Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
**แจ้งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมครบรอบ 10 ปีการจากไปของท่านอังคารที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง**สืบเนื่องจากการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ‘๙๙ ปี สู่ศตวรรษชาตกาล และ ๑๐ ปี ล่วงผ่านมรณากาล ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์’ ซึ่งแต่เดิมทางผู้จัดงาน วันฟ้าใหม่ เทพจันทร์ ได้แจ้งว่าจะมีการจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ณ ร้าน Lido Art Space จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปนั้น ปรากฏว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง ทั้งยังไม่สามารถติดต่อผู้จัดงานได้ ทั้งนี้พบว่ามีผู้เดินทางไปร่วมงานด้วยความตั้งใจแต่กลับต้องพบความผิดหวัง เมื่อติดต่อไปยังเจ้าของร้าน Lido Art Space จึงได้ทราบว่าทางร้านไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ไม่รู้จักผู้จัดงาน รวมถึงไม่เคยได้รับแจ้งถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าวมาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดงานได้อ้างในภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้วว่าได้เปลี่ยนสถานที่จัดงานเป็นร้านสุดสะแนน จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการจัดในกลุ่มเพื่อนฝูงกันเองเพียงไม่กี่คน และไม่ได้แจ้งให้ทางเพจหรือประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะทราบ เมื่อสอบถามไปยังร้านสุดสะแนน เจ้าของร้านได้แจ้งว่าในวันและเวลาดังกล่าวไม่มีการจัดงานใดๆ ทั้งสิ้นทางเพจ Angkarn Kallayanapong ขอแจ้งว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนเห็นใจผู้ที่ไปร่วมงานทุกท่าน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว การลงข่าวประชาสัมพันธ์ให้ก็เป็นไปเพื่อการสนับสนุนด้วยความปรารถนาดีที่มีต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้พิจารณาแล้วว่าผู้จัดงานได้แสดงความจำนงที่จะปิดบังความจริงอย่างต่อเนื่อง จึงสมควรแจ้งให้ทุกท่านทราบถึงเหตุการณ์อันไม่อาจยอมรับนี้ได้ เนื่องมีผลกระทบต่อหลายฝ่ายด้วยกัน----ข้อมูลจากเพจ Facebook: Angkarn Kallayanpong ทาง Dhanadis - ธนดิศ ต้องของอภัยผู้ที่ไปร่วมงานด้วยนะครับ ทางเราแค่ช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรม ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ทั้งสิ้น Dhanadis
อ่าน และ ซาบซึ้ง งานของ ท่านอังคาร ตั้งแต่ เรียนมหาวิทยาลัย จนภึง ปัจจุบัน ... เมื่อ อ.สุลักษณ์ พูดถึง ท่านอังคาร นี่คือ นักปราชญ์ พูดถึง.มหากวี น่ายินดีมากๆ ขออนุญาตแชร์ นะครับ ขอบคุณครับ
ตอนเด็กผมยืนดูทีวีรายการผะหมีหน้าบ้านเพื่อนบ้าน ทีวีสมัยนั้นแพงมากบ้านผมไม่มีปัญาชื้อ เริ่มรู้จักคุณอังคาร ครั้งแรก รายการผะหมีคือการแข่งแต่งกลอนกวีทางทีวี ดำเนินรายการโดยคุณจำนง รังสิกุล คุณอังคารชนะติดต่อกันหลายๆๆๆครั้ง ปัจจุบันผมอายุ 77
เป็นความทรงจำที่ดีมากเลยครับ
ทรงคุณค่าครับ🙏♥️
คิดถึงอดีตที่สวยงามไหมครับ
ขอบคุณอาจารย์ ส.ศิวลักษณ์มากๆ สำหรับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย
สมัยยังเรียน และยังอยู่เมืองไทย ผมชอบวรรณกรรม บทกวีของท่าน อังคาร มาก ผมชอบภาษาในบทกวี โคลงฉันท์ ของท่านประมาณหลงไหลเลยล่ะ ที่ไหนมีตามหาอ่านให้หมด คนที่สองคือท่าน เนาวรัตน์ ครับ ตอนท่าน อังคาร ได้รับรางวัล ซีไรต์ พอดีอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบ และออกมาอยู่ต่างประเทศ เคยนึกอยากจะเขียนได้อย่างท่าน อังคาร บ้างแต่ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก คนละโลกเลย ต้องเก่งในภาษา รู้ลึกซึ้งในรสคำที่กรองออกมาเป็นตัวหนังสือ
เหมือนนั่งฟังญาติผู้ใหญ่เล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง เข้าใจง่าย แม้ผมจะยังเด็กแต่ติดตามฟังท่านมาตลอด
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
ติดตามทุก ep.เลย ขอให้อาจารย์ส. สุขภาพแข็งแรงครับ
ฟังแล้วมีดวามรู้มากค่ะหนูอายุ58จว.พะเยาค่ะ❤❤❤❤❤
ชื่นชมบทกวีของท่านอังคาร มากค่ะเป็นบทกวีที่อ่านแล้วซาบซึงเข้าถึงหัวใจเลยค่ะ
ชอบเวลาอาจาร์ยพูดถึงคนเก่าแก่ที่มีความรู้ความสามารถ เพราะเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยรู้รายละเอียดมาก่อน ชอบมาก แต่น่าเสียดายคุณอังคาร ที่ปฎิเสธนิพพานเพื่อเป็นกวี น่าเสียดายยยยย
ทุกครั้งที่ท่านพูดถึงท่านอังคาร ก็จะพูดเรื่องไปอยุทยาและบทวักทะเลตลอด ท่านนับถือกันมาก ผมอ่านบทกวีท่านอังคารแล้วไม่มีใครเหมือนครับ หลงไหลมากครับ
อังคารกัลยาณพงศ์..สุดยอดกวีถวัลย์ดัชนี..สุดยอดงานศิลปะ คาราวะทั้งสองท่าน🙏🙏🙏
ผมเคยอ่าน ปณิธานกวีสุดๆจริงๆครับ
ผมได้ เห็นรูปวาดของ ครูอังคาร ที่โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ตอนเด็กๆ สวยมากๆ ขนาดตอนนั้น ผมเป็นเด็กๆ ภาพวาดนั้นทำให้ผมยืนนิ่งไปได้เป็นชั่วโมง ภาพมันสะกดให้เราหยุดเวลาจ้องมองไปได้ นานๆ ได้ยังไง ผมยังสงสัยถึงอยู่ทุกๆวันนี้
ขอบคุณอาจารย์
ขอดวงวิญญาณท่าน เกิดใหม่ เป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ สาธุๆๆ
ชอบฟังท่านอ. สนุก เพลงประกอบก็ไพเราะ
ท่านส.ศิวลักษณ์มีมันสมองเป็นเลิศ...เป็นคนกล้าที่น่ายกย่อง
อยากฟังอาจารย์คุยถึงถวัลย์ดัชนี
+1 ด้วยคนครับ🙏♥️
ความจำท่านเป็นเลิศ..
ชอบดูรายการครับ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ 😁
คนสมัยก่อนรุ่นเก่าๆ ท่านเคารพซึ่งกันและกันเป็นที่ตั้ง ท่านเป็นแบบอย่างได้ดีมาก แต่คนสมัยนี้ ไม่ค่อยดูเอาเป็นตัวอย่าง น่าเสียดายมากๆเลย!
เคยได้อ่านงานปณิธานกวีของท่าน รับรู้ถึงความเป็นกวีของท่านอย่างที่สุด ประทับใจมากเลยค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์ที่เล่าถึงท่านอังคารนะคะ 🙏😊❤️
อยากให้อาจารย์พูดถึงสุชาติ สวัสดิ์ศรี
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้งมุ่งปรารถนาอะไรในหล้ามิหวังกระทั่งฟากฟ้าซบหน้าติดดินกินทราย๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลกฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหายจะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตายอย่าหมายว่าจะให้หัวใจ๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้สูเป็นไฟ เราเป็นไม้ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัยลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสานแม้นชาติไหนเกิดไปพบพานจะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้าให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้าเพื่อจดจำพิษช้ำนานาไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
ตอนเรียน ป.โทได้เรียนวรรณกรรมท่านและชอบมากชอบกระทั้งเอกลักษณ์ของท่าน และเห็นสมควรยกย่องท่านให้เป็นศิลปินแห่งชาติย้อนหลังก็ได้
ขอบคุณค่ะขออนุญาตคัดลอกไว้นะคะ
ผมเคยมีโอกาสได้รับเกียรติบัตรจากอ.อังคาร ตอนสมัยเรียนม.ปลาย เป็นวาดภาพรณรงค์โรคตับ รับมอบจากมืออาจารย์เลย รู้สึกภูมิใจมากครับ
ความจำอาจารย์ ส. ก็น่าทึ่งไม่แพ้ฝีมือท่านอังคารหรอก
เราเป็นคนไทยรักชาติคุณพ่อแม่สอนดีมากคนบ้านนอกร.9เคยไปที่บ้าน2523ดีใจมากๆค่ะ
ใครได้อ่านหนังสือกวีนิพนธ์ท่านอังคารซักเล่มเต็มๆ เดี๋ยวรู้เลย จัดจ้านสุดๆ ผมได้อ่านเล่มปณิธานกวี บทกวีพาเที่ยวจักรวาลและกาลเวลา อะไรที่ผมข้องใจในพุทธธรรม บทกวีท่านอังคารช่วยปลดเปลื้องให้มากมาย ไม่รู้เล่มอื่นเป็นยังไง แต่ปณิธานกวีนี่ผมว่าชาวพุทธที่อ่านพระไตรปิฎกได้นี่ต้องมีติดบ้านไว้จริงๆ ผลงานท่านอังคารนั้นทำให้เห็นความต่างระหว่างกวีอาชีพกับคนที่เขียนกลอนได้
ท่านสุดยอด
คาราวะท่านอาจารย์ ส.
สุดยอดครับ
ผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่สนใจในประวัติศาสตร์มากครับ ถ้ามีโอกาศอยากให้ อาจารเล่าเกี่ยวกับ เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ หน่อยครับ เขาให้คุณให้โทษกับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง(ชอบที่อาจารย์พูดตอนนั้นมากครับว่า ในหลวงกริ้วมาก ที่เกรียงศักดิ์ปลด ธานินทร์ กรัยวิเชียร ออก)
รับทราบครับ เดี๋ยวจะแจ้งให้อาจารย์ทราบนะครับ
อาจารย์ ศ. พอได้รู้จักกันกับ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์ รึป่าวคับ อย่างไรก็ตาม อยากเห็น ท่านำพดอะไรเกี่ยวกับ อ.ถวัลย์ เนื้องใน เดือนปลายกันยายนนี้ เปนเดือนที่านจากพวกเราไป อ.ถวัลย์ คนไทยส่วนมาก ยังไม่รู้จักท่านหรือบางท่านอาจ เข้าใจท่านผิดๆ ทั้งเรื่องผลงานและลักษณะการพูดของท่าน ทั้งที่ อ.ถวัลย์ ฯ เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ
*เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้งมุ่งปรารถนาอะไรในหล้ามิหวังกระทั่งฟากฟ้าซบหน้าติดดินกินทราย๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลกฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหายจะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตายอย่าหมายว่าจะให้หัวใจ๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้สูเป็นไฟ เราเป็นไม้ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัยลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสานแม้นชาติไหนเกิดไปพบพานจะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้าให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้าเพื่อจดจำพิษช้ำนานาไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย #ท่านแต่งไว้งดงามมากครับ
การรู้แจ้งเห็นแจ้ง เจริญสติวางจิต บทนี้ธรรมชาติเดิมแท้ ส่วนฝ่ายปรุงแต่งมันแข่งดีแข่งชั่วกัน เป็นสภาวธรรมคู่ ที่ หมุนวงจรปฏิจจสมุปบาท สร้างกรรมกันอย่างไม่หยุดยั้งฯ นี้ แหละสัตว์ ผู้ข้องกับโลกฯ (นิพพานเป็นดั่งภราดรภาพ) ถ้าคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เมื่อเขาร่อแร่จวนจะตาย หากว่าเขาสามารถเพียงแต่เห็นว่ามูลธาตุทั้งห้า ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นวิญญาณนั้น เป็นของว่างเปล่า และเห็นว่ามูลธาตุทางรูปกายนั้น ไม่ใช่สิ่งซึ่งประกอบขึ้นเป็นตัว “ ข้าพเจ้า ” และเห็นว่า จิต จริงแท้นั้น ไม่มีรูปร่างและไม่ใช่สิ่งที่มีการมาหรือการไป และเห็นว่าธรรมชาติเดิมแท้ของเขานั้น เป็นสิ่ง ๆ หนึ่ง ซึ่งมิได้มีการตั้งต้นขึ้นที่การเกิดหรือมิได้มีการสิ้นสุดลงที่การตายของ เขา แต่เป็นของสิ่งเดียวรวดและปราศจากการเคลื่อนไหวใด ๆ ในส่วนลึกจริง ๆ ของมันทั้งหมด และว่า จิต ของเขากับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแวดล้อมเขาอยู่นั้น เป็นสิ่ง ๆ เดียวกัน ถ้าเขาสามารถทำได้ตามนี้จริง ๆ เขาจะลุถึงการรู้แจ้งเห็นแจ้งได้โดยแว็บเดียว ในขณะนั้น เขาจะเป็นผู้ที่ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับโลกทั้ง ๓ อีกต่อไป เขาจะเป็นผู้อยู่เหนือโลกได้ เขาจะไม่มีการโน้มเอียงไปสู่การเกิดใหม่อีกแม้แต่นิดเดียว แม้หากว่าเขาจะได้มองเห็นภาพอันรุ่งโรจน์ ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์กำลังเสด็จมาต้อนรับเขา ห้อมล้อมไปด้วยสิ่งอันวิจิตรตระการตาทุกชนิด เขาก็ไม่เกิดความรู้สึกอยากเข้าไปใกล้สิ่งเหล่านั้น หรือถ้าเขาจะได้มองเห็นสิ่งอันหน้าหวาดเสียวทุก ๆ ชนิดมาแวดล้อมอยู่รอบตัวเขา เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลย เขาจะเป็นแต่ตัวของเขาเองเท่านั้นที่ปราศจากความคิดปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง และเป็นสิ่ง ๆ เดียวกันกับ สิ่งสูงสุด สิ่งนั้น เขาจะได้ลุถึงภาวะแห่งความที่ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้อีกต่อไป ฉะนั้นนี่แหละ คือ หลักธรรมะที่เป็นหลักมูลฐานในที่นี้คำสอนครูบาฮวงโป แปลโดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ
ทวยตานุปัสสนาสูตร การพิจารณาเห็นธรรมคู่ (อริยสัจ 4)ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าจะพึงมีผู้ถามว่า การพิจารณาเห็นธรรมเป็นธรรม ๒ อย่างโดยชอบเนืองๆ จะพึงมีโดยปริยายอย่างอื่นบ้างไหม พึงตอบเขาว่าพึงมี ถ้าเขาพึงถามว่า พึงมีอย่างไรเล่า พึงตอบเขาว่า การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็นปัจจัยนี้เป็นข้อที่ ๑ การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า เพราะสังขารทั้งหลายนั่นเองดับไปเพราะสำรอกโดยไม่มีเหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด นี้เป็นข้อที่ ๒ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้พิจารณาเห็นเนืองๆ ซึ่งธรรมเป็นธรรม ๒ อย่าง โดยชอบอย่างนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่ พึงหวังผล ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตตผลในปัจจุบันนี้ หรือเมื่อยังมีความถือมั่นเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ฯ พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงจึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็น ปัจจัย เพราะสังขารทั้งหลายดับโดยไม่เหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด ภิกษุรู้โทษนี้ว่า เพราะสังขารเป็นปัจจัย ทุกข์จึงเกิดขึ้น เพราะความสงบแห่งสังขารทั้งมวล สัญญาทั้งหลายจึงดับ ความสิ้นไปแห่งทุกข์ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุรู้ความ สิ้นไปแห่งทุกข์นี้โดยถ่องแท้ บัณฑิตทั้งหลายผู้เห็นชอบ ผู้ถึงเวทย์ รู้โดยชอบแล้ว ครอบงำกิเลสเป็นเครื่องประกอบ ของมารได้แล้ว ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯพระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงจึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า ...
"นายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ขยัน เมื่อชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่า เราชักยาว เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่า เราชักสั้น"แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกันเมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้าย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจออกย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า ดังพรรณนามาฉะนี้ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง ย่อมอยู่ อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค.ดูกรภิกษุทั้งหลาย "เรากล่าวลมหายใจออกลมหายใจเข้านี้ว่าเป็นกายชนิดหนึ่งในพวกกาย"
"ถ้าภิกษุเจริญอานาปานสติแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งอานาปานสตินั้นเล่า"อานาปานสติ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ ข้อที่ ๒๒๔ หน้า ๔๒
๙.คำสอนของฮวงโป (ขอบวงของพุทธะ) จิตล้วนๆ นี้ ซึ่งเป็นที่กำเนิดของสิ่งทุกสิ่ง ย่อมส่องแสงอยู่ตลอดกาล และส่องความสว่างจ้าแห่งความสมบูรณ์ของมันเองลงบนสิ่งทั้งปวง, แต่ชาวโลกไม่ประสีประสาลืมตาต่อมัน ไปมัวเข้าใจเอาแต่สิ่งซึ่งทำหน้าที่ดู ทำหน้าที่ฟัง ทำหน้าที่รู้สึก และทำหน้าที่คิดนึก ว่าแหละคือ จิต. เขาเหล่านั้นถูกการดู การฟัง การรู้สึก และการคิดนึกของเขาเอง ทำเขาให้ตาบอด เขาจึงไม่รู้สึกต่อแสงอันสว่างจ้าของสิ่งซึ่งเป็นต้นกำเนิดทางฝ่ายจิต. ถ้าเขาเหล่านั้น จะเพียงแต่ได้ขจัด ความคิดปรุงแต่ง เสียชั่วแว็บเดียวเท่านั้น สิ่งซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิ่งทั้งปวงดังที่ได้กล่าวนั้น จะแสดงตัวมันเองออกมาทันที เหมือนดวงอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมาท่ามกลางที่ว่างและส่องสว่างทั่วจักรวาล โดยปราศจากสิ่งบดบังและขอบเขต. เพราะ ฉะนั้น ถ้าพวกเธอซึ่งเป็นนักศึกษาเรื่อง ทาง ทางโน้นมุ่งทำความก้าวหน้าโดยการดู การฟัง การรู้สึก และการคิดนึกอยู่ เมื่อถูกหลอกโดยสัญญาต่างๆ ของเธอเองเสียแล้ว ทางที่เธอจะเดินตรงไปยัง จิต โน้น ก็จะถูกตัดขาดออก และเธอก็จะหาทางเข้าไม่พบ. พวกเธอจงเพียงแต่มองให้เห็นชัดว่า แม้ จิต จริงแท้นั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวรวมอยู่กับสัญญาเหล่านี้ก็ตาม มันก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นส่วนประกอบของสัญญาเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้แยกออกไปต่างหากจากสัญญาเหล่านี้. เธอไม่ควรตั้งต้นการใช้เหตุผลไปจากสัญญาเหล่านี้ หรือยอมให้มันก่อความคิดปรุงแต่งขึ้นมา, แม้กระนั้น เธอก็ไม่ควรแสวงหา จิตหนึ่ง นั้น ในที่ต่างหากไปจากสัญญาเหล่านั้น หรือละทิ้งสัญญาเหล่านั้นเสีย ในการคิดค้น ธรรม นั้นของเธอ. พวกเธออย่าเก็บมันไว้และอย่าทิ้งมันเสีย หรือพวกเธออย่าอยู่ในมัน และอย่าแยกไปจากมัน. เบื้องบนก็ตาม เบื้องล่างก็ตาม และรอบๆ ตัวเธอก็ตาม สิ่งทุกสิ่งย่อมมีอยู่เองตามปรกติ เพราะว่าไม่มีที่ไหนที่อยู่ภายนอกขอบวงของ พุทธะ หรือ จิต นั้น.
ใคร่ขอความกรุณาอ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์พูดถึงอ.ดร.ถวัลย์ ดัชนี กราบขอบพระคุณครับ 🙏🧡
เดี๋ยวลองถามอาจารย์ก่อนนะครับ ว่ารู้จักท่านมากน้อยเพียงใด
อาจารย์ครับผมอยากรู้ว่าจอมพลป จริงๆควรได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษประชาธิไตยหรือว่าเป็นทรราชเผด็จการกันแน่ครับผมเห็นคนรุ่นใหม่ชอบยกยอท่านบางคนก็ไม่ชอบท่าน/ขอบคุณล่วงหน้าครับอาจารย์
@Dhanadis ขอแอดมินสัมภาษณ์ อ.ศิวลักษณ์ เรื่อง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หน่อย
อีกท่านหนึ่งที่เทียบเคียงได้คือ ครูเหม เวชกร ผู้ได้รับสมญาว่าจิตรกรมือเทวดา และนักประพันธ์นวนิยายชั้นยอด โดยเฉพาะนวนิยายเรื่องผีของท่านยังเป็นอมตะมาจนทุกวันนี้ มีการพิมพ์ออกมาจำหน่ายต่อเนื่องตลอดมา อีกทั้งเป็นผู้ประพันธ์เพลงไทยลูกทุ่งเพลงแรกของเมืองไทยชื่อเพลง “โอ้เจ้าสาวบ้านไร่” ขับร้องโดยทองคำ (คำรณ) สัมปุณนานนท์ และเป็นผู้แนะนำให้ ไม้เมืองเดิม (ก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา) นักประพันธ์ผู้ซึ่งขณะนั้นประสบความล้มเหลวให้เปลี่ยนแนวการเขียน จนสามารถสร้างสรรค์อมตะนิยาย แผลเก่า และขุนศึก
นิยายผีครูเหมสุดจริง
เหม เวชกร เป็นแค่ช่างฝีมือ ไม่ใช่ศิลปิน จะเอาใครมาฝึกแล้วเขียนแบบนี้ ใครก็ทำได้ในไทย ถ้าศิลปินในไทยที่ผมชอบมากที่สุดคือ อ.ชลูด นิ่มเสมอ อ.ถวัลย์ ดีชนี
กายสิทธิ์ใส่เกล้าไว้เพื่อให้ขวัญขลัง คือ วลีที่สุดยอด
ได้ทราบความเปนมาแต่ละท่าน..ชื่นชมและเคารพท่านอาจารย์ที่ได้เผยแพร่ในสื่อนี้
ผมชอบงานภาพไทยของอาจารย์อังคารที่สุดครับ พลังแรงมากที่สุดแล้ว
เพลงที่ใช้คือเพลงอะไรครับ ช่วยตอบด้วยครับ
เชื่อ อ.ทุกคำพูด😊
เห็นด้วยกับท่าน ส.ศิวรักษ์เพราะตอนเรียน ป. โทได้เรียนวรรณกรรมของท่านแล้วชอบลีลาการเขียนการวาดและแนวคิดของท่านอังคารมากๆ ที่ชอบมากที่สุดคือ ”วักทะเล“
นับถือท่านอาจารย์ครับ เป็นปราชญ์ทางความคิดนี่ เมื่อภัยมาก็ต้องหนี เป็นสัจธรรมว่า เมื่อเราพูดย่อมมีคนชอบและไม่ชอบ
รู้จักอังคาร กัลยาณพงศ์ จากหนังสืออ่านนอกเวลาเรื่อง น้ำพุ ตอนเรียนม.2
ในการ์ตูน สัตว์ที่มักจะได้รับบทเป็นอาจารย์ ที่ดูทรงภูมิปัญญา คือ นกฮูก ดูเคล้าหน้าอาจารย์ อดคิดไม่ได้ว่า เหมือนนกฮูก คิดมานาน วันนี้ขอเปิดเผย
ดึกนี้เศรษฐีตื่นแล้ว สำรวจแก้วมณีในสวรรค์ล้วนสมบัติฉันทั้งนั้น ชื่อแจ่มจันทร์และดวงดาวจ้างเทพยดาปรุงอากาศ บริสุทธิ์สะอาดไว้กลางหาวเจียระไนน้ำค้างพร่างพราว ป่าวให้ทานบุญสุนทรีย์ปลูกมิ่งไม้ไว้หลายภูผา สั่งฟ้าอุ้มฝนจนเต็มที่ไว้รดอุทยานแรมปี ให้เขียวขจีทั้งไพรวัลย์เลี้ยงโพระดกนกหกป่า ขังขอบฟ้าหิมวาอาถรรพ์ปันผลไม้เป็นของขวัญ รางวัลกันทุกฤดูไปแล้วร้องปลุกอุษาเทวี เช้านี้หลับสนิทหรือไฉนแสงเงินทองธนาคารชัย แม่เบิกใช้หมดแล้ว ฤ ยังมีฝากบอกพระสุริยาด้วย ช่วยเร่งอุทัยไขแสงสีจ้างใหม่สัญญากว่าโกฏิปี เบิกเงินที่บรมพรหมินทร์ฉันเบื่อสมบัติพัสถาน อำลาอวสานชีวิตสิ้นป่าวร้องทุกเม็ดทรายดิน รุมกินซากผีนี้เถอะเทอญ อังคาร กัลยาณพงศ์
ขอบคุณมากครับพลังบวกจริงๆ🙏
@@kvisvaradisai7872 ความหมายของกลอนลึกซึ้งมากครับ คือ โลกทั้งใบเป็นสมบัติของท่านอังคารคนเดียว ท่านอังคารเป็นเจ้าของได้ โดยที่ไม่ต้องครอบครองกรรมสิทธิ์ แต่กระนั้นท่านอังคารก็ยังเบื่อสมบัติเหล่านั้น สื่อถึงความเเบื่อหน่ายในโลกและวัฏฏสงสาร (อธิบายไว้สำหรับผู้ที่อ่านผ่านๆแล้วอาจจะงงความหมายครับ)
ค่ะ บทกวีของท่านอังคาร เหมือนมีเพชรพลอยอยู่ในนั้น รูปที่ท่านวาดก็พิเศษหวานหยดย้อยแบบไทยๆ
อังคารวิเศษแท้ กวีวิสุทธิ์ปฐพี เกิดแล้วสยามประเทศศรี พิสุทธิ์งามเลิศงามเพริศแพร้ว เลิศหล้าปฐพี
อยากให้อ.เล่าเรื่องอ.จักรพันธุ์ โปษยกฤตหน่อยครับ
+ครับ
ท่านอังคารแกว่าแกรวยที่สุดในจักรวาล ท้องฟ้าก็ของแก แผ่นดินผืนน้ำก็ของแก อากาศที่หายใจก็ของแก ฯลฯ
เพราะแกเข้าถึงซึ้งสุดแล้วในธรรมชาติที่ผาดผุดดุจในฝันอันจินตนาการ
ว้าววว...เป็นประเด็นที่ไพเราะมากๆเลย
เพลง ที่เปิดชื่อเพลงไรครับ
เห็นด้วยครับ ผมเสพย์วรรณกรรมของท่านอังคารเพียงเล็กน้อย แต่ผมฟันธงกับตัวเองเลยว่า ผลงานท่านสุดยอด เนาวรัตน์นี่เด็กไปเลย
ชอบที่ท่านอังคารใช้คำ ธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่ถูกที่กลับกลายเป็นคำที่มีความหมาย มันโดนมากกว่าคำที่เสกสรรค์ปั้นแต่ง หรือคำที่เลิศหรูทั้งหลาย
ช่วยเล่าถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี หน่อยได้ไหมครับ อยากให้พูดถึงผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จากปากคนยุคเดียวกัน
อาจารย์ถวัลย์ ผมจำได้ว่าเมื่อประมาณ 40-50 ปีที่ผ่านมา เคยมีข่าวลงหนังสือพิมพ์ว่า อ.ถวัลย์ กับอ.เฉลิมชัย ไปเช่าแสดงผลงาน(ขาย) ที่โรงแรมหรูถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นโอเรียนเต็น แล้วมีกลุ่มนักศึกษาคณะจิตรกรรม มหาลัยศิลปากร ไปยืนถือป้ายและแจกใบปลิวต่อต้าน โดยนักศึกษาจะพยายามชี้แจงหรือให้ข้อมูลกับแขกที่จะมาชมงานว่างานของอาจารย์ทั้งสองไม่ได้ดีจริง ไม่สมราคา เป็นงานที่หลอกคนรวยที่ขาดความเข้าใจงานศิลปะ ประมาณว่าเป็นศิลปินจอมปลอมสร้างภาพหลอกขายงานคนรวยที่ตาไม่ถึง ซึ่งในช่วงนั้นจะมีการเขียนถึงอ.ถวัลย์ ในนิตยสาร จะเป็นนิตยสารอะไรผมจำไม่ได้แล้ว โดยจะเขียนเล่าประวัติอ.ถวัลย์ ว่าเป็นผู้ที่ได้รับการว่าจ้างให้ไปเขียนภาพ ในปราสาทของบารอน ท่านหนึ่งในเยอรมันนี หลังจากเขียนเสร็จบารอนท่านนั้นชื่นชอบมาก และได้เขียนเช็คเปล่าให้อ.ถวัลย์ กรอกจำนวนเงินเองคือจะเอากี่ล้านก็ได้ แต่ที่มีคนตั้งข้อสังเกตคือไม่มีการระบุว่าบารอนคนนั้นเป็นใคร ปราสาทที่ว่าเป็นปราสาทหลังไหน (อันนี้อาจเป็นแค่ข้อสงสัยของคนที่ไม่ชอบอาจารย์นะครับ เพราะยุคนั้นจะมีกลุ่มศิลปินที่ต่อต้านอ.ถวัลย์ และอ.เฉลิมชัย อยู่โดยจะกล่าวหาว่าอาจารย์เป็นศิลปินจอมปลอมที่พยายามเคลมตัวเองว่าเป็นศิลปินระดับโลก ซึ่งอ.ถวัลย์ และอ.เฉลิมชัย ก็จะให้สัมภาษณ์ประมาณว่าพวกนี้อิจฉาที่ตัวเองขายผลงานไม่ได้แต่อาจารย์ขายได้ในราคาแพงมาก ( คือต้องเข้าใจว่ายุคนั้นศิลปินวาดภาพของไทยส่วนใหญ่จะไส้แห้งนะครับ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่เสพงานศิลป์พวกภาพจิตรกรรม ) อาจารย์ถวัลย์ เป็นคนภาคเหนือและเป็นคนที่ทำให้อาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งเป็นคนภาคเหนือด้วยกัน ขายภาพได้ราคาโดยยกระดับภาพเขียนของอาจารย์เฉลิมชัย ให้สามารถแสดงในที่หรูหรามหาเศรษฐีเข้าชม ส่วนเรื่องผลงานของอาจารย์ถวัลย์ จะดีอย่างไรระดับไหน ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้พอ ก็อยากจะฟังจากผู้รู้เหมือนกัน ที่จริงศิลปินจิตรกรของไทย ที่อยู่ในระดับโลก โชว์ผลงานอยู่ในแกลลอรี่ต่างประเทศมากมายครับ เช่น อาจารย์ประหยัด อาจารย์ชะลูด อาจารย์เฟื้อ ฯลฯ
ศ ก็ ฝนตกขี้หมู😢 ไหล😢ประเทศ😢😢😢😢
ถ้าพูดถึงฝีมือ เคยได้ยินว่าที่สูสีกันสุด น่าจะคือ ท่านจันทร์ มจ. จันทร์จิรายุวัฒน์ อยากให้เล่าเรื่องท่านจันทร์ด้วยครับ
ใช่ครับ...
เห็นพ้องกับ ส.ศิวรักษ์ ท่านอังคาร คือสุดยอดศิลปินด้านวรรณศิลป์
ชอบบางบทจากสวนแก้ว
สายลมหนาว พัดผ่าน ลมร้อนคลานเข้าหา วัย และเวลา ก็พัดพาเราเขาไป สู่ห้วงอจินไตย ดี ชั่วไว้ ให้โลกจำ
นึ่งส่วนที่สำคัญงานศิลป์
ถ้าผมคิดนะครับ..รุปที่ท่านอังคารวาดท่พระพุทธเจ้าใส่จีวรสลับข้าง..ผมคิดว่าท่านอังคารคงมีจุดประสงค์เหมือนวาดรุปในกระจกครับ..สะท้อนพระพุทธศาสนา
ท่านอาจารย์ พรรณนาคุณวิเศษของท่านอังคารได้เพลิดเพลินและน่าซาบซึ้งใจมากครับ❤
ชอบหัวชื่อเรื่อง
🙏🙏🙏💚💚💚
ฉันอายุ 64 ปีนี้ ตอนเด็กๆต้องเรียนบทกวี กาพย์ห่อโคลงแห่เรือ เจ้าฟ้ากุ้ง ศรีปราชญ์ สุนทรภู่ ฯลฯ โดนบังคับให้ท่องจำ เพื่อให้ได้คะแนน ไม่ได้รู้สึกชอบ แม้จะยังท่องจำได้บ้างอยู่นะตอนนี้ เคยได้ยินคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ร่ายกวี ก้อรู้สึกงั้นๆ ยิ่งฟังคุณอังคาร กัลยาณพงษ์ร่ายกวียังมองดูว่าแสนเว่อร์ คือ มันไม่อินอะนะ เคยดูช่องสี่บางขุนพรหม รายการพวกกะวงกวี ก้อไม่เคยอิน รู้สึกว่าตัวเองสปีชี่ส์ไม่ใช่แนวซาบซึ้งบทกวีสักเท่าไรนะ 555 เรื่องแบบนี้มันชื่นชมแค่เฉพาะกลุ่มคนที่ปลื้ม คนไม่ปลื้มมันมองว่าน่ารำคาญ จะพูดอะไรก้อพูดเป็นภาษาปากไปเลยจะเก็ทกว่า ต้องมาสำบัดสำนวนให้ต้องมานั่งแปลความอีกทีมันเมื่อยอะนะ และนักกวีบางคนก้อดูมีอีโก้สูงแหวกหมอกเมฆทะลุฟ้าจักรวาลอะไรจะปานนั้น 555 มันมองดูตลก แทนที่จะน่าชื่นชมแต่...เคยอ่านบทกวีของคนแค่คนเดียวแล้วรู้สึกว่าชอบ ชอบมากๆเลย ก้อคือ คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา ไม่รู้ว่าทำไม เป็นบทกวีที่ใช้ภาษาสวย เรียบง่าย ให้ความหมายที่เข้าไปลึกในจิตใจมากๆ อ่อนน้อม ถ่อมตน ติดดิน และจริงใจ มันเหมือนออกมาจากใจความเป็นปุถุชนคนธรรมดามากๆ ไม่ได้หลั่งมาแบบเทพองค์ไหนมาโปรดรดหูคนฟังจากใจคนไม่คลั่งไคล้บทกวี😆
ผมเองชอบและประทับใจบทกวีของคุณจิระนันท์ เหมือนกันครับ เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง กับของท่านพุทธทาส ก็เช่นกัน
เห็นด้วยครับ มีคนคิดเห็นเหมือนคุณเยอะแต่เค้าไม่คอมเม้นกลัวทัวร์ ลง อังคารเนี่ยดัดจริตแม้กระทั่งลายมือ ดูเหมือนมีอะไรแต่ข้างในกลวงมากมาย
ผมเดาว่า คุณแต่งตัวไม่เป็น ไม่รับ ว่า อาหารที่ อร่อย เป็นแบบไหน ขาด จินตนาการ แต่ก็ ไม่ได้ผิด อะไร เป็นปุถุชน เหมือนกัน
@@ประชาคําสุข ผมไม่เดาว่า แต่ผมเชื่อว่าคุณเป็นสลิ่ม และดัดจริต
@@ประชาคําสุขอะไรคือ "แต่งตัวไม่เป็น" แค่ไม่เปลือยนี่ก้ออารยะมากเลยนะ 555 แม้ว่าเสื้อกับผ้านุ่งสีมันจะไปคนละทาง และคนกลุ่มนึงอาจมองว่า ไม่ศิวิไลซ์เหมือนกับที่มาตรฐานใจเขากำหนดไว้อะไรคือ "ไม่รู้ว่าอาหารที่อร่อยมันเป็นยังไง" ถ้าไม่เคยกินแล้วบอกว่าไม่น่าจะอร่อย อันนี้อาจใช่นะ ว่าอคติทั้งๆที่ยังไม่ได้เอาลิ้นแตะลิ้มรส แต่ฉันนี่ พยายามกินนะ ได้เอาเข้าปาก ลองดูมาแล้ว ลิ้มรสแล้ว พยายามกินแล้ว แต่มันไม่อิน มันผะอืดผะอม ชวนอ๊วก กลืนไม่ลง ก้ออาเจียนออกมา แล้วไม่อยากลองกินอีก มันก้อเท่านั้น ทำไม่จะไม่รู้ว่าอะไรอร่อยอะไรไม่อร่อยคุณนี่ก้อแปลกๆนะ ไม่เข้าใจความเป็นตัวตนของคนอื่นเขา เอาจิตตัวเองเป็นมาตรฐาน แล้วตัดสินชาวบ้านที่เขาคิด/รู้สึกต่างจากตัวเอง มีอี้โก้สูงเหมือนกันนะ รู้ตัวไหม?
ผมศรัทธาในตัวท่านส.นะครับ
อะไรในโลกเป็นของเจ้า ฟ้าสกาวดาวเดือนทั้งนั้นหรือสิ่งแน่แท้เป็นของเราคือ ความโลภสมบัติบ้าอจินไตยอยากได้ไว้ทำไมดวงเดือน เหมือนป่าช้าอ้างว้างกว้างใหญ่เอื้อมได้แล้วมุ่งหมายสิ่งใด รกแก่ใจดุจขยะปฏิกูลปลงตกเถิดแก้วแหวนเงินทอง ล้วนของจักรวาลไร้วันสูญแสวงหาปัญญาญาณเทิดทูน มูลค่ากว่าแก้วแหวนเงินทองถึงเจ้ายึดได้ทุกดวงดาว จบฟากฟ้าสกาวเป็นเจ้าของงกกรรมสิทธิ์หลงคิดครอบครอง จะจับจองอยู่ชั่วครู่หายใจจะคืนกากอสุภซากแด่ดิน โลหิตสิ้นคืนธาตุน้ำไหลธาตุลมคืนลมเกรียงไกร ธาตุไฟคืนไฟในสากลเจ้าวิปริตคิดค้นยึดถือ แย่งยื้อพิภพนี้เสียสับสนปวงมนุษย์ดุจสัตว์สัปดน ร้ายกาจจนราวโรคร้ายแรงเจ้าเล่ห์หนอนบ่อนเวิ้งจักรวาล จะผลาญดาวต่างต่างแห้งแล้งเสียชาติเกิดมาค่าแสนแพง รู้แจ้งว่าอุบาทว์ชาตินรกานต์จะสร้างระเบิดเชื้อโรคอีกหรือ ช่างดื้อบ้ากว่าสัตว์ดิรัจฉานระยำอำมหิตกว่ายักษ์มาร เร่งให้ไร้ศานติสุขทุกชีวาให้เร่งฟันฆ่าบ้าสงคราม ตะกรุมตะกรามกัดกันเสมอหมาให้หลงวิทยาศาสตร์จนบ้า ต่ำช้าโฉดแท้แลน่ากลัวโง่งมโรคจากโลกพระจันทร์ แท้มันคือโรคร้ายแสนชั่วมหาพรหมเลวผิดเต็มตัว แกตามัวสร้างมนุษย์ขึ้นมาเร่งลบชาติพันธุ์มันสิ้นโคตร สาปให้โฉดเขลาโง่เง่าบ้าเอาอามิสต่างต่างล้างปัญญา ให้ฆ่ากันเองอลเวงเอย อังคาร กัลยาณพงศ์
คนดีแต่ถูสถาบันขับออกไป คงมองได้.2มิติ หนึ่ง สถาบันนั้นไม่ดี สองคนที่อ้างว่าดี ก็ไม่ดีจริง(จึงถูกขับออกไป)
ความรู้ป.4 อย่างผมชอบบทกวีของคุณ วานิช จรุงกิจอนันต์ ครับไม่ชอบสำนวน โวหาร ภาษาเหย่อหยิ่งของบรรดา นักกวี มีสติ๊กเกอร์ที่ใช้คำศัพท์หรูๆ สูงๆไม่มีบันได ปีนฟ้าไปอ่านครับ( ความชอบส่วนตัว ) ครับ
🥰🥰🥰🙏🙏🙏
ทึ่งสติปัญญาของคุณ ส ความจำเป็นเลิศเหลือเกิน ไม่เคยเห็นท่านติดนึกชื่ออะไรไม่ออกเลยสักครั้ง
แม้แต่ อ.ถวัลย์ยังยกย่องเลย ท่าน อ.อังคาร
ท่านอังคาร จะลุกขึ้นมาบอกว่ากูก็รู้กาละเทศะ
แล้วอังคารไปวุ่นวายอะไรกับจิตร ภูมิศักดิ์
ฝีมือการวาดเกรยองหาใครเสมอเหมือนไม่
ครั้นเพลาโพล้เพล้เวหาสน์ แสงสูรย์สาดส่องภวังค์ครั้งสุดท้ายสังเวชเราเหงาหงอยมากมาย ภาพนั้นชวนให้น้ำตานองนกกระจิบจับหนอนป้อนลูกน้อย ที่เกาะคอยอยู่บนกิ่งมะเดื่อปล้องละอ่อนออเซาะแม่แซ่ซ้อง ร่ำร้องขอแต่เหยื่อพร่ำเพรื่อไปนางแม่นกงกหาหนอนกระจิ๊ดริด ตั๊กแตนนิดนิดบินขวักไขว่บินตามใกล้ไล่จิกไปเร็วไว มาป้อนให้ลูกอ่อนจนอ่อนแรงที่ไหนเล่าลูกนกจะนึกถึง วิญญาณซึ่งเสียสละกล้าแข็งกว่าจะซึ้งถึงน้ำใจว่าค่าแพง พ่อแม่ก็แห้งแล้งจมดินทราย อังคาร กัลยาณพงศ์
ขอบพระคุณมากครับ🙏
ด้วยคารวะ
เพลงที่ใช้เป็นไตเติ้ลคือเพลงอะไรครับ เพราะดี
เป็นเพลงไทยเดิมชื่อว่า ขับไม้บัณเฑาะว์ครับ
@@phapiroonilk8860 ขอบคุณครับ
กวีของอังคารคุมอารมณ์ไม่ได้ดีเท่า ร.2
ร.2 ไม่ดีเท่า เจ้าฟ้ากุ้ง ผลงานด้านงานเขียนของอังคาร เอาจริงๆ ห่วยแตก ออกแนวดัดจริต สมสลิ่ม
กวีคือคนปล่อยพลังทางความคิดออกมาเป็นบทประพันธ์ครับ จะควบคุมอารมณ์เพื่ออะไรครับ สำหรับความคิดผมนะ ความสามารถทางกวีของท่านอังคาร อย่าว่าแต่บทกวีของรัชกาลที่2เลย แม้แต่บทกวีของสุนทรภู่ ก็ยังเทียบไม่ได้กับบทกวีของท่านอังคารครับ
@@phapiroonilk8860 กวีศรีสลิ่ม ดัดจริตแม้แต่ลายมือ บายๆ
แหวกแนวเพราะกล้าแซะ เลยดูเด่น ดีหรือเปล่า? ถามสามกีบดู
อ่านหนังสือของท่านค่ะ
ท่านอย่าลืมคำว่า บุณคุณ อย่าจำแต่เนรคุณ แผ่นดิน
☺️🇹🇭
เบื๊อก
🌚
คนเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเผื่อไม่รู้จักระงับอารมณ์ก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว กาละเทศะคงไม่รู้จัก
คุณพูดถึงอะไร
อะไรของมัน55
สมัยก่อนครับ สมัยก่อน ตอนนั้นท่านยังไฟแรงอยู่ และธรรมดานะครับ คนที่เป็นอัจริยะด้านใดด้านนึงเนี่ย มักจะมีความประพฤติที่ไม่ค่อยเหมือนกับชาวบ้านเขา
เอาจริงๆ งานของอังคารห่วยแตก ลุ่มๆดอนๆ
@@nantamakot8560 ศิลป์ปลอมๆ หลอกชนชั้นกลางในเมืองดัดจริต ลายมือยังดัดจริต กวีปลอมของพวกสลิ่มรอยัลลิสต์ ที่เวลาใกล้หมด
ไม่ควรเป็น..ดีแล้วค่ะ เพราะความคิดท่าน..แปลกๆ
อยากเห็นก็เป็นได้หรอกครับ
นักบิดเบือน
ผมเห็นภาพสีของท่านอังคารเห็นหน้าอาจารย์เจ้าอาวาสวัดร่องขุ่นลอยมาเลย
ท่านทำให้เรารู้เรื่องบุคคลสำคัญมากมาย
ผมอยากมีสมองปราชญ์เปรื่องอย่างท่านจริงๆครับท่าน
**แจ้งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมครบรอบ 10 ปีการจากไปของท่านอังคารที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง**
สืบเนื่องจากการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ‘๙๙ ปี สู่ศตวรรษชาตกาล และ ๑๐ ปี ล่วงผ่านมรณากาล ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์’ ซึ่งแต่เดิมทางผู้จัดงาน วันฟ้าใหม่ เทพจันทร์ ได้แจ้งว่าจะมีการจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ณ ร้าน Lido Art Space จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปนั้น ปรากฏว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง ทั้งยังไม่สามารถติดต่อผู้จัดงานได้ ทั้งนี้พบว่ามีผู้เดินทางไปร่วมงานด้วยความตั้งใจแต่กลับต้องพบความผิดหวัง เมื่อติดต่อไปยังเจ้าของร้าน Lido Art Space จึงได้ทราบว่าทางร้านไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ไม่รู้จักผู้จัดงาน รวมถึงไม่เคยได้รับแจ้งถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าวมาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดงานได้อ้างในภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้วว่าได้เปลี่ยนสถานที่จัดงานเป็นร้านสุดสะแนน จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการจัดในกลุ่มเพื่อนฝูงกันเองเพียงไม่กี่คน และไม่ได้แจ้งให้ทางเพจหรือประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะทราบ เมื่อสอบถามไปยังร้านสุดสะแนน เจ้าของร้านได้แจ้งว่าในวันและเวลาดังกล่าวไม่มีการจัดงานใดๆ ทั้งสิ้น
ทางเพจ Angkarn Kallayanapong ขอแจ้งว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนเห็นใจผู้ที่ไปร่วมงานทุกท่าน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว การลงข่าวประชาสัมพันธ์ให้ก็เป็นไปเพื่อการสนับสนุนด้วยความปรารถนาดีที่มีต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้พิจารณาแล้วว่าผู้จัดงานได้แสดงความจำนงที่จะปิดบังความจริงอย่างต่อเนื่อง จึงสมควรแจ้งให้ทุกท่านทราบถึงเหตุการณ์อันไม่อาจยอมรับนี้ได้ เนื่องมีผลกระทบต่อหลายฝ่ายด้วยกัน
----
ข้อมูลจากเพจ Facebook: Angkarn Kallayanpong
ทาง Dhanadis - ธนดิศ ต้องของอภัยผู้ที่ไปร่วมงานด้วยนะครับ ทางเราแค่ช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรม ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ทั้งสิ้น
Dhanadis
อ่าน และ ซาบซึ้ง งานของ ท่านอังคาร ตั้งแต่ เรียนมหาวิทยาลัย จนภึง ปัจจุบัน ... เมื่อ อ.สุลักษณ์ พูดถึง ท่านอังคาร นี่คือ นักปราชญ์ พูดถึง.มหากวี น่ายินดีมากๆ ขออนุญาตแชร์ นะครับ ขอบคุณครับ
ตอนเด็กผมยืนดูทีวีรายการผะหมีหน้าบ้านเพื่อนบ้าน ทีวีสมัยนั้นแพงมากบ้านผมไม่มีปัญาชื้อ เริ่มรู้จักคุณอังคาร ครั้งแรก รายการผะหมีคือการแข่งแต่งกลอนกวีทางทีวี ดำเนินรายการโดยคุณจำนง รังสิกุล คุณอังคารชนะติดต่อกันหลายๆๆๆครั้ง ปัจจุบันผมอายุ 77
เป็นความทรงจำที่ดีมากเลยครับ
ทรงคุณค่าครับ🙏♥️
คิดถึงอดีตที่สวยงามไหมครับ
ขอบคุณอาจารย์ ส.ศิวลักษณ์มากๆ สำหรับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย
สมัยยังเรียน และยังอยู่เมืองไทย ผมชอบวรรณกรรม บทกวีของท่าน อังคาร มาก ผมชอบภาษาในบทกวี โคลงฉันท์ ของท่านประมาณหลงไหลเลยล่ะ ที่ไหนมีตามหาอ่านให้หมด คนที่สองคือท่าน เนาวรัตน์ ครับ ตอนท่าน อังคาร ได้รับรางวัล ซีไรต์ พอดีอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบ และออกมาอยู่ต่างประเทศ เคยนึกอยากจะเขียนได้อย่างท่าน อังคาร บ้างแต่ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก คนละโลกเลย ต้องเก่งในภาษา รู้ลึกซึ้งในรสคำที่กรองออกมาเป็นตัวหนังสือ
เหมือนนั่งฟังญาติผู้ใหญ่เล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง เข้าใจง่าย แม้ผมจะยังเด็กแต่ติดตามฟังท่านมาตลอด
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
ติดตามทุก ep.เลย ขอให้อาจารย์ส. สุขภาพแข็งแรงครับ
ฟังแล้วมีดวามรู้มากค่ะหนูอายุ58จว.พะเยาค่ะ❤❤❤❤❤
ชื่นชมบทกวีของท่านอังคาร มากค่ะเป็นบทกวีที่อ่านแล้วซาบซึงเข้าถึงหัวใจเลยค่ะ
ชอบเวลาอาจาร์ยพูดถึงคนเก่าแก่ที่มีความรู้ความสามารถ เพราะเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยรู้รายละเอียดมาก่อน ชอบมาก แต่น่าเสียดายคุณอังคาร ที่ปฎิเสธนิพพานเพื่อเป็นกวี น่าเสียดายยยยย
ทุกครั้งที่ท่านพูดถึงท่านอังคาร ก็จะพูดเรื่องไปอยุทยาและบทวักทะเลตลอด ท่านนับถือกันมาก ผมอ่านบทกวีท่านอังคารแล้วไม่มีใครเหมือนครับ หลงไหลมากครับ
อังคารกัลยาณพงศ์..สุดยอดกวี
ถวัลย์ดัชนี..สุดยอดงานศิลปะ คาราวะทั้งสองท่าน🙏🙏🙏
ผมเคยอ่าน ปณิธานกวี
สุดๆจริงๆครับ
ผมได้ เห็นรูปวาดของ ครูอังคาร ที่โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ตอนเด็กๆ สวยมากๆ ขนาดตอนนั้น ผมเป็นเด็กๆ ภาพวาดนั้นทำให้ผมยืนนิ่งไปได้เป็นชั่วโมง ภาพมันสะกดให้เราหยุดเวลาจ้องมองไปได้ นานๆ ได้ยังไง ผมยังสงสัยถึงอยู่ทุกๆวันนี้
ขอบคุณอาจารย์
ขอดวงวิญญาณท่าน เกิดใหม่ เป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ สาธุๆๆ
ชอบฟังท่านอ. สนุก เพลงประกอบก็ไพเราะ
ท่านส.ศิวลักษณ์มีมันสมองเป็นเลิศ...เป็นคนกล้าที่น่ายกย่อง
อยากฟังอาจารย์คุยถึงถวัลย์ดัชนี
+1 ด้วยคนครับ🙏♥️
ความจำท่านเป็นเลิศ..
ชอบดูรายการครับ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ 😁
คนสมัยก่อนรุ่นเก่าๆ ท่านเคารพซึ่งกันและกันเป็นที่ตั้ง ท่านเป็นแบบอย่างได้ดีมาก แต่คนสมัยนี้ ไม่ค่อยดูเอาเป็นตัวอย่าง น่าเสียดายมากๆเลย!
เคยได้อ่านงานปณิธานกวีของท่าน รับรู้ถึงความเป็นกวีของท่านอย่างที่สุด ประทับใจมากเลยค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์ที่เล่าถึงท่านอังคารนะคะ 🙏😊❤️
อยากให้อาจารย์พูดถึงสุชาติ สวัสดิ์ศรี
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟ เราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
ตอนเรียน ป.โทได้เรียนวรรณกรรมท่านและชอบมากชอบกระทั้งเอกลักษณ์ของท่าน และเห็นสมควรยกย่องท่านให้เป็นศิลปินแห่งชาติย้อนหลังก็ได้
ขอบคุณค่ะขออนุญาตคัดลอกไว้นะคะ
ผมเคยมีโอกาสได้รับเกียรติบัตรจากอ.อังคาร ตอนสมัยเรียนม.ปลาย เป็นวาดภาพรณรงค์โรคตับ รับมอบจากมืออาจารย์เลย รู้สึกภูมิใจมากครับ
ความจำอาจารย์ ส. ก็น่าทึ่งไม่แพ้ฝีมือท่านอังคารหรอก
เราเป็นคนไทยรักชาติคุณพ่อแม่สอนดีมากคนบ้านนอกร.9เคยไปที่บ้าน2523ดีใจมากๆค่ะ
ใครได้อ่านหนังสือกวีนิพนธ์ท่านอังคารซักเล่มเต็มๆ เดี๋ยวรู้เลย จัดจ้านสุดๆ ผมได้อ่านเล่มปณิธานกวี บทกวีพาเที่ยวจักรวาลและกาลเวลา อะไรที่ผมข้องใจในพุทธธรรม บทกวีท่านอังคารช่วยปลดเปลื้องให้มากมาย ไม่รู้เล่มอื่นเป็นยังไง แต่ปณิธานกวีนี่ผมว่าชาวพุทธที่อ่านพระไตรปิฎกได้นี่ต้องมีติดบ้านไว้จริงๆ ผลงานท่านอังคารนั้นทำให้เห็นความต่างระหว่างกวีอาชีพกับคนที่เขียนกลอนได้
ท่านสุดยอด
คาราวะท่านอาจารย์ ส.
สุดยอดครับ
ผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่สนใจในประวัติศาสตร์มากครับ ถ้ามีโอกาศอยากให้ อาจารเล่า
เกี่ยวกับ เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
หน่อยครับ เขาให้คุณให้โทษกับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง
(ชอบที่อาจารย์พูดตอนนั้นมากครับ
ว่า ในหลวงกริ้วมาก ที่เกรียงศักดิ์
ปลด ธานินทร์ กรัยวิเชียร ออก)
รับทราบครับ เดี๋ยวจะแจ้งให้อาจารย์ทราบนะครับ
อาจารย์ ศ. พอได้รู้จักกันกับ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์ รึป่าวคับ อย่างไรก็ตาม อยากเห็น ท่านำพดอะไรเกี่ยวกับ อ.ถวัลย์ เนื้องใน เดือนปลายกันยายนนี้ เปนเดือนที่านจากพวกเราไป อ.ถวัลย์ คนไทยส่วนมาก ยังไม่รู้จักท่านหรือบางท่านอาจ เข้าใจท่านผิดๆ ทั้งเรื่องผลงานและลักษณะการพูดของท่าน ทั้งที่ อ.ถวัลย์ ฯ เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ
*เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟ เราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
#ท่านแต่งไว้งดงามมากครับ
การรู้แจ้งเห็นแจ้ง เจริญสติวางจิต บทนี้ธรรมชาติเดิมแท้ ส่วนฝ่ายปรุงแต่งมันแข่งดีแข่งชั่วกัน เป็นสภาวธรรมคู่ ที่ หมุนวงจรปฏิจจสมุปบาท สร้างกรรมกันอย่างไม่หยุดยั้งฯ นี้ แหละสัตว์ ผู้ข้องกับโลกฯ (นิพพานเป็นดั่งภราดรภาพ)
ถ้าคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เมื่อเขาร่อแร่จวนจะตาย หากว่าเขาสามารถเพียงแต่เห็นว่ามูลธาตุทั้งห้า ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นวิญญาณนั้น เป็นของว่างเปล่า และเห็นว่ามูลธาตุทางรูปกายนั้น ไม่ใช่สิ่งซึ่งประกอบขึ้นเป็นตัว “ ข้าพเจ้า ” และเห็นว่า จิต จริงแท้นั้น ไม่มีรูปร่างและไม่ใช่สิ่งที่มีการมาหรือการไป และเห็นว่าธรรมชาติเดิมแท้ของเขานั้น เป็นสิ่ง ๆ หนึ่ง ซึ่งมิได้มีการตั้งต้นขึ้นที่การเกิดหรือมิได้มีการสิ้นสุดลงที่การตายของ เขา แต่เป็นของสิ่งเดียวรวดและปราศจากการเคลื่อนไหวใด ๆ ในส่วนลึกจริง ๆ ของมันทั้งหมด และว่า จิต ของเขากับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแวดล้อมเขาอยู่นั้น เป็นสิ่ง ๆ เดียวกัน ถ้าเขาสามารถทำได้ตามนี้จริง ๆ เขาจะลุถึงการรู้แจ้งเห็นแจ้งได้โดยแว็บเดียว ในขณะนั้น
เขาจะเป็นผู้ที่ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับโลกทั้ง ๓ อีกต่อไป เขาจะเป็นผู้อยู่เหนือโลกได้ เขาจะไม่มีการโน้มเอียงไปสู่การเกิดใหม่อีกแม้แต่นิดเดียว
แม้หากว่าเขาจะได้มองเห็นภาพอันรุ่งโรจน์ ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์กำลังเสด็จมาต้อนรับเขา ห้อมล้อมไปด้วยสิ่งอันวิจิตรตระการตาทุกชนิด เขาก็ไม่เกิดความรู้สึกอยากเข้าไปใกล้สิ่งเหล่านั้น หรือถ้าเขาจะได้มองเห็นสิ่งอันหน้าหวาดเสียวทุก ๆ ชนิดมาแวดล้อมอยู่รอบตัวเขา เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลย
เขาจะเป็นแต่ตัวของเขาเองเท่านั้นที่ปราศจากความคิดปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง และเป็นสิ่ง ๆ เดียวกันกับ สิ่งสูงสุด สิ่งนั้น เขาจะได้ลุถึงภาวะแห่งความที่ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้อีกต่อไป ฉะนั้นนี่แหละ คือ หลักธรรมะที่เป็นหลักมูลฐานในที่นี้
คำสอนครูบาฮวงโป แปลโดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ
ทวยตานุปัสสนาสูตร การพิจารณาเห็นธรรมคู่ (อริยสัจ 4)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าจะพึงมีผู้ถามว่า การพิจารณาเห็นธรรมเป็นธรรม ๒ อย่างโดยชอบเนืองๆ จะพึงมีโดยปริยายอย่างอื่นบ้างไหม พึงตอบ
เขาว่าพึงมี ถ้าเขาพึงถามว่า พึงมีอย่างไรเล่า
พึงตอบเขาว่า การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด
ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นี้เป็นข้อที่ ๑ การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า เพราะสังขารทั้งหลายนั่นเองดับไป
เพราะสำรอกโดยไม่มีเหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด นี้เป็นข้อที่ ๒
ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้พิจารณาเห็นเนืองๆ ซึ่งธรรมเป็นธรรม ๒ อย่าง โดยชอบอย่างนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่ พึงหวังผล ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตตผลในปัจจุบันนี้ หรือเมื่อยังมีความ
ถือมั่นเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึง
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็น
ปัจจัย เพราะสังขารทั้งหลายดับโดยไม่เหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด
ภิกษุรู้โทษนี้ว่า เพราะสังขารเป็นปัจจัย ทุกข์จึงเกิดขึ้น
เพราะความสงบแห่งสังขารทั้งมวล สัญญาทั้งหลายจึงดับ
ความสิ้นไปแห่งทุกข์ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุรู้ความ
สิ้นไปแห่งทุกข์นี้โดยถ่องแท้ บัณฑิตทั้งหลายผู้เห็นชอบ
ผู้ถึงเวทย์ รู้โดยชอบแล้ว ครอบงำกิเลสเป็นเครื่องประกอบ
ของมารได้แล้ว ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึง
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า ...
"นายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ขยัน เมื่อชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่า เราชักยาว เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่า เราชักสั้น"
แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า
เราหายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น เมื่อหายใจ
เข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น
ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก
ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้า
ย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจออก
ย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า
ดังพรรณนามาฉะนี้ภิกษุย่อมพิจารณา
เห็นกายในกายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง
ย่อมอยู่ อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล
ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
"เรากล่าวลมหายใจออกลมหายใจเข้านี้ว่าเป็นกายชนิดหนึ่งในพวกกาย"
"ถ้าภิกษุเจริญอานาปานสติแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งอานาปานสตินั้นเล่า"
อานาปานสติ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ ข้อที่ ๒๒๔ หน้า ๔๒
๙.คำสอนของฮวงโป (ขอบวงของพุทธะ)
จิตล้วนๆ นี้ ซึ่งเป็นที่กำเนิดของสิ่งทุกสิ่ง ย่อมส่องแสงอยู่ตลอดกาล และส่องความสว่างจ้าแห่งความสมบูรณ์ของมันเองลงบนสิ่งทั้งปวง, แต่ชาวโลกไม่ประสีประสาลืมตาต่อมัน ไปมัวเข้าใจเอาแต่สิ่งซึ่งทำหน้าที่ดู ทำหน้าที่ฟัง ทำหน้าที่รู้สึก และทำหน้าที่คิดนึก ว่าแหละคือ จิต. เขาเหล่านั้นถูกการดู การฟัง การรู้สึก และการคิดนึกของเขาเอง ทำเขาให้ตาบอด เขาจึงไม่รู้สึกต่อแสงอันสว่างจ้าของสิ่งซึ่งเป็นต้นกำเนิดทางฝ่ายจิต.
ถ้าเขาเหล่านั้น จะเพียงแต่ได้ขจัด ความคิดปรุงแต่ง เสียชั่วแว็บเดียวเท่านั้น สิ่งซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิ่งทั้งปวงดังที่ได้กล่าวนั้น จะแสดงตัวมันเองออกมาทันที เหมือนดวงอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมาท่ามกลางที่ว่างและส่องสว่างทั่วจักรวาล โดยปราศจากสิ่งบดบังและขอบเขต.
เพราะ ฉะนั้น ถ้าพวกเธอซึ่งเป็นนักศึกษาเรื่อง ทาง ทางโน้นมุ่งทำความก้าวหน้าโดยการดู การฟัง การรู้สึก และการคิดนึกอยู่ เมื่อถูกหลอกโดยสัญญาต่างๆ ของเธอเองเสียแล้ว ทางที่เธอจะเดินตรงไปยัง จิต โน้น ก็จะถูกตัดขาดออก และเธอก็จะหาทางเข้าไม่พบ.
พวกเธอจงเพียงแต่มองให้เห็นชัดว่า แม้ จิต จริงแท้นั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวรวมอยู่กับสัญญาเหล่านี้ก็ตาม มันก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นส่วนประกอบของสัญญาเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้แยกออกไปต่างหากจากสัญญาเหล่านี้.
เธอไม่ควรตั้งต้นการใช้เหตุผลไปจากสัญญาเหล่านี้ หรือยอมให้มันก่อความคิดปรุงแต่งขึ้นมา, แม้กระนั้น เธอก็ไม่ควรแสวงหา จิตหนึ่ง นั้น ในที่ต่างหากไปจากสัญญาเหล่านั้น หรือละทิ้งสัญญาเหล่านั้นเสีย ในการคิดค้น ธรรม นั้นของเธอ. พวกเธออย่าเก็บมันไว้และอย่าทิ้งมันเสีย หรือพวกเธออย่าอยู่ในมัน และอย่าแยกไปจากมัน. เบื้องบนก็ตาม เบื้องล่างก็ตาม และรอบๆ ตัวเธอก็ตาม สิ่งทุกสิ่งย่อมมีอยู่เองตามปรกติ เพราะว่าไม่มีที่ไหนที่อยู่ภายนอกขอบวงของ พุทธะ หรือ จิต นั้น.
ใคร่ขอความกรุณาอ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์พูดถึงอ.ดร.ถวัลย์ ดัชนี กราบขอบพระคุณครับ 🙏🧡
เดี๋ยวลองถามอาจารย์ก่อนนะครับ ว่ารู้จักท่านมากน้อยเพียงใด
อาจารย์ครับผมอยากรู้ว่าจอมพลป จริงๆควรได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษประชาธิไตยหรือว่าเป็นทรราชเผด็จการกันแน่ครับผมเห็นคนรุ่นใหม่ชอบยกยอท่านบางคนก็ไม่ชอบท่าน/ขอบคุณล่วงหน้าครับอาจารย์
@Dhanadis ขอแอดมินสัมภาษณ์ อ.ศิวลักษณ์ เรื่อง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หน่อย
อีกท่านหนึ่งที่เทียบเคียงได้คือ ครูเหม เวชกร ผู้ได้รับสมญาว่าจิตรกรมือเทวดา และนักประพันธ์นวนิยายชั้นยอด โดยเฉพาะนวนิยายเรื่องผีของท่านยังเป็นอมตะมาจนทุกวันนี้ มีการพิมพ์ออกมาจำหน่ายต่อเนื่องตลอดมา อีกทั้งเป็นผู้ประพันธ์เพลงไทยลูกทุ่งเพลงแรกของเมืองไทยชื่อเพลง “โอ้เจ้าสาวบ้านไร่” ขับร้องโดยทองคำ (คำรณ) สัมปุณนานนท์ และเป็นผู้แนะนำให้ ไม้เมืองเดิม (ก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา) นักประพันธ์ผู้ซึ่งขณะนั้นประสบความล้มเหลวให้เปลี่ยนแนวการเขียน จนสามารถสร้างสรรค์อมตะนิยาย แผลเก่า และขุนศึก
นิยายผีครูเหมสุดจริง
เหม เวชกร เป็นแค่ช่างฝีมือ ไม่ใช่ศิลปิน จะเอาใครมาฝึกแล้วเขียนแบบนี้ ใครก็ทำได้ในไทย ถ้าศิลปินในไทยที่ผมชอบมากที่สุดคือ อ.ชลูด นิ่มเสมอ อ.ถวัลย์ ดีชนี
กายสิทธิ์ใส่เกล้าไว้เพื่อให้ขวัญขลัง คือ วลีที่สุดยอด
ได้ทราบความเปนมาแต่ละท่าน..
ชื่นชมและเคารพท่านอาจารย์ที่ได้เผยแพร่ในสื่อนี้
ผมชอบงานภาพไทยของอาจารย์อังคารที่สุดครับ พลังแรงมากที่สุดแล้ว
เพลงที่ใช้คือเพลงอะไรครับ ช่วยตอบด้วยครับ
เชื่อ อ.ทุกคำพูด😊
เห็นด้วยกับท่าน ส.ศิวรักษ์เพราะตอนเรียน ป. โทได้เรียนวรรณกรรมของท่านแล้วชอบลีลาการเขียนการวาดและแนวคิดของท่านอังคารมากๆ ที่ชอบมากที่สุดคือ ”วักทะเล“
นับถือท่านอาจารย์ครับ เป็นปราชญ์ทางความคิดนี่ เมื่อภัยมาก็ต้องหนี เป็นสัจธรรมว่า เมื่อเราพูดย่อมมีคนชอบและไม่ชอบ
รู้จักอังคาร กัลยาณพงศ์ จากหนังสืออ่านนอกเวลาเรื่อง น้ำพุ ตอนเรียนม.2
ในการ์ตูน สัตว์ที่มักจะได้รับบทเป็นอาจารย์ ที่ดูทรงภูมิปัญญา คือ นกฮูก ดูเคล้าหน้าอาจารย์ อดคิดไม่ได้ว่า เหมือนนกฮูก คิดมานาน วันนี้ขอเปิดเผย
ดึกนี้เศรษฐีตื่นแล้ว สำรวจแก้วมณีในสวรรค์
ล้วนสมบัติฉันทั้งนั้น ชื่อแจ่มจันทร์และดวงดาว
จ้างเทพยดาปรุงอากาศ บริสุทธิ์สะอาดไว้กลางหาว
เจียระไนน้ำค้างพร่างพราว ป่าวให้ทานบุญสุนทรีย์
ปลูกมิ่งไม้ไว้หลายภูผา สั่งฟ้าอุ้มฝนจนเต็มที่
ไว้รดอุทยานแรมปี ให้เขียวขจีทั้งไพรวัลย์
เลี้ยงโพระดกนกหกป่า ขังขอบฟ้าหิมวาอาถรรพ์
ปันผลไม้เป็นของขวัญ รางวัลกันทุกฤดูไป
แล้วร้องปลุกอุษาเทวี เช้านี้หลับสนิทหรือไฉน
แสงเงินทองธนาคารชัย แม่เบิกใช้หมดแล้ว ฤ ยังมี
ฝากบอกพระสุริยาด้วย ช่วยเร่งอุทัยไขแสงสี
จ้างใหม่สัญญากว่าโกฏิปี เบิกเงินที่บรมพรหมินทร์
ฉันเบื่อสมบัติพัสถาน อำลาอวสานชีวิตสิ้น
ป่าวร้องทุกเม็ดทรายดิน รุมกินซากผีนี้เถอะเทอญ
อังคาร กัลยาณพงศ์
ขอบคุณมากครับพลังบวกจริงๆ🙏
@@kvisvaradisai7872 ความหมายของกลอนลึกซึ้งมากครับ คือ โลกทั้งใบเป็นสมบัติของท่านอังคารคนเดียว ท่านอังคารเป็นเจ้าของได้ โดยที่ไม่ต้องครอบครองกรรมสิทธิ์ แต่กระนั้นท่านอังคารก็ยังเบื่อสมบัติเหล่านั้น สื่อถึงความเเบื่อหน่ายในโลกและวัฏฏสงสาร (อธิบายไว้สำหรับผู้ที่อ่านผ่านๆแล้วอาจจะงงความหมายครับ)
ค่ะ บทกวีของท่านอังคาร เหมือนมีเพชรพลอยอยู่ในนั้น รูปที่ท่านวาดก็พิเศษหวานหยดย้อยแบบไทยๆ
อังคารวิเศษแท้ กวี
วิสุทธิ์ปฐพี เกิดแล้ว
สยามประเทศศรี พิสุทธิ์
งามเลิศงามเพริศแพร้ว เลิศหล้าปฐพี
อยากให้อ.เล่าเรื่องอ.จักรพันธุ์ โปษยกฤตหน่อยครับ
+ครับ
ท่านอังคารแกว่าแกรวยที่สุดในจักรวาล ท้องฟ้าก็ของแก แผ่นดินผืนน้ำก็ของแก อากาศที่หายใจก็ของแก ฯลฯ
เพราะแกเข้าถึงซึ้งสุดแล้วในธรรมชาติที่ผาดผุดดุจในฝันอันจินตนาการ
ว้าววว...เป็นประเด็นที่ไพเราะมากๆเลย
เพลง ที่เปิดชื่อเพลงไรครับ
เห็นด้วยครับ ผมเสพย์วรรณกรรมของท่านอังคารเพียงเล็กน้อย แต่ผมฟันธงกับตัวเองเลยว่า ผลงานท่านสุดยอด เนาวรัตน์นี่เด็กไปเลย
ชอบที่ท่านอังคารใช้คำ ธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่ถูกที่กลับกลายเป็นคำที่มีความหมาย มันโดนมากกว่าคำที่เสกสรรค์ปั้นแต่ง หรือคำที่เลิศหรูทั้งหลาย
ช่วยเล่าถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี หน่อยได้ไหมครับ อยากให้พูดถึงผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จากปากคนยุคเดียวกัน
อาจารย์ถวัลย์ ผมจำได้ว่าเมื่อประมาณ 40-50 ปีที่ผ่านมา เคยมีข่าวลงหนังสือพิมพ์ว่า อ.ถวัลย์ กับอ.เฉลิมชัย ไปเช่าแสดงผลงาน(ขาย) ที่โรงแรมหรูถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นโอเรียนเต็น แล้วมีกลุ่มนักศึกษาคณะจิตรกรรม มหาลัยศิลปากร ไปยืนถือป้ายและแจกใบปลิวต่อต้าน โดยนักศึกษาจะพยายามชี้แจงหรือให้ข้อมูลกับแขกที่จะมาชมงานว่างานของอาจารย์ทั้งสองไม่ได้ดีจริง ไม่สมราคา เป็นงานที่หลอกคนรวยที่ขาดความเข้าใจงานศิลปะ ประมาณว่าเป็นศิลปินจอมปลอมสร้างภาพหลอกขายงานคนรวยที่ตาไม่ถึง ซึ่งในช่วงนั้นจะมีการเขียนถึงอ.ถวัลย์ ในนิตยสาร จะเป็นนิตยสารอะไรผมจำไม่ได้แล้ว โดยจะเขียนเล่าประวัติอ.ถวัลย์ ว่าเป็นผู้ที่ได้รับการว่าจ้างให้ไปเขียนภาพ ในปราสาทของบารอน ท่านหนึ่งในเยอรมันนี หลังจากเขียนเสร็จบารอนท่านนั้นชื่นชอบมาก และได้เขียนเช็คเปล่าให้อ.ถวัลย์ กรอกจำนวนเงินเองคือจะเอากี่ล้านก็ได้ แต่ที่มีคนตั้งข้อสังเกตคือไม่มีการระบุว่าบารอนคนนั้นเป็นใคร ปราสาทที่ว่าเป็นปราสาทหลังไหน (อันนี้อาจเป็นแค่ข้อสงสัยของคนที่ไม่ชอบอาจารย์นะครับ เพราะยุคนั้นจะมีกลุ่มศิลปินที่ต่อต้านอ.ถวัลย์ และอ.เฉลิมชัย อยู่โดยจะกล่าวหาว่าอาจารย์เป็นศิลปินจอมปลอมที่พยายามเคลมตัวเองว่าเป็นศิลปินระดับโลก ซึ่งอ.ถวัลย์ และอ.เฉลิมชัย ก็จะให้สัมภาษณ์ประมาณว่าพวกนี้อิจฉาที่ตัวเองขายผลงานไม่ได้แต่อาจารย์ขายได้ในราคาแพงมาก ( คือต้องเข้าใจว่ายุคนั้นศิลปินวาดภาพของไทยส่วนใหญ่จะไส้แห้งนะครับ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่เสพงานศิลป์พวกภาพจิตรกรรม ) อาจารย์ถวัลย์ เป็นคนภาคเหนือและเป็นคนที่ทำให้อาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งเป็นคนภาคเหนือด้วยกัน ขายภาพได้ราคาโดยยกระดับภาพเขียนของอาจารย์เฉลิมชัย ให้สามารถแสดงในที่หรูหรามหาเศรษฐีเข้าชม ส่วนเรื่องผลงานของอาจารย์ถวัลย์ จะดีอย่างไรระดับไหน ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้พอ ก็อยากจะฟังจากผู้รู้เหมือนกัน ที่จริงศิลปินจิตรกรของไทย ที่อยู่ในระดับโลก โชว์ผลงานอยู่ในแกลลอรี่ต่างประเทศมากมายครับ เช่น อาจารย์ประหยัด อาจารย์ชะลูด อาจารย์เฟื้อ ฯลฯ
ศ ก็ ฝนตกขี้หมู😢 ไหล😢ประเทศ😢😢😢😢
ถ้าพูดถึงฝีมือ เคยได้ยินว่าที่สูสีกันสุด น่าจะคือ ท่านจันทร์ มจ. จันทร์จิรายุวัฒน์ อยากให้เล่าเรื่องท่านจันทร์ด้วยครับ
ใช่ครับ...
เห็นพ้องกับ ส.ศิวรักษ์ ท่านอังคาร คือสุดยอดศิลปินด้านวรรณศิลป์
ชอบบางบทจากสวนแก้ว
สายลมหนาว พัดผ่าน ลมร้อนคลานเข้าหา วัย และเวลา ก็พัดพาเราเขาไป สู่ห้วงอจินไตย ดี ชั่วไว้ ให้โลกจำ
นึ่งส่วนที่สำคัญงานศิลป์
ถ้าผมคิดนะครับ..รุปที่ท่านอังคารวาดท่พระพุทธเจ้าใส่จีวรสลับข้าง..ผมคิดว่าท่านอังคารคงมีจุดประสงค์เหมือนวาดรุปในกระจกครับ..สะท้อนพระพุทธศาสนา
ท่านอาจารย์ พรรณนาคุณวิเศษของท่านอังคารได้เพลิดเพลินและน่าซาบซึ้งใจมากครับ❤
ชอบหัวชื่อเรื่อง
🙏🙏🙏💚💚💚
ฉันอายุ 64 ปีนี้ ตอนเด็กๆต้องเรียนบทกวี กาพย์ห่อโคลงแห่เรือ เจ้าฟ้ากุ้ง ศรีปราชญ์ สุนทรภู่ ฯลฯ โดนบังคับให้ท่องจำ เพื่อให้ได้คะแนน ไม่ได้รู้สึกชอบ แม้จะยังท่องจำได้บ้างอยู่นะตอนนี้ เคยได้ยินคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ร่ายกวี ก้อรู้สึกงั้นๆ ยิ่งฟังคุณอังคาร กัลยาณพงษ์ร่ายกวียังมองดูว่าแสนเว่อร์ คือ มันไม่อินอะนะ เคยดูช่องสี่บางขุนพรหม รายการพวกกะวงกวี ก้อไม่เคยอิน รู้สึกว่าตัวเองสปีชี่ส์ไม่ใช่แนวซาบซึ้งบทกวีสักเท่าไรนะ 555 เรื่องแบบนี้มันชื่นชมแค่เฉพาะกลุ่มคนที่ปลื้ม คนไม่ปลื้มมันมองว่าน่ารำคาญ จะพูดอะไรก้อพูดเป็นภาษาปากไปเลยจะเก็ทกว่า ต้องมาสำบัดสำนวนให้ต้องมานั่งแปลความอีกทีมันเมื่อยอะนะ และนักกวีบางคนก้อดูมีอีโก้สูงแหวกหมอกเมฆทะลุฟ้าจักรวาลอะไรจะปานนั้น 555 มันมองดูตลก แทนที่จะน่าชื่นชม
แต่...เคยอ่านบทกวีของคนแค่คนเดียวแล้วรู้สึกว่าชอบ ชอบมากๆเลย ก้อคือ คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา ไม่รู้ว่าทำไม เป็นบทกวีที่ใช้ภาษาสวย เรียบง่าย ให้ความหมายที่เข้าไปลึกในจิตใจมากๆ อ่อนน้อม ถ่อมตน ติดดิน และจริงใจ มันเหมือนออกมาจากใจความเป็นปุถุชนคนธรรมดามากๆ ไม่ได้หลั่งมาแบบเทพองค์ไหนมาโปรดรดหูคนฟัง
จากใจคนไม่คลั่งไคล้บทกวี😆
ผมเองชอบและประทับใจบทกวีของคุณจิระนันท์ เหมือนกันครับ เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง กับของท่านพุทธทาส ก็เช่นกัน
เห็นด้วยครับ มีคนคิดเห็นเหมือนคุณเยอะแต่เค้าไม่คอมเม้นกลัวทัวร์ ลง อังคารเนี่ยดัดจริตแม้กระทั่งลายมือ ดูเหมือนมีอะไรแต่ข้างในกลวงมากมาย
ผมเดาว่า คุณแต่งตัวไม่เป็น ไม่รับ ว่า อาหารที่ อร่อย เป็นแบบไหน ขาด จินตนาการ แต่ก็ ไม่ได้ผิด อะไร เป็นปุถุชน เหมือนกัน
@@ประชาคําสุข ผมไม่เดาว่า แต่ผมเชื่อว่าคุณเป็นสลิ่ม และดัดจริต
@@ประชาคําสุข
อะไรคือ "แต่งตัวไม่เป็น" แค่ไม่เปลือยนี่ก้ออารยะมากเลยนะ 555 แม้ว่าเสื้อกับผ้านุ่งสีมันจะไปคนละทาง และคนกลุ่มนึงอาจมองว่า ไม่ศิวิไลซ์เหมือนกับที่มาตรฐานใจเขากำหนดไว้
อะไรคือ "ไม่รู้ว่าอาหารที่อร่อยมันเป็นยังไง" ถ้าไม่เคยกินแล้วบอกว่าไม่น่าจะอร่อย อันนี้อาจใช่นะ ว่าอคติทั้งๆที่ยังไม่ได้เอาลิ้นแตะลิ้มรส แต่ฉันนี่ พยายามกินนะ ได้เอาเข้าปาก ลองดูมาแล้ว ลิ้มรสแล้ว พยายามกินแล้ว แต่มันไม่อิน มันผะอืดผะอม ชวนอ๊วก กลืนไม่ลง ก้ออาเจียนออกมา แล้วไม่อยากลองกินอีก มันก้อเท่านั้น ทำไม่จะไม่รู้ว่าอะไรอร่อยอะไรไม่อร่อย
คุณนี่ก้อแปลกๆนะ ไม่เข้าใจความเป็นตัวตนของคนอื่นเขา เอาจิตตัวเองเป็นมาตรฐาน แล้วตัดสินชาวบ้านที่เขาคิด/รู้สึกต่างจากตัวเอง มีอี้โก้สูงเหมือนกันนะ รู้ตัวไหม?
ผมศรัทธาในตัวท่านส.นะครับ
อะไรในโลกเป็นของเจ้า ฟ้าสกาวดาวเดือนทั้งนั้นหรือ
สิ่งแน่แท้เป็นของเราคือ ความโลภสมบัติบ้าอจินไตย
อยากได้ไว้ทำไมดวงเดือน เหมือนป่าช้าอ้างว้างกว้างใหญ่
เอื้อมได้แล้วมุ่งหมายสิ่งใด รกแก่ใจดุจขยะปฏิกูล
ปลงตกเถิดแก้วแหวนเงินทอง ล้วนของจักรวาลไร้วันสูญ
แสวงหาปัญญาญาณเทิดทูน มูลค่ากว่าแก้วแหวนเงินทอง
ถึงเจ้ายึดได้ทุกดวงดาว จบฟากฟ้าสกาวเป็นเจ้าของ
งกกรรมสิทธิ์หลงคิดครอบครอง จะจับจองอยู่ชั่วครู่หายใจ
จะคืนกากอสุภซากแด่ดิน โลหิตสิ้นคืนธาตุน้ำไหล
ธาตุลมคืนลมเกรียงไกร ธาตุไฟคืนไฟในสากล
เจ้าวิปริตคิดค้นยึดถือ แย่งยื้อพิภพนี้เสียสับสน
ปวงมนุษย์ดุจสัตว์สัปดน ร้ายกาจจนราวโรคร้ายแรง
เจ้าเล่ห์หนอนบ่อนเวิ้งจักรวาล จะผลาญดาวต่างต่างแห้งแล้ง
เสียชาติเกิดมาค่าแสนแพง รู้แจ้งว่าอุบาทว์ชาตินรกานต์
จะสร้างระเบิดเชื้อโรคอีกหรือ ช่างดื้อบ้ากว่าสัตว์ดิรัจฉาน
ระยำอำมหิตกว่ายักษ์มาร เร่งให้ไร้ศานติสุขทุกชีวา
ให้เร่งฟันฆ่าบ้าสงคราม ตะกรุมตะกรามกัดกันเสมอหมา
ให้หลงวิทยาศาสตร์จนบ้า ต่ำช้าโฉดแท้แลน่ากลัว
โง่งมโรคจากโลกพระจันทร์ แท้มันคือโรคร้ายแสนชั่ว
มหาพรหมเลวผิดเต็มตัว แกตามัวสร้างมนุษย์ขึ้นมา
เร่งลบชาติพันธุ์มันสิ้นโคตร สาปให้โฉดเขลาโง่เง่าบ้า
เอาอามิสต่างต่างล้างปัญญา ให้ฆ่ากันเองอลเวงเอย
อังคาร กัลยาณพงศ์
คนดีแต่ถูสถาบันขับออกไป คงมองได้.2มิติ หนึ่ง สถาบันนั้นไม่ดี สองคนที่อ้างว่าดี ก็ไม่ดีจริง(จึงถูกขับออกไป)
ความรู้ป.4 อย่างผม
ชอบบทกวีของ
คุณ วานิช จรุงกิจอนันต์ ครับ
ไม่ชอบสำนวน โวหาร ภาษาเหย่อหยิ่ง
ของบรรดา นักกวี มีสติ๊กเกอร์
ที่ใช้คำศัพท์หรูๆ สูงๆ
ไม่มีบันได ปีนฟ้าไปอ่านครับ
( ความชอบส่วนตัว ) ครับ
🥰🥰🥰🙏🙏🙏
ทึ่งสติปัญญาของคุณ ส ความจำเป็นเลิศเหลือเกิน ไม่เคยเห็นท่านติดนึกชื่ออะไรไม่ออกเลยสักครั้ง
แม้แต่ อ.ถวัลย์ยังยกย่องเลย ท่าน อ.อังคาร
ท่านอังคาร จะลุกขึ้นมาบอกว่ากูก็รู้กาละเทศะ
แล้วอังคารไปวุ่นวายอะไรกับ
จิตร ภูมิศักดิ์
ฝีมือการวาดเกรยองหาใครเสมอเหมือนไม่
ครั้นเพลาโพล้เพล้เวหาสน์ แสงสูรย์สาดส่องภวังค์ครั้งสุดท้าย
สังเวชเราเหงาหงอยมากมาย ภาพนั้นชวนให้น้ำตานอง
นกกระจิบจับหนอนป้อนลูกน้อย ที่เกาะคอยอยู่บนกิ่งมะเดื่อปล้อง
ละอ่อนออเซาะแม่แซ่ซ้อง ร่ำร้องขอแต่เหยื่อพร่ำเพรื่อไป
นางแม่นกงกหาหนอนกระจิ๊ดริด ตั๊กแตนนิดนิดบินขวักไขว่
บินตามใกล้ไล่จิกไปเร็วไว มาป้อนให้ลูกอ่อนจนอ่อนแรง
ที่ไหนเล่าลูกนกจะนึกถึง วิญญาณซึ่งเสียสละกล้าแข็ง
กว่าจะซึ้งถึงน้ำใจว่าค่าแพง พ่อแม่ก็แห้งแล้งจมดินทราย
อังคาร กัลยาณพงศ์
ขอบพระคุณมากครับ🙏
ด้วยคารวะ
เพลงที่ใช้เป็นไตเติ้ลคือเพลงอะไรครับ เพราะดี
เป็นเพลงไทยเดิมชื่อว่า ขับไม้บัณเฑาะว์ครับ
@@phapiroonilk8860 ขอบคุณครับ
กวีของอังคารคุมอารมณ์ไม่ได้ดีเท่า ร.2
ร.2 ไม่ดีเท่า เจ้าฟ้ากุ้ง ผลงานด้านงานเขียนของอังคาร เอาจริงๆ ห่วยแตก ออกแนวดัดจริต สมสลิ่ม
กวีคือคนปล่อยพลังทางความคิดออกมาเป็นบทประพันธ์ครับ จะควบคุมอารมณ์เพื่ออะไรครับ สำหรับความคิดผมนะ ความสามารถทางกวีของท่านอังคาร อย่าว่าแต่บทกวีของรัชกาลที่2เลย แม้แต่บทกวีของสุนทรภู่ ก็ยังเทียบไม่ได้กับบทกวีของท่านอังคารครับ
@@phapiroonilk8860 กวีศรีสลิ่ม ดัดจริตแม้แต่ลายมือ บายๆ
แหวกแนวเพราะกล้าแซะ เลยดูเด่น ดีหรือเปล่า? ถามสามกีบดู
อ่านหนังสือของท่านค่ะ
ท่านอย่าลืมคำว่า บุณคุณ อย่าจำแต่เนรคุณ แผ่นดิน
☺️🇹🇭
เบื๊อก
🌚
คนเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเผื่อไม่รู้จักระงับอารมณ์ก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว กาละเทศะคงไม่รู้จัก
คุณพูดถึงอะไร
อะไรของมัน55
สมัยก่อนครับ สมัยก่อน ตอนนั้นท่านยังไฟแรงอยู่ และธรรมดานะครับ คนที่เป็นอัจริยะด้านใดด้านนึงเนี่ย มักจะมีความประพฤติที่ไม่ค่อยเหมือนกับชาวบ้านเขา
เอาจริงๆ งานของอังคารห่วยแตก ลุ่มๆดอนๆ
@@nantamakot8560 ศิลป์ปลอมๆ หลอกชนชั้นกลางในเมืองดัดจริต ลายมือยังดัดจริต กวีปลอมของพวกสลิ่มรอยัลลิสต์ ที่เวลาใกล้หมด
ไม่ควรเป็น..ดีแล้วค่ะ เพราะความคิดท่าน..แปลกๆ
อยากเห็นก็เป็นได้หรอกครับ
นักบิดเบือน
ผมเห็นภาพสีของท่านอังคารเห็นหน้าอาจารย์เจ้าอาวาสวัดร่องขุ่นลอยมาเลย
ท่านทำให้เรารู้เรื่องบุคคลสำคัญมากมาย
ผมอยากมีสมองปราชญ์เปรื่องอย่างท่านจริงๆครับท่าน