อย่างมากแกก็เคยพูดเชิงปรัชญาว่า Religion without science is blind, and science without religion is lame ซึ่งผมมองว่าเป็นมุมมองในด้าน ปรัชญากับวิทยาศาสตร์ ครับ // บทความที่ชื่อ “ Science and Religion ” ตีพิมพ์ในปี 1941 อยู่ในหนังสือรวมบทความชื่อ “ Out of My Later Years ” ที่ตีพิมพ์ในปี 1950
@@BlacKStonETL หนังสืออะไรหรอครับ ? อย่างมากผมก็เห็นแค่ว่า แกให้สัมภาษณ์ในเชิงปรัชญาว่า Religion without science is blind, and science without religion is lame ซึ่งผมมองเป็นมุมมองด้าน ปรัชญาหรือวิทยาศาสตร์ มากกว่าศาสนานะครับ // อยู่ในบทความชื่อ Science and Religion ตีพิมพ์ในปี 1941 หรือจะหาจากหนังสือรวมบทความชื่อ Out of My Later Years ที่ตีพิมพ์ในปี 1950
ที่ผมศรัทธาและนับถือศาสนาพุทธ เพราะศาสนาอื่นจะสอนให้คนใช้ความเชื่อ ต้องเชื่อ แต่มีแค่ศาสนาพุทธที่มอบความจริงให้เรานำมาลงมือทำแล้วจะเห็นได้ด้วยตนเองครับ
ขอบคุณ
เห็นด้วยครับทำได้เองรู้ผลจริงลงมือทำแล้วเห็นผลอย่าเอาความเชื่อมายุ่งเกี่ยวกับศาสนาพูดผมอย่ามาหักล้างมั่วๆคุณอยู่ของคุณไปไม่เชื่อก็อย่ามาลบหลู่
พระพุทธองค์สอนให้เราเข้าใจโลก
เดี๋ยวก่อนน้องชาย การที่พุทธเชื่อว่าคนทำผิดชาตินี้ต้องไปใช้กรรมชาติหน้าหรือแม้กระทั่งนิพานมันไม่ได้เป็นความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้โดยประจักษ์ และผมก็ต้องบอกว่านี้ก็คือความเชื่ออย่างนึงจ้ะน้อง ตื่นๆๆๆ
@@อามีนอุสมันบาฮาก็นั้นแหละครับจะได้บิดคมๆ เหมือน องค์ คุ รี มา น ที่ฆ่าคนไปตั้งเยอะ สุดท้ายไปนิพพาน ไม่ต้องได้รับกรรรม เพราะ ไม่ต้องเกิดอีกแล้ว 😂😂
ผมเคยเป็นคนที่ไม่มีศาสนา แต่ตอนนี้ผมนับถือพุทธแบบจริงจัง ทำให้ผมเข้าใจพวกเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกพวกคุณแบบสุดๆ เพราะเคยโดนมาก่อน😂 ชอบคอนเทนต์พวกคุณนะ สนุกดีไม่ได้รู้สึกไม่ชอบรือขัดแย้ง เพราะเข้าใจ😊 แต่อยากให้เข้าใจเรื่องศาสนาพุทธในตอนนี้และพระส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปเห็น ไม่ได้ทำหรือปฏิบัติตัวตามเหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบจริงจัง เลยไม่อยากเอาพระที่ทำผิดเหมารวมกับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักคำสอน เหมือนอย่าเอาตัวแทนคริสเพียงคนเดียวไปเหมารวมกับคนคริสทั้งหมด อีกอย่างพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เชื่อหรือมานับถือศัทธาในตัวพระองค์ แต่พระพุทธสอนให้ลองปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ดู ถ้าทำให้ชีวิตดีขึ้นก็ทำตาม ถ้าทำให้ชีวิตไม่ดีขึ้นก็วางมันลงเสีย ขอนี้แหละที่ทำให้ผมลองมาศึกษาศาสนาพุทธ แล้วชีวิตผมดีขึ้นด้วยความพยายามของตัวเอง พึ่งตัวเอง ขัดเกลาตัวเองโดยใช้คำสอนของศาสนาพุทธ ไม่ได้ไปพึ่งอย่างอื่น หวังกับอย่างอื่น แต่ตนต้องเป็นที่พึ่งของตน ไม่ได้เข้ามานับถือพุทธด้วยความศัทธาพระพุทเจ้า อย่างที่บอกเคยเป็นคนไม่มีศาสนามาก่อน😂 แต่ตอนนี้กลับรักและศัทธาพระพุทธเจ้ามากๆ ถ้าพระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ตอนนี้แทบอยากเอาฝาพระบาทของพระองค์มาจรดศรีษะของตัวเอง🥹
@@olivermc.6940 โลกหมุนรอบตัวเอง โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ระยะห่างจากโลกกับดวงอาทิตย์พอเหมาะพอดีทำให้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ เป็นความบังเอิญหรือมีผู้ควบคุม
คุณเป็นคนที่มีทัศนคติดีมาก จากใจสาวกพระตถาคตเช่นกัน❤
@@olivermc.6940 สาธุดีใจด้วยครับที่คุณตื่นแล้ว
ใช่ค่ะ
เหมือนกันครับ แต่ก่อนไม่ได้นับถือศาสนาอะไร แต่ตอนนี้ นับถือพุทธ แบบสุดใจเลย ศาสนาพุทธไม่ได้ให้งมงาย แต่ศาสนาพุทธคือความเป็นไปของโลก แต่ก่อนผมคิดว่าพุทธสอนให้งมงายในวัตถุ เทพนู้นนี่นั่น พิธีกรรมไร้เหตุผล แต่พอมาเจอพุทธแท้ มาเจอหลักของพุทธแท้ ผมนี่ศรัทธาลงมั่นเลย เพราะพุทธคือสอนให้รู้ถึงสัจจะความจริงของโลก
*พระพุทธองค์ไม่ได้สอนให้เปลี่ยนแปลงโลก แต่พระพุทธองค์สอนให้เข้าใจโลก*
8:51 เอาจริงเรื่องนี้ พี่บ่วงบอกเลยไม่ใช่แค่เรื่องธรรมะหรอกครับ แฟนคลับพี่หลายคนเอาจริงๆ ในหลายๆ เรื่องก็เห็นต่างจากที่พี่บ่วงเยอะเหมือนกันนะ แบบมองต่างมุมบ้าง ใช้ชีวิตผ่านเรื่องราวคนละรูปแบบบ้าง ก็ยังมีคนดูพีก็เยอะ แต่ส่วนตัวที่ผมดูพี่อยู่ +555 เพราะส่วนตัวผมวางpositionแนวคิดตัวเองอยู่ประมาณกลางเอียงค่อนไปทางซ้ายเสรีนิยมไม่ได้สุดโต่งอะไรขนาดนั้น ส่วนตัวผมไม่มายเรื่องความคิดเห็นต่าง ยิ่งเหตุต่างแต่มีเหตุผลผมยิ่งชอบฟังเลยด้วยซ้ำ แต่ผมจะมายคนที่เห็นต่างนะแต่ประสาทแดกไม่ฟังความเห็นแย้งใครเลย แล้วยังพยายามปิดกันแนวคิดคนเห็นต่าง คุยด้วยเหตุผลกันไม่ได้เลยเอะอะจะยึดความคิดตัวเองสุดโต้งลูกเดียว อันนั้นต่างหากที่ผมจะเกลียดต่อให้แนวคิดจะคล้ายคลึงกันก็ตาม อย่างคลิปพี่บ่วงสารภาพบ้างคลิปผมเห็นด้วยก็ไม่ได้พิมพ์เม้นอะไร แต่บ้างเรื่องที่ผมเห็นต่างก็พิมพ์แย้งในคลิปนั้นเลย แล้วแถมโดนFCพวกเดียวกัน พยายามจะดิสเครดิตสารที่ผมสือบ้างง หรือพยายามหาว่าเป็นผมเป็นHater +5555 แต่ผมก็ไม่ได้อะไรนะ ไม่ซีเรียสเพราะพวกนี้บ้างงคนเค้าเน้นพิมพ์เอาปั่นอยู่แล้วไม่ได้กะมาถกคำพูดวิชาการอะไร แล้วผมก็ยังมองพี่ชายเหมือนเดิม
บล. เพิ่มเติมนิดหนึ่งจริงๆ FC ที่บ่วงหลายๆคน เค้าก็ไนส์มากๆเลยนะพูดคุยถกกันดีๆก็เยอะ เพียงแต่คนไม่ดีมันมีอยู่ในทุกสังคมทุกฝ่ายนั้นแหละ+555 และคนไม่ดีจะอาการหนักเป็นพิเศษ เมื่อคิดว่าตัวเองถูกทั้งหมดแล้วไม่เหลือพื้นที่รับฟังความเห็นต่างเลย แล้วพร้อมที่จะตัดสินด้อยค่าดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามยังไงก็ได้ ทำนองนั้นแหละครับ55
ใช่ครับพี่บ่วง คนสมัยก่อนรุ่นทวดรุ่นปู่ ให้ค่ากับคำพูดและศักดิ์ศรีมากๆ เพราะสมัยนั้นเวลาชาวบ้านเขาทำอะไรไม่มีหรอกเอกสารสัญญา มีแต่สัญญาใจ แล้วให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน
ในถานะชาวคริสต์ท่านหนึ่ง ไอ้เรื่องที่ว่า นับถือพระเจ้าปุ๊บขึ้นสวรรค์ปั๊บ ผมบอกเลยว่า"ไร้สาระ" มันคือการขายตรงดีๆนี่แหละ เพราะถ้าเอาจริงๆ ผมไม่เคยชักชวนเพื่อนมานับถือพระเจ้าแบบผมนะ และผมก็ไม่ได้เชื่อทุกอย่างในศาสนาตัวเอง ผมเลยคิดว่า"การเชื่ออย่างมีสติ"ค่อนข้างสำคัญครับ และอย่าไปยัดให้คนอื่น ถ้าเขาไม่เข้าใจ ส่วนตัวผมอี๋ อ.แชมป์ มาก นี้คือ1ในคนที่เชื่อจนหลอน ถ้าบอกตรงๆคนคริสต์ มีคนหลอนๆแบบนี้เยอะมาก เพราะฉะนั้น ตั้งสตินะตั้งสติ
จริงครับ
จริงคับเพื่อนผมที่เป็นคริสเตียนไม่เคยพูดแบบ อ.แชมป์ เลย แกดูต้องการให้คนเข้าศาสนามาก ทั้งๆที่จิงๆใครจะเข้าศาสนามันต้องอยู่ที่ตัวเค้า
เรื่องนับถือพระเจ้าแล้วจะรอดทันทีมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระครับ ลองอ่านลูกา บทที่ 23 ข้อที่ 39-43 ดูครับ แต่การนับถือต้องนับถือโดยใจจริงและกลับใจจากบาปของตัวเองด้วยใจจริง และเราจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้เชื่อได้ยังไงครับถ้าตัวเองไม่ได้เชื่อทุกอย่างที่ศาสนาสอน พระคัมภีร์ทุกตอนนั้นได้รับการดลใจจากพระเจ้าเพื่อเป็นประโยชน์ในการสอนทั้งนั้นครับ
ไม่ใช่ทุกนิกาย จฝจะชักชวนเข้าศาสนา
แต่คนทั่วไปมันจะเหมาร่วมว่า คริสต์ชอบชวนเข้าศาสนา
คลิปแรกที่พี่บ่วงพูดถึงจารย์เบียร์มีคนแย้งว่าไม่ชอบเพราะพี่บ่วงฟังแค่ ส่วนนึง ของเนื้อหา 1 ท่อนไม่ฟังให้ครบ จากนั้นก็ชกเค้าเลย และไม่เข้าใจภาพรวม เช่นที่จารย์บอกมีเทพมากระซิบหู ถ้าฟังจบเค้าก็บอกอยู่ว่าเป็นจิตปรุงแต่ง คิดไปเองพี่ก็ไปซัดจารย์ คล้ายๆกับตอนที่เฟมมาชกพี่ตอนคัดคำพูดแค่สั้นๆแล้วไปตีความเอง
บ่วงหิวโดจนหลอน
เมื่อได้ยินได้ฟังเริ่องใดๆมาก็ตามอย่าพึ่งรับรอง อย่าพึ่งคัดค้าน ถ้าตัดสินคนแค่การพูดแค่คลิปที่ตัดมาสั้นๆก็ดูจะคับแคบไป เหมือนดูหนังสือที่หน้าปกแต่ไม่เคยเปิดอ่านครับ แล้วปัญญาจะเกิดได้อย่างไรถ้าไม่รับฟังให้มากกว่าพูด
+
+1
ผมจำได้นะ แต่ผมก็ยังเอียงไปฝั่งพี่บ่วงอยู่ดี เพราะพี่แกทั้งฟังวนทั้งกรอเทปทั้งสโลว์ให้ฟัง อาจารย์เบียร์แกพูดว่ามีเสียงกระซิบจริง ใช่อาจารย์แกบอกมันคือจิตปรุงแต่ง แต่ก็พูดด้วยว่ามันคือเทวดาอะไรของแกอ่ะ ผมฟังไปโคตรหลายรอบ ถ้าแกพูดว่ามันคือจิตปรุงแต่งอย่างเดียวผมว่าก็ไม่เอ๊ะกันหรอก แล้วแกก็ไม่บอกชัดๆไปเลยว่าพวกเทพเทวดามันไม่มีจริง ผมว่าพี่บ่วงแกมองตรงจุดนี้มากกว่า
เห็นคอมเมนต์เยอะ ดูคลิปจบก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรน่าดราม่า
-เขาตอบด้วยมุมมองและประสบการณ์ของเขาก็ถูกแล้วนี่ อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องจริงตามที่เขาเผชิญมาตามคำกล่าวอ้าง ดีกว่าไปเอาความคิดใครไม่รู้ว่าพูดจริงแท้แค่ไหน
-ในคลิปเขาพูดตลอดเลยอยากเน้นย้ำว่ามันเป็น"ความคิดเห็น"คำพูดของเขาไม่ได้แทนคนทั้งโลก
-ทำไมคนชอบบอกว่าคนนับถือพุทธอยู่แล้วแต่เขาแค่ไม่รู้ตัว ว่าการพึ่งตัวเอง ทำอะไรด้วยเหตุและผลตามความจริง เกิดแก่เจ็บตายคือธรรมชาติ=พุทธ คือทำไมต้องเอาพุทธมาเคลมทั้งๆที่กฎธรรมชาติเกิดมาก่อนยุคไดโนเสาร์ด้วยซ้ำ ความจริงทุกอย่างไม่ใช่ของพุทธ แต่พุทธคือการมองตามความจริงรึเปล่า
-ชอบท่อน 27:35 สุดท้ายก็อยู่ที่จิตใจ ถ้าจิตใจแข็งแกร่งตั้งมั่นพอเจอปัญหาก็จะเผชิญปัญหาได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าจิตใจอ่อนไหวก็จะหาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้มั่นใจมากขึ้น มันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีศาสนาแล้วจะทำอะไรได้ดีกว่า
-เรื่องที่"ความรู้สึก"ของคริสต์มีความอบอุ่นกว่าก็จริง รู้สึกเหมือนพระเจ้าอยู่ข้างเราตลอดเวลา บาทหลวงตัวแทนของพระเจ้าเรียกคุณพ่อ มันอบอุ่นดูเหมือนครอบครัว ของพุทธนี่คืออยู่กับความจริง ทำอะไรได้อย่างนั้น พุทธแท้ไม่มีปลอบใจ มีแต่ผลการกระทำ บางคนรับความจริงไม่ไหวเลยไปนับถือผีปีศาจก็มีเพราะง่ายกว่าแค่ทำพิธีหรือบริจาคเงินก็ได้ความมั่นใจแล้ว
แต่ทุกอย่างมันก็ความเชื่อนั่นแหล่ะ อยากเชื่ออะไรก็เชื่อ แต่อย่าเชื่อแบบงมงายที่ห้ามคิด ห้ามตั้งคำถาม ห้ามสงสัย
ถ้าความเชื่อมีจริงและพิสูจน์ได้ ทำไมจะตั้งคำถามและคุยเรื่องนี้กันไม่ได้
พุทธมีหลายอย่าง ที่อยากให้คนได้เข้าใจ เพื่อท้ายสุดจะใช้ชีวิตอย่างง่าย สบายๆ เช่น
- คนเรามีเกิด มีแก่ มีเจ็บ และตาย เป็นเรื่องปกติ ซึ่งคนเราอาจจะไม่ต้องพิสูจน์ก็น่าจะรับรู้และเข้าใจได้
- ทุกสิ่งอย่างมันเปลี่ยนแปลงเสมอ เรียกได้ว่าทุกวินาทีหรือทุกลมหายใจเข้าออก เรื่องนี้ถ้าตั้งใจคิดก็จะรู้ได้ แต่ถ้าเวลาผ่านไปสักพักก็อาจจะเข้าใจได้ เช่น เราไม่สามารถนั่งหรือนอนท่าเดียวไปตลอดชีวิตได้หรอก เพราะมันเมื่อยเราต้องเปลี่ยนท่า ก็นี่เป็นหนึ่งในทุกสิ่งที่บอกว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน ฉะนั้นวันหนึ่งมีคนรักเรา วันหนึ่งก็มีคนเกลียดเรา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ!!
จริงครับพระพุทธเจ้ายังบอกอยู่เลยว่า อิทธิฤทธิ์มันไม่ใช่หนทางสู่นิพพาน แต่บ่วงกับบิ๊กเขาแค่อยากรู้ว่ามีจริงไหม สรุปเขาอยากศึกษาพุทธศาสนาหรือศึกษาไสยศาสตร์
ยังไม่ถึงเวลาของพวกเขาที่จะเข้าใจ พวกเค้ายังมีอัตตาอยู่เยอะ ต้องให้เวลาพวกเค้า
พวกเค้ายังไม่สามารถสังเกตุความเปลี่ยนแปลงรอบตัวได้ว่าอะไรคือเหตุอะไรคือผล
33:50 ปัญหาในมุมกลับคือ ถ้าคนอื่นที่เคยไปเห็นเอเลี่ยนแหกปากให้ดูมาแล้ว เห็น UFO บินเต็มท้องฟ้ามาแล้ว เป็นคนมาเล่าเรื่องให้บิ๊กฟัง ความเชื่อในมุมของบิ๊กก็อาจจะไม่ได้ถูกพิสูจน์อะไร
เช่นเดียวกับถ้าคนอื่นที่ได้พบเจอพระเจ้า พบเจอปาฏิหาริย์เหนือตรรกะทั่วไปบางอย่าง หลังจากที่จะเลือกศรัทธาในพระเจ้า เขาก็อาจจะเป็นหลวงพ่อจริงๆตามที่บิ๊กคิดไปแล้วก็ได้ แต่สุดท้ายเราจะไม่มีทางเชื่อจากการบอกเล่า ถ้าไม่เห็นพยานวัตถุก่อน
ส่วนในทางพุทธนี่มีวิธีพิสูจน์ แต่พอฟังวิธีพิสูจน์อาจจะถอดใจหรือถามตัวเองว่าจะทำไปไม ที่จะได้ระลึกชาติ หรือเห็นนรกสวรรค์ (ระลึกชาติพิสูจน์ได้ด้วย ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) วิธีฝึกหาได้ตามพระไตรปิฎก(เล่ม31) แต่มันก็เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน(ปัจจัตตัง)คือใครฝึก คนนั้นได้ คนนั้นรู้ สมมติบิ๊กฝึกบิ๊กรู้ละ ไปเล่าให้บ่วงฟัง บ่วงอาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้อยู่ดี เชื่อก็อาจจะเพราะเป็นเพื่อนสนิทมาเล่าให้ฟังหรือฟังดูแล้วน่าเชื่อถือ ไม่เชื่อก็เพราะไม่ได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง
คุณสมบัติของพระธรรม (ธรรมคุณ) "ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ" หมายถึง "ผู้รู้สามารถสัมผัสได้ด้วยตนเองเท่านั้น"
ความจริงบางอย่าง เช่น ความสุขสงบทางจิตใจ หรือความเข้าใจในธรรมชาติของชีวิต ไม่สามารถรับรู้ได้ผ่านคำพูด การอธิบาย หรือการเชื่อคนอื่น แต่ต้องลงมือปฏิบัติและสัมผัสด้วยตัวเอง
ถ้าบิ๊กชอบฟังแนวคิดนักปราชญ์ อยากฝากไว้ท่านนึงครับ พระพุทธโฆษาจารย์ (ปอ. ปยุตฺโต) อธิบายเนื้อหาในพระไตรปิฎกแบบเข้าใจได้
ชัดเจนดี จากที่ผมหาฟังมา หลวงตาสินทรัพย์หรือพระสิ้นคิด ท่านพูดไว้หลายอย่าง ท่านบอกว่าสิ่งที่เล่นเล่าไม่ได้จำมาจากตำรา แต่เป็นมาหมดเจอมาหมด แล้วค่อยมาหาตำราเทียบเอาว่ามีตรงกับที่ท่านเป็นไหม แต่คนจะเชื่อไหมอันนี้อีกเรื่องนึง // ส่วนตัวผมเชื่อเพราะผมเองก็ศึกษาและปฏิบัติตาม และมีสภาวะเดียวกับที่ท่านเล่ามาจริงๆ ถ้าท่านรู้แปลว่าท่านเคยเดินมาก่อนแล้ว
ที่ต้องมีพยานวัตถุก่อนก็เพราะมันเชื่อถิอได้ที่สุดไงครับ ถาจากคำบอกเล่า ต่อให้เขาพูดความจริง ไม่ได้โกหก เราจะรู้ได้ไงว่าพระเจ้าที่เค้าเจอไม่ใช่พระเจ้าในจินตนาการ หรือ การเข้าใจผิด
เคยได้ยินคำว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นมั้ยครับ การเชื่อไปด้วยสิ่งที่ได้ยินมา คำแนะนำ หรือแค่แนวทาง มันก็พิสูจน์แล้วว่ามันพิสูจน์อะไรไม่ได้ แล้วยิ่งพูดถึงความคิด ความรู้สึก แน่ใจได้ยังไงว่าไม่ได้คิดไปเอง หลอน เพ้อไปเอง ลองทบทวนดูครับลึกๆแล้ว จุดประสงค์ที่แท้จริงของปรัชญา แนวความคิด คำสอนนั้นเกิดขึ้นมาทำไม ทำไปเพื่ออะไร หรือสิ่งต่างๆเป็นแค่คำกล่าวอ้างเพื่อจุดประสงค์บางอย่างของคนบางกลุ่ม ผมก็ไม่อยากไปว่าความเชื่อของคนอื่นนะครับ แต่สิ่งที่มันเห็นๆอยู่ว่าไม่ใช่ไม่จริง แต่ก็ยังมีคำกล่าวอ้างมากมายที่พิสูจน์ไม่ได้มาเป็นเหตุผล มันก็แลปกๆใช่ไหมละครับ
@@tiptoedestination4756 เหมือนกับบอกถ้าเชื่อพระเจ้าให้ยกพระเจ้ามาให้ดู ไม่ได้ก็ไม่เชื่อ แต่พอให้ยกเอเลี่ยนมาให้ดู พอยกไม่ได้ก็ไม่เลิกเชื่อด้วย ทั้งที่คนบอกให้ยกก็คนเชื่อเอเลี่ยนแต่กลับไม่ยอมรับวิธี ตรรกะตัวเองใช้กับฝั่งความเชื่ออื่น พอความเชื่อตัวเองทำตามตรรกะไม่ได้กลับไม่เลิกเชื่อ
เป็นหนึ่งคนที่ชื่นชมแนวคิดหรือความคิดคุณบ่วงในหลายเรื่องที่เคยฟัง แต่เรื่องศาสนาฟังแล้วอึดอัดใจ เพราะเห็นความคิดของคุณบ่วงที่ตั้งแง่จะซัดจะชกตั้งแต่แรก ทุกครั้งที่พูดเรื่องศาสนาก็ง้างหมัดมาจากบ้าน ปกติก็ฟังคนที่ไม่นับถือแต่เขายังมีความเคารพต่อศาสนาต่างๆอยู่ ซึ่งใกล้เคียงกับคุณบิ๊ก ที่เขาละอีโก้ตัวเองไว้ส่วนนึง แล้วพูดออกมาให้มันดูน่าฟังได้ แต่กับคุณบ่วงทำให้นึกถึงพวกเฟมทวิตแรงๆ ที่ชอบชกก่อนในเรื่องที่ตัวเองค้านสุดใจ ทั้งที่ยังฟังไม่ครบเนื้อความ ยังไม่ลองทำเข้าใจแบบใจเย็นๆ เอาจริง รู้สึกเหมือนคุณบ่วงกลายร่างเป็นเฟมทวิตในเรื่องศาสนา 555 (ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็อยู่ที่ตัวผมแหละครับ ผมไม่ชอบก็ไม่ต้องฟังก็ได้ แต่เพราะตัวเองตีมูลค่าความคิดเห็นของคุณบ่วงไว้ระดับนึง เลยเสือกอยากลองฟังเอง แต่หลังจากคลิปนี้ไปก็คงไม่ฟังเรื่องศาสนาจากคุณบ่วงอีกแล้ว ไม่ถูกจริตมุมนี้ของคุณบ่วงเลย 555 ขอข้ามไปฟังเรื่องอื่นแล้วกันครับ)
จริงคิดเหมือนกัน
สรุปคือคุณบ่วงมีเหตุผลแต่ใช้คำไม่สวยหรูสินะครับ
@@santa9699 สรุปผิดไปไกลจากที่ผมจะสื่อนะครับนั่น โอเค เห็นถามมาเลยจะตอบให้ครับ เอาเป็นว่า เพราะเหตุผลคุณบ่วงมันเกิดจากความแอนตี้บางสิ่งรุนแรงในมุมมองส่วนตัว เหมือนหรือคล้ายพวกเฟมทวิตหรือพวก woke อะครับ คือ คุณมีเหตุผลของคุณทั้งที่คุณไม่ได้เข้าใจไม่ได้ศึกษา และไม่ฟังเหตุผลคนอื่นให้จบก่อน ตั้งแง่จะต่อยมาจากบ้านแล้ว สมมติเนื้อหามาสิบบรรทัด แทนที่คุณบ่วงจะอ่านครบแล้วนำไปตกผลึกก่อนแสดงความเห็น กลายเป็นอ่านทีละบรรทัดแล้วชก อ่านทีละประโยคแล้วซัด ไปเรื่อยๆ ถ้าฟังเอามันส์ ฟังเพราะชอบการบูลลี่สิ่งเดียวกัน มันก็สนุกอยู่หรอก แต่ประเด็นศาสนา ถ้าจะให้เกิดประโยชน์ต่อคนฟัง ผมว่ามันควรวางตัวแบบคุณบิ๊กมากว่า ถามว่าคุณบ่วงผิดไหมก็ไม่ผิด คนที่คิดเหมือนคงฟังแล้วสะใจอยู่ อย่างคุณเบียร์และคุณแชมป์ก็มีเหตุผลในแบบของเค้า หรือพวก woke มีเหตุผลแบบของเขา ทุกคนมีเหตุผลในตัวเองอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับคำพูดสวยหรูอะไรเลย ผมก็ฟังหมด .... กรุณาอ่านจับประเด็นใหม่นะครับ (คุณซานต้าตอนนี้ก็คล้ายๆคุณบ่วงอะครับ ผมพิมพ์ยาวมากเยอะมาก แต่จับประเด็นผิด เหมือนอ่านแค่ไม่กี่ประโยค)
สรุปสั้นๆ (กลัวไม่เข้าใจ) "คุณบ่วงไม่ใช่นักวิเคราะห์ที่น่าฟังสำหรับผม ในการคุยเรื่องศาสนา เพราะวางโพซิชั่นตัวเองในทางแอนตี้ศาสนาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และกะมาสวนแนวนักเลงอยู่แล้ว"
ย้ำ นี่คือมุมมองของผม คุณจะมองว่าคุณบ่วงเก่งกาจเลิศเลอมากในทางด้านนี้ ชอบสไตล์นี้ ก็แล้วแต่คุณอะครับ ผมกับคุณไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน คุณชอบก็ฟัง ผมไม่ชอบก็ไม่ฟัง จบนะครับ
@@illyasviel2010 ผมสรุปความไม่ดีเองครับ อ่านพลาดไป ขอโทดด้วยครับ
กูแยกออก.
เป็นกรณีศึกษาเลยในเเนวคิดของคุณ ชอบการวิเคราะห์ต่างมุมดีของคุณ
พอมาฟังความเห็นพี่บิ๊กค่อยดูใช้เหตุผลหน่อย ไม่ใช่งมงายอยู่แต่กับความเชื่อตัวเอง ผมไม่เข้าใจว่าการไปตราหน้าว่าคนอื่นงมงาย โดยที่ความเชื่อที่ตัวเองมีก็พิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน มันจะต่างกันยังไง เราใช้คำว่างมงายกับอะไรที่มันไม่จริงถูกไหมครับ แล้วความเชื่อที่คุณยึดมั่นถือมั่นพิสูจน์เป็นประจักษ์แล้วหรือยังละ 😅
ก็เป็นกลางทั้งคู่อะ แค่พี่บิ็กแกประดิษย์คำสวยกว่า แค่นั้นแหละ
พี่บ่วงแกก็มีเหตุผลนะผมว่า
คำว่า งมงาย ของคุณคืออะไร สำหรับผมคือการเชื่อโดยไม่ตั้งคำถาม ไม่สงสัย ผมว่าบ่วงไม่ใช่นะ แค่เค้าพูดแรงสุดโต่งแค่นั้น
@@stpursus8510 ชัดเจนว่าพี่บ่วงไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่ในการโต้แย้งก็ควรมีข้อพิสูจน์ในมุมตัวเองบ้าง ไม่ใช่เรียกร้องแต่ข้อพิสูนจ์ของอีกฝ่าย ผมคิดงี้ครับ
ใครเห็นต่างก็ใช้คำว่าหลอน ไงครับ555
ขอบคุณมากครับที่ช่วยเหลือชี้ทางสว่างจ้าสาธุๆ
พอฟังเรื่องคุณ Jamie Foxx แล้วมันทำให้นึกถึงคำว่า manifest เลยค่ะ นึกถึงสิ่งดีงามในสิ่งต่างๆ สิ่งรอบตัว หรือตัวเราเอง ทำให้จิตใจอยู่ในเชิงบวก ในกรณีคุณFoxxเค้าก็รำลึกถึงพระเจ้าทำให้เค้ามีแรงใจและมีความหวังกับชีวิตต่อค่ะ ทั้งนี้อย่างที่พี่บ่วงบอก ความเข้มแข็งทางจิตใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วมาดูว่าวิธีไหนจะเหมาะกับคนประเภทไหนอีกที และระวังfallacy
คุณบิ๊กคุณบ่วง ไม่ลองไปดีเบตกับอาจารย์เบียร์ดูล่ะครับ ผมอยากรู้ว่าระหว่างคนที่มีศาสนากับคนที่ไม่มีศาสนา ได้พูดคุยกันแล้วดูว่าใครจะมีเหตุมีผลมากกว่ากัน
เวลไม่ถึงอะฮะ เลยต้องมาจับกลุ่มคุยกัน 2 คน
@@surininter 5555555
ผมว่า น่าจะโดน อจ เบียร์ ต้อนจนมุมแหละ
เห็นแล้วก็น่าสงสารพวกเค้ามากกว่า มืดบอดมาก
เอาจริงนะ ผมไม่น่าหลงกดมาฟังเลย พูดไปเรื่อยตามความคิดของตัวเอง เหมือนที่ว่าคนอื่นนั่นแหละ
@@surininter มีใบ้เเดกเเน่นอน
พุทธก็สอนให้รัก แต่รักแบบเมตตา ที่พุทธดูโดดเดี่ยว เหงาๆ เพราะ พุทธให้พึ่งตน เวลามีทุกข์ หรืออะไรก็ตามก็จะจัดการกับมันได้เอง เหมือนเราเดินได้ด้วยตนเอง ถ้าเราให้แต่พ่อแม่อุ้ม ก็ไม่สามารถเดินเอง หรือกินข้าวเองได้ พุทธสอนไม่ให้ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น เพราะทุกสิ่งต้องมีความเสื่อมสลายไปในที่สุด
ชอบเมนท์นี้
ขอบคุณ
เป็นเมนท์ทึ่ดีมากเลยคุบ
เม้นนี้คือผู้เเตกฉาน รักจากการเข้าใจธรรมชาติของโลก ไม่ใช่ยึดติด
ผมเห็นด้วยกับพี่บิ๊ก เรื่องควรมีดีเบตศาสนาต่อไป
ผมก็เป็นคนหนึ่งไม่เชื่อในศาสนาแล้วนำคำสอนของแต่ละศาสนามาปรับใช้กับตัวเองแบบพี่บิ๊ก แต่สิ่งสำคัญเราควรทำคือการเคารพในความเชื่อของผู้อื่น ไม่ดูแคลนหรือตั้งคำถามกับหลักคำสอนมากจนเกินไป
ซึ่งคลิปที่พี่บ่วงดูดีเบตเอาหลักคำสอนหรือความเชื่อมาหักคะแนนหลังจาก 1 ชั่วโมงแรกมันเริ่มหลอนหักมั่วแล้วเหมือนที่บิ๊กบอก มันเลยดูเกินเบอร์ไปนิดนึงแค่นั่นเอง
เวลานั้งฟังคนเถียงกันหรือเถียงกับใครนานๆมันก็มีเมาบ้างแหละ55555
ผมว่ามันไม่น่าใช่เรื่องจริงจังนะครับที่พี่บ่วงแกออกมาหักคะแนน แต่มันเกินเบอร์ไปจริงๆ จากคลิปคลิปนั้นพี่บ่วงโต้แย้งในมุมมองของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ การหักคะแนนเลยไม่สามารถเอามาเป็นสิ่งที่จริงจังได้ โดยเฉพาะตอนที่พี่แกหักคะแนนตัวเองนี่ยิ่งไม่ใช่เรื่องจริงจัง อารมณ์คล้ายๆคลิปรีแอคที่โต้แย้งคำตอบในมุมมองของตัวเองมากกว่าครับ
ในมุมพี่บ่วงกับคนไม่นับถือศาสนามันดูไม่จริงจังก็จริงครับ แต่ในมุมคนนับถือศาสนาเขาจริงจังน่ะสิครับ ซึ่งการพูดถึงหลักคำสอนหรือความเชื่อในลักษณะการหักคะแนนอาจทำให้รู้สึกเหมือนขาดความเคารพในมุมคนนับถือศาสนา
ผมชอบในมุมของพี่บิ๊กที่พูดถึงการนำหลักคำสอนมาปรับใช้กับตัวเองถึงแม้จะเป็นคนนอกไม่นับถือศาสนา แต่ถ้ามีการดูดีเบตศาสนาด้วยการเอาความรู้ทางศาสนามาใช้ด้วย มันน่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจกว่านี้ สำหรับผม เพราะมันเปิดโอกาสให้เราได้เห็นข้อดีของแต่ละศาสนาและมันทำให้การดูดีเบตศาสนามีความหมายมากขึ้น เหมือนที่พี่บิ๊กสรุปดีเบตไว้ในนาทีที่ 36:31
อยากให้การดูดีเบตศาสนารอบหน้าของพี่บ่วงเป็นประมาณนี่ มีสรุปข้อดีของแต่ละศาสนาตอนท้ายหน่อย จะเป็นคลิปทึ่ดึมาก
คลิปนี้ช่วงแรกๆพี่บ่วงยอมรับนะว่าเมาจริง และบอกว่าถ้าให้นั่งฟังวันพีซปะทะดราก้อนบอลยังดีกว่า
แต่พอพี่บิ๊กเปิดมาว่าสังคมควรมีการดีเบจเรื่องศาสนา,ปรัชญาให้มาก
พี่บ่วงบอกตอนท้ายว่าเห็นด้วยว่าควรมีดีเบจเรื่องศาสนา,ปรัชญา
(แต่มีพ่วงตอนท้ายว่าจะได้มีคอนเทนต์ทำต่อ อันนี้ผมว่าแก้เขิน)
ตรงและมีเหตุผลชัดเจนดีครับชอบ ส่วนตัวชอบฟังอาจารย์เบียร์เพราะบางอย่างก็เอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ตัวผมเองก็ไม่ได้เชื่อและศรัทธากับเรื่องที่ยังพิสูจไม่ได้ แต่ผมฟังหลักศาสนาแค่ให้ชีวิตนี้ในวันข้างหน้าให้มีความสุข ให้มีความทุกข์น้อยที่สุด ให้ไม่เบียดเบียนคนอื่น และให้ไปถึงเป้าหมายในชีวิต ใช้ 1ชีวิต ณ ตอนนี้ให้คุ้มค่า แค่นี้เพียงพอแล้วสำหรับผม ไม่ได้สนใจว่าตายแล้วไปไหน นรกหรือสวรรค์ เพราะมันยังพิสูจไม่ได้
พี่บ่วงครับ พี่ไม่มีความเชื่อเรื่องศาสนา ผมของอาสาพิสูจน์ของศาสนาพุทธเอง ว่าจริงไหม ผมจะปฏิบัติตามตำราและครูบาอาจารย์ที่สอน พิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วผมจะมาบอกเล่าให้พี่ฟัง ไม่ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหนแม้ตลอดชีวิตถ้าพี่หรือผมไม่มีใครตายไปซะก่อน ผมจะมาเล่าให้พี่ฟังว่าจริงยังไง ผมขอตั้งปณิธานไว้ตรงนี้วันนี้เลย ที่บอกว่าพิสูจน์ไม่ได้เพราะไม่มีใครยอมตายเพื่อคำตอบ ผมจะอาสาเอง ตอนนี้ผมอายุ 26 ยังมีเวลาฝึกอีกนาน // สุดท้ายทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อตัวผมเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่นครับ
เขาไม่เชื่อหรอกต้องให้แกทำเอง ต่อให้ใครมาพูดแกก็มีมายเซ็ทของแกที่แกตั้งไว้อยู่ดี
@UlPAKEY ถ้าผมพิสูจน์ได้อย่างน้อย ก็มีผมที่รู้แม้คนอื่นจะไม่เชื่อก็ตาม
@@betty7147 หวังว่าจะประสบความสำเร็จนะครับ ถึงไม่เจออะไรอัศจรรย์ แต่อย่างน้อยก็ทำให้มีสมาธิในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ขอให้เลือก ครูบาอาจารย์ หรือแหล่งที่ไปศึกษาแบบถูกทางตั้งแต่ต้นนะครับ ถ้าผมไกด์ๆให้เอาจริงๆ หลวงพ่อลงกรดที่เป็นอาจารย์ของหมอบี คนตื่นธรรมก็ถูกทางครับไปวัดเดียวกับแกก็ได้ ถ้าจะไปเวย์บวช ผมบอกเลยว่าดุ่มๆไปศึกษาจากพระทั่วไป หรือดุ่มๆเข้าไปบวชเลยในวัดนั้นๆ เอาจริงๆวัดส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างไม่ถูกทาง แนะนำวัดป่าที่สงบๆเงียบๆ แต่ถ้าไม่ได้กะจะบวชก็ได้ครับศึกษาและปฏิบัติ เริ่มจาก หมอบีในรายการ ไลฟ์ตอบคำถามธรรม หรือ คนตื่นธรรมก่อน ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ สู้ๆครับ
@tenten1417 ผมมีหลวงตาสินทรัพย์อยู่ในใจละครับ ขอบคุณที่แนะนำนะครับ บวชแน่นอนครับ
การพึ่งพาตนเองแบบพิธีกร มันคือความเป็นจริงในธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยครับ หลักการในพุทธแท้ๆคือสอนให้เรารู้และยอมรับในความจริงของชีวิตรู้เท่าความเป็นไปของตัวเอง การเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดาของชีวิต การกระทำเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผลต่างๆ เมื่อเรารู้ทันความจริงเราจะเกิดสติมีความเข้มแข็งของความคิดแล้วจะเกิดปัญญาหาทางแก้ไขสร้างเหตุปัจจัยให้ตนเองรอดพ้นจากสิ่งที่ประสบได้ครับ
@@worawootsingto9462 มันไม่ฟังหรอก ปล่อยมัน เดวมันก็คิดได้เอง
ขอแนะนำพี่บิ๊กนิดนึ่งนะครับ เข้าใจว่าไม่ได้นับถือศาสนาแต่เวลาพูดถึง พระพุทธเจ้า หรือ ผู้นำศาสนาอื่นก็อยากให้ระวังคำพูดขึ้นหน่อยนึ่งนะครับ บางทีฟังแล้วก็แอบตกใจเหมือนกัน ยังมีคนที่เขาเคารพนับถืออยู่ ถ้าช่วยปรับปรุงได้จะดีมากเลยครับ
ตรงไหน ยังไง แนะนำเขาไปเลยครับ อันนี้มันกว้างไป
มีแต่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์ เรื่องตัวเองทั้งนั้นเลย
จะเข้าใจศาสนาพุทธได้ต้องมี 3 อย่าง 1.ปริยัติ 2.ปฏิบัติ 3.ปฏิเวธ
ปริยัติ คือการเรียน เรียนผ่านตำรา และ เรียนผ่านการฟัง
ปฏิบัติ ก็คือ การฝึกปฏิบัตินั้นแหละ
ปฏิเวธ คือ ผล ประโยชน์ที่ได้รับมาจากการปฏิบัติ
มีให้ครบสาม ให้ครบ ให้เต็ม แล้วจะเข้าใจเอง
ตอนสรุปท้ายคลิป อย่าเอาตรรกะตัวเองเป็นบรรทัดฐานของโลก จะบอกว่าศาสนาพุทธมันดูเหงาเปล่าเปลี่ยว มันคือตรรกะของนายเองไงนายต้องไปถามคนที่เขาปฏิบัติธรรมว่าเขารู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า แล้วพูดว่าแตกไปสายผีสายมูเลอะเทอะไปถึงขั้นนั้น ถามหน่อยไอ้สายพวกนี้มันทำให้ชีวิตดีขึ้นยังไงขอแบบเหตุและผลนะ จะเอาเคสตัวอย่างตามที่ออกโหนกระแสก็มีเยอะแยะนะ พวกนายเหมือนจะไม่มีเหตุผลแล้วนะที่พูดมา
ใช้แล้วครับมันเป็นความคิดเห็น2คน
ก็มันเป็นความเห็นของคน2คนตั้งแต่อรกแล้วไม่ใช่รึไง มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่วิแรกของวิดีโอแล้ว
@@chalermlapsrisung179 มันพูดไปเรื่อย มันก็นับถือ ศาสนา พุทธ นั้นเเหละ เเค่มันดื้อ เฉยๆ รู้สึกตัวช้าพวกนี้ ปล่อยให้มันหลงตัวเองไปเถอะ สักวันมันก็ยอมเเพ้เอง
ผมไม่รู้นะว่าความคิดเห็นของสองท่านในคลิปเป็นคอนเทนต์เพื่อยอดผู้เข้าชมและคอมเม้นดราม่า หรือมาจากความคิดเห็นของสองท่านจริงๆ ถ้ามาจากความคิดเห็นของทั้งจริงๆ ทั้ง 2 ท่านจะสื่อสารออกไปเวย์นี้และอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ไม่มีศาสนามันก็สมควรแก่การที่ท่านทั้ง 2 จะไม่นับถือศาสนาใดๆเลยเพราะจากความคิดเห็นตลอดคลิปมันสื่อว่าท่านรู้จักศาสนาแค่ผิวเผินแล้วตัดสินทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะทั้งทางพุทธหรือทางคริส มันเลยทำให้ลักษณะที่ออกมาคือท่านยกตัวเองว่าสมัยใหม่และมีการศึกษาแต่กลับกันตลอดคลิปท่านดูไม่รู้อะไรเลย วิจารณ์ไปตามความคิดและตัดสินไปตามฐานข้อมูลความรู้ที่ตัวเองมี
ชอบตัดสินวิเคราะห์ความเชื่อของคนอื่นไง
คอนเทนต์เกีี่ยวกับศาสนาไม่หนุกนะคะลองทำของอิสลามดู
ชอบทั้งสองครับ ทำให้ความคิดเป็นกลางดี
เราอยู่ในโลกใบเดียวไม่ว่าคุณจะมีศาสนาหรือไม่มี ถ้ามีความเชื่อที่แรงกล้าในสิ่งที่ตั้งใจและถ้าเชื่อมากพอวิธีการก็จะมา มองความจริงให้เกิดความเข้าใจ คนความคิดดีมีความเข้าใจ ทำผิดแล้วละอายใจเป็น กลั่นกรองสามัญสำนึกตัวเองได้มีสติ เมตตาให้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะยากดีมีจน มันคือคุณสมบัติของผู้ดี ความคิดส่วนตัวขอบคุณครับ
ขอบคุณท่านทั้งสองช่วยชี้ทางสว่างให้จ้า
คนไม่มีศาสนาก็จะพูดแนวๆนี้และเพราะไม่รู้แก่นแท้ของศาสนานั้นๆ แค่เรียนรู้เปลือกนอกเท่านั้น
แล้วแก่นคืออะไรครับ สำหรับคนไม่สนใจที่ศึกษานานๆ พอจะบอกได้ไหมครับว่าแก่นของศาสนาคืออะไร
@@kanklabkaew4706 มีน้ำผึ้งอยุ่หนึ่งขวดทั้งๆที่รู้ว่ามันหมอหวาน แต่เราเลือกที่จะไม่กินมันมันก็เหมือนกับศาสนาพุทธของเรา นั้นและ
@@gonnerff8304 อันนี้คือแก่นแท้หรอครับ อันนี้คือ Assume ว่าสิ่งรอบข้างไม่ดีเท่าพุทธหรอครับ คือหมายความว่าพุทธดีที่สุดรึเปล่าครับ
@@kanklabkaew4706 สำหรับผมศาสนาเป็นเครื่องยึดโยงคนในสังคม และเป็นเรื่องให้ตีกันมากที่สุด รวมคนไม่มีศาสนาด้วย ต่อให้คนไม่ศาสนาก็มีความเชื่อ
เหมือนที่ไอ้เบียร์ พูดเกี่ยวกับคริสต์ ไม่รู้ลึกอะไร พูดไปเรื่อย
คนพุทธบอกว่าห้อยพระได้ แต่อย่าไปขอให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวพอ แต่ทุกวันนี้พระเครื่องมีอิทฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลายๆอย่าง แล้วการกราบไหว้ทุกวันนี้เห็นอะไรแปลกๆไหว้หมดทุกอย่าง ไม่เข้าใจจริงๆโลกเรามียันเอไอแต่คนไทยก็ยังเชื่อเรื่องร่างทรงอยู่เหมือนเดิม แล้วก็โดนหลอกอยู่เหมือนเดิม ทุกวันนี้มันเริ่มบิดเบือนไปมั่วหมดแล้วจริงๆ
คุณบ่วงมักบอกว่า ไม่มีศาสนาเขาเชื่อในเหตุผล แต่พอฟังเหตุผลมันก็อันเดียวกันที่พระพุทธเจ้าบอกมาเลย ผมยอมรับว่าผมเป็นพุทธ การอยู่กับตัวเอง และฝึกจิตให้รับในความจริงและ เข้าใจสิ่งรอบตัว แสดงว่าคุณบ่วงเป็นคนพุทธครับ แค่ไม่รู้ตัว😊
ท่านยึดติด หลงเมาในธรรมอยู่รึไม่ ? เหตุใดไปยัดเยียด ?
ผมยัดยังไงครับแค่บอกว่าเขาใช้ชีวิตแบบวิถีพุทธ เขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับว่าเป็นเป็นเรื่องเขา
คนพุทธหลายคนบอกเป็นพุทธแต่ไหว้บนบาน แม้แต่ร้องของพระเจ้า
แค่เจอคนด่าพระพุทธเจ้า ก็โมโห
ใช้ชีวิตสู้คนไม่มีศาสนายังไม่ได้เลย@@ananb.572
ขอพูดในเรื่องคนเลือกไม่มีศาสนา กับคนที่เลือกมีศาสนาครับ
ในฐานะที่ผมเลือกมีศาสนา และเลือกนับถือพระพุทธศาสนา
ผมยอมรับเรื่องการมีพระผู้สร้างไม่ได้ จักรวาลเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ศาสนาพุทธดูจะมีเหตุมีผลที่สุดสำหรับคนๆนึงที่เชื่อวิทยาศาสตร์
แต่อยากมีศาสนา หรือชุดความรู้สำเร็จรูปเอาไว้นำทางในการดำเนินชีวิต
ผมไม่เชื่อว่าคนเราเกิดมาจะเป็นระดับอัจฉริยะซักกี่คนหรอก
คนโง่ย่อมเยอะกว่าคนฉลาด และผมมั่นใจว่าพระพุทธเจ้าคืออัจฉริยะ
การไม่นับถือศาสนาสำหรับผม คือการเลือกที่จะมั่นใจในตัวเองเต็มที่
ซึ่งผมมองว่าตอนปกติสุขดี จะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่พ่อแม่ตาย
หรือคุณมีลูก แล้วลูกคุณโดนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต คุณจะรับมือไหว
การมีชุดความเชื่อสำเร็จรูป ที่มีเหตุมีผลประมาณหนึ่ง คือทางรอด
ทางรอดในที่นี้ไม่ใช่อภินิหาร แต่มันคือรอดจากความทุกข์แสนสาหัส
ที่ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเจอเมื่อไหร่ แต่มันจะมาแน่ไม่ช้าก็เร็ว
การมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่ใช้ต่อกันมา 2 พันกว่าปีแล้วได้ผล
มันคือความไม่ประมาทอย่างหนึ่ง มันเหมือนได้เตรียมตัวเอาไว้
รับมือสถานะการยากๆในอนาคต โดยไม่ต้องคิดเองเออเอง
แล้วนั่งจิ้นว่าตัวกุเองก็ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่
อ่านตำราของพุทธ เรื่องปาฏิหารย์เต็มไปหมด
@@marketplacegurun4547 แต่แก่นมันแทบไม่มีเลยครับ
อีกอย่างตำราพุทธ เอาแค่พระไตรปิฎกพอ อย่างอื่นแต่งเองเอาก็ได้
เช่นกันครับ มีชุดความคิดไว้ตระหนักตัวเราเอง แต่ของผมจะจับฉ่ายทุกศาสนาหน่อย แบบอันไหนคำคมโดนใจก็เก็บไว้ในสมอง คิดดีๆเราต่างก็รู้อยู่เรื่องเล่าไม่กี่วันผ่านปากต่อปากไม่กี่คนยังมั่วซั่วกันคนละเรื่องเลย นี้ซัดกันไปคนละหลายพันปี เอาที่ทันในบันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับศาสนาทั่วโลกแค่เห็นก็รู้สึกตะหงิดใจแล้ว เอาจริงแค่นั่งหาคำตอบว่าทำไมทุกศาสนาหลักๆถึงมีหลายนิกายแค่นี้หลายคนก็น่าจะได้คำตอบละ เพราะฉนั้นเชื่อมั่นในตนเองไว้ แล้วให้เหล่าคำสอนสุดบาดใจพวกนี้ค่อยปลอบคุณในเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง ใช้ชีวิตไม่ประมาทจ้า
ตอนเด็กเคยนับถือศาสนาพุทธครับ แต่เพราะโดนแกล้งนี่แหละเลยเลิกนับถือ ช่วงเวลา 3 ปี ที่คอยภาวนาขอให้พวกสารเลวนั่นหายไป วิงวอนต่อพระพุทธเจ้าว่าช่วยลงโทษคนพวกนี้ด้วยเทอญ แต่ทว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นครับ พอจบมอต้นแล้วไปสายวิชาชีพ เลยเลิกนับถือแล้วมองว่าเราจะมามัวยึดอะไรแบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเลย และมองตามความจริงว่า เป็นตัวผมนี่แหละที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ชีวิตตอนโรงเรียนใหม่ซ้ำรอยเดิม
เพราะแบบนั้นจึงปรับปรุงตัวใหม่และไม่ทำตัวให้ตกเป็นเป้าสายตา หากลุ่มที่แลดูจะไม่ถูกเพล่งเล็ง และทำดีกับคนที่น่าจะเป็นเด็กเกเรหรือเกือบเกเรในห้องเพื่อให้โดนมองเป็นเพื่อนนั่นแหละครับ ผลคือผมใช้ชีวิตได้แบบปกติสุขสุดๆ ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าพระพูทธเจ้ามีการสอนเรื่องการเข้าหาคนนิสัยไม่ดีไว้อย่างไร แต่ผมก็ไม่เคยอ่านหรอกครับ แต่พอเลิกนับถือแล้วมาพึ่งตัวเอง ชีวิตดีขึ้นซะงั้น แต่ผมก็ไม่ได้จะบอกว่าคนที่มีศาสนาจะเป็นเรื่องแย่นะ แค่ตายายหรือพ่อกับแม่ผมอาจจะไม่ได้รู้เรื่องพุทธลงลึกขนาดนั้นก็ได้ครับ เลยสอนผมตามที่พวกท่านเข้าใจ ส่วนผมก็แค่ทำตามที่โดนสอนมาอีกทีอย่างเคร่งครัดจนกลายเป็นไม่ชอบไปเพราะไม่ได้ผลตอบรับอย่างที่ควรจะได้ อย่างเช่น ทำดีต้องได้ดี แล้วทำไมไอ้สารเลวที่แกล้งผมทำชั่วถึงยังลอยตัวในโรงเรียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สูบบุหรี่เอย ตีกับโรงเรียนอื่น ทำร้ายอาจารย์ หรือว่าคนเหล่านั้นที่ต้องมาพัวพันก็เพราะเป็นคนสร้างกรรมทั้งสิ้นและต้องมาชดใช้ในชาตินี้?
คือมองย้อนไปก็ตลกดี ทำไมปู่ย่าตายายผมต้องสอนว่า การที่ "เขา" มาทำเราเพราะเราเคยไปทำเขาในชาติที่แล้ว มันเป็นกรรม เราควรยอมรับและชดใช้กรรม อโหสิให้เขาเถิด ถ้าเขาเลิกเมื่อไหร่ ก็คือหมดกรรม คือผมคิดนะว่าถ้าไม่เชื่อคำสอนนี้ แล้วตอนนั้นแก้ปัญหาการโดนแกล้งจริงจัง ชีวิตก็คงไม่ต้องเหมือนตกนรกอยู่ 3 ปีหรอกครับ
ดังนั้นในเรื่องยึดเหนี่ยว หากเกิดอะไรสักอย่าง ก็ผมนี่แหละที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหา
@@ServanWatch กอดๆคุณ ชาติหน้าชาติก่อนจะมีจริงไม่มีจริงไม่รู้ แต่ในเมื่อความจริง ณ ตอนนี้ปัจจุบันจำได้แค่ชาตินี้ก็ yolo ซะชีวิตเราลิขิตเอง แต่จะทำอะไรก็ระวังๆไว้ เพราะเรามีคนรอบข้างที่ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยเสมอ กว่าผมจะหลุดเส้นทางล้างแค้นได้ก็ใช้ชีวิตแบบไม่สนครอบครัวเลย น่าเศร้าที่สิ่งที่บางคนทำแย่ๆไว้ตอนเด็กจะโดนบอกว่าแค่เด็กทำไปเพราะขาดความรู้ไม่ถึงการ แต่พอโดนคนที่กระทำ ทำคืนตอนโตก็มาร้องว่าโดนใช้ความรุนแรงใส่เป็นสิ่งที่ผิดบริบทกฎหมาย ดีที่ว่าตอน25ผมได้พระพุซ....ซี่ เข้ามาเลยรู้สึกว่าใช้ชีวิตระวังๆ มีชีวิตเพื่อทำตัวบูชาพุซบนโลกดีกว่า เพราะเช่นนั้นผมแค่อยากเตือนว่า วางแผนดีๆไม่มีใครเห็น ขอให้ชีวิตนี้มีความสุขครับ bro.
ทุกคนจะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนา ต่างก็มีความเชื่อทุกคน แต่มีความเชื่อที่แตกต่างกัน ตราบใดที่มนุษย์มีชีวิต ต่างก็มีชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ และความเชื่อก็จะส่งผลให้ชีวิต ของคนนั้นๆ
พุทธไม่ใช่ศาสนาแห่งความเชื่อ แต่มันคือเรื่องจริง ที่เจ้าชายคนหนึ่งไปรู้มา ผ่านการตรัสรู้
จริงยังไง บอกมาเป็นรูปธรรมไม่ได้ ยกทีก็มีแต่ปสกส่วนตัวตลอด
@marketplacegurun4547 ง่ายๆเรื่อง เกิด แก่ เจ็บตาย จริงมั้ย? อันมีในคำสอน
มีให้ครบ 3 แล้วจะเข้าใจเอง
1.ปริยัติ คือการศึกษาเล่าเรียน เรียนผ่านหนังสือบ้าง ผ่านการฟังบ้าง
2.ปฏิบัติ ก็คือ การฝึกปฏิบัตินั่นแหละ
3.ปฏิเวธ คือ ได้รับผล ประโยชน์จากการปฏิบัติ
มีให้ครบ 3 จะเข้าใจเอง
มีให้ครบ มีให้เต็ม
ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ สำหรับผม ผมนับถือท่านพุทธทาส ภิกขุ มากที่สุดแล้วน่ะครับ ท่านสอนความจริง
คำพูดของอ.บ บอกเขาไปแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจเอง คำนี้ใช้ได้กับทุกคน ร่วมถึงคุณ
เก่งจัง อยากให้ดีเบต
คนไม่ศาสนาvsศาสนาพุทธ
อยากคำพูดและใช้ชีวิต
คุณไม่มีศาสนาจะสอนลูกของเค้าด้วยคำสอนยังไง "ไม่เบียดคนอื่นและตนเอง
@@chaewkiki จะดีเบต กันยังไง สุดท้ายคนที่บอกตัวเองไม่มีศาสนา ก็เอาเเนวคิดจากคนที่นับถือศาสนานั้นเเหละ เเล้วจะบอกว่ามันไม่มี ศาสนา ได้ยังไง อย่าไปดีเบต เลยเสียเวลา
เก่งสิ ไม่งั้นเขาจะสอนคนได้ไง ไม่ได้โง่เหมือนมึง
ไม่มีทาง ชั่วโมงบินไม่ถึงเลยต้องมาคุยกัน2คน😂😂
ไม่หรอก ถ้าพุทธจริงๆ เค้าไม่แอนตี้ศาสนานะ ไม่นับถือศาสนาปฏิบัติตามศีล5กับคนพุทธที่ปฏิบัติตามศีล5 เหมือนกัน ก็เหมือนกันครับ ไม่ได้กะจะหลุดพ้นอะไรอยู่แล้ว แค่อยู่แล้วเป็นสุขพอ😊😊😊
@@XxTaiTonxX พุทธ คือ ที่สุด ธรรมชาติ ที่สุด
ส่วนตัวนะ ไม่ได้ อยากจะบอกว่าศาสนาไหนดีกว่ากัน แต่ ส่วนตัวคิดว่า ความต่าง คือ(ศาสนา อื่นๆ มีการสร้างโลก และ มีการอะไรที่เแฟนตาซีซึ่ง แทบไม่ใช่ความจริง แต่มันอาจจะมีการยึดเหนี่ยวจิดใจไว้ ทุกอย่างพระเจ้าเป็นคนกำหนด และโยนภาระทุกอย่างให้พระเจ้า) ส่วน พระพุทธเจ้าคือ มนุษย์ เหมือนเราๆเนี้ยแหละ เพียงแต่เขาได้ตั้งคำถามเกียวกับหลักเหตุหลักผลของมนุษย์ และสิ่งรอบตัวที่ คนเราจะต้องเจอ และเกิด ดับ อะไรยังไง แล้วผู้คนก้แต่งตั้ง ยกย่องให้เป็น ยอดคนอะไรประมานนั้น แล้วก้ได้มีการก่อตั้งผู้นับถือและ ปฎิบัติตาม พระพทุธเจ้าอะไรประมานนั้น อารมณ์้หมือนใครอยาก จะเข้าร่วมก้เข้า ไม่ได้มีการบังคับอะไร ส่วนนอกเหนือจากนั้น คนรุ่นก่อนๆ นั้นแหละที่ตั้งกฎตั้งเกณฑ์เอา ส่วน ศาสนาอื่นๆ มันไม่เหมือนตรงที่ อีกอย่าง ส่วนตัว คิดว่ากระที่เราจะ ประเมินวิเคาะหร์เชิงลึก คุณควร รู้แก่นสารและศึกศามาในระดับนึงด้วย เช่น มีหลายๆๆ ดังๆๆถ้าเขาตั้งข้อสงสัยอะไรเขาจะเข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเองวว่า กลวงหรือแบน แต่ถ้าจะเอามาพูดเป็นtopic ก้อีกเรื่องนึง ส่วนตัวไม่ได้ เชื่อ ศาสนาไหนเป็นพิเศษแต่เกิดมาก็มีศาสนาพุทธโดนปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ก็รู้สึกว่า มันก้ไม่ได้ แย่หรือผิดแปลกอะไร ไม่ได้ คลั่งศาสนาอะไรมองเหมือนกับ บิ๊กที่เอาบางส่วน ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ได้เขื่อเรื่องภูติ ผี
และทุก ๆ คลิปที่คนตัดมาลงในยูถูบ จะมีคนคอมเมนต์ประมาณว่า ไอน์สไตน์มีความชื่นชอบ ความสนใจ ต่อศาสนาพุทธ เพราะศาสนานี้ยึดมั่นตามหลักความจริง... // พอถามหาหลักฐานว่าพูดไปเมื่อไรหรือให้สัมภาษณ์ตอนไหน ลงในหนังสือหรือนิตยสารเล่มไหน ก็ไม่เคยได้รับคำตอบเลย
เพราะมันไม่มีครับ มันเป็นแค่คนเมกาสายพุทธพยายามมาเคลม ลองนึกถึงข้อเท็จจริงว่าไอน์สไตน์แกศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์ การค้นหาคำตอบทางธรรมชาติ แค่ตรงนี้ก็มีเรื่องคิดไม่รู้จักจบแล้ว แล้วชีวิตก็อยู่ในสังคมคริสเตียนกับคนไม่มีศาสนาเป็นหลัก ไม่มีทางจะมาสนใจอะไรศาสนาพุทธอยู่แล้ว การเอ่ยถึงมีแค่ประโยคเดียว ดีไม่ดีอ่านเจอเรื่องอิทธิฤทธิ์เข้าไปอาจจะมองศาสนาพุทธไม่ต่างกับพราหมณ์หรอก
อย่างมากแกก็เคยพูดเชิงปรัชญาว่า Religion without science is blind, and science without religion is lame ซึ่งผมมองว่าเป็นมุมมองในด้าน ปรัชญากับวิทยาศาสตร์ ครับ
// บทความที่ชื่อ “ Science and Religion ” ตีพิมพ์ในปี 1941 อยู่ในหนังสือรวมบทความชื่อ “ Out of My Later Years ” ที่ตีพิมพ์ในปี 1950
เหมือนจะพิมพ์ลงในหนังสือที่แกทำว่าแค่ ในอนาคตศาสนาที่จะเหลือรอดคือศาสนาที่ยึดหลักของธรรมชาติและเหตุผล แค่นั้นเลยครับไม่ได้ระบุว่าศาสนาไหน
@@BlacKStonETL หนังสืออะไรหรอครับ ?
อย่างมากผมก็เห็นแค่ว่า แกให้สัมภาษณ์ในเชิงปรัชญาว่า Religion without science is blind, and science without religion is lame ซึ่งผมมองเป็นมุมมองด้าน ปรัชญาหรือวิทยาศาสตร์ มากกว่าศาสนานะครับ
// อยู่ในบทความชื่อ Science and Religion ตีพิมพ์ในปี 1941 หรือจะหาจากหนังสือรวมบทความชื่อ Out of My Later Years ที่ตีพิมพ์ในปี 1950
@@Takkun-gb3erใช่ครับ ผมก็หาหลักฐานไม่เจอ
จารย์เบีย กันจารย์แชมป์เหมือนกันครับ
ตรงที่...เป็นความเชื่อแบบดั้งเดิมของศาสนาตัวเอง
พระพุทธสมัยใหม่ก็เป็นศัตรูกับจารย์เบีย เพราะว่าพระสมัยนี้มีความเชื่อแปลกไปจากเดิม
และจารย์แชมป์ ก็เป็นที่ขัดใจกับชาวคริสสมัยใหม่ที่เดินตามค่านิยมโลก
เพราะผู้รับใช้ในอดีต ไม่เป็นที่พอใจแก่คนในโลกครับ มนุษย์ชอบทำบาปและรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า เวลาที่คนของพระเจ้าสอนให้เลิกทำบาป
เพราะงั้น คริสเตียนที่ยังทำบาป และไม่ได้เข้าใจสิ่งที่พระเจ้าสอนจริงๆ ก็จะออกมาด่าจารย์แชมป์เป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเขาไม่เข้าใจไง
สิ่งที่อาจารย์แชมป์ทำ พยายามประกาศให้คนมาเชื่อ หรือพยายามรักษาโรค ล้วนเป็นสิ่งที่พระเยซู(สั่ง) ให้สาวกออกไปทำ
การทำการอัศจรรย์ รักษาโรค อธิษฐานขอสิ่งต่างๆ ก็ถือเป็นการฝึกความเชื่อไปด้วย
เพราะการรักษาคน ไม่ใช่คุณทำ แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำ คนๆนั้นจะหายไม่หายก็ขึ้นกับคนๆนั้นกับพระเจ้า เช่น....บางคนไม่ได้เชื่อ หรือยึดติดกับพระของตัวเอง ไม่ได้อยากจะรับการรักษาจริงๆ ก็เหมือนภาชนะแคบที่ไม่รับอะไร
พุทธเจ้าสอนให้รู้ว่าความรักเป็นสิ่งไม่เที่ยง สักวันต้องพบกับความทุกข์ในที่สุด แต่ก็สอนให้ทุกๆคนให้มีเมตตาต่อสิ่งที่มีชีวิต ไม่ได้ให้คนเป็นหุ่นยนต์
สวัสดีครับ คนซ้ายมือใส่เสื้อน้ำเงิน สรุปได้แบบนักปราชญ์ครับ นี่คือข้อสรุปที่ผมหวังไว้ ชาวพุธเน้นปัญญานำหน้าศรัทธา สวนศาสนาคริสต์นั้น เน้นการใช้ศรัทธานำหน้าปัญญา เหมือนกับเราจะกินยาขม เราต้องใช้ปัญญาอบรมข่มใจ ให้เห็นประโยชน์ที่จะได้จากการกินยาขม ผู้ที่มีปัญญาเข้มแข็ง จึงสามารถกินยาขมได้แบบไม่ถึงขั้นทุกข์ทรมาน แต่เด็กเล็กๆที่ปัญญายังไม่แก่กล้า ต่อให้เรากล่อมเกลาอย่างไรก็แล้วแต่ เด็กต้องจำใจกินยาขมอย่างแสนทรมาน ส่วนสำหรับแนวของศาสนาคริสต์นั้น ก็คือการเอายาขม มาเคลือบน้ำตาลให้หวานฉ่ำ ให้เด็กที่ปัญญาไม่แก่กล้าได้กลืนกินเข้าไป ฉะนั้นจึงไม่เกิดปัญหาความทุกข์ทรมานในการกินเลย ............เพราะฉะนั้นทั้งยาขม และยาเคลือบน้ำตาล จึงใช้ได้เหมาะสมต่างกัน เพราะคนแต่ละท้องที่หรือถิ่นฐานนั้นล้วนมีกำลังสติปัญญาไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างการเข้าฌานตามแนวของพุทธ นั้นค่อนข้างยากเย็นแสนเข็ญ แต่ของศาสนาคริสต์ ความเชื่อถือในพระเจ้าว่าท่านมีความรักให้กับเราประดู่ดังความรักของพ่อที่มีให้กับลูก ความเชื่อที่ทำให้เราเกิดศิโรราบอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยไม่มีข้อโต้แย้งสงสัยใดๆนั้น จะทำให้เรา ได้สลัดตัวตนที่เป็นกิเลสตัณหาที่กระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ให้มันละลายหายไปได้แบบอัตโนมัติ แล้วสิ่งที่ปรากฏขึ้นในจิตใจก็คือสภาวะของฌาน เมื่อจิตใจเราจดจ่อเต็มเปี่ยมอยู่กับความรักที่เป็นนิรันของพระผู้เป็นเจ้า เพราะฉะนั้นฌานที่เกิดขึ้น มันจึงเป็นที่เขาเรียกว่าอรูปฌาน เพราะได้มาจากการเพ่งนามธรรม (ความรักของพระผู้เป็นเจ้า) ปิติที่ได้จากอรูปฌานนี้ มีความละเอียดอ่อนพิถีพิถันปลอดโปร่งและชุ่มเย็นในจิตใจยิ่งนัก คุณภาพของปิติ จะมีความสูงส่งเหนือกว่าปิติที่ได้จากรูปฌาน รูปฌานก็คือ การปล่อยวางระบบความคิดความดิ้นรนความฟุ้งซ่านทั้งหมด ด้วยการเพ่งจิตไว้กับวัตถุหรือที่ลมหายใจ แล้วจึงเกิดสภาวะรูปฌานขึ้นมา จะเห็นว่า การปักใจเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ทำให้เกิดภาวะการเข้าสู่อรูปฌานได้อย่างอัตโนมัติ แต่สำหรับชาวพุทธเป็นไง ไม่ว่าจะเป็นรูปฌานหรืออรูปฌาน ล้วนเข้าได้อย่างยากเย็นแสนเข็ญ แต่หากปัญญาและวิริยะแก่กล้าพอ จึงจะเข้าได้อย่างง่ายดาย.........แท้จริงฌานก็คือสภาวะของจิตที่มีความแน่วแน่จนรวมเป็นหนึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปฌานหรืออรูปฌานก็แล้วแต่ มันมีคุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือมันจะเกิดศีลขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามธรรมชาติ เกิดเส้นแบ่งแยกขึ้นในจิตใจว่า ความคิดคำพูดและการกระทำใดบ้าง ที่จะนำไปสู่ความสงบเย็นของชีวิต หรือนำไปสู่ความเดือดร้อนของชีวิต เท่านี้ท่านผู้อ่าน ก็คงจะเกิดความเข้าใจในเชิงลึกได้พอสมควรแล้วนะครับ ว่าทางศาสนาคริสต์และพุทธ ก็ล้วนไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแต่ต่างวิธีการเท่านั้น แนวพุทธเหมือนกินยาขม แนวคิด เหมือนกินยาเคลือบน้ำตาลครับ ...จาก "ชายผู้ถูกผีเจาะปาก"
สุดท้ายก็เหมือนเดิมแค่คน 2 คนไม่นับถือศาสนาคุยกัน
คนพุทธชอบอ้างว่ามีแต่ความจริงไม่มีความเชื่อ โถ่ๆๆ การที่พุทธเชื่อว่าคนทำผิดชาตินี้ต้องไปใช้กรรมชาติหน้าหรือแม้กระทั่งนิพานมันไม่ได้เป็นความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้โดยประจักษ์ มันเป็นความเชื่อทั้งนั้นแหละ 😊
และชาวอื่นๆละ หนักกว่ามั้ง
ผมเคยดาวมากๆจนไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว แต่ที่พึ่งที่ทำให้ผมคิดที่จะลองมีชีวิตต่อไปของผมไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นพ่อ - แม่
@@Plovdiv69 พ่อ เเม่ นับถือ ศาสนา พุทธ คุนจะไร้ ศาสนาได้ยังไง
ก่อนที่จะเรียกหรือการสื่อสาร คำว่า "พระ" ต้องทำความเข้าใจสิ่งเรียกสื่อสารว่า " มาจากเหตุอะไรบ้างคือ
1.เป็นใส้ศึก=ปลอมตัวมา และถูกจ้างมีผลประโยชน์
2.ลูกชาวบ้าน คือเข้ามาเพราะ ความเชื่อหรือพิธีกรรม แลเสดาะเคราะห์
3.สมมุติสงฆ์ คือตั้งใจดี เพื่อค้นหาและทำความรู้จักใน ขั้นตอนต่าง ๆในการเรียนรู้ความจริง
4.พระ(ความประเสริฐ) คือ จิตวิญญาณ พร้อมเดินทางไปสู่ ภพ ภูมิที่ดี ไม่มีความผิดพลาดและไม่ทำชั่วอีกแล้ว " พระที่ไม่ดีไม่หรอก แต่คนที่ไม่ดีต่างหากมาอยู่ในรูปแบบของ(สมมุติสงฆ์ แต่ไม่ใช่พระ)
#เพราะฉะนั้นเราไม่เข้าใจในภาษาจึงหลงไปตำหนิพระจนสร้างวิบากกรรมและความเร้าร้อนให้กับใจตัวเอง
"ขอให้โชคดีกับความคิดดีดี ที่จะสร้างให้กับสวรรค์ในอก นรกในใจ"
#ไม่มีใครทำร้ายจิตใจตนเองเท่ากับการบริหารความคิดความรู้สึกไม่เป็น
มึงสองคนเนี่ยดีสุดแล้ว ถูกสุดแล้ว เก่งสุดแล้ว เจ๋งแล้วๆ ทำต่อไปนะ โคตรเท่เลย เกิดมาก็ใช้ชีวิตไปแบบนี้แหละดี
@@นอนแมวโชว์ พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์เหมือนกับเรา ต้องเกิดแก่เจ็บตาย พระพุทธเจ้าให้ผลบุญใครไม่ได้ ยังมีผู้ที่เหนือกว่าพระพุทธเจ้า ผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิต ผู้ที่สร้างโลกสร้างจักรวาลเป็นเจ้าของสวรรค์เจ้าของนรก
มัน2คนจะทำให้คนอื่นที่รูปร่างหน้าตาคล้ายมันพลอยซวยไปด้วย ถ้ามันยังไลฟ์ล้อเล่นกับความศรัทธาของคนที่เขารักในศาสนาของเขา ถ้ามันยังไลฟ์เกี่ยวกับศาสนาแบบนี้ไปเรื่อยๆมันจบไม่สวยแน่
มึงวางกระป๋องกาวก่อน5555@@Son-e5i
@@NewWen-i2tเย็ดเข้ๆๆคนพุธเป็นงี้ทุกคนเลยไหมครับ
อย่าโชว์เอ๋อครับ เขาไม่เคยบอกว่าความเห็นถูก เป็นแค่กานวิเคราห์ดีเบตในความคิดส่วนตัวครับ อินเตอร์เน็ตมีหัดแยกแยะครับผม
ในมุมมองของผมผมมองแบบพี่บ่วง ว่ามันไม่มีหลักฐาน แต่ผมคิดว่ามันน่าจะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองจัดการไปลองบวชหรือลองศึกษาอย่างจริงจังเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ผมไม่ชอบที่พี่บ่วงพูดเหมือนไม่ให้เกียรติศาสนา ผมก็ไม่รู้น่าจะเป็นคาแรคเตอร์พี่
เป็นคาแรคเตอร์พี่เขาครับ ถ้าติดตามมานานก็จะรู้ครับว่าตอนไหนปั่นตอนไหนจริงจัง ส่วนเรื่องพิสูจน์ด้วยตัวเองนี่ ต้องเข้าใจก่อนครับว่า สิ่งที่พี่บ่วงไม่เชื่อส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติ หรือหลักธรรมคำสอนที่มันใช้ไม่ได้กับสมัยนี้ครับ แล้วหน้าที่การพิสูจน์ความจริง มันก็ควรเป็นหน้าที่ของคนที่เชื่อครับ เพราะพี่บ่วงมีความคิดของตัวเองอยู่แล้ว แถมพอพี่บ่วงพยายามจะถามหาข้อพิสูจน์จากคนที่เชื่อ เหตุผลที่พวกเขาให้มามันก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล มันก็เลยทำให้ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่
จริงๆแล้วครที่ไม่มีศาสนา มีศาสนาครับ ฝรั่งเรียกว่า Humanism หรือมนุษย์นิยม เป็นความเชื่อแบบมนุษย์ธรรมดานี่แหล่ะครับ
ก็ไอ้ที่ว่าพี่ไม่ได้พึ่งศาสนาเวลาพี่เจอปัญหาในชีวิตพี่”พึ่งตัวเอง“ และคนรอบตัวพี่ ผมว่านั่นแหละแก่นของศาสนาพุทธ คือการพึ่งตนเอง ซึ่งพี่ไม่ต้องนับถือศาสนาพุทธก็สามารถทำได้เพราะมันเป็น สิ่งพื้นฐานที่มนุษย์พึงจะปฎิบัติเป็นเรื่องธรรมดา หรืออีกคำหนึ่งคือคำว่า ศีล ซึ่งมันหมายถึง ปรกติธรรมดา ซึ่งการใช้ชีวิตให้มันปรกติ ตามเหตุตามผลนั่นแหละ แต่พี่ไม่ต้องนับถือเพื่อปฏิบัติมันไงทุกคนสามารถรู้ด้วยตัวเอง, มันไม่ได้แฟนตาซีอะไรหรอกครับ, ส่วนเรื่องนั่งสมาธิมันก็เป็นการปฏิบัติเพื่อเรียนรู้จิตใจตนเอง แต่ถ้ามันเลยไปกว่านั้นมันจะถึงขั้นเหยียบเข้าไปในเรื่องของความเชื่อแล้ว เพราะผมเองก็ไม่รู้ผมไม่ทำถึงขนาดนั้น ก็เพราะต้องทำถึงจะรู้เอง และสุดท้ายแล้ว ศาสนาพุทธขั้นง่ายเหมาะกับการใช้ชีวิตก็แค่เป็นการ จัดเรียงพฤติกรรมลงไปว่าควรทำอะไรให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นแค่นั้น แต่ถ้าอยากไปขั้นกว่าก็ทำวิปัสสนาอะไรก็ว่าไปซึ่งในส่วนนี้ต้องทำเองถึงจะรู้ว่าจริงหรือไม่ แค่นั้นเอง #ขาจรครับผม😊
จริงครับ
พุทธศาสนา คือ ศาสนาของchill guy แต่คนไทยส่วนใหญ่ที่นับถือแม่งไม่ชิลเหมือนguyผู้เป็นศาสดามันเลยทำให้คนรุ่นใหม่ๆแม่งเลิกเชื่อในศาสนานี้ พุทธในไทยทุกวันนี้ไม่ได้ถูกสอนในแบบที่ควรจะเป็นแต่ทุกวันนี้เหมือนขายฝันกับยัดเยียดให้คนมันเชื่อแถมไปเอาความเชื่อจากพราหมณ์มารวมยำมั่วเข้าไปอีกเลอะเทอะไปใหญ่เลยทีนี้
พุทธะเป็นคนที่แหวกทางด้วยตัวเองแล้วไปถึงจุดหมายพุทธะเลยเอาทางที่ตัวเองแหวกมาบอกต่อให้คนอื่นฟังว่ามีทางอยู่ตรงนี้นะถ้าเดินตามไปก็จะไปถึงแต่มันก็อยู่ที่คนฟังแล้วว่าจะเดินตามทางที่พุทธะแหวกไว้หรือจะแหวกทางใหม่เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย แต่ทางที่พุทธะแหวกแม่งอาจจะยาวจนคนที่เดินตามถอดใจแล้วก็หลงมั่วเมากับทิวทัศน์ข้างทางจนไปไม่ถึงจุดหมาย ความเห็นส่วนตัวนะผมคิดว่าพุทธจริงๆแล้วไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งอย่างอื่นที่ว่าคืออะไรผมเองก็ยังไม่รู้ ทำได้แค่ศึกษาไปเรื่อยๆ แต่ก็หวังนะว่าสักวันจะรู้✌️🙏🏼
เห็นด้วยทุกประการ
@@kingcrimson3327in the court of the crimson king‼️‼️
คุณบิ๊กดูเป็นปัญญาชนกว่าแขกรับเชิญ (เอ๊ะ? หรือกลับกัน) มากเลยครับ 555555
คุณบ่วงดูจะยึดแต่ความคิดและมุมมองของตัวเอง แบบที่ไม่เปิดใจแม้แต่จะรับฟังข้อมูลอะไรเลยด้วยซ้ำไป
ที่เข้าดีเบตไปฟัง อาจจะแค่อยากไปนั่งตัดสินคนในแสงจาก safe zone ของตัวเองเฉย ๆ เพื่อสำเร็จความใคร่ทางจริยธรรมให้กับตัวเอง (จากมุมมองของผมอะนะ)
ถ้าอยากพิสูจน์พุทธลองทำ อานาปานสติ เเบบถูกต้องสัก 7 วัน หรือ 7 สัปดาห์ ดูครับ นี่คือการพิสูจน์ศาสนาพุทธ เหมือนที่2คนยกตัวอย่างเลยว่าถ้ามีพระเจ้าอยู่ต่อหน้าก็จะเชื่อ อันนี้ก็เหมือนกันเเต่จะต่างตรงที่ว่า จะไม่เห็นพระพุทธเจ้าต่อหน้าหรอก เเต่จะเห็นเลยว่าคำสอนของพุทธ เรื่องขันธ์ วิญญาณ มันมีจริง เกิดความคิดจิตเข้าไปยึดเเล้วเอามาปรุงเเต่ง มันมีจริงครับ ของเเบบนี้คือ ปัจตัง รู้ได้เฉพาะตน ต้องทำด้วยตนจึงรู้ด้วยตน อันนี้คือวิธีที่ผมพิสูจน์พุทธเหมือนกันครับ ดีกว่าการดีเบตเยอะ เพราะมันสามารถทำให้เห็นกับตัวเองได้เลย หลังจากผมทำได้ไม่ถึงเดือนผมหันมานับถือพุทธสุดใจเลย จากเเต่ก่อนที่หันหน้าหนีมาตลอด ผมชื่นชอบ2คนมากนะครับที่พยายามเอาเหตุผลมาถถกันเรื่องความเชื่อ เพราะมันเหนื่อยเเละปวดหัวมาก ติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆนะครับ
แชทเคยบอกให้แกลองไปปฎิบัติแกบอกต้องทำขนาดไหนถึงต้องเจอ แต่แกไม่ทำนะ คำถามแกเลยเยอะแบบนี้ เหมือนแกอยากรู้คำตอบแต่แกไม่ลองหาวิธีทำว่ามันมายังไง
พอทำละไม่เห็นผลก็อ้างอีกว่าคุณทำแบบไม่ถูกต้องเลยไม่เข้าใจ ถ้าพิสูจน์ได้จริงต้องมีmethodและทำซ้ำได้ เอาแค่methodชาวพุทธแต่ละคนยังพูดไม่ตรงกันเลย
@@santa9699 การปฎิบัติมันมีหลายวิธีครับจึงมีคนทำไม่เหมือนกัน เเละสามารถทำซํ้าได้โดยไม่สงสัยถ้าเราทำถูกต้อง คำถามคือจะรู้ได้ไงว่าเราทำถูกต้อง เรื่องนี้เป็น ปัจตังครับ ผมอธิบายไม่ได้ปัญญายังไม่เท่าพระหลายท่านที่เก่งๆ เเต่ถ้าเราทำเเล้วเห็นความคิดเกิดดับ เห็นการที่เราไปให้ค่าความคิด นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน เเล้วโมโหน้อยลง กิเลสน้อยลง มีสติมากขึ้นอันนั้นก็จะสามารถรู้ได้เฉพาะตนว่าทำถูกเเล้ว ขอบคุณที่มาสนทนาด้วยะครับ
@@santa9699 เพราะว่า การปฎิบัติมีหลายเเบบครับจึงมีการเเนะนำที่ต่างกัน เเละถ้าปฎิบัติถูกก็จะทำซํ้าได้ครับเเละถามว่า จะรู้ได้ยังไงว่าปฎิบัติถูก ก็คือ เราจะเริ่มเห็นความคิดเกิดดับครับ เริ่มรู้ทันความคิด รู้ว่ากำลังจะคิดเพื่อหยุดคิดเเบบนี้ครับ เเละจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ กิเลสจะน้อยลง จะเริ่มหยุดความคิดเเย่ๆที่ผุดมาในหัวได้ครับ ส่วนว่าเเล้วจะทำยังไงถึงจะรู้ว่าปฎิบัติถูกตั้งเเต่เเรก อันนี้ต้องอาศัยตัวเราครับ ต้องศึกษาคริปจากพระหลายๆท่าน คนสอนธรรมหลายๆคน จนนำเอาวิธีที่ได้มาจากการ
ดูเเละฟังมาปฎิบัติเอง เพราะว่าเวลาปฎิบัติมันเป็น เรื่องที่ละเอียดมากจนยากจะอธิบายผมเขลาจึงบอกไม่ได้ต้อง ไปดูคริปที่พระอาจารย์หลายๆท่านบอกว่า การปฎิบัติที่ถูกคืออะไร กำหนดลมยังไง อาการหลงคืออะไร เอาครับ ถ้าพิมพ์ผิดหรืองงตรงไหนขอโทษด้วยนะครับ
@@UlPAKEYผมเข้าใจพี่บ่วงนะครับ เพราะว่าเขาก็เคยปฏิบัติจริงๆเป็นเวลา เท่าไหร่ผมจำไม่ได้อาจะเป็นเดือน แต่ยังไม่เห็นผล คำถามคือ ผมไม่รู้ว่าตอนนั้น แกปฏิบัติเพื่ออะไรและ ทำแบบไหน ภาวนา พุทธ อยู่กับลมหายใจ หรือยังไง แต่เท่าที่ฟังมาแกน่าจะ อยู่ กับลมหายใจ การอยู่กับลมหายใจมันคือการมีสติอยู่กับลม ถ้า เกิดความคิดขึ้นมาก็จะกลับมาอยู่กับลม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจะ เริ่มมีสติรู้ทันความคิด จะเริ่มเห็นว่าความคิดไม่ใช่ตัวของเรา มันเป็นแค่ธรรมชาติของขันธ์ เมื่อรู้แบบนี้สำหรับผมคือเห็น ผลแล้วว่า ปฏิบัติได้ผลครับ ถ้าข้อมูลผิดหรือผิดไม่รู้เรื่องขอ โทษด้วยะครับ
ผมเป็นหนึ่งที่แอนตี้ต่อศาสนามาหลายปีกมากทุก ศาสนา จนได้ฟังพุทธวจน ถึงเข้าใจใคร่ควรและรู้สึกศรัทธาเป็นอย่างมากและชื่อเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้พึ่งธรรมตอนทุกข์ หรือมีปัญหาชีวิต แต่ฟังแต่เชื่อแต่ศรัทธาเพราะเมื่อปฏิบัติตามแล้วเป็นสุกข์ ทุกข์น้อย ปล่อยวางได้ไว ใจสงบ
วางเรื่องเหนือธรรมชาติทิ้งก่อน
พุทธ ควรมานับถือ เพราะนำคำสอนไปพิจารณา ว่ามันจริงไหม ทำแล้วดีจริงไหม พิสูจน์แล้ว จึงขอบคุณสักการะผู้สอน
พุทธสอนให้รู้จักทุกข์ มองเห็นทุกข์ และสอนวิธีออกจากทุกข์ … ที่พุทธ ไม่เริ่มสอนเรื่องรัก เพราะรักนั้นก็เป็นทุกข์ และพุทธก็ไม่ได้สอนให้มนุษย์ไม่มีความรัก ถ้าเข้าใจได้ทั้งหมดจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
จุดอ่อนที่ผมคิด การเข้าใจทั้งหมดเป็นเรื่องยากสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ทำให้เมื่อพยามลองแล้วกลายเป็นหาความสุขไม่เจออึดอัดจากการระงับความอยากได้อยากมี มองไม่เห็นว่าความอยากนั้นเป็นทุกข์
คริส สอนให้รัก รักที่สุดหมดใจ รักแล้วเราจะยอมได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อคนที่เรารัก และความรักก็จะเป็นพลังในการมีชีวิตด้วย
จุดอ่อนที่คิด ความรักแบบนี้เมื่อเจอสังคมที่แตกต่างมากๆเข้าคนบางส่วน จิตใจเขาจะเปราะบางหัวใจเขาเข้ากับสังคมอื่นไม่ได้กลายเป็นคนเงียบๆ จะพูดได้ก็แค่กับกลุ่มตนเอง และพอเมื่อเจอเรื่องร้ายมากๆ ความรักที่มันมากทฝพอมันแตกมันจะสาหัสตามไปด้วย
ถ้าคุณจะเชื่อ โดยต้องพิสูจน์ให้เห็นได้ ก็ไม่ได้เรียกว่า "ความเชื่อ" แล้ว และการดำเนินชีวิตโดยไม่ใช้ความเชื่อเลย เป็นไปไม่ได้ หรือหากจะให้เป็นไปได้ คุณต้องลำบากมาก เพราะจะทำอะไร ต้องพิสูจน์ทุกเรื่อง
แบบของคุณ2คนก็เป็นแค่ความเชื่ออีกแบบนึงเหมือนกันครับ คิดว่าเชื่อแบบนี้แล้วจะดูเท่ดูคลูดูทันสมัย มีไว้ดูถูกพวกที่เชื่อแบบเก่าๆว่าดูเป็นพวกล้าหลังไม่ค่อยฉลาด พวกกูฉลาดมีเหตุผลกว่าประมาณนั้น
อืม....ก็จริงนะ
ผมเข้าใจและว่าคนสมัยก่อนที่หลงกำพืชเป็นยังไง
จริงครับ
เม้นนี้พูดดี และ มีเหตุผล
อยากเม้นนะ แต่ก็ไม่อยากยุ่งกับ พวกไร้ศาสนา
พี่บ่วงต้องศึกษาเรื่อง จิต มโน วิญญาน ตามหลักศาสนาพุทธดูครับ สนุกมาก ว่ามันไม่ใช่เรา ไม่ได้เป็นเรา ไม่ได้เป็นของๆเราจริงๆยังไง เเล้วพี่บ่วงจะเจอหลักฐานจริงๆด้วยตนเองครับพี่
พี่บ่วงพึ่งตนเอง เยี่ยมมากเเล้วครับ อันนี้คือหัวใจของศาสนาพุทธเลย พึ่งตนเอง พึ่งธรรม
จารบว่งคุณอยู่ในสังคมแบบนี้คุณก็คิดแบบนี้ คุณต้องคิดให้มาก เราอยู่ในสังคม แห่งความหลากหลาย ทั้งศาสนา ชนชั้น
งั้นคุณก็ต้องยอมรับให้ได้เหมือนกันครับ คุณก็ต้องคิดให้มากมองให้กว้าง
ศาสนา = ธุรกิจปลอบใจคนโง่ 😂
สังคมต้องมีคนแบบพวกคุณนี่และคือสีสันความแตกต่าง ความคิดมีย้อนแย้งในมิติมุมมองดีครับ ทำต่อไปน่ะ ให้กำลังใจครับ พวกคุณคือ ซุปเปอร์โนวิทอย่างแท้จริง😂
เมื่อมีทุกข์ชีวิตต้องหาที่พึ่ง คนคิดว่าทำดีต้องได้ดี ทำดีต้องได้ผลของการทำดี คิดว่าคิดอะไรต้องได้ตามความพอใจของตน ทุกอย่างเกิดเพราะเหตุปัจจัย ดับเพราะเหตุปัจจัย
ผมขาจรที่บังเอิญเข้ามาฟังนะครับ ส่วนตัวเป็นพุทธและนับถือคำสอนพระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้เชื่อปาฏิหาริย์อะไรของพระพุทธเจ้าที่เขาเล่าต่อๆกันมา ผมเชื่อแค่คำสอนที่มันมีเหตุมีผลในความจริงแค่นั้นครับ 🙏🏻
ที่ว่าพุทธเหงาน่ะ คุณขบปัญปัญหาไม่แตก
นั่นเป็นวิถี ของผู้เห็นทุกข์ ต้องทำลายกิเลสตน ทำลายตัญหา คือ กาม ความหยาก และความไม่หยาก
ความจริงเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำให้ปรากฎ
ส่วนความเหงา เป็นสิ่งที่คนมองคิด และ ความจริงเป็นสิ่งที่คนมองเห็น
สรุปคือ คุณยังมองไม่เห็น ทั้งที่อ.เบียร์ก็พูดด้วยเหตุผลตลอด แต่อีกฝ่าย พูดถึงความรักด้วยความเชื่อ
มันสามารถบรรลุใด้จริงๆ ลองฝึกสมาธิดูครับ ฝึกไม่โกรธไม่เกลียดก่อนก็ใด้ พอไม่โกดไม่เกลียดก็ไม่พูดสิ่งที่ไม่ดีออกมา ชีวิตจริงทำใด้แค่นี้ก็มีความสุขง่ายๆใด้ครับ เหมือนกลับไปเป็นเด็กที่มีความสุขกับอะไรง่ายๆ
ช่ายครับ
ฝึกทางพุทธ จะไม่สุขไม่ทุกข์ แต่จิตใจ เย็นสบายครับ😊
แล้วคุณบรรบุได้ยังคะ ถ้าบรรลุแล้วถ่ายคลิปลงหน่อยได้มั้ยเพราะถ้าบรรลุแล้วแปลว่าไม่ยึดติดกับภพภูมิใดๆ คุณสามารถไปสวรรคได้เลยตอนนี้ไปถ่ายคลิปในนั้นหน่อยค่ะ แต่ถ้าไม่แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าทำไปแบ้วจะบรรลุ รุ้ได้ไงว่าบรรลุมีจริง
ฝึกรู้เนื้อรู้ตัวครับ ไม่ใช่ใช่ไม่โกรธไม่เกลียด
ตัวโกรธตัวเกลียดถ้าผุดขึ้นมาก็กำหนดรู้ที่ตัวนั้น
@@สู้ต่อไปชาวไทบรรลุในที่นี้เค้าไม่ได้จะเหาะได้ครับอย่าหลงประเด็น เเต่เค้าจะตื่นรู้ในความจริงของโลก ปล้วมองโลกตามความเป็นจริงว่า การเกิดแก่เจ็บตาย "เป็นเรื่องธรรมดา" อย่ายึดติด คิดถึงโทษให้เยอะๆ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา ถ้าไม่เชื่อ คุณจะจุดเทียนครับ แล้วปล่อยมันไว้ มันจะตั้งอยู่สักพัก แล้วมันก็จะดับลงไปเป็นธรรมดา
ผมพุทธนะแต่เสื่อมศรัทธาจนทำตัวเองเป็นคนไม่มีศาสนาอยู่หลายปี(เลิกสวดมนต์ไหว้พระแต่ยังนั่งสมาธิเพราะช่วยอาการแพนิคที่เป็นอยู่จนปัจจุบันเลิกกินยา) ยอมรับว่าไม่ไหวจริงๆ แต่การมาของ อ.เบียร์ ทำให้เริ่มกลับมาทางพุทธอีกครั้งด้วยเหตุและผลที่เข้าใจง่าย รู้สึกว่าโชคดีที่มีคนมาแจกแจงให้เข้าใจ ส่วนศาสนาอื่นๆไม่ขอพูดถึง ในส่วนการไม่มีศาสนาช่วงนึงของผมบอกตรงๆว่ารู้สึกตัวเองฉลาดนับถือเหตุและะผลเท่านั้นแต่นานวันมันยิ่งดูว่างเปล่า มันเหมือนเราเริ่มเดินไปที่จุดหมายแล้วไม่รู้ว่าจบจริงหรือต้องวนอีกกีรอบ การมีจุดหมายโดยการออกจากการวนเวียน(นิพพาน)ก็เป็นอะไรที่เกิดมาแล้วชาตินึงต้องลอง สุดท้ายไม่ว่าตายแล้วจะเกิดใหม่หรือตายไปตลอดกาลก็ไม่มีใครที่อยู่ตรงนี้รู้และหาข้อพิสูจน์ได้ ดังนั้นผมคงไม่รอมานั่งลุ้นเอาตอนจบว่าจะวนไหมวะ ผมขอเดินชีวิตไปควบคู่ทั้งทางโลกและทางธรรมสบายใจดี ไม่เดือดไม่ร้อนมีแต่ได้กับได้ เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่รู้สึกว่าพลาดอะไรไป
เปลี่ยนชื่อคลิป จากวิเคราะห์ดีเบต เป็นวิจารณ์ดีเบต น่าจะถูกต้องกว่าครับ
1.ถ้าวิเคราะห์ ควรวิเคราะห์เรื่องดีเบต คำพูด เหตุ ผล ของผู้ดีเบตแต่ละฝ่าย โดยใช้หลักการที่ตนได้ศึกษามาอย่างละเอียดทั้งในข้อมูลรายละเอียดของศาสนาพุทธหรือคริส เป็นตัววัด และวิเคราะห์ สรุป โดยปราศจากความเชื่อของผู้วิเคราะห์
2.ถ้าวิจารณ์ ก็ตามคลิปเลยครับ ดูดีเบตมาแล้วก็เอาเหตุการณ์ เอาถ้อยคำดีเบตมาพิจารณากัน และวิจารณ์โดยเอาหลักความเชื่อของตนมาเป็นตัววัดว่าใครพูดอะไรยังไงมีตรรกะไม่มีตรรกะ แล้วก็สรุปในแบบมุมมองของผู้วิจารณ์เอง
ถ้าพี่ทั้งสองคนดูการดีเบต แล้วมาทำคลิปนี้ โดยเรียกคลิปนี้ว่าเป็นการวิเคราะห์ งั้นผมขอวิเคราะห์คลิปนี้แบบสั้นๆนะครับ ว่าคลิปนี้ทำให้ผมวิเคราะได้ว่า
ข้อแรก.ควรชื่นชมอาจารย์เบียร์ที่ออกมาพูดมาสอนธรรมโดยมีเจตนาบอกสอนคำสอนพระพุทธเจ้าซึ่งคนที่รับชมรับฟังก็ได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยแล้วแต่สติปัญญาผู้ฟัง
ข้อสอง.ควรชื่นชมอาจารย์แชมป์ที่กล้าออกมาดีเบตแลกเปลี่ยนกับอาจารย์เบียร์แม้ถ้อยคำ เหตุผลต่างๆที่ได้พูดผ่านการดีเบตนั้น ส่วนตัวผมให้ 0 แต่ก็ยังชื่อชมในความกล้าที่จะออกมาพุดคุยแบบตรงๆแม้ลึกๆแล้วอาจจะหวังประโยชน์หรือคอนเทนต์อย่างใดหรือไม่ก็ตาม แต่ก็กล้าที่จะออกมาเปิดหน้าตรงๆ โดยไม่เอาคำว่าวิเคราะห์วิจารย์อะไรก็ตามมาเป็นโล่เป็นเกราะป้องกันตัว แบบนี้ถือควรชื่นชม
สรุป
คลิปนี้ตามที่พี่บ่วงสรุปตอนท้ายเลยครับที่บอกว่าอยากให้มีดีเบตอีก เพราะจะได้มีคอนเทนต์ อันนี้ตรงดี แต่ถ้าให้ดีกว่านี้เข้าเป็นผู้ดีเบตเองดีกว่าครับแล้วจะทำคอนเทนต์อะไรตามสบายเลย 😂😂
ทุกสรรพสิ่งเกิดมาจากเหตุและปัจจัย - เรามีชีวิตอยู่เพราะเหตุปัจจัย เราตายเพราะเหตุปัจจัย (เหมือนฝนที่ตกลงมาเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็หยุดตกเพราะเหตุปัจจัย)
---
พระเจ้า(สำหรับเรา) = ธรรมชาติ ซึ่ง ไม่เคยให้อะไรเลย(ความอบอุ่น, ความรัก, ความเห็นอกเห็นใจ(ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมาเองจากการอยู่กันเป็นสังคม)
---
*ธรรมชาติ* มีให้แค่เหตุและปัจจัยเท่านั้น ไม่มีอํานาจหรืออิทธิฤทธิ์อะไร แค่จากเหตุและปัจจัยจึงออกมาเป็นผลอย่างนั้น (ท่านคิดว่า ผิดหรือถูกอย่างไร ?)
ไม่นับถือศาสนาก็ไม่เป็นไร แต่เคยรู้จักตัวเองดีแค่ไหน รู้จักจิตตัวเองแบบไหน จะนำพาจิตไปแบบได เมื่อเกิดทุกข์กับตัวและญาติ หรือคนที่เธอรัก จะปฏิบัติตัวแบบไดกับคนที่เธอโกรธเกลียด ชิงชังอาฆาต เธอเคยชนะคนอื่นมากมาย เธอเคยชนะใจตัวเองหรือยัง ถ้ายังเธอจะหยิบแนวทางแบบไหนมา นำทางชีวิตแนวคิดเธอ หรือเธอจะหายใจถิ่มสื่อๆ โดยไร้จุดยึดสติปัญญาเธอจ๊ะพ่อคุณ
@@บ้านบ้านการเกษตร มัน นับถือ พุทธ
อันนั้นเรื่องของเขาครับ ตอนเขาทุกข์เขาจะผ่านไปได้ยังไง จะเอาไรยึดเหนี่ยวก็เรื่องของเขาครับ เขาไม่มีศาสนาถ้าคุณมีก็แค่รับฟัง แล้วก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต ไม่ต้องไปสอน ไปเหยียดเขาครับ ไม่ต้องไปโชว์ภูมิ มันดูตลก
อันนี้ความเชื่อส่วนตัวนะ : ที่เราศรัทธา และนับถือศาสนาคริสต์เตียน เพราะศาสนาอื่น ที่ต้องทำพิธียุ่งยาก คำสอนที่เข้าใจยาก เพราะ ไม่มีการแปลให้คนเข้าใจหลักคำสอนจริงๆ แต่มีแค่ศาสนาคริสต์ที่ พูดถึงความรักการสอนให้มีการใช้ชีวิตที่ดี ส่วนเรื่องดีเบตนั้น : ถ้ามุมชาวคริสต์จะมองว่า อ.แชมป์ได้ของประทานทางการประกาศ กับ การรักษาโรค (อันนี้ความเชื่อของบุคคล) ซึ่งอาจจะไม่เก่งการด้านการตอบแบบนี้เท่าไร ส่วนอ.เบียร์ เดิมทีก็นับถือคริสต์ แต่ก็ยังมีการไปดูดวงให้คนอื่น เปรียบเสมือนยังหาตัวตนเองมากกว่า จนถึงเจอตัวตนของเขา แค่นี้เอง สำหรับเรามองว่า พุทธ คริสต์อิสลามดีหมดแหละ ที่สอนให้เป็นคนดี แต่สิ่งที่ให้เราเชื่อและศรัทธาคือ ประสบการ์ณที่ประสบเจอกับตัวเรามากกว่า ไม่ว่าคนนับถือ คริสต์ พุทธ อิสลาม
ถ้าอยากให้มีดีเบตอีก อยากให้ตัดเรื่องก่อนเกิดกับหลังตายออก เพราะยังไงก็ตรวจสอบได้ยาก แต่ให้มาเน้นตอนอยู่ ว่าเจอปัญหา ในวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือแก่ชรา จะปัญหาเรื่องเงิน การงาน ครอบครัว ความรัก แต่ละศาสนาจะให้วิธีในการช่วยยังไง ใครที่ชอบ วิธีไหนใช่ต่อเราก็จะได้หยิบจับไปใช้ หรือเปิดแง่มุมใหม่ๆในการมองปัญหาที่พบ 🤔
ศาสนา หมายถึงคำสอน คนไม่มีศาสนาคือคนที่ไม่มีใครสอนใช่ใหม.พ่อ แม่ ครู ก็เป็นศาสดาของคุณ ทุกคนมีศาสดาก็เท่ากับมีการนับถือศาสนา
คนเราไม่จำเป็นต้อง นับถือศาสนาก็ได้คับ แต่จำเป็นต้องมีศาสนา. ไม่งั้น คุณคงต้องฝังตัวคุณเอง ญาติๆ คุณที่สวนหลังบ้าน ก็เท่ดีเหมือนกันนะ 555+. ส่วนตัวเวลาคิดเรื่องที่ต้องใช้เหตุผลก็คิดตามหลักพุทธ. แต่บางเรื่องที่ใช้เป็นกำลังใจ ก็นับถือพวกเหนือธรรมชาตินี่แหละ. [อารมณ์เหมือนคิดในใจ ยกมือไหว้พระ ขอให้พรุ้งนี้ ทำงานสบายๆ]
ใช้หลักอะไรในการดำเนินชีวิต ถ้าใช้หลัก พึ่งตนเอง เชื่อในตนเอง นี่เขินเลยนะ พระพุทธเจ้าสอนไว้ 2600 ปีแล้วนะ
@@อับราฮัมลินคอล์น-อ8จ ผมอายเเท้ พูดมาได้ยังไงไม่มี ศาสนา
สำหรับเรา พุทธทำให้เรามีหลักที่มั่นคงทางใจ มีคำสอนที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากมายที่เอาไปใช้ได้ พิจารณาคนได้มากขึ้น หูเบาน้อยลง ไม่เชื่อตามคนนั้นคนนี้ไปทั่ว
คุณอาจจะไม่ได้ยุ่งกับศาสนาแต่คุณใช้ขีวิตในแบบคำสอนพระพุทธเจ้าชีวิตก้ออยู่กับความจริงใรปัจจุบันและไม่ต้องพึ่งใคร พุทธเจ้าไม่ใช่ศาสนา ศาสนาคือสิ่งสมมุติ คำสอนที่เนื้อหาของท่านลองนำไปใช้และเข้าใจ คำสอนของ พระเจ้าอยู่ในตัวคุณทุกคนไม่ว่านับถือศาสนาใด
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เชื่อ แตสอนสัจจะ ความจริงที่มีอยู่ ไม่ได้โน้มน้าวให้เชื่อ แต่ให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง พระธรรมคำสอนเป็นเพียงเครื่องมือแนวทาง ถ้าพิสูจน์แล้วไม่เป็นตามนั้นก็หยุด
มีคนไม่นับถือศาสนาเป็นซึมเศร้าหันกลับมาปฏิบัติพุทธฟังจารย์เบียร์แล้วอาการซึมเศร้าดีขึ้นหันพึ่งตนพึ่งธรรมอันนี้ตอบโจทย์อะไรดี
ธรรมะพุทธเจ้าไม่มีคำปลอบใจ มีแต่ธรรมชาติตามความเป็นจริงที่ต้องยอมรับมัน การที่พวกพุทธหันไปนับถือผีสางเทวดาเพราะพวกนี้ไม่ได้รับการศึกษาคำสอนศาสนาที่ถูกต้องต่างหาก
ใครจะวิจารน์ยังไงแต่สำหรับผมดั่งคำตรัสไว้จริงๆบัวใต้ตมแยกเหล่าประเภทของคนทรงตรัสใว่หมดแล้วศาสนาจะอยู่ใด้ไม่ใด้ก็อยู่ที่ปราช์ทั่งหลายคิดและไต่ตรองเป็นเราไม่ต้องไปแสเงความคิเห็นอะไรมากมายหรอกบ้านเมืองมีกฏกมายพระพุทธจ้าวทรงตรัสไว้แล้วถ้าไม่มีกฏกมายคนก็จะฆ่ากันโลกก็จะเกิดความวิปโยคคนผิดก็ให้กฏหมายจัดการในการพูดผิดถูกเหยีดหยาม.เพื่ออะไรเพื่อความสงบสูข.ของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย.ง่ายๆ
ฟังสองคนพูด ❌
มองทรงผม ✔️
มันไม่ใช่ข้อเสีย แต่เป้นทางเลือกของคน
ในความเชื่อของคริสเตียนบางส่วน การวางมือรักษาโรค วางมืออิทธิฤทธิ์บ้าบอนั่น มันเป็นอาการของความหลอนไปเอง เพราะเข้าใจพระคัมภีร์ผิดๆ
ผมชอบที่คุณพูดว่า คริสเตียนที่เลิกเป็นคริสเตียนเพราะ อ แชมป์ ทั้งๆเป็นมา 15 ปี " คนพวกนี้ไม่ได้เป็นคริสเตียนมาตั้งแต่แรก " มันใช่เลย ❤❤
อีกเรื่องนะครับ ผมคิดว่า ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ๆลๆ ศาสนาพวกนี้มาจากคนคิดขึ้นกันเอง
พระเจ้า (ถ้ามีนะ) มีก่อนมนุษย์แน่นอน แต่มนุษย์ส่วนมากน่าจะไม่รู้จักพระเจ้า ยกเว้นคริสต์และอิสลาม
และคริสต์กับอิสลาม น่าจะมีแค่อันเดียวที่มาจากพระเจ้าแท้ อันนี้ไปค้นหากันเอง
หมายความว่า อันไหนมาจากพระเจ้าแท้จริง อันนั้นแหละ ไม่ใช่ศาสนา อันที่ไม่ใช่ก็ปัดไปเป็นพวกศาสนา
คำว่า ศาสนา มันจะมีอะไรที่เหมือนกันอยู่อย่างนึง นั่นคือ การทำดี การประพฤติปฏิบัติตามศีล ธรรมบัญญัติ และการอย่าทำชั่ว คือ ฝืนกฏ
ฉะนั้น ผมคิดว่า พระเจ้ากับศาสนา น่าจะต่างกันแบบสุดขั้ว เพราะ พระเจ้าต้องไม่ใช่มนุษย์ หรือจะมาจากต่างดาวก็แล้วแต่
ลองคิดดู เรามีสังคม การอยู่ร่วมกัน ก็จะมีการทำดีทำชั่ว ที่มีผลต่อการอยู่ร่วมกัน
แต่ถ้าพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้อยู่กับมนุษย์ ฉะนั้น การทำดีทำชั่ว น่าจะไม่ใช่อะไรที่พระเจ้าสนใจ
คือถ้ามีพระเจ้า พระเจ้าที่ไม่ใช่คน น่าจะไม่มีวิถีชีวิตแบบคนไง น่าจะมีวิถีทางแบบอื่น
ผมจึงไม่มีศาสนา เพราะ ศาสนาอะไรมันก็เหมือนกันหมด มันมาจากคนแน่ๆที่คิดกันเอง ถ้าผมจะเชื่อ ผมจะต้องเจอกับวิถีที่พระเจ้าเป็น และผมจะต้องได้รับอะไรบางอย่างจากเขา เพื่อให้ผมหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์นี้ คือไม่ให้เงื่อนไขความเป็นมนุษย์นี้มากำหนดเอง ผมจึงจะเชื่อพระเจ้าได้ อันนี้แค่ ลองแบ่งแยกคำว่า ศาสนา กับ พระเจ้าให้ชัดเจน ครับ
หลายคนก็จะกล่าวแบบนี้ แต่ไม่ทันได้รู้ว่าพุทธะกล่าวอะไร พอบอกศาสนา ก็จะกลายเป็นความเชื่อ เป็นสิ่งที่ไม่จริง พุทธที่แท้จริง ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง มีแต่ความจริงของธรรมชาติ ทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ เหตุดับไม่เหลือแห่งทุกข์ หนทางดับไม่เหลือแห่งทุกข์ มีแค่4สิ่งนี้ สิ่งอื่นไม่สามารถเอามาบอกได้ว่าเป็นพุทธ พุทธมีแค่อริยสัจ4 ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ จึงกล่าวได้ว่าสิ่งนั่นเชื่อได้หรือไม่
มัวแต่วิเคราะห์อยู่นั่นแหละขอเชิญพี่บ่วงไป ดีเบตกับจารเบียหน่อย เอาจริงๆไม่สนใจเรื่องปาฎิหารมันก็เป็นหลักปรัชญาที่ใช้ได้จริงตามที่แกบอกนั่นแหละแต่ลำคาญพูดคำด่าคำ พี่บ่วงจัดดิ่ ขอสักคริป
ที่คุณบ่วงพูด นั้นคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ครับ และหลักสัจจะความจริงใช้เหตุและผลครับ ศาสนาพุทธทั้งนั้นเลยครับ พุทธไม่ใช่ความเชื่อนะครับให้เข้าใจใหม่ มันคือหลักสัจจะความจริงครับ
คำสอนพุทธะ พิสูจน์ได้หมดแต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน การที่ไม่เจ้าใจนั้นไม่ผิด ส่วนหนึ่งการพูดคุยนั้นจุดประสงค์ไม่ใช่การแสดงธรรมแต่เป็นการพูดคุย การแสดงธรรมคือผู้จะแสเงธรรมต้องเป็นผู้แสดงให้ผู้ฟังเพียงผู้เดียวห้ามขัดห้ามถามเพราะตะรบกวรสมาธิเพื่อให้ผู้ฟังได้ฟังและผู้แสดงจะได้แสดงไปตามลำดับขั้นตอน
การที่พวกคุณไม่รู้และไม่เคยปฏิบัตินั้นและบอกว่าไม่มีเหตุผลทั้งคู่นั้นก็เป็นเพียงตรรกะของพวกคุณเท่านั้นดีไม่ดีก็แค่อุปทานหมู่ที่พวกคุณคิดไปเองร่วมกัน คำสอนของพุทธศาสนานั้นเป็นเรื่องของมนุษย์เราล้วนๆเป็นทั้งสิ่งที่อยู่ภายนอกและภายในเป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรมซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยตนเอง(เว้นแต่มีอัตตามากไป) ผู้ที่ไม่เคยตรวจสอบจิตใจของตนก็ย่อมไม่เห็นการกระทำและคำพูดของตน จะพูดให้สวยหรูไปเช่นไรสุดท้ายใครเล่าจะช่วยตัวเราได้นอกจากเราเอง พุทธนั่นไม่ได้เหงาหรือเปล่าเปลี่ยวแต่พูทธนั้นคือธรรมะ คือธรรมชาติ คือสัจจะความความ ซึ่งมีเพียงผู้มีปัญญาเท่านั้จะยอมรับได้คนเขชานั่นไม่สามารถทนอยู่ได้ด้วยวิหารธรรมนี้ ธรรมะนั่นสอนให้เรารู้ว่าเรานั้นไม่สามารถควบคุมสิ่งรอบตัวเราได้แม้กระทั่งตัวเราเอง ธรรมะสอนให้เรากลับไปเข้าใจจุดเริ่มต้นของเราที่อยู่ภายในกายภายนอกนี้ก็เป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราวในการทำให้เข้าถึงเพียงเท่านั้น ผู้ที่คิดว่สอัตตามีในตนและตนก็มีอยู่ในอัตตานั้นย่อมเป็นการยากในการเข้าใจธรรม พุทธะตรัสว่าการยึดกายนี่ยังดีกว่า แต่การยึดจิตนั้นไม่ดีเลย กายนี้ยังพอเห็นได้ว่าเสื่อมชราไปตามกาล แต่การยึดจิตนั้นยสกที่จะเห็นอนิจจังทุกขัง จึงมีแต่ความมืดบอดเป็นความหลงมีแต่ตะนำพาให้เกิดแก่เจ็บตายไปตลอดกาลยาวนาน คนที่ไม่มีธรรมนั้นจะเห็นแต่คนชั่วคนเลวเต็มไปหมด แต่ผู้ที่มีธรรมนั้นจะไม่เห็นคนชั่วคนเลวเลยนอกจากตน
หลักของพุทธจริงๆ ที่ไม่ใช่ความเชื่อหรือศาสนา มาจากกฎนี้ ผมอยากให้พี่ทั้งสองลอง พิจารณาดูหน่อยครับ ว่าพอรับฟังได้ไหม..กฎกล่าว่า..
เพราะสิ่งนี้มี => สิ่งนี้จึงมี
เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ => สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เพราะสิ่งนี้ไม่มี => สิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ => สิ่งนี้จึงดับไป
หลักของพุทธคือเข้าใจธรรมชาติตรงนี้ คือรู้สาเหตุของปัญหา และมี solution เพื่อแก้ปัญหา..และปัญหานั้นคือทุกข์(ที่ไม่ได้หมายความถึงแค่ความทุกข์นะครับ)
หวังว่าพี่ทั้งสองคนจะมีโอกาสได้อ่านเม้นท์นี้นะครับ
ผมคิดว่าพุทธแท้ไม่มีปลอบประโลมถูกเเล้ว มันจริงมันถูก ทำไรก็ต้องรับผล
คนไม่มีศาสนา แข็งแกร่งมาก เพราะจะไม่ค้นหาการแก้ความทุก ชีวิตแค่บอกช่างแม่งก็ผ่านทำใหม่ แต่ทุกคนมีความแข็งแกร่งและอ่อนแอแตกต่างกัน ด้วยสภาพปัจจัยแวดล้อม ครอบครัว ฐานะ เพื่อนฝูง ภาวะอารมณ์ โลกนี้มีแต่ความเชื่อ ไม่เชื่อแบบนั้นเพราะเชื่อแบบนี้ ให้คุณค่าของการเป็นมนุษย์ร่วมกันดีที่สุด
จริงๆ ถ้าจะเอาเหตุผล น่าจะลองทำคลิปสนทนาธรรม ระหว่าง
พุทธ กับ คนไม่มีศาสนา
คริสต์ กับ คนไม่มีศาสนา
เพื่อถามคำถาม เดียวกัน ที่คนไม่มีศาสนา สงสัยและต้องการข้อมูล >>> จะพอได้ข้อมูลว่า ยังไงในมุมมองคนไม่มีศาสนา
ถือเป็น content ที่น่าสนใจนะครับ
วิเคราะห์ได้ดีมากครับ ไม่คิดว่าจะเจอ มุมมองกว้าง ที่ผ่านมามีแต่มุมมองแคบอวยของตัวเอง ด่าอีกฝ่ายครับ
บิ๊กอ่ะ ไม่เชื่อในศาสนาก็จริงแต่ยังเป็นคนที่เปิดรับ ซึ่งเราเคารพความเชื่อส่วนบุคคลของคนแบบนี้มาก แต่บ่วงอ่ะ แนะนำนะ ก่อนตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรอ่ะ ลองศึกษาก่อน จากใจคนที่เห็นและรู้มาแล้ว และไม่ใช่แค่รู้จากความเชื่อนะ เรารู้เพราะศึกษาและทำตามก่อนจะตัดสิน บอกเลยว่าหลักการพิจารณาของบ่วงมันตื้นเขินมากๆ เราขอแนะนำจริงๆนะ ลองไปศึกษา เอาแค่ขันธ์๕ กับ ปฏิจจสมุปบาท แค่2อย่างพอ ซึ่ง2อย่างนี้ ไม่เกี่ยวกับความแฟนตาซีใดๆทั้งสิ้น ศึกษารู้ให้จริงว่ามันคืออะไร แล้วบ่วงจะเข้าใจนัยยะต่างๆของโลก และธรรมชาติความจริงของจิตใจมากขึ้น
พวกคุณบอกไม่มีศาสนาแล้วพวกคุณเอาบรรทัดฐานจากไหนมาตัดสินโดยการนั่งด่าคนอื่น ว่าคนนั้นดี คนนั้นเลวเหรอครับ???
ผมคิดว่าคุณ2คนจะมาพูดเรื่องที่เนื้อหาที่ดีเบต แต่คุณกลับมาวิพากวิจารณ์ ตัวตนของคนดีเบต นี่คุณเหมือนตั้งธงดิสเครดิคอีกคน ผมผิดหวังคนที่อ้างตัวว่าไม่มีศาสนา ดีเบตคือการหักล้างข้อมูลของอีกฝ่าย สิ่งนี้ที่พวกคุณควรสนใจหรือเปล่า
คนไม่มีศาสนาไม่มีครับ คุณกำลังเข้าใจผิด ถ้าคนยังเรียนหนังสืออยู่นั่นคือศาสนา
คนไม่มีศาสนาจะต้องสร้างข้อปฏิบัติขึ้นมาเอง ไม่ต้องไปศึกษาเรื่องอื่น
หรือพูดง่ายๆคุณต้องเป็นศาสดาลัทธิใหม่นั่นเอง
จะให้เหตุผล หรือจะวิเคราะห์เจาะลึกนังไงก็ช่างเถอะ แต่ลองพิจารณาดีๆสิ สุดท้ายไม่พ้นเกิด แก เจ็บ ตาย ถามว่าศาสนาที่เน้นเรื่องนี้มีเหตุผลอะไรที่ต้องการสอนเรื่องนี้ ก็เพื่อให้เข้าใจความจริงง่ายๆที่อยู่ใกล้ตัวไงละ
แว๊บแรกนึกว่าพลเอกประวิตร 😂
มันคือการโต้วาที ระดับของคนดีเบต ความเข้าใจและเข้าถึงมันไม่ได้สามารถเรียกว่าตัวแทนได้...
สนับสนุนการดีเบตในไทยครับ คุยนั่งคุยกับน้องแบบดีเบตแทบทุกเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เอามาใส่ใจแค่รับข้อมูลเพิ่ม คนนั่งฟังเขาก็คิดว่าทะเลาะกัน 😂😂
หังด็สนุกดีครับ
แต่แสดงความเห็นว่า ผู้ชม ข้างสนามมักจะคิดว่า เราเก่งกว่านักมวยที่ต่อยกันในเวทีเสมอ เพราะมองเห็นทั้งสองฝ่ายว่าออกอาวุธอะไรกันบ้างและทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่ต่อยตรงนั้นตรงนี้
แต่เราไม่มีทางจะรู้ความจริงว่าทำไมเขาต่อยแบบนั้น เพราะ ตราบใดที่เรายังไม่ลงไปฝึกมวย เราย่อมไม่รู้ว่าเป็นนักมวย ต้องฝึกอะไรบ้าง ต้องออกกำลังกายอะไร ต้องฝึกเตะฝึกต่อยยังไง ต้องพยายามแค่ไหน ต้องเจ็บปวดจากการฝึกเท่าใด ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกฝึกซ้อม แข่งขันกับคนอื่นในค่ายจนอยู่สุดยอด ถึงจะได้ขึ้นชกเวทีจริงๆ และมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่ชกครั้งแรกจะชนะ เพราะนอกจากฝีมือแล้ว ประสบการก็เป็นอีกเรื่องที่บอกกันไม่ได้ ดังนั้นคนที่เป็นเจ้าของอันดับหนึ่งของแต่ละรุ่นได้ต้องสุดยอดแน่นอน
นักปรัชญาศาสนา มักจะเรียนรู้ทุกศาสตร์แล้วเอามาเปรียบเทียบกันได้อย่างละเอียด อาจจะละเอียดได้มากกว่าผู้ที่นับถือศาสนานั้นเองก็ได้ เพราะเขาได้ทำการศึกษาค้นคว้าเปรียบเทียบมาอย่างดี จึงมีมุมมองที่กว้างขวาง แต่มันก้เป็นข้อเสียอีกด้านคือ อาจจะเป็นการสะสมของ ทิฐิมานะตัวตน คิดว่าตัวเองรู้และเข้าใจหมดแล้วจึงเลือกที่จะไม่นับถือศาสนาใด
แต่อาจจะลึมนึกไปว่า พุทธศาสนา แบ่งการเรียนรู้เป็น 3 ส่วน คือ
1.ปัญญจากการฟังและอ่าน
2.ปัญญาเกิดจากการคิดและจินนาการ พิจารณาตามหลักคำสอนว่าจะจริงหรือไม่
3.สุดท้ายปัญญา เกิดจากการ ลงมือปฏิบัติ ตามเพื่อ พิสูจน์ ว่าสิ่งที่สอนมานั้น เป็นจริงหรือไม่
ดังนั้น ขอย้อนกลับไปยังนักมวย ถ้าเราอยากรู้ว่า นักมวยนั้นเก่งจริงหรือไม่
หนทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้คือ ใส่นวม แล้วขึ้นเวที ไปลองสักตั้งคับ ร้อยพันคำพูดว่าถูกต่อยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไม่เท่ากับ โดนต่อยด้วยตนเองเพียงหมัดเดียว ก็เป็นประมานนี้ครับ
@@ryujadai2 หนอนที่อยู่ในรูเท่านั้น ที่ไม่มี ศาสนา