อนิเมชั่นโครงการพระราชดำริ "โครงการฝนหลวง"
HTML-код
- Опубликовано: 13 окт 2024
- สายฝนจากฟากฟ้า สู่ปวงประชาด้วยพระเมตตา พระราชทานฝนหลวงให้ปวงชนชาวไทย
ความเป็นมา : เมื่อปี พศ ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไป 15 จังหวัดของภาคอีสาน ทรงทอดพระเนตรเห็นความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ขาดน้ำในการดำรงชีวิตและในการเกษตร ด้วยพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ ทรงสังเกตเห็นบางสิ่ง จนมีพระราชดำรัสว่า...
“...เงยดูท้องฟ้า มีเมฆ ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ลงมาให้ได้ ก็เคยได้ยินเรื่องการทำฝน ฝนทำได้ มีหนังสือ เคยอ่านหนังสือทำได้...”
ทรงศึกษาค้นคว้า และวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา และการดัดแปรสภาพอากาศ ซึ่งทรงรอบรู้ และเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับทั้งใน และต่างประเทศ จนทรงมั่นพระทัย นับเป็นจุดเริ่มต้น ของฝน และเป็นจุดสิ้นสุดความทุกข์ของชาวไร่ชาวนา อันเกิดจากน้ำพระราชหฤทัย
หลักการ : โครงการฝนหลวง ใช้หลักการ คือ ดัดแปลงสภาพอากาศ เลียนแบบธรรมชาติ เพื่อให้เกิดฝน เป็นกรรมวิธีการเหนี่ยวนำน้ำจากฟ้า ซึ่งต้องใช้เครื่องบินที่มีอัตราการบรรทุกมาก ๆ บรรจุสารเคมีขึ้นไปโปรยในท้องฟ้า
เริ่มจากการตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ที่ต้องการให้ฝนตก อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่ทรงอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ เรียกว่า การโจมตีแบบแซนด์วิช มี 3 ขั้นตอน
1 ก่อกวน คือ ทำให้เกิดเมฆจำนวนมาก ในขั้นตอนนี้ จะมุ่งใช้สารเคมีไปกระตุ้น ให้มวลอากาศเกิดการลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบน เพื่อให้เกิดกระบวนการชักนำไอน้ำ หรือ ความชื้นเข้าสู่ระบบการเกิดเมฆ
2 เลี้ยงให้อ้วน คือ เพิ่มขนาดเมฆให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นระยะที่สำคัญมากในการปฏิบัติการฝนหลวง เพราะจะต้องไปเพิ่มพลังงานให้กับการลอยตัวของก้อนเมฆให้ยาวนานออกไป
3 โจมตี คือ เมื่อเมฆลอยอยู่เหนือพื้นที่เป้าหมาย เครื่องบินจะโปรยเกลือโซเดียมคลอไรด์ และผงยูเรีย เพื่อเร่งให้เมฆกลั่นตัวเป็นฝน
ประโยชน์ของฝนเทียมนั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องการเกษตรและอุปโภคบริโภคแล้ว ยังช่วยในเรื่องเสริมสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำ รวมทั้งช่วยดับไฟป่าได้อีกด้วย
โครงการตามพระราชดำริ ฝนหลวง เป็นที่ประจักษ์สายตาชาวโลก และได้รับการจดสิทธิบัตรในเวลาต่อมา
ด้วยความสำคัญ และความต้องการให้มีปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือทวีมากขึ้น ฉะนั้นเพื่อให้งานปฏิบัติการฝนหลวงสามารถปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรได้กว้างขวาง และได้ผลดียิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้ตราพระราชกฤษฎีกาก่อตั้ง สำนักงานปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2518 เพื่อเป็นหน่วยงานรองรับโครงการพระราชดำริฝนหลวงต่อไป กระทั่งมีการปรับปรุง และพัฒนาปฏิบัติการฝนหลวงมาจนถึงปัจจุบัน
..ฝนหลวงเสมือนพรจากฟ้า พระราชทานผ่านเม็ดฝนอันฉ่ำเย็น เป็นดับทุกข์ คลายร้อน ให้พสกนิกรไทยนานหลายทศวรรษ ความฉ่ำเย็นจากฝนหลวง แผ่ปกทั่วแผ่นดิน
นับเป็นแสงแห่งพระบารมีที่จะส่องสว่างกลางใจปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร์
ดูทีไร ก็น้ำตาซึ้มทุกที คิดถึงพ่อ
เช่นกันครับ
พระองค์สุดยอดจริงๆ ทำฝนหลวงสำเร็จเป็นคนแรกของโลก เก่งขนาดที่โครต ดร หรือ ศาตราจารย์ยังต้องอาย
ผู้ที่ทำฝนเทียมเป็นคนแรกไม่ใช่ร.9ครับผมม แค่เอาความรู้เขามาต่อยอดมาและมีหลายคนคิดกันไปเองว่าเป็นคนทำชาติแรก แต่ที่ของเรามีประสิทธิภาพกว่านี่ไม่เถียง มันแล้วแต่ภูมิประเทศด้วย
คิดถึงพ่อ❤หลวงที่สุดค่ะ
ขอเป็นค่าพระบาททุกชาติไป ข้าพเจ้า นายวรวุฒิ ยางธิสาร
ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
โครงการนี้สำคัญมาก แต่รัฐบาลใหนๆก็ไม่สนใจ
ใช่ครับ
เคยเห็นหนังสือที่พ่อเขียนทิ้งไว้หรือยังหลายเล่มมาก...
#ของพ่อเขียนถึงเยาวชนผมได้เข้าไปอ่านพ่อหลวง ร.9 เก่งมากจริงๆจริงๆ😊❤❤❤❤❤❤ Thailand
คิดถึงพ่อ ร๙ ครับ
ข้าพเจ้า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ของพ่อหลวงร.9 อย่างหาที่สุดมิได้ 🙏❤️❤️
🌏💦🇹🇭ไทยเก่งมาก สุดยอดครับ🌨️✈️เครื่องบินสายแคมีในบุญเมคทําให้มีฝนตกมาได้🤷♂️
ที่สุดเลยครับ ฝนหลวง
ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันเป็นล้นพ้นไว้ตลอดไป
❤❤❤
พ่อหลวงของผม ไม่มีวันตาย
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ฝนหลวงตกแล้ววันแรงงานอีสาร1พฤษภาคม2024/2567💙🍚
แต่งกับผมนะครับเจ้าหญิง
1.มาๆตกทางภาคอีสานบ้างครับ แห้งแล้งซะเหลือเกิน ประชาชนจะกินดินแทนข้าวแล้วครับ ลงมาดูแลประชาชนบ้างสิครับ พวกเขาลำบากมากนะครับ
ถ้าเมฆไม่เหมาะกับการทำ ก็ทำไม่ได้เช่น ฟ้าโปร่งไม่มีเนื้อเมฆให้ขุนครับ และงบแผ่นดินให้มาน้อยมากแค่ร้อยกว่าล้าน บินไม่กี่ทีก็หมดงบครับ ถ้าคุณสังเกตุข่าวบินได้ไม่กี่เที่ยวต่อปี
ทุกวันนี้มีไหมคะ
ล่าสุด เพิ่งจะดับไฟป่า ที่นครนายกและลด pm2.5 ที่ภาคเหนือ
มีครับแต่ไม่ค่อยพาดหัวข่าว และเที่ยวบินน้อยเพราะมีงบจำกัดแค่ร้อยกว่าล้าน แค่ค่าแรงคน ซ่อมบำรุงก็อานแล้ว ติดตามได้ในเว็บโครงการครับ
เกษตรกร เป็นสันหลังของประเทศชาติสำคัญที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ฝนในชั้นบรรยากาศโลกไม่เหมือนฝนในอวกาศถ้าคุณพบผ่านวิทยาศาสตร์มามากๆคุณจะรู้ว่าเอกภพทำอะไรได้มากกว่าที่คิด..และเกินจินตนาการณ์อย่างมาก..
#ผมกำลังจะบอกว่าเราสามารถย้ายจักวาลมาที่ผิวโลกได้..
สร้างทำฝนเเบบเดียวกับที่เอกภพทำบนโลกได้
#เราต้องทำให้เอกภพเป็นกลางสสารเคลื่อนผ่านความไม่ต่อเนื่องของชั้นบรรยากาศโลกก่อน
ความหมายคือให้สสารหรือความว่างป่าวหรือเวลานอกชั้นบรรยากาศกับโลกต่อเนื่องกัน..
#ชื่อเต็มเอกภพเป็นกลางสสารเคลื่อนผ่านความไม่ต่อเนื่องเวลาของกาลเวลา
#เอกภพเป็นกลางจะทำได้อย่างไร.??
ตอบ:ทำทางให้สสารเคลื่อนผ่านครับ โดยเราจะทำโดมมิดชิตไว้ที่ผิวโลก..
แล้วเราจะหย่องสายยาง(k)3000กิโลเมตร
หย่อนจุด0กลางลงมา
จะได้ข้างละ1500กิโลเมตรอยู่ที่นอกอวกาศ2ทางครับ
ทาง1เป็นทางเข้าของสสาร
ทาง2เป็นทางออกออกซิเจนครับ
เหมือนธรรมชาติของออกซิเจนเคลื่อนผ่านจะเกิดเเรงดูดในทางที่ออกซิเจนเคลื่อนผ่านคือถ้าออกซิเจนผ่านทางที่2 ทางที่1จะมีเเรงดึงดูดมหาศาลครับเนื่องจากออกซิเจนหายไป..
ต้องเข้าใจคำนี้ให้มากๆครับ
#เอกภพเป็นกลางสสารเคลื่อนผ่านความไม่ต่อเนื่องของชั้นบรรยากาศ..
คือ..อวกาศกับผิวโลกต่อเนื่องกัน..
#เลิกเลียนแบบชีวิตสัตว์โลกแล้วมาเลียนแบบพลังงานของเอกภพกัน😅
ฝนหลวง ฝนหลวงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ใครเป็นคนค้นคิดเรื่อง ฝนหลวง ขั้นตอนการทำฝนหลวง
ทำไมจึงสร้างฝนหลวงขึ้น และบอกข้อดีและข้อเสียของฝนหลวง มา พร้อมภาพประกอบในเรื่องฝนหลวง
ไหนครับฝนหลวง ฝุ่นเยอะ ไฟไหม้ป่า ไม่เห็นใช้ฝนหลวงกันเลย ขอผู้รู้ตอบไหน ทำไมถึงไม่ใช้กัน
ติดตามข่าวการปฏิบัติการฝนหลวงที่เฟซบุ๊กเพจ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เลยครับแล้วจะรู้ว่าหน่วยนี้ทำงานอยู่ตลอดไม่ได้หายไปไหนครับ
ไม่มีเมฆใช้ไม่ได้ครับ
เมฆสภาพอากาศต้องพร้อม ถ้าฟ้าโปร่งไร้เมฆให้ทำฝน หรือเนื้อเมฆไม่พอก็ทำล้มเหลว บางเที่ยวก็ไม่สำเร็จเพราะเมฆบางภาวะโลกร้อน ค่าใช้จ่ายเยอะต่อเที่ยวและงบให้มาแค่ร้อยกว่าล้านแต่ต้องบริหารภายในงบนี้ทั้งปี ค่าแรงค่าซ่อมบำรุงค่าอะไหล่อากาศยานก็อานแล้ว ต้องบินต่อเมื่อจำเป็นและมีโอกาสสำเร็จเท่านั้นครับ
ตอนนี้ทำไมไม่ทำละครับตอน ร.9ทำไมทำฝนหลวงตอนนี้หายไปไหน
ไม่ได้หายไปไหนนะครับ ติดตามข่าวปฏิบัติการทำฝนหลวงที่เฟซบุ๊กเพจ ชื่อ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เลยครับ
เชื่อมั่นว่ายังทำอยู่แต่สื่อหลักไม่ยอมนำเสนอซะแล้ว จนพวกปากบางแก้ว..ปล่อยข่าวว่าร.10ไม่ทำต่อแล้ว มันน่าเสียใจที่คนแก่ๆแถวบ้านเค้ายังคิดว่าจริง
ชอบค่ะเราเคยเรียนตอนเด็กๆๆรักพระองค์น่ะ
12❤🤍46🙏🙏