Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
พุทธปัญญา ค่าสูงสุด เหนือเอกภพช่วยประสบ พบความจริง อันที่สุดแม้มายา มาครอบงำ มวลมนุษย์ช่วยพ้นหลุด ความงมงาย ได้ทั้งปวงช่วยพ้นบ่วง พันธนาการ ด้านนานาอนัตตา สุญญตา พากระจ่างอนันตกาล ผลาญทุกสิ่ง ที่ขวางทางส่องสว่าง ทางปัญญา ที่สุดแลกระจ่างแด แลที่สุด ของสัจจาพุทธปัญญา หาได้เป็น ศาสนาไม่เป็นที่สุด ของปัญญา อิสราใจเกิดดับไป ในความว่าง สิ่งทั้งปวงFrom Anatta, Sunyata and Anantakarn.(พุทธปัญญา หาได้เป็นศาสนา แม้พุทธศาสนาจะมาบดบังบิดเบือน ก็ตาม ,ถ้าสิ่งใดขัดกับ อนัตตา สุญญตา ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อมมิใช่ คำสอนของพระพุทธองค์ ,พุทธอง์ ทรงเป็นแขกผิวขาว คือ อารยัน เช่นเดียวกับชาวยุโรปคือพวก Caucasians หมายถึงชาวผิวขาว มิใช่ผิวสีแบบแขกทางใต้คือ Dravidians ,และพุทธองค์มิเคยทรงใช้ ภาษาบาลี ทรงใช้ภาษาปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของแขกขาว เชื้อสายอารยัน Aryan แปลว่า ผู้ที่อยู่บนที่สูง ,ผู้ที่เจริญแล้ว ,เมื่อสิ้น สมัยของพุทธองค์ พวกที่บันทึกรวบรวม พระไตรปิฎก คือพวก Dravidians ซึ่งเป็นพวกชาวอินเดีย ภาคกลาง และใต้ มีผิวคล้ำ ดำ ผิวสองสี ใช้ภาษาบาลีและภาษาฮินดี ทั้งหมด จึงพยายามได้ เปลี่ยนแปลงแก้ไขไปเกือบทั้งหมด ให้เป็นไปตาม ลัทธิแขก พราหมณ์ ฮินดู ใช้ภาษาบาลีบันทึก บิดเบือน เพื่อผลประโยชน์ ของการครอบงำอย่างแยบยล มีไสยศาสตร์ เทวนิยม ปนเปื้อน เต็มไปหมดเช่น บุญ ซึ่งพุทธองค์ทรงสอนว่า คือกิเลส มาครอบงำ ,การสวดมนต์ สวดคาถา เจิม ผ้ายันต์ จุดธูปเทียน อธิษฐาน ขอพร ,ขอสารพัด ,บนบานศาลกล่าว, กราบไหว้บูชาพวกวัตถุ รูปบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ,การรดน้ำมนต์ ,พวกสายสิญจน์ พระเครื่อง ของขลัง ความอภินิหาร,สิ่งวิเศษ ,ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ บุพเพสันนิวาส บุญวาสนา,การบวงสรวง,การสร้างเจดีย์ สถูป,วัตถุบูชา ,ศาลพระภูมิ,สวดพุทธานุภาพ,การเชื่อโชคชะตาราศี ,ชาติหน้า สวรรค์นรก ,การระลึกชาติได้,การจัดโต๊ะหมู่บูชา การดูฤกษ์ยาม ,การเชื่อพระเจ้า เทพเจ้า,เทวดานางฟ้า ,พวกพิธีกรรมต่างๆ ,ผีสางนางไม้ ,วิญญาณ เรื่องกรรม เวรกรรม ,กรรมเก่าข้ามภพข้ามชาติ ,การรดน้ำศพ การกรวดน้ำ การหลงใหลตกเป็นทาสของวัตถุและรูปลักษณ์ ,กิเลสตัณหาราคะ ,อุปาทาน ,สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ความเชื่องมงาย อวิชชา การปรุงแต่งใจ, การเอาใจเข้ายึดถือยึดมั่น เกาะเกี่ยวสารพันๆ,เชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ การหลอกให้บริจาค การหลงบริจาค, ล้วนแล้วขัด กับคำสอนของพระพุทธองค์ หรือพุทธปัญญา ทั้งสิ้น )
ลัทธิแขก ลัทธิผี อีศวรพรหมพราหมณ์ร่วมบ่ม ปมบิดเบือน พุทธปัญญาพุทธองค์ มิทรงสอน ศาสนาสอนปัญญา พาหลุดพ้น แอกทั้งปวงพุทธองค์ มิทรงตั้ง ศาสนาสอนปัญญา ที่เกิดมา พร้อมโลกนี้ศาสนา เพิ่งมีมา ห้าพันปีทรงเน้นชี้ เอกภพนี้ ล้วนมายาไม่เอาใจ ไปเกาะเกี่ยว สิ่งใดใดอิสระใจ ไม่ยึดถือ ไม่ยึดมั่นเลิศสติ เลิศปัญญา ค่าอนันต์จิตเช่นนั้น พลันเข้าสู่ พุทธปัญญาFrom Anatta, Sunyata and Anantakarn
ความศรัทธา พายึดถือ พายึดมั่นสื่อเช่นนั้น นั่นแหละคือ ศาสนาศาสนาพุทธ สุดงมงาย ขัดพุทธปัญญาองค์พุทธา สอนใจอิสรา จากทั้งปวงอย่าติดบ่วง ภาพลวงตา มายาคติอย่าอุตริ โลกมายา มาครอบไว้อนัตตา สุญญตา มาสอนใจเกิดดับไป ในความว่าง เปล่าทั้งปวงFrom Anatta, Sunyata and Anantakarn.
สรุปกาลามสูตรของพระพุทธองค์ดังนี้1. อย่าเพิ่งเชื่อ พวกตำนาน เรื่องปรำปรา เรื่องที่เล่าต่อกันมา2. . อย่าเพิ่งเชื่อ พวกหนังสือสือตำรา สิ่งสลักจารึกไว้ตาม หิน ผนัง ที่ต่างๆ แม้สิ่งที่เขียนบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก3. .อย่าเพิ่งเชื่อตามประเพณีธรรมเนียม วัฒนธรรมที่ทำต่อๆ กัน มา4. .อย่าเพิ่งเชื่อ ข่าวลือในสังคม 5. .อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นตรรกศาสตร์ เพราะมิได้ผล 100% เสมอไป6. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิด ความเชื่อของตน ที่มีอยู่ใน ใจ7. อย่าเพิ่งเชื่อ สิ่งที่เปรียบเทียบทาง ปรัชญาต่างๆๆ เช่น เหมือน ขี่ช้างจับตั๊กแตน 8. .อย่าเพิ่งเชื่อ เมื่อเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นด้วยตา คิดว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น มีถมเถไปสิ่งพรางตา ตบตา ภาพลวงตา ภาพจัดฉาก9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด น่าเชื่อถือ เช่นเป็น อาวุโส ผู้สูงอายุ เป็นผู้นำ เป็นผู้เชี่ยวชาญ10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนเรา อย่าเพิ่งเชื่อแม้ พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้กล่าวสอน แต่จงเชื่อ เมื่อได้คิดพิจารณาไตร่ตรอง ทดลองเห็นแล้วก็ทำการพิสูจน์ทดสอบ ดู ด้วยวิจารณญาณ From Anatta, Sunyata and Tathata.
พุทธองค์ มิประสงค์ คนกราบไหว้บูชาทรงสอนว่า คือตัณหา กิเลสลวงอนัตตา สุญญตา พาพ้นบ่วง.อย่าหลงลวง การบูชา สารพันพุทธองค์ ทรงสละ ทุกสมบัติสงฆ์อยากจัด โกยสมบัติ โกยที่ดินกิเลสตัณหา ใต้ผ้าเหลือง หลอกโกยสินหลอกหากิน พวกงมงาย ตายปัญญาเหนืออัตตา ย่อมพาสู่ ใกล้องค์พุทธความคิดผุด พึงปล่อยวาง อย่างสายฟ้าเมื่อไตร่ตรอง มองลึกดู สุญญาตาพลันแจ่มจ้า เรามิใช่ สิ่งใดเลยFrom Anatta, Sunyata and Tathata.(องค์พุทธ= สิ่งที่พระพุทธองค์ ทรงสอนมากที่สุด,คืออะไร ???? เป็นปัญญา ความรู้อันไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ สามารถ ครอบคลุม เหนือโลกและเอกภพได้ อย่างไร ??? พระพุทธองค์ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไรในวันวิสาขบูชา ???พระพุทธองค์ ทรง เพียรพยายามหลายแสนชาติก่อนตรัสรู้ หมายความว่าอะไร ????ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึง มิใช่ศาสนา แต่เหนือศาสนา ใดใด??? ถ้าพวกพระ และชาวพุทธ ทั้งหลาย ตอบคำถามทั้งสี่ นี้ไม่ได้ ถือว่า เป็นพวก pseudoBuddhists และถ้าเกี่ยวข้องกับ อภินิหาร ปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ ย่อมคือคนบ้าถ้าสิ่งใด ขัดกับ ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ อนัตตา และ สุญญตาย่อมมิใช่คำสอนของพระพุทธองค์ แต่ตามใต้เงา ของลัทธิแขก พราหมณ์ ปมเทวนิยม อวิชชา ไสยศาสตร์ ,ลัทธิผีวิญญาณ บ้าบอ คอแตก "พวกเลวร้าย เก่งลวดลาย หลอกหากินกอบโกยสิน หากินจาก เหยื่องมงายไสยศาสตร์ ระบาดทั่ว ชั่วเลวร้ายมารทำลาย พุทธปัญญา หลอกบ้าบุญ" )
พุทธองค์ สอนอย่าหลง กามธาตุและตัดขาด อรูปธาตุ อย่าครอบงำพึงตัดขาด รูปธาตุ อย่าถลำพุทธปัญญานำ พ้นศาสนา อย่าติดกรงพุทธองค์ ทรงเน้นสอน อนัตตาเช่นกันนา สุญญตา พาสว่างอนันตกาล ผลาญทุกสิ่ง เร็วทุกทางจงกระจ่าง เรามิใช่ สิ่งใดเลยFrom Anatta, Sunyata and Tathata.(กามธาตุ=ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาความอยากสารพัดรูปธาตุ= การตกเป็นทาส บ้าหลงใหลพวกวัตถุและรูปลักษณ์,อยู่ใต้อำนาจของพวกวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถอยู่เหนือพวกวัตถุและรูปลักษณ์ได้ เช่นพวกบ้าวัตถุและพระพุทธรูป,อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสของ สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ไม่มีตัวตนจริง อุปาทาน ความเชื่อผิดๆ สิ่งที่กุปั้นขึ้นมา สมมุติขึ้นมาพวกไสยศาสตร์ ปมเทวนิยม ปมอวิชชา สิ่งที่เพ้อเจ้อเพ้อฝันเช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ,บุญ ชาติหน้า นรกสวรรค์ ,ผีวิญญาณ,เกิดแล้วจะเป็นนั่นเป็นนี่ ,อภินิหาร ,ปาฏิหาริย์ ,อิทธิฤทธิ์,ความวิเศษ สิ่งเหนือธรรมชาติ, พวกสิ่งที่งมงายเช่นการสวดมนต์สวดคาถาบ้าบอๆๆ ,พระเครื่อง,น้ำมนต์,สายสิญจน์,ปลุกเสก, )
ถ้าเป็นชาวพุทธ ที่แท้จริง ย่อมต้องตอบคำถาม 7 ข้อ ได้คือ1. พระพุทธองค์ ทรงสอนอะไรมากที่สุด ?? อันเป็นความรู้และปัญญา ที่ไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ และทำไมจึงสามารถครอบคลุม เหนือโลกและ เอกภพได้ ???2. พุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไร ในวันวิสาขบูชา ???3. พุทธองค์ ทรงเพียรพยายาม หลายๆ แสนชาติ ก่อนตรัสรู้ หมายความว่าอะไร ???4. ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึงมิใช่ศาสนาแต่อย่างใด แต่เป็น ปัญญา อันไปถึงที่สุด แล้วของเอกภพ ???5. พุทธะ Buddha มีถึง 4 ความหมาย คือว่าอะไร ??6."" บุญ ""มาจากภาษาสันสกฤต ตามคำสอนของพระพุทธองค์จริงๆ แล้ว แปลว่าอะไร ??? ซึ่งแตกต่างจากภาษาบาลี ที่มีความหมาย หลอกล่อใจ พุทธองค์ไม่เคยใช้ภาษาบาลี แต่ทรงใช้ ภาษา ปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของชาว อารยัน และพระไตรปิฎกกลับถูกบันทึกปรุงแต่งโดยพวกชาวอินเดีย พราหมณ์ โดยใช้ภาษาบาลีทั้งนั้น 7. พุทธองค์ทรงหยิบใบไม้จากพื้นป่า และถามพวกพระสงฆ์ว่าใบไม้ในมือกับในป่า อันไหน มีมากกว่ากัน ,พุทธองค์ได้ทรงสอนอะไร ซึ่งเป็นความจริง อันไปถึงที่สุดของปัญญา สามประการ ???ถ้าตอบคำถามทั้ง 7 ข้อมิได้ ,หรือตอบแบบ ลัทธิแขก คือมีอภินิหาร ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ เหนือธรรมชาติ ,และขัดกับธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อม ขัดกับ คำสอนของพระพุทธองค์ ทั้งหมด และไม่ใช่ชาวพุทธแท้แต่อย่างใด และ พระสงฆ์ ตามความหมายของพระพุทธองค์ หมายถึง ผู้บำเพ็ญตน สันโดษ มาจาก monk (mono ) ,ทรงสอนว่า ผู้บำเพ็ญตนสันโดษ คือ ผู้ที่ต้อง ไม่มีกิเลสตัณหา ราคะความอยาก อุปาทานใดใด มาเป็นเพื่อน อยู่ในใจ และต้องไม่อยู่ กับพวก ที่แสดงถึง กิเลสตัณหาราคะ ความอยากอุปาทานใดใด
พุทธปัญญา ค่าสูงสุด เหนือเอกภพ
ช่วยประสบ พบความจริง อันที่สุด
แม้มายา มาครอบงำ มวลมนุษย์
ช่วยพ้นหลุด ความงมงาย ได้ทั้งปวง
ช่วยพ้นบ่วง พันธนาการ ด้านนานา
อนัตตา สุญญตา พากระจ่าง
อนันตกาล ผลาญทุกสิ่ง ที่ขวางทาง
ส่องสว่าง ทางปัญญา ที่สุดแล
กระจ่างแด แลที่สุด ของสัจจา
พุทธปัญญา หาได้เป็น ศาสนาไม่
เป็นที่สุด ของปัญญา อิสราใจ
เกิดดับไป ในความว่าง สิ่งทั้งปวง
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
(พุทธปัญญา หาได้เป็นศาสนา แม้พุทธศาสนาจะมาบดบังบิดเบือน ก็ตาม ,ถ้าสิ่งใดขัดกับ อนัตตา สุญญตา ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อมมิใช่ คำสอนของพระพุทธองค์ ,พุทธอง์ ทรงเป็นแขกผิวขาว คือ อารยัน เช่นเดียวกับชาวยุโรปคือพวก Caucasians หมายถึงชาวผิวขาว มิใช่ผิวสีแบบแขกทางใต้คือ Dravidians ,และพุทธองค์มิเคยทรงใช้ ภาษาบาลี ทรงใช้ภาษาปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของแขกขาว เชื้อสายอารยัน Aryan แปลว่า ผู้ที่อยู่บนที่สูง ,ผู้ที่เจริญแล้ว ,เมื่อสิ้น สมัยของพุทธองค์ พวกที่บันทึกรวบรวม พระไตรปิฎก คือพวก Dravidians ซึ่งเป็นพวกชาวอินเดีย ภาคกลาง และใต้ มีผิวคล้ำ ดำ ผิวสองสี ใช้ภาษาบาลีและภาษาฮินดี ทั้งหมด จึงพยายามได้ เปลี่ยนแปลงแก้ไขไปเกือบทั้งหมด ให้เป็นไปตาม ลัทธิแขก พราหมณ์ ฮินดู ใช้ภาษาบาลีบันทึก บิดเบือน เพื่อผลประโยชน์ ของการครอบงำอย่างแยบยล มีไสยศาสตร์ เทวนิยม ปนเปื้อน เต็มไปหมด
เช่น บุญ ซึ่งพุทธองค์ทรงสอนว่า คือกิเลส มาครอบงำ ,การสวดมนต์ สวดคาถา เจิม ผ้ายันต์ จุดธูปเทียน อธิษฐาน ขอพร ,ขอสารพัด ,บนบานศาลกล่าว, กราบไหว้บูชาพวกวัตถุ รูปบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ,การรดน้ำมนต์ ,พวกสายสิญจน์ พระเครื่อง ของขลัง ความอภินิหาร,สิ่งวิเศษ ,ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ บุพเพสันนิวาส บุญวาสนา,การบวงสรวง,การสร้างเจดีย์ สถูป,วัตถุบูชา ,ศาลพระภูมิ,สวดพุทธานุภาพ,การเชื่อโชคชะตาราศี ,ชาติหน้า สวรรค์นรก ,การระลึกชาติได้,
การจัดโต๊ะหมู่บูชา การดูฤกษ์ยาม ,การเชื่อพระเจ้า เทพเจ้า,เทวดานางฟ้า ,พวกพิธีกรรมต่างๆ ,ผีสางนางไม้ ,วิญญาณ เรื่องกรรม เวรกรรม ,กรรมเก่าข้ามภพข้ามชาติ ,การรดน้ำศพ การกรวดน้ำ การหลงใหลตกเป็นทาสของวัตถุและรูปลักษณ์ ,กิเลสตัณหาราคะ ,อุปาทาน ,สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ความเชื่องมงาย อวิชชา การปรุงแต่งใจ, การเอาใจเข้ายึดถือยึดมั่น เกาะเกี่ยวสารพันๆ,เชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ การหลอกให้บริจาค การหลงบริจาค, ล้วนแล้วขัด กับคำสอนของพระพุทธองค์ หรือพุทธปัญญา ทั้งสิ้น )
ลัทธิแขก ลัทธิผี อีศวรพรหม
พราหมณ์ร่วมบ่ม ปมบิดเบือน พุทธปัญญา
พุทธองค์ มิทรงสอน ศาสนา
สอนปัญญา พาหลุดพ้น แอกทั้งปวง
พุทธองค์ มิทรงตั้ง ศาสนา
สอนปัญญา ที่เกิดมา พร้อมโลกนี้
ศาสนา เพิ่งมีมา ห้าพันปี
ทรงเน้นชี้ เอกภพนี้ ล้วนมายา
ไม่เอาใจ ไปเกาะเกี่ยว สิ่งใดใด
อิสระใจ ไม่ยึดถือ ไม่ยึดมั่น
เลิศสติ เลิศปัญญา ค่าอนันต์
จิตเช่นนั้น พลันเข้าสู่ พุทธปัญญา
From Anatta, Sunyata and Anantakarn
ความศรัทธา พายึดถือ พายึดมั่น
สื่อเช่นนั้น นั่นแหละคือ ศาสนา
ศาสนาพุทธ สุดงมงาย ขัดพุทธปัญญา
องค์พุทธา สอนใจอิสรา จากทั้งปวง
อย่าติดบ่วง ภาพลวงตา มายาคติ
อย่าอุตริ โลกมายา มาครอบไว้
อนัตตา สุญญตา มาสอนใจ
เกิดดับไป ในความว่าง เปล่าทั้งปวง
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
สรุปกาลามสูตรของพระพุทธองค์ดังนี้
1. อย่าเพิ่งเชื่อ พวกตำนาน เรื่องปรำปรา เรื่องที่เล่าต่อกันมา
2. . อย่าเพิ่งเชื่อ พวกหนังสือสือตำรา สิ่งสลักจารึกไว้ตาม หิน ผนัง ที่ต่างๆ แม้สิ่งที่เขียนบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก
3. .อย่าเพิ่งเชื่อตามประเพณีธรรมเนียม วัฒนธรรมที่ทำต่อๆ กัน มา
4. .อย่าเพิ่งเชื่อ ข่าวลือในสังคม
5. .อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นตรรกศาสตร์ เพราะมิได้ผล 100% เสมอไป
6. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิด ความเชื่อของตน ที่มีอยู่ใน ใจ
7. อย่าเพิ่งเชื่อ สิ่งที่เปรียบเทียบทาง ปรัชญาต่างๆๆ เช่น เหมือน ขี่ช้างจับตั๊กแตน
8. .อย่าเพิ่งเชื่อ เมื่อเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นด้วยตา คิดว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น มีถมเถไปสิ่งพรางตา ตบตา ภาพลวงตา ภาพจัดฉาก
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด น่าเชื่อถือ เช่นเป็น อาวุโส ผู้สูงอายุ เป็นผู้นำ เป็นผู้เชี่ยวชาญ
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนเรา อย่าเพิ่งเชื่อแม้ พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้กล่าวสอน
แต่จงเชื่อ เมื่อได้คิดพิจารณาไตร่ตรอง ทดลองเห็นแล้วก็ทำการพิสูจน์ทดสอบ ดู ด้วยวิจารณญาณ
From Anatta, Sunyata and Tathata.
พุทธองค์ มิประสงค์ คนกราบไหว้บูชา
ทรงสอนว่า คือตัณหา กิเลสลวง
อนัตตา สุญญตา พาพ้นบ่วง.
อย่าหลงลวง การบูชา สารพัน
พุทธองค์ ทรงสละ ทุกสมบัติ
สงฆ์อยากจัด โกยสมบัติ โกยที่ดิน
กิเลสตัณหา ใต้ผ้าเหลือง หลอกโกยสิน
หลอกหากิน พวกงมงาย ตายปัญญา
เหนืออัตตา ย่อมพาสู่ ใกล้องค์พุทธ
ความคิดผุด พึงปล่อยวาง อย่างสายฟ้า
เมื่อไตร่ตรอง มองลึกดู สุญญาตา
พลันแจ่มจ้า เรามิใช่ สิ่งใดเลย
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(องค์พุทธ= สิ่งที่พระพุทธองค์ ทรงสอนมากที่สุด,
คืออะไร ???? เป็นปัญญา ความรู้อันไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ สามารถ ครอบคลุม เหนือโลกและเอกภพได้ อย่างไร ??? พระพุทธองค์ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไรในวันวิสาขบูชา ???
พระพุทธองค์ ทรง เพียรพยายามหลายแสนชาติ
ก่อนตรัสรู้ หมายความว่าอะไร ????
ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึง มิใช่ศาสนา แต่เหนือศาสนา ใดใด???
ถ้าพวกพระ และชาวพุทธ ทั้งหลาย ตอบคำถามทั้งสี่ นี้ไม่ได้ ถือว่า เป็นพวก pseudoBuddhists และถ้าเกี่ยวข้องกับ
อภินิหาร ปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ ย่อมคือคนบ้า
ถ้าสิ่งใด ขัดกับ ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ อนัตตา และ สุญญตา
ย่อมมิใช่คำสอนของพระพุทธองค์ แต่ตามใต้เงา ของ
ลัทธิแขก พราหมณ์ ปมเทวนิยม อวิชชา ไสยศาสตร์ ,ลัทธิผีวิญญาณ บ้าบอ คอแตก
"พวกเลวร้าย เก่งลวดลาย หลอกหากิน
กอบโกยสิน หากินจาก เหยื่องมงาย
ไสยศาสตร์ ระบาดทั่ว ชั่วเลวร้าย
มารทำลาย พุทธปัญญา หลอกบ้าบุญ" )
พุทธองค์ สอนอย่าหลง กามธาตุ
และตัดขาด อรูปธาตุ อย่าครอบงำ
พึงตัดขาด รูปธาตุ อย่าถลำ
พุทธปัญญานำ พ้นศาสนา อย่าติดกรง
พุทธองค์ ทรงเน้นสอน อนัตตา
เช่นกันนา สุญญตา พาสว่าง
อนันตกาล ผลาญทุกสิ่ง เร็วทุกทาง
จงกระจ่าง เรามิใช่ สิ่งใดเลย
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(กามธาตุ=ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาความอยากสารพัด
รูปธาตุ= การตกเป็นทาส บ้าหลงใหลพวกวัตถุและรูปลักษณ์
,อยู่ใต้อำนาจของพวกวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถอยู่เหนือ
พวกวัตถุและรูปลักษณ์ได้ เช่นพวกบ้าวัตถุและพระพุทธรูป,
อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสของ สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ไม่มีตัวตนจริง อุปาทาน ความเชื่อผิดๆ สิ่งที่กุปั้นขึ้นมา สมมุติขึ้นมา
พวกไสยศาสตร์ ปมเทวนิยม ปมอวิชชา สิ่งที่เพ้อเจ้อเพ้อฝัน
เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ,บุญ ชาติหน้า นรกสวรรค์ ,ผีวิญญาณ,
เกิดแล้วจะเป็นนั่นเป็นนี่ ,อภินิหาร ,ปาฏิหาริย์ ,อิทธิฤทธิ์,
ความวิเศษ สิ่งเหนือธรรมชาติ, พวกสิ่งที่งมงายเช่น
การสวดมนต์สวดคาถาบ้าบอๆๆ ,พระเครื่อง,น้ำมนต์,สายสิญจน์,ปลุกเสก, )
ถ้าเป็นชาวพุทธ ที่แท้จริง ย่อมต้องตอบคำถาม 7 ข้อ ได้คือ
1. พระพุทธองค์ ทรงสอนอะไรมากที่สุด ?? อันเป็นความรู้และปัญญา ที่ไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ และทำไมจึงสามารถครอบคลุม เหนือโลกและ เอกภพได้ ???
2. พุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไร ในวันวิสาขบูชา ???
3. พุทธองค์ ทรงเพียรพยายาม หลายๆ แสนชาติ ก่อนตรัสรู้
หมายความว่าอะไร ???
4. ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึงมิใช่ศาสนาแต่อย่างใด แต่เป็น ปัญญา อันไปถึงที่สุด แล้วของเอกภพ ???
5. พุทธะ Buddha มีถึง 4 ความหมาย คือว่าอะไร ??
6."" บุญ ""มาจากภาษาสันสกฤต ตามคำสอนของพระพุทธองค์
จริงๆ แล้ว แปลว่าอะไร ??? ซึ่งแตกต่างจากภาษาบาลี ที่มีความหมาย หลอกล่อใจ พุทธองค์ไม่เคยใช้ภาษาบาลี แต่ทรงใช้ ภาษา ปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของชาว อารยัน และพระไตรปิฎกกลับถูกบันทึกปรุงแต่งโดยพวกชาวอินเดีย พราหมณ์ โดยใช้ภาษาบาลีทั้งนั้น
7. พุทธองค์ทรงหยิบใบไม้จากพื้นป่า และถามพวกพระสงฆ์ว่าใบไม้ในมือกับในป่า อันไหน มีมากกว่ากัน ,พุทธองค์ได้ทรงสอนอะไร ซึ่งเป็นความจริง อันไปถึงที่สุดของปัญญา สามประการ ???
ถ้าตอบคำถามทั้ง 7 ข้อมิได้ ,หรือตอบแบบ ลัทธิแขก คือมีอภินิหาร ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ เหนือธรรมชาติ ,และขัดกับธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อม ขัดกับ คำสอนของพระพุทธองค์ ทั้งหมด และไม่ใช่ชาวพุทธแท้แต่อย่างใด
และ พระสงฆ์ ตามความหมายของพระพุทธองค์
หมายถึง ผู้บำเพ็ญตน สันโดษ มาจาก monk (mono ) ,ทรงสอนว่า ผู้บำเพ็ญตนสันโดษ คือ ผู้ที่ต้อง ไม่มีกิเลสตัณหา ราคะความอยาก อุปาทานใดใด มาเป็นเพื่อน อยู่ในใจ และต้องไม่อยู่ กับพวก ที่แสดงถึง กิเลสตัณหาราคะ ความอยากอุปาทานใดใด