เจาะลึก..อาณาจักรศรีโคตรบูร ประวัติยาวนานกว่าพุทธกาลจริงหรือ..?
HTML-код
- Опубликовано: 8 июн 2024
- เจาะลึก.. #อาณาจักรศรีโคตรบูร ประวัติยาวนานกว่าพุทธกาลจริงหรือ..?
อาณาจักรโคตรบูรณ์ เป็นอาณาจักรโบราณที่มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับยุคจันทะปุระ (ราวพุธศตวรรษที่ 1 - 10) และยุคซายฟอง (ราวพุธศตวรรษที่ 10 - 12) เริ่มมีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาลถึงพุทธศตวรรษที่ 11 - 15 หรือระหว่าง พ.ศ. 1000 - 1500 มีพื้นที่ครอบคลุมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานีของไทย แขวงบอลิคำไซ แขวงคำม่วน แขวงสุวรรณเขต แขวงเวียงจันทน์ แขวงสาละวัน แขวงจำปาศักดิ์ แขวงอัตตะปือ แขวงเซกองของลาว
นักวิชาการบางกลุ่มเสนอว่า อาณาจักรโคตรบูรณ์อาจแผ่อาณาเขตครอบคลุมไปถึงแขวงหลวงพระบางโดยอาศัยหลักฐานทางโบราณคดีประเภทหลักหินซึ่งปรากฏที่เวียงจันทน์-นครพนมด้วย นอกจากนี้อาณาจักรโคตรบูรยังแผ่อิทธิพลทางการเมืองและศิลปกรรมครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของภาคอีสาน พื้นที่เกือบทั้งหมดของลาว พื้นที่รอยต่อของลาว-อีสานกับกัมพูชา ในภาคอีสานและลาวนั้นมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นักวิชาการลาวและอีสานเชื่อว่าชนชาติดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรศรีโคตรบูรและสถาปนาอาณาจักรอาจเป็นชาวลาว ข่า ขอม ภูไท โย้ย จาม และชาติพันธุ์ดั้งเดิมอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในลาวและภาคอีสานปัจจุบันนี้
จากการค้นพบใบเสมาและหลักหินโบราณหลายสิบแห่งที่กระจายอยู่ในจังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน และการค้นพบหลักหินและใบเสมาใต้พื้นดินจำนวนมากถึง 473 หลัก ที่กระจุกตัวอยู่บริเวณหอหลักเมืองเวียงจันทน์ ตลอดจนการค้นพบซากกำแพงหินยักษ์ซึ่งสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่แขวงคำม่วน ได้ยืนยันถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโคตรบูรอย่างมาก
ความเป็นมา ของอาณาจักรโคตรบูรณ์ หรือ ศรีโคตรบูรณ์ ที่มาของจังหวัด #นครพนม นครพนมเป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ เป็นจังหวัดที่อยู่ไกลที่สุดในภาคอีสาน ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้ สมัยก่อนเคยเป็นอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมากในดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโขง ในยุคนั้นมีอาณาจักรล้านช้าง สิบสองจุไทย เวียงจันทน์ จำปาศักดิ์ อยุธยาตอนต้น และอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่มาของจังหวัดนครพนม ในสมัยก่อนที่ประเทศไทยยังไม่ได้เสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงไปในสมัย สงครามฝรั่งเศส ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้ก่อนที่จะมาเป็นอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ เคยเป็นดินแดนของอาณาจักรฟูนัน ตามจดหมายกรีกกล่าวไว้ว่า อาณาจักรฟูนัน เป็นอาณาจักรที่มีอำนาจแผ่ออกไปกว้างขวางจนถึงแหลมมลายูและพม่า ในพุทธศตวรรษที่ 5-11 ต่อมาเป็นดินแดนของอาณาจักรเจนละ จนถึงพุทธศตวรรษที่ 14 จนกระทั่งต่อมาขอมได้มีอำนาจในแถบลุ่มแม่น้ำโขง จนถึงพุทธศตวรรษที่ 19 ขอมจึงได้เริ่มเสื่อมอำนาจลง ต่อมาพระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมหัวเมืองต่าง ๆ ในแถบลุ่มแม่น้ำโขงตั้งขึ้นเป็น "ราชอาณาจักรศรีสัตตนาคนหุตล้านช้าง" ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1896 เป็นต้นมา
เมื่อ อาณาจักรศรีสัตตนาคนหุตล้านช้าง มีอำนาจเหนือบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง "แคว้นศรีโคตรบูรณ์" ก็เป็นเมืองลูกหลวงเมืองหนึ่งที่มีความเจริญรุ่งเรืองในแถบลุ่มแม่น้ำโขงตอน ใต้ของอาณาจักรล้านช้าง ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ผู้ครองนครแคว้นศรีโคตรบูรณ์ มีนามว่า "พระยาศรีโคตรบอง" เป็นราชบุตรเขยของพระเจ้าล้านช้าง พญาศรีโคตรบองเป็นผู้ที่เข้มแข็งในการออกศึกสงคราม เป็นที่โปรดปราณของกษัตริย์ล้านช้าง จึงได้ให้ตั้งเมืองใหม่ขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตอนใต้ จึงได้ขว้างกระบองประจำตัวขึ้นไปในอากาศเพื่อเสี่ยงทายหาที่ตั้งเมืองใหม่ กระบองได้ตกลงแถบบริเวณ "เซบั้งไฟ" ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอธาตุพนม แล้วตั้งเมืองใหม่ชื่อว่า " #ศรีโคตรบูรณ์ " ขึ้นเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรล้านช้าง
ต่อมาเมื่อเจ้าผู้ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์สวรรคตลง ก็ได้เกิดอาเพศ และเภทภัยต่าง ๆ มากมาย จึงได้ย้ายเมืองศรีโคตรบูรณ์ไปตั้งอยู่ริมน้ำหินบูรณ์ ตรงข้ามกับอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ต่อมาบริเวณที่ตั้งเมืองที่ริมน้ำหินบูรณ์ได้ถูกน้ำเซาะตลิ่งโขงพังทลายลง ทุกวัน จึงได้ย้ายเมืองลงไปทางตอนใต้ฝั่งขวาของแม่น้ำโขงบริเวณที่เป็นดงไม้รวก ซึ่งในสมัยโบราณเชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น " #มรุกขนคร " ซึ่งหมายถึง ดงไม้รวก
ปี พ.ศ. 2330 พระบรมราชา เจ้าเมืองมรุกขนครได้เห็นว่าการที่เมืองมรุกขนครตั้งอยู่ที่บ้านธาตุน้อยศรี บุญเรือง ริมห้วยบังฮวกมาเป็นเวลาถึง 20 ปี แล้ว นั้น ถูกน้ำเซาะตลิ่งโขงพังและบ้านเรือนราษฎรเสียหาย จึงได้ย้ายเมืองขึ้นไปตั้งทางเหนือตามลำแม่น้ำโขงที่ บ้านหนองจันทร์ ห่างจากจังหวัดนครพนมไปทางใต้ ประมาณ 3 กิโลเมตร
ปี พ.ศ. 2337 ได้เกิดศึกพม่าทางเมืองเชียงใหม่ พระบรมราชาเจ้าผู้ครองเมืองมรุกขนครได้ไปออกศึกในครั้งนี้ด้วย ได้บริโภคผักหวานเบื่อจนถึงแก่อนิจกรรมที่เมืองเถิน ท้าวสุดตา ซึ่งเป็นพี่ชายของพระมเหสีของพระบรมราชา จึงได้นำเครื่องราชบรรณาการลงไปเฝ้า รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวสุดตาเป็นผู้ครองเมืองมรุกขนคร และเปลี่ยนชื่อเมือง จาก "มรุกขนคร" เป็นเมือง "นครพนม" ขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานคร ชื่อนครพนมนั้นมีข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประการ คือ คำว่า "นคร" หมายถึง เมืองที่เคยเป็นเมืองลูกหลวงมาก่อน และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนคำว่า "พนม" ก็มาจาก พระธาตุพนม ปูชนียสถานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน บางตำราก็ว่า เดิมสมัยประเทศไทยยังไม่เสียดินแดนฝั่ง
#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
ขอบคุณเขมร เลยน่ะ ที่ทำให้คนไทยสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น ช่องยูทูปต่างๆ เเนวนี้ มีคนดูเยอะ😂 เเละทำให้รู้ว่า ประวัติศาสตร์ไทยในตำราเรียน ไม่ตรงกับความเป็นจริงหลายเรื่อง ปกติรู้เเค่ อยุธยา เเต่จริงๆ เเล้ว คนไทยอยู่ในดินเเดนนี้ มาเป็นพันๆ ปี เเล้ว เเต่เปลี่ยนชื่ออาณาจักรไปตามยุคสมัยเเค่นั้น ยกตัวอย่าง พอเกิดการโค่นล้มราชวงศ์ใด ราชวงศ์นึง อาณาจักรก็มีการเปลี่ยนเเปลงทันที เเต่ผู้คนก็ยังเหมือนเดิม
เคยฟังเรื่องเล่าจากพระรูปหนึ่งเมื่อครั้งไปกราบสักการะพระธาตุพนมว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์เคยเสด็จมาบรรทม ณ ที่แห่งนี้
น้อกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับผม อนุโมทนาสาธุสาฑุสาทุครับผม,.....
มั่นใจกี่เปอร์เซนต์ที่ว่ามา ลองคิดดูนะ
๑. เมืองโบรานศรีเทพที่พึ่งขุดสภาพไม่สมบูรณ์เจดีย์ด้านบนฐานอาจมีรูปทรงเดียวกันกับศรีโครตบูรณ์ จำปาศักดิ์ก็เป็นได้
๒. ดูชื่อเมืองก็น่าจะรู้ว่าเกี่ยวข้องไกล้ชิดกันจากคำขึ้นต้นด้วยศรี...ชะรอย จะเป็นคนกลุ่มเดียวกันด้วย
๓. เจดีย์มีขนาดเล็กกว่าศรีเทพบ่งบอกได้ว่ามีประชากรน้อยกว่า
๔. พุทธศาสนาน่าจะเคลื่อนไหวไหลผ่านเมืองศรีเทพขึ้นไปมากกว่า แล้วก็เป็นไปได้ยากถ้าจะรับจากล้านช้างผ่านล้านนาผ่านพม่า...
๕. ยกมาแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วมั้ง ถ้าภายในใจของคุณไม่มีอคติ คงจะพอมองเห็น
มันก็เป็นไปได้ และ เป็นไปไม่ได้ จริงหรือเปล่าไม่รู้ มันเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ก็เท่านั้น
ผมเป็นคนภูไท ที่บ้านมีคน นามสกล ศรีโครต ครับ
I remembered listening to one of the older Thai monk telling similar this history, you’re very detailed. Thank you 🙏
Truth is slowly revealing like the Buddha said “Three things cannot hide for long: the Moon, the Sun and the Truth.”
Thank you for your research 🙏
หลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ วัดไตรสิกขาทลามลตาราม บ้านแพด คำตระกล้า
บ้านเกิดผม ก็มีความเป็นมาอย่างยาวนายอยู่เด้ อ.นาแก
สวัสดีครับ พื้นที่นี้ต้องมีคนอยู่สืบเนื่องกันมาแล้วยาวนานจนก่อเกิดชุมชน,สังคม ที่ตำบลนี้ ไม่ไช่เขตป่าดิบ มีหินสลักเศียรพญา นาคแผ่มีรายประดับเป็นองค์ประกอบร่วม วัฒนธรรมยุคเริ่มแรกลักษณะนี้ไม่ไช่ต้นสายพันธุ์กัมพูชาปัจจุเป็นผู้สร้างทำแน่นอนและเขมรโบราณก็ไม่มีแน่นอน คนท้องถิ่นทั่วประเทศเกิดสืบสานต่อกันมาเป็นพันปี จนปัจจุบัน คำว่า"เขมรโบราณ" ต้องถอดออกจากการเรียนการสอนทั้หมด ด้วยเป็นคำบอกที่เป็นเท็จ อย่าด้านดื่อต้านอยู่เลย งานแบบนี้(หินสลักเศียรพญา นาคแผ่)เป็นลักษณะเฉพาะของคนยุคโบราณเขตภูมิภาคนี้ที่คล้ายคลึงกันทั่วอีสาน. และปัจจุบันพบได้ทั่วประเทศเป็นงานปูนปั้นเนื่องด้วยหินและช่างที่มีความสามารพหาได้ยากแล้ว.
ขอเดาด้วยครับยุคโบราณจะไม่มีประเทศ จะมีแต่เมืองเทียบปัจจุบันก็แค่จังหวัดเพราะยุคโบราณป่าไม้ต้องเยอะเป็นป่าดงดิบแน่😅😅😅
ดี
ຂອບໃຈຜູ້ທຳຄິບນີ້
นี่แหละที่ว่าพระพุทธเจ้าประสูตร ตรัสรู้ ปรินิพพานที่ไทยเรานี่แหละ
ก่อนอาณาจักรฟูนัน.... คืออาณาจักรศรีโคตรบูรณ์....จากลำดับพ.ศ.เรียงกันมาก่อนพ.ศ.500
ต้องถาม อ.อะไรนะครับลืมชื่อท่านที่ท่านเขียนเรื่องพระพุทธเจ้าเกี่ยวเมืองต่างๆในภูมิภาคทวีปลังกา
ถ้าผู้เล่า เล่าเป็นจังหวะ พูดธรรมดา ไม่เร็ว ค่อยๆๆเล่า อย่ารีบเล่า หาทวงทำน่องพัก มันจะน่าฟัง น้ำเสียงนุ่นน่วนอยู่แล้ว
สมัยโบราณ มีเจ้าผู้ครองนคร เป็นอิสระต่อกัน ไม่มีประเทศ
ຄົນດີເວົ້າຄວມຈິງ ບໍ່ແຕ່ງແລະເຕີມປະວັດຊາດທີ່ແທ້ຈິງ❤
ຄວມຈິງກໍ່ຄືຄວາມຈິງ ຮູ້ແລ້ວຄວນເຮັດແບບໃດ
อาณาจักแปลว่า เมือง หรือจังหวัด จักรวรรดิ คือประเทศ
คนโบราณมีอภินิหาร
มากต่างกว่าสมัยนี้มาก
สุวรรรณเขตอยู่ที่ไหนหรือ..ลาวมีแต่สวรรณเขต
อักษรเหล่านี้มีอยู่ในใบลานในวัดแถวริมโขงครับ
❤บุญต่อบุญสาธุๆ💎💎💎💎💎💎💰💰💰💰💰💰💰🌹🌹🙏🙏🙏☁🥰☁🥰☁🥰☁🥰☁
ทำไมเราไม่บรรยายเองครับ ไม่นาใช้ AI เลย
ສ່າງວ່າ ນໍວ່າເສຍດິນແດນແດນຝັ່ງຊາຍ ໃຫ້ຝັ່ຼງ
ເຄີຍຮຽນປະວັດສາດສະບັບດັ້ງເດີມຢູ່ເບາະ? ຖ້າບໍ່ແມ່ນຍ້ອນຝຣັ່ງ ຄົນລາວບໍ່ມີແຜ່ນດິນທີ່ຊື່ວ່າປະເທດລາວ ຫລື ສາທາລະນະລັຖ ປະຊາທຶປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວສືບມາຈົນຮອດດຽວນີ້ດອກ. ຖນົນຫົນທາງເສັ່ນລັກໆອັນທີ່ສູໄຊ້ຢູ່ດຽວນີ້ກະແມ່ນຝຣັ່ງເປັນຜູ້ພາບຸກເບີກ. ຄໍາວ່າປະຊາທິປະໄຕທີ່ສູເວົ້າລ່ຽນປາກຫັ້ນກະມາຈາກພວກຜູ້ນໍາລຸ້ນເກົ່າໆທີ່ໄປຮຽນມາຈາກປະເທດຝຣັ່ງຫັ້ນລະ.
@@okathlunceford5781 ไม่มีฝรั่งเศสก็ไม่ถูกลงถังแดงละ. ฝรั่งเศสนับถือคริสต์ไม่ได้สนใจพุทธศ่าสนา มาล่าทรัพยากร เขาไม่คุ้มลงทุนเลยทิ้ง ถนนดีทางไทยไปทำให้ การหมอก็มีไทยพัฒนาให้ ยังจะงมงาย ถ้าดีจริงไม่ทอดทิ้งไปนะ สุดท้ายต้องรับความจริง แค่วัดพู เขาก็ไม่สนบูรณะ เพราะไม่เห็นค่า
🌼🌼🙏🌼🌼🙏🌼🌼🙏🌼🌼
คิดว่าเป็นวัฒนธรรมแบบขอมก่อนจะมาเป็นนครวัด
ฟังเบื้องน้นกะลาวหนดในพากอึ่สาน
ผมมีความเห็นว่า ก่อนที่ตะติดตามขุดค้นในเชิงประวัติศาสตร์ใดในดินแดนสุวรรณภูมินี้ มุ่งโฟกัสน?ไปที่การสื่อสราโบราณ เช่นการเปล่งเสียง การตีความ ความหมายของเสียง? เช่นเรื่องเล่าประรำประรา ที่มีในถิ่นนี้ ต่อไปทำความเข้าใจ คำ เข่นคำว่าไทย ไท ถ้าศึกษาให้ลึก คำว่าไท ไม่น่าใช่ชื่อเฉพาะกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แค่เป็นคำเรียกแทน คำสรรพนามยุรุษที่3 เช่น ภาษาต้นถิ่น ว่า อี้น้อยไปเบิ่งดูแม้นใผมาย้านเฮา? ถ้าพบคนที่มีอายุมากกว่า! ลูกก็จะมาบอกพ่อว่า บ่ฮู้ใผ ลาวมาจากทางใดบ่ฮู้! คำว่าลาว เป็นคำเรียกจานคน กลุ่มคนทั่วฯไป ไท ไทย เช่นอี้น้อยมันแม่นผู้ใด เด็กร้อยบ้านใดมาตีกันใส่บุญบ้านเฮา เด็กน้อยมุนร้มันเป็นไท ไทยบ้านใด? คำว่าไทย ไท ก็ไม่ใช่คำเรียกกลุ่มคนเฉพาะ แต่เป็นคำสรรพนามที่ใช้ทั่วไปเรียกคน กลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า ศักดิ์ต่ำกว่า เป็นค้น ดังนั้น ความเข้าไตที่ว่า ไท ลาวคือขื่อเฉพาะคงไม่ถูกต้อง ควทมคิดนี้นำมาตากต้นทางจองภาษาลาวหลวงพระบางที่ใชัดันมาแต่โบราณ ลองตืดตามค้นคว้าดู เป็นวิทยาทาน
ใช่ๆภาษาอีสานคำว่าไท แปลว่าพวกหรือคนอยู่ที่ เช่นไทสกลคือพวกที่อยู่สกล ไทอุดรคือพวกที่อยู่อุดร
ลาวแปลว่าบุคคลที่สามเช่นลุงลาวมาหาแปลว่าลุงเขามาหา ควรตีความหมายจากภาษาที่ใช้สื่อสารกันทุกวันนี้ มันเป็นภาษาที่สืบทอดมานาน ภาษามันยังไม่ตายซึ่งเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุดและชัดเจนที่สุดพอๆกับนิทานพื้นบ้านที่เล่าสู่กันฟังมารุ่นต่อรุ่นสืบทอดมาได้หลายร้อยปีถึงนับพันปีเลยล่ะ
ไท ก็คือ ไต ทางเหนือ ไม่มีเสียง ท. มีแต่ ต ตามข้อมูลชาติพันธุ์ภาษากลุ่มตระกูล ไทกะได ซึ่งมีถึง 69 เผ่า ตั้งแต่อาณาจักรจ้วงเดิมถึงสุวรรณภูมิลงมา ลาวถูกจัดเป็นกลุ่มหนึ่งตระกูลไทกะไดด้วย
@@good1809
ไท กับ ไต ในเอกสารจีนโบราณคนละกลุม เขียนคนละอย่าง
@@YickWisoot
ลาว สรรพนามเรียกบุรุษที่สามที่สูงกว่า ไม่ใช่ชนชาติ
@@user-em1qn5rh3e อักษรล้านนา เขียนว่า ไตยวน จะใช้ ต.แต่แรก หาข้อมูลได้เลย จะแอกเสียง ต