เวียดนามไม่ตรงปก! สื่อเหงียนอวย..สวรรค์ระดับโลกของคนเกษียณอายุ ฝรั่งในเวียดนามแห่ค้าน
HTML-код
- Опубликовано: 19 июн 2023
- เมื่อต้นปีนี้ นิตยสาร International Living ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1979 ได้จัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก สำหรับการเกษียณอายุ ประจำปี 2023 ที่มีประเทศไทย ติดอยู่ในอันดับ 9 เป็นประเทศจากทวีปเอเชียเพียงประเทศเดียว ใน 10 อันดับแรก โดยผู้เขียนได้บรรยายว่า สเน่ห์ของเมืองไทย สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยก็คือ แสงแดด อากาศที่อบอุ่น ธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่น่าดึงดูดใจ โดยประเทศไทย ยังมีที่ตั้งอยู่ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ทำให้สะดวกง่ายดาย ในการเดินทางสัญจรไปมาในภูมิภาค และการที่คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทำให้ผู้คนที่นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร คนไทยยังชอบเข้าสังคม พบปะผู้คน นิยมทานอาหารนอกบ้าน ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมของร้านอาหารไปทั่วประเทศ นอกจากนั้นแล้ว ภาครัฐก็ให้การสนับสนุน การเกษียณอายุกับชาวต่างชาติ ด้วยการให้วีซ่าเกษียณอายุ สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดขายหลัก ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของไทย ก็คือระบบดูแลสุขภาพ ที่มีคุณภาพในระดับโลก ปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ยังได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานทั่วไปที่ดีเยี่ยม ค่าบริการสาธารณะบางอย่างก็ถูกมาก เช่น ค่าน้ำ ถนนหนทางโดยทั่วไป ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ระบบขนส่งสาธารณะ มีคุณภาพสูง ตั้งแต่รถไฟ รถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ที่มีราคาที่สมเหตุสมผล แม้ว่าอย่างหลัง แอดมินจะไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม พยายามเข้ามาแข่งขันกับไทยในทุกด้าน รวมถึงตลาดชาวต่างชาติที่ต้องการเกษียณอายุด้วย เมื่อหนังสือพิมพ์ VNExpress ได้ลงบทความที่ชื่อ เวียดนาม ประเทศในอุดมคติ สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเกษียณอายุ ด้วยการนำเสนอมุมมองของชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในเวียดนาม แต่ดูเหมือนว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ กลับไม่เห็นด้วยกับบทความดังกล่าว
บทความเริ่มจากเรื่องราว ร็อบ โจเซฟ ชาวออสเตรเลีย วัย 70 กว่าปี ที่ตัดสินใจเกษียณอายุในเวียดนาม หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนคนหนึ่งที่นั่น ตอนที่เขากำลังมีปัญหากับคนขับแท็กซี่ เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเขาข้องใจกับมิเตอร์ของรถแท็กซี่ที่ใช้บริการว่าคำนวณผิดพลาดหรือไม่ และนั่นทำให้คนขับไม่พอใจและล็อคประตูรถทันที เพื่อไม่ให้โจเซฟออกจากรถได้ และคนขับยังได้ตะโกนออกไปให้คนที่เดินผ่านไปมาได้ยิน โดยเรียกผู้โดยสารคนนั้นว่าเป็นพวกหลอกลวง ซึ่งคนขับแท็กซี่อาจจะคิดว่า ชาวเวียดนามคนอื่นๆจะเข้ามาช่วยเขา แต่กลับกลายเป็นว่า ทุกคนเข้ามาช่วยโจเซฟ ซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก ตอนนั้นทำให้เขาตัดสินใจได้เลยว่า เขาจะมาเกษียณอายุที่ประเทศแห่งนี้ ตอนนี้เขาใช้จ่ายเดือนละ 3 ล้านดง หรือราว 4,400 กว่าบาท สำหรับค่าอาหาร ซึ่งถ้าเป็นที่ออสเตรเลีย เขาอาจจะต้องจ่ายมากกว่านี้ 5-10 เท่าเลยทีเดียว เขาประทับใจในเรื่องค่าครองชีพที่ต่ำในเวียดนาม โดยเฉพาะผักผลไม้ เมื่อเทียบกับประเทศบ้านเกิดของเขา
ผู้เขียนบทความยังอ้างอิงว่า นิตยสาร International Living เช่นกันว่า เวียดนามติด 10 อันดับแรก ประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการเกษียณอายุ แต่ไม่มีการระบุปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นข้อมูลเก่า เพราะ 2 ปีล่าสุด ไม่มีเวียดนามอยู่ในการจัดอันดับ 10 ประเทศแรกแต่อย่างใด นอกจากนั้นผู้เขียนบทความยังอ้างอิงการจัดอันดับประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการเกษียณต่ำที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8 ที่จัดทำโดยนิตยสาร Travel+Leisure จากค่าครองชีพและค่าเช่าที่พักที่ต่ำ และคุณภาพระบบดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้
แอนเดอร์ คริสตัด วัย 67 ปีจากนอร์เวย์ ได้ติดสินใจเกษียณอายุในเวียดนาม โดยให้เหตุผลว่า ที่นี่มีค่าครองชีพที่ต่ำ อากาศอบอุ่น และมีทัศนียภาพที่สวยงาม ทำให้เขามีสุขภาพใจและสุขภาพกายที่ดี หลังการเกษียณ เขาบอกว่า คุณรู้ไหมว่ามันหนาวมากที่นอร์เวย์ บางครั้งในเดือนมิถุนายน ก็ยังมีหิมะตก ผมชอบอากาศที่อบอุ่นมากกว่า เวียดนามก็เป็นประเทศที่มีวิวทิวทัศน์สวยๆมากมาย ตั้งแต่เด็กจนโต เขาคุ้นเคยกับเรื่องราวและรูปภาพของสงครามในเวียดนาม แต่พอมาถึงที่นี่ เขากลับพบว่ามันแตกต่างจากที่เขาเคยเห็นภาพจากสื่ออย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ได้เคยมาที่นี่ 3-4 ปี เขาก็เริ่มตกหลุมรักเวียดนาม เขาต้องการอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แค่เพื่อหาเงินเท่านั้นและจะอยู่ถาวรหลังจากนั้น หลังจากเกษียณอายุอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2018 เขาและภรรยาได้ปลูกบ้านหลังหนึ่งในเมืองเว้ เพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย และก็ยังไม่เคยกลับไปที่นอร์เวย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวหลังจากนั้น แอนเดอร์เปิดเผยว่า เขายังได้รับแรงบันดาลใจมาจากการมองโลกในแง่ดีและวัฒนธรรมร่วมของชาวเวียดนาม เขามองว่า คนเวียดนามเป็นคนขยัน และมีอารมณ์ขันเหมือนชาวนอร์เวย์ แอนเดอร์ยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์การเกษียณอายุในเมืองเว้ของเวียดนามขึ้นมาเล่มหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ได้จำหน่ายไป เขาก็ได้รับคำถามต่างๆมากมายจากคนทั่วโลก มีคนสนใจที่จะเกษียณอายุในเวียดนามเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เพื่อนบางคนของเขาที่นอร์เวย์ ได้สอบถามว่า จะทำอย่างไรเพื่อที่จะสามารถเกษียณตัวเองได้ในเวียดนาม ซึ่งเขาก็บอกไปตรงๆว่า โชคไม่ดีที่ในปัจจุบัน ยังไม่มีนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนในเรื่องนี้มากนัก
ที่มา: vnexpress.net/
ติดตามช่องของเราได้ที่นี่ FaceBook / thailand.theworld
อย่าไปคอมเมนท์แทนใจนักท่องเที่ยวหรือต่างชาติที่เค้าหาที่อยู่เพื่อเกษียน เอาเป็นว่ามันขึ้นอยู่กับต่างชาติคนนั้นๆ ว่าจะถูกจริตที่ประเทศไหน จะเป็นไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา หรืออินโดฯ ก็ตามแต่ใจรักและชอบ และก็ปล่อยให้สถิติเป็นตัวบอกว่า ต่างชาติชอบไปเกษียนที่ไหนมากกว่าละกันครับ
ชอบที่ใหนเกษียณที่นั้นครับ เวียดนามก็ดี เขมรก็ดีครับ ส่วนไทยมีคนมาเกษียณปีนึงเยอะอยู่แล้วคงไม่อยากแข่งกับใครครับ😂😂😍
ข้อเสียของไทยที่ยังมีให้เห็น คือเรื่องแท็กซี่ บางกลุ่มที่ ชอบเอาเปรียบแต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อย แต่ก็ควรควบคุมปราบปรามพวกที่ทำแบบนี้ให้เด็ดขาด
การเข้าถึงระบบการสาธารณสุข และระบบบริการสุขภาพเอกชนของไทยคือดีมาก ต่างชาติชอบมารักษาที่ไทยมาก ทั้งถูก และดี เข้าถึงได้ง่าย ต่างประเทศเข้าพบหมอยากมากกกก
เวียดนามเค้าก็วางโครางสร้างพื้นฐานไว้แล้วแหละ ภูมิทัศน์ประเทศและอาหารเค้าก็โอเคนะ เหลือแต่พัฒนา แค่นี้เค้าก็ก้าวกระโดดมากแล้ว ไทยเราก็ต้องพัฒนาต่อไป❤❤❤
เวียดนามพยายามยกระดับหลายด้าน แต่บกพร่องด้วยสาธารณูปโภคที่สำคัญและพอเพียง
ประเทศไทยคือเอเชียประเทศเดียวที่ติดท้อปเทนได้ถือว่าเก่งขั้นสุด ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกา สแกนดิเนเวียไม่ติดเลย
กล้าไปเกษียณเขมรนี้ต้องเปนคนชอบความท้าทายขนาดไหนนิ 555
เรื่องท่องเที่ยวเวียดนามเขาก็ยอมรีบนะว่าพยายามแข่งกับไทยอยู่ แต่สู้ไม่ได้
หากมีคนพูดมากมายว่เวียดนามดี ในเรื่งการเกษียรอายุที่เวียดนาม
เวียดนามก็คล้ายๆกับเขมรที่พยายามอัพเกรดตัวเองให้ดีเลิศพยายามเปรัยบเทียบกับไทยเราตลอด แล้วก็มาติไทยเรานุ่นนี่นั่น เราดีกว่าไทยทั้งการศึกษาทั้งการท่องเที่ยวทั้งวิทยาศาตร์ทั้งการแพทย์พยายามปั้นแต่งข่าวเองเข้าข้างตัวเองพอๆกับเขมรนั่นแหละแต่ทำจริงเป็นรูปะธรรมไม่ได้ อยากจะแซงไทยมากๆ แต่คนไทยเราไม่เคยสน ไม่แคร์โลกเรามีความสุขของเราแบบนี้ ไม่ชอบเปรียบเทียบกับใครแต่เราจะเอาเขามาเป็นไอดอลเราสะมากกว่า😂😂😂
ไม่ต้องมาเพิ่มหรอกครับ แค่นี้ก็ฝรั่งเต็มประเทศไปหมดแล้ว
บางคนก็ชอบเวียดนาม
ในเมืองไทยเมื่อเราป่วย สามารถเลือกรักษาได้ตามทุนทรัพย์
สำหรับชาวต่างชาติที่ชอบอากาศอบอุ่น เวียดนามเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ตอนที่ไฟฟ้าดับทั้งเมือง นักท่องเที่ยวต้องออกมานอนนอกอาคารเพราะทนความอบอุ่นในห้องพักไม่ไหว
ฝรั่งหลายคนก็ไม่ได้น่ารักเลย ค่าครองชีพใน SEA ก็ถูกกว่าบ้านเขาอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากจะให้ถูกกว่านี้อีก รู่สึกชอบกดขี่ตน SEA จริงๆ
ไทยเราได้เปรียบเรื่องการบริการทางการแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมีห้างมีอาหารขายทุกที่ ขนส่งมวลชนก็ดีกว่าเวียดนาม
ไม่มีที่ไหนดีเท่าไทย ญี่ปุ่นยังมาไทย
ค่าครองชีพไทยไม่แพงนะ เงียบสงบอากาศดีถึงแม้จะร้อนไปบ้าง ฝรั่งต่างชาติถ้าอยากประหยัดให้พักเมืองรองที่สามารถต่อรถเข้าเมืองได้ง่ายๆ การแพทย์เราก็ดีพบหมอเร็ว
เอาเป็นว่า ขนาด นทท.เวียตนามยังเรียกกรุงเทพว่าบ้านหลังที่ 2 นทท.เวียตนามยังไม่ยากเที่ยวเวียตนามเลย ยิ่งตอนนี้ไฟฟ้าติดๆดับๆ คิดดูว่าจะเสียหายขนาดไหน ของกินของใช้จะเน่าต้องทิ้ง ภาคการผลิตทำได้ขาดๆเกินๆ ภาคอสังหาขายไม่ออก กำลังซิ้อน้อย อุตสาหกรรมการผลิตมาจากต่างประเทศ แล้วแต่ใครจะคิดนะ ผมก็พอมีข้อมูลเท่านี้ ชอบแบบไหนให้เลือกเอา เหมือน สามเหลี่ยมคำของ สปป.ลาวนั่นแหละ โปรโมท ขนาดว่าอนาคตเชียงใหม่-เชียงรายจะกลายเป็นเมืองร้าง คนทั่วโลกจะแห่กันไปเที่ยว สามเหลี่ยมคำกันหมด ตอนนี้16ปีแล้วก็ยังเงียบหลอนเหมือนเดิม