Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
ในสมัยก่อนผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะไปเป็นแม่บ้านครับ ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็จะไม่มีคนคอยหาเงินเข้าบ้านหรือดูแล และกันเหนียวไว้เผื่อฝ่ายชายทิ้งฝ่ายหญิงจะได้พอมีเงินกลับมาตั้งตัวได้เพราะตัวเองต้องออกจากงานก่อนหน้านี้ฝ่ายชายเลยต้องมีสินสอดแต่ในยุคปัจจุบัน ผู้หญิงแทบจะไม่เป็นแม่บ้านแล้ว สรุปคือค่าสินสอดไม่มีความจำเป็นครับ
เออ เมกเซ้นต์อะ
@@Sh0ckerBoy แต่ในสมัยนี้ที่ยังมีสินสอดอยู่เพราะคนแห่กันทำตามคนรุ่นก่อนๆครับคนแก่บางคนยังไม่รู้ความหมายของสินสอดเลยครับ
ใช่เลยครับ สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยร้อยปีก่อนแล้ว ถ้าร้อยปีก่อนว่าไปอย่าง แต่สมัยนี้ หญิง ชาย สถานะเท่าเทียมกันแล้ว ทำงานกันทุกคน ทำไมผู้ชายจะต้องเอาเงินให้ครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย แต่สมัยนี้ ยังมีเรื่องสินสอดอยู่อีก ทั้งที่มันควรยกเลิกไปได้แล้ว
เยี่ยม
@@ohmiefluffy360จริงคับ ไม่ได้หยาบคายอะไรนะคับ แต่ผมคิดว่ามันเหมือนขายลูกกินแล้วในสมัยนี้ สำหรับคอมเม้นหลักผมได้ความรู้เลย แต่นี่คือความหมายของสินสอดในยุคนั้น ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมด จะยังใช้นิยามเดิมไม่ได้อีกแล้ว
จริงๆค่าสินสอด แปลตรงตัวเลยค่ะ ว่าเป็นเงินที่จ่ายเพื่อ “สอด” เพราะว่าในสมัยก่อน มีเหตุผลหลายข้อ หลักๆคือเป็นหลักประกันให้ฝ่ายหญิง และครอบครัวของฝ่ายหญิง เนื่องจาก สมัยก่อนแต่งงานแล้วฝ่ายหญิงต้องออกจากบ้านพ่อแม่ ไปดูแลปรนนิบัติบ้านฝ่ายชาย เหมือนเสียลูกสาวไปคนนึง รวมทั้งการที่ผู้หญิงในสมัยก่อนเมื่อแต่งงานแล้วมีหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือน เป็นแม่บ้าน ให้กำเนิดบุตร ดูแลลูก ส่วนหน้าที่หาเงินเป็นของฝ่ายชาย ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ชายฝ่ายเดียวหากเลิกรากันก็ไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลทางด้านวิทยาศาสตร์คือสรีระวิทยา การที่ผู้หญิงแต่งงานแล้ว หรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมาแล้ว ร่างกายจะไม่เหมือนเดิม พูดง่ายๆว่ามีความสึกหรอในเรื่องของรูปร่างตามหลักสรีระวิทยา ทั้งทรวงอก ช่องคลอด สะโพก ต่างจากฝ่ายชายที่แม้เกิดการร่วมเพศ ก็ไม่สึกหรอทางสรีระ ยิ่งไม่นับถึงหากมีบุตร ร่างกายของเพศหญิงก็จะทรุดโทรมลงไปมาก ยังไม่นับกับการที่ฝ่ายหญิงมีระยะเวลาเจริญพันธุ์ที่สั้นกว่าฝ่ายชาย หากผ่านเวลาไปจนผู้หญิงแก่ตัวลง จนผ่านพ้นวัยเจริญพันธ์ หากเลิกรากัน ก็อาจจะหมดโอกาสที่จะให้กำเนิดบุตรทายาทแล้ว ยากที่จะหาสามีใหม่ ต่างจากฝ่ายชายที่สามารถเจริญพันธุ์ได้ตลอดจนอายุมาก ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลแทบจะเรียกว่าหมดโอกาสแต่งงานใหม่ รวมทั้งขนบธรรมเนียมในสมัยก่อน ถ้าผู้หญิงหย่าร้างแล้ว จะถูกมองไม่ดี ไม่มีใครอยากให้ลูกแต่งงานกับหญิงม่าย อันนี้พูดถึงที่สมัยโบราณมากๆนะคะ ซึ่งแตกต่างจากสมัยนี้ ที่ความรู้ เทคโนโลยีและวิวัฒนาการต่างๆทางการแพทย์ทำให้ไม่ว่าจะหญิงโสด หรือแต่งงานแล้ว อายุมากหรืออายุน้อยแทบจะไม่สามารถบอกได้ ผู้หญิงในปัจจุบันแม้มีลูกก็ยังดูสาว ดูสวยได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นที่มาของธรรมเนียมการให้สินสอด เพื่อเป็นหลักประกันให้ฝ่ายหญิงก่อนแต่งงาน
นี่คิดว่า ผู้ชายและผู้หญิงควรช่วยกันหา ไม่ก็ไม่ต้องมีสินสอดก็ได้ แต่ความคิดผู้ใหญ่หลายๆคนเขาไม่คิดแบบเรา
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้จากช่องนี้เลยค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้คิดว่าถ้าวันนึงจะแต่งงานคงไม่คิดจะจัดงานหรือเรียกสินสอดอะไร แต่มันมีมุมมองชายเป็นใหญ่อยู่ค่ะ การเรียกสินสอดในความคิดเราหมายถึงการทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคตไม่ใช่แต่งงานกันไปแล้วอยู่กันอย่างลำบาก ไม่ใช่เรื่องของการซื้อ-ขายตัวกันนะ หัวข้อค่อนข้างน่าสนใจนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมุมมองหรือการแสดงออกในบางมุม แต่ติดตามและชื่นชอบในหลายๆคอนเท้นจะรอดูคลิปต่อไปค่ะ
อย่างที่คุณว่ามาแหละ " การเรียกสินสอดในความคิดเราหมายถึงการทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคต " แต่มันเป็นแค่ส่วนนึง และเป็นเรื่องในสมัยก่อน เป็นร้อยปี ในยุคที่ผู้หญิง ไม่สามารถทำงานได้ และต้องอยู่แต่บ้าน เป็นแม่บ้าน การที่ฝ่ายชายต้องให้เงินสินสอดครอบครัวฝ่ายหญิง ผมว่ามันก็เหมือนการ ซื้อ-ขาย จริงๆนะ เพราะเป็นการนำลูกสาวเขา มาอยู่ที่บ้านฝ่ายชาย มาเป็นแม่บ้าน และครอบครัวของสาว ก็ต้องปล่อยลูกสาวไป กลายเป็นไม่มีคนช่วยที่บ้าน ไม่มีคนช่วยทำงานบ้าน อะไรต่างๆ แต่ได้เงินมาแทน มันก็แทบจะเปรียบเสมือนการซื้อขาย จริงๆอะ ถ้าจะแค่แสดงให้เห็นว่าดูแลได้ มันก็มีวิธีแสดงอีกหลายอย่าง ทั้งดูหน้าที่การงาน หาเงินได้เท่าไหร่ สภาพที่บ้าน การเป็นอยู่ หญิงมาอยู่จะลำบากไหม มันก็วิธีดูอีกหลายอย่าง แต่นี่คือการมอบเงินให้เลย แลกกับตัวผู้หญิงมา แต่นั่นเป็นเรื่องสมัยก่อน สมัยนี้ผู้หญิง มีสิทธิในการทำงาน หญิง ชาย ออกไปทำงาน หาเงินกันทั้งคู่ ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว เรื่องสินสอดก็ควรที่จะยกเลิกไปได้แล้ว
ก็ถ้าจะเรียกจริงๆ มันประนีประนอมกันได้ไงของคนทั้งสอง Gen ฝ่ายผู้ใหญ่ก็ควรดูอะไรประกอบหลายๆอย่าง เรียกตามเหมาะสม หรือจะให้คืนทีหลังก็แล้วแต่เขาจะคิดหลุดกรอบมายาคติได้ขนาดไหน ฝ่ายทางคู่แต่งเขาจะได้พอแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ใช่สักแต่จะเรียกสูงๆแล้วเขาไม่เหลืออะไรทำทุนต่อเลย แล้วแค่นั้นมันจะตอบความมั่นใจที่คุณว่า ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคตไม่ใช่แต่งงานกันไปแล้วอยู่กันอย่างลำบากได้ยังไง ในเมื่อเขาไปต่อไม่ได้เลย
การกระทำมันก็คือขายลูกกินนั้นแหละ
คิดถึง ชกบ.สุดๆ รอทุกคลิปเลย ดูคลิปเก่าๆจนพูดตามพวกพี่ได้แล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ พวกพี่เป็นช่องที่ยูทูปขาดไม่ได้จริง!! เป็นกำลังให้เสมอนะคะ
ปล คิดถึง มึงใช่ไหม ใส่ไข่ ก้าวหลัง สุดๆ
ไอต้าวกำลังใจจจจจ มีแรงตัดคลิปเลย
@@Sh0ckerBoy เป็นกำลังให้พี่ๆค่ะ การที่พวกพี่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทำให้เราที่เป็นแฟนคลับมีความสุขมากๆนะคะ🩷🩷
เหมือนกันเลยค่ะวนดูแต่คลิปเก่าๆ🥲
น้องคนที่ตัดผมเกรียนๆสักที่ข้อมือเหมือนเคยเจอในคลิป…เลยครับ ใช่ไหมนะ
คู่รักบ่าวสาว จะครองรักกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นหนี้ตั้งแต่แรก เริ่มต้นด้วยการกู้หนี้มาเพื่อเป็นค่าสินสอด แล้วชีวิตหลังจากนั้นจะมีความสุขได้ยังไง😅
เดี่ยวนี้ ไม่ค่อยอัพคลิปเลย
ไม่ชอบอะไรหลายอย่างของไทยรวมถึงสิ่งนี้ด้วย คือให้ลูกๆไปสร้างเนื้อสร้างตัวกันดีกว่า บางครอบครัวก็ไม่ได้มี อันนี้พูดเฉพาะประเด็นนี้อย่างเดียว แบบตัดปัจจัยอื่นๆ เช่นนิสัยของคนออกไปนะ
มันคือช่องทางหนึ่งของหลายๆคนเลย มีจริงๆที่แต่งงานเพื่อเอาสินสอดแล้วก็หย่า เหมือนนมิจฉาชีพเลย
ถ้าถามผมว่าสินสอดมีไว้ทำไมผมตอบไม่ได้นะเพราะ ผมยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะบอกได้ต้องถามคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่มีลูกสาวคงจะได้หลายเหตุผล ยกตัวอย่างประเทศจีนเคยฟังจากปากแฟนของรุ่นพี่เป็นคนจีน ผู้หญิงจีนสมัยใหม่จะคบหรือแต่งงานผู้ชายคนนั้นต้องมีพร้อม..บ้าน เงิน มีฐานะที่ค่อนข้างดี ไม่วั้นอย่าคิดจะได้แต่งงาน ส่วนฝรั่งไม่มีสินสอดแต่ถ้าเกิดอย่าขึ้นมาบางกรณีตเองแบ่งสมบัติครึ่งนึงขางคนถึงกับเกือบหมดตัว ของแบบนี้พูดอยาก
ซื้อมาไม่พอ พอมันอยู่ด้วยมันริบเงินเราอีก555555น่าเศร้านะ
แรกๆสินสอดมีไว้เพื่อเป็นหลักประกันครับว่าคุณจะดูแลลูกสาวเขาได้ เงินสินสอดมักจะนำไปเป็นเงินสร้างตัวลงทุนครับ แต่จู่ๆ ค่านิยมมันเปลี่ยนไป เพราะพ่อแม่บางคนกลับมองว่าอุตส่าห์เลี้ยงมาบลาๆ ซึ่งทำเป็นซึ่งทำแบบนี้ไม่ต่างจากการขายลูกสาวกินหรือเห็นเป็นสินค้าเลย
ถ้าต้องกู้หนี้มาเพื่อแต่งงาน อย่าพึ่งแต่งเลยครับ ชีวิตที่มีหนี้(เสีย)มันไม่มีความสุขหรอกครับ แทนที่จะได้ทำงานสร้างครอบครัวมันจะกลายเป็นทำงานเพื่อใช้หนี้แทน
เอาจริงนะ ส่วนตัวก็เป็นผญ.คนนึง ถ้าถึงวันที่ต้องแต่งงานจริงๆคงไม่เรียกสินสอดหรอก ถ้าพ่อแม่เรียกก็คงห้าม เพราะสุดท้ายถ้ามีสินสอดก็ไม่ต่างกับซื้อตัวเราจริงๆ คือเรามองว่าเราไม่ใช่สิ่งของหรืออะไรก็ตามที่จะมาซื้อขายได้อะนั้นแหละ ท้ายสุด เงินที่ผช.หามาตลอดในช่วงเวลาที่คบกันก่อนแต่ง บางส่วนของเงินก็เขาก็คงอยู่ในตัวเรานี่แหละ(แบบเวลาเลี้ยงข้าวงี้55555666) เท่านี้ก็คงจะพอแสดงให้เห็นละว่าเขาเลี้ยงเราได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องเลี้ยงดูได้/ไม่ได้แล้วจริงๆ6555
เงินสำรองในอนาคต
ขออนุญาตพูดในมุมกฎหมายนะครับของหมั้น = คือทรัพย์สินที่”ฝ่ายชาย”(ชายคู่หมั้น บิดามารกาของชายคู่หมั้น บุคคลผูกระทำการแทนฐานะบิดามาราดาฝ่ายชาย) มอบให้แก่”หญิงคู่หมั้น” เพื่อเป็นการสัญญาว่าจะมีการสมรสกันในอนาคต เมื่อมอบให้แล้ว ทรัพย์สินนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของหญิงคู่หมั้นทันทีถ้าชายคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้น(เช่น ไม่ยอมสมรส) หญิงคู่หมั้นก็ริบของหมั้นนั้นไว้กับตัว กลับกัน ถ้าหญิงคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้น ฝ่ายชายก็เรียกคืนของหมั้นได้สินสอด = คือทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่บิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครองของหญิงคู่หมั้น(แล้วแต่กรณี) เพื่อเป็นของตอบแทนที่หญิงยอมสมรสด้วย แต่จะมีหรือไม่มีก็ได้จะเห็นว่า ของหมั้น กับสินสอด จะใช้คนละบริบทกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กฎหมายไม่บังคับ ว่าถ้าจะสมรส ต้องมีการหมั้นก่อน และไม่บังคับว่า ถ้าจะสมรสตัองให้สินสอด เพียงแต่ว่า ในกรณีการหมั้น ถ้าจะให้สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฟ้องร้องได้ ต้องมีการมอบทรัพย์สินซึ่งเป็นของหมั้น ขณะทำการหมั้น ซึ่งกฎหมายพวกนี้มีที่มาจากจารีตประเพณีของไทยโบราณ นำมาเขียนเป็นกฎหมายขึ้นมา
อยู่ที่พ่อแม่ฝ่ายหญิง ถ้าเขารักลูกจะให้คู่บ่าวสาว เป็นเงินตั้งตัวในการสร้างครอบครัว
ส่วนใหญ่น่าจะเป็นงั้นปะ
ตอนผมแต่งไม่มีสินสอดสักบาทครับแค่เอามาวางโชวืไว้เฉยๆ ผู้ใหญ่ทางฝั่งเจ้าสาวยอมรับว่าเราดูแลลูกเขาได้จริงๆผ่านการกระทำ สินสอดไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
คิดถึง ชกบ.มากกกก🌀💙
ผู้ชายก็กินนม55555
กินเยอะด้วยงับ
ค่าตัวยังกับราดาสาวดังๆ
อยากเห็นพี่คอลแลปกับช่องเทพลีลาจังครับ❤
ประเด็นนี้ผมก็คิดมานานละคอนเท้นดี
รู้สึกว่าอินเดีย ผู้ชายเขาเป็นฝ่ายเรียกครับ😂
พี่เคเรียกให้ตัวเอง 1 ล้าน สุดจะปัง
แต่ตอนตอบคำถามคือแบบไม่จ่ายเลยนะ
คอนเทนดีมากกก❤
แค่ไฮไลท์ก็ฮาแล้ว5555 ดูคลิปเก่ารอคลิปใหม่ลงยาวๆๆ
เห็นเคพูดอย่างนี้แต่เขาก็พูดตรง ทำไมอาทิตย์ก่อนไม่ลงคลิปครับ รอนาน มาก คำถามนี้น่าจะเอาโด เข้ามาด้วย
ไทบ้านอาร์ต 😅😊
รอดูทุกคลิปครับ😊😊😊
มาแล้วคิดถึงสุดๆๆ❤
AZa l)
คอนเท้นนี้พี่อาร์ตพูดดีแฮะส่วนตัวคิดว่าเป็นค่านิยมสมัยก่อนเดี๋ยวนี้บางบ้านอาจจะยังมีอยู่แต่ก็อาจจะให้เป็นพิธีไม่ได้เก็บไว้หรือบางบ้านไม่เอาเลย ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านจริงๆ ปล.อยากให้พี่ๆระวังคำพูดตอนต้นนิดนึงที่บอกว่าซื้อตัวแม่งหรือผญ.หาเงินสู้ผช.ไม่ได้บางคำอาจจะสื่อไปในทาง patriarchal แต่คอนเท้นดีค่ะติดตามคลิปต่อๆไปนะคะ ✌🏼
55555
ในส่วนที่เราแต่งแล้วสินสอดเราเก็บพร้อมสามีคนละครึ่งใครมีก็หยอดเก็บๆไว้แล้วอยากแต่งตอนไหนก็มาเอาไปแต่งเสร็จก็เอาไปใช้ด้วยกันต่อยอดกันไปนั่รแหละ25555554
ในสมัยก่อนผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะไปเป็นแม่บ้านครับ ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็จะไม่มีคนคอยหาเงินเข้าบ้านหรือดูแล และกันเหนียวไว้เผื่อฝ่ายชายทิ้งฝ่ายหญิงจะได้พอมีเงินกลับมาตั้งตัวได้เพราะตัวเองต้องออกจากงานก่อนหน้านี้ฝ่ายชายเลยต้องมีสินสอดแต่ในยุคปัจจุบัน ผู้หญิงแทบจะไม่เป็นแม่บ้านแล้ว สรุปคือค่าสินสอดไม่มีความจำเป็นครับ
เออ เมกเซ้นต์อะ
@@Sh0ckerBoy แต่ในสมัยนี้ที่ยังมีสินสอดอยู่เพราะคนแห่กันทำตามคนรุ่นก่อนๆครับคนแก่บางคนยังไม่รู้ความหมายของสินสอดเลยครับ
ใช่เลยครับ สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยร้อยปีก่อนแล้ว ถ้าร้อยปีก่อนว่าไปอย่าง แต่สมัยนี้ หญิง ชาย สถานะเท่าเทียมกันแล้ว ทำงานกันทุกคน ทำไมผู้ชายจะต้องเอาเงินให้ครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย แต่สมัยนี้ ยังมีเรื่องสินสอดอยู่อีก ทั้งที่มันควรยกเลิกไปได้แล้ว
เยี่ยม
@@ohmiefluffy360จริงคับ ไม่ได้หยาบคายอะไรนะคับ แต่ผมคิดว่ามันเหมือนขายลูกกินแล้วในสมัยนี้ สำหรับคอมเม้นหลักผมได้ความรู้เลย แต่นี่คือความหมายของสินสอดในยุคนั้น ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมด จะยังใช้นิยามเดิมไม่ได้อีกแล้ว
จริงๆค่าสินสอด แปลตรงตัวเลยค่ะ ว่าเป็นเงินที่จ่ายเพื่อ “สอด” เพราะว่าในสมัยก่อน มีเหตุผลหลายข้อ หลักๆคือเป็นหลักประกันให้ฝ่ายหญิง และครอบครัวของฝ่ายหญิง เนื่องจาก สมัยก่อนแต่งงานแล้วฝ่ายหญิงต้องออกจากบ้านพ่อแม่ ไปดูแลปรนนิบัติบ้านฝ่ายชาย เหมือนเสียลูกสาวไปคนนึง รวมทั้งการที่ผู้หญิงในสมัยก่อนเมื่อแต่งงานแล้วมีหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือน เป็นแม่บ้าน ให้กำเนิดบุตร ดูแลลูก ส่วนหน้าที่หาเงินเป็นของฝ่ายชาย ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ชายฝ่ายเดียวหากเลิกรากันก็ไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลทางด้านวิทยาศาสตร์คือสรีระวิทยา การที่ผู้หญิงแต่งงานแล้ว หรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมาแล้ว ร่างกายจะไม่เหมือนเดิม พูดง่ายๆว่ามีความสึกหรอในเรื่องของรูปร่างตามหลักสรีระวิทยา ทั้งทรวงอก ช่องคลอด สะโพก ต่างจากฝ่ายชายที่แม้เกิดการร่วมเพศ ก็ไม่สึกหรอทางสรีระ ยิ่งไม่นับถึงหากมีบุตร ร่างกายของเพศหญิงก็จะทรุดโทรมลงไปมาก ยังไม่นับกับการที่ฝ่ายหญิงมีระยะเวลาเจริญพันธุ์ที่สั้นกว่าฝ่ายชาย หากผ่านเวลาไปจนผู้หญิงแก่ตัวลง จนผ่านพ้นวัยเจริญพันธ์ หากเลิกรากัน ก็อาจจะหมดโอกาสที่จะให้กำเนิดบุตรทายาทแล้ว ยากที่จะหาสามีใหม่ ต่างจากฝ่ายชายที่สามารถเจริญพันธุ์ได้ตลอดจนอายุมาก ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลแทบจะเรียกว่าหมดโอกาสแต่งงานใหม่ รวมทั้งขนบธรรมเนียมในสมัยก่อน ถ้าผู้หญิงหย่าร้างแล้ว จะถูกมองไม่ดี ไม่มีใครอยากให้ลูกแต่งงานกับหญิงม่าย อันนี้พูดถึงที่สมัยโบราณมากๆนะคะ ซึ่งแตกต่างจากสมัยนี้ ที่ความรู้ เทคโนโลยีและวิวัฒนาการต่างๆทางการแพทย์ทำให้ไม่ว่าจะหญิงโสด หรือแต่งงานแล้ว อายุมากหรืออายุน้อยแทบจะไม่สามารถบอกได้ ผู้หญิงในปัจจุบันแม้มีลูกก็ยังดูสาว ดูสวยได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นที่มาของธรรมเนียมการให้สินสอด เพื่อเป็นหลักประกันให้ฝ่ายหญิงก่อนแต่งงาน
นี่คิดว่า ผู้ชายและผู้หญิงควรช่วยกันหา ไม่ก็ไม่ต้องมีสินสอดก็ได้ แต่ความคิดผู้ใหญ่หลายๆคนเขาไม่คิดแบบเรา
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้จากช่องนี้เลยค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้คิดว่าถ้าวันนึงจะแต่งงานคงไม่คิดจะจัดงานหรือเรียกสินสอดอะไร แต่มันมีมุมมองชายเป็นใหญ่อยู่ค่ะ การเรียกสินสอดในความคิดเราหมายถึงการทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคตไม่ใช่แต่งงานกันไปแล้วอยู่กันอย่างลำบาก ไม่ใช่เรื่องของการซื้อ-ขายตัวกันนะ หัวข้อค่อนข้างน่าสนใจนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมุมมองหรือการแสดงออกในบางมุม แต่ติดตามและชื่นชอบในหลายๆคอนเท้นจะรอดูคลิปต่อไปค่ะ
อย่างที่คุณว่ามาแหละ " การเรียกสินสอดในความคิดเราหมายถึงการทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคต " แต่มันเป็นแค่ส่วนนึง และเป็นเรื่องในสมัยก่อน เป็นร้อยปี ในยุคที่ผู้หญิง ไม่สามารถทำงานได้ และต้องอยู่แต่บ้าน เป็นแม่บ้าน การที่ฝ่ายชายต้องให้เงินสินสอดครอบครัวฝ่ายหญิง ผมว่ามันก็เหมือนการ ซื้อ-ขาย จริงๆนะ เพราะเป็นการนำลูกสาวเขา มาอยู่ที่บ้านฝ่ายชาย มาเป็นแม่บ้าน และครอบครัวของสาว ก็ต้องปล่อยลูกสาวไป กลายเป็นไม่มีคนช่วยที่บ้าน ไม่มีคนช่วยทำงานบ้าน อะไรต่างๆ แต่ได้เงินมาแทน มันก็แทบจะเปรียบเสมือนการซื้อขาย จริงๆอะ ถ้าจะแค่แสดงให้เห็นว่าดูแลได้ มันก็มีวิธีแสดงอีกหลายอย่าง ทั้งดูหน้าที่การงาน หาเงินได้เท่าไหร่ สภาพที่บ้าน การเป็นอยู่ หญิงมาอยู่จะลำบากไหม มันก็วิธีดูอีกหลายอย่าง แต่นี่คือการมอบเงินให้เลย แลกกับตัวผู้หญิงมา แต่นั่นเป็นเรื่องสมัยก่อน สมัยนี้ผู้หญิง มีสิทธิในการทำงาน หญิง ชาย ออกไปทำงาน หาเงินกันทั้งคู่ ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว เรื่องสินสอดก็ควรที่จะยกเลิกไปได้แล้ว
ก็ถ้าจะเรียกจริงๆ มันประนีประนอมกันได้ไงของคนทั้งสอง Gen ฝ่ายผู้ใหญ่ก็ควรดูอะไรประกอบหลายๆอย่าง เรียกตามเหมาะสม หรือจะให้คืนทีหลังก็แล้วแต่เขาจะคิดหลุดกรอบมายาคติได้ขนาดไหน ฝ่ายทางคู่แต่งเขาจะได้พอแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ใช่สักแต่จะเรียกสูงๆแล้วเขาไม่เหลืออะไรทำทุนต่อเลย แล้วแค่นั้นมันจะตอบความมั่นใจที่คุณว่า ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะดูแลฝ่ายหญิงได้ในอนาคตไม่ใช่แต่งงานกันไปแล้วอยู่กันอย่างลำบากได้ยังไง ในเมื่อเขาไปต่อไม่ได้เลย
การกระทำมันก็คือขายลูกกินนั้นแหละ
คิดถึง ชกบ.สุดๆ รอทุกคลิปเลย ดูคลิปเก่าๆจนพูดตามพวกพี่ได้แล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ พวกพี่เป็นช่องที่ยูทูปขาดไม่ได้จริง!! เป็นกำลังให้เสมอนะคะ
ปล คิดถึง มึงใช่ไหม ใส่ไข่ ก้าวหลัง สุดๆ
ไอต้าวกำลังใจจจจจ มีแรงตัดคลิปเลย
@@Sh0ckerBoy เป็นกำลังให้พี่ๆค่ะ การที่พวกพี่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทำให้เราที่เป็นแฟนคลับมีความสุขมากๆนะคะ🩷🩷
เหมือนกันเลยค่ะวนดูแต่คลิปเก่าๆ🥲
น้องคนที่ตัดผมเกรียนๆสักที่ข้อมือเหมือนเคยเจอในคลิป…เลยครับ ใช่ไหมนะ
คู่รักบ่าวสาว จะครองรักกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นหนี้ตั้งแต่แรก เริ่มต้นด้วยการกู้หนี้มาเพื่อเป็นค่าสินสอด แล้วชีวิตหลังจากนั้นจะมีความสุขได้ยังไง😅
เดี่ยวนี้ ไม่ค่อยอัพคลิปเลย
ไม่ชอบอะไรหลายอย่างของไทยรวมถึงสิ่งนี้ด้วย คือให้ลูกๆไปสร้างเนื้อสร้างตัวกันดีกว่า บางครอบครัวก็ไม่ได้มี อันนี้พูดเฉพาะประเด็นนี้อย่างเดียว แบบตัดปัจจัยอื่นๆ เช่นนิสัยของคนออกไปนะ
มันคือช่องทางหนึ่งของหลายๆคนเลย มีจริงๆที่แต่งงานเพื่อเอาสินสอดแล้วก็หย่า เหมือนนมิจฉาชีพเลย
ถ้าถามผมว่าสินสอดมีไว้ทำไมผมตอบไม่ได้นะเพราะ ผมยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะบอกได้ต้องถามคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่มีลูกสาวคงจะได้หลายเหตุผล ยกตัวอย่างประเทศจีนเคยฟังจากปากแฟนของรุ่นพี่เป็นคนจีน ผู้หญิงจีนสมัยใหม่จะคบหรือแต่งงานผู้ชายคนนั้นต้องมีพร้อม..บ้าน เงิน มีฐานะที่ค่อนข้างดี ไม่วั้นอย่าคิดจะได้แต่งงาน ส่วนฝรั่งไม่มีสินสอดแต่ถ้าเกิดอย่าขึ้นมาบางกรณีตเองแบ่งสมบัติครึ่งนึงขางคนถึงกับเกือบหมดตัว ของแบบนี้พูดอยาก
ซื้อมาไม่พอ พอมันอยู่ด้วยมันริบเงินเราอีก555555น่าเศร้านะ
แรกๆสินสอดมีไว้เพื่อเป็นหลักประกันครับว่าคุณจะดูแลลูกสาวเขาได้ เงินสินสอดมักจะนำไปเป็นเงินสร้างตัวลงทุนครับ แต่จู่ๆ ค่านิยมมันเปลี่ยนไป เพราะพ่อแม่บางคนกลับมองว่าอุตส่าห์เลี้ยงมาบลาๆ ซึ่งทำเป็นซึ่งทำแบบนี้ไม่ต่างจากการขายลูกสาวกินหรือเห็นเป็นสินค้าเลย
ถ้าต้องกู้หนี้มาเพื่อแต่งงาน อย่าพึ่งแต่งเลยครับ
ชีวิตที่มีหนี้(เสีย)มันไม่มีความสุขหรอกครับ แทนที่จะได้ทำงานสร้างครอบครัวมันจะกลายเป็นทำงานเพื่อใช้หนี้แทน
เอาจริงนะ ส่วนตัวก็เป็นผญ.คนนึง ถ้าถึงวันที่ต้องแต่งงานจริงๆคงไม่เรียกสินสอดหรอก ถ้าพ่อแม่เรียกก็คงห้าม เพราะสุดท้ายถ้ามีสินสอดก็ไม่ต่างกับซื้อตัวเราจริงๆ
คือเรามองว่าเราไม่ใช่สิ่งของหรืออะไรก็ตามที่จะมาซื้อขายได้อะ
นั้นแหละ ท้ายสุด เงินที่ผช.หามาตลอดในช่วงเวลาที่คบกันก่อนแต่ง บางส่วนของเงินก็เขาก็คงอยู่ในตัวเรานี่แหละ(แบบเวลาเลี้ยงข้าวงี้55555666) เท่านี้ก็คงจะพอแสดงให้เห็นละว่าเขาเลี้ยงเราได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องเลี้ยงดูได้/ไม่ได้แล้วจริงๆ6555
เงินสำรองในอนาคต
ขออนุญาตพูดในมุมกฎหมายนะครับ
ของหมั้น = คือทรัพย์สินที่”ฝ่ายชาย”(ชายคู่หมั้น บิดามารกาของชายคู่หมั้น บุคคลผูกระทำการแทนฐานะบิดามาราดาฝ่ายชาย) มอบให้แก่”หญิงคู่หมั้น” เพื่อเป็นการสัญญาว่าจะมีการสมรสกันในอนาคต เมื่อมอบให้แล้ว ทรัพย์สินนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของหญิงคู่หมั้นทันทีถ้าชายคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้น(เช่น ไม่ยอมสมรส) หญิงคู่หมั้นก็ริบของหมั้นนั้นไว้กับตัว กลับกัน ถ้าหญิงคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้น ฝ่ายชายก็เรียกคืนของหมั้นได้
สินสอด = คือทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่บิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครองของหญิงคู่หมั้น(แล้วแต่กรณี) เพื่อเป็นของตอบแทนที่หญิงยอมสมรสด้วย แต่จะมีหรือไม่มีก็ได้
จะเห็นว่า ของหมั้น กับสินสอด จะใช้คนละบริบทกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กฎหมายไม่บังคับ ว่าถ้าจะสมรส ต้องมีการหมั้นก่อน และไม่บังคับว่า ถ้าจะสมรสตัองให้สินสอด เพียงแต่ว่า ในกรณีการหมั้น ถ้าจะให้สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฟ้องร้องได้ ต้องมีการมอบทรัพย์สินซึ่งเป็นของหมั้น ขณะทำการหมั้น ซึ่งกฎหมายพวกนี้มีที่มาจากจารีตประเพณีของไทยโบราณ นำมาเขียนเป็นกฎหมายขึ้นมา
อยู่ที่พ่อแม่ฝ่ายหญิง ถ้าเขารักลูกจะให้คู่บ่าวสาว เป็นเงินตั้งตัวในการสร้างครอบครัว
ส่วนใหญ่น่าจะเป็นงั้นปะ
ตอนผมแต่งไม่มีสินสอดสักบาทครับแค่เอามาวางโชวืไว้เฉยๆ ผู้ใหญ่ทางฝั่งเจ้าสาวยอมรับว่าเราดูแลลูกเขาได้จริงๆผ่านการกระทำ สินสอดไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
คิดถึง ชกบ.มากกกก🌀💙
ผู้ชายก็กินนม55555
กินเยอะด้วยงับ
ค่าตัวยังกับราดาสาวดังๆ
อยากเห็นพี่คอลแลปกับช่องเทพลีลาจังครับ❤
ประเด็นนี้ผมก็คิดมานานละ
คอนเท้นดี
รู้สึกว่าอินเดีย ผู้ชายเขาเป็นฝ่ายเรียกครับ😂
พี่เคเรียกให้ตัวเอง 1 ล้าน สุดจะปัง
แต่ตอนตอบคำถามคือแบบไม่จ่ายเลยนะ
คอนเทนดีมากกก❤
แค่ไฮไลท์ก็ฮาแล้ว5555
ดูคลิปเก่ารอคลิปใหม่ลงยาวๆๆ
เห็นเคพูดอย่างนี้แต่เขาก็พูดตรง ทำไมอาทิตย์ก่อนไม่ลงคลิปครับ รอนาน มาก คำถามนี้น่าจะเอาโด เข้ามาด้วย
ไทบ้านอาร์ต 😅😊
รอดูทุกคลิปครับ😊😊😊
มาแล้วคิดถึงสุดๆๆ❤
AZa l)
คอนเท้นนี้พี่อาร์ตพูดดีแฮะส่วนตัวคิดว่าเป็นค่านิยมสมัยก่อนเดี๋ยวนี้บางบ้านอาจจะยังมีอยู่แต่ก็อาจจะให้เป็นพิธีไม่ได้เก็บไว้หรือบางบ้านไม่เอาเลย ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านจริงๆ ปล.อยากให้พี่ๆระวังคำพูดตอนต้นนิดนึงที่บอกว่าซื้อตัวแม่งหรือผญ.หาเงินสู้ผช.ไม่ได้บางคำอาจจะสื่อไปในทาง patriarchal แต่คอนเท้นดีค่ะติดตามคลิปต่อๆไปนะคะ ✌🏼
55555
ในส่วนที่เราแต่งแล้วสินสอดเราเก็บพร้อมสามีคนละครึ่งใครมีก็หยอดเก็บๆไว้แล้วอยากแต่งตอนไหนก็มาเอาไปแต่งเสร็จก็เอาไปใช้ด้วยกันต่อยอดกันไปนั่รแหละ25555554