Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
ตื่นเถิดชาวพุทธ เนื้อหาควรฟังและแชร์02:03 สวดมนต์เพื่อสิริมงคลชีวิต สวดมนต์ข้ามปี พิธีกรรมนอกคำสอนพระพุทธเจ้า03:33 พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้สวดคำไม่รู้จักแต่ให้ฟังธรรมภาษาของตนให้เกิดปัญญา 04:12 สวดเพื่ออ้อนวอนเพื่อสิริมงคล เพิ่มบาป ทางเสื่อม ไม่ต่างจากไปเคาท์ดาวน์04:42 สวดแล้วสบายใจ สบายใจไม่ใช่บุญ สบายใจเกิดกับความต้องการเป็นบาป05:10 สวดมนต์ข้ามปีไม่เป็นสิริมงคลกับชีวิต ไม่มีในมงคล ๓๘ และสวดเพิ่มกิเลส06:20 สวดต้อง ๑๐๘ จบจะได้ขลัง หลงผิดต้องตามกรรม คำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผลกับชีวิต07:06 ฟังพระธรรมเข้าใจในภาษาตน เกิดปัญญา เป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้ว08:23 สวดสาธยายคำพระพุทธเจ้าเพื่อได้ ไม่ใช่เพื่อละ ไม่เกิดบุญ ไม่มีผล(อาฏานาฏิยสูตร)12:40 ไม่ใช่ให้สวดแต่สาธยาย แต่ไม่ใช่สาธยายปฏิจจสมุปบาทโดยไม่เข้าใจ14:35 สวดโพชฌงค์ ฟังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ทำให้ตนเองและคนอื่นหายโรคไม่ได้17:30 สวดมนต์ข้ามปีประเพณีเพิ่มกิเลสเพิ่มความเห็นผิดมีโทษมากกว่าไปเคาท์ดาวน์18:22 สวดคำแต่งใหม่ พุทธชัยมงคล เพิ่มกิเลส ทำลายคำพระพุทธเจ้า18:45 ฟังเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่อธิบายโดยละเอียดให้เข้าใจ ไม่ต้องไปสวดจำ สนทนาเขาใหญ่ขออนุโมทนา
ความเข้าใจ ของแต่ละบุคคล ไม่เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นสำเร็จบรรลุธรรมไปหมดแล้วค่ะ
@@อรวรรณสิงห์โตทอง-ส7ภ ต้องใช้คำว่า ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เพราะคำว่าเข้าใจ หมายถึงปัญญาความเห็นถูก ทุกคนไม่ได้มีความเห็นถูก สะสมความเห็นผิดมาด้วย จึงมีพวกอัญญเดียรถีย์ที่เห็นผิด คิดตรงข้ามพระพุทธเจ้าครับ ดังนั้น ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน คือ มีทั้งคิดถูกและคิดผิด แต่พระธรรมที่กล่าวในยูทูปนี้เพื่อให้ผู้ที่สะสมความเห็นถูกได้ฟังและเข้าใจถูก ไม่ใช่กับบุคคลที่เห็นผิด คิดผิด ครับ ขออนุโมทนา
อยากให้อธิบายเรื่องกสิณครับ
ถ้าสวดแล้วสบายใจเป็นบุญ ? คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญ เข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับบุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐพอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิดขออนุโมทนา
สวดมนต์ข้ามปีก็ดีกว่าไปกินเหล้า ?เพราะไม่รู้ว่าสวดด้วยความไม่รู้ อยากได้มงคลชีวิต คือ กิเลส คือความอยกา ความอยากไม่ดี และเมื่อไม่ได้ศึกษาพระะรรม จึงเข้าใจผิดคิดว่า สวดแล้วจะได้สิ่งดีกับชีวิต ลืมเรื่องกรรมและผลของกรรม เป็นการอ้อนวอนขอ ความเห็นผิด พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าอันตรายกว่าธรรมอื่น เป็นกิเลสที่อันตราย ดังนั้น หากกล่าวตรงตามจริง ความเห็นผิดที่กระทำอยู่นั้นที่เข้าใจผิด เป็นอันตรายกว่าอบายมุขอย่างอื่น แต่ต้องเข้าใจให้ถูกว่าในคลิปไม่เคยสนับสนุนบอกให้ไปทำอกุศลอย่างอื่น แต่กลับบอกให้ทำประเพณีที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ แทนที่จะสวด ก็ฟังพระธรรมด้วยภาษาตนที่ฟังเข้าใจเกิดปัญญา ละกิเลส นี่คือสิ่งที่แนะนำให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเองครับ ขออนุโมทนาดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป เหมือนกับมิจฉาทิฏฐิ(ความเห็นผิด)นี้เลย ดูก่อนภิกษทั้งหลาย เมื่อบุคคลเป็นผู้มีความเห็นผิด กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
29/12/65สวัสดีค่ะอาจารย์...ป้า..อีกคนที่ทำทุกอย่างแบบผิดๆที่อ.กล่าวมา....แต่พอมาติดตามอาจารย์ป้าก็ได้ปัญญาได้สติ ค่ะ...
ขออนุโมทนาครับคุณป้าในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
สวดไม่เดือดร้อนใคร ไม่เบียดเบียนใครก็สวดได้ ?แม้ตอนนี้อยู่เฉยๆก็ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่กิเลสเกิดขึ้นในใจแล้วแต่ไม่รู้ เห็นแล้วไม่รู้อะไร โมหะเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกเบียดเบียนด้วยกิเลสในใจของตนเองเกือบทุกขณะ นี่คือพระปัญญาที่พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของกิเลส โลภะเกิดขึ้นเมื่อใด ทำร้ายตนเองแล้ว เพราะไม่เข้าใจจึงสวด ครับ เพราะผู้ที่เข้าใจพระธรรม ย่อมระลึกถึงพระคุณโดยไม่ต้องสวด ดังนั้นเข้าใจผิดว่าสวดตอนไหนก็ได้บุญ นกแก้วนกขุนทอง ก็ท่องคำสวดได้ ครับ เด็กไม่ศึกษาธรรม ก็สวดได้ครับที่มีความจำดี สัญญา จึงไม่ใช่ปัญญา ครับ สัญญาจำ เกิดกับอกุศลได้ และคำพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สิริมงคล จิตที่ดี ที่ไม่ใช่ความเข้าใจผิดที่คิดว่าสวดเป็นสิริมงคล เป็นมงคลเพราะเข้าใจถูก สวดไม่รู้อะไร แปลแต่ไม่เข้าใจ เป็นความไม่รู้ ไม่ใช่สิริมงคลแต่เพิ่ม อัปมงคล และ แม้คำว่า แม้เพราะเหตุนี้ แปลมาแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจคำนี้ แม้เพราะเหตุนี้คืออะไร ก็เป็นการท่องจำ สัญญาจำ ที่ไม่รู้อะไรนั่นเองครับ ดังนั้น สำคัญที่ต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจถูกต้อง ครับ เหตให้เกิดปัญญา คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจในภาษาที่เข้าใจ ไม่ใช่ไปสวดคำที่แปลแล้ว แต่ไม่เข้าใจคำนั้นตามคำพระพุทธเจ้าครับ ขออนุโมทนากิเลสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ในใจ เดือดร้อนแล้ว แม้อยู่เฉยๆไม่เบียดเบียนใครปุริสสูตร [๓๒๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามแห่งท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้วจึงทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมกี่อย่างเมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุคคล ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย. [๓๒๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่าง เมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย ธรรม ๓ อย่างเป็นไฉน ธรรม ๓ อย่าง คือ ๑. โลภะ ๒. โทสะ ๓. โมหะดูก่อนมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างนี้แล เมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุคคล ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย. [๓๓๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์คำร้อยแก้วนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า โลภะ โทสะ และโมหะ ที่เกิดขึ้นในตนย่อมฆ่าบุคคลผู้ใจบาป เหมือนขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ฉะนั้น.
จริงครับอาจาร์เห็นด้วยครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ
เป็นความรู้ที่ถูกต้องครับผม
กราบนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงสูงยิ่ง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ในพระธรรมที่ได้แสดง เพราะเข้าใจถูกจึงไม่เคยสวดมนต์ข้ามปี กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามค่ะ
เป็นจริงตามอาจารย์ครับ เอาเวลาทำอื่นดีกว่า นั่งนานๆเมื่อยเหนื่อนเปล่า เอาเวลาไปบำเพ็ญประโยชน์อื่น บุญทำอื่นมีเยอะแยะไป
ขออนุโมทนาในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
สาธุๆ ขอให้ผู้บรรยายธรรม จงชี้แนะชี้ทาง เพื่อไม่ให้ ผู้ฟังปฏิบัติถูกทาง ไม่วังวนผิดทาง เอาเวลาไปทำถูกทางต่อไป
เข้าใจค่ะ พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไต้องอ้อนวอนขอเอาไม่มีจริงๆค่ะ ท่มนจะสอนให้ละกิเลส ไม่ให้โลภ ให้ปล่อยวาง แต่ก็พระสงฆ์ในวัดนั่นแหละเป็นผู้แนะนำให้ญาติโยมเข้าใจผิด แม้แต่พระเองยังหลงกิเลสอยากได้เงินทองด้วยลาภสักการะ
สาธุ ขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมมากค่ะ นอกจากจะทำให้ได้รับฟังความเข้าใจถูกความเห็นถูกเพื่อความมั่นคงแล้ว ยังมีคำใหม่ที่ต้องศึกษาเพื่อความเข้าใจที่มั่นคงขึ้นมาอีก ก็ต้องฟังซ้ำๆจนกว่าจะเป็นความเข้าใจที่มั่นคงจริงๆ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าลึกซึ้งจริงๆค่ะ ขออนุโมทนาในการเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าเพื่อความเห็นถูกความเข้าใจถูกแก่สาวกผู้ฟังด้วยนะคะ สาธุค่ะ
@@k.7781 เพียรบังคับบัญชาสภาพธรรมให้เป็นกุศลเป็นเรื่องเห็นผิดของผู้ไม่รู้ เพียรเข้าใจสภาพธรรมจนเป็นเหตุปัจจัยให้ได้เจริญกุศลทุกประการด้วยความเห็นถูกเป็นเรื่องของผู้รู้ ล้วนสอดคล้องทั้งสมมติสัจจะและปรมัตถสัจจะ จำชื่อจำคำเฉย ๆ ไม่เรียกเข้าใจพระธรรม ยิ่งจำชื่อมายังผิด ๆ ถูก ๆ แล้วบอกคนอื่นไม่รู้นี่ยิ่งดิ่งไปกันใหญ่
ขอบคุณครับอาจารย์เผดิม
สาธุๆๆ ผมเชี่อผมเข้าใจครับ ตาสว่างครับ อาจหาญมากครับ
ชี้ได้ขัดเจนค่ะ หนังสือธรรมมะที่ได้รับแจกมาก็แนะนำลาภสักการะ สวดเพื่ออยากได้ ต่อไปพยายามแยกแยะ
อนุโมทนาในความเห็นถูกครับ ฟังพระธรรมให้เข้าใจในภาษาของตนเพื่อเกิดปัญญา นั่นคือ พุทธประสงค์ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ / เป็นคำบอกสอนนอกศาสนาพุทธ
กราบอาจารย์เผดิมเป็นอย่างสุงค่ะ
ถูกทำเพื่อผลประโยชน์
นับถือพุทธแต่เข้าไม่ถึงพุทธ
กำลังคิดเรื่องนี้เลยค่ะ ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ผเดิม ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ในความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์ ธรรมะของพระพุทธองค์ละเอียดลึกซึ้ง ใครที่เข้ามาได้ยินได้ฟัง มีความเข้าใจตาม นั่นแหละกำลังพบเจอ สิ่งที่ประเสริฐยิ่ง เป็นคุณ อันประเสริฐยิ่งแล้วในชาตินี้ ท่านอาจารย์กล่าวได้ถูกต้อง ที่สุด เจ้าค่ะสาธุสาธุเจ้าค่ะ
ธรรมเตือนใจปีใหม่และสิ่งที่ไม่เคยคิดกันวันปีใหม่ ฤกษ์ดีปีใหม่ชีวิตใกล้ตายแล้ว และกำลังตายทุกๆขณะ ปีเก่าสู่ปีใหม่ ใหม่ทุกขณะ มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร หาแทบตายไม่มีอะไรติดตามไปได้นอกจากบุญและบาป ฤกษ์ดีเวลาดี คือ ขณะที่กุศลความดีเกิด โดยเฉพาะปัญญาความเข้าใจถูก ที่เกิดจากการฟังศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง ธรรมเตือนใจปีใหม่ ขออนุโมทนาสุปุพพัณหสูตร(ว่าด้วยเวลาที่เป็นฤกษ์ดี)ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น.สมัครไลน์ธรรม เข้าใจธรรม ได้รับธรรมดีๆ สนทนาสอบถามได้ กดลิงก์เพิ่มเพื่อนครับ lin.ee/yXRgXV6ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาด้วยกุศลจิตค่ะ 🙏🏻
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ธรรมะ พระพุทธองค์ละเอียดลึกซึ้ง ประโยชน์อย่างยิ่งเจ้าค่ะ สาธุสาธุเจ้าค่ะ
ได้ความรู้ครับ
สาธุครับ
ช่วยกันเผยแพร่พุทธศาสนาให้ถูกต้อง
สาธุค่ะ
มุทิตากับท่านด้วยยอดสับเกินแสน หมายถึงว่าสาระทางพุทธศาสนาแผ่ขยายออกไปมากยิ่งขึ้น สาธุครับ🙏
มันเป็นรูปแบบที่ลอกมาจากศาสนาอื่นหรือเปล่าครับ เพราะคนพุทธเองก็ยังมีความรู้เรื่องนี้น้อยมากเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่แนะนำคำสอนนี้ครับ
ฟังแล้วเข้าใจค่ะแต่ไม่โสดาบันฟังตกลงไม่ต้องสวดมนต์แล้วใช่ไหมค่ะ
ฟังพระธรรมให้เกิดปัญญาครับ ไม่ใช่สวดคำที่ไม่รู้จัก ครับ
สาธุในธรรมคำสอนค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ ที่ท่านนำมาเผยแผ่ สิ่งที่ไม่เคยได้ยินได้รู้จัก ขอบคุณมากค่ะกับธรรมะดีๆ
พระสงฆ์จำนวนไม่น้อย พาญาติโยมหลงทาง แอบแฝงพุทธพาณิชย์และลาภสักการะ
ขอกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ ในกาลบุญกุศลนี้ด้วยเทอญ...นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง.
พึ่งมีมา2-3ปีนะดูคลิปเข้าใจครับ
ขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะคะ ที่ช่วยอธิบายให้เกิดความเข้าใจถูก และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ เรื่องสำคัญเป็นอย่างมากคือเรื่องของการสะสมปัญญาความเข้าใจถูก ไม่ทำเพียงเพราะเขาบอก ไม่ทำเพียงเพราะเขาทำต่อๆกันมา แต่ควรจะพิจารณาโดยอิงจากคำสอนของพระพุทธองค์ พิจารณาตามด้วยความเคารพในพระปัญญา แม้จะอกุศลก็ไม่ใช่เรา แม้จะกุศลก็ไม่ใช่เราเช่นเดียวกัน ในทุก ๆ ขณะเป็นธรรมะที่เกิด ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของใครและไม่มีความเป็นสัตว์บุคคล ตัวตน ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ 🙏🏻💖
กราบอนุโมทนา🙏
เยียมครับ
สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ
วัดที่จัดงานสมโภชนี่ตัวดีเลย มีเต็มไปหมด ชวนให้ญาติโยมมาสวด มาสมโภชเยอะๆ จะได้ปัจจัยเยอะๆ จบงาน แจ้งยอด กี่แสนๆ ไหนจะถวายซองพระสวด พระนั่งปรก ไม่ได้สอนเรื่องบาปบุญ คุณโทษอะไรเลย ..อยากให้พระๆ ทั้งหลายที่ยังหลงทางได้มาฟังคุณเผดิม อาจทำให้ได้สติคืนมาบ้าง ทำตัวให้เป็นเนื้อนาบุญจริงๆคงจะเป็นบุญมากโขอยู่ และเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ฟังแล้วรู้สึกสับสนมากเจ้าคะ.สรุปคือจะเชื่อหลักสอนฉบับไหน
เชื่อการอธิบายตามคำพระพุทธเจ้าครับ มีหลักฐานอ้างอิงครับ
อย่างนั้นเกจิอาจารย์ที่มีมาแต่โบราณพากันสวดมนต์ก็ผิดเหรอค่ะ แต่เชื่ออย่าง ทำดีคิดดีพูดดีก็พอ
สวดมนต์ หลวงปู่ทั้งหลายเขาก็สวดตามกันมา : การฟังพระธรรม แสดงธรรม คือ ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้าไม่ใช่การสวดมนต์พระพุทธเจ้าไม่ได้สวดมนต์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม พระสาวก ไม่ได้สวดมนต์ แต่พระสาวกแสดงพระธรรมและฟังพระธรรม อุบาสก อุบาสิกา มาพระวิหารเชตวันตอนเย็น ไม่ได้มาสวดมนต์ แต่มาฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าและภิกษุสาวก เพราะ จุดประสงค์เพื่อเกิดปัญญาความเข้าใจถูก ละกิเลส แต่ไม่ใช่สวดมนต์ท่องคำไม่รู้จัก เพิ่มความไม่รู้(กิเลส) เพิ่มความต้องการ โลภะ(กิเลส) ที่อยากได้บุญ อยากได้อานิสงส์ อยากได้มงคล แต่ไม่เป็นมงคลเพราะเป็นกิเลส กลับมาสู่ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้า ไม่ตามผู้ไม่รู้ สมกับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง สมกับกล่าวว่าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่เชื่อตนเองก็ชื่อว่าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขออนุโมทนา
อ. ตรงจริงๆคะ สาธุ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุ อนุโมทนา
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะขอบคุณนะค่ะ
ถูกต้องครับ🙏🙏🙏
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ 🙏🙏🙏
สาธุในคำสอนตถาคตครับ อาจารย์
ขออนุโมทนาสาธุๆๆด้วยคะ..ท่านอาจารย์ผเดิม
เข้าใจแล้วครับ..ขอบพระคุณมากครับ..
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ เผดิม ที่ให้ความจริงในพระธรรมของพระพุทธองค์เพื่อไม่ให้หลงทางผิด คิดไปเอง ไร้ซึ่งเหตุผล ไม่ทำให้เกิดปัญญา ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เผดิมขอรับ
สวดมนต์ข้ามปี ก็ดีกว่าเลี้ยงฉลองดื่มเหล้าข้ามปี ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนและเบียดเบียนใคร จะขัดทำไม อยู่ที่ใจ ทำแล้วใจเป็นสุข มันผิดอะไร หลักการวิชาการไม่ได้ช่วยอะไร ศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจสบายใจของผู้ปฏิบัติ
สาธุค่ะ เราผู้หนึ่ง สวดเกือบทุกวัน บางวันสวดมนต์ พอมาเปิดร้านลูกค้าเงียบเราก็เกิดน้อยเนื้อต่ำใจทำไหมสวดมนต์แล้วทำไหมถึงไม่ดีขึ้น สรุปไม่ใช่การสวดมนต์แล้วชีวิตการงานจะดีขึ้น เป็นบาปกับตัวเราเองแท้เพราะเราไม่รู้ เพราะเราข้ามการฟังธรรมะสติเลยไม่รู้ สาธุค่ะ สติหลุดแท้ที่ผานมา
สวดอะไรก็บอกไม่ถุก.บาป.งงนะ.แล้วเวลาตายให้พระไปสวดไหมละแอด..แล้วให้ทำไงสงสัยนะ
@@กรวรรณช่วยสุข แนวคิดเค้าสวนทางของเดิมหมด ก็ตีความตามอัตตาของเค้าเองทั้งนั้นแต่ชอบอ้างคำกล่าวพระพุทธเจ้าเหมือนได้ยินกับหูได้ดูกับตางั้นแหละ ที่บันทึกไว้แน่ใจเหรอว่าพระพุทธเจ้าท่านกล่าวจริง
❤ใช่ครับผม
กราบอนุโมทนาสาธุท่านอาจารย์ค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์มากเลย
กราบขอบพระคุณมากครับ 🙏🙏🙏
หนุสวดเพื่อทำสมาธิเป็นหลักค่ะ
สวดมนต์ก็ทำให้เกิดสมาธิ : คนส่วนใหญ่เข้าใจสมาธิผิด (คิดว่าสมาธิดีหมด มีสมาธิที่ไม่ดีด้วย)ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจตั้งแต่คำว่าสมาธิ ว่า สมาธิ คือ อะไร?สมาธิ เป็นความตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ได้แก่ เอกัคคตาเจตสิก ซึ่งเป็นเจตสิกธรรมหนึ่งที่จะต้องเกิดร่วมกับจิตทุกขณะ ทุกประเภท ไม่มีเว้น ดังนั้น ทุกขณะมีสมาธิเกิดแน่นอน แต่ที่น่าพิจารณา คือ ถ้าเกิดกับอกุศลก็เป็นมิจฉาสมาธิ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเกิดกับกุศลก็เป็นสัมมาสมาธิ เพราะเป็นความถูกต้อง ในขณะที่เป็นกุศล จะเป็นอกุศลไม่ได้สมาธิ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว เป็นเจตสิกประการหนึ่งที่ตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด อารมณ์ คือ สิ่งที่จิตรู้ เมื่อจิตเกิดขึ้นต้องรู้อารมณ์ และก็จะต้องมีสมาธิซึ่งเป็นเอกัคคตาเจตสิกเกิดร่วมกับจิตทุกครั้งทุกขณะ ไม่เว้นเลย ตั้งมั่นในอารมณ์ที่จิตกำลังรู้ ดังนั้น ไม่ว่าจะนั่ง จะยืน จะนอน จะเดิน จึงไม่ปราศจากสมาธิเลย เพราะเกิดกับจิตทุกขณะ และที่ควรพิจารณา คือ สมาธิหรือเอกัคคตาเจตสิก เกิดกับอกุศลก็เป็นอกุศลสมาธิอกุศลสมาธิ เช่น การนั่งสมาธิ ไม่ควรเจริญ ไม่ควรประกอบ ซึ่งขณะนั้นเป็นไปกับด้วยความต้องการ อยากจะสงบ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความสงบ เป็นเรื่องของกุศลธรรม อกุศลสมาธิไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีปัญญาเป็นต้น มีแต่จะเพิ่มพูนความไม่รู้และอกุศลธรรมอื่นๆ ต่อไปในสมัยพุทธกาล อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นเพศฆราวาส ไม่ได้ทำอะไรให้ชีวิตผิดปกติ เพราะท่านเข้าใจว่า ธรรม เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน การเจริญอบรมปัญญา ความสงบจึงไม่ต้องไปทำอะไรให้ผิดปกติโดยการนั่งสมาธิ แต่ท่านเข้าใจถูกและอบรมปัญญาในชีวิตประจำวัน และทำกิจการงานดังเช่นคฤหัสถ์ในปัจจุบันด้วย ดังเช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่เป็นพ่อค้าและเป็นอริยสาวก และอบรมปัญญา เจริญกุศลในชีวิตประจำวัน มีการให้ทาน รักษาศีล อบรมปัญญา โดยไม่ได้ไปปลีกวิเวก หาที่นั่งสงบเลย เพราะความสงบ คือ จิตใจที่เป็นกุศลที่เกิดได้ในชีวิตประจำวัน เพราะจิตที่ดี สงบ ไม่ได้เลือกดังนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องสมาธิ ในสมัยพุทธกาลว่า สมาธิ มีสองอย่าง คือ สัมมาสมาธิ และ มิจฉาสมาธิ สมาธิใดที่เป็นความตั้งมั่น ที่ไม่ได้หมายถึง จะต้องไปนั่งสมาธิ แต่ขณะแม้เพียงขณะจิตเดียวก็มีสมาธิ แต่เป็นความตั้งมั่น ขณะจิตที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยที่รู้ความจริงที่เป็นวิปัสสนาภาวนา ขณะนั้นก็มีสมาธิด้วย และเป็นสัมมาสมาธิที่เป็นสมาธิที่ควรเจริญส่วนการกระทำที่ได้แต่ความนิ่ง ไม่ทำให้เกิดปัญญาความรู้ พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่าเป็น มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เพราะเกิดกับอกุศลจิต มี โลภะ และ โมหะ เป็นต้น คือ มีความต้องการที่จะทำ อยากที่จะสงบ อันเป็นความต้องการที่เป็นโลภะ และขณะที่นิ่งก็ไม่รู้อะไร ขณะนั้นก็มีโมหะเกิดร่วมด้วย พระพุทธเจ้าทรงติเตียนมิจฉาสมาธิว่าไม่ควรเจริญ ครับขออนุโมทนา
นอกคำสอนก็จริง แต่ก็ดีกว่าไปดื่มเหล้าเมายาครับ ปัจจุบันคนที่อ้างนับถือศาสนาพุทธ เป็นเพียงกระดาษเท่านั้นเอง(ทะเบียน) สรรพสิ่งในโลกล้วนสมมุติ
ดังนั้นเมื่อเข้าใจถูกครับว่าเป็นสิ่งที่นอกคำสอน ซึ่งเป็นกิเลส เป็นความเห็นผิด พระองค์ทรงแสดงว่าเป็นอันตรายกว่าอย่างอื่นครับ แต่เพราะไม่รู้จักกิเลส ก็เลยคิดว่าอันตรายน้อยกว่า ครับ ฟังเพิ่มเติมที่นี่ในวีดีโอนี้ครับช่วงเวลานี้ 04:12 สวดเพื่ออ้อนวอนเพื่อสิริมงคล เพิ่มบาป ทางเสื่อม ไม่ต่างจากไปเคาท์ดาวน์
ขอบคุณมากค่ะ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความกระจ่างค่ะ
เป็นคลิปที่ มีเป้าหมายชัดเจนและตรงประเด็นตามหลักของแก่น แท้แห่ง พุทธศาสนา อย่างยิ่งครับ ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆครับ ที่นำข้อความเหล่านี้มา ทำให้คนทั่วไปสามารถ ที่จะเข้าใจโดยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ โดยผ่านการไตร่ตรองอย่างผู้ที่มีปัญญา นี่สิครับสิ่งที่ควร จะนำมาเพื่อศึกษาและนำมาปฏิบัติด้วยความเข้าใจจริงๆ
เคยมีคนพูดแบบอาจารย์เหมือนกันค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขัดทุกอย่างที่เปํนพิธีกรรมพุทธ
ไม่ใช่พิธีกรรมพุทธ เพราะไม่รู้จักพุทธ เพราะไม่ศึกษาธรรม จึงสำคัญว่เป็นพิธีกรรมพุทธ ครับ
เป็นชาวพุทธมาตั้งนาน สงสัยมาตั้งแต่เด็ก สวดเพื่อขอ เพื่อสบายใจ แปลก็ไม่ออก เหมือนหลอกตัวเอง วันนี้ อ ช่วยตอบคำถาม ทำให้เข้าใจเหตุผลนับถือศาสนาได้ดีขึ้นมากๆครับ🎉😊
งั้นก็ไม่เข้าวัด เพราะพระส่วนใหญ่ สวดบาลีหมด
สาธุ 🙏
สาธุ
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ 🙏🙏🙏
เป็นธุรกิจ อย่างหนึ่งที่เอาศาสนา มาต่อยอด ก็เหมือนการสร้างพระเครื่อง พระบูชา เอามาจำหน่ายขายกัน
สาธุ.สาธุดีจังค่ะทียังมีคนรู้ชึ้งในแก่สานของพุทศาสนาออกมาเป็นกระบอกเสียงไห้ชาวพุทเราได้หูตาสว่างขึ้นมาบ้างไม่งมงายขอไห้ทำอย่างนี้ต่อไปนานๆนะคะขอไห้เจริญๆค่ะโลกนี้จะได้มีชีวิดสดไสขึ้นมา
สาธูๆๆคะอาจารย้จริงเจัาคะท่านเอาความจริงมาเปิดเจัาคะ
ขอขอบพระคุณท่สนอาจารย์มากๆคับ ผมพึ่งเข้าใจในวันนี้เอง จะต้องติดตามฟังอาจารย์เรื่อยๆไปคับ
สาธุสาธุ
สาธุ สาธุ สาธุครับอจ.
สาธุธรรมคำสอนค่ะอาจารย์เผดิม เข้าใจผิดมาตลอด
สาธุ...ครับ
เอาที่เราสะบายใจครับ
สาธุค่ะประโยชน์อย่างยิ่งละเอียดมากไดัเพิ่มความเข้าใจถูก.ฟังธรรมอาจาร์ตลอดค่ะ
แต่ก่อนก็ทำตามคนอื่น ตั้งแต่ศึกษาธรรมะแล้ว ทิ้งทุกอย่างหมดเลย มาฟังธรรมมะเพื่อความเข้าใจอย่างเดียว กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🌷🙏🌷🙏
สาธุๆอาจารย์ขอบคุญ ฉันสวดธรรมจักกับพระไตรปีฎกค่าอาจารย์สาธุๆๆ
ฟังคลิปนี้ครับ ruclips.net/video/Y2EWqDXGjFM/видео.html
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ความจริงคีอความจริง ความจริงนื้มืหนึ่งเดียว และนื่คีอความจริงขอขอบคุณเป็นอย่างสูง
สาธุค่ะ🙏🙏🙏
ใช้ครับ.ผมก็งงเหมือนกันว่าเราชาวพุธแต่ไปเอาบทสวดมาจากไหน.หนักบวชตามพระพุทธเจ้าคือปฎิบัติดีปฎิบัติชอบคือให้พ้นทุกข์ต่าง.แต่ส่วนมากพระสงฑ์บ้านเรามีแต่สวด(ผมว่ามันเข้าข่ายพูดมุสามากก่วา.(คิดเห็นตามหลักของพระพุทธเจ้าเพราะพระพุทธของเราพระองค์ไม่เคยสอนสาวกให้สวดมนต์เลย(บาปมากๆ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
สวดมนต์ก็น่าจะดีรู้คำแปล
การระลึกถึงพระคุณ ไม่ใช่การสวดเป็นภาษาบาลีที่ไม่รู้จัก แต่การระลึกถึงพระคุณ คือ เข้าใจคำสอน จึงระลึกถึงพระคุณ ครับ ดังนั้น สวดบทอิติปิโส แม้เพราะเหตุนี้ เหตุนี้คืออะไร ก็ไม่เข้าใจ ก็ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง ก็ไม่ใช่บุญ กุศล ครับ เพราะไม่รู้ครับ
ใช่แล้วครับ
การทำบุญเพื่อให้ได้บุญ เพิ่มความต้องการผลตอบแทนหรือเปล่าครับ แต่ไม่เคยทำบุญเพื่อให้เป็นบุญ ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ
ใช่ครับ
สวดบทอิติปิโส สรรเสริฐพระพุทธเจ้า แล้วจะให้สวดบทไหนคะ สวดปฏิจจาสมุปบาทประจำอยู่ค่ะ
ฟังให้เข้าใจธรรม ครับ เกิดปัญญา ไม่ใช่สวดแต่ไม่เข้าใจครับ ในคลิปมีอธิบายปฏิจจสมุปบาทให้เข้าใจไม่ต้องสวดครับ คลิกที่ตัวเลขสีฟ้านะครับ 18:45 ฟังเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่อธิบายโดยละเอียดให้เข้าใจ ไม่ต้องไปสวดจำ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
ใช่ เราก็ไม่ทำ ทรมานมากกว่า ทั้งหนาวทั้งง่วง สวดมต์ เช้า-เย็นก็พอแล้ว ฟังคำสอน ของพระพุทธเจ้า
ทั้งง่วงทั่งหนาว.ทรมานสังขารบางคนก็ไปเฉยๆไปนั่งกดโทรศัพท์เล่นเกมส์
กระบวนการสร้างความหลง โดยลวงให้งมงายเพราะความไม่รู้ เพื่อต่อยอดอย่างอื่นที่เป็นพาณิชย์ธุรกิจ
สาทุ.🙏
คลิปนี้ ดิฉันเห็นแย้งค่ะหลวงปู่ หลวงตา พระภิกษุหลายๆรูป ท่านก็บอกให้สวดมนต์ ย่อมดีกว่าผู้ที่ไม่สวด ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา
ทำแล้วใจเป็นสุข..
สาธุสาธุค่ะ
พระส่วนใหญ่ก็รู้ครับว่าม้นไม่ใช่ แต่เพราะหวังในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็เลยปล่อยไป เรารู้คนเดียวนี่แหละดีใครไม่รู้ก็ปล่อยมันไป
ชอบเม้นต์นี้มาก จากที่นั่งอ่านคอมเม้นต์มาเรื่อยๆ เห็นเลยว่า คนไทยเน้นพิธีกรรม ไม่เน้นพิจารณาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ดูแล้วยากแก่การพ้นจากมิจฉาทิฐิ (อธิบายยังไงก็คงไม่เข้าใจ)
"ใครไม่รู้ก็ปล่อยมันไป" 👍👍
@@golfkung1991 เชื่อตัวเอง
@@golfkung1991 ไปอ่านใหม่ค่ะ บอกว่า เชื่อตัวเอง ไม่ได้บอกว่า ตัวเองดี
Sadhu2 kha.🙏🙏🙏🙏
สวดมนต์ทำไมถึงบาปคะ...(พระพุทธเจ้าท่านห้ามสวดมนต์ข้ามปีหราาคะ)
คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญเข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับบุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐพอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิดขออนุโมทนา
สาธุ อนุโมทนาบุญในการเผยแผ่พระธรรมที่เป็นจริง ให้ตื่นรู้ เกิดปัญญาจากความไม่รู้จริง
บาปหมดนะหายใจบาปมัย
หายใจ แม้ไม่รู้ในขณะนั้นก็บาปครับ
ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับอาจารย์
การกำหนดให้สวดมนต์ข้ามปีเพื่อศิริมงคลนั้น..เป็นความจริงที่ว่า..ไม่ใช่ธรรมะจากพระโอษฐ์เลยเพราะ....ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งการประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ความดับ ความสงบระงับ ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และเพื่อนิพพาน..เลยการชักจูงให้ศาสนิก ประพฤติ ปฏิบัติธรรมที่ออกไปสู่นอกพระพุทธโอษฐ์..ที่จริงก็ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง แต่ก็กำหนดมาหลายปี/หลายครั้ง..ไม่รู้ว่าจะตื่นจากความงมงายนี้เมื่อใดเพราะไม่เอาความจริงจากพระโอษฐ์มาเสนอมีแต่..คิดเองในกลุ่ม แล้วกำหนดในสิ่งที่อยู่นอกพระธรรมวินัย มาให้ชาวพุทธเข้าใจผิดอยู่เรื่อย
คุณอธิบายเข้าใจง่ายถูกต้องค่ะ
ตกลงต่อไปนี้ไม่ต้องสวดอะไรเลย
สวดบทอะไรดี แนะนำสิ่งนี้ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้าไม่ใช่การสวดมนต์พระพุทธเจ้าไม่ได้สวดมนต์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม พระสาวก ไม่ได้สวดมนต์ แต่พระสาวกแสดงพระธรรมและฟังพระธรรม อุบาสก อุบาสิกา มาพระวิหารเชตวันตอนเย็น ไม่ได้มาสวดมนต์ แต่มาฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าและภิกษุสาวก เพราะ จุดประสงค์เพื่อเกิดปัญญาความเข้าใจถูก ละกิเลส แต่ไม่ใช่สวดมนต์ท่องคำไม่รู้จัก เพิ่มความไม่รู้(กิเลส) เพิ่มความต้องการ โลภะ(กิเลส) ที่อยากได้บุญ อยากได้อานิสงส์ อยากได้มงคล แต่ไม่เป็นมงคลเพราะเป็นกิเลส กลับมาสู่ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้า ไม่ตามผู้ไม่รู้ สมกับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง สมกับกล่าวว่าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่เชื่อตนเองก็ชื่อว่าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แทนที่จะสวดมนต์ก็ฟังธรรมเกิดปัญญาละกิเลสบุญสูงสุด ฟังธรรมทางยูทูปมีหลายเรื่องดีๆ ลิงก์นี้ครับ ruclips.net/channel/UCJtUqNb3kapXxq2W6Rl3KVg
เข้ามาชมถ้าเป็นจริงก็สาธุค่ะเพราะดิฉันไม่เคยเคล้าดาวและไม่เคยสวดมนต์ข้ามปีค่ะ สาธุๆๆๆ
ตื่นเถิดชาวพุทธ เนื้อหาควรฟังและแชร์
02:03 สวดมนต์เพื่อสิริมงคลชีวิต สวดมนต์ข้ามปี พิธีกรรมนอกคำสอนพระพุทธเจ้า
03:33 พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้สวดคำไม่รู้จักแต่ให้ฟังธรรมภาษาของตนให้เกิดปัญญา
04:12 สวดเพื่ออ้อนวอนเพื่อสิริมงคล เพิ่มบาป ทางเสื่อม ไม่ต่างจากไปเคาท์ดาวน์
04:42 สวดแล้วสบายใจ สบายใจไม่ใช่บุญ สบายใจเกิดกับความต้องการเป็นบาป
05:10 สวดมนต์ข้ามปีไม่เป็นสิริมงคลกับชีวิต ไม่มีในมงคล ๓๘ และสวดเพิ่มกิเลส
06:20 สวดต้อง ๑๐๘ จบจะได้ขลัง หลงผิดต้องตามกรรม คำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผลกับชีวิต
07:06 ฟังพระธรรมเข้าใจในภาษาตน เกิดปัญญา เป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้ว
08:23 สวดสาธยายคำพระพุทธเจ้าเพื่อได้ ไม่ใช่เพื่อละ ไม่เกิดบุญ ไม่มีผล(อาฏานาฏิยสูตร)
12:40 ไม่ใช่ให้สวดแต่สาธยาย แต่ไม่ใช่สาธยายปฏิจจสมุปบาทโดยไม่เข้าใจ
14:35 สวดโพชฌงค์ ฟังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ทำให้ตนเองและคนอื่นหายโรคไม่ได้
17:30 สวดมนต์ข้ามปีประเพณีเพิ่มกิเลสเพิ่มความเห็นผิดมีโทษมากกว่าไปเคาท์ดาวน์
18:22 สวดคำแต่งใหม่ พุทธชัยมงคล เพิ่มกิเลส ทำลายคำพระพุทธเจ้า
18:45 ฟังเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่อธิบายโดยละเอียดให้เข้าใจ ไม่ต้องไปสวดจำ สนทนาเขาใหญ่
ขออนุโมทนา
ความเข้าใจ ของแต่ละบุคคล ไม่เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นสำเร็จบรรลุธรรมไปหมดแล้วค่ะ
@@อรวรรณสิงห์โตทอง-ส7ภ ต้องใช้คำว่า ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เพราะคำว่าเข้าใจ หมายถึงปัญญาความเห็นถูก ทุกคนไม่ได้มีความเห็นถูก สะสมความเห็นผิดมาด้วย จึงมีพวกอัญญเดียรถีย์ที่เห็นผิด คิดตรงข้ามพระพุทธเจ้าครับ ดังนั้น ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน คือ มีทั้งคิดถูกและคิดผิด แต่พระธรรมที่กล่าวในยูทูปนี้เพื่อให้ผู้ที่สะสมความเห็นถูกได้ฟังและเข้าใจถูก ไม่ใช่กับบุคคลที่เห็นผิด คิดผิด ครับ ขออนุโมทนา
อยากให้อธิบายเรื่องกสิณครับ
ถ้าสวดแล้วสบายใจเป็นบุญ ? คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญ
เข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับ
บุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ
แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐ
พอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิด
ขออนุโมทนา
สวดมนต์ข้ามปีก็ดีกว่าไปกินเหล้า ?
เพราะไม่รู้ว่าสวดด้วยความไม่รู้ อยากได้มงคลชีวิต คือ กิเลส คือความอยกา ความอยากไม่ดี และเมื่อไม่ได้ศึกษาพระะรรม จึงเข้าใจผิดคิดว่า สวดแล้วจะได้สิ่งดีกับชีวิต ลืมเรื่องกรรมและผลของกรรม เป็นการอ้อนวอนขอ ความเห็นผิด พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าอันตรายกว่าธรรมอื่น เป็นกิเลสที่อันตราย ดังนั้น หากกล่าวตรงตามจริง ความเห็นผิดที่กระทำอยู่นั้นที่เข้าใจผิด เป็นอันตรายกว่าอบายมุขอย่างอื่น แต่ต้องเข้าใจให้ถูกว่าในคลิปไม่เคยสนับสนุนบอกให้ไปทำอกุศลอย่างอื่น แต่กลับบอกให้ทำประเพณีที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ แทนที่จะสวด ก็ฟังพระธรรมด้วยภาษาตนที่ฟังเข้าใจเกิดปัญญา ละกิเลส นี่คือสิ่งที่แนะนำให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเองครับ ขออนุโมทนา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป เหมือนกับมิจฉาทิฏฐิ(ความเห็นผิด)นี้เลย ดูก่อนภิกษทั้งหลาย เมื่อบุคคลเป็นผู้มีความเห็นผิด กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
29/12/65
สวัสดีค่ะอาจารย์...
ป้า..อีกคนที่ทำทุกอย่าง
แบบผิดๆที่อ.กล่าวมา....
แต่พอมาติดตามอาจารย์
ป้าก็ได้ปัญญาได้สติ ค่ะ...
ขออนุโมทนาครับคุณป้าในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
สวดไม่เดือดร้อนใคร ไม่เบียดเบียนใครก็สวดได้ ?
แม้ตอนนี้อยู่เฉยๆก็ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่กิเลสเกิดขึ้นในใจแล้วแต่ไม่รู้ เห็นแล้วไม่รู้อะไร โมหะเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกเบียดเบียนด้วยกิเลสในใจของตนเองเกือบทุกขณะ นี่คือพระปัญญาที่พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของกิเลส โลภะเกิดขึ้นเมื่อใด ทำร้ายตนเองแล้ว เพราะไม่เข้าใจจึงสวด ครับ เพราะผู้ที่เข้าใจพระธรรม ย่อมระลึกถึงพระคุณโดยไม่ต้องสวด ดังนั้นเข้าใจผิดว่าสวดตอนไหนก็ได้บุญ นกแก้วนกขุนทอง ก็ท่องคำสวดได้ ครับ เด็กไม่ศึกษาธรรม ก็สวดได้ครับที่มีความจำดี สัญญา จึงไม่ใช่ปัญญา ครับ สัญญาจำ เกิดกับอกุศลได้ และคำพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สิริมงคล จิตที่ดี ที่ไม่ใช่ความเข้าใจผิดที่คิดว่าสวดเป็นสิริมงคล เป็นมงคลเพราะเข้าใจถูก สวดไม่รู้อะไร แปลแต่ไม่เข้าใจ เป็นความไม่รู้ ไม่ใช่สิริมงคลแต่เพิ่ม อัปมงคล และ แม้คำว่า แม้เพราะเหตุนี้ แปลมาแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจคำนี้ แม้เพราะเหตุนี้คืออะไร ก็เป็นการท่องจำ สัญญาจำ ที่ไม่รู้อะไรนั่นเองครับ ดังนั้น สำคัญที่ต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจถูกต้อง ครับ เหตให้เกิดปัญญา คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจในภาษาที่เข้าใจ ไม่ใช่ไปสวดคำที่แปลแล้ว แต่ไม่เข้าใจคำนั้นตามคำพระพุทธเจ้าครับ ขออนุโมทนา
กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ในใจ เดือดร้อนแล้ว แม้อยู่เฉยๆไม่เบียดเบียนใคร
ปุริสสูตร
[๓๒๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามแห่งท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้วจึงทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมกี่อย่างเมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุคคล ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย. [๓๒๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่าง เมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย ธรรม ๓ อย่างเป็นไฉน ธรรม ๓ อย่าง คือ
๑. โลภะ
๒. โทสะ
๓. โมหะ
ดูก่อนมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างนี้แล เมื่อบังเกิดขึ้นในภายในของบุคคล ย่อมบังเกิดขึ้นเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อความทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สบาย.
[๓๓๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์คำร้อยแก้วนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า
โลภะ โทสะ และโมหะ ที่เกิดขึ้นในตนย่อมฆ่าบุคคลผู้ใจบาป เหมือนขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ฉะนั้น.
จริงครับอาจาร์เห็นด้วยครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ
เป็นความรู้ที่ถูกต้องครับผม
กราบนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงสูงยิ่ง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ในพระธรรมที่ได้แสดง เพราะเข้าใจถูกจึงไม่เคยสวดมนต์ข้ามปี กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามค่ะ
เป็นจริงตามอาจารย์ครับ เอาเวลาทำอื่นดีกว่า นั่งนานๆเมื่อยเหนื่อนเปล่า เอาเวลาไปบำเพ็ญประโยชน์อื่น บุญทำอื่นมีเยอะแยะไป
ขออนุโมทนาในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
สาธุๆ ขอให้ผู้บรรยายธรรม จงชี้แนะชี้ทาง เพื่อไม่ให้ ผู้ฟังปฏิบัติถูกทาง ไม่วังวนผิดทาง เอาเวลาไปทำถูกทางต่อไป
เข้าใจค่ะ พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไต้องอ้อนวอนขอเอาไม่มีจริงๆค่ะ ท่มนจะสอนให้ละกิเลส ไม่ให้โลภ ให้ปล่อยวาง แต่ก็พระสงฆ์ในวัดนั่นแหละเป็นผู้แนะนำให้ญาติโยมเข้าใจผิด แม้แต่พระเองยังหลงกิเลสอยากได้เงินทองด้วยลาภสักการะ
สาธุ ขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมมากค่ะ นอกจากจะทำให้ได้รับฟังความเข้าใจถูกความเห็นถูกเพื่อความมั่นคงแล้ว ยังมีคำใหม่ที่ต้องศึกษาเพื่อความเข้าใจที่มั่นคงขึ้นมาอีก ก็ต้องฟังซ้ำๆจนกว่าจะเป็นความเข้าใจที่มั่นคงจริงๆ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าลึกซึ้งจริงๆค่ะ ขออนุโมทนาในการเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าเพื่อความเห็นถูกความเข้าใจถูกแก่สาวกผู้ฟังด้วยนะคะ สาธุค่ะ
@@k.7781 เพียรบังคับบัญชาสภาพธรรมให้เป็นกุศลเป็นเรื่องเห็นผิดของผู้ไม่รู้ เพียรเข้าใจสภาพธรรมจนเป็นเหตุปัจจัยให้ได้เจริญกุศลทุกประการด้วยความเห็นถูกเป็นเรื่องของผู้รู้ ล้วนสอดคล้องทั้งสมมติสัจจะและปรมัตถสัจจะ จำชื่อจำคำเฉย ๆ ไม่เรียกเข้าใจพระธรรม ยิ่งจำชื่อมายังผิด ๆ ถูก ๆ แล้วบอกคนอื่นไม่รู้นี่ยิ่งดิ่งไปกันใหญ่
ขอบคุณครับอาจารย์เผดิม
สาธุๆๆ ผมเชี่อผมเข้าใจครับ ตาสว่าง
ครับ อาจหาญมากครับ
ชี้ได้ขัดเจนค่ะ หนังสือธรรมมะที่ได้รับแจกมาก็แนะนำลาภสักการะ สวดเพื่ออยากได้ ต่อไปพยายามแยกแยะ
อนุโมทนาในความเห็นถูกครับ ฟังพระธรรมให้เข้าใจในภาษาของตนเพื่อเกิดปัญญา นั่นคือ พุทธประสงค์ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ / เป็นคำบอกสอนนอกศาสนาพุทธ
กราบอาจารย์เผดิมเป็นอย่างสุงค่ะ
ถูกทำเพื่อผลประโยชน์
นับถือพุทธแต่เข้าไม่ถึงพุทธ
กำลังคิดเรื่องนี้เลยค่ะ ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ผเดิม ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ในความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์ ธรรมะของพระพุทธองค์ละเอียดลึกซึ้ง ใครที่เข้ามาได้ยินได้ฟัง มีความเข้าใจตาม นั่นแหละกำลังพบเจอ สิ่งที่ประเสริฐยิ่ง เป็นคุณ อันประเสริฐยิ่งแล้วในชาตินี้ ท่านอาจารย์กล่าวได้ถูกต้อง ที่สุด เจ้าค่ะสาธุสาธุเจ้าค่ะ
ธรรมเตือนใจปีใหม่และสิ่งที่ไม่เคยคิดกันวันปีใหม่ ฤกษ์ดีปีใหม่
ชีวิตใกล้ตายแล้ว และกำลังตายทุกๆขณะ ปีเก่าสู่ปีใหม่ ใหม่ทุกขณะ มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร หาแทบตายไม่มีอะไรติดตามไปได้นอกจากบุญและบาป ฤกษ์ดีเวลาดี คือ ขณะที่กุศลความดีเกิด โดยเฉพาะปัญญาความเข้าใจถูก ที่เกิดจากการฟังศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง ธรรมเตือนใจปีใหม่ ขออนุโมทนา
สุปุพพัณหสูตร
(ว่าด้วยเวลาที่เป็นฤกษ์ดี)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น.
สมัครไลน์ธรรม เข้าใจธรรม ได้รับธรรมดีๆ สนทนาสอบถามได้ กดลิงก์เพิ่มเพื่อนครับ
lin.ee/yXRgXV6
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาด้วยกุศลจิตค่ะ 🙏🏻
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ธรรมะ พระพุทธองค์ละเอียดลึกซึ้ง ประโยชน์อย่างยิ่งเจ้าค่ะ สาธุสาธุเจ้าค่ะ
ได้ความรู้ครับ
สาธุครับ
ช่วยกันเผยแพร่พุทธศาสนาให้ถูกต้อง
สาธุค่ะ
มุทิตากับท่านด้วยยอดสับเกินแสน หมายถึงว่าสาระทางพุทธศาสนาแผ่ขยายออกไปมากยิ่งขึ้น สาธุครับ🙏
มันเป็นรูปแบบที่ลอกมาจากศาสนาอื่นหรือเปล่าครับ เพราะคนพุทธเองก็ยังมีความรู้เรื่องนี้น้อยมากเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่แนะนำคำสอนนี้ครับ
ฟังแล้วเข้าใจค่ะแต่ไม่โสดาบันฟังตกลงไม่ต้องสวดมนต์แล้วใช่ไหมค่ะ
ฟังพระธรรมให้เกิดปัญญาครับ ไม่ใช่สวดคำที่ไม่รู้จัก ครับ
สาธุในธรรมคำสอนค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ ที่ท่านนำมาเผยแผ่ สิ่งที่ไม่เคยได้ยินได้รู้จัก ขอบคุณมากค่ะกับธรรมะดีๆ
พระสงฆ์จำนวนไม่น้อย พาญาติโยมหลงทาง แอบแฝงพุทธพาณิชย์และลาภสักการะ
ขอกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ ในกาลบุญกุศลนี้ด้วยเทอญ...นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง.
พึ่งมีมา2-3ปีนะดูคลิปเข้าใจครับ
ขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะคะ ที่ช่วยอธิบายให้เกิดความเข้าใจถูก และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ เรื่องสำคัญเป็นอย่างมากคือเรื่องของการสะสมปัญญาความเข้าใจถูก ไม่ทำเพียงเพราะเขาบอก ไม่ทำเพียงเพราะเขาทำต่อๆกันมา แต่ควรจะพิจารณาโดยอิงจากคำสอนของพระพุทธองค์ พิจารณาตามด้วยความเคารพในพระปัญญา แม้จะอกุศลก็ไม่ใช่เรา แม้จะกุศลก็ไม่ใช่เราเช่นเดียวกัน ในทุก ๆ ขณะเป็นธรรมะที่เกิด ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของใครและไม่มีความเป็นสัตว์บุคคล ตัวตน ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ 🙏🏻💖
กราบอนุโมทนา🙏
ขออนุโมทนาในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
เยียมครับ
ขออนุโมทนาด้วยกุศลจิตค่ะ 🙏🏻
สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ
วัดที่จัดงานสมโภชนี่ตัวดีเลย มีเต็มไปหมด ชวนให้ญาติโยมมาสวด มาสมโภชเยอะๆ จะได้ปัจจัยเยอะๆ
จบงาน แจ้งยอด กี่แสนๆ ไหนจะถวายซองพระสวด พระนั่งปรก ไม่ได้สอนเรื่องบาปบุญ คุณโทษอะไรเลย
..อยากให้พระๆ ทั้งหลายที่ยังหลงทางได้มาฟังคุณเผดิม อาจทำให้ได้สติคืนมาบ้าง ทำตัวให้เป็นเนื้อนาบุญจริงๆคงจะเป็นบุญมากโขอยู่ และเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ฟังแล้วรู้สึกสับสนมากเจ้าคะ.สรุปคือจะเชื่อหลักสอนฉบับไหน
เชื่อการอธิบายตามคำพระพุทธเจ้าครับ มีหลักฐานอ้างอิงครับ
อย่างนั้นเกจิอาจารย์ที่มีมาแต่โบราณพากันสวดมนต์ก็ผิดเหรอค่ะ แต่เชื่ออย่าง ทำดีคิดดีพูดดีก็พอ
สวดมนต์ หลวงปู่ทั้งหลายเขาก็สวดตามกันมา : การฟังพระธรรม แสดงธรรม คือ ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้าไม่ใช่การสวดมนต์
พระพุทธเจ้าไม่ได้สวดมนต์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม พระสาวก ไม่ได้สวดมนต์ แต่พระสาวกแสดงพระธรรมและฟังพระธรรม อุบาสก อุบาสิกา มาพระวิหารเชตวันตอนเย็น ไม่ได้มาสวดมนต์ แต่มาฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าและภิกษุสาวก เพราะ จุดประสงค์เพื่อเกิดปัญญาความเข้าใจถูก ละกิเลส แต่ไม่ใช่สวดมนต์ท่องคำไม่รู้จัก เพิ่มความไม่รู้(กิเลส) เพิ่มความต้องการ โลภะ(กิเลส) ที่อยากได้บุญ อยากได้อานิสงส์ อยากได้มงคล แต่ไม่เป็นมงคลเพราะเป็นกิเลส กลับมาสู่ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้า ไม่ตามผู้ไม่รู้ สมกับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง สมกับกล่าวว่าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่เชื่อตนเองก็ชื่อว่าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขออนุโมทนา
อ. ตรงจริงๆคะ สาธุ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุ อนุโมทนา
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ
ถูกต้องครับ🙏🙏🙏
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ 🙏🙏🙏
สาธุในคำสอนตถาคตครับ อาจารย์
ขออนุโมทนาสาธุๆๆด้วยคะ..ท่านอาจารย์ผเดิม
เข้าใจแล้วครับ..ขอบพระคุณมากครับ..
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ เผดิม ที่ให้ความจริงในพระธรรมของพระพุทธองค์เพื่อไม่ให้หลงทางผิด คิดไปเอง ไร้ซึ่งเหตุผล ไม่ทำให้เกิดปัญญา ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เผดิมขอรับ
สวดมนต์ข้ามปี ก็ดีกว่าเลี้ยงฉลองดื่มเหล้าข้ามปี ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนและเบียดเบียนใคร จะขัดทำไม อยู่ที่ใจ ทำแล้วใจเป็นสุข มันผิดอะไร หลักการวิชาการไม่ได้ช่วยอะไร ศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจสบายใจของผู้ปฏิบัติ
สวดมนต์ข้ามปีก็ดีกว่าไปกินเหล้า ?
เพราะไม่รู้ว่าสวดด้วยความไม่รู้ อยากได้มงคลชีวิต คือ กิเลส คือความอยกา ความอยากไม่ดี และเมื่อไม่ได้ศึกษาพระะรรม จึงเข้าใจผิดคิดว่า สวดแล้วจะได้สิ่งดีกับชีวิต ลืมเรื่องกรรมและผลของกรรม เป็นการอ้อนวอนขอ ความเห็นผิด พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าอันตรายกว่าธรรมอื่น เป็นกิเลสที่อันตราย ดังนั้น หากกล่าวตรงตามจริง ความเห็นผิดที่กระทำอยู่นั้นที่เข้าใจผิด เป็นอันตรายกว่าอบายมุขอย่างอื่น แต่ต้องเข้าใจให้ถูกว่าในคลิปไม่เคยสนับสนุนบอกให้ไปทำอกุศลอย่างอื่น แต่กลับบอกให้ทำประเพณีที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ แทนที่จะสวด ก็ฟังพระธรรมด้วยภาษาตนที่ฟังเข้าใจเกิดปัญญา ละกิเลส นี่คือสิ่งที่แนะนำให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเองครับ ขออนุโมทนา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป เหมือนกับมิจฉาทิฏฐิ(ความเห็นผิด)นี้เลย ดูก่อนภิกษทั้งหลาย เมื่อบุคคลเป็นผู้มีความเห็นผิด กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
สาธุค่ะ เราผู้หนึ่ง สวดเกือบทุกวัน บางวันสวดมนต์ พอมาเปิดร้านลูกค้าเงียบเราก็เกิดน้อยเนื้อต่ำใจทำไหมสวดมนต์แล้วทำไหมถึงไม่ดีขึ้น สรุปไม่ใช่การสวดมนต์แล้วชีวิตการงานจะดีขึ้น เป็นบาปกับตัวเราเองแท้เพราะเราไม่รู้ เพราะเราข้ามการฟังธรรมะสติเลยไม่รู้ สาธุค่ะ สติหลุดแท้ที่ผานมา
สวดอะไรก็บอกไม่ถุก.บาป.งงนะ.แล้วเวลาตายให้พระไปสวดไหมละแอด..แล้วให้ทำไงสงสัยนะ
@@กรวรรณช่วยสุข แนวคิดเค้าสวนทางของเดิมหมด ก็ตีความตามอัตตาของเค้าเองทั้งนั้นแต่ชอบอ้างคำกล่าวพระพุทธเจ้าเหมือนได้ยินกับหูได้ดูกับตางั้นแหละ ที่บันทึกไว้แน่ใจเหรอว่าพระพุทธเจ้าท่านกล่าวจริง
❤ใช่ครับผม
กราบอนุโมทนาสาธุท่านอาจารย์ค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์มากเลย
กราบขอบพระคุณมากครับ 🙏🙏🙏
หนุสวดเพื่อทำสมาธิเป็นหลักค่ะ
สวดมนต์ก็ทำให้เกิดสมาธิ : คนส่วนใหญ่เข้าใจสมาธิผิด (คิดว่าสมาธิดีหมด มีสมาธิที่ไม่ดีด้วย)
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจตั้งแต่คำว่าสมาธิ ว่า สมาธิ คือ อะไร?
สมาธิ เป็นความตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ได้แก่ เอกัคคตาเจตสิก ซึ่งเป็นเจตสิกธรรมหนึ่งที่จะต้องเกิดร่วมกับจิตทุกขณะ ทุกประเภท ไม่มีเว้น ดังนั้น ทุกขณะมีสมาธิเกิดแน่นอน แต่ที่น่าพิจารณา คือ ถ้าเกิดกับอกุศลก็เป็นมิจฉาสมาธิ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเกิดกับกุศลก็เป็นสัมมาสมาธิ เพราะเป็นความถูกต้อง ในขณะที่เป็นกุศล จะเป็นอกุศลไม่ได้
สมาธิ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว เป็นเจตสิกประการหนึ่งที่ตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด อารมณ์ คือ สิ่งที่จิตรู้ เมื่อจิตเกิดขึ้นต้องรู้อารมณ์ และก็จะต้องมีสมาธิซึ่งเป็นเอกัคคตาเจตสิกเกิดร่วมกับจิตทุกครั้งทุกขณะ ไม่เว้นเลย ตั้งมั่นในอารมณ์ที่จิตกำลังรู้ ดังนั้น ไม่ว่าจะนั่ง จะยืน จะนอน จะเดิน จึงไม่ปราศจากสมาธิเลย เพราะเกิดกับจิตทุกขณะ และที่ควรพิจารณา คือ สมาธิหรือเอกัคคตาเจตสิก เกิดกับอกุศลก็เป็นอกุศลสมาธิ
อกุศลสมาธิ เช่น การนั่งสมาธิ ไม่ควรเจริญ ไม่ควรประกอบ ซึ่งขณะนั้นเป็นไปกับด้วยความต้องการ อยากจะสงบ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความสงบ เป็นเรื่องของกุศลธรรม อกุศลสมาธิไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีปัญญาเป็นต้น มีแต่จะเพิ่มพูนความไม่รู้และอกุศลธรรมอื่นๆ ต่อไป
ในสมัยพุทธกาล อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นเพศฆราวาส ไม่ได้ทำอะไรให้ชีวิตผิดปกติ เพราะท่านเข้าใจว่า ธรรม เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน การเจริญอบรมปัญญา ความสงบจึงไม่ต้องไปทำอะไรให้ผิดปกติโดยการนั่งสมาธิ แต่ท่านเข้าใจถูกและอบรมปัญญาในชีวิตประจำวัน และทำกิจการงานดังเช่นคฤหัสถ์ในปัจจุบันด้วย ดังเช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่เป็นพ่อค้าและเป็นอริยสาวก และอบรมปัญญา เจริญกุศลในชีวิตประจำวัน มีการให้ทาน รักษาศีล อบรมปัญญา โดยไม่ได้ไปปลีกวิเวก หาที่นั่งสงบเลย เพราะความสงบ คือ จิตใจที่เป็นกุศลที่เกิดได้ในชีวิตประจำวัน เพราะจิตที่ดี สงบ ไม่ได้เลือก
ดังนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องสมาธิ ในสมัยพุทธกาลว่า สมาธิ มีสองอย่าง คือ สัมมาสมาธิ และ มิจฉาสมาธิ สมาธิใดที่เป็นความตั้งมั่น ที่ไม่ได้หมายถึง จะต้องไปนั่งสมาธิ แต่ขณะแม้เพียงขณะจิตเดียวก็มีสมาธิ แต่เป็นความตั้งมั่น ขณะจิตที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยที่รู้ความจริงที่เป็นวิปัสสนาภาวนา ขณะนั้นก็มีสมาธิด้วย และเป็นสัมมาสมาธิที่เป็นสมาธิที่ควรเจริญ
ส่วนการกระทำที่ได้แต่ความนิ่ง ไม่ทำให้เกิดปัญญาความรู้ พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่าเป็น มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เพราะเกิดกับอกุศลจิต มี โลภะ และ โมหะ เป็นต้น คือ มีความต้องการที่จะทำ อยากที่จะสงบ อันเป็นความต้องการที่เป็นโลภะ และขณะที่นิ่งก็ไม่รู้อะไร ขณะนั้นก็มีโมหะเกิดร่วมด้วย พระพุทธเจ้าทรงติเตียนมิจฉาสมาธิว่าไม่ควรเจริญ ครับ
ขออนุโมทนา
นอกคำสอนก็จริง แต่ก็ดีกว่าไปดื่มเหล้าเมายาครับ ปัจจุบันคนที่อ้างนับถือศาสนาพุทธ เป็นเพียงกระดาษเท่านั้นเอง(ทะเบียน) สรรพสิ่งในโลกล้วนสมมุติ
ดังนั้นเมื่อเข้าใจถูกครับว่าเป็นสิ่งที่นอกคำสอน ซึ่งเป็นกิเลส เป็นความเห็นผิด พระองค์ทรงแสดงว่าเป็นอันตรายกว่าอย่างอื่นครับ แต่เพราะไม่รู้จักกิเลส ก็เลยคิดว่าอันตรายน้อยกว่า ครับ ฟังเพิ่มเติมที่นี่ในวีดีโอนี้ครับช่วงเวลานี้ 04:12 สวดเพื่ออ้อนวอนเพื่อสิริมงคล เพิ่มบาป ทางเสื่อม ไม่ต่างจากไปเคาท์ดาวน์
ขอบคุณมากค่ะ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความกระจ่างค่ะ
เป็นคลิปที่ มีเป้าหมายชัดเจนและตรงประเด็นตามหลักของแก่น แท้แห่ง พุทธศาสนา อย่างยิ่งครับ ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆครับ ที่นำข้อความเหล่านี้มา ทำให้คนทั่วไปสามารถ ที่จะเข้าใจโดยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ โดยผ่านการไตร่ตรองอย่างผู้ที่มีปัญญา นี่สิครับสิ่งที่ควร จะนำมาเพื่อศึกษาและนำมาปฏิบัติด้วยความเข้าใจจริงๆ
เคยมีคนพูดแบบอาจารย์เหมือนกันค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขัดทุกอย่างที่เปํนพิธีกรรมพุทธ
ไม่ใช่พิธีกรรมพุทธ เพราะไม่รู้จักพุทธ เพราะไม่ศึกษาธรรม จึงสำคัญว่เป็นพิธีกรรมพุทธ ครับ
เป็นชาวพุทธมาตั้งนาน สงสัยมาตั้งแต่เด็ก สวดเพื่อขอ เพื่อสบายใจ แปลก็ไม่ออก เหมือนหลอกตัวเอง วันนี้ อ ช่วยตอบคำถาม ทำให้เข้าใจเหตุผลนับถือศาสนาได้ดีขึ้นมากๆครับ🎉😊
งั้นก็ไม่เข้าวัด เพราะพระส่วนใหญ่ สวดบาลีหมด
สาธุ 🙏
สาธุ
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ 🙏🙏🙏
เป็นธุรกิจ อย่างหนึ่งที่เอาศาสนา มาต่อยอด ก็เหมือนการสร้างพระเครื่อง พระบูชา เอามาจำหน่ายขายกัน
สาธุ.สาธุดีจังค่ะทียังมีคนรู้ชึ้งในแก่สานของพุทศาสนาออกมาเป็นกระบอกเสียงไห้ชาวพุทเราได้หูตาสว่างขึ้นมาบ้างไม่งมงายขอไห้ทำอย่างนี้ต่อไปนานๆนะคะขอไห้เจริญๆค่ะโลกนี้จะได้มีชีวิดสดไสขึ้นมา
สาธูๆๆคะอาจารย้จริงเจัาคะ
ท่านเอาความจริงมาเปิดเจัาคะ
ขออนุโมทนาในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณท่สนอาจารย์มากๆคับ ผมพึ่งเข้าใจในวันนี้เอง จะต้องติดตามฟังอาจารย์เรื่อยๆไปคับ
สาธุสาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ
ครับอจ.
สาธุธรรมคำสอนค่ะอาจารย์
เผดิม เข้าใจผิดมาตลอด
สาธุ...ครับ
เอาที่เราสะบายใจครับ
ถ้าสวดแล้วสบายใจเป็นบุญ ? คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญ
เข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับ
บุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ
แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐ
พอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิด
ขออนุโมทนา
สวดมนต์ข้ามปีก็ดีกว่าไปกินเหล้า ?
เพราะไม่รู้ว่าสวดด้วยความไม่รู้ อยากได้มงคลชีวิต คือ กิเลส คือความอยกา ความอยากไม่ดี และเมื่อไม่ได้ศึกษาพระะรรม จึงเข้าใจผิดคิดว่า สวดแล้วจะได้สิ่งดีกับชีวิต ลืมเรื่องกรรมและผลของกรรม เป็นการอ้อนวอนขอ ความเห็นผิด พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าอันตรายกว่าธรรมอื่น เป็นกิเลสที่อันตราย ดังนั้น หากกล่าวตรงตามจริง ความเห็นผิดที่กระทำอยู่นั้นที่เข้าใจผิด เป็นอันตรายกว่าอบายมุขอย่างอื่น แต่ต้องเข้าใจให้ถูกว่าในคลิปไม่เคยสนับสนุนบอกให้ไปทำอกุศลอย่างอื่น แต่กลับบอกให้ทำประเพณีที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ แทนที่จะสวด ก็ฟังพระธรรมด้วยภาษาตนที่ฟังเข้าใจเกิดปัญญา ละกิเลส นี่คือสิ่งที่แนะนำให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเองครับ ขออนุโมทนา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป เหมือนกับมิจฉาทิฏฐิ(ความเห็นผิด)นี้เลย ดูก่อนภิกษทั้งหลาย เมื่อบุคคลเป็นผู้มีความเห็นผิด กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
สาธุค่ะประโยชน์อย่างยิ่งละเอียดมากไดัเพิ่มความเข้าใจถูก.ฟังธรรมอาจาร์ตลอดค่ะ
แต่ก่อนก็ทำตามคนอื่น ตั้งแต่ศึกษาธรรมะแล้ว ทิ้งทุกอย่างหมดเลย มาฟังธรรมมะเพื่อความเข้าใจอย่างเดียว
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🌷🙏🌷🙏
สาธุๆอาจารย์ขอบคุญ ฉันสวดธรรมจักกับพระไตรปีฎกค่าอาจารย์สาธุๆๆ
ฟังคลิปนี้ครับ ruclips.net/video/Y2EWqDXGjFM/видео.html
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ความจริงคีอความจริง ความจริงนื้มื
หนึ่งเดียว และนื่คีอความจริงขอขอบ
คุณเป็นอย่างสูง
สาธุค่ะ🙏🙏🙏
ใช้ครับ.ผมก็งงเหมือนกันว่าเราชาวพุธแต่ไปเอาบทสวดมาจากไหน.หนักบวชตามพระพุทธเจ้าคือปฎิบัติดีปฎิบัติชอบคือให้พ้นทุกข์ต่าง.แต่ส่วนมากพระสงฑ์บ้านเรามีแต่สวด(ผมว่ามันเข้าข่ายพูดมุสามากก่วา.(คิดเห็นตามหลักของพระพุทธเจ้าเพราะพระพุทธของเราพระองค์ไม่เคยสอนสาวกให้สวดมนต์เลย(บาปมากๆ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาในความเห็นถูก ครับ การกล่าวความจริงตามพระธรรมวินัยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกก็เป็นการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่งคือที่เข้าใจถูกก็ชื่อว่าดำรงรักษาพระพุทธศาสนาครับ และหากมีโอกาสก็ช่วยแชร์คลิปให้คนอื่นได้เข้าใจเพิ่มขึ้นเพราะคนยังไม่รู้อีกมาก ก็เป็นการดำรงพระพุทธศาสนาตอบแทนคุณพระรัตนตรัยเช่นกันครับ ขออนุโมทนาครับ
สวดมนต์ก็น่าจะดีรู้คำแปล
การระลึกถึงพระคุณ ไม่ใช่การสวดเป็นภาษาบาลีที่ไม่รู้จัก แต่การระลึกถึงพระคุณ คือ เข้าใจคำสอน จึงระลึกถึงพระคุณ ครับ ดังนั้น สวดบทอิติปิโส แม้เพราะเหตุนี้ เหตุนี้คืออะไร ก็ไม่เข้าใจ ก็ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง ก็ไม่ใช่บุญ กุศล ครับ เพราะไม่รู้ครับ
ใช่แล้วครับ
การทำบุญเพื่อให้ได้บุญ เพิ่มความต้องการผลตอบแทนหรือเปล่าครับ แต่ไม่เคยทำบุญเพื่อให้เป็นบุญ ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ
ใช่ครับ
สวดบทอิติปิโส สรรเสริฐพระพุทธเจ้า แล้วจะให้สวดบทไหนคะ สวดปฏิจจาสมุปบาทประจำอยู่ค่ะ
ฟังให้เข้าใจธรรม ครับ เกิดปัญญา ไม่ใช่สวดแต่ไม่เข้าใจครับ ในคลิปมีอธิบายปฏิจจสมุปบาทให้เข้าใจไม่ต้องสวดครับ คลิกที่ตัวเลขสีฟ้านะครับ 18:45 ฟังเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่อธิบายโดยละเอียดให้เข้าใจ ไม่ต้องไปสวดจำ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
ใช่ เราก็ไม่ทำ ทรมานมากกว่า ทั้งหนาวทั้งง่วง สวดมต์ เช้า-เย็นก็พอแล้ว ฟังคำสอน ของพระพุทธเจ้า
ทั้งง่วงทั่งหนาว.ทรมานสังขารบางคนก็ไปเฉยๆไปนั่งกดโทรศัพท์เล่นเกมส์
กระบวนการสร้างความหลง โดยลวงให้งมงายเพราะความไม่รู้ เพื่อต่อยอดอย่างอื่นที่เป็นพาณิชย์ธุรกิจ
สาทุ.🙏
คลิปนี้ ดิฉันเห็นแย้งค่ะ
หลวงปู่ หลวงตา พระภิกษุหลายๆรูป ท่านก็บอกให้สวดมนต์ ย่อมดีกว่าผู้ที่ไม่สวด ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา
สวดมนต์ หลวงปู่ทั้งหลายเขาก็สวดตามกันมา : การฟังพระธรรม แสดงธรรม คือ ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้าไม่ใช่การสวดมนต์
พระพุทธเจ้าไม่ได้สวดมนต์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม พระสาวก ไม่ได้สวดมนต์ แต่พระสาวกแสดงพระธรรมและฟังพระธรรม อุบาสก อุบาสิกา มาพระวิหารเชตวันตอนเย็น ไม่ได้มาสวดมนต์ แต่มาฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าและภิกษุสาวก เพราะ จุดประสงค์เพื่อเกิดปัญญาความเข้าใจถูก ละกิเลส แต่ไม่ใช่สวดมนต์ท่องคำไม่รู้จัก เพิ่มความไม่รู้(กิเลส) เพิ่มความต้องการ โลภะ(กิเลส) ที่อยากได้บุญ อยากได้อานิสงส์ อยากได้มงคล แต่ไม่เป็นมงคลเพราะเป็นกิเลส กลับมาสู่ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้า ไม่ตามผู้ไม่รู้ สมกับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง สมกับกล่าวว่าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่เชื่อตนเองก็ชื่อว่าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขออนุโมทนา
ทำแล้วใจเป็นสุข..
ถ้าสวดแล้วสบายใจเป็นบุญ ? คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญ
เข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับ
บุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ
แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐ
พอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิด
ขออนุโมทนา
สาธุสาธุค่ะ
พระส่วนใหญ่ก็รู้ครับว่าม้นไม่ใช่ แต่เพราะหวังในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็เลยปล่อยไป เรารู้คนเดียวนี่แหละดี
ใครไม่รู้ก็ปล่อยมันไป
ชอบเม้นต์นี้มาก จากที่นั่งอ่านคอมเม้นต์มาเรื่อยๆ เห็นเลยว่า คนไทยเน้นพิธีกรรม ไม่เน้นพิจารณาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ดูแล้วยากแก่การพ้นจากมิจฉาทิฐิ (อธิบายยังไงก็คงไม่เข้าใจ)
"ใครไม่รู้ก็ปล่อยมันไป" 👍👍
@@golfkung1991 เชื่อตัวเอง
@@golfkung1991 ไปอ่านใหม่ค่ะ บอกว่า เชื่อตัวเอง ไม่ได้บอกว่า ตัวเองดี
Sadhu2 kha.🙏🙏🙏🙏
สวดมนต์ทำไมถึงบาปคะ...(พระพุทธเจ้าท่านห้ามสวดมนต์ข้ามปีหราาคะ)
คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องบุญ
เข้าใจผิดว่าบุญเป็นความสบายใจ เป็นความสุข ความสุข คือ ความรู้สึก เป็นเวทนา ความรู้สึกสุขเกิดกับกิเลสก็ได้ เช่น เกิดกับโลภะ ขณะออกกำลังกาย มีความสุข ออกกำลังกายเป็นบุญไหม ไม่เป็น เพราะ เป็นโลภะ เป็นกิเลส แต่มีความรู้สึกสุขเกิดร่วมด้วยได้ ดังนั้นความสุข ความสบายใจ จึงไม่ใช่ตัววัดว่าเป็นบุญ บุญเป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลส แต่ความรู้สึกสุขเกิดขณะที่เป็นบุญได้ และเกิดในขณะที่เป็นกิเลสได้ด้วย ครับ
บุญ คือ สภาพธรรมที่ชำระล้างสันดาน คือ ชำระจิต สิ่งที่ตรงข้ามกับบุญ คือ กิเลส มี โลภะ ความติดข้อง โทสะ ความขุ่นใจ และ โมหะ ความไม่รู้ เป็นต้น ขณะใดที่อยากได้ผล อานิสงส์ในการสวด เป็นความต้องการ เป็นโลภะ ขณะใดที่สวดพูดคำไม่รู้จักแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่เข้าใจคำนั้น หรือ เข้าใจคำนั้นผิด ก็เป็นความไม่รู้ เป็นโมหะ
แต่ บุญ คือ ขณะที่ไม่มีกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ขณะให้ทาน ขณะรักษาศีล ขณะเข้าใจถูก ขณะที่อ่านแล้วเข้าใจถูก มีปัญญา ไม่มีโมหะ จึงเป็นบุญที่ประเสริฐ
พอพูดถึงกุศล กุศลนี่ดี อยากได้ หรือควรเป็น ควรเป็นกุศล แต่คนส่วนมากไม่ทราบ คนส่วนมากจะอยากได้กุศล พอทราบว่า ทำกุศลอย่างไหนจะได้บุญมาก ได้ผลมาก เขาจะทำ แต่เขาลืมว่า นั่นเป็นอกุศล ที่อยากได้กุศลนั่นแหละเป็นอกุศล เพราะว่าอยากได้ ติดข้อง แต่กุศลจริงๆ หมายความถึงสภาพจิตที่ดีงาม อย่าลืมคำนี้เลย มิฉะนั้นแล้วเราจะเข้าใจผิด
ขออนุโมทนา
สาธุ อนุโมทนาบุญในการเผยแผ่พระธรรมที่เป็นจริง ให้ตื่นรู้ เกิดปัญญาจากความไม่รู้จริง
บาปหมดนะหายใจบาปมัย
หายใจ แม้ไม่รู้ในขณะนั้นก็บาปครับ
ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับอาจารย์
การกำหนดให้สวดมนต์ข้ามปีเพื่อศิริมงคลนั้น
..เป็นความจริงที่ว่า..ไม่ใช่ธรรมะจากพระโอษฐ์เลย
เพราะ..
..ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งการประพฤติพรหมจรรย์
ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ความดับ ความสงบระงับ ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม
และเพื่อนิพพาน..เลย
การชักจูงให้ศาสนิก ประพฤติ ปฏิบัติธรรมที่ออกไปสู่นอกพระพุทธโอษฐ์..ที่จริงก็ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง แต่ก็กำหนดมาหลายปี/หลายครั้ง..ไม่รู้ว่าจะตื่นจากความงมงายนี้เมื่อใด
เพราะไม่เอาความจริงจากพระโอษฐ์มาเสนอ
มีแต่..คิดเองในกลุ่ม แล้ว
กำหนดในสิ่งที่อยู่นอกพระธรรมวินัย มาให้ชาวพุทธเข้าใจผิดอยู่เรื่อย
คุณอธิบายเข้าใจง่ายถูกต้องค่ะ
ตกลงต่อไปนี้ไม่ต้องสวดอะไรเลย
สวดบทอะไรดี แนะนำสิ่งนี้
ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้าไม่ใช่การสวดมนต์
พระพุทธเจ้าไม่ได้สวดมนต์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม พระสาวก ไม่ได้สวดมนต์ แต่พระสาวกแสดงพระธรรมและฟังพระธรรม อุบาสก อุบาสิกา มาพระวิหารเชตวันตอนเย็น ไม่ได้มาสวดมนต์ แต่มาฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าและภิกษุสาวก เพราะ จุดประสงค์เพื่อเกิดปัญญาความเข้าใจถูก ละกิเลส แต่ไม่ใช่สวดมนต์ท่องคำไม่รู้จัก เพิ่มความไม่รู้(กิเลส) เพิ่มความต้องการ โลภะ(กิเลส) ที่อยากได้บุญ อยากได้อานิสงส์ อยากได้มงคล แต่ไม่เป็นมงคลเพราะเป็นกิเลส กลับมาสู่ประเพณีที่ถูกต้องตามคำพระพุทธเจ้า ไม่ตามผู้ไม่รู้ สมกับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง สมกับกล่าวว่าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่เชื่อตนเองก็ชื่อว่าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
แทนที่จะสวดมนต์ก็ฟังธรรมเกิดปัญญาละกิเลสบุญสูงสุด ฟังธรรมทางยูทูปมีหลายเรื่องดีๆ ลิงก์นี้ครับ ruclips.net/channel/UCJtUqNb3kapXxq2W6Rl3KVg
เข้ามาชมถ้าเป็นจริงก็สาธุค่ะเพราะดิฉันไม่เคยเคล้าดาวและไม่เคยสวดมนต์ข้ามปีค่ะ สาธุๆๆๆ