินมาเป็นรัชกาลที่ 3 ลาวก็มีท่าทีกระด้างกระเดื่อง สาเหตุมาจากเจ้าอนุวงศ์มาถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 2 ในปี พ.ศ. 2368 และทูลขอครอบครัวชาวเวียงจันทน์ แต่รัชกาลที่ 3 ไม่โปรดให้
พ.ศ. 2369 เกิดมีข่าวลือว่าอังกฤษจะทําสงครามกับไทย เจ้าอนุวงศ์จึงเข้ามากวาดต้อนผู้คนของไทยไป ทรงโปรดให้กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพเป็นแม่ทัพ แต่ไม่ทันได้สู้รบกัน เจ้าอนุวงศ์กวาดต้อนผู้คนไปจันทน์คุณหญิงโมภรรยาปลัด เมืองนครราชสีมา เป็นหัวหน้ารวบรวมพวกเชลยไทยต่อสู้ พอทัพจากกรุงเทพ ฯ ยกขึ้นไปช่วย เจ้าอนุวงศ์ จึงถอยทัพกลับไปเวียงจันทน์โดยวางกำลัง คอยต้านทานกองทัพไทย ที่ยกไปตีเวียงจันทร์ไว้ที่เมืองหล่มเก่า และ เมืองภูเขียว โปรดให้กรมพระราชวังบวร เป็นแม่ทัพ ยกทัพผ่านนครราชสีมา ขึ้นไปตีเวียงจันทร์สายหนึ่ง อีกสายหนึ่ง ให้กรมหมื่นสุรินทร์รักษ์เป็นแม่ทัพ ยกไปตีฝ่ายเจ้าอนุวงศ์ ที่มายึดเมืองอุบล และเมืองร้อยเอ็ด แล้วไปบรรจบกับ กองทัพใหญ่ที่เวียงจันทร์ อีกสายหนึ่งให้ เจ้าพระยาอภัยภูธรเป็นแม่ทัพ ยกไปตีฝ่ายเจ้าอนุวงศ์ที่เมืองหล่มสัก แล้วไป บรรจบทัพใหญ่ที่เวียงจันทร์ กองทัพไทย ปราบกบฎเจ้าอนุวงศ์ได้ราบคาบ ตีกรุงเวียงจันทร์แตก จับเจ้าอนุวงศ์ได้
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านยิ่่งนักสร้างสรรค์ผลงานให้ชาติบ้านเมือง
พระองค์ท่านเก่งมาก_
ขอรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่3 🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏👍❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️
'เพื่อประโยชน์ของคนไทยสถานเดียว'🙏น้อมสำนึก🙏รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ🙏🇹🇭
🙏ขอขอบพระคุณในความกรุณายิ่งค่ะ🇹🇭😊
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้า ภุชงค์ สิริวฑฺฒโน ชมพูนุท) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 11 และเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ พระองค์ที่ 2 พระราชนัดดา (หลาน) ในรัชกาลที่ 3
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร (หม่อมเจ้าชายกระจ่าง อรุโณ ลดาวัลย์) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามพระองค์แรก พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 3
หม่อมเจ้า พระสังวรวรปสาธน์ (ชัชวาล ชลิโต สิงหรา) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 3
พระโสภณนนทสาร (บุญเลิศ ชาตปุญฺโญ สิงหรา ณ อยุธยา) เจ้าอาวาสวัดบางไผ่ (พระอารามหลวง) ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ท่านสืบเชื้อสายจากรัชกาลที่ 3 ครับ
สังเกตว่าเชื้อสายรัชกาลที่ 3 จะบวชกันหลายท่านและบวชจนตลอดชีวิต
สำนึกในคุณครับ...ถ้าไม่มีเงินถุงแดงของท่าน ร.3 สยามคงไม่มีเงินถ่ายถอนประเทศจากต่างชาติเป็นแน่ครับ...
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ แอดมินขอบคุณมากๆๆค่ะ
ร.3+พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ห้ว' น่าจะได้เป้น มหาราช เพราะสร้างคุณประโยชน์ ไว้มากมายนัก ท้่ง ทำนุบำรุงศาสนา สร้างวัดใหญ่ๆ สวยๆๆงาม ไว้เป็น+10ว้ด ว้ดในกรุงเทพ ปัจจุบัน ที่สวยๆ ร.3 ทรงสร้าง ทรงพ้ฒนาปร้บปรุงท้้งน้้น ตั้งแต่ วัดภูเขาทอง+ว้ดเทพธิดาราม+ว้ดยานนาวา+วัดราชนัดดา+วัดเชตุพน+วัดแจ้ง+ว้ดโอรส+ว้ดที่ข้าราชการ ร่วมสร้างถวาย มี ว้ดก้ลยา+ว้ดประยุร+ว้ดอนงค้+วัดพิชยาตืการาม+วัดนวลนรดิศ.
ตั้งแต่สมัยรามคำแหงถึง รัชกาลที่4ไทยเป็นทาสรัฐอารักขาเมืองขึ้นจีน นี้คือหลักฐาน ruclips.net/video/zE4XhyBioZ0/видео.html
@@user-sh8ve6xl7qมั่วมาก
❤🙏รักกษัตริย์ทุกพระองค์คับ🙏❤️
ขอบคุณสำหรับข้อมูล ที่จะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้านี้ ให้คนรุ่นหลังได้รู้ถึงข้อมูลในอดีต
น้อมระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่3
ขอบคุณมากจ้า...🥰😍🥰
❤❤❤❤
กราบน้อมสำนึกในพระมหากรณาธิคุณตลอดไป องค์พระมหาธีรราชเจ้า🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
เพลงดังไปครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
@@Reungleaojakbanthuk เข้ามาดูวันที่ 18 พ.ค.66 ( 3 สปด.หลังวันที่โพสต์)
เสียงเพลงไม่ดังเกินแล้ว
หมายความว่าอย่างไร
พึ่งเข้ามาดูครั้งเเรกก็ประทับใจเลยขอรับติดตามต่อคับชอบน้ำเสียงเจ้าของช่องยิ่งนัก
แอดมินขอบคุณมากๆๆๆๆๆค่ะ
ตั้งแต่สมัยรามคำแหงถึง รัชกาลที่4ไทยเป็นทาสรัฐอารักขาเมืองขึ้นจีน นี้คือหลักฐาน ruclips.net/video/zE4XhyBioZ0/видео.html
นี่เป็นความเข้าใจผิดที่มีมานานพอควร
คำว่าเครื่องบรรณาการแปลว่า สิ่งที่ส่งไปให้ด้วยความเคารพนับถือหรือด้วยไมตรี
การที่ไทยส่งเครื่องบรรณาการตามคลิปที่คุณแชร์มานั้น ไม่ได้แปลว่าไทยเป็นเมืองขึ้นของจีนเลยแม้แต่น้อย
หากไทยเป็นเมืองขึ้นของจีนจริง จะต้องมีการกระทำที่เด่นชัดว่าเป็นประเทศราช ไม่ว่าจะโดยธรรมเนียมอุษาคเนย์ หรือธรรมเนียมจีนแผ่นดินใหญ่
1. ธรรมเนียมอุษาคเนย์ คือ หากไทยเป็นเมืองขึ้นของจีน ก็จะต้องมี"ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง"ไปเป็นประธานของเครื่องราชบรรณาการทุกครั้ง
2. ธรรมเนียมจีน หากไทยเป็นเมืองขึ้นของจีน การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ไทย ก็จะต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากฮ่องเต้จีนเช่นเดียวกับเมืองประเทศราชอื่นๆ เช่น อาณาจักรต่างๆในคาบสมุทรเกาหลี ชนเผ่าในดินแดนมองโกเลีย ตัวอย่างเช่น
2.1 พระเจ้ากึมวา , พระเจ้าแทโซ แห่งอาณาจักรพูยอ(ดินแดนเกาหลี) จะครองราชย์ได้ต้องได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้อาณาจักรต้าฮั่น(ราชวงศ์ฮั่นของจีน)
2.2 พระราชาในปลายราชวงศ์วังแห่งอาณาจักรโครยอ(ที่มาของชื่อประเทศเกาหลี) จะขึ้นครองราชย์ต้องได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้อาณาจักรต้าหยวน(จีนที่ปกครองโดยมองโกล)
2.3 องค์ชายลีฮอน แห่งอาณาจักรโชซ็อน แม้มีผลงานสู้กับกองทัพญี่ปุ่นจนได้ชัยชนะขับไล่ญี่ปุ่นออกจากดินแดนไปได้ในขณะที่พระบิดาอพยพหนีภัยไปอยู่เมืองอื่น จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทและขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา แต่เพราะไม่ได้รับการสถาปนาจากอาณาจักรต้าหมิง(จีน) จึงต้องดำรงพระยศเป็นเพียงควังแฮกุน(องค์ชายควังแฮ ) ไม่สามารถมียศเป็นพระราชาได้
ซึ่งกษัตริย์ไทยไม่เคยส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองให้จีนในฐานะประเทศราช และกษัตริย์ไทยก็ขึ้นครองราชย์ได้โดยไม่ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากฮ่องเต้จีนแต่อย่างใด
แม้ในคลิปจะมีข้อความราวกับว่า กษัตริย์ไทยขออานม้าทองคำ ผ้าทองคำ และม้าศึก ในโอกาสได้ขึ้นครองราชย์ โดยใช้คำว่าขอพระราชทาน( ที่ให้ความรู้สึกคล้ายขอรับการแต่งตั้ง) แต่หากมองความสัมพันธ์ทางการฑูตแล้ว นี่ก็น่าจะเป็นเพียงขอการยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ปกครองโดยรัชกาลใหม่ แต่ไม่ใช่ขอรับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ของเมืองประเทศราชจากฮ่องเต้จีนผู้เป็นเจ้าอาณานิคมอย่างแน่นอน
@@kolatiswongsoponsiri8157 จีนเขาแต่งตั้งตราตั้ง ให้เป็นแค่หัวหน้าเผ่า ท่านอ่อง ไม่ใช่กษัติย์เลย ทาสเมืองขึ้นจีน ส่งส่วยบรรณาการมากมาย ไม่ส่งตาย
เห้นเท่วตามไปค้อมเม้นเขาไปทั่วว่าไทยเป้นเมืองขึ้นจีนกลัวเขาใม่รุ้ทำเพืออะไรใม่รู้บอกหน่อยใด้ใม่จะใด้เข้าใจ
@@user-zj5ks2kq3g เป็นห่วงกลัวคนไทยไม่รู้ความจริง
@@user-sh8ve6xl7q รู้แล้วไปทำอะไรใด้บ้างคงใม่ใด้เรียนพุทธศาสนาพระองค์ตรัสว่า
อย่าหวนคิดถึงอดีต
อย่าไปเพ้อฝันถึงอนาคต
ให้อยู่กับปัจจุบัน
ทำไมรัชกาลที่๓จึงไม่ได้มหาราช
The sinned mad beast went to hell!