Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
หึ้ยมันน่ารักโดนใจนักนะ
น่ารัก เก่ง mideset ดีมากกกกก แถมยิ้มทีละลาย
หลายคำถามตอบยากและกว้างมากเช่น ต้องเรียนภาษาไหนและภาษาพื้นฐานคือ?สายนี้ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าคุณอยากทำอะไรเช่น สาย moblie base ภาษาก็คนและภาษากับ web application หรือ windows แต่ก็มีเทคนิคมากมายในก็การทำภาษาเดียว cross-platformและงานสายนี้จะบอกว่ามันไม่ได้ทำคนเดียวด้วยสิ ชอบแน้ออกแบบหน้าเว็บไซต์ไม่ logic เยอะก็ทำ frontend ชอบคำนวณออกแบบระบบ structure ก็ backendอีกอย่างสายนี้ต้องชอบจริงๆไม่งั้นคุณอาจเบื่อไม่ชอบเครียดและหมดไฟง่ายสุดท้ายไม่มีการอัพเดทเทคนิคต่างๆอาจไปต่อไม่ได้
ถ้าเขียนเว็บ หลักๆ ต้องเรียน javascript เพราะ frontend ใช้พื้นjavascript ส่วน back end ก็แล้วแต่บริษัท
เยอะจริงครับเรียกค่าตัวแพงมากทำงานก็ไม่ค่อยได้ผลขนาด นศ.จบใหม่ เรียกเงินเดือนสูงมากรับมา ก็ต้องมาฝึกพอเขียนเป็น รีบออกทันทีมาเรียนแบบได้เงินเดือน แทนที่จะไปเสียเงินเรียนไม่ได้เป็นที่ผมที่เดียวนะ บริษัทอื่นก็เป็น
ผมรับสามหมื่นห้าอายุ25 ผมล้มเหลวไหมครับ back end engineer
ผม27 ยังเรียนไม่ทันจบเลยครับ หางานอยู5555@@I3lacklist
ต่อให้คนที่เข้าใหม่มาจะเก่งแค่ไหนก็ต้องเทรนอยู่ดีครับ องค์กรของคุณทำงานกันแบบไหน ทำงานกันด้วยอะไร ไม่มีใครข้างนอกจะทราบได้หรอกครับ
@@mathburn1 เห็นด้วยครับ conceptต้องตรงกัน เก่งมาจากไหนเขียนโค้ดไม่คุยกันก็ stack overflow
@@I3lacklist มันน่าจะบอกไม่ได้น่ะครับว่าล้มเหลวหรือไม่ สุดท้ายแล้วเงินเดือนที่ได้จะสะท้อนกลับว่าเราสามารถทำประโยชน์ให้กับบริษัทได้เท่าไหน บางคนช่วงแรกๆยอมรับเงินเดือนน้อยเพื่อให้ตัวเองได้มีโอกาสเข้าไปพัฒนาทักษะ/ประสบการณ์ อนาคตพอเราเก่งมากๆเรียกค่าตัวเท่าไรก็มีคนจ่ายครับ ในขณะเดียวกันถ้าทักษะเราโตไม่ทันกับอายุการทำงานอีกไม่นานก็เงือนเดือนก็จะตันครับ จะหางานใหม่/เพิ่มเงินเดือนก็ยากล่ะ
ไม่ค่อยแนะนำให้เด็กใหม่ๆ ทำหลอกครับ คนที่ไปถึงสุด ๆ ได้ จะมีน้อย เพราะ ตัวเลือก เยอะ ใครๆ ก็คิดว่าจะเรียนสายนี้ มันจะเริ่มล้นๆ ตลาด อีกอย่างเทคโนโลยี เปลี่ยน ไว้ ต่อไป มัน oop หรือ เป็น module ไปใช้ได้โดยง่ายมากขึ้น ถ้าจะไปต้องหาโอกาสที่จะเข้าไปบริษัทใหญ่ๆ เพื่อที่จะโต และ มีโอกาส บอกได้เลย เด็กบางคน พื้นฐาน ไม่ค่อยมี แต่เขียนออกมาได้โดยที่ไม่เข้าใจ ว่ามันมาได้ยังไงด้วยซ้ำ คือ adap ไม่ค่อยเป็น ถ้า ฉลาด และ หัวมีทางนี้ จริงๆ อาจจะไปได้อยู่
ไปทำ PM ดีไหมครับ
จุดสูงสุดของโค้ดดิ้งคือ ออกไปปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ครับ
เห็นหลายคนเลยครับ
หมายถึงรวยแล้ว มาออกมาทำฟาร์ม หรอครับ
ดูจบแล้ว ได้ความรัก เอ้ยความรู้มากครับ
EP ต่อไป ขอ UX/UI Designer ด้วยนะครับ
ได้ดูแต่ไฮไลท์แต่ขอให้ความเห็นเรื่อง ไม่เรียนมาได้ไหม, โดยส่วนตัวมองว่าไม่ว่าสายอาชีพไหนเราก็ต้อง เรียน(รู้) กันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรียนจากอะไรที่ไหนแต่ประสบการณ์ส่วนตัว เคยมีโอกาสได้เจอน้องที่ไม่ได้เรียนจบด้านนี้มาจากมหาลัย แต่น้องไปเรียนพวกตามคอร์สออนไลน์ต่างๆมาเอง พอมาถึงการทำงานจริงน้องทำไม่ได้เลย ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน fundamental น้องเขาก็เครียด แถมพี่ๆในทีมก็งานล้นไม่มีเวลามีคอยเทรนน้องอีก (ฝากถึงองค์กร เรื่องการเทรนนี่สำคัญนะครับอย่าได้ละเลย), หลังจากได้เจอ พอได้คุยบ้าง และไปปรึกษากับพี่ๆในทีมคนอื่น ก็เลยขอสรุปกันเองว่า เรื่องพวกนี้มันต้องมีการเรียนตั้งแต่พื้นฐาน fundamental ซึ่งส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีที่ไหนดีไปกว่าการเรียนในมหาลัย เพราะเราจะมีเวลาอยู่กับมันเยอะแถมมีอาจารย์คอยไกด์ให้ไปทางที่ถูกที่ควรอีกดังนั้น ถ้าน้องๆคนไหนเผลอเข้ามาอ่านคอมเมนท์พี่ก็ พี่ก็จะขอบอกไว้ว่า ถ้ามันเป็นงานที่อยากทำจริงๆเราควรให้เวลากับมันเยอะหน่อย โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐาน การเรียนหลักสูตรของมหาลัยไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เลย สายงานนี้เอาเข้าจริงๆมันเหมือนการทำงานศิลปะหน่อยๆ เพราะแต่ละปัญหาที่ต้องจัดการมันไม่ได้วิธีตายตัวเป๊ะๆในการจัดการ ขึ้นอยู่กับคนนั้นว่าจะจินตนาการสร้างสรรค์การแก้ปัญหาออกมายังไงและให้เหมาะสม ซึงมันเป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้ สอนกันได้แค่เรื่องพื้นฐาน ถ้าพื้นฐานแน่นแล้วเราเจอปัญหาเรามองปัญหาเราวิเคราะห์มันเราก็จะค่อยๆเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นยังไง ส่วนการจะแก้ไขมันยังไงบ้างอันนี้อย่างที่บอกว่าสอนไม่ได้เพราะบางครั้งปัญหามันมีหลายชั้น การไปเรียนแค่คอร์สออนไลน์ที่สอนแบบสำเร็จรูป เช่น สอนทำเว็บ สอบทำนู่น สอนทำนี่ โดยที่ละเลยพื้นฐานการทำงานจริงเลยมักจะมีปัญหาสรุป ส่วนตัวผมว่าควรเรียนครับโดยเฉพาะพื้นฐาน และถ้าหากจะเรียนจากคอร์สออนไลน์ขอให้เริ่มที่พื้นฐานของการโปรแกรมมิ่งก่อน จะให้ดีก็ต้องมีผู้รู้คอยแนะนำในกรณีที่เราไม่รู้หรือสงสัยด้วย
เห็นด้วยเรื่องเรียนในมหาลัยดีกว่าไม่ว่าจะสายไหน เพราะมหาลัยเค้าจัดคอร์สมาให้แล้วว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง บางทีเราไปเรียนเองเราเรียนแบบผิดลำดับหรือไม่ครบ พอพื้นฐานบางอย่างมันไม่ได้ผ่านตามา เจอบริบทยากๆเราก็จัดการมันได้ยากกว่าคนที่พอรู้พื้นฐานบ้าง แต่จริงๆเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลล้วนๆ ส่วนตัวเห็นมาเยอะมากว่าเด็กจบใหม่จากมหาลัยก็ไม่ได้มีพื้นฐานขนาดนั้น ดู Portfolio ทำผลงานมาอลังการ สัมภาษณ์บอกทำเป็นทุกอย่าง แต่พอจับงานจริงรู้เลยว่ารากฐานยังไม่แน่นพอก็มีเยอะครับ เน้นรู้แบบหวือหวาๆตามเทรนแต่ Basics กับความคิดสร้างสรรค์ยังไม่ผ่าน ส่วนคนที่เปลี่ยนสายมาแล้วศึกษาด้วยตัวเองล้วนๆได้เข้าไปทำงานบริษัทใหญ่ๆก็มีเยอะแยะมากมาย ขอเสริมด้วยความเห็นส่วนตัวด้วยว่า นอกจากจะเรียนในมหาลัยแล้วควรศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน พัฒนาสกิลตนเองให้แข็งแรงให้พร้อมด้วยครับ ยุคนี้เรียนแค่ในมหาลัยมันไม่พอจริงๆ แต่ถ้าจะศึกษาด้วยตัวเองก็ได้เช่นกันแต่ต้องขยันกว่าคนเรียนมหาลัย 3 เท่า และต้องมีวินัยสูงมากถึงจะประสบความสำเร็จ
พื้นฐานที่ควรรู้มีอะไรบ้าง ไกด์ให้ได้ไหมครับ สิ่งที่ควรรู้พื้นฐานทั้งหมดถ้าอยากมาทำสายนี้ครับ
@@bourbongranger3536 ผมอาจจะนึกออกมาได้ไม่หมด แต่ถ้าพื้นฐานโปรแกรมมิ่งจริงๆมันจะมีประมาณว่า การทำงานของโค้ด, data type, data structure, algorithmแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ programming language ด้วยนะครับว่าเป็นภาษาอะไร เพราะแต่ละภาษามันก็มี fundamental ของตัวเองอีกทีแล้วพวกเติมเข้าไปอีกทั้งหลาย (is a plus/nice to have) ก็พวก ความรู้ด้าน OS, ความรู้ด้าน HW ยกตัวอย่างเช่น สมมุติไปทำด้าน frontend มันก็จะมีงานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับด้าน UI ทีนี้ถ้าหากคุณมีความรู้เรื่องจอแสดงผล มันก็อาจจะทำให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ว่า behavior แบบนี้มันเกิดจากอะไร คุณจะพอ expect ได้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่น ทำ UI ออกมาแล้วทำไม font ดูไม่ค่อยคมเท่าที่ควร ทำไมขอบตัวหนังสือมี color fringing เป็นเพราะ panel รึเปล่า เพราะเป็น OLED ไม่ใช่ LCD รึเปล่าอะไรแบบนี้ หรือทำยังไงให้มันประหยัดแบตฯมากขึ้นบน OLED // พวกนี้ถึงจะดูไม่ค่อย/ไม่ควร เป็นงานของ frontend dev 100% (อาจจะเป็นงานของ UI/UX Designer) แต่การทำงานจริงมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอ การไม่ใส่ใจ การโยนงาน โยนความผิด หรืออาจเป็นการที่คุณอาจจะต้องตอบคำถามแทนพวกเขา หรือเอาไปเป็นคำถามไปถามพวกเขา สำหรับผมถึงจะบอกว่าเป็น nice to have แต่เอาเข้าจริงๆผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องรู้ HW และ Platform ที่เรา working onอันนี้ก็เลยอยากจะบอกว่า การเข้าไปเรียนหลักสูตรของมหาลัย สิ่งที่เราได้จากมันอีกอย่างนึงก็คือ มันทำให้เราต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมกับคนแบบเดียวกันด้วย เมื่อคนแบบเดียวกันอยู่ด้วยกันหลายๆคนมันก็จะเริ่มเกิดการคุยการแลกเปลี่ยนความรู้พวกนี้ไปแบบกลายๆ คุณจะต้องใช้เวลาอยู่กับมันพอสมควร เรื่องอะไรที่ไม่รู้ก็อาจจะได้ยินจากการที่เพื่อนๆคุยกัน หรืออาจารย์เปรยๆไว้อะไรแบบนี้**ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อย คือสายงานนี้มันมีหลายแขนง frontend, backend, network, web, app, game, ... etc ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมี fundamental ของตัวเองอีกที ดังนั้นต่อให้จบมาแล้วก็ต้องมีเรียนรู้ด้วยตัวเองเพิ่มเติมตลอดอาชีพงานแน่นอนครับ
@@bourbongranger3536 อันนี้ผมไม่รู้ว่าอยากจะทำสายไหนเลยตอบให้ไม่ได้แต่ถ้าแนะนำก็ภาษาโปรแกรมมิ่งซักภาษานึงอาจจะอ้างอิงจากสิ่งที่เราอยากทำเช่น อยากเขียนเว็บไป HTML , CSS , JavaScript - อยากทำ AI , Network , Data ไปเขียน Python - อยากทำแอพในมือถือ ไม่แน่ใจเดียวนี้เค้ายังใช้ Flutter กับ React Native อยู่ไหม - อยากทำ IOT ก็ C , C++ - อยากทำเกมก็ดูว่าจะใช้ Engine ไหน เช่น Unreal ก็ C++ , Unity ก็ C# อันนี้ก็ขี้นอยู่กับความสนใจแต่ถ้าจะให้ดีต้องลงมือทำจริงๆแล้วคุณจะเจอปัญหา และเมื่อเจอปัญหาคุณจะมีทางเลือก 2 ทางคือ หาทางเพื่อจะไปต่อ กับ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำมัน การเริ่มต้นมันยากครับแต่ถ้าคุณทำได้ คุณอาจจะเป็นคนที่เก่งขึ้นก็ได้
น่าจะหมายถึงไม่ได้เรียนที่มหาลัย มาเรียนเองตามเนตแหละ
ดูแล้วใจสั่น ฟังไม่รู้เรื่องคับ
การเล่นเกมมันจะเห็นว่าเกมทำไม่ค่อยได้ดั่งใจ อยากทำเองเล้ย เลยลองไปเรียนเขียนโกรแกรมดู เผื่ออาจจะได้ทำเกมขึ้นมาได้
น่าสนใจ เข้าใจมากขึ้นครับ
เข้าใจเยอะขึ้นเลยครับ
ชอบแบบนี้ น่ารัก
โห .. อายุเท่าไหร่แล้ว ยังสดใสมากอยู่เลย
สุดท้ายวงการนี้ก็คัดเหลือแต่คนสมองจีเนียสถึงขึ้นไประดับสูงได้
เทรนด์ต่อไปอาชีพที่รายได้สูง น่าจะต้องคุยกับ เอไอได้ด้วย
น่ารักจัง
นานๆจะมี dev สาวสวย เยี่ยมครับ สนับสนุน
มาดูเพราะพี่แป้งน่าร้ากกครับ
"สอน c กับ c++" "มันเหมือนภาษาพื้นฐาน" ยิ้มแห้ง 😅
Ig อยู่นาทีเท่าไหร่ครับ 😊😊
56:49
น้องเขาดูเนิร์ดๆ ดีนะครับ
ต้องการวาร์ปไอจีพี่แป้งครับ
ปักรอสังคมแห่งการแบ่งปันค้าบ โอ้เจอละ ppangchn
ส่วนตัวคิดว่า Individual contributor อาจไม่ใช่คำตอบของสายงานนี้เท่าไหร่นะครับ สายงานนี้เราทำงานในแบบทีมเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีใครที่จะสามารถรับจบในคนเดียวหรือสองคนได้หรอกครับ นอกเสียจากคุณจะรับงานแบบ freelance ครับ
ไม่เรียนก็ได้ >> เป็นกรรมกรเขียนโค้ดถ้าเรียน จะได้เป็น >> วิศวกรออกแบบ / นักวิจัยเลือกเอาครับ
สวย น่ารัก
ชอบครับ
เสียงอย่างเท่
ไม่ถามเพื่อนครับ แต่ ถาม chat botส่วนstack overflow เก่าแล้ว 😁😁😁
จริงครับตั้งแต่มี AI ก็เลิกใช้มาซักพักแล้ว
ทำไมไม่เขียน ABAP ล่ะ เดือนละ 200,000
Sap นี่มีแนวโน้วจะเลิกฮิตในอีก 20ปีมั้ยคะ ว่าจะเริ่มเรียน ABAP อยู่
@@alindaiveworapipatthanakul1641เป็นไปได้ยาก SAP เป็น ERP เบอร์ 1 ของโลก ยากที่ใครจะโค่นได้ เพียงแต่ developers ต้องปรับตัวให้ทัน เพราะ ABAP ก็เปลี่ยนเป็น ABAP Cloud และวิธีการพัฒนาก็มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน
sap เงินดีครับเพื่อนผมก็ ราวๆนั้น ผมก็ได้น้อยกว่านิดนึง แต่ผมต้องใช้ประสบการณ์หลายปีมากกว่าเพื่อนได้เรทนั้นตั้งแต่สี่ปีแรก 555 แต่ต้องเก่งจริงนะ sap ถ้าเขียนอย่างอื่นมันง่ายกว่า
ชอบความเอาเรื่องงานมาคุยเล่น เอา Stack ใหม่ ๆ มาคุยมาอวดกัน ฮ่า ๆ
เคยมีคนบอกว่า มีเพื่อนเขาเก่งมาก ทำบริษัทในไทย บริษัทไทย เพื่อนเขาได้เงินเดือน 900,000 บาทต่อเดือน ใช่แล้วฟังไม่ผิดตอนแรกก็แย้งไปว่าต่อปีหรือป่าว เขายืนยันว่าต่อเดือน คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือจ้อจี้ 🕵️♂️
ถ้าสาย security ไปทำให้ธนาคารก็ถึงอยู่นะคะ
เก่งจังครับ
เห็นน้องแป้งล่ะอยากย้ายสายงาน
นางฟ้าชัดๆ ภาษาคนมีแล้ว ภาษาคอมก็เรียนแล้ว รบกวน ภาษารักเพิ่มด้วยนะครับ.........ฮิ้ววววว
อีกไม่กี่ปีหรอกคับ พวกโปรแกรมเมอร์จะตกงาน จะเหลือแค่พวกที่ดูแล โครงสร้าง พวกแอพใหญ่ๆที่มีความซับซ้อน แอพทั่วไปที่เขียนให้บริษัทเอาไปใช้ในธุรกิจตัวเองพวกนี้ใช้ lowcode เร็วกว่า ราคาถูกกว่า ค่าดูแลถูกกว่า คุณภาพเท่ากัน ออปชั่น AI มาเต็ม ในมุมมองธุรกิจ ไม่ต้องคิดมากเลยว่าจะเลือกแบบไหน
กลุ่มคนพวกนี้เค้าอยู่ทางด้านนี้อยู่แล้ว เค้าก็เรียนรู้ใช้ AI หรือสร้าง AI เพิ่มเติม กลุ่มงานพวกนี้อย่างไรก็ไม่ตาย
เตรียมสมัครเลยบริษัทนี้
ความรู้พื้นฐานซอฟต์แวร์เอ็นฟังบ่อยแล้วครับ แต่ที่ฟังจนจบเพราะสวยเก่งและน่ารัก 😂
เดี๋ยวนี้ AI ก็ช่วยเขียนโปรแกรมได้แล้ว อาจไม่ถูกเป๊ะ edit หน่อยก็ใช้ได้ ไม่รู้ต่อไปงานพวกน้องๆ จะโดน disrupt หรือไม่
ก็อย่างว่าแหละครับว่า มันต้องค่อย edit อนาคตอาชีพนี้อาจจะไม่ต้องเขียนเอง แต่ใช้ logic ในการคอยตรวจสอบโค้ตจาก ai ก็ได้
รอโดน disruptจะแย่แล้วครับ บรึ่ยๆๆ
ตามยุคครับ แต่ ai มาไวมากจริงๆ
คงต้องปรับตัวแล้วล่ะ ทุกคน
สมัยก่อน คนขับรถม้า สมัยนี้คนขับแท็กซี่ ถ้าเอาจริงๆ มันก็เป็นบริการลักษณะเดียวกัน แค่อาชีพมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยีครับ อาชีพในปัจจุบัน สมัยก่อน 10-20 ปีที่แล้วมันก็ไม่มี
ทำมาแล้ว20ปี ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ สายบริหารงานง่ายๆได้เงินเยอะกว่าเฉยเลยประเทศไทยเห้อ😅 พวกดร.ปลอมนี่น้า
ย้ายสายมาเป็น software engineering ดีกว่า555
Thai sounds like Cantonese
หน้าตาสวยน่ารัก แต่พูดห้วน ๆ ไม่มีหางเสียง ทนฟังจนจบไม่ไหว
ไม่มีใครถามเลยนะครับ😊
เรื่องผู้หญิงน้อยกว่า อย่างแรกเลย แค่ตอนเรียนก็ไม่ค่อยมีผูหญิงสมัครล่ะ 3-1
wow
เข้าใจแล้วเหรอ
ช่าย
ผู้หญิงคิดไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมามมากๆๆ แค่ใช้อารมณ์ ไม่ใช้เหตุผล เลยเข้าใจไม่ได้
แสดงความคิดเห็นโดยเพศชาย ที่คิดว่าตัวเองฉลาดอยู๋คนเดียว คิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว คิดว่าเพศตัวเองเก่งที่สุด เคยเข้าไปทำบริษัทเทคป้ะ พนักงาน 10 คน ผู้หญิงไปแล้ว 8 เก่งอยู่เพศเดียวมั้งโลกนี้
ที่กล่าวมาสลับกันไหม ถ้าไปถามผู้เชี่ยวด้านวิวัฒนาการของสัตว์และมนุษย์เขาจะตอบตรงกันข้ามกับคุณ
แต่ละเม้น55555
หึ้ยมันน่ารักโดนใจนักนะ
น่ารัก เก่ง mideset ดีมากกกกก แถมยิ้มทีละลาย
หลายคำถามตอบยากและกว้างมาก
เช่น ต้องเรียนภาษาไหนและภาษาพื้นฐานคือ?
สายนี้ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าคุณอยากทำอะไร
เช่น สาย moblie base ภาษาก็คนและภาษากับ web application หรือ windows แต่ก็มีเทคนิคมากมายในก็การทำภาษาเดียว cross-platform
และงานสายนี้จะบอกว่ามันไม่ได้ทำคนเดียวด้วยสิ ชอบแน้ออกแบบหน้าเว็บไซต์ไม่ logic เยอะก็ทำ frontend ชอบคำนวณออกแบบระบบ structure ก็ backend
อีกอย่างสายนี้ต้องชอบจริงๆไม่งั้นคุณอาจเบื่อไม่ชอบเครียดและหมดไฟง่ายสุดท้ายไม่มีการอัพเดทเทคนิคต่างๆอาจไปต่อไม่ได้
ถ้าเขียนเว็บ หลักๆ ต้องเรียน javascript เพราะ frontend ใช้พื้นjavascript
ส่วน back end ก็แล้วแต่บริษัท
เยอะจริงครับ
เรียกค่าตัวแพงมาก
ทำงานก็ไม่ค่อยได้ผล
ขนาด นศ.จบใหม่ เรียกเงินเดือนสูงมาก
รับมา ก็ต้องมาฝึก
พอเขียนเป็น รีบออกทันที
มาเรียนแบบได้เงินเดือน แทนที่จะไปเสียเงินเรียน
ไม่ได้เป็นที่ผมที่เดียวนะ บริษัทอื่นก็เป็น
ผมรับสามหมื่นห้าอายุ25 ผมล้มเหลวไหมครับ back end engineer
ผม27 ยังเรียนไม่ทันจบเลยครับ หางานอยู5555@@I3lacklist
ต่อให้คนที่เข้าใหม่มาจะเก่งแค่ไหนก็ต้องเทรนอยู่ดีครับ องค์กรของคุณทำงานกันแบบไหน ทำงานกันด้วยอะไร ไม่มีใครข้างนอกจะทราบได้หรอกครับ
@@mathburn1 เห็นด้วยครับ conceptต้องตรงกัน เก่งมาจากไหนเขียนโค้ดไม่คุยกันก็ stack overflow
@@I3lacklist มันน่าจะบอกไม่ได้น่ะครับว่าล้มเหลวหรือไม่ สุดท้ายแล้วเงินเดือนที่ได้จะสะท้อนกลับว่าเราสามารถทำประโยชน์ให้กับบริษัทได้เท่าไหน บางคนช่วงแรกๆยอมรับเงินเดือนน้อยเพื่อให้ตัวเองได้มีโอกาสเข้าไปพัฒนาทักษะ/ประสบการณ์ อนาคตพอเราเก่งมากๆเรียกค่าตัวเท่าไรก็มีคนจ่ายครับ ในขณะเดียวกันถ้าทักษะเราโตไม่ทันกับอายุการทำงานอีกไม่นานก็เงือนเดือนก็จะตันครับ จะหางานใหม่/เพิ่มเงินเดือนก็ยากล่ะ
ไม่ค่อยแนะนำให้เด็กใหม่ๆ ทำหลอกครับ คนที่ไปถึงสุด ๆ ได้ จะมีน้อย เพราะ ตัวเลือก เยอะ ใครๆ ก็คิดว่าจะเรียนสายนี้ มันจะเริ่มล้นๆ ตลาด อีกอย่างเทคโนโลยี เปลี่ยน ไว้ ต่อไป มัน oop หรือ เป็น module ไปใช้ได้โดยง่ายมากขึ้น ถ้าจะไปต้องหาโอกาสที่จะเข้าไปบริษัทใหญ่ๆ เพื่อที่จะโต และ มีโอกาส บอกได้เลย เด็กบางคน พื้นฐาน ไม่ค่อยมี แต่เขียนออกมาได้โดยที่ไม่เข้าใจ ว่ามันมาได้ยังไงด้วยซ้ำ คือ adap ไม่ค่อยเป็น ถ้า ฉลาด และ หัวมีทางนี้ จริงๆ อาจจะไปได้อยู่
ไปทำ PM ดีไหมครับ
จุดสูงสุดของโค้ดดิ้งคือ ออกไปปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ครับ
เห็นหลายคนเลยครับ
หมายถึงรวยแล้ว มาออกมาทำฟาร์ม หรอครับ
ดูจบแล้ว ได้ความรัก เอ้ยความรู้มากครับ
EP ต่อไป ขอ UX/UI Designer ด้วยนะครับ
ได้ดูแต่ไฮไลท์แต่ขอให้ความเห็นเรื่อง ไม่เรียนมาได้ไหม, โดยส่วนตัวมองว่าไม่ว่าสายอาชีพไหนเราก็ต้อง เรียน(รู้) กันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรียนจากอะไรที่ไหน
แต่ประสบการณ์ส่วนตัว เคยมีโอกาสได้เจอน้องที่ไม่ได้เรียนจบด้านนี้มาจากมหาลัย แต่น้องไปเรียนพวกตามคอร์สออนไลน์ต่างๆมาเอง พอมาถึงการทำงานจริงน้องทำไม่ได้เลย ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน fundamental น้องเขาก็เครียด แถมพี่ๆในทีมก็งานล้นไม่มีเวลามีคอยเทรนน้องอีก (ฝากถึงองค์กร เรื่องการเทรนนี่สำคัญนะครับอย่าได้ละเลย), หลังจากได้เจอ พอได้คุยบ้าง และไปปรึกษากับพี่ๆในทีมคนอื่น ก็เลยขอสรุปกันเองว่า เรื่องพวกนี้มันต้องมีการเรียนตั้งแต่พื้นฐาน fundamental ซึ่งส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีที่ไหนดีไปกว่าการเรียนในมหาลัย เพราะเราจะมีเวลาอยู่กับมันเยอะแถมมีอาจารย์คอยไกด์ให้ไปทางที่ถูกที่ควรอีก
ดังนั้น ถ้าน้องๆคนไหนเผลอเข้ามาอ่านคอมเมนท์พี่ก็ พี่ก็จะขอบอกไว้ว่า ถ้ามันเป็นงานที่อยากทำจริงๆเราควรให้เวลากับมันเยอะหน่อย โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐาน การเรียนหลักสูตรของมหาลัยไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เลย สายงานนี้เอาเข้าจริงๆมันเหมือนการทำงานศิลปะหน่อยๆ เพราะแต่ละปัญหาที่ต้องจัดการมันไม่ได้วิธีตายตัวเป๊ะๆในการจัดการ ขึ้นอยู่กับคนนั้นว่าจะจินตนาการสร้างสรรค์การแก้ปัญหาออกมายังไงและให้เหมาะสม ซึงมันเป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้ สอนกันได้แค่เรื่องพื้นฐาน ถ้าพื้นฐานแน่นแล้วเราเจอปัญหาเรามองปัญหาเราวิเคราะห์มันเราก็จะค่อยๆเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นยังไง ส่วนการจะแก้ไขมันยังไงบ้างอันนี้อย่างที่บอกว่าสอนไม่ได้เพราะบางครั้งปัญหามันมีหลายชั้น การไปเรียนแค่คอร์สออนไลน์ที่สอนแบบสำเร็จรูป เช่น สอนทำเว็บ สอบทำนู่น สอนทำนี่ โดยที่ละเลยพื้นฐานการทำงานจริงเลยมักจะมีปัญหา
สรุป ส่วนตัวผมว่าควรเรียนครับโดยเฉพาะพื้นฐาน และถ้าหากจะเรียนจากคอร์สออนไลน์ขอให้เริ่มที่พื้นฐานของการโปรแกรมมิ่งก่อน จะให้ดีก็ต้องมีผู้รู้คอยแนะนำในกรณีที่เราไม่รู้หรือสงสัยด้วย
เห็นด้วยเรื่องเรียนในมหาลัยดีกว่าไม่ว่าจะสายไหน เพราะมหาลัยเค้าจัดคอร์สมาให้แล้วว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง บางทีเราไปเรียนเองเราเรียนแบบผิดลำดับหรือไม่ครบ พอพื้นฐานบางอย่างมันไม่ได้ผ่านตามา เจอบริบทยากๆเราก็จัดการมันได้ยากกว่าคนที่พอรู้พื้นฐานบ้าง แต่จริงๆเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลล้วนๆ ส่วนตัวเห็นมาเยอะมากว่าเด็กจบใหม่จากมหาลัยก็ไม่ได้มีพื้นฐานขนาดนั้น ดู Portfolio ทำผลงานมาอลังการ สัมภาษณ์บอกทำเป็นทุกอย่าง แต่พอจับงานจริงรู้เลยว่ารากฐานยังไม่แน่นพอก็มีเยอะครับ เน้นรู้แบบหวือหวาๆตามเทรนแต่ Basics กับความคิดสร้างสรรค์ยังไม่ผ่าน ส่วนคนที่เปลี่ยนสายมาแล้วศึกษาด้วยตัวเองล้วนๆได้เข้าไปทำงานบริษัทใหญ่ๆก็มีเยอะแยะมากมาย ขอเสริมด้วยความเห็นส่วนตัวด้วยว่า นอกจากจะเรียนในมหาลัยแล้วควรศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน พัฒนาสกิลตนเองให้แข็งแรงให้พร้อมด้วยครับ ยุคนี้เรียนแค่ในมหาลัยมันไม่พอจริงๆ แต่ถ้าจะศึกษาด้วยตัวเองก็ได้เช่นกันแต่ต้องขยันกว่าคนเรียนมหาลัย 3 เท่า และต้องมีวินัยสูงมากถึงจะประสบความสำเร็จ
พื้นฐานที่ควรรู้มีอะไรบ้าง ไกด์ให้ได้ไหมครับ สิ่งที่ควรรู้พื้นฐานทั้งหมดถ้าอยากมาทำสายนี้ครับ
@@bourbongranger3536 ผมอาจจะนึกออกมาได้ไม่หมด แต่ถ้าพื้นฐานโปรแกรมมิ่งจริงๆมันจะมีประมาณว่า การทำงานของโค้ด, data type, data structure, algorithm
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ programming language ด้วยนะครับว่าเป็นภาษาอะไร เพราะแต่ละภาษามันก็มี fundamental ของตัวเองอีกที
แล้วพวกเติมเข้าไปอีกทั้งหลาย (is a plus/nice to have) ก็พวก ความรู้ด้าน OS, ความรู้ด้าน HW ยกตัวอย่างเช่น สมมุติไปทำด้าน frontend มันก็จะมีงานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับด้าน UI ทีนี้ถ้าหากคุณมีความรู้เรื่องจอแสดงผล มันก็อาจจะทำให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ว่า behavior แบบนี้มันเกิดจากอะไร คุณจะพอ expect ได้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่น ทำ UI ออกมาแล้วทำไม font ดูไม่ค่อยคมเท่าที่ควร ทำไมขอบตัวหนังสือมี color fringing เป็นเพราะ panel รึเปล่า เพราะเป็น OLED ไม่ใช่ LCD รึเปล่าอะไรแบบนี้ หรือทำยังไงให้มันประหยัดแบตฯมากขึ้นบน OLED // พวกนี้ถึงจะดูไม่ค่อย/ไม่ควร เป็นงานของ frontend dev 100% (อาจจะเป็นงานของ UI/UX Designer) แต่การทำงานจริงมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอ การไม่ใส่ใจ การโยนงาน โยนความผิด หรืออาจเป็นการที่คุณอาจจะต้องตอบคำถามแทนพวกเขา หรือเอาไปเป็นคำถามไปถามพวกเขา สำหรับผมถึงจะบอกว่าเป็น nice to have แต่เอาเข้าจริงๆผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องรู้ HW และ Platform ที่เรา working on
อันนี้ก็เลยอยากจะบอกว่า การเข้าไปเรียนหลักสูตรของมหาลัย สิ่งที่เราได้จากมันอีกอย่างนึงก็คือ มันทำให้เราต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมกับคนแบบเดียวกันด้วย เมื่อคนแบบเดียวกันอยู่ด้วยกันหลายๆคนมันก็จะเริ่มเกิดการคุยการแลกเปลี่ยนความรู้พวกนี้ไปแบบกลายๆ คุณจะต้องใช้เวลาอยู่กับมันพอสมควร เรื่องอะไรที่ไม่รู้ก็อาจจะได้ยินจากการที่เพื่อนๆคุยกัน หรืออาจารย์เปรยๆไว้อะไรแบบนี้
**ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อย คือสายงานนี้มันมีหลายแขนง frontend, backend, network, web, app, game, ... etc ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมี fundamental ของตัวเองอีกที ดังนั้นต่อให้จบมาแล้วก็ต้องมีเรียนรู้ด้วยตัวเองเพิ่มเติมตลอดอาชีพงานแน่นอนครับ
@@bourbongranger3536 อันนี้ผมไม่รู้ว่าอยากจะทำสายไหนเลยตอบให้ไม่ได้แต่ถ้าแนะนำก็ภาษาโปรแกรมมิ่งซักภาษานึงอาจจะอ้างอิงจากสิ่งที่เราอยากทำเช่น อยากเขียนเว็บไป HTML , CSS , JavaScript - อยากทำ AI , Network , Data ไปเขียน Python - อยากทำแอพในมือถือ ไม่แน่ใจเดียวนี้เค้ายังใช้ Flutter กับ React Native อยู่ไหม - อยากทำ IOT ก็ C , C++ - อยากทำเกมก็ดูว่าจะใช้ Engine ไหน เช่น Unreal ก็ C++ , Unity ก็ C# อันนี้ก็ขี้นอยู่กับความสนใจแต่ถ้าจะให้ดีต้องลงมือทำจริงๆแล้วคุณจะเจอปัญหา และเมื่อเจอปัญหาคุณจะมีทางเลือก 2 ทางคือ หาทางเพื่อจะไปต่อ กับ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำมัน การเริ่มต้นมันยากครับแต่ถ้าคุณทำได้ คุณอาจจะเป็นคนที่เก่งขึ้นก็ได้
น่าจะหมายถึงไม่ได้เรียนที่มหาลัย มาเรียนเองตามเนตแหละ
ดูแล้วใจสั่น ฟังไม่รู้เรื่องคับ
การเล่นเกมมันจะเห็นว่าเกมทำไม่ค่อยได้ดั่งใจ อยากทำเองเล้ย เลยลองไปเรียนเขียนโกรแกรมดู เผื่ออาจจะได้ทำเกมขึ้นมาได้
น่าสนใจ เข้าใจมากขึ้นครับ
เข้าใจเยอะขึ้นเลยครับ
ชอบแบบนี้ น่ารัก
โห .. อายุเท่าไหร่แล้ว ยังสดใสมากอยู่เลย
สุดท้ายวงการนี้ก็คัดเหลือแต่คนสมองจีเนียสถึงขึ้นไประดับสูงได้
เทรนด์ต่อไปอาชีพที่รายได้สูง น่าจะต้องคุยกับ เอไอได้ด้วย
น่ารักจัง
นานๆจะมี dev สาวสวย เยี่ยมครับ สนับสนุน
มาดูเพราะพี่แป้งน่าร้ากกครับ
"สอน c กับ c++" "มันเหมือนภาษาพื้นฐาน" ยิ้มแห้ง 😅
Ig อยู่นาทีเท่าไหร่ครับ 😊😊
56:49
น้องเขาดูเนิร์ดๆ ดีนะครับ
ต้องการวาร์ปไอจีพี่แป้งครับ
ปักรอสังคมแห่งการแบ่งปันค้าบ โอ้เจอละ ppangchn
ส่วนตัวคิดว่า Individual contributor อาจไม่ใช่คำตอบของสายงานนี้เท่าไหร่นะครับ สายงานนี้เราทำงานในแบบทีมเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีใครที่จะสามารถรับจบในคนเดียวหรือสองคนได้หรอกครับ นอกเสียจากคุณจะรับงานแบบ freelance ครับ
ไม่เรียนก็ได้ >> เป็นกรรมกรเขียนโค้ด
ถ้าเรียน จะได้เป็น >> วิศวกรออกแบบ / นักวิจัย
เลือกเอาครับ
สวย น่ารัก
ชอบครับ
เสียงอย่างเท่
ไม่ถามเพื่อนครับ แต่ ถาม chat bot
ส่วนstack overflow เก่าแล้ว 😁😁😁
จริงครับตั้งแต่มี AI ก็เลิกใช้มาซักพักแล้ว
ทำไมไม่เขียน ABAP ล่ะ เดือนละ 200,000
Sap นี่มีแนวโน้วจะเลิกฮิตในอีก 20ปีมั้ยคะ ว่าจะเริ่มเรียน ABAP อยู่
@@alindaiveworapipatthanakul1641เป็นไปได้ยาก SAP เป็น ERP เบอร์ 1 ของโลก ยากที่ใครจะโค่นได้ เพียงแต่ developers ต้องปรับตัวให้ทัน เพราะ ABAP ก็เปลี่ยนเป็น ABAP Cloud และวิธีการพัฒนาก็มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน
sap เงินดีครับเพื่อนผมก็ ราวๆนั้น ผมก็ได้น้อยกว่านิดนึง แต่ผมต้องใช้ประสบการณ์หลายปีมากกว่าเพื่อนได้เรทนั้นตั้งแต่สี่ปีแรก 555 แต่ต้องเก่งจริงนะ sap ถ้าเขียนอย่างอื่นมันง่ายกว่า
ชอบความเอาเรื่องงานมาคุยเล่น เอา Stack ใหม่ ๆ มาคุยมาอวดกัน ฮ่า ๆ
เคยมีคนบอกว่า มีเพื่อนเขาเก่งมาก ทำบริษัทในไทย บริษัทไทย เพื่อนเขาได้เงินเดือน 900,000 บาทต่อเดือน ใช่แล้วฟังไม่ผิดตอนแรกก็แย้งไปว่าต่อปีหรือป่าว เขายืนยันว่าต่อเดือน คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือจ้อจี้ 🕵️♂️
ถ้าสาย security ไปทำให้ธนาคารก็ถึงอยู่นะคะ
เก่งจังครับ
เห็นน้องแป้งล่ะอยากย้ายสายงาน
นางฟ้าชัดๆ ภาษาคนมีแล้ว ภาษาคอมก็เรียนแล้ว รบกวน ภาษารักเพิ่มด้วยนะครับ.........ฮิ้ววววว
อีกไม่กี่ปีหรอกคับ พวกโปรแกรมเมอร์จะตกงาน จะเหลือแค่พวกที่ดูแล โครงสร้าง พวกแอพใหญ่ๆที่มีความซับซ้อน แอพทั่วไปที่เขียนให้บริษัทเอาไปใช้ในธุรกิจตัวเองพวกนี้ใช้ lowcode เร็วกว่า ราคาถูกกว่า ค่าดูแลถูกกว่า คุณภาพเท่ากัน ออปชั่น AI มาเต็ม ในมุมมองธุรกิจ ไม่ต้องคิดมากเลยว่าจะเลือกแบบไหน
กลุ่มคนพวกนี้เค้าอยู่ทางด้านนี้อยู่แล้ว เค้าก็เรียนรู้ใช้ AI หรือสร้าง AI เพิ่มเติม กลุ่มงานพวกนี้อย่างไรก็ไม่ตาย
เตรียมสมัครเลยบริษัทนี้
ความรู้พื้นฐานซอฟต์แวร์เอ็นฟังบ่อยแล้วครับ แต่ที่ฟังจนจบเพราะสวยเก่งและน่ารัก 😂
เดี๋ยวนี้ AI ก็ช่วยเขียนโปรแกรมได้แล้ว อาจไม่ถูกเป๊ะ edit หน่อยก็ใช้ได้ ไม่รู้ต่อไปงานพวกน้องๆ จะโดน disrupt หรือไม่
ก็อย่างว่าแหละครับว่า มันต้องค่อย edit อนาคตอาชีพนี้อาจจะไม่ต้องเขียนเอง แต่ใช้ logic ในการคอยตรวจสอบโค้ตจาก ai ก็ได้
รอโดน disruptจะแย่แล้วครับ บรึ่ยๆๆ
ตามยุคครับ แต่ ai มาไวมากจริงๆ
คงต้องปรับตัวแล้วล่ะ ทุกคน
สมัยก่อน คนขับรถม้า สมัยนี้คนขับแท็กซี่ ถ้าเอาจริงๆ มันก็เป็นบริการลักษณะเดียวกัน แค่อาชีพมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยีครับ อาชีพในปัจจุบัน สมัยก่อน 10-20 ปีที่แล้วมันก็ไม่มี
ทำมาแล้ว20ปี ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ สายบริหารงานง่ายๆได้เงินเยอะกว่าเฉยเลยประเทศไทยเห้อ😅 พวกดร.ปลอมนี่น้า
ย้ายสายมาเป็น software engineering ดีกว่า555
Thai sounds like Cantonese
หน้าตาสวยน่ารัก แต่พูดห้วน ๆ ไม่มีหางเสียง ทนฟังจนจบไม่ไหว
ไม่มีใครถามเลยนะครับ😊
เรื่องผู้หญิงน้อยกว่า อย่างแรกเลย แค่ตอนเรียนก็ไม่ค่อยมีผูหญิงสมัครล่ะ 3-1
wow
เข้าใจแล้วเหรอ
ช่าย
ผู้หญิงคิดไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมามมากๆๆ แค่ใช้อารมณ์ ไม่ใช้เหตุผล เลยเข้าใจไม่ได้
แสดงความคิดเห็นโดยเพศชาย ที่คิดว่าตัวเองฉลาดอยู๋คนเดียว คิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว คิดว่าเพศตัวเองเก่งที่สุด เคยเข้าไปทำบริษัทเทคป้ะ พนักงาน 10 คน ผู้หญิงไปแล้ว 8 เก่งอยู่เพศเดียวมั้งโลกนี้
ที่กล่าวมาสลับกันไหม ถ้าไปถามผู้เชี่ยวด้านวิวัฒนาการของสัตว์และมนุษย์เขาจะตอบตรงกันข้ามกับคุณ
แต่ละเม้น55555