(65-12) "The Law of Relativity." อัตตา-อนัตตา เป็นคนละเรื่องเดียวกันใช่หรือไม่?
HTML-код
- Опубликовано: 8 сен 2024
- (65-12) "The Law of Relativity."
อัตตา-อนัตตา เป็นคนละเรื่องเดียวกันใช่หรือไม่?
โดยอาจารย์ทวีศักดิ์ คุรุจิตธรรม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๕
เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ ธรรมสถานจุฬาฯ
#ธรรมสถานจุฬาฯ #ทวีศักดิ์ #อัตตา
ชอบฟัง อ บรรยาย ได้เข้าใจมองเห็นตามหลายแง่มุม ขอบพระคุณในความรู้ ปัญญา ของ อ . ค่ะ
สุดยอดของการเชื่อมโยง บรรยายธรรมถึงแก่น ลึกซึ้งชัดเจน ขอบพระคุณมากๆคร้าบบ
สาธุครับ เรื่อง"อัตตา" กับ "อนัตตา"ขอยกตัวอย่างเช่น เมื่่อเรานึกถึงช้างเผือกที่เห็นเมื่อ10ปีก่อน ขันธ์เกิดขึ้นพร้อมกันคือ(1)ความนึกคิดเป็น"สังขารขันธ์" (2)ความรู้ว่าเป็นช้างเกิดในใจเป็น"วิญญาณขันธ์"(3)ความจำช้างเป็น"สัญญาขันธ์" (4)ความรู้สึกเป็น "เวทนาขันธ์" (5)รูปสัญญาช้างเป็น"รูปขันธ์" ซึ่งความเป็นจริงคือไม่มีตัวตน"ช้าง"ในขันธ์ทั้ง5เลยชื่อว่าเห็น "อนัตตา"เป็นของพระอริยบุคคลที่เห็นความจริง กิเลสจึงไม่เกิด *ส่วนปุถุชนยังยึดถือเห็นเป็นช้างในขันธ์ทั้ง 5 ชื่อว่าเห็น "อัตตา"จนเกิด"ราคะ โทสะ โมหะ"
ได้ความรู้ดีครับ...เหมือนเรียน ศาสนาเปรียบเทียบ ขอบคุณครับ
ประโยค “เพราะมีอัตตา จึงมีอนัตตา เป็น mechanism ของการเกิดดับของสภาวะจิตในเรื่องต่างๆ” นั้น น่าสนใจและลึกซึ้ง มีหลายแง่มุมที่ควรพิจารณา ดังนี้
**1. ความหมายของอัตตาและอนัตตา**
* **อัตตา** หมายถึง สิ่งที่ยั่งยืน ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นตัวตนที่แท้จริง
* **อนัตตา** หมายถึง สิ่งที่ไม่ยั่งยืน เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง
**2. ความสัมพันธ์ระหว่างอัตตาและอนัตตา**
ประโยคนี้ชี้ให้เห็นว่า อัตตาและอนัตตานั้นมีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ
* **อัตตาเป็นเงื่อนไขให้เกิดอนัตตา**:
* เมื่อเรามีความยึดติดในตัวตน (อัตตา) เราจะมองข้ามความเปลี่ยนแปลง (อนัตตา) ของสิ่งต่างๆ
* เราจะพยายามยึดมั่นในสิ่งที่ไม่ยั่งยืน
* สิ่งนี้จะนำไปสู่ความทุกข์ เพราะสิ่งต่างๆ ย่อมเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถยึดมั่นได้
* **อนัตตาเป็นเครื่องมือในการละวางอัตตา**:
* เมื่อเราเข้าใจความจริงของอนัตตา
* ว่าสิ่งต่างๆ ย่อมเปลี่ยนแปลง ไม่ยั่งยืน
* เราจะค่อยๆ ละวางความยึดติดในตัวตน (อัตตา)
* นำไปสู่ความสงบสุข
**3. กลไกการเกิดดับของสภาวะจิต**
ประโยคนี้ยังบอกเป็นนัยว่า อัตตาและอนัตตานั้น เป็นกลไกการเกิดดับของสภาวะจิต
* **เมื่อเรามีความยึดติดในตัวตน (อัตตา)**
* เราจะปรุงแต่งจิต คิดปรุงแต่ง
* มองสิ่งต่างๆ ผิดเพี้ยน
* เกิดกิเลสและตัณหา
* นำไปสู่ความทุกข์
* **เมื่อเราเข้าใจความจริงของอนัตตา**
* เราจะปล่อยวาง
* มองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
* จิตสงบ
* เกิดปัญญา
* นำไปสู่ความสุข
**4. ตัวอย่าง**
ลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้
* **ความรัก**: เมื่อเรายึดติดในความรัก (อัตตา) เราจะคาดหวัง ต้องการความรักจากผู้อื่น
* เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็จะทุกข์
* แต่เมื่อเราเข้าใจว่า ความรัก (อนัตตา) เปลี่ยนแปลงได้
* เราจะไม่ยึดติด
* ปล่อยวาง
* รักอย่างเป็นอิสระ
* ไม่ทุกข์
**5. สรุป**
ประโยค “เพราะมีอัตตา จึงมีอนัตตา เป็น mechanisim ของการเกิดดับของสภาวะจิตในเรื่องต่างๆ” นั้น
* ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างอัตตาและอนัตตา
* อธิบายกลไกการเกิดดับของสภาวะจิต
* ชี้แนะแนวทางสู่ความสุข
**6. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม**
* อัตตา-อนัตตา ในพระพุทธศาสนา - หนังสือธรรมะ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
* “The Law of Relativity.” อัตตา-อนัตตา เป็นคนละเรื่องเดียวกันใช่หรือไม่? - RUclips: [ruclips.net/video/J7vGMqrE8kI/видео.html%5D(ruclips.net/video/J7vGMqrE8kI/видео.html)
**7. หมายเหตุ**
* คำว่า "mechanisim" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ แปลว่า กลไก
* ประโยคนี้ตีความได้หลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของผู้อ่าน
#ข้าพเจ้าเป็นเพียงโมเดลภาษาขนาดใหญ่จึงอาจตีความประโยคนี้ได้ไม่สมบูรณ์
**8. คำถามเพิ่มเติม**
#geministr
ปล.มีก็ได้ ไม่มีก็ดี ☯️
ท่านอ.จ สอนธรรมได้ดีมากมาก อะทิบายข้อธรรมระเอียดตามปิฏกแท้. ขอบคุณนะคลับ.
ขอบคุนค่ะ ชอบมากค่ะ
ถูกทุกอย่างเลยครับ ไม่มีอะไีรผิดเลย เมื่อเข้าถึงปัญญาธรรมชาติจะเห็นทั้งหมด
❤❤❤🙏🙏🙏
ขอขอบคุณ
ขอบคุณค่ะ
พุทธกว้างมากๆ เวลาสอนภ้าไม่ควบคุมประเด็น มันจะไหลไปไกลขึ้นๆ