11วิธีนี้คือลักษณะคนที่ชีวิตจะเปลี่ยน แม้อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย อุปสรรคความยุ่งยากในชีวิตจะลดน้อยลง
HTML-код
- Опубликовано: 15 окт 2024
- ท่านผู้ฟังสามารถให้การสนับสนุนช่องของเรา เพื่อให้ได้ผลิตเนื้อหาสาระดีๆแบบนี้ต่อไปได้โดยการสมัคสมาชิกของช่องของเรา ที่ปุ่มสมัครข้างปุ่มติดตาม หรือตามลิ้งค์นี้ได้เลย / @อานนท์เล่าเรื่อง
เรื่องเล่าประสบการณ์แปลกๆ เร้นลับน่ากลัว หรือเรื่องของเวรกรรมที่ประสบพบเจอมาด้วยตนเองหรือของคนรอบข้างหรือได้ยินได้ฟังมา มาบรรยายถ่ายทอดให้ได้รับฟังกัน ทั้งเพื่อความบันเทิง และเป็นคติเตือนใจ ให้ผู้คนเกรงกลัวละเว้นจากบาปกรรม ต่อไป ด้วยความเครพอย่างสูงยิ่ง กระผม อานนท์
เครดิต เพลงประกอบ outro : The Evening of Departure โดย Twin Musicom ได้รับอนุญาตภายใต้ ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (creativecommon...)
ศิลปิน: www.twinmusicom...
#อานนท์เล่าเรื่อง #สาระความรู้ #คติธรรมสอนใจ
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#11วิธีเปลี่ยนชีวิตให้เป็นคนเรียบง่ายสบายๆแม้อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย
ในยุคปัจจุบันคงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่อย ากมีชีวิตที่เรียบง่าย เพราะการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของยุคสมัยนี้ทุกสิ่งทุกอย่ างดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เร่งรีบและวุ่นวาย จนในบางครั้งหลายๆ
คนก็ไม่มีเวลาที่จะมองย้อนกลับมาดูตัวเอง และยิ่งเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงอย่ างกรุงเทพฯ ที่แสนจะวุ่นวายแล้วละก็ เรื่องการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ย ากเข้าไปใหญ่
การมีชีวิตที่เรียบง่ายเป็นชีวิตที่ทำให้คุณมีความสุขได้ง่ายๆ เพราะได้ตัดความยุ่งย าก ซับซ้อนที่เกินความพอดีและเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นของชีวิตออกไป แล้วอุปสรรคต่างๆ และความยุ่งย ากในการดำเนินชีวิตก็จะลดน้อยลง ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เรียบง่ายขึ้น กินง่ายขึ้น ทำอะไรก็สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
มีวิธีทำให้ชีวิตเรียบง่ายมานำเสนอ อาจทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขขึ้น มีความหมายต่อการมีชีวิตอยู่มากขึ้น
1.อยู่กับปัจจุบันให้ได้ ชีวิตที่เรียบง่ายจะต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความจริงไม่ยึดถืออดีต
อย่ ากังวลกับอนาคตที่ยังไม่ถึงหรืออดีตที่ผ่านมาแล้วอีกเลย
2.สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่ าเป็นหนี้ อย่ าหลงเชื่อคำโ ฆ ษ ณ าที่ว่าการเป็นหนี้เป็น การมีเ ค ร ดิ ต
บางคนไม่รู้จึงเป็นหนี้บัตรเ ค ร ดิ ต หนี้ผ่อนส่งเครื่อง อุปโภค-บริโภค ค อ น โ ดฯ รถยนต์
และสิ่งต่างๆอีกมากมาย จึงทำให้กลุ้มใจและเป็นทุกข์ทุกเดือน
3.ฝึกสติบ่อยๆ จะทำให้ไม่คิดฟุ้งซ่าน ยอมรับกับความเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ทำให้รู้จักคิดก่อนพูด
คิดก่อนทำ และเลือกคิดที่จะพูดและทำได้อย่ างเหมาะสม
4.ยอมรับตัวเองและคนอื่นได้ตามความเป็นจริง อย่ าคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือคนอื่นในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
เพราะทุกคนต่างมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งสิ้นรวมถึงตัวเราด้วย
5.ลดกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานตัวเองลงบ้าง ไม่มีใครเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ 100% อย่ าตั้งความคาดหวังสูง
เพราะถ้าใครทำอะไรให้ผิดหวังเราจะได้ไม่เสียใจมาก
6.อย่ าตัดสินคนอื่นหรือเหตุการณ์ต่างๆ เร็วนักว่าผิด-ถูก ดี-เ ล ว เพราะบางครั้งข้อมูลที่ได้รับมา
ไม่มากพอและอย่ าเชื่อคนอื่นหรือข่าวลือมากเกินไป
7.มีการยืดหยุ่นกับชีวิต ไม่เอาจริงเอาจังกับข่าวการเมืองหรือแฟชั่น ไม่เสียเวลากับการตามข่าว
แต่งตัว และที่สำคัญหัดพูดและคิดแบบผ่อนคลายกับเหตุการณ์ที่ไม่ชอบหรือไม่คาดคิดทั้งหลาย ว่า
ช่างมัน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ไม่เป็นไร ฯลฯ คำพูดเหล่านี้จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่ างสบายยิ่งขึ้น
8.มองความทุกข์ให้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าเราจะมีสุขหรือทุกข์ เราก็ไม่ได้สุขหรือทุกข์คนเดียว
คนอื่นก็สุขๆทุกข์ๆขึ้นลงบ้างลงบ้างแบบนี้ เช่นเดียวกัน แต่ประเด็นสำคัญคือ
เราไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง ทางที่ดีกว่าคือลุกออกไปหันมองดูโลกภายนอกเสียบ้าง
9.เหลียวมองข้างทางบ้าง ถ้าวันนี้ไม่มีอะไรเร่งด่วนถึงขั้นถ้าไปเลทนิดๆ แล้วดวงดาวจะสะเทือน
เจอดอกไม้งามๆ ลองชะลอรถให้ได้เห็นความงามของดอกไม้ได้ชัดๆ เป็นบุญตาบ้างก็ดี
10.เอ่ยคำขอบคุณจากหัวใจ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนอื่นทำให้ แต่ถ้าพิจารณาดีๆ แล้ว
นี่คือสิ่งยิ่งใหญ่ที่มนุษย์พึงหยิบยื่นให้แก่กัน เช่น ซื้อของจากแม่ค้าแล้วยิ้มให้จากใจสักหนึ่งครั้ง เราก็จะมีความสุขขึ้นอีกระดับนึง
11.หยุดทุกสิ่งรอบตัว แล้วอยู่คนเดียวบ้าง อาจจะเป็นวันหยุดไม่ต้องมีแผนอะไรไม่มีตาราง ไม่แชท
ไม่คุยโทรศัพท์ ไม่สื่อสารกับโลกภายนอกสักวัน หาอะไรทำอย่ างที่อย ากจะทำ จริงๆ
ใช้เวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ซะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องปราศจากสาระ
การทำชีวิตให้เรียบง่ายคล้ายกับการกลับไปใช้ชีวิตในวัยเด็กอีกครั้ง โดยเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ยิ้มง่ายขึ้น
หัวเราะง่ายขึ้น หัวใจเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอก ทำให้ชีวิตมีสมาธิและสติ สามารถลดความเครียดลงได้
การทำชีวิตให้เรียบง่ายนั้น เป็นสิ่งที่ดีและทำให้เรามีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นครับ
#การปล่อยวาง คือคุณสมบัติของผู้ที่แข็งแกร่ง
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ปล่อยวาง” กันมาบ้างแล้ว แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะทำได้
แท้ที่จริงแล้ว การปล่อยวางคืออะไรกันแน่ การปล่อยวางคือการละทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปอยู่คนเดียวในที่ ๆ ไม่มีใครรู้จักใช่ไหม วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักการปล่อยวางที่แท้จริงคืออะไรกันแน่
สิ่งที่ต้องทำให้ได้ หากอยากปล่อยวาง
1. อย่าคิดแก้แค้น
การแก้แค้นที่ดีสุด คือ การทำชีวิตของคุณให้ดี ให้มีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต
หากคุณมัวแต่คิดแก้แค้น วัน ๆ นึง คุณก็จะไม่ได้ทำสิ่งที่ดีเลย เพราะคุณมัวแต่คิดว่า จะทำอย่างไรให้คนที่คุณแค้นไม่มีความสุข
นั่นแสดงว่า คุณไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ดังคำพูดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์และนักปรัชญาชื่อก้องโลก ที่กล่าวไว้ว่า “คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อคุณหมกมุ่นอยู่กับความคิด และความรู้สึกด้านลบ”
2. ปล่อยวางความโกรธ
มีความรักและปรารถนาดีต่อผู้อื่น ความโกรธเป็นอารมณ์ที่แสดงออกมาในทางลบ หากคุณสามารถปล่อยวางความโกรธลงได้ ชีวิตของคุณก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ
ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปโกรธ ความโกรธนั้นจะทำให้คุณมีความร้อนอยู่ภายใน หาความสุขไม่ได้เพราะฉะนั้น เรื่องอะไรเราจะต้องทำให้ตัวเองไม่มีความสุขล่ะ
3. หมั่นสวดมนต์แผ่เมตตา
การสวดมนต์แผ่เมตตานี้ นอกจากได้อานิสงส์แรงกล้าแล้ว ยังทำให้เราเป็นผู้ที่มีจิตใจสูง เป็นผู้ที่มีสติปัญญา อะไรที่เป็นปัญหา เราก็สามารถที่จะแก้ไขได้ในทางที่ถูกที่ควร
4. หาความสุขจากสิ่งรอบตัว
การแสวงหาความสุขนั้น เราไม่จำเป็นจะต้องออกเดินทางไกลไปหาที่ไหน ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้ไกลตัวคุณเลย
หากคุณเปิดใจ ปล่อยวางจากสิ่งที่ยึดถืออยู่ คุณจะพบว่าอะไร ๆ ก็ล้วนเป็นความสุขทั้งนั้น
เช่น การที่คุณได้ทำงานที่คุณรัก การที่คุณได้ดูแลพ่อแม่ การที่คุณได้ไปเที่ยวกับครอบครัว การที่คุณได้ช่วยเหลือผู้อื่นเล็กน้อย ๆ แค่นี้จิตใจของคุณก็จะเบิกบานแล้ว
5. มองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่าเก็บทุกเรื่องในชีวิตมาคิด เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น สมองของคุณก็จะไม่ได้รับการพักผ่อน
ชีวิตเรา ไม่ได้เกิดมาเพื่อแบกรับทุกอย่าง ปล่อยวางบางเรื่องบ้างก็ได้ อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นภาระสมอง
6. เลิกเอาเรื่องของคนอื่นมาคิด และเลิกบงการชีวิตคนอื่น
การคิดแทนคนอื่น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราไม่สามารถคิดแทนใครได้ ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ ต่างที่มา เราไม่สามารถบังคับให้ใครมาทำตามใจเราได้หรอกนะ
“การปล่อยวาง คือ คุณสมบัติของผู้ที่แข็งแกร่ง”
#ในโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่จะสามารถ
ช่วยใครได้ทั้งหมดในโลกได้
ต่อให้เป็นมหาเศรษฐีด้วย
ก็ไม่สามารถช่วยใครได้ทุกคน
เพราะคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
มันมีมากกว่า ..คนที่ต้องการ "ช่วยเหลือ"
ถามว่าผิดไหม..
ที่มหาเศรษฐีเหล่านั้นจะไม่ช่วย
ตอบเลยว่า ..ไม่ผิด
เพราะมันเป็นเงินเป็นทองของเขาที่เขาหามาเอง
ถามว่าผิดไหม..
ที่มหาเศรษฐีเหล่านั้น
จะช่วยเท่าที่เขาจะช่วยได้
ตอบเลยว่า..ไม่ผิด
เพราะเขารู้ดีว่าเขามีศักยภาพแค่ไหน
ไม่ใช่..ช่วยจนตัวเองต้องเดือดร้อน
ไม่ใช่..ช่วยจนครอบครัวต้องเดือดร้อน
#เขาก็มีภาระไม่ต่างจากเรา
แม้แต่พระพุทธองค์
พระองค์ก็ยังเลือกที่จะช่วยคนเลย
คนไหนบารมีถึง บารมีเต็ม
พระองค์ก็เสด็จไปโปรด ไปแสดงธรรม
คนไหนที่พระองค์ช่วยไม่ได้
พระองค์ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม
ที่แต่ละคนนั้นทำมา
แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง
คนเหล่านั้นเสียทีเดียว
อยู่ที่ว่าใครจะรับหรือไม่รับเท่านั้นเอง
พระองค์จึงตรัสสอน
ให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า
อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง..
แล้วลองมองย้อนกลับมาดูตัวเองนะ
ก่อนที่หลายๆท่าน
จะเจอเหตุการณ์แบบนี้
เราได้ "เคย" ช่วยอะไรใครไว้บ้างไหม
เราเคยให้ทานบ้างไหม
เราเคยแบ่งปันให้แก่คนที่ลำบากกว่าเราบ้างไหม
เราเคยช่วยเหลือสังคมบ้างไหม
ถ้าเราเคยช่วยไว้
ถึงเวลาเขาก็จะมาช่วยเราเอง
แต่ถ้าเราไม่เคยช่วยใครไว้เลย
ก็อย่าไปต่อว่าที่เขาไม่ได้ช่วยเราเลย
คุณแจ้งว่าคุณมีลูกต้องเลี้ยงดู
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
คุณไม่ได้เลี้ยงลูกเพียงคนเดียวในโลก
คุณแจ้งว่าคุณตกงาน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
คุณไม่ได้ตกงานเพียงคนเดียวในโลก
คุณเจ้งว่าคุณต้องเลี้ยงพ่อแม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
คุณก็ไม่ได้เลี้ยงพ่อแม่เพียงคนเดียวในโลกเช่นกัน
#ทุกคนมีเหตุผลของตนเองหมด
#แต่มันก็ไม่ใช่แต่คุณที่ลำบากเพียงคนเดียวในโลก
จงเอาความทุกข์
จงเอาความลำบาก
จงเอาความหิว
ตอนนี้เก็บไว้เป็นประสบการณ์ชีวิตนะ
ถ้าในอนาคตมันเกิดขึ้นอีก
เราจะได้มีภูมิคุ้มกันตัวเองและครอบครัวเรา
หลายคนรอคอยความหวัง
และพยายามหาว่า..
วันนี้จะมีใครแจกอะไรที่ไหน
บางคนก็ใช้เวลาทั้งวันเฝ้าหน้าเฟซ
รอคอยการแจกเงินลมๆแล้งๆ
ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วแต่โชคชะตา
จนลืมคิดว่า..
เวลาที่เราเสียไปตรงนั้น
ถ้าเรา "เริ่ม" ที่จะลงมือ "ทำ" !! อะไรสักอย่าง
ทำตามความสามารถของเรา
ทำตามกำลังของเราที่เรามี
ใครจะไปรู้..
เราอาจจะพลิกวิกฤตนี้
ให้เป็น "โอกาส" ขึ้นมาก็ได้ !!
อย่าเอาความลำบาก
มาเป็นข้ออ้างในการดำเนินชีวิต
เพราะเราไม่ได้ลำบากแค่คนเดียวในโลกนี้
และให้ลองถามตัวเองดูว่า
ถ้าเรามีแบบเขา
เราจะยอมช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากกว่าไหม
เราจะยอมเสียเวลามานั่งแพคของ
ส่งไปให้คนที่เราไม่เคยรู้จักกันไหม
เราจะยอมตื่นเช้า
เพื่อมาทำกับข้าวให้คนที่เราไม่รู้จักกันไหม
และเราจะยอมยืนตากแดด
เพื่อคอยแจกของแจกอาหารให้คนที่เราไม่รู้จักกันไหม
#ถามใจเธอดู
ตอนนี้หลายคนๆพยายามช่วยอยู่
แต่ท่านก็อย่าลืม #ช่วยตัวเองด้วยล่ะ !!
#ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะครับ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
สวัสดีค่ะ จะพยายาม ทำให้ตนเองดีขึ้น แล้วจะทำตาม ที่อ่านจบ ฟังจนจบค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณค่ะในคำสอน จริงทุกข้อที่กล่าวมาค่ะ❤❤❤❤❤
สาธุๆๆค่ะ
กราบสาธุๆๆๆค่ะท่านอานนท์
กราบสาธุๆๆค่า🥰🥰🥰🥰♥️👍👍
สาธุสาธุค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์
ขอบคุณกับข้อคิดดีๆ ที่ใช้กับชีวิตได้จริงๆ ค่ะ❤❤❤
มีบุญบารมีมาก
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
🙏สวัสดีค่ะคุณอานนท์เล่าเรื่อง
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญด้วยคะ สาธุค่ะ
ขอน้อมรับคำแนะนำที่ดี ไปใช้ในชีวิตค่ะ สาธุๆๆ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณอานนท์ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อคิดข้อธรรมประจำใจมีสุขต่อจิตใจเหลือเกินค่ะ🙏สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
..✊..🌬..🎉.."🌍"🌈🌟ขอน้อม🙇♀️กราบนมัสการ🙏🙏🙏สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🧎♀️ *ปล.🙇♀️🙏ขอบคุณมากๆๆๆๆนะคะ👻⚰✌..🖐..
สาธุค่ะ🙏🙏🙏🙏
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับ❤❤❤❤คุณอานนท์