จากผู้ที่เคยใช้มัลติ ทั้ง Boss และ Line 6 นะครับ ส่วนมาก Boss เขาจะมีแอมป์ในสไตล์ของเขาโดยเฉพาะครับ แล้วก็ภาค Modul ในส่วน Helix จะเน้นภาคจำลองแอมป์ เอฟเฟค มากกว่า เนื้อเสียงคล้ายๆกันครับ แต่อยู่ที่เนื้อเสียงของแต่ละตัวเอฟเฟคมากกว่า ต้องลองดูครับ ใครที่ชอบ Boss ในสไตล์ของเขา ใน Line 6 ก็มีซาวด์โดยเฉพาะครับ การทำในของเอฟเฟคคนละสไตล์ครับ สุดท้ายอยู่ที่ตัวเองชอบครับ
จากคนที่ main boss มาก่อน (ME70 GT1 Katana) เห็นด้วยตรงที่ถ้าเล่นเดี่ยวๆมันจะรู้สึกว่าซาวด์มันแหม่งๆ มันมี compress ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน+ย่านlow mid ที่โคตรunique แต่พอเล่นรวมกับวงมันออกมาดีอย่างน่าประหลาดใจ😆 ส่วน line6 ผมใช้ pod go มีความรู้สึกเหมือนกันว่าซาวด์มันค่อนข้างสำเร็จรูปเหมือน studio ยิ่งเล่นกับแบ๊คกิ้งแทรค ยิ่งเนียน เล่นกับวงก็หล่อๆ แต่แอบปรับยากนิดนึง ถ้ามือใหม่มาใช้ผมว่าเหนื่อยหน่อย
Mooer ge300 กับ line6 pod go เลือกตัวไหนดีครับ
จากคนเล่น Boss gt10 gt100 แล้วโดดไปเล่น Helix LT นะครับ อาจจะเทียบรุ่นกันไม่ค่อยได้ เพราะคนละ Gen ละ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมชอบใน Boss คือ ในยุคนั้นแทบไม่มีเอฟเฟคตัวไหนที่สามารถใช้ปุ่มเดียวเปลี่ยนเสียงสลับกัน 2 เสียงได้ ซึ่งประหยัดพื้นที่มาก กับคนที่ต้องการเล่นซาวที่หลากหลาย ผมสามารถปรับให้ ปุ่มเปลี่ยนพรีเซต 1 กดอีกครั้งสามารถใส่เสียง OD + Delay หรือมากกว่านั้นได้ กดสลับไปสลับมาได้ ง่ายกับการเล่นเวลาคลีนแล้วอยากบูส OD ท่อนฮุคไรงี้ ไม่ต้องไปกดปุ่มอื่นเลย กดปุ่มเดิมเอา แล้วปุ่ม Control เราเอาไว้บูสโซโล่อีกที คล่องตัวมากเวลาเล่น อีก 3 พรีเซตสามารถไปตั้งข้างในได้อีกว่าจะเอาอะไรใส่เพิ่ม เท่ากับว่า 1 พรีเซตมี 2 เสียงสลับไปมา โดยไม่ต้องไปยุ่งกับปุ่ม Control เลย แต่พอมาใช้ Helix แล้วรู้สึกว่า แรกๆปรับยากครับ เพราะมันเยอะมาก เราต้องศึกษาเพิ่มอีกเยอะเลย แต่พอใช้เป็นมันเหมือนอีกโลกนึงของการใช้เอฟเฟคเลย เหมือนเราเอาปลั๊กอินยกเข้ามาไว้ใน Helix แล้วเรียงกัน ซาวจะออกมาคล้ายห้องอัด โดยที่ส่งไป Mixer แล้ว แทบไม่ต้องคัดอะไรมากมาย มีฟังชั่นการใช้ที่หลากหลาย แล้วก็ Snapshot ที่เป็นจุดโหดของเค้าเลย เปลี่ยนเสียงแบบไม่กระตุก Parameter ต่างๆสามารถตั้งให้ตอบสนองกับ Snapshot มี UI ที่ใช้โคตรง่าย ไม่ต้องก้มนาน ถ้าเทียบกับ BOSS (ผมไม่ถนัดฟังชั่นเท้าปรับครับ) เสียงเหมือนแอมป์จริง แล้วก็ฟังชั่น Block ใต้ Block (ไม่รู้เรียกว่าอะไร ที่สามารถดึงเอฟเฟคลงมาแถวย่อยได้) เวลาปรับ Delay Reverb พอเอาไว้แถวย่อยมันดูกลมขึ้นมากเลยครับ โดยรวมแล้ว คงไม่เปลี่ยนอีกนานละผม ใช้ยาวๆ จนพังกระจุยอะ
ทุกตัวมีจุดดีที่ต่างกันไป ในแง่การใช้งานและแม้กระทั่งเรื่องเสียงครับ ซึ่ง การใช้งานแบบนี้ ตอนนี้พวก multi ตัว top assign ลักษณะนี้ได้หมดทุกยี่ห้อ และเสียงดีทุกยี่ห้อ เรื่องการ routing เสียงอาจมีต่างบ้าง อย่าง ที่ส่ง effect เปน parrarell gt1000 และ fractal ก้ทำได้เช่นกันครับ
โดยสรุปผมว่าผลลัพธ์มันต่างแหล่ะแต่ไม่ได้ต่างกันในแง่อันไหนดีกว่าแต่ชอบอันไหนมากกว่า
@@uncompressedth เห็นด้วยเลยครับพี่ เทคโนโลยีมันไปไกลมากสมัยนี้ สุดท้ายแล้วแต่เราชอบจริงๆครับ ใช้งานได้เหมือนกันหมด เสียงดีหมดทุกตัว แต่หลังจากใช้ Helix คือแบกหลังอานเลยครับ หนักจัด 555
เดี๋ยวนี้มี hx stomp xl นะครับเบาหลัง!!!!
@@uncompressedth ใช้อันนั้ไปก่อนครับพี่ 555 คิดแล้วคิดอีกผม จะเปลี่ยนดีไหม
เสียงเหมือนกัน แต่เลาลงน้าาาาาา สบายน้าาาาาา
จากผู้ที่เคยใช้มัลติ ทั้ง Boss และ Line 6 นะครับ
ส่วนมาก Boss เขาจะมีแอมป์ในสไตล์ของเขาโดยเฉพาะครับ แล้วก็ภาค Modul ในส่วน Helix จะเน้นภาคจำลองแอมป์ เอฟเฟค มากกว่า เนื้อเสียงคล้ายๆกันครับ แต่อยู่ที่เนื้อเสียงของแต่ละตัวเอฟเฟคมากกว่า ต้องลองดูครับ ใครที่ชอบ Boss ในสไตล์ของเขา ใน Line 6 ก็มีซาวด์โดยเฉพาะครับ การทำในของเอฟเฟคคนละสไตล์ครับ สุดท้ายอยู่ที่ตัวเองชอบครับ
งั้นรบกวนอาจารย์ป๊อบอีกหน่อยนะครับ ระหว่าง boss gt 100 กับ zoom g 11 อาจารย์จะเลือกใช้ตัวไหนครับ?
อาจารย์ปอบ ไม่อยู่นะครับ น่าจะหนีหมอปลาอยู่ครับ
ทั้งสองตัวผมใช้ได้ทั้งคู่ อยู่ที่ผมมีอะไรจะใช้อะไรกับอะไร ถ้าส่วนตัว ใช้เล่นวงกลางคืนแนว ร้อค เมทัล ที่ผมเล่นผมก็คงเลือก zoom g11 เพราะคาแรคเตอร์โมเดล ตอบโจทย์ผมมากกว่า
@@uncompressedth
ขอบมากคุณครับ! อาจารย์ป๊อปหนีไปไหนแล้วเนี่ยครับ
ไม่ทราบครับ ผมชื่อป๊อป ไม่ใช้ปอป!!!
ปัจจุบัน headrush แพ้สองตัวนี้ชัดเจนแล้วใช่ไหมครับ
ลองฟังในคลิปดูครับ จริงๆ มันหลักการเดียวกัน ครับ
สวัสดีดี...จ๋าาาา 😁😁
แต่ไดรเวอร์bossไม่รู้เป็นไร
โหลดไม่ได้แปลก ปล ผมใช้Boss GT1 ครับ
ลอง ปรึกษาทางธีระดู ครับปัญหาพวกนี้ มันจุกจิก มันอาจจะแค่ สาย usb ไม่ใช่แบบ data ก็ยังเป็นไปได้เลยครับ
สะบายดีอาจานboss gt1000คักบ่ออาจานข้อยfcจากสปปลาวครับท่านอาจาน
ของดีครับ รายการเรามี รีวิว ลองใช้ หลายเทป เลยครับ
Bossดีสุด