ตํานานกว๊านพะเยา | พระพุทธเจ้าเคยมาประทับที่นี่จริงหรือ..?

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 26 сен 2023
  • #ประวัติศาสตร์ #ตํานานกว๊านพะเยา | #พระพุทธเจ้า เคยมาประทับที่นี่จริงหรือ..?
    ก่อนที่จะเป็นกว๊านพะเยาในวันนี้ พื้นที่แห่งนี้เดิมมีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำอิง
    ที่ประกอบไปด้วย“บวก”อันเป็นพื้นที่น้ำขังขนาดเล็ก และ“หนอง”ที่เป็นพื้นที่น้ำขังขนาดใหญ่ โดยมี #หนองเอี้ยง เป็นหนองน้ำที่สำคัญที่สุด หนองเอี้ยงได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของกว๊านพะเยา ซึ่งในนิทานกว๊านพะเยา ได้เล่าถึงชื่อของหนองเอี้ยงว่ามีที่มาจากสองเรื่องเล่าด้วยกันเรื่องแรก เล่าว่า คราวเมื่อ #พระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็น #พญานกเอี้ยง สีทอง #กว๊านพะเยา เป็นทะเลสาบน้ําจืดที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือตอนบนและใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไทยโดยมีบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง หนองหานจังหวัดสกลนคร ใหญ่เป็นอันดับสอง
    และบึงระหาร ที่จังหวัดชัยภูมิใหญ่เป็นอันดับสามและใหญ่เป็นอันดับสี่ก็คือที่กว๊านพะเยาจังหวัดพะเยานั่นเอง กว๊าน เยามีพื้นที่มากถึงหนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบเอ็ดไร่หรือประมาณยี่สิบจุดห้าตารางกิโลเมตรคําว่ากว้านตามภาษาพื้นเมืองในทางภาคเหนือนั้นหมายถึงบึง หรือหนองน้ําขนาดใหญ่ซึ่งเพี้ยนมาจากคําว่ากว้าน
    แปลว่า รวบรวม รวมสิ่งต่าง ๆมาไว้เป็นจํานวนมากอาศัยอยู่ในกว๊านพะเยาแห่งนี้
    ด้วยเหตุที่กว๊านพะเยามีปลามากมายหลายชนิดเช่นนี้จึงทําให้เมืองพะเยาเป็นแหล่งผลิตปลาส้มที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียวกว๊านพะเยาแต่ก่อนนั้นเป็นที่ราบลุ่มต่ํามีหุบมีหนอง มีทางน้ําไหลผ่านมีลําห้วยลําธารมีแม่น้ําเชื่อมถึงกันเป็นจํานวนมากถึงสิบแปดสายมีแม่น้ําสายหลักก็คือแม่น้ําอิงซึ่งบริเวณนี้จะเป็นแอ่งน้ํามีหนองหลายแห่งและหนองน้ําที่สําคัญก็คือหนองเอี้ยงต่อมาในปี พ ศสองพันสี่ร้อยแปดสิบสองกรมประมงได้มีการสร้างประตูกั้นน้ําขึ้นทําให้น้ําในแม่น้ําอิงและลําห้วยลําธาต่าง ๆที่ไหลมาจากเทือกเขาลงมารวมกันที่หนองเอี้ยงได้เอ่อล้นเป็นบริเวณกว้างจึงกลายเป็นบึงน้ําขนาดใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันต่อมาในภายหลังจึงได้เรียกว่ากว๊านพะเยามาจนถึงทุกวันนี้กลางกว๊านพะเยา ยังมีวัดเก่าแก่อายุประมาณสี่ร้อยกว่าปีที่จมอยู่ใต้กว๊านพะเยามานานกว่าหกสิบถึงเจ็ดสิบปีแล้วมีเพียงยอดเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐดินเผาเท่านั้นที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นวัดแห่งนี้ชื่อว่า #วัดติโลกอาราม ในวันวิสาขบูชาของทุกปีจะมีการจัดพิธีเวียนเทียนกลางน้ําขึ้นรอบ ๆ ริมฝั่งกว๊านพะเยานั้น
    จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลัง ภูเขาที่ทอดยาวดูสวยงามมากนอกจากกว๊านพะเยาจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ยอดนิยมแล้วกว๊านพะเยายังตํานานเล่าสืบต่อกันมาเพื่อสร้างมนต์ขงให้กับกว๊านพะเยาที่เกี่ยวข้องกับพญานาคอีกด้วยมีตํานานนิทานพื้นบ้านเล่ากันว่านานแสนนานมาแล้วเมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสวย ชาติเป็นพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญานกเอี้ยงอาศัยอยู่บนดอยจอมทองในทุกทุกวัน พญานกเอี้ยงจะพาเหล่าบริวารออกไปกินน้ําเล่นน้ําอยู่ริเวณหนองน้ําแห่งหนึ่งใกล้กับดอยจอมทองด้วยความที่พระยานกเอี้ยงเป็นพระพธิสัตว์ที่ต้องบําเพ็ญบารมีเมื่อมีโอกาสจึงมักจะหลีกหนีจากเหล่าบริวารเพื่อหาที่สงบอยู่เพียงลําพังเป็นประจําอยู่มาวันหนึ่งพญานกเอี้ยงเมื่อนําเหล่าบริวารออกไปหากินที่หนองน้ําแห่งนั้นแล้วพญานกเอี้ยงก็ปลีกตัวออกมาเพียงลําพังและได้ไปจับอยู่ที่กิ่งไม้บนต้นไม้ต้นหนึ่ในขณะนั้นเองได้มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินโฉบเฉี่ยวไปมาอยู่บนองฟ้าคอยจับจ้องหาอาหารโดยมีเป้าหมายก็คือพญานกเอี้ยงที่กําลังจับอยู่บนกิ่งไม้นั้นทันใดนั้นเหยี่ยวตัวนั้นก็ได้บินโฉบเฉี่ยวเข้ามาด้านหลังของพญานกเอี้ยงและจิกตีานกเอี้ยงด้วยกําลังแห่งกรงเล็บและจะงอยปากที่แหลมคมพญานกเอี้ยงไม่ามารถที่จะต่อสู้ได้และด้วยความที่เป็นพระโพธิสัตว์
    ก็ไม่คิดที่จะต่อสู้ด้วยจึงได้กําหนดจิตเจริญเมตตาธรรมไม่คิดอาฆาตแค้นใดๆ
    ต่อเหยี่ยวตัวนั้นพญานกเอี้ยงได้ถูกเหยี่ยวทําร้ายและได้ตกลงมาตาย ณบริเวณหนองน้ําแห่งนี้้วยเหตุนี้เอง กว๊านพะเยาจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหนองเอี้ยง และ #วัดศรีโคมคํา หรือ #วัดพระเจ้าตนหลวง ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งกว๊านพะเยาในตัวเมือง#พะเยา นั้นก็มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า #วัดหนองเอี้ยง มาจนถึงทุกวันนี้พญานกเอี้ยงได้สั่งสมบารมีอีกหลายภพหลายชาติจนชาติสุดท้ายจึงได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าตามตํานานพระเจ้าเลียบโลกกล่าวเอาไว้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ออกไปประกาศพระธรรมคําสอนเพื่อนําสันติสุข ไปให้กับชาวโลกและได้เสด็จมายังดินแดนสุวรรณภูมิได้เสด็จมาที่เมืองพะเยาผ่านมาพักที่ดอยจอมทองซึ่งอยู่ใกล้กับหนองเอี้ยงแห่งนี้ด้วยในครั้ง พระพุทธองค์ได้พบกับสองตายายสามีภรรยาคู่หนึ่งสองตายายไม่มีอาหารจะถวายแด่พระพุทธเจ้าจึงได้นําพลูและครกหินตําหมากพลูไปถวายแด่พระพุทธเจ้าแทนและในครั้งนั้นมีนายช่างทองคนหนึ่งได้เห็นพุทธลักษณะของพระพุทธองค์ดูงดงาม น่าเลื่อมใสจึงได้นําภัตตาหารไปถวายแด่องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าแต่ในคลัง นายช่างคนนี้ไม่ได้ถวายน้ําด้วยพระพุทธเจ้าจึงสั่งให้พระอานนท์ไปตักน้ําที่หนองน้ําในที่ไม่ไกลจากภูเขามากนักที่หนองน้ําแห่งนี้มีพญานาคตนหนึ่งชื่อว่าทุมสิกขีซึ่งเป็นเจ้าแห่งหนองน้ําแห่งนี้พญานาคตนนี้จะหวงแหนถิ่นที่อยู่ของตนเองเป็นอย่างมากใครจะมารุกล้ําไม่ได้เมื่อพระอานนท์เดินไปตักน้ําที่หนองน้ําแห่งพญานาคทุมสิกขีไม่ยอมให้พระอานนท์ตักน้ําได้แสดงฤทธิ์เดชต่างๆทําให้น้ําในหนองน้ําขุ่นจนหมดและได้เนรมิตหมอกควันปกคลุมหนองน้ําไปทั่วทําให้พระอานนท์ไม่สามารถตักน้ําไปถวายแด่พระพุทธเจ้าได้เมื่อพระอานนท์เห็นเช่นนี้จึงได้ขึ้นไปกราบทูลระพุทธองค์ให้ทรงทราบเมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบเรื่องดังนี้แล้วจึงเสด็จลง มาจากดอยจอมทองมาที่ริมฝั่งของหนองน้ําแห่งนี้เมื่อพญานาคเห็นพระพุทธเจ้าทรงเสด็จมาก็เนรมิตกายให้ใหญ่โตขึ้นหวังจะให้พระพุทธองค์ทรงกลัวและพญานาคก็แผ่พัง ๆพร้อมกับพ่นหมอกควันใส่พระพุทธองค์อย่างไม่หยุดยั้งแต่ก็ไม่สามารถจะทําอะไรต่อพระพุทธองค์ได้เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจระวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

Комментарии •