Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
เฉพาะของ #Marvel เราทำคลิบวิเคราะห์แยกไว้เรียบร้อยแล้วนะ ruclips.net/video/vmBN3wVRpak/видео.html
คิดว่าเกี่ยวกับ woke เหมือนกัน ไม่นั้นจะออกมาบอกว่าจะเลิก woke ทำไม
ในบทสัมภาษณ์ต้นฉบับของประธานดิสนีย์ เหมือนจะไม่เคยบอกว่าจะเลิก woke มีแต่บอกก็จะทำหนังให้คุณภาพมากขึ้น
@@Pinampaiok รอดูต่อไป ส่วนตัวว่าบทมันแย่ หวังว่าจะกลับมาทำดี ๆ ที่ผิดหวังมากสุดคือ indianjoe นี้เเละ
ในความคิดของผม คือ woke แต่เค้าออกสื่อเลยต้องรักษาภาพลักษณ์ของบริษัท และ CEO ก็ต้องรอดูผลหนังเรื่องอื่นๆต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร ก็เป็นกำลังใจให้กับหนังค่าย Disney ครับ
เพราะหนังไม่สนุก
@@commonboyz5372 พยายาม WOKE มากไปจนไปเบียดบทที่ควรจะเป็นทำให้มีข้อจำกัดเยอะ จนทำให้หนังความสร้างสรรค์น้อยลงจนทำให้หนังคุณภาพต่ำ
ถ้าไปดูจริงๆ หนังบาบี้มัน woke ว่าทุกเพศเท่าเทียม ให้ความสำคัญทุกคนแต่หนังดีสนี่ย์หลายเรื่องมัน woke ว่าผู้หญิงเหนือกว่าผู้ชายแบบไร้บทรองรับที่ดีหนังบาบี้มันด่าการ woke แบบโง่ๆด้วยซ้ำแต่อันนี้ก็แค่ส่วนนึงเท่านั้นเพราะฉะนั้นการพูดแค่ว่าเพราะหนังดีสนีย์มัน woke เลยเจ๊ง ก็พูดแบบนั้นเลยไม่ได้จริงๆครับ เพียงแต่ความผิดพลาดของดีสนีย์มันทำซ้ำเรื่องเดิมๆ เน้นการ woke แบบมักง่ายเกือบทุกเรื่อง จนมันติดตาแฟนๆ
จริง แต่หนังที่ไม่ woke ก็ทำบทไม่ดีอีกจน คนเลยเบื่อ ผมนี้เซ่งเลย ทำ star wars พังไปแล้ว แต่รอดูตอนนี้ยังดีที่หลังๆ เริ่มกลับมาโอเค แต่เจ็บใจสุดก็อินเดียนาโจร นี้และผมชอบมากเลยมาทำเสียหมดเลย
จำได้ว่าประธานคนนี้ คือคนที่ไม่เห็นค่าของการประท้วงค่าแรงนักเขียนบทนี่ เราว่ามันแสดงถึง ทัศนคติ ที่ข้างในตัวเขาไม่รักการสร้างสื่อดีๆ แต่สนใจแค่เงินทองอย่างเดียวเลยนะ ไอ้ที่บอกว่า จะให้อำนาจฝ่ายสร้างสรรตัดสินใจเนี่ย จริงๆแล้วหัวหอกความบ้าๆบอๆช่วงหลังของดิสนี่ ส่วนหนึ่งและไม่น้อยต้องมีแกในการตัดสินใจแน่ จะเอาแบบนั้น จะยัดเยียดแบบนี้มั่นหน้าว่าอยู่มาจน100ปี จะเอาเรื่องเก่าคลาสสิก หรือตัวล่ะครที่คนชอบ มาทำอะไรก็ได้ คนก็ต้องจำใจตามอยู่ดี จนออกมาเป็นสิ่งที่พวกเราเรียกว่าwoke คือ-ความยัดเยียดที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวละคร(เงือก,ปีเตอร์แพน,พินอคฯ) -หรือการเอาตัวล่ะครเก่ามายำ เพื่อดันตัวล่ะครใหม่ที่เป็นผู้หญิง (เช่น ธอร์ ชีฮัค)ทั้งหมดนี่เทียบบาร์บี้ได้ที่ไหน อันนั้นหนังให้พลังกำลังใจผู้หญิง มีข้อคิดคมคายทั้งเรื่องแต่ดิสนี่คือ... เอาผู้ชายมาเป็นตัวตลก ตัวเอกต้องดำ ผู้หญิงต้องพลังช้างสารช.สู้ไม่ได้ เอ่อ..นี่เหรอ ให้พลังกับผู้หญิงฉบับดิสนี่ แฟนคลับด่า ก็เอาคำความเหยียดมาเป็นเกราะ ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำพังเราคิดว่า ที่ดิสนี่แรงไม่แคร์แฟนคลับได้แบบนี่ ส่วนหนึ่งเพราะประธานคนนี่เป็นหัวหอกแน่ๆถ้าบนไม่สั่งการ แล้วล่างจะกล้าแรงได้ยังไง
ผมว่าวิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนได้นะแต่บอกว่า "ยัดเยียด" มันออกจะใจร้ายไปซะหน่อยในเมื่อคนผิวสีมีบทบาทน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชาการสิ่งที่หนังพวกนี้ทำ ก็แค่แชร์สิ่งนี้ให้กับคนผิวสีมันเป็นสิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรจะได้ความเท่าเทียมนี้นานแล้วเพราะเขาก็เป็นคนอเมริกันไม่ต่างจากคนขาว
@@TLG_Dream ไม่ขัดหรอกนะที่จะให้พื่นที ดีซะอีก แต่การเปิดกว้างทางความคิดจริงๆควรจะเป็น 'อริจินอล'คาเรกเตอร์ ไม่ใช่การจับของเดิมมาเปลี่ยนแล้วบอก เราเปลี่ยนให้คุณแล้ว ชอบสิ เราแชร์พื้นที่ให้คุณแล้วชอบสิ?ต้องการสร้างพื้นที่ วิธีสร้างสรรมีต้องเยอะ แต่ดิสนี่ไม่ทำ กลับเลือกวิธีไม่เคารบต้นฉบับซะงัน ขาดทุนก็ไม่แปลกตย.ของการสร้างของใหม่ อย่างสไปเดอร์แมนอ่ะ เทสของเขา นิสัยของเขา มันคือเขา ไม่ใช่เอาปีเตอร์ปาเกอร์มาย้อมสี แบบที่ตัวเอกหลายๆเรื่องของดิสนี่โดน ตย.ของการเปลี่ยนบทซี่ซัวแล้วคนดูเกลียด อย่างซีรีย์LOTRที่ย้อมสี คนก็ว่า แต่บ้านมังกรที่คนดำมาเล่นคนกลับไม่ว่า เพราะออรจินอลไม่ระบุไว้ค่ายอื่น เขาสามารถสร้างพื้นที่ให้ทุกชาติทุกผิวได้ โดยทำให้คนดูรู้สึกไม่อึดอัด แต่ดิสนี่เห็นชัดเจน(จากหนังหลายๆเรื่องช่วง2-3ปีมานี่)ว่าเจตนา
@@nunnymykira2119 ก็มันเป็นงานอเมริกันไงครับ งานที่เขาสร้างควรจะสะท้อนภาพของสังคมเขาด้วยมันเลยไม่ได้มีแต่คนขาว จำต้องมีคนผิวสีประกอบด้วย เพราะสังคมเขาเป็นแบบนั้นเหมือนประเทศเรา เอาเดอะ ลอร์ดมาทำ เราจะแคสต์แต่ฝรั่งมาเล่นไหมละครับ?มันก็ต้องเป็นคนไทยมาเล่น อเมริกาก็เป็นแบบนั้นปล. ผมไม่เข้าใจความคิดว่าเห็น คนผิวสี แล้ว 'อึดอัด' เลยแฮะ มันอึดอัดยังไงอะ
ไม่ยัดเยียด แล้วอะไรเรียกว่ายัดเยียด จะรั่ว 5555 @@TLG_Dream
อธิบายไปก็เท่านั้น ช่องนี้แมร่ง woke. ช่องมันถึงได้วิวแค่นี้งั้ย@@nunnymykira2119
ง่ายๆนะครับบาบี้มันwokeอร่อยไงยกมาสักเรื่องที่ค่ายหนูwokeแล้วอร่อย 4ปีหลังมานี่แทบไม่มีสักเรื่อง
แสดงว่าปัญหาไม่ใช่ woke แต่คือคุณภาพหนัง อย่างที่ผมพูดในคลืบนั้นแหละ
@@TLG_Dream ผมว่าเกี่ยวครับ ถ้าwokeคือวัตถุดิบ แล้วคุณใช้เอามาปรุงแล้วไม่อร่อย มันก็คือปัญหาว่าคุณใช้วัตถุดิบที่เรียกว่าwokeไม่เป็นยกตัวอย่างที่ผ่านมาง่ายๆเลยครับ เงือกน้อย ถ้าค่ายไม่ใส่วัตถุดิบที่ไม่เรียกว่าwokeลงมาเลย ตัวหนังน่าจะกำไรได้มากกว่านี้นะ
@@wittamin1809 ถ้าเราทำหนังครอบครัว แล้วทำออกมาไม่ดี ปัญหาก็อยู่ที่การทำออกมาไม่ดี หรือปัญหามันอยู่กับการเป็นหนังครอบครัวผมว่าอย่างแรกนะ คือคุณภาพหนัง ไม่ใช่เรื่องที่หนังเล่าผมว่าอคติทางสีผิวของผู้ดู มันไม่น่าใช่ปัญหาของผู้สร้างต้องรับผิดชอบด้วยซ้ำนะ อย่างเดียวที่พลาดก็น่าจะเป็นการประเมินว่าความอคติเหล่านี้มันมากกว่าที่คิด
นางเงือกได้ 560 วัดจากเรื่องก่อนๆ และ ip นางเงือกนั้นดังที่สุดของค่าย ก็น่าจะได้ 900 อัพถึงพันได้สบายๆ (ถ้าไม่สลับสีผิวและให้เกียรติงานต้นฉบับ) แสดงว่าคนกว่าครึ่งโลกนั้นล้วนเหยียดผิว ดูถูก ดูหมิ่นคนดำหมดเลย ล่าสุด the marvels เจ๊งครั้งประวัติศาสตร์ แสดงว่าคนค่อนโลกก็ดูจะเหยียดเพศเหมือนกัน ใช่ครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ดรีมเลย woke ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ค่ายไม่ใช่ปัญหา ผู้บริโภคที่เหยียดเพศและเหยียดผิวอย่างพวกเราเป็นปํญหา ที่ทางค่ายเขาคาดไม่ถึงอย่างที่พี่บอกข้างต้นเลย ต้องเปลี่ยน ต้องแก้ที่คนดูครับ ไม่ใช่คนทำ ผมเห็นด้วยครับ
เทียบกับ 2019 ที่พันล้านเกือบทุกเรื่อง หลังโควิดอาการหนักมาก
จริงๆ มองว่า D+ ก็เป็นปัญหานะ คือ เวลาถามใคร เรื่องจะดูหนังดิสนีย์/มาร์เวล ไหม หลายๆคนก็ตอบว่า จะดูนะ แต่รอดูใน D+ ได้ ไม่รู้สึกรีบอยากไปดูขนาดนั้น คือ คุณภาพมันอาจไม่ดีพอดึงดูดให้คนรีบไปดูด้วย และ มันก็ลง D+ เร็วพอตัว ตัวอย่างกรณี The Little Mermaid หรือ อนิเมชั่น Elemental ที่ทำเงินได้ระดับ แต่มันทำยอดใน D+ ได้สูงทั้งคู่ แสดงว่าคนที่ดูมันมีเยอะ แต่เขาไม่ไปดูในโรงกัน หรือ สุดท้ายแล้ว ดิสนีย์จะต้องเปลี่ยนแนวทางธุรกิจ เอาหนังเข้าโรง เพื่อให้กระแสในระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้ยอดสูงๆ ใน D+ เหมือนที่สตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆทำกัน รวมทั้ง จากการที่ดิสนีย์มันเป็นบริษัทสวนสนุก ก็สามารถจัดโซนในสวนสนุก ขายของเล่น ใช้สามารถหาเงินต่อได้อีก
ผมว่าเรื่อง D+ นี่แหละที่ทำให้ Bob C. เด้ง
อ้าว แบบนี้ เนตฟลิก hbo goก็ทำให้ทุกค่ายเจ๊งนิ เลอะเทอะมากนะ ตรรรกะแบบนี้
@@mayiskira ลองใช้ตรรกะคิดดูสิครับ มันมีผลจริงๆนะครับ การเข้าสตรีมิ่งเร็ว ไปดูคอมเม้นในนี้ก็ได้ครับ ก็มีคนรอดูในสตรีมอยู่จริง ถ้าดูในภาพรวม รายได้โรงก็หายไปเยอะแล้ว
น่าสงสารดิสนีย์นะ ขึ้นสุด ลงสุด เมื่อสมัยก่อนที่ MARVEL จะมา ช่วง จอนห์ คาร์เตอร์ ทูมอร์โรว์ แลนด์ อะไรนั่น หนังขาดทุนหลายเรื่องเหมือนกัน
ดีแล้วที่ให้การตัดสินใจไปอยู่กับฝ่ายศิลป์ไม่ใช่ฝ่ายการตลาดเพราะผมรู้สึกว่าผลงานทุกอย่างที่ออกมาจากค่ายไม่มีความหลากหลายเลยมันเหมือนสินค้าที่ผลิตจากแม่พิมพ์อันเดียวกันแต่แค่ทาสีคนละสีจำได้เลยเมื่อก่อน Marvel เข้าโรงคือไปดูทันทีแต่ตอนนี้คือช่างมันไปเถอะ
ผมก็ไม่ใช่คนมีความรู้ลึกทางด้านนี้อะไรนะครับ แค่จริงๆ จำได้ว่าแรกๆ ผมเข้าใจว่า Woke คือสิ่งดี คือตื่นรู้ คือเท่าเทียมกันไรงี้แต่ดิสนี่เหมือนทำให้ Woke กับคนทั่วๆ ไปอย่างผมรู้สึกไม่ใช่อย่างงั้นเลย ความหมายจากการสื่อของดิสนี่ มาเวลต่างๆ นาๆ Woke มันออกแนวเชิงลบด้วยซ้ำ แบบว่า ไม่ได้เท่าเทียมแล้วนะที่แน่ๆ จากที่เห็น นี่มันอย่างอื่น 555
ดิสนี่ย์ไม่ได้ทำครับ แต่คือฝ่ายอนุรักษ์นิยมของเมกามันเอามาพูด แล้วคนไทยที่อคติทางสีผิวก็ไปเอามาตาม เพื่อหาเหตุผลให้ความรู้สึกรังเกียจคนผิวอื่น เพศอื่นของตัวเอง
มันไม่ใช่แค่นั้นคุณ ส่วนนึงคือ เศษฐกิจ รายได้สวนทางกับค่าตั๋วหนัง ค่าตั๋วแทบจะเท่าค่าแรงหนึ่งวันแล้วนะ
ถือว่าฉลอง 100 ปี ด้วยการขาดทุน ในปี 2023 ละกัน ปีหน้า 2024 เอาใหม่ เบรด เอาคนขาวแสดง หรือ เอเชีย นะ
ก็เห็นด้วยกับประธานหวังว่างานในอนาคตจะดีขึ้น อยากดูหนังดี แล้วเห็นคนพูดโว๊คกัน หนังรายได้ดีของปีนี้มันก็โว๊คทั้งหมด Barbieก็โว๊คตั้งแต่ของเล่น Marioก็มีเจ้าพีชที่ปรับลักษณะนิสัย ให้เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่ตัวละครอ่อนแอแบบดั้งเดิม ซึ่งก็โว๊คนิ Oppenheimerก็คนสร้าง มาตื่นรู้ถึงปัญหานิวเคลียร์แล้วพยายามให้คนอื่นรู้ถึงปัญหาไม่ได้ไหลไปสังคม ก็โว๊ค
ถ้ามันปรับบทหญิงแล้มมันดีขึ้นไม่นับว่าโว๊คค่ะ มันต้องยัดเยียดมันถึงเรียกโว๊ค หนังผู้หญิงแกร่งมันมีมาตั้งแต่อดีตแล้ว แต่ยุคนี้มันกระแส feminism แรง นายทุนก็อยากเกาะกระแสเอาใจ ยัดบทมาทำให้เนื้อเรื่องเสียหรือชูพลังหญิงเกินเบอร์ไม่ทางใดก็มางหนึ่ง นั้นแหละความหมาย woke 😢
ไม่ใช่ครับ Woke คือการตื่นรู้ทางสังคม การปรับบทตัวละครหญิงก็นับว่า Woke นะเพราะเป็นการตื่นรู้ว่าผู้หญิงไม่ใช่มีแต่ความอ่อนแอให้ช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าทำแย่แล้วถึงเรื่องว่า Wokeงาน Woke มีมานานแล้ว แต่มันเพิ่งมามีฝ่ายขวาในอเมริกานำมาโจมตีสื่อทีมีแนวคิดที่ปรับให้หนังตรงบริบทของสังคมมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
@@h17ko18 Woke = การตื่นรู้ทางสังคมแล้ว (รูปอดีตของ Wake ที่แปลว่าตื่น)การปรับบทผู้หญิงให้เข้ากับบริบททางสังคมมากยิ่งขึ้น มันจะไม่ใช่ Woke ได้ยังไง
@@h17ko18มั่วมาก
@@butterflykiss4830 จร้าาา
มันก็เจ๊งเพราะ Woke นั่นแหละครับ เพราะ Woke แบบ Disney มันห่วยมาหลายรอบแล้ววิธี Woke ของดิสนี่มันไม่เวิร์คมากๆเลยครับ เพราะมันง่อยมากเช่น ปีนี้ บาร์บี้ เขาโว๊คเรื่องประเด็น เรื่องตัวตน การตั้งคำถาม การถูกประกอบสร้างตัวตนปีนี้ อีดิสนี่ Woke ง่ายๆจ้า นางเงือกเปลี่ยนสีผิว จบสโนวไวท์ เปลี่ยนภาพจำนางเอก จบง่ายมะ ง่ายยยยยย แค่นี้ Woke ซึ่งจะไม่ให้เจ๊งได้ไงดัน Woke แล้วดันไม่หนุก ไม่มีอะไรว้าวเลย ก็เท่านั้น.สรุปง่ายๆ ทุกปีก็มีหนัง Woke แต่ ดิสนี่ Woke ได้ห่วยทุกปี สู้คนอื่นไม่ได้รอบแล้วรอบเล่า หนำซ้ำยังก่อประเด็นให้แฟนตีกันเองอีก ทำเพื่อ?แบบนี้ไม่อาการหนักก็บ้าแล้ว มีแต่ Woke ป่วยๆ มันเลยออกมาอีแบบนี้แหละครับ ^^
ไปใส่ใจในจุดที่ไม่น่าใส่ใจเป็นอันดับต้นๆ บทหนังที่มันสำคัญมากๆต่อหนังหลายๆเรื่องนั้นได้ถูกลดคุณค่าลงไป
แล้วทำไม บาบี้ โคตรจะ Woke ถึงหนังทำเงิน และ ไม่เจ๊งอะครับ
แบบนั้นมันไม่น่าใช่ woke ดีหรือไม่ดี แต่มันน่าจะเป็นหนังดี กับ หนังห่วย หรือเปล่าครับ ?
จริงครับ อีกเหตุผลนึงคือ หนังของ Disney มันน่าเบื่อแล้วก็ ไร้ความน่าสนใจ ด้วยยังไงประเด็น Woke ก็ค่อนข้างมีผลเลย ปัจจัย อื่นๆ อีกคือคนเค้าหมันไส้ นักแสดง นู้นนี้นั้น กันอีก555
จริงไม่นั้นจะออกมาบอกว่าจะเลิก woke ทำไม แถมบทมีปัญหาสุดเเล้วผมว่า
เราว่าสังคมบอยคอตบรีลาสัน ตั้งแต่นักแสดงไปจนถึงแฟนๆลามไปสู่ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาง
ไม่น่าใช่นะครับ ซีรีย์ที่บรีลาสันเล่น หรือ อนิเมชั่นที่เธอพากย์เสียง ก็ได้รับเสียงตอบรับดีอยู่นะครับ
@@Mex2Mex แต่ไม่ใช่กับแฟนมาเวล(ส่วนนึง)ไงครับ เริ่มจากนักแสดงด้วยกันเองที่เกลียดบรีลาสันช่วง end game ความเกลียดส่งต่อไปสู่แฟนๆ ทั้งบทตัวละครลามไปจนเหมารวมหมด กัมลาก็อีกเคสที่โดนพวกแฟนบอยเหยียด พอลากทั้ง2มาเล่นเรื่องเดียวกันก็โดนตามไปแฟนๆเริ่มไม่ชอบทัศนะคติหรือนิสัยของทั้ง2 นักแสดง สรุปง่ายๆแฟนมาเวลพวกบอยคอยเกลียดนักแสดงหลัก แล้วความเกลียดชังพวกนี้ก้ส่งต่อไปถึงคนอื่นๆที่ไม่ใช่แฟนก้ไม่พากันไปดูเพราะไม่น่าสนใจไม่ให้ค่า เหมือนเดอะแฟรชโดนบอยคอตเพราะ เอซลา คนเดียวและลามไปติหนังแทบทุกอย่าง คนก้ไม่ไปดูไรแบบนี้
@@มาตาปาลญาณวุติวงส์ ขนาดนั้นเลยหรอครับ อย่างบรี ผมก็จำได้ว่า เธอเคยมีดร่าม่าแค่ครั้งเดียวเองมั้ง แถมตั้งหลายปีแล้วด้วย แสดงว่าหลายคนก็แค้นสะสม แต่ กลมา นี่นักแสดงไม่ได้เลยนะครับ เขาไปเกลียดอะไรกันนะครับ แล้วให้เทียบเอชร่า นี่ผมว่าเกิน เพราะ เอชร่า มีคดี มีความผิดจริง แต่ สองคนนี้ ไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้น
@@Mex2Mex ไปอ่านคอมเม้นท์ในโซเชียลเอาดูครับ เดือดพอสมควร ทั่งไทยทั้งเทศ ไม่น่าสนใจบ้าง,มั่นหน้าเกิน,อ้วนบ้าง ปากดีปากเก่ง เยอะแยะมากมาย ผมก้ไม่เข้าใจเขาจะเกลียดอะไรขนาดนั้น บางทีมันก้ว่าเกินไป และที่เอาไปเทียบกับแฟรลผมเทียบในแง่ที่หนังไม่ประสบความสำเร็จ และผมมองว่าก้เพราะโดนบอยคอตแบบแฟรชนี่แหละ คนถึงไม่ค่อยไปดู
Woke นั่นแหล่ะคือเหตุผล เพราะ barby woke มันอยู่ถูกที่ แต่พอเป็น disney มันไม่work
เรื่อง woke หรือ ไม่ woke มันไม่น่าประเด็นหลักแต่แรก หนังเรื่องหนึ่งมันมีหลายองค์ประกอบที่สำคัญ จะมัวมาโฟกัสแต่เรื่อง woke แล้วประเด็นเรื่องมันก็ถูกละเลยไปหมด อย่างถ้าค่ายสร้างหนังที่ antiwoke ไปเลยแต่หนังแย่ก็คือหนังแย่ มันไม่เปลี่ยนอะไร ถ้าไม่แก้ปัญหาทั้ังหมด
จะ Woke อะไม่ว่าหรอก แต่ช่วยมีเหตุผลรองรับด้วย และให้ความสำคัญนิดนึงไม่ใช่แค่เปลี่ยนสกิล แล้วถ้าบอกว่า woke ไม่เกี่ยวกับหนังเจ๊งงั้นจะเลิกทำไม รอดูดูในสโนว์บราวอยู่ว่าจะให้เหตุผลอะไรไหม ไม่เอาขาวจากถายในนะเละเทอะเกิน
การเป็นคนผิวสี ต้องมีเหตุผลด้วยหรอครับ
@@TLG_Dream คือตัวละครที่แต่เดิมไม่ใช่คนผิวสี แต่เพราะอยากจะ woke ก็เปลี่ยนสีมันเลย แบบนี้อะดูมันขัดตา ถ้าอยากสนับสนุนความเท่าเทียมผมว่าทำตัวละครใหม่ออกมาเลยกับเขียนบทให้มันสนุกแบบไมล์โมราเลส แบบเทียน่า อะไรงี้ดีกว่าไหม
@@TLG_Dreamทำไตเติ้ลใหม่ ไม่ใช่ไปบิดเบือนผลงานคลาสสิค ถ้าคิดไม่ได้ก็ให้คนด่าต่อไป
@@TLG_Dreamผมเห็นคุณตอบหลายเมนท์ละ เป็นพวกคลั่งความเท่าเทียมเหรอครับ ที่เขาจะสื่อคือ เหตุผลที่ทำไมสโนไวท์ ที่ถูกตั้งชื่อเพราะขาวเหมือนหิมะตามนิทาน มันถึงผิวเข้มไปได้ ซึ่งมันน่ารำคาญมากครับ
@@TLG_Dreamไม่ต้องมีครับพี่ไม่จำเป็นต้องมีด้วย แต่คำว่า"ขาวราวหิมะ" ที่มีมาแต่แรก มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องบิดออกมาให้เป็นสีน้ำผึ้งเหรอครับ บริบทความเหมาะสมพวกเขาจะแยกแยะกันไม่ได้เลยเหรอ???
ผมเห็นท่านอื่นๆพูดถึงบาบี้ ถ้าตัว(ตัวเอกนะครับ)บาบี้เปลี่ยนคนเล่นเป็นผิวสี จะออกเป็นอย่างไร น่าคิดนะครับ
อยากจะwokeแต่ไม่ขัดเกลาให้ดีพอ
ทำไมต้องขัดเกลาละครับคือรับผู้หญิง รับคนผิวสี รับคนต่างพศไม่ได้เลยหรอครับ
@@TLG_Dream ก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะครับ แต่ทำไมต้องยัดเยียดให้ชอบด้วย เขียนหนังแบบไม่สนใจต้นฉบับเลย อย่าง star woke ผู้หญิงต้องแกร่ง ผู้ชายต้องกระจอก ผู้หญิงเพิ่งเคยจับไลท์เซเบอร์ชนะผูชายที่ฝึกมาเป็นสิบๆปีได้ ดูหนังภาคแรกสิพระเอกกว่าแต่ละคนจะเก่งต้องผ่านการฝึกเลือดตาแทบกระเด็น อันนี้อะไรแทบไม่ได้ฝึกอะไรนักหนาเก่งเลย
ผมเบื่อหนังที่”พยายาม” สอน พยายาม political มาก กระแส woke ทำให้หนังกลายเป็นละครคุณธรรมไปหมด ผมอยากดูหนังที่ขายบันเทิงจริงๆแบบเมื่อก่อน ล่าสุดดู hunger game หนังมันก็ธรรมดานะ แต่ดูแล้วสบายใจ หัวโล่งๆ ไม่ต้องมายัดเยียดคนดี! หนังมันชัดเจนเราจะเล่าเรื่องคนเลวไม่ต้องมาสั่งสอนโลกสวย ที่ตลกคือหนังรายได้ดีด้วยนะ ฉายชน The Mavels รายได้ชนะไม่เห็นฝุ่นเลย
นางเงือกมันไม่ได้ Woke ครับ แต่มันไม่ได้เคารพต้นฉบับ คนเลยไม่ดู แค่นั้น ส่วน the marvels คือ เอาตัวไม่ดัง ตัวที่คนต้องดูซีรีย์มาก่อน มาใส่ในหนัง บวกกับกัปตันมาร์เวลมันแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยิ่งไปกันใหญ่
คหสต.นั้นละครับ woke เหมือน ครีโอพัดตา หรือ queen อลิซาเบธ ที่เอาคนผิวสีมาแสดง
ก็นั่นล่ะ Woke 5555+
นั่นแหละ คือ woke สาวต้องแกร่ง ตัวละครต้องมีดำและเอเชียไว้ก่อน ผู้ชายต้องขี้แหย๋ 😂😅
Wokeครับ
เอาดีๆครับใเงือกนี่ woke จัดเลยนะ คนบนบกนี่ต้องมีให้ครบทุกเชื้อชาติอะ 😅
ความWoke นี่เเหละครับที่ทำให้ดิสนีย์อยู่ในสภาพนี้ การพยายามยัดเยียดกับการทำให้มันเป็นธรรมชาติมันต่างกันครับ อย่างบาบี้มันก็เหมือนประมาณว่าผู้ชายทำอะไรผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกันเเต่กับดิสนี่ย์เเบบยกตัวอย่างง่ายที่สุดเหมือนเอาoppenheimerมาเปลี่ยนสีผิวเป็นคนดำพร้อมกับสตอรี่พื้นหลังว่าเป็นคนดำที่โดนกดขี่พร้อมทั้งเป็นLGBTQ+เเต่มีความสามารถจนประสบความสำเร็จเหนือคนขาวโดยในที่ทำงานนั้นมีเเต่คนต่างชาติพันธ์ไม่มีคนขาวอยู่เลยสักคนทั้งที่เป็นโครงการลับของประเทศอเมริกา ซึ่งตัวอย่างดิสนี่ย์มันอาจจะกาวๆไปหน่อยเเต่ดิสนีย์มันทำอย่างงั้นจริงครับ
คุณยกตัวอย่างหลุดโลกมากเลยครับ หนังประวัติศาสตร์ร่วมสมัยมันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้วครับลองยกอะไรที่ดิสนี่ย์ ทำแล้วคุณว่ายัดเยียด มันจะเห็นภาพ และคุยกันได้ง่ายกว่านะครับ
@@TLG_Dream ง่ายๆเลยครับคือสโปรเจ็คโนไวท์ที่ชื่อมันก็บ่งบอกอยู่เเล้วว่าเจ้าหญิงหิมะขาวซึ่งสื่อถึงผิวพรรณที่ขาวสวยราวกับหิมะเเต่ดันเปลี่ยนเป็นคนดำเเทนหรือจะเป็นการเปลี่ยนจากคนเเคระทั้ง7เป็นสัตว์หรืออะไรซักอย่างทั้ง7อีกซึ่งในความคิดผมมันคือการเอาต้นฉบับสโนไวท์ของดิสนี่ย์ที่หลายๆคนชอบมาย่ำยีโดยไม่สนใจเเฟนคลับเลยหรือจะเป็นมู่หลานที่จากสาวไหวพริบดีมีปัญญาที่อันเป็นเลิศเป็นอาวุธให้เปลี่ยนกลายเป็นหญิงเเกร่งที่เก่งเกินใครจะต้านทานโดนที่ไม่มีอะไรเหตุผลอะไรมารองรับความเก่งของนางเลย เเล้วที่ผมยกตัวอย่างบุคคลสำคัญร่วมสมัยก็เพราะมันเข้าใจได้ง่ายเพราะภาพยนต์พึ่งฉายไปโดยให้เปรียบตัวระครอย่างoppenheimerเป็นตัวระครตัวนึงที่มีคนชอบเเละรักในตัวของเขาเหมือนกับตัวระครเจ้าหญิงดิสนี่ย์ทั้งหลายที่มีทั้งคนรักเเละชอบในตัวระครพวกนั้นในเเบบที่เขารู้จักโดยสิ่งที่ดิสนี่ย์ทำในตอนนี้คือการเอาตัวระครที่เขารักมาเปลี่ยนทั้งบทเเละนิสัยรวมไปถึงชาติพันธ์ด้วยเพื่อที่จะยัดเยียดเเนวคิดที่ตัวเองคิดว่าดีหรือก็คือความWokeเข้าไปโดยเปลี่ยนสโนไวท์หรือเจ้าหญิงเงือกให้เป็นคนดำหรือที่ผมเปรียบคือการเปลี่ยนตัวระครoppenheimerให้เป็นคนผิวสีปูบทตัวระครมีความสามารถที่สูงเเละโดยกดขี่เหมือนบทมู่หลานเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่ควรมีคนขาวเป็นหลักให้เปลี่ยนเป็นคนชาติพันธ์อื่นเหมือนการเปลี่ยนบทคนเเคระทั้ง7ในสโนไวท์ สมัยช่วงที่ดิสนี่ย์wokeเเรกๆผมไม่สนใจหรอกครับมองมันเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำเเต่หลังๆมาผลงานดิสนี่ย์เเทบจะเรียกได้เลยว่าดิ่งลงเหวเเทนที่จะเอาความWokeเป็นเรื่องรองหลังๆมาเริ่มเอาความWokeเป็นบรรทัดฐานเเทบทุกอย่างเเทนที่จะสนใจในตัวชิ้นงาน,ผลงานหรือความรู้สึกของเเฟนๆที่ติมตามผลงานเเต่ดันไปสนใจในเรื่องความเท่าเทียมไร้สาระมากกว่า ความจริงความWokeของดิสนี่ย์มีอีกเยอะครับทั้งผู้กำกับ,บทหรือนักเเสดงก็มีเรื่องฉาวอีกเยอะครับ เเต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆเลยคือดิสนี่ย์ในตอนนี้มันสนใจเเต่เรื่องความเท่าเทียมสุดไร้สาระหรือก็คือWokeมากกว่าสนใจเรื่องบท,การเเสดงหรือสนใจเเฟนๆที่ติดตามดิสนีย์เหมือนเมื่อก่อนครับหรือให้ถูกก็คือดิสนี่ย์ในตอนนี้กลายเป็นเวทีที่ให้พวกWokeได้เเสดงอำนาจเเละความคิดเห็นโดยใช้ตัวระครที่หลายๆคนรัหเป็นตัวกระจายเเนวคิดนั้นครับ
ง่ายๆเลยครับคือสโปรเจ็คโนไวท์ที่ชื่อมันก็บ่งบอกอยู่เเล้วว่าเจ้าหญิงหิมะขาวซึ่งสื่อถึงผิวพรรณที่ขาวสวยราวกับหิมะเเต่ดันเปลี่ยนเป็นคนดำเเทนหรือจะเป็นการเปลี่ยนจากคนเเคระทั้ง7เป็นสัตว์หรืออะไรซักอย่างทั้ง7อีกซึ่งในความคิดผมมันคือการเอาต้นฉบับสโนไวท์ของดิสนี่ย์ที่หลายๆคนชอบมาย่ำยีโดยไม่สนใจเเฟนคลับเลยหรือจะเป็นมู่หลานที่จากสาวไหวพริบดีมีปัญญาที่อันเป็นเลิศเป็นอาวุธให้เปลี่ยนกลายเป็นหญิงเเกร่งที่เก่งเกินใครจะต้านทานโดนที่ไม่มีอะไรเหตุผลอะไรมารองรับความเก่งของนางเลย เเล้วที่ผมยกตัวอย่างบุคคลสำคัญร่วมสมัยก็เพราะมันเข้าใจได้ง่ายเพราะภาพยนต์พึ่งฉายไปโดยให้เปรียบตัวระครอย่างoppenheimerเป็นตัวระครตัวนึงที่มีคนชอบเเละรักในตัวของเขาเหมือนกับตัวระครเจ้าหญิงดิสนี่ย์ทั้งหลายที่มีทั้งคนรักเเละชอบในตัวระครพวกนั้นในเเบบที่เขารู้จักโดยสิ่งที่ดิสนี่ย์ทำในตอนนี้คือการเอาตัวระครที่เขารักมาเปลี่ยนทั้งบทเเละนิสัยรวมไปถึงชาติพันธ์ด้วยเพื่อที่จะยัดเยียดเเนวคิดที่ตัวเองคิดว่าดีหรือก็คือความWokeเข้าไปโดยเปลี่ยนสโนไวท์หรือเจ้าหญิงเงือกให้เป็นคนดำหรือที่ผมเปรียบคือการเปลี่ยนตัวระครoppenheimerให้เป็นคนผิวสีปูบทตัวระครมีความสามารถที่สูงเเละโดยกดขี่เหมือนบทมู่หลานเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่ควรมีคนขาวเป็นหลักให้เปลี่ยนเป็นคนชาติพันธ์อื่นเหมือนการเปลี่ยนบทคนเเคระทั้ง7ในสโนไวท์ สมัยช่วงที่ดิสนี่ย์wokeเเรกๆผมไม่สนใจหรอกครับมองมันเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำเเต่หลังๆมาผลงานดิสนี่ย์เเทบจะเรียกได้เลยว่าดิ่งลงเหวเเทนที่จะเอาความWokeเป็นเรื่องรองหลังๆมาเริ่มเอาความWokeเป็นบรรทัดฐานเเทบทุกอย่างเเทนที่จะสนใจในตัวชิ้นงาน,ผลงานหรือความรู้สึกของเเฟนๆที่ติมตามผลงานเเต่ดันไปสนใจในเรื่องความเท่าเทียมไร้สาระมากกว่า ความจริงความWokeของดิสนี่ย์มีอีกเยอะครับทั้งผู้กำกับ,บทหรือนักเเสดงก็มีเรื่องฉาวอีกเยอะครับ เเต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆเลยคือดิสนี่ย์ในตอนนี้มันสนใจเเต่เรื่องความเท่าเทียมสุดไร้สาระหรือก็คือWokeมากกว่าสนใจเรื่องบท,การเเสดงหรือสนใจเเฟนๆที่ติดตามดิสนีย์เหมือนเมื่อก่อนครับหรือให้ถูกก็คือดิสนี่ย์ในตอนนี้กลายเป็นเวทีที่ให้พวกWokeได้เเสดงอำนาจเเละความคิดเห็นโดยใช้ตัวระครที่หลายๆคนรักเป็นตัวกระจายเเนวคิดนั้นครับ โดยผมขอเขียนตอบเจ้าของช่องเเบบนี้เเล้วกันนะครับเพราะยูทูปมันไม่ยอมเเสดงข้อความผมให้ผมเห็น
WOKE จนเน่า ฉลอง 100 ปี
Disney ทำหนังออกมาไม่สนุกเอง และการเอาหนังกับซีรีส์มาผูกกันเยอะเกินไปทำให้ลดทอนคุณค่าในตัวหนังที่จะเข้าฉาย ตัวหนังหลายเริ่องไม่น่าดึงดูดให้เข้าไปดูในโรงการไม่เคารพต้นฉบับ แบบเงือกน้อย ก็มีส่วนมากๆ อันนี้เป็นกระเเสเเรงชัดเจน
เรื่องนี้ควรหมดราคาทันทีที่ the marvel เจ๊งไปจนถึง เดดพูล3เข้าโรงในกรณีที่เข้าใจว่า ไม่ใช่มุขหากิน ไม่เป็นสายล่อฟ้า ไม่ปั่นbobดึbobโลภผ่านไปแล้ว wokeดำwokeขาวยังอยู่ การไม่ให้โอกาสที่ไม่ใช่ของเขา คือ ช่วยเขาแต่ถ้าใช้คนไม่ตรงงาน คือ พาเขาไปตาย เขาอาจไม่ชั่ว แต่ชิพหายอะไรไปก็เป็นแผลในวงการ และยิ่งผิดมาก องค์กรยิ่งพังมาก สัทธาก็ยิ่งพินาศมาก(โดยเฉพาะวงการนี้ครับ)โอกาสที่ตะบี้ตะบันขอมันแพง สัทธา ได้ยาก เสียง่าย เอาคืนคือโคตรยากและไร้โอกาสที่สองruclips.net/video/EQdciWOGjNc/видео.htmlทำไมเล่าที่จะไม่เอาด้วยที่ disneyจะทำลายdisney
มันไม่ได้อยู่ที่ woke ซะทีเดียว มันอยู่ที่คุณภาพ อย่าง little mermaid อย่าว่าผมนะผมว่านางเอกไม่สวยเลย นางเอกผิวดำก็ได้แต่ขอสวยกว่านี้ได้ไหม
อันนี้ก็ถือว่าหนัง woke นะ เพราะบางคนก้าวข้ามสีผิวแล้วแต่ยังติดหล่ม beauty standard
หนังฮีโร่ ที่ไม่มีฮีโร่ผู้ชายเลย ตลาดหายไปแล้วเกิน 2/3
ผมไม่คิดมาก่อนเลยนะ ว่าคนดูหนังฮีโร่เกลียดผู้หญิงขนาดนั้น
@@TLG_Dream ทำไมตีความอย่างนั้น? ตลาดผู้หญิงที่ชอบฮีโร่ผู้ชาย แต่มันไม่มีฮีโร่ผู้เข้ามาให้ดู เค้าก็ไม่ดู หนังที่มีแต่ฮีโร่ผู้หญิง ตัวร้ายก็ผู้หญิง มันแปลกไป จงใจเกิน เกี่ยวอะไรกับเกลียดผู้หญิง ที่บอกว่า "ไม่คิดมาก่อนเลย" ก็ดีแล้ว อย่าคิดอะไรในแง่ร้ายขนาดนี้เลย
@@TLG_Dreamตรรกะเพี้ยนจัดเลยคุณ ผู้ชายเป็นแฟนคลับหลักของหนังฮีโร่อยู่แล้วครับ เราดูฉีโร่เพื่อเทียบกับตนเอง อย่างตอนเด็กก็อยากเป็นตัวนู้นตัวนี้ตามหนัง มีเด็กชายคนไหนไหมครับอยากเล่นเป็นเซเลอร์มูน?
@@TLG_Dreamด่าคนอื่นเผด็จการ ตัวเองอะเผด็จการทางความคิดกว่าใครเพื่อน ตักน้ำชะโงกดูเงาบ้างครับ
ทำหนังไม่สนุกและคนจะดูซ้ำเพื่ออะไร ไหนจะสร้างสตรีมมิ่งบังคับดู คนก็เมินสิ
"คนมันเบื่อ"ง่ายๆ สั้นๆ แค่นั้นแหละครับ หนังมันไม่ใช่ปัจจัย 4 จะให้เกิดการดูซ้ำๆ กับพล็อตเดิมๆ มันทำได้ไม่นานหรอกมาเวล กับหนังเจ้าหญิงทั้งหลายก็เหมือนกับบ่อน้ำมัน ที่โดนดิสนีย์ขุดจนจะแห้งหมดที่เขาลากยาวมาได้ 10 ปี ก็โคตรเก่งกันแล้วตอนนี้ผมว่า ถึงเวลาหาบ่อใหม่ได้แล้วล่ะ
D+ แทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลยครับ ทุกวันนี้ยกเลิกไป ก็รู้สึกไม่ขาด โลกิ ss2 พอไม่ได้ดูก็ยังรู้สึกเฉยๆ
คำเดียวเลย "NF" และ แอปอื่นๆ
คิดว่าเพราะมี D+ เราละคนนึง ไม่ไปดูโรงละ รอดูใน D+
ดิสนีย์ ชอบแอบแฝง
woke 10 เรื่อง เจ๊ง อีกเรื่องไม่เจ๊ง แสดงว่าไม่ใช่เพราะ woke จ๊ะ ถ้าจะวิจารณ์อะไรแล้วตั้งอคติแบบนี้ ก็เอาที่สะดวกเถอะ
หลายคนบอกไม่ใช่เรื่อง บริหาร ง่ายๆ สัญญา ตูม มี Frozen 4 ถามจิ๊ง คุยกับลูกน้องหรือยัง ? ว่ามีเนื้อเรื่องแล้วหลอ ? Frozen 3 ยังไปออกเลย สั่งแล้วก็ทำมาส่งๆ ทำแบบมีงานส่งนายไปปี ๆ ใครจะดูวว
ลองเปลี่ยนบาบี้ ตัวละครหลักเป็น คนผิดสีดูดิ ยับบบ
เธอออ หนังบาร์บี้ มันไม่ได้ woke นะ แค่หนังที่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือมีผู้หญิงเป็นตัวเอกไม่นับว่า woke อย่างสุดก็แค่ Feminism ถ้า woke มันต้องแบบยัดเหยียดมากจนเกินไป ไม่มีศิลปะในการนำเสนอ งั้นบอกมาสิ ว่าบาร์บี้มัน woke ยังไงหนัง The Mavel มัน Woke จริงไหม… มันก็จริง พลังแทบจะซุปเปอร์ไซย่าแล้ววว ที่ young hero(girl) มีแต่อัจฉริยะ สตอรี่ให้ต้องประเชิญอุปสรรคกว่าจะมาเป็นฮีโร่ได้แทบไม่มี หนังที่จะเล่าตัวเองก็ไม่มี แต่เล่าแบบจะมันตัวแทนหรือแทนที่ตัวฮีโร่ชายเดิม นี่ว่าส่วนหนึ่งทีมแคสนักแสดงทำได้ไม่คมเท่าเมื่อก่อน ถึงจะเป็นนักแสดงหญิงแต่ถ้าหาแบบออร่าจับก็น่าจะดึงดูดผู้คนได้ส่วนหนึ่งนอกเรื่อง woke-บทแย่ ไม่ก็จืด-ตัวร้ายออร่าไม่จับ หนักว่าแต่ก่อน-ยึดติดซีรีส์มากไป -ฮีโร่วัยรุ่นเยอะเกินไป เข้าใจอยากจะทำอะไรนะ แต่กว่าจะโตมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้เริ่มกลายเป็นหนัง spy kid(แต่ก็ชอบนะ เป็นหนังไม่คิดเยอะ หนังเด็กคิดแบบเด็กๆ แต่ถ้ามาเวลจะเอาดีทางนี้ก็แล้วแต่นะ)-จำเจ -กินบุญเก่าเกินไป มันก็ตั้ง4 ปีแล้วที่ไอรอนแมนตาย-ขาดตัวฮีโร่ใหม่ๆ เปิดซากะใหม่แล้ว ฮีโร่(หญิง)เจ๋งๆ มีเป็นสิบเป็นพัน ทำขึ้นใหม่เลย ไม่เป็นตัวแทนของใครแล้วช่วงนี้คือดาราเด็กดิสนีย์บางคนไม่เก็จปัญหา แล้วเผลอไปพูดอะไรช่วนหมั่นไส้อีก(ไม่นับข่าวที่ไทยเอามาปั่นแแบบเกินความจริง) มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้😅
woke = การตื่นรู้ทางสังคม ว่าสังคมที่เป็นอยู่ไม่ปกติการพูดเองความเท่าเทียมทางเพศก็เป็นส่วนหนึ่งของ Woke ครับ 😁
บาร์บี้ทำไมจะไม่ woke สรุปคือไม่รู้ด้วยซ้ำว woke คืออะไร ฮามาก
เฮ้อออออ
@@butterflykiss4830 เอ่อ คือ Feminism กับ Woke ในความหมายของคุณอาจเหมือนกัน แต่ของผมไม่เหมือนครับ Woke สำหรับผมคือของเพศที่ 3 ถ้าเป็นของเพศหญิง เรียก Feminism ของชาย เรียก ชายเป็นใหญ่
บางทีก็สงสัย อย่างซีรี่ส์มูนไนท์ที่กระแสดีแต่ก็เงียบหายไปเลย อย่างน้อยปีหน้าก็น่าจะมีss2อะ
บาร์บี้ นี้โคตรตอกหน้าดีสนี่เลยว่าหนัง Woke ที่ดีมันเป็นยังไง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนสกิน ตัวเอก แล้วคนจะดู ขนาดบาร์บี้ ตัวเอกเป็นตัวที่พวก FJW อย่างเกลียด สวย ผม บรอน แต่หนังออกมาดีคนเขาก็ดู อีกราย Netflix รู้นะว่าเจ็บจาก Woke แต่เอ็งเก็บอาการใช่มั้ย
กมลข่านเจ๊ง เป็นซีรีย์ที่wanna be. ขำ
ผมชอบมากเลย เสียดายช่วงท้ายๆ หาทางลงไม่ดี
ผมว่าปัญหาหลักคือระยะเวลาที่สื่อบันเทิงของเค้าจะมาลง Disney+ ครับ อย่างปีนี้ผมเองก็ไม่ได้ไปดูหนัง Marvel หรืออนิเมชั่นของ Disney ในโรงเลย รู้สึกแบบอีกไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็ลงแล้วรอได้ๆ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนเรื่องเปลี่ยนเชื้อชาติตัวละครแบบที่ทำอยู่ผมไม่ค่อยถูกใจ ดูสิ้นคิดเกินไป ทำเรื่องใหม่ที่ตัวละครมีรากมาจากตรงนั้นไปเลยดีกว่า เจ้าหญิงที่มี Story ในแอฟริกา หรือมี origin ในอเมริกาใต้ไปเลย
เคยดูคลิปนึงผ่านๆว่า เหตุผลที่บริษัทใหญ่ๆในอเมริกาต้อง woke กัน ต้องใส่ความหลากหลายเรื่องเพศเรื่องสีผิว เพราะนักลงทุนต้องการให้สังคมเบี่ยงเบนประเด็นไปยังเรื่องนั้นมากที่สุด ยิ่งบริษัทไหน woke มากยิ่งมีคะแนนอะไรสักอย่างของบริษัทยิ่งสูง🤔 ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็ถือว่าทำได้ดีที่ให้คนเบี่ยงเบนความสนใจไปไม่ว่าจะคนชอบ woke หรือไม่ชอบ
ดิสนี่ ทุนเยอะจะตาย กลัว ผมรอหนังคนดำอีก20เรื่อง ผมชอบเสพ
ปัญหาไม่ใช่แค่ woke หรอก woke เป็นแค่ส่วนนึงที่ทำให้คนไม่อยากไปดูเฉพาะเรื่องที่บทนำถูกเปลี่ยนอย่าง the little mermaid แต่แฟนๆที่ตาม disney มานานส่วนใหญ่ก็อยากไปดูอยู่ดี แต่ปัญหาหลักคือคุณภาพ และสถานการณ์หลังโควิดนั้นแหละ แล้วยิ่ง Disney+ เอาหนังลงสตรีมเร็วด้วย คนยิ่งไม่อยากไปมากขึ้น หนังหญิงแกร่งหลายเรื่องที่ดีๆก็ไม่เคยมีดราม่าแบบนี้ แค่ปีนี้ Disney ทำตัวเองให้แย่มาหลายเรื่องจนมันสะสม ทั้งกระแส feminist ทั้งความเท่าเทียม อย่าง capt.mavel 1 ที่เฉยๆ (มาพร้อมดราม่า) และ the marvel ที่ตัวหนังเองมีปัญหา+กระแสต่างๆ ทำให้คนส่วนนึงไปโฟกัสที่ woke จนหลอน หนังไม่ดีก็คือหนังไม่ดี การที่ผู้หญิงคนนึงได้พลังมาทำให้แข็งแกร่งกว่าผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย ที่มาที่ไปภาคแรกก็มีบอก
ได้ดูอยู่2เรื่องแล้วคืออื้ม ไม่ปลื้ม😂😂แต่ก็นั่นและ
Woke แม่งทุกเรื่องก็บรรลัย
จริงหรครับ ที่มีผู้หญิง มีคนผิวสี ก็บรรลัยเลยหรอครับ
woke แบบยัดเยียดครับไม่เน้นหนังสนุก เน้นกูจะ Woke เน้นเลือกผู้กำกับและทีมงานจากต้องเป็นหญิงwoke ไม่ใช่จากฝีมือ
ยกตัวอย่างหน่อยครับ
เหรออ ไม่ใช่เพราะ Woke จริงเหรออ
ถ้า Woke แล้วเจ๊ง DP3 ก็คงเจ๊งอะครับ 555
@@TLG_Dream เค้าทำของเค้าที่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรไงครับ เค้าทำในความคิดภาพยนต์ 10ๆปีที่เค้าทำกันมานานแล้ว ความหลากหลายมีมานานนมแล้วครับ! เค้าไม่ต้องทำเอากระแสwoke ปัจจุบันก็ได้ในเมื่อ 10 ปีก่อนยังทำในทิศทางที่ดีกว่าปัจจุบันที่เรียกร้องกันเหมือนมันไม่เคยมีมาก่อน ออกไปทางแซะด้วยซ้ำครับ 5555 ขนาดผมยังมองว่ามันทำได้ โดยไม่ต้องมาเรียกร้องอ้อนวอนเหมือนคนไร้ที่ยืน (ทั้งๆมีพื้นที่มานานแล้ว) เพียงแค่ทำแบบ10ๆปีก่อนในกรอบการนำเสนอภาพยนต์ที่เค้าทำกันมาโดยมีมีข้อครหาอะไร ไม่ต้องอ้างเรื่อง open cast ความหลากหลายหรือบริบททางสังคม จะทำหนังหรือทำแคมเปญกันล่ะ จริงไหมครับ
@@Anatomyofafall3456 เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่เพราะ Woke แต่เป็นองค์ประกอบอื่น
@@TLG_Dream อ่อ ได้เลยครับ ความหลากหลายไม่เคยเกิดขึ้นในอดีตเลย ความหลากหลาย ใหม่มากกกกกกก โอเคค้าบบบบบบบบ
Woke แบบ บทชุ่ยๆ มันก้ต้องพัง เป็นธรรมดา ถ้าเค้า woke โดยตั้งใจสร้างหนัง สร้างบทที่ดีจริงๆ มันจะไม่พัง,เช่น แค่สลับเพศ เอาตัวละครดังๆมาสลับเพศ มันไม่ได้หรอก มันต้องตั้งใจคิดบทใหม่ สำหรับ ตัวละครเพศ ญ ไปเลย เเต่สิ่งที่เป็นคือ บทชาย แค่เอามาสลับเพศ แล้วเอามาขายเลย แฟนๆไม่ซื้อครับ แต่ Barbie ที่มันsuccess ผมคิดว่า บาบี้แต่เดิมมันก้เป็นของเล่น เพิ่งจะมีกาตูนก้ไม่นานมาก มันเลยsuccess เพราะคนดูไม่รุ้สึกยัดเยียด .ผมติดตามเรื่องนี้มาปีนึงเต็ม นั่งฟังช่องฝรั่งหลายๆช่อง วิเคราะห์ หรือ บางที่ก้ออกมาติง (ส่วนมากจะออกมาบ่น)แต่โดยรวม มันจบที่ว่า ทุกช่อง ไม่ได้รังเกียจ woke แต่ woke ที่มันทำ บทมันไม่ได้ หนังมันแย่จริงๆ ไม่ได้มีใครเกลียด woke แต่ บทแย่จริง มันก้เลยแอนตี้ เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ หนัง มันพังหมดทั้งวงการ โฆษณา และ อื่นๆ ด้านการบันเทิง . คือถ้ามอบว่า เหตุผลเพราะ woke= ผู้คนแอนตี้เพราะไม่ชอบ girl boss มันก้ตลกแหละครับ แต่ถ้ามองว่า คนเขียนบทมัน woke โดยดันแค่ สลับเพศ แล้วเข็นมาขายเลย ซึ่งแันนี้เป็นสิ่งที่ คนเจ้าของประเทศเค้าวิพากวิจารกัน มันจะไม่ตลกเลย.
Woke เยอะไป Barbie มันเพิ่งมีไง ลองมีภาค 2 ภาค 3 แล้วยังใส่ woke แบบเยอะๆแบบนี้ดูอีกดิ
Barbie มันไม่ได้เครียดอะไรมากมาย คนดูส่วนใหญ่เลยตรงใจ ดูรอบสอง รอบสาม มันเหมือนหนังตลกๆสนุกๆไปเลย คนดูไม่ต้องคิดอะไรมาก คนไม่ชอบก็รอบเดียว
@@putthabhumipoonsawas ลองเปลี่ยนบาบี้เป็นคนดำผิวสีทรงผมเดดร็อคซิ โว๊คขั้นสุดว่าจะยังมีกำไรไหม
เพราะ Disney แม่งเอาแต่ woke นอกนั้นพี่แกทิ้งหมดไง ปล.star war ถ้าจะฟื้นคืนชีพมาแบบนี้ อย่าดีกว่า
ทิ้งยังไงหรอครับ อธิบายเพิ่มหน่อย
D i s n e y w o k e
สำหรับผม ผมรู้สึกว่าบาร์บี้อ่ะมันเป็นหนังแซะพวก woke อีกที อย่างการที่นำเสนอตัวละครเคนที่ ห ล อ น ความปิตาธิปไตยมากเกิน ซึ่งผมขำกับความหลอนของเคนนะ แล้วก็เคยเห็นคนหลอนแบบนี้จริงๆในทวิตเตอร์ด้วย เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ผมทำให้รู้สึกว่าหนังมันออกแนวแซะมากกว่า
ผมว่าเขาล้อความปิตาธิบไตยแบบตรงไปตรงมาที่สุดเลยครับแล้วใช้โลก Barbie แสดงมุมกลับให้เห็น แล้วหาทางลงแบบตรงกลางอย่างชัดเจนแต่มองต่างได้นะ ไม่มีไรผิด
เห็นด้วยนะ
มันทำให้เห็นความยากลำบากของผู้หญิงในโลกปิตาธิปไตยแต่ในเรื่องแค่เปลี่ยนให้ผู้ชายอยู่ในจุดที่ผู้หญิงอยู่ มันแซะความชายเป็นใหญ่จ้า ดูหนังมาแบบไหนถึงตีความได้แบบนั้น😂
@@butterflykiss4830 ผมก็บอกไปแล้วว่าตัวละครเคน ผมรู้สึกว่าเขาแสดงออกให้มันหลอนมากเกินไป แบบว่าอะไรๆก็เพราะเป็นผู้ชายถึงทำได้ แล้วสายตาของตัวละครที่มองกลับไปที่เคนมันมองด้วยสายตาแบบ "อะไรของมึงวะ"ผมเลยรู้สึกว่าเขาแซะคนที่หลอนว่าไอ้โน้นก็ปิตาธิปไตย ไอ้นั่นก็ชายเป็นใหญ่ แต่อย่างว่ามันแล้วแต่คนตีความอย่างเพื่อนผมก็บอกว่าหนังมัน woke แบบตรงๆเลย อย่างเช่นการนำเสนอตัวละครบอร์ดบริหารผู้ชายที่ทำตัวโง่ๆ แบบโง่ไร้เหตุผล
@@riceman_tv3031 เค้าไม่ได้แซะคนที่บอกว่าไอ้โน่นก็ปิตาธิปไตย ไอ้นี่ก็ปิตาธิปไตย เค้าชี้ให้เห็นว่าโลกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ บาร์บี้มันเป็นหนัง woke ส่วนเรื่องบอร์ดบริหารคือพวกบอร์ดบริหารมันชิงล้อตัวเอง(ก่อนที่จะมีคนมาแซะ) เพราะบาร์บี้เป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงแต่บอร์ดบริหารในบริษัททั้งหมดมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แล้วทำบาร์บี้บางรุ่นออกมาบ้งจนเป็นดราม่า คนด่ากันตรึมเพราะความชายล้วนที่ไม่เข้าใจผู้หญิงแต่อยากขายตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนี่แหละ สรุปมันก็ล้อตัวเอง(ซึ่งเป็นชายแท้) ไม่ได้จะแซะพวก woke เลย หนังมันพยายามจะนำเสนอในมุมมองของ woke ด้วยซ้ำ
2:19 😂โวก ยังไงครับ เนี่ยมันหนังพลังหญิงไม่ใช่หนังโวก 😅
woke = การตื่นรู้ทางสังคมหนังว่าด้วยเฟมินิสต์ และปิตาธิปไตยจะไม่ใช่ Woke ได้ยังไง 😁
ผลงานเขาก็ไม่ได้จะแย่อะไรขนาดนั้น
คนเบื่อ หลังๆมาเยอะไปหนังมาเวลน่าเบื่อ หลับตลอดหลังๆ
ทำร้าย สตาวอล มานาน กรรมมาเยือนแล้ว แฟนๆรอสาปแช่งคุณยู่
หนังไม่สนุก .. จบ
เฉพาะของ #Marvel เราทำคลิบวิเคราะห์แยกไว้เรียบร้อยแล้วนะ
ruclips.net/video/vmBN3wVRpak/видео.html
คิดว่าเกี่ยวกับ woke เหมือนกัน ไม่นั้นจะออกมาบอกว่าจะเลิก woke ทำไม
ในบทสัมภาษณ์ต้นฉบับของประธานดิสนีย์ เหมือนจะไม่เคยบอกว่าจะเลิก woke มีแต่บอกก็จะทำหนังให้คุณภาพมากขึ้น
@@Pinampaiok รอดูต่อไป ส่วนตัวว่าบทมันแย่ หวังว่าจะกลับมาทำดี ๆ ที่ผิดหวังมากสุดคือ indianjoe นี้เเละ
ในความคิดของผม คือ woke แต่เค้าออกสื่อเลยต้องรักษาภาพลักษณ์ของบริษัท และ CEO ก็ต้องรอดูผลหนังเรื่องอื่นๆต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร ก็เป็นกำลังใจให้กับหนังค่าย Disney ครับ
เพราะหนังไม่สนุก
@@commonboyz5372 พยายาม WOKE มากไปจนไปเบียดบทที่ควรจะเป็นทำให้มีข้อจำกัดเยอะ จนทำให้หนังความสร้างสรรค์น้อยลงจนทำให้หนังคุณภาพต่ำ
ถ้าไปดูจริงๆ หนังบาบี้มัน woke ว่าทุกเพศเท่าเทียม ให้ความสำคัญทุกคน
แต่หนังดีสนี่ย์หลายเรื่องมัน woke ว่าผู้หญิงเหนือกว่าผู้ชายแบบไร้บทรองรับที่ดี
หนังบาบี้มันด่าการ woke แบบโง่ๆด้วยซ้ำ
แต่อันนี้ก็แค่ส่วนนึงเท่านั้น
เพราะฉะนั้นการพูดแค่ว่าเพราะหนังดีสนีย์มัน woke เลยเจ๊ง ก็พูดแบบนั้นเลยไม่ได้จริงๆครับ เพียงแต่ความผิดพลาดของดีสนีย์มันทำซ้ำเรื่องเดิมๆ เน้นการ woke แบบมักง่ายเกือบทุกเรื่อง จนมันติดตาแฟนๆ
จริง แต่หนังที่ไม่ woke ก็ทำบทไม่ดีอีกจน คนเลยเบื่อ ผมนี้เซ่งเลย ทำ star wars พังไปแล้ว แต่รอดูตอนนี้ยังดีที่หลังๆ เริ่มกลับมาโอเค แต่เจ็บใจสุดก็อินเดียนาโจร นี้และผมชอบมากเลยมาทำเสียหมดเลย
จำได้ว่าประธานคนนี้ คือคนที่ไม่เห็นค่าของการประท้วงค่าแรงนักเขียนบทนี่
เราว่ามันแสดงถึง ทัศนคติ ที่ข้างในตัวเขาไม่รักการสร้างสื่อดีๆ แต่สนใจแค่เงินทองอย่างเดียวเลยนะ
ไอ้ที่บอกว่า จะให้อำนาจฝ่ายสร้างสรรตัดสินใจเนี่ย จริงๆแล้วหัวหอกความบ้าๆบอๆช่วงหลังของดิสนี่
ส่วนหนึ่งและไม่น้อยต้องมีแกในการตัดสินใจแน่ จะเอาแบบนั้น จะยัดเยียดแบบนี้
มั่นหน้าว่าอยู่มาจน100ปี จะเอาเรื่องเก่าคลาสสิก หรือตัวล่ะครที่คนชอบ มาทำอะไรก็ได้ คนก็ต้องจำใจตามอยู่ดี จนออกมาเป็นสิ่งที่พวกเราเรียกว่าwoke
คือ
-ความยัดเยียดที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวละคร(เงือก,ปีเตอร์แพน,พินอคฯ)
-หรือการเอาตัวล่ะครเก่ามายำ เพื่อดันตัวล่ะครใหม่ที่เป็นผู้หญิง (เช่น ธอร์ ชีฮัค)
ทั้งหมดนี่เทียบบาร์บี้ได้ที่ไหน
อันนั้นหนังให้พลังกำลังใจผู้หญิง มีข้อคิดคมคายทั้งเรื่อง
แต่ดิสนี่คือ... เอาผู้ชายมาเป็นตัวตลก ตัวเอกต้องดำ ผู้หญิงต้องพลังช้างสารช.สู้ไม่ได้ เอ่อ..นี่เหรอ ให้พลังกับผู้หญิงฉบับดิสนี่ แฟนคลับด่า ก็เอาคำความเหยียดมาเป็นเกราะ ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำพัง
เราคิดว่า ที่ดิสนี่แรงไม่แคร์แฟนคลับได้แบบนี่ ส่วนหนึ่งเพราะประธานคนนี่เป็นหัวหอกแน่ๆ
ถ้าบนไม่สั่งการ แล้วล่างจะกล้าแรงได้ยังไง
ผมว่าวิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนได้นะ
แต่บอกว่า "ยัดเยียด" มันออกจะใจร้ายไปซะหน่อย
ในเมื่อคนผิวสีมีบทบาทน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชาการ
สิ่งที่หนังพวกนี้ทำ ก็แค่แชร์สิ่งนี้ให้กับคนผิวสี
มันเป็นสิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรจะได้ความเท่าเทียมนี้นานแล้ว
เพราะเขาก็เป็นคนอเมริกันไม่ต่างจากคนขาว
@@TLG_Dream ไม่ขัดหรอกนะที่จะให้พื่นที ดีซะอีก แต่การเปิดกว้างทางความคิดจริงๆควรจะเป็น 'อริจินอล'คาเรกเตอร์ ไม่ใช่การจับของเดิมมาเปลี่ยนแล้วบอก เราเปลี่ยนให้คุณแล้ว ชอบสิ เราแชร์พื้นที่ให้คุณแล้วชอบสิ?
ต้องการสร้างพื้นที่ วิธีสร้างสรรมีต้องเยอะ แต่ดิสนี่ไม่ทำ
กลับเลือกวิธีไม่เคารบต้นฉบับซะงัน ขาดทุนก็ไม่แปลก
ตย.ของการสร้างของใหม่ อย่างสไปเดอร์แมนอ่ะ เทสของเขา นิสัยของเขา มันคือเขา ไม่ใช่เอาปีเตอร์ปาเกอร์มาย้อมสี แบบที่ตัวเอกหลายๆเรื่องของดิสนี่โดน
ตย.ของการเปลี่ยนบทซี่ซัวแล้วคนดูเกลียด อย่างซีรีย์LOTRที่ย้อมสี คนก็ว่า แต่บ้านมังกรที่คนดำมาเล่นคนกลับไม่ว่า เพราะออรจินอลไม่ระบุไว้
ค่ายอื่น เขาสามารถสร้างพื้นที่ให้ทุกชาติทุกผิวได้ โดยทำให้คนดูรู้สึกไม่อึดอัด แต่ดิสนี่เห็นชัดเจน(จากหนังหลายๆเรื่องช่วง2-3ปีมานี่)ว่าเจตนา
@@nunnymykira2119 ก็มันเป็นงานอเมริกันไงครับ งานที่เขาสร้างควรจะสะท้อนภาพของสังคมเขาด้วย
มันเลยไม่ได้มีแต่คนขาว จำต้องมีคนผิวสีประกอบด้วย เพราะสังคมเขาเป็นแบบนั้น
เหมือนประเทศเรา เอาเดอะ ลอร์ดมาทำ
เราจะแคสต์แต่ฝรั่งมาเล่นไหมละครับ?
มันก็ต้องเป็นคนไทยมาเล่น
อเมริกาก็เป็นแบบนั้น
ปล. ผมไม่เข้าใจความคิดว่าเห็น คนผิวสี แล้ว 'อึดอัด' เลยแฮะ มันอึดอัดยังไงอะ
ไม่ยัดเยียด แล้วอะไรเรียกว่ายัดเยียด จะรั่ว 5555 @@TLG_Dream
อธิบายไปก็เท่านั้น ช่องนี้แมร่ง woke. ช่องมันถึงได้วิวแค่นี้งั้ย@@nunnymykira2119
ง่ายๆนะครับบาบี้มันwokeอร่อยไง
ยกมาสักเรื่องที่ค่ายหนูwokeแล้วอร่อย 4ปีหลังมานี่แทบไม่มีสักเรื่อง
แสดงว่าปัญหาไม่ใช่ woke แต่คือคุณภาพหนัง อย่างที่ผมพูดในคลืบนั้นแหละ
@@TLG_Dream ผมว่าเกี่ยวครับ ถ้าwokeคือวัตถุดิบ แล้วคุณใช้เอามาปรุงแล้วไม่อร่อย มันก็คือปัญหาว่าคุณใช้วัตถุดิบที่เรียกว่าwokeไม่เป็น
ยกตัวอย่างที่ผ่านมาง่ายๆเลยครับ เงือกน้อย ถ้าค่ายไม่ใส่วัตถุดิบที่ไม่เรียกว่าwokeลงมาเลย ตัวหนังน่าจะกำไรได้มากกว่านี้นะ
@@wittamin1809 ถ้าเราทำหนังครอบครัว แล้วทำออกมาไม่ดี ปัญหาก็อยู่ที่การทำออกมาไม่ดี หรือปัญหามันอยู่กับการเป็นหนังครอบครัว
ผมว่าอย่างแรกนะ คือคุณภาพหนัง ไม่ใช่เรื่องที่หนังเล่า
ผมว่าอคติทางสีผิวของผู้ดู มันไม่น่าใช่ปัญหาของผู้สร้างต้องรับผิดชอบด้วยซ้ำนะ
อย่างเดียวที่พลาดก็น่าจะเป็นการประเมินว่าความอคติเหล่านี้มันมากกว่าที่คิด
นางเงือกได้ 560 วัดจากเรื่องก่อนๆ และ ip นางเงือกนั้นดังที่สุดของค่าย ก็น่าจะได้ 900 อัพถึงพันได้สบายๆ (ถ้าไม่สลับสีผิวและให้เกียรติงานต้นฉบับ) แสดงว่าคนกว่าครึ่งโลกนั้นล้วนเหยียดผิว ดูถูก ดูหมิ่นคนดำหมดเลย ล่าสุด the marvels เจ๊งครั้งประวัติศาสตร์ แสดงว่าคนค่อนโลกก็ดูจะเหยียดเพศเหมือนกัน ใช่ครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ดรีมเลย woke ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ค่ายไม่ใช่ปัญหา ผู้บริโภคที่เหยียดเพศและเหยียดผิวอย่างพวกเราเป็นปํญหา ที่ทางค่ายเขาคาดไม่ถึงอย่างที่พี่บอกข้างต้นเลย ต้องเปลี่ยน ต้องแก้ที่คนดูครับ ไม่ใช่คนทำ ผมเห็นด้วยครับ
เทียบกับ 2019 ที่พันล้านเกือบทุกเรื่อง หลังโควิดอาการหนักมาก
จริงๆ มองว่า D+ ก็เป็นปัญหานะ คือ เวลาถามใคร เรื่องจะดูหนังดิสนีย์/มาร์เวล ไหม หลายๆคนก็ตอบว่า จะดูนะ แต่รอดูใน D+ ได้ ไม่รู้สึกรีบอยากไปดูขนาดนั้น คือ คุณภาพมันอาจไม่ดีพอดึงดูดให้คนรีบไปดูด้วย และ มันก็ลง D+ เร็วพอตัว
ตัวอย่างกรณี The Little Mermaid หรือ อนิเมชั่น Elemental ที่ทำเงินได้ระดับ แต่มันทำยอดใน D+ ได้สูงทั้งคู่ แสดงว่าคนที่ดูมันมีเยอะ แต่เขาไม่ไปดูในโรงกัน
หรือ สุดท้ายแล้ว ดิสนีย์จะต้องเปลี่ยนแนวทางธุรกิจ เอาหนังเข้าโรง เพื่อให้กระแสในระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้ยอดสูงๆ ใน D+ เหมือนที่สตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆทำกัน รวมทั้ง จากการที่ดิสนีย์มันเป็นบริษัทสวนสนุก ก็สามารถจัดโซนในสวนสนุก ขายของเล่น ใช้สามารถหาเงินต่อได้อีก
ผมว่าเรื่อง D+ นี่แหละที่ทำให้ Bob C. เด้ง
อ้าว แบบนี้ เนตฟลิก hbo goก็ทำให้ทุกค่ายเจ๊งนิ เลอะเทอะมากนะ ตรรรกะแบบนี้
@@mayiskira ลองใช้ตรรกะคิดดูสิครับ มันมีผลจริงๆนะครับ การเข้าสตรีมิ่งเร็ว ไปดูคอมเม้นในนี้ก็ได้ครับ ก็มีคนรอดูในสตรีมอยู่จริง ถ้าดูในภาพรวม รายได้โรงก็หายไปเยอะแล้ว
น่าสงสารดิสนีย์นะ ขึ้นสุด ลงสุด เมื่อสมัยก่อนที่ MARVEL จะมา ช่วง จอนห์ คาร์เตอร์ ทูมอร์โรว์ แลนด์ อะไรนั่น หนังขาดทุนหลายเรื่องเหมือนกัน
ดีแล้วที่ให้การตัดสินใจไปอยู่กับฝ่ายศิลป์ไม่ใช่ฝ่ายการตลาด
เพราะผมรู้สึกว่าผลงานทุกอย่างที่ออกมาจากค่ายไม่มีความหลากหลายเลย
มันเหมือนสินค้าที่ผลิตจากแม่พิมพ์อันเดียวกันแต่แค่ทาสีคนละสี
จำได้เลยเมื่อก่อน Marvel เข้าโรงคือไปดูทันทีแต่ตอนนี้คือช่างมันไปเถอะ
ผมก็ไม่ใช่คนมีความรู้ลึกทางด้านนี้อะไรนะครับ แค่จริงๆ จำได้ว่าแรกๆ ผมเข้าใจว่า Woke คือสิ่งดี คือตื่นรู้ คือเท่าเทียมกันไรงี้
แต่ดิสนี่เหมือนทำให้ Woke กับคนทั่วๆ ไปอย่างผมรู้สึกไม่ใช่อย่างงั้นเลย ความหมายจากการสื่อของดิสนี่ มาเวลต่างๆ นาๆ Woke มันออกแนวเชิงลบด้วยซ้ำ แบบว่า ไม่ได้เท่าเทียมแล้วนะที่แน่ๆ จากที่เห็น นี่มันอย่างอื่น 555
ดิสนี่ย์ไม่ได้ทำครับ แต่คือฝ่ายอนุรักษ์นิยมของเมกามันเอามาพูด แล้วคนไทยที่อคติทางสีผิวก็ไปเอามาตาม เพื่อหาเหตุผลให้ความรู้สึกรังเกียจคนผิวอื่น เพศอื่นของตัวเอง
มันไม่ใช่แค่นั้นคุณ ส่วนนึงคือ เศษฐกิจ รายได้สวนทางกับค่าตั๋วหนัง ค่าตั๋วแทบจะเท่าค่าแรงหนึ่งวันแล้วนะ
ถือว่าฉลอง 100 ปี ด้วยการขาดทุน ในปี 2023 ละกัน ปีหน้า 2024 เอาใหม่
เบรด เอาคนขาวแสดง หรือ เอเชีย นะ
ก็เห็นด้วยกับประธานหวังว่างานในอนาคตจะดีขึ้น อยากดูหนังดี แล้วเห็นคนพูดโว๊คกัน หนังรายได้ดีของปีนี้มันก็โว๊คทั้งหมด Barbieก็โว๊คตั้งแต่ของเล่น Marioก็มีเจ้าพีชที่ปรับลักษณะนิสัย ให้เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่ตัวละครอ่อนแอแบบดั้งเดิม ซึ่งก็โว๊คนิ Oppenheimerก็คนสร้าง มาตื่นรู้ถึงปัญหานิวเคลียร์แล้วพยายามให้คนอื่นรู้ถึงปัญหาไม่ได้ไหลไปสังคม ก็โว๊ค
ถ้ามันปรับบทหญิงแล้มมันดีขึ้นไม่นับว่าโว๊คค่ะ มันต้องยัดเยียดมันถึงเรียกโว๊ค หนังผู้หญิงแกร่งมันมีมาตั้งแต่อดีตแล้ว แต่ยุคนี้มันกระแส feminism แรง นายทุนก็อยากเกาะกระแสเอาใจ ยัดบทมาทำให้เนื้อเรื่องเสียหรือชูพลังหญิงเกินเบอร์ไม่ทางใดก็มางหนึ่ง นั้นแหละความหมาย woke 😢
ไม่ใช่ครับ Woke คือการตื่นรู้ทางสังคม การปรับบทตัวละครหญิงก็นับว่า Woke นะ
เพราะเป็นการตื่นรู้ว่าผู้หญิงไม่ใช่มีแต่ความอ่อนแอให้ช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าทำแย่แล้วถึงเรื่องว่า Woke
งาน Woke มีมานานแล้ว แต่มันเพิ่งมามีฝ่ายขวาในอเมริกานำมาโจมตีสื่อทีมีแนวคิดที่ปรับให้หนังตรงบริบทของสังคมมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
@@h17ko18 Woke = การตื่นรู้ทางสังคมแล้ว (รูปอดีตของ Wake ที่แปลว่าตื่น)
การปรับบทผู้หญิงให้เข้ากับบริบททางสังคมมากยิ่งขึ้น มันจะไม่ใช่ Woke ได้ยังไง
@@h17ko18มั่วมาก
@@butterflykiss4830 จร้าาา
มันก็เจ๊งเพราะ Woke นั่นแหละครับ เพราะ Woke แบบ Disney มันห่วยมาหลายรอบแล้ว
วิธี Woke ของดิสนี่มันไม่เวิร์คมากๆเลยครับ เพราะมันง่อยมาก
เช่น ปีนี้ บาร์บี้ เขาโว๊คเรื่องประเด็น เรื่องตัวตน การตั้งคำถาม การถูกประกอบสร้างตัวตน
ปีนี้ อีดิสนี่ Woke ง่ายๆจ้า นางเงือกเปลี่ยนสีผิว จบ
สโนวไวท์ เปลี่ยนภาพจำนางเอก จบ
ง่ายมะ ง่ายยยยยย แค่นี้ Woke ซึ่งจะไม่ให้เจ๊งได้ไง
ดัน Woke แล้วดันไม่หนุก ไม่มีอะไรว้าวเลย ก็เท่านั้น
.
สรุปง่ายๆ ทุกปีก็มีหนัง Woke แต่ ดิสนี่ Woke ได้ห่วยทุกปี สู้คนอื่นไม่ได้
รอบแล้วรอบเล่า หนำซ้ำยังก่อประเด็นให้แฟนตีกันเองอีก ทำเพื่อ?
แบบนี้ไม่อาการหนักก็บ้าแล้ว มีแต่ Woke ป่วยๆ มันเลยออกมาอีแบบนี้แหละครับ ^^
ไปใส่ใจในจุดที่ไม่น่าใส่ใจเป็นอันดับต้นๆ บทหนังที่มันสำคัญมากๆต่อหนังหลายๆเรื่องนั้นได้ถูกลดคุณค่าลงไป
แล้วทำไม บาบี้ โคตรจะ Woke ถึงหนังทำเงิน และ ไม่เจ๊งอะครับ
แบบนั้นมันไม่น่าใช่ woke ดีหรือไม่ดี แต่มันน่าจะเป็นหนังดี กับ หนังห่วย หรือเปล่าครับ ?
จริงครับ อีกเหตุผลนึงคือ หนังของ Disney มันน่าเบื่อแล้วก็ ไร้ความน่าสนใจ ด้วย
ยังไงประเด็น Woke ก็ค่อนข้างมีผลเลย ปัจจัย อื่นๆ อีกคือคนเค้าหมันไส้ นักแสดง นู้นนี้นั้น กันอีก555
จริงไม่นั้นจะออกมาบอกว่าจะเลิก woke ทำไม แถมบทมีปัญหาสุดเเล้วผมว่า
เราว่าสังคมบอยคอตบรีลาสัน ตั้งแต่นักแสดงไปจนถึงแฟนๆลามไปสู่ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาง
ไม่น่าใช่นะครับ ซีรีย์ที่บรีลาสันเล่น หรือ อนิเมชั่นที่เธอพากย์เสียง ก็ได้รับเสียงตอบรับดีอยู่นะครับ
@@Mex2Mex แต่ไม่ใช่กับแฟนมาเวล(ส่วนนึง)ไงครับ เริ่มจากนักแสดงด้วยกันเองที่เกลียดบรีลาสันช่วง end game ความเกลียดส่งต่อไปสู่แฟนๆ ทั้งบทตัวละครลามไปจนเหมารวมหมด กัมลาก็อีกเคสที่โดนพวกแฟนบอยเหยียด พอลากทั้ง2มาเล่นเรื่องเดียวกันก็โดนตามไปแฟนๆเริ่มไม่ชอบทัศนะคติหรือนิสัยของทั้ง2 นักแสดง สรุปง่ายๆแฟนมาเวลพวกบอยคอยเกลียดนักแสดงหลัก แล้วความเกลียดชังพวกนี้ก้ส่งต่อไปถึงคนอื่นๆที่ไม่ใช่แฟนก้ไม่พากันไปดูเพราะไม่น่าสนใจไม่ให้ค่า เหมือนเดอะแฟรชโดนบอยคอตเพราะ เอซลา คนเดียวและลามไปติหนังแทบทุกอย่าง คนก้ไม่ไปดูไรแบบนี้
@@มาตาปาลญาณวุติวงส์ ขนาดนั้นเลยหรอครับ อย่างบรี ผมก็จำได้ว่า เธอเคยมีดร่าม่าแค่ครั้งเดียวเองมั้ง แถมตั้งหลายปีแล้วด้วย แสดงว่าหลายคนก็แค้นสะสม แต่ กลมา นี่นักแสดงไม่ได้เลยนะครับ เขาไปเกลียดอะไรกันนะครับ
แล้วให้เทียบเอชร่า นี่ผมว่าเกิน เพราะ เอชร่า มีคดี มีความผิดจริง แต่ สองคนนี้ ไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้น
@@Mex2Mex ไปอ่านคอมเม้นท์ในโซเชียลเอาดูครับ เดือดพอสมควร ทั่งไทยทั้งเทศ ไม่น่าสนใจบ้าง,มั่นหน้าเกิน,อ้วนบ้าง ปากดีปากเก่ง เยอะแยะมากมาย ผมก้ไม่เข้าใจเขาจะเกลียดอะไรขนาดนั้น บางทีมันก้ว่าเกินไป
และที่เอาไปเทียบกับแฟรลผมเทียบในแง่ที่หนังไม่ประสบความสำเร็จ และผมมองว่าก้เพราะโดนบอยคอตแบบแฟรชนี่แหละ คนถึงไม่ค่อยไปดู
Woke นั่นแหล่ะคือเหตุผล เพราะ barby woke มันอยู่ถูกที่ แต่พอเป็น disney มันไม่work
เรื่อง woke หรือ ไม่ woke มันไม่น่าประเด็นหลักแต่แรก หนังเรื่องหนึ่งมันมีหลายองค์ประกอบที่สำคัญ จะมัวมาโฟกัสแต่เรื่อง woke แล้วประเด็นเรื่องมันก็ถูกละเลยไปหมด อย่างถ้าค่ายสร้างหนังที่ antiwoke ไปเลยแต่หนังแย่ก็คือหนังแย่ มันไม่เปลี่ยนอะไร ถ้าไม่แก้ปัญหาทั้ังหมด
จะ Woke อะไม่ว่าหรอก แต่ช่วยมีเหตุผลรองรับด้วย และให้ความสำคัญนิดนึงไม่ใช่แค่เปลี่ยนสกิล แล้วถ้าบอกว่า woke ไม่เกี่ยวกับหนังเจ๊งงั้นจะเลิกทำไม รอดูดูในสโนว์บราวอยู่ว่าจะให้เหตุผลอะไรไหม ไม่เอาขาวจากถายในนะเละเทอะเกิน
การเป็นคนผิวสี ต้องมีเหตุผลด้วยหรอครับ
@@TLG_Dream คือตัวละครที่แต่เดิมไม่ใช่คนผิวสี แต่เพราะอยากจะ woke ก็เปลี่ยนสีมันเลย แบบนี้อะดูมันขัดตา ถ้าอยากสนับสนุนความเท่าเทียมผมว่าทำตัวละครใหม่ออกมาเลยกับเขียนบทให้มันสนุกแบบไมล์โมราเลส แบบเทียน่า อะไรงี้ดีกว่าไหม
@@TLG_Dreamทำไตเติ้ลใหม่ ไม่ใช่ไปบิดเบือนผลงานคลาสสิค ถ้าคิดไม่ได้ก็ให้คนด่าต่อไป
@@TLG_Dreamผมเห็นคุณตอบหลายเมนท์ละ เป็นพวกคลั่งความเท่าเทียมเหรอครับ ที่เขาจะสื่อคือ เหตุผลที่ทำไมสโนไวท์ ที่ถูกตั้งชื่อเพราะขาวเหมือนหิมะตามนิทาน มันถึงผิวเข้มไปได้ ซึ่งมันน่ารำคาญมากครับ
@@TLG_Dreamไม่ต้องมีครับพี่ไม่จำเป็นต้องมีด้วย แต่คำว่า"ขาวราวหิมะ" ที่มีมาแต่แรก มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องบิดออกมาให้เป็นสีน้ำผึ้งเหรอครับ บริบทความเหมาะสมพวกเขาจะแยกแยะกันไม่ได้เลยเหรอ???
ผมเห็นท่านอื่นๆพูดถึงบาบี้ ถ้าตัว(ตัวเอกนะครับ)บาบี้เปลี่ยนคนเล่นเป็นผิวสี จะออกเป็นอย่างไร น่าคิดนะครับ
อยากจะwokeแต่ไม่ขัดเกลาให้ดีพอ
ทำไมต้องขัดเกลาละครับ
คือรับผู้หญิง รับคนผิวสี รับคนต่างพศไม่ได้เลยหรอครับ
@@TLG_Dream ก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะครับ แต่ทำไมต้องยัดเยียดให้ชอบด้วย เขียนหนังแบบไม่สนใจต้นฉบับเลย อย่าง star woke ผู้หญิงต้องแกร่ง ผู้ชายต้องกระจอก ผู้หญิงเพิ่งเคยจับไลท์เซเบอร์ชนะผูชายที่ฝึกมาเป็นสิบๆปีได้ ดูหนังภาคแรกสิพระเอกกว่าแต่ละคนจะเก่งต้องผ่านการฝึกเลือดตาแทบกระเด็น อันนี้อะไรแทบไม่ได้ฝึกอะไรนักหนาเก่งเลย
ผมเบื่อหนังที่”พยายาม” สอน พยายาม political มาก กระแส woke ทำให้หนังกลายเป็นละครคุณธรรมไปหมด ผมอยากดูหนังที่ขายบันเทิงจริงๆแบบเมื่อก่อน ล่าสุดดู hunger game หนังมันก็ธรรมดานะ แต่ดูแล้วสบายใจ หัวโล่งๆ ไม่ต้องมายัดเยียดคนดี! หนังมันชัดเจนเราจะเล่าเรื่องคนเลวไม่ต้องมาสั่งสอนโลกสวย ที่ตลกคือหนังรายได้ดีด้วยนะ ฉายชน The Mavels รายได้ชนะไม่เห็นฝุ่นเลย
นางเงือกมันไม่ได้ Woke ครับ แต่มันไม่ได้เคารพต้นฉบับ คนเลยไม่ดู แค่นั้น ส่วน the marvels คือ เอาตัวไม่ดัง ตัวที่คนต้องดูซีรีย์มาก่อน มาใส่ในหนัง บวกกับกัปตันมาร์เวลมันแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยิ่งไปกันใหญ่
คหสต.นั้นละครับ woke เหมือน ครีโอพัดตา หรือ queen อลิซาเบธ ที่เอาคนผิวสีมาแสดง
ก็นั่นล่ะ Woke 5555+
นั่นแหละ คือ woke สาวต้องแกร่ง ตัวละครต้องมีดำและเอเชียไว้ก่อน ผู้ชายต้องขี้แหย๋ 😂😅
Wokeครับ
เอาดีๆครับใเงือกนี่ woke จัดเลยนะ คนบนบกนี่ต้องมีให้ครบทุกเชื้อชาติอะ 😅
ความWoke นี่เเหละครับที่ทำให้ดิสนีย์อยู่ในสภาพนี้ การพยายามยัดเยียดกับการทำให้มันเป็นธรรมชาติมันต่างกันครับ อย่างบาบี้มันก็เหมือนประมาณว่าผู้ชายทำอะไรผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกันเเต่กับดิสนี่ย์เเบบยกตัวอย่างง่ายที่สุดเหมือนเอาoppenheimerมาเปลี่ยนสีผิวเป็นคนดำพร้อมกับสตอรี่พื้นหลังว่าเป็นคนดำที่โดนกดขี่พร้อมทั้งเป็นLGBTQ+เเต่มีความสามารถจนประสบความสำเร็จเหนือคนขาวโดยในที่ทำงานนั้นมีเเต่คนต่างชาติพันธ์ไม่มีคนขาวอยู่เลยสักคนทั้งที่เป็นโครงการลับของประเทศอเมริกา ซึ่งตัวอย่างดิสนี่ย์มันอาจจะกาวๆไปหน่อยเเต่ดิสนีย์มันทำอย่างงั้นจริงครับ
คุณยกตัวอย่างหลุดโลกมากเลยครับ
หนังประวัติศาสตร์ร่วมสมัยมันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้วครับ
ลองยกอะไรที่ดิสนี่ย์ ทำแล้วคุณว่ายัดเยียด มันจะเห็นภาพ และคุยกันได้ง่ายกว่านะครับ
@@TLG_Dream ง่ายๆเลยครับคือสโปรเจ็คโนไวท์ที่ชื่อมันก็บ่งบอกอยู่เเล้วว่าเจ้าหญิงหิมะขาวซึ่งสื่อถึงผิวพรรณที่ขาวสวยราวกับหิมะเเต่ดันเปลี่ยนเป็นคนดำเเทนหรือจะเป็นการเปลี่ยนจากคนเเคระทั้ง7เป็นสัตว์หรืออะไรซักอย่างทั้ง7อีกซึ่งในความคิดผมมันคือการเอาต้นฉบับสโนไวท์ของดิสนี่ย์ที่หลายๆคนชอบมาย่ำยีโดยไม่สนใจเเฟนคลับเลยหรือจะเป็นมู่หลานที่จากสาวไหวพริบดีมีปัญญาที่อันเป็นเลิศเป็นอาวุธให้เปลี่ยนกลายเป็นหญิงเเกร่งที่เก่งเกินใครจะต้านทานโดนที่ไม่มีอะไรเหตุผลอะไรมารองรับความเก่งของนางเลย เเล้วที่ผมยกตัวอย่างบุคคลสำคัญร่วมสมัยก็เพราะมันเข้าใจได้ง่ายเพราะภาพยนต์พึ่งฉายไปโดยให้เปรียบตัวระครอย่างoppenheimerเป็นตัวระครตัวนึงที่มีคนชอบเเละรักในตัวของเขาเหมือนกับตัวระครเจ้าหญิงดิสนี่ย์ทั้งหลายที่มีทั้งคนรักเเละชอบในตัวระครพวกนั้นในเเบบที่เขารู้จักโดยสิ่งที่ดิสนี่ย์ทำในตอนนี้คือการเอาตัวระครที่เขารักมาเปลี่ยนทั้งบทเเละนิสัยรวมไปถึงชาติพันธ์ด้วยเพื่อที่จะยัดเยียดเเนวคิดที่ตัวเองคิดว่าดีหรือก็คือความWokeเข้าไปโดยเปลี่ยนสโนไวท์หรือเจ้าหญิงเงือกให้เป็นคนดำหรือที่ผมเปรียบคือการเปลี่ยนตัวระครoppenheimerให้เป็นคนผิวสีปูบทตัวระครมีความสามารถที่สูงเเละโดยกดขี่เหมือนบทมู่หลานเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่ควรมีคนขาวเป็นหลักให้เปลี่ยนเป็นคนชาติพันธ์อื่นเหมือนการเปลี่ยนบทคนเเคระทั้ง7ในสโนไวท์ สมัยช่วงที่ดิสนี่ย์wokeเเรกๆผมไม่สนใจหรอกครับมองมันเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำเเต่หลังๆมาผลงานดิสนี่ย์เเทบจะเรียกได้เลยว่าดิ่งลงเหวเเทนที่จะเอาความWokeเป็นเรื่องรองหลังๆมาเริ่มเอาความWokeเป็นบรรทัดฐานเเทบทุกอย่างเเทนที่จะสนใจในตัวชิ้นงาน,ผลงานหรือความรู้สึกของเเฟนๆที่ติมตามผลงานเเต่ดันไปสนใจในเรื่องความเท่าเทียมไร้สาระมากกว่า ความจริงความWokeของดิสนี่ย์มีอีกเยอะครับทั้งผู้กำกับ,บทหรือนักเเสดงก็มีเรื่องฉาวอีกเยอะครับ เเต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆเลยคือดิสนี่ย์ในตอนนี้มันสนใจเเต่เรื่องความเท่าเทียมสุดไร้สาระหรือก็คือWokeมากกว่าสนใจเรื่องบท,การเเสดงหรือสนใจเเฟนๆที่ติดตามดิสนีย์เหมือนเมื่อก่อนครับหรือให้ถูกก็คือดิสนี่ย์ในตอนนี้กลายเป็นเวทีที่ให้พวกWokeได้เเสดงอำนาจเเละความคิดเห็นโดยใช้ตัวระครที่หลายๆคนรัหเป็นตัวกระจายเเนวคิดนั้นครับ
ง่ายๆเลยครับคือสโปรเจ็คโนไวท์ที่ชื่อมันก็บ่งบอกอยู่เเล้วว่าเจ้าหญิงหิมะขาวซึ่งสื่อถึงผิวพรรณที่ขาวสวยราวกับหิมะเเต่ดันเปลี่ยนเป็นคนดำเเทนหรือจะเป็นการเปลี่ยนจากคนเเคระทั้ง7เป็นสัตว์หรืออะไรซักอย่างทั้ง7อีกซึ่งในความคิดผมมันคือการเอาต้นฉบับสโนไวท์ของดิสนี่ย์ที่หลายๆคนชอบมาย่ำยีโดยไม่สนใจเเฟนคลับเลยหรือจะเป็นมู่หลานที่จากสาวไหวพริบดีมีปัญญาที่อันเป็นเลิศเป็นอาวุธให้เปลี่ยนกลายเป็นหญิงเเกร่งที่เก่งเกินใครจะต้านทานโดนที่ไม่มีอะไรเหตุผลอะไรมารองรับความเก่งของนางเลย เเล้วที่ผมยกตัวอย่างบุคคลสำคัญร่วมสมัยก็เพราะมันเข้าใจได้ง่ายเพราะภาพยนต์พึ่งฉายไปโดยให้เปรียบตัวระครอย่างoppenheimerเป็นตัวระครตัวนึงที่มีคนชอบเเละรักในตัวของเขาเหมือนกับตัวระครเจ้าหญิงดิสนี่ย์ทั้งหลายที่มีทั้งคนรักเเละชอบในตัวระครพวกนั้นในเเบบที่เขารู้จักโดยสิ่งที่ดิสนี่ย์ทำในตอนนี้คือการเอาตัวระครที่เขารักมาเปลี่ยนทั้งบทเเละนิสัยรวมไปถึงชาติพันธ์ด้วยเพื่อที่จะยัดเยียดเเนวคิดที่ตัวเองคิดว่าดีหรือก็คือความWokeเข้าไปโดยเปลี่ยนสโนไวท์หรือเจ้าหญิงเงือกให้เป็นคนดำหรือที่ผมเปรียบคือการเปลี่ยนตัวระครoppenheimerให้เป็นคนผิวสีปูบทตัวระครมีความสามารถที่สูงเเละโดยกดขี่เหมือนบทมู่หลานเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่ควรมีคนขาวเป็นหลักให้เปลี่ยนเป็นคนชาติพันธ์อื่นเหมือนการเปลี่ยนบทคนเเคระทั้ง7ในสโนไวท์ สมัยช่วงที่ดิสนี่ย์wokeเเรกๆผมไม่สนใจหรอกครับมองมันเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำเเต่หลังๆมาผลงานดิสนี่ย์เเทบจะเรียกได้เลยว่าดิ่งลงเหวเเทนที่จะเอาความWokeเป็นเรื่องรองหลังๆมาเริ่มเอาความWokeเป็นบรรทัดฐานเเทบทุกอย่างเเทนที่จะสนใจในตัวชิ้นงาน,ผลงานหรือความรู้สึกของเเฟนๆที่ติมตามผลงานเเต่ดันไปสนใจในเรื่องความเท่าเทียมไร้สาระมากกว่า ความจริงความWokeของดิสนี่ย์มีอีกเยอะครับทั้งผู้กำกับ,บทหรือนักเเสดงก็มีเรื่องฉาวอีกเยอะครับ เเต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆเลยคือดิสนี่ย์ในตอนนี้มันสนใจเเต่เรื่องความเท่าเทียมสุดไร้สาระหรือก็คือWokeมากกว่าสนใจเรื่องบท,การเเสดงหรือสนใจเเฟนๆที่ติดตามดิสนีย์เหมือนเมื่อก่อนครับหรือให้ถูกก็คือดิสนี่ย์ในตอนนี้กลายเป็นเวทีที่ให้พวกWokeได้เเสดงอำนาจเเละความคิดเห็นโดยใช้ตัวระครที่หลายๆคนรักเป็นตัวกระจายเเนวคิดนั้นครับ โดยผมขอเขียนตอบเจ้าของช่องเเบบนี้เเล้วกันนะครับเพราะยูทูปมันไม่ยอมเเสดงข้อความผมให้ผมเห็น
WOKE จนเน่า ฉลอง 100 ปี
Disney ทำหนังออกมาไม่สนุกเอง และการเอาหนังกับซีรีส์มาผูกกันเยอะเกินไปทำให้ลดทอนคุณค่าในตัวหนังที่จะเข้าฉาย ตัวหนังหลายเริ่องไม่น่าดึงดูดให้เข้าไปดูในโรง
การไม่เคารพต้นฉบับ แบบเงือกน้อย ก็มีส่วนมากๆ อันนี้เป็นกระเเสเเรงชัดเจน
เรื่องนี้ควรหมดราคาทันทีที่ the marvel เจ๊งไปจนถึง เดดพูล3เข้าโรง
ในกรณีที่เข้าใจว่า ไม่ใช่มุขหากิน ไม่เป็นสายล่อฟ้า ไม่ปั่น
bobดึbobโลภผ่านไปแล้ว wokeดำwokeขาวยังอยู่
การไม่ให้โอกาสที่ไม่ใช่ของเขา คือ ช่วยเขา
แต่ถ้าใช้คนไม่ตรงงาน คือ พาเขาไปตาย
เขาอาจไม่ชั่ว แต่ชิพหายอะไรไปก็เป็นแผลในวงการ และยิ่งผิดมาก องค์กรยิ่งพังมาก สัทธาก็ยิ่งพินาศมาก
(โดยเฉพาะวงการนี้ครับ)
โอกาสที่ตะบี้ตะบันขอมันแพง สัทธา ได้ยาก เสียง่าย เอาคืนคือโคตรยากและไร้โอกาสที่สอง
ruclips.net/video/EQdciWOGjNc/видео.html
ทำไมเล่าที่จะไม่เอาด้วยที่ disneyจะทำลายdisney
มันไม่ได้อยู่ที่ woke ซะทีเดียว มันอยู่ที่คุณภาพ อย่าง little mermaid อย่าว่าผมนะผมว่านางเอกไม่สวยเลย นางเอกผิวดำก็ได้แต่ขอสวยกว่านี้ได้ไหม
อันนี้ก็ถือว่าหนัง woke นะ เพราะบางคนก้าวข้ามสีผิวแล้วแต่ยังติดหล่ม beauty standard
หนังฮีโร่ ที่ไม่มีฮีโร่ผู้ชายเลย ตลาดหายไปแล้วเกิน 2/3
ผมไม่คิดมาก่อนเลยนะ ว่าคนดูหนังฮีโร่เกลียดผู้หญิงขนาดนั้น
@@TLG_Dream ทำไมตีความอย่างนั้น? ตลาดผู้หญิงที่ชอบฮีโร่ผู้ชาย แต่มันไม่มีฮีโร่ผู้เข้ามาให้ดู เค้าก็ไม่ดู หนังที่มีแต่ฮีโร่ผู้หญิง ตัวร้ายก็ผู้หญิง มันแปลกไป จงใจเกิน เกี่ยวอะไรกับเกลียดผู้หญิง ที่บอกว่า "ไม่คิดมาก่อนเลย" ก็ดีแล้ว อย่าคิดอะไรในแง่ร้ายขนาดนี้เลย
@@TLG_Dreamตรรกะเพี้ยนจัดเลยคุณ ผู้ชายเป็นแฟนคลับหลักของหนังฮีโร่อยู่แล้วครับ เราดูฉีโร่เพื่อเทียบกับตนเอง อย่างตอนเด็กก็อยากเป็นตัวนู้นตัวนี้ตามหนัง มีเด็กชายคนไหนไหมครับอยากเล่นเป็นเซเลอร์มูน?
@@TLG_Dreamด่าคนอื่นเผด็จการ ตัวเองอะเผด็จการทางความคิดกว่าใครเพื่อน ตักน้ำชะโงกดูเงาบ้างครับ
ทำหนังไม่สนุกและคนจะดูซ้ำเพื่ออะไร ไหนจะสร้างสตรีมมิ่งบังคับดู คนก็เมินสิ
"คนมันเบื่อ"
ง่ายๆ สั้นๆ แค่นั้นแหละครับ หนังมันไม่ใช่ปัจจัย 4 จะให้เกิดการดูซ้ำๆ กับพล็อตเดิมๆ มันทำได้ไม่นานหรอก
มาเวล กับหนังเจ้าหญิงทั้งหลายก็เหมือนกับบ่อน้ำมัน ที่โดนดิสนีย์ขุดจนจะแห้งหมด
ที่เขาลากยาวมาได้ 10 ปี ก็โคตรเก่งกันแล้ว
ตอนนี้ผมว่า ถึงเวลาหาบ่อใหม่ได้แล้วล่ะ
D+ แทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลยครับ ทุกวันนี้ยกเลิกไป ก็รู้สึกไม่ขาด โลกิ ss2 พอไม่ได้ดูก็ยังรู้สึกเฉยๆ
คำเดียวเลย "NF" และ แอปอื่นๆ
คิดว่าเพราะมี D+ เราละคนนึง ไม่ไปดูโรงละ รอดูใน D+
ดิสนีย์ ชอบแอบแฝง
woke 10 เรื่อง เจ๊ง อีกเรื่องไม่เจ๊ง แสดงว่าไม่ใช่เพราะ woke จ๊ะ ถ้าจะวิจารณ์อะไรแล้วตั้งอคติแบบนี้ ก็เอาที่สะดวกเถอะ
หลายคนบอกไม่ใช่เรื่อง บริหาร ง่ายๆ สัญญา ตูม มี Frozen 4 ถามจิ๊ง คุยกับลูกน้องหรือยัง ? ว่ามีเนื้อเรื่องแล้วหลอ ? Frozen 3 ยังไปออกเลย สั่งแล้วก็ทำมาส่งๆ ทำแบบมีงานส่งนายไปปี ๆ ใครจะดูวว
ลองเปลี่ยนบาบี้ ตัวละครหลักเป็น คนผิดสีดูดิ ยับบบ
เธอออ หนังบาร์บี้ มันไม่ได้ woke นะ แค่หนังที่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือมีผู้หญิงเป็นตัวเอกไม่นับว่า woke อย่างสุดก็แค่ Feminism ถ้า woke มันต้องแบบยัดเหยียดมากจนเกินไป ไม่มีศิลปะในการนำเสนอ งั้นบอกมาสิ ว่าบาร์บี้มัน woke ยังไง
หนัง The Mavel มัน Woke จริงไหม… มันก็จริง พลังแทบจะซุปเปอร์ไซย่าแล้ววว ที่ young hero(girl) มีแต่อัจฉริยะ สตอรี่ให้ต้องประเชิญอุปสรรคกว่าจะมาเป็นฮีโร่ได้แทบไม่มี หนังที่จะเล่าตัวเองก็ไม่มี แต่เล่าแบบจะมันตัวแทนหรือแทนที่ตัวฮีโร่ชายเดิม นี่ว่าส่วนหนึ่งทีมแคสนักแสดงทำได้ไม่คมเท่าเมื่อก่อน ถึงจะเป็นนักแสดงหญิงแต่ถ้าหาแบบออร่าจับก็น่าจะดึงดูดผู้คนได้ส่วนหนึ่ง
นอกเรื่อง woke
-บทแย่ ไม่ก็จืด
-ตัวร้ายออร่าไม่จับ หนักว่าแต่ก่อน
-ยึดติดซีรีส์มากไป
-ฮีโร่วัยรุ่นเยอะเกินไป เข้าใจอยากจะทำอะไรนะ แต่กว่าจะโตมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้เริ่มกลายเป็นหนัง spy kid(แต่ก็ชอบนะ เป็นหนังไม่คิดเยอะ หนังเด็กคิดแบบเด็กๆ แต่ถ้ามาเวลจะเอาดีทางนี้ก็แล้วแต่นะ)
-จำเจ
-กินบุญเก่าเกินไป มันก็ตั้ง4 ปีแล้วที่ไอรอนแมนตาย
-ขาดตัวฮีโร่ใหม่ๆ เปิดซากะใหม่แล้ว ฮีโร่(หญิง)เจ๋งๆ มีเป็นสิบเป็นพัน ทำขึ้นใหม่เลย ไม่เป็นตัวแทนของใคร
แล้วช่วงนี้คือดาราเด็กดิสนีย์บางคนไม่เก็จปัญหา แล้วเผลอไปพูดอะไรช่วนหมั่นไส้อีก(ไม่นับข่าวที่ไทยเอามาปั่นแแบบเกินความจริง) มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้😅
woke = การตื่นรู้ทางสังคม ว่าสังคมที่เป็นอยู่ไม่ปกติ
การพูดเองความเท่าเทียมทางเพศก็เป็นส่วนหนึ่งของ Woke ครับ 😁
บาร์บี้ทำไมจะไม่ woke สรุปคือไม่รู้ด้วยซ้ำว woke คืออะไร ฮามาก
เฮ้อออออ
@@butterflykiss4830 เอ่อ คือ Feminism กับ Woke ในความหมายของคุณอาจเหมือนกัน แต่ของผมไม่เหมือนครับ Woke สำหรับผมคือของเพศที่ 3 ถ้าเป็นของเพศหญิง เรียก Feminism ของชาย เรียก ชายเป็นใหญ่
บางทีก็สงสัย อย่างซีรี่ส์มูนไนท์ที่กระแสดีแต่ก็เงียบหายไปเลย อย่างน้อยปีหน้าก็น่าจะมีss2อะ
บาร์บี้ นี้โคตรตอกหน้าดีสนี่เลยว่าหนัง Woke ที่ดีมันเป็นยังไง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนสกิน ตัวเอก แล้วคนจะดู ขนาดบาร์บี้ ตัวเอกเป็นตัวที่พวก FJW อย่างเกลียด สวย ผม บรอน แต่หนังออกมาดีคนเขาก็ดู อีกราย Netflix รู้นะว่าเจ็บจาก Woke แต่เอ็งเก็บอาการใช่มั้ย
กมลข่านเจ๊ง เป็นซีรีย์ที่wanna be. ขำ
ผมชอบมากเลย เสียดายช่วงท้ายๆ หาทางลงไม่ดี
ผมว่าปัญหาหลักคือระยะเวลาที่สื่อบันเทิงของเค้าจะมาลง Disney+ ครับ อย่างปีนี้ผมเองก็ไม่ได้ไปดูหนัง Marvel หรืออนิเมชั่นของ Disney ในโรงเลย รู้สึกแบบอีกไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็ลงแล้วรอได้ๆ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนเรื่องเปลี่ยนเชื้อชาติตัวละครแบบที่ทำอยู่ผมไม่ค่อยถูกใจ ดูสิ้นคิดเกินไป ทำเรื่องใหม่ที่ตัวละครมีรากมาจากตรงนั้นไปเลยดีกว่า เจ้าหญิงที่มี Story ในแอฟริกา หรือมี origin ในอเมริกาใต้ไปเลย
เคยดูคลิปนึงผ่านๆว่า เหตุผลที่บริษัทใหญ่ๆในอเมริกาต้อง woke กัน ต้องใส่ความหลากหลายเรื่องเพศเรื่องสีผิว เพราะนักลงทุนต้องการให้สังคมเบี่ยงเบนประเด็นไปยังเรื่องนั้นมากที่สุด ยิ่งบริษัทไหน woke มากยิ่งมีคะแนนอะไรสักอย่างของบริษัทยิ่งสูง🤔 ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็ถือว่าทำได้ดีที่ให้คนเบี่ยงเบนความสนใจไปไม่ว่าจะคนชอบ woke หรือไม่ชอบ
ดิสนี่ ทุนเยอะจะตาย กลัว ผมรอหนังคนดำอีก20เรื่อง ผมชอบเสพ
ปัญหาไม่ใช่แค่ woke หรอก woke เป็นแค่ส่วนนึงที่ทำให้คนไม่อยากไปดูเฉพาะเรื่องที่บทนำถูกเปลี่ยนอย่าง the little mermaid แต่แฟนๆที่ตาม disney มานานส่วนใหญ่ก็อยากไปดูอยู่ดี แต่ปัญหาหลักคือคุณภาพ และสถานการณ์หลังโควิดนั้นแหละ แล้วยิ่ง Disney+ เอาหนังลงสตรีมเร็วด้วย คนยิ่งไม่อยากไปมากขึ้น หนังหญิงแกร่งหลายเรื่องที่ดีๆก็ไม่เคยมีดราม่าแบบนี้ แค่ปีนี้ Disney ทำตัวเองให้แย่มาหลายเรื่องจนมันสะสม ทั้งกระแส feminist ทั้งความเท่าเทียม อย่าง capt.mavel 1 ที่เฉยๆ (มาพร้อมดราม่า) และ the marvel ที่ตัวหนังเองมีปัญหา+กระแสต่างๆ ทำให้คนส่วนนึงไปโฟกัสที่ woke จนหลอน หนังไม่ดีก็คือหนังไม่ดี การที่ผู้หญิงคนนึงได้พลังมาทำให้แข็งแกร่งกว่าผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย ที่มาที่ไปภาคแรกก็มีบอก
ได้ดูอยู่2เรื่องแล้วคืออื้ม ไม่ปลื้ม😂😂แต่ก็นั่นและ
Woke แม่งทุกเรื่องก็บรรลัย
จริงหรครับ ที่มีผู้หญิง มีคนผิวสี ก็บรรลัยเลยหรอครับ
woke แบบยัดเยียดครับ
ไม่เน้นหนังสนุก เน้นกูจะ Woke
เน้นเลือกผู้กำกับและทีมงานจากต้องเป็นหญิงwoke ไม่ใช่จากฝีมือ
ยกตัวอย่างหน่อยครับ
เหรออ ไม่ใช่เพราะ Woke จริงเหรออ
ถ้า Woke แล้วเจ๊ง DP3 ก็คงเจ๊งอะครับ 555
@@TLG_Dream เค้าทำของเค้าที่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรไงครับ เค้าทำในความคิดภาพยนต์ 10ๆปีที่เค้าทำกันมานานแล้ว ความหลากหลายมีมานานนมแล้วครับ! เค้าไม่ต้องทำเอากระแสwoke ปัจจุบันก็ได้ในเมื่อ 10 ปีก่อนยังทำในทิศทางที่ดีกว่าปัจจุบันที่เรียกร้องกันเหมือนมันไม่เคยมีมาก่อน ออกไปทางแซะด้วยซ้ำครับ 5555 ขนาดผมยังมองว่ามันทำได้ โดยไม่ต้องมาเรียกร้องอ้อนวอนเหมือนคนไร้ที่ยืน (ทั้งๆมีพื้นที่มานานแล้ว) เพียงแค่ทำแบบ10ๆปีก่อนในกรอบการนำเสนอภาพยนต์ที่เค้าทำกันมาโดยมีมีข้อครหาอะไร ไม่ต้องอ้างเรื่อง open cast ความหลากหลายหรือบริบททางสังคม จะทำหนังหรือทำแคมเปญกันล่ะ จริงไหมครับ
@@Anatomyofafall3456 เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่เพราะ Woke แต่เป็นองค์ประกอบอื่น
@@TLG_Dream อ่อ ได้เลยครับ ความหลากหลายไม่เคยเกิดขึ้นในอดีตเลย ความหลากหลาย ใหม่มากกกกกกก โอเคค้าบบบบบบบบ
Woke แบบ บทชุ่ยๆ มันก้ต้องพัง เป็นธรรมดา ถ้าเค้า woke โดยตั้งใจสร้างหนัง สร้างบทที่ดีจริงๆ มันจะไม่พัง,เช่น แค่สลับเพศ เอาตัวละครดังๆมาสลับเพศ มันไม่ได้หรอก มันต้องตั้งใจคิดบทใหม่ สำหรับ ตัวละครเพศ ญ ไปเลย เเต่สิ่งที่เป็นคือ บทชาย แค่เอามาสลับเพศ แล้วเอามาขายเลย แฟนๆไม่ซื้อครับ แต่ Barbie ที่มันsuccess ผมคิดว่า บาบี้แต่เดิมมันก้เป็นของเล่น เพิ่งจะมีกาตูนก้ไม่นานมาก มันเลยsuccess เพราะคนดูไม่รุ้สึกยัดเยียด .ผมติดตามเรื่องนี้มาปีนึงเต็ม นั่งฟังช่องฝรั่งหลายๆช่อง วิเคราะห์ หรือ บางที่ก้ออกมาติง (ส่วนมากจะออกมาบ่น)แต่โดยรวม มันจบที่ว่า ทุกช่อง ไม่ได้รังเกียจ woke แต่ woke ที่มันทำ บทมันไม่ได้ หนังมันแย่จริงๆ ไม่ได้มีใครเกลียด woke แต่ บทแย่จริง มันก้เลยแอนตี้ เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ หนัง มันพังหมดทั้งวงการ โฆษณา และ อื่นๆ ด้านการบันเทิง . คือถ้ามอบว่า เหตุผลเพราะ woke= ผู้คนแอนตี้เพราะไม่ชอบ girl boss มันก้ตลกแหละครับ แต่ถ้ามองว่า คนเขียนบทมัน woke โดยดันแค่ สลับเพศ แล้วเข็นมาขายเลย ซึ่งแันนี้เป็นสิ่งที่ คนเจ้าของประเทศเค้าวิพากวิจารกัน มันจะไม่ตลกเลย.
Woke เยอะไป Barbie มันเพิ่งมีไง ลองมีภาค 2 ภาค 3 แล้วยังใส่ woke แบบเยอะๆแบบนี้ดูอีกดิ
Barbie มันไม่ได้เครียดอะไรมากมาย คนดูส่วนใหญ่เลยตรงใจ ดูรอบสอง รอบสาม มันเหมือนหนังตลกๆสนุกๆไปเลย คนดูไม่ต้องคิดอะไรมาก คนไม่ชอบก็รอบเดียว
@@putthabhumipoonsawas ลองเปลี่ยนบาบี้เป็นคนดำผิวสีทรงผมเดดร็อคซิ โว๊คขั้นสุดว่าจะยังมีกำไรไหม
เพราะ Disney แม่งเอาแต่ woke นอกนั้นพี่แกทิ้งหมดไง
ปล.star war ถ้าจะฟื้นคืนชีพมาแบบนี้ อย่าดีกว่า
ทิ้งยังไงหรอครับ อธิบายเพิ่มหน่อย
D i s n e y w o k e
สำหรับผม ผมรู้สึกว่าบาร์บี้อ่ะมันเป็นหนังแซะพวก woke อีกที อย่างการที่นำเสนอตัวละครเคนที่ ห ล อ น ความปิตาธิปไตยมากเกิน ซึ่งผมขำกับความหลอนของเคนนะ แล้วก็เคยเห็นคนหลอนแบบนี้จริงๆในทวิตเตอร์ด้วย เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ผมทำให้รู้สึกว่าหนังมันออกแนวแซะมากกว่า
ผมว่าเขาล้อความปิตาธิบไตยแบบตรงไปตรงมาที่สุดเลยครับ
แล้วใช้โลก Barbie แสดงมุมกลับให้เห็น แล้วหาทางลงแบบตรงกลางอย่างชัดเจน
แต่มองต่างได้นะ ไม่มีไรผิด
เห็นด้วยนะ
มันทำให้เห็นความยากลำบากของผู้หญิงในโลกปิตาธิปไตยแต่ในเรื่องแค่เปลี่ยนให้ผู้ชายอยู่ในจุดที่ผู้หญิงอยู่ มันแซะความชายเป็นใหญ่จ้า ดูหนังมาแบบไหนถึงตีความได้แบบนั้น😂
@@butterflykiss4830 ผมก็บอกไปแล้วว่าตัวละครเคน ผมรู้สึกว่าเขาแสดงออกให้มันหลอนมากเกินไป แบบว่าอะไรๆก็เพราะเป็นผู้ชายถึงทำได้ แล้วสายตาของตัวละครที่มองกลับไปที่เคนมันมองด้วยสายตาแบบ "อะไรของมึงวะ"
ผมเลยรู้สึกว่าเขาแซะคนที่หลอนว่าไอ้โน้นก็ปิตาธิปไตย ไอ้นั่นก็ชายเป็นใหญ่ แต่อย่างว่ามันแล้วแต่คนตีความ
อย่างเพื่อนผมก็บอกว่าหนังมัน woke แบบตรงๆเลย อย่างเช่นการนำเสนอตัวละครบอร์ดบริหารผู้ชายที่ทำตัวโง่ๆ แบบโง่ไร้เหตุผล
@@riceman_tv3031 เค้าไม่ได้แซะคนที่บอกว่าไอ้โน่นก็ปิตาธิปไตย ไอ้นี่ก็ปิตาธิปไตย เค้าชี้ให้เห็นว่าโลกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ บาร์บี้มันเป็นหนัง woke ส่วนเรื่องบอร์ดบริหารคือพวกบอร์ดบริหารมันชิงล้อตัวเอง(ก่อนที่จะมีคนมาแซะ) เพราะบาร์บี้เป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงแต่บอร์ดบริหารในบริษัททั้งหมดมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แล้วทำบาร์บี้บางรุ่นออกมาบ้งจนเป็นดราม่า คนด่ากันตรึมเพราะความชายล้วนที่ไม่เข้าใจผู้หญิงแต่อยากขายตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนี่แหละ สรุปมันก็ล้อตัวเอง(ซึ่งเป็นชายแท้) ไม่ได้จะแซะพวก woke เลย หนังมันพยายามจะนำเสนอในมุมมองของ woke ด้วยซ้ำ
2:19 😂
โวก ยังไงครับ เนี่ยมันหนังพลังหญิงไม่ใช่หนังโวก 😅
woke = การตื่นรู้ทางสังคม
หนังว่าด้วยเฟมินิสต์ และปิตาธิปไตยจะไม่ใช่ Woke ได้ยังไง 😁
ผลงานเขาก็ไม่ได้จะแย่อะไรขนาดนั้น
คนเบื่อ หลังๆมาเยอะไปหนังมาเวลน่าเบื่อ หลับตลอดหลังๆ
ทำร้าย สตาวอล มานาน กรรมมาเยือนแล้ว แฟนๆรอสาปแช่งคุณยู่
หนังไม่สนุก .. จบ