เลิกไหว้พระธาตุพระพุทธรูปแค่อิฐปูนปั้นมีพระธรรมเป็นศาสดา คิดแบบนี้ถูกหรือ
HTML-код
- Опубликовано: 23 июл 2024
- 00:00 เนื้อหา
00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
ขออนุโมทนา
ไหว้พระธาตุไหว้พระพุทธรูปที่ถูกและผิดเป็นอย่างไร
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น
😊😊😊
ถูกต้องตามนั้นสำหรับการเคารพกราบไหว้
มีแต่พวกนอกศาสนาเท่านั้นที่ไม่ให้ศาสนิกกราบไหว้รูปเคารพ
เป็นบาป แต่ช่วงสุดท้ายท่านพูดผิดไปเรื่องการดูลมว่าแค่รู้จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าท่านก็แค่ดูรู้ลมแค่นั้น
สภาวะต่างๆที่เกิดขึ้น
ท่านก็ทำแค่รู้ ปล่อยวาง ดูลมเป็นทั้งสมถะและวิปัสนาจึงเกิดการตรัสรู้อริยสัจสี่ขึ้น
ถ้าในสมัยนี้ใครตามดูตามรู้ลมจนเป็นมหาสติมหาปัญญาก็จะรู้ธรรมเหมือนกัน
จะไปดูเบาใครไม่ได้
มันจะเป็นว่าใครผิดใครถูกใครดีใครเลว
ซึ่งเราไม่อาจรู้เลยว่าเราตัวเราเองนั่นล่ะผิด
ขนาดพระพุทธเจ้าพระเทวทัตทำร้ายทำลายทุกวิถีทาง ท่านก็ยังไม่ว่าร้าย พระรูปหนึ่งร่วมสังฆกรรมจนยามสุดท้ายท่านยังไม่ตรัสอะไรจนพระผู้มีฤทธิ์มากท่านตรวจดูจึงรู้ว่า
ในหมู่พระมีรูปนั้นไม่บริสุทธิ์ เราจะไปเอาอะไรมาวัดว่าฟังดูก็รู้ว่าผิดถูก เราไม่ได้มีญาณแบบนี้น มันเป็นการติเตียนพระอริยะก็เป็นได้ กายกรรมวจีกรรมมโนกรรม ผมฟังครูบาอาจารย์ท่านเตือนมานานแล้ว จึงไม่ว่าพระ
แม้จะเมาเหล้าโดนจับสึก พระเสพนั้นนี่
เพราะเราไม่รู้จริง
จะไปว่าเป็นอลัชชีมันก็เป็นวจีกรรมของเรา
ยิ่งไปว่า สุปัฏฏิ อุช ญายะ สามีจิ ยิ่งอันตราย
ผมจึงเตือนคนไว้เยอะๆ
@@gamalosegaming2407 สิ่งที่ทำไม่ใช่อานาปานสติ ครับ หลงคิดว่าเป็นสติแต่ไม่ใช่สติ
สิ่งที่ทำไม่ใช่สติ แต่สำคัญผิดว่า สติ จดจ้อง ไม่มีปัญญารู้อะไร เลือกจะทำจดจ้อง คือ โลภะ ลืมคำว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา อนัตตา คือ บังคับบัญชาไม่ได้ สติเป็นธรรม สติก็บังคับไม่ได้ แล้วแต่ว่าสติจะเกิดระลึกรู้อะไร เป็นหน้าที่ของสติ ไม่ใช่เรา จดจ้องที่สมหายใจ ไม่มีปัญญารู้ว่าเป็นธรรม นั่นคือโลภะ เพราะไม่มีปัญญา อานาปานสติจึงต้องประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ(ปัญญา) ไม่มีปัญญา นิ่งไม่รู้อะไร ไม่ใช่สติ ไม่ใช่อานาปานสติ แต่เป็นโลภะที่ประกอบพร้อมกับความเห็นผิด
@@gamalosegaming2407 ผิดตั้งแต่จะเลือกทำอานาปานสติ ลืมอนัตตา
หากได้อ่านประวัติพระสาวกมากมาย ไม่มีรูปแบบเจาะจงให้พระภิกษุทุกรูปทำอานาปานสติ บางรูปก็ให้ให้เจริญธรรมอื่น สติปัฏฐานจึงมีสี่ ไม่ใช่แค่กาย มีเวทนา จิต ธรรม การเลือกจะทำ นั่นคือบังคับสติ(ขัดกับอนัตตา บังคับไม่ได้) และที่สำคัญไม่ใช่สติด้วย และที่สำคัญที่สุด เพราะชาวพุทธไม่มีพื้นฐานตั้งแต่ต้นว่า ธรรมคืออะไร ธรรมเป็นอนัตตาบังคับไม่ได้ เข้าใจคำว่าสติผิด จึงจะทำสติ จะทำอานาปานสติ เพราะอยากได้ผลอานิสงส์ เริ่มต้นผิดที่ความอยาก เริ่มต้นผิดที่จะทำ จึงมีคำถามให้ตอบว่า หากทำได้ ตอนนี้ ทำให้โกรธเกิดขึ้นได้ไหม ทำเลยให้เกิดเลยได้ไหม ครับ นี่แสดงถึงความเป็นเหตุปัจจัยของธรรม ไม่ใช่จะทำได้ พระองค์ถึงทรงแสดงพระธรรมที่ว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้นั่นเอง ดังนั้นถ้าไม่เริ่มจากการฟังให้เข้าใจเป็นเบื้องต้น ก็กล่าวว่า พระศาสดาให้ทำ อะไรทำ(ธรรมทำหน้าที่ไม่ใช่เรา) แต่ไม่มีความเข้าใจในธรรมเป็นเบื้องต้นคืออะไร ไม่เข้าใจอนัตตา ก็ทำผิด และคิดว่าเป็นสติ ก็เป็นมิจฉาสติ เป็นโลภะต้องการจดจ้องลมหายใจ แต่ขณะนั้น ไม่ได้รู้ความจริงว่าเป็นธรรม เพราะการไถ่ถอนละกิเลส คือ ละความยึดถือว่าเป็นเรา ครับ
@@gamalosegaming2407 ติคนที่ควรติ เป็นบัณฑิต ประสพบุญเป็นอันมาก
พระพุทธเจ้าติเตียนคนที่ควรติเตียน (พระเทวทัต) สรรเสริญคนที่ควรสรรเสริญ(ท่านพระสารีบุตร) จิตตคฤหบดีอุบาสก ติเตียนพระภิกษุไม่ดี
ทั้งหมดเพื่อให้รู้ว่าอะไรถูกและผิด อันเป็นการดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ครับ ดังนั้น การติเตียนด้วยจิตที่หวังดีตามพระธรรมวินัย จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทที่ควรทำ มิเช่นนั้นแล้วก็จะมีผู้ที่หลงผิด เข้าใจผิดกันอีกมาก ครับ
ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคำว่าติเตียน ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมพระพุทธเจ้าโดยละเอียด พระพุทธเจ้า พระสาวกและอุบาสก อุบาสิกาผู้มีปัญญา ติคนที่ควรติ ด้วยจิตเมตตาหวังดี เพื่อให้รู้ว่าเป็นอกุศลแล้วแก้ไข การพูดเตือนว่าอะไรผิด แล้วแนะนำสิ่งที่ถูก ย่อมป็นการติเตียนที่ประเสริฐ ไม่ใช่การพูดสิ่งที่ไม่ดี ผิด จะเป็นสิ่งที่ผิดเสมอ สมดังที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงข้อความใน ปฐมขตสูตร ดังนี้ครับ
ติคนที่ควรติ สรรเสริญคนที่ควรสรรเสริญ เป็นบัณฑิต ประสพบุญเป็นอันมาก
ปฐมขตสูตร ภิกษุทั้งหลาย บัณฑิตผู้เฉียบแหลม เป็นสัตบุรุษ ประกอบด้วยธรรม ๔
ประการ ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลาย ไม่มีความเสียหาย ไม่ถูก
ผู้รู้ติเตียน และประสพบุญเป็นอันมาก
ธรรม ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. พิจารณา ไตร่ตรองแล้ว กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียน
๒. พิจารณา ไตร่ตรองแล้ว กล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ
๓. พิจารณา ไตร่ตรองแล้ว แสดงความไม่เลื่อมใสในฐานะที่ไม่ควรเลื่อมใส
๔. พิจารณา ไตร่ตรองแล้ว แสดงความเลื่อมใสในฐานะที่ควรเลื่อมใส
ภิกษุทั้งหลาย บัณฑิตผู้เฉียบแหลม เป็นสัตบุรุษ ประกอบด้วยธรรม ๔
ประการนี้แล ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลาย ไม่มีความเสียหาย
ไม่ถูกผู้รู้ติเตียน และประสพบุญเป็นอันมาก
ความเข้าใจผิดเรื่องพระธาตุ ๓ ข้อดังนี้
๑.พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุสาวกไม่ได้เกิดตอนพระพุทธเจ้าพระสาวกมีชีวิตอยู่ คือไม่เกิดกับคนที่ยังมีชีวิต ต่อเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานและพระสาวกปรินิพพานแล้ว กระดูกนั้นจึงเป็นพระบรมสารีริกธาตุและเป็นพระธาตุ
๒.จะเป็นพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุด้วยอำนาจการอธิษฐานด้วยกำลังของฌาน มีคุณความดีของพระอรหันต์(หลังปรินิพพานแล้วไม่ใช่ตอนมีชีวิต) หากพระภิกษุใดยังรับเงินเป็นปกติ ยังต้องอาบัติ เป็นภิกษุปุถุชนที่ดียังไม่ได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเป็นพระอริยบุคคล ไม่ต้องกล่าวถึงกระดูกจะเป็นพระธาตุหลังมรณภาพ
๓.พระพุทธเจ้าให้ไหว้พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุด้วยความเห็นถูก
พระพุทธเจ้าให้ไหว้พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ แต่ไม่ใช่ด้วยความงมงาย แต่เพราะเข้าใจพระธรรมจึงระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าและพระสาวก อันจะเกิดประโยชน์กับหมู่มหาชน มีสวรรค์เป็นที่ไปเป็นเบื้องหน้า ต่างจากผู้ไหว้ขอปาฏิหารย์ ขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ มีจิตไม่ดี โลภะต้องการ มีอบายเป็นที่ไปเป็นเบื้องหน้าเพราะความเห็นผิด มีการเข้าใจพระพุทธศาสนาผิด เป็นต้น
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 455
จริงอยู่ สรีระของพระพุทธเจ้าผู้มีพระชนมายุยืนทั้งหลาย ย่อมติดกันเป็นพืดเช่นกับแท่งทองคำ. ส่วนพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอธิษฐานพระธาตุให้กระจายว่า เราอยู่ได้ไม่นานก็จะปรินิพพาน ศาสนาของเรายังไม่แพร่หลายไปในที่ทั้งปวงก่อน เพราะฉะนั้นเมื่อเราแม้ปรินิพพานแล้ว มหาชนถือเอาพระธาตุแม้ขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดทำเจดีย์ ในที่อยู่ของตนๆ ปรนนิบัติ จงมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูกก็มีและความเห็นผิดก็มีอย่างไร
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิดและกิเลส : พระภิกษุหวังลาภสักการะ เรี่ยไรเงินสร้างพระพุทธรูปใหญ่ที่สุด หลอกชาวบ้านด้วยคำว่าอานิสงส์ผลบุญ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิด เข้าใจผิด แต่ไม่ใช่เอาสิ่งที่ผิดตรงนี้ไปสรุปว่าไม่ควรสร้างพระพุทธรูป นั่นก็เป็นความเข้าใจผิดอีกเช่นกันครับ ซึ่งไม่ควรสนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปแบบนี้ที่หลอกเงินชาวบ้าน เป็นต้น
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูก : การสร้างเพื่อให้บุคคลอื่นและตัวท่านเองเกิดจิตเป็นกุศล แม้ในการได้เห็น ของบุคคลที่เข้าใจพระธรรมถูกต้อง จิตก็จะอ่อนน้อมถูกต้อง เมื่อได้เห็นก็น้อมระลึกถึงคุณความดีระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยไม่จำเป็นต้องสร้างให้ใหญ่ที่สุด เป็นต้น นี่คือการสร้างพระพุทธรูปที่ถูกต้อง ครับ พร้อมๆกับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องไปด้วยนั่นเองครับ
กราบนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงสูงยิ่ง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ในพระธรรมที่ได้แสดง กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามค่ะ
🙏🙏🙏
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
@@paderm เราตอบว่าสาธุใด้ไม่ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ ที่ได้มาให้ความรู้กระจ่าง สาธุค่ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อนุโมทนาสาธุในธรรมขอรับ..คุณพี่
อนุโมทนาในกุศลจิตครับอาจารย์
คลิบนี้ ยอมรับนับถือเลย เยี่ยมยอดสุดสุด สาธุ
น้อมกราบอนุโมทนาค่ะ
กราบขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ
นอบ"น้อม" กราบ"พระธรรม" และกราบอนุโมทนากุศลจิตดีงามท่านอาจารย์ Paderm Yeesomb ด้วยความเคารพรักค่ะ.("การฟังพระธรรม" เป็นมงคลต่อจิตใจ ,กราบไหว้"พระพุทธรูป,พระเจดีย์"เพื่อระลึกถึง"พระคุณของพระพุทธเจ้า"จิตเป็นกุศลไปถึงสวรรค์ ได้) "น้อม" กราบขอบพระคุณค่ะ.
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบขอบพระคุณกราบอนุโมทนาค่ะ
กราบ อนุโมทนา ค่ะ 🙏
🙏ถ้ามีใครห้ามไหว้พระพุทธรูป ก็ควรห้ามไหว้ภิกษุ ที่เป็นสมมุติสงฆ์ด้วยเพราะสมมุติสงฆ์เทียบพระพุทธรูปไม่ได้เลย...
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ 🙏🌹
กราบอนุโมทนา ต่อให้เป็นพุทธสมัย ได้กราบพระพุทธองค์ ที่กราบอยู่นั้นก็เป็นเพียงแสงเดินทางมาตกกระทบดวงตา เป็นเหตุปัจจัยให้เห็นให้คิดนึกเป็นรูปร่างสัณฐาน หากเป็นการกราบไหว้ด้วยปัญญา การกราบไหว้นั้นย่อมบริสุทธิ์ดี จึงไม่ใช่การให้กราบหรือไม่ให้กราบ แต่เป็นการเห็นคุณและเข้าใจ เมื่อปัญญาเกิดขึ้นนำไปในกิจทั้งปวง
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
สาธุ ขอให้อาจารย์สอนธรรมตลอดไปนะครับ
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
อนุโมทนาค่ะ🙏🌹
อนุโมทนา สาธุๆ ค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ 🙏
เรากราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อระลึกถึงพระคุณของท่าน ไม่ใช่เพื่อการอ้อนวอนขอร้องสิ่งใด กราบสาธุค่ะ
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบอนุโมทนาครับ
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
กราบอนุโมทนาค่ะ🙏🌷🙏🌷🙏
กราบสาธุค่ะ
ขอขอบคุณมากค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ🙏
สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ🙏🙏🙏💐💐💐
เป็นคำสอนที่งดงามค่ะ
กราบขออนุโมทนาค่ะ🙏🙏🙏
น้อมกราบอนุโมทนาบุญด้วย
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สวัสดีค่ะ มารับฟังด้วยค่ะ
ขอเรียนถามว่า ลำดับที่ 4 คือพระเจ้าจักรพรรดิคือใครคะ เพราะ ลำดับที่ 1 คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลำดับที่ 2 คือ พระปัจเจกพุทธเจ้า และลำดับที่ 3 คือ พระอริยสาวก พอจะรู้ว่าเป็นใครบ้าง แต่ลำดับที่ 4 คือพระเจ้าจักรพรรดินี่หมายถึงพระมหากษัติย์ที่เป็นเจ้าแห่งพระมหากษัติย์ทั้งหลายหรือเปล่าคะ ประมาณว่า Kingof the kingsน่ะค่ะ ขออนุโมทนาสำหรับการเผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้องนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
พระเจ้าจักรพรรดิจะเป็นพระราชาที่ประเสริฐยิ่งเพราะเป็นผู้มีคุณธรรม ชนะโดยธรรม ประกอบด้วยธรรม จึงเป็นพระราชายิ่งกว่าพระราชา ถูกต้องครับ เมื่อบุคคลบูชาสถูปพระเจ้าจักรพรรดิ ด้วยเพราะระลึกถึงคุณความดีพระองค์และพระองค์ก็มีคุณความดีควรบูชา สมควรกับการบูชาด้วย จึงเกิดกุศลและทำให้ผู้บูชาไปสวรรค์ได้ครับ
กราบขอบพระคุณค่ะ เข้าในในการกราบระลึกถึงพระพุทธคุณมากขึ้นจิตใตรู้สึกอ่อนโยนมากขึ้นที่ได้ฟังคำจริงค่ะ สาธุ
ยินดีขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ผเดิม ด้วยความเคารพยิ่ง ใน เมตตากรุณาของท่านอาจารย์ กล่าว พระธรรมคำสั่งสอน ที่เป็นธรรมะ ตามความถูกต้อง ประโยชน์อย่างยิ่ง เจ้าค่ะสาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ น้อง ต้น สาระ
กราบอนุโมทนากับทุกท่าน
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
สาธุคะ🙏🙏🙏
ขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ขออนุโมทนาครับ
เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้ย่อมมี
เจตนานั้นเป็นกรรม ผลของกรรมชี้ที่เจตนา
เพราะไม่มีสิ่งนี้ สิงนี้ย่อมไม่มี
สิ้นไปจากเจตนานั้นทุกสิ่งเป็นไปเช่นนั้นเองตามธรรมดา
ผู้ยกมือไหว้ก็เพราะ จิตมีเจตนา
ผู้ไม่ยกมือไหว้ก็เพราะเห็นเหตุและปัจจัยที่มาแห่งกรรม ธรรมมังอนุกรรมปิมังปชัง ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วที่ใจ
ผู้นอบน้อมจิตที่ตั้งมั่นแล้วในธรรมะมรรคโกวิทูพุทธะ
ผู้ไม่น้อมน้อมเพราะเห็นเหตุในจิตที่ตั้งมั้นนั้นแล้วในธรรมะอะระหะตะสัมมาสัมพุทธะ
กรรมมังเขตตัง วิญญานังพีชังปฏิภูตัง ตัณหาสิเหน่โห
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นแล้วเช่นเราตถาคต
ขอน้อบน้อมผู้แสดงธรรมในตถาคต สาธุ
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา อย่าไปเข้าใจผิดว่าหมายถึงไม่ให้ไหว้เคารพพระพุทธรูป ไม่ให้ไหว้เคารพพระธาตุ
ผู้ใดเห็นธรรม ใครเห็น ไม่ใช่เราเห็น ปัญญาเห็น เห็นความจริงของธรรมในขณะนี้ว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา เมื่อเห็นความจริงเช่นนี้ ก็ชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า เห็นตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ เมื่อพบพระพุทธรูป ก็มีจิตอ่อนน้อมระลึกบูชาคุณ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไหร่ ใจก็อ่อนน้อมมากเท่านั้น(การประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นมงคล) ดังเช่น การเห็นสังเวชนียสถานสี่(สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงพระธรรมครั้งแรก ปรินิพพาน) ก็เป็นอิฐ ปูน ทราย ไม่ต่างจากพระพุทธรูปแต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าเป็นสถานที่ควรเห็นควรระลึกบูชา ต่างจากจิตที่ดูหมิ่นไม่กราบไหว้ เพราะเข้าใจพุทธวจนผิด ก็ชื่อว่าไม่ทำตามคำสอนพระพุทธเจ้า ครับ
🙏🤍👁️🌅...กราบสวัสดีอาจารย์ผเดิมค่ะ..และกราบอนุโมทนาสาธุๆๆๆในธรรมค่ะ..กราบขอบพระคุณท่านค่ะ....🙏🤟😔....
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
@@paderm ..🧑🍳🙏🤍💎💯✅...กราบสาธุๆๆๆค่ะท่านอาจารย์ค่ะ...
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ🙏🙏🙏
" เราอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำสัตว์ ออกจากที่กันดาร ผู้นำชั้นพิเศษ ตักเตือนตนว่า ท่านควรระวังกิเลสไว้ แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ การ ยังกิเลสให้เกิดขึ้นไม่สมควรแก่ท่าน"😊การได้เห็นได้กราบไหว้ พระสถูป พระเจดีย์ พระพุทธรูป หรือ ต้นโพธิ์ ประโยชน์มหาศาล เพราะได้ระลึกถึง พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ฟังธรรมทุกวัน ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทุกวัน กราบอนุโมทนา บุญ กับอาจารย์ผเดิมค่ะ 😇🙏🙏🙏
กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพสาธุสาธุค่ะ
สำนักไหนไม่ให้ไหว้อีกล่ะ ไม่ทราบเรื่องเลย มัวนั่งฟังชาวบ้านบ่นเรื่อง Stark เสียเวลาฟังธรรมมาก กราบอนุโมทนา
@@sabbe.dhamma.anatta กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ หนูก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เพราะหนูจะไม่ฟังสำนัก อื่น เลย กราบสวัสดี ท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพ สาธุ สาธุ ค่ะ
@@user-iv9bu8wg8i ได้ยินได้ฟังตามเหตุปัจจัย สะสมมาอย่างไรก็ได้ฟังอย่างนั้น ฟังแล้วความเข้าใจเจริญขึ้น ก็จะเป็นเหตุปัจจัยให้ได้ยินได้ฟังสิ่งที่ถูกที่ตรงในอนาคต ให้ได้เกิดความมั่นคงแก่ความเจริญขึ้นของบารมีทั้งหลายต่อไป
@@sabbe.dhamma.anattaกราบขอบพระคุณ ค่ะ สาธุสาธุค่ะ ท่านอาจารย์
สาธุ.
สาธุ
บุญอยู่ที่การระลึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าจะเป็นอะไร ก็ตาม
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความกระจ่างในเรื่องพระพุทธเจ้า ขออนุโมทนาบุญธรรมสาธุค่ะ
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
พระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุยังคงสำคัญ หากไม่สำคัญ พระพุทธเจ้าคงไม่สร้างสถูปเจดีย์ให้อรหันต์สาวกหลายองค์ อย่างท่านพาหิยะ
อนุโมทนาในความเห็นถูกครับ ในคลิปก็อธิบายว่าควรไหว้ครับ ไหว้อย่างไรด้วยครับ แนะนำฟังในคลิป และเพิ่มเติมคำอธิบายดังนี้ครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แต่ท่านไม่แนะนำให้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในวัด ท่านให้สร้างไว้ที่ทางสี่แยก ที่คนสัญจรไปมา ท่านคงจะเห็นความเรียบง่ายสะดวกถ้าอยู่ที่ทางสี่แยก แต่ถ้าอยู่ในวัดก็จะเกิดปัญหา โดยเฉพาะผลประโยชน์จำนวนมาก
@@user-qu4jd8yu7m มีพระบัญญัติข้อความในพระไตรปิฎกไว้ไหมครับว่า พระองค์ตรัสว่า ห้ามสร้างไว้ในวัด ครับ
@@user-qu4jd8yu7m
ผมมองว่าสมัยก่อนไม่มีวัดมากมายแบบสมัยนี้
วัดสมัยนั้นมีไม่กี่ที่ เพราะต้องขยายศาสนาพุทธให้กระจายไปในเหล่าพราหมณ์เหล่าอื่น
วัดที่พระพุทธเจ้าประทับอย่างเชตุวันมหาวิหาร ก็เหมือนวัดเดี่ยว
ปัจจุบันวัดมีมาก แล้ว พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุ มีไม่มาก ควรอยู่ในวัด เพระเป็นสถานที่อบรมธรรมะ คนเข้าวัดที่ละลึกถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมของพระองค์ ได้น้อมกราบไหว้อย่างใกล้ชิด
ให้เหมือนที่ท่านสอนว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
@@padermพระบัญญัติไม่มีข้อห้ามและข้อแนะนำให้สร้างในวัด แต่มีพระบัญญัติข้อแนะนำให้สร้างไว้ทาง 4 แยก ที่มีผู้คนสัญจรไปมาครับ บางวัดผมเห็นพระมีปัญหาขัดแย้งกันเอง เพื่อแย้งกันเป็นผู้ดูแลพระเจดีย์ที่บรรจุบรมสารีริกธาตุ ซึ่งมีผลประโยชน์ที่ต้องดูแลจำนวนมาก
สาธุคับ
กราบสาธุสาธุสาธุ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ กราบสาธุๆค่ะ
กราบอนุโมทนา ท่า อ.เผดิมที่ช่วยอธิบายธรรมให้มีความเข้าใจในธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ กราบ
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
เมื่อพระพุทธรูป รูปถ่าย หรืออื่นใดอันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้าได้ เราก็ไหว้นั่นแหละ พระธรรมเราก็น้อมนำมาเป็นสรณะ และพยายามประพฤติปฏิบัติเท่าที่พยายามทำให้ได้ ค่อยเป็นค่อยไปก็ว่ากันไป พระสุปัญโน / พระสงฆ์ / ผู้ปฏิบัติธรรม ท่านก็มีพระคุณที่ช่วยสืบทอดพระธรรมมาสู่แต่ละดวงจิตเรื่อยมา เราก็นอบน้อมท่าน
อนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับผม สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
กราบสาธุในธรรมตถาคตคะ
ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
ชาวพุทธทั่วโลกไปอินเดียทำไมครับ ผมฟังแล้วมันย้อนแย้งจริงๆ
ก่อนอื่นท่านต้องแยกระหว่างการไหว้ของสัตว์โลก มีทั้งถูกและผิด และ ไม่เอาผู้ที่ไหว้ผิด มาสรุปว่าไม่ควรไหว้ ไม่ควรบูชา สังเวชนียสถานสี่ หรือ ไม่ควรไหว้พระพุทธรูป เพราะผู้ที่เข้าใจถูกและไหว้ถูก ไปสังเวชนียสถานด้วยความเข้าใจถูกก็มีครับ ซึ่งในคลิป ได้แสดงไว้ ช่วงเวลานี้คลิกที่ตัวเลขสีฟ้าครับ จะอธิบายทั้งหมดครับ 05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
ไหว้พระพุทธรูปและไม่ไหว้พระพุทธรูปที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
สังเวชนียสูตร
ว่าด้วยสังเวชนียสถาน
[๑๑๘] ภิกษุทั้งหลาย สังเวชนียสถาน๒- ๔ แห่งนี้เป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธา ควรไปดู
สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง อะไรบ้าง คือ
๑. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดูด้วยระลึกว่า“ตถาคตประสูติในที่นี้”
๒. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดูด้วยระลึกว่า “ตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้”
๓. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดูด้วยระลึกว่า “ตถาคตทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมในที่นี้”
๔. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดูด้วยระลึกว่า “ตถาคตเสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้”
ภิกษุทั้งหลาย สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แลเป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู
@@paderm กราบท่านอาจารย์ผเดิมค่ะ ไม่เคยได้ไปกราบด้วยตัวเองเลยสักครั้งค่ะ สังเวชนียสถาน เเต่เคยกราบตอนเห็นในคลิปที่ท่านอาจารย์พากันไปมาแล้วเอามาลงไว้ในยูทูป ติดตามดูเกียบทุกคลิป ท่านอาจารย์ไปกันมาหมดแล้วทุกที่นะค่ะยังมีเมตตาเผื่อแผ่ถ่ายทอดเก็บรวบรวมมาให้คนที่ไม่ได้ไปได้เห็นได้กราบไหว้ระลึกถึงคุณ ของพระศาสดาด้วย ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ สาธุค่ะ
@@mudamuda7427 ยินดีและขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์ผเดิมที่เคารพอย่างสูงกราบอนุโมทนาสาธุ.🙏🙏🙏.จากนราธิวาสครับผม.🙏👍🌼🥰🌻
ทุกศาสนา จะมีตัวแทนองค์พระศาสดาของตัวเองคือรูปปั้นตามรูปแบบต่างๆ ถูกต้องแล้วนะ
พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้ไหว้ไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพานได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าเธออย่าคิดว่าศาสดาล่วงไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ความหมายคือ ให้เคารพพระธรรมและศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมตามคำสอน ประพฤติปฏิบัติตาม แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้เคารพสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้า มีพระสถูป พระเจดีย์ พระพุทธรูป หรือ ต้นโพธิ์ เพราะจิตที่ดีของผู้ที่เข้าใจถูกอันเกิดจากการฟังพระธรรม มีพระธรรมเป็นศาสดาจึงเกิดปัญญา ย่อมน้อมระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้ แม้การได้เห็นสิ่งที่สร้างมาบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองครับ การศึกษาคำพระพุทธเจ้าจึงต้องรอบคอบและครอบคลุมในหลายๆพระสูตรเป็นสำคัญ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไหร่ใจก็อ่อนน้อมเคารพระลึกคุณมากเท่านั้น ขออนุโมทนา ครับ
อ้างเรื่องการสร้างพระพุทธรูปมีภายหลัง จึงไม่ควรสร้างและเคารพ เป็นความเข้าใจผิดอย่างไร
สิ่งใดที่พระพุทเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ แต่พระองค์ให้พิจารณามหาปเทส ๔ คือ สิ่งนั้นที่เกิดขึ้นภายหลังเข้ากันได้กับพระธรรมของเราหรือไม่ ดังนั้น แม้ไม่ได้มีการสร้างพระพุทธรูปในสมัยพุทธกาล แต่พระองค์ทรงแสดงว่า พระสถูป ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ์(ถูปารหบุคคล ๔ บุคคลที่ควรบูชา) สถูปเหล่านั้นพวกเธอก็ควรบูชา พระสถูป เป็นพระธรรมไหม พระสถูปเป็นก้อนหินดินทรายไหม ก็ไม่ต่างจากพระพุทธรูป พระพุทธรูปจึงเป็นสิ่งที่ควระลึกบูชาด้วยความเห็นถูก เป็นอุทเทสกเจดีย์
คำสอนของพระพุทธศาสดา เป็นคำจริงถูกต้องถึงที่สุดแล้ว ใช่หรือไม่?
หรือสาวกนำมาขยายความได้ ไม่รูปจบ?
สอนให้เกิดประโยชน์เพื่อละ ปล่อยวาง ในทางกุศล ใช่หรือไม่?
@@aaxxvi1950 ปฏิเสธอรรกถาเป็นคำแต่งใหม่ คำที่ตนเองยกพุทธวจนแล้วอธิบายเพิ่มก็คือคำแต่งใหม่เช่นกัน
ถ้าจะอ้างว่าเอาแต่พุทธวจนทั้งหมด คำอรรถกถาอธิบาย ไม่ใช่พุทธวจน เป็นคำแต่งใหม่ เช่นนั้นแล้ว คำของตนเองที่ยกพุทธวจนแล้วอธิบายออกมา เช่น ยก สติปัฏฐานสูตร หน้านั้น เล่มนี้ ฉบับนี้ แล้วตนเองก็อธิบายเป็นภาษาไทย ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ คำที่ตนเองอธิบาย นั่นก็คือ ไม่ใช่พุทธวจน เป็นอรรถกถาจารย์เช่นกัน เพราะเป็นคำที่ไม่มีในพระไตรปิฎก เล่มนั้นเล่มนี้ ถ้าจะให้ถูกตามที่ไม่เอาอรรถกถาจารย์ ก็คือ ห้ามพูดต่ออะไรเลย ยกพุทธวจนล้วนๆ นั่นแหละครับ ไม่มีการอธิบายเพิ่มเติม ดังนั้นตนเองก็อธิบายเพิ่มเติม หลังจากยกพุทธวจน ที่ไม่ตรงเป๊ะตามพระไตรปิฎกเช่นกัน นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นว่าแท้จรองแล้ว คำใดก็ตาม ที่อธิบายโดยภาษาไหน อย่างไร แต่อธิบายความหมายได้ตรงตามคำพระพุทธเจ้า นั่นก็ชื่อว่าคำพระพุทธเจ้า ดังเช่น ในอรณวิภังคสูตร บางประเทศ คำว่า ภาวขนะ ใช้คำนี้ บางประเทศ ภาชนะใช้คำนี้ แต่ภาษาใด คำใดก็ตาม ที่อธิบายให้เข้าใจถึงความจริงของธรรม นั่นเป็นคำพระพุทธเจ้าครับ
อรณวิภังคสูตร
[๖๖๒] ก็ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ไม่พึงปรักปรำภาษาชนบท ไม่พึงล่วงเลยคำพูดสามัญเสีย นั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไรเล่า เป็นการปรักปรำภาษาชนบท และเป็นการล่วงเลยคำพูดสามัญ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภาชนะนั่นแลในโลกนี้ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า ปาตี ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่าปัตตะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า ปิฏฐะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า สราวะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า หโลสะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า โปณะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า หนะ ในบางชนบทเขาหมายรู้ว่า ปิปิละ ภิกษุพูดปรักปรำโดยประการที่ชนทั้งหลายหมายรู้เรื่องภาชนะนั้นกันดังนี้ ในชนบทนั้นๆ ตามกำลังและความแน่ใจว่า นี้เท่านั้นจริง อื่นเปล่าอย่างนี้แล ชื่อว่าเป็นการปรักปรำภาษาชนบท และเป็นการล่วงเลยคำพูดสามัญ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไรเล่า เป็นการไม่ปรักปรำภาษาชนบท และเป็นการไม่ล่วงเลยคำพูดสามัญ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภาชนะนั่นแลในโลกนี้ ในบางชนบทเขาหมายรู้ว่า ปาตี ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า ปัตตะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า ปิฏฐะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า สราวะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า หโลสะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า โปณะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า
หนะ ในบางชนบท เขาหมายรู้ว่า ปิปิละ ภิกษุพูดโดยประการที่ชนทั้งหลายหมายรู้เรื่องภาชนะกันดังนี้ ในชนบทนั้นๆ อย่างไม่ใช่ความแน่ใจว่า เป็นอันท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พูดแก่ข้าพเจ้าหมายถึงภาชนะนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ชื่อว่าเป็นการไม่ปรักปรำภาษาชนบท และเป็นการไม่ล่วงเลยคำพูดสามัญข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ไม่พึงปรักปรำภาษาชนบท ไม่พึงล่วงเลยคำพูดสามัญ นั่นเราอาศัยเนื้อความดังนี้ กล่าวแล้ว ฯ
@@aaxxvi1950 ก่อเป็นพระเจดีย์ทราย ไม่ได้สร้างกันในสมัยพุทธกาล ควรบูชาไหมเพราะไม่ต่างจากพระพุทธรูป
พระเถระรูปหนึ่งท่านระลึกถึงคุณความดีของท่านในอดีตชาติที่ได้สร้างพระเจดีย์ทรายด้วยตัวท่านเอง ระลึกบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งพระเจดีย์ทรายใช่พระธรรมไหม เป็นอิฐปูนทราย เหมือนพระพุทธรูปไหม ก็เหมือนกันแต่ไหว้สร้างเคารพได้ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปและการไหว้พระพุทธรูปและการไหว้สร้างสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้าได้
ปุฬินถูปิยเถราปทานที่ ๘ (๔๙๘)
ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย
[๘๘] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีภูเขา ลูกหนึ่งชื่อว่า ยมกะ เราได้ทำอาศรมสร้างบรรณ ศาลาไว้ที่ภูเขานั้น เราเป็นชฎิลผู้มีตบะใหญ่ มี นามชื่อว่า นารทะ ศิษย์ ๔ หมื่นคนบำรุงเราครั้งนั้น เราเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ คิด อย่างนี้ว่า มหาชนบูชาเรา เราไม่บูชาอะไรๆ เลย...สิ่งที่ควรบูชา เราควรแสวงหา สิ่งที่ควร เคารพก็ควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักชื่อว่าเป็น ผู้มีที่พึงพำนักอยู่ ใครๆ จักไม่ติเราได้
ในที่ไม่ไกลอาศรมของเรา มีแม่น้ำซึ่ง มีชายหาด มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ใจ เกลื่อน ไปด้วยทรายที่ขาวสะอาด ครั้งนั้น เราได้ไปยัง แม่น้ำชื่อว่า อมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็น เจดีย์ทรายพระสถูปของพระสัมพุทธเจ้าผู้ทำที่สุด ภพ เป็นมุนี ที่ได้มีแล้ว เป็นเช่นนี้ เราได้ทำ สถูปนั้นให้เป็นนิมิตเราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓ ดอกมาบูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์ทราย เหมือนถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระ พักตร์ ฉะนั้น
ในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วย กามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ ทำไว้ เราอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำสัตว์ ออกจากที่กันดาร ผู้นำชั้นพิเศษ ตักเตือนตนว่า ท่านควรระวังกิเลสไว้ แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ การ ยังกิเลสให้เกิดขึ้นไม่สมควรแก่ท่าน
ครั้งนั้น เมื่อเราคำนึงถึงพระสถูป ย่อม เกิดความเคารพขึ้นพร้อมกัน เราบรรเทาวิตกที่ น่าเกลียดเสียได้ เปรียบเหมือนช้างตัวประเสริฐ ถูกเครื่องแทงหูเบียดเบียน ฉะนั้นเราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุ- ราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้ว ได้ไป ยังพรหมโลกเราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ ได้เป็นจอมเทวดา เสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ครั้งได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ครั้ง และ ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยคณนา นับมิได้
ขออนุโมทนาครับ❤
🙏.@...ชีวิตงาม...
การถ่ายรูปลงโทรศัพย์ ไม่ว่ารูปอะไรก็ตาม สิ่งนั้นคือการเก็บมาเพื่อความประทับใจของเรา เช่นเดียวกับภาพ ที่เราเห็น หากมีคนบูชาสิ่งต่างๆ เราประทับใจสิ่งนั้นหรือไม่ ไม่ว่าศาสนาใด หากเราเห็นการบูชา เป็นทุกข์ เรียกว่ากรรม หากเราเห็นการบูชาเป็นปิติ เรียกว่าบุญ และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือสัญญาณ และพระพุทธรูปคือป้ายบอกทางที่ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าสัตว์หรือคนบนโลกใบนี้ รับรู้เรื่องนี้ดีอยู่ และสิ่งอื่นไม่ใช่ประเด็น
สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
ผมพยายามยึดพุทธเถรวาทไว้เท่านั้น
พุทธเถรวาท มีมาในไทย ตั้งแต่ก่อนสุโขทัยแล้ว
และพุทธเถรวาทก็มีพุทธรูป ในวัดมาตลอด มีอิฐปูนปั้นส่งต่อมาเรื่อย ๆ
หากใครจะปฏิบัตินับถือแตกต่างไป โปรดอย่าได้มาทำลาย หรือให้เลิกยึดถือปฏิบัติเลย
โปรดสร้างนิกายใหม่ เช่น มหายาน หรือ วัชรยานไป หรือจะเป็น ไฮเทคยาน ก็ได้
แต่ไม่ควรมาให้เลิกปฎิบัติแนวเถรวาทเลย
ตามความหมายของ เถรวาท คือ เถระ = พระเถระ (พรรษามากกว่า 5 พรรษาขึ้นไป)
วาท = โอวาทหรือคำสอน
อนุโมทนาในความเห็นถูกครับเพราะในคลิปก็แสดงอธิบายว่าควรไหว้พระพุทธรูประลึกถึงพระคุณ ครับ
@@paderm ขออภัยที่ศึกษาแต่หัวข้อครับ
ยินดีครับ ค่อยๆฟังดูนะครับ อนุโมทนา
@@paderm ศึกษาจนจบแล้วครับ ได้ความรู้มากขี้นครับ ผู้น้อยขอขมา อโหสิ ที่พลาดพลั้งครับ
อนุโมทนาบุญในความเข้าใจถูกครับ
ตามรู้ตามเห็นโดยความเป็นปรมัตถ์ เป็นธรรมที่เป็นจริง มันยากจริงๆ มันผ่านไปแล้ว ตลอดเวลา
สาธุ ขอบคุณอาจารย์ครับที่สอนให้ผมเข้าใจถูก
ขออนุโมทนา สาธุค่ะ กราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ 🙏
🙏🙏🙏
ผัสสะก่อให้เกิดการรม ใช้เปล่าครับ อาจารย์
แสดงหลายนัย ทั้งผัสสะ ก็ได้ อวิชชาก็ได้ครับ
พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้ไหว้ไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพานได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าเธออย่าคิดว่าศาสดาล่วงไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ความหมายคือ ให้เคารพพระธรรมและศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมตามคำสอน ประพฤติปฏิบัติตาม แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้เคารพสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้า มีพระสถูป พระเจดีย์ พระพุทธรูป หรือ ต้นโพธิ์ เพราะจิตที่ดีของผู้ที่เข้าใจถูกอันเกิดจากการฟังพระธรรม มีพระธรรมเป็นศาสดาจึงเกิดปัญญา ย่อมน้อมระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้ แม้การได้เห็นสิ่งที่สร้างมาบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองครับ การศึกษาคำพระพุทธเจ้าจึงต้องรอบคอบและครอบคลุมในหลายๆพระสูตรเป็นสำคัญ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไหร่ใจก็อ่อนน้อมเคารพระลึกคุณมากเท่านั้น ขออนุโมทนา ครับ
คิดแบบนี้ไม่ถูกงั้นพระธรรมก็เป็นแค่ตัวหนังสือ
ขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
@@paderm ฟังแล้วครับเป็นการอธิบายที่ถูกต้องสาธุครับ
🙏 เราไหว้ พระพุทธเจ้า ผ่านทางพระพุทธรูป..คิดแบบนี้ถูกต้องไหมคะ 🙏
น้อมระลึกถึงคุณได้ครับ แม้ไหว้พระพุทธรุปครับ
แล้วที่อรรถกถาบอกว่าห้ามทำรูปเปรียบพระพุทธเจ้า จากดิน หิน ทราย หรือจากทองและเงินก็ตาม มันจริงไหมครับ ผมฟังเขาพูดมา
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและพระอรหันต์ทั้งหลายอธิบายให้เข้าใจถูกเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งข้อความในอรรถกถาได้อธิบายถึงว่า รูปพระพุทธเจ้า ไม่มีที่เปรียบได้ เลิศสูงสุด ไม่ว่าใครจะปั้นทำอย่างไร(ทำรูปเปรียบให้เหมือนพระองค์)ก็ไม่มีทางเหมือนได้แม้แต่น้อยเพราะพระองค์สมบูรณ์ด้วยพระรูปอันหาที่เปรียบไม่ได้เลย แต่ข้อความในอรรรถกถานั้น ไม่ได้มีการห้ามให้สร้างพระพุทธรูป แต่เป็นการแสดงถึงความเลิศของพระรูปของพระองค์ครับ ผู้ที่ตีความผิด เพื่อเอามาเข้าข้างความเห็นของตนจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ ข้อความในอรรถกถาดังนี้ครับ
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกบุคคลบาลี
บทว่า อปฺปฏิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพเรียกว่ารูปเปรียบ. ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี.
อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทรายให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง.
อธิบายได้ชัดเจนมากเลยนั้นแลคือเหตุผลการน้อมกราบไหว้ด้วยเบญจาคปดิษย์ด้วยพลังศัทธาในดวงแก้วทั้งสามสาธุๆๆ
สัญญาลักษณ์ในพระพุทธศาสนาคืนพระพุทธรูป
พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่ พระพุทธรูปครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้ไหว้ไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพานได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าเธออย่าคิดว่าศาสดาล่วงไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ความหมายคือ ให้เคารพพระธรรมและศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมตามคำสอน ประพฤติปฏิบัติตาม แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้เคารพสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้า มีพระสถูป พระเจดีย์ พระพุทธรูป หรือ ต้นโพธิ์ เพราะจิตที่ดีของผู้ที่เข้าใจถูกอันเกิดจากการฟังพระธรรม มีพระธรรมเป็นศาสดาจึงเกิดปัญญา ย่อมน้อมระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้ แม้การได้เห็นสิ่งที่สร้างมาบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองครับ การศึกษาคำพระพุทธเจ้าจึงต้องรอบคอบและครอบคลุมในหลายๆพระสูตรเป็นสำคัญ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไหร่ใจก็อ่อนน้อมเคารพระลึกคุณมากเท่านั้น ขออนุโมทนา ครับ
กราบอาจารย์ศรัทธาท่านมานานขอบพระคุณค่ะ
เขาอันเชิญบารมีท่านมาสถิตในองค์
คุณความดีของใครของคนนั้น ไม่ใช่มาอยู่ในรูปปั้น ครับ ต้องเข้าใจตรงนี้ใหม่
สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
การกราบไหว้ไท่ได้แปลว่าถวายชีวิตกับสิ่งนั้นนะครับ การไหว้เป็นการกระทำที่มนุษย์ทำได้สามอย่างในโลกนี้เราทำอะไรได้มากกว่า คิด พูด และทำ การกระทำหมายเอาสิ่งที่คิด
ขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
การที่เรากราบใหว้สิ่งที่จิตเรานอบน้อมคือจิตเป็นกุศล
แต่ถ้าจิตเรามีอคติต่อให้ฟังธรรมจากพระอรหันต์ก็ไม่เกิดกุศล
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
ผู้ไม่ได้ประโยชน์จากการฟังพระธรรม
ตติยสัทธัมมนิยามสูตร
ว่าด้วยธรรมของผู้เข้าถึงและไม่เข้าถึงกุศล
[๑๕๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วย ธรรม ๕ ประการ แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม คือ ความถูกในกุศลธรรม ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลเป็นผู้ลบหลู่คุณท่าน ฟังธรรม ๑ เป็นผู้อันความลบหลู่ครอบงำ มีจิตแข่งดีฟังธรรม ๑ เป็นผู้แสวงโทษ มีจิตกระทบในผู้แสดงธรรม มีจิตกระด้าง ๑ เป็นผู้มีปัญญาทราม โง่เง่า ๑ เป็นผู้มีความถือตัวว่าเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควร เพื่อหยั่งลงสู่นิยาม คือ ความถูกในกุศลธรรม.
พระพรหม พระพิฆเนตร ศาลหลักเมือง😊มีคุณไหมครับ เห็นเขาไหว้กันจัง
ผู้รู้จักคุณ ว่า คุณคืออะไร ก็จะรู้ว่าอะไรมีคุณอะไรไม่มีคุณ ไหว้แล้วขอ การขอเป็นโลภะ กิเลส ไม่มีคุณแต่มีโทษเพราะจิตไม่ดีเป็นสำคัญนั่นเองครับ สำคัญที่ผู้นั้นเองมีปัญญาเข้าใจถูกหรือไม่ ถ้ามีปัญญาก็ย่อมแยกแยะได้อะไรมีคุณไม่มีคุณ และใจตนเองเป็นคุณหรือเป็นโทษในขณะที่เชื่อหรือไหว้ผิด มีจิตขอ เป็นต้นครับ
เราไม่ได้ไหว้รูปปูนปั้นธรรมดาแต่ไหว้พระพุทธรูปที่เป็นตัวแทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งคนที่ปั้นหรือหล่อบรรจุความเชื่อและศัทธาลงไปในศิลปะ
สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ พระพุทธรูปไม่ใช่ตัวแทนพระพุทธเจ้าครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
แล้วเราเป็นใคร ใครเป็นเรา เราคือใคร ใครคือเรา
พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า มีแต่ธรรม ธรรมเป็นอนัตตา มี ตา หู..ใจ เป็นแต่เพียงขันธ์๕ แต่เพราะความไม่รู้ของสัตว์โลก จึงยึดถือว่ามีเรา เป็นตัวเรา แท้ที่จริงเป็นแต่ธรรมแต่ละขณะที่เกิดขึ้นเป็นไปนั่นเองครับ ขออนุโมทนา
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปใคร่จะให้วชิราภิกษุณีบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงเข้าไปหาวชิราภิกษุณีถึงที่นั่งพัก ครั้นแล้วได้กล่าวกะวชิราภิกษุณีด้วยคาถาว่า
สัตว์นี้ ใครสร้าง ผู้สร้างสัตว์อยู่ที่ไหน สัตว์บังเกิดในที่ไหน สัตว์ดับไปในที่ไหน.
[๕๕๔] ลำดับนั้น วชิราภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่ใครหนอกล่าวคาถา จะเป็นมนุษย์หรืออมมุษย์.
ทันใดนั้น วชิราภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่คือมารผู่มีบาปใคร่จะให้เราบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงกล่าวคาถา.
ครั้นวชิราภิกษุณีทราบว่า นี่คือมารผู้มีบาป แล้วจึงได้กล่าวกะมารผู้มีบาปด้วยคาถาว่า
ดูก่อนมาร เพราะเหตุไรหนอ ความเห็นของท่านจึงหวนกลับมาว่าสัตว์ ในกองสังขารล้วนนี้ ย่อมไม่ได้นามว่า สัตว์เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมี ฉันใด.
เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ย่อมมี ฉันนั้น ความจริง ทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด ทุกข์เท่านั้นย่อมตั้งอยู่และเสื่อมสิ้นไป นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับ.
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า วชิราภิกษุณีรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง
จบวชิราสูตร
ถ้าตอบอีกอย่างคงจะโดนถล่มมิใช่น้อย เป็นที่มาของการแสดงธรรมไปตามโลกๆ
🙏🙏🙏🧎♂️
ถึงอย่างรัยผมไหว้ครับ เพราะเราโดนสั่งสอนมาแต่เด็ก แต่เราไม่เคยขออรัยทั้งนั้นเราไหว้เพราะเราศรัทธา (เหมือนเราแขวนพระ) 90%คนนับถือพุทธศาสนาต้องกราบไหว้ครับ
ไหว้พระธาตุไหว้พระพุทธรูปที่ถูกและผิดเป็นอย่างไร
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น
🌹👩👩👧👦
ไหว้พระวัดไหนก็เหมือนกันถ้าไหว้อย่างถูกวืธี ถ้ามีพระบรมสารีริกธาตุด้วยยิ่งดีกว่า
ขออนุโมทนาในความเห็นถูกด้วยครับ สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกให้สร้างพระพุทธรูป
พระพุทธเจ้าไม่ได้มีพระบัญญัติว่าห้ามสร้างพระพุทธรูป ครับ ถ้ามีข้อความในพระไตรปิฎกข้อไหนว่าพระองค์ไม่ให้สร้างพระพุทธรูปช่วยแสดงด้วยครับ
พระพุทธรูปก็เป็นเจดีย์ที่ควรกราบไหว้ระลึกบูชาเป็นอุเทสสกเจดีย์
คำว่า เจดีย์ หมายถึง ควรบูชา ควรสักการะด้วยจิตที่อ่อนโยนนอบน้อม ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา แสดงเจดีย์ไว้ ๓ อย่าง คือ
ปริโภคเจดีย์ คือ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้สอย มี บาตร จีวร เป็นต้น รวมถึงต้นโพธิ์ที่เป็นต้นไม้เป็นที่พระองค์ทรงตรัสรู้ด้วย
อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป ที่ผู้มีศรัทธาสร้างขึ้นเพื่อคารพสักการะบูชาน้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธาตุกเจดีย์ พระสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๓๑๓
ในคาถานั้น ชื่อว่า เจติยะ เพราะควรก่อ ท่านอธิบายว่า ควรบูชา ชื่อว่า เจติยะ เพราะวิจิตรแล้ว เจดีย์นั้นมี ๓ อย่าง คือ บริโภคเจดีย์ อุทิสสกเจดีย์ ธาตุกเจดีย์ บรรดาเจดีย์ทั้ง ๓ นั้น โพธิพฤกษ์ ชื่อว่า บริโภคเจดีย์ พระพุทธปฎิมา ชื่อว่า อุทิสสกเจดีย์ พระสถูปที่มีห้องบรรลุพระธาตุ ชื่อว่า ธาตุกเจดีย์
ก่อเป็นพระเจดีย์ทราย ไม่ได้สร้างกันในสมัยพุทธกาล ไม่ใช่พระธรรม ควรบูชาไหมเพราะไม่ต่างจากพระพุทธรูป
พระเถระรูปหนึ่งท่านระลึกถึงคุณความดีของท่านในอดีตชาติที่ได้สร้างพระเจดีย์ทรายด้วยตัวท่านเอง ระลึกบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งพระเจดีย์ทรายใช่พระธรรมไหม เป็นอิฐปูนทราย เหมือนพระพุทธรูปไหม ก็เหมือนกันแต่ไหว้สร้างเคารพได้ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปและการไหว้พระพุทธรูปและการไหว้สร้างสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้าได้
ปุฬินถูปิยเถราปทานที่ ๘ (๔๙๘)
ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย
[๘๘] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีภูเขา ลูกหนึ่งชื่อว่า ยมกะ เราได้ทำอาศรมสร้างบรรณ ศาลาไว้ที่ภูเขานั้น เราเป็นชฎิลผู้มีตบะใหญ่ มี นามชื่อว่า นารทะ ศิษย์ ๔ หมื่นคนบำรุงเราครั้งนั้น เราเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ คิด อย่างนี้ว่า มหาชนบูชาเรา เราไม่บูชาอะไรๆ เลย...สิ่งที่ควรบูชา เราควรแสวงหา สิ่งที่ควร เคารพก็ควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักชื่อว่าเป็น ผู้มีที่พึงพำนักอยู่ ใครๆ จักไม่ติเราได้
ในที่ไม่ไกลอาศรมของเรา มีแม่น้ำซึ่ง มีชายหาด มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ใจ เกลื่อน ไปด้วยทรายที่ขาวสะอาด ครั้งนั้น เราได้ไปยัง แม่น้ำชื่อว่า อมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็น เจดีย์ทรายพระสถูปของพระสัมพุทธเจ้าผู้ทำที่สุด ภพ เป็นมุนี ที่ได้มีแล้ว เป็นเช่นนี้ เราได้ทำ สถูปนั้นให้เป็นนิมิตเราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓ ดอกมาบูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์ทราย เหมือนถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระ พักตร์ ฉะนั้น
ในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วย กามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ ทำไว้ เราอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำสัตว์ ออกจากที่กันดาร ผู้นำชั้นพิเศษ ตักเตือนตนว่า ท่านควรระวังกิเลสไว้ แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ การ ยังกิเลสให้เกิดขึ้นไม่สมควรแก่ท่าน
ครั้งนั้น เมื่อเราคำนึงถึงพระสถูป ย่อม เกิดความเคารพขึ้นพร้อมกัน เราบรรเทาวิตกที่ น่าเกลียดเสียได้ เปรียบเหมือนช้างตัวประเสริฐ ถูกเครื่องแทงหูเบียดเบียน ฉะนั้นเราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุ- ราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้ว ได้ไป ยังพรหมโลกเราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ ได้เป็นจอมเทวดา เสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ครั้งได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ครั้ง และ ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยคณนา นับมิได้
พระธาตุมีสีสันวรรณต่างๆจริงหรือไม
สำคัญที่ใจเข้าใจพระธรรมครับ แม้ได้สิ่งที่สมมติเรียกว่าของแท้ แต่ใจไม่เข้าใจในธรรม ก็ชื่อว่าไม่ได้เข้าใจำคำสอนพระพุทธเจ้า แม้จะสมมติเรียกว่าได้ของปลอมมา แต่ใจกราบระลึกบูชาด้วยจิตที่ถูก และ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นคือสิ่งที่ประเสริฐครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
ไม้ถูกและก็ไม้ผิด
มีทั้งถูกและผิดดังนี้ครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูกก็มีและความเห็นผิดก็มีอย่างไร
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิดและกิเลส : พระภิกษุหวังลาภสักการะ เรี่ยไรเงินสร้างพระพุทธรูปใหญ่ที่สุด หลอกชาวบ้านด้วยคำว่าอานิสงส์ผลบุญ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิด เข้าใจผิด แต่ไม่ใช่เอาสิ่งที่ผิดตรงนี้ไปสรุปว่าไม่ควรสร้างพระพุทธรูป นั่นก็เป็นความเข้าใจผิดอีกเช่นกันครับ ซึ่งไม่ควรสนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปแบบนี้ที่หลอกเงินชาวบ้าน เป็นต้น
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูก : การสร้างเพื่อให้บุคคลอื่นและตัวท่านเองเกิดจิตเป็นกุศล แม้ในการได้เห็น ของบุคคลที่เข้าใจพระธรรมถูกต้อง จิตก็จะอ่อนน้อมถูกต้อง เมื่อได้เห็นก็น้อมระลึกถึงคุณความดีระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยไม่จำเป็นต้องสร้างให้ใหญ่ที่สุด เป็นต้น นี่คือการสร้างพระพุทธรูปที่ถูกต้อง ครับ พร้อมๆกับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องไปด้วยนั่นเองครับ
ดูที่เจตนา......
สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
สมาคมพระเครื่องยิ้มเลย
พระพุทธรูปถ้าตามความหมายที่บอก ต้องรวม พระแขวน ผ้ายันต์ ปลัดขิก
ถ้ามันดีจริง พระพุทธเจ้าสั่งให้ทำไปนานแล้ว เพราะตอนท่านอยู่ พราหมณ์ก็ทำรูปเคารพ มีเทพเจ้าเป็นหมื่นองค์
ของพวกนี้มันมีกำลังกับแค่ปุถุชน อริยบุคคลไหว้ต้นไม้ไหว้ก้อนหิน นึกถึงพระพุทธเจ้าก็สำเร็จประโยชน์แล้ว
ไม่เหมารวมครับ เพราะอันนั้นสร้างมาก็ด้วยจุดประสงค์ผิด เชื่อการอ้อนวอน ต่างๆ ไม่ได้เข้าใจธรรมครับ ดังนั้นจะเอาการไหว้ต้นไม้ ภูเขา มาปนไม่ได้ ครับ
อ้างเรื่องการสร้างพระพุทธรูปมีภายหลัง จึงไม่ควรสร้างและเคารพ เป็นความเข้าใจผิดอย่างไร
สิ่งใดที่พระพุทเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ แต่พระองค์ให้พิจารณามหาปเทส ๔ คือ สิ่งนั้นที่เกิดขึ้นภายหลังเข้ากันได้กับพระธรรมของเราหรือไม่ ดังนั้น แม้ไม่ได้มีการสร้างพระพุทธรูปในสมัยพุทธกาล แต่พระองค์ทรงแสดงว่า พระสถูป ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ์(ถูปารหบุคคล ๔ บุคคลที่ควรบูชา) สถูปเหล่านั้นพวกเธอก็ควรบูชา พระสถูป เป็นพระธรรมไหม พระสถูปเป็นก้อนหินดินทรายไหม ก็ไม่ต่างจากพระพุทธรูป พระพุทธรูปจึงเป็นสิ่งที่ควระลึกบูชาด้วยความเห็นถูก เป็นอุทเทสกเจดีย์
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูกก็มีและความเห็นผิดก็มีอย่างไร
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิดและกิเลส : พระภิกษุหวังลาภสักการะ เรี่ยไรเงินสร้างพระพุทธรูปใหญ่ที่สุด หลอกชาวบ้านด้วยคำว่าอานิสงส์ผลบุญ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิด เข้าใจผิด แต่ไม่ใช่เอาสิ่งที่ผิดตรงนี้ไปสรุปว่าไม่ควรสร้างพระพุทธรูป นั่นก็เป็นความเข้าใจผิดอีกเช่นกันครับ ซึ่งไม่ควรสนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปแบบนี้ที่หลอกเงินชาวบ้าน เป็นต้น
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูก : การสร้างเพื่อให้บุคคลอื่นและตัวท่านเองเกิดจิตเป็นกุศล แม้ในการได้เห็น ของบุคคลที่เข้าใจพระธรรมถูกต้อง จิตก็จะอ่อนน้อมถูกต้อง เมื่อได้เห็นก็น้อมระลึกถึงคุณความดีระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยไม่จำเป็นต้องสร้างให้ใหญ่ที่สุด เป็นต้น นี่คือการสร้างพระพุทธรูปที่ถูกต้อง ครับ พร้อมๆกับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องไปด้วยนั่นเองครับ
ก่อเป็นพระเจดีย์ทราย ไม่ได้สร้างกันในสมัยพุทธกาล ควรบูชาไหมเพราะไม่ต่างจากพระพุทธรูป
พระเถระรูปหนึ่งท่านระลึกถึงคุณความดีของท่านในอดีตชาติที่ได้สร้างพระเจดีย์ทรายด้วยตัวท่านเอง ระลึกบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งพระเจดีย์ทรายใช่พระธรรมไหม เป็นอิฐปูนทราย เหมือนพระพุทธรูปไหม ก็เหมือนกันแต่ไหว้สร้างเคารพได้ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปและการไหว้พระพุทธรูปและการไหว้สร้างสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้าได้
ปุฬินถูปิยเถราปทานที่ ๘ (๔๙๘)
ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย
[๘๘] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีภูเขา ลูกหนึ่งชื่อว่า ยมกะ เราได้ทำอาศรมสร้างบรรณ ศาลาไว้ที่ภูเขานั้น เราเป็นชฎิลผู้มีตบะใหญ่ มี นามชื่อว่า นารทะ ศิษย์ ๔ หมื่นคนบำรุงเราครั้งนั้น เราเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ คิด อย่างนี้ว่า มหาชนบูชาเรา เราไม่บูชาอะไรๆ เลย...สิ่งที่ควรบูชา เราควรแสวงหา สิ่งที่ควร เคารพก็ควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักชื่อว่าเป็น ผู้มีที่พึงพำนักอยู่ ใครๆ จักไม่ติเราได้
ในที่ไม่ไกลอาศรมของเรา มีแม่น้ำซึ่ง มีชายหาด มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ใจ เกลื่อน ไปด้วยทรายที่ขาวสะอาด ครั้งนั้น เราได้ไปยัง แม่น้ำชื่อว่า อมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็น เจดีย์ทรายพระสถูปของพระสัมพุทธเจ้าผู้ทำที่สุด ภพ เป็นมุนี ที่ได้มีแล้ว เป็นเช่นนี้ เราได้ทำ สถูปนั้นให้เป็นนิมิตเราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓ ดอกมาบูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์ทราย เหมือนถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระ พักตร์ ฉะนั้น
ในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วย กามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ ทำไว้ เราอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำสัตว์ ออกจากที่กันดาร ผู้นำชั้นพิเศษ ตักเตือนตนว่า ท่านควรระวังกิเลสไว้ แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ การ ยังกิเลสให้เกิดขึ้นไม่สมควรแก่ท่าน
ครั้งนั้น เมื่อเราคำนึงถึงพระสถูป ย่อม เกิดความเคารพขึ้นพร้อมกัน เราบรรเทาวิตกที่ น่าเกลียดเสียได้ เปรียบเหมือนช้างตัวประเสริฐ ถูกเครื่องแทงหูเบียดเบียน ฉะนั้นเราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุ- ราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้ว ได้ไป ยังพรหมโลกเราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ ได้เป็นจอมเทวดา เสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ครั้งได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ครั้ง และ ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยคณนา นับมิได้
ศึกษาธรรมต้องศึกษาหลายๆพระสูตรทั้งสามปิฎกโดยกว้างขวางถ้าเข้าใจบางสูตรเล็กน้อย จึงไปเหมารวมและทำให้เข้าใจผิดได้ครับ ขออนุโมทนา
ปาบไหมค่ะ
ทำด้วยความไม่รู้และความต้องการอยากได้สิ่งดี คือ กิเลส เป็นบาปครับ
ไหว้ๆไปเถอะ ขนาดวัวหกขาไก่สี่ตีน ยังไหว้กันอยู่เลย 5555555
การไหว้มีทั้งผิดและถูกครับ
สำคัญที่ฟังในคลิปครับ เพราะในคลิปอธิบายว่าควรกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปครับ ด้วยจิตระลึกถึงพระคุณและได้อธิบายว่าผู้ไม่ไหว้เพราะความเข้าใจผิด เป็นสิ่งไม่ดีครับ
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่เป็นบุญและบาป
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ถูก : ไหว้น้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าอันเกิดจากมีปัญญาเข้าใจพระธรรมเพราะฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
ไหว้พระพุทธรูปไหว้พระธาตุที่ผิด : ไหว้แล้วขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ลืมเรื่องของกรรม ขณะขอ คือ กิเลสโลภะ ไม่ใช่สิ่งดี จิตไม่ดีในขณะนั้น ครับ
แนะนำคลิกที่ตัวเลขสีฟ้า ครับ จะวิ่งเข้าไปที่เนื้อหา ครับ และผมได้ทำ เรื่องเป็นตอนๆในคลิปดังนี้ครับ 00:40 การไหว้พระพุทธรูปผิดและถูก
02:20 พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ไม่ใช่แสดงว่าไม่ให้กราบไหว้หรือไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
03:08 บุคคลที่ควรบูชา พระเจดีย์สถูป ถูปารหบุคคล
05:47 สังเวชนียสถาน เป็นอิฐหิน ต้นโพธิ์ เป็นสถานที่ควรเห็นระลึกบูชา
08:11 เจดีย์ทรายสร้างมาบูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่ต่างจากสร้างพระพุทธรูป
13:47 เจดีย์มีสามอย่าง อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป
15:25 ไม่ไหว้พระพุทธรูปแล้วไหว้พ่อแม่ทำไม
16:19 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราที่ถูกต้องลึกซึ้ง
ขําเม้นต ที่บอกไห้วๆไปเถอะตลกดี😂🤣
ใครเก่ง สถาปนา ศาสนาที่ตนค้นพบได้เลย โลกนี้เปิดรับตลอดกาล ไม่ต้องวิจารณ์ วิพากษ์ลัทธิอื่น เห็นลัทธิโพธิผักไหม ไปตามทางของเขา
พระพุทธเจ้าติเตียนพวกที่เห็นผิด ให้บุคคลอื่นเกิดปัญญาความเห็นถูก ครับ
"ธรรมวินัย เป็นคำที่ใช้เรียกคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาก่อนที่จะใช้ว่า “พระพุทธศาสนา” ซึ่งถูกนำมาใช้เรียกแทนในภายหลัง ..... พระธรรมวินัยถือว่าเป็นหลักเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงมอบหมายไว้ว่า ธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์หลังจากทรงล่วงลับไป"
*ผมคิดว่า การสร้างพระพุทธรูปไม่สมควร เนื่องจากไม่มีใครเคยเห็นพระพักตร์พระองค์ท่าน การปั้นพระพุทธรูปจึงมีะระพักตร์เหมือนคนปั้น ผู้ให้ปั้น หรือตามจินตนาการ ซึ่งบางที่ปั้นพระพักตร์ดูแปลกประหลาด หรือองค์รูปทรงประหลาด จะเป็นการรลบหลู่พระองค์ท่านหรือไม่ บางที่ก็แข่งกันปั้นองค์ใหญ่โต คิดว่าไม่ควรสร้าง แต่ถ้าสร้างพระสถูปเจดีย์แบบนี้ไม่เป็นไรเป็นการสมมติเพื่อระลึกถึงพระมหาคุณต่าง ๆ ขิงพระพุทธเจ้า ขอแสดงความคิดเห็นครับ
คำว่า ผมคิดว่า จึงเป็นความคิดเห็นของตนเอง ไม่ใช่พุทธวจน ซึ่งขออธิบายดังนี้ครับ
พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้ไหว้ไม่ให้สร้างพระพุทธรูป
เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพานได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าเธออย่าคิดว่าศาสดาล่วงไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ความหมายคือ ให้เคารพพระธรรมและศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมตามคำสอน ประพฤติปฏิบัติตาม แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้เคารพสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้า มีพระสถูป พระเจดีย์ พระพุทธรูป หรือ ต้นโพธิ์ เพราะจิตที่ดีของผู้ที่เข้าใจถูกอันเกิดจากการฟังพระธรรม มีพระธรรมเป็นศาสดาจึงเกิดปัญญา ย่อมน้อมระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้ แม้การได้เห็นสิ่งที่สร้างมาบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองครับ การศึกษาคำพระพุทธเจ้าจึงต้องรอบคอบและครอบคลุมในหลายๆพระสูตรเป็นสำคัญ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไหร่ใจก็อ่อนน้อมเคารพระลึกคุณมากเท่านั้น ขออนุโมทนา ครับ
อย่าเอาการสร้างพระพุทธรูปด้วยจุดประสงค์ผิด มาเหมารวมทั้งหมดว่าไม่ควรสร้างครับ
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูกก็มีและความเห็นผิดก็มีอย่างไร
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิดและกิเลส : พระภิกษุหวังลาภสักการะ เรี่ยไรเงินสร้างพระพุทธรูปใหญ่ที่สุด หลอกชาวบ้านด้วยคำว่าอานิสงส์ผลบุญ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นผิด เข้าใจผิด แต่ไม่ใช่เอาสิ่งที่ผิดตรงนี้ไปสรุปว่าไม่ควรสร้างพระพุทธรูป นั่นก็เป็นความเข้าใจผิดอีกเช่นกันครับ ซึ่งไม่ควรสนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปแบบนี้ที่หลอกเงินชาวบ้าน เป็นต้น
การสร้างพระพุทธรูปด้วยความเห็นถูก : การสร้างเพื่อให้บุคคลอื่นและตัวท่านเองเกิดจิตเป็นกุศล แม้ในการได้เห็น ของบุคคลที่เข้าใจพระธรรมถูกต้อง จิตก็จะอ่อนน้อมถูกต้อง เมื่อได้เห็นก็น้อมระลึกถึงคุณความดีระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยไม่จำเป็นต้องสร้างให้ใหญ่ที่สุด เป็นต้น นี่คือการสร้างพระพุทธรูปที่ถูกต้อง ครับ พร้อมๆกับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องไปด้วยนั่นเองครับ
ก่อเป็นพระเจดีย์ทราย ไม่ได้สร้างกันในสมัยพุทธกาล ไม่ใช่พระธรรม ควรบูชาไหมเพราะไม่ต่างจากพระพุทธรูป
พระเถระรูปหนึ่งท่านระลึกถึงคุณความดีของท่านในอดีตชาติที่ได้สร้างพระเจดีย์ทรายด้วยตัวท่านเอง ระลึกบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งพระเจดีย์ทรายใช่พระธรรมไหม เป็นอิฐปูนทราย เหมือนพระพุทธรูปไหม ก็เหมือนกันแต่ไหว้สร้างเคารพได้ นี่คือการสร้างพระพุทธรูปและการไหว้พระพุทธรูปและการไหว้สร้างสิ่งที่สร้างอุทิศบูชาพระพุทธเจ้าได้
ปุฬินถูปิยเถราปทานที่ ๘ (๔๙๘)
ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย
[๘๘] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีภูเขา ลูกหนึ่งชื่อว่า ยมกะ เราได้ทำอาศรมสร้างบรรณ ศาลาไว้ที่ภูเขานั้น เราเป็นชฎิลผู้มีตบะใหญ่ มี นามชื่อว่า นารทะ ศิษย์ ๔ หมื่นคนบำรุงเราครั้งนั้น เราเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ คิด อย่างนี้ว่า มหาชนบูชาเรา เราไม่บูชาอะไรๆ เลย...สิ่งที่ควรบูชา เราควรแสวงหา สิ่งที่ควร เคารพก็ควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักชื่อว่าเป็น ผู้มีที่พึงพำนักอยู่ ใครๆ จักไม่ติเราได้
ในที่ไม่ไกลอาศรมของเรา มีแม่น้ำซึ่ง มีชายหาด มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ใจ เกลื่อน ไปด้วยทรายที่ขาวสะอาด ครั้งนั้น เราได้ไปยัง แม่น้ำชื่อว่า อมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็น เจดีย์ทรายพระสถูปของพระสัมพุทธเจ้าผู้ทำที่สุด ภพ เป็นมุนี ที่ได้มีแล้ว เป็นเช่นนี้ เราได้ทำ สถูปนั้นให้เป็นนิมิตเราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓ ดอกมาบูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์ทราย เหมือนถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระ พักตร์ ฉะนั้น
ในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วย กามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ ทำไว้ เราอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำสัตว์ ออกจากที่กันดาร ผู้นำชั้นพิเศษ ตักเตือนตนว่า ท่านควรระวังกิเลสไว้ แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ การ ยังกิเลสให้เกิดขึ้นไม่สมควรแก่ท่าน
ครั้งนั้น เมื่อเราคำนึงถึงพระสถูป ย่อม เกิดความเคารพขึ้นพร้อมกัน เราบรรเทาวิตกที่ น่าเกลียดเสียได้ เปรียบเหมือนช้างตัวประเสริฐ ถูกเครื่องแทงหูเบียดเบียน ฉะนั้นเราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุ- ราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้ว ได้ไป ยังพรหมโลกเราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ ได้เป็นจอมเทวดา เสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ครั้งได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ครั้ง และ ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยคณนา นับมิได้
พระพุทธรูปก็เป็นเจดีย์ที่ควรกราบไหว้ระลึกบูชาเป็นอุเทสสกเจดีย์
คำว่า เจดีย์ หมายถึง ควรบูชา ควรสักการะด้วยจิตที่อ่อนโยนนอบน้อม ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา แสดงเจดีย์ไว้ ๓ อย่าง คือ
ปริโภคเจดีย์ คือ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้สอย มี บาตร จีวร เป็นต้น รวมถึงต้นโพธิ์ที่เป็นต้นไม้เป็นที่พระองค์ทรงตรัสรู้ด้วย
อุทเทสิกเจดีย์ คือ พระพุทธรูป ที่ผู้มีศรัทธาสร้างขึ้นเพื่อคารพสักการะบูชาน้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธาตุกเจดีย์ พระสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๓๑๓
ในคาถานั้น ชื่อว่า เจติยะ เพราะควรก่อ ท่านอธิบายว่า ควรบูชา ชื่อว่า เจติยะ เพราะวิจิตรแล้ว เจดีย์นั้นมี ๓ อย่าง คือ บริโภคเจดีย์ อุทิสสกเจดีย์ ธาตุกเจดีย์ บรรดาเจดีย์ทั้ง ๓ นั้น โพธิพฤกษ์ ชื่อว่า บริโภคเจดีย์ พระพุทธปฎิมา ชื่อว่า อุทิสสกเจดีย์ พระสถูปที่มีห้องบรรลุพระธาตุ ชื่อว่า ธาตุกเจดีย์
มันอยู่ที่ไหว้แล้ว แล้ว สงบสุขไหมต่างหาก อย่ามัวสงสัย เอ๋อออออออ
ไหว้เพื่อระลึก แล้วละ ปล่อยวาง ไม่สืบต่อให้เกิดทุกข์ หรือ สงบที่ปราศจากอกุศล
ไหว้แล้วสุขใจ ความสุขใจ ไม่ใช่ความสงบ ความสงบคือสงบจากกิเลส ไหว้แล้วขอ ไม่สงบ แม้จะสุขใจที่ได้ขอ แต่มีโลภะ ความต้องการ จิตไม่ดี ไม่สงบจากกิเลส ครับ