@@Asphyxia.666 5555 สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องก้มลงหลบอยู่ดี 5555 ชอบมากๆ richard feynman ลองไปดูประวิติของเขาน่าสนใจมากๆ เขาได้รับรางวัง nobel prize มา และก็บอกว่า เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานขยัน "I was an ordinary person who studied hard."
เหมือนกันเลยค่ะ เรื่องก่อนๆของโนแลนเรามัวแต่โฟกัส พยายามเข้าใจ จน catch up อันอื่นไม่ทัน พอเห็นสัมภาษณ์ของโนแลนบอกว่า ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพยายามเข้าใจ just feel it เราเลยดูแบบใช้ฟีลลิ่งล้วนๆ คือดีมากกก เราเข้าใจสิ่งที่โนแลนถ่ายทอดอย่างแจ่มแจ้ง
ผู้ประพันธ์ไม่ใช่ Hans Zimmer ครับ แต่เป็น Ludwig Goransson ครับ Ludwig Goransson เป็นคนเดียวกันกับที่ทำ Soundtrack ให้ Christopher Nolan ในภาพยนตร์เรื่อง Tenet ครับ
ฟังแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Little Boy เลยครับ พลังอำนาจที่เหลือล้น กับควมฝันที่จะสร้างสันติภาพโดยการยุติสงคราม แต่พลังนั้นกลับไม่ได้สร้างสิ่งใดนอกจากความสูญเสียที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
เป็นหนังที่ต้องตั้วใจดูมากๆเพราะ ตัวละครโครตเยอะ แถมมีสลับอดีต ก่อนอดีต และปัจจุบัน สลับวนไปมา และช่วงหนึ่งชั่วโมงตอนหลัง หนังมันจะใช้สองชั่วโมงแรกมาปะติดปะต่อกัน ถ้าใครลืมตัวละครไปนะบอกเลยว่ามีงง แต่ดีที่ผมลืมไปสองสามตัวละคร ถ้าแฟนคลับโนแลน 9.5/10 ถ้าคนทั่วไปผมว่า 7/10 เพราะตอนผมดูคนเดินออกจากโรง2-3คนเลย คือเหมือนมารอดูฉากระเบิดนิวเคลียแล้วก้ออก ซึ่งมันเพิ่งผ่านไปครึ่งเรื่องเอง และถ้าใครทำการบ้าน ไปฟังชีวประวัติก่อนดู บอกเลยโครตได้อรรถรส เพราะได้ยินชื่อนักวิทยาศาสตร์คนไหนโผล่ออก ก็จะอ่อทันที และโนแลนใส่ใจทุกตัวละครเลย เช่น ตอนทีพบลอเล้นซ์ ดีเทลที่หู ยังใส่มาให้ โครตสุด ไหนจะมีฉากที่ มารี กูรีโผล่มาแว้บๆอีก เหมือนเป็น Easter Egg เลย ลืมพูดถึงงานภาพแสง สีเสียง มุมกล้อง ก้โครตสุด องค์ประกอบมันดีไปหมด นักแสดงก็โครตแสดงดี ดีเกินไปกับราคาตั๋วจริง แนะนำให้ดู Imax
ยังไม่ถึงฉากนิวเคลียร์เค้าก็ออกกันแล้วครับ ผมว่านะเค้ามาดูฉากเลิฟซีนมากกว่า5555
ชอบฉากตอนที่ มีคนบอกให้ richard feynman ที่อยู่ในรถให้ใส่แว่นกรองแสง และเขากลับปฏิเสธและกล่าวว่า กระจกของรถของเขาก็สามารถป้องกันตาของเขาจากรังศีได้ ชอบมากๆเพราะ ผมเคยติดตามประวัติของ richard feynman และเขาคนเดียวที่ได้ดูระเบิดในรถ โดยไม่ใส่แว่น ซึ่งมันได้ขึ้นฉากในหนัง ความรู้สึกตอนนั้น อึ้งมาก 555
ผมดูเเม่งงงไม่รู้เลยครับลืมหมด อ่านซัพไม่ทัน ถ้าออกโรงเมื่อไหร่ว่า จะดูใหม่อีกรอบอยู่ เเต่สิ่งที่ผมรับรู้ได้คือ การกํากับ เเละการเรียบเรียง ไล่อารมณ์ พร้อมเพลง ประกอบ ที่ masterpiece
@@Gaming-qf1ok กระจกปกป้องตา แต่ไม่มีอะไรปกป้องกระจก ผมก็ชอบฉากนี้ 5555
@@Asphyxia.666 5555 สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องก้มลงหลบอยู่ดี 5555 ชอบมากๆ richard feynman ลองไปดูประวิติของเขาน่าสนใจมากๆ เขาได้รับรางวัง nobel prize มา และก็บอกว่า เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานขยัน "I was an ordinary person who studied hard."
"ผมรู้ว่าหลังจากนี้โลกจะไม่เหมือนเดิม บางคนหัวเราะ บางคนร้องไห้ คนส่วนมากกลับเงียบงัน ผมจดจำท่อนหนึ่งของภควคีตาได้เป็นอย่างดี ในตอนที่องค์กฤษณะต้องการจะปลุกกำลังใจองค์ชายอรชุนมาเพื่อสู้รบ เขาได้ตรัสว่า
'ผมกลายเป็นความตาย ผู้ทำลายล้างแห่งโลกใบนี้' "-Robert J. Oppenheimer
หนังสามชั่วโมงที่เน้นพูดๆๆๆๆไม่มีน่าเบื่อเลย ทั้งๆที่ก็รู้เรื่องตามประวัติศาสตร์กันอยู่แล้ว
ลับดับเรื่องได้น่าติดตาม ภาพสวย ดนตรีประกอบได้จังหวะดีมาก
แต่ไม่ได้เดินยิ้มออกมาจากโรง
เหมือนจะมีอะไรหมองๆในใจติดออกมาด้วย
ต้องไปดูบาร์บี้ปรับอารมณ์ต่อกระมัง
รอนานมากอยากดูที่สุด
สำหรับเราบาร์บี้ไม่ช่วยปรับเลยค่ะ หนักในอีกรูปแบบนึง 🥲
ดูมา 2 เรื่องครับ บาร์บี้ ผมปวดหัวกว่า Oppenheimer ครับ Oppenheimer ตึงตรงความยาวและรายละเอียด แต่บาร์บี้ดูแล้วปวดหัว
+ เป็นเหมือนกัน ฉาก Trinity Test คือหยุดหายใจเลยครับ เงียบและตกใจ พูดไม่ออกจุกอยู่ในอก หลายอารมณ์รวมอยู่ในสมอง เป็นการดู IMAX ที่คุ้มสุดในปีนี้แล้วสำหรับผม 10/10
ดูบารบี้เสดหมองกว่าเดิม 🤡
หดหู่ตอน สุดท้ายที่ Robert รู้ตั้งแต่แรกว่าจะเจออะไีร ตามที่ Albert บอกตั้งแต่แรก 🥹
เคยดูซีรีย์ Genius ที่สร้างจากประวัติของไอสไตน์ ในซีรีย์ทำให้คนดูเข้าใจว่าหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ฝั่งเยอรมันจงใจให้การระเบิดนิวเคลียร์ทำไม่สำเร็จ เพราะเค้าเลือกแล้วที่จะไม่ปล่อยปีศาจตัวนี้ออกมา ตอนที่เมกาทิ้งระเบิดสำเร็จในซีรีย์มีบทพูดของหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ฝั่งเยอรมันตอบลูกน้องที่สงสัยว่า พวกเมกันทำสำเร็จได้อย่างไร ว่า "จริงๆแล้วมันง่ายมากเอากระดาษกับดินสอมาสิ" ส่วนตัวเลยสนใจนักวิทยาศาสตร์คนนี้"เวอร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก" มากกว่าออปเฟนไฮเมอร์
ในปี 1945 วันที่ 30 เมษายน ฮิตเลอร์ตายไปแล้ว ญี่ปุ่นสู้คนเดียวได้อีกไม่นานหรอก แต่ระเบิดลิตเติลบอยก็ถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิม่า วันที่ 6 สิงหาคม 1945 ระเบิดนิวเคลียร์ลูกนี้ไม่จำเป็นเลย เป็นแค่ตัวเร่งทำให้สงครามที่จะจบอยู่แล้วจบเร็วขึ้นเท่านั้น ส่วนการทิ้งแฟตบอยที่นางาซากิคือการทดลองที่ใช้ชีวิตคนแทนหนูทดลองชัดๆ การหยุดสงครามเป็นแค่ข้ออ้าง สิ่งที่ชัดเจนกว่าคือ"ความอยากได้อำนาจ"เหนือทุกประเทศต่างหาก
คำพูดคนจะแต่งให้สวยหรูยังไงก็ได้ แต่การตัดสินใจและผลพวงที่เกิดขึ้นมันคือของจริง
เราคิดเหมือนคุณเลย ยิ่งตอนเลือกว่าจะทิ้งระเบิดเมืองไหนในญี่ปุ่น คือจุกออกแทน😢 มันแค่คำพูดสวยหรูจริงๆ
ถ้าสมมุติว่าเมกาไม่บอมฮิโรชิม่าเเละนางาซากิเเต่เลือกที่จะยกพลขึ้นบกที่ญี่ปุ่นเเทนล่ะจะเป็นไง
มันจะเกิดการสูญเสียที่ใหญ่มากครับ แต่ข้อไม่อธิบายรายละเอียดนะครับ@@กูมันร็อค
เป็นบทความที่ลึกซึ้งและจริงแท้ที่สุดครับ
ลองจิตรนาการดูว่าถ้า ฮีเลอร์ มีระเบิดนิวเคลียร์ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน
ส่วนตัวผมชอบช่วงหลังที่เป็นช่วงไต่สวน และมีแต่บทกันพูดรัวๆมาก 'เพราะสำหรับผม' ผมว่านั่นคือแก่นของหนังเรื่องนี้เลย เพราะชื่อเรื่องก็ชัดอยู่แล้วว่าคือ 'Oppenheimer'
และเพราะ 'คนส่วนใหญ่' รู้อยู่แล้วว่าคุณออพเพนไฮเมอร์ คือบิดาของระเบิดปรมาณู
แต่ผมเชื่อมากว่ามีคนน้อยมากที่รู้ว่าเขาต้องเผชิญอะไรมาบ้างทั้งก่อนและหลังสร้างระเบิดเสร็จ เพราะคนจะจำแค่ว่าเขาคือ 'บิดาของระเบิดปรมาณู'
เห็นด้วยครับ ก่อนเข้าไปดูนึกว่าเป็นหนังที่จะเล่าว่า Oppenheimer กว่าจะเป็น"บิดาของปรมาณู"ได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรบ้าง แต่แท้จริงแล้ว หนังต้องการจะบอกว่า Oppenheimer ต้องเจอข้อหาอะไรบ้างจากฝ่ายบริหารของอเมริกาในตอนนั้น ซึ่งก็คือ ขัอหาสุดคลาสิกในสมัยนั้น "ฟักใฝ่ลัทธิคอมมูนิสต์" เข้าทำนองที่ว่า " ทําดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน" ซึ่งอยากให้ทุกท่านดูจนจบ เพราะมันมีการหักมุมเกิดขึ้นในฉากสุดท้าย สำหรับผมให้ 100/100 ไปเลยครับ 😊
ผมทําการบ้านมาไม่พอครับ ไม่รู้ว่าจะ คุยกันรัวขนาดนี้ ตามไม่ทันเลย ลืมตั้งหลักเลย
10/10 ฉาก Trinity Test คือหยุดหายใจไปเลยครับ เงียบและตกใจ พูดไม่ออกจุกอยู่ในอก หลายอารมณ์รวมอยู่ในสมอง เป็นการดู IMAX ที่คุ้มสุดๆในปีนี้แล้วสำหรับผม ขอบคุณสำหรับหนังดีๆครับ เสด็จพ่อโนแลนด์
จริงครับผมดูฉากนั้นมือสั่น ไม่ก็กัดเล็บ
@@mistoffeleesly5336 เงียบทั้งโรง 555
ฉากที่คุยกับ Albert ผมโคตรชอบเลย คือรู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้มันคิดยังไงและจะทำอะไรกับเรา นักแสดงตัวเอกผมอินมากอารมณ์ลึกๆเน้นๆ ผมไม่ผิดหวังกับตัวละคนเอกเลยครับ
หลังดูจบผมประทับใจมาก ไม่คิดว่าชีวประวัติ ของ oppen จะเป้นทั้ง นักฟิสิกส์ นักการเมือง ผู้บริหารโครงการ การวางแผนให้งานเสร็จตามกำหนด ไหนจะเรื่องบุคคลากรที่ต้องเอาใจใส่ทุกคน ต้องเจอกับความมั่นคนระดับประเทศ ต้องเหลี่ยมสู้กับเพื่อนร่วมวงการ ปัญหาครอบครัว ชู้ เด็ก หนักสุดคือเรื่องของ คอมมิวนิส
ในชีวประวัติไม่ได้เป็นนักการเมืองค่ะ ไม่สนใจการเมืองด้วยซ้ำ แต่ดวงคนรอบข้างเป็นคอมมิวนิสต์หมด น้องชาย แฟนเก่า เมีย
เป็นนักวิทยาศาสตร์
@@MM-fu7bl อ่าวหรอครับ ในหนังผมได้ยินนักวิทยาศาสตร์คนนึงบอก Oppenว่าเป็นนักการเมืองที่ละทิ้งฟิสิกส์ไป
@@vr2qu611นรอบข้างเขาพัวพันกับคอมมิวนิสท์ทั้งนั้นด้วยแหละครับ มันเลยเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาต้องโดนลากเข้าไปยุ่งกับการเมืองทั้งๆที่แกอยากจะทำระเบิดให้เสร็จก่อนนาซีแค่นั้นเอง
ผมให้ 10/10 เลยครับ โดยรวมเป็นคริสโตเฟอร์ โนแลน 3 ชั่วโมงที่เล่าสนุกมากครับ เนื้อเรื่องที่เล่า บิดาแห่งระเบิดปรมาณู Oppenheimer ได้ดีและเข้าใจ Cillian Murphy เล่นเป็น Oppenheimer ได้ดีถ่ายทอดอารมณ์ทุกรูปแบบมาได้ดีมาก Robert Downey Jr แสดงได้แย่งซีนและชอบเหมือนเดิมเรื่องนี้ นักแสดงคนอื่นก็เล่นดี ฉากทดลองระเบิดอลังการมาก ฉากไต่สวนคุยกันมันส์มากถ้าเข้าใจก็ชอบครับ
เราเป็นอีกคนที่ชอบเรื่องนี้มาก หลังจากสามีชาวเมกาเสียชีวิตไป 8 ปี แล้วเราไปดูหนังแค่ 4 เรื่องเท่านั้น เราไม่เคยรู้จักผู้กำกับคนนี้มาก่อน หลังดูเรื่องนี้แล้วต้องไปหาอ่านประวัติของ Nolan เลยต้องไปดูอีกครั้ง เก็บรายละเอียดได้มากขึ้นเยอะ เห็นด้วยกับคำวิจารณ์เช่นกัน เรื่องนี้มำให้นึกถึง จาง อี้ โหมว เรื่อง The Road Home ช่วงที่ลูกชายเล่าเป็นขาวดำ ช่วงเรื่องของพ่อแม่ของผู้เล่าเป็นสี ชอบสีหน้าของลูกน้องสตรอยมาแจ้งผลการตัดสินใจ แววตาเค้าแสดงความรัวเกียจสตรอยด้วยล่ะ สรุปคอหนังดราม่าน่าไปดูนะ
10/10 เป็นหนังโนแลน 3 ชั่วโมงที่ดี เนื้อเรื่องเล่าดีและเพลินตลอดไป ฉากพูดคุยกับมันส์และน่าสนใจ ฉากระเบิดขนลุกและอลังการมาก
ประโยคสุดท้ายที่ออพเพนไฮเมอร์คุยกับไอสไตน์ มันคือ The Best มากๆ มันทำให้ผมรู้สึกกลัว Atomic Bomb แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน 10/10 เหมือนกันครับ
ปล.ผมอยากให้ช่องนี้ทำ "ยิ่งรู้ยิ่งอิน" ของหนังเรื่อง ออพเพนไฮเมอร์ มากๆเลยครับ ยังติดใจมาจาก TENET 🥰
เขาคุยกันว่าอะไรเหรอครับ ผมอยากรู้
@@26Kraiwityodpan ถ้าบอกมันจะสปอยอ่ะดิครับ แต่มันเป็นบทสนทนาสั้นๆครับ ประมาณว่า "สิ่งที่ออพเพนไฮเมอร์สร้างจะนำไปสู่การล่มสลายของโลก" อะไรประมาณนี้อ่ะครับ บวกกับเสียงดนตรีในช่วงที่พูดด้วย มันเลยให้ความรู้สึกทั้งตื่นเต้น แล้วก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกันเลยครับ
@@colorpinkk3230โครตขนลุกอะครับฉากนั้นอะ
@@SysositssStsots จริงครับ บวกเพลงประกอบด้วย 💥🔊
ขนลุกเลยค่ะฉากนี้
ตอน TENET เข้าฉาย พยายามจะเข้าใจหนังจนทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สนุกไปกับหนัง พอ Oppenheimer เข้าฉายเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ ครั้งนี้ไม่พยายามจะเข้าใจมัน แต่พยายามจะรู้สึกถึงมัน ผลที่ออกมาคือหนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์การดูหนังที่ดีที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่งเลย
Tenet เข้าใจก่อนดูเลยหรอ เก่งนะ ผมต้องให้เพื่อนอธิบายหลังดูพอเข้าใจ
เห็นด้วยเลยค่ะ ตอนtenetเรามัวแต่โฟกัสวิธีการถ่ายจนทำให้รับสารจากหนังได้ไม่เต็มที่ รอบนี้คือไม่ดูเทลเลอร์ไม่ดูทีเซอร์ไม่คาดหวังไม่คิดเผื่อหนัง มีเตรียมตัวแค่อ่านประวัติอพฮมมาแค่คร่าวๆแล้วจองตั๋วเข้าโรงเลย เป็นปสกการดูที่ดีมากและเป็นสามชมที่เต็มอิ่มที่สุดแล้วจะกลับไปดูซำ้แน่นอน
@@lokivariants หมายถึงตอนดูในโรงครับ ดูไปพยายามคิดไป จนรู้สึกว่าไม่เอ็นจอยเท่าไหร่
@@impim.x2991 เหมือนกันครับ กลับไปซ้ำแน่นอน
เหมือนกันเลยค่ะ เรื่องก่อนๆของโนแลนเรามัวแต่โฟกัส พยายามเข้าใจ จน catch up อันอื่นไม่ทัน พอเห็นสัมภาษณ์ของโนแลนบอกว่า ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพยายามเข้าใจ just feel it เราเลยดูแบบใช้ฟีลลิ่งล้วนๆ คือดีมากกก เราเข้าใจสิ่งที่โนแลนถ่ายทอดอย่างแจ่มแจ้ง
ทั้ง Oppenheimer ทั้ง Barbie แตกต่างแต่แอบเหมือนกันเรื่องความโหดร้ายของโลกความเป็นจริง
ฉันกับนายต่างกันแค่โทนสี
Barbie ของสดใสผู้หญิงชอบ
@@Squier123ชายแท้เคยดูรึยังครับ หรือแค่เห็นโปสเตอร์แล้วเดาเอา
@@Squier123หนังดาร์คในคราบสดใส
@@Squier123 เอาอะไรมาสดใสก่อน 555555
"Now I am become death, the destroyer of worlds."
"บัดนี้ ข้าได้กลายเป็นมัจจุราช ผู้ทำลายล้างโลก"
- Julius Robert Oppenheimer (1904 - 1967)
สนุกครับ ภาพสวย บทสนทนาเพลิน ตัดฉากเท่ห์ แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
ค่อนข้างต้องเป็นคนที่มีพื้นเพความรู้ทางประวัติศาสตร์อยู่ประมาณนึง
เรื่องมีตัวละครเยอะมากจนจำหน้าจำชื่อแทบไม่ทัน แถมการเมืองแน่นมาก
ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย คิดว่าไอน์สไตน์เป็นคนสร้างระเบิดนิวเคลียร์ก่อนจะมีเรื่องนี้ด้วยซ้ำตามเรื่องแทบไม่ทัน
แถมช่วงโค้งสุดท้ายมีการเฉือนคมทางการเมืองแบบเอ้าเดี๋ยวนะ ชื่อนี้มันยังไงนะ คนนี้มันยังไงของเรื่องนะคุ้นๆ
ผมไปดูimaxมารอบแรกแต่ก็แอบสมาธิหลุดแบบเจ้าของเม้นเลยครับ เลยกลับมาฟังเรื่องราวของแกตามช่องฝรั่ง แล้วว่าจะไปย้ำอีกซักรอบครับ
ผมว่าหนังเขาทำออกมาดีนะ คนรู้วิทยาศาสตร์ หรือ แค่พอรู้ประวัติศาสตร์นิดหน่อยก็พอรู้เรื่อง แกก็ยังพยายามจะสื่อสารกับผู้ชมอยู่นะ
ผมดูimax with laser มาแต่สำหรับหนังเรื่องนี้ที่ขอชื่นชมเลยคือ
1.เสียงที่ต้นฉบับใส่มาให้แบบเต็มพิกัด สะท้านทรวงแน่นอน,
2.เป็นการถ่ายทอดขีวิตของคนคนนึงที่ทำให้ผู้ชมรู้จักและรู้สึกไปด้วยจริงๆราวกับคุณกำลังเป็น oppenheimer เลย แลดูเป็นคนเก็บตัว และ ศึกษาศาสตร์แทบทุกทาง เป็นการทำหนังที่ทำให้คุณดำดิ่งเข้าไปในจิตใจของตัวละครตัวนี้ได้ทันที 😂
3. ภาพ ไม่ต้องพูดถึงครับดีทุกสิ่ง แต่ที่ชอบคือการใช้สีขาวดำและการตัดต่อฉาก โคตรดี โคตรเนียนตา
10/10 คนอยากรู้ชีวะประวัติไปหาอ่านหาดูที่ใหนก็ได้ แต่นี้ไม่ใช่หนังแบบนั้นคุยแทบไม่พักเลยทั้งเรื่อง ฉากตัดสลับๆสลับมาสไตล์โนแลน เนื่อหาทั้งการเมือง ความสัมพันธ์ ความชอบของตัวละคร ทัศนะคติทางสังคม วิทยาศาสตร์ ชื่อนักวิทย์ ไปจนถึงควานตัม ระเบิดไม่ใช่พระเอกของเรื่อง😅😅 โนแลนเล่าเรื่องของเทพที่ได้ขโมยไฟลงมาจากสวรรค์เพื่อให้มนุษย์อละถูกลงโทษอย่างไรได้แบบแยบยลจริงๆ
ถ่ายด้วยกล้อง 65mm นะครับแล้วปริ้นเป็น 70mm (ที่เพิ่มมา 5mm เป็นแถมแม่เหล็กสำหรับเสัยงครับ) ฉากถ่ายฟิล์ม ขาว-ดำ ได้ contrast ที่แบบสุดมากๆ ดีเทลหนังที่เก็บรายละเอียดตามประวัติเป๊ะมาก เหมือนดูสารคดีที่มาในรูปแบบภาพยนต์
ถ้าเป็นหนังชีวะประวัติ + ประวัติศาสตร์สงคราม ผมว่าเรื่องนี้ทำได้ดีมากๆ หาตัวจับยาก
หรือไม่มีเลย ส่วนใหญ่เป็นประวัติศาสตร์สงครามเพียวๆ
IMAX ไปดู MEGA มา ตัวใหญ่สุด แต่แถวที่ดีที่สุดกลับเป็นแถว I ราคาถูก ใครซื้อตั๋วแพงไป ถ้าไม่เป็นโซฟาจัดว่าเซ็งจัด
ระบบเสียงผมว่า ไม่ได้ surround ขนาดนั้น แค่เสียงมันดัง ถ้าเป็น Maverick อันนี้เชียร์ แต่เรื่องนี้ไม่เชียร์
ภาพผมว่าใช้ DOP ของ IMAX ได้ไม่ค่อยดี โฟกัสผิดบ่อย ดูแล้วเสียอารมณ์บ้าง
3 ชม ไม่มีน่าเบื่อเลย
ชอบตอนที่พระเอกจับมือเมียที่มีลูกด้วยกันครั้งแรก แล้วอธิบายควอนตัมไม่กี่คำแต่ทำให้อึ้งไปเลย
เคยดูคลิปเกี่ยวกับกลศาสตร์ควอนตัม แต่พระเอกอธิบายไม่กี่คำเหมือนดูทั้งคลิป 👍
สำหรับผมแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนัง แต่เป็น ข้อความย้ำเตือน หรือ สารจากอดีต ให้กับมนุษย์ผู้โง่เขลา
ที่หลงอยู่ในวังวนของสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง 😊
ขอสอบถามค่ะ เดี๋ยวนี้เลิกทำสปอยแล้วหรอคะ ชอบมากๆเลย รออยู่นะคะ
ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคนนะ คนหลับคาโรงก็มี คนชอบก็มี หนังเลือกคน คนเลือกหนัง
คะแนนให้ 10/10 เป็นหนังคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ยาว 3 ชั่วโมง ที่ชอบและดีครับ เนื้อเรื่องเล่าดีเข้มข้นและน่าสนใจ ฉากพูดคุยมันส์มากแต่ละฉาก Cillian Murphy ที่มารับบทเป็น Oppenheimer และเป็นพระเอกหนังโนแลนเรื่องแรก เล่นดีสามารถถ่ายทอดมิติตัวละครมาได้ดีทุกอารมณ์ Robert Downey Jr ก็เล่นดีแย่งซีนด้วยบางฉาก Matt Damon Emily Blunt Rami Malek และคนอื่นเล่นดีแม้บางคนโผล่น้อย ฉากทดลองระเบิดตอนดูขนลุกแล้วอลังการมากครับ เพลงประกอบดีและฟังเพลิน ฉากภาพขาวดำในที่ประชุมชอบอยู่ครับ
หนังคุยกันยับแต่กลับตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ ชอบเสียงประกอบตลอดทั้งเรื่องเลย ประวัติผมก็ทำการบ้านมาก่อนด้วยมั้งเลยไม่เบื่อ
สำหรับผมที่ดูหนังแล้ว เกือบ3ชั่วโมง เปนหนังที่ไม่เบื่อเลย สำหรับผมชอบมากครับหนังเรื่องนี้ทั้งภาพและแสง การใช้สี การเล่าเรื่อง และบทตัวละคร เห็นถึงการเปลี่ยนแปรงและความรู้สึกของตัวละครหลัก ส่วนตัวชอบหนังเรื่องนี้มาก คุ้มค่ามากกับเวลาเกือบ3ชั่วโมง
เป็นหนังที่ผมดูแล้ว รู้สึกอินไปกับหนังมากๆ ถ้าเชื่อมโยงTimelineแต่ละเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เข้ากับหนังได้ ในหนังจะสอดแทรกเรื่องเล็กๆน้อยๆในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย ยกตัวอย่างเช่นจรวดV-2, เหตุการณ์เยอรมันบุกไปเอาน้ำมวลหนัก บอกแค่นี้แหละ เพราะฉะนั้นไปหาดูเอาเองครับ😅
ยังไม่ได้ดูหนัง ไม่ได้ดูวีดีโอตามคลิปด้วยฟังแค่เสียง บรรยายดีมากเลยค่ะ ใช้คำ คำแนะนำ ทำให้การวิเคราะห์ดูน่าสนใจมากค่ะ
หนังเรื่องนี้โนแลนโชว์ออฟมากนะครับ เอาสารคดีมาทำเป็นหนังให้ไม่น่าเบื่อ เลยต้องโชว์ออฟเทคนิคการถ่ายทำเข้าไปเยอะมากทั้งภาพและเสียง
ถ้าใครไม่ใช่สาวกโนแลนคงเฉยๆกับหนังเรื่องนี้
คือต้องทำการบ้านนิดนึงก่อนดูครับ ของผมดูสารคดีของ the watcher อีเหี้ยเข้าโรงแมร่งกรูอินทุกอย่างเลย ของผมเลย 10/10 ครับ
อยากให้ทำคลิป นักวิทยาศาสตร์หญิงชาวจีน ที่อยู่ในทีม manhattan ที่สร้่างนิวเคลียร์ลูกแรกด้วยครับ
ผลงานของเธอถูกบันทึกไว้ใน wikipedia แต่แทบไม่มีใครทำสารคดีออกมาเลย ทั้งๆที่ผลงานของเธอ
เป็น key สำคัญของความสำเร็จของ project นี้
Soundtracks คือสุดมากกกก นสด.ดีทุกคน บทสวนฉะกันคือเดือดด 💯 การเล่าเรื่องผสม sound effects คือ แปลกใหม่ที่ลงตัวมาก
สำหรับผม ยังไม่มีเรื่องไหนของเขาที่เทียบ Interstella ได้ครับ เรื่องนี้ยิ่งไม่ใกล้เคียง
เป็นหนังที่ประกอบด้วย Politic 60% การบิ้วอารมณ์ด้วยแบคกราวด์มิวสิค 20% ความรู้วิทยาศาสตร์ 15% และระเบิดอีก5% ครับ 555
เห้ยจริงนะคะตอนเเรกคือนั่งดูชิลๆพอกลางเรื่องเริ่มนั่งหลังตรง ตอนสุดท้ายกุมขมับอ้ากกกกกก เข้าถึงอารมณ์จริงๆค่ะ ดูเรื่องนี้ไม่ผิดหวังเลย🥹
เสียงประกอบเยอะจริงครับเรื่องนี้แทบจะมีทุกฉาก ไม่รู้ ฮาน ซิมเมอร์เหมือนเดิมมั้ยแต่ชอบงาน score สุดๆครับ แค่ฉากรัวทิมปานีฉากแรกๆผมก็ขนลุกแล้วครับ
ผู้ประพันธ์ไม่ใช่ Hans Zimmer ครับ แต่เป็น Ludwig Goransson ครับ Ludwig Goransson เป็นคนเดียวกันกับที่ทำ Soundtrack ให้ Christopher Nolan ในภาพยนตร์เรื่อง Tenet ครับ
@@tateeth ขอบคุณมากครับ โคตรดีเลยครับ ฉากไคลแม็กซ์คือบิ้วสุดๆ
ตอนจบแอบร้องไห้เลย เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดกับเราในที่ทำงานเลย😢 ไม่คิดว่าจะแอบสะเทือนใจ ต้องออกมานั่งสงบสติอารมณ์ก่อนกลับบ้านสักพันเลย
บทหนักมาก ประวัติศาสตร์มันโหดร้ายจริงๆ
เราคนนึงที่หวังว่าจะเป็นแนววิทยาศาสตร์ แต่ดูไปเรื่อยๆ เอ๋า เน้นการเมืองหนักๆเลย เผลอหลับไปด้วยค่ะครึ่งเรื่อง ตื่นมาอีกทีก็เป็นฉากระเบิดเลย😂
ผมบอกเลยนะ ผมดู Oppenheimer แล้วผมอินมาก เพราะผมเคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ ด้านควอนตัมฟิสิกส์มาก่อน ผมต้องอ่านผลงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ที่ในหนังเล่ามา ตั้งแต่ ลอเลนซ์ นีล บอหร์ จน ออปเพ่นไฮเมอร์ บอกเลยอินมากกับ3ชม ปลื้มปลิ่มอยากกลับไปทำงานวิจัยแบบเดิม😢
ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ครับ
ผมมาเรียนฟิสิกส์ก็เพราะไอสไตน์ เลยครั
ตอนไอสไตน์มีบทพูดผมน้ำตาไหล แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ บอกไม่ถูก ปัจจุบันก็ทำงานวิจัยทางด้านฟิสิกส์แต่แอพพลายมากขึ้น
@@sutameeamtak5760 เป็นนักเขียนครับ กำลังจะหางานใหม่กลับไปทำสายเดิม
@@VictorT-qp7hz ปัจจุบันผมมาไกลมากจากวิจัย แต่กำลังจะหางานใหม่ที่กลับไปทำใกล้สายวิจัยมากขึ้น
@@G99q251 พยายามกลับไปไห้ได้ครับ ไห้นึกถึงตอนที่สอบเอนทรานเข้ามหาลัย มันหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ และความเป็นตัวตนของเราระหกระเหินไปในที่ต่างๆเป็นเสมือนดาวที่นำทางชีวิตสู้ครับ
ชอบ sound และบทพูดสุดท้ายก่อนหนังจบมาก
จะว่าไปแล้ว หนังทั้งเรื่อง ก็มีบทสรุปท้าย ที่ Peak สุด คือ บทสนทนาลับที่ เสตราท์ ( Robert downey Jr ) อยากรู้มากที่สุดว่า Oppenheimer ได้คุยอะไร กับ Einstein...จนทำให้ Einstein เดินผ่านคนสำคัญอย่างตัวเอง ราวกับเดินผ่านสุนัขที่ไร้ตัวตน....ตัวนึง ได้..
อ้อ ที่ชอบมากๆอีกอย่างก็คือ หนังเรื่องนี้รวมนักแสดงดังๆที่เราคุ้นหน้าหน้าคุ้นตาจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดย มารับบทเพียงสั้นๆแต่เป็น บทสำคัญๆทั้งนั้น เช่น ตัวร้ายระดับ Elite ที่ทำให้ James bond ตาย อย่าง Rami Malek ยังรับบทแค่ นักข่าวหนุ่ม ที่ Oppen หาได้สนใจแม้แต่หางตาไม่ ทั้งเรื่องมีบทรวมๆแล้วน่าจะไม่เกิน 3 นาที แต่สุดท้ายแกก็เด่นสมความดัง เพราะกลับกลายเป็น พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย Oppen ให้รอดคดี ซะงั้น
ผมคิดว่าเป็นตัวร้ายด้วยซ้ำนะตอนแรก ทรงมันให้สุดๆ สุดท้ายหักมุมเฉยเลย ชอบมากครับ
แช้วสรุปผู้พัน matt demon แกเป็นฝ่ายดีหรือร้ายครับในเรื่อง ร้ายใช่ไหม
คะแนนให้ 10/10 เลยครับเป็น 3 ชั่วโมง ที่ฉากพูดคุยและสนทนามันส์และน่าสนใจ Cillian Murphy แสดงเป็น Oppenheimer ได้ดีเหมือนตัวจริงและดีทุกอารมณ์มากครับ Robert Downey Jr เล่นดีมากและแย่งซีนด้วยบางฉาก Matt Damon Emily Blunt Rami Malek Kenneth Branagh และคนอื่นเลยดี ฉากทดลองระเบิดขนลุกแล้วอลังการมาก มีได้ชิงออสการ์สูงมากเรื่องนี้
สนุกมาก หลังไม่ติดเบาะ ลุ้นจริง เครียดจริง เหมือนอยู่ในทีมวิจัย
ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะชอบหนังคุยกัน 3 ชั่วโมง แต่เรื่องนี้มันสุดจริง
อยากเห็นหน้าเวลาคุณหมีพูดจังเลยค่ะ ชอบเสียงนี้สุดๆ ฉันหลงรักเสียงนี้ ❤
แนะยำให้ไปดูพอร์ตแคสของThe Standard กับ ช่องของอาจารย์วรงค์ ก่อนไปดูมันจะอินมากถ้าพอรู้ที่มาที่ไป ยังไม่ได้ไปดูรอใกล้ออกโรงก่อนตอนนี้คนเยอะมากแถวบ้าน ไม่อยากต้องชะเง้อดูเพราะคนข้างหน้าบัง
ยังไงก็ชอบ ชอบมากรอคอยแล้วดูตั้งแต่วันแรกเลย ละเอียดดีทุกแง่มุมแต่ถ้าใครอยากเห็นหนังสงครามยุคเดียวกันไปดูเพิลล์ฮาเบ่อร์ ดูมิดเวย์ไปเลย แต่เรื่องนี้มาดูมุมดูความกดดันกับออพเพ่นไฮเม่อร์กับทีมงานความหวังของอเมริกาสุดๆ แล้วชอบคิลเลียนมากสายตาอารมณ์แกคือที่สุดเหมือนโทมัส เชลบี้ พีกี้ไบรเด่อร์ คือแกเล่นได้เครียดสุดๆบุหรี่มวลต่อมวล😁แล้วรักหนังโนแลนด์ด้วยตั้งแต่ Inception มาแล้วดันเคิร์กก็ชอบมีความภาพความบรรยากาศหนังเหมือนกัน
10/10 ค่ะ องค์สุดท้ายของหนัง มันดีมากกกกกก
รู้สึกเหมือนผมเลย สุดจริงครับตอนท้าย
ฟังแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Little Boy เลยครับ
พลังอำนาจที่เหลือล้น กับควมฝันที่จะสร้างสันติภาพโดยการยุติสงคราม แต่พลังนั้นกลับไม่ได้สร้างสิ่งใดนอกจากความสูญเสียที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
เด็กน้อยเคลื่อนภูเขาได้
ตอนแรกนึกว่าดูแล้วจะหดหู่ แต่มันกับ โคตรหนัง แบบสุดยอดมาก มันให้ข้อคิดเยอะมาก แล้ว เหมือนตบหน้า เหล่าผู้นำโลก ตอนนี้เลย เรื่องเกี่ยวกับสงครามแล้ว อาวุธนิวเคลียร์ ขนลุกตอนจบ ปฏิกิริยาลูกโซ่เกิดขื้นจนถึงทุกวันนี้ มีอาวุธนิวเคลียร์เต็มโลกและมันพร้อมระเบิดทุกเมื่อ หนังโคตรตำนานแน่ๆ
ประสบการณ์ที่โรงหนังให้กับผมคือแย่มากคือผมไปดูเรื่องนี้แล้วแบบว่าโรงหนังไม่ได้ผิดนะครับแต่คนที่เข้าไปดูนี้แหละคือผมกำลังดูอยู่แถวกลางของตัวโรงหนังแล้วเสียงในเรื่องคือดีมากๆแต่จู่ๆในโรงที่ผมไปดูก็มีคนหลับแล้วคือคนๆนั้นเป็นคนที่กรนดังมากๆแล้วจะหว่ะตัวละครกำลังพูดคุยกันก็มีเสียงกรนดังมากๆแล้วจังหว่ะตัวละครกำลังพูดคุยกันก็มีเสียงกรนเข้ามาแซกอยู่เรื่อยๆจนแถบจะเสียสมาธิในการดูหนังเลยเข้ามาแซกอยู่เรื่อยๆจนแถบจะเสียสมาธิในการดูหนังเลยคือรู้สึกเศร้ามากๆเลยที่สมาธิไม่ได้จดจ่ออยู่ที่หนังที่ดีขนาดนี้แค่อย่างเดียว😢😢😢แล้วคือคนหลับแล้วกรนไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วยมีด้วยกัน2คนเลย มีอยู่ริมบนกับตรงกลางของโซฟา vip เลย
แซกเลยหรอครับ😕
ถ้าเจอละ อยากจะลุกไปด่าจริงๆ
@@crazypigcutedog7529คือเสียงกรนเขาคือดังมากๆ ผมนั่งเกือบตรงกลางของโรงหนัง
แล้วนั่งอยู่ริมแถวก่อนถึง vipอ่ะครับ
@@gz3472 ผมแค่แซวเล่นเฉยๆเหมือนที่คุณไปพิมพ์อีกเม้นไง ขำๆน่า😂
สภาพตอนอยู่ในโรง = อ่านซับให้ทัน + เรียบเรียงเหตุการณ์ + จำตัวละคร + ตีความข้อมูล (ความรู้ที่มี = 1 รู้จักแค่ไอน์สไตน์คนเดียว)
แต่พอจบแล้วโอเค คุ้มที่นั่งขมวดคิ้วติดต่อกันสามชม. ฮึ่ม...
เมื่อก่อนมีแต่คนพูดว่าไอน์สไตน์เป็นผู้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งเราก็เชื่อเช่นนั้น จนมาเมื่อ 5-6 ปี ก็มีสารคดีออกมาเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วใครคือผู้สร้างระเบิดปรมาณูตัวจริง😊
10/10!!!!!!! แม่จ้าวววแสดงว่ามันสุดยอดมากๆเลยครับ ถ้าช่องหมีให้คะแนนขนาดนี้!!!! ต้องดู....
พี่ผมยังตามไม่ทันทำไมพี่ไม่ทำสปอยหนังเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ผมชอบการเล่าเรื่องของพี่มากๆ ช่วยบอกหน่อยนะครับ
คือหนังดราม่า เนื้อเรื่องชีวะประวัติของ Robert J. Oppenheimer ฉะนั้นจึงไม่มีฉากต่อสู้เลยทั้งเรื่อง คนไทยยังไม่เข้าใจหนังแบบนี้หลายคน และ การศึกษาไทยไม่เคยลงลึกประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่2 ขนาดสงครามอินโดจีนใกล้ตัวสุดๆยังไม่บอกรายละเอียดเลยว่าเหตุการณ์จริงๆคืออะไร ใครเกี่ยวข้องบ้าง สอนแต่สุโขทัยอยุธยารัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุนี้บางคนหลุดเนื้อเรื่องไปหลายตัวละคร เพราะตัวละครเยอะมาก พอมาดูรอบ2ถึงเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นเยอะ ถ้าเข้ากทม.เมื่อไรจะไปซ้ำไอแมกซ์อีก
เจอประเด็นหลังการระเบิด เรื่องระเบิดดร็อปไปเลย ต้องบอกว่าเลี่ยยยยหนักมาก ร้องไห้ตอนที่นางเอกสู้เพื่อผัว นักสู้จริงๆ ชอบการใช้เพลงสลับกับภาพแอ๊บสะแตกตามสไตล์โนแลน ถ้าไม่ใช้ดาราตัวท๊อปๆ บอกเลย เละ พี่แมท พออายุเยอะแล้วมาเล่นร้ายคือร้ายจริงๆ อยากได้
คุยทั้งเรื่อง ดีนะตอนแรกจะไปดูที่โรง ดูที่บ้านกรอได้ แทบทั้งเรื่องเลย คุยเยอะเกิน
ณ เวลานี้ ผมพึ่งได้ดู oppenheimer เนื่องด้วยตอนมันฉาย โรงแถวบ้านไม่มี sub thai มีแต่พากษ์ไทย บวกกับความขี้เกียดจะขับรถไปหาดูไกลๆ
พอได้ดูแล้วรู้สึกว่าการได้นั่งดูที่บ้านมันดีไปอีกบอกแล้วก็คิดว่าดีสำหรับผมด้วย เพราะการได้ดูไปพอสไปแล้วคิดตามแม่งโครตจะดีเลย บวกกับการได้หยุดเพื่อค้นหาข้อมูลเหตุการณ์หรือบุคคลจริงๆในเรื่อง
มันยิ่งเติมเต็มอรรถส หนังพูดกันทั้งเรื่อง แต่ความรู้สึกตอนดูคือไม่เบื่อเลย ไม่เบื่อเลยสักวินาที คำพูดชวนให้คิดได้ทั้งเรื่อง แล้วยังไม่รวมเรื่องงานภาพหรือรายละเอียดต่างๆ
10/10 แบบไม่ต้องมีข้อติเตียน
เสียดายไม่ได้ดู IMAX แต่ถึงได้ไปดู คงอ่านซับไม่ทันแน่ๆ
10/10 เหมือนกันค่ะ แต่มีที่งงคือ
1.คนที่อยู่กับ robert downy jr ที่เข้าข้างพระเอกคือใครคะ
2.คนที่มาเปิดโปงในสภา ใช่ทหารใส่แว่นลูกน้องนายพลที่คอยตามดูพระเอกในตอนแรกก่อนได้เข้าโปรเจ็คมั้ยคะ
3.นายพลที่อยู่กับพระเอกทั้งโปรเจ็คแต่ตอนสุดท้ายกลับเลือกไม่รับรองให้พระเอกหรอคะ? แล้วถ้าไม่รับรองเพราะอะไร
ใครดูเข้าใจคอมเม้นบอกได้นะคะ🥺🙏🏼
ขนาดเราไม่ได้ตามหนังของผู้กำกับคนนี้นะ ตอนแรกที่เข้าไปดูกลัวดูยาก แต่สักพักเหมือนเราโดนดูดเข้าไปในหนัง รู้สึกเหมือนมีอารมณ์ร่วม สักมากกว่า เสียงประกอบก็มีผล มันไม่น่าเบื่ออย่างที่เราคิด แต่เส้นเรื่องก็มีที่เราหลุดบ้างไม่เข้าใจบ้าง ไม่ได้แย่และก็ไม่ได้ดีเวอร์ขนาดนั้น
พี่ใช้ไมค์อะไรครับ คุณภาพเสียงดีมาก
คล้าย radioactiveหรือThe courier ที่เบเนดิกซ์ แสดงมั้ยครับ
เพิ่งดูมาล่าสุด ผมว่ามันเป็นหนังที่ดีนะเเต่มันไม่คุยกับผม ผมดูไม่จบเรื่อง ดูถึงที่เขาคิดระเบิดได้เเล้วเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าความเสียหายเป็นอย่างไร เเล้วก็คุยกันอีก ผมทนไมไ่หวก็เลยเดินออกเลย สำหรับผม 6/10
ส่วนตัวมองว่าช่วงก่อนทำระเบิดเสร็จ หนังไม่คุยกับผมเลย แบบรอว่าเมื่อไหร่จะถึงจุดที่จะก้าวต่อไปซะที แต่พอหลังจากนั้น หนังมันสนุกและพีคจริงๆ ซึ่งพอดูจบก็มาคิดว่า ช่วงแรกตัดไปบ้างก็ได้ มันไม่ได้ pay off ขนาดนั้น ในเมื่อคุณก็ flash back ให้อยู่แล้ว โดยเฉพาะพาร์ทฟิสิกส์ ที่ดูจบก็ว่า จะเล่าทำไมมากมาย แทนที่จะโฟกัสในพาร์ทอื่นที่ pay off มากกว่า
ถ้าจัดอันดับความชอบของหนังโนแลน Top 3 คงเป็น The Prestige , Inception , The Dark Knight ชอบน้อยสุดก็ Dunkirk
จริงค่ะ พูดเยอะมาก แล้วบทพูดงงด้วยพอบทมันงงเลยยิ่งต้องตั้งใจดู พอจบแล้วก็พอเข้าใจแบบงงๆ
เรารู้สึกอินกับหนังนะ บอกไม่ได้เต็มปากว่าตอนที่ดูในโรงดูผ่านมุมมองของคนที่ไม่รู้จักระเบิด เพราะว่าเรารู้ว่ามันเคยมีการระเบิดนะแต่ว่าไม่รู้ถึงความรุนแรงของมัน เห็นฉากระเบิดแล้วรู้สึกกลัวอ่ะ แบบคนนั่งอยู่แล้วหายไปเลย ตายไม่รู้ตัว รู้สึกว่ามนุษย์ช่างอ่อนแอ ที่เรานั่งดูหนังอยู่ระเบิดตกมาคงไม่ทันรู้แล้วตายไปเลย
“เรื่องนี้ไม่เหมาะกับทุกคน” เห็นด้วยครับ ผมเป็นคนธรรมดาที่ชอบไซไฟ ชอบ interstellar,inception แต่ไม่ว้าวกับ ออฟเฟนไฮเมอร์เท่าไร ยกเว้น! เรื่องเสียงที่มันสุดยอดจริงๆ
รบกวนสอบถามครับ พี่หมีเลิกสปอยหนักแล้วหรอครับ ผมชอบมาตอนพี่สปอย The Witcher
คิเลียนโคตรเก่ง สลัดภาพ ทอมมี่ แบบหมดจบเลย
ให้ 5/10 หนังพูดเวิ่นเว้อมากเกือบสามชั่วโมงของความง่วงนอน โดยเกือบเกินครึ่งของหนังมีแต่ห้องสอบสวนคดี เป็นหนังที่ดีนะแต่ความสนุกของเรื่องมันไม่มีอะไรให้น่าดูต่อยันจบ ดูสารคดียังสนุกกว่า
ขอพูดสั้นไปดูมาเมื่อกีไม่จบเรื่องเดินออกก่อน คือง่ายๆไปฟังหนังคุยกันจนจบ
555อารมณ์เดียวกันครับ ทั้งการลำดับภาพที่สับไปสับมาแล้วความสัมพันธ์แต่ละคนยังจัดแน่นจัดเต็มอีก
หนังยังไม่จบ แต่มองทางออกหลายครั้งเลย พอมีคนเดินออกแค่นั้นแหละ รีบตามเลย
ไปดูมาเมื่อวาน ถ้าเราไม่รู้จักประวัติบุคคลในเรื่องแบบคร่าวๆ จะงงมาก แต่เราชอบสนุก
ผม เป็นคนชอบดูหนัง แต่เรื่องนี้ผมงงและช่วงครึ่งหลังเริ่มหงุดหงิด และเดินออกโรงทันทีที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จนรู้สึกผิดหวัง แต่พอเห็นคนออกมารีวิวหน้าปกว่า 10/10 และมีกองเชียร์ออกมาตบเท้าชื่นชมกันแบบพรึ่บ
อดคิดไม่ได้ว่าเพราะไม่ได้ทำการบ้านหรือไม่ได้รู้มาก่อนว่าจะเป็นหนังที่เน้นคุย หรือเพราะภาษาอังกฤษที่ไม่ได้ฟังทะลุปรุโปร่ง
เหมือนผม
ทำไมพี่หมีถึงเลิกทำ สรุปเนื้อเรื่องครับทั้ง โด่งดังมาจากการทำสปอยล์เนื้อเรื่อง กลายเป็นช่องรีวิวหนังหลังการดูซะงั้น เสียดายจริงๆ
ทำคลิปสรุปเนื้อเรื่อง Peaky Blinders SS6 หน่อยครับ
ส่วนตัวเข้าไม่ถึงหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ หนังมันสลับช่วงไปมาบ่อยมากรวมถึงมีฉากพูดส่วนใหญ่ การคิดตามตัวเอกแทบไม่ทันเลย แต่ที่ชอบสุดคืออารมณ์ในเรื่องมันสื่อได้ดีแม้จะไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องแต่สามารถเข้าถึงอารมณ์ตัวละครดีมาก
ผมนี่คือแฟน Nolan เลย แต่ผมเฉยๆกับหนังเรื่องนี้มาก ผมว่า Nolan ไม่เหมาะกับหนังที่อิงกับชีวประวัติตามประวัติศาสตร์ ถ้าจะอิงก็ต้องเป็นหนังสงครามที่มีฉากแอคชั่นบ้าง เค้าเหมาะกับหนัง Triller Sifi Fantasy ที่สามารถใช้จินตนาการของผู้กำกับได้แบบ 100 % แต่ถ้ามันเกี่ยวกับชีวประวัติแบบเนี้ย มันไม่สามารถใช้จินตนาการวาดพล๊อตเรื่องเองได้ มันจะต้องอิงตาม timeline ที่มันเกิดขึ้นจริงๆ มันทำให้ถูกจำกัดขีดความสามารถของ Nolan เอาไว้ ลองเอาหนังเก่าๆ ของ Nolan มาเทียบกับเรื่องนี้ดู แล้วจะเห็นแบบชัดเลยว่ามันธรรมดามากๆ
09:00 "tenetดูซ้ำอีกรอบ" ไม่ๆๆ ต้อง3รอบ 🤣
ดูแล้วไม่เบื่อเลยค่ะ รู้สึกว่าถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่นจะตามเนื้อเรื่องไม่ทันเลยค่ะ555555
เป็นหนังเรื่องแรกของ nolan ที่ดูเข้าใจง่ายมาก และเป็นหนังเฉพาะกลุ่มจริงๆ ส่วนตัวผมเตรียมตัวหาข้อมูลเพื่อมาดูเรื่องดูนี้โดยเฉพาะ เลยเป็นหนังที่ผมชอบมากจริงๆครับ 10/10
ต้องหาข้อมูลยังไงบ้างครับ พอดีผมอยากไปดู กลัวดูแล้วไม่รู้เรื่องครับ
@@peerapatk2078 ลองหาอ่านประวัติ ของOppenheimer คร่าวๆก็พอมั้งครับ
@@peerapatk2078 ตามที่เม้นบนตอบเลยครับผม
ซื้อกลินนี่ตามพี่หมีเเล้วค่า อร่อยมากกก
หนังการเมืองจ๋ามากจิง แบบดูแล้วรู้สึกคุ้นๆเลยครับ
ขอโทษที่ไม่ได้เกี่ยวกับคลิปนี้ครับ พอดีผมชอบดูช่องนี้รีวิวมากติดตามทุกคลิป ไม่ทราบว่าทางช่องจะมีรีวิวหนังเรื่อง Past lives ไหมครับ อยากทราบความเห็นจากเจ้าของช่องครับ😀
สำหรับผมตอนไปดู คือไม่ติดกับโรเบิร์ต ดาวนีย์เลย คงเป็นข้อดีของนิสัยผมที่ไม่ชอบดูตัวอย่างหนัง กับชื่อนักแสดง ตอนไปดู ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นโรเบิร์ต พึ่งรู้ตอนออกมานอกโรง แล้วเช็ครายชื่อนักแสดง แสดงดีมากสำหรับผม
ตั้งแต่คบกันแฟนมา 8 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกันเรื่องจะไปดูหนัง แฟนจะดูบาร์บี้ ส่วนผมจะดูเรื่องนี้ สรุปผมต้องกัดฟันไปดูบาร์บี้กับแฟน ซึ่งก็สนุกดี ให้ 8/10 เลย
ขอฮาวทูป้ายยาให้แฟนอยากดูหนังเรื่องนี้ทีครับ 😭😭
ถ้าไม่ชอบการเมือง หนังคุยทั้งเรื่องรับรองหลับครับ
แต่ผมชอบมาก คุยกับแฟนก่อนเลย เทอไม่ต้องไปดูก็ได้นะ น่าจะไม่ใช่แนวเทอ55555
จากใจที่เคยไปดูหนังที่เเฟนชอบ เเต่เราไม่อินไม่ชอบ สรุปคือกึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะไม่มีความสนใจในเรื่องนั้นเลย เเค่ไปดูเป็นเพื่อน5555
เนื้อเรื่องค่อนข้างดูง่าย แต่แนะนำให้ท่องจำชื่อตัวละครไป ว่าคนไหนชื่อไรจะทำให้เกาะบทสนทนาทันไปเรื่อยๆจนจบ เพราะตัวหนังเป็นการพูดคุยแล้วมีการ Mention ถึงคนนู้นคนนี้บ่อยๆ ถ้าจำชื่อไม่ค่อยได้จะค่อนข้าง งง
หนังดีครับ แต่ส่วนตัวดูแล้วง่วงมากครับ คุยทั้งเรื่อง จึงคิดว่าไม่เหมาะกับผมแน่นอน😂
ถ้าคนไม่เคยฟังประวัติศาสตร์นี่แทบหลับ เพราะแฟนผมมันก็หลับ
แต่ผมไม่กล้าออกไปห้องน้ำเลย กลัวไม่ทันตอนสำคัญ
สนุกครับ ออกมากจากโรงคิดว่าหนัง ชม.กว่าๆ ล่อไป2กว่าๆ
3ชม.ครับ ถ้าใครกินป็อปคอนแล้วกินน้ำไปด้วย บอกเลยปวดฉี่ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วกลับเข้ามาดูหนังจะงงมากๆ 55555
ไปดูมาแล้วครับ ไม่เห็นจะต้องใช้ film imax เลย กว่าครึ่งเรื่องเป็นการ ดินรนในการสอบสวนของคนยิว ที่อยากมาอยู่อเมริกา
ออพเพ่นครับ ไม่ใช่ โอเพ่น
นี่อยากไปดูมากๆ น่าจะไปจัดวันนี้หรือพรุ่งนี้แหละครับ เพราะเพิ่งว่างเอง อยากดูสุดๆ แต่ IMAX เหลือฉายน้อยมาก ฮืออ แบบธรรมดาจะโอเคมั้ยอ่ะ ขี้เกียจหาที่จอดรถที่พารากอนจริงๆ 🥲🤣
ดีใจที่ตอนเด็กสนใจเรื่องของไอสไตน์มาก ทำให้ฟินกับทุกทฤษฎีที่เขาคุยกัน
ฉากในไอสไตน์โผล่คิดตลอดว่าเขาต้องมีแนวคิดอะไรสักอย่างให้โรเบิร์ตทุกครั้งที่พบกันแน่ๆ (คนนั่งข้างๆผมหลับกรนเลย555)
เป็นหนังที่เราดูแล้วหดหู่มากเลย
จะมีสรุปเนื้อเรื่องไหมครับ
รำคาญคนไทยที่เสพหนังแบบ จะดูฉากแอคชั่น,
หนังเรื่องนี้ ถ้าใครไม่มีพื้นมาก่อน คุณจะไม่รู้เรื่องครับ แนะนำว่า อ่านหนังสือมาก่อนหรือไปหาสรุปมาฟังก่อนดีกว่าครับ หนังของโนแลน แทบทุกเรื่องมันมักจะเกี่ยวข้องทฤษฎีอะไรสักเรื่องนึงอยู่แล้ว คนที่ชอบดูฉากต่อสู้อะไรแบบนั้น แนะนำว่า ให้ข้ามๆไปครับเพราะโนแลนทำแต่หนังที่เวลาคุณดูคุณต้องคิดตลอดทั้งไลน์ Oppenheimer ถ้าคุณไม่ได้มีความรู้หรือเข้าใจสภาพการณ์ตอนนั้นคุณจะงงๆ เพราะหนังเล่าแบบ ไม่ปราณีคนดูจริงๆ พอพูดถึง "นิวเคลียร์" ทุกคนจะนึกถึง ญี่ปุ่น ที่โดน2ครั้ง กับ ไอสไตน์ซึ่งตามจริง ไอสไตน์ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ด้วยซ้ำ แต่แกเป็นสารตั้งต้นของทฤษฎีสมการมวล-พลังงานและเขียนสูตรในตำนาน E=mcยกกำลัง2 ซึ่งไอ้สูตรนี้ที่แกคิดนักฟิสิกส์สมัยนั้นเอาไปทดลองและพัฒนาไปสู่การทดลองจนสามารถแยกยูเรเนี่ยมได้สำเร็จ หรือที่เรียกว่า ฟิชชัน (Fission) ด้วยวิธีการนี้คุณจะสามารถแยกยูเรเนี่ยมได้โดยการยิงนิวตรอนใส่ยูเรเนี่ยม จนแตกเป็นอณูขนาดเล็กจำนวนมาก และให้มันเกิดปฏิกิริยาฟิชชั่นเป็นลูกโซ่ ไปเรื่อยๆ ระเบิดนิวเคลียร์จึงมีอนุภาพรุนแรงเกินจะบรรยาย เอาง่ายๆว่ามันล้างโลกได้สบายๆครับ
ปล.(ยูเรเนี่ยมเป็นสารที่เป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ และอีกชนิดคือพูโตเนี่ยม ต้องยอมรับว่า นักฟิสิกส์เวลานั้นที่ทำโครงการนี้ระดับตัวท้อปของวงการทั้งนั้นมารวมกัน , oppenheimerและทีมงานทำมา2ลูก โดยที่ทั้ง2ลูกนี้ไม่เคยทดสอบหรือลองใช้ที่ไหน ญี่ปุ่นได้ลองเป็นครั้งแรกเลย โดยที่ตัวoppenheimer ไม่รู้เลยว่า พอลงไปแล้วมันจะส่งผลกระทบระยะยาวแค่ไหน หากโดนคนจริงๆแล้วมันจะเป็นยังไง ไอ้ระเบิดอะระเบิดแหละ แต่เขาไม่รู้ว่านิวเคลียร์อาจสร้างความผิดปกติต่อยีนหรือกรรมพันธุ์ของเป้าหมายได้, ในหนังจะฉายตอนทดสอบที่นิวเมกซิโก้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปฏิบัติงานโครงการแมนฮัตตั้น ลงไป1ครั้งที่นั่น การทดสอบครั้งนั้นเรียกว่า Trinity แต่นั่นมันลงพื้น ส่วนที่ญี่ปุ่นลงคนจริงๆ )
หนังดูยากพอสมควรเลยสำหรับผม ผมเลือกหนังนะแต่เหมือนหนังเลือกนี้จะไม่เลือกผม
แนะนำให้ดูประวัติแกก่อนดูหนังครับ ถึงจะเข้าใจ99%
ดูได้ทางไหนบ้างครับ
ใครลังเลว่าจะดูเรื่องโอปเพน หรือ บาร์บี้ ผมบอกเลยไปบาร์บี้เถอะบันเทิงสุดแล้วครับ
สำหรับเรื่องนี้หนังสายพูด อย่างในรีวิวที่ว่าแหละ ตอนดูคนเดินออกแล้วไม่กลับมามีหลายคนเลย
ทุนสร้าง 180 ล้าน ค่าการตลาดอีก 120-150 ล้าน หนังต้องทำเงินระดับ 600 ล้านถึงเริ่มเห็นกำไร เเละ หนังมีรายได้ทางอื่นน้อยกว่าพวกหนัง marvel การ์ตูน เยอะ เเละ ไม่ใช่หนังเเอ็คชั้นอีก ถ้า ทำกำไรในโรงได้ หนังต้องดีมาก
เข้าใจเลยว่าทำไมนักแสดงเยอะเพราะในทั้งเรื่อง แกถ่ายโฟกัสไปที่หน้านักแสดงเยอะมาก