พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ตอนที่ 1 สาระสำคัญของ พรบ.คุ้มครองแรงงาน
HTML-код
- Опубликовано: 1 апр 2020
- บรรยายเรื่อง พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ตอนที่ 1 สาระสำคัญของพรบ.คุ้มครองแรงงาน
ประกอบการเรียนการสอนออนไลน์ รายวิชา กฎหมายและมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ระดับชาติ และนานาชาติ ประจำภาคเรียนที่ 2/2562
ผู้บรรยาย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปฏิญญา สุขวงศ์
หลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ขอบคุณครับ
เป็นประโยชน์มากครับอาจารย์ 🙏
เสียงหล่อมีกำลังใจในการฟัง
อธิบายดีมากๆครับ
ขอบคุณครับ
อธิบายได้เข้าใจมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณมากครับ
น่าจะมีสรุป ให้สั้นแต่ได้ใจความ ทุกๆ กฎหมายที่เกี่ยวกับลูกจ้าง
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จะนำไปปรับปรุงครับ
ป่วย15วันใม้ได้เขีบนใบรางานต้องพนเป็นลูกจ้างใช้มัยคับ
นางสาวศิริมา นาวาพานีช อาชีพEmployer(Ep.85) ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน มาตรา 40 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 และเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 สปส.รับผิดชอบ เครือข่าย 4001 มี GSB.SUMO
มีข้อสงสัยครับถ้านายจ้างไม่จัดให้มีวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามมาตรา30ลูกจะสามารถร้องเรียนนายจ้างได้ไหมครับ และนายจ้างทำผิดกฎหมายคุ้มครองแรงงานใช้ไหมครับ
ตามมาตรา 30 ระบุว่า ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี มีสิทธิ หยุดพักผ่อนประจำปี โดยให้นายจ้างกำหนดวันหยุดพักผ่อนไว้ล่วงหน้า หรือแล้วแต่ที่จะตกลงกับลูกจ้าง ซึ่งหากนายจ้างไม่ได้กำหนดให้ลูกจ้างมีวันหยุดพักผ่อนประจำปี (ปีละ ไม่น้อยกว่า 6 วัน) นายจ้างจำเป็นต้อง จ่ายค่าจ้าง และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 (ค่าทำงานในวันหยุด สองเท่าของค่าจ้างปกติ) และมาตรา 63 (ค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุด สามเท่าของค่าแรงต่อชั่วโมง) เสมือนว่านายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด
ในส่วนความผิดของนายจ้างตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน สามารถแบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ หากนายจ้างไม่กำหนดให้ลูกจ้างมีวันหยุด (ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 30) มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนความผิดตามมาตรา 64 (ไม่จัดให้มีวันหยุด หรือไม่จ่ายค่าจ้าง สองเท่าในการทำงานวันหยุด, ไม่จ่ายค่าจ้าง สามเท่าในการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ครับ
ขอบคุณครับเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้างอย่างพวกผมมากครับ เพราะเพื่อนรวมงานผมไม่ได้รับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเลยตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับบริษัทนี้8ปีเต็ม
@@user-mq5hv4od3n ลูกจ้างสามารถเรียกร้องขอวันหยุดพักผ่อนจากนายจ้าง ปีละไม่น้อยกว่า 6 วัน หรือสะสมวันหยุดพักผ่อนไว้หลายปีรวมกันก็ได้ครับ หรืออาจให้นายจ้างจ่ายเป็นค่าชดเชยการทำงานในวันหยุดก็ได้เช่นกันครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
สอนเข้าใจดีมากเลยค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้นะคะ
ขอบคุณมากครับ
@@patintu3814 พอจะมีไฟล์สไลด์ให้ปริ้นออกมาอ่านมั้ยคะ
@@chachachachacha1059ลองส่งข้อความไปที่แอดมินเพจนี้ได้เลยครับ บอกว่าขอไฟล์การบรรยายเรื่องอะไร เดี๋ยวแอดมินจะจัดการให้ครับ facebook.com/หลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย-มหาวิทยาลัยสวนดุสิต-365724300154242/
@@patintu3814 ขอบคุณมากๆค่ะ 🙏🏻
ป่วยใม้ได้ไปเขียนใบรางานต้องโดนพนจากลูกจ้างใช้มัยคับ
กฎหมายไม่ได้บังคับว่าพนักงานหรือลูกจ้างต้องแสดงใบรับรองแพทย์ทุกครั้งที่ลาป่วย ซึ่งหากลูกจ้างลาป่วยไม่ถึง 3 วัน อาจมีหรือไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อนายจ้างก็ได้ แต่ถ้าลาป่วยเกิน 3 วัน นายจ้าง "อาจ" ให้ลูกจ้างส่งใบรับรองแพทย์ ซึ่งถ้าไม่มี ก็สามารถชี้แจงกับนายจ้างได้ครับว่า ป่วยแล้วรักษาด้วยตนเอง ซื้อยามาทานเอง ที่บ้าน เป็นต้น ซึ่ง ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง และได้รับเงินเดือน ปีละไม่เกิน 30 วัน ซึ่งหาลาเกินปีละ 30 วัน วันที่เกิน นายจ้างก็สามารถไม่จ่ายเงินเดือนในวันที่ป่วยเกิน 30 วันได้ครับ
มีลิ้งให้โหลดเอกสารมั้ยคะ
ลองสอบถาม inbox ไปที่เพจหลักสูตรอาชีวอนามัยฯ ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ แจ้งว่าต้องการไฟล์เรื่องอะไร เดี๋ยวแอดมินเพจเค้าประสานงานส่งไฟล์ให้ครับ facebook.com/หลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย-มหาวิทยาลัยสวนดุสิต-365724300154242/
รบกวนสอบถามครับ. ในกรณีที่นายจ้างกับลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาทำงานในวันทำงานปกติเป็นวันละ 12 ชั่วโมง เท่ากับว่าเมื่อทำงานผ่านไป 4 วัน ชั่วโมงงานปกติก็จะครบ 48 ชั่วโมงตามกฎหมายฯกำหนดในสัปดาห์นั้น อยากทราบว่าในกรณีนี้ อีก 3 วันที่เหลือในสัปดาห์ จะต้องกลายเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ไปโดยปริยายหรือไม่ครับ.
กฎหมายกำหนดให้ทำงานวันละไม่เกิน 8 ชม.ต่อวัน หรือ 48 ชม.ต่อสัปดาห์ แต่หากตกลงกันว่า ให้ลูกจ้างทำงานวันละ 12 ชม. เมื่อทำไป 4 วันแล้ว ก็จะครบ 48 ชม. ดังนั้น หากนายจ้างให้ลูกจ้างทำในวันที่เกินจากนี้ ต่อ 1 สัปดาห์ (เกิน 48 ชม. ใน 1 สัปดาห์) ก็จะถือว่าเป็นการทำ OT ครับ ส่วนเรื่องวันหยุดประจำสัปดาห์ กฎหมายระบุว่า ให้มีอย่างน้อย 1 วัน ดังนั้น หากทำงานเกินกว่า 48 ชม.ต่อสัปดาห์ แล้ว เวลาที่เหลือหากตกลงกับนายจ้างให้ทำงานเกิน นายจ้างจำเป็นต้องจ่ายค่าจ้าง โดยถือเป็น OT ครับ ซึ่งการจ่ายนั้นนายจ้างอาจจ่ายรวมเป็นรายเดือน (ให้รวมเป็นเงินเดือน)ให้กับลูกจ้างไปแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ลูกจ้างและนายจ้างตกลงกันไว้แต่แรกครับ แต่อย่างไรก็ตาม อัตราค่าจ้าง หรือการทำงานเกิน 8 ชม.ต่อวัน หรือ 48 ชม.ต่อสัปดาห์ ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ทำด้วยนะครับ เช่น รปภ. จะยกเว้นไม่ได้รับค่า OT ตามกฎกระทรวงฯ กำหนดงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุด พ.ศ. 2552 แต่อย่างไรก็ถาม หากลูกจ้างเห็นว่า เป็นการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในเขตพื้นที่ ได้ครับ
@@patintu3814 ขอบคุณมากครับที่ช่วยชี้แนะอย่างละเอียดครับ.
ปัจจุบันที่บริษัทเขากำหนดให้ทำงาน 5 วัน จัน-ศุก หยุด 2 วัน เสา-อาทิต กำหนดชั่วโมงทำงานปกติ ในวันทำงานปกติ จัน-ศุก ไว้ที่วันละ 12 ชั่วโมง(ไม่รวมเวลาพัก) ในแต่ละวันจะยังไม่มีการคิดการจ่ายค่าล่วงเวลา แต่วิธีการคิดการจ่ายค่าล่วงเวลาจะเกิดขึ้นเมื่อในสัปดาห์นั้น ลูกจ้างมาทำงานครบทั้ง 5 วัน จัน-ศุก เท่ากับว่าทำงานวันละ 12 ชม. เป็นจำนวน 5 วัน ชั่วโมงงานรวมเป็น 60 ชม. เกิน 48 ชม.ตามกฎหมายกำหนด มาเป็นจำนวน 12 ชม.ตรงนี้จึงคิดเป็นการจ่ายค่าล่วงเวลา ซึ่งหากในสัปดาห์นั้นลูกจ้างมีการลางาน เช่นลา 1 วัน ก็จะถูกตัดชั่วโมงทำงานออกไป 12 ชม. ทำให้สัปดาห์นั้นมีชั่วโมงการทำงานรวมแล้ว 48 ชม.(แม้อีก 4 วันที่เหลือจะทำงานวันละ 12 ชม.) ไม่เกินตามกฎหมายกำหนด ก็ไม่ต้องมีการจ่าย OT. แบบนี้มันขัดต่อกฎหมายไหมครับ.
ถ้าหากเป็นอย่าที่ท่านแนะนำผมมา มันก็ควรจะเป็นแบบวัน จัน-พฤหัส 4 วันนี้นั่นคือวันทำงานปกติ ส่วนวันศุกร์ทั้งวันคือ OT. หากมีการลาวันใดๆในระหว่าง จัน-พฤหัส แต่มาทำงานในวันศุกร์ ก็ยังคงได้รับ OT. ในวันศุกร์อยู่ ถูกต้องหรือไม่อย่างไรครับ
@@longdooenterprise9693 ตามหลักการเรื่องเวลาทำงานต่อวัน กำหนดไว้ที่ 8 ชม.ต่อวัน ที่มาคือ วันนึงมี 24 ชม. แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลาสำคัญของชีวิตต่อวันคือ ทำงาน 8 ชม. ใช้ชีวิตส่วนตัว 8 ชม. และพักผ่อน 8 ชม. ดังนั้น ถ้าการทำงานที่เกิน 8 ชม.ต่อวัน จึงถือได้ว่าเป็น OT
จากข้อมูลที่ให้มา ผมเดาว่า บริษัทฯ น่าจะต้องการให้ทำ OT ทุกวัน วันละ 4 ชม. เมื่อทำครบ 5 วัน ต่อสัปดาห์ ก็จะได้รับค่า OT เป็นรายสัปดาห์ ซึ่งลักษณะงานบางอย่าง สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่องไป แต่อย่างไรก็ตาม การทำ OT ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนทุกครั้ง ดังนั้น บริษัทฯ ควรตกลงกับลูกจ้างให้ชัดเจน ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจนกับลูกจ้าง เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น หากจะถามว่า ผิดกฎหมายหรือไม่ หากเป็นการบังคับให้ลูกจ้างทำ OT ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง หากเป็นไปได้ก็ควรคุยกับนายจ้างถึงความจำเป็นหรือความต้องการของลูกจ้าง เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อไปจะดีกว่าครับ
ถ้าหัวหน้ากลั่นแกล้งไม้ชราพจะร้องเรียนแบบไหนย่างเช้นหัวหน้าไม้ไห้ครวมเป็นทำกับเราเช้นรับโบนัสเพื้อนๆได้รับหลายหมื่นแต่เราได้รับ5000แบบเนี้ยเราจะทำยังไงยากชราบคะ
คำว่า โบนัส จะมีความหมายถึงเงินหรือรูปแบบอะไรก็ได้ ซึ่งลูกจ้างคาดหวังว่าจะได้รับเป็นประเภทรางวัลประจำปี จะได้กี่ครั้งก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของนายจ้างแต่ละสถานประกอบกิจการจะกำหนดขึ้นเองได้ตามชอบใจ ดังนั้นโดยทั่วไปการให้โบนัสแก่พนักงานจึงเป็นสิทธิของนายจ้างครับ ว่าจะให้ หรือไม่ให้ หรือให้ใครมากน้อยแค่ไหนก็ได้ ตามที่นายจ้างเห็นสมควรครับ
แต่อย่างไรก็ตามหากลูกจ้างเห็นว่า เป็นการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในเขตพื้นที่ ได้ครับ
เสียงเบามาก
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ จะปรับปรุงต่อไปครับ
@@patintu3814 สู้ๆค่ะ