หนึ่งในเป้าหมายที่ไม่ควรละเลย
HTML-код
- Опубликовано: 26 окт 2024
- มีปรากฏหลักฐานในอัลกุรอานจำนวนมากที่กำชับใช้ให้มีการขออภัยโทษ ส่งเสริม กระตุ้น และอธิบายถึงผลที่ได้รับ รวมถึงร่องรอยของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เสร็จสิ้นจากการเคารพภักดี และหลังจากที่ได้ประกอบอิบาดะฮฺอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นที่ประจักษ์ว่าส่วนหนึ่งจากจริยวัตรของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านจะปิดท้ายการประกอบคุณงามความดีด้วยการขออภัยโทษ (อิสติฆฟารฺ) ดังมีปรากฏในเศาะฮีหฺมุสลิม
“แท้จริงท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อเสร็จสิ้นจากการละหมาด ท่านจะกล่าวอิสติฆฟารฺ 3 ครั้ง”
(มุสลิม : 591)
และยังมีรายงานว่า ท่านจะปิดท้ายการละหมาดในยามค่ำคืนด้วยการกล่าวอิสติฆฟารฺ ดังที่อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
“และบรรดาผู้ที่ขออภัยโทษในช่วงสุดท้ายของยามค่ำคืน”
(อาล อิมรอน : 17)
และอัลลอฮฺตรัสอีกความว่า
“และในช่วงสุดท้ายของยามค่ำคืนพวกเขาจะขออภัยโทษ”
(อัซ-ซาริยาต : 18)
อัลลอฮฺได้บอกถึงลักษณะของพวกเขาว่า มีความมุ่งมั่นในการละหมาดยามค่ำคืนและเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ โดยที่พวกเขาเห็นว่าตัวเองยังมีความบกพร่องอยู่อีก ดังนั้นพวกเขาจึงขอการอภัยโทษต่อพระองค์ ด้วยเหตุนี้ พระองค์อัลลอฮฺ จึงทรงปิดท้ายสูเราะฮอัล-มุซซัมมิล ซึ่งเป็นสูเราะฮฺที่ได้บอกเกี่ยวกับการละหมาดในยามค่ำคืน ด้วยคำสั่งที่พระองค์ตรัสความว่า
“และจงขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺเถิด เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษเสมอ”
(อัล-มุซซัมมิล : 20)
และยังมีบทบัญญัติแก่ผู้ที่อาบน้ำละหมาด ให้ปิดท้ายด้วยการกล่าวเตาบะฮฺ (กลับเนื้อกลับตัว) ดังนั้นการปิดท้ายการประกอบคุณงามความดีที่สวยงามยิ่งคือการเตาบะฮฺ และการกล่าวอิสติฆฟารฺนั่นเอง
จากอุมัร บิน อัล-ค็อฏฏอบ เราะฏิยัลลอฮุอันฮุกล่าวว่า ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
“บุคคลใดทำน้ำละหมาดอย่างประณีตครบถ้วนสมบูรณ์ ต่อจากนั้นเขากล่าวว่า
อัชฮะดุอันลาอิลาฮา อิลลัลลอฮฺ วะอันนะมุหัมมะดัน อับดุฮุ วะรอสูลุฮุ
(ความว่า ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่สมควรแก่การเคารพภักดีนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าวของอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์)
โอ้อัลลอฮฺโปรดให้ฉันเป็นคนหนึ่งจากผู้ที่กลับเนื้อกกลับตัว และเป็นคนหนึ่งจากผู้ที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ แนนอน ประตูต่างๆของสวรรค์ทั้งแปดบานจะถูกเปิดแก่เขา ซึ่งเขาสามารถเข้าทางประตูบานใดก็ได้ตามที่ประสงค์”
(อัต-ติรมิซียฺ : 50)
และอัลลอฮฺตรัสไว้ในโองการที่เกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีหัจญ์ ความว่า
“แล้วพวกเจ้าจงหลั่งไหลกันออกไปจากที่ที่ผู้คนได้หลั่งไหลกันออกไป และจงขออภัยต่ออัลลอฮฺเถิด
แท้จริงอัลลอฮฺนั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 199)
ความหมายของคำว่า “หลั่งไหล” ในที่นี่คือการเคลื่อนตัวจากมุซดะลิฟะฮฺไปสู่มีนาในวันที่ 10 เดือนซุลหิจญะฮฺ เนื่องจากผู้ประกอบพิธีหัจญ์ได้ทำอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเป็นการปิดท้ายภารกิจหัจญ์ที่นั่น
ชัยคฺอับดุรเราะมาน อัส-สะอฺดีย์-เราะหิมะฮุลลอฮฺ-ได้อธิบายโองการนี้ว่า “แท้จริงแล้วเหตุผลของการขออภัยโทษนั้น เพื่อเป็นการเติมเต็มในความบกพร่องและการละเลยที่เกิดขึ้น "
ท่านกล่าวว่า “การขออภัยโทษนั้น เพราะความบกพร่องที่เกิดจากบ่าวขณะทำการอิบาดะฮฺภักดีอัลลอฮฺและเป็นการรำลึกในความโปรดปรานของพระองค์ที่เอื้ออำนวยความสะดวกแก่เขาในการภักดีที่ยิ่งใหญ่นี้ และทำนองเดียวกันนี้ ทุกครั้งที่เสร็จสิ้นจากการอิบาดะฮฺบ่าวควรจะขออภัยจากอัลลอฮฺในความบกพร่อง และขอบคุณพระองค์ที่เอื้ออำนวย มิใช่เป็นอย่างผู้ที่ทำการภักดีแล้วทวงบุญคุณ และขอแลกเปลี่ยนกับระดับอันสูงส่ง เพราะนั่นคือ ผู้ที่ควรแก่การตำหนิ การปฏิบัติของเขาก็ไม่ถูกตอบรับ ขณะที่บุคคลแรกเหมาะสมที่จะได้รับการเอื้ออำนวยให้ปฏิบัติการงานอื่นๆ อีก และการงานของเขาก็จะถูกตอบรับ”
และส่วนหนึ่งจากคำสอนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม คือ การปิดประชุมโดยการกล่าวคำขออภัยโทษ ดังรายงานของอบูดาวูด จากอบูบัรซะฮฺอัล-อัสละมียฺ -เราะฎิยัลลอฮุอันฮู-
“เมื่อท่านนบี ต้องการจะลุกขึ้นจากที่ประชุมหนึ่งท่านจะกล่าวว่า
"สุบหานะกัลลอฮุมมาวะบิหัมดิกา อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะ อิลลาอันตา อัสตัฆฟิรุกาวะอะตูบุอิลัยกฺ”
(มีความหมายว่า มหาบริสุทธิ์ยิ่งพระองค์อัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญพระองค์ ข้าขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ข้าขออิสติฆฟารฺ/ขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอเตาบะฮฺ/กลับเนื้อกลับตัวสู่พระองค์)”
(อบูดาวูด : 4861)
และจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
"ผู้ใดได้นั่งในที่ประชุมหนึ่งและได้พูดคุยเอะอะแล้วเขาได้กล่าวก่อนจะยืนออกไปจากที่ประชุมนั้นว่า
"สุบหานะกัลลอฮุมมาวะบิหัมดิกาอัชฮะดุอัลลาอิลาฮะ อิลลาอันตาอัสตัฆฟิรุกาวะอะตูบุอิลัยกฺ”
(มีความหมายว่า มหาบริสุทธิ์ยิ่งพระองค์อัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญพระองค์ ข้าขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ข้าขออิสติฆฟารฺ/ขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอเตาบะฮฺ/กลับเนื้อกลับตัวสู่พระองค์)
เขาก็จะได้รับการอภัยโทษจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่ประชุมดังกล่าวนั้น"
(อัต-ติรมีซียฺ : 3429)
ยิ่งกว่านั้นท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ปิดท้ายชีวิตของท่านด้วยการบรรลุถึงแก่นแท้ของการภักดีและการเชื่อฟังที่สมบูรณ์ โดยการขออภัยโทษ ดังที่มีบันทึกในเศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮา ว่า
“ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวขณะที่ฉันเงี่ยหูฟังก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ซึ่งท่านนอนหนุนตักของนางอยู่ว่า
“โอ้อัลลอฮฺโปรดอภัยโทษให้แก่ฉัน โปรดเมตตาต่อฉัน และโปรดให้ฉันได้กลับไปถึงพระองค์ผู้สูงส่ง”
(อัล-บุคอรียฺ : 4440)
(ละฎออิฟ อัล-มะอาริฟ หน้าที่ 362)