Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
อนุโมทนาสาธุค่ะ เป็นหมอคนแรกที่ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมขอให้ได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในพุทธศาสนานะคะ นิพพานะสุขัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ สาธุ สาธุ สาธุ
วิญญาณก็อยู่ที่เดียวกับจิตนั้นแหละครับ แล้วถามต่อว่าจิตอยู่ตรงไหน ตอบคือจิตอยู่ทุกที่ รับรู้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น เมื่อไรที่ไม่รับรู้นั้นคืออาการจิตลอย คนส่วนมากเป็นอย่างนั้นแหละจิตชอบล่องลอย ชอบหลง ทางศาสนาพุทธถึงบอกว่าการทำสมาธิถึงมีบุญมากที่สุดเพราะทำให้ไม่หลง การที่เราไม่หลงก็จะรู้ตัว รู้ตื่น มองเห็นความเป็นจริงของร่างกายนี้
ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ที่นำเสนอแบบสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน สำนวนฟังง่าย ไม่เพ่งโทษใคร ไม่ยกตนข่มท่าน บุคคลิกไม่โอ้อวด ฟังแล้วสบายใจ ผ่อนคลาย ไม่เครียด แม้นเป็นวิชาการ คุณหมอสุภาพพอที่จะไม่ระบุชัดถึงใคร ขอบพระคุณมากค่ะ
ยต
ไ
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
คุณหมอมีความเข้าใจธรรมได้ดีจริง เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม น่ายกย่องมากครับ
สุดท้านคลิปนี้ คุณหมอ ให้ข้อคิดที่ดีมาก เรื่องบัณฑิตไม่ควรเพ่งโทษผู้อื่น แต่ให้คอยเพ่งโทษตนเอง
ขอบคุณหมอวีครับ ที่ช่วยทำให้มีความเข้าใจ กระจ่างมากขึ้นในเรื่องของรูป นาม จิต วิญญาณ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสตร์
คุณหมอมีจิตใจที่น่ารักมาก ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้
ด้วยความเคารพคุณหมอวีครับผมตามคลิปของคุณหมอเกี่ยวกับสุขภาพหลายๆคลิปครับ และได้ฟังคลิปธรรมะ โดยเฉพาะเรื่องวิญญาณครับผมพอมีองค์ความรู้ของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสอธิบายบอกสอนเรื่องจิต มโน วิญญาณไว้ชัดเจนมากมีพระสูตรรองรับครับ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโลวัดนาป่าพง คลอง10 ปทุมธานีได้นำพระสูตรเหล่านี้มาถ่ายทอดบอกต่อ โดยไม่มีการแต่ง หรือบิดเบือนคำสอนนำคำสอนตรงๆในพระไตรปิฏกส่วนที่เป็นพุทธวจน ล้วนๆมาบอกต่อ เข้าใจง่าย จะเข้าใจว่า แท้จริงแล้วเราเป็นใครจิต มโน วิญญาณกับเรา เกี่ยวข้องกันอย่างไรเราไม่ใช่จิตไม่ใช่มโนไม่ใช่วิญญาณแล้วเราคือใครพระสูตรทรงตรัสว่า เราคือ *สัตว์*ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกเป็นผู้ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะได้เกิดมีปัญญารู้เห็นเข้าใจอริยสัจ4แล้วมาปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์8แล้วจะสามารถออกจากสังสารวัฏหรือระบบสมมุติไปสู่ฝั่งวิมุติหรือนิพพานได้(พุทธ วจน)สาธุ
คุณหมอ มีปัญญามากทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นบุคคลตัวอย่างอย่างแท้จริง ขอให้เป็นครูอาจารย์ แก่บุคคลทั้งหลายไปนานๆไปครับ
คุณหมอพูดได้น่าฟัง มีเหตุมีผล บางเรื่องที่คุณหมอไม่เห็นด้วยก็สามารถพูดคัดค้านได้อย่างละมุนละไมเป็นกัลยานิมิตที่ดี โชคดีที่มีเพื่อนเป็นหมอนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ
สุดยอดหมอ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม
หมอวีครับ ครั้งหนึ่งผมเคยสัมผัสได้ถึง การไม่มีตัวเรา รู้ตัวอยู่ในทุกขณะจิต แต่เห็นว่าที่เป็นอยู่และใช้ชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่ตัวเรา เพียงแค่มันเป็นของมันแบบนั้นตามความเป็นจริง ตามวัฏสงสาร ตามกาลและเวลา ตามธรรมชาติของมัน...ไม่ได้อวดรู้ อวดดีนะครับแค่อยากบอกกับทุกท่านว่า ลมหายใจ คือเรื่องจริง คือของจริง ดูแค่ลมหายใจ แค่นั้น เข้า และ ออก เรื่องอื่นไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องอยาก ถ้ามีอยาก คุณจะไม่รู้อะไรเลย ....สติมา ปัญญาเกิด สาธุครับทุกๆท่าน
ขอบคุณ คุณหมอวี ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และทางธรรม
สาธุสาธุค่ะ
สวัสดีครับคุณหมอวี..ฟังเพลินได้ความรู้ใหม่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ยากให้นักเรียนนักศึกษาได้เข้ามาฟัง เชื่อว่าวิญญาณมีจริงเป็นพลังงานมหัศจรรย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ..เล่าได้สนุกมาก ๆ " อนุโมทนาสาธุครับ "
ตั้งแต่คุณหมอวี คุยเรื่อง ธรรม... ผมกดติดตาม และ เป็นfc คุณหมออีกคนนึงเลยครับ
ใช่เลยคุณหมอครับ ปัญหาฉงนนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อ20ปีที่แล้ว น้องชายผมขี่มอไซด์ไปชนท้านกระบะตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ที่กลางสะพานนวลฉวีปากเกล็ด แล้วผมรู้ข่าวตอนหกเช้าก้านสมองร้าวไม่รู้สึกตัวต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หายใจเองไม่ได้ เป็นเรื่องหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ผมสนใจในพระศาสนาคำสอนของพระพุทธเจ้า จนมาถึงปัจจุบันครับ
ดีใจแทนผู้ป่วยที่มีคุณหมอเป็นคนรักษานะคะท่านเป็นคนที่โชคดีมากๆที่เจอคุณหมอท่านนี้ ขอบคุณคุณหมอนะคะที่เติบโตมาได้อย่างสวยงามแบบนี้ ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่ามากๆแบบนี้ตลอดไป♥️
คุณหมอแสดง วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้เป็นเลิศถ้าคุณหมอจะแสดง ปฎิจจสมุปบาทในเชิงวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาอีกสักเรีื่อง จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ครับขอแสดงความนับถือครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอค่ะ
ขอขอบพระคุณคุณหมอ มากๆค่ะ ที่ มาให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ แล้วให้ความรู้ ด้านธรรมมะด้วยค่ะ ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ
ท่านหมอผู้นี้เป็นผู้ที่ควรจะได้รับการยกย่องจากกระผมว่า เป็นผู้มีความรอบรู้ในทางโลก(ความรู้ทางการแพทย์)และความรอบรู้ทางธรรม มีคุณสมบัติค่อนข้างสูงในระดับอริยบุคคล วิญาณที่เข้าไปตั้งอยู่ในสัญญาของท่าน สามารถถ่ายทอดออกมาให้เข้าได้ดีตรงตามคำสอนในพุทธวจน ผมขอชื่นชมท่านอย่างจริงใจครับ
เยี่ยมมากเลยครับคุณหมอ เก่งมากครับที่สามารถโยงความรู้ทางแพทย์และทางธรรมเข้ากันได้ ขอชื่นชมจริง ๆ หายากมากที่หมอจะเข้าศาสนาไปพร้อมกัน
ขอบคุณค่ะเข้ามา ฟังครั้งแรก ขอบคุณค่ะ
ปัจจัตตัง ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตนทำไปเถาะคุณหมอเราต้องศึกษาเพื่อที่จะได้รู้ความจริง ( ถ้าไม่ศึกษาก็ไม่รู้ ) สู้ ๆนะ🌷🌹🌺🌼🤍💚💛💛💚🤍🌼🌺🌹🌷
อนุโมทนาสาธุ ยิ่งฟังยิ่งรักคุณหมอ บัณฑิตทั้งทางโลกทางธรรมค่ะ
เคยฟังพระอาจารย์ท่านนึง พูดเกี่ยวกับจิตไว้แบบนี้ค่ะคุณหมอ ตอนนี้จิตสิงอยู่ในร่างกายมนุษย์เราก็เป็นมนุษย์ พอตายไม่มีร่างกายมนุษย์ ก็จะเหลือแต่วิญญาณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าผี หลังจากนั้นก็แล้วแต่ว่าจิตสุดท้ายก่อนตายเราคิดอะไรอยู่ ยกตัวอย่างเช่น มีพระรูปหนึ่งหวงจีวรมาก ตายไปก็ยังยึดติดกับจีวรผืนนั้นอยู่ จิตก็จำแต่จีวร ทำยังไงจะได้กลับมาอยู่กับจีวร ก็ต้องเลือกมาเกิดเป็นอะไรก็ได้ที่เกิดเร็วและได้ใกล้ชิดกับจีวรเองมากที่สุด จึงได้เกิดมาเป็นไรเกาะจีวรตัวเองอยู่แบบนั้น ไม่ว่าตอนที่เราเป็นมนุษย์เราจะทำความดีมากมายแค่ไหน ถ้าจิตสุดท้ายก่อนตายของเราคิดไม่ดี ชาติภูมิที่เราจะได้ไปก็จะเป็นเหมือนจิตสุดท้ายที่เราจำได้ ความดีที่ทำเป็นเหมือนเสบียงอาหาร ทำดีทำบุญทำทานมากกลับมาเกิดใหม่ก็จะสุขสบายทางกาย เช่น ผู้หญิงคนนึงเคยขับรถชนหมาตาย เค้าชอบทำบุญ จิตใจดี แต่เค้าก็จำแล้วโทษตัวเองอยู่นั่นว่าเพราะตัวเองทำให้หมาตาย อยากชดใช้ให้หมา จนวันที่เค้าตาย จิตก็ยังจำและยังเสียใจกับเหตุการณ์วันที่หมาตาย ผู้หญิงคนนี้มาเกิดใหม่ ร่ำรวยสุขสบาย แต่เค้ากลับไม่เคยมีความสุขในชีวิตเลย พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เค้ายังเด็ก ท้องก็แท้งลูก เพราะจิตเค้าในชาติก่อนคิดแต่เรื่องเสียใจจะชดใช้ให้หมาที่ตายพระพุทธศาสนาจึงเน้นสอนให้ฝึกจิต นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตว่าง ให้ความว่างเป็นความปกติของจิต เพื่อที่ตายไปจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดรับทุกขเวทนาอีก ทำความดี คิดดี พูดดีทุกวัน เราจะเคยชินกับการทำดี จิตก็เหมือนเมมโมรี่การ์ด รับสิ่งดีตลอดเวลาก็จำแต่สิ่งดี ตายไปจิตก็รับรู้แต่สิ่งดี ทำดีและจิตผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะได้ไปสิงอยู่ใหม่ก็จะเป็นภพที่สูงกว่ามนุษย์ เช่น เทพ เทวดา ชั้นพรม หรืออื่นๆ ทำดี และจิตยึดติดไม่ผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะไปสิงอยู่ใหม่ก็อาจจะเป็นโลกมนุษย์ หมูหมากาไก่คนได้หมด แล้วแต่บุพกรรมทำไม่ดี จิตไม่ผ่องใส ตายไปจิตก็จะได้ไปในภพภูมิที่ตำกว่า เช่น สัตว์เดรัจฉาน หรือถ้าหนักก็เป็นสัมภเวสีผีเปรต แล้วมาฟังที่คุณหมออธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วย สรุปตามความเข้าใจของตัวเองที่ฟังคุณหมอพูด 2 รอบนะคะ 😂 เข้าใจว่า จิตวิญญาณคือแก่นของตัวเรา จิตวิญญาณอยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีความรู้สึก เพราะฉะนั้น จิตอาจจะไม่ใช่ของเรา เพราะไม่มีตัวเรา ร่างกายเราเปรียบเหมือนบ้านเช่า ที่จิตวิญญาณมาเช่าอาศัยอยู่ ตอนยังไม่ตาย ร่างกายเรากับจิตวิญญาณอยู่ด้วยกัน เหมือนเป็นพาสเนอร์กัน ถ้าเราใช้สมองบริหารจิต ใช้วินัยฝึกและควบคุมจิต จิตก็จะส่งเสริมให้เราไปในทางที่ดี แต่ถ้าเราตามใจจิต เช่นจิตบอกว่าเหนื่อยไม่อยากทำงานล่ะ สมองร่างกายพักตาม ชีวิตเราก็จะแย่ ถ้าจะบอกว่า สมองร่างกายคือเหตุผล จิตวิญญาณ คืออารมณ์ แบบนี้จะได้มั๊ยคะ คิดซะว่า สมองกับร่างกาย คือบ้านเช่า จิตวิญญาณคือผู้มาอาศัย ถ้าบ้านเช่าสวยงามแข็งแรงมีกฏระเบียบชัดเจน ผู้มาอาศัยก็จะมีระเบียบวินัย อาจเป็นที่มาของคำว่า ทางสายกลาง ถ้าเจ้าของบ้านเช่าและผู้มาเช่ามีความพอดี ก็จะส่งเสริมกันให้เจริญ พอถึงเวลาที่ต้องตาย คือบ้านหลังนี้เก่าแก่ผุพังตามอายุ จิตก็ออกไปหาบ้านเช่าหลังใหม่ จะได้บ้านเช่าที่ดีที่แพงที่ถูกใจมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านเช่าหลังที่เพิ่งพังไป เราสะสมทรัพย์ไว้มากแค่ไหน (บุญกุศล) นึกได้อีกคำค่ะ ไอคิวกับอีคิว สองอย่างนี้เหมือนและต่าง และจำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกัน สรุปอีกรอบ ไม่มีอะไรมีจริงเลย ทุกสิ่งคือสิ่งสมมุติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป 😊สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า นี่คือครั้งแรกที่ฟังเรื่องวิทยาศาสตร์จนจบพร้อมฟังทบทวนค่ะ 😂 คุณหมอมีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องยากให้ง่ายขึ้น เข้ามาฟังเพราะคำว่าวิญญาณเลยค่ะ 😄 คลิปเปิดสมองมากๆค่ะ ชอบค่ะ 😊
ฟังธรรมเพลินค่ะสาธุ
อีกสองประเด็นครับ 1. คุณหมอจบแบบอลังการมากครับ อนุโมทนาสาธุ 2. น่าจะเอาเนื้อหาใน seriesนี้ไปตีพิมพ์ในวารสารตปท. ได้นะครับ
สาธุ สาธุจร้า
ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้ได้มาเจอกัน ถือเป็นบุญ หลายครั้ง ที่เราออกนอกทาง นอกลู่ พอได้ฟัง คุณหมอ จิตก้อน้อม เข้ามาในทางดี ในวัย ที่กำลังใกล้ฝั่ง เพียงเราได้เจอ กัลยามิตรที่เลิศ นับว่าเปน วาสนา💖
สวัสดีดีครับคุณหมอ ผมดีใจที่ได้ไขความกระจ่างเรื่องพระที่เป็นอัลไซเมอร์ และได้มีเพื่อนเป็นพหูสูตแบบคุณหมอครับ ผมฟังมาถึงEP.นี้ คุณหมอพูดเรื่อง ขันธ์5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ กับสมอง ผมชอบมากครับEP.ต่อไป ขอเรื่องพระอรหันต์ ที่สิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำและเบื้องสูง 10 ข้อ ทำงานเกี่ยวข้องกับสมองอย่างไร ขอความเมตตาคุณหมอหาคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีครับ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
อาจารย์ครับ อันตรายมากครับถ้าสอนให้รู้ผิดๆ ในทางธรรม แต่ถ้าเกี่ยวกับสารีระร่างกายเห็นด้วยครับ
ดีใจจัง เพราะพี่เองเคยสงสัยมาตลอด กับคำถามนี้ ไม่รู้ทำไม
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะอาจารย์ ติดตามมาตลอด ชอบมากค่ะ ได้ประโยชน์มากมาย ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูง
ขอบคุณ คุณหมอวีครับ ได้สาระความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ทางแพทย์ และทางธรรม ควบคู่กันไป ขออนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับ "นิชฌัตติพลาปัณฑิตา บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษเป็นกำลัง"
สาธุ สาธุ สาธุ ครับคุณหมอ
ส่วนตัวนะคะคิดว่า วิญญาณคือพลังงาน ไม่ใช่สสาร เคลื่อนที่โดยอิสระ ไม่ประจำตำแหน่งใด ธาตุดินทั้งยี่สิบ เป็นองค์ประกอบในธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อจิตเข้าสู่พังค์ญาณจึงได้รู้ ซึ่งอธิบายไม่ได้ ทุกสิ่งหาย สังขารหาย แต่มีตัวรู้ รู้ในความว่างเปล่า
ที่เรียกสังขารนั้นคนทั่วไปเข้าใจถึงร่างกายคนเรา แต่ที่จริงหมายถึงการปรุงแต่ง ถ้าทางกายเรียกกายสังขารเช่น ไข่แดงเมื่อได้รับการผสมพันธุ์ ก็จะเกิดการแบ่งเซลขึ้น สารพันธุกรรมก็จะปรุงแต่งรูปกายขึ้นมาเป็น เป็ด ไก่ นก หนู ลิง ส่วนจิตนั้นก็มีการปรุงแต่งเช่นกันเรียกจิตสังขาร เป็นคนใจดี ใจร้าย ขี้อิจฉา ขี้โกง ส่วนภังคญาณ เป็นความรู้สึกที่พิจารณาแต่สภาวะที่ดับไป เช่นเมื่อเกิดความรู้สึกเจ็บปวด หิว บางท่านเก่งสมถะท่องพุทโธๆๆๆ ปวด หรือหิวหรือโกรธก็หายได้ด้วยสมถะ พิจารณาสภาวะดับไป ถ้าเป็นวิปัสสนาจะเห็นอาการปวดมากขึ้นๆๆจนแทบจะขาดใจ ที่สุดแล้วอาการปวดก็หายไป เรียกว่าเห็นอนิจจัง ท่านพุทธทาสเรียกฝึกตายก่อนตาย เรียกเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ขอบคุณค่ะ คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอวีป้าชอบฟัง ขอบพระคุณมาก ๆ💛
คุณย่าขอบคุณและชื่นใจกับการถ่ายทอดด้วยเมตตา(รับรู้ได้)ในเรื่องพุทธ_วิทย์ และก็เห็นด้วยกับวลี"เล่าเรื่องบนฟ้าให้ปลาฟัง" ส่วนย่าก็มุ่งศึกษาธาตุ4ขันธ์5ของตน โดยพยายามจัดการผัสสะที่มากระทบทางอายตน6 ให้เป็นอุเบกขาเวทนาให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ให้จิตปรุงฟุ้งกระเจิดกระเจิง แค่นี้ก็ยากสุดแล้วค่ะ(บททดสอบเยอะเสียจริง การเกิดเป็นทุกข์แท้ๆ)
สวัสดีค่ะคุณย่า ดิฉัน แม่ส้ม ชอบ ในรายการ ที่คอมเม้นท์ มาที่ ห้องคุณหมอ วี อ่านทุกครั้ง นะคะ แม่ส้ม-โอ อายุ 66 ปีแล้วก็ใส่ใจ ทางพุทธธรรม อยู่แล้ว และได้ติดตามคุณ หมอ วี มา 2 ปีกว่า ก็ ได้เรียน รู้ ทางวิทยาศาสตร์ พอดีฟังแล้ว ลงตัว ก็เลยชอบ เหมือน คุณย่า แหละค่ะสุดท้ายนี้ ขอให้คุณ ย่ามีสุขภาพ แข็งแรง, แข็งแรงนะคะ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏
คุณย่าขอบใจในพรที่แม่ส้มมอบให้ย่าและย่าขอพรนั้นสะท้อนย้อนกลับไปยังครอบครัวหนูด้วยนะคะ(ย่าก็อ่านmentของหนูเช่นกัน).ย่า70ปีค่ะ เริ่มฟังคุณหมอมี.ค.63ช่วงต้นๆของโควิด รับรู้ได้ถึงการพูดด้วยเมตตาค่ะและปี64ท่านกราบนิมนต์พระอ.สุชาติมาให้ธรรมะ ย่าอ๋อเลยค่ะ คุณหมอก็ไม่ธรรมดาในทางธรรมเลย และ3epนี้แหละคือคำตอบค่ะ แม่ส้มคะหนูมาถูกทางแล้วค่ะ คำสอนของพระพุทธองค์ช่วยให้รอดได้จริงๆ(ย่ามีทุนเบื้องต้นคือกตัญญูกตเวทีเลี้ยงพ่อ, แม่จนปิดตาให้ท่านค่ะ)เป็นกำลังใจในการเดินทางข้ามฝั่งจาก"โลกีย สู่ โลกุตร" นะคะ.จาก👩🦳
1
อาจารย์อธิบายได้รู้แจ้งในมิติวิทยาศาสตร์การแพทย์+กับหลักวิทยาศาสตร์ทางธรรมของพุทธศาสนา เป็นความรู้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น(อย่างมากไม่มีผู้ใดที่นำมาเปิดเผยและอธิบายมาก่อน)ถือว่าเป็นท่านแรกของปนะเทศไทย(หรือเป็นหนึ่งเดียวในโลก)ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้รู้แจ้งดีแล้วอย่างไม่มีประมาณ สาธุ ครับ
ทำไมไทยพม่าอินเดีย ไม่ได้ครองโลกครับ
ฟังสนุกมากเลยค่ะ
เพิ่งรู้ว่าจิตไม่ได้อยู่ที่เราค่ะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังที่พระพุทธสอนไว้ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏ขอบคุณคุณหมอที่ทำคลิปดีๆได้ความรู้ทางธรรมเชื่อมกับชีวิต ขอให้ทำคลิปแบบนี้ต่อไปนะคะ🙏❤️
กราบขอบพระคุณสำหรับความ ในเชิงวิชาการ ที่คุณหมอได้อธิบายบรรยายมาให้ฟัง ขอบคุณครับ
วิญญาณสิงอยู่ที่ไหน...? หัวข้อน่าสนใจมากครับ มีคนมากมายที่สงสัยและอยากรู้ครับ จิต (เรียกว่าวิญญาณก็ได้--[แต่ไม่ได้หมายถึงวิญญาณในขันธุ์ 5], หรือเรียกว่ามโนก็ได้) เรียกว่า "จิต" ดีกว่า เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่า ในปุถุชนคนทั่วไปจิตทาบทับตลอดร่างมนุษย์ตั้งแต่หัวถึงเท้า ตอนนอนจิตเข้าภวัง ไม่มีสติ เพราะไม่ได้ฝึกสติ ไม่ได้ฝึกจิตตภาวนา จิตไม่ได้ฝังอยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง (อย่างที่หมอวีอธิบายว่าไม่ได้ฝังอยู่ในสมองกลีบใดกลีบหนึ่ง) และมีขันธุ์ 5 เชื่อมถึงกันหมด กิเลสเอามารวมกันหมดพอคลอดออกมาก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเลย ความรู้สึกต่างๆแล่นถึงกันหมดทั่วร่าง ทําให้คนที่ไม่เคยเจริญจิตตภาวนาแยกไม่ออก พาลให้เข้าใจกันไปว่าเราคือร่างกายและร่างกายคือเรา จะแยกจิตออกจากกายได้ด้วยจิตตภาวนาเท่านั้น เพราะมีแต่จิตตภาวนาที่แก้กิเลสได้ องค์หลวงตามหาบัวเคยสอนว่าจิตตภาวนาเหมือนการดึงแหจับปลาคือดึงจิตที่ฟุ้งซ่านให้ย่นเข้ามาๆ และรวมเป็นดวงเดียวไม่กระจายไปทั่วร่างเหมือนตอนที่ไม่ได้ภาวนา เมื่อจิตรวมแล้วจึงแยกออกจากกายได้ด้วยปัญญา จึงเห็นว่าร่างกายนี้และจิตเป็นคนละส่วนกัน จากนั้นจึงเจริญปัญญา (วิปัสสนา) แยกขันธุ์ 5 (มีรูปหนึ่งและนามสี่) ออกทีละส่วนๆ แยกรูป (กาย) เวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉยๆ) สัญญา (ความจํา) สังขาร (การปรุงแต่ง) วิญญาณ (เกิดที่ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส เป็นต้น) ออกจากกัน แยกออกได้ด้วยกําลังของวิปัสนาญาณ และพิจารณาดูความเป็นอนิจจังของขันธุ์ 5 เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 อย่างชัดเจน เห็นรูปนามเป็นสมมุติ เหลือแต่จิตที่เป็นธาตุรู้สว่างจ้าเด่นอยู่ ถึงตรงนี้แล้วเรียกว่าเปิดประตูไปสู่พระนิพพานได้สําเร็จ และเมื่อถึงจุดนี้แล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจิตและกายเป็นคนละส่วนกัน ไม่ได้รวมเป็นอย่างเดียวกันตามที่กิเลสหลอกล่ออยู่ กิเลสหลอกแบบนี้หลอกให้เกิดมาหลายภพหลายชาติแล้ว ถ้าแก้ตรงนี้ไม่ได้ต้องเกิดต่อไปแบบนับไม่ถ้วนคือเกิดแบบไม่จํากัด ถ้าแก้ได้ภพชาติจะสั้นเข้าๆ จนพ้นเกิดไปได้ มีแต่วิปัสนาญาณที่ทําให้เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 ที่แปรไปแปรมาอยู่ตลอดเวลา เป็นสมมุติชัดเจน ยึดไม่ได้ ถัดจากนี้ก็ไปเจริญจิตตภาวนาต่อให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อละกิเลสที่ละเอียดเข้าไปอีกในลําดับต่อไป เช่น ราคะ ปฎิฆะ เป็นต้น อยากรู้ต้องลงมือปฎิบัติเองถึงจะหายสงสัยว่าวิญญาณสิงอยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นก็สงสัยกันต่อไป
สาธุๆๆทุกต้องคะต้องหมั่นฝึกถึงจะเข้าใจคะสาธุๆๆคะ
เขียนได้ดีมาก ภาษาสละสลวย สะกดถูกต้อง อ่านเพลินและสุขใจจัง ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ
คำอธิบายชัดเจน เป็นอะไรที่เข้าใจด้วยการปฎิบัติ แต่ก็มิได้หมายความว่าทุกคนที่ปฎิบัติจักเข้าใจแก่นแท้ได้ ขอบคุณ comment นี้ที่ชี้แนะ
สาธุเข้าใจยิ่งขึ้นมากมายค่ะ
ต้องเข้าใจเลยว่าจิตไม่ใช่เรา
ขอบพระคุณมากๆค่ะสาธุๆ
กายวิญญาณ อยู่ที่หัวใจ มโนวิญญานอยู่ที่ศรีษะ (ท้ายทอย) สังเกตได้จากที่อริยบุคคลบางจำพวกทำลายมโนวิญญานได้แล้วจะปวดท้ายทอย วิญญานก็มีลักษณะเป็นแสงสีเงินยวงคล้ายไฟฟ้าต้องทำจักขุให้เกิด จึงจะเห็นวิญญาณได้- จักขุวิญญานก็เป็นกลม ๆ อยู่รอบดวงตาเรา มองไม่เห็นด้วยตาปล่าว เราจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเราเจริญกสิณ จักขุวิญญานก็จะขยายเป็นวงกลมใหญ่ออกมาจากตา เหมือนกับกายวิญญานถ้ามันถ้าเราได้ฌาน ๔ กายวิญญานก็จะแผ่ออกมาเป็นวงกลมล้อมตัวเราไว้ ดวงวิญญานทุกดวง ไม่ว่าวิญญาณทางหู จมูก ล้วนมีสัญฐานเป็นวงกลมทั้งนั้น
ถูกต้องครับสำหรับมีกายหยาบ ทราบได้จากการเจริญกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ขณะเจริญสตินั่งหนอๆ กล้ามเนื้อที่น่องกระตุกๆคล้ายอาการหนังตากระตุก เกิดข้อสังเกตว่ากล้ามเนื้อจะทำงานได้ต้องมีผู้สั่ง แล้วผู้สั่งอยู่ที่ไหน น่องก็กระตุกในขณะที่สติตรวจกายอยู่พบว่าที่ในหัวใจก็มีการกระตุกเป็นจังหวะเดียวกับที่น่องกระตุก ตรงกับที่หลวงพ่อสดสอนว่า กายวิญญาณอยู่กลางน้ำเลี้ยงหัวใจ แต่ถ้าเป็นกายละเอียด เช่นเทวดา กลุ่มของวิญญาณจะมารวมกันโดยมี (จิตที่พร้อมด้วย เวทนา สัญญา สังขาร ) จิตกับวิญญาณจึงต่างกันด้วยสภาวะ เช่น ขณะนั่งหลับตา แล้วมีแสงมากระทบเปลือกตา เราจะรู้สึกสว่างเป็นอาการรู้ของจิต เมื่อลืมตา จะเกิดเวทนาขึ้นมาได้ว่าชอบ ไม่ชอบหรือเฉยๆ เกิดสัญญาจำได้ว่าเป็นแสงสีอะไร และมีการปรุงแต่งทางจิตและทางกายเช่นแสงจ้ามาก เราก็จะหรี่ตาลง(สังขาร) วิญญาณก็จะประมวลผลว่าจะทำอะไรต่อ
ขอบคุณ Dr.V ครับ การศึกษาพระพุทธศาสนาในแนวทางวิทยาศาสตร์นั้นถูกต้องที่สุด เพราะพระพุทธเจ้านั้นค้นพบหลักการของความจริงและการดำเนินตามความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ขอให้ทำคลิป "ปัญญา" แบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ สาธุ
ขอบคุณ คุณหมอครับ ที่อธิบาย เรื่อง รูป นาม ที่สำคัญ คือ สติ
27:35 จิต เป็นสภาวะที่ถูกบันทึก(อยู่ในคลื่นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติทุกหนแห่ง) สภาวะที่ถูกบันทึกไว้นี้ เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยของความคิดที่เกิดขึ้นในสมอง ส่งออกไปเป็นคลื่นสมอง(brain wave) เปรียบง่ายๆเหมือนคลื่นเสียงถูกเปล่งเสียงออกไปและถูกเก็บบันทึกไว้แถบผงแม่เหล็กในเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน จิตก็ถูกบันทีกไว้ในลักษณะคล้ายกันเพียงแต่ไม่มี รูปธรรมของจิต ที่จับต้องใด้เหมือนแถบผงเหล็กบนเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน แม้ปัจจุบันการบันทีกเสียงจะเป็นรูบแบบดิจิตอลแล้วก็ตาม หลักการถูกบันทีกจากคลื่นพล้ง งานแม่เหล็กไฟฟ้าก็เกิดแบบเดียวกันในทุกๆที่ทุกไแห่งในโลก เพราะฉนั้นการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมเกิดมาจากความคิด (คนไทยเรียกว่าใจ) เป็นเบื้องต้น แล้วจึงเกิดการกระทำด้วย กาย/วาจาตามมา และสิ่งที่ คิดพูดทำ ก็จะถูกบันทึกไว้เป็น รูปสภาวะในคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในรูปของพลังงาน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใด้ ซึ่งเป็นที่มาของ กฎแห่งกรรม ของมนุษย์รวมถึงสัตว์ทุกชนิดด้วย แต่พุทธะท่านใด้เข้าใจ ถึงสภาวะนี้ และใด้ค้นพบวิธ๊ที่จะหลุดพ้น จากวังวนของสภาวะไม่รู้จบจนใด้ บรรลุใด้เป็น พุทธะ จากการปฎิบัติและอบรมกายวาจาใจ ตามหลักแปดประการที่พระองค์ทรงค้นพบนั่นเอง
ถูกแต่ไม่ทั้งหมด สมองนี้มีหน้าที่แค่แปลกระแสจิตแล้วไปสั่งงานร่างกายอีกที จิตอยู่ตรงไหนบ้างจิตมันก็อยู่ทั่วร่างกายนะแหละ แต่จิตดวงประธานของจิตทั้งหมดมันอยู่ที่หัวใจครับมันอิสระนะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจจิตตัวนี้เท่านั้นที่หลุดพ้นไปนิพพาน(จิตประธานเป็นธาตุรู้และบันทึกเปรียบเสมือนรอม) แล้วจิตนึกคิดละหรือจิตสังขารอยู่ที่สมองโลภโกรธหลงอยู่ที่จิตตัวนี้แต่มันแค่นึกคิดนะคือเป็นตัวสร้างอารมณ์แต่ไม่ใช่ตัวรู้อารมณ์ตัวรู้อารมณ์คือจิตดวงประธานที่หัวใจนั่นละ จิตสังขารมันทำงานร่วมกับรูปเวทนาวิญญาณและสัญญา สัญญาในที่นี้คือความจำชั่วคราวอยู่ที่สมองนะแหละสัญญานี้เปรียบเสมือนแรมทำงานร่วมกับจิตสังขาร จิตดวงประธานถ้าไม่มีรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณก็ทำอะไรไม่ได้ก็คือนิพพาน นิพพานคือสภาวะจิตที่ไม่มีองค์ประกอบของรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ เป็นสุญญตา
@@xxx966553 อนาคต ถ้ามีผู้เป็นโรคหัวใจ หมอต้องตัดหัวใจทิ้งและบรรจุหัวใจเทียม(เครื่องจักรกล) จิต วิญญาณ จะยังคงอาศัยอยู่ในหัวใจเทียมหรือเปล่าครับ
@@homesmoll 5555 เข้าใจถาม ชอบ
@@homesmoll จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด
@@12345678987654321537 จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด
คุณหมอเอาเรื่องนามรูปในศาสนาพุทธมาเทียบกับทางแพทย์ จะแสดงให้ชาวพุทธเข้าใจหลักธรรมของพุทธองค์
28:00 เป็นความรู้ใหม่ของผมเลยครับผม ถ้าเชื่อลองคิดๆดูมันก็น่าจะจริงก็ได้ เช่นตกใจ ใจหาย จิตอื่นเข้าแทรกเข้าสิง แม้กระทั่งวิธีเข้าถึงนิพพาน ก็อาจหมายถึงการตัดขาดดับสิ้นซึ่งสายสัญญาณระหว่างรูปนาม ภพชาติ ซึ่งเจ้าตัวสายสัญญาณนี้คือกิเลส กรรม และตัณหา พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยตรัสว่าแท้จริงจิตนี้ผ่องใส แต่ถูกกิเลสจรมา สาธุ ขอบพระคุณ คุณหมอทางโลกและทางธรรมขอรับ
อจ.หมอพูดสุดยอดมากเข้าใจง่ายเจ้าคะ ศาสนาพุทธพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ท่านใดมีศีลเสมอกันเข้าใจได้ท้นทีเจ้าคะ ขอแชร์เจ้าคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ เพิ่งถึงบ้านมีเวลารีบมาฟังคุณหมอต่อค่ะขอให้คุณหมอและครอบครัวมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรงๆนะคะ ขอบพระคุณข้อมูลค่ะ🙏🏼
๑
เป็นภาคสามที่อเมสซิ่งมากจ๊ะพี่หมอ .. เหมือนนั่งฟังเลคเช่อร์อยู่ที่ศิริราชแล้วก็มีวัดระฆังอยู่ในที่เดียวกันเลย .. เมื่อวานได้น้ำพริกไปแล้ววันนี้พี่หมอจัดผักจัดปลาทูตัวโตมาให้อิ่มอร่อย.. แต่เหมือนยังขาดๆอะไรอยู่นะ อ๋อ ของหวาน พี่หมอช่วยแถมในวันพรุ่งนี้เป็นภาคสี่สักครึ่งภาคก็ดีนะจ๊ะ อย่าว่าเราได้คืบจะเอาศอกเลย อยากได้เป็นเมตรเลย ก็พี่หมอทำให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ อยากฟังอีก ว่างั้น.. วันเสาร์จะไปทำบุญที่นครพนมและจังหวัดใกล้เคียงสามวัน คงไม่ได้มาไลฟ์จ๊ะ .. ชอบที่ฝรั่งตั้งตัวPineal Gland เป็น Seat Of Soul อันนี้แปลกดี .. ขอบพระคุณพี่หมอจ๊ะ .. บัณฑิตไม่มีการเพ่งโทษ เป็นกำลัง.. สุดมากจ๊ะ ... ..
คุณหมอค่ะปวดกล้มเนี้อมันอักเสบสาเหตุป้าแขนข้างขาวดึงปักไฟเส้นเอ็นมันเลยเส้นอักเสบมากไปให้คนิกฉีดสองเข็มแต่ดีขึ้นแต่ป้ากินยาแก้อักเสบมีรู้สึกยังเจ็บป๊บไม่อย่ากินยาเยอะไปแน่นำด้วยค่ะ
เกิดอาการเบื่ออาหารต้องทำยังไงครับ
เห็นด้วยกะคุณหมอค่ะ และจะนำไปปฏิบัติ คือไม่เพ่งโทษผู้อื่น แก้ไขตนเอง และมีเมตตาขอบคุณค่ะ ได้ทั้งความรู้ และการปฏิบัติตน
วิญญาณคือความทรงจำครับ อยู่ในรูปแบบของกระแสไฟฟ้าในสมอง ถ้าย้ายหัวไปต่ออีกคนได้เราก็จะย้ายร่างได้ หรือถ้าเราส่งต่อกระแสไฟฟ้าในสมองไปอยู่ในอีกสมองนึงได้เราก็จะย้ายร่างได้ครับ ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ทุกคนคือความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองครับ
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าครับ ที่มีอยู่ในทุก อนูของอากาศบนโลก เป็นที่เก็บบันทึกคลื่นสมอง(brain wave) ของคนและสัตว์ ที่เราใช้ศัพท์ที่เรียกกันว่า "จิต" นั่นเองครับ ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรม ก็คือ คลื่นเสียงทุกๆชนิดที่สามารถบันทึกไว้ใด้โดยใช้เทปบันทึกเสียงบนแถบผงเหล็กสมัยก่อน แต่ปัจจุบันก็สามารถบันทึกเสียงด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าภายในมือถือผ่าน chips และระบบดิจิตอลในเครื่องมือถือนั่นแหละครับ เพราะ ฉนััน พุทธองค์ทรงตร้สว่า "ไม่มีความลับในโลก" ก็เพราะว่า ความคิด การกระทำทางกายวาจาเริ่มมาจากความคิด (ใจ )ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่ทางการแพทย์ก็มีการใช้เครื่องมือตรวจคลื่นสมอง(brain scan)เพื่อดูคลื่นสมอง ในการวินิจฉัยโรค และอาการที่เกี่ยวกับโรคสมองใด้ (แม้ว่าจะบันทึกใด้ในรูปคลื่นสมองแบบหยาบๆไม่สามารถบันทึกใด้ละเอียดอย่างที่ถูกบันทึกอยู่ในอนูอากาศ แต่ก็สามารถใชัแปลผลของสมองๆใด้ในระดับหนึ่งเพื่อใช้ในการรักษาโรคเท่านั้น) ดังนั้นเมื่อ กายวาจาใด้กระทำออกไปตามความคิดแล้ว ความคิดจึงเป็นกรรมที่ถูกบันทึกไว้เรียบร้อย แก้ไข เปลี่ยนแปลงไม่ใด้ คิดดีเป็นกุศลจะเปลี่ยนเป็นอื่นไม่ใด้ ทำนองเดียวกันคิดไม่ดีเป็นอกุศลก็เปลี่ยนแปลงไม่ใด้เช่นกัน
คุณหมอเก่งมากเลยครับ บุคลากรอย่างหมอนี่ หากยากมากที่สุด สังเกตที่นามสกุลคุณหมอ มันเป๊ะจริงๆ พูดอีกเยอะๆ นะครับ ขอบพระคุณมากๆ
คำว่าสัตว์สัตตานังมีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรพระเจ้าข้า สัตตานังยึดขันธ์ 5 ตลอดเมื่อใดที่สัตตานังไม่ยึดขันธ์ 5 เมื่อนั้นนิพพาน ไม่ทราบว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกต้องไหมครับ
ชอบมากเลยคะ พยายามทำความเข้าใจ ผลของสมาธิกับการทำงานของสมอง ชอบมากเลยคะ
คุณหมอครับสำหรับผมแล้วถ้าพูดถึงวิญญาณแล้วมันไม่ได้อยู่ที่สมองและก็ไม่ได้อยู่ที่หัวใจครับ..แต่วิญญาณมันอยู่ที่.การยังมีชีวิตอยู่นั่นเองและเมื่อลมหายใจดับวิญญาณก็ออกจากร่างครับ
สิ่งที่ท่านกล่าว คือ ความหมายของวิญญาณทางโลก ลองศึกษาเรื่องวิญญาณทางธรรม เพิ่มเติมครับ จะได้เป็นข้อพิจารณา เปรียบเทียบ ครับ ..
สวัสดีค่ะคุณหมอ ชอบฟังหมอพูดเพราะเข้าใจง่ายดี
หมอเรียนสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งที่อธิบายที่มาที่ไปได้ แต่หมอเชื่อเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อย่างเรื่องที่ว่าจิต วิญญาณ หรือเจตภูต อยู่ที่ใดที่นึงที่ไม่ใช่ร่างกายนี้ถ้าเชื่ออย่างนี้ นี่ก็คือเชื่อว่าจิตเป็น อาตมัน คือมีอยู่คงทนถาวร(เป็นสัสสตทิฏฐิ)มันก็ไปตรงกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ คริสต์ อิสลามเพียงแต่ศาสนาเหล่านี้จะบอกว่า ถ้าบรรลุแล้วจิตจะไปรวมอยู่กับพระเป็นเจ้าแล้วอย่างนี้พุทธศาสนาจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตั้งแต่แรกในเมื่อมีศาสนาพราหมณ์อยู่ก่อนแล้วหมอน่าจะรู้จักกาลามสูตรเป็นอย่างดี พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย ต้องเอาความเชื่อนั้นไปพิสูจน์ด้วยปัญญาหมอก็จะแย้งว่า ก็เรื่องนี้หมอยังไม่บรรลุเลยพิสูจน์ไม่ได้สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ท่านก็บอกเอาไว้แล้วว่าสันทิฏฐิโก อะกาลิโก เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาจะรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่จำกัดกาลมันย่อมไม่เกินวิสัยที่วิญญูชนจะรู้ได้ ถ้าแม้แต่หมอเองยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตรรกะได้ก็น่าคิดว่าความเชื่อนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่แนวความคิดทำนองว่ามีวิญาณคอยท่องเที่ยวไปควบคุมร่างกายนี้ที ร่างกายโน้นทีพระพุทธเจ้าท่าก็เคยตรัสกับ ภิกษุสาติ มาแล้วว่า"วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี"..ผมเข้าใจเป็นอย่างนี้ จึงขออธิบายเพื่อแลกเปลี่ยนครับ
มาฟังอีกแล้ว
ขอเห็นต่างนะคะวิญญานตัวนี้หมายถึงธาตุรู้ใช่ไหมคะเห็นว่าที่พักของวิญญานน่าจะอยู่ที่หัวใจ เพราะเวลาเราตกใจจะเกิดอาการใจหายแวบๆ แต่ด้วยวิญญานเป็นธาตรู้เคลื่อนที่ได้สามารถอยู่ตรงไหนก็ได้เมื่อผ่าจึงไม่เจอ แต่ที่ประจำน่าจะอยู่ที่หัวใจค่ะ ความเห็นส่วนตัวนะคะ
ขอบคุณ คุณหมอวีมากๆคับที่อธิบายแจกแจง อย่างละเอีบด ให้เข้าใจความเชื่อมโยงของ ร่างกาย กับ ธาตุ4 ขันธ์5 อายตนะ6 ไว้อย่างดี ขออนุโมทนาในธรรมทานในครั้งนี้ด้วยคับ🙏🙏🙏
รูป ไม่ใช่กายครับ รูปในขัยธ์5มันคือ"นามรูป" ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนไม่มีตัวตน อยู่ในโลกุตระที่คุณหมอพูดมาถูกต้องครับ บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บัณฑิตย่อมเป็นผู้แนะนำชี้แนะเพื่อให้เกิดปัญญาแก่ผู้อื่น อย่ามองว่าการชี้แนะเป็นการเพ่งโทษน่ะครับ.
ชอบและศรัทธาคุณหมอมากเลยค่ะ เพราะคุณหมอมีความรู้เรื่องศาสนาพุทธมากคะ
ขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยงค่ะทำดี คิดดี ดีที่สุดสำหรับชีวิตๆหนึ่งที่จุติมา
อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับคุณหมอ มีประโยชน์มากๆ ครับ เป็นกำลังให้คุณหมอแบ่งปันความรู้ดีๆ แบบนี้ต่อๆ ไปครับ ผมได้ประโยชน์จากคลิปที่คุณหมอแบ่งปันหลายเรื่องเลยครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณ คุณ หมอสีนะคะ ขอ ติดตาม ที่หมอ ขยัน พูดให้ ความรู้ แบ่งปันหมอน่ารัก คุณยาย รักหมอ นะคะ คุณหมอความรู้ดีมากๆ คะ
คุณหมอมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตา ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ
ชอบฟังคุณหมอมากเลยค่ะ ได้ความรู้ทางวิชาการแบบลึกๆ ฟังเข้าใจง่ายเหมือนได้ต่อยอดด้านชีวะและเคมีจากสมัยเด็กๆเลยค่ะ ฟังแบบมีความสุข ติดตามคุณหมอตลอดค่ะ
สวัสดีตอนเช้าค่ะตามp3ต่อ
คุณหมอ....คุณหมอเข้าใจผิดของธรรมชาติ....สิ่งในโลกนี้มีจุดกำเนิดของมันหมด....แม้แต่โลกก็มีจุดกำเนิด.....วิญญาณอยู่ทุกส่วนของร่างกายเพราะวิญณาณเป็นพลังงานชนิดหนี่ง......ทำลายวิญญาณได้ก็ทำลายจุดเริ่มต้นของการเป็นมนุษย์.....คือนิพพานนั่นเอง....หมอลืมไปว่าของในโลกนี้มีจุดกำเนิด.....ทำลายจุดกำเนิดคือทำลายตัวตนนั่นเอง....ทำลายตัวตนคือทำลายจุดกำเนิดของมัน
สวัสดีค่ะคุณหมอพูดชัดเจนฟังแล้วเข้าใจง่ายและมีข้อมูลประกอบมืออาชีพค่ะสมเป็นอาจารย์หมอพูดถึงเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่ายชอบมากที่เชื่อมโยงข้อมูลที่เชิงลึกที่พูดถึงวิญญาณว่าคือตัวรับความรู้สึกเทียบให้เห็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้ยอดเยี่ยมมองเห็นภาพชัดเจนชอบมากค่ะที่คุณหมอบอกว่าสมองคือสิ่งมหัศจรรย์จิตไม่ใช่เราเข้าหลักไตรลักษณ์อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา บัณฑิตย่อมไม่เป็นผู้เพ่งโทษผู้อื่น-แต่จะเพ่งโทษตนเอง แทนจะได้เป็นการพัฒนาตนเองสาธุๆๆ
ขอบคุณค่ะ🙏คุณหมอวี
หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาคือหลักการทางวิทยาศาสตร์โดยแท้จริงค่ะ..ขอบคุณหมอที่นำหลักการทั้ง 2 ศาสตร์ ไขข้อสงสัยความเชื่อที่ผิดๆของคนที่นับถือพระพุทธศาสนา
วิญญาณ เราว่าไปทั่วทุกแห่งตามพลังที่สะสมกันมา...แม้ในกายของสัตว์โลก ที่ตาจึงเห็น หูได้ยิน รับรสที่ลิ้น สัมผัสที่ผิว ได้กลิ่นที่จมูก เป็นต้น ...ชอบฟังการวิเคราะห์ของดร.วี ... สาธุ
จิต(วิญญาณ)และเจตสิก(เปลือกนอกหุ้มจิต)เหมือนคู่แฝดแท้ ไปด้วยกันตลอด จิตบริสุทธิ์แต่เจตฯยังมีกิเลส...
ฟังหมอวีคุยแล้ว บรรดาคุณหมอทั้งหลาย ถ้าศึกษาการปฏิบัติวิปัสนาคงจะบรรลุอริยะบุคคลได้งายกว่าบุคคลทั่วไป เพราะท่านได้ศึกษาทั้งด้านร่างกายและสมองละเอียดมาก
อนุโมทนาสาธุค่ะคุณหมอ ขอบพระคุณมากๆ
ขอบคุณมากๆๆค่ะคุณหมอ ขอบคุณข้อมูลมากๆๆค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ ได้ความรู้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ จากแอลเอ อเมริกา
ขอบคุณค่ะหมอวี
ขอบคุณ คุณหมอ มากๆ ค่ะ
สวัสดีคะ คุณ หมอ วี 🙏ขอบคุณ. ใน ความรู้ ที่ดี มี ประโยชน์ มากคะ 😇🛡🍂🙏
สวัสดีคะ คุณหมอ
สาธุค่ะมีประโยชน์และคุโนปราการมากมายจริงๆค่ะ
ขอบคุณครับคุณหมอ.ทึ่ช่วยกล่าวปรัชญาให้ฟัง.มีค่ายิ่งในการฝช้ชีวิต.
ขอบคุณครับ
ตอนเป็นเด็ก ตอนรู้สึกเสียใจ เคยนึกสงสัยว่าใจอยู่ที่ไหน เคยนึกเข้าไปถึงหัวใจก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ใจ ถามใครก็ตอบไม่ได้ ได้แต่นั่งคิดๆๆ แล้วก็เครียดอยู่คนเดียว เป็นความอึดอัดที่ตอบตัวเองไม่ได้ พอโตมาก็เลิกสงสัย แต่ก็ไม่รู้อยู่ดี จนมาฝึกภาวนา ฟังพระที่ท่านพูด พอเข้าใจเชิงทฤษฎีแต่ก็ นั่นแหละยังไม่เคยตอบคำถามตอนเด็กได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณที่คุณหมอที่ช่วยอธิบาย ทำให้เด็กคนนั้นได้รู้ว่าไม่มีแค่เราคนเดียวที่บ้าสงสัยอะไรแบบนี้
ขอบพระคุณท่านผู้แสดงธรรม
สาธุๆ ๆคะ
ฟังทุกพาร์ทค่ะ ขอบพระคุณทุกหัวข้อที่ตั้งประเด็นขึ้นมา ด้วยความชัดเจนขึ้นค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ความเข้าใจที่ควบคู่กันไปทั้งทางวิทยาศาสตร์และพุทธศาสน์ ฟังเข้าใจง่ายดีค่ะ
ดีต่อใจสบายใจ... สงบสงบ... จิตอยู่ไหน... ใจฉันสงบขอบคุณเค่ะ
ฟังครั้งแรกครับ เข้าใจว่าคุณหมอน่าจะภาวนาด้วย อนุโมทนาครับ🙏🏼
ให้ความรู้ทีชัดเจนชัดแจ้งครับ อนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยครับ
มาตามฟังอาจารย์จากเมื่อ1 ปีมาแล้ว ขอบคุณอาจารย์ค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ เจริญปัญญาขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ เป็นหมอคนแรกที่ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมขอให้ได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในพุทธศาสนานะคะ นิพพานะสุขัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ สาธุ สาธุ สาธุ
วิญญาณก็อยู่ที่เดียวกับจิตนั้นแหละครับ แล้วถามต่อว่าจิตอยู่ตรงไหน ตอบคือจิตอยู่ทุกที่ รับรู้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น เมื่อไรที่ไม่รับรู้นั้นคืออาการจิตลอย คนส่วนมากเป็นอย่างนั้นแหละจิตชอบล่องลอย ชอบหลง ทางศาสนาพุทธถึงบอกว่าการทำสมาธิถึงมีบุญมากที่สุดเพราะทำให้ไม่หลง การที่เราไม่หลงก็จะรู้ตัว รู้ตื่น มองเห็นความเป็นจริงของร่างกายนี้
ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ที่นำเสนอแบบสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน สำนวนฟังง่าย ไม่เพ่งโทษใคร ไม่ยกตนข่มท่าน บุคคลิกไม่โอ้อวด ฟังแล้วสบายใจ ผ่อนคลาย ไม่เครียด แม้นเป็นวิชาการ คุณหมอสุภาพพอที่จะไม่ระบุชัดถึงใคร ขอบพระคุณมากค่ะ
ยต
ไ
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
คุณหมอมีความเข้าใจธรรมได้ดีจริง เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม น่ายกย่องมากครับ
สุดท้านคลิปนี้ คุณหมอ ให้ข้อคิดที่ดีมาก เรื่องบัณฑิตไม่ควรเพ่งโทษผู้อื่น แต่ให้คอยเพ่งโทษตนเอง
ขอบคุณหมอวีครับ ที่ช่วยทำให้มีความเข้าใจ กระจ่างมากขึ้นในเรื่องของรูป นาม จิต วิญญาณ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสตร์
คุณหมอมีจิตใจที่น่ารักมาก ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้
ด้วยความเคารพ
คุณหมอวีครับ
ผมตามคลิปของ
คุณหมอเกี่ยวกับ
สุขภาพหลายๆคลิป
ครับ และได้ฟังคลิปธรรมะ โดย
เฉพาะเรื่องวิญญาณครับ
ผมพอมีองค์
ความรู้ของ
พระพุทธเจ้าที่
ทรงตรัสอธิบาย
บอกสอนเรื่อง
จิต มโน วิญญาณ
ไว้ชัดเจนมาก
มีพระสูตรรองรับ
ครับ พระอาจารย์
คึกฤทธิ์ โสตถิผโล
วัดนาป่าพง คลอง
10 ปทุมธานี
ได้นำพระสูตร
เหล่านี้มาถ่ายทอด
บอกต่อ โดยไม่มี
การแต่ง หรือ
บิดเบือนคำสอน
นำคำสอนตรงๆ
ในพระไตรปิฏก
ส่วนที่เป็นพุทธ
วจน ล้วนๆ
มาบอกต่อ เข้าใจ
ง่าย จะเข้าใจ
ว่า แท้จริงแล้ว
เราเป็นใคร
จิต มโน วิญญาณ
กับเรา เกี่ยวข้อง
กันอย่างไร
เราไม่ใช่จิต
ไม่ใช่มโน
ไม่ใช่วิญญาณ
แล้วเราคือใคร
พระสูตรทรงตรัส
ว่า เราคือ *สัตว์*
ผู้มีอวิชชาเป็น
เครื่องกั้น มีตัณหา
เป็นเครื่องผูก
เป็นผู้ท่องเที่ยว
ไปในสังสารวัฏ
อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะได้เกิด
มีปัญญารู้เห็น
เข้าใจอริยสัจ4
แล้วมาปฏิบัติตาม
อริยมรรคมีองค์8
แล้วจะสามารถ
ออกจากสังสารวัฏ
หรือระบบสมมุติ
ไปสู่ฝั่งวิมุติ
หรือนิพพานได้
(พุทธ วจน)สาธุ
คุณหมอ มีปัญญามากทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นบุคคลตัวอย่างอย่างแท้จริง ขอให้เป็นครูอาจารย์ แก่บุคคลทั้งหลายไปนานๆไปครับ
คุณหมอพูดได้น่าฟัง มีเหตุมีผล บางเรื่องที่คุณหมอไม่เห็นด้วยก็สามารถพูดคัดค้านได้อย่างละมุนละไมเป็นกัลยานิมิตที่ดี โชคดีที่มีเพื่อนเป็นหมอนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ
สุดยอดหมอ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม
หมอวีครับ ครั้งหนึ่งผมเคยสัมผัสได้ถึง การไม่มีตัวเรา รู้ตัวอยู่ในทุกขณะจิต แต่เห็นว่าที่เป็นอยู่และใช้ชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่ตัวเรา เพียงแค่มันเป็นของมันแบบนั้นตามความเป็นจริง ตามวัฏสงสาร ตามกาลและเวลา ตามธรรมชาติของมัน...
ไม่ได้อวดรู้ อวดดีนะครับแค่อยากบอกกับทุกท่านว่า ลมหายใจ คือเรื่องจริง คือของจริง ดูแค่ลมหายใจ แค่นั้น เข้า และ ออก เรื่องอื่นไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องอยาก ถ้ามีอยาก คุณจะไม่รู้อะไรเลย ....สติมา ปัญญาเกิด
สาธุครับทุกๆท่าน
ขอบคุณ คุณหมอวี ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และทางธรรม
สาธุสาธุค่ะ
สวัสดีครับคุณหมอวี..ฟังเพลินได้ความรู้ใหม่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ยากให้นักเรียนนักศึกษาได้เข้ามาฟัง เชื่อว่าวิญญาณมีจริงเป็นพลังงานมหัศจรรย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ..เล่าได้สนุกมาก ๆ " อนุโมทนาสาธุครับ "
ตั้งแต่คุณหมอวี คุยเรื่อง ธรรม... ผมกดติดตาม และ เป็นfc คุณหมออีกคนนึงเลยครับ
ใช่เลยคุณหมอครับ ปัญหาฉงนนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อ20ปีที่แล้ว น้องชายผมขี่มอไซด์ไปชนท้านกระบะตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ที่กลางสะพานนวลฉวีปากเกล็ด แล้วผมรู้ข่าวตอนหกเช้าก้านสมองร้าวไม่รู้สึกตัวต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หายใจเองไม่ได้ เป็นเรื่องหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ผมสนใจในพระศาสนาคำสอนของพระพุทธเจ้า จนมาถึงปัจจุบันครับ
ดีใจแทนผู้ป่วยที่มีคุณหมอเป็นคนรักษานะคะท่านเป็นคนที่โชคดีมากๆที่เจอคุณหมอท่านนี้ ขอบคุณคุณหมอนะคะที่เติบโตมาได้อย่างสวยงามแบบนี้ ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่ามากๆแบบนี้ตลอดไป♥️
คุณหมอแสดง วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้เป็นเลิศ
ถ้าคุณหมอจะแสดง ปฎิจจสมุปบาทในเชิงวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาอีกสักเรีื่อง จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ครับ
ขอแสดงความนับถือครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอค่ะ
ขอขอบพระคุณคุณหมอ มากๆค่ะ ที่ มาให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ แล้วให้ความรู้ ด้านธรรมมะด้วยค่ะ ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ
ท่านหมอผู้นี้เป็นผู้ที่ควรจะได้รับการยกย่องจากกระผมว่า เป็นผู้มีความรอบรู้ในทางโลก(ความรู้ทางการแพทย์)และความรอบรู้ทางธรรม มีคุณสมบัติค่อนข้างสูงในระดับอริยบุคคล วิญาณที่เข้าไปตั้งอยู่ในสัญญาของท่าน สามารถถ่ายทอดออกมาให้เข้าได้ดีตรงตามคำสอนในพุทธวจน ผมขอชื่นชมท่านอย่างจริงใจครับ
เยี่ยมมากเลยครับคุณหมอ เก่งมากครับที่สามารถโยงความรู้ทางแพทย์และทางธรรมเข้ากันได้ ขอชื่นชมจริง ๆ หายากมากที่หมอจะเข้าศาสนาไปพร้อมกัน
ขอบคุณค่ะเข้ามา ฟังครั้งแรก ขอบคุณค่ะ
ปัจจัตตัง ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ทำไปเถาะคุณหมอเราต้องศึกษาเพื่อที่จะได้รู้ความจริง ( ถ้าไม่ศึกษาก็ไม่รู้ ) สู้ ๆนะ
🌷🌹🌺🌼🤍💚💛💛💚🤍🌼🌺🌹🌷
อนุโมทนาสาธุ ยิ่งฟังยิ่งรักคุณหมอ บัณฑิตทั้งทางโลกทางธรรมค่ะ
เคยฟังพระอาจารย์ท่านนึง พูดเกี่ยวกับจิตไว้แบบนี้ค่ะคุณหมอ
ตอนนี้จิตสิงอยู่ในร่างกายมนุษย์เราก็เป็นมนุษย์ พอตายไม่มีร่างกายมนุษย์ ก็จะเหลือแต่วิญญาณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าผี หลังจากนั้นก็แล้วแต่ว่าจิตสุดท้ายก่อนตายเราคิดอะไรอยู่
ยกตัวอย่างเช่น มีพระรูปหนึ่งหวงจีวรมาก ตายไปก็ยังยึดติดกับจีวรผืนนั้นอยู่ จิตก็จำแต่จีวร ทำยังไงจะได้กลับมาอยู่กับจีวร ก็ต้องเลือกมาเกิดเป็นอะไรก็ได้ที่เกิดเร็วและได้ใกล้ชิดกับจีวรเองมากที่สุด จึงได้เกิดมาเป็นไรเกาะจีวรตัวเองอยู่แบบนั้น
ไม่ว่าตอนที่เราเป็นมนุษย์เราจะทำความดีมากมายแค่ไหน ถ้าจิตสุดท้ายก่อนตายของเราคิดไม่ดี ชาติภูมิที่เราจะได้ไปก็จะเป็นเหมือนจิตสุดท้ายที่เราจำได้ ความดีที่ทำเป็นเหมือนเสบียงอาหาร ทำดีทำบุญทำทานมากกลับมาเกิดใหม่ก็จะสุขสบายทางกาย เช่น ผู้หญิงคนนึงเคยขับรถชนหมาตาย เค้าชอบทำบุญ จิตใจดี แต่เค้าก็จำแล้วโทษตัวเองอยู่นั่นว่าเพราะตัวเองทำให้หมาตาย อยากชดใช้ให้หมา จนวันที่เค้าตาย จิตก็ยังจำและยังเสียใจกับเหตุการณ์วันที่หมาตาย ผู้หญิงคนนี้มาเกิดใหม่ ร่ำรวยสุขสบาย แต่เค้ากลับไม่เคยมีความสุขในชีวิตเลย พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เค้ายังเด็ก ท้องก็แท้งลูก เพราะจิตเค้าในชาติก่อนคิดแต่เรื่องเสียใจจะชดใช้ให้หมาที่ตาย
พระพุทธศาสนาจึงเน้นสอนให้ฝึกจิต นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตว่าง ให้ความว่างเป็นความปกติของจิต เพื่อที่ตายไปจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดรับทุกขเวทนาอีก ทำความดี คิดดี พูดดีทุกวัน เราจะเคยชินกับการทำดี จิตก็เหมือนเมมโมรี่การ์ด รับสิ่งดีตลอดเวลาก็จำแต่สิ่งดี ตายไปจิตก็รับรู้แต่สิ่งดี
ทำดีและจิตผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะได้ไปสิงอยู่ใหม่ก็จะเป็นภพที่สูงกว่ามนุษย์ เช่น เทพ เทวดา ชั้นพรม หรืออื่นๆ
ทำดี และจิตยึดติดไม่ผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะไปสิงอยู่ใหม่ก็อาจจะเป็นโลกมนุษย์ หมูหมากาไก่คนได้หมด แล้วแต่บุพกรรม
ทำไม่ดี จิตไม่ผ่องใส ตายไปจิตก็จะได้ไปในภพภูมิที่ตำกว่า เช่น สัตว์เดรัจฉาน หรือถ้าหนักก็เป็นสัมภเวสีผีเปรต
แล้วมาฟังที่คุณหมออธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วย สรุปตามความเข้าใจของตัวเองที่ฟังคุณหมอพูด 2 รอบนะคะ 😂 เข้าใจว่า จิตวิญญาณคือแก่นของตัวเรา จิตวิญญาณอยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีความรู้สึก เพราะฉะนั้น จิตอาจจะไม่ใช่ของเรา เพราะไม่มีตัวเรา ร่างกายเราเปรียบเหมือนบ้านเช่า ที่จิตวิญญาณมาเช่าอาศัยอยู่ ตอนยังไม่ตาย ร่างกายเรากับจิตวิญญาณอยู่ด้วยกัน เหมือนเป็นพาสเนอร์กัน ถ้าเราใช้สมองบริหารจิต ใช้วินัยฝึกและควบคุมจิต จิตก็จะส่งเสริมให้เราไปในทางที่ดี แต่ถ้าเราตามใจจิต เช่นจิตบอกว่าเหนื่อยไม่อยากทำงานล่ะ สมองร่างกายพักตาม ชีวิตเราก็จะแย่
ถ้าจะบอกว่า สมองร่างกายคือเหตุผล จิตวิญญาณ คืออารมณ์ แบบนี้จะได้มั๊ยคะ คิดซะว่า สมองกับร่างกาย คือบ้านเช่า จิตวิญญาณคือผู้มาอาศัย ถ้าบ้านเช่าสวยงามแข็งแรงมีกฏระเบียบชัดเจน ผู้มาอาศัยก็จะมีระเบียบวินัย อาจเป็นที่มาของคำว่า ทางสายกลาง ถ้าเจ้าของบ้านเช่าและผู้มาเช่ามีความพอดี ก็จะส่งเสริมกันให้เจริญ พอถึงเวลาที่ต้องตาย คือบ้านหลังนี้เก่าแก่ผุพังตามอายุ จิตก็ออกไปหาบ้านเช่าหลังใหม่ จะได้บ้านเช่าที่ดีที่แพงที่ถูกใจมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านเช่าหลังที่เพิ่งพังไป เราสะสมทรัพย์ไว้มากแค่ไหน (บุญกุศล) นึกได้อีกคำค่ะ ไอคิวกับอีคิว สองอย่างนี้เหมือนและต่าง และจำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกัน สรุปอีกรอบ ไม่มีอะไรมีจริงเลย ทุกสิ่งคือสิ่งสมมุติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป 😊
สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า นี่คือครั้งแรกที่ฟังเรื่องวิทยาศาสตร์จนจบพร้อมฟังทบทวนค่ะ 😂 คุณหมอมีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องยากให้ง่ายขึ้น เข้ามาฟังเพราะคำว่าวิญญาณเลยค่ะ 😄 คลิปเปิดสมองมากๆค่ะ ชอบค่ะ 😊
ฟังธรรมเพลินค่ะสาธุ
อีกสองประเด็นครับ 1. คุณหมอจบแบบอลังการมากครับ อนุโมทนาสาธุ 2. น่าจะเอาเนื้อหาใน seriesนี้ไปตีพิมพ์ในวารสารตปท. ได้นะครับ
สาธุ สาธุจร้า
ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้ได้มาเจอกัน ถือเป็นบุญ หลายครั้ง ที่เราออกนอกทาง นอกลู่ พอได้ฟัง คุณหมอ จิตก้อน้อม เข้ามาในทางดี ในวัย ที่กำลังใกล้ฝั่ง เพียงเราได้เจอ กัลยามิตรที่เลิศ นับว่าเปน วาสนา💖
สวัสดีดีครับคุณหมอ ผมดีใจที่ได้ไขความกระจ่างเรื่องพระที่เป็นอัลไซเมอร์ และได้มีเพื่อนเป็นพหูสูตแบบคุณหมอครับ ผมฟังมาถึงEP.นี้ คุณหมอพูดเรื่อง ขันธ์5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ กับสมอง ผมชอบมากครับ
EP.ต่อไป ขอเรื่องพระอรหันต์ ที่สิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำและเบื้องสูง 10 ข้อ ทำงานเกี่ยวข้องกับสมองอย่างไร ขอความเมตตาคุณหมอหาคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีครับ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
อาจารย์ครับ อันตรายมากครับถ้าสอนให้รู้ผิดๆ ในทางธรรม แต่ถ้าเกี่ยวกับสารีระร่างกายเห็นด้วยครับ
ดีใจจัง เพราะพี่เองเคยสงสัยมาตลอด กับคำถามนี้ ไม่รู้ทำไม
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะอาจารย์ ติดตามมาตลอด ชอบมากค่ะ ได้ประโยชน์มากมาย ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูง
ขอบคุณ คุณหมอวีครับ ได้สาระความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ทางแพทย์ และทางธรรม ควบคู่กันไป ขออนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับ "นิชฌัตติพลาปัณฑิตา บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษเป็นกำลัง"
สาธุ สาธุ สาธุ ครับคุณหมอ
ส่วนตัวนะคะคิดว่า วิญญาณคือพลังงาน ไม่ใช่สสาร เคลื่อนที่โดยอิสระ ไม่ประจำตำแหน่งใด ธาตุดินทั้งยี่สิบ เป็นองค์ประกอบในธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อจิตเข้าสู่พังค์ญาณจึงได้รู้ ซึ่งอธิบายไม่ได้ ทุกสิ่งหาย สังขารหาย แต่มีตัวรู้ รู้ในความว่างเปล่า
ที่เรียกสังขารนั้นคนทั่วไปเข้าใจถึงร่างกายคนเรา แต่ที่จริงหมายถึงการปรุงแต่ง ถ้าทางกายเรียกกายสังขารเช่น ไข่แดงเมื่อได้รับการผสมพันธุ์ ก็จะเกิดการแบ่งเซลขึ้น สารพันธุกรรมก็จะปรุงแต่งรูปกายขึ้นมาเป็น เป็ด ไก่ นก หนู ลิง ส่วนจิตนั้นก็มีการปรุงแต่งเช่นกันเรียกจิตสังขาร เป็นคนใจดี ใจร้าย ขี้อิจฉา ขี้โกง ส่วนภังคญาณ เป็นความรู้สึกที่พิจารณาแต่สภาวะที่ดับไป เช่นเมื่อเกิดความรู้สึกเจ็บปวด หิว บางท่านเก่งสมถะท่องพุทโธๆๆๆ ปวด หรือหิวหรือโกรธก็หายได้ด้วยสมถะ พิจารณาสภาวะดับไป ถ้าเป็นวิปัสสนาจะเห็นอาการปวดมากขึ้นๆๆจนแทบจะขาดใจ ที่สุดแล้วอาการปวดก็หายไป เรียกว่าเห็นอนิจจัง ท่านพุทธทาสเรียกฝึกตายก่อนตาย เรียกเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ขอบคุณค่ะ คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอวี
ป้าชอบฟัง ขอบพระคุณมาก
ๆ💛
คุณย่าขอบคุณและชื่นใจกับการถ่ายทอดด้วยเมตตา(รับรู้ได้)ในเรื่องพุทธ_วิทย์ และก็เห็นด้วยกับวลี"เล่าเรื่องบนฟ้าให้ปลาฟัง" ส่วนย่าก็มุ่งศึกษาธาตุ4ขันธ์5ของตน โดยพยายามจัดการผัสสะที่มากระทบทางอายตน6 ให้เป็นอุเบกขาเวทนาให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ให้จิตปรุงฟุ้งกระเจิดกระเจิง แค่นี้ก็ยากสุดแล้วค่ะ(บททดสอบเยอะเสียจริง การเกิดเป็นทุกข์แท้ๆ)
สวัสดีค่ะคุณย่า ดิฉัน แม่ส้ม ชอบ ในรายการ ที่คอมเม้นท์ มาที่ ห้องคุณหมอ วี อ่านทุกครั้ง นะคะ แม่ส้ม-โอ อายุ 66 ปีแล้วก็ใส่ใจ ทางพุทธธรรม อยู่แล้ว และได้ติดตามคุณ หมอ วี มา 2 ปีกว่า ก็ ได้เรียน รู้ ทางวิทยาศาสตร์ พอดีฟังแล้ว ลงตัว ก็เลยชอบ เหมือน คุณย่า แหละค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอให้คุณ ย่ามีสุขภาพ แข็งแรง, แข็งแรง
นะคะ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏
คุณย่าขอบใจในพรที่แม่ส้มมอบให้ย่าและย่าขอพรนั้นสะท้อนย้อนกลับไปยังครอบครัวหนูด้วยนะคะ(ย่าก็อ่านmentของหนูเช่นกัน).ย่า70ปีค่ะ เริ่มฟังคุณหมอมี.ค.63ช่วงต้นๆของโควิด รับรู้ได้ถึงการพูดด้วยเมตตาค่ะและปี64ท่านกราบนิมนต์พระอ.สุชาติมาให้ธรรมะ ย่าอ๋อเลยค่ะ คุณหมอก็ไม่ธรรมดาในทางธรรมเลย และ3epนี้แหละคือคำตอบค่ะ แม่ส้มคะหนูมาถูกทางแล้วค่ะ คำสอนของพระพุทธองค์ช่วยให้รอดได้จริงๆ(ย่ามีทุนเบื้องต้นคือกตัญญูกตเวทีเลี้ยงพ่อ, แม่จนปิดตาให้ท่านค่ะ)เป็นกำลังใจในการเดินทางข้ามฝั่งจาก"โลกีย สู่ โลกุตร" นะคะ.จาก👩🦳
1
อาจารย์อธิบายได้รู้แจ้งในมิติวิทยาศาสตร์การแพทย์+กับหลักวิทยาศาสตร์ทางธรรมของพุทธศาสนา เป็นความรู้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น(อย่างมากไม่มีผู้ใดที่นำมาเปิดเผยและอธิบายมาก่อน)ถือว่าเป็นท่านแรกของปนะเทศไทย(หรือเป็นหนึ่งเดียวในโลก)ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้รู้แจ้งดีแล้วอย่างไม่มีประมาณ สาธุ ครับ
ทำไมไทยพม่าอินเดีย ไม่ได้ครองโลกครับ
ฟังสนุกมากเลยค่ะ
เพิ่งรู้ว่าจิตไม่ได้อยู่ที่เราค่ะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังที่พระพุทธสอนไว้ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏ขอบคุณคุณหมอที่ทำคลิปดีๆได้ความรู้ทางธรรมเชื่อมกับชีวิต ขอให้ทำคลิปแบบนี้ต่อไปนะคะ🙏❤️
กราบขอบพระคุณสำหรับความ ในเชิงวิชาการ ที่คุณหมอได้อธิบายบรรยายมาให้ฟัง ขอบคุณครับ
วิญญาณสิงอยู่ที่ไหน...? หัวข้อน่าสนใจมากครับ มีคนมากมายที่สงสัยและอยากรู้ครับ จิต (เรียกว่าวิญญาณก็ได้--[แต่ไม่ได้หมายถึงวิญญาณในขันธุ์ 5], หรือเรียกว่ามโนก็ได้) เรียกว่า "จิต" ดีกว่า เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่า ในปุถุชนคนทั่วไปจิตทาบทับตลอดร่างมนุษย์ตั้งแต่หัวถึงเท้า ตอนนอนจิตเข้าภวัง ไม่มีสติ เพราะไม่ได้ฝึกสติ ไม่ได้ฝึกจิตตภาวนา จิตไม่ได้ฝังอยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง (อย่างที่หมอวีอธิบายว่าไม่ได้ฝังอยู่ในสมองกลีบใดกลีบหนึ่ง) และมีขันธุ์ 5 เชื่อมถึงกันหมด กิเลสเอามารวมกันหมดพอคลอดออกมาก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเลย ความรู้สึกต่างๆแล่นถึงกันหมดทั่วร่าง ทําให้คนที่ไม่เคยเจริญจิตตภาวนาแยกไม่ออก พาลให้เข้าใจกันไปว่าเราคือร่างกายและร่างกายคือเรา จะแยกจิตออกจากกายได้ด้วยจิตตภาวนาเท่านั้น เพราะมีแต่จิตตภาวนาที่แก้กิเลสได้ องค์หลวงตามหาบัวเคยสอนว่าจิตตภาวนาเหมือนการดึงแหจับปลาคือดึงจิตที่ฟุ้งซ่านให้ย่นเข้ามาๆ และรวมเป็นดวงเดียวไม่กระจายไปทั่วร่างเหมือนตอนที่ไม่ได้ภาวนา เมื่อจิตรวมแล้วจึงแยกออกจากกายได้ด้วยปัญญา จึงเห็นว่าร่างกายนี้และจิตเป็นคนละส่วนกัน จากนั้นจึงเจริญปัญญา (วิปัสสนา) แยกขันธุ์ 5 (มีรูปหนึ่งและนามสี่) ออกทีละส่วนๆ แยกรูป (กาย) เวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉยๆ) สัญญา (ความจํา) สังขาร (การปรุงแต่ง) วิญญาณ (เกิดที่ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส เป็นต้น) ออกจากกัน แยกออกได้ด้วยกําลังของวิปัสนาญาณ และพิจารณาดูความเป็นอนิจจังของขันธุ์ 5 เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 อย่างชัดเจน เห็นรูปนามเป็นสมมุติ เหลือแต่จิตที่เป็นธาตุรู้สว่างจ้าเด่นอยู่ ถึงตรงนี้แล้วเรียกว่าเปิดประตูไปสู่พระนิพพานได้สําเร็จ และเมื่อถึงจุดนี้แล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจิตและกายเป็นคนละส่วนกัน ไม่ได้รวมเป็นอย่างเดียวกันตามที่กิเลสหลอกล่ออยู่ กิเลสหลอกแบบนี้หลอกให้เกิดมาหลายภพหลายชาติแล้ว ถ้าแก้ตรงนี้ไม่ได้ต้องเกิดต่อไปแบบนับไม่ถ้วนคือเกิดแบบไม่จํากัด ถ้าแก้ได้ภพชาติจะสั้นเข้าๆ จนพ้นเกิดไปได้ มีแต่วิปัสนาญาณที่ทําให้เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 ที่แปรไปแปรมาอยู่ตลอดเวลา เป็นสมมุติชัดเจน ยึดไม่ได้ ถัดจากนี้ก็ไปเจริญจิตตภาวนาต่อให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อละกิเลสที่ละเอียดเข้าไปอีกในลําดับต่อไป เช่น ราคะ ปฎิฆะ เป็นต้น อยากรู้ต้องลงมือปฎิบัติเองถึงจะหายสงสัยว่าวิญญาณสิงอยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นก็สงสัยกันต่อไป
สาธุๆๆทุกต้องคะต้องหมั่นฝึกถึงจะเข้าใจคะสาธุๆๆคะ
เขียนได้ดีมาก ภาษาสละสลวย สะกดถูกต้อง อ่านเพลินและสุขใจจัง ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ
คำอธิบายชัดเจน เป็นอะไรที่เข้าใจด้วยการปฎิบัติ แต่ก็มิได้หมายความว่าทุกคนที่ปฎิบัติจักเข้าใจแก่นแท้ได้ ขอบคุณ comment นี้ที่ชี้แนะ
สาธุเข้าใจยิ่งขึ้นมากมายค่ะ
ต้องเข้าใจเลยว่าจิตไม่ใช่เรา
ขอบพระคุณมากๆค่ะสาธุๆ
กายวิญญาณ อยู่ที่หัวใจ มโนวิญญานอยู่ที่ศรีษะ (ท้ายทอย) สังเกตได้จากที่อริยบุคคลบางจำพวกทำลายมโนวิญญานได้แล้วจะปวดท้ายทอย วิญญานก็มีลักษณะเป็นแสงสีเงินยวงคล้ายไฟฟ้า
ต้องทำจักขุให้เกิด จึงจะเห็นวิญญาณได้
- จักขุวิญญานก็เป็นกลม ๆ อยู่รอบดวงตาเรา มองไม่เห็นด้วยตาปล่าว เราจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเราเจริญกสิณ จักขุวิญญานก็จะขยายเป็นวงกลมใหญ่ออกมาจากตา เหมือนกับกายวิญญานถ้ามันถ้าเราได้ฌาน ๔ กายวิญญานก็จะแผ่ออกมาเป็นวงกลมล้อมตัวเราไว้
ดวงวิญญานทุกดวง ไม่ว่าวิญญาณทางหู จมูก ล้วนมีสัญฐานเป็นวงกลมทั้งนั้น
ถูกต้องครับสำหรับมีกายหยาบ ทราบได้จากการเจริญกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ขณะเจริญสตินั่งหนอๆ กล้ามเนื้อที่น่องกระตุกๆคล้ายอาการหนังตากระตุก เกิดข้อสังเกตว่ากล้ามเนื้อจะทำงานได้ต้องมีผู้สั่ง แล้วผู้สั่งอยู่ที่ไหน น่องก็กระตุกในขณะที่สติตรวจกายอยู่พบว่าที่ในหัวใจก็มีการกระตุกเป็นจังหวะเดียวกับที่น่องกระตุก ตรงกับที่หลวงพ่อสดสอนว่า กายวิญญาณอยู่กลางน้ำเลี้ยงหัวใจ แต่ถ้าเป็นกายละเอียด เช่นเทวดา กลุ่มของวิญญาณจะมารวมกันโดยมี (จิตที่พร้อมด้วย เวทนา สัญญา สังขาร ) จิตกับวิญญาณจึงต่างกันด้วยสภาวะ เช่น ขณะนั่งหลับตา แล้วมีแสงมากระทบเปลือกตา เราจะรู้สึกสว่างเป็นอาการรู้ของจิต เมื่อลืมตา จะเกิดเวทนาขึ้นมาได้ว่าชอบ ไม่ชอบหรือเฉยๆ เกิดสัญญาจำได้ว่าเป็นแสงสีอะไร และมีการปรุงแต่งทางจิตและทางกายเช่นแสงจ้ามาก เราก็จะหรี่ตาลง(สังขาร) วิญญาณก็จะประมวลผลว่าจะทำอะไรต่อ
ขอบคุณ Dr.V ครับ การศึกษาพระพุทธศาสนาในแนวทางวิทยาศาสตร์นั้นถูกต้องที่สุด เพราะพระพุทธเจ้านั้นค้นพบหลักการของความจริงและการดำเนินตามความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ขอให้ทำคลิป "ปัญญา" แบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ สาธุ
ขอบคุณ คุณหมอครับ ที่อธิบาย เรื่อง รูป นาม ที่สำคัญ คือ สติ
27:35 จิต เป็นสภาวะที่ถูกบันทึก(อยู่ในคลื่นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติทุกหนแห่ง) สภาวะที่ถูกบันทึกไว้นี้ เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยของความคิดที่เกิดขึ้นในสมอง ส่งออกไปเป็นคลื่นสมอง(brain wave) เปรียบง่ายๆเหมือนคลื่นเสียงถูกเปล่งเสียงออกไปและถูกเก็บบันทึกไว้แถบผงแม่เหล็กในเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน จิตก็ถูกบันทีกไว้ในลักษณะคล้ายกันเพียงแต่ไม่มี รูปธรรมของจิต ที่จับต้องใด้เหมือนแถบผงเหล็กบนเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน แม้ปัจจุบันการบันทีกเสียงจะเป็นรูบแบบดิจิตอลแล้วก็ตาม หลักการถูกบันทีกจากคลื่นพล้ง งานแม่เหล็กไฟฟ้าก็เกิดแบบเดียวกันในทุกๆที่ทุกไแห่งในโลก เพราะฉนั้นการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมเกิดมาจากความคิด (คนไทยเรียกว่าใจ) เป็นเบื้องต้น แล้วจึงเกิดการกระทำด้วย กาย/วาจาตามมา และสิ่งที่ คิดพูดทำ ก็จะถูกบันทึกไว้เป็น รูปสภาวะในคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในรูปของพลังงาน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใด้ ซึ่งเป็นที่มาของ กฎแห่งกรรม ของมนุษย์รวมถึงสัตว์ทุกชนิดด้วย แต่พุทธะท่านใด้เข้าใจ ถึงสภาวะนี้ และใด้ค้นพบวิธ๊ที่จะหลุดพ้น จากวังวนของสภาวะไม่รู้จบจนใด้ บรรลุใด้เป็น พุทธะ จากการปฎิบัติและอบรมกายวาจาใจ ตามหลักแปดประการที่พระองค์ทรงค้นพบนั่นเอง
ถูกแต่ไม่ทั้งหมด สมองนี้มีหน้าที่แค่แปลกระแสจิตแล้วไปสั่งงานร่างกายอีกที จิตอยู่ตรงไหนบ้างจิตมันก็อยู่ทั่วร่างกายนะแหละ แต่จิตดวงประธานของจิตทั้งหมดมันอยู่ที่หัวใจครับมันอิสระนะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจจิตตัวนี้เท่านั้นที่หลุดพ้นไปนิพพาน(จิตประธานเป็นธาตุรู้และบันทึกเปรียบเสมือนรอม) แล้วจิตนึกคิดละหรือจิตสังขารอยู่ที่สมองโลภโกรธหลงอยู่ที่จิตตัวนี้แต่มันแค่นึกคิดนะคือเป็นตัวสร้างอารมณ์แต่ไม่ใช่ตัวรู้อารมณ์ตัวรู้อารมณ์คือจิตดวงประธานที่หัวใจนั่นละ จิตสังขารมันทำงานร่วมกับรูปเวทนาวิญญาณและสัญญา สัญญาในที่นี้คือความจำชั่วคราวอยู่ที่สมองนะแหละสัญญานี้เปรียบเสมือนแรมทำงานร่วมกับจิตสังขาร จิตดวงประธานถ้าไม่มีรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณก็ทำอะไรไม่ได้ก็คือนิพพาน นิพพานคือสภาวะจิตที่ไม่มีองค์ประกอบของรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ เป็นสุญญตา
@@xxx966553 อนาคต ถ้ามีผู้เป็นโรคหัวใจ หมอต้องตัดหัวใจทิ้งและบรรจุหัวใจเทียม(เครื่องจักรกล) จิต วิญญาณ จะยังคงอาศัยอยู่ในหัวใจเทียมหรือเปล่าครับ
@@homesmoll 5555 เข้าใจถาม ชอบ
@@homesmoll จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด
@@12345678987654321537 จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด
คุณหมอเอาเรื่องนามรูปในศาสนาพุทธมาเทียบกับทางแพทย์ จะแสดงให้ชาวพุทธเข้าใจหลักธรรมของพุทธองค์
28:00 เป็นความรู้ใหม่ของผมเลยครับผม ถ้าเชื่อลองคิดๆดูมันก็น่าจะจริงก็ได้ เช่นตกใจ ใจหาย จิตอื่นเข้าแทรกเข้าสิง
แม้กระทั่งวิธีเข้าถึงนิพพาน ก็อาจหมายถึงการตัดขาดดับสิ้นซึ่งสายสัญญาณระหว่างรูปนาม ภพชาติ ซึ่งเจ้าตัวสายสัญญาณนี้คือกิเลส กรรม และตัณหา พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยตรัสว่าแท้จริงจิตนี้ผ่องใส แต่ถูกกิเลสจรมา
สาธุ ขอบพระคุณ คุณหมอทางโลกและทางธรรมขอรับ
อจ.หมอพูดสุดยอดมากเข้าใจง่ายเจ้าคะ ศาสนาพุทธพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ท่านใดมีศีลเสมอกันเข้าใจได้ท้นทีเจ้าคะ ขอแชร์เจ้าคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ เพิ่งถึงบ้าน
มีเวลารีบมาฟังคุณหมอต่อค่ะ
ขอให้คุณหมอและครอบครัว
มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรงๆนะคะ ขอบพระคุณข้อมูลค่ะ🙏🏼
๑
เป็นภาคสามที่อเมสซิ่งมากจ๊ะพี่หมอ .. เหมือนนั่งฟังเลคเช่อร์อยู่ที่ศิริราชแล้วก็มีวัดระฆังอยู่ในที่เดียวกันเลย .. เมื่อวานได้น้ำพริกไปแล้ววันนี้พี่หมอจัดผักจัดปลาทูตัวโตมาให้อิ่มอร่อย.. แต่เหมือนยังขาดๆอะไรอยู่นะ อ๋อ ของหวาน พี่หมอช่วยแถมในวันพรุ่งนี้เป็นภาคสี่สักครึ่งภาคก็ดีนะจ๊ะ อย่าว่าเราได้คืบจะเอาศอกเลย อยากได้เป็นเมตรเลย ก็พี่หมอทำให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ อยากฟังอีก ว่างั้น.. วันเสาร์จะไปทำบุญที่นครพนมและจังหวัดใกล้เคียงสามวัน คงไม่ได้มาไลฟ์จ๊ะ .. ชอบที่ฝรั่งตั้งตัวPineal Gland เป็น Seat Of Soul อันนี้แปลกดี .. ขอบพระคุณพี่หมอจ๊ะ .. บัณฑิตไม่มีการเพ่งโทษ เป็นกำลัง.. สุดมากจ๊ะ ... ..
คุณหมอค่ะปวดกล้มเนี้อมันอักเสบสาเหตุป้าแขนข้างขาวดึงปักไฟเส้นเอ็นมันเลยเส้นอักเสบมากไปให้คนิกฉีดสองเข็มแต่ดีขึ้นแต่ป้ากินยาแก้อักเสบมีรู้สึกยังเจ็บป๊บไม่อย่ากินยาเยอะไปแน่นำด้วยค่ะ
เกิดอาการเบื่ออาหารต้องทำยังไงครับ
เห็นด้วยกะคุณหมอค่ะ และจะนำไปปฏิบัติ คือไม่เพ่งโทษผู้อื่น แก้ไขตนเอง และมีเมตตา
ขอบคุณค่ะ ได้ทั้งความรู้ และการปฏิบัติตน
วิญญาณคือความทรงจำครับ อยู่ในรูปแบบของกระแสไฟฟ้าในสมอง ถ้าย้ายหัวไปต่ออีกคนได้เราก็จะย้ายร่างได้ หรือถ้าเราส่งต่อกระแสไฟฟ้าในสมองไปอยู่ในอีกสมองนึงได้เราก็จะย้ายร่างได้ครับ ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ทุกคนคือความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองครับ
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าครับ ที่มีอยู่ในทุก อนูของอากาศบนโลก เป็นที่เก็บบันทึกคลื่นสมอง(brain wave) ของคนและสัตว์ ที่เราใช้ศัพท์ที่เรียกกันว่า "จิต" นั่นเองครับ ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรม ก็คือ คลื่นเสียงทุกๆชนิดที่สามารถบันทึกไว้ใด้โดยใช้เทปบันทึกเสียงบนแถบผงเหล็กสมัยก่อน แต่ปัจจุบันก็สามารถบันทึกเสียงด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าภายในมือถือผ่าน chips และระบบดิจิตอลในเครื่องมือถือนั่นแหละครับ เพราะ ฉนััน พุทธองค์ทรงตร้สว่า "ไม่มีความลับในโลก" ก็เพราะว่า ความคิด การกระทำทางกายวาจาเริ่มมาจากความคิด (ใจ )ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่ทางการแพทย์ก็มีการใช้เครื่องมือตรวจคลื่นสมอง(brain scan)เพื่อดูคลื่นสมอง ในการวินิจฉัยโรค และอาการที่เกี่ยวกับโรคสมองใด้ (แม้ว่าจะบันทึกใด้ในรูปคลื่นสมองแบบหยาบๆไม่สามารถบันทึกใด้ละเอียดอย่างที่ถูกบันทึกอยู่ในอนูอากาศ แต่ก็สามารถใชัแปลผลของสมองๆใด้ในระดับหนึ่งเพื่อใช้ในการรักษาโรคเท่านั้น) ดังนั้นเมื่อ กายวาจาใด้กระทำออกไปตามความคิดแล้ว ความคิดจึงเป็นกรรมที่ถูกบันทึกไว้เรียบร้อย แก้ไข เปลี่ยนแปลงไม่ใด้ คิดดีเป็นกุศลจะเปลี่ยนเป็นอื่นไม่ใด้ ทำนองเดียวกันคิดไม่ดีเป็นอกุศลก็เปลี่ยนแปลงไม่ใด้
เช่นกัน
คุณหมอเก่งมากเลยครับ บุคลากรอย่างหมอนี่ หากยากมากที่สุด สังเกตที่นามสกุลคุณหมอ มันเป๊ะจริงๆ พูดอีกเยอะๆ นะครับ ขอบพระคุณมากๆ
คำว่าสัตว์สัตตานังมีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรพระเจ้าข้า สัตตานังยึดขันธ์ 5 ตลอดเมื่อใดที่สัตตานังไม่ยึดขันธ์ 5 เมื่อนั้นนิพพาน ไม่ทราบว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกต้องไหมครับ
ชอบมากเลยคะ พยายามทำความเข้าใจ ผลของสมาธิกับการทำงานของสมอง ชอบมากเลยคะ
คุณหมอครับสำหรับผมแล้วถ้าพูดถึงวิญญาณแล้วมันไม่ได้อยู่ที่สมองและก็ไม่ได้อยู่ที่หัวใจครับ..แต่วิญญาณมันอยู่ที่.การยังมีชีวิตอยู่นั่นเองและเมื่อลมหายใจดับวิญญาณก็ออกจากร่างครับ
สิ่งที่ท่านกล่าว คือ ความหมายของวิญญาณทางโลก ลองศึกษาเรื่องวิญญาณทางธรรม เพิ่มเติมครับ จะได้เป็นข้อพิจารณา เปรียบเทียบ ครับ ..
สวัสดีค่ะคุณหมอ ชอบฟังหมอพูดเพราะเข้าใจง่ายดี
หมอเรียนสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งที่อธิบายที่มาที่ไปได้
แต่หมอเชื่อเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้
อย่างเรื่องที่ว่าจิต วิญญาณ หรือเจตภูต อยู่ที่ใดที่นึงที่ไม่ใช่ร่างกายนี้
ถ้าเชื่ออย่างนี้ นี่ก็คือเชื่อว่าจิตเป็น อาตมัน คือมีอยู่คงทนถาวร(เป็นสัสสตทิฏฐิ)
มันก็ไปตรงกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ คริสต์ อิสลาม
เพียงแต่ศาสนาเหล่านี้จะบอกว่า ถ้าบรรลุแล้วจิตจะไปรวมอยู่กับพระเป็นเจ้า
แล้วอย่างนี้พุทธศาสนาจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตั้งแต่แรกในเมื่อมีศาสนาพราหมณ์อยู่ก่อนแล้ว
หมอน่าจะรู้จักกาลามสูตรเป็นอย่างดี
พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย ต้องเอาความเชื่อนั้นไปพิสูจน์ด้วยปัญญา
หมอก็จะแย้งว่า ก็เรื่องนี้หมอยังไม่บรรลุเลยพิสูจน์ไม่ได้
สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ท่านก็บอกเอาไว้แล้วว่า
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาจะรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่จำกัดกาล
มันย่อมไม่เกินวิสัยที่วิญญูชนจะรู้ได้
ถ้าแม้แต่หมอเองยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตรรกะได้
ก็น่าคิดว่าความเชื่อนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
แนวความคิดทำนองว่ามีวิญาณคอยท่องเที่ยวไปควบคุมร่างกายนี้ที ร่างกายโน้นที
พระพุทธเจ้าท่าก็เคยตรัสกับ ภิกษุสาติ มาแล้วว่า
"วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ
ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี"
..
ผมเข้าใจเป็นอย่างนี้ จึงขออธิบายเพื่อแลกเปลี่ยนครับ
มาฟังอีกแล้ว
ขอเห็นต่างนะคะวิญญานตัวนี้หมายถึงธาตุรู้ใช่ไหมคะเห็นว่าที่พักของวิญญานน่าจะอยู่ที่หัวใจ เพราะเวลาเราตกใจจะเกิดอาการใจหายแวบๆ แต่ด้วยวิญญานเป็นธาตรู้เคลื่อนที่ได้สามารถอยู่ตรงไหนก็ได้เมื่อผ่าจึงไม่เจอ แต่ที่ประจำน่าจะอยู่ที่หัวใจค่ะ ความเห็นส่วนตัวนะคะ
ขอบคุณ คุณหมอวีมากๆคับที่อธิบายแจกแจง อย่างละเอีบด ให้เข้าใจความเชื่อมโยงของ ร่างกาย กับ ธาตุ4 ขันธ์5 อายตนะ6 ไว้อย่างดี ขออนุโมทนาในธรรมทานในครั้งนี้ด้วยคับ🙏🙏🙏
รูป ไม่ใช่กายครับ รูปในขัยธ์5มันคือ"นามรูป" ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนไม่มีตัวตน อยู่ในโลกุตระ
ที่คุณหมอพูดมาถูกต้องครับ บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บัณฑิตย่อมเป็นผู้แนะนำชี้แนะเพื่อให้เกิดปัญญาแก่ผู้อื่น อย่ามองว่าการชี้แนะเป็นการเพ่งโทษน่ะครับ.
ชอบและศรัทธาคุณหมอมากเลยค่ะ เพราะคุณหมอมีความรู้เรื่องศาสนาพุทธมากคะ
ขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยงค่ะ
ทำดี คิดดี ดีที่สุดสำหรับชีวิตๆหนึ่งที่จุติมา
อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับคุณหมอ มีประโยชน์มากๆ ครับ เป็นกำลังให้คุณหมอแบ่งปันความรู้ดีๆ แบบนี้ต่อๆ ไปครับ ผมได้ประโยชน์จากคลิปที่คุณหมอแบ่งปันหลายเรื่องเลยครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณ คุณ หมอสีนะคะ ขอ ติดตาม ที่หมอ ขยัน พูดให้ ความรู้ แบ่งปัน
หมอน่ารัก คุณยาย รักหมอ นะคะ คุณหมอความรู้ดีมากๆ คะ
คุณหมอมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตา ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ
ชอบฟังคุณหมอมากเลยค่ะ ได้ความรู้ทางวิชาการแบบลึกๆ ฟังเข้าใจง่ายเหมือนได้ต่อยอดด้านชีวะและเคมีจากสมัยเด็กๆเลยค่ะ ฟังแบบมีความสุข ติดตามคุณหมอตลอดค่ะ
สวัสดีตอนเช้าค่ะตามp3ต่อ
คุณหมอ....คุณหมอเข้าใจผิดของธรรมชาติ....สิ่งในโลกนี้มีจุดกำเนิดของมันหมด....แม้แต่โลกก็มีจุดกำเนิด.....วิญญาณอยู่ทุกส่วนของร่างกายเพราะวิญณาณเป็นพลังงานชนิดหนี่ง......ทำลายวิญญาณได้ก็ทำลายจุดเริ่มต้นของการเป็นมนุษย์.....คือนิพพานนั่นเอง....หมอลืมไปว่าของในโลกนี้มีจุดกำเนิด.....ทำลายจุดกำเนิดคือทำลายตัวตนนั่นเอง....ทำลายตัวตนคือทำลายจุดกำเนิดของมัน
สวัสดีค่ะคุณหมอพูดชัดเจนฟังแล้วเข้าใจง่ายและมีข้อมูลประกอบมืออาชีพค่ะสมเป็นอาจารย์หมอพูดถึงเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่ายชอบมากที่เชื่อมโยงข้อมูลที่เชิงลึกที่พูดถึงวิญญาณว่าคือตัวรับความรู้สึกเทียบให้เห็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้ยอดเยี่ยมมองเห็นภาพชัดเจนชอบมากค่ะที่คุณหมอบอกว่าสมองคือสิ่งมหัศจรรย์จิตไม่ใช่เราเข้าหลักไตรลักษณ์อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา บัณฑิตย่อมไม่เป็นผู้เพ่งโทษผู้อื่น-แต่จะเพ่งโทษตนเอง แทนจะได้เป็นการพัฒนาตนเองสาธุๆๆ
ขอบคุณค่ะ🙏คุณหมอวี
หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาคือหลักการทางวิทยาศาสตร์โดยแท้จริงค่ะ..ขอบคุณหมอที่นำหลักการทั้ง 2 ศาสตร์ ไขข้อสงสัยความเชื่อที่ผิดๆของคนที่นับถือพระพุทธศาสนา
วิญญาณ เราว่าไปทั่วทุกแห่งตามพลังที่สะสมกันมา...แม้ในกายของสัตว์โลก ที่ตาจึงเห็น หูได้ยิน รับรสที่ลิ้น สัมผัสที่ผิว ได้กลิ่นที่จมูก เป็นต้น ...ชอบฟังการวิเคราะห์ของดร.วี ... สาธุ
จิต(วิญญาณ)และเจตสิก(เปลือกนอกหุ้มจิต)เหมือนคู่แฝดแท้ ไปด้วยกันตลอด จิตบริสุทธิ์แต่เจตฯยังมีกิเลส...
ฟังหมอวีคุยแล้ว บรรดาคุณหมอทั้งหลาย ถ้าศึกษาการปฏิบัติวิปัสนาคงจะบรรลุอริยะบุคคลได้งายกว่าบุคคลทั่วไป เพราะท่านได้ศึกษาทั้งด้านร่างกายและสมองละเอียดมาก
อนุโมทนาสาธุค่ะคุณหมอ ขอบพระคุณมากๆ
ขอบคุณมากๆๆค่ะคุณหมอ ขอบคุณข้อมูลมากๆๆค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ ได้ความรู้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ จากแอลเอ อเมริกา
ขอบคุณค่ะหมอวี
ขอบคุณ คุณหมอ มากๆ ค่ะ
สวัสดีคะ คุณ หมอ วี 🙏
ขอบคุณ. ใน ความรู้ ที่ดี มี ประโยชน์ มากคะ 😇🛡🍂🙏
สวัสดีคะ คุณหมอ
สาธุค่ะมีประโยชน์และคุโนปราการมากมายจริงๆค่ะ
ขอบคุณครับคุณหมอ.ทึ่ช่วยกล่าวปรัชญาให้ฟัง.มีค่ายิ่งในการฝช้ชีวิต.
ขอบคุณครับ
ตอนเป็นเด็ก ตอนรู้สึกเสียใจ เคยนึกสงสัยว่าใจอยู่ที่ไหน เคยนึกเข้าไปถึงหัวใจก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ใจ ถามใครก็ตอบไม่ได้ ได้แต่นั่งคิดๆๆ แล้วก็เครียดอยู่คนเดียว เป็นความอึดอัดที่ตอบตัวเองไม่ได้ พอโตมาก็เลิกสงสัย แต่ก็ไม่รู้อยู่ดี จนมาฝึกภาวนา ฟังพระที่ท่านพูด พอเข้าใจเชิงทฤษฎีแต่ก็ นั่นแหละยังไม่เคยตอบคำถามตอนเด็กได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณที่คุณหมอที่ช่วยอธิบาย ทำให้เด็กคนนั้นได้รู้ว่าไม่มีแค่เราคนเดียวที่บ้าสงสัยอะไรแบบนี้
ขอบพระคุณท่านผู้แสดงธรรม
สาธุๆ ๆคะ
ฟังทุกพาร์ทค่ะ ขอบพระคุณทุกหัวข้อที่ตั้งประเด็นขึ้นมา ด้วยความชัดเจนขึ้นค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ความเข้าใจที่ควบคู่กันไปทั้งทางวิทยาศาสตร์และพุทธศาสน์ ฟังเข้าใจง่ายดีค่ะ
ดีต่อใจสบายใจ... สงบสงบ... จิตอยู่ไหน... ใจฉันสงบขอบคุณเค่ะ
ฟังครั้งแรกครับ เข้าใจว่าคุณหมอน่าจะภาวนาด้วย อนุโมทนาครับ🙏🏼
ให้ความรู้ทีชัดเจนชัดแจ้งครับ อนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยครับ
มาตามฟังอาจารย์จากเมื่อ1 ปีมาแล้ว ขอบคุณอาจารย์ค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ เจริญปัญญาขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ