@@Pk.jk888 เช่นกันครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะเลิกได้ เพราะมันคือส่วนนึงของชีวิตไปแล้ว แต่เราต้องปรับ Mind Set ของเรา ต่อ Social Meda ชั่งน้ำหนักว่าเรา ควรจะแบกหรือปล่อยอะไรไป
ผมคิดว่าเพราะคนเราฉลาดขึ้นครับ เมื่อก่อนแค่ล่าอาหาร เพื่อมีอายุพอสืบพันธ์ุ แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ คนฉลาดมีลูกน้อยลง ทุกวันๆ เพราะเราตระหนักถึงคำว่า what is life? What is the life’s goal? เราไม่ได้อยู่เพื่อสืบพันธุ์อีกแล้ว
Social media อย่างที่เรียกกันไป คือสิ่งงดงามอย่างหนึ่งบนโลกยุคนี้ที่คุณค่ามีได้มหาศาล การฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากจากสภาพโลกสังคมในยุคนี้ ต่อให้ไม่มีsocial media ก็ตาม ส่วนตัวแล้ว social media ทำให้อยากมีชีวิตมากกว่าถ้าไม่มีแน่นอนค่ะ
ทางออกง่ายๆครับเพื่อน อยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น ผมเลิกเล่นไอจี เฟสบุ๊คมา2ปีเเล้วทุกวันนี้มีความสุขมาก ได้มีเวลาทำอะไรมากขึ้น เช่น ทำอาหาร ออกไปเที่ยว เสือกเรื่องคนอื่นน้อยลง ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ฝึกสมาธิ หาสื่อดีๆเสพ เช่น เงินทองของจริง ช่องนี้ เกลานิสัยอันตรายreadery รับรองชีวิตเปลี่ยน
มีความคิดนิ
ใช่ค่ะ เหมือนกันเลย เลิกมาเป็นปีแล้ว
ไม่คิดว่าจะมีคนแบบเดียวกับตัวเอง เลิกเล่นเลิกเสพ เลิกลงสตอรี่ จนเพื่อนบอกว่าเราหาย เหมือนไม่มีตัวตน มันก็จริงค่ะ เราหายจริง แต่เพราะเรารู้สึกหายใจคล่องมากกว่าเมื่อไม่ได้เสพโซเซียล เราเองก็เห็นตัวเองดีขึ้น โดยไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
ผมเลิกเล่น facebook มาเป็นปีแล้วดูแต่ RUclips อย่างเดียว
ผมเลิกมาสามสี่ปีละ ชีวิตดีมาก
ตอนนี้อายุ20 ทีแรกคิดว่าโซเชียลมีเดียไม่มีทางกระทบหนูได้เพราะเป็นคนที่จิตใจแข็งมากแต่เอาเข้าจริงมันมีผลต่อสุขภาพจิตมากๆตั้งใจว่าจะเลิกเล่นแล้วเลยเริ่มถอยห่างออกมามันเสียเวลาในการโฟกัสเรื่องที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นมากๆค่ะ
ให้กำลังใจน้องๆ ทุกคน เราเคยผ่านช่วงของการเป็นวัยรุ่น ใจร้อน วู่วาม ไม่คิดหน้าคิดหลัง น้อยเนื้อต่ำใจมาก่อน เราเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง พยายามหาเวลาออกไปเปิดหูเปิดตา ท่องเที่ยวธรรมชาติ ส่วนตัวเราไปเดินป่าคนเดียว ในประเทศมีที่ที่ไปได้คนเดียวอยู่เยอะ มันจะทำให้เราใจเย็นขึ้น มองอะไรได้กว้างขึ้นและเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น
ส่วนนึงคือ
คนยุคนี้เอาตัวเองไปผูกกับ
Social Media และโลกเสมือน
มากจนเกินไป จนลืมคิดถึงชีวิตจริง
แคร์ภาพลักษณ์และคนในโซเชียล
จนหลงลืมคนใกล้ตัว คือชีวิตจริง
มันก็ยากอยู่แล้ว อันนี้มีชีวิตในโซเชียล
มาเพิ่มอีก มันยิ่งยากเข้าไปอีก
เห็นด้วยค่ะรู้สึกป่วยจิตเอาใจไปผูกเกินไปพยายามเลิกดู social แต่มันเสพติด
@@Pk.jk888
เช่นกันครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะเลิกได้
เพราะมันคือส่วนนึงของชีวิตไปแล้ว
แต่เราต้องปรับ Mind Set ของเรา
ต่อ Social Meda ชั่งน้ำหนักว่าเรา
ควรจะแบกหรือปล่อยอะไรไป
ผมคิดว่าเพราะคนเราฉลาดขึ้นครับ
เมื่อก่อนแค่ล่าอาหาร เพื่อมีอายุพอสืบพันธ์ุ
แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่
คนฉลาดมีลูกน้อยลง ทุกวันๆ
เพราะเราตระหนักถึงคำว่า what is life? What is the life’s goal?
เราไม่ได้อยู่เพื่อสืบพันธุ์อีกแล้ว
ผมก็เคยคิดสั้นนะ สมัยเรียน เพราะโดนเพื่อนบูลลี่ แต่มาคิดอีกที ทำไม่ลง ใจไม่กล้าพอ อีกอย่างเสียดายความหล่อ เสียดายที่เกิดมาในครอบครัว ที่ไม่ได้ยากจน
ดีละครับอย่าไปสนคนที่บูลลี่คนอื่นเลย เขาทำไปเพราะปมด้อยและความอิจฉาทั้งนั้น ไม่ให้ค่ามันชีวิตเราก็สดใสมีความสุข
เจอคนบูลลี่ก็แนะนำให้กระทืบครับผม
ท้าต่อยเลยครับจบ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและต้องการการยอมรับจากสังคม แน่นอนว่าโลกโซเชียลทำให้หลายๆคน รู้สึกว่าการได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดีย ก็เหมือนตัวเองได้รับการยอมรับจากสังคม ที่สำคัญคือโลกโซเชียลทำให้เกิดการเปรียบเทียบกันมากๆๆๆ เพราะทุกคนจะโพสต์แต่ด้านดีๆของตัวเอง ทำให้คนที่พบเห็นเกิดความน้อยใจ อิจฉา และกดดัน ทางออกเดียวคือ อยู่ที่ตัวบุคคล เลิกเล่นโซเชียลได้ยิ่งดี
สมัยก่อนคนเราอยู่ในฐานะที่ไม่ค่อยต่างกันมากครับ เราจึงยังไม่เห็นความรวย ความจนชัดเจน อย่างมากก็ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มีความต่าง เช่น คนที่รวยคือมีของใช้ใหม่ตลอด, มีของเล่นใหม่ๆ ตลอด ได้ไปต่างประเทศ พอในยุคสมัยนี้โซเชียลมีเดียมันเร็ว ทำให้เห็นความต่างของฐานะได้อย่างชัดเจน แล้วเหมือนคนเราจะถูกบีบให้ต้องรีบทำรีบสำเร็จ บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองโลกมันก็ไม่ได้เสถียรแบบยุคก่อน หรือไม่ก็มีผลน้อยเพราะสมัยก่อนสื่อสารมวลชนไม่ได้เร็ว ทำให้คนยิ่งเครียด ยิ่งเห็นบางคนสำเร็จเร็วก็พยายามทำตามหรือเอามาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งถ้าได้ก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่พอไม่ได้ก็นำมาเก็บมาคิดมาเครียด บางคนถ้ามีภาวะทางจิตอยู่แล้วก็ทำร้ายตัวเอง จบชีวิตตัวเอง หรือทำสิ่งผิดกฎหมาย ค้าของผิดกฎหมาย, ไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้เงินทองมา จุดนี้ถ้าจะแก้ต้องทุกภาคส่วน รัฐบาลควรดูแลประชาชนมากกว่านี้ คนทั่วไปก็ควรดูแลจิตใจตัวเอง อย่าไปยึดติดโซเชียลมีเดียให้มากนัก ชมแก้เครียด เป็นความรู้ ความบันเทิง เอามาเป็นแรงบันดาลใจได้แต่อย่าคิดอย่าเครียด คนเรามีโอกาสสำเร็จได้ไม่เท่ากัน จุดนี้ถ้าคนที่มีอาการทางจิตก็ควรไปรักษาก่อน แล้วถ้าหายแล้วถ้าให้ดีควรมีศาสนายึดเหนี่ยว ถ้าเป็นทางเทวนิยมทุกอย่างคือบททดสอบที่พระเจ้าให้มา รวมทั้งความสุข ตวามสำเร็จ ถ้าคุณได้รับแล้วยังปฏิบัติตามคำสอน ไม่หยิ่งผยองทะนงตน ความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้ารออยู่ ถ้าในทางพุทธ คนเราสร้างบุญกุศลมาไม่เท่ากัน คนที่ทำชั่วแต่ยังได้ดีเพราะบุญเก่ายังส่งผล ก็อย่าประมาท จงละเลิกทำบาป ทำบุญเพิ่ม ไม่อย่างนั้นถ้าบุญหมด กรรมจะหนัก คนทำดีแต่ยังลำบากก็เพราะกรรมยังหนัก ตั้งใจทำดีไปเรื่อยๆ สักวันความดีจะส่งผล เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
ทุกวันนี้ มีการแข่งขันกันสูง ทุกคนไขว่คว้าหาความสำเร็จที่รวดเร็ว มีรถ บ้าน มือถือ อวดกัน สังคมกดดัน รวมทั้ง หาความจริงใจต่อกัน น้อยมาก
ปัญหาในปัจจุบันที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเป็นโรคซึมเศร้า มีทั้งโรคซึมเศร้าเทียมและแท้ จิตใจอ่อนแอ สติไม่แข็งแกร่ง....เพราะสังคมปัจจุบันเน้นวัตถุนิยม เน้นแข่งขันกัน ที่บ้าน โรงเรียน ก็มีแต่เน้นไปทางด้านนี้เป็นหลัก....เราออกห่างธรรมชาติ ห่างศาสนา ห่างกิจกรรมกีฬา กันมากเกินไป
ขอนอกเนื้อหาค่ะ ชอบการเล่าเรื่องของพิธีกรมาก น้ำเสียงก็น่าฟัง ทำให้เนื้อหาดูระทึก น่าติดตาม เป็นกำลังใจให้นะคะ ❤
เคยทำงานที่ต้องอยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว 08.00- 20.00 น. ทุกวันทำการ ทำให้เป็น depressed จริงๆ ครับ เพราะเราจะอยู่กับ social media และเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนใน social ทำให้เราขาดการรักตัวเอง รู้สึกตัวเองไม่มีค่า เคว้ง มันยากนะที่เราจะรู้ตัว และเข้ารับการรักษา สู้ๆ ครับทุกคน
ช่วงหลังๆวัยรุ่นมีปัญหาด้านสุขภาพจิตมากขึ้นจริงๆ จนเราตกใจ ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ทำงานที่รพ.มา เมื่อก่อนคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตมักจะเป็นคนติดยาเสพติดและอายุประมาณ20ปีขึ้นไป แต่หลังๆมาเจอวัยเด็กและวัยรุ่นเยอะมาก ทั้งที่เด็กไม่ได้มีประวัติข้องเกี่ยวอะไรกับยาเสพติดเลย
สิ่งที่ต้องรู้ให้เท่าทันคือ โลกไซเบอร์ในอีกแง่มุมหนึ่งมันคือโลกเสมือน คนส่วนใหญ่ไร้ตัวตน หรือใช้ตัวตนเสมือน(อวตาร) ซึ่งในโลกจริงเป็นไม่ได้ การนำเสนอเรื่องราวเหนือจริง การใช้ถ้อยคำต่างๆจึงไร้ขอบเขตในการแสดงตัวตนด้านมืด ที่ไม่สามรถทำได้ในชีวิตหรือโลกจริง ส่งผลกระทบมาถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนในโลกจริงหลายต่อหลายคน...อย่าให้ความสำคัญกับโลกเสมือนมากไปกว่าโลกจริง มันคือโลกจอมปลอม อย่าเอาชีวิตจริงไปแลกในโลกปลอมๆ!!
ผมลบไอจี กับเฟสบุ๊คออกจากเครื่องมากสักระยะแล้ว รู้สึกดีขึ้นนะ ระหว่างเล่นลองจับอารมณ์ตัวเองดู มันมีความรู้สึกว่าเราเปรีบบเทียบกับคนอื่น ๆ ตลอดเวลา พอเลิกเล่นแล้วหัวโล่งจากมันมากขึ้น
จริงครับ
ผมโดนมาหลายรอบละ ทั้งโซเชียลบูลลี่ ทั้งบูลลี่ในโลกจริง สาเหตุเพราะอ่อนต่อโลก กระแดะพยายามจะเป็นคนดี เชื่อใจเพื่อนทีไรคือโดนตลอด แรกๆก็เจ็บปวด แต่โดนไปเรื่อยๆก็ค่อยๆเข้าใจ ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ดี และจะไม่เลิกเชื่อใจคนอื่น แค่ระวังมากขึ้น
Thanks!
เคยฟังเฮียวิทย์เล่าเรื่องกำเนิดทุนนิยมว่าจริงๆแล้วพึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ร้อยปีนี้เอง ผมเองเคยคิดเล่นๆว่าจุดไหนบ้างจะเป็นจุดจบของทุนนิยมได้ เลยคิดได้ว่าคงเป็นจุดที่คนที่สู้กับระบบนี้ไม่ไหวฆ่าตัวตายกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ ความต่างของฐานะชนชั้นที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆกับคนที่อายุน้อยๆลงเรื่อยๆ ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนไม่มีฐานะใดๆ จะมีชีวิตที่ดีในโลกทุนนิยมได้ ซึ่งพวกเขาเป็นฐานของพีระมิดทุนนิยมนี้ ผมเชื่อว่าโซเชียลมีเดียแค่เป็นสิ่งที่ช่วยสรุปให้เขาง่ายขึ้น ได้เห็นมุมมองหลากหลายมุมมากขึ้น ว่าในโลกทุนนิยมมันยากที่ชีวิตจะดีได้ ผมจึงคิดว่าปัญหาที่ลึกกว่าโซเชียลมีเดียคือทุนนิยม แต่จะแก้ยังไงน่ะหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขอเสริมจากในวิดีโอค่ะ ในส่วนของผู้ปกครองหรือคนรอบข้างที่ต้องการเป็นซัพพอร์ตให้กับผู้ที่มีความคิดฆ่าตัวตาย เราคิดว่าอาจจะเริ่มที่การวางอคติกับการฆ่าตัวตายลงก่อนค่ะ ไม่โทษหรือดูถูกความคิดของเขา แต่ค่อยๆทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ในชีวิตเขามันเป็นแบบไหน จนทำให้ความตายเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา ไม่ควรจะคิดแทนหรือเอาประสบการณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะชีวิตแต่ละคนเจ็บปวดไม่เหมือนกันเสียทีเดียวค่ะ และการหาข้อมูลเพื่อพัฒนาสกิลการเป็นผู้ฟังที่ดี อาจช่วยให้ผู้ที่คิดฆ่าตัวตาย กล้าและไว้ใจที่จะสื่อสารกับซัพพอร์ตของเขาได้มากขึ้นค่ะ น่าเสียดายที่การศึกษาไทยไม่ค่อยได้สอนเรื่องสำคัญต่อชีวิตแบบนี้เลยค่ะ
แล้วพวกที่ทำร้ายผู้อื่นก็มีความเสี่ยงที่จะฆ่าผู้อื่นแล้วก็ฆ่าตัวตายตามน่ากลัวๆ รักษาสุขภาพกายใจให้ดี เอาที่สบายใจ ไม่ทำร้ายใคร ในเส้นทางให้โลกยั่งยืน
เวลาเล่นโซเชี่ยลแล้วติดตามนักกีฬา เลยรู้สึกว่า ทำไมฉันไม่มีโอกาสเหมือนเขา ทำไมชีวิตเราไม่เป็นแบบเขา มันเลยทำให้รู้สึก แย่กับตัวเอง เครียดจิตตกเลยนะช่วงนึง
เมื่อก่อนจะเสพข่าวหรือได้ข้อมูลซักครั้งหนึ่ง
1 วันก็มากแล้วต้องรอหนังสือพิมพ์ หรือถ้าไม่เดินไปเห็นไปเจอเองก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกว่าจะรู้ก็ข้ามสัปดาห์ถ้านักข่าวไม่ไปทำข่าว
หนังสือเดือนละเล่มอ่านซ้ำไปแบบนั้นเรื่องเดิม ทีวีมีให้ดูแค่นั้น เท่าที่ช่องจัดหาให้เชื่อ ไม่มีข้อมูลโต้แย้ง ไม่มีการถกเถียงหักล้างให้มีอารมณ์ร่วม
ตอนนี้คือข่าวสารข้อมูลไหลเข้ามากระทบอารมณ์ บางเรื่องสะเทือนใจ ข่าวบ้าน การเมืองไหลเข้ามาที่ห้องนอน ถึงบนเตียงโดยที่เราไม่ต้องก้าวออกไปน้องห้อง 24 ชม.ซึ่งมันมากไปสำหรับสมอง โลกทั้งใบอยู่ในมือ คนถกเถียงกันในคอมเม้น สมองต้องทำงานในการประมวลผลจนอ้อนล้าเกินกว่าทุกครั้งในประวัติศาสตร์ ต้องเสพพอดีๆอย่าเสพอะไรสะเทือนใจ จนสมองมีร่องรอยใน ทั้งที่บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเองและไกลตัวมาก
อันนี้จริงเพราะเขาเห็นชีวิตตัวเองที่ด้อยค่า หรือถูกด้อยค่า ต้องให้ความเข้าใจ ให้ความหวังในการมีชีวิต ซึ่งรัฐปัจจุบันมันทำลายความหวังของพวกเขา
รายการดีมากครับ❤️
"อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่น"
แล้วเราจะมีความสุขขึ้น
พูดง่ายทำยากมากก
กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ยากมาก เพราะไม่ชอบเป็นรองคนอื่น ความเป็นเด็กชอบให้คนสนใจมากกว่าถูกเมินหรือถูกเพิกเฉย ไม่อยากเป็นภาระ อยากเป็นที่น่าภาคภูมิใจในสายตาของคนในครอบครัวและเพื่อนๆ นิสัยคิดมากของแต่ละคนอาจเป็นผลเสียอย่างหนึ่งก็ได้
การเปรียบเทียบ
การทำตามๆกัน
ดีมากๆคะหัวข่อนี้
เนื้อหารายการดีมากเลยครับ
คอนเทน สุขภาพจิตมาเเรงในปี 2023🎉😂
ประเทศที่ยังไม่เจริญมากนัก คนยังมีความเป็นมนุษย์สูงอยู่แต่พวกเค้าพร้อมจะตกเป็นเหยื่อเทคโนโลยีได้ทุกเมื่อนี่ขนาด ai ยังไม่ฉลาดมากนะ เพราะฉะนั้น ความรู้และประสบการณ์ทางโลกจริงๆเป็นสิ่งสำคัญกว่ากิเลศปัญญาอ่อนที่เราหาได้จากโทรศัพท์ ยุค 90 เป็นยุคที่ดี พ่อเเม่ต้องรู้เท่าทัน แต่ผมเชื่อพ่อเเม่ก็รู้ไม่เท่าทัน
หาเเฟนได้ง่ายมาก เเถมนัดเจอได้ไว กับยุคโซเชียล
วัยรุ่นอกหักกันเยอะ ซึมเศร้ากับความรัก 😢
ไช่แล้วค่ะขอบคุณมากนะค่ะ
ปิดมือถือ อยู่กับตัวเองบ้าง นั่งสมาธิ ออกไปออกกำลังกาย รู้สึกมีความสุขขึ้นมาก
ชอบฟังค่ะ
สกู๊ปดี เป็นกำลังใจ และจะคอยติดตามรับชมครับ
ผมชอบดูสถิติในเว็บ WorldOmeter ครับ ได้เห็นอะไรรอบด้านดี แล้วทำให้รู้ระบบเกิด-ดับ ของทั้งโลก ไม่ได้เอาใจไปผูกกับอะไร
กำลังอยากรู้เลย
เดี๋ยวจะตามไปอยู่
💙💙
ขอบคุณรายการ 2 D
ไม่ใช่ social media นะ ... สภาพความยากลำบากในการใช้ชีวิตปัจจุบันนี้ต่างหาก
บวกกันครับ ลำบากแล้วมาเสพย์ด้านลบๆ ใน Social Media อีกยิ่งแล้วใหญ่
เหนื่อยทำกินมากกว่า
รายได้มีส่วนนะ แต่ คนรวย การศึกษาสูง หมอ ดร. ก็คิดสั้นได้เหมือนกัน มันอยู่ที่การกระทบจิตใจ การแก้ปัญหา การหาทางออก มากน้อยแค่ไหน
เป็นประเด็นที่สังคมควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งครับ
เพราะระบบการศึกษาครับ
สมมติระบบการศึกษาเป็นแบบเดิมเหมือนเมื่อ 40 ปีก่อน แต่มาฆ่าตัวตายมากในยุคนี้ ระบบการศึกษาไม่ใช่ปัจจัย
คนรวยมีฐานะ ระดับ ดร. ก็ฆ่าตัวตายได้
บางคนก็ไม่ได้เครียดหรือมีปัญหาอะไรหรอกครับ แค่รู้สึกว่าพอกับการใช้ชีวิตแล้ว และก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
อยากตายจริงๆ เหรอ ?
@@JohnKickboxing ครับอยู่ไปทำอ่ะ ชีวิตมีความสุขอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วง ไม่มีอะไรที่อยากได้ รู้สึกพอกับชีวิตแล้ว
@@tumpairui1877 👌
อันนี้น่าจะเป็นมากในหมู่วัยเกษียณ จริงๆน่าจะเครียดไม่รู้ตัวอยู่มากกว่านะ แค่ความเบื่อมันทำลายกลไกป้องกันการฆ่าตัวตายของร่างกายไม่ได้หรอก
@@numai8131 คนพวกนี้หลอกตัวเองว่าไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า เพราะถูกปลูกฝัง(หัว)มาว่าคนเป็นโรคซึมเศร้า = เป็นบ้า 👌
ธรรมมะของพระพุทธเจ้าช่วยได้
แต่สำหรับตัวชันจะไม่ชอบทีมีเรืองอืน มายุ่งตอนดูเรื่องที่กำลังดู
อกหัก ไง ก็เจอเเฟนใน โซเชียล คอลกันไปมา จับติด มีชู้บ้าง ทำให้เกิดสาเหตุๆๆ
ไม่รู้คนอื่นเป็นมั้ยนะคะ แต่รู้สึกฟังเสียงในคลิปนี้ได้ไม่ค่อยชัด ไม่รู้เป็นสไตล์การพูดของคนดำเนินรายการรึป่าว แต่คิดว่าถ้าพูดช้าลงหน่อย หรือเปิดปากเวลาพูดให้กว้างขึ้น น่าจะทำให้ฟังง่ายมากขึ้นค่ะ
social media มีผลน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบจิตใจ ส่วนใหญ่ เกิดจากความเครียดสะสม การบูลลี่ กลั่นแกล้ง
เล่นๆไปเถอะโทรศัพท์กับโซเชี่ยล แต่ต้องหัดยอมรับความจริงและหัดยินดีกับชาวบ้านให้เป็น พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีปัญญาทำได้ อย่าไปอิจฉาชาวบ้านให้มาก
น่าคิดนะ คนที่มองภายนอกเหมือนช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้ อีกด้านเขาอาจกำลังแบกความรู้สึกมากมายทีไม่รู้จะแชร์ความรู้สึกนี้กับใคร ในขณะที่ข้างตัวอาจมีคนบางพวกที่ทำตัวเป็นลำโพงประกาศทุกอย่างในชีวิตให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองผ่านอะไรมาบ้าง ชีวิตเจอเรื่องเศร้าสาหัสกว่าใคร ๆ ฟังจนหลับได้เลย
จริงค่ะพวกเขาใจร้ายมากๆ เลยที่ทำแบบนี้ ยกโทษให้ยากค่ะ
ผมเล่นเฟสทุกวัน เเต่จะอ่านเฉพาะเรื่องที่ผมสนใจ ส่วนเรื่องชาวบ้าน ผมไม่สน ถ้าจะมาต้องตายเพราะเรื่องเเบบนี้ คิดให้ดี มันไม่ได้สำคัญกับชีวิตเลย สิ่งปรุงเเต่งทั้งนั้น ความสุขต้องหามาจากใจ ถ้ามีเเต่ความอิจฉา น้อยเนื้อต่ำใจ เเบบนี้ยังไงก็ตาย
เป็นคนดีของสังคมไทยนั้นมันอยู่ยาก.
ขอแนะนำเล็กน้อยนะคะ อยากให้บรรยายช้าอีกนิดเพื่อเพิ่มความชัดเจนเรื่องของภาษาไทยควบคู่ไปกับเนื้อหาสาระที่ดีมากๆ จะช่วยให้ผู้ฟังทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าใจโลกเข้าใจภาษาไทยของเราอย่างถูกต้องจากการฟัง ขอบคุณจากใจค่ะ
โลกโซเชียล ถ้าวัยรุ่นต้องปรับตัวเข้ากลับคนอื่น ไม่จำเป็นเพราะไม่ใช่ตัวตนแท้ๆของเรา โซเชียลใช้สื่อสารกับคนรู้จักก็ะอ
หาเเฟนทาง ทวิตเตอร์เยอะมากๆๆ
มันขึ้นอยู่กับว่าเข้าไปในmedia ใหน สภาพความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมครอบครัว และอื่น สื่อก็เหมือน น้ำตาล ที่ เป็นต้นเหตุของหลายโลก ตัวคนเองต่างหากที่สามารถเลือกกินอะไร เลือกเสพสื่อแบบใหนให้ตัวเอง สื่อเป็นช่องทางเปิดที่อาจช่วยเร่งปัญหาของคนๆนั้นมห้รุนแรงและไวขึ้น
Social media อย่างที่เรียกกันไป คือสิ่งงดงามอย่างหนึ่งบนโลกยุคนี้ที่คุณค่ามีได้มหาศาล การฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากจากสภาพโลกสังคมในยุคนี้ ต่อให้ไม่มีsocial media ก็ตาม ส่วนตัวแล้ว social media ทำให้อยากมีชีวิตมากกว่าถ้าไม่มีแน่นอนค่ะ
ผมพูดไม่ชัดแต่ไม่ใช่เพราะโรคติสท์หรือทูเรตต์ หรือทำตามกระแสอะไรพวกนั้นหรอกครับ เพราะผมเป็นโรค cleft palate
โซเชียลมีเดียแค่ทำหน้าที่เชื่อมสังคม ทีนี้แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกัน เลือกเสพเนื้อหาไม่เหมือนกัน คนที่มันจะป่วยทางจิตมันก็เพราะสังคมที่ตัวเองเลือกเชื่อม ไม่ใช่เพราะทางเชื่อมที่เป็นตัวกลาง
รัฐบาลไทยไม่สนหรอก เสียเวลา.
เหอๆ ไม่มีประเทศใดสนใจเรื่องเหล่านี้หรอก แค่บันทึกเหตุการณ์เป็นสถิติเก็บไว้และนำไปเทียบกับประเทศอื่นๆ ตามความอยากรู้ของพวกนักวิชาการทั้งหลาย
ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน
ทางช่องน่าจะเชิญนักจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาร่วนพูดคุยถึงปัญหานี้บ้างนะคะ ผู้เขียนอยากฟังยาวๆแบบครบรอบด้านน่ะ
ايوه
ดูโซเซียลเยอะ เปรียบเทียบคนอื่น มันเลยเศร้า ซึ่งจริงๆก็ไม่ควรเศร้าอะไรเลย
ใช้สื่อ เล่นโซเซียล ที่มีสาระ กำหนดเวลา พักการเล่น สักพัก แล้วค่อยดู แค่ใช้แบบมีสติ สื่อดีๆก็มีให้ดู ใครคอมเม้น ไม่ดี ก็บล็อค หรืออย่าเข้าไปอ่าน ปิดโทรศัพท์ หาเรื่องดี ๆ ทำดีกว่า # สติ สติ สติ ต้องมีสติ ท่องไว้
ดิฉันเองก็เคยเป็นซึมเศร้าจนต้องกินยาเพราะการหมกหมุ่นกับการเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโซเชียล ตอนนี้เลิกเล่นแหละ นานๆทีเข้าไปเช็คที
วัยรุ่นมีอาชีพเสริมนะ ใน OLF
เดี๊ยนเลิกใช้โซเชียลทุกอย่าง ไม่แตะ ไม่ดู ไม่เปิดเด็ดขาดมานานจนถึงเวลานี้ ชีวิตเดี๊ยนเลยดี๊ดี 5555
มันมีส่วนอยู่แล้วหละผู้เขียนว่า
❤️👍
คำกล่าว ข้างต้นยังไม่ถูกต้อง มีอะไรมากกว่านี้น
ຂໍໃຫ້ນິຍາມຄຳວ່າກະລິຍູກອາດສອ່ງຄອ່ງຫລາຍໆຢ່າງຂອງສັງຄົມໂລກກໍ່ວ່າໄດ້..
ลดการใช้socialmedia ช่วยได้ครับ ค่อยๆลด
ทำไมต้องค่อยๆเลิก ก็เลิกไปเลย ผมเลิกมาหลายปีละ ชีวิตดีขึ้น
ผมก็เล่นโซเชียลนะ ทำไมผมไม่เห็น
อยากฆ่าตัวตายเลย คนเล่นโซเชียล
มีกี่พันล้านคนล่ะทีนี้
อย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่าคนอื่น
Twitter vk tiktok โลกสดไส
❤❤❤ ดีที่สุด
น่าเสียดายที่ประเทศไทย ราคาปืนมันแพงไปหน่อย
ถ้าซื้อง่ายและถูก ผมคนหนึ่งแหละที่ยิงตัวฆ่าตัวตาย ผมเึยกินยาแล้วครั้งหนึ่งแต่มันไม่ตาย
ปัญหามันอยู่ที่คนบนโซเชียล
ไม่ใช่เพราะโซเชียล
มันแย่แน่ถ้าเล่นโซเซียลแบบหมกหมุ่น เอามาเปรียบเทียบ ห่างๆ มันบ้าง
เล่นโทรศัพท์มี รูป เสียง สัมผัส + กามฉันทะ ราคะ โลภ อยากให้การบ้านเสร็จเร็ว แถมมีปัญหาสายตาสั้นอีก คนสมัยรุ่นพ่อ แม่ ตา ยาย อายุ 50+ ขึ้นไป ไม่ค่อยมีคนสายตาสั้น เพราะนอนฟังวิทยุ
ขนาดยังไม่มี metaverse นะเนี่ย
น่า.เศร้า
จริงๆคลิปนี้น่าจะปิดคอมเม้นท์น่ะ เพราะสังคมไทยตอนนี้ค่อนข้างอันตรายกับคนเป็นโรคซึมเศร้ามากๆ
แนะนำว่าควรมีนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ในรร.
เอาตัวเองไปเทียบคนอื่น
คนตัดต่อใส่เดนตรี โคตรระทึก
ก็เกือบฆ่าตัวตายเพราะโซเชี่ยล😂😂😂
เกือบสำเร็จ
VK
ความ toxic เป็นเรื่องที่ดีแล้วเมื่อเทียบกับการถูกเซ็นเซอร์ชิปโดยรัฐบาล
เข้าใจเลยเพราะเป็นวัยรุ่นเหมือนกัน เคยสิ้นหวังมากเพราะเราเห็นคนเก่งๆในโซเชียลเยอะมาก เก่งมากทั้งๆที่อายุเท่ากันหรือน้อยกว่าเราซะอีก มันก็เผลอเปลี่ยบเทียบ กดดันตัวเอง และด้อยค่าตัวเอง
ว่างเกินไม่มีงาน ไม่เงิน ไม่มีความรู้
😂
เพราะไม่สนใจคำสอนของสาสนา
ได้ดูคลิปมั้ย
ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
คำพูดเชิงเปรียบเทียบในครอบครัวนี่แหล่ะ คือ สาเหตุ
พ่อแม่นี่แหล่ะ ตัวดีเลย...Social Media คือ ส่วนน้อย!
คำพูดเชิงเปรียบเทียบในครอบครัวจากพ่อแม่น่าจะลดลงตามยุค แต่ทำไมการฆ่าตัวตายในเด็กถึงเพิ่มขึ้น หรือสมัยก่อนไม่มีการใช้คำพูดเชิงเปรียบเทียบเลยถึงมีการฆ่าตัวตายน้อยกว่ายุคนี้
@@savmuyokikungushijuro9102
ความเห็นนี้อาจจะผิดก็ได้นะ...สมัยก่อน ไม่มี Social Media เลยไม่เป็นข่าว / คนสมัยก่อน Gen Baby boom-X อดทนกว่า Y-Z- Alpha
@@Jr.crocodile ไม่มีโซเชียลมีเดียแต่มีการบันทึกการตาย มีข้อมูลสถิติอยู่นะ
โลกสดใส X VK OLF
จริงหรือ/ขึ้นกับความคิดมากกว่าไหม
เข้าใจเลยรู้สึกแย่มากอยากตายสบายๆไปเกิดต่างโลกที่ดีกว่านี้ สงคมมันโหดร้ายต้องดิ้นรนเอาตัวรบ จะรวยก็ยาก โครงสร้างทางสังคมกดทับเด็กรุ่นใหม่มากๆ เหลื่อมล้ำมากๆ เขาใจเลยตายให้จบๆไปดีกว่า
อีกอย่างก็เต้นควงกี นี้แหละ ที่ฮิต
Jealousy jealousy ! ................
ผมจับทางพวกเล่น facebook ได้นะ ไอที่ลงๆโชว์ชีวิตดีหะ แค่ส่วนเล็กๆของชีวิต
เป็นคลิปที่มีประโยชน์สะท้อนถึงปัญหาทางด้านจิตใจของเด็กวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่จิตใจน่าจะเปราะบางที่สุด ส่วนตัวมองว่าความรักความอบอุ่นในครอบครัวสำคัญที่สุด พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกทุกวันรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น . สื่อโซเชียลมีเดียอาจจะมีผลกระทบต่อทางด้านจิตใจบ้างแต่คงไม่ทั้งหมด เด็กควรได้รับการปลูกฝังให้มีจิตใจที่เข้มแข็งและมีสติในการใช้สื่อโซเชียล
90% ประเทศเสรีภาพ 😂😂😂 จะเป็น เหมือนใน คลิป แปลกเนาะ ประเทศ เสรีภาพ แต่มีคน เครียดมากที่สุดในโลก
เลิกเล่นเถอะ
พอไม่เล่นโทรศัพท์แล้วถึงจะเบื่อแต่ก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้น