Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
เป็นวิดีโอ Vlog ep ที่สนุ๊กมาก และเป็นวิดีโอที่ผมได้ตั้งใจฟังตลอด 24.30นาที ของคุณโต....ครับ
งานนี้ชื่นชมผอจัดการได้ ดีมาก😂
สนุกมากครับ
ผอ เท่ห์ / อีกคนก็เฮี้ยจับใจ ชอบจังหวะขู่ คุณโต มันต้องอุปนิสัยอย่างไร ถึง คิดมาขู่ หลังจากที่โยนความผิดให้คนอื่นแบบนั้น สุดท้ายจนมุม ขอให้ช่วย
ผมคิดว่าที่เขากดดันผมตั้งแต่ตอนโทรคุย น่าจะเป็นเพราะอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากและเขาประกาศไปแล้วว่าเป็นความผิดของผม ก็คงต้องไปให้สุดนะ
ชอบความตรงไปตรงมาและรักในเกียรติ ศักดิ์ศรีของผู้ประกอบวิชาชีพของคุณโตมากครับไม่ใช้อารมณ์
ส่วนตัวมองว่าผอ.จ้องจะเชือดคนนี้อยู่แล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นเลยดันไปสุดทาง ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย
ep บ่นลูกค้าคือเดอะเบสของช่องเลย
ผมว่า ผอ มองทะลุแต่แรกแล้วตั้งแต่เห็นอีเมลล์ เลยไม่ได้โทษใครแต่แรก และถือโอกาสดูกึ๋นลูกน้องคนนี้ไปในตัวว่าจะใช้วิธีไหนแก้ปัญหา
ติดตามทุกบ่นลูกค้าครับ
ไม่แปลกใจทำไมถึงได้เป็น ผ.อ. เฉียบขาดในการควบคุมลูกน้อง การตัดสินใจ การรับมือปัญหา การโยนความผิดให้คนอื่นเนี่ยไม่อาจมีอนาคตที่ดี
อะหือ ฟังละสุด หน่วยงานโคตรสุด การบริหารลูกน้องอย่างเยือกเย็นจนน่ากลัวเจอแบบนี้สุดๆครับ
สุดจัด
ลูกค้า ก็มีแปลก ๆ แปลกเสียจนไม่คิดว่า คนพวกนี้ มันรวยมาได้ยังไง…..
ขายที่ป่าว
G ใช่ไหมครับ งานเกี่ยวกับ หุ้นประจำปีและแผนงานต่อไป (เดา)
Face culture แบบไทยๆ ครับ เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
ชอบช่วงนี้มาก ๆ ได้แง่คิดและเป็นประโยชน์ในการทำงานมาก ๆ ครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับที่แบ่งปันประสบการณ์
ผอ.พยายามสอนทุกคนทางอ้อม
12:50 ในฐานะที่ผมทำงานรัฐวิสาหกิจมานาน ขอบอกว่า ผอ. ทำถูกต้องแล้วครับ เพราะ ความรับผิดอยู่ที่ลูกน้องผู้ประสานงานกับคุณโตครับ ไม่ใช่ ตัว ผอ. ผอ. เซ็นต์เอกสารตามลำดับชั้น แต่ไม่ใช่ผู้ต้องรับผิดชอบในทุกเรื่องครับ คนที่รับผิดชอบหน้างาน ตรวจทาน สอบทาน คือลูกน้อง ผอ. นะครับ ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ถ้าลูกน้องคุณโต ทำผิดพลาดลืมของลูกค้าเอาไปไม่ครบ ความผิดพลาดอยู่ที่ใคร แม้คุณโตจะไปด้วย แต่คุณโตไม่ได้อยู่ในฐานะต้องเช็คของขึ้นรถทุกชิ้นใช่ไหมครับ? เพราะหน้าที่เช็คของเป็นของลูกน้อง ถึงคุณโตจะบอกว่าคุณโตยินดีรับผิดชอบแทนโดยวกรถขับกลับไปเอาให้ แต่สิ่งที่ผมถามให้คุณโตคิดตามว่า "ความผิดเป็นของใคร" โอเคนะครับ
ผมเห็นต่างครับ .ถ้าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากลูกน้อง ผมในฐานะเป็นเจ้าของธุรกิจและเป็นนายจ้างต้องรับผิดชอบและแก้ไขปัญหานั้น แล้วไปตรวจสอบปัญหาเป็นการภายในภายหลัง เพราะเวลาทำงานข้ามองค์กรฝั่งคู่ค้าไม่สนใจว่าใครหรืออะไรของเราเป็นสาเหตุ เพราะได้ตกลงร่วมงานกันในลักษณะ “องค์กร-องค์กร” ไม่ใช่ “บุคคล-บุคคล”.ตำแหน่งผู้อำนวยการบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าอำนวยให้หน่วยงานดำเนินการได้ตลอดต่อเนื่อง หากมีปัญหาใดเกิดขึ้นและพิสูจน์ทราบว่าเกิดจากคนใต้บังคับบัญชา ผอ. แม้ไม่ทราบเรื่อง อย่างน้อยต้องตัดสินใจแก้ปัญหาเพราะเป็นเรื่องขององค์กรและตัวเองคือหัวสุด.ความคิดเห็นผมคือถ้า ผอ. ท่านนี้ไม่ได้เซ็นใบเสนอราคาพร้อมประทับตราองค์กรตอบกลับมา (เช่นกรณีลาและให้รองรักษาการแทน) จะบอกว่าไม่รับทราบและไม่รู้นั้นถูกแล้ว แต่ถ้าเซ็นนั่นแปลว่ารับทราบแล้วไม่ว่าเค้าจะจำเนื้อหาได้หรือไม่ก็ตาม การลงชื่อในเอกสารคือการ “รับ” เสมอ และการประทับตราองค์กรแสดงให้เห็นชัดเจนกว่าเดิมว่า “องค์กร” ก็ “รับ” ถ้าลงชื่อแล้วประทับตราแล้วบอกฉันไม่รู้ฉันไม่ทราบขึ้นศาลกันไปเสียหมดนะครับ หากมีกรณีพิพาทตอนฟ้องศาลก็ฟ้องได้ทั้งองค์กรและผู้เซ็นนั่นแหละ .จากกรณีตัวอย่างที่คุณยกมาข้างต้น ถ้าผมรับผิดชอบโดยการขับรถกลับไปเอามา ไม่ได้เป็นการรับผิดชอบแทนแต่อย่างใด เพราะหากความผิดเกิดขึ้นจากอะไรหรือใครที่มาจากองค์กรของผม ผมในฐานะเจ้าขององค์กรต้องรับผิดชอบด้วยอยู่แล้ว.ท้ายสุดเพื่อตอบคำถามของคุณที่ว่า “ความผิดเป็นของใคร” ผมตอบได้ง่ายมากครับ .“หน่วยงาน ไม่ใช่คนประสานงาน” ครับ
ขออภัยด้วยที่หลายคำอาจใช้คำอาจไม่ค่อยถูกใจคุณโตเท่าไรนัก ขออภัยด้วยครับ
@@ttasac ข้อหนึ่ง คุณโตรู้สึกต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะคุณโตเติบโตมากจากผู้ปฎิบัติ มาจนถึงเจ้าของกิจการ รู้กระบวนการทุกขั้นตอนครับ ดังนั้นถ้ามีขั้นตอนใดก็ตามผ่านมาถึงคุณโต แล้วเกิดความผิดพลาดออกไป ไม่ว่าส่วนที่ผิดพลาดนั้นจะเกิดจากคุณโตหรือไม่ก็ตาม คุณโตต้องร่วมรับผิดชอบในฐานะหัวหน้างาน ถูกต้องครับ ถ้าผมอยู่ในลักษณะของคุณโต ผมก็ยินดีรับผิดชอบเช่นเดียวกัน ถ้าเกิดความเสียหาย ผมก็ยินดีควักเงินในฐานะเจ้าของกิจการ จ่ายออกไป ก็จบแค่ตรงนั้นครับข้อสอง ผอ. น่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเครื่องเสียงบนเวทีเลยเท่าที่ทราบ การมอบหมายงาน หมายถึงการมอบหมายความรับผิดชอบในทุกภาคส่วนของเนื้องานไปด้วย ทัั้งเรื่อง วงเงินงบประมาณ การเบิกจ่าย การเช็คสเปค จัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง ผมก็ว่า คนที่ประสานงานเขาก็ทำการบ้านมาค่อนข้างดีเรื่องสเปค ติดแค่เขาพลาดเรื่องไมค์โครโฟน ซึ่งผมก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายงานของคุณโต และอีกอย่างหนึ่งที่รู้สึกไม่ดีคือ เขาโยนแพะให้คุณโต นั่นไม่ถูกต้องครับ แต่การที่คุณโตถือเอาเหตุนี้ไปคุยกับ ผอ. โดยตรงเลยผมก็ว่าไม่ถูกต้องเช่นกัน เพราะ เขาแทงเรื่องมาที่ผู้ประสานงานกับคุณโตทั้งหมดแล้ว รวมถึงการทำงบประมาณ เบิกจ่าย และอื่นๆ ด้วย ครับ ข้อสาม อย่างน้อยที่สุด ผอ. ก็รับผิดชอบ โดยหลังจากนั้นก็อนุญาตให้คุณโตเข้าพบ และเซ็นต์เอกสารลัดขั้นตอนให้ ทั้งที่จริงแล้ว การที่ เวลาเอกสารไม่ถูกต้อง Vendor เดินดุ่มๆ เข้าห้องผอ. เลย ทั้งๆ ที่ฝ่ายการเงินแจ้งวิธีการดำเนินการแก้ไขที่ถูกต้องสำหรับการเบิกจ่ายให้แล้ว ผมคิดว่าไม่เหมาะสมเท่าไรครับ? คุณโตลองคิดดูนะครับ ถ้า Vendor ทุกคน ทำแบบคุณโต เดินเข้าห้อง ผอ. เลย (ทั้งที่ฝ่ายการเงินแจ้งวิธีการแก้ไขที่ถูกต้องให้แล้ว) มันเป็นภาพที่ถูกต้องหรือไม่? อย่างไร? เอางี้แล้วกัน ผมเป็นเด็กบัญชีเองแท้ๆ เวลาแก้ไขเอกสาร ยังต้องแทงเรื่องตามระบบเลยครับ ผมทำแบบคุณโตไม่ได้นะครับหากข้อความของผมมีอะไรทำให้คุณโตไม่สบายใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
@@chayaphonthongauthaisri8177 ที่คุณพิมพ์มาทั้งหมดผมรู้ทันทีเลยว่าทำไมหน่วยงานราชการจึงเป็นที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์สำหรับคนไทยหลายกลุ่ม เพราะแม้เป็นสถานการณ์ไม่ปกติยังต้องรักษาลำดับขั้นและสายการบังคับบัญชาและเหมือนคุณยังมองไม่ขาดนะว่าการร่วมงานในครั้งนี้คือ “องค์กร-องค์กร” นั่นหมายความว่าหากสถานการณ์ไม่ปกติคู่ค้าสามารถเดินเข้าไปติดต่อกับใครก็ได้อย่าว่าแต่ ผอ. เลย ผมจะเดินไปหาหัวหน้าฝ่ายบัญชีเพื่อถามเรื่องก็ยังได้.bureaucracy และการสั่งงานจากบนลงล่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำและเป็นปกติ แต่หากสถานการณ์ไม่ปกติผมเห็นว่าต้องย่นย่อสายการบังคับบัญชาลงเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไม่งั้นเรือล่มตายห่าพอดี อีกอย่างบุคคลภายนอกในนามองค์กรคู่ค้าเขาไม่สนใจหรอกครับว่าสายการบังคับบัญชาของคุณเป็นอย่างไรระเบียบขั้นตอนเป็นอย่างไร เวลามีสถานการณ์ไม่ปกติเค้าก็พุ่งเข้าหาคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เซ็นเอกสารกันทั้งนั้น.ถ้าผมยังยึดตามสายการบังคับบัญชาแล้วติดต่อตามขั้นตอนตรงตัวบุคคลเป๊ะตามที่คุณระบุ คงต้องเริ่มจากส่งหนังสือชี้แจงเข้าไปยังหน่วยงานจ่าหน้าถึงผู้ประสานงานร่วมกับ ผอ. แล้วต้องไล่โทรศัพท์ตามธุรการหรืองานสารบัญว่าเรื่องของผมถึงไหนแล้วเซ็นลงมาได้ผลเป็นอย่างไร ผมมองว่ายืดยาวและไร้ประสิทธิภาพ แถมทำให้เสียเปรียบต่อการชี้แจงซึ่งหน้า ถ้าแย่กว่าเดิมคือส่งหนังสือไปแล้วไม่ตอบกลับพร้อมเบิกเงินไม่ได้ก็ถึงศาล.ถ้าผมทำตามฝ่ายการเงินให้กลับไปทำเอกสารมาส่งใหม่ ทำให้รับเงินช้าลงทั้งที่เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของผมเลย ผมมองว่าไม่ยุติธรรม เอกสารผมไม่ได้ผิด ปัญหาภายในของหน่วยงานลูกค้าต่างหากที่ผิด.ถ้าผมเข้าไปถึงห้อง ผอ. แล้วพลิกล็อกไม่ให้เข้าพบเรื่องถึงศาลแน่ เพราะหน่วยงานละเมิดข้อตกลงการชำระที่ระบุไว้ในใบเสนอราคา.ดังนั้นสิ่งที่ผมตัดสินใจทำในสถานการณ์นี้คิดว่าเหมาะสมแล้ว เพราะผมเสียเปรียบน้อยที่สุด ได้เงินตรงเวลา และไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้ประสานงานคู่กรณี .บอกตามตรงว่าผมโกรธ ไม่ได้โกรธคุณแต่โกรธที่ระบบการทำงานที่คุณอ้างถึงมันเซฟตัวเองเกินไป อืดอาดยืดยาดเชื่องช้าเพราะชอบหลบอยู่หลังระบบ คู่ค้าเป็นตายอย่างไรไม่รู้ฉันมีระบบอยู่ฉันโบ้ยได้ว่าสั่งไปแล้วไม่ใช่เรื่องของฉันอีกต่อไป ดังนั้นฉันจึงปลอดภัย.สรุปคือถ้าสถานการณ์ปกติผมยินดีทำตามระบบ แต่ถ้าไม่ปรกติผมพุ่งเข้าหาคนเซ็นเอกสารทันทีและไม่แคร์ด้วยว่าจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีหรือไม่ เพราะผมคือบุคคลภายนอกที่เป็นตัวแทนขององค์กรคู่ค้า ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม bureaucracy หากยังซื่อปฏิบัติตามอยู่มีแต่จะเสียเปรียบ แถมการตัดสินใจเช่นนี้ทำให้ลดโอกาสต้องขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย
ผมขอยกตัวอย่างเป็นตุ๊กตา โดยให้ผมเป็นตัวแทนเองแล้วกันครับ ข้อหนึ่ง ถ้าผมเป็น Vendor และรับทราบตั้งแต่ก่อนทำธุรกิจกับหน่วยงานดังกล่าวแล้วและทราบว่าหน่วยงานประเภทนี้จะมีลำดับขั้นตอนการทำงานที่มีระบบแบบแผนที่วางระเบียบกำกับ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเลือกทำธุรกิจกับหน่วยงานนี้ หรือหน่วยงานประเภทนี้ ผมสามารถปฎิเสธได้ หรือ หลีกเลี่ยงแต่ผมเลือกที่จะรับทำคู่สัญญากับ หน่วยงานภาครัฐดังกล่าว ผมควรจะต้องยอมรับสายงานระบบที่มีระเบียบนั้นกำกับด้วย และผมจะไม่เอามาวิพากษ์หรือแสดงความคิดเห็นเชิงลบโครงสร้างดังกล่าวในโซเชียลครับ เพราะเป็นการรไม่ให้เกียรติคู่ค้าครับข้อสอง แน่นอนครับ ถ้าคู่สัญญาของผมที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ผิดสัญญาผมฟ้องร้องได้ครับ ไม่ต้องรัฐก็ได้ครับ เอกชนก็ฟ้องได้ครับ มีมาตราตามกฎหมายกำกับ หลักฐานเอกสารยื่นฟ้องครบ แต่ผมจะไม่ใช้ข้ออ้างดังกล่าวในการเสียมารยาทในการละเมิดระบบที่ผมรับทราบก่อนอยู่แล้วว่าทำไปแล้วเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผมจะเอาเอกสารนิติกรรม กลับไปแก้ให้ถูกต้องตามระบบ (หรือจะฟ้องร้องก็แล้วแต่) แต่ผมจะไม่เอาเอกสารเดินเข้าห้อง ผอ. ทั้งที่ได้รับคำแนะนำเรื่องการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องแล้วครับข้อสาม ถ้าใครรังเกียจการทำธุรกรรมกับหน่วยงานรัฐ แนะนำว่าอย่าทำครับ ที่เขาต้องวางระเบียบขั้นตอนมากมายเพราะเงินที่จ่ายไปเป็นภาษีของประชาชนครับ ไม่ใช่เงินในกระเป๋าตังของเจ้าของกิจการ ต้องมีการวางระบบการควบคุมตามระเบียบข้อบังคับ ถ้าเลือกเข้ามาทำแล้ว ก็ไม่ควรเสียมารยาท ลัดขั้นตอน หรือใช้อภิสิทธิ์ครับ อันนี้คือเรื่องส่วนรวมครับ ขอบคุณครับ
ผมชอบวิธีการจัการของผอ.อย่างที่สุด
น่าจะเพราะเป็นข้าราชการด้วยเลยไม่อยากรับผิดให้ลูกน้องเดี๋ยวมีผลย้อนหลังได้ถึงมันจะเรื่องเล็กๆก็คงติดเป็นนิสัยกันไปแล้วแต่มาขู่แล้วบอกให้ช่วยนี่คือเค้าโตมาแบบไหน
ผมมองว่าการรับผิดในนามองค์กรและแสดงความรับผิดชอบแก่คู่ค้าทันที กับ ออกตัวปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา มันดูเป็นคนละอย่างนะ
ทหารมีเยอะนะครับแบบนี้
ไม่อะ มีทุกประเภทองค์กร
ขอบคุณครับพี่โต ได้ข้อคิดจากในเหตุการณ์ที่พี่เล่ามาเยอะเลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับพี่
โหดมากเคสนี้
ผอ. แกเฉียบขาดมากฮะ
ฟังจนจบแล้วก็ได้แต่คิดตาม แล้วก็พูดในใจว่าอืมมมม นะ เรื่องมันจบได้ง่ายมากเลย แค่โทรมาคุยแล้วบอกว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาเกิดขึ้น ช่วยหาทางแก้ปัญหาให้ผมหน่อย
ไม่มีใครอยากถูกโบ้ยเป็นแพะค่ะ ถ้าขอร้อง ขอความช่วยเหลือ หลายครั้งก็พร้อมจะเห็นใจ แต่โบ้ย+ข่มขู่ = เสียมารยาทและไม่น่ารัก
เป็นผมนะจะจ่ายค่าเสียเวลาเอง ตั้งเบิกเฉพาะค่าไมค์ แล้วไม่ไปหาแพะรับบาปด้วย
จำนวนเงินไม่ได้คอขาดบาดตายเลย ทำไมระบบมันทำคนให้บ้ากันได้ขนาดนี้
ใช่... มันดูเหมือนสะท้อน บรรยากาศภายในองค์กร เลยว่า ข้างในเป็นอย่างไร
ถ้าเปนผมยังใงก้อได้ขอให้จบ...คือยังใง งานมันก้อต้องไปต่อ....เรื่องยุ่งๆมันจะไม่เกิด #ถึงจะดูเหมือนมักง่ายก้อเถอะ😅😅เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ
ผอ.เก่งครับ เค้าต้องการเห็นวิธีแก้ปัญหา วิธีรับผิดชอบของลูกน้อง เป็นผม ผมก็จะทำแบบนั้น
5555555 คิดว่าคนที่เติบโตขึ้นมาจนเป็น ผอ. ได้เนี่ย เขาต้องไต่เต้าเติบโตมาอย่างไรหรอครับ ถ้ามีความรับผิดชอบแบบที่คุณคิดว่าเขาควรจะมีเขาไม่ได้เป็น ผอ. แน่นอนครับ วัฒนธรรมไม่ได้ออกแบบมาแบบนั้น
ลุกค้าแปลกมีทุกวงการจริงๆ พาปวดหัวจริงๆ
เยี่ยมครับ
555สะใจมากครับแสกหน้าไปเลยเป็นผมนะผมขนของกลับเลยแล้วแต่จะมีปัญญาไปหาบริการจากที่อื่น ในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ลูกค้าแบบนี้ไม่จ้างผมก็ไม่ง้อ
"ผมจะทำให้คุณไม่ได้รับงานจากหน่วยงานนี้อีกจนเกษียญ" พี่เค้าทำได้ทุกสิ่ง ยกเว้นสิ่งที่ถูกนะครับเวลามีคนพูดว่า สิ่งที่เรา คิด พูด ทำ ในชีวิตประจำวัน มันจะบ่งบอกตัวตนที่แท้จริงของเรา ผมนึกไม่ออกว่าพี่เค้าใช้ชีวิตยังไง
เปิดฟังคลิปก่อนนอนแล้วอารมณ์เสียเลย 5555 คุณโตมีสติดีมาก ผมนึกเลยว่า ถ้าผมเป็นคุณโต ผมอาจจะถูกเอาเปรียบเพราะความใจดี ไม่กล้าขัดใจคนอื่น ซึ่งแบบนั้นผมจะอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม
ทำงานแบบราชการรรรรรรม๊ากมากครับ เดือดร้อนด่วนแต่เอาหน้า โยนปัญหามา อย่างแย่ครับ คนพวกนี้ ลูกน้องทำผิดควรเคลียร์ให้คุณโตก่อนให้จบ
ผมน่าจะโคตรซวย ที่เจอทั้งลูกน้องทั้งหัวหน้าที่รวมหัวกันโบ้ยความผิด ทั้งๆที่ถ้าเอาเอกสารมากาง คือลูกค้าผิด แต่เค้าก็ด่าอย่างเดียวเลย และทำให้ตัวเองถูกได้ด้วย แค่เพราะเค้าอยู่ในองกรค์ที่เป็นของเจ้าสัว คือถูกได้ทุกสิ่ง
เป็นคลิปที่เรียวมาก พอถึงคลายแม็ค ที่คุณไม่ยอม ผมยอมนะครับ แต่เค้าต้องขอโทษผมตรงนั้น ถ้าไม่ขอโทษ ผมไม่ยอม ผมไม่เอาผลประโยชน์ลับที่ไม่แฟร์ ผมจะเอาคำขอโทษ ถ้าให้ไม่ได้ก็จบแบบ ผมยอมทุกอย่าง คุณเข้มแข็งมากไม่กลัวเลย สุดยอดผมทำไม่ได้ เคสนี้น่าคึดดีมากเลยครับ
ขอให้ความเห็นตอนช่วงท้าย ตอนที่คุณโตเข้าไปคุยกับ ผอ.ให้เซ็นเอกสาร ...ที่ ผอ.พูดว่า การแสดงความรับผิดชอบของลูกน้องเขา จะเป็นตัวบ่งบอก อนาคตการทำงานของเค้า วิธีพูดของผอ.ก็มีแง่คิดที่ดีนะครับ ส่วนที่ ผอ.เคยพูดไว้ว่าเรื่องนี้ เขาจะไม่ยุ่ง อยากให้คุณโต มองอย่างนี้นะครับ .....จากอายุ ผอ.ที่ดูแล้ว อย่างที่คุณโตบอก เขาดูอายุ เป็นอาวุโสพอสมควร ดังนั้นอยากให้มองว่า การอยู่ในองค์กร ที่เป็นลักษณะเหมือน หน่วยงานราชการ (ตามที่ตำแหน่งแจ้งนะครับ อนุมานได้ว่าน่าจะเป็นหน่วยราชการ) อยากให้มองว่า การทำงานในหน่วยงานของรัฐหรือราชการนั้น ต่อให้คุณมีแนวคิดดี ในหลักการ ทำงานราชการ คงเคยได้ยินคำว่า เช้าชาม เย็นชาม ใช่ไหมครับ นั่นแหละครับเพราะว่า ระบบงานไม่เอื้ออำนวยในความคิดสร้างสรรค์ ของบุคคล เหมือนการทำงานส่วนตัวแบบคุณโต เพราะฉะนั้น การแสดงออก ที่แสดงที่ ผอ.ว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นความเคยชิน ที่จะตัดปัญหา ในองค์กรที่เราไม่สามารถ พัฒนาความคิด ให้ตรงไปตรงมา ในหลักการจริงๆได้ จึงคุยในภาษา ที่เป็นแบบคุณโต ในเหตุผลของหน้างานได้ นั่นทำให้เห็นว่า งานในระบบราชการไทย กลืนกินคนที่มีแนวคิดดีๆ และ คนที่อยากทำงานดีๆ ให้กับระบบ เกิดความเบื่อหน่าย ที่ต้องมารับผิดชอบ ในเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ของระบบเลยต้องทำงานกลายเป็นเช้าชาม เย็นชามไป แต่สุดท้ายแล้ว ผอ.ก็แสดงความรับผิดชอบ( แบบไว้ศักดิ์ศรีของเขาเหมือนกัน) ว่าเขารับผิดชอบนะ (ในใจ) โดยการเซ็นเอกสาร 2 แผ่น แล้วแจ้งตั้งเบิกทันที นั่นคือการแสดงความรับผิดชอบ ที่เขาพอจะทำได้ อยากให้ มองในมุมนี้นะครับ จะได้มองเห็นแรงกดดัน ของความเป็นใหญ่เป็นโต ในตำแหน่งของ หน่วยราชการ มีได้ก็ต้องมีเสียครับ ตามเหตุผล( ในที่นี้หมายถึง ได้ตำแหน่งมาตามอายุงาน(เพราะเดินมาสายนี้แล้วนิ่) แต่อาจเสียอุดมการณ์ความจริงใจ ที่ตั้งใจทำงานแบบ สร้างสรรค์จริงจังกับหน่วยงาน ) ต่อไปถ้าเข้าใจในมุมนี้ได้ เราจะได้มีเคสไว้ดับความไม่สบอารมณ์ของเราได้ครับ เอาใจสงบๆ ไปทำงานดีๆ ดีกว่าเนาะ 😊😊😊
ผมไม่เคยคิดลึกแบบนี้เลยครับ ผมแค่คิดว่าหันไปทางไหนก็มีแต่คนยืมมือ คนประสานงานก็ยืม ผอ. ก็ยืม แต่ถึงยังไงผมก็ยังแฮปปี้กับผลในตอนท้ายอยู่ดีนะ.ตอนที่ผมเข้าพบ ผอ. แกไม่มีท่าทีเข้าถึงยากเลย แกฟังสิ่งที่ผมพูดให้จบในทีเดียวโดยไม่แทรกและเซ็นให้ทันที พร้อมให้ความชัดเจนเรื่องคนประสานงานด้วย ผมเชื่อว่าแกไม่ได้แคร์ผมมากเป็นพิเศษ แต่พร้อมรับผิดชอบโดยเซ็นชื่อให้ทันที แกแค่มีวิธีบริหารของแกล่ะ.สำหรับผมการรอดจากขี้ที่ถูกปาใส่และเบิกเงินได้ครบตรงเวลา (เร็วกว่าเดิมเล็กน้อย) ผมพอใจแล้วครับ
@@ttasac คิดลึกหน่อยก็ได้ครับ เผื่อตัวเองไม่ต้องมาหัวเสีย แล้วจะได้ออกจากสถานะการณ์นั้นๆได้ไว จะได้ไม่สนใจกับเรื่องที่ควบคุมอะไรไม่ได้เลย(คือ คน นั้นแหละครับ) ...ไปต่อครับ .... สู้ๆ 💪💪💪
@@winai_lek มันก็ออกได้เร็วกว่านี้ได้ครับ แต่น่าจะโดนเขาไล่ฟ้องเพราะทำงานเขาเสียหายแทน
เป็นกำลังใจให้ครับพี่โต
เรื่องนี้สนุกมากครับขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องเล่าสู่กันฟัง
ผมว่าคนประสานงาน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นความผิดของอีกฝั่งจริงๆ เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจโบ้ยความผิด แต่คิดว่าผิดจริงๆ จนตอนคุยกันในโทรศัพ์ถึงรู้ว่าในอีเมลไม่ได้มีไมค์ตัวนี้ ทีนี้ก็ซวยละ เราผิดเองนี่หว่า แล้วทำไงมันถอยไม่ได้แล้ว เหมือนกับว่าบอกกับทุกคนบอกกับเจ้านายไปแล้วว่าฝั่งนั่นผิด สภาพก็เลยออกมาแบบนี้
ผมคิดแบบนั้นเหมือนกัน
ผมเจอมาล่าสุด คุยกับทางจีนไว้เต็มรูปแบบมีแชทพูดคุย ผมเป็นนายหน้า คนจัดหา พอถึงเวลาจริง เขาเอานักดนตรีมา แต่ทีมงานไม่ได้เอา ระบบต่างๆใดๆมาเลย เพล้งใจตกงงตาตุ่มผมคิดๆ แล้วเดินไปหาเจ้าของเครื่องใครอยู่ใกล้ที่สุดตอนนี้ มีให้เอามา แล้วผมเดินเข้าไปคุยกะทาง ออแกไนซ์คนจีน สรุปเขายอมจ่าย แต่ๆ ทางบันชีไม่ยอมจ่าย สุดท้ายผมออกให้ทั้งหมด ผมไม่ได้ลืมหรืออยากเป็นแพะรับบาป ผมขอแค่งานจบ อย่าให้งานสะดุด บริการจนนาทีสุดท้าย
ในมุมมองของผมเกี่ยวกับผอ.ท่านนี้มีอยู่ 2 มุม มุมที่ 1 คิดว่า ผอ. เป็นคนลอยตัวเหนือปัญหา ถ้าลูกน้องทำผิดพลาดก็ให้ไปรับผิดชอบกันเองมุมที่ 2 คิดว่า ผอ. อยากจะดูว่าผู้ประสานงานจะกล้ารับความผิดหรือไม่ ซึ่งมันไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ส่วนผู้ประสานงาน ผมมองว่า หัวโขนบนหัวเขาคงจะใหญ่และหนักมากจนไม่สามารถเอ่ยคำว่า "ผมผิดเอง ผมขอโทษ" ดีนะที่เป็นคุณโต ถ้าเป็นผม ผมยอมผมยอมให้ลูกน้องเก็บของและกลับทันทีหมายเหตุ จากงานที่ผมเคยทำให้กับสถานศึกษา โดยทำให้ในราคาไม่สูง แถมงานให้โดยไม่คิดมูลค่าเพิ่ม แต่ถูกตำหนิว่า ทำไมถึงไม่แถมแบบนั้น แบบนี้ ครั้งนั้นผมเลยตัดสินใจบอกไปกับคนบ่นว่า "ผมขอโทษครับ ที่ทำให้ไม่สบายใจ" และผมก็ดำเนินการลื้อสิ่งที่ผมได้ติดตั้งลงไปแล้ว(ลื้อแล้วเสีย)ออกจนหมด หลังจากนั้นก็เก็บเครื่องมือกลับทันที โดยไม่สนเรื่องค่าจ้างใดๆเลย
ผมเห็นแก่เงินน่ะสิ
ผ.อ. เค้าก็ต้องการพิสูจน์ลูกน้องเค้านั่นแหละครับ แต่ความซวยคือมาลำบากเราเนี่ยแหละ
ผมว่ามันคือสิ่งที่ ผอ.ควรทำ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องรับผิดชอบ ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้วคุณจะทำไง ไม่ใช่จะโยนให้คนอื่นแก้ไข
ผมอาจคิดไปเองนะ แต่จากที่ ผอ. เซ็นใบแจ้งหนี้ทับชื่อคนประสานงานเดิมและกำชับให้ตั้งเบิกทันทีโดยไม่ต้องทำใบใหม่ส่งเข้ามาตามระบบ ผมคิดว่าแกไม่ได้แย่อะไรแค่วิธีปกครองคนของแกมันลึกล้ำเกินตีความ
จริงๆ ผมชอบวิธีแบบนี้ของทาง ผอ. นะครับ ข้อดีของการปกครองแบบนี้คือมันจะคัดคนที่เป็นลูกน้องขอแกได้ที เหมาะกับการทำงานแบบหลายคนที่เป็นระบบใหญ่ @@ttasac
ฟังคลิปนี้ครึ่งแรก ผมก็คิดแบบคุณฮะกระทั่งฟังจนถึงช่วงท้ายก็เข้าใจการตัดสินใจครั้งนี้ของ ผอ. ท่านนี้เลย
รู้ยุ่แล้วแล้วว่ามันผิด แต่ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ผิด สุดท้ายพอผิดก็ซวยไป
จริงๆแล้วเรื่องมันเล็กนิดเดียวเอง
ผมเลือกข้อ 2 คับ ข้อ 1 เป็นไปไม่ได้แน่ๆคับผม ผอ.ขั้นสุดคับ เชือดไก่ให้ลิงดู
สุดจริงเรื่องนี้ ถ้าขอร้องหรือคุยดีๆ คงไม่เป็นแบบนี้
ผมเองก็ทำงานกับ Supplier ที่ต้องให้เขาช่วย ด้วยความเร่งด่วน อยู่บ่อยๆ supplier เป็นคนที่ต่อว่าผมได้ตลอดด้วยซ้ำ ผมก็แค่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ถามต่อหน้าทุกคน ผมก็ยอมรับต่อหน้าทุกคน
คนประสานงานเอาใจผอ. แต่ไปบีบคุณโต ผู้บริหารสั่งสอนลูกน้อง โดนกันไป..
ตอนแรกผมนึกว่า ผอ. จะปัดปัญหาทิ้งแต่ตอนหลังก็คดีพลิกซะงั้น 👏
ในมุมผอ. ผมพอเข้าใจอยู่ครับ แต่ก็อย่างว่าขึ้นอยู่กับคนด้วย แต่พี่ผู้ชายคนนั้นนี่... เอิ่มม
สู้ๆครับพี่ โต น้องเป็นกำลังใจให้ครับ
คุณโตเก่ง และตรงตลอดเลย เวลาเจอพวกหน่วยงานอะไรพวกนี้ ฟังสนุกมากครับ
ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งเลย แต่ผมระวังจนรัดกุมประมาณนึง
สำหรับผมแล้ว ลูกค้าคือพระเจ้าจริงๆนะครับ ลูกค้าให้ทำอะไร ถุ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมยินดีทำให้หมดแหละ จะให้ช่วยอะไรขอให้บอก เรายินดีรับฟังแต่ว่า...ต้องมาคุยกับผมดีๆนะ แต่ถ้ามางอแง ง๊องแง๊ง เล่นแง่ ใส่กัน อันนี้ผมไม่คุยด้วย แถมจะเหยียบซ้ำอีก
จุดสำคัญอยู่ ตรงที่ ผอ พูดว่า "ถ้าคุณรับผิด ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา ถ้าไม่รับผิด ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และดูว่า สัพไฮเออร์จะทำยังไงต่อ " ข้อความนี้ ตั้งใจส่งสารให้คนโตโดยเฉพาะครับ555
ตอนเขาหันมาหาผม ผมยังงงอยู่เลยว่าเขาส่งสารอะไรให้ผม ถถถ
ผู้ประสานงานท่านนี้ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังมีปัญหาในหน่วยงานอยู่แล้วก็อาจจะเป็นคนที่กำลังจะได้รับตำแหน่งสำคัญ ส่วนผอ. ผมว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง อาจจะเห็นปัญหาตั้งแต่แรกแล้วและรอดูการแก้ปัญหาของผู้ประสานงานว่าจะจัดการอย่างไร หน่วยงานนี้ระดับบริหารน่าจะเก่งๆเขี้ยวๆทั้งนั้นแน่เลยสำหรับคุณโตเป็นคนที่ทำให้สถานการณ์มันชัดเจนว่าความสามารถในการจัดการของแต่ละคนเป็นอย่างไรฟังคนอื่นเล่ามันก็สนุกมาก แต่ถ้าเจอกับตัวเองผมคงเครียดหลาย😅😅😅
หน่วยงานนี้ผมกล้าพูดเลยว่าไม่เคยเจอใครเช้าชามเย็นชาม ดีลกันมาตั้งแต่ 2015 ไม่เคยเจอเลยแค่ก่อนโควิดเขายังมีชิลบ้างอะไรบ้าง แต่พ้นโควิดมาทุกคนทำงานเป๊ะและแม่นยำกว่าเดิมทุกฝ่าย
เห็นด้วยครับ ถ้าคุยกันก่อน ช่วยอะไรได้ก็ช่วยเหลือกัน
มองได้หลายมุม รอบแรกที่ ผอ.ไม่เซ็น เพราะต้องการให้ลูกน้องบริหารได้ด้วยตนเอง เผื่อที่อนาคตจะได้บริหารงานได้ แต่พี่โตจะกำหมัดหน่อย เพราะหัวหน้างานแท้ ๆ ไม่ปกป้องลูกน้ององค์กรเลย ส่วนรอบที่สอง ผอ. เซ็น แล้วตั้งเบิกทันที คิดว่าเขาน่าจะขอโทษที่ทำให้งานเกือบเสีย รักษามิตรภาพเอาไว้จ้างงานในคราวต่อไป แต่ถ้าเป็นผม คงจะพอแล้วองค์กรแบบนี้ ไม่เผาผีกันอีกเลย
คิดไปคิดมารู้สึกว่าโดนยืมมือจากทั้งคู่เลยแฮะ
@@ttasac ผมว่าไม่เชิงขนาดนั้น แค่เพียงรู้สึกว่าพี่โตกลายเป็นคนอยู่กลางความขัดแย้ง แบบงงๆ แต่ก็นั้นแหล่ะฮะยังไงก็รู้สึกกำหมัดอยู่ดี
เคยรับงานส่วนตัวจากระดับอธิบดีกรม...เค้าไม่คุยเยอะ เราแค่รับผิดชอบหน้าที่และงาน จากเงินที่เค้าจ้างให้เรียบร้อยตามที่เอกสารหลักฐานแค่นั้นจริงๆ รับผิดชอบคือรับผิดในส่วนผิด ส่วนชอบคือเสมอตัวแค่นั้นส่วนเรื่องแพะ ใครโยนขี้มาให้ ผมจะให้ส้นตีนกลับไปครับ 👌
จริงที่ฝ่ายลูกค้าเขาไม่ควรโยนความผิดมาที่ผู้ให้บริการ แต่คุณก็ไม่ควรขึ้นเวทีไปเคลียร์ทันที มีเวลาค่อยมาคุยกับเขาก็ได้ หรือเดินไปชี้แจง ผอ. นอกเวลาเองก็ได้ นี่ก็เหวี่ยงเร็วเกิน 😅
แล้ว… ถ้า ผอ. รู้ว่าผมอยู่ในห้องด้วยแล้วไม่ออกมาปกป้องตัวเองหรือขึ้นมาสวัสดี จึงคิดว่าผิดจริงและไม่ให้เข้าพบล่ะ ?
คลิปนี้ได้อรรถรสและแง่คิดเป็นอย่างสูงเลยครับ 😮
ผมว่ามันเป็นวิธีที่แกจะดูคนขึ้นมาใช้งานหละครับ ผอ.รู้อยู่แล้วว่า ผู้ชายคนนั้นผิด และถ้าเรื่องจบโดยที่คุณโต ยอมรับผิดตามที่เขาโบ้ย ok ผู้ชายคนนั้นคงไม่โดนโทษในครั้งนี้ แต่ ผอ.จะรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยโทษคนอื่นให้ตัวเองพ้นผิดซึ่ง "คงไม่ก้าวหน้าในการงานอีก" แต่พอผลออกมาแบบนี้ เขาก็เหมือนสอนลูกน้องตัวเองและเซ็นกำกับการเบิกให้คุณโตด้วยตัวเอง ซึ่งน่าจะได้เงินเร็วกว่าเดิม
ได้แล้ว ๆ
เรื่องราวที่มีประโยชน์ที่สุดครับ นึกถึงตอนทำงานประจำเลยเจอป้าที่เป็นสมาชิกกิ่งกาชาดเดือดร้อนเพราะผมติดต่อกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เพราะไม่มีคลื่่นสัญญาณ ทำให้สมาชิกคนนี้ไปเสียเวลาตรงจุดนั้น ผมก็ยอมรับว่าผิดที่ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายรับผิดชอบด้วยการจะลาออกจากงาน โดยแจ้งนายกกิ่งกาชาด ท่านให้หาคนมาแทนจนผมหามาแทนและลาออกมารับงานฟรีแลนซ์ ก็อยู่ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีโควิด19ระบาด หลังจากออกมาได้ไม่กี่เดือนครับ ฟังบ่นลูกค้านี้ทำให้ผมมีสติในการรับปากรับงานมากขึ้น ก่อนรับปากก็ถามรายละเอียดให้ดีถึงรับปากไม่งั้นไม่คุ้มครับ
เป็นตอนที่เดือดแบบคลาสสิกจริงๆขอบคุณคุณโตที่เอามาแบ่งปันครับ เพราะเดี๋ยวผมก็คงเจอแบบนี้เหมือนกัน
แบบนี้ผมทำงานมา 20 ปีเพิ่งเคยเจอครับ
@@ttasac 555555 อาจจะเพราะคุณได้ทำงานกับลูกค้าดีๆเป็นส่วนใหญ่มังครับของผมเพิ่งเริ่มทำงานของตัวเอง อาจจะต้องเจอลูกค้ากลุ่มที่งอแงมากหน่อยครับ
เป็นผมล้วงกระเป๋าตัวเองจ่ายสดไปละ
มีไรฟังตอนนอนละ😂
หา ep ฟังตอนถอกกระดอหรือทำการบ้านกับเมียได้หรือยัง ?
แนะนำมาหน่อยอิอิ 😏🤣
อย่าเชื่อว่ามีใครให้งานตลอดครับ มันไม่มีจริง
ใช่ใช่ใช่
❤
เมื่อก่อน ฟัง podcast พัฒนาตัวเอง เล่าเรื่อง ผี เกม สปอยหนัง ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ ก่อนนอนพอฟังเรื่องแนวนี้ สนุกไปอีกแบบ 😂แบบ เอาแล้วๆ มีเรื่องแล้ว โดนแน่มึงงให้ความรู้สึกเหมือน ดูละครคุณธรรม
ไม่มีอะละครคุณธรรม มีแต่ความชิบหายนี้กูจะหนีมันยังไง
555+@@ttasac
คนแบบนี้....ก็มีนิสัยแบบนี้....ต่อให้เป็นหัวหน้าคน....ก๋จะทำแบบนี้...โยนผิดให้คนอื่น...เอาดีเข้าตัว
เคยเจอเหมือนกัน คนแจ้งงาน มั่ว ไม่โปร ไม่ครบ ไม่ดูตารางเวลา ไม่นัดทีมงานฝั่งลูกค้าเรา cancel งานเลยปกติเป็นคนยังไงก็ได้แหละ แต่ไอ่คนนี้มันหลายหนละควรได้รับบทเรียนมาทำแบบนี้อีก ก็จะโดนอีกหึหึ😅😅พังพินาจ ชิบหาย เลื่อนงานจะได้จำ
ผมเน้นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ยิ่งชัดเจนก็ยิ่งรอด
ผมยังเด็ก อยากถามพี่ๆนิดนึงฮะ ในกรณีที่พี่ผช จะไม่โดนย้ายแผนกจากเหตุการณ์ข้างต้น พี่ผชเขาต้องจ่ายเงินเองไม่ใช่เซ็นเบิกหรอฮะ ผอ.ถึงจะไม่สั่งย้ายเขาในกรณีนี้ วิธีไหนคือการแก้ปัญหาที่มีโอกาสโดนผอ สั่งย้ายน้อยสุดครับ พอดีคิดตามแล้วไม่ได้คำตอบเลย < ในกรณีที่ ถ้าหากว่าเขาเลือก อีกทางนึง>
ผมไม่แน่ใจที่ ผอ. บอกว่า ไม่ได้เป็นคนสั่งย้ายแต่เขาไปเองมันจริงขนาดไหน แต่ที่มั่นใจคือถ้าลูกน้องเผลอทำชิบหาย นายจ้างหรือเจ้านายจะรู้สึกยินดีเสมอเมื่อคนทำก็ยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน ส่วนการรับผิดชอบก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายหรือหัวหน้าเช่นกันว่าจะให้เป็นอย่างไร เคสที่หัวหน้าบอกว่าไม่เป็นไรยอมรับแล้วก็ให้ผ่านไปและจ่ายในนามองค์กรตามปกติก็มี เคสที่หัวหน้าบอกว่าคุณพลาดก็ต้องรับผิดชอบเองเผื่อรอบหน้าจะได้ไม่พลาดอีกก็มีเช่นกัน
คนประสานงานหลุดปรี๊ดใส่มา งานยุ่ง หลุดเช็คมันก็เกิดขึ้นได้ ผมเคยเจอแต่ก่อนจะปรี๊ดใครควรจะรีเช็ครายละเอียดในมือเสียก่อนไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่น แต่ถ้าพลาดปรี๊ดไปแล้ว แล้วควรรับผิดชอบเอง ขอโทษไป และยืดอกรับผิดชอบแมนๆ จ่ายค่าผิดพลาดเอง มันก็อาจจะจบดีกว่านี้สำหรับทุกคนทุกอย่างมีบทเรียน แต่บทเรียนควรเริ่มจากความถูกต้องก่อนเสมอแล้วหลังจากนั้นเราจะอ่อนช่วยโค้งแก้ไขให้กันได้ในงานต่อๆไป ”ไม่มีคุณก็ไม่มีเรา“ 😊
อยากรู้ชื่อหน่วยงานเลย
ถ้าบอกเงินคงไม่ออก แถมโดนฟ้องด้วย
ปกติ ของคนที่ ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่ได้ใช้เงินตัวเองครับ เช่น หนาวยงานราชการ สหกรณ์ และ อื่น ๆ ฝ่ายจัดซื้อ นี่ ตัวเบ่งเลย ไม่ใช่เงินตัวเองที่ซื้อ ของ
ผมอาจโชคดีที่ไม่เคยเจอตจัดซื้อเบ่งเลย
ได้ใจผมนะ คุณโตยกนิ้วให้ อยากเจอตัวเปนๆ จัง
ผมทำงานสาขาอื่นนะ ทุกครั้งที่เจอพวกคนประสานงานโบ้ย จะคิดทุกครั้ง คนพวกนี้โตมายังไงเนี่ย ทำผิดยอมรับผิดเท่ห์กว่าตั้งเยอะ ตอนผอ. ถาม เอ็งแค่บอกว่า "ผมผิดเอง แต่เดี๋ยวค่าใช้จ่ายเพื่มเติมผมรับผิดชอบเอง" แค่เนี้ย ใครจะทำอะไรเอ็งได้ ปัดโถ่ว
บางทีอาจเป็นเพราะลืมจริง ๆ แต่เผลอพูดไปแล้วถอยตอนนี้คงรู้สึกขายหน้า
โดนย้ายเพราะเงิน 7 พันนี่นะ
@@Popthebug ผอ. บอกผมว่าไม่ได้ย้าย แต่เขาย้ายไปเอง ดีงนั้นอาจมีพลังงานมืดซ่อนอยู่ก็ได้
@@ttasac แสดงว่า ผอ. เขาก็ไม่เอาไอ้คนนี้เหมือนกันพี่ อยากให้มันไปๆจะแย่แล้วแหละ จากที่ฟังมา 20 กว่านาที คือรู้เลย สันดานมันเวลาทำงานเป็นยังไง
โตยังจะได้งานอื่นๆต่อมั้ย หรือจบเลยแค่นี้
ผอ น่าจะไม่ก้าวก่ายงานของลุกน้องนะ ให้รับผิดชอบกันเอง แล้วผอ ก็ไม่มีเวลามานั่ง ตรวจรายละเอียด เขาคงให้มันเป็นระบบ
ผมว่าเป็น สไตล์จริงๆครับ และ ตามเนื้อผ้า ก็ มีคนผิดแหละ แต่ควรเจรจากันก่อน ซึ่งสาย ฟรีแลนซ์ จะเข้าใจ และยอมได้ในหลายๆเรื่อง แต่ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผม ผมดิวครับ😂 งานหายาก ปล.ไใ่อยากให้พี่โตได้เจอเรื่องราวๆนร้หรือเหตุการณ์ใดใด อืกเลย มันเสียพลังงานเยอะมาก และกำลังใจในการทำงานด้วย เป็นกำลังใจครับ🎉
ไม่ได้เจอบ่อยครับ นี่คือส่วนน้อยไม่ถึง 10% ของลูกค้าทั้งปี แต่อาจเป็นเพราะอายุเริ่มเยอะเลยไม่ค่อยเสียกำลังใจและพลังงานเท่าไหร่ มองมันว่ามันก็เป็นอย่างนั้นเช่นนั้นไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้อง
นอนถอกกระดอ😂😂😂😂5555555555
ผมว่าผมอาจเข้าใจ ผอ.คนนี้นะคับ เป็นผมก็อาจจะทำแบบเดียวกัน คือ อาจเป็นเพราะ ผอ.กำลัง Stun หรือยังไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาก่อนหน้าว่าเกิดจากสาเหตุใต และถ้าผู้ใหญ่จะออกรับกับความผิดพลาดที่ลูกน้องทันที ก็อาจถูกมองในทางไม่ดีกับลูกน้องคนอื่น แผนกอื่น เป็นผมก็อาจให้ลูกน้อง คนที่ดิวงานกับคุณโต แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อน แต่อาจเรียกลุกน้องคนนี้ไปคุยว่าทำไมข้อมูลไม่ตรงกัน กับ Supplier ที่ทำแบบนี้เพราะ1.เพื่อให้เค้าทราบว่า คนที่สร้างปมเองก็ต้องหัดแก้เองก่อน2.ดูความพยายามในการแก้ไขปัญหา และสกิลการแก้ปัญหาของลูกน้องคนนั้นๆ3.เพื่อให้เป็นประสบการณ์และการเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเค้าเอง ในเมื่อความเสียหายอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าไม่ได้มีความเร่งด่วนในการตัดสินใจ ก็มีแต่ต้องใจเย็น ใจเย็นดู คิดหาทาง เลือกวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา และสุดท้ายองค์กรที่ทำงานก็ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายอยู่แล้วคับ เพราะมันคือเรื่องงานที่ลูกน้องทำงานให้หน่วยงานแต่เกิดผิดพลาดเสียหาย ไม่ใช่ทำเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวคับ ผมคิดแบบนี้นะ
ผมเห็นต่างครับ.1. เหตุการณ์นี้จะอ้างว่ายังไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาก่อนหน้าว่าเกิดจากสาเหตุใดนั้นไม่ได้ เพราะผมมีหลักฐานลายลักษณ์อักษรครบถ้วน สามารถย้อนขั้นตอนได้ และสามารถสรุปได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากใคร.2. ถ้าหลักฐานแน่นหนาชัดเจน ผมเห็นว่าหาก ผอ. ตัดสินใจทันทีให้ส่งใบแจ้งหนี้ค่าไมโครโฟนพร้อมค่าเร่งด่วนตามระบบแล้วค่อยถามคนประสานงานเป็นการภายในว่าทำไมถึงตกหล่น ก็ไม่เห็นจะเป็นภาพไม่ดีกับแผนกอื่นหรือลูกน้องคนอื่น ปัญหามันเกิดขึ้นแล้วและสาเหตุถูกชี้ชัดแล้วคนที่เป็นหัวสุดของหน่วยงานควรตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะนอกจากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะผู้นำแล้วยังสามารถรักษาขวัญกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นด้วย ผมคิดว่าการที่ ผอ. หลังจากเห็นเอกสารทั้งหมดยังบอกให้คนประสานงานเลือกที่จะรับหรือไม่รับผิด มันดูเหมือนเลือกที่รักมักที่ชังต่อหน้าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ.3. สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผม ผู้ประสานงาน และ ผอ. บนเวที มันผ่านการมอบหมายให้แก้ไขปัญหาไปแล้วและกำลังเข้าสู่การหาผู้รับผิดชอบ ผมเชื่อว่าวิธีที่ได้ผลสุดคือตัดสินใจทันทีจากหลักฐานที่มีชัดเจนให้ส่งใบแจ้งหนี้อีกใบตามระบบ แต่ยังไม่ต้องพูดอะไรกับคนประสานงาน.4. ประสบการณ์และการเรียนรู้ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ ไม่จำเป็นต้องได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
ผมก็ไม่รู้นะว่าคุยกันแบบไหน อุปกรณ์ชิ้นสำคัญถึงได้หลุดจากลิสต์ได้ ทั้งๆที่มันควรจะต้องรีเช็คทั้งสองฝ่าย ตามที่ผมเข้าใจคนจ้างคงใหม่ ยังไม่เป็นงาน และคิดว่าออแกไนคงจัดแจงให้หมดแล้ว ก็เลยไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด แต่การโบ้ยความผิดให้อีกฝ่ายหมดเลย นั่นก็เกินไปส่วนคุณเองถ้ายึดตามเอกสารก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แต่สงสัยอย่างเดียวว่าทั้งสองฝ่ายไม่บรีฟงานกันก่อนหรอครับ ว่าต้องใช้อะไร เท่าไหร่ แบบไหน เมื่อไหร่เอาจริงๆ บางคนเขาก็ไม่รู้จริงๆนะว่าต้องใช้อะไรบ้าง เช่นไปซื้อกล้อง แล้วไม่รู้ว่าต้องซื้ออแดปเตอร์ ซื้อเมมโมรี่ด้วย มันถึงต้องมีคนช่วยแนะนำยังไง หรือถ้าจะผิดก็ผิดแบบตาใส
เป็นคำถามที่ดีครับ คำตอบคือผมไม่แคร์และขี้เกียจมาก.ก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นคนประสานงาน เจ้าหน้าที่คนก่อนเป็นสุภาพสตรีซึ่งจะส่งกำหนดการมาให้ผมดูเพื่อช่วยกำหนดอุปกรณ์ที่จำเป็นและแนะนำสิ่งควรใช้ทุกครั้ง พอเปลี่ยนคนจึงกลายเป็นส่งรายการของที่ต้องใช้มาและเสนอราคากลับไป ดังที่ได้เล่าไว้ตั้งแต่ตอนต้น แถมกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรมาในอีเมล ดังนั้นผมจะยึดจากสิ่งที่เค้าแจ้งมาเท่านั้น.ทำเยอะเกินไปในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ หลายครั้งเค้าจะคิดว่าเราเสือกครับ.สาเหตุที่ผมไม่บรีฟกับลูกค้าทุกรายเพราะลูกค้าหลายรายไม่ต้องการความเห็นจากผม แต่ถ้าเป็นเคสของสุภาพสตรีคนก่อนหน้าผมก็ไม่บรีฟอยู่ดีแต่จะ Pre-Production ให้เลย ที่สำคัญอีกอย่างคือการบรีฟงานไม่ใช่สิ่งที่บุคคลภายนอกอย่างคู่ค้าจะทำได้ จำเป็นต้องดูบริบทให้ชัด เช่น ถ้าถูกจ้างมาเป็นอีเวนท์ออกกาในเซอร์ จะบรีฟเท่าที่จำเป็นซึ่งส่วนใหญ่คือหน้างานเท่านั้น เพราะบรีฟคือการสรุปคร่าว ที่เหลือก็เหมือน Supplier/Prrovider จะเป็นประชุม, Pre-Production, Project Planning ที่ต้องทำอย่างเป็นกิจลักษณะ มี MOM ชัดเจนมากกว่า
มันไม่มีให้กด เลิฟ อ่ะครับชอบจริงๆ "นอนถอก กระดอ อยู่ในห้อง"ดูกันเอง จริงใจดีครับชอบมากๆๆๆๆ
ช่วงเวลาสำคัญของชีวิตเลยนะ
ในมุมผม พี่ผอ. คนนั้นพูดบนเวทีก็ถูกนะครับ ตามลำดับขั้น คนผิดคือคนติดต่อพี่ การที่เค้าพูด คือ รู้ว่าลูกน้องผิด แต่แค่เรียกร้องให้เค้ารับผิดชอบแบบลูกผู้ชายของลูกน้องคนนั้น
ผมเห็นต่างนะ เพราะเวลาที่ลูกน้องผมไปทำฉิบหายในงานลูกค้า ผมในฐานะเป็นเจ้าของและนายจ้างต้องรีบจัดการแก้ไขปัญหาและรับผิดชอบทันทีเมื่อพิสูจน์ได้ เพราะเวลาทำงานไปในนามธุรกิจ ถ้าพลาดก็ถือว่าพลาดกันหมดแต่ถ้าไปในนามบุคคลไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ตัวใครตัวมัน
@@ttasacถูกต้องครับ approved = รับผิดชอบ
@@ttasac มุมมองของคุณโตคือมุมมองเจ้าของครับ แต่ผอ.มองในฐานะผู้บริหาร องค์กรไม่ใช่ของเค้าแค่ถูกจ้างมาบริหาร เรื่องผิดพลาดนี้จึงไม่กระทบกับเค้านัก ยิ่งดีเลยจะได้มีเหตุผลจัดการคนนั้น
@@zexyt3043 ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
จริงๆๆ เเล้วเเต่คนจะคิด ในเเง่มุมของตัวเองเพราะ เเต่ สำหรับตัวผม คนกลาง ถ้าคุณ เป็น ทีมงาน มืออาชีพ เเละมีประสมการ์ในการทำงานผ่านคนมาเยอะ ทำงาน Projectsมากพอสมควร คุณก็น่าจะ เเนะ นำเจ้าของงาน ว่า ขาดอะไร, เสริมตรงไหน, ยังไง เช่น "คุณ ครับ ผมว่า ไมล์ตัวไหนยังขาด หรือ ควรจะเพิ่ม ไมล์ ส่วนไหนตรงไหนเข้าไป คุณว่าไงครับ ? เพราะเขาจ้างคุณมาทำไห้งาน ออกมาสมบูรณ์ในส่วนที่เจ้าของงานไม่มีความรุ้ความชำนาญ คาดไม่ถึง หรือ เขาอาจจะคิดว่าคุณควรจะรุ้งานดี มีอะไรคุณก็คงเเนะนำ สมมุติละกันว่า มีคนมาจ้างให้คุณสร้างบ้าน เจ้าของบ้านจะรุ้ไหม ว่า ต้อง ใช้ ปูน ไช้ ไม้ ใช้อิฐ หินดินทราย เพิ่ม เท่าไร อะไร ยังไง เขาไม่รุ้หลอกครับเพราะมันคือหน้าที่คุณ เขาบอกคุณได้ เเค่ อยากได้ บ้านประมาณนี้ ชอบเเบบนี้ สไตลนี้ประมาณนี้ ที่เหลือ คือหน้าที่คุณ คุณ ควร จัดเตรียมเเบบ มืออาชีพ ในสายอาชีพเฉพาะทางให้กับลูกค้าคุณ ไม่งั้น ถ้าเจ้าของรู้ หมดทุกอย่าง เขาจะมาจ้างคุณทำไมไห้เสียเงินใช่ไหมครับ เเละต่อมาคุณก็อ้างว่า ลูกค้าไม่ได้ บอกให้ผมซื้อปูน ซื้ออิฐ ไม่มีในสํญญา คุณเจ้าของ ถาอย่างนั้น คุณ ต้องจ่ายผมเพิ่ม ในอัตรา เร่งด่วน คุณว่ามัน ยุติธรรมกับเจ้าของที่มาจ้างคุณไหมครับ? เเต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณบอกเขาว่าต้อง เพิ่มไมล์ เเต่ เจ้าของงานบอกไม่เอา เออ อันนั้น เละที่คุณ สามารถอ้างได้ว่า เเนะนำไปเเล้ว เเต่ เจ้าของไม่เอา ผมจึงขอ คิดเงินเพิ่ม ในภายหลัง ..ถ้าไม่ทำเเบบนี้ ไม่งัน พวกคุณ ก็ถือโอกาศคิดเงินกับ ลูกค้าาา ไป เสีย หมดทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ เเนะนำ หรือบอกเขาก่อนตั้งเเต่ ตอน ทำราคา เสนองานครั้งเเรก? เเค่ไมล์ตัวเดียวมันไม่ควรจะมาเปฺ็นเรื่องอะไรไหย่โต ถึงกลับต้องประกาศศักดิ์ศรีเอาเป็น เอาตาย โลกความเป็น จริงมีการโกง เป็น สิบๆ พันๆๆล้าน มากกว่านี้ มากครับคุณ
เป็นคำถามที่ดีครับ คำตอบคือผมไม่แคร์และขี้เกียจมาก.ก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นคนประสานงาน เจ้าหน้าที่คนก่อนเป็นสุภาพสตรีซึ่งจะส่งกำหนดการมาให้ผมดูเพื่อช่วยกำหนดอุปกรณ์ที่จำเป็นและแนะนำสิ่งควรใช้ทุกครั้ง พอเปลี่ยนคนจึงกลายเป็นส่งรายการของที่ต้องใช้มาและเสนอราคากลับไป ดังที่ได้เล่าไว้ตั้งแต่ตอนต้น แถมกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรมาในอีเมล ดังนั้นผมจะยึดจากสิ่งที่เค้าแจ้งมาเท่านั้น.ทำเยอะเกินไปในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ หลายครั้งเค้าจะคิดว่าเราเสือกครับ.สาเหตุที่ผมไม่แคร์และขี้เกียจเพราะลูกค้าหลายรายไม่ต้องการความเห็นจากผม แต่ถ้าเป็นเคสของสุภาพสตรีคนก่อนหน้าผมจะ Pre-Production ให้เลย เพราะเขาแสดงให้ผมรู้ว่าต้องการและให้คุณค่าคำแนะนำและความคิดเห็นของผม.ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง .อีกอย่างต้องแยกให้ออกระหว่าง “เช่า” และ “บริการ” เพราะเช่าคือเอาไปใช้เป็นชิ้นและบริการคือไปจัดแจงทำให้โดยลูกค้าเป็นฝ่ายให้ความคาดหวัง เมื่อนั้นหากคู่ค้าคิดว่าไม่ถูก ไม่เหมาะ หรือเป็นไปไม่ได้ก็ต้องบอกเพราะไม่มีใครอยากทำงานแล้วเหนื่อยเปล่าแถมต้องรับผิดชอบอีก.สรุปคือผมไม่แคร์และขี้เกียจแนะนำ ช่วยคิด บรีฟ ลูกค้าถ้าเขาไม่แสดงออกให้ผมรู้ว่าเขาไม่แน่ใจหรือไม่ชัวร์ แต่ถ้าแสดงออกชัดเจนนี่ยินดีช่วยอย่างยิ่ง และต้องแยกระหว่างเช่าและบริการให้ขาดเพราะบทบาทคู่ค้าในแต่ละงานมันถูกระบุชัดจากการแยกนี้.ปล. คุณยกตัวอย่างรับเหมาก่อสร้าง มันคือจ้างทำของซึ่งเป็นงานบริการ ไม่ใช่เช่าอย่างกรณีที่เกิดขึ้นใน VLOG ตอนนี้.บทบาทคุณไม่ใช่คนกลาง คุณเป็นผู้ชม VLOG ของผมและแสดงความเห็นของตน แค่นั้น.ศักดิ์ศรีสำหรับผมสำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่ารับผิดในสิ่งที่ผมไม่ได้ก่อ ทุกการตัดสินใจนำมาซึ่งผลและความรับผิดชอบเสมอ.เอ้อใช่ ! ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้ารายนี้ต้องการอะไรในเมื่อเค้าส่งมาแต่สิ่งที่เขาต้องการใช้ ไม่มีกำหนดการ ไม่มีการประชุม ไม่ให้รายละเอียดอย่างอื่นเลย ? สงสัยต้องนอนถอกกระดอชักว่าวหาทางลมแล้ว
คุณจะมาเทียบแบบนี้ก็ไม่ถูก จ้างคนมาสร้างบ้าน คนสร้างบ้านเป็นคนคิดคำนวณเรื่องวัสดุ มันไม่เหมือนกัน นี่เค้าจ้างมาเบิกของมาติดตั้งของเฉยๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของ supplier ที่จะต้องมาแนะนำ ถ้าจะแนะนำก็คือแค่ด้วยเหตุผลว่าหวังดีเท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่า supplier จะต้องมาแนะนำทุกคน ถ้าจะให้ทำนอกเหนือจากแค่จัดหาอุปกรณ์และติดตั้ง ก็ต้องบอกให้ชัดเจนตั้งแต่แรกพวกประเภทโทษคนอื่นอีกแล้ว อะไรที่ตนไม่มีความรู้ เจ้าตัวต้องรู้ตัวเองว่าไม่รู้แล้วหาคนช่วยเอง ไม่ใช่มาโทษคนที่เราจ้างมาที่ไม่ได้ตกลงกันในส่วนที่จะโทษ ก่อนจะโทษคนอื่นคิดเยอะๆก่อนว่ามีส่วนไหนที่เกิดจากเราบ้าง
@@ustinho นั้นไง เจออีกเเล้วพวกเเบบนี้ เสร็จๆๆ จบจบไปรับเงิน ในฐานะสถาปนิค เจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ กูไล่ตะเพือด เเละจับใส่ Black lists หมด จบนะ
@@ustinho มาอีกเละพวกเเบบนี้ รับงาน จ่ายเงิน จบจบ เสร็จๆไป ในฐานะสถาปนิคเจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ โดยเฉพาะไอ้พวก Subcontract ในส่วน-v'ระบบเครื่องเสียง กุไล่ตะเพิด เเถมจับใส่Blacklist ของบริบัท หมด จบนะ ใครก็ตามที่ใช้ @ustinho (Ps.ไม่ได้หมายถึงเจ้าของ clipนี้ นะครับ )
@@ustinho @ustinho มาอีกเละพวกเเบบนี้ รับงาน จ่ายเงิน จบจบ เสร็จๆไป ในฐานะสถาปนิคเจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ โดยเฉพาะไอ้พวก Subcontract ในส่วนระบบเครื่องเสียง กุไล่ตะเพิด เเถมจับใส่Blacklist ของบริบัท หมด จบนะ ใครก็ตามที่ใช้ @ustinho (Ps.ไม่ได้หมายถึงเจ้าของ clipนี้ นะครับ )
ฟังจนจบผมก็ว้าวเหมือนกัน 😅
นั้นละฮะร่วมงานกับพวกข้าราชการก็เลี่ยงไม่ใด้หรอกว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้😂😂
เป็นวิดีโอ Vlog ep ที่สนุ๊กมาก และเป็นวิดีโอที่ผมได้ตั้งใจฟังตลอด 24.30นาที ของคุณโต....ครับ
งานนี้ชื่นชมผอจัดการได้ ดีมาก😂
สนุกมากครับ
ผอ เท่ห์ / อีกคนก็เฮี้ยจับใจ ชอบจังหวะขู่ คุณโต มันต้องอุปนิสัยอย่างไร ถึง คิดมาขู่ หลังจากที่โยนความผิดให้คนอื่นแบบนั้น สุดท้ายจนมุม ขอให้ช่วย
ผมคิดว่าที่เขากดดันผมตั้งแต่ตอนโทรคุย น่าจะเป็นเพราะอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากและเขาประกาศไปแล้วว่าเป็นความผิดของผม ก็คงต้องไปให้สุดนะ
ชอบความตรงไปตรงมาและรักในเกียรติ ศักดิ์ศรีของผู้ประกอบวิชาชีพของคุณโตมากครับ
ไม่ใช้อารมณ์
ส่วนตัวมองว่าผอ.จ้องจะเชือดคนนี้อยู่แล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นเลยดันไปสุดทาง ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย
ep บ่นลูกค้าคือเดอะเบสของช่องเลย
ผมว่า ผอ มองทะลุแต่แรกแล้วตั้งแต่เห็นอีเมลล์ เลยไม่ได้โทษใครแต่แรก และถือโอกาสดูกึ๋นลูกน้องคนนี้ไปในตัวว่าจะใช้วิธีไหนแก้ปัญหา
ติดตามทุกบ่นลูกค้าครับ
ไม่แปลกใจทำไมถึงได้เป็น ผ.อ. เฉียบขาดในการควบคุมลูกน้อง การตัดสินใจ การรับมือปัญหา การโยนความผิดให้คนอื่นเนี่ยไม่อาจมีอนาคตที่ดี
อะหือ ฟังละสุด หน่วยงานโคตรสุด การบริหารลูกน้องอย่างเยือกเย็นจนน่ากลัว
เจอแบบนี้สุดๆครับ
สุดจัด
ลูกค้า ก็มีแปลก ๆ แปลกเสียจนไม่คิดว่า คนพวกนี้ มันรวยมาได้ยังไง…..
ขายที่ป่าว
G ใช่ไหมครับ งานเกี่ยวกับ หุ้นประจำปีและแผนงานต่อไป (เดา)
Face culture แบบไทยๆ ครับ เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
ชอบช่วงนี้มาก ๆ ได้แง่คิดและเป็นประโยชน์ในการทำงานมาก ๆ ครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับที่แบ่งปันประสบการณ์
ผอ.พยายามสอนทุกคนทางอ้อม
12:50 ในฐานะที่ผมทำงานรัฐวิสาหกิจมานาน ขอบอกว่า ผอ. ทำถูกต้องแล้วครับ เพราะ ความรับผิดอยู่ที่ลูกน้องผู้ประสานงานกับคุณโตครับ ไม่ใช่ ตัว ผอ.
ผอ. เซ็นต์เอกสารตามลำดับชั้น แต่ไม่ใช่ผู้ต้องรับผิดชอบในทุกเรื่องครับ คนที่รับผิดชอบหน้างาน ตรวจทาน สอบทาน คือลูกน้อง ผอ. นะครับ
ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ถ้าลูกน้องคุณโต ทำผิดพลาดลืมของลูกค้าเอาไปไม่ครบ ความผิดพลาดอยู่ที่ใคร แม้คุณโตจะไปด้วย แต่คุณโตไม่ได้อยู่ในฐานะต้องเช็คของขึ้นรถทุกชิ้นใช่ไหมครับ? เพราะหน้าที่เช็คของเป็นของลูกน้อง ถึงคุณโตจะบอกว่าคุณโตยินดีรับผิดชอบแทนโดยวกรถขับกลับไปเอาให้ แต่สิ่งที่ผมถามให้คุณโตคิดตามว่า "ความผิดเป็นของใคร" โอเคนะครับ
ผมเห็นต่างครับ
.
ถ้าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากลูกน้อง ผมในฐานะเป็นเจ้าของธุรกิจและเป็นนายจ้างต้องรับผิดชอบและแก้ไขปัญหานั้น แล้วไปตรวจสอบปัญหาเป็นการภายในภายหลัง เพราะเวลาทำงานข้ามองค์กรฝั่งคู่ค้าไม่สนใจว่าใครหรืออะไรของเราเป็นสาเหตุ เพราะได้ตกลงร่วมงานกันในลักษณะ “องค์กร-องค์กร” ไม่ใช่ “บุคคล-บุคคล”
.
ตำแหน่งผู้อำนวยการบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าอำนวยให้หน่วยงานดำเนินการได้ตลอดต่อเนื่อง หากมีปัญหาใดเกิดขึ้นและพิสูจน์ทราบว่าเกิดจากคนใต้บังคับบัญชา ผอ. แม้ไม่ทราบเรื่อง อย่างน้อยต้องตัดสินใจแก้ปัญหาเพราะเป็นเรื่องขององค์กรและตัวเองคือหัวสุด
.
ความคิดเห็นผมคือถ้า ผอ. ท่านนี้ไม่ได้เซ็นใบเสนอราคาพร้อมประทับตราองค์กรตอบกลับมา (เช่นกรณีลาและให้รองรักษาการแทน) จะบอกว่าไม่รับทราบและไม่รู้นั้นถูกแล้ว แต่ถ้าเซ็นนั่นแปลว่ารับทราบแล้วไม่ว่าเค้าจะจำเนื้อหาได้หรือไม่ก็ตาม การลงชื่อในเอกสารคือการ “รับ” เสมอ และการประทับตราองค์กรแสดงให้เห็นชัดเจนกว่าเดิมว่า “องค์กร” ก็ “รับ” ถ้าลงชื่อแล้วประทับตราแล้วบอกฉันไม่รู้ฉันไม่ทราบขึ้นศาลกันไปเสียหมดนะครับ หากมีกรณีพิพาทตอนฟ้องศาลก็ฟ้องได้ทั้งองค์กรและผู้เซ็นนั่นแหละ
.
จากกรณีตัวอย่างที่คุณยกมาข้างต้น ถ้าผมรับผิดชอบโดยการขับรถกลับไปเอามา ไม่ได้เป็นการรับผิดชอบแทนแต่อย่างใด เพราะหากความผิดเกิดขึ้นจากอะไรหรือใครที่มาจากองค์กรของผม ผมในฐานะเจ้าขององค์กรต้องรับผิดชอบด้วยอยู่แล้ว
.
ท้ายสุดเพื่อตอบคำถามของคุณที่ว่า “ความผิดเป็นของใคร” ผมตอบได้ง่ายมากครับ
.
“หน่วยงาน ไม่ใช่คนประสานงาน” ครับ
ขออภัยด้วยที่หลายคำอาจใช้คำอาจไม่ค่อยถูกใจคุณโตเท่าไรนัก ขออภัยด้วยครับ
@@ttasac
ข้อหนึ่ง คุณโตรู้สึกต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะคุณโตเติบโตมากจากผู้ปฎิบัติ มาจนถึงเจ้าของกิจการ รู้กระบวนการทุกขั้นตอนครับ ดังนั้นถ้ามีขั้นตอนใดก็ตามผ่านมาถึงคุณโต แล้วเกิดความผิดพลาดออกไป ไม่ว่าส่วนที่ผิดพลาดนั้นจะเกิดจากคุณโตหรือไม่ก็ตาม คุณโตต้องร่วมรับผิดชอบในฐานะหัวหน้างาน ถูกต้องครับ ถ้าผมอยู่ในลักษณะของคุณโต ผมก็ยินดีรับผิดชอบเช่นเดียวกัน ถ้าเกิดความเสียหาย ผมก็ยินดีควักเงินในฐานะเจ้าของกิจการ จ่ายออกไป ก็จบแค่ตรงนั้นครับ
ข้อสอง ผอ. น่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเครื่องเสียงบนเวทีเลยเท่าที่ทราบ การมอบหมายงาน หมายถึงการมอบหมายความรับผิดชอบในทุกภาคส่วนของเนื้องานไปด้วย ทัั้งเรื่อง วงเงินงบประมาณ การเบิกจ่าย การเช็คสเปค จัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง ผมก็ว่า คนที่ประสานงานเขาก็ทำการบ้านมาค่อนข้างดีเรื่องสเปค ติดแค่เขาพลาดเรื่องไมค์โครโฟน ซึ่งผมก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายงานของคุณโต และอีกอย่างหนึ่งที่รู้สึกไม่ดีคือ เขาโยนแพะให้คุณโต นั่นไม่ถูกต้องครับ แต่การที่คุณโตถือเอาเหตุนี้ไปคุยกับ ผอ. โดยตรงเลยผมก็ว่าไม่ถูกต้องเช่นกัน เพราะ เขาแทงเรื่องมาที่ผู้ประสานงานกับคุณโตทั้งหมดแล้ว รวมถึงการทำงบประมาณ เบิกจ่าย และอื่นๆ ด้วย ครับ
ข้อสาม อย่างน้อยที่สุด ผอ. ก็รับผิดชอบ โดยหลังจากนั้นก็อนุญาตให้คุณโตเข้าพบ และเซ็นต์เอกสารลัดขั้นตอนให้ ทั้งที่จริงแล้ว การที่ เวลาเอกสารไม่ถูกต้อง Vendor เดินดุ่มๆ เข้าห้องผอ. เลย ทั้งๆ ที่ฝ่ายการเงินแจ้งวิธีการดำเนินการแก้ไขที่ถูกต้องสำหรับการเบิกจ่ายให้แล้ว ผมคิดว่าไม่เหมาะสมเท่าไรครับ? คุณโตลองคิดดูนะครับ ถ้า Vendor ทุกคน ทำแบบคุณโต เดินเข้าห้อง ผอ. เลย (ทั้งที่ฝ่ายการเงินแจ้งวิธีการแก้ไขที่ถูกต้องให้แล้ว) มันเป็นภาพที่ถูกต้องหรือไม่? อย่างไร? เอางี้แล้วกัน ผมเป็นเด็กบัญชีเองแท้ๆ เวลาแก้ไขเอกสาร ยังต้องแทงเรื่องตามระบบเลยครับ ผมทำแบบคุณโตไม่ได้นะครับ
หากข้อความของผมมีอะไรทำให้คุณโตไม่สบายใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
@@chayaphonthongauthaisri8177 ที่คุณพิมพ์มาทั้งหมดผมรู้ทันทีเลยว่าทำไมหน่วยงานราชการจึงเป็นที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์สำหรับคนไทยหลายกลุ่ม เพราะแม้เป็นสถานการณ์ไม่ปกติยังต้องรักษาลำดับขั้นและสายการบังคับบัญชาและเหมือนคุณยังมองไม่ขาดนะว่าการร่วมงานในครั้งนี้คือ “องค์กร-องค์กร” นั่นหมายความว่าหากสถานการณ์ไม่ปกติคู่ค้าสามารถเดินเข้าไปติดต่อกับใครก็ได้อย่าว่าแต่ ผอ. เลย ผมจะเดินไปหาหัวหน้าฝ่ายบัญชีเพื่อถามเรื่องก็ยังได้
.
bureaucracy และการสั่งงานจากบนลงล่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำและเป็นปกติ แต่หากสถานการณ์ไม่ปกติผมเห็นว่าต้องย่นย่อสายการบังคับบัญชาลงเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไม่งั้นเรือล่มตายห่าพอดี อีกอย่างบุคคลภายนอกในนามองค์กรคู่ค้าเขาไม่สนใจหรอกครับว่าสายการบังคับบัญชาของคุณเป็นอย่างไรระเบียบขั้นตอนเป็นอย่างไร เวลามีสถานการณ์ไม่ปกติเค้าก็พุ่งเข้าหาคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เซ็นเอกสารกันทั้งนั้น
.
ถ้าผมยังยึดตามสายการบังคับบัญชาแล้วติดต่อตามขั้นตอนตรงตัวบุคคลเป๊ะตามที่คุณระบุ คงต้องเริ่มจากส่งหนังสือชี้แจงเข้าไปยังหน่วยงานจ่าหน้าถึงผู้ประสานงานร่วมกับ ผอ. แล้วต้องไล่โทรศัพท์ตามธุรการหรืองานสารบัญว่าเรื่องของผมถึงไหนแล้วเซ็นลงมาได้ผลเป็นอย่างไร ผมมองว่ายืดยาวและไร้ประสิทธิภาพ แถมทำให้เสียเปรียบต่อการชี้แจงซึ่งหน้า ถ้าแย่กว่าเดิมคือส่งหนังสือไปแล้วไม่ตอบกลับพร้อมเบิกเงินไม่ได้ก็ถึงศาล
.
ถ้าผมทำตามฝ่ายการเงินให้กลับไปทำเอกสารมาส่งใหม่ ทำให้รับเงินช้าลงทั้งที่เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของผมเลย ผมมองว่าไม่ยุติธรรม เอกสารผมไม่ได้ผิด ปัญหาภายในของหน่วยงานลูกค้าต่างหากที่ผิด
.
ถ้าผมเข้าไปถึงห้อง ผอ. แล้วพลิกล็อกไม่ให้เข้าพบเรื่องถึงศาลแน่ เพราะหน่วยงานละเมิดข้อตกลงการชำระที่ระบุไว้ในใบเสนอราคา
.
ดังนั้นสิ่งที่ผมตัดสินใจทำในสถานการณ์นี้คิดว่าเหมาะสมแล้ว เพราะผมเสียเปรียบน้อยที่สุด ได้เงินตรงเวลา และไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้ประสานงานคู่กรณี
.
บอกตามตรงว่าผมโกรธ ไม่ได้โกรธคุณแต่โกรธที่ระบบการทำงานที่คุณอ้างถึงมันเซฟตัวเองเกินไป อืดอาดยืดยาดเชื่องช้าเพราะชอบหลบอยู่หลังระบบ คู่ค้าเป็นตายอย่างไรไม่รู้ฉันมีระบบอยู่ฉันโบ้ยได้ว่าสั่งไปแล้วไม่ใช่เรื่องของฉันอีกต่อไป ดังนั้นฉันจึงปลอดภัย
.
สรุปคือถ้าสถานการณ์ปกติผมยินดีทำตามระบบ แต่ถ้าไม่ปรกติผมพุ่งเข้าหาคนเซ็นเอกสารทันทีและไม่แคร์ด้วยว่าจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีหรือไม่ เพราะผมคือบุคคลภายนอกที่เป็นตัวแทนขององค์กรคู่ค้า ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม bureaucracy หากยังซื่อปฏิบัติตามอยู่มีแต่จะเสียเปรียบ แถมการตัดสินใจเช่นนี้ทำให้ลดโอกาสต้องขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย
ผมขอยกตัวอย่างเป็นตุ๊กตา โดยให้ผมเป็นตัวแทนเองแล้วกันครับ
ข้อหนึ่ง ถ้าผมเป็น Vendor และรับทราบตั้งแต่ก่อนทำธุรกิจกับหน่วยงานดังกล่าวแล้วและทราบว่าหน่วยงานประเภทนี้จะมีลำดับขั้นตอนการทำงานที่มีระบบแบบแผนที่วางระเบียบกำกับ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเลือกทำธุรกิจกับหน่วยงานนี้ หรือหน่วยงานประเภทนี้ ผมสามารถปฎิเสธได้ หรือ หลีกเลี่ยง
แต่ผมเลือกที่จะรับทำคู่สัญญากับ หน่วยงานภาครัฐดังกล่าว ผมควรจะต้องยอมรับสายงานระบบที่มีระเบียบนั้นกำกับด้วย และผมจะไม่เอามาวิพากษ์หรือแสดงความคิดเห็นเชิงลบโครงสร้างดังกล่าวในโซเชียลครับ เพราะเป็นการรไม่ให้เกียรติคู่ค้าครับ
ข้อสอง แน่นอนครับ ถ้าคู่สัญญาของผมที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ผิดสัญญาผมฟ้องร้องได้ครับ ไม่ต้องรัฐก็ได้ครับ เอกชนก็ฟ้องได้ครับ มีมาตราตามกฎหมายกำกับ หลักฐานเอกสารยื่นฟ้องครบ แต่ผมจะไม่ใช้ข้ออ้างดังกล่าวในการเสียมารยาทในการละเมิดระบบที่ผมรับทราบก่อนอยู่แล้วว่าทำไปแล้วเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผมจะเอาเอกสารนิติกรรม กลับไปแก้ให้ถูกต้องตามระบบ (หรือจะฟ้องร้องก็แล้วแต่) แต่ผมจะไม่เอาเอกสารเดินเข้าห้อง ผอ. ทั้งที่ได้รับคำแนะนำเรื่องการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องแล้วครับ
ข้อสาม ถ้าใครรังเกียจการทำธุรกรรมกับหน่วยงานรัฐ แนะนำว่าอย่าทำครับ ที่เขาต้องวางระเบียบขั้นตอนมากมายเพราะเงินที่จ่ายไปเป็นภาษีของประชาชนครับ ไม่ใช่เงินในกระเป๋าตังของเจ้าของกิจการ ต้องมีการวางระบบการควบคุมตามระเบียบข้อบังคับ ถ้าเลือกเข้ามาทำแล้ว ก็ไม่ควรเสียมารยาท ลัดขั้นตอน หรือใช้อภิสิทธิ์ครับ อันนี้คือเรื่องส่วนรวมครับ ขอบคุณครับ
ผมชอบวิธีการจัการของผอ.อย่างที่สุด
น่าจะเพราะเป็นข้าราชการด้วยเลยไม่อยากรับผิดให้ลูกน้องเดี๋ยวมีผลย้อนหลังได้ถึงมันจะเรื่องเล็กๆก็คงติดเป็นนิสัยกันไปแล้ว
แต่มาขู่แล้วบอกให้ช่วยนี่คือเค้าโตมาแบบไหน
ผมมองว่าการรับผิดในนามองค์กรและแสดงความรับผิดชอบแก่คู่ค้าทันที กับ ออกตัวปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา มันดูเป็นคนละอย่างนะ
ทหารมีเยอะนะครับแบบนี้
ไม่อะ มีทุกประเภทองค์กร
ขอบคุณครับพี่โต ได้ข้อคิดจากในเหตุการณ์ที่พี่เล่ามาเยอะเลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับพี่
โหดมากเคสนี้
ผอ. แกเฉียบขาดมากฮะ
ฟังจนจบแล้วก็ได้แต่คิดตาม แล้วก็พูดในใจว่าอืมมมม นะ เรื่องมันจบได้ง่ายมากเลย แค่โทรมาคุยแล้วบอกว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาเกิดขึ้น ช่วยหาทางแก้ปัญหาให้ผมหน่อย
ไม่มีใครอยากถูกโบ้ยเป็นแพะค่ะ ถ้าขอร้อง ขอความช่วยเหลือ หลายครั้งก็พร้อมจะเห็นใจ แต่โบ้ย+ข่มขู่ = เสียมารยาทและไม่น่ารัก
เป็นผมนะจะจ่ายค่าเสียเวลาเอง ตั้งเบิกเฉพาะค่าไมค์ แล้วไม่ไปหาแพะรับบาปด้วย
จำนวนเงินไม่ได้คอขาดบาดตายเลย ทำไมระบบมันทำคนให้บ้ากันได้ขนาดนี้
ใช่... มันดูเหมือนสะท้อน บรรยากาศภายในองค์กร เลยว่า ข้างในเป็นอย่างไร
ถ้าเปนผมยังใงก้อได้ขอให้จบ...คือยังใง งานมันก้อต้องไปต่อ....เรื่องยุ่งๆมันจะไม่เกิด #ถึงจะดูเหมือนมักง่ายก้อเถอะ😅😅เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ
ผอ.เก่งครับ เค้าต้องการเห็นวิธีแก้ปัญหา วิธีรับผิดชอบของลูกน้อง เป็นผม ผมก็จะทำแบบนั้น
5555555 คิดว่าคนที่เติบโตขึ้นมาจนเป็น ผอ. ได้เนี่ย เขาต้องไต่เต้าเติบโตมาอย่างไรหรอครับ ถ้ามีความรับผิดชอบแบบที่คุณคิดว่าเขาควรจะมีเขาไม่ได้เป็น ผอ. แน่นอนครับ วัฒนธรรมไม่ได้ออกแบบมาแบบนั้น
ลุกค้าแปลกมีทุกวงการจริงๆ พาปวดหัวจริงๆ
เยี่ยมครับ
555สะใจมากครับแสกหน้าไปเลย
เป็นผมนะผมขนของกลับเลย
แล้วแต่จะมีปัญญาไปหาบริการจากที่อื่น ในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ลูกค้าแบบนี้ไม่จ้างผมก็ไม่ง้อ
"ผมจะทำให้คุณไม่ได้รับงานจากหน่วยงานนี้อีกจนเกษียญ" พี่เค้าทำได้ทุกสิ่ง ยกเว้นสิ่งที่ถูกนะครับ
เวลามีคนพูดว่า สิ่งที่เรา คิด พูด ทำ ในชีวิตประจำวัน มันจะบ่งบอกตัวตนที่แท้จริงของเรา ผมนึกไม่ออกว่าพี่เค้าใช้ชีวิตยังไง
เปิดฟังคลิปก่อนนอนแล้วอารมณ์เสียเลย 5555 คุณโตมีสติดีมาก ผมนึกเลยว่า ถ้าผมเป็นคุณโต ผมอาจจะถูกเอาเปรียบเพราะความใจดี ไม่กล้าขัดใจคนอื่น ซึ่งแบบนั้นผมจะอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม
ทำงานแบบราชการรรรรรรม๊ากมากครับ เดือดร้อนด่วนแต่เอาหน้า โยนปัญหามา อย่างแย่ครับ คนพวกนี้ ลูกน้องทำผิดควรเคลียร์ให้คุณโตก่อนให้จบ
ผมน่าจะโคตรซวย ที่เจอทั้งลูกน้องทั้งหัวหน้าที่รวมหัวกันโบ้ยความผิด
ทั้งๆที่ถ้าเอาเอกสารมากาง คือลูกค้าผิด แต่เค้าก็ด่าอย่างเดียวเลย และทำให้ตัวเองถูกได้ด้วย
แค่เพราะเค้าอยู่ในองกรค์ที่เป็นของเจ้าสัว คือถูกได้ทุกสิ่ง
เป็นคลิปที่เรียวมาก พอถึงคลายแม็ค ที่คุณไม่ยอม ผมยอมนะครับ แต่เค้าต้องขอโทษผมตรงนั้น ถ้าไม่ขอโทษ ผมไม่ยอม ผมไม่เอาผลประโยชน์ลับที่ไม่แฟร์ ผมจะเอาคำขอโทษ ถ้าให้ไม่ได้ก็จบแบบ ผมยอมทุกอย่าง คุณเข้มแข็งมากไม่กลัวเลย สุดยอดผมทำไม่ได้ เคสนี้น่าคึดดีมากเลยครับ
ขอให้ความเห็นตอนช่วงท้าย ตอนที่คุณโตเข้าไปคุยกับ ผอ.ให้เซ็นเอกสาร ...ที่ ผอ.พูดว่า การแสดงความรับผิดชอบของลูกน้องเขา จะเป็นตัวบ่งบอก อนาคตการทำงานของเค้า วิธีพูดของผอ.ก็มีแง่คิดที่ดีนะครับ ส่วนที่ ผอ.เคยพูดไว้ว่าเรื่องนี้ เขาจะไม่ยุ่ง อยากให้คุณโต มองอย่างนี้นะครับ .....จากอายุ ผอ.ที่ดูแล้ว อย่างที่คุณโตบอก เขาดูอายุ เป็นอาวุโสพอสมควร ดังนั้นอยากให้มองว่า การอยู่ในองค์กร ที่เป็นลักษณะเหมือน หน่วยงานราชการ (ตามที่ตำแหน่งแจ้งนะครับ อนุมานได้ว่าน่าจะเป็นหน่วยราชการ) อยากให้มองว่า การทำงานในหน่วยงานของรัฐหรือราชการนั้น ต่อให้คุณมีแนวคิดดี ในหลักการ ทำงานราชการ คงเคยได้ยินคำว่า เช้าชาม เย็นชาม ใช่ไหมครับ นั่นแหละครับเพราะว่า ระบบงานไม่เอื้ออำนวยในความคิดสร้างสรรค์ ของบุคคล เหมือนการทำงานส่วนตัวแบบคุณโต เพราะฉะนั้น การแสดงออก ที่แสดงที่ ผอ.ว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นความเคยชิน ที่จะตัดปัญหา ในองค์กรที่เราไม่สามารถ พัฒนาความคิด ให้ตรงไปตรงมา ในหลักการจริงๆได้ จึงคุยในภาษา ที่เป็นแบบคุณโต ในเหตุผลของหน้างานได้ นั่นทำให้เห็นว่า งานในระบบราชการไทย กลืนกินคนที่มีแนวคิดดีๆ และ คนที่อยากทำงานดีๆ ให้กับระบบ เกิดความเบื่อหน่าย ที่ต้องมารับผิดชอบ ในเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ของระบบเลยต้องทำงานกลายเป็นเช้าชาม เย็นชามไป แต่สุดท้ายแล้ว ผอ.ก็แสดงความรับผิดชอบ( แบบไว้ศักดิ์ศรีของเขาเหมือนกัน) ว่าเขารับผิดชอบนะ (ในใจ) โดยการเซ็นเอกสาร 2 แผ่น แล้วแจ้งตั้งเบิกทันที นั่นคือการแสดงความรับผิดชอบ ที่เขาพอจะทำได้ อยากให้ มองในมุมนี้นะครับ จะได้มองเห็นแรงกดดัน ของความเป็นใหญ่เป็นโต ในตำแหน่งของ หน่วยราชการ มีได้ก็ต้องมีเสียครับ ตามเหตุผล( ในที่นี้หมายถึง ได้ตำแหน่งมาตามอายุงาน(เพราะเดินมาสายนี้แล้วนิ่) แต่อาจเสียอุดมการณ์ความจริงใจ ที่ตั้งใจทำงานแบบ สร้างสรรค์จริงจังกับหน่วยงาน ) ต่อไปถ้าเข้าใจในมุมนี้ได้ เราจะได้มีเคสไว้ดับความไม่สบอารมณ์ของเราได้ครับ เอาใจสงบๆ ไปทำงานดีๆ ดีกว่าเนาะ 😊😊😊
ผมไม่เคยคิดลึกแบบนี้เลยครับ ผมแค่คิดว่าหันไปทางไหนก็มีแต่คนยืมมือ คนประสานงานก็ยืม ผอ. ก็ยืม แต่ถึงยังไงผมก็ยังแฮปปี้กับผลในตอนท้ายอยู่ดีนะ
.
ตอนที่ผมเข้าพบ ผอ. แกไม่มีท่าทีเข้าถึงยากเลย แกฟังสิ่งที่ผมพูดให้จบในทีเดียวโดยไม่แทรกและเซ็นให้ทันที พร้อมให้ความชัดเจนเรื่องคนประสานงานด้วย ผมเชื่อว่าแกไม่ได้แคร์ผมมากเป็นพิเศษ แต่พร้อมรับผิดชอบโดยเซ็นชื่อให้ทันที แกแค่มีวิธีบริหารของแกล่ะ
.
สำหรับผมการรอดจากขี้ที่ถูกปาใส่และเบิกเงินได้ครบตรงเวลา (เร็วกว่าเดิมเล็กน้อย) ผมพอใจแล้วครับ
@@ttasac คิดลึกหน่อยก็ได้ครับ เผื่อตัวเองไม่ต้องมาหัวเสีย แล้วจะได้ออกจากสถานะการณ์นั้นๆได้ไว จะได้ไม่สนใจกับเรื่องที่ควบคุมอะไรไม่ได้เลย(คือ คน นั้นแหละครับ) ...ไปต่อครับ .... สู้ๆ 💪💪💪
@@winai_lek มันก็ออกได้เร็วกว่านี้ได้ครับ แต่น่าจะโดนเขาไล่ฟ้องเพราะทำงานเขาเสียหายแทน
เป็นกำลังใจให้ครับพี่โต
เรื่องนี้สนุกมากครับขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องเล่าสู่กันฟัง
ผมว่าคนประสานงาน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นความผิดของอีกฝั่งจริงๆ เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจโบ้ยความผิด แต่คิดว่าผิดจริงๆ จนตอนคุยกันในโทรศัพ์ถึงรู้ว่าในอีเมลไม่ได้มีไมค์ตัวนี้ ทีนี้ก็ซวยละ เราผิดเองนี่หว่า แล้วทำไงมันถอยไม่ได้แล้ว เหมือนกับว่าบอกกับทุกคนบอกกับเจ้านายไปแล้วว่าฝั่งนั่นผิด สภาพก็เลยออกมาแบบนี้
ผมคิดแบบนั้นเหมือนกัน
ผมเจอมาล่าสุด คุยกับทางจีนไว้เต็มรูปแบบมีแชทพูดคุย
ผมเป็นนายหน้า คนจัดหา
พอถึงเวลาจริง เขาเอานักดนตรีมา แต่ทีมงานไม่ได้เอา ระบบต่างๆใดๆมาเลย เพล้งใจตกงงตาตุ่ม
ผมคิดๆ แล้วเดินไปหาเจ้าของเครื่องใครอยู่ใกล้ที่สุดตอนนี้ มีให้เอามา แล้วผมเดินเข้าไปคุยกะทาง ออแกไนซ์คนจีน สรุปเขายอมจ่าย แต่ๆ ทางบันชีไม่ยอมจ่าย สุดท้ายผมออกให้ทั้งหมด
ผมไม่ได้ลืมหรืออยากเป็นแพะรับบาป ผมขอแค่งานจบ อย่าให้งานสะดุด บริการจนนาทีสุดท้าย
ในมุมมองของผมเกี่ยวกับผอ.ท่านนี้มีอยู่ 2 มุม
มุมที่ 1 คิดว่า ผอ. เป็นคนลอยตัวเหนือปัญหา ถ้าลูกน้องทำผิดพลาดก็ให้ไปรับผิดชอบกันเอง
มุมที่ 2 คิดว่า ผอ. อยากจะดูว่าผู้ประสานงานจะกล้ารับความผิดหรือไม่ ซึ่งมันไม่ได้ใหญ่อะไรมาก
ส่วนผู้ประสานงาน ผมมองว่า หัวโขนบนหัวเขาคงจะใหญ่และหนักมากจนไม่สามารถเอ่ยคำว่า "ผมผิดเอง ผมขอโทษ"
ดีนะที่เป็นคุณโต ถ้าเป็นผม ผมยอม
ผมยอมให้ลูกน้องเก็บของและกลับทันที
หมายเหตุ จากงานที่ผมเคยทำให้กับสถานศึกษา โดยทำให้ในราคาไม่สูง แถมงานให้โดยไม่คิดมูลค่าเพิ่ม แต่ถูกตำหนิว่า ทำไมถึงไม่แถมแบบนั้น แบบนี้ ครั้งนั้นผมเลยตัดสินใจบอกไปกับคนบ่นว่า "ผมขอโทษครับ ที่ทำให้ไม่สบายใจ" และผมก็ดำเนินการลื้อสิ่งที่ผมได้ติดตั้งลงไปแล้ว(ลื้อแล้วเสีย)ออกจนหมด
หลังจากนั้นก็เก็บเครื่องมือกลับทันที โดยไม่สนเรื่องค่าจ้างใดๆเลย
ผมเห็นแก่เงินน่ะสิ
ผ.อ. เค้าก็ต้องการพิสูจน์ลูกน้องเค้านั่นแหละครับ แต่ความซวยคือมาลำบากเราเนี่ยแหละ
ผมว่ามันคือสิ่งที่ ผอ.ควรทำ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องรับผิดชอบ ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้วคุณจะทำไง ไม่ใช่จะโยนให้คนอื่นแก้ไข
ผมอาจคิดไปเองนะ แต่จากที่ ผอ. เซ็นใบแจ้งหนี้ทับชื่อคนประสานงานเดิมและกำชับให้ตั้งเบิกทันทีโดยไม่ต้องทำใบใหม่ส่งเข้ามาตามระบบ ผมคิดว่าแกไม่ได้แย่อะไรแค่วิธีปกครองคนของแกมันลึกล้ำเกินตีความ
จริงๆ ผมชอบวิธีแบบนี้ของทาง ผอ. นะครับ ข้อดีของการปกครองแบบนี้คือมันจะคัดคนที่เป็นลูกน้องขอแกได้ที เหมาะกับการทำงานแบบหลายคนที่เป็นระบบใหญ่ @@ttasac
ฟังคลิปนี้ครึ่งแรก ผมก็คิดแบบคุณฮะ
กระทั่งฟังจนถึงช่วงท้ายก็เข้าใจการตัดสินใจครั้งนี้ของ ผอ. ท่านนี้เลย
รู้ยุ่แล้วแล้วว่ามันผิด แต่ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ผิด สุดท้ายพอผิดก็ซวยไป
จริงๆแล้วเรื่องมันเล็กนิดเดียวเอง
ผมเลือกข้อ 2 คับ ข้อ 1 เป็นไปไม่ได้แน่ๆคับผม ผอ.ขั้นสุดคับ เชือดไก่ให้ลิงดู
สุดจริงเรื่องนี้ ถ้าขอร้องหรือคุยดีๆ คงไม่เป็นแบบนี้
ผมเองก็ทำงานกับ Supplier ที่ต้องให้เขาช่วย ด้วยความเร่งด่วน อยู่บ่อยๆ supplier เป็นคนที่ต่อว่าผมได้ตลอดด้วยซ้ำ ผมก็แค่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ถามต่อหน้าทุกคน ผมก็ยอมรับต่อหน้าทุกคน
คนประสานงานเอาใจผอ. แต่ไปบีบคุณโต ผู้บริหารสั่งสอนลูกน้อง โดนกันไป..
ตอนแรกผมนึกว่า ผอ. จะปัดปัญหาทิ้ง
แต่ตอนหลังก็คดีพลิกซะงั้น 👏
ในมุมผอ. ผมพอเข้าใจอยู่ครับ แต่ก็อย่างว่าขึ้นอยู่กับคนด้วย แต่พี่ผู้ชายคนนั้นนี่... เอิ่มม
สู้ๆครับพี่ โต น้องเป็นกำลังใจให้ครับ
คุณโตเก่ง และตรงตลอดเลย เวลาเจอพวกหน่วยงานอะไรพวกนี้ ฟังสนุกมากครับ
ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งเลย แต่ผมระวังจนรัดกุมประมาณนึง
สำหรับผมแล้ว ลูกค้าคือพระเจ้าจริงๆนะครับ ลูกค้าให้ทำอะไร ถุ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมยินดีทำให้หมดแหละ จะให้ช่วยอะไรขอให้บอก เรายินดีรับฟัง
แต่ว่า...ต้องมาคุยกับผมดีๆนะ แต่ถ้ามางอแง ง๊องแง๊ง เล่นแง่ ใส่กัน อันนี้ผมไม่คุยด้วย แถมจะเหยียบซ้ำอีก
จุดสำคัญอยู่ ตรงที่ ผอ พูดว่า "ถ้าคุณรับผิด ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา ถ้าไม่รับผิด ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และดูว่า สัพไฮเออร์จะทำยังไงต่อ " ข้อความนี้ ตั้งใจส่งสารให้คนโตโดยเฉพาะครับ555
ตอนเขาหันมาหาผม ผมยังงงอยู่เลยว่าเขาส่งสารอะไรให้ผม ถถถ
ผู้ประสานงานท่านนี้ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังมีปัญหาในหน่วยงานอยู่แล้วก็อาจจะเป็นคนที่กำลังจะได้รับตำแหน่งสำคัญ ส่วนผอ. ผมว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง อาจจะเห็นปัญหาตั้งแต่แรกแล้วและรอดูการแก้ปัญหาของผู้ประสานงานว่าจะจัดการอย่างไร หน่วยงานนี้ระดับบริหารน่าจะเก่งๆเขี้ยวๆทั้งนั้นแน่เลย
สำหรับคุณโตเป็นคนที่ทำให้สถานการณ์มันชัดเจนว่าความสามารถในการจัดการของแต่ละคนเป็นอย่างไร
ฟังคนอื่นเล่ามันก็สนุกมาก แต่ถ้าเจอกับตัวเองผมคงเครียดหลาย😅😅😅
หน่วยงานนี้ผมกล้าพูดเลยว่าไม่เคยเจอใครเช้าชามเย็นชาม ดีลกันมาตั้งแต่ 2015 ไม่เคยเจอเลยแค่ก่อนโควิดเขายังมีชิลบ้างอะไรบ้าง แต่พ้นโควิดมาทุกคนทำงานเป๊ะและแม่นยำกว่าเดิมทุกฝ่าย
เห็นด้วยครับ ถ้าคุยกันก่อน ช่วยอะไรได้ก็ช่วยเหลือกัน
มองได้หลายมุม รอบแรกที่ ผอ.ไม่เซ็น เพราะต้องการให้ลูกน้องบริหารได้ด้วยตนเอง เผื่อที่อนาคตจะได้บริหารงานได้ แต่พี่โตจะกำหมัดหน่อย เพราะหัวหน้างานแท้ ๆ ไม่ปกป้องลูกน้ององค์กรเลย ส่วนรอบที่สอง ผอ. เซ็น แล้วตั้งเบิกทันที คิดว่าเขาน่าจะขอโทษที่ทำให้งานเกือบเสีย รักษามิตรภาพเอาไว้จ้างงานในคราวต่อไป แต่ถ้าเป็นผม คงจะพอแล้วองค์กรแบบนี้ ไม่เผาผีกันอีกเลย
คิดไปคิดมารู้สึกว่าโดนยืมมือจากทั้งคู่เลยแฮะ
@@ttasac ผมว่าไม่เชิงขนาดนั้น แค่เพียงรู้สึกว่าพี่โตกลายเป็นคนอยู่กลางความขัดแย้ง แบบงงๆ แต่ก็นั้นแหล่ะฮะยังไงก็รู้สึกกำหมัดอยู่ดี
เคยรับงานส่วนตัวจากระดับอธิบดีกรม...เค้าไม่คุยเยอะ เราแค่รับผิดชอบหน้าที่และงาน จากเงินที่เค้าจ้างให้เรียบร้อยตามที่เอกสารหลักฐานแค่นั้นจริงๆ รับผิดชอบคือรับผิดในส่วนผิด ส่วนชอบคือเสมอตัวแค่นั้น
ส่วนเรื่องแพะ ใครโยนขี้มาให้ ผมจะให้ส้นตีนกลับไปครับ 👌
จริงที่ฝ่ายลูกค้าเขาไม่ควรโยนความผิดมาที่ผู้ให้บริการ แต่คุณก็ไม่ควรขึ้นเวทีไปเคลียร์ทันที มีเวลาค่อยมาคุยกับเขาก็ได้ หรือเดินไปชี้แจง ผอ. นอกเวลาเองก็ได้ นี่ก็เหวี่ยงเร็วเกิน 😅
แล้ว… ถ้า ผอ. รู้ว่าผมอยู่ในห้องด้วยแล้วไม่ออกมาปกป้องตัวเองหรือขึ้นมาสวัสดี จึงคิดว่าผิดจริงและไม่ให้เข้าพบล่ะ ?
คลิปนี้ได้อรรถรสและแง่คิดเป็นอย่างสูงเลยครับ 😮
ผมว่ามันเป็นวิธีที่แกจะดูคนขึ้นมาใช้งานหละครับ ผอ.รู้อยู่แล้วว่า ผู้ชายคนนั้นผิด
และถ้าเรื่องจบโดยที่คุณโต ยอมรับผิดตามที่เขาโบ้ย ok ผู้ชายคนนั้นคงไม่โดนโทษในครั้งนี้ แต่ ผอ.จะรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยโทษคนอื่นให้ตัวเองพ้นผิด
ซึ่ง "คงไม่ก้าวหน้าในการงานอีก"
แต่พอผลออกมาแบบนี้ เขาก็เหมือนสอนลูกน้องตัวเอง
และเซ็นกำกับการเบิกให้คุณโตด้วยตัวเอง ซึ่งน่าจะได้เงินเร็วกว่าเดิม
ได้แล้ว ๆ
เรื่องราวที่มีประโยชน์ที่สุดครับ นึกถึงตอนทำงานประจำเลยเจอป้าที่เป็นสมาชิกกิ่งกาชาดเดือดร้อนเพราะผมติดต่อกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เพราะไม่มีคลื่่นสัญญาณ ทำให้สมาชิกคนนี้ไปเสียเวลาตรงจุดนั้น ผมก็ยอมรับว่าผิดที่ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายรับผิดชอบด้วยการจะลาออกจากงาน โดยแจ้งนายกกิ่งกาชาด ท่านให้หาคนมาแทนจนผมหามาแทนและลาออกมารับงานฟรีแลนซ์ ก็อยู่ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีโควิด19ระบาด หลังจากออกมาได้ไม่กี่เดือนครับ ฟังบ่นลูกค้านี้ทำให้ผมมีสติในการรับปากรับงานมากขึ้น ก่อนรับปากก็ถามรายละเอียดให้ดีถึงรับปากไม่งั้นไม่คุ้มครับ
เป็นตอนที่เดือดแบบคลาสสิกจริงๆ
ขอบคุณคุณโตที่เอามาแบ่งปันครับ เพราะเดี๋ยวผมก็คงเจอแบบนี้เหมือนกัน
แบบนี้ผมทำงานมา 20 ปีเพิ่งเคยเจอครับ
@@ttasac 555555 อาจจะเพราะคุณได้ทำงานกับลูกค้าดีๆเป็นส่วนใหญ่มังครับ
ของผมเพิ่งเริ่มทำงานของตัวเอง อาจจะต้องเจอลูกค้ากลุ่มที่งอแงมากหน่อยครับ
เป็นผมล้วงกระเป๋าตัวเองจ่ายสดไปละ
มีไรฟังตอนนอนละ😂
หา ep ฟังตอนถอกกระดอหรือทำการบ้านกับเมียได้หรือยัง ?
แนะนำมาหน่อยอิอิ 😏🤣
อย่าเชื่อว่ามีใครให้งานตลอดครับ มันไม่มีจริง
ใช่ใช่ใช่
❤
เมื่อก่อน ฟัง podcast พัฒนาตัวเอง เล่าเรื่อง ผี เกม สปอยหนัง ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ ก่อนนอน
พอฟังเรื่องแนวนี้ สนุกไปอีกแบบ 😂
แบบ เอาแล้วๆ มีเรื่องแล้ว โดนแน่มึงง
ให้ความรู้สึกเหมือน ดูละครคุณธรรม
ไม่มีอะละครคุณธรรม มีแต่ความชิบหายนี้กูจะหนีมันยังไง
555+@@ttasac
คนแบบนี้....ก็มีนิสัยแบบนี้....ต่อให้เป็นหัวหน้าคน....ก๋จะทำแบบนี้...โยนผิดให้คนอื่น...เอาดีเข้าตัว
เคยเจอเหมือนกัน คนแจ้งงาน มั่ว ไม่โปร ไม่ครบ ไม่ดูตารางเวลา ไม่นัดทีมงานฝั่งลูกค้า
เรา cancel งานเลย
ปกติเป็นคนยังไงก็ได้แหละ แต่ไอ่คนนี้มันหลายหนละ
ควรได้รับบทเรียน
มาทำแบบนี้อีก ก็จะโดนอีก
หึหึ😅😅
พังพินาจ ชิบหาย เลื่อนงาน
จะได้จำ
ผมเน้นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ยิ่งชัดเจนก็ยิ่งรอด
ผมยังเด็ก อยากถามพี่ๆนิดนึงฮะ ในกรณีที่พี่ผช จะไม่โดนย้ายแผนกจากเหตุการณ์ข้างต้น พี่ผชเขาต้องจ่ายเงินเองไม่ใช่เซ็นเบิกหรอฮะ ผอ.ถึงจะไม่สั่งย้ายเขาในกรณีนี้ วิธีไหนคือการแก้ปัญหาที่มีโอกาสโดนผอ สั่งย้ายน้อยสุดครับ พอดีคิดตามแล้วไม่ได้คำตอบเลย < ในกรณีที่ ถ้าหากว่าเขาเลือก อีกทางนึง>
ผมไม่แน่ใจที่ ผอ. บอกว่า ไม่ได้เป็นคนสั่งย้ายแต่เขาไปเองมันจริงขนาดไหน แต่ที่มั่นใจคือถ้าลูกน้องเผลอทำชิบหาย นายจ้างหรือเจ้านายจะรู้สึกยินดีเสมอเมื่อคนทำก็ยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน ส่วนการรับผิดชอบก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายหรือหัวหน้าเช่นกันว่าจะให้เป็นอย่างไร
เคสที่หัวหน้าบอกว่าไม่เป็นไรยอมรับแล้วก็ให้ผ่านไปและจ่ายในนามองค์กรตามปกติก็มี เคสที่หัวหน้าบอกว่าคุณพลาดก็ต้องรับผิดชอบเองเผื่อรอบหน้าจะได้ไม่พลาดอีกก็มีเช่นกัน
คนประสานงานหลุดปรี๊ดใส่มา งานยุ่ง หลุดเช็คมันก็เกิดขึ้นได้ ผมเคยเจอ
แต่ก่อนจะปรี๊ดใครควรจะรีเช็ครายละเอียดในมือเสียก่อน
ไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่น แต่ถ้าพลาดปรี๊ดไปแล้ว แล้วควรรับผิดชอบเอง
ขอโทษไป และยืดอกรับผิดชอบแมนๆ จ่ายค่าผิดพลาดเอง
มันก็อาจจะจบดีกว่านี้สำหรับทุกคน
ทุกอย่างมีบทเรียน แต่บทเรียนควรเริ่มจากความถูกต้องก่อนเสมอ
แล้วหลังจากนั้นเราจะอ่อนช่วยโค้งแก้ไขให้กันได้ในงานต่อๆไป
”ไม่มีคุณก็ไม่มีเรา“ 😊
อยากรู้ชื่อหน่วยงานเลย
ถ้าบอกเงินคงไม่ออก แถมโดนฟ้องด้วย
ปกติ ของคนที่ ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่ได้ใช้เงินตัวเองครับ เช่น หนาวยงานราชการ สหกรณ์ และ อื่น ๆ ฝ่ายจัดซื้อ นี่ ตัวเบ่งเลย ไม่ใช่เงินตัวเองที่ซื้อ ของ
ผมอาจโชคดีที่ไม่เคยเจอตจัดซื้อเบ่งเลย
ได้ใจผมนะ คุณโต
ยกนิ้วให้ อยากเจอตัวเปนๆ จัง
ผมทำงานสาขาอื่นนะ ทุกครั้งที่เจอพวกคนประสานงานโบ้ย จะคิดทุกครั้ง คนพวกนี้โตมายังไงเนี่ย ทำผิดยอมรับผิดเท่ห์กว่าตั้งเยอะ ตอนผอ. ถาม เอ็งแค่บอกว่า "ผมผิดเอง แต่เดี๋ยวค่าใช้จ่ายเพื่มเติมผมรับผิดชอบเอง" แค่เนี้ย ใครจะทำอะไรเอ็งได้ ปัดโถ่ว
บางทีอาจเป็นเพราะลืมจริง ๆ แต่เผลอพูดไปแล้วถอยตอนนี้คงรู้สึกขายหน้า
โดนย้ายเพราะเงิน 7 พันนี่นะ
@@Popthebug ผอ. บอกผมว่าไม่ได้ย้าย แต่เขาย้ายไปเอง ดีงนั้นอาจมีพลังงานมืดซ่อนอยู่ก็ได้
@@ttasac แสดงว่า ผอ. เขาก็ไม่เอาไอ้คนนี้เหมือนกันพี่ อยากให้มันไปๆจะแย่แล้วแหละ จากที่ฟังมา 20 กว่านาที คือรู้เลย สันดานมันเวลาทำงานเป็นยังไง
โตยังจะได้งานอื่นๆต่อมั้ย หรือจบเลยแค่นี้
ผอ น่าจะไม่ก้าวก่ายงานของลุกน้องนะ ให้รับผิดชอบกันเอง แล้วผอ ก็ไม่มีเวลามานั่ง ตรวจรายละเอียด เขาคงให้มันเป็นระบบ
ผมว่าเป็น สไตล์จริงๆครับ และ ตามเนื้อผ้า ก็ มีคนผิดแหละ แต่ควรเจรจากันก่อน ซึ่งสาย ฟรีแลนซ์ จะเข้าใจ และยอมได้ในหลายๆเรื่อง แต่ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผม ผมดิวครับ😂 งานหายาก ปล.ไใ่อยากให้พี่โตได้เจอเรื่องราวๆนร้หรือเหตุการณ์ใดใด อืกเลย มันเสียพลังงานเยอะมาก และกำลังใจในการทำงานด้วย เป็นกำลังใจครับ🎉
ไม่ได้เจอบ่อยครับ นี่คือส่วนน้อยไม่ถึง 10% ของลูกค้าทั้งปี แต่อาจเป็นเพราะอายุเริ่มเยอะเลยไม่ค่อยเสียกำลังใจและพลังงานเท่าไหร่ มองมันว่ามันก็เป็นอย่างนั้นเช่นนั้นไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้อง
นอนถอกกระดอ😂😂😂😂5555555555
ผมว่าผมอาจเข้าใจ ผอ.คนนี้นะคับ เป็นผมก็อาจจะทำแบบเดียวกัน คือ อาจเป็นเพราะ ผอ.กำลัง Stun หรือยังไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาก่อนหน้าว่าเกิดจากสาเหตุใต และถ้าผู้ใหญ่จะออกรับกับความผิดพลาดที่ลูกน้องทันที ก็อาจถูกมองในทางไม่ดีกับลูกน้องคนอื่น แผนกอื่น เป็นผมก็อาจให้ลูกน้อง คนที่ดิวงานกับคุณโต แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อน แต่อาจเรียกลุกน้องคนนี้ไปคุยว่าทำไมข้อมูลไม่ตรงกัน กับ Supplier ที่ทำแบบนี้เพราะ
1.เพื่อให้เค้าทราบว่า คนที่สร้างปมเองก็ต้องหัดแก้เองก่อน
2.ดูความพยายามในการแก้ไขปัญหา และสกิลการแก้ปัญหาของลูกน้องคนนั้นๆ
3.เพื่อให้เป็นประสบการณ์และการเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเค้าเอง
ในเมื่อความเสียหายอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าไม่ได้มีความเร่งด่วนในการตัดสินใจ ก็มีแต่ต้องใจเย็น ใจเย็นดู คิดหาทาง เลือกวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา และสุดท้ายองค์กรที่ทำงานก็ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายอยู่แล้วคับ เพราะมันคือเรื่องงานที่ลูกน้องทำงานให้หน่วยงานแต่เกิดผิดพลาดเสียหาย ไม่ใช่ทำเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวคับ ผมคิดแบบนี้นะ
ผมเห็นต่างครับ
.
1. เหตุการณ์นี้จะอ้างว่ายังไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาก่อนหน้าว่าเกิดจากสาเหตุใดนั้นไม่ได้ เพราะผมมีหลักฐานลายลักษณ์อักษรครบถ้วน สามารถย้อนขั้นตอนได้ และสามารถสรุปได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากใคร
.
2. ถ้าหลักฐานแน่นหนาชัดเจน ผมเห็นว่าหาก ผอ. ตัดสินใจทันทีให้ส่งใบแจ้งหนี้ค่าไมโครโฟนพร้อมค่าเร่งด่วนตามระบบแล้วค่อยถามคนประสานงานเป็นการภายในว่าทำไมถึงตกหล่น ก็ไม่เห็นจะเป็นภาพไม่ดีกับแผนกอื่นหรือลูกน้องคนอื่น ปัญหามันเกิดขึ้นแล้วและสาเหตุถูกชี้ชัดแล้วคนที่เป็นหัวสุดของหน่วยงานควรตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะนอกจากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะผู้นำแล้วยังสามารถรักษาขวัญกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นด้วย ผมคิดว่าการที่ ผอ. หลังจากเห็นเอกสารทั้งหมดยังบอกให้คนประสานงานเลือกที่จะรับหรือไม่รับผิด มันดูเหมือนเลือกที่รักมักที่ชังต่อหน้าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ
.
3. สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผม ผู้ประสานงาน และ ผอ. บนเวที มันผ่านการมอบหมายให้แก้ไขปัญหาไปแล้วและกำลังเข้าสู่การหาผู้รับผิดชอบ ผมเชื่อว่าวิธีที่ได้ผลสุดคือตัดสินใจทันทีจากหลักฐานที่มีชัดเจนให้ส่งใบแจ้งหนี้อีกใบตามระบบ แต่ยังไม่ต้องพูดอะไรกับคนประสานงาน
.
4. ประสบการณ์และการเรียนรู้ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ ไม่จำเป็นต้องได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
ผมก็ไม่รู้นะว่าคุยกันแบบไหน อุปกรณ์ชิ้นสำคัญถึงได้หลุดจากลิสต์ได้ ทั้งๆที่มันควรจะต้องรีเช็คทั้งสองฝ่าย
ตามที่ผมเข้าใจคนจ้างคงใหม่ ยังไม่เป็นงาน และคิดว่าออแกไนคงจัดแจงให้หมดแล้ว ก็เลยไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด แต่การโบ้ยความผิดให้อีกฝ่ายหมดเลย นั่นก็เกินไป
ส่วนคุณเองถ้ายึดตามเอกสารก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แต่สงสัยอย่างเดียวว่าทั้งสองฝ่ายไม่บรีฟงานกันก่อนหรอครับ ว่าต้องใช้อะไร เท่าไหร่ แบบไหน เมื่อไหร่
เอาจริงๆ บางคนเขาก็ไม่รู้จริงๆนะว่าต้องใช้อะไรบ้าง เช่นไปซื้อกล้อง แล้วไม่รู้ว่าต้องซื้ออแดปเตอร์ ซื้อเมมโมรี่ด้วย มันถึงต้องมีคนช่วยแนะนำยังไง หรือถ้าจะผิดก็ผิดแบบตาใส
เป็นคำถามที่ดีครับ คำตอบคือผมไม่แคร์และขี้เกียจมาก
.
ก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นคนประสานงาน เจ้าหน้าที่คนก่อนเป็นสุภาพสตรีซึ่งจะส่งกำหนดการมาให้ผมดูเพื่อช่วยกำหนดอุปกรณ์ที่จำเป็นและแนะนำสิ่งควรใช้ทุกครั้ง พอเปลี่ยนคนจึงกลายเป็นส่งรายการของที่ต้องใช้มาและเสนอราคากลับไป ดังที่ได้เล่าไว้ตั้งแต่ตอนต้น แถมกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรมาในอีเมล ดังนั้นผมจะยึดจากสิ่งที่เค้าแจ้งมาเท่านั้น
.
ทำเยอะเกินไปในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ หลายครั้งเค้าจะคิดว่าเราเสือกครับ
.
สาเหตุที่ผมไม่บรีฟกับลูกค้าทุกรายเพราะลูกค้าหลายรายไม่ต้องการความเห็นจากผม แต่ถ้าเป็นเคสของสุภาพสตรีคนก่อนหน้าผมก็ไม่บรีฟอยู่ดีแต่จะ Pre-Production ให้เลย ที่สำคัญอีกอย่างคือการบรีฟงานไม่ใช่สิ่งที่บุคคลภายนอกอย่างคู่ค้าจะทำได้ จำเป็นต้องดูบริบทให้ชัด เช่น ถ้าถูกจ้างมาเป็นอีเวนท์ออกกาในเซอร์ จะบรีฟเท่าที่จำเป็นซึ่งส่วนใหญ่คือหน้างานเท่านั้น เพราะบรีฟคือการสรุปคร่าว ที่เหลือก็เหมือน Supplier/Prrovider จะเป็นประชุม, Pre-Production, Project Planning ที่ต้องทำอย่างเป็นกิจลักษณะ มี MOM ชัดเจนมากกว่า
มันไม่มีให้กด เลิฟ อ่ะครับ
ชอบจริงๆ "นอนถอก กระดอ อยู่ในห้อง"
ดูกันเอง จริงใจดีครับ
ชอบมากๆๆๆๆ
ช่วงเวลาสำคัญของชีวิตเลยนะ
ในมุมผม พี่ผอ. คนนั้นพูดบนเวทีก็ถูกนะครับ ตามลำดับขั้น คนผิดคือคนติดต่อพี่
การที่เค้าพูด คือ รู้ว่าลูกน้องผิด แต่แค่เรียกร้องให้เค้ารับผิดชอบแบบลูกผู้ชายของลูกน้องคนนั้น
ผมเห็นต่างนะ เพราะเวลาที่ลูกน้องผมไปทำฉิบหายในงานลูกค้า ผมในฐานะเป็นเจ้าของและนายจ้างต้องรีบจัดการแก้ไขปัญหาและรับผิดชอบทันทีเมื่อพิสูจน์ได้ เพราะเวลาทำงานไปในนามธุรกิจ ถ้าพลาดก็ถือว่าพลาดกันหมด
แต่ถ้าไปในนามบุคคลไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ตัวใครตัวมัน
@@ttasacถูกต้องครับ approved = รับผิดชอบ
@@ttasac มุมมองของคุณโตคือมุมมองเจ้าของครับ แต่ผอ.มองในฐานะผู้บริหาร องค์กรไม่ใช่ของเค้าแค่ถูกจ้างมาบริหาร เรื่องผิดพลาดนี้จึงไม่กระทบกับเค้านัก ยิ่งดีเลยจะได้มีเหตุผลจัดการคนนั้น
@@zexyt3043 ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
จริงๆๆ เเล้วเเต่คนจะคิด ในเเง่มุมของตัวเองเพราะ เเต่ สำหรับตัวผม คนกลาง ถ้าคุณ เป็น ทีมงาน มืออาชีพ เเละมีประสมการ์ในการทำงานผ่านคนมาเยอะ ทำงาน Projectsมากพอสมควร คุณก็น่าจะ เเนะ นำเจ้าของงาน ว่า ขาดอะไร, เสริมตรงไหน, ยังไง เช่น "คุณ ครับ ผมว่า ไมล์ตัวไหนยังขาด หรือ ควรจะเพิ่ม ไมล์ ส่วนไหนตรงไหนเข้าไป คุณว่าไงครับ ? เพราะเขาจ้างคุณมาทำไห้งาน ออกมาสมบูรณ์ในส่วนที่เจ้าของงานไม่มีความรุ้ความชำนาญ คาดไม่ถึง หรือ เขาอาจจะคิดว่าคุณควรจะรุ้งานดี มีอะไรคุณก็คงเเนะนำ สมมุติละกันว่า มีคนมาจ้างให้คุณสร้างบ้าน เจ้าของบ้านจะรุ้ไหม ว่า ต้อง ใช้ ปูน ไช้ ไม้ ใช้อิฐ หินดินทราย เพิ่ม เท่าไร อะไร ยังไง เขาไม่รุ้หลอกครับเพราะมันคือหน้าที่คุณ เขาบอกคุณได้ เเค่ อยากได้ บ้านประมาณนี้ ชอบเเบบนี้ สไตลนี้ประมาณนี้ ที่เหลือ คือหน้าที่คุณ คุณ ควร จัดเตรียมเเบบ มืออาชีพ ในสายอาชีพเฉพาะทางให้กับลูกค้าคุณ ไม่งั้น ถ้าเจ้าของรู้ หมดทุกอย่าง เขาจะมาจ้างคุณทำไมไห้เสียเงินใช่ไหมครับ เเละต่อมาคุณก็อ้างว่า ลูกค้าไม่ได้ บอกให้ผมซื้อปูน ซื้ออิฐ ไม่มีในสํญญา คุณเจ้าของ ถาอย่างนั้น คุณ ต้องจ่ายผมเพิ่ม ในอัตรา เร่งด่วน คุณว่ามัน ยุติธรรมกับเจ้าของที่มาจ้างคุณไหมครับ? เเต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณบอกเขาว่าต้อง เพิ่มไมล์ เเต่ เจ้าของงานบอกไม่เอา เออ อันนั้น เละที่คุณ สามารถอ้างได้ว่า เเนะนำไปเเล้ว เเต่ เจ้าของไม่เอา ผมจึงขอ คิดเงินเพิ่ม ในภายหลัง ..ถ้าไม่ทำเเบบนี้ ไม่งัน พวกคุณ ก็ถือโอกาศคิดเงินกับ ลูกค้าาา ไป เสีย หมดทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ เเนะนำ หรือบอกเขาก่อนตั้งเเต่ ตอน ทำราคา เสนองานครั้งเเรก? เเค่ไมล์ตัวเดียวมันไม่ควรจะมาเปฺ็นเรื่องอะไรไหย่โต ถึงกลับต้องประกาศศักดิ์ศรีเอาเป็น เอาตาย โลกความเป็น จริงมีการโกง เป็น สิบๆ พันๆๆล้าน มากกว่านี้ มากครับคุณ
เป็นคำถามที่ดีครับ คำตอบคือผมไม่แคร์และขี้เกียจมาก
.
ก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นคนประสานงาน เจ้าหน้าที่คนก่อนเป็นสุภาพสตรีซึ่งจะส่งกำหนดการมาให้ผมดูเพื่อช่วยกำหนดอุปกรณ์ที่จำเป็นและแนะนำสิ่งควรใช้ทุกครั้ง พอเปลี่ยนคนจึงกลายเป็นส่งรายการของที่ต้องใช้มาและเสนอราคากลับไป ดังที่ได้เล่าไว้ตั้งแต่ตอนต้น แถมกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรมาในอีเมล ดังนั้นผมจะยึดจากสิ่งที่เค้าแจ้งมาเท่านั้น
.
ทำเยอะเกินไปในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ หลายครั้งเค้าจะคิดว่าเราเสือกครับ
.
สาเหตุที่ผมไม่แคร์และขี้เกียจเพราะลูกค้าหลายรายไม่ต้องการความเห็นจากผม แต่ถ้าเป็นเคสของสุภาพสตรีคนก่อนหน้าผมจะ Pre-Production ให้เลย เพราะเขาแสดงให้ผมรู้ว่าต้องการและให้คุณค่าคำแนะนำและความคิดเห็นของผม
.
ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง
.
อีกอย่างต้องแยกให้ออกระหว่าง “เช่า” และ “บริการ” เพราะเช่าคือเอาไปใช้เป็นชิ้นและบริการคือไปจัดแจงทำให้โดยลูกค้าเป็นฝ่ายให้ความคาดหวัง เมื่อนั้นหากคู่ค้าคิดว่าไม่ถูก ไม่เหมาะ หรือเป็นไปไม่ได้ก็ต้องบอกเพราะไม่มีใครอยากทำงานแล้วเหนื่อยเปล่าแถมต้องรับผิดชอบอีก
.
สรุปคือผมไม่แคร์และขี้เกียจแนะนำ ช่วยคิด บรีฟ ลูกค้าถ้าเขาไม่แสดงออกให้ผมรู้ว่าเขาไม่แน่ใจหรือไม่ชัวร์ แต่ถ้าแสดงออกชัดเจนนี่ยินดีช่วยอย่างยิ่ง และต้องแยกระหว่างเช่าและบริการให้ขาดเพราะบทบาทคู่ค้าในแต่ละงานมันถูกระบุชัดจากการแยกนี้
.
ปล. คุณยกตัวอย่างรับเหมาก่อสร้าง มันคือจ้างทำของซึ่งเป็นงานบริการ ไม่ใช่เช่าอย่างกรณีที่เกิดขึ้นใน VLOG ตอนนี้
.
บทบาทคุณไม่ใช่คนกลาง คุณเป็นผู้ชม VLOG ของผมและแสดงความเห็นของตน แค่นั้น
.
ศักดิ์ศรีสำหรับผมสำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่ารับผิดในสิ่งที่ผมไม่ได้ก่อ ทุกการตัดสินใจนำมาซึ่งผลและความรับผิดชอบเสมอ
.
เอ้อใช่ ! ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้ารายนี้ต้องการอะไรในเมื่อเค้าส่งมาแต่สิ่งที่เขาต้องการใช้ ไม่มีกำหนดการ ไม่มีการประชุม ไม่ให้รายละเอียดอย่างอื่นเลย ? สงสัยต้องนอนถอกกระดอชักว่าวหาทางลมแล้ว
คุณจะมาเทียบแบบนี้ก็ไม่ถูก จ้างคนมาสร้างบ้าน คนสร้างบ้านเป็นคนคิดคำนวณเรื่องวัสดุ มันไม่เหมือนกัน นี่เค้าจ้างมาเบิกของมาติดตั้งของเฉยๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของ supplier ที่จะต้องมาแนะนำ ถ้าจะแนะนำก็คือแค่ด้วยเหตุผลว่าหวังดีเท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่า supplier จะต้องมาแนะนำทุกคน ถ้าจะให้ทำนอกเหนือจากแค่จัดหาอุปกรณ์และติดตั้ง ก็ต้องบอกให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
พวกประเภทโทษคนอื่นอีกแล้ว อะไรที่ตนไม่มีความรู้ เจ้าตัวต้องรู้ตัวเองว่าไม่รู้แล้วหาคนช่วยเอง ไม่ใช่มาโทษคนที่เราจ้างมาที่ไม่ได้ตกลงกันในส่วนที่จะโทษ ก่อนจะโทษคนอื่นคิดเยอะๆก่อนว่ามีส่วนไหนที่เกิดจากเราบ้าง
@@ustinho นั้นไง เจออีกเเล้วพวกเเบบนี้ เสร็จๆๆ จบจบไปรับเงิน ในฐานะสถาปนิค เจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ กูไล่ตะเพือด เเละจับใส่ Black lists หมด จบนะ
@@ustinho มาอีกเละพวกเเบบนี้ รับงาน จ่ายเงิน จบจบ เสร็จๆไป ในฐานะสถาปนิคเจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ โดยเฉพาะไอ้พวก Subcontract ในส่วน-v'ระบบเครื่องเสียง กุไล่ตะเพิด เเถมจับใส่Blacklist ของบริบัท หมด จบนะ ใครก็ตามที่ใช้ @ustinho (Ps.ไม่ได้หมายถึงเจ้าของ clipนี้ นะครับ )
@@ustinho @ustinho มาอีกเละพวกเเบบนี้ รับงาน จ่ายเงิน จบจบ เสร็จๆไป ในฐานะสถาปนิคเจอ ไอ้พวก Supplier เเบบนี้ โดยเฉพาะไอ้พวก Subcontract ในส่วนระบบเครื่องเสียง กุไล่ตะเพิด เเถมจับใส่Blacklist ของบริบัท หมด จบนะ ใครก็ตามที่ใช้ @ustinho (Ps.ไม่ได้หมายถึงเจ้าของ clipนี้ นะครับ )
ฟังจนจบผมก็ว้าวเหมือนกัน 😅
นั้นละฮะร่วมงานกับพวกข้าราชการก็เลี่ยงไม่ใด้หรอกว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้😂😂