คุยเรื่องไทย | มหาวิทยาลัยกำลังจะเจ๊ง? อยู่ไม่ได้ถ้าไม่ปรับตัวให้ทัน
HTML-код
- Опубликовано: 15 ноя 2023
- คุยเรื่องไทย EP9 | ชำแหละปัญหาของมหาวิทยาลัย ที่เสี่ยงจะต้องปิดกิจการ เพราะโลกเปลี่ยนและลูกค้าลดจำนวน โดย "ดร. ชุมพล พรประภา" นักการศึกษาตัวจริง
.
#ไทยคำจีนคำ #AWAKE #มหาวิทยาลัย #เทคโนโลยี #การศึกษา #ดรชุมพล #พรประภา
จุฬาทำแล้ว เรียนออนไลน์ได้ทุกวิชาทุกคณะ แต่ถ้าจะจบ+ได้ใบประกาศ ต้องไปสอบละจ่ายค่าหน่วยกิจ
การปรับตัวอันดับแรก คนสอนจะต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญในสิ่งที่จะสอนก่อนซึ่งจะได้จากการลงมือปฎิบัติหรือทำวิจัยโดยเฉพาะสาย STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ไม่ใช่ไปจำมาจาก textbook ต่างประเทศอย่างเดียว
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
-------------------------------------
ควรปรับหลักสูตร บางวิชาพวกวิชาศึกษาทั่วไปจะให้เรียนไปทำไมมากมาย เกือบ 1/4 ของหน่วยกิตทั้งหมด (บางที่เยอะถึง 1/3) พอสอบเสร็จก็ลืมหมด เป็นวิชาที่ส่วนใหญ่เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย บางวิชามีแค่ทฤษฎีต่างๆเน้นท่องจำล้วนๆ ถ้าลดวิชาพวกนี้ลงไปได้ ก็ลดเวลาในการเรียนลงไปได้ 1 ปีเต็มๆเลย จากหลักสูตร 4 ปี เหลือแค่ 3 ปี บางคนอาจแค่ 2 ปีครึ่ง
หากมหาวิทยาลัยไม่อยากลดวิชาพวกนี้เพราะถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของมหาลัยที่ลงทุนน้อยกว่าวิชาเฉพาะในสาขาวิชาต่างๆ ก็ควรปรับให้เด็กสามารถเก็บหน่วยกิตพวกนี้ได้ตั้งแต่เรียนมัธยมฯ มหาวิทยาลัยต่างๆ ไปตกลงกันว่าควรเปิดวิชาใดบ้าง เปิดเฉพาะวิชาทั่วไปที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตปรจำวันได้จริงๆ และหน่วยกิตที่เด็กเรียนเก็บสะสมมาได้ควรโอนหน่วยกิตไปยังระดับมหาวิทยาลัยได้ทุกที่ไม่ว่าจะรัฐหรือเอกชน ถ้าจะให้ดีควรบรรจุให้วิชาเหล่านี้บรรจุอยู่ในหน่วยกิตระดับมัธยมด้วย ถือเป็นวิชาเลือกอิสระ เพื่อลดภาระการเรียนของเด็ก วิชาไหนของระดับมัธยมที่ไม่ได้เป็นวิชาแกนหลักก็ปรับให้เป็นวิชาเลือกที่โอนหน่วยกิตไปยังระดับมหาวิทยาลัยได้
ใช่ เยอะ และเสียเวลาด้วย ใช้ประโยชน์น้อยมาก บางวิชา
ควรมีวิชา การลงทุนและภาษี เพิ่มเติมครับ
เน้นวิชาที่ไปใช้งานครับ เหลือเรียน ป ตรี แค่ 2ปี พอครับ
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า...วัตถุประสงค์ที่เขาให้เรียนวิชาศึกษาทั่วไปเพราะอะไร
.
วิชาศึกษาทั่วไปเรียนเพื่อ... "เสริมสร้างความเป็นมนุษย์ให้พร้อมสำหรับโลกในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้เป็นบุคคลผู้ใฝ่รู้และมีทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 อย่างครบถ้วน เป็นผู้ตระหนักรู้ถึงการบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ ในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหา เป็นผู้ที่สามารถสร้างโอกาสและคุณค่าให้ตนเองและสังคม รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและของโลก เป็นบุคคลที่ดำรงตนเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีจริยธรรมและยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง รู้คุณค่าและรักษ์ชาติกำเนิด ร่วมมือรวมพลัง เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และเป็นพลเมืองที่มีคุณค่าของสังคม"
.
จากคำอธิบายข้างต้นจะเห็นว่า เนื้อหาของวิชาเหล่านี้ มันไม่ได้มีไว้เพื่อเอาไปใช้เฉพาะทางโดยตรง ดังนั้นคุณจึงคิดว่า "เรียนไปก็ไม่ได้ใช้"
แต่ในความเป็นจริงคือ คุณได้ประโยชน์จากมันโดยไม่รู้ตัว เพราะวิชาเหล่านี้มันมีไว้เพื่อให้คุณปรับตัว อย่างเช่น
1. ฝึกให้เป็นคนตรงต่อเวลา เพราะชีวิตในมหาลัยมันอิสระมาก ไม่มีใครบังคับคุณแล้วว่าต้องนอนตอนไหน ตื่นตอนไหน ต้องไปเรียนไหม ดังนั้นแค่คุณลงทะเบียนเรียน ก็ถือว่าได้ฝึกแล้ว
2. ฝึกการเรียน คุณจะได้รู้ว่ามหาลัยเขาเรียนกันยังไง คุณจะได้มีเวลาเตรียมตัวเองให้พร้อม ก่อนจะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะทางของตัวเอง
3. ฝึกความรับผิดชอบ ฝึกการทำงานร่วมกัน ฝึกการเข้าสังคม และอื่นๆ อีกมากมาย
.
สรุปคือ วิชาศึกษาทั่วไป มีไว้เพื่อให้เด็กปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมให้ตัวเอง กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เป็นปัญหาต่อสังคม
@@spacestory7196 อ้อ วิชาสาขาไม่ได้ฝึกพวกนี้ไปในตัวหรอกรึครับ ข้อ1-3 ที่ว่ามาเนี่ย? ไม่งั้นก็ควรยุบรวมวิชาเหล่านั้นที่แทบไม่ได้ใช้ เอาไปเป็นวิชา orientation ของแต่ละสาขาวิชาไปเลยจะไม่ดีกว่าหรือครับ? แค่ค่าใช้จ่าย/เวลาที่ใช้ไปกับการ(ที่อ้างว่า) เตรียมตัวจำนวน 20-40 หน่วยกิตถือว่าเยอะเกินไปมาก เทียบซะว่าเราใช้เวลาเรียน ป.โท2ปี แต่ป.ตีต้องใช้เวลามากถึง1-1.5ปีเพื่อมาเรียนวิชาเหล่านี้
ปกติวิชาสาขาก็เริ่มจากระดับเริ่มต้นง่ายสุด เนื้อหาไม่ซีเรียสลงลึกอยู่แล้วในช่วงแรกๆ เพื่อให้เด็กได้ปรับตัวอยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าไม่ควรมีวิชาศึกษาทั่วไป แต่จำนวนหน่วยกิตที่บังคับให้เรียนมันเยอะจนเกินไปสำหรับคำว่าให้เด็กปรับตัว ถ้าจะอ้างว่า
การเกิดน้อย จะเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่ใหญ่ธรรมดา แต่ใหญ่มาก
งานบางที่พม่าเยอะกว่าคนไทย. คนไทย คุมลำบาก
เมื่อ 20 ปีที่แล้วสาจาที่ผมเรียน 300 กว่าคนแบ่งเป็น sec และ 300 กว่าคนมาจากการสอบเอนทรานซ์ที่แข่งขันกันสูงมาก แต่ปัจจุบันนี้ต้องโฆษณาให้คนมาเรียน
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
---------------------------------
ถ้าการเกิดน้อยลง ผลกระทบใหญ่หลวงต่อสถาบันการศึกษา
แรงงานต่างชาติก็เกิดเพิ่มครับ คนไทยมีน้อย เดียวลูกหลานคนงานพม่ามันก็ได้สัญชาติไทย แบบ หม่อง ทองดี ก็กลายเป็นคนไทย
คนมีน้อย โรงงานก็ออเดอร์แรงงานพม่า เขมร เข้ามาเติม มันไม่มีปัญหาอะไร
คงเหลือแต่สายการแพทย์ ที่ยังคงมาตรฐานสูง เข้าเรียนยาก เรียนยาก จบยาก และต้องเรียนในมหาวิทยาลัยเท่านั้น คณะเหล่านี้กระมังที่จะช่วยค้ำจุนมหาวิทยาลัย
เป็นที่อัตราการเกิดด้วยครับ เด็ดน้อยลง ที่นั่งในมหาลัยจะว่างเยอะมากขึ้น ก็อาจจะต้องปรับลดขนาดที่นั่งลงก็ได้ครับ อีก 20-30 ปี มหาลัยในไทยอาจจะได้เห็นค่าเฉลี่ยนักศึกษา 20-25 คน ต่อคณะก็เป็นได้
ท่านดร. ชุมพร มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าล้ำมากครับ นับถือท่านเลย อยากให้ท่านช่วยผลักดันให้วงการศึกษาของไทย ก้าวนำชาติอื่นๆ ก็คงไม่ต้องไปมองไกล แค่ในเอเชียก่อนครับผม
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
-----------------------------------
Toyota financing bank
ยังไงมหาลัยวิทยาลัยก็ยังจำเป็น เพราะ self oreinted learning เป็น skill ต้องบ่มเพราะฝึกฝน ไม่ใช่ทุกคนจะมีทักษะนี้ และน้อยคนมากที่จะมี discipline เรียนจนจบ ถ้าไม่มีคนคอย coaching
นี่ไง เรียนมหาลัยแล้วเป็นบ้า เกาะศัพท์แสง ภาษาคนมีไม่ใช้
ไทยคำ อังกฤษคำ ก็มา 😂
@@nornor-hg9rmบางบริบทการใช้ภาษาอังกฤษสามารถอธิบายได้ถูกต้องกว่าการใช้คำไทยครับ อ่านไม่ออกเข้าทรานสเลท จบ
เรียนจบ ปี.ตรี ใช้เงิน ไม่ต่ำหว่า แสน
เอาเงินแสนไปเข้าอบรม คอร์สละ หมื่น
เช่น วิชาการเงินการบัญชี วิเคราะห์ตลาด ทำseo การไลฟ์ การตลาดออนไลน์ อื่นๆ มากมาย ชิลๆ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องเสียเวลา 4 ปี ได้คอนเนคชั่นคนที่ทำงานจริงๆ ด้วย
หลายๆวิชา 3หน่วยกิต 5พันกว่าบาท เรียนเป็นเทอมๆ เทียบเท่าดูRUclips 3 ชั่วโมง คุ้มไหมล่ะ
อยากให้วิขาที่เปิดสอน เป็นวิชาที่นำไปใช้ทำงานได้จริง เป็นวิชาที่ตลาดต้องการ
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
----------------------------------
มันจะใช้ได้ ใช้ไม่ได้ ก็อยู่ที่คนรึเปล่าครับ ที่จะนำไปประยุกต์ครับ
มหาลัยควรที่จะสอนสิ่งที่ต้องใช้ในการทำงานได้จริงค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นExcelหรือเรื่องภาษี เราไม่เห็นว่า จะมีมหาลัยไหนสอนเลย ทั้งที่เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงาน
สอนตั้งแต่ม.ต้นค่ะ
@@kanokpornitti5328ม.ต้นบางที่ยังไม่มีคอมให้ใช้เลย
ที่ไม่สอนเพราะว่าไม่อยากให้รู้เยอะ แล้ว หลีกเลี่ยง ลดหย่อน
@@kanokpornitti5328ร.รเก่า สอนแบบผ่านๆไม่ใส่ใจมาก บางทีมันต้องใช้เวลาสักหน่อย สอนไม่กี่คาบ แบบนี้เด็กที่ไหนมันจะไปเก่งได้?
มหาวิทยาลัยเราสอนนะ อบรมฟรี ให้นักศึกษาหรือหาหนังสืออ่านเองมีขายตามร้าน คลิปยูทูปสอนมีเยอะ สมัยนี้จะรอมหาวิทยาลัยมาป้อนตลอดไม่ได้อ่ะ ต้องรู้จักหาความรู้เอง
วิชาภาษีก็มี แต่ต้องเป็นพวกคณะสายบริหาร บัญชี เค้าลงเป็นวิชาบังคับ มันคงไม่มีเรียนหรอกเรียนภาษีถ้าเรียนสายแพทย์ วิศวะ ภาษา
ผมเคยได้ยินเชื่อท่านเมื่อปี 2520 lสมัยผมเรียนอยู่ TU นับถือท่านเป็นคนเก่ง ท่านเคยรับเชิญมาช่วยสอนด้วย วันนี้รู้สึกยินดี ที่ได้มาชมคลิปนี้ ได้เขอท่านอีกครั้ง ขอบคุณที่เสียสละดูแลสังคมครับผม
หายากนะคะ อาวุโส แต่คิดทันโลกสุดๆ ❤❤❤
คนแก่ที่ทำงานนอกบ้าน ทำงานเรียนรู้ตลอดเวลา กับคนแก่ที่ไม่ทำงานนะค่ะ มันก็คิดต่างกันอยู่แล้ว
ขอบคุณมาก ครับ ทั้ง 2 ท่าน
คนไทยเปลี่ยนแปลงในเรื่อง
ความรู้ต่างไปมากแล้ว และยัง
เป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศชาติอีกด้วย แต่หลายอย่างยังตามไม่
ทันผู้คน ระบบปกครอง
ระบบบริหารทรัพยากรต่างๆ
เรียนได้แต่คิดต่างปฏิบัติต่าง
เพื่อสิ่งที่ดีกว่าไม่ได้
สิ่งเหล่านี้ ยังเป็นนิยาม
มาจนถึงทุกวันนี้
ข้อพิสูจน์ ดูที่โครงการของรัฐ
ยังไม่เห็น โครงการใดนำหน้า
อริยะ ประเทศเลย
โครงการอะไรที่เกี่ยวกับประเทศโดยตรงยังไม่มีการ
ยอมรับในรัฐไทยเลย
💐🤍😇
จบมานาน 20 ปีแล้ว ไม่รู้ปัจจุบันเป็นยังไง แต่จากประสบการณ์ที่ต้องสอนงานน้องในทีมพบว่าคนรุ่นใหม่มองภาพรวมไม่เป็น คิดภาพใหญ่ในการทำงาน การเกี่ยวเนื่อง ผลกระทบ และเหตุและผลไม่ออก ส่วนใหญจะมองแค่ด้านเดียว เหมือนจะคิดเป็นระบบ มีตรรกะ แต่ไม่ใช่ ไม่สามารถพลิกแพลงได้ เหมือนโดนสอนมา 1,2,3 ก็จะทำแต่แบบนั้น ทำไมการศึกษาถึงเหมือนถอยหลัง ทั้งที่ค่าเทอมและข้อสอบปัจจุบันยากกว่าสมัยก่อนมาก
ส่วนใหญ่เน้นแค่รู้และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ไม่เน้นความเข้าใจและการพัฒนาทักษะเพราะมันเห็นผลช้า เป็นไปตามยุคสมัย บางครั้งก็เห็นใจ บางครั้งก็ละเหี่ยใจ
ถูกค่ะ แล้ว บ เอาเด็กรุ่นใหม่มาเป็นHRด้วย มันมากมึง
เราอยู่ในนะบบองค์กรณ์เอกชน จากต่างประเทศ เน้นเพิ่มความรู้ในคนในองค์กร อบรม ประชุม หาแนวทางการแก้ไขปัญหา พัฒนาหัวหน้างาน เพื่อนำไปสอนงานน้องใหม่ รู้เลยว่าแตกต่างจากหน่วยงานของไทยที่บอกให้ทำ1 ได้แค่นั้น ไม่สามารถคิดต่อ2,3,4 ได้
ยังดีที่เราปรับตัวตามธุรกิจแบบนี้ได้ เพราะการศึกษาที่ผ่านมาไม่ได้สอนให้คิดวิเคราะห์ สอนแต่ท่องจำ
การเรียนแบบเน้นท่องจำก็แบบนี้ละครับ การศึกษาไทยไม่เคยสอนให้คิดนอกกรอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว คำถามที่มีคำตอบตายตัว ตอบไม่ตรงคือผิด
เพราะในมหาลัย เน้นให้ทำข้อสอบผ่านคะแนนต้องถึงเกณ เด็กเลยโฟกัสว่าจะต้องสอบให้ผ่านจะได้เรียนจบ แต่ในชีวิตจริงหรือการทำธุรกิจมันต้องมีไอเดียว ประสบการณ์ คิดวิเคราะห์ในแหล่ๆ แง่มุม ซึ่งมหาลัยมันไม่ได้สอนไงคะ คนถึงตกงานกันเยอะเลย
เรียนจบ มหาลัย ได้แค่ กระดาษ 1 ใบ เอาไว้สมัครงาน แค่นั่น นอกนั้นความรู้เอามาใช้งานไม่ได้
มีเฉพาะบางสาขา ที่ต้องเรียน เฉพาะ ที่ได้เอามาใช้งานจริง เช่น แพทย์ พยาบาล และบางสาขาที่จบมาแล้วได้ใช้งานจริง
ที่เหลือเอาลงถังขยะหมด
❤ เข้ามาฟังดร.ทุกคลิปจ้า
จริงครับ ทุกวันนี้ เราเรียนรู้ จากภายนอก ออนไลน์ได้หมด มหาวิทยาลัยแค่ใบเบิกทาง
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเอาขึ้นเงินเดือนตัวเองสูง ๆ แต่สวัสดิการให้นศ มีน้อย หอพักไม่พอ นศ ตะเกียกตะกายไปมหาวิทยาลัยสาย เครื่องมือการเรียน อุปกรณ์การเรียนไม่พอ เช่น เครื่องมือในห้องแลบวิทยาศาสตร์น้อย
ผมชอบคำพูดที่ท่านพูด ให้สังคมคนแก่ๆ ได้รู้ เพราะที่ท่านพูด มันเป็นความจริง 100% แต่ผมก็ยังเฝ้ารอ เพื่อความหวัง ว่ารัฐบาล จะทำให้คนแก่ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น ฟ้าที่เป็นอยู่ ถึงรุ่นผมจะไม่ได้ ขอให้รุ่นหลังๆ ได้อยู่กันอย่างมีคุณภาพ ขอขอบคุณ ท่านที่ช่วยชี้แจง ให้ได้รู้ กัน
ผมอยากเรียนสายวิทย์ใหม่พอดี555 จบปริญญาแล้วแต่เจะย้อนไปปลียนสายเรียนหลักสูตรมัธยมตอนนี้ทันมั้ยครับ
เพื่ออะไรครับ
อยากเรียนอะไรไปเรียนเลยครับ ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งจบเร็ว
อยากทำอะไร คาใจอะไร ทำไปเลยค่ะ จะรออะไร ❤
ศึกษาเรียนรู้ในคอร์สออนไลน์ไม่ก็หาติวเตอร์ยังจะดีกว่ากลับไปเรียนใหม่นะ
มีแต่สาขาทางสังคมศาสตร์เท่านั้นแหละที่สามารถเรียนออนไลน์ได้ สาขาที่ต้องฝึกปฏิบัติยังไงมหาวิทยาลัยยังจำเป็น เรียนออนไลน์ได้แค่ภาคทฤษฎีเท่านั้นเอง การปรับแต่งหลักสูตรด้วยตนเอง วิชาเอก โท ในอดีตน่าจะเอากลับมาใช้เหมือนเดิม
ต่างประเทศแคลคูลัสเขาเรียนเฉพาะคนที่เรียนวิศวะเท่านั้น แต่ผมสรับสนุนให้มีการเรียน กาคำนวนภาษาีรายปีในหลักสูตร และวิชาธรรรมะโดยไม่มีทฟษฎีเน้นปฏบัติได้เลย ไม่ต้องท่องจำ กานั่งสมาธิ
อยากให้บ้านเรา... โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลมีบุคลากรที่มีความคิดที่เจริญก้าวหน้าอย่างท่านเยอะๆ... ทำไมผู้บริหารประเทศและองคาพยพถึงได้วนเวียนอยู่แต่คนเดิมๆวิธีคิดแบบเดิม... สงสารประเทศไทยจัง😢
04:00 เด็กเกิดน้อยลง สมมติ"ปีนี้" หายไป 7แสนคน..อีก 3 - 5 ปี โรงเรียนอนุบาลจึงรับรู้.. อีก 11 - 12 ปี รร.มัธยมต้นจึงรับรู้.. รร.ม.ปลายจะรับรุ้ได้ต้อง อีก 14 -15 ปี.. ระดับมหา'ลัยจะรับรู้(ว่าเด็กหายไป 7 แสนคน) ต้องใช้เวลา 18 ปีข้างหน้า (กรุณาอย่าพูดเกิรเลยนัก).. ถ้าเด็กลดลงมาหลายปีแล้ว อาจพูดได้ว่า เมื่อ 4 - 5 ปีก่อน รร.อนุบาลหลายแแ่งปิดตัว.. 6 - 7 ปีก่อน รร.ประถมเริ่มปิดตัวฯลฯ เมื่อเด็กหายไป(เกิดน้อย)ลง แสนคนทุกสองปี.. .ถ้าถึงวันนี้ 6แสนคนที่ลดลงคือเป็นเวลา 12 ปีมาแล้ว(ประมาณ) และอีก 3 - 5 ปีจะกระทบถึงระดับอุดมศึกษา อย่างแน่นอน.(?!?) จึงพอเป็นไปได้(คาดการ)?
จริงค่ะ คนไทยเกิดน้อย คิดให้ไกลมันคือปัญหาความมั่นคงระดับชาติเลยค่ะ
บุคคลทั่วไปที่อยากจบปริญญาตรี, โท, เอก มีเยอะนะ แต่มหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสมีไม่มาก บ้างก็ติดเงื่อนไขต่างๆ ถ้าเปิดกว้างเหมือนที่ USA คงจะดีมากๆครับ 😊 คนไทยควรมีปริญญากันทุกคนนะครับถ้ารัฐบาลสนับสนุนการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญของชาติที่พัฒนาแล้ว เป็นต้นทุนที่สำคัญของทุกๆคน ภาคแรงงานเยอะอาชญากรรมก็เยอะตามไปด้วย คนมักใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้สมอง 🤔
เราคิดว่าเด็กล้ามาตั้งแต่การศึกษาภาคบังคับ-พื้นฐานแล้วอะ สมัยนี้เด็กๆเรียนกันยากมากๆ ยากแบบไม่มีประโยชน์ในชีวิจประจำวันด้วย ปกติเด็กก็น้อยอยู่แล้ว แต่ระบบการศึกษายังทำให้เด็กรส.อยากออกจากระบบการศึกษาให้เร็วขึ้นอีก รู้จักตัวเองน้อยลง ไม่รู้ว่าชอบอะไร ถนัดอะไร
คือปัญหาการเกิดนี่เป็นปัญหาระดับชาติ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อผมบอกลูกผมอยู่ตลอดว่าอยากเกิดมาลูกแ***เกิดมาหรือทุกข์ลำบาก ในเมื่อคนในชาตินี้จะไม่มีกินแล้วจะให้เกิดมา ทำงานแทบตายเงินเดือนได้กี่บาท ต่อให้ผมได้เงินเดือนเยอะกว่าชาวบ้านเขานะเนี่ยทุกวันนี้ผมได้เงินเดือนเยอะจริง แต่ผมก็จ่ายเยอะนะ ต่อให้ผมมีของแบรนด์เนมใช้แล้วไงอ่ะ ลูกผมจะต้องมาเจอสภาพแวดล้อมที่คนอื่นเป็นทุกข์ ต้องมาเป็นเพื่อนลูกผมในอนาคตอานิสงส์นะสมมุติ แล้วไงลูกผมจะอยู่ยังไง สังคมผู้ดีด้วยสังคม บ้าบอด้วย ก็เห็นข่าวอยู่ทุกวันนี้จะให้บอกยังไง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ไงก็เลยอย่าเพิ่งเกิดมาเลยลูกรอให้ชาติมัน พัฒนาดีกว่านี้ทางด้านจิตใจทั้งด้าน สภาพแวดล้อมก่อน
วิสัยทัศน์ถูกต้องมาก มันไม่ใช่อยากได้งานนี้ต้องมีวุฒิปริญญานี้ มันต้องเรียนออนไลน์ซัก4-5คอร์สนี้แล้วมีcerไปยื่นสมัครงานแทน
อยากให้จบมาแล้วใช้ได้จริง เน้นคนทั่วไปและผู้ประกอบการไปเรียน เพื่อไอเดียใหม่ๆ ผมอยากแนะนำเด็กรุ่นใหม่นะ อยากให้ลองทำงานก่อนล่ะค่อยเรียนมหาลัย
ที่ออสเตรเลียต้องมานั่งเรียนคอร์สเพิ่มตลอดชีวิตจริง ๆ
มาทำพนักงานเสิร์ฟ ทำร้านอาหาร = food safety
อยากไปทำ admin = เรียน business amin อีก
ทำงานร้านเสิร์ฟ alcohol ทำงานผับมีตู้การพนัน = เรียนใบ RSA RCG
งานบางอย่างมีใบแล้วก็ต้องรักษาใบด้วยการลงเรียนเพิ่มทุกปีแบบพวกล่ามพวก real estate
มีให้เรียนไปเรื่อย ๆ ฮะเพราะรัฐบาลบังคับแบบนี้ คนเรียนก็ goodbye money คิดซะว่าเป็นการลงทุน
โลกเปลี่ยนมาก ยังใช้วิธีการสอนเก่าๆ ความรู้ในยูทูบมีสอนทุกอย่างตอบได้ทุกอย่าง
ถูกต้องที่สุด
เอาจริงๆ ความรู้ระดับสูง ๆ ที่ยูทูปสอน ก็เอาความรู้มาจากมหาวิทยาลัยนะครับ ที่ไม่ใช่ชีวิตประจำวัน
@@hojihoji9517 เขาน่าจะหมายถึงยูทูปเข้าถึงง่าย ไม่ต้องเข้ามหาลัยนะครับ ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าคนสอน ค่าน้ำไฟตึก เสียแค่ไวไฟ แต่ข้อเสียยูทูปมีทั้งข้อมูลดี และข้อมูลมั่ว ที่ต้องเลือกเอง
ถูกต้องค่ะ เช่นที่ Cambridge uni เค้าก็จะมีprograms ระยะสั้น สามารถสมัครเรียนได้ทางไกล
ใบประกาศก็คือสินค้าของสถาบัน ใช้เป็น"ใบเบิกทางกับกลุ่มทีสนใจอดีตที่ผ่านมาแล้ว"ได้ระดับหนึ่ง
ธรรมชาติและมนุษย์สร้างระบบอัตโนมัติะหื่อทุกคน
การศึกษา จะให้แนวคิดอย่างไร
1.เรียนเพื่อสร้างระบบสินค้าและบริการให้ฟรั
2.เรียนเพื่อสร้างระบบสินค้าและบริการให้ขาย
3.เรียนเพื่อสร้างระบบอัฐยายซื้อขนมยาย(สินค่ามีมูลค่าแรงงานมีมูลค่า+ทุนกำไรสวัสดิการ)
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
-------------------------------
เรื่องนี้พูดกันยาว แต่ถ้าให้สรุปสั้นๆ คือส่วนตัวมองว่ามหาลัยยังจำเป็นอยู่ เพราะสิ่งที่ได้จากมหาลัยมันมากกว่าแค่ความรู้ มันได้ทั้งเพื่อน คนรู้จัก ประสบการณ์ต่างๆ อีกร้อยแปด ถ้าบอกว่าไปเรียนมหาเลยแล้วไม่ได้อะไรเลยอย่างน้อยที่ว่ามานี้ แสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่มหาลัยละ
คนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ ความคิดความอ่านบางคนล้ำหน้ามาก ความคิดสร้างสรรค์ก็ดี แถมสมัยนี้อาชีพแปลกใหม่ก็เริ่มเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ อาชีพที่ใช้แรงงานจริงๆก็ใกล้จะถูกแทนที่ด้วยจักรกลไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว
เรียน มสธ.ค่ะ มหาลัยแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนด้วยตนเองเป็นหลัก
ปวช.ปวส.ทีต้องไปฝึกงาน กระทรวงศึกษาธิการ+กระทรวงอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกัน บังคับให้โรงงาน หรือสถานบริการต่างไปให้รับเด็กนักศึกษาฝึกงาน ด้วย เพราะหลังการโควิดหาที่ฝึกงานยาก เพราะโรงงานไม่รับ
อยากให้เปิดวิชาชีพระยะสั้น อาจจะครึ่งปี หรือปีนึงก้ได้ ที่สามารถนำไปใช้ได้เลย ไม่จำกัดอายุผู้เรียน
จริง
การขยายโอกาสทางเลือกทางการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีสูง แต่ ประชากรในวัยศึกษา วัยเรียน มีน้อยลง เนื่องมาจากประชากร การเกิดลดลง 1 ครอบครัวมีลูก 1-2 คน ส่วนใหญ่ มหาวิทยาลัยมีภาครัฐบาลและเอกชนมากมายให้เลือก ถ้าเรียนเก่ง มีเงินจ่ายค่าเทอม การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยประเทศไทย ใช้ระบบสอบคัดเลือกมหาวิทยาลัยเอกชน ระบบเก็บคะแนนสะสม ต้องมีการวางแผนชีวิตด้านการศึกษา ตั้งแต่ ม.4 การเรียนระดับมหาวิทยาลัย ความพยายามด้านการเรียนพยายามให้ได้เกรดเฉลี่ยสะสม 2.00ตั้งแต่ปี 1.... คำนึงต้องระวัง!!!! "รีไทร์" ถ้า4 ปีจบ ถือคือความภาคภูมิใจ
นอกจาก มหาลัยแล้ว ผู้นำประเทศต้องเข้ามา โฟกัส ในการพัฒนา มหาลัยด้วย 20 ปีที่แล้ว ในมหาลัย หลายๆ แห่ง มีรถไฟฟ้า ที่้เป็นงาน โปรเจคของนักศึกษาวิ่งอยู่ รอบ มหาลัย หลายสิบคุน แต่น่าเสียดายที่ ไม่สามารถนำไปพัฒนา ต่อยอด เป็น commercial ได้
ทุกวันนี้ อย่างที่เราเห็น เราเรียนแล้ว ส่วนใหญ่ เป็นได้แค่ user น้อยมากที่จะเป็น creater
จอม.6 พอละค่ะเวลา4ปีในรั้วป.ตรีคือไม่ช่วยรัยจบมาเสื่ยงตกงานอายุ18เตรียมทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ต่อไปAiช่วยได้เยอะค่ะมหาลัยร้างก็คือเจ้าของคนเดียวเดือดร้อนปชช.ส่วนมากก็ไม่ได้เดือดร้อนรัยดีอีกที่ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงลุกอีก4ปีค่ะ
การเรียน
การ สอน
ควร เรียน
เป็น ภาษาอังกฤษ
ทุกวิชา
ยกเว้น วิชา ภาษาไทย
แนวคิดผม ครับ
เจ๊งๆ ไปเถอะ มีแต่หลักสูตร ที่เรียนประดับความรู้ เอาไปทำมาหากินไม่ได้
โรงเรียนด้วย ระดับประถม มัธยม หลักสูตรยังเหมือนเมื่อ 40 ปีก่อน ทำไมต้องเรียนอะไรที่ยังล้าหลังอยู่ ไม่ปรับเรียนตามโลกสมัยใหม่
ดิฉันอายุมากแล้ว มีโอกาสได้เข้าไปเรียนปริญญาเอกที่นิเทศ จุฬา คิดว่าเนื้อหาสาระยังคุ้มค่าการได้สอบผ่านคัดเลือกเข้าไปเรียน แต่สังคมโดยรวมดิฉันไม่นิยม ไม่ใช่เพราะอายุต่างจากรุ่นที่เรียนร่วมกัน ไม่มีปัญหา ปรับได้สบายมาก แต่การที่สังคมให้ความสำคัญเรื่องเพศที่นอกเหนือหญิงแท้ชายจริง เป็นสิ่งลำบากใจ ทั้งที่ไม่รังเกียจใดๆ แต่ต้องยอมรับว่าไม่สนใจมาก่อน จึงไม่สนใจตอนได้เข้าไปเรียน เล่าแค่เป็นเรื่องที่ควรพิจารณา การศึกษาไม่อาจมองแค่องค์ความรู้ แต่สังคมที่ได้ประสบมีค่าหรือไม่ เป็นส่วนหนึ่งที่เลือกเรียนระบบนี้ มากกว่าเรียนทางออนไลน์ค่ะ
เก็บภาษีเยอะเกิน เลือกตั้งคราวหน้าคงไม่เลือกแล้วพรรคนี้
-----------------------------
งานพระอรหันต์ ..เหลือการเรียนศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด
คนจนขี้เกียจเรียนรู้
การได้ตน คือ ได้สมบัติทั้งปวง พุทธภาษิต
10 กว่าปีแล้วคาะ ที่ได้ยินปัญหานี้ ทางออกก็ค้อ สนับสนุนให้เยาวชน ้ป็นผู้ประกอบการตั้งแต่วัยรุานทแนวอาชีวะนี่ะอค่ะ ปรับ เนิม เสริมแต่ง สนัยสนุนทุกภาคส่วนให้เด็กเก่ง เสียดานเนอะ เ ้กิดช้าไป
ถูกต้องนะครับ สถาบันการศึกษาไม่ได้สอนให้ผู้เรียนเลือกว่าจะจบออกมาเป็นผู้ประกอบการ ตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่ หรือจบออกมาเป็นลูกจ้างเขา เหมือนจะมีแต่คำสอนว่าจบออกมาจะได้มีงานทำดีๆ หรือถ้าจะให้บอกตรงๆคือ จบออกมาเป็นลูกจ้างเขา สาขาที่เปิดสอนไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้เรียนอยากเรียน ค่าใช้จ่ายเยอะมาก บางวิชาจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์ ให้นักศึกษาคิดเองเรื่องรายงานหรือวิจัย แต่ถามหาบรรณานุกรม คิดเองแล้วจะเอาบรรณานุกรมมาจากไหน 😂😂😂 ยึดติด ไม่ยืดหยุ่น ผู้เรียนบางส่วนเลยเบื่อ
ควรเจ๊งให้หมด มหาลัยมันแค่มีไว้สร้างชนชั้น ผมเรียนอาชีวะ ดูถูกกันชิปหายเลย เด็กมหาลัยพอแก่แล้วเป็นบ้าเยอะมาก แต่เด็กอาชีวะรอดทุกสถานการณ์
จริง
ให้เด็กอาชีวะบางส่วนที่ชอบไล่ตีกัน เลิกสร้างภาพลักษณ์เสียๆก่อนดีกว่า ทำตัวเองทั้งนั้น แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่คนทั่วไปจะมองและดูถูกน่ะ
เป็นอีพีที่ดีมากค่ะ
ราชภัฎควรยุบก่อนเลย ไร้ประโยชน์
ปัญหาหลัก“เงิน”ไม่พอใช้ครับ
กว่าจะเรียนจบหมดเป็นล้าน แตตอนทำงานเขาเอาวุฒิ ม.6 ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ เก็บเงินที่จะเรียนเอามาเป็นทุนในกาาประกอบอาชีพก็ทางหนึ่ง..
มัธยมก็น่าจะเจ๊งด้วยอีกราย แบบ เรียนอยู่บ้านก็ได้ มีเวลาส่วนตัวหาความรู้เพิ่มหารายได้เพิ่มหาประสบการณ์นอกห้องเรียนเพิ่ม จาก6ปีก็ลดเหลือ 3-4ปีเอง บางที่น้อยกว่านั้นอีก จบมาเหลือเวลาใช้ชีวิตและประสบการณ์อีกเยอะ เรียนหลายปี ความรู้ก็น้อย+แก่ทิ้งอีก
เป็นเพราะหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ไว้ใจรัฐบาลว่าถ้าลูกของพวกเขาเกิดมาจะลำบากไม๊ เพราะพ่อกับแม่ยังลำบากเลย สงสารลูกที่จะเกิดมาต้องลำบากไปด้วย
เด็กยุคนี้คิดไปถึงอนาคตข้างหน้า ไม่เหมือนคนสมัยก่อนที่น้อยคนนักจะวางแผนไว้ให้ลูก นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ปทท มีเด็กเกิดขึ้นน้อยลงมาก
ต่อไปองค์ความรู้หลักวิชาการจะถูกบรรจุใน AI นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามเลเวลตัวเองได้
ต่อไปอีกไม่นานเราก็สามารถเลือกตัวละคร AI อาจารย์มาสอนตามลักษณะที่เราชอบได้
ถ้าจะเรียนข้างนอกต้องเน้นการมีสังคม ถ้าเรื่องหลักสูตรวิชา ไม่มีทางสู้ AI ได้
ที่บ้านแถวบ้าน.จบปตรีกันแทบทุกคนแต่ก็เห็นขายหวยขายของชำขายก้วยเตี๋ยวขายของตลาดนัด.แทบจะ80%
เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เรียนเท่าที่ใช้ไม่ต้องเยอะแต่ให้นำไปใช้ได้จริง ทำตามคอมเมนต์บริษัทเน้นความคุ้มเป็นหลักคนๆเดียวๆต้องเก่งทุกอย่าง สุดท้ายได้จับฉ่าย ตราบใดที่การเรียนยังเป็นเช่นนี้อยู่ไปไม่รอดหรอก เพราะลงทุนไปไม่คุ้มค่าใช้จ่าย 🤗🤗🤗
ท่านเก่งและฉลาดขนาดนี้ทำไมรัฐบาลไม่ขอความร่วมมือจากท่านไปเป็นที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประเทศชาติหรือว่าเคยมีรัฐบาลมาชวนแต่ท่านไม่เอาด้วยเพราะท่านรู้ว่าการเมืองบ้านเราเป็นยังไงประเทศเราคนมีความรู้ความสามารถเยอะแยะแต่ประเทศกลับพัฒนาได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
มหาวิทยาลัยเจ๊งก็สมควรครับ ไอ้ที่สอนทุกวันนี้เอาไปใช้ทำอาชีพจริงจริงได้ไหม😂😂😂😂😂
ราม กับ มสธ. จะอยู่รอด
ม.แบบเปิดเหมาะสมกับปัจจุบันที่มีสือการเรียนการสอนเยอะ ถ้าปรับหลักสุตรให้ทันสมัยผมว่าอยู่รอด
แต่รามเดี๋ยวนี้ไม่คึกคักเหมือนกาอนแล้วเดิมจำนวนนศเข้าใหม่เป็นแสนเดี๋ยวนี้หลักหมื่น
เงียบจนคิดว่าปิดเทอม
เด็กรามบางวิชาเรียนแบบไฮบริจด์ สามารถเรียนได้ทั้งในห้องบรรยายและ online นักศึกษาบางคนที่ทำงานสามารถดูวีดีโอที่บันทึกไว้ให้ ดูย้อนหลังได้ค่ะ
@@user-pi3ui3yr9rดำเนินชีวิตได้หลากหลายมิติด้วย แบบ อเนกประสงค์ เลย😅
ต่อไปก็"จ่ายครบ จบแน่" ครับ
ซื้อเอาเลยอิอิอิ
เรียนมหาลัยเพื่อเป็นวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ชีวิต อาจารย์ดีศิษย์เก่งขึ้น ถึงการไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ระดับมัธยม เก่งกว่าจบโรงเรียนคริสต์ในไทย ....
การไปเรียน มันคือการปรับตัว การเข้าสังคมด้วยนะ มันคือสังคมนึง อนาคต ถ้าเราดีลกับตัวเองคนเดียวเรียนคนเดียวไม่คุยกับใคร ตอนทำงานทำงานคนเดียวที่บ้าน ดูจะเหงา เงียบ แปลกๆ อยู่นะ
ธุรกิจการศึกษา ค่าเทอม7-8หมื่น เงินเดือนพ่อแม่หมื่นห้า ส่งไหวเอ่อ😢 รายได้ครอบครัวไม่ถึง5หมื่น เลิกคิด เด็กข้างบ้านมันจบ ม.6 ไม่มีเงินเรียนมาหาลัย มันไปลงคอร์ส ตัดต่อ กับภาษานิดหน่อย ทำงานเลย แล้วก็ดันมีคนมาจ้างมันด้วยนะ มันบอกเรียนมหาวิทยาลัยจบ ต้องมาหาเงินใช้หนี้เป็นแสนๆ มันบอกเสียเวลาไปแล้วเกือบครึ่งชีวิต😂
เรียนจบหมดเงินพ่อแม่เยอะ หางานทำไม่มี เรียนทิ้งเงินทองเสียเวลาทำมาหากิน เรียนในสิ่งที่เอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้
ตราบใดที่รับสมัครงานยังต้องการใบปริญญา มันก็ไปของมันได้เรื่อยๆ 555
สุดท้ายผู้ประกอบก็รับคนจบ ป.ตรี เป็นขั้นต่ำอยู่ดี ถ้าต่ำกว่านี้ ก็เป็นได้แค่นักการภารโรง สุดท้าย ก็ต้องเรียนให้จบป.ตรี อยู่ดี สุดท้ายอาจจะมีคนเรียนมหาวิทยาลัยน้อยลงไปบ้าง แต่การบีบบังคับของผู้ประกอบการ กำหนดคุณสมบัติ รับคนจบ ป.ตรี อยู่ดี มหาวิทยาลัยกับผู้ประกอบการ มีคอนเนคชั่นกันอยู่แล้ว มันคือ ระบบที่จัดวางไว้แล้ว ก็ลองดู หากคิดว่าชีวิตจะอยู่โดยไม่ต้องพึ่งใบปริญญาก็เอาเลย แต่บอกไว้ก่อนนะ ผมจบ ป.โท ชีวิตอยู่ตัวมาก มีงานมีการทำ ไม่ลำบากขัดสน ความรู้ที่ใช้ทำงานคือ ความสามารถพิเศษ ที่ไม่ได้จากการศึกษาไทย แต่เป็นการเรียนรู้ด้วยใจรักของตัวเอง
คนสอนมีแต่ความรู้เก่าๆ
เทคนิคการสอนยังเก่าด้วย
หมดยุคล้างสมองกันแล้วครับ😅😮❤
การสอนแบบ Non degree นั่นแหละที่ตอบโจทย์มหาวิทยาลัย ต่างประเทศทำกันเยอะมาก เพราะตรงกับเป้าหมายของผู้ประกอบการ
ผมทำงานร.งตลอดหลังจากเรียนจบมา20ปีเพื่อนที่เป็นอาจารย์ยังชวนผมมาบรรยายประสบการณ์การทำงานร.งยุคปัจจุบันเสมอ ทำให้เห็นเลยว่าเด็กต.จ.วยังขาดความรู้ใหม่ๆอีกมาก (ว.ทช่าง)
ปัจจุบันค่าหน่วยกิตของมหาลัยรัฐและเอกชน แพงมาก ควรลดราคาลง 50% และให้กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบ เพราะจบมาก็ทำงานเสียภาษีให้รัฐ ตอนที่ยังไม่จบรัฐก็ควรช่วยเหลือค่าเทอม ดูอย่างสิงคโปร เรียนมหาลัยฟรี แล้วเมื่อไรรัฐบาลจะให้เรียนฟรีจนจบมหาลัย
รู้สึกเสียดายเวลามากในช่วงมหาลัยทั้งปอตรี ปอโท วิชาบังคับให้เรียน finance และ เศรษฐศาสตร์ ทุกวันนี้แทบไม่ได้ใช้เลย แต่ความรู้นอกห้องเรียนกับสร้างอาชีพ สร้างเงินได้มากกว่า
*** แต่ต้องจำใจ สอบๆให้ผ่าน เพื่อใบปริญญาให้บริษัทดู และตามค่านิยม
มหาลัย 30+ นี่แหละโอกาส!
คนจบปริญญาในไทย ถ้าให้คุยภาษาอังกฤษกับ เด็กมัธยมพม่า กล้าป่าว การศึกษาไทย ถอยลงคลองเรื่อยๆ ไม่ค่อยสนใจการเรียน แต่งสวย แต่งหล่อ ไปเรียนวันๆ
ok
ใครมีที่ดินทำกิน มีลู่ทาง อย่าเรียนแล้วมาเป็นลูกจ้าง..
มหาวิทยาลัยในไทย รายได้หลักมาจากนักศึกษา
แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก รายได้หลักเขามาจากการวิจัยให้กับบริษัทต่างๆ
You ate right people don't need too
ทั้งหมดแก้ที่รัฐบาล ทุกปัญหา ก็เกิดจากการบริหาร10 ปีที่ผ่านมาไม่เคยแก้ไข สนใจแต่การกู้ๆกินอิฐกินปูนกัน😅😅
ใบปริญญา
ไม่มีความจำเป็น
เรียนให้รู้ ทำให้เป็น
สามารถ ประกอบธุรกิจได้
มหาวิทยาลัย
ควร สอน วิชาหา ได้เลย
เลิก สอน วิชาไม่สามารถ หาเงินได้
สอนการ เงิน ส่วน
บุคคลด้วย ครับ
แนวคิด ผม ครับ
ฐิติกร
🌏🌏🌏
🌾🌾🌾
...ผลผลิตที่มากขายยาก หาผู้ซื้อน้อย ก็ทำให้ผลเน่าเฟะ
...ผลผลิตที่น้อยขายง่ายผู้ซื้อผู้กินผู้ใช้ต้องการมากมีน้อยเป็นแก่น เป็นความมั่นคงในทรัพย์เครื่องปลื้มใจ
ไม่ช้าก็เร็ว มหาลัยไทยก็ต้องเปลี่ยนไปตามกระแสโลกคร้าบ
นไทยยึดติดค่านิยมกะคำว่า ใบปริญญา มากเกินไป บางคนเรียนโท เรียนเอกแค่เอาไว้อวดโก้ๆว่าฉันเรียนโทนะ บางสายอาชีพไม่มีความจำเปนต้องใช้ระดับปริญญา และมักมองข้ามงานสายอาชีพระดับ ปวช ปวส. แถมกลับมองว่าต่ำต้อยกว่าปริญญา
แค่ โชเชี่ยล__(จุดเปลี่ยน) เป้า ของคนคืองาน เงิน
แนวการสองที่อาจารย์พูดทำให้ผมนึกถึง มสธ. มหาลัยเปิดแห่งเดียวในประเทศไทย
จบปริณญาไม่มีงานดีๆทำแล้วใครจะไปเรียน ครับ เขาก็บอกลูกบอกหลานว่าจะเรียนให้เปลืองเงินทำไม เป็นแสนๆ😆
สมัยก่อน รามคำแหง คนเรียนเยอะ ตอนนี้เงียบมาก
😇
การที่พูดว่าการบังคับให้เรียนถือว่าผิดแล้วพูดว่าทำยังไงให้นักศึกษาคณะอื่นอยากเรียน ทำแบบนี้ได้เมื่อนักศึกษาเป็นคนเก่งระดับหนึ่ง นั่นหมายความว่าการที่จะให้นักเรียนเข้าสู่ระดับปริญญาตรีต้องคัดคน ถ้าประเทศชาติตั้งเป้าไว้ว่าไม่เกิน 20% ของนักเรียนมัธยมปลายมีสิทธิ์เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแบบนั้นจึงจะทำได้ ถ้ายังไม่เปลี่ยนตรงนี้อะไรที่เป็นอุดมคติเดียวทำไม่ได้หรอก
นักเรียนมาเรียนก็เพราะว่าเป็น requirement เพื่อจบปริญญาตรีอะไรที่ไม่บังคับให้เรียนเขาก็จะไม่เรียนขนาดบังคับให้เรียนเกินครึ่งในห้องเรียนก็ไม่ค่อยจะสนใจเรียนอยู่แล้ว แล้วท่านอาจจะมาพูดว่าก็คุณก็สอนให้เขาสนใจเรียนสิ ในห้องเรียนหนึ่ง ๆ มีทั้งคนเก่งและคนไม่เก่ง คนเก่งต้องการให้พูดเพื่อจะได้เนื้อหาเยอะๆ ส่วนคนไม่เก่งต้องการให้กิจการเยอะๆแต่เนื้อหาน้อยๆ คน 2 ประเภทนี้มาอยู่ห้องเดียวกันก็สอนยาก
มันไม่มีวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่จะทำสำเร็จได้กับมนุษย์ทุกๆคน บางคนต้องบังคับบางคนต้องให้คิดเอง เพราะมนุษย์มีความแตกต่าง
มนุษย์เป็นเหมือนอากาศธาตุที่จะล่องลอยไปที่ต่างๆแต่จะทำให้เกิดประโยชน์ได้ต้องมีการบังคับจนเป็นนิสัยและเขาจะเลือกนิสัยหนึ่งติดชีวิตเข้าไป ได้คำนึงถึงเรื่องพวกนี้ไหม
ดีกว่าช่องชื่อ มาตรฐาน อีกนะเนีย ขอกดติดตาม
เปิดกันจังประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยมากที่สุดในโลกแต่คุญภาพแพ้เขมรลาว จบด็อกเตอร์ ปริญาโท เต็มเมือง
ใช่ครับ ท่านสมัยเปลี่ยนแต่ดีและกว้างเปิดโอกาสคนดีมากๆๆ
ทักษะออนไลน์ต่างหากที่สำคัญ