คุณลักษณะของพระอนาคามีบุคคล

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 19 апр 2024

Комментарии • 44

  • @mrme2570
    @mrme2570 22 дня назад

    ท่านต้องไปถามอนาคามเสียก่อนจึงสรุปมันจึงจะแจ้งเจ้าค่ะ
    แต่ไปถามผู้รู้เขาบอกว่าเกิดได้แต่ถ้าปราถนาอยากเกิดได้เพื่อจะไม่มาเกิดอีกเเค่จะเป็นชาติสุดท้ายของอนาคามีแล้ว

  • @mrme2570
    @mrme2570 22 дня назад

    ท่านเอาแค่3พอไม่ต้องไปเอาพระอรหันต์
    เอาแค่3อนาคามีสะกะคาทามีและโสดาบัน3อย่างนี้ยังมีโลภะอยู่ทั้ง3จึงสามารถปราถนาเกิดได้เพื่อจะนิพานคราบใช่คราบต้องเกิดตามแรงปราถนาเพราะท่านยังมีโลภะตามพระอาจารย์พูดคราบสุดยอดยังเกิดได้อยู่3อย่างลงมาแต่ที่ไม่มาเกิดคือพระอรหันต์เจ้าหรือพระพุทธเจ้าคราบผม

  • @chaiyatiso9774
    @chaiyatiso9774 2 месяца назад +1

    กราบสาธุ สาธุ สาธุพระอนาคามีครับ

  • @chanaussawakaewfa9729
    @chanaussawakaewfa9729 8 дней назад

    ต้องปฏิบัติ รู้ด้วยตนเอง เท่านั้น นอกนั้น เป็นเพียงแค่การ จินตนาการจาก มโนวิญญาณ ความรู้สึก ที่สั่งสมมานาน อาจเนื่องด้วยการอ่านศึกษาค้นคว้าจากพระไตรปิฎกหลากหลาย สำหรับผู้ปฏิบัติจนบรรลุในแต่ขั้น ล้วนไม่เอ่ยแม้แต่คำเดียว.

    • @user-tl5ws1fe7e
      @user-tl5ws1fe7e 3 дня назад

      เมื่อมีเหตุปัจจัยถูก คือ มีกัลยาณมิตร เป็นเหตุปัจจัยทำให้ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี เป็นเหตุปัจจัยทำให้มี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ (การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาก่อน ซึ่ง ธรรมที่เป็นเหตุนี้ จะเกิดปรากฏขึ้นมาเหมือนๆ กันนั่นเองค่ะ ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมาธิ / สมาธิ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปัญญา / ปัญญา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมถะ (การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ) สมถะ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิปัสสนา / วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/ วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ อานาปานสติ / อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ

    • @chanaussawakaewfa9729
      @chanaussawakaewfa9729 3 дня назад

      ท่องจำเพียงอย่างเดียวเป็นเหตุปัจจัย ให้เกิด อวิชชา จึงต้องมีสติสังวร ควบคู่ไปกับ พิจารณา

  • @AA-nj8qy
    @AA-nj8qy 2 месяца назад

    ขอขอบคุณท่านที่ออกมาอธิบายธรรมมะของพระพุทธเจ้าได้ถูกต้องคะสาธุ

  • @user-on3sj9kh6f
    @user-on3sj9kh6f 3 месяца назад +1

    สาธุธรรมค่ะ 🙏🙏🙏

  • @user-vv5tj2ni6v
    @user-vv5tj2ni6v Месяц назад

    ขอความหมายสกิทาคามี

  • @user-me4gh1bc9u
    @user-me4gh1bc9u 22 дня назад

    จะมีชาวพุทธสักกี่คน ที่รู้ธรรมมะ แท้จริงดั่งที่อธิบายนี้ จึงถูกคนที่อ้างว่าเป็นพระ มีผู้วิเศษ หลอก ช่วยสอนคนพุทธให้หูตาสว่างด้วยเถอะ และไม่มีพระ พานิช ด้วยนะ

  • @ALLSIA1111lili
    @ALLSIA1111lili Месяц назад

    Results

  • @user-vv5tj2ni6v
    @user-vv5tj2ni6v Месяц назад

    โสดาบัน แปลว่า

    • @user-sg2vg5hr4v
      @user-sg2vg5hr4v 22 дня назад +2

      แปลว่า ผู้รู้ทางไป หมายถึง ผู้รู้อริยมรรค ผู้รู้ทางไปแห่งนิพพาน อาศัยที่ยังละ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่ได้ แต่จะไม่ทำชั่วด้วยหยาบคายแล้ว อันมีศีล 5 โดยปริยาย ไม่ถือวัตรที่ไม่เป็นเพื่อความหลุดพ้น เช่น ไม่สนใจการดูหมอ ไม่บูชาเทวดา ไม่ถือฤกษ์ถือยาม มีแต่ถือศีลให้ทานในขอบเขตของศาสนาเท่านั้น
      ไม่สงสัยลังเลในคำสอน ไม่สนใจรูปกายแต่จะสรรเสริญการทำดี
      เหตุนี้จึงสามารถปิดอบายภูมิแล้วได้ คือจะไม่ไปเกิดในที่ทุคติแล้ว
      การเข้าถึงพระโสดาบันนั้น จุดเริ่มต้นต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าก่อน หรือศึกษาพระไตรปิฎกในเรื่องอริยะสัจ4ก่อน คือทำความเข้าเรื่องทุกข์(ทุกข์มี 12 ประการ) รู้เหตุที่ต้องทุกข์ และรู้ความดับเหตุแห่งทุกข์ ได้มองเห็นทางดับทุกข์ คือรู้ทางไป(รู้มรรคมีองค์แปด) เมื่อรู้ทั้งหมดนี้แล้ว ความมืดมนมัวเมาก็พังทะลายลง กลายเป็นผู้มีทางออก ที่เรียกว่า"ผู้มีดวงตาเห็นธรรม" นั้นเอง
      จึงย่ำว่า จงมีความรู้ให้เห็นในอริยะสัจ4 ให้ได้แล้วทุกอย่างจะเข้าใจเอง
      จากหลวงพ่อวัดชนบท

    • @user-tl5ws1fe7e
      @user-tl5ws1fe7e 3 дня назад

      ​@@user-sg2vg5hr4v การเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน คือ มีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ โสดาบัน จะมีศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน คำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นธรรมนี้เกิดปรากฏขึ้นมา ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน เป็นการตรวจสอบเส้นทาง การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ (โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์) ถ้ายังไม่เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน ก็เปลี่ยนมาตรวจสอบเส้นทาง การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด จากการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมวินัย โพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 กาย เวทนา จิต ธรรม เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สติปัฏฐาน 4 คือ การเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ

  • @user-iu9tj3jp9n
    @user-iu9tj3jp9n 2 месяца назад +2

    ท่านไม่มีแบ่งแยก เราเค้า ไม่ตัดสินผู้ใด (อยู่แบบกลางๆ) ไม่ค่อยสุงสิงกับผู้ใด กริยาอ่อนน้อม เรียบร้อย พูดจาสุภาพ ไม่มีอาการโกรธหรือหงุดหงิด(นอกจากจะแกล้งทำ) ชอบทำบุญ

    • @user-tl5ws1fe7e
      @user-tl5ws1fe7e 3 дня назад

      การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคาปฏิมรรค คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือ ละอารมณ์ได้ดุจกระพริบตา ละอารมณ์ใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ได้แล้วนั่นเองค่ะ

  • @user-ub3ts9mh5x
    @user-ub3ts9mh5x 2 месяца назад +1

    ในกามภพ อริยบุคคลเกิดได้ซิครับ ก็พวก โสดาบัน-สกทาคามีไงละครับ.

    • @Tunhapapai
      @Tunhapapai  2 месяца назад

      พระโสดาบัน พระสกทาคามี เกิดในกามสุขคติภูมิได้ครับ แต่พระอนาคามีเกิดไม่ได้ครับ ลองดูคลิปนี้นะครับ ruclips.net/video/-SFoUynUMEI/видео.html

    • @user-ub3ts9mh5x
      @user-ub3ts9mh5x 2 месяца назад

      โสดาบัน (ละสังโยชน์๓ข้อแรก) มี๓กลุ่ม
      ๑.สัตตักจัตตุปรมะ จะกลับมาเกิดในภพมนุษย์บ้างเทวดาไม่เกิด๗ครั้งก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้(ปรินิพพาน)
      ๒.โกลังโกละ จะกลับมาสู่สกุล(ภพมนุษย์)อีก๒-๓คราว ก็จะสิ้นสุดแห่งทุกข์ได้
      ๓.เอกพีชี กลับมาสู่ภพมนุษย์อีกคราวเดียวแล้วจะสิ้นสุดแห่งทุกข์ได้
      ....
      สกทาคามี (ละสังโยชน์๓ได้+กับ ราคะ,โทสะ,โมหะเบาบาง) จะไปเกิดในภพเทวดา(กามภพ) เมื่อสิ้นอายุขัยในภพเทวดากามภพ แล้วจะปรินิพาน
      .....

    • @user-ub3ts9mh5x
      @user-ub3ts9mh5x 2 месяца назад

      โสดาบัน มีสามกลุ่ม (ละสังโยชน์๓ได้)
      ๑)สัตตักกัตตุปรมัต กลับมาเกิดในภพมนุษย์บ้างเทวดาบ้างไม่เกิน ๗ คราก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้ (ปรินิพพาน)
      ๒)โกลังโกละ กลับมาสู่สกุลมนุษย์อีก๒-๓ครั้งฯ
      ๓)เอกพีชี กลับมาสู่ภพมนุษย์อีกครั้งเดียวก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้.
      ...
      สกทาคามี (ละสังโยชน๓+ราคะโทษะโมหะ เบาบาง) ไปเกิดในภพเทวดา(กามภพ)เพียง๑ครั้งก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้(ปรินิพพาน). ครับ

    • @user-ub3ts9mh5x
      @user-ub3ts9mh5x 2 месяца назад

      โสดาบัน มีสามกลุ่ม (ละสังโยชน์๓ได้)
      ๑)สัตตักกัตตุปรมัต กลับมาเกิดในภพมนุษย์บ้างเทวดาบ้างไม่เกิน ๗ คราก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้ (ปรินิพพาน)
      ๒)โกลังโกละ กลับมาสู่สกุลมนุษย์อีก๒-๓ครั้งฯ
      ๓)เอกพีชี กลับมาสู่ภพมนุษย์อีกครั้งเดียวก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้.
      ...
      สกทาคามี (ละสังโยชน๓+ราคะโทษะโมหะ เบาบาง) ไปเกิดในภพเทวดา(กามภพ)เพียง๑ครั้งก็สิ้นสุดแห่งทุกข์ได้(ปรินิพพาน). ครับ

    • @user-ub3ts9mh5x
      @user-ub3ts9mh5x 2 месяца назад +1

      @@Tunhapapai :สุคติภูมิคืออะไรครับ (ภูมิของมนุษย์ เทวดากามภพ,เทวดารูปภพ เทวดาอรูปภพ) ถูกต้องหรือไม่?

  • @act4czero794
    @act4czero794 20 дней назад +2

    ขอเจริญธัมม์ ท่านผู้อธิบายคับ ตามกรณีที่ท่านว่าใน นาที่ 7.00 น. ท่านว่าผู้ที่เป็นพระอนาคามีที่ได้ปฐมฌานจะไปเกิดในปฐมรูปฌานภูมิ 3 นั้น ผมว่าผิดคับ ที่ถูกคือ พระอนาคามีผู้ได้ปฐมฌาน เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว จะไปเกิดในชั้นสุทธาวาสภูมิ 5 ไล่ตั้งแต่ อวิหา อตับปา.....ขึ้นไป ตามแต่ความกล้าแกร่งของฌาน และจะไม่มาเกิดในรูปภูมิฌานเด็ดขาด แม้จะได้ปฐมฌาน ถึง ปัญจมฌาน ก็ไม่มาเกิด เพราะคนละชั้นคนละอย่างกันกับพระที่ได้ฌาน แต่ไม่ได้บรรลุอะไรเลย ได้แต่ฌาน แต่เมื่อฟังธัมม์แล้วบรรลุพระอนาคามี เมื่อสิ้นอายุจะไปเกิดที่ชั้นสุทธาวาสทั้นที
    และปุถชนที่บรรลุพระอนาคามี เมื่อบรรลุพระอนาคามีจะได้ฌานติดตัวทันที ตั้งแต่ ปฐมฌาน ถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ ไม่ต้องเจริญฌานขึ้นอีก จะไปเกิดในชั้นที่ 1 คือ อวิหา ขึ้นไป ตามความแก่กล้าของฌาน เช่น ได้ปฐมฌาน แล้วเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอนาคามี ต้องดูว่าท่านเจริญวิปัสสนาชนิดใด คือ สัทธา วิริย สติ สมาธิ ปัญญา ชั้นเกิดก็จะสูงขึ้นตาม และสามารถเจริญวิปัสสนาในชั้นนั้น แล้วบรรลุพระอรหันต์ได้
    เมื่อได้เป็นพระอนาคามีแล้ว จะไม่มาเกิดที่ปฐมฌาน หรือรูปฌานภูมิ 3 ตามที่ท่านว่า เพราะจิตหลุดจากรูปพรหม หรืออรูปพรหมแล้ว ตัวองค์ฌานในอนาคามีมรรค จะนำไปสู่สุธาวาสทันที ไม่มาเกิดในรูปฌานชั้นใดๆ หรือ อรูปพรหมชั้นใดๆ ได้ ตามที่ท่านอธิบายนั้น น่าจะผิดคับ เพราะแม้จะปรารถนามาเกิดในรูปพรหมชั้นจตุฌาน ก็ไม่สามารถมาเกิดได้ เพราะอำนาจของพระอนาคามีกล้าแกร่งกว่าเป็น ล้านเท่า ถ้าพระอนาคามีมาทั้งชั้นรูปพรหมเพียง 1 องค์ จะยิ่งใหญ่กว่าพรหมชั้นรูปพรหม 4 อรูปพรหม 4 ทุกชั้น และพรหมในรูปพรหม อรูปพรหม ก็ไม่สามารถมองเห็นตัวตนพระอนาคามีพรหมได้ ถ้าไม่ปรารถนาให้เห็น ผมจึงว่าท่านอธิบายผิด
    เพราะอย่างนั้น พระอนาคามี จึงเข้านิโรธสมาบัติได้เช่นเดียวกับพระอรหันต์ มีเพียง 2 พระอริยะเท่านั้นที่ทำได้ เพราะตัดราคะได้เด็ดขาด โทสะ เบา โมหะเบา การจะทำฌานได้ จึงเป็นเรื่องง่าย หากบรรลุพระอนาคามีในปฐมฌานก็สามารถพิจารณาฌานาอื่นๆ ได้ แล้วบรรลุไม่ถึงวินาทีเลยทีเดียว เพราะจิตแล่นได้เร็วมากๆ
    และอีกอย่าง พระอนาคามี จะไม่เกิดต่ำกว่าชั้นสุทธาวาสเด็ดขาด อย่าว่าแต่มนุษภูมิเลย ไม่มีทางมาเกิดได้ เพราะเมื่อเที่ยบอำนาจฌานแล้ว หากพระพรหมอนาคามี มองทะเลในโลกนี้ เพราะไม่อยากให้มี น้ำทะเลยก็จะแห้งหายไปทั้งโลกได้ทันที ไม่ต้องมาอยู่ในท้องหญิงใด แค่มาเฝ้าพระพุทธเจ้่า แสงสว่างก็มากกว่าดวงอาทิตย์ เป็นล้านดวง แล้วใครจะเอาพระอนาคามีมาอยู่ในท้องได้ หญิงนั้นจะต้องหายละลายไปกับตาทีเดียว เพราะไม่มีสถานที่พระพรหมอนาคามีสามารถอยู่อาศัยได้ในโลก
    อย่าไปเชื่อไอ้พระโล้นลูกศิษย์โพธิรักษ์ มันพูดมั่ว คิดเอาเองทั้งนั้น มันไม่เรียนมา ก็เดาส่งเดช ตัวมันเองยังไม่รูปว่าตัวเอง เป็นอะไร สมณะ ก็ไม่ใช่ พระ ก็ไม่เชิง นักบวช ก็ไม่มีสังกัด หลอกแดกข้าวชาวบ้านไปวันๆ พอไปไม่รอดก็มาอ้างกล่าวตู่พระธัมม์ของพระพุทธเจ้า นี้แหละเขาเรียกว่า เปรตจีวรเพลิง ปากเน่ากินไฟ

    • @Tunhapapai
      @Tunhapapai  20 дней назад

      สุทธาวาสภูมิ 5 เป็นส่วนหนึ่งของจตุตฌานภูมิ 7 ครับ (สุทธาวาสภมูิ5 + เวหัปผลาภูมิ1 + อสัญญสัตตาภูมิ1) เพราะฉะนั้นผู้ที่จะไปเกิดจะต้องได้จตุตฌาน (ปัญจมฌานในอภิธัมมนัย) เท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติมลองศึกษาเพิ่มในคลิปด้านล่างช่วงนาทีที่ 1:32:45 นะครับ ruclips.net/video/93PCVW0j2g0/видео.htmlsi=jE_vTdDV3Zj3U9rQ&t=5566
      ขออนุโมทนาในการใฝ่รู้ศึกษาธรรมด้วยครับ

    • @user-tl5ws1fe7e
      @user-tl5ws1fe7e 3 дня назад

      การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ สัทธานุสารี / สัทธานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ธัมมานุสารี / ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ บุคคล 4 คู่ 8 พวก นั่นเองค่ะ ปุถุชน คือ ผู้ที่ไม่ได้สดับใน คำสอนของพระพุทธเจ้า หรือ เป็นผู้ที่ไม่มี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ

  • @mrme2570
    @mrme2570 22 дня назад

    ท่านเอาแค่3พอไม่ต้องไปเอาพระอรหันต์
    เอาแค่3อนาคามีสะกะคาทามีและโสดาบัน3อย่างนี้ยังมีโลภะอยู่ทั้ง3จึงสามารถปราถนาเกิดได้เพื่อจะนิพานคราบ

    • @christopherrobin1342
      @christopherrobin1342 20 дней назад

      ดักแด้จะกลับเป็นหนอนได้อีกไหม หรือว่าดักแด้ฟักตัวเพื่อจะกลายเป็นผีเสื้อ ลองคิดดูนะ ตัณหา ความทะยานอยากในกาม ภวตัณหา อยากได้อยากเป็นอยากมี วิภวะตัณหาไม่อยากได้ไม่อยากเป็นไม่อยากมี ความอยากเกิด อยากบำเพ็ญบารมี อยากบรรลุธรรม อยากเกิดในกามภพ ไม่มีในพระอนาคามี ท่านจึงไม่เกิด ไม่ใช่อยากจะเกิด ไม่มีอยากแล้ว จึงไม่เกิด ไม่อยากทั้งกุศล อกุศล สุทธาวาสภูมิ ไม่กลับมาไม่อยากกลับมีแต่จะเลื่อนภูมิจนสิ้นอาสวะปรินิพพานในภพนั้น เหมือนดักแด้ต้องเป็นผีเสื้ออย่างเดียว ไม่กบับมาเป็นหนอนอีก เจ้าใจนะอย่าไปบิดเบือนพระธรรมคำสอน มิจฉาทิฏฐิ อวดรู้