Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
สวัสดีครับ เม้นแรกครับ
ขอบคุณมากที่ติดตามครับ :)
❤ขอบคุณครับ❤ เรื่อง e-sim ผมไม่ได้ตามเลย เพราะเคยหาข้อมูลในไทย มันไม่ชัดเจน เคยถาม Call centre แต่ละค่าย ได้คำตอบแบบกด copy มาตอบ ไม่รู้ว่าปัจจุบัน ใช้เบอร์เดียว ทำ e-sim ได้หลายเครื่องหรือยังครับ(หมายถึงอุปกรณ์อื่นที่รองรับ ) ขอบคุณครับ
ตอนนี้ให้มอง eSIM ก็เหมือน SIM ปกติครับ เราจะออกเบอร์เดียวหลาย SIM (Multi SIM) ก็ได้ครับ ส่วนเครื่อง iPhone จะเป็นแบบเครื่องเดียวใส่ได้หลาย eSIM แต่นำมาใช้ได้สูงสุดครั้งละ 2 เหมือนเราใช้ Dual SIM อาจจะเป็น Nano SIM + eSIM หรือเป็น eSIM + eSIM ในแง่ของการเปิดใช้ได้สองเบอร์พร้อมกันครับ :) ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรหรอก เพราะเวลาอยากย้าย SIM ไปใส่ทดลองอีกเครื่องมันจะยุ่งยากครับ
@@PeterGuang555ขอบคุณครับ
ผมเคยลองเพิ่ม e-sim ไป 2 ซิม ปรากฏว่าไม่สามารถใช้คู่กันทั้ง 2 ซิมได้ สามารถเลือกใช้ได้อันใดอันหนึ่งเท่านั้น ผมก็เลยต้องกลับมาใช้ซิมนาโน 1 ตัวและ e-sim อีก 1 ตัว หรือว่าผมตั้งค่าไม่ถูกครับ ขอความรู้หน่อย
อยากรู้เหมือนกันครับ
esim ใช้ได้ 6 เบอร์ แต่ on ได้ครั้งล่ะเบอร์ ใช้คู่ไม่ได้ต้องเลือกมาใช้ทีล่ะเบอร์ สำหรับ esim
ผมใช้อี sim สองเบอร์เลยแต่ต้องใช้ iPhone 16 ขึ้นไปถึงจะใช้อี sim ได้สองใบ
Iphone 14 ใช้ได้อยู่ ครับ ผมใช้แล้ว stand by ได้2 sim เลย ครับ
สำหรับ Apple iPhone ตอนนี้การใช้ eSIM เปิดใช้ 2 เบอร์พร้อมๆกัน ทำได้ตั้งแต่ iPhone 13 เป็นต้นมาครับ หรือจะใช้แบบ Nano SIM (ซิมแผ่น) + eSIM อย่างละเบอร์ก็ได้ (ทำได้ตั้งแต่ iPhone XS Max, XS, XR) ส่วนในเครื่อง iPhone สามารถเก็บเบอร์ eSIM ไว้ได้ประมาณ 5-6 เบอร์ครับ แล้วเราจะเรียกใช้เบอร์ไหนก็ไปสั่งเอาได้เลย (ที่เขียนว่าเก็บได้ประมาณ 5-6 เบอร์ เพราะว่าข้อมูล eSIM ที่ปกติเก็บไว้ในซิมแผ่นนั้น มันมีขนาดไม่เท่ากัน บาง Operator ข้อมูลใหญ่ ก็เก็บได้ 5 เบอร์ บางรายข้อมูลเล็กกว่าก็เก็บได้ 6 เบอร์ ไม่เท่ากันครับ) ข้อมูลอ้างอิงจาก Apple Website ดูจาก URL นี้ได้เลยครับ support.apple.com/th-th/109317ขอบคุณที่ติดตามนะครับ :)
เดาว่า คงเริ่มในประเทศที่การซื้อมือถือผ่าน carrier เยอะๆ ก่อน พวกญี่ปุ่น เกาหลี UK มั้งครับ
ก็น่าจะด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่แล้ว Apple จะเข้าไปทำธุรกิจการขายเครื่อง เขาจะเริ่มต้นกับ Operator หรือ Carrier ก่อนครับ เพราะฉะนั้นการที่ในประเทศนั้นๆจะมี eSIM ใช้กับ iPhone เขาจะ work กับ Operator ก่อนเสมอครับ มีการทดสอบต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการ implement นั้นจะ smooth :) อย่างในประเทศไทยผมก็ได้ทำงานกับ Apple ก่อนที่จะได้ launch iPhone with eSIM ในปี 2561 จนวันนี้บ้านเราก็ใช้กันมา 6 ปีเต็มแล้ว :) ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
พอ ไอโฟน ทำมาตรฐานแล้วเจ้าอื่นจะตามมาอีก สับสนนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องการใช้ ไทป์ซี ไม่เป็นไร ฉันคงจำผิด ใครตาม แล้วมาทำคลิปโปรโมทที่เมืองไทยอีกนะ
555 เรื่องช่องต่ออย่าง Lightning เป็นเรื่องที่เรียกว่าเฉพาะ ซึ่งต่างคนต่างทำมานาน เอาจริงๆถ้า Apple ไม่โดน EU บีบ เขาก็คงไม่เปลี่ยนง่ายๆ ส่วนเรื่องที่คนอื่นตาม ผมหมายถึงหลายๆเรื่องถ้าจำกันได้ เช่นการทำ eSIM - Apple ก็เป็นคนเร่ิมทำจริงจัง Brand อื่นๆ ก็ต้องทำตาม เพราะผู้ให้บริการทั่วโลกขยับหมด ทั้งบน Smartphone, Smart Watch / การที่ Apple ถอดหัวชาร์จออกจากกล่อง แบรนด์อย่าง Samsung ก็ขยับตาม ซึ่งบางอย่างก็ไม่ใช่ว่าดีต่อผู้บริโภค แต่ผู้ผลิตทำแล้วหันมาบอกว่าเพื่อรักษ์โลก มองอีกมุมคือการลดต้นทุน การนำเอาถาดซิมออก ก็จริงๆ ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยนะครับ แต่นี่ก็สไตล์แนวคิดของ Apple ก็ไม่แน่ๆ บางรายอย่าง Samsung อาจจะหันมาทำตาม คนในอุตสาหกรรมมองแบบนี้กัน ส่วนตัวมองว่ายังไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ตราบใดที่ระบบหลังบ้านไม่ได้ดีแบบสุดๆ เช่น เมื่อก่อนผมอยากย้ายซิมนี้มาลองเครื่องนั้น ผมก็ทำได้ทันที ถ้าระบบหลังบ้านของ Operator พัฒนาขนาดที่ผมเรียก eSIM ได้เองเมื่อไรก็ได้ ย้ายได้เมื่อไรก็ได้ อันนั้นก็คงจะดี แต่เป็นไปได้ยาก เพราะทุกครั้งที่เรียก eSIM มาใส่เครื่อง มันมีค่าใช้จ่ายเกือบๆ 1USD แบบนี้ก็ไม่สะดวกถ้าเราทำแบบนี้บ่อยๆ ก็โดนค่าใช้จ่ายตรงนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเยอะๆ ไม่ได้ย้าย sim บ่อยๆ คงไม่มีปัญหาใดๆ ก็มีทั้งดีและไม่ดี :) ขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นท์นะครับ
@PeterGuang555 ขอบคุณจ้ะ
ไม่แปลกหรอก มือถือยุคแรกๆก็ไม่มีซิม “สิ่งที่เป็นขึ้นแล้วคือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก สิ่งที่ทำกันแล้วคือสิ่งที่จะต้องทำกันอีก และไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์”ปัญญาจารย์ 1:9
ก็เป็นยุคสมัยของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปครับ :) ขอบคุณที่ติดตามครับผม
สวัสดีครับ เม้นแรกครับ
ขอบคุณมากที่ติดตามครับ :)
❤ขอบคุณครับ❤ เรื่อง e-sim ผมไม่ได้ตามเลย เพราะเคยหาข้อมูลในไทย มันไม่ชัดเจน เคยถาม Call centre แต่ละค่าย ได้คำตอบแบบกด copy มาตอบ ไม่รู้ว่าปัจจุบัน ใช้เบอร์เดียว ทำ e-sim ได้หลายเครื่องหรือยังครับ(หมายถึงอุปกรณ์อื่นที่รองรับ ) ขอบคุณครับ
ตอนนี้ให้มอง eSIM ก็เหมือน SIM ปกติครับ เราจะออกเบอร์เดียวหลาย SIM (Multi SIM) ก็ได้ครับ ส่วนเครื่อง iPhone จะเป็นแบบเครื่องเดียวใส่ได้หลาย eSIM แต่นำมาใช้ได้สูงสุดครั้งละ 2 เหมือนเราใช้ Dual SIM อาจจะเป็น Nano SIM + eSIM หรือเป็น eSIM + eSIM ในแง่ของการเปิดใช้ได้สองเบอร์พร้อมกันครับ :) ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรหรอก เพราะเวลาอยากย้าย SIM ไปใส่ทดลองอีกเครื่องมันจะยุ่งยากครับ
@@PeterGuang555ขอบคุณครับ
ผมเคยลองเพิ่ม e-sim ไป 2 ซิม ปรากฏว่าไม่สามารถใช้คู่กันทั้ง 2 ซิมได้ สามารถเลือกใช้ได้อันใดอันหนึ่งเท่านั้น ผมก็เลยต้องกลับมาใช้ซิมนาโน 1 ตัวและ e-sim อีก 1 ตัว หรือว่าผมตั้งค่าไม่ถูกครับ ขอความรู้หน่อย
อยากรู้เหมือนกันครับ
esim ใช้ได้ 6 เบอร์ แต่ on ได้ครั้งล่ะเบอร์ ใช้คู่ไม่ได้ต้องเลือกมาใช้ทีล่ะเบอร์ สำหรับ esim
ผมใช้อี sim สองเบอร์เลยแต่ต้องใช้ iPhone 16 ขึ้นไปถึงจะใช้อี sim ได้สองใบ
Iphone 14 ใช้ได้อยู่ ครับ ผมใช้แล้ว stand by ได้2 sim เลย ครับ
สำหรับ Apple iPhone ตอนนี้การใช้ eSIM เปิดใช้ 2 เบอร์พร้อมๆกัน ทำได้ตั้งแต่ iPhone 13 เป็นต้นมาครับ หรือจะใช้แบบ Nano SIM (ซิมแผ่น) + eSIM อย่างละเบอร์ก็ได้ (ทำได้ตั้งแต่ iPhone XS Max, XS, XR) ส่วนในเครื่อง iPhone สามารถเก็บเบอร์ eSIM ไว้ได้ประมาณ 5-6 เบอร์ครับ แล้วเราจะเรียกใช้เบอร์ไหนก็ไปสั่งเอาได้เลย (ที่เขียนว่าเก็บได้ประมาณ 5-6 เบอร์ เพราะว่าข้อมูล eSIM ที่ปกติเก็บไว้ในซิมแผ่นนั้น มันมีขนาดไม่เท่ากัน บาง Operator ข้อมูลใหญ่ ก็เก็บได้ 5 เบอร์ บางรายข้อมูลเล็กกว่าก็เก็บได้ 6 เบอร์ ไม่เท่ากันครับ) ข้อมูลอ้างอิงจาก Apple Website ดูจาก URL นี้ได้เลยครับ support.apple.com/th-th/109317
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ :)
เดาว่า คงเริ่มในประเทศที่การซื้อมือถือผ่าน carrier เยอะๆ ก่อน พวกญี่ปุ่น เกาหลี UK มั้งครับ
ก็น่าจะด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่แล้ว Apple จะเข้าไปทำธุรกิจการขายเครื่อง เขาจะเริ่มต้นกับ Operator หรือ Carrier ก่อนครับ เพราะฉะนั้นการที่ในประเทศนั้นๆจะมี eSIM ใช้กับ iPhone เขาจะ work กับ Operator ก่อนเสมอครับ มีการทดสอบต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการ implement นั้นจะ smooth :) อย่างในประเทศไทยผมก็ได้ทำงานกับ Apple ก่อนที่จะได้ launch iPhone with eSIM ในปี 2561 จนวันนี้บ้านเราก็ใช้กันมา 6 ปีเต็มแล้ว :) ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
พอ ไอโฟน ทำมาตรฐานแล้วเจ้าอื่นจะตามมาอีก สับสนนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องการใช้ ไทป์ซี ไม่เป็นไร ฉันคงจำผิด ใครตาม แล้วมาทำคลิปโปรโมทที่เมืองไทยอีกนะ
555 เรื่องช่องต่ออย่าง Lightning เป็นเรื่องที่เรียกว่าเฉพาะ ซึ่งต่างคนต่างทำมานาน เอาจริงๆถ้า Apple ไม่โดน EU บีบ เขาก็คงไม่เปลี่ยนง่ายๆ ส่วนเรื่องที่คนอื่นตาม ผมหมายถึงหลายๆเรื่องถ้าจำกันได้ เช่นการทำ eSIM - Apple ก็เป็นคนเร่ิมทำจริงจัง Brand อื่นๆ ก็ต้องทำตาม เพราะผู้ให้บริการทั่วโลกขยับหมด ทั้งบน Smartphone, Smart Watch / การที่ Apple ถอดหัวชาร์จออกจากกล่อง แบรนด์อย่าง Samsung ก็ขยับตาม ซึ่งบางอย่างก็ไม่ใช่ว่าดีต่อผู้บริโภค แต่ผู้ผลิตทำแล้วหันมาบอกว่าเพื่อรักษ์โลก มองอีกมุมคือการลดต้นทุน การนำเอาถาดซิมออก ก็จริงๆ ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยนะครับ แต่นี่ก็สไตล์แนวคิดของ Apple ก็ไม่แน่ๆ บางรายอย่าง Samsung อาจจะหันมาทำตาม คนในอุตสาหกรรมมองแบบนี้กัน ส่วนตัวมองว่ายังไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ตราบใดที่ระบบหลังบ้านไม่ได้ดีแบบสุดๆ เช่น เมื่อก่อนผมอยากย้ายซิมนี้มาลองเครื่องนั้น ผมก็ทำได้ทันที ถ้าระบบหลังบ้านของ Operator พัฒนาขนาดที่ผมเรียก eSIM ได้เองเมื่อไรก็ได้ ย้ายได้เมื่อไรก็ได้ อันนั้นก็คงจะดี แต่เป็นไปได้ยาก เพราะทุกครั้งที่เรียก eSIM มาใส่เครื่อง มันมีค่าใช้จ่ายเกือบๆ 1USD แบบนี้ก็ไม่สะดวกถ้าเราทำแบบนี้บ่อยๆ ก็โดนค่าใช้จ่ายตรงนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเยอะๆ ไม่ได้ย้าย sim บ่อยๆ คงไม่มีปัญหาใดๆ ก็มีทั้งดีและไม่ดี :) ขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นท์นะครับ
@PeterGuang555 ขอบคุณจ้ะ
ไม่แปลกหรอก มือถือยุคแรกๆก็ไม่มีซิม
“สิ่งที่เป็นขึ้นแล้วคือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก สิ่งที่ทำกันแล้วคือสิ่งที่จะต้องทำกันอีก และไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์”
ปัญญาจารย์ 1:9
ก็เป็นยุคสมัยของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปครับ :) ขอบคุณที่ติดตามครับผม