Видео

❤❤❤

สรุปเขาได้ชื่ออะไร?

xD

แก้ผ้า อาบน้ำชิวๆ กับ เอาดาบนะ ดาบนะ ดาบบบบบ ชี้ไปที่เป้าหมาย เหมือนปืน คือ มึงก็เห็นไม่ใช่รอะว่ามันคือดาบ 😅 ต่อให้ทำอีก 10 Season มึงก็ไม่มีวันเทียบ เศษโมเลกุลเศษเล็บของ Dave ได้ 🤣🤣🤣🤣

สรุปเลย Ep เจไดแม้งเสื่อมกว่าเดิมไปเสือกกับดาวเขาไม่พอ ไปเอาลูกเขามาอีก ดูซ้ำวนไปครับ 🤣🤣

"ด้านมืดของผู้อยู่บนทางแห่งแสงสว่าง" (2/2) (โปรดอ่า่น 1/2 ด้านล่างก่อน) " นิกาย "พ่อ" เป็นใหญ่ " หัวใจในตอนนี้ คือการชี้ให้เห็นว่า "ปิตุคาม" มรึงเอาอีกแล้ว มรึงอ้างเหตุผล ในการกระทำการรุนแรงต่อ "มาตุคาม" ใช้เหตุผลและความรุนแรง ในการ "สังหาร" เพศตรงข้าม - ตรงนี้ ตือ สงครามระหว่างความสัมพันธ์ (Force) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ทั้งในระดับกาแลคติก และ ในทุกๆ บ้าน กี่ครั้งที่ ชายเป็นใหญ่ ใช้เหตุผลและความรุนแรง ในการเอาชนะ อยู่เหนือ และกดข่ม สตรี หรือคนที่เป็นเพศแม่ - และบ่อยครั้งมากๆ มันไม่ได้ฟัง ผู้ชาย เป็นเพศที่ทักษะการพังแย่กว่าผู้หญิงมาก เพราะมันมักเอาแต่คิดและยึดความคิดของมันเป็นใหญ๋ จนลืมรับรู้ รับฟัง ความจริงของสถานการณ์ และความต้องการของผู้อื่น ในขณะที่ผู้หญิง มักมีแนวโน้มที่จะใช้อารมณ์ และความรู้สึกมากกว่าเหตุผล และนี่ก็คือ หนึ่งในร้อย Duality คือ 2 ขั้วตรงข้ามของพลัง อันเป็นกำลังพื้นฐานของ Force ของจักรวาลนี้ (จริงๆ ความสัมพันธ์ของ โอช่า และ เมย์ ก็อยู่ในลักษณะนี้ คือ Duality as One คือ ความเป็นคู่ ความแตกต่าง ความเป็นสอง ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน) และถึงตอนที่ 7 มันได้เฉลย ปมที่ใหญ่มากๆ ในจักรวาล SW อีกครั้งที่สดใหม่มากๆ คำว่า "ความดี" ที่แท้ มันมีจริงไหม มันจัดการกับ(สิ่งที่มันเห็นว่าเป็น)ความชั่วข้างนอกนั่นได้ตลอด แต่มันรู้ทัน "ด้านมืดของฝึกฝนแสงสว่าง" ไหม และมันกล้าพอที่จะ จัดการสังหาร "ความอยาก" "ความโกรธ" "ความเกลียด" อันสุดท้าย กลายเป็น "ความสำนึกผิด" ในตนเอง ได้ทันไหม... " ด้านตรงข้ามของสิ่งที่เราเป็น " ซึ่งดูเหมือน ในสายอีกด้านหนึ่งของพลังงาน ที่ไม่สนใจในคำว่า "ความดี" เขาอาจจะสามารถก้าวไปได้ไกลกว่า ไม่ใช่ด้วยวิถีแห่งการกดทับ หลีกเลี่ยงและปฏิเสธ แต่ อีกสายทางหนึ่งของผู้ฝึกตนเพื่อเข้าสู่ พลังที่แท้จริงของ Force ไม่เพียงพวกเขาไม่เลือกที่จะหลบหลีก แต่พวกเขา ทั้ง Sith และ เผ่าแม่มด กลับยินดี และรับรู้ถึงพื้นที่แห่งการมีอยู่ของ "พลังงาน" ด้านนี้ และที่สำคัญ "ยอมรับ" และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่ง ชนิดที่ผู้ฝึกตนฝั่งแสงสว่างไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะ เช่นกัน แม่มด และกลุ่มสายปฏิบัติผู้ถือครอง ดาบแห่งแสงสีแดง คือ ผู้ไม่ปฏิเสธ ด้านมืดในตนเอง และพร้อมหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับมัน ผมคิดว่า แม่มดมี มรรคาแห่งการปฏิบัติที่ดีงามกว่า ซิทธ์ มาก เพราะเขาเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษ ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร เพราะเขารู้ดีกว่า วิถีแห่งพลังที่แห่งการไม่ปฏิเสธทั้งความมืดและแสงนั้น แท้จริงแล้ว มันทำให้พวกเขาแข็งแกร่ง จนแน่นอนว่า ในยุคที่นิยามแห่งความดี ถูกวิหารแห่งแสง สถาบันเจได ผู้ทำหน้าที่ปกปักษ์จักรวาลนี้ ย่อมรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง ในความทรงพลังของเผ่าแม่มด ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ศึกษาเลยว่า Acension หรือ การยกระดับจิตสู่การก้าวข้ามตัวตนนั้น แท้จริงแล้ว ก็เป็นสภาวะเดียวกันกับการบรรลุ Force ขั้นสูง ที่เจไดมาสเตอร์ (ที่แท้จริง) เท่านั้นที่จะไปถึงได้ คือ การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันพลัง " อสมดุลแห่งพลัง " ใน Ep 7 นี้จึงได้สะท้อน แสดง ถึง พล็อตเรื่องสากล ที่ถูกเล่ามาอย่างมากมายหลายครั้งในละคร หนัง และวรรณกรรมสะท้อน สุขและโศกนาฎกรรมแห่งมนุษย์ "ความไม่รู้ นำไปสู่ด้านมืด เพราะ ความไม่รู้ คือ ความมืดแห่งจิตใจ" ซึ่งเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่เว้นแม้แต่ ผู้ทีไ่ด้ชื่อว่า ได้ฝึกตนกับแสงสว่างมาตลอดชีวิต ก็ยังไม่อาจหนีพ้น "ด้านมืด" ในตนเอง ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านมาถึงตัวอักษรนี้ ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมมีที่ใช่บ้าง ไม่ใช่บ้าง และเป็นเพียงความคิดเห็น หาใช่ ข้อเท็จจริง หริอวิชาการใดๆ หรือจะเรียกให้ถูก ก็คงเป็นวิชาเกินมากกว่า ขอพลังแห่งแสงสว่างและความรัก จงสถิตย์กับทุกท่านที่แวะมาอ่าน รวมถึงทุกๆ ดวงจิตในจักรวาลนี้เช่นกัน May the Force of Light and Love Be with You All. ด้วยรักและไมตรี 12 07 24 #DualityasOne #Oneness #Togetherness #AllnessisAllThatis

"ด้านมืดของผู้อยู่บนทางแห่งแสงสว่าง" (1/2) Spoil Alert บทความนี้ เปิดเผยเนื้อหาในซีรีส์ในจักรวาล StarWars ที่มีชื่อว่า Acolyte Ep.7 หากต้องการรับชมเรื่องราวให้ได้อรรถรส ควรรับชอบก่อนรับข้อความด้านล่างนี้ แต่หากคิดว่า น่าจะมีโอกาสน้อยที่ได้รับชม ก็ไม่เป็นไรเลยครับ อ่านได้เลยครับ เพราะแม่ไม่เคยดู ก็น่าจะอ่านและได้รับประโยชน์จากบทความนี้บ้าง ไม่มากก็นิดนึงครับ ^ ^ " ในนามของความดีย์ " เจไดคนนึงที่ไม่เคยและยังไม่พร้อมที่มีลูกศิษย์ กลับอ้างความดี ความเหมาะสมที่ตนเห็นว่าควรจะต้องเป็น เป็นข้ออ้างในการทำสิ่งที่แท้จริงแล้ว ก็เป็นแค่ความปรารถนาในใจตนเอง (ความเห็นแก่ตัว - ในนามของความดี) โซล ได้สนับสนุน พาดาวันใจร้อน ที่ปรารถนาแค่ "กูอยากกลับบ้าน กูเบื่อแล้วกับภารกิจ" ได้ทำสิ่งที่ เจไดที่ไม่บรรลุธรรมะสภาวะมักทำบ่อยๆ คือ โลภ โกรธ หลง รู้สึกไหมครับว่า เรื่องทั้งหมดนี้ เจได มีสิทธิอะไรมาก้าวก่าย สิ่งที่นิยาย "แม่มด" นี้เขาทำ คุณได้ศึกษาและรู้ดีพอแล้วหรือ ว่า สิ่งที่ชนเผ่าสตรีล้วนนี้ ได้กระทำนั้น เป็นภัยต่อกาแลกซี่จริง (แล้วที่มรึงเลือกทำล่ะ) จริงๆ ตอนนี้ ดูเหมือนไม่มีเหตุผล แต่กระนั้น ก็เป็นการนำมาสู่การชี้ให้เห็นว่า " จุดประกายแห่งความมืด " ในวันนึง พอมันมีสิ่งที่เรียกว่า "ประกายไฟ" แห่งกิเลส เกิดขึ้นในมวลหมู่ผู้ถือครอง "สิ่งที่ตนยึดถือว่า" เป็น "ความดี" (ความดีที่พวกกูให้นิยาม) มันนำไปสู่การปล่อยให้มี "ความมืด" เข้ามาครอบงำจิดใจ ในหมู่ผู้ถือครองความดี และที่ใดล่ะ จะเป็นที่ๆ ดีที่สุดแล้ว ที่ความชั่วร้าย ความเกรี้ยวกราด ความโกรธเกลียด จะกลับมาหยั่งราก และเติบใหญ่อีกครั้ง ถ้าไม่ใช่ ใน "จิตใจ" ของผู้ถือครองความดี ที่ "หลงผิด" อันนำไปสู่การสังหาร "แม่" หรือ "หัวหน้า" ของนิกายแม่มด - ถามจริงๆ โซลคิดอะไร ตอนที่ใช้ดาบแห่งแสง (สัญลักษณ์แห่งความถูกต้อง ความยุติธรรมของจักรวาล) สังหาร ผู้นำสูงสุด และ แม่ ของ เด็กแฝด สองคน ที่สำคัญ หนึ่งในนั้น คือ คนที่โซลบอกว่า เป็นคนที่ถูกชะตา และปรารถนามาเป็นลูกศิษย์ของตน (จริงๆ ตรงนี้ คือ เป็นลูกของตน) เพราะระบบเจได ไม่มีลูก พาดาวัน แท้จริงก็คือ ลูกหลาน ของพวกเจได เป็นความสัมพันธ์ที่แม้ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็น สายสัมพันธ์แห่งพลังงาน Force (เอาเข้าจริงๆ ทุกความสัมพันธ์ในจักรวาลนี้ ก็คือ Force ทั้งสิ้น ... May the force be with you. (ยังมีต่อ)

The boys ep7 อย่างเอา

26:27 ตอน 2

โอเค 🤺

มันจบสมบูรณ์แล้ว จะสร้างภาคต่อเพื่ออะไร

ภาคเเรกมันฟีลจบในตัวอยู่เเล้วอ่ะ รู้สึกไม่ได้อยากให้มีภาคต่อซักเท่าไหร่

โอเค ✌🏻

จากประสบการณ์หลังๆ ที่ได้ประสบกับหนังของปู่สกอตแล้ว บอกเลยโอกาสเจ๊งเยอะมาก ยิ่งเป็นหนังอิงประวัติศาสด้วยนะ ให้ยกตัวอย่างล่าสุดก็นโปเลียนอ่ะ

ผมเห็นด้วยเลยครับ เรื่องฉากแอ็คชั่นเนี่ย ความพลาดของตัวอย่างแรก ก็คือไม่มีฉากแอคชั่นเด็ดๆออกมาเลยนี่เเหละ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในหนังจริงๆจะมีหรือเปล่า)แต่ถ้ามีก็คงจะได้เห็นในตัวอย่างที่ 2 ถ้ามีฉากแอ็คชั่นเด็ดๆมันส์ๆออกมา อาจจะเปลี่ยนโมเมนตัมของคนดูหลายๆคนได้เลย

👍

ผมไปดูแน่นอน จะไปดูเปโดรปาสคาลรำดาบ

สาวกwokeรายงานตัวครับ

พึ่งได้ลองดู gladiator ภาคแรกใา NF ครับ คือสมแล้วที่เป็นตำนาน ทั้งบทพูด การกระทำตัวละคร เพลงประกอบมันดีมาก คือมองว่ามันไม่จำเป็นต้องมีภาคต่อแล้ว มันจบในตัวแบบสมบูรณ์แล้ว แต่ถ้าอยากสร้างภาคต่ออย่าเอาตัวละครไปอิงแบบมีความสัมพันธ์กับ MAXIMUS เลย ยิ่งถ้าบอกว่าแกมีลูกชู้คือเอาตำนานมาฆ่าอ่ะ เพราะในภาคแรกก็ปูมาแบบแกรักครอบครัวมาก แต่ถ้าเอามาแบบเป็น GLADIAGOR ในตำนานที่ตบจักรพรรดิได้ ก็อาจจะพอรับได้นิดนึง

ขอตัวอย่าง2 มีแม่มังกรนะ ไม่อยากให้เจ้ง 😅

ผู้กำกับในดวงใจเลย แต่ผมให้ 70:30 พล็อตหนังแก้แค้น จะดึงอารมณ์คนดูได้ ต้องไปวัดที่ตอนจบ และก็เชื่อว่าการจบของภาคนี้ ไม่จบที่ 1:1 แบบภาคแรกแน่ๆ และถ้าไปฆ่ากันในสงครามกลางเมือง และ Gradiator ได้เป็น King มันจะถูกด่าว่า Cliche แน่นอน แต่ถ้าไล่ตามประวัติศาสตร์จริงๆคือ คอมโมดัส-เพอร์ทิเนกซ์-ดิดิอุส จูเลียนัส-เซปติมิอุส เซเวอรุส (ลูเชียส) ซึ่งได้อำนาจมาจากการยึดอำนาจ 🤣

โอกาสเจ๊ง 90%

เจ็บจากหนังเรื่อง นโปเลียนอะ วิจารณ์มากไม่ได้ เดียวจะโดนว่าอีก พวกนายอยู่ตรงนั้นเหรอ ไม่นิ หุบปากชะ 555

ดูตัวอย่างแล้วแบบได้กลิ่นไม่ค่อยดีเลย ดูน่าเบื่อไงไม่รู้

ทำให้ถึงนะ ไม่งั้น อาย สปาต้าคุส น้า....

ชอบ Martian = Harvest Moon 🤣

ธรรมกายเลยครับป้าฟังทั้งวัน

จำได้ว่า ภาคแรก ผู้กำกับอยากให้มีแรด และคอลีเซียมของจริงมีการปล่อยน้ำได้

ถามว่าดูไหมดูแน่ๆดูเพราะ Denzel Washington แค่นี้เลยฉากหัวเราะและเหลี่ยมนี่นึกถึงเรื่อง Training Day เลย 5555 กระแสหรือคำวิจารณ์ดีไม่ดีไม่รู้อ่ะดูเพราะ Denzel Washington นี่แหละนักแสดงผิวดำที่ผมชอบที่สุด ภาคแรกผมยังดองอยู่เลยซื้อบน Apple TV มา 99บาท ตัวเต็มสามชั่วโมงอีก

ความน่าสงสัยมันอยู่ตรงที่ว่า มันจะเอนเองไปทางไหน การท้าประลองเพื่อล้มนายพล หรือ การปฏิวัติของประชาชนล้มจักรพรรดิ คือ ถ้ามันมีให้ดูก็ดูหมดแหละ ชอบแนวๆ พีเรียด โรมันอยู่ละ แต่ปัญหาคือ นักแสดงจะเปล่งประกายการนำทัพได้เท่ากะ รัซเซล โครว รึเปล่า

โยดาไปไหนครับ ทำไมไม่มาคุมการผลิตเลย Qc เจไดพังหมด 😅

พระเอกบุคลิกไม่ได้ ไม่ดึงดูดให้ดูเลย

โหภาคแรก จำได้แต่ ยังก่อน.... ยังก่อน แค่นั้นเลย เก่าจัด

การจำลองสงครามทางทะเลมีจัดในโคลอสเซียมจริงๆครับ

จี้ เจไดอยากกลับบ้าน 555

ในประวัติศาสตร์ ปล่อยน้ำลงในสนามสู้เรือกันมีจริงๆครับ

Carter ควรมีภาคต่ออย่างยิ่ง เปอร์เซียก็โคตรดี

เรื่องรบทางน้ำในโคลอสเซี่ยม มีเค้าความจริงในปวศ.นะคร้บ ไม่ใช่แฟนตาซี แต่ฉลามน่าจะเป็นส่วนที่เติมมา

เสียดายคุณภาพนักแสดง /10

เจ๊งชัววววว

เอาจริงๆ บทภาคสองดั้งเดิม ส่วนตัวน่าสนใจดีแบบแหวกแนวจนไม่น่าเชื่อว่าแม่มกล้าเขียนมาจริงดิ เวอร์ชั่น Nick Cave (ชื่อใกล้ๆ Nick Cage เลยเฮี้ยนๆเหมือนกัน 5555) คือต่อจากภาคแรก แมกซิมัสตายแล้วไปเจอเทพจากตำนานโรมัน ซึ่งแม่มใช้แมกซิมัสไปฆ่าเทพกรีก โดยเอาวิญญาณลูกเมียมาต่อรอง (God of Wars น่ะแหละ 555) ลากยากไปสู้กับคริสเตียน กลายเป็นอมตะสู้ในทุกสงคราม (แบบ Wolverine) เอาตรงๆ ถ้ามันกล้าสร้างผมอยากดูกว่าเวอร์ชั่นปัจจุบันอีก แลดูซ้ำเดิมน่าเบื่อ ลองหาอ่านได้ฮะ มีบทความของ BBC Gladiator 2: The strangest sequel never made?

บทไอ้เดวิดนี่เบียวหนัก

พระเอกหน้าตาไม่มีรัศมีเลย กลิ่นปอมเปอี ลอยมาเลย ทุ่มเทเอฟเฟคแทบตาย เอาดาวรุ่งมาเล่น จม

ปล่อยน้ำลงสนามมีจริงๆนะ เรียกว่า Naumachia

แล้วปล่อยตัวอย่างใกล้ๆกับ ซีรี่ย์ Those about to die เป็นเนื้อเรื่อง Gladiator roman เหมือนกัน ตัวอย่างงานภาพ แสงไรเหมือนกันเลย ถูกด่าเรื่องเพลง Hip Hop เหมือนกันอีก

ดูตัวอย่างแล้ว หนังแบบนี้ไครจะไปดู มีแต่คนขาว มีแต่ผู้ชาย ไม่มีตัวละครนำ ที่เป็น ผู้หญิง คนดำ คนเอเชีย ไม่ woke เลย เจ๊งแน่

ถ้าเปลี่ยนบทตัวเอกเป็นหญิงผิวดำทำสงครามเรียกร้องสิทธิ์ความเท่าเทียมนะ เรื่องนี้รอด รายได้จะแข่งกับ InsideOut2 แบบสูสี กินกันไม่ลง

คงตัดสินอะไรไม่ได้จนกว่าหนังจะฉายเเล้วจะรู้ว่าหนังเรื่องนี้ควรเป็นภาคต่อของจริง หรือเป็นเเค่ของปลอม เข้าใจเลยว่าทำไมไม่มีคนทำภาค 2 เพราะ ภาคเเรกทำไว้ดีมาก ต้องยอมใจค่ายหนังกับคนทำนะเพราะใช้เวลา 20 ปี่กว่าจะมีคนสร้าง ถือว่าท้าทายกับตำนานหนังเรื่องหนึ่ง

ผมเห็นเมื่อวาน ผ่านๆยังไม่ได้ดูแบบเต็มๆ ผมก็ยังรู้สึกว่าอารมณ์มันดูแปลกๆ รอดูตัวอย่างเพิ่มอีก

ที่ภาตแรกประสบความสำเร็จเพราะเขาอยากจะไปดูฉากเครื่องบินในสมัยนั้นกับรถม้าติดไนตัสครับ